มา มาอ่านกันต่อ คึคึ
“ห๊ะ! ว่าไงนะชาย”
“นายรถชนอยู่นอกหมู่บ้านครับ คุณจะออกไปด้วยกันมั้ย”
“ไปๆ”ผม รีบวิ่งตามชายลงมาขึ้นรถ ชายขับรถออกจากหมู่บ้านได้ไม่ไกลก็เห็นรถคันหนึ่งกลิ้งลงไหล่ทางเอียงไป ครึ่งคัน ชายจอดรถสนิทผมก็วิ่งมาถึงข้างรถคันที่ใช้ต้นไม้ข้างทางแทนเบรก มองเข้าไปข้างในเห็นคนขับนั่งฟุบพวงมาลัยนิ่ง เคาะกระจกไม่นานเขาก็เอียงหน้ามาทางผมก่อนจะเปิดประตูลงมายืนพิงรถ
“เป็น ไงบ้าง เจ็บตรงไหนรึเปล่า เรียกรถพยาบาลรึยัง ขับยังไงไม่ดูเลย เมาแล้วทำไมไม่ค้างกับพี่นัทไปเล่า ทำอะไรของคุณเนี่ย เลือด! มีเลือดออกด้วย คุณหัวแตกเหรอ ชาย! ชายโทรเรียกรถพยาบาลเร็ว!”
“ไอ้ชายไม่ต้อง! อยู่เฝ้ารถรอช่างก่อน เดี๋ยวสักพักคงมา”
“เดี๋ยว! จะทำอะไร จะบ้ารึไง เจ็บขนาดนี้ยังจะขับอีก ชาย! มาขับรถให้นายแกสิ”
“พายเงียบๆ หน่อย พี่มึนหัว”
“นี่! มึนหัวแล้วจะขับอีกทำไม ชายมาขับรถ!!”ผมค่อยๆ พยุงเขามาที่รถแต่รั้งแขนไม่ให้เดินไปฝั่งคนขับ
“มึง ขับพากูไปส่งบ้านก่อน เดี๋ยวช่างมาค่อยออกมาแล้วกัน”เขาให้ชายไปหยิบกระเป๋าสตางค์กับมือถือในรถ พี่นัทแล้วล็อครถ ผมเดินพยุงเขามานอนนั่งเบาะหลัง สักพักชายก็มาขับกลับบ้าน พอมาถึงบ้านผมถึงได้เห็นว่าที่แตกไม่ใช่หัว แต่เป็นคิ้ว
“ไปหาหมอดีกว่ามั้ย ชายไปโรงพยาบาลใกล้ๆ แถวนี้มีมั้ย”ผมรั้งแขนให้เขากลับเข้าไปนั่งในรถ แต่คนอวดเก่งไม่ยอม
“ไม่ต้องๆ มึงรอโทรศัพท์อยู่นี่ล่ะ พายพาพี่ขึ้นข้างบนก่อน”
“ทำไม ไม่ไปหาหมอเล่า ทำไมพูดยากอย่างนี้นะ”ผมพยุงเขามาถึงห้องนอนใหญ่ เดินเข้าห้องน้ำเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดรอยเลือดบนหน้า แต่ไม่กล้าเช็ดใกล้คิ้ว
“เดี๋ยวพี่เช็ดเอง ไปเอากาละมังใส่น้ำมาเช็ดตัวให้หน่อย เหมือนไข้จะขึ้น”เขาแย่งผ้าในมือไปเช็ดใกล้ๆ บริเวณแผล
“ก็ แล้วออกไปกินทำไมเล่า ทำอะไรไม่ดูตัวเองเลย เลือดมันยังซึมๆ อยู่เลย ไปหาหมอดีกว่ามั้ย นะ”แย่งผ้าในมือไม่ให้เขาเช็ดตรงแผลเพราะผ้ามันสกปรก และเขาแย่งมือผมไปกุมไว้อีกที
“......เป็นห่วงเหรอ”
“ยังมาพูดเล่นอยู่อีก ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้นะ คราวหลังไม่ต้องพาพายมาอีกเลยนะ จะไม่มาด้วยอีกแล้ว มีแต่เรื่องตลอดเลย”
“ขี้บ่น”
“ก็แล้วมันน่าบ่นมั้ย!!”
“ตกลงจะไม่เช็ดตัวให้หรือครับ”
“เช็ด!!” โอ๊ยยยย ให้ตายเหอะ เขารู้ตัวมั้ยว่าเพิ่งขับรถชนมาน่ะ กระโปรงหน้ายุบไปครึ่งนึงแล้วยังมานั่งทำท่าเหมือนแค่รถเสียเล็กๆ น้อยๆ จะใจเย็นเกินไปมั้ย ไม่สบายยังกล้าไปกินเหล้า เมาแล้วยังจะขับกลับดึกๆ อีก มีแต่คนบ้าแบบเขาเท่านั้นล่ะที่ทำแบบนี้
“อือ...เบาหน่อยสิพาย พี่เจ็บอยู่นะ”
“ก็แล้วไม่ไปหาหมอเล่า ตรงนี้มันเป็นรอยด้วย ไปตรวจพรุ่งนี้ดีมั้ย”ผมชี้รอยแดงบริเวณหัวไหล่พาดยาวลงมาใกล้หน้าอก
“รอยเบลล์น่ะ นวดยาให้หน่อยก็ดี พรุ่งนี้คงระบม”
“ไม่”
“เฮ้อ...งั้นไปเอายามา พี่นวดเองก็ได้”
“ไม่ให้ ไปหาหมอซะ เกิดกระดูกร้าวล่ะ นวดไปไม่ยิ่งแย่เหรอ”
“ไม่ร้าวหรอกน่า มันไม่ได้เจ็บขนาดนั้น ตกลงจะนวดยาให้รึเปล่า”
“...... คราวหน้าไม่ต้องพามาแล้วนะ”ผมหยิบกาละมังไปไว้ในห้องน้ำแล้วเดินลงไปหยิบยา นวดจากข้างล่างขึ้นมา เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอน เหลือเพียงเสื้อนอนที่ยังไม่ติดกระดุม ผมเดินไปนั่งข้างๆ ใช้สำลีเช็ดแผลที่คิ้วแล้วใส่ยาให้ บีบยานวดมานวดให้บริเวณหัวไหล่เบาๆ เท่าที่จะทำได้
“ทำไมมือสั่น”
“........”ถ้าเขาไม่ทักผมก็ไม่รู้ตัวหรอกว่ากำลังสั่น มิน่าตอนป้ายยาถึงเลอะจนเกือบเข้าตา
“ห่วงพี่เหรอ”
“ใคร จะไปห่วง แก่จนจะตายอยู่แล้วยังไม่รู้จักดูแลตัวเอง ใครจะไปอยากห่วงกัน”ผมพูดไม่ทันจบประโยคดีก็ถูกดึงเข้าไปจนแทบจะนั่งเกยตัก เขาอยู่แล้ว
“อือ...อย่าดิ้นสิ”
“ก็แล้วจะกอดทำไมล่ะ เดี๋ยวก็เจ็บแผลหรอก”
“ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว ขอโทษที่ทำให้ตกใจ”เขาเกลี่ยผมไปเหน็บไว้ข้างหูก่อนจะนวดหว่างคิ้วผมเบาๆ
“.............สมน้ำหน้าแล้ว ไม่เจียมตัวดีนัก”
“ปากแข็ง”
“ไม่ได้ปากแข็ง”
“ปากไม่ตรงกับใจ”
“ตรง!”
“ขี้บ่น”
“เออ! ทีหลังก็ไม่ต้องมายุ่ง”
“อืม...นอนเถอะ พี่เหนื่อยแล้ว”ทันทีที่พูดจบเขาก็เลื่อนตัวลงนอนโดยไม่ลืมที่จะลากผมให้นอนตามด้วย
“จะนอนก็ปล่อยสิ”
“อยู่นิ่งๆ ดิ้นมากๆ พี่เจ็บนะ”
“เออ เจ็บให้ตายไปเลย อวดเก่งดีนัก จำไว้เลยนะ ครั้งหน้าจะไม่มาด้วยแล้ว จะไปชนต้นไม้เสยเสาไฟต้นไหนก็ไปเลย จะได้ไม่ต้องฟังคนขี้บ่น อื้อ...อ”ริมฝีปากฉกวูบมาพร้อมฝ่ามือที่จับท้ายทายผมไว้ เราไม่ได้สัมผัสกันลึกซึ้งอะไร มัน...นุ่มนวลไปด้วยซ้ำ แค่...สัมผัสผ่านๆ สลับกับการเน้นย้ำ
“ปากไม่เห็นแข็งสักหน่อย ทำไมไม่พูดตรงๆ บ้างนะ เป็นห่วงก็บอกว่าห่วง แค่นั้นก็จบแล้ว ทำไมชอบทำอะไรอ้อมไปอ้อมมาจริงๆ น้า”
“.....”
“พอเถียงไม่ออกก็เงียบใส่ทุกที แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่เราจะคืบหน้ามากกว่านี้ล่ะ”
“ไหนบอกว่าง่วง ง่วงก็นอนสิ บ่นอะไรอยู่ได้”
“ครับๆ นอนก็นอน”เขายกมือข้างที่ผมไม่ได้นอนหนุนลูบหัวเบาๆ เหมือนกล่อมเด็ก และเป็นการกล่อมที่ได้ผล เพราะผมรู้สึกง่วงขึ้นมาจริงๆ
รุ่ง เช้าหลังจากเคลียร์เรื่องประกัน ผมก็ให้ชายขับรถพาเขาไปตรวจที่โรงพยาบาล ผลการตรวจก็มีแค่ฟกช้ำนิดหน่อย กับคิ้วที่แตกแต่ไม่ถึงกับต้องเย็บ หลังจากซักถามเรื่องงานว่าไม่มีอะไรที่ต้องทำที่นี่ผมก็ให้ชายขับรถกลับรี สอร์ตในตอนบ่าย กลับมาถึงก็ต้องแวะไปบ้านใหญ่ก่อน เพราะผมโทรมาบอกไว้ล่วงหน้าแล้ว ป้าภาก็จัดการสั่งสอนลูกชายหัวรั้นยกใหญ่ โดยมีผมนั่งให้ข้อมูลเสริมอยู่ข้างๆ แต่คนผิดก็ไม่มีท่าทีจะสำนึกมากนัก เพราะหลังจากฟังคำอบรมสักพักก็อ้างว่าปวดหัวแล้วชวนผมกลับบ้านทันที
อาการ ของเขาไม่ได้หนักหนาอย่างที่ผมคิด นอกจากบาดเจ็บเล็กน้อยกับเป็นไข้หวัด แต่ถึงหนักก็คงหายเร็วเพราะมีคนคอยดูแลเยอะ ไม่ว่าจะเป็นป้าภาที่ให้แม่บ้านทำอาหารบำรุงส่งมาทุกมื้อ พี่นพพี่หน่อยที่คอยกำชับให้กินยาและนวดยาเรื่อยๆ สุดท้ายคือแม่ผมที่คอยบังคับผมให้บังคับคนป่วยกินยาให้ครบ รวมถึงให้นวดยาทุกวัน เพียงอาทิตย์เดียวก็หายสนิท และก็เตรียมหาเรื่องวุ่นวายกับผมทันที
“คุณพาย นายให้มาบอกว่าเย็นนี้จะไประยอง ค้างสองคืนครับ”ชายยืนหน้าเจี๋ยมเจี้ยมตรงหน้าผม วันนี้เป็นวันหยุดของผม และผมกำลังพักผ่อนด้วยการนอนอ่านหนังสือทำอาหารบนโซหาตัวโปรด รวมทั้งวางแผนที่จะลองทำเมนูใหม่ๆ ในมื้อเช้าพรุ่งนี้
“ไม่ไป ไปบอกนายของแกเลย ”
“เดี๋ยวนายก็มาแล้วมั้งครับ ผมมาเช็ครถให้ก่อน”
“แล้วนี่ป้าภารู้หรือยัง”
“รู้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับ”
“แล้วทำไมฉันเพิ่งรู้วันนี้ เจ้านายแกนี่มันจริงๆ เลย”
“เถียงอะไรดังไปถึงข้างนอก”ตายยากจริงๆ พูดถึงก็เดินเข้ามาพอดี
“มาก็ดีแล้ว พายไม่ไป คุณจะไปก็ไปกับชายสองคน”
“ผมไม่ได้ไปด้วยครับ”ชายพูดจบก็เดินออกไปนอกบ้าน คงไปเช็ครถตามคำสั่ง
“อ้าว”
“พี่จะขับไปเอง”
“แล้วทำไมไม่ให้ชายไปขับให้”
“มันไม่ชินทาง ขับเองสะดวกกว่า”
“ก็คอยบอกทางไปสิ”
“ขี้เกียจ แล้วตกลงจะไปด้วยรึเปล่า ไม่ได้บังคับนะ”
“.....จะไปกี่โมง”
“เก็บของเสร็จก็ไป ไม่อยากขับดึกๆ เดี๋ยวหลับในจะยุ่งเหมือนคราวก่อน ยังเมื่อยๆ ไหล่อยู่เลย”พูดไม่พอยังแสดงอาการนวดไหล่โชว์ด้วย
“....เดี๋ยวจัดกระเป๋าก่อน จะเอาสูทไปด้วยมั้ย”
“ไม่ต้อง เอาชุดธรรมดาไปก็พอ จะไปตรวจงานเฉยๆ”
“รอ นี่ล่ะ เดี๋ยวจัดให้”ผมพูดจบก็เดินเข้าห้องนอนใหญ่ หยิบกระเป๋าใบเดิมจัดเสื้อผ้าใส่ลงไป นึกถอนใจเหนื่อยๆ กับการกระทำของเขาและของตัวเอง ที่ผมจะไปด้วยเนี่ยไม่ใช่เพราะอยากไปด้วยหรอกนะ แต่เห็นว่าไม่มีเพื่อนไปหรอกถึงได้จะนั่งไปเป็นเพื่อน คราวที่แล้วรถชนยังไม่เข็ด เพิ่งหายเจ็บไหล่ไม่เท่าไหร่ยังจะขับรถทางไกลอีก นี่ไม่ได้เป็นห่วงอะไรหรอกนะ แค่หมั่นไส้คนไม่เจียมสังขาร เกิดเป็นอะไรขึ้นมาผมก็ต้องลำบากผมคอยดูแลอีก สงสารก็แต่ป้าภา คราวที่แล้วก็ตกใจจะเกือบเป็นลม
“เอาโน๊ตบุ้คไปด้วยนะ”
“อืม”
“เป็นอะไรอีกล่ะ”
“เปล่า”
“ไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป เดี๋ยวจะหาว่าบังคับอีก”
“งั้นก็ให้ชายขับรถให้”ผมละมือจากกระเป๋าเสื้อผ้าแล้วหันมามองคนที่นั่งบ่นอยู่บนเตียง
“...อืม เอางั้นก็ได้ ตกลงไม่ไปใช่มั้ย”ความจริงขับรถไกลๆ มีคนคอยช่วยขับหรือชวนคุยก็ดีกว่าให้ผมที่ขับรถแทนก็ไม่ได้ ชวนคุยก็ไม่เก่งไปด้วย แต่อย่างไอ้ชายน่ะเหรอจะพึ่งอะไรได้ เกิดไปถึงที่แล้วเจ้านายหนีไปเมาที่ไหน หรือขับรถเสยต้นไม้ที่ไหนอีกมันก็คงได้แต่ตามไปเก็บซากแน่ๆ ไม่เคยหรอกที่จะห้ามอะไรกัน ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพราะห่วงอะไรหรอกนะ...โอเค!...อาจจะ...ห่วง...นิดหน่อย
“....พาย ไปด้วย”ผมยกกระเป๋าเสื้อผ้าให้เขาถือออกไป ก่อนที่ผมจะปิดบ้านแล้วหิ้วกระเป๋าโน๊ตบุ้คตามไปนั่งเบาะหลัง ส่วนชายทำหน้าที่ขับรถนั่งคู่กับเจ้าของรถ
“คุณพายเอารองเท้ามาทิ้งไว้ในรถสักคู่ดีนะครับ”
“ทำไม”
“ก็เผื่อมีเหตุฉุกเฉินแบบคราวก่อน คุณจะได้ไม่ต้องเดินเท้าเปล่าไปช่วยนายดึกๆ อีกไง”
“ไอ้ชาย!!”
End
++++++++++++++
G_waฝากแจ้งข่าว
จาก รูปแบบการจัดหน้า จะเห็นได้ว่าบรรทัดมันติดกัน ไม่ได้เว้นทุกบรรทัดเหมือนตอนอื่นๆ เพราะ...คาดว่าจะรวมเล่มภายในต้นปีหน้า แต่ยังไม่เปิดจองนะคะ ไว้ใกล้ๆ เสร็จจะมาแจ้งอีกที
(ถ้าเงินหมดจะรวมเล่ม ฉนั้นเราภาวนาให้พี่จีเงินหมดเร็วๆกันเหอะ กร้ากกกกกกกกกกกกกก

)
จะปีใหม่แล้ว...คิดใหม่ทำใหม่ หาแฟนใหม่ได้แล้วนะทุกท่าน คึคึ (คำอวยพรตู :เฮ้อ:อนาถตัวเอง)
โชคดี สุขีสุโข นะโมตัสสะ

รักคนอ่านทู้กกกกกกกท่าน
