[END]แรกพบสบรัก-สบตา ครั้งพิเศษ: คืนสู่วงการ[10-05-60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [END]แรกพบสบรัก-สบตา ครั้งพิเศษ: คืนสู่วงการ[10-05-60]  (อ่าน 80628 ครั้ง)

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ yotisssa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ panpang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
โอ้ยยยยย ให้ตายเถอะ เหมือนตอนนี้กำลังตามติดชีวิตคนบ้า55555

ออฟไลน์ NooDangzz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
สบตา ครั้งที่ 8: สเปกของพี่ชิณณ์

วันใหม่มาถึง คชาก็ให้เพื่อนมันที่รุมแกล้งผมวันนั้นมาขอโทษผมอย่างที่มันพูด ไม่ได้ขอโทษต่อหน้าหรอก ผ่านการโทรศัพท์น่ะเพราะต่างคนต่างยุ่ง จะให้ตามมาเจอกันทีละคนก็ไม่สะดวก และแน่นอนว่าตัวมันเองก็ขอโทษเพื่อนมันด้วยที่เป็นต้นเหตุสร้างความเดือดร้อนให้ ซึ่งนั่นทำให้ผมมองคชาในแง่ดีมากขึ้นว่าถึงมันจะดูผีบ้าผีบอ หลงตัวเองแล้วยัดเยียดความเป็นเกย์ให้ผมแค่ไหน แต่มันก็เป็นคนดีคนหนึ่งเลยทีเดียว ไม่แปลกใจว่าทำไมมันถึงมีเพื่อนเยอะแล้วเพื่อนๆ ก็รักมันมาก ขนาดผมยังดีใจที่เป็นเพื่อนกับมันเลยแม้ว่าตอนนี้จะยังไม่ค่อยสนิทสนมกันเท่าที่ควรก็เถอะ

และเพราะความดีใจที่เป็นเพื่อนกับมัน ประกอบกับความใจดีของมันที่อุตส่าห์รับผมไปอยู่ในวงโคจรชีวิต ผมเลยตกปากรับคำมันเรื่องช่วยจีบพี่ชิณณ์ไปอย่างเผลอตัว พอรับปากไปอย่างนั้น ผมก็ต้องเริ่มทำตามแผนเมื่อพี่ชิณณ์โทรมานัดให้ไปหาข้อมูลสำหรับทำเปเปอร์ด้วยกันในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ พอคชารู้เรื่อง มันก็ไม่รอช้า รีบมาวางแผนสั่งการผมทันที

“พี่ชิณณ์ชวนมึงไปทำงานที่ห้องสมุดใช่ไหม ทีนี้เป็นหน้าที่มึงแล้วนะที่จะทำยังไงก็ได้ให้พี่ชิณณ์เปลี่ยนที่ทำงานมาที่ห้องเรา กูจะได้ใกล้ชิดกับพี่เขา”
“แล้วทำไมนายไม่ตามไปที่ห้องสมุดล่ะ”
“ถ้ากูตามไป พี่ชิณณ์ก็รู้สิวะว่ากูจีบ กูไม่ได้เป็นเกย์นะเว้ย”

มึงจะยังอ้างว่าตัวเองไม่เป็นเกย์อีกเหรอไอ้คชา! เลิกหลอกตัวเองได้แล้ว!

“ถ้ามึงชวนพี่ชิณณ์มาทำงานที่ห้องเราไม่ได้ก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยวันนี้มึงต้องได้ข้อมูลมานะว่าสเปกพี่ชิณณ์เป็นแบบไหน”
“หมายถึงสเปกผู้หญิง?”
“สเปกผู้หญิงเอามาทำเตี่ยอะไร สเปกผู้ชายสิวะ”

แล้วมึงมั่นใจขนาดไหนล่ะวะว่าพี่ชิณณ์ชอบผู้ชาย เขาอาจจะไม่ได้เป็นเกย์เหมือนมึงก็ได้นะเว้ย!

แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปหรอก เข้าใจว่าคชามันตั้งความหวังเอาไว้มากเลยไม่อยากจะไปขัดมัน พูดตามตรงก็คือไม่อยากจะไปขัดมโนของมัน ไอ้บ้านี่ไม่ยอมรับตัวเองว่าเป็นเกย์ไม่เท่าไหร่ แต่ยัดเยียดให้ชาวบ้านเป็นเกย์ไปทั่ว เห็นแล้วอยากจะด่าพ่อล่อแม่มันนัก ส่วนเรื่องที่คงไม่อยากจะจีบอย่างประเจิดประเจ้อเลยวางแผนล่อให้พี่ชิณณ์มาที่ห้องแล้วตีเนียนใกล้ชิด สบโอกาสจีบอะไรแบบนั้น เป็นผม ผมก็ไม่กล้าจีบพี่ชิณณ์ซึ่งๆ หน้าเหมือนกัน ผู้ชายอะไรแม่งน่ารักเกิน ไม่ใช่ว่าน่ารักเพราะรูปร่างหน้าตาด้วยนะ เขาตัวใหญ่กว่าผมอีก แต่นิสัยต่างหากล่ะที่น่ารัก ไม่เชื่อก็ลองดูจากตอนที่ผมไปนั่งหาข้อมูลกับเขาที่ห้องสมุดได้ ระหว่างที่ผมเอาแต่ก้มหน้าก้มตาโน้ตหน้าหนังสือวิทยานิพนธ์ที่พอจะเอาไปใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้ลงบนกระดาษ พี่ชิณณ์ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็หัวเราะขึ้นมาเบาๆ หน้าตาเฉย

“หัวเราะอะไรเหรอครับ” ผมเหลือบมองเล็กน้อยก่อนเอ่ยปากถาม
พี่ชิณณ์ส่ายหน้าพรืด “ไม่มีอะไร”

แล้วผมก็ไม่ได้สนใจ ก้มหน้าลงไปอีก พลันได้ยินเสียงหัวเราะนั่นอีกครั้ง พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นว่าพี่ชิณณ์ใช้มือข้างหนึ่งเท้าคาง สายตาจับจ้องมาที่ผมพลางยกยิ้ม

เป็นรอยยิ้มที่ดูดีโคตร รับรองเลยว่าคชาเห็นแล้วต้องหลงหัวปักหัวปำอย่างแน่นอน แค่ขนาดเมื่อกี้มีนักศึกษาผู้หญิงเดินผ่านมายังพากันกระซิบกระซาบชวนให้มองพี่ชิณณ์กันเลย แบบนี้จะไม่เรียกว่าดูดีได้ยังไง

แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือมานั่งมองผมแล้วหัวเราะทำไมมากกว่า
“มีอะไรเหรอครับ” ผมเกิดประหม่าขึ้นมาที่ถูกจ้องเลยต้องถามออกไปอีกครั้ง

พี่ชิณณ์ใช้มือข้างที่ถือปากกาอยู่มาปัดผมหน้าม้าของผมที่ยาวปรกตาให้เปิดออก
“ผมยาวทิ่มตาแล้วนะมาวิน”

พอแสงสว่างโผล่เข้าตาปุ๊บ เห็นภาพพี่ชิณณ์เปลือยชัดเจน ผมก็รีบหันหน้าหนีปั๊บอย่างลืมตัว ทำเอาพี่ชิณณ์เลิกคิ้วสูง ตอนนี้เองที่ผมรู้สึกตัวว่าทำเสียมารยาท แต่พี่ชิณณ์ก็ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากถามเรื่องผมหน้าม้าเท่านั้น

“ทำไมไว้ยาวขนาดนี้ล่ะ ทิ่มตาขนาดนี้ไม่รำคาญเหรอ”
“ผมชอบแบบนี้ครับ” ผมตอบอย่างขอไปที แต่ก็ไม่ได้ทำให้พี่ชิณณ์หยุดตอแยได้เลย
“แต่พี่ว่ามาวินเปิดหน้าแบบเมื่อกี้จะดูดีกว่านะ”

คราวนี้ผมเหลือบมองเขา ทำให้เขาถือวิสาสะเอื้อมมือมาปัดผมหน้าม้าของผมขึ้นอีก
“เปิดหน้าแบบนี้แล้วเห็นไฝใต้ตาน่ารักจะตาย ทำผมดีๆ หน่อย รับรองว่ามาวินต้องมีคนมาชอบเยอะแน่ๆ”
ตามด้วยรอยยิ้มกว้างอีกที ผมมองแล้วก็เกิดหน้าร้อนขึ้นมา ไม่ใช่ว่าเขินพี่ชิณณ์นะ

...เขินหัวนมพี่ชิณณ์

ชมพูอะร้าอร่ามมาก เห็นบ่อยแต่ไม่เคยเห็นชัดเจนขนาดนี้ เต่งตึงน่าดีดมาก ไม่อยากจะพูด รับรองเลยว่าถ้าคชาเห็น มันต้องเก็บความหื่นไม่ได้อย่างแน่นอนเพราะมันจะไม่ดีด แต่มันจะทำอย่างอื่นแทน

ส่วนผมก็ไม่ได้ตั้งใจจะมองหรอกแต่สายตามันไปเอง พลันก็ต้องเบนสายตาหลบหัวนมไปพูดเรื่องอื่น
“ผมไม่สนหรอกครับว่าใครจะชอบหรือไม่ชอบ”
“ถ้าไม่สน แต่อย่างน้อยก็เพื่อความสะดวกของตัวเองนะ ลองไปตัดดีไหม พี่เห็นแล้วรำคาญแทนจัง ให้พี่พาไปตัดก็ได้นะ”

ผมก็อยากจะปฏิเสธอยู่หรอก ผมมีเหตุผลที่ต้องไว้ผมเผ้าปิดหน้าผิดตาแบบนี้ การมองเห็นไม่ชัดเพราะผมปรกตานี่แหละที่พอจะช่วยชีวิตผมอยู่บ้างเวลาไปสบตาผู้ชายคนไหนเพราะมันทำให้มองเห็นงวงช้างไม่ชัด แต่พอนึกขึ้นได้ว่าผมจะต้องหลอกล่อพี่ชิณณ์ให้ไปที่ห้อง หรือไม่ก็หลอกถามเรื่องสเปกผู้ชายที่พี่ชิณณ์ชอบให้คชา ก่อนจะพูดออกไป

“ถ้าผมยอมไปกับพี่ชิณณ์ พี่ชิณณ์พอจะตอบคำถามผมได้ไหมครับ”
พี่ชิณณ์ทำหน้างุนงงทันทีที่ผมเสนอเงื่อนไขออกไป พลันถามกลับ
“มาวินอยากจะถามอะไรพี่ล่ะ”
“พี่ชิณณ์...” แล้วก็เงียบไป ไม่มั่นใจว่าควรจะถามไหม จนพี่ชิณณ์ต้องถามซ้ำ
“พี่ชิณณ์ทำไมครับ”
“พี่ชิณณ์ชอบผู้ชายหรือเปล่าครับ”

ตัดสินใจพูดออกไปแล้ว พี่ชิณณ์ที่ได้ยินคำถามถึงกับนิ่งงัน ผมก็นึกได้ในตอนนี้ว่า...

แม่งไอ้พี่ชิณณ์มันเข้าใจว่าผมเป็นเกย์ที่บ้าสะสมหนัง GV ของพระเอกที่หน้าตาคล้ายพี่ชิณณ์อยู่นี่หว่า ถามไปอย่างนี้ก็เข้าใจว่าผมถามให้ตัวเองน่ะสิโว้ย!

อยากจะตบปากตัวเองแล้วแก้ตัวว่าถามให้คชาชะมัด แต่จะให้ขายเพื่อนที่มีแค่คนเดียว ผมก็ทำใจลำบาก ในหัวเลยคิดหาข้อแก้ตัวใหม่เป็นการใหญ่ ทว่าเหมือนจะไม่จำเป็นแล้วเมื่อจู่ๆ พี่ชิณณ์ก็หัวเราะแล้วยิ้มออกมา

“มาวินอยากรู้เหรอ”

ถึงตอนนี้แล้ว ผมจะไปปฏิเสธอะไรได้ จึงได้แต่พยักหน้า

“อยากรู้ทำไม” พี่ชิณณ์ถามคืนมาอีกแล้ว ใบหน้ามีรอยยิ้มแต่งแต้ม

ไม่รู้ทำไมผมถึงได้รู้สึกว่ารอยยิ้มนั้นเป็นรอยยิ้มที่สร้างความกดดันเป็นอย่างมาก ผมอึกอักไปครู่หนึ่งเลยทีเดียว

“คือผม...”
“พี่ไม่ถามแล้วก็ได้ เอาเป็นว่าถ้ามาวินอยากรู้ก็ไปตัดผมกับพี่นะ พี่พาไป” พี่ชิณณ์ว่าขัดก่อนที่ผมจะได้ตัดสินใจโพล่งออกมาว่า ‘คชาฝากมาถาม’

พอลงเอยอย่างนี้ ผมก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกทันควัน ขณะที่พี่ชิณณ์จัดการปิดหน้าหนังสือแล้วเอามาวางซ้อนกัน
“งั้นเดี๋ยวเราเอาหนังสือพวกนี้ไปถ่ายเอกสารหน้าที่ต้องใช้แล้วไปตัดผมกันนะ”

พูดจบก็เดินดิ่งไปที่ร้านถ่ายเอกสารในห้องสมุดเลย ปล่อยให้ผมเก็บข้าวของตามไปทีหลังพลันอดคิดไม่ได้เลยว่า...ทำไมกับอี
แค่ช่วยไอ้คชามันจีบผู้ชาย กูถึงต้องสละผมตัวเองเพื่อเอาข้อมูลไร้สาระด้วยวะ!

ถามว่าแล้วทำไหม? ...ทำครับ จัดการธุระในห้องสมุดเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ผมก็มาโผล่ที่ร้านทำผมที่ห้างสรรพสินค้าใกล้กับมหาวิทยาลัยที่ผมมาทำงานพิเศษเป็นพนักงานทำความสะอาด แค่เห็นร้าน ผมก็ร้องท้วงพี่ชิณณ์ไปทันทีว่าไม่มีปัญญาจ่ายค่าตัดผมแน่นอน

ห้าร้อย! ตัดผมอะไรของมันตั้งห้าร้อย แบงค์ม่วงใบนึงนี่ผมใช้กินข้าวได้เกือบทั้งอาทิตย์เลยนะ!

พี่ชิณณ์คงพอจะเดาได้ล่ะมั้งว่าผมไม่ค่อยมีเงิน พอได้ยินผมท้วงอย่างนั้นก็ออกปากทันควันว่าเดี๋ยวจะจ่ายให้เพราะเขาเป็นคนพามา ก่อนที่ผมจะถูกพี่ชิณณ์ลากไปส่งให้ช่างตัดผม จากนั้นก็ถูกบรรเลงที่หัวโดยไม่มีปากเสียงอะไรแม้แต่น้อย มีแต่พี่ชิณณ์
เท่านั้นที่ยืนกำกับว่าจะให้ผมตัดทรงอะไร ดูท่าทางเขาจะสนิทกับพนักงานที่นี่มากเลยทีเดียว พูดคุยหัวร่อต่อกระซิก ผมเองก็นั่งฟังเพลินๆ รู้ตัวอีกที ทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว

“เห็นไหม พี่บอกแล้วว่าดูดี” พี่ชิณณ์เดินเข้ามาชะโงกหน้ามองผมในกระจกจากทางด้านหลัง

ผมเองก็มองตัวเองในกระจกเช่นกัน มันเป็นทรงผมเหมือนดารานักร้องเกาหลีสักคน ผมไม่ได้ใส่ใจหรอก มันก็ดูดีแหละแต่บอกตรงๆ ว่าการที่มองทุกอย่างได้ชัดเจนมันทำให้ผมอึดอัด และยิ่งทวีความอึดอัดมากขึ้นไปอีกเมื่อช่างตัดผมที่รับหน้าที่ดูแลผมเมื่อครู่เดินมามองผมผ่านกระจกบ้าง

“หล่อน่ารักขึ้นมาเลยนะ”

ช่างตัดผมเป็นผู้ชาย...

สบตากันผ่านกระจกปุ๊บ เสื้อผ้าหายปั๊บ ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าผมเห็นร่างเปลือยของผู้ชายสองคนผ่านกระจกเต็มสองตาเป็นที่เรียบร้อย

แม่ง กูก็อุตส่าห์เลี่ยงไม่สบตา สุดท้ายก็ไม่พ้นจนได้ล่ะสินะ!

ดีที่พี่ชิณณ์ไม่รั้งรออะไรนัก จัดการจับผมตัดผมเสร็จก็ลากผมออกจากร้าน และแน่นอนว่ายังไม่กลับเพราะพี่ชิณณ์ลากผมไปที่ร้านขนมหวานชื่อดัง พอผมปฏิเสธก็อ้าง

“มาวินไม่อยากรู้แล้วเหรอว่าพี่ชอบผู้ชายไหม”
นั่นแหละ ผมเลยต้องตามไปอย่างไม่มีทางเลือก เลือกที่นั่งได้ พี่ชิณณ์ก็จัดการสั่งขนมกับน้ำหวานเป็นการใหญ่จนผมต้องรีบเบรก
“สั่งเยอะเกินไปแล้วครับ”
“ไม่เยอะหรอก”
“ถ้ากินไม่หมด ผมไม่รู้ด้วยนะครับ”
“ไม่ต้องห่วง พี่ชอบกินของหวาน มาวินก็แค่กินเป็นเพื่อนพี่ก็พอ ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องกินเยอะ” พูดอย่างกับรู้ว่าผมไม่ชอบกินของหวานเท่าไหร่

ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก เขาอยากกิน ผมก็กินเป็นเพื่อน กระทั่งบรรดาขนมที่เขาสั่งไปมาเสิร์ฟ ตอนนั้นเองที่ผมเริ่มถามคำถามที่อยากรู้กับเขาอีกครั้ง
“ตกลงแล้วพี่ชิณณ์ชอบผู้ชายหรือเปล่าครับ”
พี่ชิณณ์ที่กำลังตักเค้กเข้าปากเหลือบมองหน้าผมพลางหัวเราะ
“อยากรู้ให้ได้จริงๆ เลยนะคำถามนี้เนี่ย”

กูไม่ได้อยากรู้เลย คนอยากรู้มันคือไอ้คชาต่างหาก!

แต่เขาไม่รู้ตอนนี้ก็ไม่เป็นไร ในอนาคตตอนคชามันเปิดตัวว่าจีบ เดี๋ยวเขาก็รู้เองแหละ
“ครับ อยากรู้” ตอนนี้ผมก็เลยได้แต่เออออไป

พี่ชิณณ์วางช้อนในมือลงก่อนจะว่า
“พี่ไม่ค่อยสนใจเรื่องเพศสักเท่าไหร่หรอกนะ”
ไม่ใช่คำตอบตรงๆ ผมเลยต้องใช้หัวในการคิดวิเคราะห์เล็กน้อย
“แสดงว่าพี่ชิณณ์คบได้ทั้งผู้ชายแล้วก็ผู้หญิง?”
“พี่ไม่อยากให้คำว่ารักจำกัดเพราะเรื่องเพศ”

เออ สรุปว่ามึงเป็นเสือไบ จะพูดพล่ามกำกวมทำไมวะ

เอาเป็นว่าตอนนี้ผมได้ข้อมูลละว่าพี่ชิณณ์เป็นคนยังไงก็ได้ ต่อจากนี้ก็ต้องถามเรื่องสเปกผู้ชายที่ชอบล่ะสินะ
“แล้วสเปกคนที่พี่ชิณณ์ชอบ...”

เลี่ยงที่จะไม่พูดว่าผู้ชายเสียอย่างนั้น ขืนพูดไปอย่างนั้นมันจะดูเป็นว่าผมอยากรู้อยาเห็นเกินไปทั้งที่ตอนนี้ไม่มีอะไรจะเสียแล้วก็เถอะ แต่พี่ชิณณ์คงจะดูออกว่าผมอยากจะถามอะไรเลยเอาช้อนตัวเองมาตักเค้กแล้วยื่นมาตรงหน้าผม

“ให้พี่ป้อนก่อนคำนึงแล้วพี่จะบอกสเปกผู้ชายที่ชอบนะ”

ผมนิ่งไปเลย

แค่ในโรงอาหารวันนั้น มึงยังไม่พออีกเหรอวะ นี่มันห้างนะเว้ย!

อึดอัดกว่าเดิมเป็นเท่าตัว แต่พี่ชิณณ์สนใจอะไรไหมล่ะ หึ! ไม่สนไม่พอ ยังจะทำท่าทางกระเง้ากระงอด
“ถ้าไม่ยอม พี่ไม่บอกนะ”

เท่านั้นผมก็มองซ้ายแลขวา อ้าปากงับอย่างรวดเร็ว
“รีบบอกเลยครับ” พูดทั้งที่ยังเคี้ยวตุ้ยๆ

พี่ชิณณ์หัวเราะออกมากับท่าทางนั้นของผม ส่วนผมก็ได้แค่ครุ่นคิด
กูต้องทำเพื่อมึงถึงขนาดนี้เลยเหรอวะไอ้คชา! เปลืองตัวแท้ๆ!
“ได้ พี่จะบอก” แต่ก็ทำให้พี่ชิณณ์ยอมตกปากรับคำได้ล่ะนะ

ทว่าพี่ชิณณ์ไม่บอกในทันที คว้ากระเป๋าเอกสารมาหยิบกระดาษและปากกาเขียนอะไรยุกยิกลงไป จากนั้นก็พับแล้วส่งให้ผม
“เอาไว้ไปอ่านที่หอนะ อ่านตรงนี้พี่เขิน”

มึงยังจะเขินอีกเหรอ ไอ้ป้อนเค้กกูกลางร้านมันน่าเขินกว่าอีกเว้ย!

ถึงอย่างนั้นผมก็พยักหน้ารับ แล้วก็รอพี่ชิณณ์จัดการกับขนมที่สั่งมา จากนั้นถึงได้กลับมหาวิทยาลัยพร้อมกันแล้วแยกย้ายกลับหอใครหอมัน




 
กลับมาถึงหอได้ เจอหน้าคชาปุ๊บ สิ่งแรกที่มันทำคือการถามว่า...

“วันนี้พี่ชิณณ์ยังน่ารักเหมือนเดิมปะวะ”

จากนั้นถึงได้ถามว่าผมไปทำอะไรกับพี่ชิณณ์มาบ้าง ทักเรื่องทรงผมของผมที่เปลี่ยนไปนิดหน่อยแล้วก็ชมว่าดูดีขึ้น ก่อนจะถามว่าได้เรื่องอะไรเกี่ยวกับพี่ชิณณ์มาบ้างไหม ผมก็เล่าให้มันฟังหมดทุกหยดไม่มีเหลือ พอมาถึงเรื่องสเปกผู้ชายที่พี่ชิณณ์ชอบ ผมก็เอากระดาษที่พี่ชิณณ์เขียนให้ออกมา เท่านั้นคชาก็รีบกระโดดผึงมานั่งข้างผมที่ปลายเตียงทันที

“พี่ชิณณ์เขียนว่าอะไรบ้างวะ”

ผมปรายตามองก่อนจะเริ่มอ่านตัวหนังสือพวกนั้น
“เขาบอกว่าชอบผู้ชายผิวสีธรรมชาติ ดำ ขาว เหลืองได้หมด”

คชารีบยื่นแขนตัวเองออกมาก่อนจะว่า
“ผิวกูก็สีธรรมชาติ สีแทนนิดๆ ดูสุขภาพดี”

ผมเบ้ปากให้มันไปที ยิ่งเห็นมันยิ้มร่าเพราะคุณสมบัติตรงสเปกของพี่ชิณณ์แล้วก็ยิ่งหมั่นไส้

แค่เรื่องสีผิวธรรมชาติ สีผิวกูก็ธรรมชาติ เข้าสเปกพี่ชิณณ์เหมือนกันแหละเว้ย!

แต่ไม่เห็นเหตุผลที่จะไปเกทับมันจึงได้แต่ตั้งหน้าตั้งตาอ่านประโยคต่อไปแทน
“ดวงตามีเสน่ห์”
“มีเสน่ห์พอมะ” คชาหันมามองผมด้วยสายตายั่วยวนทันที

ผมถึงกับต้องเบะปากใส่มัน
“เออ มีเสน่ห์ แต่ไม่ต้องทำตาหวานฉ่ำใส่เรา”

ขนลุก บอกเลยว่าขนลุก พลันอ่านประโยคต่อไป

“จมูกโด่ง ปากกระจับสวย รูปร่างสมส่วน ดูมาดแมนสมชาย”
อ่านๆ ไปแล้วก็ดูเหมือนจะตรงกับคชาทั้งสิ้น ทำเอาคชาถึงกับลุกขึ้นยืน ก้มหน้าเล็กน้อยแล้วเสยผม หัวเราะในลำคอ

“หึๆ คชาคือผัวที่แท้จริง”

มึงหมายถึงตัวเองเป็นผัวพี่ชิณณ์น่ะเหรอ

ผมถึงกับหลุดหัวเราะออกมาเสียงดังกับความหลงตัวเองของมัน

หลงตัวเองไม่พอ มึงเป็นบ้าด้วยไอ้คชา!

พอจะหยุดหัวเราะได้ ผมก็อ่านประโยคที่เหลือต่อ
“น้ำเสียงนุ่มทุ้ม”
“เสียงพระเอกอย่าบอกใคร” คชาตอบรับพร้อมเก๊กเสียงหล่อ

“พูดจาสุภาพ”
“มาวินครับ รบกวนอ่านประโยคถัดไปด้วยครับ” มันหันมาพูดกับผมด้วยคำพูดสุภาพทันใด

ผมก็ตลกไปกับความเพี้ยนของมัน ตอนนี้ชักรู้แล้วล่ะว่ามันเป็นคนขี้เล่นมากแค่ไหน ก่อนจะอ่านประโยคสุดท้ายในกระดาษแผ่นนั้นขณะที่เช็ดน้ำตาที่ไหลออกจากหางตาเพราะหัวเราะเยอะเกินไปด้วย

“มีไฝที่ใต้ตา”
คชาชะงัก รีบเดินไปส่องกระจกที่ตู้เสื้อผ้าทันใด
“กูไม่มีว่ะ หรือต้องเอาดินสอมาเขียนไฝปลอมวะ”

ผมไม่ตอบคำถามมัน ได้แต่นั่งอึ้งงันตั้งแต่ที่อ่านประโยคสุดท้ายนั้นจบ

มีไฝที่ใต้ตาข้างขวา... สเปกของพี่ชิณณ์...

กูนี่หว่า! กูเลยเนี่ย!

เสียวสันหลังวาบไปทั้งร่าง ใจสั่นอย่างบอกไม่ถูก ไม่ใช่เพราะตื่นเต้นด้วยแต่เป็นเพราะตกใจที่ได้รู้ความจริงต่างหาก

ยะ...อย่าบอกนะว่าพี่ชิณณ์ชอบผม?

ไม่อยากจะคิดต่อ ไม่อยากคิดเองเออเองด้วย แต่ก็ไม่กล้าจะให้พี่ชิณณ์มายืนยันคำตอบ ได้แต่คิดเองไปอย่างนั้น

การที่พี่ชิณณ์ทำแบบนี้มันเท่ากับการสารภาพว่าชอบผมเป็นนัยๆ เลยนี่หว่า แต่จะอะไรก็ช่าง เขาจะชอบผมหรือไม่ได้ชอบ หรือผมเข้าใจผิดไปเองก็ไม่สำคัญเท่ากับห้ามให้คชารู้

ผมรีบเหลือบไปมองคชาที่เอาดินสอสองบีมาเขียนที่ใต้ตาตัวเองอย่างรวดเร็ว ก่อนจะต้องย่นคิ้วยู่
“ทำอะไรของนายน่ะคชา”
“เขียนไฝ”

มึงนี่มัน...บ้า

ไม่ใช่ขี้เล่นหรือทะเล้นอะไรละ มันบ้าจริงไม่อิงเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น ความหล่อไม่ได้ช่วยให้มันดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย แถมเขียนเสร็จแล้วยังมีหน้ามาพูด

“มันไม่ค่อยติดเลยว่ะ สงสัยกูต้องไปหาซื้อดินสอเขียนคิ้วมาเขียน”

ส่วนกูคงต้องไปจี้ไฝออกล่ะสินะจะได้ไม่เป็นผู้ชายในสเปกพี่ชิณณ์

ผมถอนหายใจออกมา ดูท่าทางคชามันจะยังไม่ตระหนักว่าผมมีไฝใต้ตาอะไรนั่น ผมเลยกะว่าจะไปอาบน้ำแล้วทำเนียนหนีเข้านอนก่อนเลย ไว้มันสังเกตเห็นเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน ทว่าในจังหวะที่ผมกำลังจะลุกขึ้น คชาก็ถลาเข้ามาพร้อมกับเอาหน้าเข้ามาใกล้
“มึงว่าเนียนหรือยังวะ”

ใกล้เสียจนปลายจมูกแทบจะโดนกัน ผมงี้ถอยหนีแทบไม่ทัน
“นะ...เนียนแล้ว” รีบร้องบอกมันแทบไม่ทันด้วย ก่อนจะรีบหันหนีอย่างรวดเร็ว

แต่ครั้งนี้เหมือนจะไม่ทันแล้ว คชาน่าจะสังเกตเห็นแล้วล่ะว่าที่ใต้ตาผมมีอะไร เห็นผมหันหนีก็รีบเอามือมาคว้าหน้าผมไว้แล้วบังคับให้หันกลับไปมองทางมัน

“ไอ้มาวิน ใต้ตามึงมีไฝ!”

ผมทำหน้าไม่ถูกไปทันที ส่วนคชาก็ทำหน้าเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่เห็นขึ้นมา
“อย่าบอกนะว่ามึงก็ชอบพี่ชิณณ์เหมือนกันเลยแอบไปเติมไฝมาตอนกูเผลอน่ะ!”

แอบเติมบ้านมึงเถอะ กูมีมาตั้งแต่เกิดเว้ย!

“เราไม่ได้เขียนเหมือนนายหรอกนะ” ผมเถียงออกไปเลย
คชาจึงเอานิ้วมาลองถูๆ ก่อนจะครางออกมา
“ของจริงนี่หว่า”

ก็ของจริงน่ะสิวะ ใครจะไปหลอกตัวเองเหมือนมึงกัน!

ตอนนี้มันน่าจะเข้าใจแล้วล่ะว่าสเปกของพี่ชิณณ์หมายถึงผมมากกว่ามันเพราะจู่ๆ มันก็พ่นลมหายใจออกมา เหมือนกับผมก็สูดหายใจเข้าปอดแล้วพ่นออกมาเช่นกัน

อกหักตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลยนะคชา น่าสงสารว่ะ คงต้องพูดอะไรสักอย่างให้มันคลายความเครียด ก็กะจะพูดให้มันคิดในแง่บวกนั่นแหละ

“คืองี้นะคชา ถึงสเปกของพี่ชิณณ์จะไม่ตรงกับนาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพี่ชิณณ์จะชอบเรา อาจจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้”
คชาไม่ตอบรับใดๆ ทั้งสิ้น เอาแต่เงียบจนผมกังวลว่ามันจะโกรธผมหรือเปล่า จนผมต้องพูดออกมาอีก
“ถ้าเราไปจี้ไฝออกก็ไม่ใช่สเปกพิ่ชิณณ์แล้วล่ะ”

ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างนี้ไปทำไม ผมไม่มีเหตุผลเลยที่จะต้องลงทุนทำอะไรอย่างนี้เพื่อมัน ซึ่งคชาก็คงจะเห็นด้วยเพราะจู่ๆ มันก็หันมายิ้มให้พร้อมกับเอามือวางไว้บนหัวผม

“ไม่ต้องเลยมึง อย่างนี้ก็ดีแล้ว น่ารักดี”
ผมมองหน้าคชาที่ส่งยิ้มหล่อให้นิ่งก่อนหน้าจะร้อนวาบขึ้นมา

หล่อสลัดรัสเซียอย่างที่มันชมตัวเองเมื่อวานจริงๆ ด้วย

และคชาก็ทำให้ความเขินอายของผมมลายหายไปเมื่อมันเอื้อมมือมาคว้าหน้าผมให้หันไปทางมันอีกครั้ง
“แต่ลองแกะดูหน่อยซิ เผื่อจะออก”

บ้านมึงแกะไฝแล้วไฝหลุดติดมือเหรอไอ้คชา! เจ็บนะเว้ย!

ผมปัดมือมันออกทันที ตรงไฝนี่เจ็บแปลบๆ เลยทีเดียว ขณะที่คชาได้แต่พึมพำกับตัวเอง
“ไม่ออกแฮะ”

มันก็ต้องไม่ออกอยู่แล้ว มึงบ้าหรือไง!

ไม่น่าถาม มันบ้าแน่นอน ทว่าผมไม่สนใจอะไรมันแล้ว ถือว่าผมได้ทำในสิ่งที่มันต้องการแล้ว ตอนนี้อยากจะไปอาบน้ำมากกว่าเพราะไปตะลอนๆ มาทั้งวัน

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว เราขออาบน้ำก่อนนะ”
เดินไปคว้าผ้าเช็ดตัว กำลังจะเข้าห้องน้ำอยู่แล้ว คชาก็เดินมาคว้าข้อมือผมไว้พร้อมกับจ้องหน้าและเรียกชื่อ
“มาวิน”
“ว่าไง”
“มึงอย่าไปชอบพี่ชิณณ์นะเว้ย”

กลอกตาให้กับคำพูดประโยคนี้นิดหน่อย เกือบจะพยักหน้าอยู่แล้ว คชาก็พูดขึ้นมาอีก
“กูหวง”

หน้าร้อนวาบไปอีกระลอกทันใด

กูหวง... หวงผมหรือพี่ชิณณ์?

มันก็ต้องพี่ชิณณ์อยู่แล้วล่ะ ก็มันบอกว่าชอบพี่ชิณณ์นี่นาเพียงแต่ลักษณะการพูดของมันทำให้ผมเผลอเข้าใจผิดไปชั่วครู่ก็เท่านั้น

“ไม่ต้องห่วงน่า เราไม่ชอบพี่ชิณณ์หรอก ต่อให้พี่ชิณณ์ชอบเรา เราก็ไม่ชอบเขาโอเคไหม บอกแล้วไงว่าจะช่วยนายจีบ สบายใจได้ ไม่ชุบมือเปิบหรอก”

ให้ความเชื่อมั่นมันไป คชาก็พยักหน้ารับ ยอมปล่อยมือออกจากผมแล้วเดินกลับไปที่ตู้เสื้อผ้า ส่องกระจกดูหน้าตัวเองอีกครั้งด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ผมมองตามแล้วก็ไม่รู้ว่ามันคิดอะไรอยู่ แต่ก็ไม่ได้สนใจนอกจากก้าวเข้าห้องน้ำไป ทันทีที่ปิดประตูห้องน้ำได้ก็ยีหัวตัวเองเป็นพัลวัล

เวรเอ๊ย! ไอ้พี่ชิณณ์มันชอบกูแน่ๆ เลยเนี่ย ถึงกูจะเด๋อๆ ด๋าๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ประสาเรื่องอย่างนี้นะ

เห็นแววความวุ่นวายมารางๆ ได้แต่ภาวนาว่าขอให้เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อกี้เป็นความบังเอิญ

บังเอิญว่าผมมีไฝใต้ตา แล้วก็บังเอิญว่าพี่ชิณณ์ชอบผู้ชายที่มีไฝใต้ตา

เป็นแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น...
-------------------------------
พระเอกเรื่องนี้พี่ชิณณ์ใช่มั้ย พูด! 555 คชานี่ผีบ้ามากๆ เหมือนเรียนมากจนสติไม่ดี 555
ฝากฟีดแบ็กไว้ด้วย เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อให้นะคะ


ออฟไลน์ janamanza

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
ขรรมนอกจากจะบ้าแล้วแม่งยังบ้าอีก(ต่างกันยังไง) โอ้ยย คือแบบเดี๋ยวพระเอกเค้าเป็นงี้กันหรอวะ 555 อีกเรื่องก็พระเอกไบโพลาร์ เรื่องนี้ก็พระเอกผีบ้า

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ชัวร์เลย คชานก 55555555555555

ออฟไลน์ letttt_te

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คชา เมิงแหละเอ๋อออออ  :katai1:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8

ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
ทำไมรู้สึกตลกคชา
ถ้าได้อ่านในมุมคชาคงจะฮาน่าดู

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
คชา ถ้ามาวินโดนแย่งไปแล้วจะรู้สึก หึ :hao3:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
คชานี่สติไม่สมประกอบ

บ้าขั้นกว่า คือ...ที่คิดว่าบ้าแล้ว มันยังบ้าได้อีก

ฮ่า ๆ ๆ

โอย....แพ้หัวนมพี่ชิณห์

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ขำหนักมาก    :m20:  เราว่าพี่ชิณณ์เป็นเมะนะ  ประมาณว่าหมาป่าห่มหนังแกะรึเปล่า 
คชามีความติ๊งต๊องมาก  สงสารแต่นายเอกของเรา  ต้องรับมือทั้งพี่ชิณณ์ทั้งคชา  :hao3:

ออฟไลน์ Ujeen

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
คชาผีบ้าาาาาาา เกลี๊ยดดดดดดดดด :m20:
สงสารนุ้งมาวินที่ต้องอยูกับคนบ้า :hao7:

ออฟไลน์ fugtong

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
โอ้ยยยย พระเอกเรื่องนี้ ไม่ไหวจริงๆค่ะปวดหัวแทนน้องวินเลย คนอย่างคชานี่มัน!! 5555555555555555555555555555555555555

ออฟไลน์ panpang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
มีสติมากสุกก็วินนี่แหละในเรื่องนี้น่ะ55555

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
คชาจะต๊องหรือจะฮา

ออฟไลน์ yotisssa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ง้อยยยยย>///<  จุดเริ่มต้นของความรัก :ling1:

ออฟไลน์ bowtotay

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
คชาแกเป็นคนบ้า คนเพ้อ คนหลงตัวเอง
เป็นคนที่สติไม่สบประกอบใช่ไหม. ตอบ!!!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
พระเอกเป็นพี่ชิณณ์ใช่มั้ยคะ  :m20:

ออฟไลน์ NooDangzz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
สบตา ครั้งที่ 9: แซนด์วิซ!?

ผมคิดไม่ตกตั้งแต่วันที่รู้สเปกของพี่ชิณณ์ ไม่ค่อยอยากจะคิดหรอกว่าสเปกของพี่ชิณณ์มันหมายถึงผม เพราะมันไม่ได้มีแค่ผมคนเดียวในโลกสักหน่อยที่มีไฝใต้ตา คชาเองก็คงจะคิดอย่างนั้นเพราะหลังจากวันที่มันสั่งห้ามไม่ให้ผมไปชอบพี่ชิณณ์ มันก็เหมือนจะลืมไปหมดสิ้นเลยว่าสเปกผู้ชายที่พี่ชิณณ์ชอบเป็นยังไง มันยังคงเดินหน้าจีบพี่ชิณณ์โดยมีผมเป็นนกต่ออย่างไม่สนใจใดๆ ทั้งสิ้น ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรมันหรอกถ้ามันจะจริงจังเพราะไม่ว่ายังไง มันก็ไม่ใช่เรื่องของผม แต่เอาเข้าจริง มันก็มีส่วนเกี่ยวข้องนั่นแหละด้วยต้องช่วยเป็นนกต่อให้มันด้วย

ในเมื่อรู้สเปกที่พี่ชิณณ์ชอบแล้ว แผนการช่วยรูมเมทจีบพี่ชิณณ์จึงเปลี่ยนไป คชาบอกว่ามันคือปฏิบัติการเปลี่ยนสเปกพี่ชิณณ์ให้เป็นคชา พูดง่ายๆ ก็คือช่างหัวสเปกพี่ชิณณ์แม่งเหอะ ผมมีหน้าที่คือทำยังไงก็ได้ให้พี่ชิณณ์มาสนใจมันก็เท่านั้น

ผมก็พอจะนึกออกอยู่ว่าต้องทำยังไง... พูดอวยคชาเยอะๆ ให้พี่ชิณณ์เห็นความดีงามของมันแม้ว่ามันจะมีความขี้เล่นที่อยู่ใกล้กับเส้นแบ่งคำว่าบ้าก็ตาม

และการที่ผมถูกพี่ชิณณ์ชวนออกไปเปเปอร์ร่วมกันก็คือโอกาส ผมก็พูดอวยคชาทุกครั้งที่มีโอกาสแหละ เช่นตอนนี้ที่ผมเปิดปากถามเมื่อพี่ชิณณ์บอกให้เราพักเบรกกันระหว่างร่างเปเปอร์ในห้องสมุด แน่นอนว่าผมยังคงเห็นพี่ชิณณ์อยู่ในร่างเปลือยทุกครั้งที่สบตา แต่ตอนนี้ผมชักจะเริ่มชินแล้วล่ะ เลยแสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจไป แม้ว่าหัวนมพี่ชิณณ์จะดึงดูดสายตาทุกครั้งที่เห็นก็ตาม

แต่มันไม่ใช่เวลาจะมามองหัวนมพี่ชิณณ์ ผมต้องอวยไอ้คชามันต่างหาก!

“พี่ชิณณ์ว่าคชาดูเป็นไงบ้างครับ” ผมเอ่ยปากถามหลังจากที่พี่ชิณณ์ยื่นแยมโรลที่ซื้อมาจากคอฟฟีช็อปหน้าห้องสมุดให้ผม
“คชาเหรอ อืม... ดูเฟรนด์ลีดีนะ เป็นคนอัธยาศัยดี ท่าทางจะนิสัยดี น่าจะรักเพื่อนด้วย” ว่าพลางแกะขนมออกมากิน เปิดทางให้ผมได้ถามต่อ
“แล้วพี่ชิณณ์ไม่คิดจะชอบผู้ชายอย่างคชาบ้างเหรอครับ”
“ไม่อะ พี่ไม่ชอบคนตัวสูงกว่า”
“แต่คชานิสัยดีนะครับ หล่อด้วยนะ สาวๆ ชอบตรึม”
“เรื่องหล่อหรือไม่หล่อมันไม่สำคัญหรอก สำคัญว่าพี่ชอบหรือเปล่า แล้วเข้ากันได้ไหมมากกว่า”
“แล้วพี่ชิณณ์ไม่คิดจะชอบคชาบ้างเหรอ”
“พี่ว่าคชาดูล้นๆ ไปนิดนึง”

ตอบแล้วก็หันมายิ้มให้ผม ถึงจะไม่พูดแต่ก็ชัดเจนเลยว่า...พี่ชิณณ์ไม่ชอบมึงว่ะไอ้คชา แถมยังดูออกด้วยว่ามึงบ้า!
ผมนี่อยากจะหัวเราะให้หงายท้องแต่ก็เกรงใจพี่ชิณณ์ที่มองอยู่ แล้วก็ตระหนักขึ้นมาด้วยว่าผมควรจะสนับสนุนมัน ไม่ใช่ทับถมให้จมดินแม้ว่าจะน่าทำมากแค่ไหนก็เถอะ

แต่ผมไม่ได้ตระหนักเลยว่าการที่ถามซอกแซกพี่ชิณณ์ไปแบบนั้นจะทำให้พี่ชิณณ์ได้จังหวะถามผมกลับ
“จู่ๆ มาวินถามเรื่องคชาทำไมเหรอ”
“อ๋อ...คือ...” ผมอึกอัก ก็อยากจะบอกอยู่หรอกนะว่าถามให้คชา แต่ก็ไม่ได้พูดเพราะผมสัญญากับมันไว้แล้วว่าจะปิดไว้เป็นความลับ

หากแต่การไม่พูด ทำให้พี่ชิณณ์ยิ้มออกมาทันใด
“หรือว่าจะหวงพี่?”
ผมที่กำลังยัดแยมโรลเข้าปากถึงกับสำลัก

กูจะไปหวงมึงทำไมไอ้พี่ชิณณ์! กูเป็นแค่นกต่อเว้ย!

ดูแล้วพี่ชิณณ์น่าจะเข้าใจผิดไปไกล แต่เขาไม่ได้ซักไซ้อะไร เห็นผมสำลักหน้าดำหน้าแดงก็หัวเราะ ยื่นน้ำมาให้ดื่มพลางลูบหลังเป็นการใหญ่
“พี่ก็แค่หยอกเล่น ตกใจอะไรเนี่ย”

มึงไม่ต้องมาบอกว่าหยอกเล่นเลย ไม่ต้องเอากูไปเหมารวมกลุ่มเก้งกวางกับพวกมึง!

ผมไม่ได้พูดอะไร นอกจากตอบรับว่า ‘ครับๆ’ พอหายสำลักได้ก็พ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ขณะที่พี่ชิณณ์มองผมแล้วก็เอานิ้วแตะไปที่ข้างแก้มตัวเอง
“เลอะครีมน่ะ”
“ตรงนี้เหรอครับ” ผมแตะไปที่ข้างแก้มตัวเอง
พี่ชิณณ์ส่ายหน้า ก่อนจะเอื้อมมือมาใช้ปลายนิ้วปาดครีมที่เลอะแก้มผมออก
“ตรงนี้” จากนั้นก็เอานิ้วที่เปื้อนครีมไปเลีย

ผมมองแล้วก็ขนลุกวาบตั้งแต่หัวไปยันซอกหลืบ ยิ่งเห็นสายตาหวานฉ่ำที่พี่ชิณณ์จ้องมองมาพร้อมกับอมยิ้มน้อยๆ ด้วยแล้ว ผมก็มั่นใจขึ้นมา

มึงชอบกูแน่ๆ เลยไอ้พี่ชิณณ์!

ไม่ได้คิดไปเองอย่างแน่นอน ถึงผมจะไม่เคยมีแฟนมาก่อน แต่ก็ใช่ว่าจะดูไม่ออกว่าพี่ชิณณ์มองผมด้วยสายตาแบบไหน มันเป็นสายตาที่แบบว่า...กะลิ้มกะเหลี่ยน่ะ

พี่ชิณณ์หล่อน่ารักก็จริง แต่ผมไม่ดีใจเลยสักนิด แทบจะยีหัวตัวเองในวินาทีนั้น

ทำไมพระเอกหนัง GV ต้องมาชอบกูด้วยวะ!

ถึงพี่ชิณณ์จะไม่ใช่ฮิคารุซามะ แต่หน้าคล้าย ผมก็ถือว่าพี่ชิณณ์มีภาพลักษณ์อย่างนั้นไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย
ผมเงียบไป ทำให้พี่ชิณณ์เข้าใจว่าผมตกใจที่เขาทำตัวเหมือนพระเอกการ์ตูนตาหวานจึงเอ่ยออกมา
“โกรธพี่เหรอ”
“เรื่องอะไรครับ”
“ที่พี่เช็ดครีมออกให้”
“อ๋อ...ไม่หรอกครับ”

ไม่โกรธ... ไม่โกรธเลย แต่ขนลุกเว้ย! อย่ามาทำเหมือนกูเป็นสาวน้อยสิวะ!

ผมอยากจะโพล่งอย่างนี้ออกไปชะมัด แต่ก็กลัวว่าเดี๋ยวจะเข้าหน้ากันไม่ติด ได้แต่แสดงท่าทางอึดอัดออกมา พี่ชิณณ์คงจะดูออกเลยเบนไปชวนคุยเรื่องอื่นแทน
“ออกมาเจอพี่บ่อยๆ มาวินเบื่อหรือเปล่า”
“ไม่เบื่อหรอกครับ ต้องทำงานด้วยกันนี่” ผมว่าไปตามความจริง
“แต่มันแทบจะทุกวันเลยนะ เสาร์-อาทิตย์ยังมาเจอกันอีก”
“มันช่วยไม่ได้นี่ครับ ไม่มาเจอกัน งานก็ไม่เสร็จ” ผมบอก
พี่ชิณณ์ยิ้มกว้าง “งั้นเหรอ”

ท่าทางจะโล่งใจที่ผมไม่ได้พูดอะไรออกไปในแง่ลบ แต่ถ้าให้ผมบอกตามความจริง ผมก็ไม่เบื่อหรอกนะกับการได้เจอเขา เขาเป็นรุ่นพี่ที่ใจดี อยู่ด้วยแล้วสบายใจ เป็นผู้ชายที่รอบตัวมีบรรยากาศสีชมพูและความอบอุ่นรายล้อม ใครอยู่ด้วยก็รู้สึกดีทั้งนั้นแหละ ผมเองก็เช่นกันถ้าไม่ติดว่าต้องเห็นเขาในร่างเปลือยตลอดเวลาน่ะ

เห็นเขาเงียบไป ผมก็อดคิดไม่ได้ว่าผมพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า เลยต้องออกปากถาม
“พี่ชิณณ์ถามทำไมเหรอครับ”

พี่ชิณณ์เหลือบมามองผม “ก็ไม่มีอะไรหรอก พี่ก็แค่คิดว่าถ้ามาวินเบื่อ พี่จะได้พาไปทำงานที่อื่นที่ไม่ใช่ห้องสมุดเฉยๆ น่ะ”
ผมร้องอ๋อยาว พี่ชิณณ์นี่เป็นคนดีจริงๆ นะ ใส่ใจความรู้สึกของคนอื่นดี ไม่แน่ใจว่าเป็นอย่างนี้กับทุกคนหรือเป็นแค่เฉพาะกับผม
“แล้วตกลงมาวินเบื่อไหม”

ผมเกือบจะตอบออกไปแล้วว่าไม่เบื่อ แต่ดันฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าครั้งหนึ่งคชาเคยบอกว่าให้หลอกล่อและล่อลวงพี่ชิณณ์มาทำงานที่หอให้ได้ ผมเลยพยักหน้ารับไปทันที
“ก็นิดหน่อยครับ”
“งั้นครั้งหน้าเราไปทำงานกันที่ไหนดี”

ผมแสร้งทำท่าคิดไปนิดหน่อยพลางพูด “ผมไม่ค่อยชอบออกไปไหนไกลๆ ไปทำที่หอผมดีไหมครับ”
ชวนแม่งออกไปเลย พี่ชิณณ์ดูอึ้งงันไปนิดหน่อยก่อนจะถามกลับ
“พูดจริงอะ”
ผมพยักหน้า เท่านั้นสีหน้าพี่ชิณณ์ก็ดูดีใจขึ้นมา
“งั้นไปวันนี้เลยได้ไหม”

เดี๋ยวนะไอ้พี่ชิณณ์ เดี๋ยวๆ มึงจะไม่หยุดคิดสักหน่อยเหรอ

คงไม่หยุดคิดแล้วล่ะ ถามมาอย่างนั้นก็ส่งสายตาวิบวับแวววาวมาให้เป็นที่เรียบร้อย ผมเลยเออออห่อหมกไปตามเรื่อง
“ได้ครับ ไม่มีปัญหา นี่ก็เย็นมากแล้ว รีบไปเถอะ เดี๋ยวงานไม่คืบหน้า”

บอกแค่นั้น พี่ชิณณ์ก็เก็บข้าวของทุกอย่างด้วยความเร็วแสง แทบจะกระชากผมออกจากร้านคอฟฟีช็อปเลยทีเดียว กลายเป็นว่าคนที่กระเหี้ยนกระหือรืออยากจะไปที่หอผมเป็นพี่ชิณณ์เสียอย่างนั้น ซึ่งระหว่างที่ผมกับพี่ชิณณ์มุ่งหน้าสู่หอพัก ผมก็รีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความหาคชารัวๆ ไม่ใช่อะไร คือจะให้มันเคลียร์พื้นที่น่ะ โดยเฉพาะไอ้หมอนข้างฮิคารุซามะนั่น ต้องรีบให้มันหาที่ซ่อนก่อนที่พี่ชิณณ์จะเห็น

โชคดีที่คชาตอบข้อความกลับอย่างรวดเร็ว ตอนแรกเห็นคชาบอกว่ามันกำลังจะไปกินเลี้ยงสายรหัส แต่พอผมบอกว่าพี่ชิณณ์จะมา เท่านั้นมันก็รีบพุ่งกลับหอไปทันใด กินเลี้ยงสายรหัสอะไรนั่นไม่สำคัญเท่ากับว่าที่เมียจะมาเยือนถิ่น พอผมกลับมาถึงห้อง ข้าวของทุกอย่างที่อยู่ในกลุ่ม 18+ ก็อันตรธานหายไปทั้งหมด

หายไปอยู่ในตู้เสื้อผ้าผม...

มึงนี่มันจริงๆ เลยไอ้คชา อย่างนี้พี่ชิณณ์ก็เข้าใจว่ากูเป็นพวกบ้ากามสิวะ เอาซ่อนไว้ใต้เตียงสิเว้ย ไม่งั้นกูจะให้มึงรีบกลับมาเคลียร์ห้องทำบ้าอะไร!

แต่ช่างมันเถอะ ซ่อนไปก็เท่านั้นเพราะไม่ว่ายังไง พี่ชิณณ์ก็เข้าใจไปเรียบร้อยว่าผมเป็นพวกคลั่งพระเอกหนัง GV ที่ชื่อฮิคารุอะไรนั่น จะซ่อนใต้เตียงหรือที่ไหนๆ ก็ไม่สามารถลบเลื่อนความเข้าใจนั้นไปได้แล้วล่ะ

ส่วนคชา... ตอนนี้ผมล่ะหมั่นไส้มันฉิบเป๋ง พอมันรู้ว่าพี่ชิณณ์จะมาก็จัดการอาบน้ำแต่งตัวใหม่ เซ็ทผมใส่แว็กซ์ทั้งที่ใส่ชุดนักศึกษาเหมือนเดิม เสริมความหล่อทั้งหมดเพื่อต้อนรับพี่ชิณณ์อย่างเต็มที่ ประเด็นคือมันใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีในการทำเรื่องพวกนี้ ผมมองมันแล้วอดคิดว่าไร้สาระไม่ได้เลย

ทว่าพอเห็นมันยิ้มหน้าบาน ต้อนรับขับสู้พี่ชิณณ์แล้วก็คิดว่าเป็นเรื่องที่ดีแล้วล่ะ เพราะถ้ามันจีบพี่ชิณณ์ติด ผมก็จะได้ไม่ต้องมาทำอะไรอย่างนี้อีก หากแต่คิดๆ ดูแล้วดูท่าจะยากสักหน่อยที่พี่ชิณณ์จะไปชอบมัน อย่างที่บอก... พี่ชิณณ์ชอบผมไง ถึงเขาจะไม่พูด แต่ก็แสดงออกชัดเจน

ไม่เชื่อดู...

“พี่ชิณณ์ครับ น้ำส้มครับ” คชายกแก้วน้ำส้มคั้นสดที่มันลงทุนไปขอพ่อค้าน้ำส้มรถเข็นแถวหน้าหอคั้นเองกับมือมาให้พี่ชิณณ์ที่นั่งช่วยร่างรายละเอียดเปเปอร์คู่กับผมที่โต๊ะอ่านหนังสือ
พอพี่ชิณณ์หันไปมอง คชามันก็พูดอีก
“น้ำส้มสดๆ ผมไปคัดด้วยรัก คั้นด้วยใจมาให้เลยนะครับ”

คล้ายกับว่ามันหยอกเล่นด้วยการพูดสโลแกนที่อยู่บนป้ายของร้านน้ำส้มรถเข็นนั้น แต่ไม่ใช่เลย พูดจริงจังมากเว่อร์ แล้วก็หมายความอย่างที่พูดด้วย แถมเก๊กเสียงหล่อ ทำหน้าหล่ออีกต่างหาก ทว่าพี่ชิณณ์กลับไม่ได้สนใจ นอกจากยิ้มรับ
“ขอบใจมากนะคชา”

จากนั้นก็ยื่นมาให้ผม
“ดูดสิมาวิน ไม่เห็นดื่มน้ำมาตั้งนานแล้ว เดี๋ยวคอแห้งนะ”

ผมถึงกับเหลือบไปมองหน้าคชาทันใด คชายิ้มค้างจนเหงือกแห้ง ผมเห็นแล้วก็สงสาร มันอุตส่าห์ตั้งใจทำให้พี่ชิณณ์ แล้วพี่ชิณณ์มาทำแบบนี้มันโหดร้ายมากเลยนะ

แต่พอผมไม่ยอมดูด พี่ชิณณ์ก็จับหลอดมาจ่อตรงปากผม
“ดูดหน่อย สักอึกนึง เดี๋ยวพี่จะได้ดูดต่อ”

ด้วยความที่ผมกลัวว่าเพื่อนจะเสียน้ำใจที่พี่ชิณณ์ไม่ดื่มน้ำส้มเพราะผม กลัวพี่ชิณณ์เสียน้ำใจด้วยเช่นกันเลยยอมดูดอย่างว่าง่าย ดูดเสร็จ พี่ชิณณ์ก็ทำท่าจะดูดต่อจากหลอดนั้น แต่ไม่ทัน คชาพุ่งเข้ามาแย่งหลอดพร้อมกับเอาหลอดอันใหม่มาเสียบให้เป็นที่เรียบร้อย พอพี่ชิณณ์หันไปมอง มันก็บอกว่า...
“มาวินเป็นไวรัสตับอักเสบบีน่ะครับ”

เอ้า กูกลายเป็นตัวพาหะเฉยเลย

แต่ก็ช่างแม่งเถอะ เอาเป็นว่าพี่ชิณณ์ยอมเชื่อแล้วก็เปลี่ยนหลอดใหม่ก่อนดูดน้ำส้มก็พอแล้ว ผมเองก็ไม่อยากให้พี่ชิณณ์มาจูบผมทางอ้อมผ่านการใช้หลอดเดียวกันนักหรอก

แล้วหลังจากนั้น คชามันก็เฝ้าวนเวียนพะเน้าพะนอพี่ชิณณ์จนฟ้าเริ่มมืด ฟ้ามืดไม่พอ ฝนยังมาตกอีกต่างหาก ตกหนักชนิดว่าจะตกถึงชาติหน้า ทำเอาพี่ชิณณ์ที่บอกว่าจะกลับหอเพราะเห็นว่าเริ่มดึกแล้วออกไปไหนไม่ได้ เขาเลยมากระซิบบอกผมว่าให้ขอให้คชาขับรถไปส่งเขาที่หอหน่อยเพราะแถวนี้คงไม่มีวินมอเตอร์ไซค์ยอมวิ่งตากฝนแล้ว

ผมก็ไม่มีปัญหาหรอก เป็นคนชวนเขามาก็บริการเขาหน่อย ดีเสียอีกที่ทำอย่างนั้นเพราะคชามันจะได้ใกล้ชิดกับพี่ชิณณ์สองต่อสองสักทีหลังจากที่มันพยายามเรียกร้องความสนใจอยู่นาน

ทว่าพอผมไปบอกมันปุ๊บ แทนที่มันจะรับปาก กลับพูดกับพี่ชิณณ์ด้วยสีหน้าระรื่น
“ตกหนักขนาดนี้ไม่ต้องกลับหรอกครับ ก็นอนที่นี่ซะเลย พรุ่งนี้ค่อยเข้ามอพร้อมกัน”

มึงจะชวนพี่ชิณณ์มานอนด้วยทำกล้วยอะไร ให้มันกลับหอมันไปสิเว้ย!

แล้วแทนที่พี่ชิณณ์จะมีความเกรงใจ ปฏิเสธสักหน่อยอะไรงี้ก็ไม่มีนะ คชาชวนอย่างนั้นก็ตอบรับปั๊บ
“เอาสิ พี่เองก็ยังอยากทำงานต่ออีกนิดเหมือนกัน ดีไหมมาวิน”

ไม่ดี!

แต่ผมกลับทำได้แค่พยักหน้ารับเมื่อเห็นคชาขยิบตาส่งซิกให้ยิกๆ
“ดีครับ ค้างที่นี่เลย ไว้พรุ่งนี้ค่อยเข้ามอพร้อมกัน” ตอบรับด้วยน้ำเสียงเนือยมาก เหนื่อยกับผู้ชายสองคนตรงหน้าเหลือเกิน
“งั้นคืนนี้พี่คงต้องขอยืมเสื้อผ้ามาวินใส่นอนหน่อยนะ”
ผมกำลังจะบอกว่าไม่มีปัญหา แต่คชาที่ยืนฟังอยู่ก็โพล่งขึ้นเสียก่อน
“เอาเสื้อผ้าผมดีกว่าครับ เสื้อผ้ามาวินตัวเล็ก ใส่ของผมน่าจะสบายกว่า”

เออ ว่าไงก็ว่าตามนั้น

ทว่าพี่ชิณณ์กลับไม่รับข้อเสนอ
“ไม่เป็นไร พี่เอาของมาวินใส่นั่นแหละ คชาไม่ต้องลำบากหรอก”

ออกตัวชัดเจนประหนึ่งว่ารังเกียจ คชายิ้มค้าง หน้าแห้งไปอีกระลอก ส่วนผมก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากจะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า เผยข้าวของคอลเลคชันของฮิคารุซามะให้พี่ชิณณ์เห็นก่อนจะหยิบชุดนอนกับผ้าเช็ดตัวผืนใหม่ให้เขา
“ถ้ามันไม่พอดีตัวก็ยืมของคชาใส่แทนนะครับ”
“ไม่น่ามีปัญหาหรอก มาวินไม่ได้ตัวเล็กขนาดนั้นสักหน่อย”

ผมไม่ได้ว่าอะไร ปล่อยให้คชารับหน้าที่พาพี่ชิณณ์ไปที่ห้องน้ำและแนะนำโน่นนี่ประดุจไกด์ทัวร์ มองตามแล้วก็แบบ...เออ มันคงมีความสุขของมันแหละนะ

ผมเลยจัดการหาหมอนกับผ้าห่มสำรองออกมาสำหรับพี่ชิณณ์ ไม่นานนัก พี่ชิณณ์ก็อาบน้ำเสร็จ ใส่เสื้อผ้าของผมได้พอดีตัวเลยทีเดียว คชาเลยทำปากยู่ไม่พอใจนิดหน่อยที่พี่ชิณณ์ไม่ได้ใส่เสื้อผ้ามัน ผมอดคิดไม่ได้เลยนะว่ามันคงกะจะเอาเสื้อผ้าที่พี่ชิณณ์ใส่แล้วเก็บไว้เป็นคอลเลคชันอีก โชคดีแล้วล่ะที่พี่ชิณณ์ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าของมัน ไม่อย่างนั้นผมคงต้องหลอนกับความเพี้ยนของคชาอย่างแน่นอน

จากนั้นผมกับคชาก็จัดการไปอาบน้ำอาบท่าบ้าง แล้วก็ทำงานกับพี่ชิณณ์ต่ออีกนิดหน่อย พอเห็นว่าใกล้จะตีหนึ่งแล้วถึงได้ชวนกันไปนอน
ทีนี้ปัญหาระลอกใหม่ก็มาอีกระลอกเมื่อพี่ชิณณ์คว้าหมอนกับผ้าห่มลงมาวางบนพื้น ทำเอาคชาร้องถามทันควัน
“พี่ชิณณ์ทำอะไรน่ะครับ”
“ก็เตรียมตัวนอนไง”
“แล้วทำไมเป็นที่พื้น”
“ทำไมล่ะ นอนพื้นแล้วมีอะไรแปลกเหรอ”
“ไม่แปลกหรอกครับ แต่พี่ชิณณ์อายุมากกว่าจะนอนพื้นไม่ได้ ผมถือ นอนบนเตียงเถอะนะ”

ได้ยินคชาว่าด้วยท่าทางกระตือรือร้นอย่างนั้น ผมถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้

มึงจะไปห้ามมันทำไม มันอยากนอนพื้นก็ให้นอนไปสิวะ!

แต่ก็ต้องเข้าใจว่าคชามันอยากใกล้ชิดพี่ชิณณ์ ถ้าสิงเข้าไปในรูขุมขนได้ มันคงจะมุดเข้าไปทำรัง ตอดนิดตอดหน่อยพี่ชิณณ์จนสาแก่ใจอย่างแน่นอน และพอมันพูดอย่างนั้น ผมก็เหลือบไปเห็นมันขยิบตายิกๆ ส่งสัญญาณให้ผมช่วยพูดทันที ผมถอนหายใจออกมาอีกระลอกพลันว่า

“พี่ชิณณ์นอนบนเตียงไปเถอะครับ ไม่เป็นไรหรอก”
“ถ้าพี่นอนเตียง แล้วใครจะนอนพื้นล่ะ” พี่ชิณณ์ถาม
“เดี๋ยวผมนอนเอง” ผมบอก

เท่านั้นคชาก็ยิ้มหน้าชื่นตาบาน สีหน้าบ่งบอกชัดเจนว่า ‘กู้ดจ็อบเพื่อนฝูง’

ก็แน่ล่ะ ผมเปิดโอกาสให้มันถึงขนาดนี้แล้วนี่ มันไม่ดีใจสิแปลก

หากแต่พอผมพูดไปอย่างนั้น พี่ชิณณ์ก็ปฏิเสธ
“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็เหมือนกับว่าพี่มาแย่งเตียงมาวินนอนเลยน่ะสิ เอาอย่างนี้ดีกว่า ถ้ามาวินนอนพื้น พี่ก็จะนอนกับมาวินด้วย แล้วก็ใช้คชานอนบนเตียงไปคนเดียวแล้วกันเนอะเพราะคชาตัวใหญ่ ใช้พื้นที่เยอะ”

ผมแทบจะส่ายหน้าพรืด แต่ไม่ต้องออกปากปฏิเสธแล้วเพราะคชามันโพล่งแทนแล้ว
“ไม่ได้!”
ผมกับพี่ชิณณ์หันไปมองมันเป็นตาเดียวกันทันที
“ถ้าพี่ชิณณ์จะลงไปนอนกับมาวินอย่างนั้น งั้นเราสามคนมาร่วมเตียงเดียวกันเลย!”

นอนเตียงเว้ยนอนเตียง ร่วมเตียงนี่มึงไปร่วมกับพี่ชิณณ์สองคนเถอะ ไม่ต้องลากกูไป!

จะมีแต่ผมเท่านั้นแหละที่ทำหน้าปูเลี่ยน ส่วนพี่ชิณณ์ก็หัวเราะร่วนเป็นการใหญ่
“แล้วมันจะไม่อึดอัดเหรอ คชาตัวใหญ่นะ”
“ใหญ่กว่าพี่ชิณณ์นิดเดียว ไม่เป็นไรหรอกครับ มาวินก็ตัวหน่อยเดียว ไม่อึดอัดแน่นอน”
คชาว่าอย่างมั่นใจ ทำให้พี่ชิณณ์หันมาถามผม
“แล้วมาวินล่ะว่าไง”
ผมเหลือบมองคชาที่พยักหน้าให้ผมยิกๆ ผมก็รู้ตัวว่าต้องตอบยังไง
“ถ้าคชาไม่มีปัญหา ผมก็ไม่มีปัญหาครับ”

เท่านั้นคชาก็ยิ้มแป้นแล้นอย่างน่าหมั่นไส้ ก่อนที่มันจะตะแล้ดแต๊ดแต๋ไปเอาหมอนกับผ้าห่มที่อยู่บนพื้นขึ้นมาวางไว้บนเตียง
“งั้นเลือกที่นอนกันเลย พี่ชิณณ์นอนข้างผมไหม มาวินจะได้ไปนอนริมในสุด” จัดการจัดตำแหน่งให้โดยไม่ถามสุขภาพผมสักคำด้วย

ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกถ้ามันจะให้ผมนอนติดข้างฝา ผมตัวเล็ก ใช้พื้นที่ไม่เยอะ ซ้ำยังไม่ได้เป็นคนนอนดิ้น ที่แค่แมวดิ้นตายนั่นผมนอนได้อยู่แล้ว

ทว่าคชาก็ต้องหน้าเงิบเมื่อพี่ชิณณ์ตอบกลับมา
“ไม่ดีกว่า พี่อยากนอนข้างมาวินมากกว่าน่ะ”

เท่านั้นคชาก็หน้าเจื่อนไปทันตา ผมก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ประมาณว่า ‘ไม่ใช่ความผิดกูนะเว้ย’ แต่แล้วก็ต้องสำนึกขึ้นได้ว่าการที่ผมไม่ทักท้วงอะไรมันคือความผิดมหันต์ เพราะหลังจากนั้นพี่ชิณณ์ก็ว่าขึ้นอีก
“แต่พี่ขอนอนริมนะ ไม่ถนัดนอนกลางน่ะ”

แล้วมันใช่เรื่องที่กูต้องมานอนคั่นกลางระหว่างมึงกับไอ้คชาไหม!
สวรรค์ของคชาที่จะได้นอนข้างพี่ชิณณ์และซุกไซ้เข้าไปในรูขุมขน ลวนลามหนังกำพร้าอย่างจาบจ้วงมลายหายไปทันตา ขณะที่
ผมได้แต่หัวเราะแห้งๆ เพราะไม่รู้ว่าจะปฏิเสธยังไง ส่วนพี่ชิณณ์ แค่พูดจบแม่งก็กระโดดขึ้นไปบนเตียงเป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับตบเตียงปุๆ เรียกผมอีกต่างหาก

“มาวินนอนข้างพี่ตรงนี้นะ นอนติดกับพี่หน่อยจะได้ไม่ต้องไปเบียดคชาเนอะ”

กูสมควรนอนติดกับไอ้คชามากกว่ามึงอีก!

ทว่าจะพูดอะไรได้ล่ะ นอกจากชำเลืองมองคชาเล็กน้อย ก่อนที่คชาจะทำหน้าเบิกบานเทเลทับบี้สุดชีวิตแล้วกระซิบที่ข้างหูผม
“มึงอย่าแกล้งทำเป็นละเมอจับเจี๊ยวพี่ชิณณ์เชียว”

กูจะไปอยากจับทำมะเขืออะไรล่ะ แค่เห็นทุกครั้งที่เจอหน้า กูก็เอียนแล้วเว้ย ไอ้คนอยากจับน่ะมึงต่างหาก!

ผมบุ้ยปากใส่ ก้าวขึ้นเตียงอย่างไม่มีทางเลือก พี่ชิณณ์มาทิ้งตัวลงนอนที่ข้างหนึ่งของเตียง คชาที่เดินไปปิดไฟเรียบร้อยก็มาทิ้งตัวลงนอนอีกข้าง ส่วนผมนั้น... นอนตัวแข็งเกร็ง อีกไม่นานตะคริวคงลามขึ้นไปกินสมองเป็นแน่แท้

ข้างนึงก็พระเอกหนัง GV ที่ผมเห็นว่าอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าแม้จะใส่เสื้อผ้า ส่วนอีกคนก็ไอ้บ้าหื่นกามที่หลงตัวเองทุกวินาทีที่หายใจ

แซนด์วิซแบบนี้กูไม่ปลื้ม!

พยายามจะไม่คิดอะไรนะ แต่ก็นอนหลับไม่ลงเลยแม้แต่น้อย ยิ่งพยายามข่มตาหลับก็ยิ่งนอนไม่หลับ ผ่านไปชั่วโมงกว่าก็ยังไม่หลับ ได้แต่ลืมตามองเพดานผ่านความมืดนิ่งๆ กระทั่งหูได้ยินเสียงเรียกเบาๆ ที่แทบจะมีแต่เสียงลม
“มาวิน... นอนหรือยัง”
พี่ชิณณ์เป็นคนเรียก

ผมตะแคงหน้าหันไปมอง ก่อนจะเห็นพี่ชิณณ์ใช้ไฟหน้าจอโทรศัพท์ส่องหน้าตัวเองอยู่
“ใกล้แล้วครับ มีอะไรเหรอ” ผมโกหกไปอย่างนั้นเพราะไม่อยากจะคุยกับเขาเท่าไหร่ด้วยคิดว่าคชาหลับไปแล้ว เดี๋ยวจะรบกวนมันเอา

“ไม่มีอะไรหรอก พี่แค่จะบอกมาวินว่าพี่จะนอนแล้วนะ”
เอ้าไอ้นี่ นอนก็นอนไปสิ มาบอกกูทำไม
ผมย่นคิ้วเล็กน้อย ทว่าก็ไม่ได้พูดอะไรนอกจากจะส่งเสียงในลำคอ
“อืม นอนเลยครับ”

หากแต่พี่ชิณณ์กลับทำในสิ่งที่ผมไม่ทันคาดคิดด้วยการเอื้อมมือมาปัดปรอยผมที่ปรกหน้าผากผมอยู่ออก จากนั้นก็ส่งยิ้มให้
“ฝันดีนะมาวิน”
ผมนิ่งไปชั่ววินาทีหนึ่งเลย ก่อนจะได้สติแล้วรีบตอบกลับ
“ครับ ฝันดีครับ”

หลังจากนั้นไม่นานพี่ชิณณ์ก็ผล็อยหลับไปอย่างง่ายดาย ปล่อยให้ผมนอนตาค้างอยู่อย่างนั้นอีกพักหนึ่งด้วยมั่นใจขึ้นทุกขณะแล้วการที่พี่ชิณณ์บอกสเปกผู้ชายผมมาอย่างนั้นต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน แต่เป็นการตั้งใจบอก

พี่ชิณณ์ชอบผม... ประโยคนี้วนเวียนอยู่ในหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก่อนที่จะทำให้ผมเริ่มหลอน ไม่กล้านอนใกล้พี่ชิณณ์มากกว่าเดิม พลันค่อยๆ ขยับตัวออกห่าง แน่นอนว่าคืนนี้ผมไม่นอนตะแคงไม่ว่าจะฝั่งไหน

ตะแคงหันหน้าให้พี่ชิณณ์ ทางตูดก็หันไปทางคชา

หันหน้าไปทางคชา ทางตูดก็หันไปทางพี่ชิณณ์

ไม่ว่าจะทางไหนก็อันตรายทั้งสิ้น!

เกลียดแซนด์วิซขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล สาบานว่าจะเลิกกินไปพักใหญ่เลยทีเดียว

มันเป็นเวรเป็นกรรมอะไรของมึงวะไอ้มาวิน ทำไมชีวิตไม่เคยวินสมชื่อเลยวะเนี่ย!

ผมได้แต่พึมพำกับตัวเองในใจอยู่อย่างนั้น ก่อนจะต้องสะดุ้งเมื่อรู้สึกว่ามีออะไรบางอย่างไต่มาบนหน้าท้องผมที่อยู่ใต้ผ้าห่ม พอผมหันหน้าไปยังทิศทางของวัตถุประหลาดนั้นก็ต้องเบิกตาโพลงอย่างตกใจเมื่อจู่ๆ เอวก็โดนรัดแล้วถูกรั้งออกห่างจากพี่ชิณณ์ พร้อมกับเสียงแหบเบาๆ ดังมาให้ได้ยิน

“อย่าไปนอนติดพี่ชิณณ์มากสิวะ”

ไอ้คชา! มึงมากอดกูทำไมเนี่ย!

กอดไม่พอ ยังจะบังคับให้ผมพลิกตัวนอนตะแคงหันหน้าไปทางมันด้วย
“ห้ามหันไปหาพี่ชิณณ์ด้วย เดี๋ยวมึงแอบละเมอจูบพี่ชิณณ์”

กูจะไปทำอย่างนั้นทำบ้าอะไร มึงมโนไปเองทั้งนั้น!

“เราไม่ทำหรอก เลิกดึงเราเข้าหาตัวอย่างนี้ได้แล้ว” ผมร้องท้วงเมื่อรู้สึกว่าลำตัวของผมกับมันแนบชิดกันมากเกินไป
แต่คชามันฟังเสียที่ไหน ดึงผมเข้าไปใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจไม่พอ ยังมีหน้ามาพูดเรื่องอื่นอีก
“กันไว้ดีกว่าแก้ เกิดมึงเผลอใจให้พี่ชิณณ์ขึ้นมา เดี๋ยวมึงจะช้ำใจเพราะกูหล่อกว่าแล้วพี่ชิณณ์จะหลงกู”
ผมเบ้ปากทันที ก่อนที่มันจะทำให้ผมเบ้ปากหนักกว่าเดิม
“เออ กูก็ลืมไปว่ามึงชอบกูนี่หว่า ช้ำใจซ้ำซ้อนเหมือนพิการซ้ำซ้อนเลยนะมึง”

จะเป็นมึงหรือพี่ชิณณ์ก็ไม่ทำให้กูช้ำใจทั้งนั้นแหละเว้ย มึงมันไอ้บ้าหลงตัวเอง!

อยากจะจับหัวมันโขกกำแพงนักแต่ก็กลัวจะทำพี่ชิณณ์ตื่น ที่สำคัญ ผมต้องออกจากสภาพที่เป็นอยู่นี่ก่อน ถ้าพี่ชิณณ์ตื่นขึ้นมาเห็น รับรองเลยว่าได้เข้าใจผิดไปไหนต่อไหนแน่
“จะอะไรก็ช่าง ปล่อยเราก่อน” ผมว่าพลางออกแรงดันแผงอกตรงหน้าน้อยๆ ทุกอย่างเป็นไปอย่างเบามือที่สุดด้วยเกรงว่าพี่ชิณณ์จะรู้สึกตัว

ทว่าคชาไม่ปล่อย กลับดึงผมเข้าไปใกล้ ใช้แขนอีกข้างสอดเข้ามาใต้หัวผมให้ผมนอนหนุน แล้วรั้งท้ายทอยเข้าใกล้จนหน้าผมแนบชิดไปกับไหปลาร้าของมัน
“ไม่ปล่อย ถ้ากูเผลอแล้วเดี๋ยวมึงหลอกจับเจี๊ยวพี่ชิณณ์ กูไม่ยอม”
ใครมันจะอยากไปจับวะเฮ้ย! มึงอยากจับเองแล้วอย่ามาทำเป็นยัดเยียดให้กูนะ!
“พูดบ้าอะไรวะ ปล่อยเรา” ผมโวยเล็กๆ
แต่คชาไม่ปล่อย ใช้มือข้างที่รั้งเอวผมอยู่ตีก้นผมไปทีนึงด้วย ทำเอาผมสะดุ้งสุดตัว เสียววาบทั้งร่างก่อนที่หูจะได้ยินคชาดุออกมา
“มึงอย่าเรื่องเยอะ นอนเฉยๆ ไปเลย ยุกยิกไปมาเดี๋ยวพี่ชิณณ์ตื่น”

ผมนิ่งทันใด ไม่ใช่ว่าเชื่อฟังมันหรอกนะ แต่อึ้ง...

มึงมาตีก้นกูทำไม!

แล้วก็ดูท่าทางมันจะไม่ตีครั้งเดียวด้วย เพราะพอผมนิ่ง มันก็ขู่มาอีก
“ถ้ายุกยิกอีกเมื่อไหร่ กูจะฟาดให้ก้นลาย”

มึงฆ่ากูเลยเถอะถ้าจะทำกันแบบนี้น่ะ!

ผมแทบจะหลั่งน้ำตาออกมาเป็นสายเลือด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากทำตามที่คชาสั่ง ก่อนที่ความอึ้งงันจะค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความตื่นเต้นเมื่อคชาจรดปลายจมูกลงมาบนกระหม่อมของผม
“หัวมึงหอมดีว่ะ”
จากนั้นก็สูดกลิ่นยาสระผมจากหัวผมเข้าปอดไปอีกที
“แต่ถึงจะหอม มึงก็อย่าสระผมตอนกลางคืนบ่อยนะ เดี๋ยวหัวเป็นเชื้อรา”

อะ...ไอ้คชา

ผมไม่รู้เลยว่าควรจะพูดอะไรออกไปจึงแกล้งทำเป็นหลับไปแม่งเลย ขณะที่หน้าร้อนวูบวาบกับการกระทำนั้นด้วยผมไม่คุ้นชินกับการใกล้ชิดคนอื่นอย่างนี้สักเท่าไหร่ แต่การได้ใกล้ชิดกับคชาอย่างนี้ก็ทำให้ผมพอจะคลายความกังวลเรื่องเป็นแซนด์วิชที่เป็นไส้คั่นกลางระหว่างคชากับพี่ชิณณ์ไปได้บ้าง

คลายกังวลเรื่องนั้นแป๊บเดียว แต่ดันต้องมากังวลเรื่องไอ้คชาที่จู่ๆ ก็เข้าเฝ้าพระอินทร์อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย นอนกรนคร่อกๆ คางเชยกระหม่อมผมเสียอย่างนั้น

มึงกรนดังคางสั่นลามมาถึงหัวกูขนาดนี้ อย่าทำน้ำลายไหลมาโดนหัวกูนะเว้ย!

กลายเป็นหมอนข้างให้มันไปโดยปริยาย ผมถอนหายใจออกมาเต็มแรง ค่อยๆ ดันตัวออกห่างจากคชาเล็กน้อย แต่ก็โดนคชารั้งเข้าไปกอดอีก คราวนี้ไม่ได้มีแต่แขน ขาก็มากอดก่าย ผมเลยปล่อยให้เลยตามเลยทั้งที่ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายยังคงเต้นแรงจนได้ยินเสียงชัดเจน

ตื่นเต้นกับมันทำไมวะไอ้มาวิน...
--------------------------------------
มาเต็มตอนแล้วจ้า เพิ่งตื่น 555
ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะขำหรือสงสารมาวินดี โถลูก มีหนุ่มหล่อตั้งสองคนมานอนขนาบข้าง ควรดีใจนะลูก 555
ฝากฟีดแบ็กไว้หน่อยนะคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาต่อให้จ้ะ

ออฟไลน์ Himbeere20

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คชา บ้า บ้า บ้าาาาาาาา  :m20: :m20: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ Bronc

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
อ่านคชาแล้วงง ปากว่าหวงพี่ชิณณ์ แต่ทำเหมืองหวงอีกคน ทั้งกอดทั้งหอมหัว 555

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
คชามันมีสติไหม?

ความเงิบที่เจอจากพี่ชิณณ์ไปหลายดอกนี่ไม่ช่วยอะไรเลย

วินเอ๊ยยยย น่าอิจฉามาก
ถ้าเป็นฉันคงพุ่งเข้าไปฟัดหัวนมชมพูของพี่ชินแล้ว ฮ่า ๆ ๆ ๆ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
สงสารมาวิน ความวุ่นวายนี้...

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Ujeen

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อร้ายยยยยยยนุ้งมาวินหวั่นไหวแล้วววววว รออิคชาเป็นคนต่อไปปป อิอิ

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ถ้าคชาเป็นคนปกติจะหล่อมากกกด  :hao7:

ออฟไลน์ yotisssa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ความคชานี้ เราชอบจริงๆ 555t

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด