▲♦ มังกรกานต์ (มังกรขาว) ♦▼ ตอนพิเศษ (3/7/2017)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ▲♦ มังกรกานต์ (มังกรขาว) ♦▼ ตอนพิเศษ (3/7/2017)  (อ่าน 58074 ครั้ง)

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 7 (29/01/2560)
«ตอบ #30 เมื่อ29-01-2017 14:51:59 »

ดูแปลก ๆ กานต์ฝันหรือพี่ณิณละเมอ

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 7 (29/01/2560)
«ตอบ #31 เมื่อ29-01-2017 17:02:06 »

พี่นินร้ายยยยยยย

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 7 (29/01/2560)
«ตอบ #32 เมื่อ29-01-2017 20:20:04 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ virgo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 8 (02/02/2560)
«ตอบ #33 เมื่อ02-02-2017 22:28:20 »

บทที่ 8

   “อืม  อุ่นจัง” กานต์พลิกตัวเข้าหาไออุ่นที่ตัวเองสัมผัสได้  เอียงซุกอย่างมีความสุข  ถูไถใบหน้าลงบนอกกว้าง... เดี๋ยวนะ  อกกว้างนี่มาจากที่ไหนกันวะ  ตาสีดำเหลือบน้ำเงินกะพริบปริบอย่างเกียจคร้าน  ก่อนจะไล่สำรวจต้นเหตุแห่งความอุ่นที่นอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่ตรงหน้า

   มองตั้งแต่ดวงตาที่ตอนนี้ปิดสนิท  ไล่มาตามสันจมูกที่โด่งสวย  รับกันดีกับริมฝีปาก... ที่โคตรหวาน  อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปไล้เบาๆ บนกลีบปากอิ่มที่อยู่ในระยะประชิด  เหมือนเจ้าตัวจะรำคาญ  จึงส่ายหน้าหนี  แต่อ้อมแขนกลับกระชับรัดคนในอ้อมกอดแน่นขึ้น

   ธรณินย้ายมานอนห้องเดียวกับกานต์ได้หลายวันแล้ว  แค่ได้นอนพูดคุย  เล่นกอดกันจนหลับไปก็มีความสุขมากๆ แล้ว  วันไหนพิเศษหน่อยก็จูบกันจนปากเจ่อกันไปข้างนึง  ส่วนไอ้กิจกรรมเข้าจังหวะต่อจากจูบนั้น  ถึงจะอยาก  แค่กๆ ไม่ใช่สิ  ยังไม่ถึงเวลาที่สมควร (แปลว่าถ้าถึงเวลาที่สมควรจะจัดให้หายอยาก?)

   กำลังลวนลามทางสายตาอยู่เพลินๆ หน่วยตาเรียวยาวก็กระพริบเปิดมาจ้องตอบ  พร้อมโจมตีกลับด้วยรอยยิ้มที่กระตุกมุมปากแค่นิดเดียว  แต่แม่ง... หล่อโคตร

   “น้ำลายไหลย้อยตรงมุมปากแน่ะกานต์”

   กานต์ตะปบมุมปากทันทีตามสัญชาติญาณ  แต่เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะหึๆ ก็ฟาดมือใส่เอวฝ่ายตรงข้ามทันที

   “อูย... มือหนักชะมัด  แซวนิดแซวหน่อยนี่ไม่ได้เลย  มือถึงตลอด”

   ธรณินลุกขึ้นนั่งบิดขี้เกียจ  ผ้าห่มที่ปิดคลุมช่วงอกไว้หล่นลงมากองแถวเอว  เปิดเผยให้เห็น... ชุดนอนลายสก็อตสีฟ้าแขนยาว  กานต์นอนเทท้าแขนตะแคงมองทำเสียงจึ๊กจั๊กในลำคออย่างขัดใจ

   “พี่ณินจะรัดกุมอะไรขนาดนั้นครับเนี่ย  แขนยาว  ขายาว  ไม่หาหมวกไอ้โม่งมาใส่นอนไปเลยล่ะครับ”

   “เพราะพี่หุ่นดีขยี้ใจยังไงล่ะ  เกิดมาเปลื้องผ้านอนแถวนี้  เดี๋ยวก็มีมังกรใจแตกนอนกำเดาทะลัก  น้ำลายไหลย้อยตายกันพอดี  พี่ไม่อยากทำบาปหรอก”

   พูดจบก็สะบัดผ้า  เดินผมชี้โด่ชี้เด่โซซัดโซเซเข้าห้องน้ำไป  มาดเนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้าถูกเก็บทิ้งไปหมดแล้วเมื่ออยู่กันสองคน  ไม่รู้จะดีใจที่ธรณินให้ความสนิทสนมหรือท้อใจที่ไม่คีพลุคกันบ้างดี  แต่ยอมอภัยให้  เพราะคนหล่ออะเนอะ  ตื่นมาหัวยุ่งหน้ามัน  ยังหล่อน่าลากได้อีก

   “กานต์” เสียงตะโกนเรียกโหวกเหวกจากในห้องน้ำ  ทำให้กานต์ต้องแงะตัวเองลุกจากที่นอนเดินไปหาเจ้าของเสียงเรียก  อ้าปากหาวหวอดก่อนตะโกนกลับไป

   “ครับพี่”

   “สบู่ตกอ่ะ  เข้ามาเก็บให้พี่หน่อยสิ”

   ใบหน้าที่พราวไปด้วยหยดน้ำยื่นออกมาจากช่องประตูที่เปิดแง้มออกเล็กน้อย  ส่งยิ้มกวนอวัยวะเบื้องล่างมาให้  บางครั้งกานต์ก็คิดนะว่าอยากได้พี่ณินคนเดิมกลับมา  พี่ณินคนนี้นี่มันอัพเลเวลเกินไปแล้ว

   
   บรรยากาศบนโต๊ะอาหารยามเช้า  เพียบพร้อมไปด้วยอาหารทั้งไทยและเทศ  ควันจากอาหารในจานแก้วเนื้อดีลอยกรุ่นเป็นสาย  ผู้ชายร่างสูงบรรจงตักกับข้าวใส่จานให้คนตัวเล็กกว่า  ก่อนจะหัวเราะแล้วส่ายหน้ายิ้มๆ กับกิริยาที่มีอาหารติดแก้ม  นิ้วเรียวยาวยื่นออกมาเช็ดปาดออกให้  ดวงตาพราวระยับทอประกายอบอุ่น  ก่อนโน้มตัวฉกวูบลงมอบจูบแสนหวานให้...

   “อยากได้อย่างนี้” กานต์นึกแล้วแทบจะลงไปนอนดิ้นปัดๆ กับพื้น  มือกำเบอร์โทรศัพท์ร้านข้าวตามสั่งข้างใต้คอนโดที่ธรณินให้มาไว้แน่น  เดินลากเท้าอย่างเซื่องซึมไปหยิบโทรศัพท์มาพลางตะโกนถาม

   “พี่ณิน  เอาอะไร”

   “ถ้าให้เอาน่ะ  จริงๆ อะไรก็ได้นะ”

   คันปากยิบๆ อยากจะสวนหยอดกลับไปสักดอก  แต่กลัวพี่ณินแกเอาจริงขึ้นมา  ทีนี้ล่ะหลายดอกแน่ๆ กานต์หันมายิ้มฉีกปาก  แต่ไม่ถึงดวงตา  รู้สึกเส้นเลือดที่ข้างขมับลั่นดังเปรี๊ยะๆ ทำไมพี่ณินเป็นคนแบบนี้

   “ดีๆ ครับพี่  จะกินอะไร”

   “พี่กินง่ายอยู่ง่าย  ต้มยำอกหัก  ผัดผักแอบรักอะไรก็สั่งมาเถอะ”

   กานต์ถือวิสาสะสั่งข้าวผัดหมูไปเลยสองกล่อง  ดีกว่ารอคำตอบที่ไม่รู้จะตอบเมื่อไหร่  สั่งเสร็จก็เดินมานั่งหน้าตูมอยู่บนโซฟาหน้าทีวี  เสียงโทรศัพท์มือถือของธรณินก็ดังขึ้นมา

   “ครับ  สวัสดีครับ  ผมธรณินครับ  อ้าว! สมชาย  มีอะไร  โทรมาแต่เช้าเชียว  ยังเลย  ผมเพิ่งตื่น  ยังไม่ได้เปิดโทรทัศน์เลย  โอเค  ได้ๆ เดี๋ยวผมดูก่อนแล้วเดี๋ยวผมโทรกลับ”

   ธรณินกดปิดโทรศัพท์ไปแล้ว  แต่หัวคิ้วขมวดมุ่น  ดวงตากร้าวขึ้นอย่างมีอารมณ์โกรธ  มือควานหารีโมทโทรทัศน์ที่โยนส่งๆ ทิ้งไว้แถวโซฟา  แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ  จนกานเอื้อมมือมาสะกิดแล้วส่งรีโมทให้  จึงทิ้งตัวลงนั่งอย่างไม่สบอารมณ์นัก

   มือใหญ่รวบเอวคนด้านข้างเข้ามากอด  ก้มลงสูดดมกลุ่มผมนุ่มสีน้ำตาลทอง  ก่อนเอ่ย

   “งานเข้าเราเล็กน้อยน่ะกานต์  เราเป็นข่าวกับพี่  กลัวไหม”

   “เป็นข่าว? ยังไงอ่ะพี่”

   “มา  ดูพร้อมกันเลยก็แล้วกัน”

   ธรณินเปิดโทรทัศน์ตามที่สมชายบอกมาเมื่อครู่  ภาพข่าวที่เห็นคือตัวเขาโอบประคองกานต์ออกมาขึ้นรถในวันที่กานต์โดนจับขังอยู่ในห้องเก็บของ  แต่มุมกล้องที่ถ่ายออกมา  ประกอบกับคำพูดที่ผู้สื่อข่าวบรรยาย  สื่อออกมาในทางชู้สาวเสียมากกว่า

   “อ๊ะๆๆ สาวๆ อกหักกันทั้งประเทศ  สุดยอดผู้จัดการดารา  บริษัทผู้จัดการจำกัด  แอบกินตับเด็กในสังกัด  เดินสะโหลสะเหลจนต้องโอบประคองกันขนาดนี้  อู๊ย... ท่าจะแซ่บนะค้า”

   ธรณินฉุนกึกทันที  ในสมองครุ่นคิดแต่ว่าใครเป็นคนแอบถ่าย  แล้วทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร  ที่น่าโมโหที่สุดคือ  ไอ้คำว่าแอบกินตับเด็กนี่แหละ  ยังไม่ได้กินสักคำเลยให้ตาย!!! (ผะ... ผิดประเด็นไหมคะคุณพี่)

   เหลือบมองคนข้างกาย  เห็นนั่งจ้องจอสี่เหลี่ยมตาเขม็ง  ยังเด็กอยู่นี่นะ  คงช็อคที่ถูกโจมตีออกสื่อขนาดนี้  คิดแล้วก็สงสาร  ได้แต่บีบมือให้กำลังใจเงียบๆ นานเป็นครู่ถึงได้เปิดปากถาม

   “กานต์... โอเคไหม”

   “เบลอๆ น่ะครับพี่”

   “ไม่เป็นไรนะ  พี่เข้าใจ  แต่ข่าวแบบนี้  เล่นอยู่ประมาณไม่เกินอาทิตย์หรอก  เดี๋ยวพอมีข่าวใหม่เขามาก็กลบข่าวเก่ามิดไปเอง  มีแต่ต้องระวังตัวเวลาออกไปข้างนอก  ถ้ากานต์กลัวก็ใส่หมวกใส่แว่นปิดหน้าตาเสียหน่อย  ก็คงพรางตัวจากพวกปาปารัซซี่ได้”

   “หมายถึงภาพที่ถ่ายมาน่ะเบลอไปหน่อยนะครับ”

   “ฮะ!!!”

   “ก็พี่ณินดูสิ  ถ่ายรูปออกมาแย่มาก  ผมว่าผมหล่อกว่าที่เห็นในภาพตั้งเยอะ  แล้วดูช่วงเอวสิ  ย้วยเชียว  ใครไม่รู้จักผมก็ต้องหาว่าผมเผละไปละ  นี่มันเป็นรูปที่ถ่ายออกมาเพื่อสร้างทัศนคติด้านลบกับผมชัดๆ นี่เข้าใจชัดเลยนะ  ว่าทำไมพี่ณินถึงโกรธนักโกรธหนา”

   “มันไม่ใช่อย่างนั้นกานต์”

   “อ้อ  ใช่  รูปของพี่ณินถึงจะเห็นชัด  แต่... ขอโทษนะพี่  แต่หน้ามันเยิ้มเชียว”

   ธรณินจับไหล่ให้กานต์หันมาเผชิญหน้าพลางอธิบายอย่างช้าๆ

   “มันไม่ใช่อย่างนั้นนะกานต์  ประเด็นคือ  ถ้าเป็นข่าวแบบนี้  เอ่อ  ข่าวฉาวแบบชายรักชายอย่างนี้  สำหรับพี่อาจไม่เท่าไหร่  เพราะพี่ทำงานเบื้องหลัง  แต่กานต์คืออยู่เบื้องหน้าไง  อาจมีผลกระทบกับงานของกานต์ได้”

   กานต์เลิกคิ้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ธรณิน

   “นี่พี่เป็นห่วงผมใช่ป่ะ”

   เมื่อได้รับการพยักหน้าตอบกลับก็ฉีกยิ้มกว้าง  เอาหัวถูไถไหล่ธรณินเล่นอย่างมันเขี้ยวทันที

   “แหม... ได้รู้ว่าห่วงกันก็ชื่นจาย” ปลายเสียงลากยาวอย่างยียวน  ก่อนจะกลับมาพูดอย่างจริงจังอีกครั้ง

   “ประเด็นไหนๆ ก็ผลักทิ้งไปก่อนเถอะพี่  ปัญหามีค่อยแก้ไปทีละเปลาะ  แต่ประเด็นเดียวที่ผมอยากรู้ตอนนี้คือพี่ชอบผมบ้างไหม  ยังไม่ต้องพูดถึงรักเริกอะไรหรอก  เวลามันเร็วเกินไปผมรู้  เอาแค่ว่าที่อยู่ด้วยกัน  กิน  ขี้  ขาดปี้  แล้วก็นอนเนี่ย  ตัวติดกันตลอดเวลาขนาดนี้  พี่ได้นึกชอบผมสักนิดบ้างไหม”

   “มันใช่เวลาไหมกานต์”

   “อ้าว! ผมว่ามันคือประเด็นสำคัญที่สุดนะ  ถ้าพี่ชอบผม  เราสองคนใจตรงกัน  เป็นข่าวด้วยกันไม่เห็นจะแปลก  ไม่มีอะไรเสียหายสักหน่อย  อย่าไปคิดอะไรที่มันซับซ้อนนักสิพี่ณิน”

   คนฟังคำอธิบายถึงกับนิ่งไปทันที  ย้อนคิดถึงวันที่อยู่ร่วมกันมา  ก็เกือบจะได้เสียกันหลายครั้ง  แค่กๆ ข้ามไปๆ นึกถึงวันที่อยู่ร่วมกันมา  เจ้ามังกรตัวนี้ก็ขี้อ้อน  นิสัยก็ออกจะน่ารัก  มาถามกันตอนนี้ว่าชอบไหม  ก็ตอบได้เลยว่า ‘มาก’

   “หรือพี่ณินกลัวไม่มีงาน  แล้วจะไม่มีเงิน  ไม่ต้องกลัวนะพี่  เป็นสะใภ้วังมังกรน่ะค่อนข้างมีฐานะอยู่”

   ฝ่ามือที่ตบแปะๆ ลงบนบ่า  ทำให้ธรณินที่พยักหน้ารับก่อนจะคิดได้ส่ายหน้าเป็นพัลวัน  กานต์หัวเราะฮ่าๆ อย่างสะใจ  ที่เห็นอีกฝ่ายทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก  สองมือโอบกอดธรณินไว้หลวมๆ พลางกระซิบริมหู

   “โอ๋ๆ นะพี่ณิน  กานต์อยู่ตรงนี้  มีปัญหาอะไรไม่ต้องกลัว  เดี๋ยวกานต์ช่วยแก้ให้นะ”

   ร่างที่โดนกอดพรูลมหายใจยาว  เออ... แก่กว่าแล้วยังให้เด็กมาปลอบอีกนะเรา  กระชับอ้อมแขนกอดตอบ  ซึมซับความหวังดีที่ส่งผ่านมาจากวงแขนนั้นอย่างอบอุ่นหัวใจ

   “ไหน  ยังไม่ได้ตอบป๋ากานต์เลยว่าหนูณินชอบป๋าบ้างไหมจ๊ะ?”

   เพี๊ยะ!!! อยู่ดีไม่ว่าดีวอนโดนดีดนัก

   หลังจากผ่านเวลาซึ้ง (ได้กอดกัน) ปนเศร้า (โดนดีดหน้าผากจนได้) ไปแล้ว  ทั้งสองคนก็เร่งอาบน้ำ  รับประทานอาหารเช้าอย่างรวดเร็ว  เพราะวันนี้ธรณินมีงานที่ต้องเคลียร์ในบริษัท  เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง  ยกขึ้นมาดูพบว่าเป็นชื่อสมชายแล้วก็ได้แต่ถอนใจยาว  อะไรอีกวะเนี่ย  เมื่อควบคุมสติได้  จึงกดรับสายก่อนกรอกเสียงลงไป

   “ไง  สมชาย”

   “คุณณินค้า  คือว่า  วันนี้จะเข้าบริษัทไหมคะ” สุ้มเสียงนี่ฟังดูก็รู้ว่ามีเรื่อง

   “อย่าพึ่งเข้ามาดีไหมคะ  ตอนนี้มีนักข่าวเต็มหน้าบริษัทเลยค่ะคุณณิน  ซิสซี่ก็อยากเกิดอยู่หรอกนะคะ  แต่เดินไปข้างหน้าไม่ได้เลย  โดนไมค์จ่อสัมภาษณ์ตลอดเวลา  เอาไมค์ทิ่มๆๆ เข้ามากันอยู่ได้  เนี่ย  เนี้อตัวซิสซี่เขียวช้ำไปหมดแล้วนะคะ  สิ้นเดือนนี้คุณณินต้องบวกค่ารักษาพยาบาลให้ซิสซี่ด้วยแหละ”

   กานต์ที่ยืนฟังเสียงซิสซี่ผ่านทางสปีกเกอร์โฟนถึงกับหลุดขำออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่  นึกถึงท่าทางพี่ซิสซี่โดนไมค์ทิ่มแล้วอย่างฮา  แต่พอเหลือบเห็นสีหน้าของธรณินเคร่งเครียดเลยทำปากพูดแบบไม่มีเสียงว่าให้ไปบริษัทตามกำหนดเดิมเถอะ  ในเมื่อกานต์ยังไม่กลัวแล้วเขาจะกลัวอะไร  จึงบอกกับสมชาย

   “ไม่เป็นไรหรอก  เดี๋ยวผมเข้าไป  โอเคๆ อย่าบ่นมาก  อืม  แล้วเจอกัน”

   วางสายจากสมชายไปแล้ว  จึงเดินไปคว้ากระเป๋าสตางค์กับกุญแจรถมาเตรียมพร้อม  เสียงร้องเพลงด้านหลังทำให้ธรณินหันกลับไปมอง  เห็นกานต์เดินฮัมเพลงหงุงหงิงบรรจงหยิบแจ็คเก็ตยีนส์มาสวมทับก่อนจะส่องกระจกจัดแต่งปอยผมที่หล่นระหน้าผากให้เข้าที่เข้าทาง

   “อารมณ์ดีจริงนะเราน่ะ”

   “ครับ???” กานต์หันไปมองตามเสียงนักประชดประชันด้วยหน้าตาเลิกลั่ก

   “เห็นครวญเพลงไปด้วย  แต่งตัวไปด้วย  นี่ถ้าไม่ตกลงกันไว้ว่าจะไปบริษัทนะ  พี่คิดว่าเราจะไปจีบสาวที่ไหนซะอีก”

   “แหม... ที่จีบอยู่ก็มีอยู่คนเดียวเนี่ยครับ  อยาก ‘สาว’ ให้ใจจะขาด  แต่ติดตรงเป้าหมายเขาไม่ยอมให้ ‘สาว’ สักทีนี่สิ”

   ธรณินเลิกคิ้วสูงทันที  เล่นมานี่ไม่กลัวโดนเล่นกลับใช่ไหม  กำลังจะอ้าปากซัดคืนไปให้รู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร  ก็ถูกแรงกระแทกโถมกอดเข้ามาอย่างเต็มรัก  เล่นเอามึนไปเหมือนกัน

   “ตอบมาคำเดียว  ชอบผมไหม”

   เวลาราวกับถูกแช่แข็งไว้  ไม่มีปัญหาใดๆ ให้ต้องปวดหัว  มีเพียงดวงหน้าขาวที่เงยขึ้นจับจ้องในระยะประชิด  มองลึกเข้าไปในดวงตาที่ซื่อตรงกับความรู้สึกตนเองของกานต์แล้วใจก็สั่น  ศีรษะที่ขยับพยักหน้ารับอย่างเชื่องช้าแต่มั่นคง  จุดประกายยินดีในแววตาของกานต์ให้วาบขึ้น  ก่อนจะยิ้มแก้มแทบปริ  เมื่อได้รับคำพูดยืนยันสำทับมาด้วย

   “ชอบสิ... พี่ชอบกานต์”

   ความยินดีสว่างไสวระบายเต็มใบหน้าของคนที่ได้รับฟัง  ครู่หนึ่งจึงผุดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ธรณินรู้สึกขนบริเวณต้นคอลุกชัน... คิดอะไรแผลงๆ อีกแล้วแน่เลย

   “ไม่ต้องเครียด  ไม่ต้องกังวลไปนะหนูณิน  ขอแค่หนูยืนยันว่าชอบป๋า... งานนี้ป๋าจัดการให้”
   

   บริเวณหน้าประตูตึกบริษัทผู้จัดจำกัดวันนี้คลาคล่ำไปด้วยกองทัพนักข่าว  ทั้งจากสื่อสิ่งพิมพ์และโทรทัศน์  ธรณินจอดรถหลบแถวมุมตึกอีกฝั่ง  นั่งสังเกตการณ์อยู่ภายในรถมาสักครู่แล้ว  ยังไม่รู้จะจัดการกับนักข่าวพวกนี้ยังไงดี  จนกานต์ต้องเอ่ยกระตุ้นเตือนให้ลงไปเผชิญหน้าให้จบๆ ไป  ถ้ามีใครถามอะไรซอกแซกนักก็ไม่ต้องโกรธ  ไม่ต้องกลัว  เดี๋ยวตนจะรับหน้าที่ตอบคำถามทั้งหมดเอง  ธรณินเอามือโยกหัวคนพร้อมรับผิดชอบทุกปัญหาเล่น  พลางหลุดหัวเราะขำ... ใครเป็นผู้จัดการกันแน่เนี่ย

   ประตูสองด้านถูกเปิดออกพร้อมกัน  หนึ่งหนุ่มคมเข้ม  กับอีกหนึ่งหนุ่มขาวใสก้าวเท้าลงจากรถด้วยความมั่นใจ  อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดละนะ  พลันเงาร่างคุ้นตาก็ปรากฏขึ้นเหมือนซุ่มดักรอมานาน

   “อิคคิว?” ธรณินเรียกไปด้วยความรู้สึกงุนงง  ผิดกับกานต์ที่แย้มยิ้มทักทาย ในหัวพลันสว่างวาบว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ทันที

   ถ้าเป็นเรื่องข่าวธรรมดายังพอจะตอบคำถามแบบสุภาพไปได้  แต่นี่มีความแค้นส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย  รับรองว่าป๋าจะจัดชุดใหญ่ไฟกระพริบให้เอง  นี่คงเตรียมมาเยาะเย้ยล่ะสิ  รู้จักป๋ากานต์น้อยไป!!!

TBC...

ออฟไลน์ Tennyo_Y

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 8 (02/02/2560)
«ตอบ #34 เมื่อ03-02-2017 01:37:23 »

โอ๊ยขำแรง นี่คือคิดว่ายังกดพี่นินได้หรอน้องกานต์ เอาแค่โดนเขาจูบทีเดียวก็ไปไม่เป็นยังกล้าให้เขาเป็นสะใภ้หรอป๋า กร๊ากกก ฮาได้ตลอด

จัดชุดใหญ่นี่ บอกไปเลยว่า น้องนินเป็นของป๋ากาน ป๋ารวยอยู่แล้ว 5555

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 8 (02/02/2560)
«ตอบ #35 เมื่อ03-02-2017 07:40:06 »

 :pig4:  :pig4:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 8 (02/02/2560)
«ตอบ #36 เมื่อ03-02-2017 07:58:56 »

แหม ปวารณาตัวเป็นป๋าเลยเหรอจ๊ะกานต์
แทบอดใจรออ่านตอนต่อไปไม่ไหว ฮา

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 8 (02/02/2560)
«ตอบ #37 เมื่อ03-02-2017 10:20:05 »

แหม่...ป๋ากานต์สายเปย์ หน้าใหญ่ ใจปลาซิวนะป๋า

คำพูดคำจาแก่แด่ด แต่ประสบการณ์ดักแด้มาก ฮ่าฮ่าฮ่า

เอาเลย จัดชุดใหญ่ไฟกระพริบวิบวับให้บาดตาอิคคิวเลย

และ
และ
และ

"รับประทาน" !!!!!!

ว้าว ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ปรบมือรัว ๆ ชูป้ายไฟ ดิฉันปลื้มปริ่มน้ำตาแทบไหลที่เห็นคำนี้ คุณเป็นนักเขียนเพียงไม่กี่คนที่ใช้คำนี้
ฉันเห็นคำว่า "ทาน" มาเยอะจนเอียน ก็รู้หรอกว่ามันเป็นภาษาปาก แต่ในฐานะคนทำงานด้านภาษา มันก็หนังตากระตุกทุกทีที่เจอ ขอให้รักษาความสละสลวยและสำนวนดี ๆ เช่นนี้เสมอ ๆ นะคะ 

ออฟไลน์ Carnival

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 8 (02/02/2560)
«ตอบ #38 เมื่อ04-02-2017 22:52:03 »

ใครจะเสร็จใครหว่ายังเดาไม่ออก  :hao3:

ออฟไลน์ maneethewa

  • มณีเทวา
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
    • Maneethewa - มณีเทวา
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 8 (02/02/2560)
«ตอบ #39 เมื่อ04-02-2017 23:21:22 »

เค้าอาจจะเสร็จกันทั้งคู่ก็ได้ค่ะ เอร๊ยยยยย :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 8 (02/02/2560)
« ตอบ #39 เมื่อ: 04-02-2017 23:21:22 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ virgo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 9 (06/02/2560)
«ตอบ #40 เมื่อ06-02-2017 19:08:11 »

บทที่ 9

   ท้องฟ้าสว่างเจิดจ้าอยู่ๆ ก็ครึ้มลงฉับพลัน  ลมเย็นเริ่มพัดโชยแผ่วๆ ไม่นานนักละอองน้ำฝนก็โปรยปรายลงมาจากฟากฟ้า  บรรดานักข่าวที่เฝ้ารอทำข่าวต่างวิ่งหลบฝน  เก็บอุปกรณ์ให้พ้นจากความชื้นกันจ้าละหวั่น  พื้นที่ด้านหน้าตึกที่กว้างขวางกลับแลดูคับแคบไปถนัดใจ  เมื่อทุกคนไปรวมกระจุกตรงบริเวณใต้กันสาดร่วมกัน

   ร่มพลาสติกสีเขียวมะนาวที่ปรากฏขึ้น  ดึงดูดให้ทุกสายตาจ้องมองตามอย่างช่วยไม่ได้  ท่ามกลางหยาดฝนที่พร่างพราว  ภาพที่ชายรูปร่างสูงผู้ทำหน้าที่ถือร่มด้วยมือขวา  มือซ้ายโอบประคองหนุ่มน้อยผิวขาวหน้าตาน่ารักให้อยู่ภายใต้ร่ม  จนทำให้ไหล่ขวาของตนชุ่มละอองฝนเป็นแถบ  เรียกความเอ็นดูระคนอิจฉาให้ผู้คนที่ยืนบริเวณนั้นได้เป็นอย่างดี  จนเมื่อทั้งคู่เดินมาใกล้ทางเข้าหน้าตึก  จึงมีคนอุทานออกมา

   “เอ๊ะ! นั่นคุณณินกับน้องที่เป็นข่าวด้วยกันไม่ใช่เหรอ?”

   เสียงหุบร่มดับพรึบ  จากนั้นจึงสะบัดน้ำไล่ออกไป  ทำเอาบรรดานักข่าวยืนตัวเกร็งเตรียมรับอาการเหวี่ยงวีนใส่  พร้อมนึกคำถามไล่ต้อนเอาไว้ในใจอย่างเสร็จสรรพ  ธรณินกวาดสายตามองนักข่าวทุกคนด้วยสีหน้าเรียบเฉยจนอ่านไม่ออก  จากนั้นจึงค่อยๆ คลี่ยิ้มธุรกิจพร้อมด้วยการพนมมือไหว้กล่าวทักทาย

   “สวัสดีครับพี่ๆ ลมอะไรหอบมาครับเนี่ย  มารอทำข่าวอะไรกันเหรอครับ  อุ่นหนาฝาคั่งขนาดนี้ข่าวใหญ่ใช่ไหมครับเนี่ย”

   เสียงรัวชัตเตอร์มาพร้อมกับพายุคำถาม  จนธรณินถึงกับตาพร่าไปครู่หนึ่ง  ขณะกำลังจะเอ่ยปากตอบก็มีคนแย่งบทพูดไปเรียบร้อย

   “สวัสดีครับ”

   เสียงที่เปล่งออกมาเหมือนจะแผ่วเบา  แต่แจ่มชัดที่กลางใจของทุกคนอย่างน่าประหลาด

   กานต์ยิ้มสดใส  พนมมือไหว้อ่อนช้อย  อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว  ดวงตาพราวระยับมองสบตาทุกคนอย่างจริงใจ

   “ขออนุญาตทักทายพี่ๆ ทุกคนนะครับ  ผมชื่อกรนะครับ  เมื่อเช้าเห็นในทีวีเรียกเด็กในสังกัด  ผมน้อยใจนะครับเนี่ย  ไม่เรียกชื่อผมเลย”

   ท่าทางอ่อนน้อมชวนคุย  ทำให้พี่ๆ นักข่าวลดอาการกระเหี้ยนกระหือรือเตรียมจิกทึ้งเหลือเพียงท่าทางรอสัมภาษณ์เท่านั้น

   “ยังไงเดี๋ยวเชิญพี่ๆ ด้านในดีไหมครับ  ยืนตรงนี้เมื่อยแย่เลย  อากาศก็เริ่มเย็นแล้วด้วย  เข้าไปหาอะไรอุ่นๆ ดื่มด้านในดีกว่านะครับ”

   อาการพูดคุยทักทายแถมยังเป็นห่วงเป็นใยพี่ๆ นักข่าว  ไม่มีอาการต่อว่า  ตะเพิดไล่  แม้แต่ความขัดเคืองใจใดๆ ยังไม่มีให้เห็น  ทำให้ภาพลักษณ์ของกานต์ในใจของพี่ๆ เป็นคนน่ารักคุยง่ายสบายๆ ขึ้นมาทันที

   หลังจากที่หาที่ทางให้บรรดานั่งกันจนเรียบร้อย  เสิร์ฟชากาแฟเป็นบริการเสริมอย่างทั่วถึง  กานต์ก็นั่งตัวตรงเตรียมตัวตอบคำถามอย่างเป็นการเป็นงาน  จนมีเสียงแซวเล่นกันให้ครึกครี้น

   นักข่าว : “แหม...น้องกรคะ  ไม่ต้องเคร่งเครียดขนาดนั้นก็ได้  พี่แค่ถามคำถามง่ายๆ สองสามข้อแค่นั้นเอ๊ง”

   ฝ่ายโดนแซวปั้นหน้าเคร่งหันมาตอบเสียงเครียดทันที

   “ซ้อมไว้เผื่อลงสมัคร ส.ส. สมัยหน้าน่ะครับ”

   “อร๊าย”

   เสียงกรี๊ดกร๊าดถูกอกถูกใจของทั้งสาวแท้สาวเทียมดังขึ้นอย่างกับมีจัดแฟนมีทของศิลปินเกาหลีก็ไม่ปาน

   “น่ารัก  ขี้เล่น  เฟรนด์ลี่  เป็นแฟนพี่ไหมจ๊ะ...ฮิ้ววว”

   เมื่อการเล่นมุกมีการโต้ตอบส่งรับกันอย่างสนุกสนาน  การสัมภาษณ์จึงกลายเป็นงานสังสรรค์ของเหล่ากระจอกข่าวไปอย่างช่วยไม่ได้  ไม่มีการรุมล้อมป้อนคำถามชี้นำให้ตกหลุมพราง  ไม่มีท่าทางคุกคามจับผิด  ธรณินรับรู้ได้ถึงความเครียดที่สลายตัวอย่างช้าๆ สูดลมหายใจยาวลึกเข้าปอดอย่างปลอดโปร่ง  มาดสุขุมชวนฝันของผู้จัดการชื่อดังเข้าประทับร่างทันที  เขาเดินก้าวเข้าไปหากานต์ที่กำลังคุยจ้อน้ำลายแตกฟองอย่างสนุกสนาน  กระแอมไอเป็นการเตือนก่อนจะเอ่ย

   “กร  ชวนพี่ๆ คุยจนเขาไม่เป็นอันทำการทำงานแล้ว  เลิกเล่นแล้วให้พี่ๆ เขาได้ทำงานก่อน”

   “พี่ณินอ่า... ผมไม่ได้ชวนคุยสักหน่อย”

   เสียงหงุงหงิงทำให้อดเอื้อมมือไปขยี้ผมอีกฝ่ายเล่นอย่างมันเขี้ยวไม่ได้  ก่อนจะละมือจากศีรษะทุยสวยได้รูปก็หยิกหมับเข้าให้ที่แก้มอีกทีเป็นการสั่งลา

   “พี่ณิน! จะหยิกทำไมเนี่ย  ไม่คุยกับพี่แล้ว  มาครับพี่ๆ จะสัมภาษณ์อะไร  ถามมาได้เลยครับ  ยิ่งถ้าเป็นเรื่องเผาพี่ณินนี่ขอให้บอก  ผมพร้อมให้ข้อมูลเต็มที่”

   ... ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก ...

   ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ  นักข่าวแต่ละคนนั่งอ้าปากค้าง  ปฏิกิริยาชัดเจนขนาดนี้จะให้ถามอะไรได้เล่า  มีลูบหัว  มีหยิกแก้ม  ไม่ได้คิดจะปิดๆ บังๆ ซ่อนเร้นซะหน่อยเหรอ

   กานต์กระพริบตาปริบ  หันมองคนรอบตัว  เมื่อไม่เห็นมีคนพูดอะไรจึงถอนใจยาว

   “โอเคๆ พี่ไม่ถามผมเล่าเองละกันนะ  คืออย่างนี้  ผมน่ะแอบชอบพี่ณินเค้า  ตามจีบตามหยอดมาพักนึงแล้วละ  ก็ไม่ใช่ว่าพี่เขาจะตกลงคบอะไรด้วยหรอกนะ  ก็อยู่ในขั้นตอนศึกษาดูใจกันอยู่ หึๆ พูดไปแล้วก็อายปากพูดเหมือนดาราดังเลยเนอะพี่เนอะคบหาดูใจ”

   ไม่มีคนถามแต่มังกรว้อนท์จะพูดซะอย่าง  เล่าความสัมพันธ์แบบไม่มีกั๊กใดๆ ทั้งสิ้น  บางครั้งธรณินก็เล่าเสริมส่วนที่กานต์ลืมเสียด้วยซ้ำ  คนหนึ่งพูดนำ  อีกคนหนึ่งเออออตาม  บางครั้งก็ขัดคอกันเอง  เย้ากันไปแหย่กันมาอยู่สองคนจนพี่ๆ นักข่าวได้แต่มองตากันปริบๆ

   “ก็เป็นแบบนี้แหละครับ  ตอนนี้ผมกับพี่ณินก็ชอบๆ กันอยู่  อ้อ!  ที่สำคัญตับยังไม่ถูกกินนะครับ  มีใครมีคำถามอะไรอีกไหมครับ”

   แต่ละคนส่ายหน้าหวือแทนคำตอบ  เล่ามาหมดเปลือกขนาดนี้  นักข่าวอย่างพวกเขาจะถามอะไรได้อีกเล่า

   “ถ้าพี่ๆ ไม่มีคำถามอะไรแล้ว  ผมขอถามบ้างได้ไหมครับ” มังกรน้อยโหมดขนฟูขี้อ้อนทำตาวิ้งๆ ใส่  เพื่อขอความเห็นใจเริ่มออกปฏิบัติการทันที  เมื่อได้รับการพยักหน้ารับ  กานต์ก็ยิ้มหวานหยดส่งให้แล้วส่งคำถามผสมมนต์สะกดใจเล็กๆ ออกไป

   “ใครเป็นคนให้ภาพที่พี่ๆ เอามาออกข่าวเมื่อเช้านี้เหรอครับ”

   “อิคคิว”

   เสียงพึมพำละเมอตอบอย่างพร้อมเพรียงทำให้กานต์หันไปมองหน้าธรณินพร้อมกับเบะปากทันที

   “ผมจะเล่าความจริงให้ฟังนะครับ  จำให้ดีๆ นะ  เรื่องเป็นแบบนี้ครับ  ภาพที่เห็นในข่าว  ความจริงแล้วพี่อิคคิวขังผมไว้ในห้องเก็บของจนผมเป็นลมไปน่ะครับ  โชคดีที่พี่ณินไปช่วยออกมาได้  สาเหตุมาจากพี่อิคคิวอิจฉาที่ผมหน้าตาดีแล้วดันมีผิวที่เรียบเนียนอีก  จริงๆ แล้วพี่อิคคิวน่าสงสารมากเลยนะครับพี่ๆ ไม่รู้เค้าเป็นอะไร  ที่แผ่นหลังเขาทั้งแผ่นเป็นผดเม็ดเล็กๆ เรียงเต็มแน่นไปหมดเลยครับ  พอดีผมบังเอิญไปเห็นตอนเขากำลังเปลี่ยนเสื้ออยู่  พี่เขาคงตกใจน่ะครับที่มีคนไปเห็นสิ่งที่เขาพยายามปกปิดไว้  อารามตกใจกลัวทำอะไรไม่ถูก  เลยขังผมไว้ในห้องเก็บของ  เรื่องนี้พี่ๆ นักข่าวต้องเข้าใจพี่อิคคิวให้มากนะครับ  แล้วที่สำคัญ...”

   กานต์ยิ้มหวานให้อีกครั้งก่อนจะเอ่ย

   “เหยียบเรื่องนี้ไว้เป็นความลับเลยนะครับ”

   โถ... พ่อคุณ  ภาพลักษณ์ของกานต์ยามนี้แทบจะมีปีกสีขาวงอกออกมา  บนศีรษะมีวงแหวนเทวดาส่องวิ้งๆ กันเลยทีเดียว  ถูกคนเขาอิจฉาแล้วแกล้งจับขัง  ยังจะมาช่วยปิดบังความลับให้เขาอีก  ไม่ต้องกลัวนะลูก  เดี๋ยวพวกป้าๆ เอ๊ย! พวกพี่ๆ จะช่วยเหยียบกันให้กระจายทั่วเมืองเลยคอยดู

   “เอ่อ... น้องกรคะ  พี่รู้ว่าคำถามนี้ออกจะแรงไป  ถ้าน้องกรไม่สะดวกใจตอบก็ไม่เป็นไรนะคะ  แต่โดนหน้าที่แล้วพี่ต้องถามน่ะค่ะ”

   “ถามมาเลยครับพี่  ถ้าตอบไม่ได้ผมก็ให้พี่ณินตอบแทนละกันครับ  พี่ณินเขารู้เรื่องมากกว่าผมเยอะ”

   “คือพี่จะถามว่า... น้องกรเปิดตัวว่าชอบเพศเดียวกันแบบนี้  เอ่อ... ไม่กลัวสังคมรังเกียจเหรอคะ”

   คำถามแรงจริงอย่างที่พี่เขาว่า  ส่วนตัวกานต์เองไม่เห็นว่าผิดปกติที่ตรงไหน  ที่คนจะรักจะชอบกันต้องมามีขีดจำกัดด้านเพศสภาพเข้ามาเกี่ยวข้อง  ด้วยในเผ่าพันธุ์มังกรก็มีคู่รักแบบนี้หลายคู่  ไม่ยักจะมีใครมาถามเรื่องรังเกียจไม่รังเกียจ  เผ่าพันธุ์มนุษย์คิดอะไรซับซ้อนเสียจริง  ในขณะที่สิ่งของอำนวยความสะดวกต่างๆ ถูกพัฒนาไปไกลอย่างก้าวกระโดด  แต่กับเรื่องความรัก  อันเป็นเรื่องพื้นฐานปกติทั่วไป ทำไมถึงต้องตั้งกำแพงกันไว้  แบ่งแยกชาย - หญิงกันให้วุ่นวายด้วยนะ

   ขณะกำลังจะอ้าปากตอบนั่นเอง  ท่อนแขนอันคุ้นเคยก็โอบพาดมาบนไหล่ของกานต์  หันไปมองก็เห็นธรณินจุดยิ้มที่มุมปาก  คิ้วเข้มเลิกยกขึ้นสูง  ส่งออร่าความหล่อขั้นเทพให้ฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ  ก่อนจะก้มลงหอมแก้มร่างในอ้อมแขนดังฟอด

   “ใครจะรังเกียจ  ใครจะยอมรับ  ผมไม่สามารถจะไปชักจูงหรือชี้นำได้  มีใครบางคนทำสัญลักษณ์ตีตราจองไว้เหนือหัวใจผมไปแล้ว  โดยที่ใครคนนั้นบอกว่า  นี่คือพรมลิขิต  เมื่อดวงจิตของเราคลิกตรงกัน  ผมกับกรไม่ใช่ผู้ชายสองคนที่ชอบกัน  แต่คือวิญญาณสองดวงที่ผูกพันเข้าด้วยกัน”

   “เอ่อ...”

   “ครับ  มีคำถามอะไรเพิ่มเติมอีกครับ”

   “คือ  ที่ตอบก็พอจะเข้าใจค่ะ  แต่อยากทราบว่า   เกี่ยวอะไรกับการหอมแก้มด้วยคะ” ถามไปตัวก็บิดเขินไป  โอ๊ย! ตายแล้ว  เป็นการสัมภาษณ์ที่หัวใจทำงานหนักมากจริงๆ หลังจบการสัมภาษณ์คุณณิน  เธอจะคิดค่าเซอร์วิสชาร์จด้วยรึเปล่านะ  เธอโอบ  เธอประคอง  เธอหอมแก้มโชว์เน้นๆ ขนาดนี้  ป้าใจจะขาดแล้วลูกเอ๊ย

   ธรณินยิ้มกรุ้มกริ่ม  จับปอยผมที่เริ่มยุ่งนิดๆ ของกานต์ให้เข้าที่ก่อนจะตอบ

   “ทดสอบระบบนิดหน่อยครับ  ว่าพี่ๆ รังเกียจไหม”

   นักข่าวผู้ชายเขินหน้าแดง  เสมองไปทางอื่น  แสร้งกระแอมกระไอไปตามเรื่องตามราว  ส่วนนักข่าวผู้หญิง  รวมถึงสมชายที่แอบจับตาความสัมพันธ์ของคนคู่นี้มาสักพักแล้วได้แต่มองดูคนเขาแสดงความรักกันตาปรอย  บางส่วนถึงกับแอบเอาผ้าเช็ดหน้ามาซับกำเดาด้วยความอิจฉา  ได้แต่รำพึงรำพันในใจ “ทำไมผู้ชายหล่อต้องกินกันเองด้วยวะ!”

   “ไปครับพี่ๆ เดี๋ยวผมเดินไปส่งที่หน้าตึกนะครับ”

   กานต์ต้อนพี่ๆ นักข่าวให้  เนื่องจากหลายๆ คนตาลอยสติฟุ้งซ่านส่งผลให้หาทางเดินกลับออกจากตึกไม่เจอ  ขนาดพี่ๆ แค่ชมการทดสอบระบบยังออกอาการขนาดนี้  แล้วเขาล่ะ  คนโดนกระทำนะ  ที่สามารถทรงตัวบนขาตัวเองได้โดยไม่ล้มไปซะก่อนนี่ก็เก่งแล้ว  พูดถึงแล้วยังใจเต้นไม่หาย  คืนนี้จะรอดไหมเรา

   “พี่ๆ ครับ  ช่วยรับนี่ไปหน่อยนะครับ”

   เป๊าะ! ทันทีที่เสียงดีดนิ้วสิ้นสุดลง  กุหลาบหลากสีดอกเล็กกระจิ๋วหลิวก็ปรากฏตามกระเป๋าเสื้อเชิ้ตบ้าง  แซมผมบ้าง  มนต์บทถนัดถูกนำมาใช้หากินอีกครั้ง  แล้วก็เป็นไปตามคาดเมื่อสาวและไม่สาวกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่

   “ถือเป็นของขวัญแรกพบหน้าระหว่างพวกเรานะครับ  แล้วก็อย่าลืมนะครับ...”

   กานต์เว้นช่วงไปนิดหนึ่ง  ทำหน้ากระอักกระอ่วนใจเพิ่มสีหน้าเป็นกังวลไปอีกระดับ  นี่ถ้าไม่ติดว่าทำน้ำตาคลอแล้วจะดูสาวแตกกานต์ก็จะทำนะ

   “พี่ๆ อย่าลืมเก็บเรื่องพี่อิคคิวเป็นโรคอะไรก็ไม่รู้ที่บริเวณแผ่นหลังไว้เป็นความลับด้วยนะครับ”   

   เหล่าพี่สาวนักข่าวพยักหน้ารับอย่างแข็งขัน  ไฟในดวงตาลุกโชนทันที  อารมณ์ความเป็นแม่พลุ่งพล่านพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย  ความอยากปกป้องหนุ่มน้อยที่ชื่อกรเต็มเปี่ยม!

   หึหึหึ  ปิดจ๊อบ  ตอกตะปูดอกสุดท้าย!!!



หลังม่าน

   ภายในห้องประชุมหลังคาโค้งกรุกระจกโดยรอบ  ผนังฝังมุกสีเงินแวววาวสลับมุกสีดำมันแพรวพราวไปทั่วห้อง  บรรยากาศภายในเต็มไปด้วยไอความเครียดที่ลอยฟุ้ง  จนคนเดินสารที่มารอคำตอบยืนกระสับกระส่ายไปมา

   “นี่มันเร่งด่วนมากๆ นะ  โครงการอื่นพับไปให้หมด  ยังไงก็ต้องเร่งเรื่องนี้ให้นายน้อยก่อน” เสียงตะคอกดุดันของชายร่างสูง  ส่งผลให้ทุกคนในที่ประชุมตัวสั่นงันงกกันเป็นแถว

   “ตะ...แต่  ที่บางประเทศในทวีปแอฟริกา  ตอนนี้แห้งแล้งมากเลยนะครับท่าน”

   สายตาคมกร้าวตวัดตามองพลางอธิบายเสียงเย็น

   “นายน้อยเพิ่งเคยออกไปผจญโลกกว้าง  นี่ก็คงไปพบเจอพวกมนุษย์ตกทุกข์ได้ยากจึงส่งสารมาแจ้งกับพวกเราแบบนี้  เพราะฉะนั้น... ไปจัดการตามที่นายน้อยร้องขอ  จัดฝนให้ตกบริเวณหน้าตึกบริษัทผู้จัดการจำกัด!”
   
   เสียงที่ออกคำสั่งมาเน้นช้าชัดทีละคำ  บ่งบอกว่าไม่ต้องการให้ใครฝ่าฝืนเด็ดขาด!

........

   “พี่ณินครับ  ในรถมีร่มไหมครับ”

   “มีสิ  อยู่ท้ายรถแน่ะ  กานต์กลัวร้อนล่ะสิ  วันนี้แดดเปรี้ยงเลยนี่”

   พูดจบก็เดินอ้อมไปท้ายรถ  หยิบร่มสีดำคันโตมากางออก  กานต์เห็นร่มแล้วได้แต่ส่ายหัว  ออกแรงดีดนิ้วเปลี่ยนให้เป็นร่มพลาสติกใสสีเขียวมะนาวทันที

   “อ้าว! ไหวว่าเสกอะไรไม่ค่อยเก่ง  ทำไมวันนี้ทำได้ล่ะ”

   “วันนี้มีตัวช่วยครับพี่”  กานต์ขยิบตาพร้อมอธิบายต่อ

   “เดี๋ยวฝนจะตกนะพี่ณิน  เวลาเดินเข้าไปที่ตึกน่ะ  ขอท่าทางสวีทหวานเหมือนในซีรี่ส์เลยนะครับ”

   “ละเมอรึเปล่ากานต์  แดดจัดขนาดนี้  ฝนที่ไหนจะมาตก  แล้วร่มใสๆ แบบนั้นจะกันแดดได้ที่ไหน”

   “น่าพี่... เรื่องฝนปล่อยให้เป็นหน้าที่ผมก็แล้วกัน  หน้าที่พี่มีแค่ทำตัวให้เป็นธรรมชาติ  แล้วแสดงความรักใส่ผมเยอะๆ ตอนที่ให้สัมภาษณ์  พี่ทำได้ไหม”

   เพี๊ยะ! เสียงดีดหน้าผากที่ดังขึ้นครั้งนี้เปลี่ยนไป  คนโดนดีดยิ้มหน้าบาน  ขณะที่คนดีดหน้าขึ้นสีแดงอย่างเห็นได้ชัด  เขินละสิให้แสดงออกสู่สาธารณชน หึๆ

   “พี่ณินพร้อมไหมครับ”

   ธรณินพยักหน้ารับ  แล้วก็กานต์ก็นับ 5 4 3 2 1 แอคชั่น!

   อยู่ๆ ท้องฟ้าที่สว่างเจิดจ้าก็ครึ้มลงฉับพลัน  ลมเย็นเริ่มพัดโชยแผ่วๆ ไม่นานนัก  ละอองน้ำฝนก็โปรยปรายลงมาจากฟากฟ้า  บรรดานักข่าวที่เฝ้ารอทำข่าวต่างวิ่งหลบฝนเก็บอุปกรณ์ให้พ้นจากความชื้นกันจ้าละหวั่น  พื้นที่ด้านหน้าตึกที่กว้างขวางกลับแลดูคับแคบไปถนัดใจ... บอกแล้วว่าป๋าจะจัดชุดใหญ่ไฟกระพริบ!!!

TBC...

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 9 (06/02/2560)
«ตอบ #41 เมื่อ06-02-2017 19:55:41 »

นายน้อยต้องการฝน ฮ่าๆๆๆๆ เสกไม่ได้ อิอิ

ป๋ากานต์จะโดนหนูณินกินซะมากกว่า อิอิ 

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 9 (06/02/2560)
«ตอบ #42 เมื่อ06-02-2017 19:56:41 »

ชอบน้องมังกรมั่กๆค่า

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 9 (06/02/2560)
«ตอบ #43 เมื่อ06-02-2017 20:33:34 »

แบ็คใหญ่จริง ๆ ฮา

ออฟไลน์ Tennyo_Y

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 9 (06/02/2560)
«ตอบ #44 เมื่อ06-02-2017 20:51:09 »

โอ๊ยป๋า ตอนอ่านก็ว่าแล้วว่าอยู่ ๆ ฝนตก เดินมาแบบหวานหยดเชียว จ้ะ เอาเลยจะน้องกานต์ ป๋ากานต์ เอาที่สบายใจท่านมังกรเลยคะ

ขำมาก อ่านไปขำไปจนคนมอง สงสารตัวเองเลย 5555 ขำพุงกระเพื่อม

พี่ณิน ร้ายอะ ทดสอบระบบ เอาเลยคะ ทดสอบเยอะ ๆ

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 9 (06/02/2560)
«ตอบ #45 เมื่อ06-02-2017 21:16:44 »

กลับบ้านไปทดสอบระบบกันเถอะ!

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 9 (06/02/2560)
«ตอบ #46 เมื่อ06-02-2017 22:18:09 »

เป็นป๋าที่น่าจับกินจริงๆ  :hao6:

ออฟไลน์ Rabbitongrass

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 9 (06/02/2560)
«ตอบ #47 เมื่อ06-02-2017 22:44:37 »

นี่เเค่ทดสอบระบบนะเนี่ย
ว่าเเต่ฉากเปิดอย่างไม่เป็นทางการ (Soft Opening) จะหวานกันซะขนาดใหนเนี่ย
ส่วนของเรื่องเเก้เกมของทางทีมใมค์หมดหนี้ เอ้ย ทางอิคคิวที่วางเเผนป้ายสีไว้ขอบอกว่าสาเเก่ใจอีช้อยนัก 5555
จัดชุดใหญ่จริงๆซะด้วย ทั้งผูกมิตร ทั้งเล่าหมดไม่มีกั๊ก ทั้งปล่อยข่าวลือเเกมข่าวจริงสร้างดาเมจกลับไปซะอีก

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 9 (06/02/2560)
«ตอบ #48 เมื่อ07-02-2017 06:58:51 »

 :pig4: :m31:

ออฟไลน์ virgo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 10 (8/02/2560)
«ตอบ #49 เมื่อ08-02-2017 20:05:56 »

บทที่ 10

   - นายแบบ อ. แอ๊บแบ๊ว  หน้าใส  ใจโส!! เรื่องเล่าแอบเม้าท์  พลิกหน้า 7. ...
   - แข่งเรือแข่งพายน่ะแข่งได้  แต่แข่งบุญแข่งวาสนานี่มันยากน้า  ตามไปพิสูจน์กับซ้อห้าภายในเล่ม...
   - ข้างนอกสุกใส  ข้างในต๊ะติ๊งโหน่ง  สกู๊ปเด็ดวันนี้จะพาไปล้วงลึกถึงในร่มผ้าน้อง อ. กัน...
   - อ. แอ๊บไม่เนียน  งานนี้หางโผล่  สงสารแต่น้อง ก. ที่โดนใส่ความ  เจ้าตัวจึงวอนอย่าพาดพิงพี่ อ. โถ  พ่อคุณของเจ้

   หนังสือพิมพ์บันเทิงพาดหัวข่าวอย่างมีสีสันเสมอ  กานต์นั่งอมยิ้มอ่านข่าวอย่างเพลิดเพลิน  สุขใดไหนจะเท่าสุขใจที่ได้เอาคืน  นั่งอ่านๆ ไปก็ชักทรงตัวไม่ค่อยอยู่  กระดูกสันหลังต้องการขนานกับพื้นอย่างรุนแรง  จึงค่อยๆ เอนตัวลงนอนอ่าน  จากตะแคงจนกลายเป็นนอนคว่ำอยู่บนพื้นพรมนุ่มกลางห้อง

   เสียงผิวปากหวือดังขึ้นที่หน้าประตูห้องนอน  ทำให้คนที่เพลิดเพลินกับการอ่าน  ต้องหันไปหรี่ตามองต้นเหตุที่รบกวนสมาธิ  ก่อนจะเบือนหน้าหนีมาเสพความบันเทิงเบื้องหน้าต่อไป

   “โอ๊ย! พี่เจ็บนะเนี่ยกานต์  มองแล้วเมินใส่แบบนี้  ใช่สิ  เราคงหมดประโยชน์แล้ว  ไหนว่าให้แสดงความรักออกมาเยอะๆ ไง  พอข้ามวันปุ๊บก็โดนเชิดใส่”

   ภาพคนตัวโตที่กำลังเอามือกุมอกด้านซ้ายทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าโอดครวญชวนให้น่าหมั่นไส้มากกว่าน่าสงสาร  ถ้าพี่จะแอคติ้งดีขนาดนี้  พี่เลิกเป็นผู้จัดการเถอะ  หันมาเอาดีด้านการเป็นนักแสดงท่าจะรุ่ง

   “เลิกคร่ำครวญได้แล้วพี่ณิน  มีอะไรก็ว่ามาเลยดีกว่า  มาๆ มานั่งตรงนี้มา”

   มือขาวตบพื้นที่ข้างตัวเองดังปุๆ เป็นเชิงบอกให้ธรณินเลิกเล่นแล้วมานั่งสักที  ร่างสูงขยับลุกขึ้น  เบะปาก  เดินมาทรุดตัวลงนั่งขัดสมาธิด้านข้างอย่างไม่สบอารมณ์  ท่าทางของคนตัวสูงๆ เวลาไม่ได้อย่างใจนี่ไม่ได้น่ารักน่าชังเหมือนเด็กน้อยงอนสักนิด  แต่เอาเถอะ  ง้อหน่อยก็ได้

   กานต์พลิกตัวยกศีรษะไปวางบนตักธรณิน  มือก็คว้าหมอนมากอดไว้  พลางถูไถหัวเข้ากับต้นขาเป็นการออเซาะ

   “อร๊าง” คนโดนถูไถร้องเสียงดัง  จนแทบอยากเอาหมอนปาหน้า  เมื่อเห็นกานต์ไม่เล่นต่อ  จึงได้กลับมาพูดคุยเป็นการเป็นงานได้อีกครั้ง

   “เมื่อกี๊สมชายโทรมาว่าทีวีช่อง 69 ติดต่อให้เราไปเป็นแขกรับเชิญในรายงานสวิงกันวันอาทิตย์  กานต์อยากไปไหม  อ๊ะๆ ไม่ต้องถามพี่  พี่ยังไงก็ได้  ตามใจกานต์เลย”

   สายตาคมพราวระยับก้มลงสบมองคนที่นอนหนุนตักอยู่เนิ่นนาน  จนคนโดนจ้องเขินไปหมด  ได้แต่พึมพำงึมงำตอบว่าแล้วแต่พี่ณินไปตามเรื่องตามราว

   “งั้นตกลงว่าไปนะ  แต่พี่ขอบอกไว้ก่อน  รายการนี้มักจะให้คู่รักทำอะไรคู่กันกุ๊กกิ๊กๆ ในรายการ  เห็นมีทำอาหารด้วยกัน  ร้องคาราโอเกะร่วมกัน  กานต์ไหวแน่ใช่ไหม  ยังปฏิเสธทันนะ”

   “ถ้าอย่างนั้นยิ่งต้องไปใหญ่เลยพี่ณิน  ผมอยากมีกิจกรรมร่วมกันกับพี่เยอะๆ”

   จู่ๆ ธรณินก็ยกศีรษะกานต์วางลงบนหมอนหนุน  ก่อนจะไถลตัวลงนอนเคียงข้าง  จมูกโด่งซุกไซร้ลงแถวข้างแก้ม  คลอเคลียวนเวียนอยู่ระหว่างแถวซอกคอขาวกับติ่งหู

   “ไหนใครอยากทำกิจกรรมกับพี่เยอะๆ กัน หืม”

   เสียงกระซิบที่ทุ้มต่ำสั่นพร่า  ชวนให้สติสัมปชัญญะของกานต์เตลิดเปิดเปิงไปกันหมด  สมองเริ่มมึนงงประมวลผลไม่ถูกว่าการที่ถูกลวนลามอยู่นี้เกี่ยวอะไรกับการถูกเชิญไปออกรายการโทรทัศน์  ริมฝีปากอุ่นร้อนพรมจูบไล่ไปตามแนวสันกราม  ไล่วนตรงปลายคางมน  ก่อนเงาดำจะทาบทับและฉกวูบลงมาประกบปิดริมฝีปากบดคลึงดูดดึงอย่างเว้าวอนจนต้องยอมอ้าปากเปิดทางให้ปลายลิ้นชื้นเข้ามาเสาะแสวงหาความหวานภายในโพรงปากอย่างย่ามใจ  ทั้งตวัด  พัน  รัด  คลาย  พัวพันจนเสียงฟังแลดูหยาบโลนอย่างถึงที่สุด  กานต์ได้แต่ยกมือดันอกอีกฝ่าย  เพราะหายใจหายคอไม่ทัน

   “พะ  แฮ่กๆ พี่ณิน  เกิดอะไรขึ้นเนี่ย  คุยกันอยู่ดีๆ ก็ของขึ้นซะอย่างนั้น”

   ธรณินจ้องตอบกานต์ตาเยิ้ม  มือยังผลุบหายเข้าไปในเสื้อยืดเนื้อนิ่มของคนใต้ร่าง  สัมผัสไล้แผ่นเบาวนเวียนแถวชายโครงไปด้วย  ตอบไปด้วย

   “ก็เห็นนอนอ่อยอยู่มาพักนึงแล้ว  ยังมาพูดจาให้คิดอีก  พี่ก็นึกว่ากานต์พร้อมแล้ว”

   ขณะตอบมือก็ไล่ไต่ควานไปจนเจอตุ่มไตเม็ดเล็กบนร่างกายกานต์อย่างค้นหา  เมื่อพบเจอก็สะกิดยอดเล็กนั้นแผ่วเบา  แต่ฝ่ายถูกแตะต้องกลับสะดุ้งสุดตัว

   ร่างกายคล้ายมีกระแสไฟวาบปราดจากกลางอกวิ่งไปสู่จุดศูนย์ประสาทตรงกึ่งกลางร่างพอดี  ในช่องท้องรู้สึกวูบไหวแปลกๆ คล้ายมีปีกผีเสื้อกระพือบินเป็นร้อยเป็นพันตัว  อาการหวามลึกล้ำยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง  มารู้สึกตัวอีกครั้งเสื้อยืดก็ถูกถอดออกจากตัวไปแล้ว  บางสิ่งที่ชื้นแฉะกำลังไล่กวาดต้อนตุ่มไตที่หดสั่นระริกอย่างหยอกเย้า

   “อือ... พี่ณิน”

   กานต์แอ่นตัวโค้งขึ้นตามการปลุกเร้าของคนบนร่าง  สองมือเริ่มกดศีรษะธรณินให้แนบชิดลงมาให้มากกว่าเดิม

   “หายไปไหนกันหมดเนี่ย  อุ๊ยตายว๊ายตาเถรหก  ผู้ชายกินกัน!!!”

   “พี่ซิสซี่//สมชาย” สองเสียงประสานกันดังขึ้นด้วยความตกใจ  หนึ่งคนเด้งตัวลุกขึ้นคว้าเสื้อมาสวม  อีกหนึ่งคนลุกขึ้นนั่งถอนหายใจเสยผมด้วยความหงุดหงิด  สภาพลุกลี้ลุกลนของทั้งสองคน  ทำให้สมชายหายจากอาการตกใจ  หลุดหัวเราะขำออกมาอย่างอดไม่อยู่

   “ตลกอะไรสมชาย”

   “ตลกคุณณินกับน้องกรนั่นแหละค่ะ  สภาพเหมือนชู้แอบนัดพบกันแล้วซิสซี่ซึ่งเป็นเมียเอกก็เปิดประตูเข้ามาเจอ”

   “ให้มันน้อยๆ หน่อย  แล้วมีอะไรถึงมาที่นี่ได้  มือน่ะมีไหม  หัดเคาะซะบ้างประตูห้องน่ะ  มือไม่ว่างก็เรียก  ปากก็มีตะโกนส่งเสียงไปเข้าสิ”

   อูย... อารมณ์ค้างใส่ยาวเลยวุ้ย

   “มือน่ะมีค่า  เคาะจนจะหักอยู่ละ  ส่วนอีปากนี่ก็ตะโกนเรียกไล่มาตั้งแต่ประตูหน้าจนมาประตูนี้นี่แหละค่า  แล้วที่สำคัญประตูนี้ไม่ปิดนะคะ  เข้ามาปุ๊บหนังเจอสงครามปั๊บเลยค่ะ”

   “สงครามอะไร”

   “สงครามรักพิศวาสร้อนยังไงล่ะคะ” โฮะๆๆ เหวี่ยงมาก็จิกกลับเป็นนะคะคุณณิน  เห็นเอวบางร่างน้อยแบบนี้ก็ไม่ยอมให้ใครมาใช้วาจากระทบกระแทกแดกดันอยู่ฝ่ายเดียวนะคะ  ซิสซี่เถียงกลับสู้ตายค่า

   “เอ่อ... พี่ซิสซี่มีธุระอะไรหรือเปล่าครับเนี่ย”

   คนนี้ค่อยพูดจาหวานหูหน่อย  สมชายนึกพลางสะบัดหน้าขว้างค้อนไปทางธรณินที่นั่งหน้าตูมอีกหนึ่งดอก  ก่อนจะเดินไปคล้องแขนกานต์พาเดินออกไปนอกห้องแห่งสมรภูมิ

   “ไปคุยข้างนอกกันค่ะน้องกร  ให้คุณพระเอกเธอเก็บเศษซากอาวุธสงครามให้เรียบร้อยก่อน  อ๊ะๆ ไม่ต้องเถียงซิสซี่นะคะคุณณิน  มือน่ะมีไหม  ถ้ามีก็หัดใช้มือชี้หน้านะคะ  อย่างอื่นไม่ต้องเอามาใช้ชี้  เดี๋ยวก็จับกินให้หมดซะนี่  ไปค่ะน้องกร  พี่ซื้อข้าวซื้อขนมาฝาก  ไปกินดับ ‘หิว’ กันค่ะ”

   อืม  จิกได้ทั่วถึงทุกตัวคนจริงๆ

   หลังจากสงบสติอารมณ์ทั้งคนมาหาและคนถูกหาแล้ว  ก็ได้เวลาระบายอารมณ์ที่คั่งค้างลงกับทุกเมนูที่สมชายสรรหามาฝากจนหมดเกลี้ยง  คนซื้อนั้นใจนึงก็สุดแสนจะปลื้ม  ส่วนอีกใจก็อดคิดไม่ได้ว่าคุณณินคงอยากงับหัวเราจะแย่ละมัง  ดูท่ากัดน่องไก่ฉีกกระชากไปมองตาเขียวปั้ดไป  ถ้าจะโมโหกันขนาดนี้  ลากไก่ไปกินในน้ำเงียบๆ คนเดียวดีไหมคะ  จะได้ไม่ลำบากคนอื่นเขา... ถามว่ากล้าพูดออกไปไหม  ตอบเลยว่า  ‘ไม่’

   “อ่ะ... มีอะไรก็ว่ามา” ธรณินตวัดขาขึ้นนั่งไขว่ห้าง  ประสานมือไว้บริเวณหัวเข่า  โน้มตัวมาด้านหน้าเล็กน้อย  จ้องสมชายตาเขม็ง

   สมชายได้แต่แอบเบะปาก  ทีแบบนี้ล่ะมาทำท่าเป็นการเป็นงาน

   “คือ  ซิสซี่จะมาถามเรื่องที่รายการสวิงกันวันอาทิตย์โทรมาชวนไปรายการของเขาน่ะค่ะ  ตกลงคุณณิณจะตอบรับไปไหมคะ”

   “แค่นี้เหรอ  โทรมาก็ได้นะสมชาย  ไม่ต้องถ่อมาเองหรอก”

   “ไปดูโทรศัพท์ก่อนไหมคะคุณณิน  มิสคอลกี่สิบสายแล้ว”

   สงครามทำท่าจะปะทุอีกรอบ  กานต์จึงตัดสินใจเป็นฝ่ายห้ามทัพ  ตอบคำถามของซิสซี่ไปเพื่อให้เรื่องสงบลง

   “ตกลงว่าไปครับพี่ซิสซี่  พี่ณินเพิ่งบอกกรเมื่อเช้านี่เอง  ยังไงก็ไปอยู่แล้วครับ  รบกวนพี่ซิสซี่จัดการตอบรับให้ด้วยนะครับ”

   ซีสซี่ทำปากขมุบขมิบใส่ธรณิน  ซึ่งยังคงนั่งวางท่าเก๊กขรึมต่อไป  แม้ว่าตัวเองจะผิดที่ไม่ได้รับสาย

   “ถ้าตกลงไปแน่นอน  วันพุธที่จะถึงนี้ก็ไปถ่ายทำที่สตูดิโอแถวลาดพร้าวได้เลยนะคะน้องกร”

   “อ้าว! ทำไมเร็วจังล่ะครับพี่ซิสซี่”

   “ทางรายการเขาเคลียร์คิวไว้หมดแล้วค่ะ  เหลือแค่คำตอบรับอย่างเดียวก็จัดการถ่ายทำได้เลย  ข่าวแบบนี้กำลังขายได้นี่คะ  อะไรที่จะทำให้เรตติ้งรายการพุ่งสูงได้  ก็ต้องรีบทำรีบคว้าโอกาสกันไว้ค่ะคุณน้อง”

   สมชายบุ้ยใบ้ปากกวักมือเรียกกานต์ให้เข้ามานั่งใกล้ๆ กระซิบกระซาบบอกอย่างอดใจไม่อยู่

   “แน่ใจแล้วเหรอคะที่จะไปน่ะ”

   “ครับ?” กานต์คิ้วขมวดถามด้วยความงุนงง

   “ก็รายการนี้  ชอบให้คู่รักโชว์หวานออกสื่อน่ะสิคะคุณน้อง  แล้วพ่อเนื้อทอง...” พูดพลางพยักเพยิดไปทางธรณินที่กำลังเหล่มองเป็นระยะ

   “นั่นน่ะ  คุณชายท่านจะยอมเหรอ”

   “ไม่เห็นว่าอะไรนะครับ  คงยอมแหละ”

   คนสองคนหัวร่อต่อกระซิกคิกคักกันสนุกสนาน  ไม่ได้รับรู้เลยว่ามีคนไม่สบอารมณ์ที่ถูกปล่อยปละละเลยไม่ให้ความสำคัญกำลังอารมณ์บูดถึงขีดสุด

   “ตกลงธุระมีแค่เรื่องนัดถ่ายทำรายการใช่ไหม  โอเค  ผมรับทราบ  กรรับรู้  ส่วนคุณก็รับหน้าที่ไปบอกทางทีมงานก็แล้วกัน  ขอบคุณมาก  สวัสดี  นั่นประตู”

   สมชายยกมือทาบอกอ้าปากกว้างทันที  อกอีสมชายจะระเบิด  ไล่กันดื้อๆ อย่างนี้เลย  สะบัดหน้าพรืดใส่เสร็จก็เดินไปคว้ากระเป๋าคู่กายสีชมพูแปร๋นมาหนีบไว้  ก่อนยกมือไหว้ลาอย่างเสียไม่ได้  ถ้าไม่ติดว่าเป็นคนจ่ายเงินเดือนให้นะ  แม่จะไฝว้ด้วยอีกสักยกสองยก

   เสียงประตูปิดลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  แต่ธรณินยังคงนั่งหน้าบึ้งตึงอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน  กานต์นั่งขำเด็กตัวโตที่นั่งงอน  จนต้องเดินไปง้อด้วยการใช้นิ้วสะกิดเขี่ยติ่งหูเล่นไปมา

   “พี่ณินอ่า... โมโหอะไรครับเนี่ย  โกรธมากๆ เดี๋ยวหน้าก็แก่ก่อนวัย  ตีนกาถามหากันพอดี”

   เจอโหมดแมวน้อยมาออดอ้อนแล้วจะให้ทำยังไงได้เล่า  ธรณินเอียงหน้าไปซบกับฝ่ามือที่ซุกซนเขี่ยหูเล่นจนจั๊กจี้ไปหมด  แล้วจึงยื่นแขนไปโอบเอวกานต์ไว้หลวมๆ พลางถอนหายใจ

   “กานต์...”

   “ครับ”

   “...”

   “ไหน  หนูณินเป็นอะไรบอกป๋ากานต์หน่อย”

   กานต์พูดพร้อมใช้สองมือประคองหน้าธรณินให้เงยขึ้นมาสบตาด้วย  ในแววตาของคนที่ถูกประคองอยู่เต็มไปด้วยความสับสนไม่แน่ใจและความรู้สึกผิด  เดี๋ยวนะ  รู้สึกผิดเรื่องอะไร

   “พี่ณินเป็นอะไรครับ  บอกผมหน่อย  อาการแบบนี้ไม่น่าใช่โกรธพี่ซิสซี่แล้ว  มีอะไรไม่สบายใจรึเปล่าครับ”

   ธรณินก้มหน้าลงซบบริเวณหน้าท้องของกานต์ที่ยืนลูบหลังลูบไหล่เขาอยู่ในเวลานี้  ในใจรู้สึกผิดมากมาย  ถ้าเมื่อครู่สมชายไม่เข้ามา  เขาคงเดินหน้าไปจนสุดทางแน่  กานต์ก็ยังเด็กอยู่เลย  พอถูกล่อลวงเข้าก็ต้องหลงใหลเคลิบเคลิ้มไปเป็นธรรมดา  ตัวเองนี่ละที่เป็นผู้ใหญ่กว่า  ดันควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่  ว่าจะแกล้งแหย่เล่นก็เลยเถิดกันไปถึงไหนต่อไหน  ไอ้เด็กตัวดีนี่ก็ไม่ห้ามปราม  มีกดหัวให้ความร่วมมืออีก

   แต่ที่รู้สึกผิดจนต้องมานั่งคอตกอยู่นี่ก็คือ  ความรู้สึกตัวเองน่ะสิ  ยังไม่ทันจะได้ยืนยันว่ารักแน่หรือเปล่า  ก็จะจับเขาปล้ำซะแล้ว  แก่  เอ๊ย! อายุมากซะเปล่า  ดันไม่มีความคิด  ซุกหน้าถูไถอยู่สักพักจึงได้รวบรวมความกล้าถามออกไปจนได้

   “กานต์โกรธพี่ไหม”

   มือที่ลูบหลังอยู่หยุดชะงักครู่หนึ่ง  ก่อนจะค่อยๆ โอบกอด

   “อะไรที่ทำให้พี่ณินคิดว่ากานต์จะโกรธพี่ครับ  หืม... คุยกันดีๆ เลิกซุกหน้ากับพุงผมแล้วคุยกันก่อน”

   “ก็พี่... เอ่อ... พี่เกือบปล้ำกานต์แล้ว  พี่ขอโทษนะ  ถ้าสมชายไม่เข้ามา  เราก็คง... นั่นแหละ  ยังไงดี  เราไม่ควรทำมันน่ะ มันยังไม่ถึงเวลา  จริงๆ พี่จะแกล้งกานต์เฉยๆ เพราะเวลากานต์เขินแล้วน่ารักดี  พอจูบๆ ไป  เริ่มไม่แค่น่ารักแล้ว  เริ่มน่า  เอ่อ... น่าใคร่แล้ว  พี่ขอโทษจริงๆ นะ”

   “พี่ณินหยุด  หยุดก่อน” กานต์เห็นว่ายิ่งพูดยิ่งวกวนสับสน  จึงตัดสินใจบอกให้ธรณินหยุดพูด  และเมื่ออีกฝ่ายขยับปากจะเถียง  กานต์จึงกดจูบปิดปากธรณินทันที  น้ำลายมนุษย์เป็นสิ่งประหลาด  ชื่อเหมือนจะดูน่าเกลียด  รูปลักษณ์ยิ่งไม่ต้องพูดถึง  ไม่ได้ชวนมองสักนิด แต่เวลาจูบทีไร  กานต์รู้สึกว่าน้ำลายมันหวานทุกที (เดี๋ยว! นี่ใช่เวลามาสงสัยอะไรกับน้ำลายม้าย)

   กานต์ถอนปากออกจากปากธรณินอย่างเชื่องช้า  ขบเม้มริมฝีปากอีกฝ่ายอย่างอาลัยอาวรณ์อีกครู่  ก่อนจะส่งยิ้มหวานไปให้แล้วเอ่ยปากถาม

   “พี่ณินรู้สึกดีไหมครับ”

   “อืม” ธรณินรับคำเสียงสั่นพร่า

   “อะไรที่รู้สึกดีก็ทำไปเถอะครับพี่  ไม่ต้องไปคิดมาก  ปล่อยไปตามครรลองธรรมชาติ  อย่าไปคิดอะไรหยุมหยิมมากมายเลยครับ”

   “ถ้าอย่างนั้นขออะไรที่มันธรรมชาติๆ ต่อจากเมื่อเช้าเลยได้ไหม”

   “พี่ณิน  แบบนี้เรียกตั้งใจ  รอไว้ให้ถึงเวลา  อะไรจะเกิดก็เกิดขึ้นตอนนั้นเองแหละ  ผมไปอ่านข่าวต่อดีกว่า  อ้อ! พี่ณินล้างจานด้วยนะครับ  หัดหาอะไรทำซะบ้าง  จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน”

   “เมื่อก่อนใครกันชวนเช้าชวนเย็นเนี่ยกานต์”

   “ไปล้างจานไป๊!”
TBC...


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 10 (8/02/2560)
« ตอบ #49 เมื่อ: 08-02-2017 20:05:56 »





ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 10 (08/02/2560)
«ตอบ #50 เมื่อ08-02-2017 21:01:00 »

เกือบได้กินแล้วเชียว  :ling1:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 10 (08/02/2560)
«ตอบ #51 เมื่อ08-02-2017 23:02:53 »

ไปล้างจานนะจ๊ะ ผัวทาส  :laugh:

ออฟไลน์ Carnival

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 10 (08/02/2560)
«ตอบ #52 เมื่อ09-02-2017 18:01:50 »

ป๋ากานต์จิเสร็จหนูณินซะมากกว่านะถ้าอย่างงี้ :hao3:

ออฟไลน์ maneethewa

  • มณีเทวา
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
    • Maneethewa - มณีเทวา
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 10 (08/02/2560)
«ตอบ #53 เมื่อ09-02-2017 19:47:43 »

รอวันเค้าได้กันค่ะ เอร๊ยยยยยย ใครก็ได้เก็บสมชายไปที ขัดใจจริงๆ
 :-[

ออฟไลน์ Tennyo_Y

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 10 (08/02/2560)
«ตอบ #54 เมื่อ09-02-2017 23:13:14 »

ขำพี่ณินมากอะ
กานต์ โดนจับกินจะขำแรงเลย ปล่อยตามครรลองธรรมชาติ โฮ่ ๆ

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 10 (08/02/2560)
«ตอบ #55 เมื่อ11-02-2017 07:00:56 »

เดี่ยวนี้หนูนินเข้าหมวดหื่นติดง่ายมากอ่ะ ป๋ากานต์เกือบโดนจับกินแล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ virgo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 11 (14/02/2560)
«ตอบ #56 เมื่อ14-02-2017 19:35:12 »

บทที่ 11

   เช้าวันพุธมาถึง  ธรณินเดินวุ่นวายเตรียมข้าวของเครื่องใช้ให้หัวหมุนมาตั้งแต่เช้าผิดกับคนที่ปากบอกว่าอยากไปทำกิจกรรมร่วมกัน  ที่ยังนอนหลับอุตุไม่ยอมตื่น

   “กานต์  ตื่นได้แล้ว  เดี๋ยวสายแล้วทางนั้นบ่น  กานต์ๆ”

   เริ่มตั้งแต่สะกิดจนเข้าขั้นเขย่าแล้ว  คนบนเตียงยังส่งเสียงอืออาๆ แต่ไม่ยอมลืมตาสักที  ร้อนถึงคนปลุกต้องจำใจสอดมือเข้าไปใต้เสื้อแล้วสะกิดจุดไวสัมผัสเพียงแผ่วๆ

   “อ๊า... พี่ณิน!”

   ได้ผลแฮะ  กานต์มีจุดอ่อนตรงนี้  แตะนิดเดียวร้องเสียงหลงทุกที  คนโดนปลุกลุกขึ้นนั่งหน้างอ  เอามือลูบหน้าอกตัวเองป้อยๆ อย่างไม่สบอารมณ์

   “ก็บอกว่าอย่าโดนๆ มันจั๊กจี้แปลกๆ ขนลุกไปหมดแล้วเนี่ย”

   “ปลุกไม่ตื่นเองช่วยไม่ได้  อีกอย่างพี่ก็นึกว่าเราชอบ  เห็นวันนั้นเอามือกดหัวพี่ซะแน่นจนหายใจแทบไม่ออก”

   “มันเหมือนกันไหมพี่  ก็ตอนนั้นมันสะ... สนุก  ก็... ก็... ฮึ่ยย ช่างเถอะ”

   คนเถียงใช้มุกโมโหกลบเกลื่อน  แล้วทำเป็นเลี่ยงลุกขึ้นจากที่นอนไป  หลังจากที่คนเท้าความรำลึกความหลังเริ่มมองมาตาเยิ้มอย่างมีความหมายแปลกๆ

   “เดี๋ยวกานต์  ลืมอะไรหรือเปล่า” ธรณินคว้าข้อมือกานต์ที่กำลังจะเดินเข้าห้องน้ำไว้ได้ทัน

   ลืมสิท่า  ทำหน้างงอย่างงี้  เฮ้อ... อายุก็ยังน้อยแท้ๆ ขี้หลงขี้ลืมนะเราน่ะ”

   ฟอด... “ชื่นใจ... อรุณสวัสดิ์นะครับ”

   กานต์พยักหน้าส่งๆ ทำเป็นไม่สนใจ  ได้แต่คิดว่าทำไมวันนี้ห้องน้ำมันอยู่ไกลจริงนะ  ตอนนี้เขิน  ต้องการเข้าไปหลบฝังตัวอยู่ที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ตรงหน้าพี่ณินเนี่ย

   เมื่อจัดการทุกสิ่งทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว  ธรณินก็ล็อคกุญแจห้องแล้วออกเดินนำหน้ากานต์ไปที่รถ  เปิดประขึ้นไปนั่งเรียบร้อย  ขณะกำลังจะคาดเข็มขัดนิรภัยจึงหันไปถามกานต์

   “กานต์ได้พกพวกลูกอมเย็นๆ หรือว่าน้ำดื่มขวดเล็กๆ ไว้บ้างไหม”

   “ไม่ได้พกอ่ะพี่  มีอะไรเหรอ” กานต์สั่นศีรษะจนผมกระจาย”

   “ถ้างั้นรออยู่นี่ก่อน  พี่ไปซื้อที่ร้านใต้คอนโดแป๊บนึง”

   นั่งรอสักพักจึงเห็นธรณินเดินกลับมาพร้อมยื่นถุงเสบียงให้

   “พี่ณิน  ผมรู้สึกแก่มากเลยอ่ะพี่  ดูดิ  อะไรบ้างเนี่ย  ยาอม  ยาดม  ยาหม่อง  คือที่เราไปนี่ไปถ่ายทำรายการหรือว่าไปบ้านพักคนชราอ่ะพี่  พี่ณินจะพาผมไปปล่อยบ้านพักคนชราเหรอ  ผมเสียจาย” ท้ายเสียงออดอ้อน

   “เว่อร์ละกานต์  ที่เตรียมๆ ไว้ก็ให้เรานั่นล่ะ  ถ่ายทำรายการหนึ่งใช้เวลาไม่ใช่น้อยๆ นะ  เกิดมีช่วงไหนต้องรอนานๆ หรือมีแสงจ้ามากๆ  ร่างกายเราร้อนขาดน้ำขึ้นมาจะทำยังไง  เตรียมพร้อมไว้ก่อนดีกว่าน่า”

   “พี่ณินอ่า... ทำไมเป็นคนน่ารักอย่างนี้  เอาใจใส่ดูแลขนาดนี้ผมหลงแล้วนะเนี่ย”

   “เว่อร์ละๆ” ธรณินโบก เอ๊ย! โยกหัวกานต์อย่างหมั่นไส้

   เมื่อตรวจดูว่าของครบเรียบร้อย  ธรณินก็จะออกรถมุ่งหน้าสู่สตูดิโอย่านลาดพร้าว  คงเพราะออกเดินทางค่อนข้างเช้า  จึงมาถึงสตูดิโอที่นัดหมายเร็วกว่าที่คิดไว้เยอะ  กานต์ชะโงกตัวข้ามเบาะไปหอบบริเวณปลายคางของธรณินเร็วๆ ทีหนึ่งก่อนจะหันมายิ้มหวานแล้วปลดเข็มขัดนิรภัยออก

   “ลืมอรุณสวัสดิ์ตอบครับ  ถ้ายังไงพี่ณินขนของตามไปนะ  ผมเดินไปดูต้นไม้ตรงนู้นก่อน”

   พูดจบก็เปิดประตูรถเดินตัวปลิวไปดูต้นไม้ที่ปลูกประดับตกแต่งบริเวณทางเข้าไว้อย่างกับบ้านในนิทาน  ก็เป็นซะแบบนี้  คล้ายๆ จะเอาแต่ใจ  แต่ก็ติดจะช่างอ้อนในเวลาเดียวกัน  แล้วกานต์จะให้พี่ทำยังไง  หืม? ธรณินคิดพลางถอนหายใจแล้วขยับตัวปลดเข็มขัดนิรภัย  เดินลงไปเปิดท้ายรถเพื่อขนของตามบัญชา

   สตูดิโอที่ใช้ถ่ายทำรายการสวิงกันวันอาทิตย์เป็นสตูดิโอขนาดกลาง  ตกแต่งพื้นที่ไว้ใช้ถ่ายเจาะสำหรับมุมต่างๆ อย่างให้เกิดประโยชน์สูงสุด  ไม่ว่าจะเป็นโซนห้องนั่งเล่น  โซนครัว  หรือแม้แต่สวนหย่อมด้านหน้าที่ปลูกต้นไม้  ทั้งยืนต้น  ทั้งไม้ดอก  เมื่อเวลาถ่ายทำออกมาแล้วจะดูร่มรื่นสบายตา

   กานต์ยื่นมือไปไล้สัมผัสใบสีเหลืองอมเขียวอย่างอดใจไม่อยู่  ต้นไม้อะไรสีสวยชะมัด  กลับไปบ้านต้องบอกให้พ่อบ้านหาแบบนี้ไปปลูกประดับวังมังกรบ้าง

   แชะ!

   เสียงชัตเตอร์ถ่ายรูปดังขึ้น  ทำให้กานต์ผินหน้ากลับไปมองยังต้นเสียง  พบหญิงสาวร่างเล็กกำลังลดกล้องถ่ายรูปในมือลงพร้อมส่งยิ้มจริงใจมาให้

   “ขอโทษนะคะ  น้องกรใช่ไหมเอ่ย  พี่ชื่ออุษานะคะ  เรียกพี่อุ๊ก็ได้  เป็นช่างภาพเก็บภาพนิ่งประกอบกองนี้ค่ะ  เผอิญเดินผ่านมาเห็นน้องกรแล้วแสง  เงา  อารมณ์ทุกอย่างมันได้ค่ะ  พี่เลยอดใจไม่ไหวขอเก็บสักรูปก่อนเลย”

   แนะนำตัวพร้อมบอกที่มาที่ไปชัดขนาดนี้... กานต์ก็ได้แต่ยิ้มรับสิครับ  เมื่อพี่มีไมตรีมา  จะให้นิ่งๆ เงียบๆ ตอบกลับไปก็คงใช่ที่  กานต์จึงยกมือไหว้สวัสดีแล้วชวนคุยด้วยการซักถามเรื่องต้นไม้กลับไป

   “สวัสดีครับพี่อุ๊  พี่พอจะทราบไหมครับว่านี่ต้นอะไร  ผมชอบสีใบของเขาจังเลย  ดูสว่างนวลๆ ดีนะครับพี่”

   “อ๋อ... นี่ชื่อต้นแสงจันทร์ค่ะน้องกร  สนใจต้นไม้ใบหญ้าแบบนี้  เป็นผู้ชายที่รักธรรมชาติจังเลยน้า” อุษาหัวเราะคิกคักกระเซ้าเย้าแหย่น้อง  เพราะเห็นท่าทางพอโดนแซวเข้าไป  น้องก็มีปฏิกิริยาขัดเขินน่าเอ็นดู  ชวนให้แกล้ง  พลันอยู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนโดนจับตามอง  ขนบนคอลุกชันโดยไม่ทราบสาเหตุ  พอเหลียวกลับไปมองจึงได้สบกับสายตาพิฆาตยืนเป็นเงาทะมึนแผ่รังสีคุกคามอยู่ทางด้านหลัง  เงาร่างสูงโปร่งค่อยๆ ก้าวเข้ามาอย่างเชื่องช้าทว่าสุขุม  ก่อนที่จะเดินผ่านตัวของหญิงสาวไปก็ทิ้งคำพูดกระซิบแผ่วไว้

   “กรรักธรรมชาติครับ  โดยเฉพาะไม้ป่าเดียวกัน”

   ยิ้มมุมปากถูกจุดมาเสริมความเท่อีกหนึ่งดอก  ก่อนจะผงกศีรษะเป็นเชิงทักทาย

   “อ้าวอุ๊  สวัสดี  ไม่เจอกันนานเลย  เป็นไงบ้าง”

   ผ...ผู้ชายคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว  อุษายิ้มตอบกลับให้ธรณินแบบแหยๆ เมื่อกี๊ยังทำหน้านิ่งเสียงเย็นกระซิบตอบเธอยู่เลย  ฮือๆ

   “สะ... สบายดีค่ะคุณณิน  คุณณินเดินดูสถานที่รอบๆ เล่นไปก่อนนะคะ  พอดีอุ๊ยุ้งยุ่งค่ะ  ต้องไปช่วยทางด้านใน  จัดเตรียมของก่อน  ไปนะคะ”

   “ยุ่งอยู่เหรอครับ  เสียดายไม่ได้อยู่คุยกันเลย  ถ้าอย่างนั้นเชิญคุณอุ๊ตามสบายเลยครับ  พวกผมไม่กวนแล้ว  เดินดีๆ นะครับ  ระวังจะสะดุด ‘ตอ’ ไม้ได้”

   ยิ้มอบอุ่นเอ่ยลาขัดกับนัยน์ตาคมดุคู่นั้น  ทำเอาอุษาต้องรีบยกมือโบกบ๊ายบายสองหนุ่มอย่างรวดเร็ว

   “พี่ณินๆ”

   “หืม” ธรณินหันหน้ามาตามเสียงเรียก

   “ดูต้นนี้สิ  สีสวยมากเลย  พี่ผู้หญิงคนเมื่อกี๊บอกว่าชื่อต้นแสงจันทร์  กลับบ้านไปผมว่าจะหาไปปลูกบ้างล่ะ”

   ธรณินขยับกายชิดเข้าไปชะโงกดู  รู้สึกอารมณ์ดีที่กานต์เรียกอุษาว่าพี่ผู้หญิง  ไม่ได้เรียกชื่อ  แสดงว่าไม่ได้เป็นที่สนใจให้ใส่ใจจำ

   “ระเบียงคอนโดพี่เล็กนิดเดียว  ถ้ากานต์อยากปลูก  คงต้องเลือกแบบต้นไม่ใหญ่มากแล้วใส่กระถางปลูกเอาคงได้อยู่”

   “ไม่ใช่ๆ หมายถึงที่วังมังกรน่ะพี่  ไม่ใช่ที่คอนโดพี่ณิน”

   คนตัวโตชะงักกึก  หันมาละล่ำละลักถามทันที

   “กานต์จะกลับบ้านกานต์แล้วเหรอ  แล้วพี่ล่ะ”

   คนถูกถามเลิกคิ้วสูง  หัวเราะคิกทันที  นิ้วมือเรียวยาวยกขึ้นไล้ไปตามโครงหน้าของธรณิน  ก่อนจะหยิกหมับเข้าให้ที่แก้มอย่างมันเขี้ยว

   “เอ้อ... พี่ณิน  วันนี้เป็นอะไรมากไหมพี่  มีหยอด  มีห่วงใย  มีกันท่าด้วยนะ  อย่านึกว่าผมไม่เห็น  มาตอนนี้มีอ้อนอีก  ถ้าพี่ไม่เป็นผู้ชาย  ผมจะคิดว่าพี่เป็นวันนั้นของเดือนนะเนี่ย”

   “หึ” ธรณินแค่นเสียงหัวเราะไม่ตอบอะไร  เพียงยักคิ้วให้หนึ่งแผล่บเป็นคำตอบเท่านั้น

   “เอ๊า! ทีผมถามละไม่ตอบ”

   “ตอบตอนนี้ไม่ได้หรอกกานต์  พี่อายคนเขา”

   “หือ?”

   กานต์เริ่มรู้สึกตัว  จึงหันไปรอบๆ ก็เห็นทีมงานยืนบิดเขินกันไปมา  โดยมีพวกตนเป็นจุดสนใจอยู่ตรงกลางวงล้อม  เออ... ให้มันได้อย่างนี้  หลอกให้เราเล่นด้วย  จะได้ประกาศศักดาทีเดียวเลยใช่ไหมเนี่ย  ไม่ต้องไล่กระซิบกระซาบขู่เป็นรายคนแล้วเนอะ  แต่ระดับป๋ามีหรือจะอาย  ยกมือไหว้นำไปก่อนแล้วเอ่ยสวัสดีอย่างลื่นไหลทันที

   “อ้าว  สวัสดีครับพี่ๆ รอพวกผมอยู่รึเปล่าครับเนี่ย  ขอโทษด้วยจริงๆ ครับ  มัวแวะดูต้นไม้  อยากได้ต้นแบบนี้ไปปลูกที่บ้านบ้างจัง  พี่ๆ เลยต้องรอนานเลย  ไปครับ  เริ่มกันเลยดีกว่า  เดี๋ยวจะสายไปกว่านี้เนอะ”

   พูดจบก็คว้ามือธรณินออกเดิน  พร้อมกับหันไปหลิ่วตาให้หนึ่งที หึๆ พี่ประกาศศักดาได้  ผมก็แสดงความเป็นเจ้าของพี่ได้นะครับ

   หลังจากเข้ามาด้านในสตูดิโอแล้ว  ธรณินกับกานต์ก็ต้องแยกย้ายกันไปแต่งหน้าแต่งตัว  กลับมาเจอกันอีกครั้งก่อนบันทึกเทปรายการก็ให้หลุดขำ  เพราะเสื้อผ้าที่ใส่  เหมือนกันอย่างกับลูกแฝด  กางเกงยีนส์สีซีดกับเสื้อยืดสีขาวธรรมดาๆ แต่ที่ทำให้ไม่ธรรมดาก็ลายที่สกรีนบนเสื้อ  ตัวของธรณินเป็นคำว่า ‘เนื้อ’ กับหัวใจครึ่งดวง  กานต์ก้มมองตรงหน้าอกตัวเองก็เห็นคำว่า ‘คู่’ พร้อมหัวใจอีกครึ่งดวง... เสี่ยวได้กว่านี้มีอีกไหมเนี่ย

   “มาค่ะหนุ่มๆ พี่ชื่อต้อยตีวิดนะคะ  รู้จักกันแล้วใช่ไหมเอ่ย  เดี๋ยวตามพี่มาดูคำถามกันนิดนึงนะคะ  ถ้าตรงไหนที่รู้สึกไม่โอเค  บอกพี่ได้เลยนะคะ  เดี๋ยวพี่ตัดฉับๆ ออกให้เลย  สบายๆ เนอะไม่ต้องเกร็ง  ไงคะคุณณิน  ทุกทีพาเด็กในสังกัดมาสัมภาษณ์  วันนี้เล่นบทนำเองเลยนะคะ  โฮะๆๆ”

   พี่ที่ชื่อต้อยตีวิดเป็นพิธีกรสาวประเภทสองที่มีฝีมือมากคนหนึ่ง  ขึ้นชื่อในเรื่องบิ้วท์ให้ผู้ชมอินไปกับผู้ที่มาให้สัมภาษณ์  ถ้าสัมภาษณ์คู่กัดก็แทบจะฆ่ากันตายกลางรายการ  แต่หากสัมภาษณ์คู่รักก็มักให้หวานออกสื่อจนคนดูปาดเลือดกำเดา  จิกหมอนขาดกระจายกันไปเป็นแถบ

   “เดี๋ยวคุณณินกับน้องกรลองอ่านคำถามคร่าวๆ ก่อนนะคะ  ถ้าพร้อมแล้วเดี๋ยวเราจะได้เริ่มถ่ายทำกันได้เลย  เพราะมีช่วงออกไปทำกิจกรรมต้องถ่ายด้านหน้าสตูฯ อีก  เดี๋ยวแดดจะแรงไปกันใหญ่เนอะ”

   สองคนเหมือนนักเรียนเตรียมสอบ  ก้มหน้าก้มตาอ่านชีทคำถามหัวชนกัน  มีมาร์คคำถามไว้ด้วยปากกาแดงอย่างกับการเก็งข้อสอบก็ไม่ปาน  ครู่ใหญ่ต้อยตีวิดจึงมาสะกิดเรียกถามถึงความพร้อม  ทั้งสองคนพยักหน้ารับอย่างแข็งขันจนคนมาตามต้องหัวเราะ

   “สัมภาษณ์นะพวกเธอ  ไม่ต้องทำหน้ามุ่งมั่นเหมือนจะไปออกรบขนาดนั้นก็ได้”

   จิกกัดพอละลายพฤติกรรมหนุ่มๆ เสร็จ  พิธีกรสาวก็ปรบมือแปะๆ ให้ทุกคนตั้งสมาธิเตรียมพร้อมสำหรับการถ่ายทำ  โดยเลือกถ่ายตรงบริเวณห้องนั่งเล่น  มีพิธีกรสาวนั่งอยู่ด้านข้าง  ให้แขกรับเชิญนั่งคู่กันที่โซฟาสีครีมตัวใหญ่ตรงกลาง  เพื่อให้บรรยากาศเป็นไปอย่างสบายๆ จากนั้นสัญญาณนับถอยหลังการถ่ายทำก็เริ่มขึ้น

   ต้อยตีวิด : สวัสดีค่าท่านผู้ชม  วันนี้รายการสวิงกันวันอาทิตย์รู้สึกได้ถึงบรรยากาศหวานเยิ้มหยดย้อยจนตัวดิฉันแทบจะอยากยกเลิกรายการซะเดี๋ยวนี้ (พูดจบก็ทำท่าเบะปากไหวไหล่อย่างหมั่นไส้เต็มที่) แต่เนื่องด้วยมีเสียงเรียกร้องจากแฟนๆ รายการโทรมาจนสายแทบจะไหม้  ให้พาคู่จิ้น  อุ๊ย!  ไม่ใช่สิ  เขาเปิดตัวว่าเป็นคู่จริงกันแล้วนี่เนอะ (ผายมือไปทางทั้งสองคนพร้อมยกมือไหว้) สวัสดีค่ะ  ขอต้อนรับเข้าสู่รายการสวิงกันวันอาทิตย์ค่า  แนะนำตัวกันหน่อยเร็วหนุ่มๆ”

   กานต์และธรณินยกมือไหว้ตอบพลางส่งยิ้มให้กล้องอย่างโปรยเสน่ห์อย่างไม่มีใครยอมใคร

   กานต์ : สวัสดีครับ  นี่พี่ณิน  ธรณินครับ (ชี้ไปข้างตัวยิ้มกริ่ม  ส่วนธรณินก็ยิ้มรับแล้วต่อมุกทันที)

   ธรณิน : สวัสดีครับ  คนนี้ที่นั่งหน้าตาน่ารักอยู่นี่ชื่อน้องกรครับ

   ต้อยตีวิดยกมือทาบอกทำตาโต  กรีดร้องออกมาแบบอิจฉาอย่างสมจริง

   ต้อยตีวิด : เอาค่ะๆ แหมนี่แค่ให้แนะนำชื่อนะคะ  ทำไมต้องพูดชื่อแทนกันด้วยอิจฉา  สงสารคนไม่มีคู่บ้างไรบ้างนะคะ  แล้วมือน่ะไม่ต้องกุมกันไว้ตลอดก็ได้  โอ๊ย! ไม่อยากสัมภาษณ์ต่อแล้วเนี่ย

   การถ่ายทำการสัมภาษณ์เป็นไปด้วยดี  พิธีกรช่างหยอกช่างเย้าได้อย่างพอเหมาะพอควร  ธรณินกับกานต์ก็ให้ความร่วมมือย่างเต็มที่  ส่วนมากก็เป็นคำถามว่าคบกันได้ยังไง  เจอกันที่ไหน  ซึ่งทั้งคู่เคยตอบคำถามนักข่าวไปจนหมดเปลือกอยู่แล้ว  มีที่เพิ่มมาก็เป็นเพียงการแซวนิดแซวหน่อยของพิธีกร  เพื่อดึงให้คนดูมโนไปไหนต่อไหนมากกว่า

   “โอเค  คัท”

   สิ้นเสียงสิ้นสุดการถ่ายทำ  พี่ๆ ช่างแต่งหน้าก็กรูกันมาเติมหน้า  ซับมันกันให้มะรุมมะตุ้มเต็มไปหมด  ช่วงเวลาต่อจากนี้คือการถ่ายทำนอกสตูดิโอ  เพื่อให้ทั้งสองเล่นเกมด้วยกันเป็นการเซอร์วิสแฟนๆ ทางบ้าน  ต้อยตีวิดเดินมาอธิบายเกมกินป๊อกกี้ให้หนุ่มๆ ฟังว่าต้องทำยังไงบ้าง

   “เคยเห็นใช่ไหม  ที่รายการอื่นๆ เค้าให้กินป๊อกกี้กันคนละด้านน่ะ  แต่อันนั้นมันธรรมดาไป  รายการไหนๆ ก็ทำกัน  ยังไงรายการพี่ขอจัดหนักหน่อยนะ  เราจะกินป๊อกกี้แนวนอนกัน  คุณณินกับน้องกรยืนหันหน้าเข้ากันนะ  ยืนชิดๆ กันเลย  แล้วงับไว้คนละด้าน  โอเคแบบนี้ละ  แล้วขยับเข้ามากัดคำเดียวก็แก้มชนกันแล้วเห็นไหม  แล้วก็กินให้หมดแท่ง  แค่นี้เอง”

   กานต์ยืนฟังไปพลางกลืนน้ำลายลงคอไปพลาง  ไอ้การกินป๊อกกี้โชว์น่ะไม่เท่าไหร่  แต่รายการนี้จะให้บดปากโชว์เลยเนี่ยนะ  เพราะปกติการกัดป๊อกกี้ตรงๆ เข้าหากันจะสิ้นสุดที่ปากชนกันก็จบ  แต่นี่เล่นงับจากด้านข้างเข้าหากัน  บทสรุปคือต้องบดปากกันแน่ๆ แล้วที่สำคัญ  กานต์เงยหน้ามองดวงอาทิตย์บนท้องฟ้าแล้วได้แต่ถอนหายใจ  เฮ้อ... แดดจะแรงอะไรขนาดนี้วะเนี่ย

   เมื่อการถ่ายทำเริ่มขึ้นอีกครั้ง  พิธีกรยังคงสดใสร่าเริง  แนะนำเกมอย่างกระดี๊กระด๊า  แต่แขกรับเชิญเริ่มหน้าซีด  เพราะอากาศที่เริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ ทั้งสองคนแทะป๊อกกี้จนขนมหมดไปหลายกล่องก็ยังได้ความหวานไม่ถูกใจ  จนต้องสั่งเทคแล้วเทคอีก  เพราะแทนที่จะมีสีหน้าเอียงอาย  กลับมีแต่สีหน้าเบื่อหน่ายของกานต์ปรากฏชัดขึ้นเรื่อยๆ

   “น้องกรคะ  ถ้าน้องไม่เต็มใจมาก็บอกตั้งแต่แรกสิคะ  พี่ถ่ายกันมาตั้งนานยังไม่ไปถึงไหนเลยเนี่ย” ต้อยตีวิดเริ่มออกอาการโมโห  แต่ธรณินซึ่งรู้สาเหตุของอาการหน้าซีดของกานต์ดีก็รีบออกมารับแทน

   “ต้องขอโทษพี่ต้อยตีวิดแทนน้องด้วยนะครับ  พอดีกรเขาแพ้อากาศร้อนน่ะครับ  เลยอาจจะมีท่าทางล้าไปบ้าง  คือผมขอถามนิดนึงนะครับพี่  จุดประสงค์ของตอนนี้  เพื่อให้แฟนๆ ฟินใช่หรือเปล่าครับ”

   ต้อยตีวิดมีท่าทางอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด  เมื่อได้ฟังเหตุผลจากธรณิน  เพราะบ่ายขึ้น  แดดก็แรงจัดจริงๆ จึงพยักหน้ารับ  พร้อมอธิบายเพิ่มเติม

   “ใช่ค่ะคุณณิน  ช่วงท้ายรายการจะเป็นช่วงเรียกเรทติ้งของทุกเทปเลยค่ะ”

   “ถ้าอย่างนั้น  เดี๋ยวผมจัดให้ครับ  เอาให้ฟินสุดๆ นะครับ”

   เสียงนับถอยหลังการถ่ายทำเริ่มขึ้น  กานต์หันไปรับป๊อกกี้ที่พิธีกรมาจับปลายด้านหนึ่งใส่ปากอีกครั้ง  แต่คราวนี้  ธรณินจับขนมดึงออกมา  ก่อนจะโยนทิ้งอย่างไม่ไยดี  ตวัดมือโอบรวบเอวคนหน้าซีดมาชิดแนบตัว  แล้วโน้มหน้าลงบดปากจุมพิตดูดดื่ม  โดยไม่ต้องอาศัยป๊อกกี้แต่อย่างใด  จนได้ยินเสียงคล้ายๆ คำว่าคัทแผ่วๆ ลอยมาสะกิดเตือนโสตประสาท  ธรณินจึงถอนจูบออกมาอย่างอ้อยอิ่ง  ส่วนคนโดนจูบปากเจ่อตาลอยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
   .
   .
   .
   .
   .
   และกรุณาอย่าถามถึงทีมงาน  ฟินเลือดกำเดาแตกกันยกกอง!!!

   
TBC...

Happy Valentine's day

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 11 (14/02/2560)
«ตอบ #57 เมื่อ14-02-2017 20:43:17 »

อย่าว่าแต่สตาฟกองถ่ายเลย

คนอ่านก็เลือดกำเดาไหลโกรกอยู่เนี่ย

ออฟไลน์ Tennyo_Y

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 11 (14/02/2560)
«ตอบ #58 เมื่อ14-02-2017 22:09:09 »

พี่ณิน เกินไปแล้ว ทำเกินไปแล้ว ฮือออออออ นอนตายอย่างสงบแทนน้องกานต์

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 11 (14/02/2560)
«ตอบ #59 เมื่อ14-02-2017 22:15:41 »

ฟินกระจาย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด