(◕‿◕Miracle of ⓌⓘⓈⒽ♥ ปาฏิหาริย์แห่งคำอธิษฐาน -18 THE END- [12.3.60] P.20
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (◕‿◕Miracle of ⓌⓘⓈⒽ♥ ปาฏิหาริย์แห่งคำอธิษฐาน -18 THE END- [12.3.60] P.20  (อ่าน 110249 ครั้ง)

ออฟไลน์ PinkCaramel

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
น้องจันทร์ไหวนะ

อีกสองปี ตอนนี้อ่อยไปเรื่อยๆ อิอิ

แม่ปล่อยละ
แล้วอิผี เอ้ยพี่เดือนว่าไง

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
  อิอิ พี่ยูรู้นะคิดอะไรอยู่

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
คุณเดือนนี่ต้องร้ายมากแน่ๆ

ออฟไลน์ มะปรางเปรี้ยว

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ให้ความรู้สึกเหมือนคุณแม่ยุ้ยไม่ได้ร้ายอะไรสักเท่าไหร่ ที่ด่าน้องจันทร์แรงๆ เหมือนมันมีอะไรแอบแฝงประมาณว่าให้เลิกยุ่งกับพี่ยูเพราะกลัวหรือกังวลอะไรมากกว่านะ คนที่น่ากลัวที่สุดคงเป็นคุณพี่แล้วล่ะ

ออฟไลน์ Unnie

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 177
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ความร้ายกาจของคุณแม่เป็นแค่ฉากบังหน้า??? **เดานะคะ
แต่พี่ยูขาาาาาาาาาาาาาาาาา สมแล้วค่ะที่เป็นนักธุรกิจ
ระบบสะสมแต้มกับน้องจันทร์เนี่ย พี่ยูไม่มีคำว่าขาดทุนเลยนะคะ  :z1: :jul1:

ออฟไลน์ Unnie

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 177
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ความร้ายกาจของคุณแม่เป็นแค่ฉากบังหน้า??? **เดานะคะ
แต่พี่ยูขาาาาาาาาาาาาาาาาา สมแล้วค่ะที่เป็นนักธุรกิจ
ระบบสะสมแต้มกับน้องจันทร์เนี่ย พี่ยูไม่มีคำว่าขาดทุนเลยนะคะ  :z1: :jul1:

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
พึ่งมีเวลามาตามอ่าน ผ่านไปตั้ง10ตอนแล้วอ่ะ สนุกมากกก เอ็นดูจันทร์และใฝ่ฝันอยากจะได้พี่ยูจังค่ะ // :beat: โดนจันทร์ตบ!!

รู้สึกชอบระบบสะสมแต้มของพี่ยูจังเลย  :z1:

ออฟไลน์ เด็กดอยดาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
จองพื้นที่ ว่างแล้วจะแว่บมาตามอ่านนะคะ :man1:

ออฟไลน์ simpleyaoi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
กะจะมาออกความเห็นเรื่องแม่ แต่พอเจอระบบสะสมแต้มของพี่ยูเข้าไป  :a5: ตายๆๆๆ สุดยอดนักธุรกิจจริงๆ ค่ะ  :z1: :hao6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ r.saranya

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ตอนนี้อ่าน 2 รอบเลยค่ะ
เพราะสงสัยในตัวคุณแม่ มันต้องมีอะไรแน่ๆ
แต่ประโยคระบบสะสมแต้ม อ่านวนหลายรอบมาก
พระเอกของเราสมเป็นนักธุรกิจจริงๆ  :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ Wrwrwr

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ RIRIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +492/-2
Miracle of WISH ผมเรียกมันว่าปาฏิหาริย์แห่งคำอธิษฐาน




-11-







   
“โอ๊ะ โอ๊ยย จ เจ็บๆ เบาๆ หน่อยสิพี่ยู”

“นี่เบาสุดๆ แล้วนะ”

“แต่จันทร์เจ็บนี่นา อูยยย ตรงนั้นๆๆ”

“ตรงนี้? เจ็บเหรอ?”

พยักหน้ารัวๆ แบบน้ำตาเล็ดน้ำตาไหลเลยครับ

“อ๊ะ อ โอ๊ยย ม ไม่ไหวแล้ว”

“อีกนิดเดียว อดทนหน่อย”

“ม ม่ายยยไหว พ พออเถอะ”
ส่ายหน้าพร้อมทุบหัวไหล่พี่ยูตุบตับเพื่อคลายความเจ็บ ผมไม่ไหวแล้วจริงๆ ครับ มือพี่ยูหนักจะตาย(ห่า) บอกจะนวดเท้าให้แต่ผมว่ากำลังจะหักเท้าผมมากกว่านะเนี่ย T^T

แน่ะ ทุกคนกำลังคิดอะไรลึกซึ้งกันรึเปล่าครับ?? พี่ยูแค่กำลังนวดเท้าให้ผมอยู่ต่างหาก สาเหตุเกิดจากกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยเมื่อวานทำเอาเท้าของผมระบม ก็รุ่นพี่เล่นให้เดี๋ยวลุกนั่งเดี๋ยวเดินสลับวิ่งทั้งวัน ปกติอยู่บ้านสวนใส่แต่อีแตะหนีบพอมาใส่รองเท้าผ้าใบมันก็ไม่สบายเท้าอีก นี่ขนาดผมอุตส่าห์เลือกคู่ที่แพงสุดจากร้านในตลาดแล้วนะครับ จ่ายเงินไป 299 บาท แต่ท่าทางจะไม่คุ้มเอาซะเลย โดนรองเท้ากัดจนนิ้วเป็นแผลไม่พอแถมยังเมื่อยเท้าซะจนแทบจะเดินไม่ไหว ถ้าไม่เสียดายตังค์ผมคงได้เขวี้ยงรองเท้าทิ้งแล้วเดินตีนเปล่ากลับที่พักนานแล้วละครับ

“แบบนี้โอเคมั๊ย?”

“ด ดี อืมมม”

หมอนวดจำเป็นใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นกำลังดีประคบเท้าทั้งสองข้างของผม ถ้ารู้ว่าฟินขนาดนี้หน้าจะประคบให้ผมตั้งแต่แรกดีกว่านวดจนเท้าผมแทบจะหัก แต่ที่ฟินหนักกว่าก็ตรงหมอนวดนี่แหละครับ ผมนอนยาวบนโซฟาแล้วเอาเท้าวางบนหน้าขาของพี่ยู แค่ผมบ่นเรื่องปวดเมื่อยเท้าพี่ยูก็ให้ลูกน้องไปหาซื้อยาทาแก้ปวดเมื่อยมาสารพัดจากนั้นก็แปลงร่างจากนักธุรกิจเป็นหมอนวดเท้าให้ผม แม้มือจะหนักไปหน่อยแต่มันก็ดีต่อใจสุดๆ เลยล่ะครับ อิอิ

“น้องโซ่ไปไหน?”

“สาวมารับไปกินติม”

พูดถึงไอ้โซ่แล้วหมั่นไส้ครับ ไม่ได้หมั่นไส้ไอ้โซ่แต่น้องสมายล์ต่างหากที่นับวันผมชักจะไม่ชอบขึ้นเรื่อยๆ ตอนอยู่บ้านสวนผมแค่รู้สึกเฉยๆ เห็นเพื่อนชอบเพื่อนรักผมก็โอเค แต่ตั้งแต่มาอยู่กรุงเทพฯ ผมคิดว่าน้องสมายล์กำลังคิดไม่ซื่อกับเพื่อนรักของผมอยู่ คิดดูสิครับจากคนที่ไม่เคยดูดำดูดี รังเกียจไอ้โซ่หาว่าเป็นแค่ลูกแม่บ้านก้นครัวบ้านครูเอี่ยมจู่ๆ พอไอ้โซ่ได้มาเป็นหนุ่ม กทม. อยู่คอนโดหรู ก็เช้าถึงเย็นถึง ไอ้โซ่มันเก่งทุกเรื่องก็จริงแต่เรื่องผู้หญิงมันตามมารยาร้อยเล่มเกวียนไม่เคยทันสักที เป็นห่วงมันแต่จะให้ไปห้ามโผงผางว่า ‘ฉันไม่ให้ไป’ ก็ไม่ได้อีก ต่อให้เป็นเพื่อนรักหรือสนิทกันมากแค่ไหนเรื่องหัวใจเนี่ยคือจุดอ่อนเลยนะครับ

“ทำหน้าแบบนั้นหมายความว่ายังไง?”

“จันทร์ไม่ชอบน้องสมายล์”
ถามมาก็ตอบไปตรงๆ นี่แหละ ไม่มีความลับและไม่มีอะไรจะกั๊ก

“เหตุผล?”

“ก็ไม่ชอบ”

บางทีเรื่องชอบไม่ชอบมันก็ไม่ต้องการเหตุผลปะ??? ก็ตอบแบบนี้แล้วทำไมต้องยิ้มหล่อขนาดนั้นไม่ทราบ แล้วทำไมพอพี่ยูยิ้มหล่อแล้วผมก็มองไปทางอื่นไม่ได้สายตาต้องโฟกัสอยู่แค่จุดเดียว ทำไมผมต้องกระพริบตาปริบๆ พร้อมกับกัดริมฝีปากตัวเองด้วย เอ๊ะ???? นี่ผมเป็นอะไร???

“เฮ้ยยยย!”

จู่ๆ พี่ยูก็จับแขนทั้งสองข้างของผมแล้วดึงขึ้นลอยหวือแบบไม่ทันตั้งตัว ทำให้จากที่นอนอย่างราชากลายมานั่งคร่อมอยู่บนหน้าตักพี่ยู ทุกอย่างไวมากจนผมตั้งสติไม่ทันเลยครับ และด้วยกลัวจะหงายหลังตกพื้นผมจึงเอาแขนโอบรอบคอเจ้าของตักไว้ ดวงตาของเราสอดประสานกันในระยะแค่คืบ หัวใจของผมเต้นระส่ำ

“อีกสองอาทิตย์ฉันจะต้องกลับไปญี่ปุ่น”

“ทำไมเร็วจัง”
ในอกด้านซ้ายเปลี่ยนจากเต้นระส่ำเป็นใจหายวูบ

“ไปกับฉันมั๊ย?”

“แต่ตอนนั้นผมต้องไปออกค่าย”
มือใหญ่บีบสะโพกของผม ทำเอารู้สึกเสียววาบแปลกๆ จนผมต้องเกร็งตัว

“ฉันต้องการเธอ”
เสียงทุ้มแหบพร่ากระซิบชิดติดใบหู จนผมต้องย่นคอแล้วหลับตาปี๋กับความรู้สึกสยิวจนขนลุก

“ก ก็อยู่ต่อสิ กว่าผมจะเรียนจบอีกตั้งสี่ปี”
มาจีบผมทิ้งไว้แล้วจะชิ่งหนีไปแบบนี้ไม่ได้นะ บอกว่าจะไปขอหมั้นหมายก็ยังไม่จัดการให้เรียบร้อยเลยจะหนีกลับไปก่อนได้ยังไง

คนฟังส่ายหน้าพร้อมกับจุดยิ้มตรงมุมปาก โอ้ววววแม่จ้าว หล่อบันเทิงรื่นเริงชวนให้เสียตัวจริงๆ เลยครับ ยิ้มหล่ออย่างเดียวไม่พอยังมางับจมูกผมอีกแล้วไหนจะขยำสะโพกพร้อมขยับขย่มเบาๆ อีก พี่ยูเล่นอะไรเนี่ย?? แล้วทำไมร่างกายของผมถึงได้ร้อนวูบวาบไปหมดเลยล่ะ???

“อ่ะ?”
เพราะสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่อยู่ใต้สะโพกมันเหมือนว่าผมกำลังนั่งทับอะไรแข็งๆ?

“เดี๋ยวก่อนพี่ยู ไม่รู้ว่าผมนั่งทับอะ... เฮ้ยย!!”

ยังไม่ทันจะควานหาเลยครับว่านั่งทับอะไร พี่ยูก็ลุกขึ้นพรวดพลาดจนผมแทบจะหงายหลังตกโซฟา ยังดีที่คนตัวโตกว่าเหวี่ยงผมกลับมานั่งแทนตัวเองที่เดินหายวับเข้าไปในห้องน้ำได้ทัน ด้วยความเป็นห่วงก็วิ่งตามไปหน้าห้องน้ำสิครับ ไม่สบายอะไรตรงไหนรึเปล่าเนี่ย?? หรือปวดท้อง???

“พี่ยูเป็นอะไรรึเปล่า??”
   

ปิ๊งป่องงงงงงงง


ยังไม่ทันได้คำตอบจากคนในห้องน้ำเลยครับ เสียงออดจากหน้าประตูก็ดังขึ้นซะก่อน ใครกันนะมาได้จังหวะพอดิบพอดี แต่คงไม่ใช่ไอ้โซ่แน่นอนเพราะมันมีคีย์การ์ดเข้าห้องไม่ต้องกดออดให้เสียเวลา

“ใครมา?”

ยังอุตส่าห์ตะโกนออกมาจากห้องน้ำ แต่ทำไมเสียงมันแหบๆ สั่นๆ แบบนั้นละครับ ชักเป็นห่วงแล้วสิ แต่ถึงจะเป็นห่วงแค่ไหนสองขาของผมก็วิ่งไปดูหน้าประตูแล้วรีบวิ่งกลับมาบอกพี่ยู

“คุณปลื้มชลล์ครับ”

ตะโกนตอบกลับจากหน้าประตูห้องน้ำ แล้วยืนรอคำสั่งต่อไป แต่รออยู่พักนึงก็ไม่ตอบผมเลยเดินไปเอาหูแนบกับประตูห้องน้ำได้ยินเสียงพี่ยูครางฮึมฮัม(?)เบาๆ ผมจึงเคาะประตูถามว่า ‘จันทร์เปิดประตูให้คุณปลื้มได้ใช่มั๊ยครับ?’

“อืมมมม”

อืม? นี่คือเปิดได้ใช่มั๊ยครับ? แต่เดี๋ยวก่อนนะ นี่มันห้องผมนี่นา แล้วทำไมผมต้องถามพี่ยูด้วยหว่า?? เอ๊ะ! ยังไง??? ผมกำลังสับสนอะไรอยู่รึเปล่าครับเนี่ย? คิดแล้วก็งงตัวเอง แต่ก็เดินไปเปิดประตูให้คุณปลื้ม

“สวัสดีครับคุณปลื้มชลล์”

“สวัสดีครับน้องจันทร์”

คุณปลื้มชลล์รับไหว้ผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและหล่อเหลาเหมือนทุกครั้งที่เจอ จากนั้นก็หันไปคุยภาษาอังกฤษกับคุณมาซารุ 2-3 ประโยค แล้วคุณมาซารุก็บอกต่อไปยังลูกน้องอีก 2 คน ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่พี่ยูสั่งให้คอยตามดูแลผมนั่นแหละครับ จบประโยคของคุณมาซารุ ลูกน้องร่างยักษ์ก็ทยอยขนของมากมายเข้ามากองไว้ในห้องของผม

“เอ่อ...”
เอาไงดีล่ะครับ พี่ยูก็อยู่ในห้องน้ำไม่ยอมออกมาสักที สงสัยจะท้องเสียหนักนะเนี่ย

“ยูล่ะ?”
หลังจากคุณปลื้มหันซ้ายหันขวาอยู่ครู่หนึ่งก็เอ่ยถามหาเพื่อนของตัวเอง

“อยู่ในห้องน้ำครับ”
ชี้ให้ด้วยว่าห้องน้ำอยู่ตรงไหน คุณปลื้มก็พยักหน้ารับแล้วนั่งรอตรงโซฟา

“ว่าแต่ของพวกนี้???”
เยอะแยะไปหมดมันคืออะไรครับเนี่ย?

“อ่อ.. ของน้องจันทร์กับของน้องโซ่ไงล่ะ”

“ห๋า??”
เหวอสิครับ คุณปลื้มซื้อของมาให้ผมกับไอ้โซ่มากขนาดนี้เลยเหรอ แล้วถ้าดูไม่ผิด กล่องลังใหญ่ๆ 2 กล่องนั่นน่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ซะด้วย เฮ้ยๆๆ ผมกับไอ้โซ่ไม่มีปัญญาหาเงินมาจ่ายให้หรอกนะ

“ไม่ต้องห่วงหรอก พี่มีหน้าที่ซื้อ แต่คนจ่ายคือคนโน้น”
ส่งสายตาไปทางห้องน้ำเพื่อให้รู้ว่า ‘คนโน้น’ ที่พูดถึงอยู่นั้นคือใคร ถ้าอย่างนั้นไว้เอาไว้ค่อยเคลียร์กับพี่ยูละกันครับ ตอนนี้ผมต้องหาน้ำเย็นๆ มารับรองแขกก่อน

“จริงสิ.. เมื่อกี้เหมือนพี่จะเห็นน้องโซ่นั่งคุยกับเด็กผู้หญิงอยู่ตรงล็อบบี้”

“อ่อ.. ใช่ตัวเล็กๆ ผมยาวแล้วก็รวบผมแบบยุ่งๆ รึเปล่าครับ?”
ถามกลับพร้อมกับรินน้ำเย็นใส่แก้วแล้วถือมาเสิรฟให้คุณปลื้ม

“น่าจะใช่นะ”

“ชื่อสมายล์ครับ เด็กบ้านเดียวกันเห็นบอกว่ามาเรียนต่อที่กรุงเทพ”
ตอบคำถามแล้วนั่งบนโซฟาฝั่งตรงกันข้ามกับคุณปลื้ม ผมแอบหันไปมองทางประตูห้องน้ำแว่บนึงด้วยความเป็นห่วงว่าทำไมพี่ยูเข้าห้องน้ำนานจังเลยล่ะเนี่ย?

“ว่าแต่วันนี้น้องจันทร์ว่าทั้งวันเลยใช่มั๊ยครับ?”

“อ๋อ. ค...”

“ว่างแล้วทำไม?”

ยังไม่ทันจะได้ตอบเลยครับ คนที่อยู่ในห้องน้ำก็เดินออกมาแล้วตอบแทนผมซะงั้น ฟังเสียงนิ่งและใบหน้าเฉยชาแบบนั้นแต่ใบหูนี่แดงแจ๋เลยล่ะครับ ตายล่ะ พี่ยูไม่สบายแน่ๆ เลย

“ฉันไม่ได้มาขัดจังหวะอะไรนายใช่มั๊ย?”
ขัดจังหวะอะไรครับ?? แล้วทำไมคุณปลื้มถึงต้องอมยิ้มแล้วทำตากรุบกริบเหมือนจับผิดอะไรพี่ยูแบบนั้นด้วย ผมชักสงสัยแล้วล่ะสิ

“จันทร์.. พี่ขอน้ำเย็นๆ สักแก้วสิ”

หืม???? พี่ยูเรียกชื่อผมแล้วยังแทนตัวเองว่าพี่ นี่ผมไม่ได้หูฝาดหรือหูเพี้ยนไปใช่มั๊ยครับ? แต่ดูจากสายตาของคนพูดแล้วคงเป็นเรื่องจริง แล้วทำไมผมถึงต้องยิ้มกว้างขนาดนี้ด้วยเนี่ย เขินจังเลยยย หนีเข้าครัวไปเอาน้ำเย็นให้พี่ยูดีกว่า

ครัวก็ไม่ได้อยู่ไกลจากห้องรับแขกสักเท่าไหร่ ผมจึงยังได้ยินบทสนทนาของ 2 หนุ่มอย่างชัดเจน อ่อ บอกไว้ก่อนนะครับว่าผมไม่ได้แอบฟัง มันแค่ดังเข้าหูผมเฉยๆ เรื่องของเรื่องก็คือพี่ยูขอให้คุณปลื้มช่วยไปซื้อของใช้ที่จำเป็นให้ผมและไอ้โซ่ อันประกอบด้วยเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ และอื่นๆ อีกจิปาถะ โดยคุณปลื้มมีข้อแลกเปลี่ยนว่าผมจะต้องไปโรงพยาบาลกับคุณปลื้ม แต่พี่ยูขอผัดว่าให้ไปวันหลังเพราะวันนี้ผมปวดเท้าไม่อยากให้เดินเยอะกลัวจะยิ่งระบม ซึ่งเหตุผลของพี่ยูกลับเข้าทางคุณปลื้มตรงที่ว่านั่นแหละคือเหตุผลที่จะให้ผมไปพบคุณหมอดิน อืม.. พอฟังมาถึงตรงนี้ผมก็ยกแก้วน้ำไปส่งให้พี่ยูพร้อมกับส่งยิ้มให้คุณปลื้ม

“คุณปลื้มจะใช้ผมเป็นข้ออ้างเพื่อไปเจอคุณหมอดินเหรอครับ?”
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแหละครับว่าเวลาที่คุณปลื้มชลล์เขินเนี่ยจากหล่อวัวตายควายล้มเปลี่ยนเป็นน่ารักตะมุ้งตะมิ้งเลยล่ะครับ

“อะแฮ่ม”
แน่ะ.. แค่มองคุณปลื้มนานไปนิดนึงแค่เนี๊ยะทำมาเป็นกระแอม หึงอะดิ อิอิ

“ไปดูของสิว่าชอบรึเปล่า?”
โดนจับได้ก็มาทำเป็นเปลี่ยนเรื่อง นี่ถ้าไม่ติดว่าหล่อขั้นเทพแบบพี่โดมปกรณ์ลัมผมไม่ยอมลุกขึ้นเดินมาแกะเปิดถุงเสื้อผ้าและกล่องรองเท้าง่ายๆ หรอกนะ อีกทั้งยังต้องทำเป็นหูทวนลมไม่ได้ยินบทสนทนาของพี่ยูกับคุณปลื้มด้วย แต่อย่างว่าแหละครับว่าผมเป็นเด็กว่านอนสอนง่ายและมีมารยาทพอที่จะไม่สอดแทรกเรื่องของผู้ใหญ่ ผมจึงทำได้แค่ดูราคาเสื้อกับกางเกงที่มีเกินกว่า 10 ตัวแล้วได้แต่ร้องกรี๊ดอยู่ในใจว่าเสื้อห่าอะไรตัวละพันกว่าบาท ผ้าก็บางโคตรบางไม่ได้สวยดีเด่นอะไรทำไมถึงได้แพงขนาดนี้ แค่นั้นยังไม่พอเมื่อเจอรองเท้าผ้าใบที่ราคาคู่ละเกินครึ่งหมื่น ผมถึงกับต้องลุกขึ้นวิ่งเข้าไปหายาดมในห้องนอนก่อนจะเป็นลมล้มพับไปซะก่อน นี่พวกนักธุรกิจเขารู้จักคำว่า ‘พอเพียง’ กันบ้างมั๊ยครับเนี่ย??

“เป็นอะไรรึเปล่า?”

คงเห็นผมวิ่งหุนหันเข้าห้องนอน พี่ยูเลยเดินตามมาดูว่าผมเป็นเป็นอะไร

“พี่ยูรู้จักคำว่าพอเพียงมั๊ย?”

คิ้วเข้มขมวดเล็กน้อย

“ซัฟฟีฌ-เอ็นท?”

sufficient แปลว่าพอเพียง สำเนียงอังกฤษชัดเป๊ะมาเลยครับ ผมก็ได้แต่พยักหน้าหงึกๆ เพราะไปต่อไม่ถูก เอาไว้ค่อยโทรไปเล่าให้คุณตากับพ่อต้อมฟัง แล้วให้พวกท่านสอนว่าที่หลานเขยคนนี้เองดีกว่า

“จ จะไปหาคุณหมอดินกับคุณปลื้มมั๊ยครับ?”

“ไปสิ”
คุณปลื้มโผล่หน้ามาตรงประตูห้องนอนตอบแทนพี่ยู แล้วหน้าพี่ยูตอนหันไปมองหน้าเพื่อนทำเอาผมเสียวสันหลังวูบ แต่ดูท่าคุณปลื้มจะชินกับพี่ยูในโหมดโหดแบบนี้จึงไม่ได้สะดุ้งสะเทือนอะไรแถมยังยิ้มหล่อและยักคิ้วกลับมาอีก

“น นั่นสิพี่ยู”
พยายามฉีกยิ้มกลบเกลื่อนความโหดเหี้ยมบนใบหน้าของพี่ยู แล้วก็กระซิบบอกเบาๆ เอาพอแค่ได้ยินกันสองคนว่า ‘ช่วยเหลือเขาให้สมหวังในความรักมันได้บุญหนักนะครับ รักของเราจะได้สมหวังด้วยไง’ แค่นั้นแหละคนหน้าโหดเปลี่ยนโหมดเป็นคนน่ารักเลยล่ะครับ

เมื่อตกลงกันได้ผมก็ขออนุญาตลงมาตามไอ้โซ่ที่ล็อบบี้ และนี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ที่ผมได้เจอน้องสมายล์ อย่างที่บอกไว้แหละครับว่าตอนอยู่บ้านสวนเราเจอกันผมก็รู้สึกเฉยๆ น้องเขาก็ถือว่าเป็นเด็กน่ารักคนหนึ่ง น้องสมายล์อายุน้อยกว่าพวกผมประมาณ 2 ปี ตัวเล็ก ผมยาวถึงกลางหลังแล้วน้องเขาก็ชอบมัดไว้หลวมๆ บางครั้งผมแอบคิดว่ามันดูรกรุงรังเหมือนผมไม่เคยเจอหวี แต่ใบหน้าถือว่าน่ารักใช้ได้เลยทีเดียว ตอนนี้น้องสมายล์ก็ยังเหมือนเดิมครับแต่ที่เปลี่ยนไปคือการแต่งตัวและความจัดจ้านของใบหน้า เด็กสาวอายุ 16 ปี จำเป็นต้องแต่งหน้าหนาขนาดนี้?? และต้องใส่เกาะอกกับกางเกงขาสั้นมาเจอผู้ชายแบบนี้เหรอครับ? นี่ผมไม่ได้หัวโบราณไปใช่มั๊ย?

“นี่คุณจันทร์ น้องสมายล์จำได้มั๊ย?”

“จำได้สิคะ ใครจะไม่รู้จักคุณจันทร์หลานครูเอี่ยมบ้างล่ะคะ”

เด็กสาวยกมือไหว้ผม ส่วนผมก็แค่พยักหน้ารับไหว้ครับ

“คุณจันทร์มีอะไรรึเปล่าครับ?”

“เดี๋ยวเราต้องไปธุระข้างนอกกัน คุณปลื้มชลล์รออยู่”

“อ้าว เหรอครับ”

“สมายล์ไปด้วยสิคะ”

คิ้วขวาของผมกระตุกยิกๆ ทันทีที่บทสนทนาระหว่างผมและเพื่อนรักโดนสอดแทรก ไอ้โซ่เองก็คงจะตกใจและลำบากใจพอดู

“เห็นทีจะไม่ได้ พอดีพวกพี่ไม่ได้ไปเที่ยวแต่ไปธุ-ระ”
ผมตั้งใจเน้นคำสุดท้ายของประโยค

“งั้นแสดงว่าถ้าครั้งไหนที่พวกพี่ไปเที่ยวกันสมายล์ก็ไปด้วยได้สิคะ”

อื้อหือออ หน้าด้านกว่านี้มีอีกมั๊ยครับเนี่ย บอกตรงๆ ว่าผมไม่ถูกชะตาน้องสมายล์ในปัจจุบันนี่จริงๆ เลยล่ะครับ ผมมองหน้าไอ้โซ่ที่ทั้งซีดและเจื่อนไปฉนัดตา ผมรู้ครับว่าไอ้โซ่มันชอบน้องสมายล์มากแต่ในขณะเดียวกันมันก็เกรงใจผมมากกว่า

“ไม่ได้ทั้งนั้นครับ”
ตอบแบบตรงๆ แถมยกยิ้มอ่อนให้ด้วย คนฟังหน้าเสียไปนิดนึง แตกต่างกับไอ้โซ่ที่หน้าถอดสีไปแล้วล่ะครับ และก่อนที่เพื่อนรักของผมจะลำบากใจไปมากกว่านี้ผมขอพูดให้หมดเปลือกไปเลยดีกว่าครับ

“พี่ไม่รู้หรอกนะว่าน้องมีเจตนายังไงที่จู่ๆ ก็มาสนใจเพื่อนของพี่ทั้งที่ไม่เคยดูดำดูดีมาก่อน แต่ไม่ว่าจะเพราะโซ่มันได้มาเรียนในกรุงเทพ ได้อยู่คอนโดหรู หรือเพราะอะไรก็แล้วแต่ พี่ขอพูดตามตรงว่าเลิกยุ่งกับเพื่อนพี่เถอะ เพื่อนของพี่ไม่มีสิ่งที่น้องอยากได้หรอก และกลับไปตั้งใจเรียนจะดีกว่า”
ที่พูดมาเพราะเห็นว่าน้องเขาเป็นคนบ้านเดียวกัน ลุงกำนันพ่อของน้องสมายล์ก็เป็นคนดี ถ้าลุงกำนันรู้ว่าลูกสาวคนเดียวของท่านมาคอยตามผู้ชายแล้วไม่สนใจเรียนแบบนี้ผมคิดว่ามันไม่ดีไม่งามสักเท่าไหร่หรอกนะครับ แต่แทนที่เด็กสาวจะเข้าใจ ผมกลับได้ยินเสียงหัวเราะขึ้นจมูกแทน

“กะจะเก็บไว้กินเองก็บอกมาเถอะ”

คิ้วของผมขมวดฉับเลยครับ

“เป็นเกย์ไม่ใช่รึไง? ได้ข่าวว่าได้ผัวรวยแถมแย่งผัวพี่สาวมาด้วย?”

“สมายล์! พูดจามั่วแบบนี้ได้ยังไง ขอโทษคุณจันทร์เดี๋ยวนี้นะ!!”

ผมยกมือห้ามไอ้โซ่ไว้ ถ้าถามว่าโกรธมั๊ยก็ตอบว่าโกรธมาก แต่ลูกผู้ชายเค้าไม่ต่อปากต่อคำกับผู้หญิงหรอกนะครับ และผมก็ยึดตามคำสอนของสมเด็จย่าจากในหนังสือเกี่ยวกับธรรมะของสมเด็จย่า 360 ข้อ เรื่อง การสอนให้คนรู้จักรักษาและระงับอารมณ์ สมเด็จย่าทรงสอนว่า ‘เมื่อมีความโกรธก็ให้พยายามหยุดนิ่งเสียก่อน จนหมดความโกรธ แล้วถึงพูดถึงเรื่องที่ทำให้โกรธต่อไป’ ดังนั้นผมจึงต้องนิ่งก่อนครับเพื่อระงับความโกรธ นิ่งเพื่อให้มีสติและคิดได้ถี่ถ้วนมากขึ้น ผมทบทวนคำพูดของน้องสมายล์ในใจแล้วก็ยิ้ม

“ใช่ครับ พี่เป็นเกย์ แฟนพี่รวยมากๆ ด้วย แต่เรื่องแย่งแฟนพี่สาวน้องสมายล์คงจะได้ข่าวผิดไป และเอาไว้ได้ฤกษ์มงคลพร้อมแต่งเมื่อไหร่พี่จะเชิญการ์ดให้น้องสมายล์ไปทางลุงกำนันละกันนะครับ”
ไม่มีอะไรจะดีไปกว่ายอมรับความจริงครับ แม่มลสอนเสมอว่าความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ผมยิ้มส่งท้ายให้น้องสมายล์ก่อนจะหันหลังเดินกลับขึ้นห้องโดยมีเสียงตะโกนของเด็กสาวดังไล่หลังว่า ‘ระวังตัวไว้เถอะ!’ และไม่รู้ทำไมใบหน้าของคุณเดือนจึงได้แว่บขึ้นมาในห้วงความคิด ราวกับว่าคุณเดือนกำลังจ้องมองผมอยู่ ซึ่งผมคงคิดไปเองมากกว่า

ผมหยุดยืนมองเลขลิฟท์ที่ไล่ระดับชั้นลงมาพร้อมกับบริหารเท้าไปด้วย ปวดตุบๆ เลยล่ะครับ ไม่นานนักสัญญาณลิฟท์ก็ดังขึ้นที่ชั้น G และประตูก็เปิดออกพอดีกับที่ไอ้โซ่วิ่งกระหืดกระหอบตามผมเข้ามาเข้าลิฟท์ได้ทัน ในลิฟท์มีผมกับไอ้โซ่แค่ 2 คน ทันทีที่ประตูลิฟท์ปิด ไอ้โซ่ก็ยกมือไหว้ผมแบบท่วมหัว

“ขอโทษนะครับคุณจันทร์”

“เฮ้ย! ทำไรเนี่ย!!”
รีบเอามือของไอ้โซ่ที่พนมไหว้ผมลงครับ มาไหว้กันแบบนี้อายุผมจะสั้นลงมั๊ยเนี่ย?

“ไหว้ขอโทษคุณจันทร์แล้วก็ขอบคุณคุณจันทร์ยังไงล่ะครับ”

เรื่องขอโทษผมพอจะเข้าใจ แต่เรื่องขอบคุณเนี่ยมันคืออะไรกัน??

“ขอบคุณเรื่องอะไร?”

“ก็ต่อจากนี้ไปน้องสมายล์คงไม่กล้ามายุ่งกับไอ้โซ่แล้วล่ะครับ แหะๆ”

มีหัวเราะแหะๆ ต่อท้ายด้วยเว้ย หมายความว่าไงของมันเนี่ย ผมหรี่ตามองไอ้เพื่อนรักอย่างจับผิด

“ก็น้องสมายล์เปลี่ยนไปตั้งเยอะ และน้องเขาคงคิดว่าไอ้โซ่คนนี้โง่ละมั้งครับ”

“อ้าว รู้แล้วทำไมยังไปยุ่งกับน้องเขาอีกล่ะ”

“ก็ยังคิดวิธีไม่ออกน่ะครับ แหะๆ”

เออ ให้มันได้แบบนี้สิครับพ่อพระเอก ผมจึงกลายเป็นตัวร้ายตัวอิจฉาขึ้นมาทันที แต่ไม่เป็นไรครับ เพื่อเพื่อนรักคนเดียวและคนดีของผมจะให้ผมรับบทเป็นโจรป่าหน้าหล่อก็ยังได้ ว่าแล้วก็คว้าคอมันโยกไปมาด้วยความหมั่นเขี้ยว แป๊ปเดียวก็ถึงชั้น 18 แล้วครับ

“ว่าแต่ที่คุณจันทร์บอกว่าจะออกไปธุระ เราจะไปไหนกันเหรอครับ?”
ไอ้โซ่ถามขึ้นตอนออกจากลิฟท์ชั้น 18

“พี่ยูกับคุณปลื้มชลล์จะพาไปหาหมอ”

“คุณจันทร์เป็นอะไรเหรอครับ?”

ไม่ต้องตกใจขนาดนั้นก็ได้

“ไม่ได้เป็นอะไร แค่.. ตีนนี่”
หยุดเดินแล้วชี้ไปที่เท้าทั้งสองข้างของตัวเอง เอาเข้าจริงผมว่าตอนนี้มันระบมจนบวมแล้วล่ะครับ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้วล่ะครับว่ารองเท้าแค่คู่เดียวทำให้เท้าของผมมีแผลเหวอะหวะและระบมได้ถึงขนาดนี้

“เฮ้ย! ทำไมมันบวมแบบนี้ล่ะครับ?”

ยิ่งไอ้โซ่ตกใจผมก็ยิ่งรู้สึกเจ็บ มันคงเกิดจากการอุปาทาน แต่ที่บวมขึ้นเนี่ยคงเพราะผมเดินลงไปตามไอ้โซ่นี่แหละครับ จากที่ระบมอยู่แล้วเลยบวมขึ้นมา

“อ้าว! แล้วจะวิ่งไปไหนวะนั่น?!”
จู่ๆ ไอ้โซ่ก็วิ่งฉิวทิ้งผมไปอย่างไว อีกประมาณ 10 เมตรก็ถึงห้องแล้วมันจะมาทิ้งอะไรกันตอนนี้เนี่ย? แต่คงไม่ต้องรอคำตอบแล้วล่ะครับ เพราะทันทีที่ไอ้โซ่มันเปิดประตูห้องผมก็ได้ยินเสียงมันตะโกนบอกคนในห้องซะลั่น

“คุณพี่ยูคร้าบบบบ ไปอุ้มคุณจันทร์หน่อยสิครับเท้าคุณจันทร์บวมมากเลย”

และไม่เกิน 30 วินาทีหลังจากนั้น ร่างของผมก็ลอยหวือขึ้นในอ้อมแขนของพี่ยู เอิ่มมม... จะทำอะไรก็ให้เกียรติความเป็นลูกผู้ชายของผมบ้างก็ได้นะครับ แค่เจ็บเท้าไม่ใช่ขาหักยังเดินได้และแผลที่มีก็อยู่ห่างไกลจากหัวใจ แต่ไหนๆ พี่ยูก็อุ้มผมแล้วผมขอซบหน้าลงบนไหล่หลบความเขินอายก่อนละกัน


.
.
.
.
.

มีต่อด้านล่างนะคะ  :hao5:

ออฟไลน์ RIRIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +492/-2

คุณปลื้มชลล์ขับรถนำไปก่อน ส่วนพี่ยู ผมและไอ้โซ่มีคุณมาซารุเป็นสารถีให้ขับตามไปอีกคัน กว่าจะฝ่าการจราจรที่ติดขัดมาจนถึงโรงพยาบาลที่คุณหมอดินทำงานอยู่ได้ก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมงเลยล่ะครับ

จากที่สอบถามกับพี่ยูผมได้รู้ว่าคุณปลื้มตามจีบคุณหมอดินมาหลายปีแล้วครับ ทั้งคู่รู้จักกันเพราะคุณหนูไอน้องสาวสุดน่ารักของพี่ยูนี่แหละ และที่น่าอึ้งที่สุดก็คือคุณปลื้มเคยเป็นคนรักเก่าของคุณหนูไอ แต่ไปไปมามาไม่รู้บุพเพอาละวาดยังไงคุณหนูไอถึงได้แต่งงานกับพี่ชายฝาแฝดของคุณปลื้มแทน พี่ยูบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องอ่อนไหวสำหรับคุณปลื้มมากเพราะฉะนั้นขอข้ามไม่พูดถึงละกันครับ เอาเป็นว่าเพราะอกหักจากคุณหนูไอจึงทำให้คุณปลื้มได้เจอกับคุณหมอดินซึ่งเป็นคนที่คุณหนูไอรักและนับถือเหมือนพี่ชายแท้ๆ คนหนึ่งเลยทีเดียว  อีกทั้งยังเป็นพ่อม่ายเมียทิ้งและมีลูกติดอีก 2 คน แหม.. เล่ามาแค่นี้ก็ชักอยากจะรู้จักคุณหมอให้มากกว่านี้แล้วล่ะครับ แต่จะว่าไปผมก็เคยเจอคุณหมอดินและลูกๆ ครั้งหนึ่งตอนที่ไปบ้านสวน แม้จะแอบมองจากในโรงเพาะเห็ดแต่ก็พอจะรู้ครับว่าคุณหมอดินคนนี้หล่อใช่ย่อย

ถึงโรงพยาบาลพี่ยูก็มีงานด่วนเข้ามาเลยต้องฝากผมและไอ้โซ่ไว้กับคุณปลื้มชลล์ เรื่องพี่ยูไม่อยู่ไม่ใช่ปัญหาหรอกครับ แต่ติดตรงที่ผมต้องนั่งรถเข็นนี่แหละที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นผู้พิการเต็มขั้นยังไงชอบกล และดูท่าทางคุณปลื้มชลล์จะเป็นลูกค้าวีไอพีของโรงพยาบาลเพราะแค่บอกว่าขอตรวจกับคุณหมอภูฤทธิ์ พี่ๆ พยาบาลก็จัดการให้เสร็จสรรพ ส่งผมมายังแผนกกุมารเวชตามต้องการ แค่นั่งรถเข็นยังพอทนแต่ต้องมานั่งรถคิวกับเด็กน้อยทั้งหลายนี่สิที่ผมรู้สึกกระดากอายอย่างบอกไม่ถูก แม้แต่ไอ้โซ่ยังแอบหัวเราะ ผมจึงได้แต่นั่งก้มหน้าแคะขี้เล็บฆ่าเวลาไปเรื่อยๆ ไม่นานคุณพยาบาลก็เดินมาเข็นรถเข็นเข้าห้องตรวจที่มีชื่อหน้าห้องว่า ‘นายแพทย์ภูฤทธิ์ พละไกรศาสตร์’ 

“สวัสดีครับ น้องศศิน”

วินาทีแรกที่ได้เห็นหน้าคุณหมอดินของคุณปลื้มแบบชัดๆ บอกเลยครับว่าเป็นความหล่อแบบตี๋อินเตอร์จริงๆ ยิ้มหวานแถมยังพูดเพราะอีกต่างหาก

“ไม่สบายตรงไหนเหรอครับ?”

“เท้าครับคุณหมอ”
ชี้ไปที่เท้าครับ อย่าถามนะครับว่าอายมั๊ย? ระดับนี้เรียกว่าโคตรอายเลยดีกว่า

“บวมเลย มีแผลถลอกด้วย ไปทำอะไรมาครับ? เดี๋ยวขึ้นไปนอนบนเตียงตรวจนะครับขอดูแผลหน่อย”
ผมควรจะตอบคำถามก่อนหรือควรจะขึ้นไปนอนบนเตียงตรวจให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยตอบดีครับ?? เอาเป็นว่าผมเลือกทำพร้อมกันดีกว่า ปีนขึ้นเตียงพร้อมตอบคำถามนี่แหละจะได้ไม่เสียเวลา

“รองเท้ามันกัดน่ะครับ”
ตอบเสียงเบาๆ ด้วยความอายสุดๆ คนอะไรจะโอเว่อร์ได้เท่าผมที่แค่โดนรองเท้ากัดถึงกับต้องมาหาหมอ แต่คุณหมอก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรที่ทำให้ผมรู้สึกอายไปกว่าเดิม ใบหน้าภายใต้แว่นตาที่กำลังตรวจดูเท้าผมยังคงอ่อนโยน คุณหมอลองขยับ บีบ และงอ เท้าของผมดูพร้อมกับถามทุกครั้งว่าปวดมั๊ย? ปวดระดับไหน? ผมก็ตอบไปตามความจริงทั้งหมดครับ เสร็จแล้วคุณหมอก็หยิบกระดานขึ้นมาขีดๆ เขียนๆ

“แสดงว่าพอรู้ว่ารองเท้ากัดก็ยังทนใส่อยู่แบบนั้นทั้งวันใช่มั๊ยครับ?”

“อ่า.. ครับ”

คุณพยาบาลช่วยประคองผมลงจากเตียงไปนั่งหน้าโต๊ะตรวจ คุณหมอมองผมพร้อมกับรอยยิ้มละมุน

“อันดับแรกคือต้องเปลี่ยนรองเท้านะครับ”

“ค ครับ”

“เท้าเป็นอวัยวะที่สำคัญนะครับ มันมีผลกระทบไปถึงขาและกระดูกสันหลัง ซึ่งมันจะเป็นอันตรายมากๆ ถ้าหากเรายังไม่ใส่ใจ เพราะฉะนั้นการเลือกรองเท้าที่ดีซื้อแพงหน่อยแต่คุณภาพดีจะทำให้สุขภาพเราดีไปด้วยนะครับ”

“ครับคุณหมอ”

“พรุ่งนี้วันอาทิตย์งดเดินหนึ่งวัน นอนดูซีรี่ย์อยู่บ้านได้ใช่มั๊ยครับ?”

ซีรี่ย์???? เอิ่มม อยากจะถามคุณหมอเหลือเกินว่าขอเปลี่ยนเป็นดูสารคดีสัตว์โลกหรือรายการเพื่อการเกษตรจะได้มั๊ยครับ แต่ผมก็ไม่กล้าถามอย่างใจคิดจึงได้แค่พยักหน้าตอบ

“ได้ครับ”

“ผู้ปกครองมาด้วยมั๊ยครับ? หมอจะต้องแนะนำเรื่องการดูแลน้องศศินนิดนึง”

ในที่สุดคำถามที่ผมรอคอยก็ถึง ผมค่อยหายใจได้ทั่วท้องขึ้นมาหน่อยเมื่อภารกิจของผมใกล้บรรลุแล้วล่ะครับ

“มาครับมา รออยู่หน้าห้องคุณหมอนี่แหละครับ”
ผมพยักหน้ารัวๆ คุณหมอก็ยิ้มซะน่ารักเชียว พี่พยาบาลจึงออกไปตามผู้ปกครองจำเป็นของผมเข้ามาพบคุณหมอ ผมนี่ตื่นเต้นตามไปด้วยเลยครับ และทันทีที่ผู้ปกครองของผมปรากฏตัว ใบหน้ายิ้มแย้มของคุณหมอก็เปลี่ยนไปแม้กระทั่งน้ำเสียงที่อ่อนโยนก็หายไป

“มาทำไม?”

“มาเป็นตัวแทนผู้ปกครองให้น้องศศินครับ”

คนตอบตอบด้วยรอยยิ้ม คุณหมอหันมามองผมเพื่อยืนยันคำพูดของคุณปลื้ม ผมก็ได้แต่ฉีกยิ้มแล้วพยักหน้ารับว่าใช่ครับผมโดนบังคับมา..

“ต้องการอะไร?”

อื้อหืออ เสียงคุณหมอเหวี่ยงแบบเอาเรื่องมากครับ ถ้าเป็นไปได้ผมล่ะอยากวาร์ปหายออกไปจากตรงนี้จริง

“แล้วคุณหมอหลบหน้าผมทำไมล่ะครับ?”

สาบานได้เสียงคุณปลื้มสั่นมาก และผมก็เห็นว่าดวงตาคู่คมนั้นแดงก่ำมากด้วย แตกต่างจากคุณหมอที่ใบหน้าฉายแววโกรธขึ้งอย่างชัดเจน นี่พวกเขามีเรื่องบาดหมางอะไรกันครับเนี่ย? ใครรู้บ้างช่วยบอกผมหน่อยครับ

“ออกไป!”

เสียงเข้มกดต่ำจนผมยังกลัว ผมหันมองหาคุณพยาบาลคนเมื่อครู่ แต่ไม่เห็นแม้แต่เงาครับ สงสัยโดนคุณปลื้มซื้อตัวไว้แล้วแหงๆ

“กูบอกให้มึงออกไปแล้วไม่ต้องมาให้กูเห็นหน้าอีก”

ไอ้โซ่!! เข้ามาพาฉันออกไปจากสถานการณ์สงครามนี่ที ฮืออออออออออ กลัวคุณหมอดินจนฉี่จะราดแล้ว แต่เมื่อหันไปมองทางคุณปลื้ม อารมณ์ผมก็เปลี่ยนครับ ถ้าเปรียบว่าคุณหมอดินคือไฟตอนนี้คุณปลื้มก็คงโดนไฟหลอมละลายไปจนหมดแล้วล่ะครับ

“คุณหมอดิน.. ผมขอโทษ”

ลูกผู้ชายจะไม่ยอมคุกเข่าให้ใครง่ายๆ นั่นคือสิ่งที่ผมรู้ แต่ตอนนี้ลูกผู้ชายอย่างคุณปลื้มกำลังคุกเข่าให้คุณหมอดิน ใบหน้าคมเข้มที่ยิ้มแย้มอยู่เสมอบัดนี้เต็มไปด้วยความเจ็บปวด อะไรกันนะที่ทำให้คุณปลื้มเจ็บปวดได้ขนาดนี้และทำให้คุณหมอดินต้องโกรธมากแบบนี้

“คุณจะดุด่าหรือต่อยผมให้กระอักเลือดไปเลยก็ได้แต่ได้โปรดให้โอกาสผมสักครั้ง”

ในขณะที่ฝ่ายหนึ่งยอมทิ้งศักดิ์ศรีลงคุกเข่า แต่อีกฝ่ายกลับกำมือแน่นด้วยความโกรธแค้น ความเงียบปกคลุมบรรยากาศเต็มไปด้วยความอึดอัด ผมได้แต่นั่งตัวแข็งทื่อไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงๆ

“ผมรักคุณ”

ในที่สุดผมก็ได้เห็นน้ำตาของลูกผู้ชายอย่างคุณปลื้ม น้ำตาที่ไหลออกมาพร้อมคำสารภาพที่ทำให้ผมแทบจะร้องไห้ตาม แต่ดูท่าว่าคุณหมอดินจะไม่ได้ซาบซึ้งใจเหมือนผม คุณหมอคว้าคอเสื้อของคุณปลื้มขึ้นแล้วชั่วพริบตาเดียวหมัดหลุนๆ ก็ตรงเข้าปะทะใบหน้าหล่อๆ ของคุณปลื้มแบบเต็มแรง


พลั่ก!


“เหี้ยแล้ว!!!!!!”

นี่เป็นเสียงของผมเองครับ ใครก็ได้มาช่วยคุณปลื้มชลล์หน่อยคร้าบบบบเลือดกบปากแล้วนั่น!! ผมมาทำอะไรที่นี่เนี่ยยยยยยยยยยยยย ToT



.
.
.
.
.
.
.


TBC..  :oni1:


ตอนนี้ยาวนิดนึงอย่าเพิ่งเบื่อกันนะคะ  :hao5:

ออฟไลน์ RIRIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +492/-2
คุณยู นับจูบ จดใส่สมุดไว้หรอเนี่ย
สองปี จูบวันละสามครั้ง
คิดถูกเปล่าเนี่ย  365*2*3 = 2190 ยก
จันทร์ ทุกวันจะลุกจากเตียงไหวมั้ยเนี่ย
ไหนจะของเก่า บวกของใหม่  :hao7: :jul1: สลบแน่ๆ
ฟังที่แม่พูด ไม่รู้สึกว่ารักจันทร์เลยสักนิด
ด่าว่าวิปริตผิดปกติ ผิดเพศ
ความรักลูก แบบที่ให้คนอื่นเลี้ยง
โทร มาหาตอนป่วยลูกป่วยหนึ่งครั้งตลอดชีวิตจันทร์
แต่อยู่กับไส้เดือนคลอดเวลา
แค่นี้ก็รู้แล้ว ว่าเขามีลูกแค่คนเดียวเป็นลูกสาวเท่านั้น
แล้วมาฝากจันทร์ให้ยูดูแล
ไม่ต้องฝากหรอก เขาดูแลได้โดยไม่ต้องบอก
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:



ขอบคุณมากๆ นะคะคำนวณผลกำไรของระบบสมแต้มให้พี่ยูด้วย น่ารักมากเลยค่าาาาาา  :-[ :-[
 :กอด1: :L2: :3123:

ออฟไลน์ Carina

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
คุณยูนี่ดูแลน้องจันทร์จนอิจฉา แต่เราว่าเราเดาได้นะว่าคุณยูวิ่งเข้าห้องน้ำไปทำอะไร  :-[

น้องจันทร์เองก็อาจต้องดูนะว่าความพอเพียงไม่เท่ากับการใช้ของถูก การลงทุนกับเรื่องสุขภาพเป็นผลดีกว่าในระยะยาว แต่ถ้าจุดประสงค์คืออยากอ้อนคุณยู ทุกคนจะไม่ทักท้วงค่ะ 555

หงะ คุณปลื้มกะคุณหมอดินทะเลาะอะไรกัน น้องจันทร์ต้องหลุดไปอยู่กลางสมรภูมิอย่างนี้ดูแลตัวเองด้วยนะ อยากเห็นคู่นี้มุ้งมิ้งกันมั่ง หรือถ้าจะกรุณามี spin off คู่นี้ก็จะดีใจมากค่ะ //me กอดขาอ้อนน  :impress2:

ขอบคุณสำหรับตอนใหม่ จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
55555 ตลกคุณจันทร์ น้องซื่อมาก แต่ทำให้อินได้ง่ายมาก เขินจริง พูดจริง ตรงจริง 555
แล้วไม่รู้ว่าพี่ยูเป็นอะไรไปอีก คุณจันทร์ต้องเทรนให้หนัก

ยูขึ้นง่ายไปนะ เก็บกดหรอ แล้วขี้หวงมาก กับเพื่อนก็ไม่เว้น

โซ่ 55555 รอดแล้วใช่ไหม อย่าลืมมาช่วยคุณจันทร์ด้วยนะถ้าโดนทำแบบที่ขู่



ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 o22 หมอ!!! ต่อยคนต่อหน้าคนไข้ไม่ดีนะค๊าาาาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
คุณปลื้มทำอะไรไว้นี่พี่ดินถึงโกรธขนาดนี้ (ไม่ใช่ว่าได้กันไปแล้วนะ สายมโน)

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
จันทร์น่าจะโดนแขวะเรื่องพี่ยูอีกบ่อยๆแน่นอน TT
แถมคุณเดือนจะมาวีนเมื่อไหร่ก้อไม่รู้ ><
คุณหมอกับเฮีบปลื้มทะเลาะอะไรกันนนนนน!!!

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
โซ่เข้ามาช่วยคุณจันทร์ด่วน!!

ออฟไลน์ donut4top

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 396
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
น้องจันทร์เป็นคนตลก5555

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
เอาแล้วงัย คุณจันทร์เป็นพยานในเหตุการณ์ไปซะแล้ว

ออฟไลน์ bookie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
    • facebook
นี่พลาดตรงไหนไป ปลื้มกับดิน โกรธอะไรกันตอนไหนนนนน

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ imseries

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
คุณน้องจันทร์ของเจ้บอบบางได้อีก แถมมาเป็นพยานรักให้คุณปลื้มกับหมอดินอีก :z2: สู้ๆเค้าน้าคุณปลื้ม

ออฟไลน์ Wrwrwr

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
น้องจันทร์เอ้ยยย หนูนั่งทับอะไรเหรอลูก ถถถถถถ  :z1: พี่ยูก็นะ มีการขยำแล้วจับขย่ม เป็นไงล่ะงานเข้าเลย  :-[
โซ่ ดีใจด้วยนะ หลุดพ้นเพราะคุณจันทร์คนดีเลยนะเนี่ย ฮ่าา อ่อ น้องจันทร์ลูก รองเท้ามันสำคัญอย่างที่คุณหมอดินว่าจริงๆ นั่นแหละ แต่ๆๆๆๆๆ พี่ดินกับคุณปลื้มเกิดอะไรขึ้น :a5: น้องจันทร์ลูกกกตกใจมากมั๊ยยย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด