
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนที่ 42ความหิวเป็นสิ่งที่ผมทนได้ แต่....ตอนนี้อยากเข้าห้องน้ำ ผมเลือกที่จะช่วยเหลือตัวเองแทนที่จะตะโกนเรียกมัน ไม่รู้ทำไมผมถึงเชื่อว่า...มันยังนั่งรออยู่ข้างนอกอย่างที่บอกไว้จริงๆ ผมลุกจากเตียงโดยใช้มือข้างที่เจาะสายน้ำเกลือดันตัวเองขึ้นมา เดินลากเสาที่แขวนน้ำเกลือมาจนถึงหน้าประตูห้องน้ำ แต่ประตูห้องผมกลับถูกเปิดเข้ามา
"ทำอะไร"
"......"ผมไม่ได้ตอบอะไร แค่มองแล้วก็หันกลับมา ตอนแรกอยากจะลากเสาเข้าไปในห้องน้ำ แต่มันเข้าไม่ได้ เลยต้องหยิบถุงน้ำเกลือออกมา มือที่ตั้งใจจะหยิบต้องยกค้างไว้เพราะคนที่ผมไม่รู้พูดชิงไปถือไว้เอง
"เลือดมันย้อนหมดแล้วไม่เห็นรึไง บอกว่าจะเอาอะไรให้เรียก จะตายอยู่แล้วอย่าอวดเก่งนักเลย"คำพูดมันไม่ค่อยเข้าหูผมเท่าไหร่ ผมแทบจะยืนตัวแข็งทันทีที่เห็นเลือดปนกับน้ำเกลืออยู่เกือบครึ่งสาย ภาพเลือดของตัวเองวันนั้นยังติดตาอยู่เลย
"เป็นอะไร เอาแขนลงสิมันจะได้ไหลกลับ"
"........"ผมเอาแขนลงตามที่มันบอก แล้วก็ยืนค้างกันอยู่หน้าห้องน้ำ
"จะเข้าห้องน้ำไม่ใช่รึไง หรือเข้าเสร็จแล้ว"มันพูดจบผมก็เดินเข้าห้องน้ำแทนคำตอบ มันเอาถุงน้ำเกลือแขวนไว้แล้วก็เดินออกไปโดยไม่รอให้ผมไล่ หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จพอผมล้างมือมันก็เดินกลับเข้ามาหยิบถุงน้ำเกลือแล้วเดินนำผมกลับมาที่เตียง ผมก้าวขึ้นเตียงอย่างทุลักทุเลกว่าตอนลง มือข้างที่เจ็บไม่สามารถค้ำยันตัวเองได้ ส่วนอีกข้างก็ทำไม่สะดวกเพราะเข็มน้ำกลัวมันทิ่มลงไปเจ็บกว่าเก่า กว่าจะขึ้นมานอนบนเตียงเล่นเอาเหนื่อย พอจัดท่านั่งเสร็จก็หยิบรีโมตใกล้ๆ มาเปิดดูทีวีโดยไม่สนใจคนที่วุ่นวายอยู่กับตู้เย็นในห้องพัก สักพักมันก็เดินออกไปจากห้อง ผมนั่งพิงหมอนดูทีวีคลายความเบื่อหน่าย หลับทั้งวันเลยไม่ง่วง แผลที่ข้อมือก็เริ่มเจ็บ สงสัยเพราะขยับมาเกินไป
ประตูห้องถูกเปิดออกอีกครั้ง ผมหันไปมองด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าไม่พอใจในการที่มันเชิญตัวเองเข้ามาในห้องพักผมบ่อยๆ ถาดอาหารถูกวางลงบนโต๊ะล้อเลื่อนแล้วเลื่อนมาตรงหน้าผม เสร็จแล้วมันก็เดินออกไป ข้าวผัดกับเกี้ยวน้ำส่งกลิ่นหอมน่าทาน อาหารในกล่องพลาสติกที่เพิ่งอุ่นมาทำให้ผมคิดหนัก แต่ก็คิดไม่นาน เพราะไม่เกินหนึ่งนาทีหลังจากประตูปิดสนิทอาหารรวมทั้งกล่องก็ลงไปกองอยู่บนพื้น และเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นอีกครั้งอย่างที่ผมคิดไว้ไม่มีผิด
สายตาที่มองอาหารสลับกับหน้าผมไม่ได้ทำให้รู้สึกกลัว ไม่ใช่เพียงไม่กิน แต่ตั้งใจปัดทิ้งให้มันรู้ด้วย มันยืนกำลูกบิดประตูแน่น เท้าก้าวเข้ามาในห้องเพียงหนึ่งก้าวแล้วก็หยุด จากนั้นมันก็ถอยกลับไปแล้วปิดประตูตามเดิม ผมลอบถอนหายใจกับความอึดอัดที่เกิดขึ้น แต่ลึกๆ แล้ว...ผมก็เสียดาย...ที่ไม่ได้เห็นมันก้มเก็บอาหารที่กองอยู่บนพื้น
ผมนอนจ้องทีวีตรงหน้าจนเคลิ้มหลับ ตื่นมาตอนเช้าเมื่อพยาบาลมาวัดไข้และถอดน้ำเกลือออก ที่สิ่งทำให้ผมอึ้งคืออาหารเหล่านั้นยังอยู่สภาพเดิม มันยังกองเรี่ยราดบนพื้นด้วยสภาพไม่น่าดู จิ๋วเปิดประตูห้องเข้ามาถึงกับผงะไปเล็กน้อยเมื่อมองเห็นอาหารบนพื้น
"จิ๋วไปไหนมาเมื่อวาน"ผมแสร้งถามเบี่ยงเบนความสนใจของจิ๋ว
"กลับหอสิ ไม่ได้เปลี่ยนชุดสองวันจนจะเน่าตายอยู่แล้ว"
"นั่นสิ พายลืมนึกไป แล้ว...ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย"
"อย่างจิ๋วน่ะเหรอจะเป็นอะไร ไอ้ต่อมันไม่กล้าทำอะไรจิ๋วหรอก"
"อืม...ก็ดี"ผมตอบรับเบาๆ ในใจยังคิดถึงอาหารบนพื้น ความจริงตอนเช้าน่าจะมีคนมาทำความสะอาดแล้ว พยาบาลที่เวรที่คอยเข้ามาดูอาการเมื่อคืนก็น่าจะเห็น ทำไมไม่ให้แม่บ้านมาเก็บ ความสงสัยของผมมีคำตอบอย่างเดียว...เพราะมัน...มันคงอยากจะประจานการกระทำของผมให้คนอื่นเห็น
หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จ หมอก็มาตรวจอีกครั้งเพื่อยืนยันให้กลับบ้านได้ ผมเปลี่ยนชุดแล้วรอให้พี่หน่อยจัดการเรื่องเงิน ผมคิดว่า..คงเป็นเงินของมันอีกนั่นล่ะ พอคิดแบบนี้ผมเลยไม่พูดอะไร ใครอยากเสียเงินก็เสียไป ยังไงก็เป็นความผิดของมันอยู่แล้ว พี่หน่อยขับรถพาผมกับจิ๋วมาที่คอนโด จิ๋วแค่อยากมาช่วยพี่หน่อยดูแลผม แต่ไม่ค้างด้วยเพราะเกรงใจพี่หน่อย ถึงแม้พี่หน่อยพี่นพจะไม่ว่าอะไรก็ตาม
คนที่นั่งอยู่ในห้องทำให้ผมหยุดยืนอยู่หน้าประตู ผมไม่นึกว่าจะมีโอกาสนี้อีกแล้ว ไม่คิดว่าจะได้พูดคุยกัน หรือแม้แต่มองหน้ากัน ยังมีคำพูดมากมายและเรื่องราวต่างๆ ที่อยากถ่ายทอดให้เขาได้ฟัง
"พาย.....เอ่อ...ขอโทษนะ"
"ไม่ๆๆ นุไม่ต้องขอโทษ พายสิต้องขอโทษ ขอโทษนะ ไม่โกรธพายแล้วใช่มั้ย"ผมรีบวิ่งเข้าไปกอดคนที่ยืนอยู่กลางห้อง
"หายโกรธตั้งนานแล้ว ขอโทษที่หายไปนานนะ"นุดันตัวออกจากอ้อมแขนผมแล้วส่งยิ้มให้ รอยยิ้มสดใสใบหน้าที่ไม่ได้เห็นมานาน เสียงนุ่มๆ ที่ไม่คิดว่าจะได้ยินอีก
"ไม่เป็นไร อย่าขอโทษพายเลย พายคิดถึงนุมากเลยรู้มั้ย อยากไปหามากๆ พายจะกลับไปอยู่ใกล้ๆ นุเหมือนเดิมนะ ดีมั้ย"ผมถอยห่างจากนุเล็กน้อย แต่มือของเรายังกุมกันไว้ทั้งสองข้าง จิ๋วเดินเลี่ยงไปนั่งบนโซฟา ส่วนพี่หน่อยเดินไปทางครัวเล็กๆ มุมห้อง
"ถ้าเป็นอย่างนั้นได้ก็ดี แต่นุไม่ได้อยู่ที่หอนั้นแล้วนะ"
"เหรอ ไม่เป็นไร พายกำลังหาหอใหม่ พายไปอยู่หอเดียวกับนุก็ได้ นะๆ เรากลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมนะ"
"กลับทำไม นุไม่เคยคิดว่าพายไม่ใช่เพื่อนซะหน่อย หรือพายคิดเลิกคบกับนุ ใจร้ายนะคนเรา"คำต่อว่าเล็กๆ ของคนแสนงอนทำให้ผมยิ้มออกมาหลังจากไม่ได้ยิ้มมานาน
"ไม่ๆๆ ไม่เลิก เป็นเพื่อนกันนะ ดีใจจังเลยที่เจอนุอีก พายอยากคุยด้วยตั้งหลายเรื่องเลย คืนนี้พายไปค้างกับนุได้มั้ย เราจะได้นอนคุยกันทั้งคืนไง"
"คืนนี้นุก็จะนอนที่นี่เหมือนกัน เรายังอยู่ด้วยกันอีกหลายวันเลยล่ะ รับรองว่าเบื่อหน้ากันไปข้างเลย"นุพูดพร้อมฉีกยิ้มกว้างขึ้นไปอีก
"เดี๋ยวก่อนนะ....นุ...มาที่นี่ได้ยังไง"คำพูดและการมาของนุทำให้ผมสงสัย
".....พี่ตั้มพามาส่ง"
"ทำไม"ทันทีที่ได้ยินชื่อมันออกจากปากนุผมก็ก้าวถอยหลังทันที นุจับมือผมแน่นขึ้นเมื่อผมคลายมือออก
"ก็มาดูแลพายไง"
"นุ!!!"คำตอบของนุแทบทำให้ผมสะบัดตัวออกจากมือที่จับไว้ ผมดีใจที่นุมาหา แต่...ต้องไม่ใช่เพราะมัน
"พายอย่าเพิ่งโกรธนะ ฟังนุพูดก่อน"
"อะไรกันนุ มันทำกับนุยังไงวันนั้นน่ะลืมไปแล้วเหรอ ทำไมต้องยอมทำตามมันสั่งด้วย จะบ้ากันไปหมดแล้วรึไง ทำไมทุกคนต้องทำตามมันตลอดเลย"
"ผมขอคุยกับพายในห้องนะครับ"นุหันไปพูดกับพี่หน่อยแล้วจูงมือผมเดินเข้าห้องนอนพี่หน่อยพร้อมล็อคห้องเสร็จสรรพ ผมเดินมายืนอยู่ข้างเตียงนอนพี่หน่อย ส่วนนุยืนหน้าประตูเหมือนกลัวผมหนีออกไป
"เรื่องที่พี่ตั้มทำกับพายน่ะ นุรู้หมดแล้ว พี่ตั้มเป็นคนเล่าให้ฟัง ถึงจะไม่ละเอียดแต่นุเดานิสัยพี่ตั้มได้ว่า...ทำอะไรกับพายบ้าง เรื่องที่นุตบพายวันนั้นน่ะ นุขอโทษ นุไม่รู้อะไรเลยจริงๆ พี่ตั้มทำแบบนั้นกับนุน่ะถูกต้องแล้ว นุ...เคยพูดจาถึงพายในแง่ไม่ดีมากๆ จนพี่ตั้มเข้าใจผิด ยอมรับว่าทำไปเพราะหึง พี่ตั้มเอาแต่ถามเรื่องพายแล้วนุก็เคยเห็น...พี่ตั้มออกจาห้องพายตอนเช้า ทุกอย่างมันทำให้เข้าใจผิด นุไม่อยากเสียพี่ตั้มไปเลยพูดกันๆ ไว้ว่าพายกับทิว....เป็นแฟนกันแล้ว ขอโทษจริงๆ นะ"
"เรื่องนั้นน่ะช่างมันเถอะ พายไม่ใส่ใจแล้ว...ยังไงมันก็ผิดต่อนุ มันไม่ควรให้นุมาที่นี่เพื่อดูแลพาย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านุยังรักมันอยู่"ถ้านุไม่รักมัน จะยอมทำเพื่อมันขนาดนี้เหรอ คนอย่างมันมีอะไรดีถึงทำให้นุหลงได้ขนาดนี้
"อืม...ก็ไม่เชิงหรอก พี่ตั้มเขาดีกับนุ หลังจากวันนั้นเขาก็ยังส่งนุเรียน ให้งานให้เงินนุเหมือนเดิม แต่พายไม่ต้องห่วงนะ นุกับพี่ตั้มไม่ได้มีอะไรกันแล้วตั้งแต่วันนั้น ส่วนมากจะเจอกันที่ร้านเฉยๆ"
"พายถามจริงๆ ทำไมมันให้นุมาค้างกับพายที่นี่"
"ก็มาดูแลพายไง"
"จิ๋วก็อยู่ พี่หน่อยก็อยู่.....อ๋อ..พายว่าพายเดาได้แล้ว คงให้นุมาเฝ้าพายมากกว่า มันรู้นี่ว่าจิ๋วเป็นเพื่อนทิว คนอย่างนั้นน่ะเหรอจะแค่ให้นุมาดูแลพาย"ผมว่านิสัยขี้ระแวงของผมเป็นผลดีนะ อย่างน้อย...ก็ทำให้คิดอะไร เห็นอะไรรอบๆ ตัวได้มากขึ้น
"พายอย่าพูดอย่างนั้นสิ ถึงมันจะจริง แต่พี่ตั้มทำเพราะเป็นห่วงพายไม่ใช่เหรอ"
"เรื่องนั้นพายไม่รู้หรอก คนอย่างมันมีความรู้สึกแบบนั้นได้ด้วยรึไง"ผมพูดจบนุถึงกับหน้าเสีย ผมไม่เคยพูดจาว่าร้ายใครแรงขนาดนี้ แต่...ทั้งโลกนี้คงยกเว้นมันไว้หนึ่งคน
"พาย....นุถามหน่อยนะ...กับทิว...เป็นยังไงบ้าง"
"ก็...ไม่เป็นไง ไม่ได้คุยกันหลายวันแล้ว"
"ความรู้สึกพายล่ะ กับทิวน่ะ รู้สึกยังไง เหมือนเดิม...หรือโกรธ...หรือ...อภัยให้ได้ถ้าเจอกันอีก"
"..........."ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยถามตัวเองอย่างที่นุถาม แต่ถามเป็นร้อยเป็นพันครั้ง...ความรู้สึกมันก็ยัง....ไม่ชัดเจนอยู่ดี
"นุไม่เห็นว่าทิวจะต่างกับพี่ตั้มตรงไหน พายควรเห็นใจพี่ตั้มบ้างนะ"
"แล้วมีใครเห็นใจพายบ้าง...ไม่มีเลย ถ้ามันต้องการให้นุมากล่อมแล้วล่ะก็คงต้องผิดหวัง เพราะยิ่งมันทำแบบนี้พายก็ยิ่งเกลียดมัน คนที่มันควรใส่ใจควรเป็นนุ ไม่ใช่พาย"จากตอนแรกที่เห็นหน้านุ ผมนึกดีใจที่ได้มีพวกของตัวเองบ้าง แต่ไม่ใช่เลย นุเข้าข้างมัน มาเพราะมันสั่ง มาช่วยมันคุมผม อยากให้ผมเห็นใจมันงั้นเหรอ....แล้วผมล่ะ...มันเคยเห็นใจผมบ้างมั้ย ทำอะไรกับผมไปบ้างทุกคนก็รู้ ทำไมไม่มีคนเข้าใจผมบ้าง ผมออกมาจากห้องนั้นได้ ออกมาจากมันได้ แต่...ไม่ใช่เลย...ผมแค่ย้าย....ห้องขังใหม่เท่านั้น
************************************************************************************
