[yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥  (อ่าน 200869 ครั้ง)

ออฟไลน์ zenzaii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ



.....


คุณเคยเจอคนเยอะๆ มั้ยครับ?
เยอะแบบที่ว่า..


'กูชอบหมากู แต่ไม่ได้หมายความว่ากูชอบหมาทุกตัวป่ะ'
'คือกูชอบสีดำน่ะใช่ แต่มึงดูดีไซน์ดิ อันนี้กับสีดำ มันไปด้วยกันไม่ได้ป่ะวะ'
'กูอยากกินชีส แต่แบบ.. ชีสแผ่นๆ นี่กับพิซซ่าหน้านี้ กูกินไม่ได้ไง'


...

สารภาพตามตรงครับ ตั้งแต่ผมเกิดมา
ยังไม่เคยเจอใครที่ขัดแย้งกันในตัวเองเท่าพี่เขาเลย

ให้ตาย!


[yaoi]...ก็พี่มันเยอะ





00 - พี่คนนั้น
01 - …ก็พี่มันเท่
02-…ก็พี่ชอบสีดำ
03-…ก็พี่ไม่ชอบ
04-…ก็พี่ขี้เมา
05-…ก็พี่ขี้บ่น
06-…ก็พี่ไม่สนิท
07-…ก็พี่ไม่คิด เดี๋ยวผมคิดเอง
08-…ก็พี่ยังไม่หลับ เดี๋ยวผมขับให้
09-…ก็พี่ไม่มีสอบ แต่ผมมีนี่ครับ
10-…ก็ถ้าพี่ว่าไง ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละครับ
11-…ก็ถ้าพี่สั่ง ผมจะไม่ฟังได้ยังไงล่ะครับ
12-…ก็พี่ไม่ได้เขิน ผมแค่บังเอิญเห็นพี่ยิ้มเอง
13-…ก็ถึงพี่จะไม่ให้ แต่ผมไม่ได้ขอนี่ครับ
14-…ก็ถ้าใจพี่ยังอยู่ทะเล ใจผมก็อยู่ทะเลครับ
15-…ก็พี่บอกว่าจะพาผมไปดาวอังคาร
16-…ก็ถ้าพี่หวง ก็มาควงผมแทนสิครับ (1)
17-…ก็ถ้าพี่หวง ก็มาควงผมแทนสิครับ (2)
18-…ก็ถ้าพี่ไม่ว่าง เดี๋ยวผมไปอยู่ข้างๆ พี่เอง
19-…ก็ถ้าพี่อยากได้มากกว่านั้น
20-…ก็พี่อยากได้คำตอบ
21-…ก็พี่ไม่รู้ว่าบนดอยมันหนาวจับใจ
22-…ก็พี่ไม่ชอบคำเลี่ยนๆ ผมเปลี่ยนเป็นทำอย่างเดียวก็ได้ครับ
23-…ก็พี่คงไม่สนใจ
24-…ก็ถ้าพี่ไม่ให้ ผมก็คงไม่ได้
25-...ก็ถ้าพี่มาง้อ ผมก็รออยู่ตรงนี้ไงครับ (1)
26-…ก็ถ้าพี่มาง้อ ผมก็รออยู่ตรงนี้ไงครับ(2)
27-...ก็พี่มีแฟน
28-...ก็พี่ไม่นิยาม แต่ผมว่ามันมีความหมาย
29-...ก็พี่ไม่รู้ ผมก็ไม่รู้(มั้งครับ)
30-...ก็ถ้าพี่จะรุก แล้วผมต้องรับมั้ยครับ?
31-...ก็พี่เผลอ แล้วเจอกันครับ
32-...ก็พี่ต้องเลือก ผมหรือผลไม้ดีครับ?
33-...ก็พี่ใจร้อน ส่วนผมมันเด็กว่านอนสอนง่าย
34-...ก็พี่เสียงดัง จะให้ผมยั้งยังไงล่ะครับ?
35-...พี่คนนั้น กับน้องคนนี้


THE END ♥







Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-02-2017 01:03:23 โดย zenzaii »

ออฟไลน์ zenzaii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
Re: [Yaoi]...ก็พี่มันเยอะ
«ตอบ #1 เมื่อ27-10-2016 22:00:37 »

00 - พี่คนนั้น


ฉึก ฉึก ฉึก…

“มึง เสียงอะไรวะ”

ในตอนกลางคืนที่เงียบสงัดแบบนี้ เวลาก็เลยเข้าสู่วันใหม่มามากกว่าครึ่งชั่วโมงแล้วแบบนี้ กับเสียงแปลกๆ ที่ยังดังมาต่อเนื่องแบบนี้ทำเอาผมใจคอไม่ดีเลยครับ อยากรู้จริงๆ ว่าอะไรดลใจให้พวกรุ่นพี่ปีสองต้องชวนกึ่งบังคับเฟรชชี่หน้าใสอย่างพวกผมเข้ามามหา’ลัยในยามวิกาลแบบนี้

“เสียงอะไรของมึง อย่ามาเล่นตอนนี้ได้ป่าววะ ดูเวลาด้วยครับเพื่อน”

‘ปกป้อง’ เพื่อนผมบ่นขึ้นมาอย่างหงุดหงิดก่อนจะหันไปมองรอบๆ เพื่อสำรวจหาเสียงแปลกๆ ตามคำพูดผม พาลเอาไอ้พวกเหลือที่เดินตามๆ กันมาเริ่มอยู่ไม่ติดกันเป็นแถว

ฉึก ฉึก ฉึก…

“กูได้ยินอีกแล้วว่ะ” ผมเริ่มใจคอไม่ดีแบบจริงจังแล้วนะผมว่า

“เสียงลม ต้นไม้ ใบหญ้าป่าวมึง”

ป้าบ! ‘ไอ้ธันย์’ เพื่อนที่เดินอยู่ด้วยกันกับผมหัวเกือบทิ่มลงพื้นจากมือปริศนาที่โผล่เข้ามาร่วมวง

“ต้นไม้ใบหญ้าบ้านมึงมันต้องทำปฏิกิริยากันท่าไหนวะถึงได้ดังฉึกๆ”

‘พีท’ เพื่อนอีกคนที่คงได้ยินเสียงเหมือนกันพูดขึ้นก่อนจะเริ่มหาต้นเสียงอย่างจริงๆ จังๆ แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร แขกยามวิกาลชั้นปีที่หนึ่งทั้งสิบชีวิตก็หยุดลงข้างตึกหนึ่งที่มีป้ายตัวใหญ่มองเห็นได้ตั้งแต่ไกลเขียนว่า ‘คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์’

“น้องครับ ถ้าเราจะดอยคัท คณะนี้เหมาะสุดครับน้อง เพราะในมหา’ลัยเรามีคณะที่เกี่ยวกับศิลปะแค่คณะเดียว เพราะฉะนั้น เชิญครับน้องและขอให้…โชคดี” พี่ผู้ชายปีสองคนหนึ่งพูดขึ้นก่อนจะผายมือไปยังคณะสถาปัตย์ที่ตอนนี้เงียบมาก หนำซ้ำยังแทบไม่มีแสงสว่างนอกจากไฟใต้ตึกที่ทำหน้าที่ส่องแสงสลัวๆ ออกมาเพียงแค่สองสามดวงเท่านั้น

ประเพณีดอยคัท พูดง่ายๆ ก็คือการแอบไปจิ๊กคัทเอาท์จากคณะอื่นมาเป็นของเรา ภาษาง่ายๆ ก็คือขโมยนั่นแหละครับ แต่ถ้าพูดให้สวยๆ หน่อยก็คือการหมุนเวียนกันใช้ในมหา’ลัย คัทเอาท์ที่ว่าก็คือป้ายที่ใช้ในกิจกรรมต่างๆ ซึ่งจะมีมันตลอดทั้งปี พอคณะนี้มีกิจกรรมก็ไปดอยมา พอคณะอื่นมีกิจกรรมบ้างก็มาดอยกลับไป ถึงจะเป็นการแอบจิ๊กไป แต่อย่างน้อยเราก็มีจรรยาบรรณพอที่จะดูก่อนว่าคัทเอาท์ที่วางอยู่เขากำลังใช้อยู่มั้ย ส่วนใหญ่ก็จะรอให้ผ่านช่วงกิจกรรมที่อยู่บนคัทเอาท์ไปแล้วซักระยะหนึ่งถึงจะเอามา ซึ่งช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการดอยคัทก็หลังเที่ยงคืนนี่แหละครับ

พวกผมเริ่มมองหน้ากันเลิ่กลั่กเมื่อเห็นพี่ปีสองเดินหลบไปนั่งที่ฟุตบาทข้างๆ รถซาเล้งเก่ากึกที่ยืมจากคณะมา เป็นอันว่างานนี้ปีหนึ่งต้องลุยกันเองสินะ

ฉึก ฉึก ฉึก…

“เชี่ยย เสียงงง..” เพื่อนตัวข้างๆ ผมพูดขึ้นมาเล่นเอาพวกปีหนึ่งที่ทำใจกล้าเริ่มใจฟ่อกันเป็นแถว ไอ้ไปดอยคัทนี่ไม่เท่าไหร่หรอกครับ แต่ไอ้เสียงฉึก ฉึกที่เริ่มเป็นประเด็นนี่สิ ทำไมยิ่งเดินเข้าใกล้ๆ ตึกแล้วมันยิ่งดังวะ เพราะเท่าที่ดูตอนนี้ในตึกไม่น่าจะมีคนอื่นนอกจากพี่ยามที่กำลังหลับอยู่และวันนี้ก็เป็นคืนวันเสาร์แรกของเปิดเทอมที่พวกเด็กคณะนี้ไม่น่ามีเรียน(ตามที่พี่บอกมา)



“เงียบไปแล้วว่ะ” พวกผมมองหน้ากันแล้วรีบๆ เดินกันเข้าไปในตึกนั่น ถ้าจะทำอะไรก็ต้องทำมันตอนนี้แหละวะ




“กูว่าเราเอาคัทอันนี้ไปได้เว้ย กับอีกสองอันที่น่าจะอยู่แถวๆ ประตูด้านหลังตามที่พี่ปีสองบอกมา” ตอนนี้เด็กปีหนึ่งเริ่มแบ่งออกเป็นสองกลุ่มย่อยๆ โดยกลุ่มหนึ่งจะเอาคัทที่เจอหน้าคณะกลับไปที่ซาเล้งก่อนส่วนพวกที่เหลือต้องไปหาคัทอีกสองอันตามบัญชาของปีสองให้เจอ

“แล้วพี่เค้าบอกป่ะว่าประตูหลังอยู่ไหน”

“อยู่นี่ค่า” นางฟ้าหนึ่งเดียวในกลุ่มพูดขึ้นก่อนจะแอ่นตูดมารับลูกถีบของเพื่อนผมไปเต็มๆ

“ใช่เวลามาเล่นมั้ยอิแบงค์”

“รุนแรงอ่ะป้อง ไรว้า” อิแบงค์ หรือ แบงแบง ชื่อใหม่ของมัน(ที่มันตั้งเอง) โอดครวญก่อนจะเดินตูดบิดไปหาพวกกลุ่มแรกที่เอาคัทกลับซาเล้งไป

“มึงก็ไปแกล้งมัน งั้นเราลองเดินไปทางนั้นมั้ย กูว่าตึกมันน่าจะสุดแค่นั้นนะ คงอยู่แถวๆ นั้นแหละ” ผมมองตามทางที่ไอ้พีทชี้ไป โอ้โห ทางอย่างมืดครับผม ไม่ต้องคิดว่าจะหาเจอมั้ย ถามว่าผมจะกล้าเดินไปรึป่าวก่อนเหอะ

“รีบๆ ไป รีบๆ กลับกูง่วง” พีทพูดขึ้นก่อนจะลากพวกผมที่เหลือกันอยู่สี่คนเดินไปตามทางอันเปล่าเปลี่ยวเอกานั่น

ฉึก ฉึก ฉึก…

พวกเราทั้งหมดหยุดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

ฉึก สวบ…

เสียงที่ใกล้เข้ามาทำให้หันไปมองต้นกำเนิดของมันอย่างอดไม่ได้

สวบ สวบ…

เงาตะคุ่มๆ ของบางอย่างกำลังตรงมาทางนี้ ฉิบหาย.. มันกำลังกวักมือเรียกพวกเรา

“อ้าวเฮ้ย” ไม่ใช่พวกเราแล้วครับ ไอ้เงานั้นคงกวักมือเรียกผมมากกว่าเพราะตอนนี้ข้างๆ ผมไม่มีใครแล้ว หนีกันไปตอนไหนวะเนี่ย ยังไม่ทันที่ผมจะได้ก้าวเท้าวิ่งตามเพื่อนไป ก็มีอะไรบางอย่างมาแตะไหล่ผม ไม่ได้แตะอย่างเดียวด้วย มันยังกระชากผมจนหันกลับไปหามันได้อีก

สิ่งที่ผมเห็นตรงหน้าทำเอาผมแทบร้องไม่ออก ร่างที่น่าจะเป็นผู้ชาย ตัวผอมๆ หัวพันกันยุ่งเหยิง ตาแดงก่ำ ใต้ตาคล้ำเหมือนคนอดนอนมาสิบชาติ ซ้ำตามเนื้อตัวยังเลอะเทอะไปด้วยรอยดำๆ แดงๆ นาทีนี้คิดบวกแบบโลกสวยให้ดีสุดก็คนบ้าแล้วครับ แต่บังเอิญโลกของผมมันขี้เหร่แบบสุดๆ ซะด้วยสิ

“เชี่ย ศพ”

“เฮ้ย รู้ได้ไงวะ”

“เชี่ยยย พูดได้ด้วย”

“อ้าว ไอ้นี่” ร่างตรงหน้าเริ่มทำหน้ายุ่งจนผมใจไม่ดีแต่ที่ยังยืนอยู่ได้คาดว่าคงเป็นพลังเฮือกสุดท้าย เขาว่ากันว่า ‘คนใกล้ตายหลังจากผ่านจุดที่ทุกข์ทรมานที่สุดมาได้ จะกลับมาอยู่อย่างสบาย …ก่อนจะตายอย่างสงบ’

“ไปก่อนนะคร้าบบ” ผมตัดสินใจเอาชีวิตรอดในนาทีสุดท้ายก่อนจะติดเกียร์หมาวิ่งออกไปสุดชีวิต

โครมม..

และผมก็ได้ตายอย่างสงบจริงๆ …

“ขอโทษๆ เป็นไรป่าววะ” ผมมึนไปครู่ใหญ่ก่อนจะมีสติคิดได้ว่ากูลงมานอนทำซากอะไรที่พื้นวะเนี่ย หลังจากนั้นก็มีพลังงานบางฉุดตัวผมให้ลุกขึ้นมาก่อนจะหันไปเห็นร่างที่ผมวิ่งหนีมากำลังช่วยให้ผมลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล

“เชี่ยย ผีผลักอ่ะ”

ผัวะ..

“ผีพ่อง พี่มึงอ่ะ ปีหนึ่งใช่ป่ะ มาช่วยกูเลย” ตอนนี้กลายเป็นผีลากไปแล้ว อาเมน





ภาพที่ปรากฏตรงหน้าคือกองดินหย่อมหนึ่งที่ถูกขุดขึ้นมาจากหลุมขนาดไม่ใหญ่นัก ข้างๆ หลุมมีห่อผ้าสีขาว กับดอกเข็มอีกสองสามช่อวางอยู่ ถัดไปอีกมีทั้งธูป เทียน ไม้กระดาน ถังสี พู่กัน …มันต้องเล่นของแน่ๆ แต่ถังสีกับพู่กันเอามาทำอะไรวะ?

“มึงยกห่อผ้าขาวนั่นมาให้กูหน่อย เบาๆ นะ” ร่างนั้นที่ตอนนี้ผมลดขั้นจากศพเหลือคนบ้าให้ชี้ไปยังห่อผ้าขาวที่พื้น ตอนแรกก็ว่าจะไม่ทำหรอกแต่ไอ้ตาแดงๆ ที่มองมานั่น.. ทำก็ได้วะ ขู่กูจังเลยเว้ย ฮือออ

“เอ่อ ทำไมมันหนักอ่ะ ..ครับ” พูดดีเป็นศรีแก่ตัว พูดชั่ว..คงไม่ได้กลับออกไป

“ลูกกู.. อยู่ในนั้น”

“เชี่ยย” คำตอบทำเอาผมมือไม้สั่นจนห่อผ้าขาวในมือแทบร่วงลงไป ก่อนคนคนนั้นจะเข้ามาคว้าไว้พลางหันมาถลึงตาใส่ผม พร้อมน้ำตาที่เริ่มเอ่อคลอ

“ส่งมานี่ กูจัดการเอง” เขารับเอาผ้าไปด้วยเสียงสั่นเครือก่อนจะค่อยๆ หย่อนห่อผ้าลงไปในหลุมอย่างเบามือ ก่อนจะโกยกองดินมาทับร่างนั้นไว้ จากนั้นจึงหันไปจัดการกับถังสี พู่กันและไม้กระดานก่อนจะกลับมาวุ่นวายที่ที่คาดว่าน่าจะเป็นหลุมศพลูกเขาพร้อมด้วยป้ายหลุมศพ (อ่อ เค้าไม่ได้เล่นของ) ที่วาดรูปหัวใจพร้อมลงวันที่สองวันที่คาดว่าคงเป็นวันเกิดและวันตายซึ่งก็คือวันนี้

“เอ่อ.. เสียใจด้วยนะครับ” ผมไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดีในเวลาแบบนี้นอกจากแสดงความเสียใจ จะคนดีคนบ้าก็มีความเป็นพ่อเป็นแม่เหมือนกัน ว่าแต่.. ทำไมเขาเอาศพลูกเขามาฝังไว้ในมหา’ลัยวะ?

“อือ” เขาคนนั้นใช้หลังมือขยี้ตานิดหน่อยก่อนจะหันไปวุ่นวายกับกองดินตรงหน้า จากดินที่มีระดับเสมอพื้นตอนนี้มันเริ่มกลายเป็นภูเขาขนาดย่อมๆ ด้วยมือเขาคนนั้น จากนั้นเขาก็เดินหายไปไหนซักที่หนึ่งก่อนจะกลับมาพร้อมถังเลอะสีที่ใส่น้ำไว้จนเกือบเต็ม เขาวางถังไว้ข้างๆ ตัวก่อนจะขว้าเสียมเล็กที่หลบอยู่หลังต้นไม้ทำให้ผมไม่เห็นมันในตอนแรก

ฉึก ฉึก ฉึก…

ไอ้เสียงนั่นนี่หว่า.. คราวนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่หลุมใหญ่เหมือนในตอนแรกแต่เป็นร่องยาวๆ สักเมตรหนึ่งอยู่ตรงหน้ากองดิน เขาวางเสียมลงก่อนจะคว้าถังน้ำแล้วเทลงไปตามร่องยาวๆ นั่น …จากนั้นน้ำก็ซึมลงดินไปหมด ‘เชี่ยย หรือแมร่งจะเล่นของจริงๆ วะเนี่ย’ ผมเผลอก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว ตาแดงๆ นั่นหันมามองผมอีกครั้งอย่างไม่ใส่ใจนักก่อนรวบอุปกรณ์ทั้งหมดแล้วเดินกลับไปในตึก

“จะอยู่ตรงนั้นอีกนานมั้ย เดี๋ยวปล่อยให้อยู่คนเดียวซะหรอก” เขาตะโกนมาจนผมเริ่มสับสนจริงๆ แล้วว่า



‘ตกลงวันนี้กูทำมาทำอะไรนะ’









ออฟไลน์ zzzzzz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
งงเลย 555555555555555555555555555รอๆ



ออฟไลน์ zenzaii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
01 - …ก็พี่มันเท่

"ปีหนึ่งครับผม ถ้าเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว ลงไปเจอพวกพี่ลานต้นไทรนะครับ" เสียงพี่คีย์(ก็พี่คนที่เป็นหัวโจกแก๊งค์ดอยคัทพวกผมเมื่อคืนวันก่อนนั่นแหละครับ)ตะโกนแข่งกับเสียงโหวกเหวกโวยวายของเจ้าพวกปีหนึ่งที่กำลังลนลานเก็บชีทและอุปกรณ์การเรียนเพื่อไปให้ทันเข้าห้องเชียร์ของพวกพี่ว๊ากปีสาม

ตอนนี้มหา'ลัยเพิ่งเปิดเทอมเป็นสัปดาห์ที่สอง ปีหนึ่งอย่างพวกผมเลยยังหนีไม่พ้นช่วงรับน้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมหา'ลัยที่ถูกหล่อหลอมมาด้วยระบบยอดฮิตอย่างระบบโซตัสแบบนี้ ก็ยิ่งเลี่ยงไม่ได้เลยครับที่จะถูกหล่อหลอมไปด้วยกันอีกปี

"ขาดเยอะนะเนี่ย ซวยแน่พวกมึง" พี่คีย์พูดขึ้นมาขำๆ หลังจากนับจำนวนปีหนึ่งทั้งหมด แต่คนที่จะขำไม่ออกก็พวกผมนี่แหละครับ

"โอเคค่ะน้องๆ พี่มีข่าวมาแจ้งจากพวกพี่ปีสามว่า วันนี้ไม่มีห้องเชียร์ แต่!" พี่ปีสองอีกคนที่ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อนแต่บอกได้คำเดียวครับว่านับจากวันนี้ผมจะไม่มีทางลืมหน้าพี่เขาแน่ๆ เอ่ยขึ้น

"น่ารักโคตร" ไอ้ป้องพูดขึ้นมาอย่างเพ้อๆ

"แต่ปีหนึ่งทั้งหมดจะต้องช่วยกันทำคัทเฟรชชี่ให้เสร็จภายในวันศุกร์นี้นะคะ"

"โห.." ห้าวันเท่านั้นครับกับคัทว่างเปล่าทั้งสามแผ่นที่วางอยู่ตรงหน้าอันประกอบด้วยคัทเลอะๆ จากคณะสถาปัตย์หนึ่งแผ่น และคัทอันสวยงามอีกสองแผ่นที่สุดท้ายก็จบลงด้วยการเรี่ยไรเงินไปซื้อมาเพราะดอยมาได้ไม่ครบ

"งั้นก็เริ่มได้ค่ะ แบ่งเวลากันดีๆ นะคะ ได้ข่าวว่ามีควิซกันด้วยนี่นา" พี่ปีสองสุดสวยหรือที่ไอ้ป้องไปสืบมาแล้วว่าชื่อ 'พี่เนม' จากไปพร้อมกับทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ให้ปีหนึ่งอย่างพวกผมได้ใจเต้นกันเล่นๆ





"เราควรเริ่มจากตรงไหนก่อนดี" ไอ้พีทที่ ณ บัดนี้ได้รับการเลื่อนยศเป็นหัวหน้าชั้นปีเป็นที่เรียบร้อยแล้วพูดขึ้นหลังจากที่กว่าร้อยชีวิตนั่งล้อมวงมองคัทที่อยู่ตรงกลางวงโดยไม่มีใครทำอะไร

...ศิลปะกับเด็กเกษตรอย่างพวกผมนี่ช่างไม่ถูกกันซะจริง

"นั่งมองมันเข้าไป คัทมันจะงอกเงยขึ้นมามั้ยเนี่ย" พี่คีย์ที่วันนี้มีหน้าที่นั่งเฝ้าพวกผมเหลือบมามองเล็กน้อยก่อนจะก้มมองจอในมือต่อไป

..พี่ช่างทำหน้าที่ได้ดีเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ

"เอาเลยมั้ย"เด็กปีหนึ่งที่ผมไม่รู้จักชื่อเอ่ยขึ้นก่อนจะลุกไปที่คัทและกองถังสีกลางวงก่อนจะมองอุปกรณ์ตรงหน้าแล้วสุ่มหยิบถังสีขึ้นมาหนึ่งอัน สุ่มจริงๆ ครับ ผมได้ยินมันท่อง 'จ้ำจี้มะเขือเปราะ..'

หลังจากนั้นปีหนึ่งทั้งหมดก็เริ่มละเลงสีลงไปตามการสุ่มหยิบจากทริคของแต่ละคน

...สีสันช่างแสบทรวงดีเหลือเกิน





"ห่วย"

"ไม่เอาครับ"

"เด็กอนุบาลก็ทำได้"

สารพัดคำสุภาพเท่าที่จะสามารถด่าปีหนึ่งอย่างพวกผมได้ดังขึ้นจากพวกพี่ว๊ากปีสามทันทีที่พวกพี่แกเหยีบย่างเข้ามายังบริเวณลานต้นไทรซึ่งเป็นห้องเชียร์กลางแจ้งเฉพาะกิจเพื่อเอาไว้ตรวจคัทโดยเฉพาะเลยครับ

...แล้วหลังจากนั้นทุกอย่างก็รีรัน

...เพียงแต่วันนี้

...เป็นวันพฤหัสบดี ไม่ใช่วันจันทร์แต่อย่างใด





"เวรแล้ว ทำไงดีวะ" ไอ้ป้องพูดขึ้นมาอย่างจนใจพลางมองคัทสีสันแสบทรวงที่บัดนี้มีรอยสเปร์พ่นทับเป็นเครื่องหมายกากบาทสีแดงอันใหญ่อยู่ตรงกลางแบบพอดิบพอดี

...พวกพี่ว๊ากต้องเป็นเป็นพวกแก๊งค์พ่นสีใต้สะพานเก่าอย่างแน่นอน

"เป็นไงพวกมึง" พี่คีย์เดินเข้ามาตบไหล่ ดูเหมือนจะเห็นใจถ้าพี่แกไม่พยายามกลั้นยิ้มน่ะนะ

"ทำไงดีวะพี่ พรุ่งนี้มีควิซด้วยนี่สิ" ไอ้พีทพูดขึ้นพลางมองหน้าปีหนึ่งทั้งหมดที่นั่งหมดแรงตัวเหี่ยวกันเป็นแถว ตัวไอ้พีทเองอ่ะไม่น่าห่วงเพราะมันฉลาด แต่พวกที่เหลือถ้าไม่อ่านหนังสือนี่เรียบร้อยโรงเรียนควิซกันแน่ๆ

...รวมถึงผมด้วยครับ ขออนุญาตเศร้าสองนาที

"เออ เลิกงอแงได้ละ เดี๋ยวกูช่วย อย่าไปบอกพี่เค้าละกัน"

"พี่เนี่ยนะ" ปีหนึ่งมองหน้าพี่คีย์อย่างไม่อยากเชื่อ

...ถ้ากูเป็นพี่คีย์นี่กูปล่อยพวกแมร่งไปละ บอกเลย

"ถ้าขืนพวกมึงยังทำหน้าอย่างนั้นต่อไป เดี๋ยวกูปล่อยให้พวกมึงตายคาคัทอย่างใจมึงต้องการเลยดีมั้ย" แหม่ เข้าไปประจบกันแทบไม่ทันเลยทีเดียวครับ

"เดี๋ยวกูโทรหามันแป๊บ" พี่คีย์พูดพลางยกโทรศัพท์ขึ้นมากดๆ โทรหาใครบางคน

"นั่นไง" พี่หนึ่งพร้อมใจกันแซวทันทีที่รู้ว่าคนพูดปากดีไปอย่างนั้น ไม่มีทางช่วยได้เหมือนที่คิดไว้ไม่มีผิด

"จะเอาไม่เอา" พี่คีย์เลื่อนมือไปยังปุ่มวางสายหลังได้ยินเสียงแซวของพวกปีหนึ่ง

"เอาครับพี่"

"เออ ให้มันรู้ซะบ้างใครเป็นใคร.. ฮัลโหล ไอ้กันย์ กูมีเรื่องให้ช่วย"





"ศพ"

"ผี"

"เด็ก'ถาปัตย์"

"พ่อของลูก"

"หืมม.." ไอ้พวกสามตัวนั่นหันมามองเป็นตาเดียวจนอธิบายแทบไม่ทัน

"ก็พ่อก็ไอ้ลูกในห่อสีขาวที่กูช่วยเขาฝังไง"

"อ๋ออ"

พี่คีย์กลับเข้ามายังลานใต้ต้นไทรใหญ่ประจำคณะที่พวกผมนั่งระบายสีคัทกันอยู่อีกครั้งพร้อมกับผู้ชายคนหนึ่งที่เห็นแว้บแรกก็จำได้ทันทีว่าเป็น 'พี่คนนั้น' แต่วันนี้ดูเหมือนจะสภาพดีขึ้นกว่าที่เจอกันครั้งแรก เพราะอย่างน้อยเสื้อสีขาวของเขาก็ไม่มีรอยเลอะๆ อย่างวันนั้น ถึงเจ้าตัวจะยังคงสภาพผมยุ่งเหยิงและรอยคล้ำเหมือนไม่ได้นอนมาสิบชาติอันเป็นเอกลักษณ์ก็ตาม

"นี่เพื่อนกู ชื่อกันย์ อยู่'ถาปัตย์ ปีสี่"

"ห๊ะอยู่ปีสี่แล้วทำไมเป็นเพื่อนพี่อ่ะ" เด็กปีหนึ่งคนหนึ่งตะโกนถามขึ้น

"ก็กูซิ่วมาไงไอ้คนฉลาดครับ" จบข่าว..

"อ๊ะ มึงช่วยพวกมันคัทหนึ่งแล้วกัน อีกสองอันปล่อยพวกแมร่งทำไป" พี่คีย์พูดขึ้นพลางชี้ๆ ไปที่คัทตรงหน้า แต่ดูท่าท่างเพื่อนพี่ไม่ได้ฟังพี่เลยนะครับ เพราะพี่เขาเอาแต่จ้องหน้าผมก่อนจะเหลือบไปมองไอ้สามตัวข้างๆ ผมแบบเร็วๆ

"กู get ละ" พี่กันย์พูดออกมาคำหนึ่งก่อนจะเดินไปถามพี่คีย์ใหม่อีกรอบถึงเรื่องคัทเมื่อครู่นี้

"get อะไรของพี่เค้าวะ" ไอ้ธันย์หันมาถามอย่างงงๆ

"ไม่รู้เขาว่ะ"

เด็กปีหนึ่งเกษตร + ทำคัท + คณะถาปัตย์ดึกๆ ดื่นๆ + คัท'ถาปัตย์หาย = ?

"พวกมึงแมร่งโจร ดอยคัทคณะกู" พี่กันย์หันไปมองพี่คีย์ตาขวางๆ ก่อนจะหยิบแก้วพลาสติกที่ใช้ผสมสีขึ้นมาเทสีแดงลงไปค่อนแก้วแล้วผสมน้ำนิดหน่อย จากนั้นก็... สาด! ลงไปบนคัทแผ่นที่ดอยมาจากคณะถาปัตย์แบบไม่ผิดแผ่นเลยทีเดียว

"เชี่ยย มึงทำไรวะ" หลายคนเริ่มมองหน้ากันเลิ่กลั่กหลังจากเห็นสีแดงอาบไปทั่วคัท

"แก้แค้น" พี่กันย์พูดก่อนจะหันมายักคิ้วให้พวกผมแบบกวนๆ ก่อนจะสั่งให้ปีหนึ่งแถวๆ นั้นช่วยกันยกคัทไปล้าง

“พี่เขาจะสาดหน้ากูเปล่าวะ” ไอ้ป้องถามขึ้นก่อนจะหยุดเดินเอาดื้อๆ

“ดวงล้วนๆ เลยมึง” ไอ้ธันย์ตอบอย่างสยองๆ แล้วลากไอ้ป้องเข้าไปช่วยงานคัทอย่างเลี่ยงไม่ได้

..เชี่ยย น่ากลัวฉิบหาย





"โห... น้องมึงนี่ทำงานกันโคตรช้า มีสอบไม่ใช่รึไง เมื่อไหร่จะได้นอนกันเนี่ย" กันย์เดินบ่นกระปอดกระแปดเมื่อหันไปมองนาฬิกาบอกเวลาสี่ทุ่มพอดิบพอดี แต่อีกสองคัทที่เว้นไว้ให้เป็นหน้าที่ของปีหนึ่งเพิ่งทาสีพื้นเสร็จไปรอบเดียวในขณะที่คัทของเจ้าตัวเริ่มเป็นรูปเป็นร่างจวนจะเสร็จอยู่แล้ว

"มึงเอาคอมฯ มาทำไมวะ" คีย์มองเพื่อนต่างคณะหยิบคอมฯ ออกมาจากกระเป๋าแล้วเริ่มจัดการกับสิ่งที่น่าจะเป็นงานที่เขาไม่เข้าใจแล้วปล่อยให้มันทำงานก่อจะเดินกลับไปที่คัทพร้อมด้วยไอโฟนรุ่นใหม่พร้อมหูฟัง

"เรนเดอร์งาน ก็ว่าจะกลับไปทำที่หอ แต่เห็นสภาพน้องมึงละ กูว่าเช้าแน่ๆ" กันย์มองสภาพเด็กปีหนึ่งที่ตอนนี้เริ่มตาจะปิดกันเป็นแถวก่อนจะส่ายหัวอย่างขำๆ แล้วแยกไปยังโซนของตัวเอง เอาหูฟังอุดหูแล้วโลกนี้ก็เหลือแค่ตัวเขาเองอีกครั้ง





"พี่เขาโคตรอึดเลยว่ะ เด็ก'ถาปัตย์แมร่งต้องเป็นงี้กันทุกคนเลยเปล่าวะ" ไอ้ป้องมองพี่กันย์ที่ตอนนี้เหมือนพระเอกเอ็มวีติสท์ๆ กำลังนั่งวาดภาพท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่ค่อยๆ โผล่เหนือเส้นขอบฟ้า

"โคตรอ่ะ เหมือนจะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่ตั้งแต่ตอนมาละ แต่แมร่งนั่งทำคัทไม่ขยับเลยว่ะ" ไอ้ธันย์เสริมขึ้นมาอีกคนพลางหันไปมองซากเพื่อนๆ ปีหนึ่งที่เหลืออยู่ไม่ถึงครึ่ง บางส่วนก็หลับอยู่ตามเก้าอี้ยาว อีกส่วนก็หลบมุมอ่านหนังสือตาลีตาเหลือก

หลังจากนั้นไม่นานร่างที่นั่งอยู่นานเริ่มยืดเส้นยืดสายแล้วรวบอุปกรณ์ทั้งหมดเดินตรงมาที่พี่คีย์ที่กำลังนอนหลับอยู่บนเก้าอี้ยาวแถมยังใช้กระเป๋าพี่กันย์ต่างหมอนอีกต่างหาก

...โคตรรักเพื่อนเลยพี่กูเนี่ย

"มึง กูจะไปแล้วนะ" พี่กันย์เขย่าคนที่หลับอยู่ให้ตื่นขึ้นมาแล้วรวบคอมที่เหมือนจะทำงานตามที่พี่เขาตั้งค่าไว้เสร็จแล้วเข้ากระเป๋า

"แล้วนี่มึงจะไปไหนต่อ มีเรียนเปล่าเนี่ย" พี่คีย์ถามอย่างมึนๆ เพราะตอนนี้เกือบเจ็ดโมงแล้วแต่เพื่อนก็ยังอยู่

"เออ กุมีควิซ Eng ตอนแปดโมงว่ะ"

"แปดโมง!" พี่คีย์เอ่ยอย่างตกใจก่อนจะหันไปขอโทษเพื่อนอย่างลนๆ เพราะไม่รู้ว่าพี่กันย์มีสอบวันนี้เหมือนกันแถมยังเช้ามากอีกด้วย

"แล้วมึงจะไหวเปล่าวะเนี่ย ได้นอนบ้างยัง จะกลับหอก่อนเปล่าวะ หนังสือก็ไม่ได้อ่าน ขอโทษว่ะกูไม่รู้ มึงก็ไม่ยอมบอกกู เพราะพวกมึงแท้ๆ เพื่อนกูซวยเลยเนี่ย" ...พวกผมผิดอีกครับงานนี้

"ช่างแมร่ง อีกห้าชั่วโมงกูก็ไม่ได้นอนครบ 48 ชั่วโมงพอดี พอตายก็ได้นอนสบายๆ ละ ฮ่าๆ เดี๋ยวแวะไปอาบน้ำที่คณะก่อน มีชุดอยู่ที่สตูฯ ส่วนหนังสือกูอ่านแล้วไม่ต้องห่วง"

"เชี่ย มึงมันไม่ใช่คนแน่ๆ แล้วหนังสือมึงไปทันอ่านตอนไหนวะ" พี่คีย์เอ่ยขึ้นอย่างงงๆ

"เนี่ย" พี่กันย์ดึงสายหูฟังออกทำให้เสียงที่พี่เขาฟังอยู่ทั้งคืนนั้นดังออกมาทางลำโพง เป็นเสียงผู้หญิงสำเนียงภาษาอังกฤษชัดเป๊ะ

...เชี่ยย ทุกการกระทำมีความหมาย

"พี่โคตรเท่อ่ะ" ไอ้พีทเอ่ยขึ้นอย่างชื่นชมขั้นสุด

"ถ้ากูไม่ตายไปก่อนมึงคงได้เห็นกูทำมากกว่านี้อีก ไปแล้วเว้ย" พี่กันย์รวบกระเป๋าขึ้นบ่าแล้วเดินไปลาเด็กๆ ที่ยังมีสติสัมปชัญญะอยู่

"ขอบคุณมากครับพี่" พี่กันย์โบกมือให้อย่างเป็นกันเองแล้วเดินจากไปพร้อมสายตาขอบพระคุณอย่างสุดซึ่งจากเด็กเกษตรปีหนึ่งอย่างพวกผมที่กองกันอยู่ตรงลานต้นไทร


'ต้องทำยังไงถึงจะเท่ได้สักครึ่งของพี่กันย์วะเนี่ย'




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-10-2016 09:57:45 โดย zenzaii »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พี่กันย์ ทั้งเยอะ ทั้งเท่ จริงๆ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
พี่กันย์ แม่งโคตร เท่ เลย



นี่ขนาดสภาพแบบศพๆนะ



ถ้าพักผ่อนเต็มที่พี่จะเท่ขนาดใหน

ออฟไลน์ darinsaya

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
น่าติดตามๆ

ออฟไลน์ zenzaii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
02-…ก็พี่ชอบสีดำ

"ว่าไงไอ้กันย์ ห๊ะ! เออได้ๆ แป๊บนะเว้ย เดี๋ยวกูดูให้" เสียงพี่คีย์ดังขึ้นเรียกความสนใจของพวกปีหนึ่งที่เพิ่งเลิกห้องเชียร์และกำลังเตรียมตัวกลับบ้านได้เป็นอย่างดี

"เฮ้ย มึงอ่ะ มาช่วยกูหน่อยดิ" พี่คีย์ตะโกนขึ้นมาอีกครั้งพลางเรียกปีหนึ่งที่อยู่ใกล้ที่สุดไปหา ก็จะใครล่ะครับ ...พวกผมเอง

"มีไรพี่" ท่าทางมุดเข้ามุดออกใต้โต๊ะทำให้พวกเพื่อนผมเข้าไปสอดรู้สอดเห็นด้วยความสนใจ

"ช่วยกูหาแฟลชไดรฟ์หน่อย อันสีเงินๆ บางๆ อ่ะ" พี่คีย์เงยหน้าจากพื้นอิฐบล็อกของลานต้นไทรบริเวณใกล้ๆ กับที่ทำคัทเมื่อคืนขึ้นมาบอกพวกผมก่อนจะก้มลงไปหาใหม่

"แฟลชไดรฟ์หรอพี่ อืม.. อันนี้รึเปล่าครับ" ไอ้พีทพูดขึ้นก่อนจะยื่นวัตถุสีเงินบางๆ อย่างที่คนขอให้ช่วยบอกมาเมื่อครู่

"อ้าวเฮ้ย กูก็อุตส่าห์หาตั้งนาน"

"ว่าจะเอาให้พี่ตั้งแต่เช้าแล้ว แต่ดันลืม แหะๆ โทษทีพี่" ไอ้พีทได้แต่หัวเราะแห้งๆ ก่อนจะคืนให้พี่เขาไป

"เออ ไหนๆ ก็ไหนๆ ละ ฝากพวกมึงเอาไปคืนเจ้าของด้วยละกัน กูมีธุระว่ะ" พี่คีย์พูดก่อนจะยัดแฟลชไดรฟ์กลับมาใส่มือไอ้พีทแล้วคว้าเป้ขึ้นมาสะพายอย่างเร่งรีบ

"เฮ้ยพี่ ผมก็ไม่ว่าง ต้องไปกินข้าวกับที่บ้านอ่ะ" ไอ้พีทตอบก่อนจะยัดเข้ามือไอ้ธันย์เป็นรายต่อไป

"ผมก็ไม่ว่าง ต้องไป.."

"ผมด้วย!" ยังไม่ทันที่ไอ้ธันย์จะบอกเหตุผล วัตถุเล็กๆ นั่นก็โดนไอ้ป้องฉกจากมือไอ้ธันย์มายัดใส่มือผมทันที

"โอเค กูฝากมึงละกัน ขอบคุณมากน้องรัก" ฝ่ามือของพี่ปีสองสุดที่รักตบแปะๆ บนไหล่ผมก่อนจะเดินจากไปพร้อมไอ้เพื่อนตัวดีทั้งสามโดยไม่รอฟังคำทักท้วงของผมเลยแม้แต่น้อย

"เดี๋ยวพี่ แล้วผมต้องเอาไปคืนใครล่ะเนี่ย" พี่คีย์ตะโกนตอบมาโดยไม่คิดจะหันกลับมามองสักนิด

"ไอ้กันย์ เพื่อนกูคนที่มาช่วยพวกมึงเมื่อคืนไง ให้ไวเลยมึง มันรีบ"

…นอกจากผมต้องเอาไปคืนแล้ว ผมยังต้องรีบด้วยใช่มั้ยเนี่ย





ถึงจะรู้ว่าเจ้าของเป็นใครก็เถอะ แต่การลุยเดี่ยวมาคณะที่รวมพลคนแปลกที่สุดในมหา'ลัยก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำเท่าไหร่นะผมว่า..

ผมได้แต่เดินทำตัวให้เล็กที่สุดเท่าที่จะเล็กได้ เมื่อสองเท้าของผมต้องพาร่างกายอันแต่งตัวได้ถูกระเบียบเป๊ะตั้งแต่หัวจรดเท้าตามประสาเด็กปีหนึ่งใสกิ๊งมาอยู่ท่ามกลางเหล่านักศึกษาที่มีแทบไม่มีองค์ประกอบบนตัวส่วนใดเลยจะตรงตามข้อบังคับเรื่องการแต่งกายของมหา'ลัย

…จะเกิดอะไรขึ้นล่ะครับ โคตรเด่นเลยงานนี้

"มึงมาถึงยังเนี่ย อาจารย์กูจะไม่รอแล้วนะเว้ย.." น้ำเสียงสวรรค์ที่ฟังดูคุ้นๆ ทำให้ผมหันไปมองแล้วก็ต้องโล่งใจ …คนที่กำลังตามหาโผล่มาพอดี

"นี่ถ้าพี่ไม่โผล่มา ผมจะเอาความกล้าที่ไหนไปถามหาพี่วะ" คำทักทายของผมเรียกทำให้คนตัวสูงที่ก้าวมายืนข้างๆ หันไปมองตามทิศทางที่ผมให้ความสนใจอยู่อย่างงงๆ ก่อนจะหลุดขำออกมา

"มึงก็เว่อร์ไปป่ะ" พี่กันย์ถามก่อนจะส่ายหัว

ตรงหน้าคือพวกที่คาดว่าน่าจะเป็นปีแก่ของคณะนี้ที่พร้อมใจกันปล่อยชายเสื้อให้หลุดลุ่ย รองเท้าแตะหนีบรุ่นยอดฮิต บวกกับกางเกงเลสีมอๆ ยิ่งไปกว่านั้นคือหน้าตาแต่ละคนที่ดูอ่อนระโหยโรยแรงแต่ยังฝืนสังขารนั่งล้อมวงอัดบุหรี่เข้าปอดกันอยู่บนพื้นตรงคอร์ทกลางคณะ

...สาบานได้ ผมไม่ได้เว่อร์แน่ๆ พี่

"ปล่อยพวกพี่เขาไปเถอะ ทีสิสคงทำให้คนเป็นบ้า" พี่กันย์พูดขำๆ ก่อนจะรับแฟลชไดรฟ์ที่ผมยื่นให้ไป

"รีบไปไหนเปล่าวะ" พี่กันย์ถามขึ้นมาตอนที่ผมกำลังจะขอตัวกลับพอดี

"ก็ไม่ได้จะไปไหนนะ มีไรเปล่าพี่"

"งั้นรอกูก่อนละกัน เดี๋ยวไปส่ง" พี่กันย์พูดก่อนจะพยักหน้าให้ผมเดินตามขึ้นไปยังชั้นสองของอาคารเรียน

"เฮ้ย ไม่เป็นไรพี่ ผมกลับเองได้"

"ไม่เป็นไร กูเกรงใจ อุตส่าห์เอาของมาให้" พี่กันย์ยืนยัน ก่อนจะผลักประตูเข้าไปยังห้องเรียนห้องหนึ่งที่มีนักศึกษาสองสามคนนั่งล้อมวงกับอาจารย์

"ขอสิบห้านาที" พี่กันย์พูดก่อนจะเดินไปร่วมวงด้วยอีกคน





[Gun's]

"กลับดีๆ นะพวกมึง" ผมหันไปโบกมือลาเพื่อนที่เริ่มแยกย้ายเมื่อตรวจแบบเสร็จและทุกคนลงความเห็นพ้องต้องกันว่า ...ควรกลับไปนอน

"ไป กลับกัน" ผมหันไปชวนไอ้เด็กปีหนึ่งซึ่งเป็นน้องของเพื่อนที่ซิ่วไปเรียนคณะเกษตรกลับด้วยกัน ...ไอ้นี่ว่าง่ายดีแฮะ บอกให้รอก็รอ

"พี่ปล่อยผมลงหน้ามอก็ได้นะ เดี๋ยวผมกลับรถเมล์เองได้ พี่จะได้รีบกลับไปนอน"

"ไม่อ่ะ กูไปส่งได้ บ้านมึงอยู่ไหน" ผมถามมันก่อนจะเดินนำไปยัง Nissan Juke สีแดงคันโปรดของผมแล้วเอาของทั้งหมดยัดใส่หลังรถโดยไม่คิดจะสนใจมันอีก

"ผมอยู่หอตรงแถวเมเจอร์อ่ะ รถติดโคตรเลยพี่" เด็กนี่เอ่ยด้วยสีหน้ารู้สึกผิดจับใจ

"งั้นก็ไปติดด้วยกันนี่แหละ กูก็อยู่แถวนั้นพอดี" ผมตัดบทก่อนจะลากมันขึ้นรถแล้วขับออกไป





"ก่อนอื่นเลย มึงชื่ออะไรนะ" นี่ก็เพิ่งนึกได้นะครับ เรียกมึงๆ ตามไอ้คีย์ตั้งนานจนเริ่มกระดากปาก ถึงจะไม่ใช่สุภาพชนอะไร แต่การที่เรียกคนที่ไม่สนิทแบบนี้มันก็ดูไม่ควรเท่าไหร่แฮะ

"ปืนครับพี่" ชื่อนี่อย่างโหด แต่หน้านี่โคตรตี๋..

"แล้วกูควรเรียกมึงว่าอะไรวะ"

"แล้วแต่พี่ดิ เรียกมึงก็ได้ ผมไม่ถือ"  ...คือกูถือไง ไม่อย่างนั้นจะถามทำซากอ้อยอะไรล่ะ

"No เราไม่ได้สนิทกัน เพราะงั้นกูจะไม่เรียก" ผมพูดก่อนเหลือบไปมองหน้ามันที่กำลังด่าผมด้วยหางตามันแน่ๆ

"ถ้างั้นก็แล้วแต่พี่สะดวกใจเลยครับ"

"ปกติคนอื่นเรียกมึงว่าไง"

"ก็เรียก ปืน ครับ"

"ยากว่ะ ออกเสียงไม่ดีกลายเป็น ปื๊ดบ้าง เปินบ้าง ไม่ออก ปืน หรอกเชื่อกู ขอ option ครับ"

"งั้นเรียก กัน ก็ได้ครับ"

"ห๊ะ?"

"ก็ปืน มันแปลว่า gun" ...แหม่ คือกูก็ไม่ได้ตก Eng นอะ

"ใช้สมองสิ กูชื่อกันย์มั้ยล่ะ มันซ้ำ ไม่เอาเว้ย" ผมเห็นไอ้เด็กเวรนั่นเหลือบมามองแรงอีกครั้งก่อนจะหันออกนอกกระจกโดยไม่ตอบคำถามผมอีกเลย งั้นเอาเป็นว่าถ้าเจอมันอีกครั้งแล้วผมคิดออกค่อยสรุปละกัน เมื่อคิดได้แบบนั้นเลยหันไปตั้งใจขับรถต่อ

...ว่าแต่ทำไมไฟแดงวันนี้มันนานนักวะ ผมคิดพลางจ้องไปยังสัญญาณไฟสีแดงที่ไม่มีทีท่าว่าจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวสักที รู้ตัวอีกทีเปลือกตาก็เริ่มหนักและทุกอย่างก็ตัดไปอย่างรวดเร็ว





[Bpuen's]

ปี๊นนนน...

เสียงบีบแตรยาวจากรถคันข้างหลังทำให้ผมสะดุ้งจนห้องหันไปมองว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมไอ้รถคันข้างหลังมันถึงบีบแตรเอาเป็นเอาตายขนาดนั้นวะเนี่ย...

"เฮ้ย! พี่" ความฉิบหายมาเยือน.. เมื่อหันมามองอีกทีไอ้คนขับรถที่นั่งข้างๆ นั่งสัปหงกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

...พี่จะหลับที่ไหนก็ได้ครับพี่ แต่ไม่ใช่กลางสี่แยกไฟแดง เข้าใจมั้ย!

"พี่กันย์ ตื่นพี่ตื่น" ผมเขย่าตัวพี่เขาอย่างแรงจนพี่เขาสะดุ้งสุดตัวแล้วหันมามองว่าเกิดอะไรขึ้น …ก็เห็นอยู่หรอกนะว่าหาวบ่อย แต่ไม่คิดว่าจะถึงขั้นหลับในไง

"ห๊ะ! มีอะไรวะ" พี่กันย์หันมามองอย่างงงๆ ก่อนจะลากสติกลับมาแล้วเคลื่อนรถให้พ้นสี่แยกก่อนจะจอดลงข้างทาง

"เชี่ยมึง กูไม่ไหวแล้วว่ะ" ...ผมรู้แล้วพี่ ผมคิดในใจก่อนจะหันไปมองคนข้างๆ ที่นั่งขยี้พยายามจะช่วยให้ตื่นแต่ดูท่าจะไม่ได้ผล

"เดี๋ยวผมขับให้ก็ได้พี่"

"ขับเป็นด้วย เหยดดด"

"เออน่า มานั่งนี่มา" ผมบอกก่อนจะเปิดประตูเดินอ้อมไปลากคนที่ทำหน้าที่สารถีเมื่อห้านาทีก่อนลงมาแล้วยัดเขาไว้ที่ที่นั่งข้างคนขับแทน

"ขอบใจมากมึง"

"เดี๋ยวพี่ อย่าเพิ่งหลับดิวะ หอพี่อยู่ไหนเนี่ย.." ไม่ทันแล้วครับ เจ้าของรถและหอพักที่ผมต้องไปส่งมันไปเข้าเฝ้าพระอินทร์เป็นที่เรียบร้อย

"งั้นไปห้องผมก่อนนะ ผมบอกพี่แล้วนะเว้ย" ผมบอกพี่เขาดังๆ เพื่อขออนุญาตแล้วขับรถออกไป





[Gun's]

..นี่ผมไม่ได้นอนหลับสบายๆ อย่างนี้มากี่วันแล้ววะเนี่ย

ร่างสูงของคนที่นอนอยู่คิดอย่างสบายใจก่อนจะพลิกตัวไปอีกข้างเพื่อเอาตัวซุกหมอนแล้วนอนต่อ

"เชี่ย โมเดล!" ยังไม่ทันจะเข้าสู่ห้วงนิทรารอบสอง ร่างที่นอนอยู่ดีๆ ก็สะดุ้งแล้วค้างขาข้างที่กำลังจะพลิกไปอีกข้างอย่างตกใจแล้วหดกลับมา ก่อนจะลืมตาแล้วจ้องมองไปยังที่ว่างข้างเตียงตรงหน้า …โมเดลก็ส่งไปแล้วไง โว๊ะ

"กูนี่เป็นเอามากนะเนี่ย" กันย์ตัดสินใจลุกขึ้นมานั่งมึนๆ ก่อนจะสะบัดหัวเรียกสติให้กลับมาพร้อมรับเช้าวันใหม่

...แต่ทำไม ห้องมันดูไม่คุ้นเลยวะ

ร่างสูงเริ่มขมวดคิ้วมากขึ้นทุกทีเมื่อหันไปทางไหนก็ไม่มีอะไรที่เคยผ่านเข้ามาอยู่ในความทรงจำเลยสักนิด โอเค.. นี่ไม่ใช่ห้องเขาแน่ๆ อาจจะเป็นห้องของเพื่อนเขาสักคน ว่าแต่.. มันห้องของใครวะ?

"หึ ตื่นแล้วหรอครับพี่" เสียงทักทายที่ดังมาจากประตูทำให้ผมต้องหันไปมอง ภาพไอ้เด็กหน้าตี๋ที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นานกำลังยักคิ้วทักทายผม …นี่กูพี่มึงนะ มันใช่หรอวะ

จริงๆ ไอ้เด็กนี่หน้าตาก็ดูดีประมาณหนึ่งนะถ้าไม่ติดว่าปากมันกวนบาทาดีเหลือเกิน ผอมแต่มีกล้ามเนื้อ ขาวแต่ก็คล้ำแดดเลยทำให้ภาพรวมมันดูคมขึ้น รวมๆ กันแล้วก็ไม่ได้แย่อะไร แต่ไอ้ผ้ากันเปื้อนสีช็อกกี้พิงค์ลายหมีกินน้ำผึ้งบนตัวนั่นมันอะไรวะเนี่ย

"ไร้รสนิยมสุดๆ" คำสบถของผมเรียกสีหน้ายุ่งเหยิงของมันออกมาได้อย่างรวดเร็ว …พอๆ กับปากมันนั่นแหละ

"ก็ถ้ารู้ว่าปากพี่จะดีขนาดนี้ ผมน่าจะทิ้งพี่ไว้ข้างถนนตั้งแต่เมื่อคืนนะผมว่า.."

"เออ โทษที กูติดนิสัยว่ะ" แล้วไอ้นิสัยชอบวิจารณ์เนี่ยไม่ได้เป็นแค่ผมนะครับ เป็นทั้งคณะอ่ะบอกเลย เวลาไปเที่ยวกันที่นี่บ่นตั้งแต่ลายกระเบื้องปูพื้นยันฝ้าเพดาน

"หิวเปล่าพี่ มานั่งนี่ดิ" ว่าแล้วเจ้าตัวก็เดินนำผมออกไปจากห้องนอน ตอนนี้คาดว่าผมกำลังอยู่ในห้องของไอ้เด็กนี่ซึ่งเป็นห้องขนาดกลาง มี 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และ 1 ห้องครัวที่ถูกแบ่งเป็นสัดส่วนอย่างละเท่าๆ กัน โดยในโซนห้องครัวเองก็ถูกแบ่งเป็นโซนทำอาหารครึ่งหนึ่งและส่วนรับประทานอาหารอีกครึ่งหนึ่งอย่างลงตัว โทนสีของห้องถูกตกแต่งด้วยสีเบจและสีขาวเป็นหลัก มีเน้นพวกเฟอร์นิเจอร์บางชิ้นด้วยหนังและไม้โทนน้ำตาลเข้มบ้างอย่างน่าสนใจ ทำให้ภาพรวมของห้องดูอบอุ่นและสบายๆ

"ชอบทำอาหารสินะ" ผมเอ่ยถามก่อนจะทรุดตัวลงนั่งที่โต๊ะทานข้าวไม้ขนาด 2 ที่นั่ง เรียกความสนใจจากคนที่กำลังทำอาหารอย่างคล่องแคล่วให้หันมามองอย่างสงสัย

"ครับ พี่รู้ได้ไง"

"ครัวใหญ่" ผมตอบก่อนจะหยิบจับของตกแต่งบนโต๊ะอย่างสนใจ ...ไอ้ผู้ชายมุ้งมิ้งเอ้ย ผมคิดอย่างขำๆ ผู้ชายที่ไหนมันจะบ้ามานั่งจัดโต๊ะกินข้าวประหนึ่งอยู่ในร้านกาแฟเก๋ๆ สักแห่งแบบนี้วะ

"คำตอบสมกับเป็นสถาปนิก" ผมได้ยินไอ้คนที่กำลังทำอาหารบ่นพึมพำก่อนจะเคาะตะหลิวสองสามทีแล้วตักข้าวผัดหน้าตาดูดีใส่จานสองใบแล้วยกมาวางบนโต๊ะก่อนจะเดินไปเปิดไฟ ...ก็ว่าทำไมห้องมันดูมืดๆ แต่เดี๋ยวนะ

"นี่กี่โมง"

"หกโมงครึ่งครับพี่"

"หกโมงเช้า?"

"บ้านพี่ดิ จะทุ่มนึงแล้วพี่"

"เชี่ยยย... เดี๋ยวนะ กูนอนมาตั้งแต่ตอนไหน เมื่อคืนหรือเมื่อคืนวาน?" คำถามของผมทำให้คนฟังชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะลั่น

"เมื่อคืนพี่ ถ้าพี่นอนมาตั้งแต่เมื่อคืนวานผมว่าพี่ไม่ได้นอนอ่ะ พี่ตาย!"

"อย่าทำเป็นเล่นนะเว้ย กูเคย.."

"ห๊ะ! จริงดิ"ค นตรงหน้านี่ชะงักจนปล่อยช้อนในมือหล่นมากระทบจานข้าวดัง แกร๊ง! เลยทีเดียว

"เออ แล้วกูมาอยู่ได้ไงวะ กูหลับในแน่ๆ แล้วชุดกูล่ะ มึงเปลี่ยนให้กู? แต่กูว่ากูน่าจะเปลี่ยนเองได้ แล้วกูก็นอน แล้วทำไมมึงไม่ปลุกกูวะ แต่.."

"หยุดพี่ ตกลงพี่ถามผมหรือพี่ถามตัวเองนะ" เออว่ะ..

"ถามมึง.. ก็ได้" ผมสรุปให้ก่อนจะพยักพเยิดหน้าเพื่อให้มันตอบส่วนผมก็กินข้าวเงียบๆ ต่อไป

"คำตอบแรก พี่หลับคาสี่แยกไฟแดงเลยครับพี่ ไม่ตายก็บุญแล้ว พอดีพี่หลับไปก่อน ผมก็ไม่รู้หอพี่เลยพามานี่ ขออนุญาตพี่แล้วด้วย คำตอบที่สอง.."

"เดี๋ยวๆ มึงขอกูตอนไหนวะ" ผมพยายามทบทวนสิ่งที่อยู่ในหัวทั้งหมด แต่ผมว่า.. ไม่เคยได้ยินคำขออนุญาตจากมันนะ

"ตอนพี่หลับอ่ะ คำตอบที่สอง.."

"ดีครับมึง" ผมประชด..

"คำตอบที่สอง..! จะฟังมั้ยเนี่ย" ...ถ้าจะทำตาดุขนาดนั้น กูฟังมึงก็ได้ครับ

"อ่ะๆ เล่ามา"

"พี่เป็นคนเปลี่ยนชุดเอง แต่ไม่ยอมอาบน้ำ แหวะ แต่ถึงพี่ไม่เปลี่ยนผมก็ไม่คิดจะเปลี่ยนให้พี่นะบอกเลย" มันพูดพลางหันมาทำหน้าขยะแขยงใส่ผม ...ถึงขนาดที่รอดจากสี่แยกไฟแดงมาได้ แค่นอนไม่อาบน้ำหรือไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าสักวันผมว่ามันก็คงไม่ตายหรอกครับ

"คำตอบที่สาม ผมปลุกแล้วแต่พี่ไม่ตื่น แต่.. พี่ไม่ต้องห่วงครับ เพราะเพื่อนพี่ไลน์มาตอนเช้าพอดีว่าอาจารย์ยกคลาส เพื่อนพี่เลยจะไปซิ่งแล้วจะชวนพี่ไปด้วย แต่ผมไม่รู้รหัสมือถือพี่อ่ะเลยไม่ได้ตอบ เห็นเฉพาะอันที่มันค้างไว้ที่หน้าจอเฉยๆ" ดูมันครับ ร่ายยาวประหนึ่งผมจะสวดมัน ถ้าเกิดมันเผลอไปทำอะไรที่ดูไม่มีเหตุผลแม้แต่นิด

"อือ ขอบใจ"

"ส่วนคำถามสุดท้าย คืนนี้จะนอนนี่ต่อหรือกลับหอพี่ดีครับผม" คำถามสุดท้ายนี่หน้าแมร่งกวนบาทาผมมากครับ

"กลับดิ จะนอนเพื่อ..?" ป่านนี้ห้องผมตะไคร่เกาะแล้วมั้ง ไม่ได้กลับไปชาติเศษ

"แล้ว..จะอาบน้ำก่อนมั้ยครับ หรือกลับเลย" มันถามพลางชี้มายังผมที่ใส่บอกเซอร์กับเสื้อยืดย้วยๆ ตัวหนึ่งอยู่ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นของเจ้าของห้องนี่แหละ

"อาบน้ำก่อนละกัน ขอยืมชุดหน่อยดิ เดี๋ยวซักมาคืนให้" ผมว่าก่อนจะเดินตามมันกลับเข้าไปในห้องนอนที่มีตู้เสื้อผ้าขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่อยู่ตู้หนึ่งก่อนจะเปิดออกแล้วผายมือเป็นเชิงอนุญาตให้ผมหยิบมาสักตัว

"อืมม.." ผมว่าบางทีผมอาจจะรื้อของของไอ้เด็กนี่มากไปหน่อย เพราะตอนนี้ไอ้คุณเจ้าของห้องเริ่มดึงๆ ตัวผมให้ออกห่างจากตู้มันแล้ว

"พี่ใจเย็นครับ พี่จะเอาอะไร" เจ้าของห้องถามขึ้นพร้อมกับแทรกตัวเข้ามาขวางระหว่างผมกับตู้เสื้อผ้า โดยปิดประตูตู้ไว้แล้วยืนกอดอกพิงตัวทับลงไปถามขึ้นอย่างคนเริ่มทนไม่ไหว

"เสื้อ.."

"เสื้อ..?" มันทวนคำพูดผมพลางเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย

"เสื้อ..ยืดก็ได้ สีดำ" มันทำหน้าเข้าใจก่อนจะหันกลับไปยังกองเสื้อยืดแล้วหยิบเสื้อตัวหนึ่งส่งมาให้ ผมลองกางออกมาดูมันเป็นเสื้อยืดสีดำ แต่ดันมีแถบเหมือนบาร์โค้ดสีขาวที่ปลายแขนเสื้อทั้งสองข้าง ส่วนอกข้างซ้ายมีกระเป๋าแถมยังมีลายหัวกะโหลกลายเดียวกันที่กลางหลังอีกด้วย

"อย่าหาว่ากูเรื่องมากเลยนะ แต่ขอเสื้อยืดสีดำแบบสีพื้นๆ ไม่มีกระเป๋า ไม่มีลาย มีมั้ย?" ผมถามมันอย่างเกรงใจ …นิดนึง คือแบบ …สงสารกูเถอะ ทำใจใส่ไม่ได้จริงๆ ว่ะ

"อ่าฮะ" เจ้าของห้องรับคำอีกครั้งก่อนจะมุดเข้าไปในตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบเสื้อยืดสีดำสามตัวตามคำขอออกมายื่นให้ผม

"เลือกเอาพี่ มีแค่นี้แหละครับ" ผมรับมาก่อนจะกางทั้งหมดลงบนเตียงแล้วพิจารณา ตัวแรกมันไม่ใช่สีดำอ่ะ มันคือดาร์คเกรย์ ส่วนตัวที่สองสีดำครับ ดำจริง แต่ไอ้หัวใจเสล่อๆ แล้วมีคำว่า LOVE บนอกอันเล็กๆ นี่คืออะไร ส่วนตัวที่สาม...

"กูเอาอันนี้" ผมหยิบเสื้อยือสีดาร์คเกรย์ขึ้นมา อันนี้น่าจะหวือหวาน้อยที่สุดแล้ว

"กางเกงล่ะครับ"

"กูซ้ำได้ ไม่มีปัญหา" มันถาม แต่ผมรีบปฏิเสธทันที จากการสแกนด้วยความรวดเร็วตอนมุดเข้าไปครั้งแรก ลายพรางพวกนั้นน่าจะไม่ใช่คำตอบสำหรับผมแน่ๆ

"นั่นห้องน้ำครับ แล้วนี่ …ผ้าขนหนู" เจ้าของห้องพูดพร้อมยื่นผ้าขนหนูสีขาวมาให้แล้วเดินออกจากห้องนอนไป ผมก้มมองผ้าขนหนูในมือก่อนจะชำเลืองไปเห็นบางอย่างแล้วรวบมันรวมกับเสื้อและกางเกง


'ผมจะพยายามทำเป็นมองไม่เป็นกระต่ายน้อยสีชมพูหวานแหววตรงมุมขวาล่างแล้วกัน'





ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ติดตามจ้ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ darinsaya

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ zzzzzz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
นุ้งgun จะมุ้งมิ้งไรขนาดนั้นอะ5555555555555น่ารักดี

ความเรื่องเยอะของพี่กันต์นี่เราเข้าใจดีเลยนะ เพราะเราก็เรียนออกแบบเหมือนกัน5555 มันเปนอย่างงั้นจริงๆอะ บางทีเห็นแล้วมันขัดอะ ไม่ได้เรื่องมากเรื่องเยอะไรเลยไม่ได้ตั้งใจทุกอย่างมันจะถูกจับแมทขึ้นมาในหัวว่าไหนดีไหนโอเค แล้วอันไหนมันแบบ
 มันไม่ใช่อะ555

อยากอ่านอีกๆๆๆ :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พี่กัลย์ กัน(ปืน)  :mew1: :mew1: :mew1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ mony

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชอบมากเลยค่ะ เป็นคนที่ชอบคนเรื่องเยอะ รู้สึกว่าเป็นคนละเอียดอ่อนดี

ออฟไลน์ zenzaii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
03-…ก็พี่ไม่ชอบ

[Gun's]

ในเย็นวันพฤหัสบดีที่ผมเพิ่งฝ่ามรสุมการอดหลับอดนอนเพื่อทำงานมาตรวจแบบกับอาจารย์ประจำกลุ่มแล้ว สิ่งที่ผมควรจะได้ทำเป็นอย่างต่อไปก็คือ …การกลับไปนอน หรือไม่ก็ควรได้ไปชิลกับเพื่อนที่ร้านเหล้าแถวๆ มอ ไม่ก็ร้านหมูกระทะเปล่าวะ แล้วไอ้การที่ผมต้องมายืนสงบเสงี่ยมเจียมตัวแล้วจ้องหน้าไอ้พวกปีหนึ่งเกษตรนี่มันใช่เรื่องมั้ย ตอบ!

...คือกูแก่แล้วไง ไม่ใช่เด็กน้อยในห้องเชียร์ของพวกมึง ปล่อยกูไปเห๊อะ

แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ได้แต่คิดในใจก่อนจะเหล่สายตาไปยังพวกปีสามของคณะเกษตรที่ผมพอจะคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่บ้าง โดยเฉพาะไอ้เฮดว๊ากที่เคยเรียนวิชาวัสดุพืชพรรณด้วยกันตอนผมอยูู่ปีสองแล้วคิดไปถึงไอ้เหตุผลบ้าๆ ที่ทำให้ผมต้องมาอยู่ตรงนี้





เมื่อชั่วโมงที่แล้ว..

"พี่กันย์ หวัดดีครับ จำผมได้มั้ยพี่" ผมละสายตาขึ้นจากกระดาษร่างแบบที่มีรอยแก้ของอาจารย์ก่อนจะเจอกับรุ่นน้องต่างคณะที่ไม่ได้เจอกันมา …น่าจะเป็นปี

"ไอ้แชมป์ใช่เปล่า เออจำได้ๆ ไปไงมาไงวะ" ไอ้แชมป์เป็นเด็กปีสามของภาควิชาพืชสวน คณะเกษตรที่เคยทำงานกลุ่มกับพวกผม ตอนนั้นมันอยู่ปีหนึ่งส่วนพวกผมอยู่ปีสอง แล้วก็ได้มันนี่แหละที่ช่วยฉุดกระชากลากดึงจนพวกผมทั้งก๊วนผ่านวิชาสุดหินซึ่งเป็นวิชาบังคับของภาคผมให้ผ่านไปได้ด้วยดี

...จำได้ว่าตอนเกรดออกถึงกับลากมันไปเลี้ยงเหล้าสองวันสองคืนเลยทีเดียว

"ก็..มาหาพี่นี่แหละ" ไอ้แชมป์พูดพลางนั่งลงตรงข้ามผมพร้อมกับเพื่อนหน้าโหดๆ อีกสองสามคน

"มาหากู เพื่อ?" ผมเลิกคิ้วอย่างสงสัยก่อนจะพับกระดาษแบบเก็บให้คุยกันได้สะดวกๆ

"วันก่อนพี่ไปช่วยพวกปีหนึ่งคณะผมทำคัทใช่เปล่า"

"เออ โทษไอ้คีย์เลยเว้ย กูไม่เกี่ยว เรื่องของพวกมึง" ผมพูดพลางเท้าคางอย่างเบื่อๆ ถ้าเดาไม่ผิด ไอ้พวกนี้ต้องเป็นแก๊งค์ว๊ากของปีนี้แถมมันต้องกำลังสร้างดราม่าอะไรไปแกล้งเจ้าพวกเด็กนั่นแน่ๆ

"เออนั่นแหละพี่ เลยมีเรื่องอยากให้พี่ช่วย..นิดนึง นะครับพี่"

...ถึงขนาดหลุดบทว๊ากกลายมาเป็นน้องใสๆ ของผมอย่างนี้ไม่น่าไว้ใจจริงๆ

ผมมองหน้ามันด้วยความยุ่งยากใจ มีเค้าว่าไอ้เรื่องที่มันขอต้องเป็นเรื่องที่ผมต้องไม่อยากทำแน่ๆ แต่พอคิดถึงเกรดที่มันอุตส่าห์ช่วยชีวิตพวกผมไว้ ก็นะ..

"อ่ะๆ มีไรก็ว่ามา แต่กูไม่มีเวลาว่างขนาดนั้นนะเว้ย" ถึงจะตอบเหมือนตกลงไป แต่ก็ต้องดักๆ ไว้บ้างแหละ อย่างน้อยผมก็แก่กว่าพวกมัน ถ้าทำอะไรที่เกินไปกูจะเล่นกลับให้ยับเลยคอยดู

"ไม่นานหรอกพี่ แค่ช่วยมากับผมแป๊บนึงเท่านั้นเองครับ.."





...แล้วกูก็มาโผล่คณะเกษตร

...ต่อหน้าเด็กปีหนึ่ง

...ในห้องเชียร์

...ครับ

"เงยหน้าขึ้นมาดูครับ ผมถามว่า คนนี้ใช่ไหมที่ทำคัทให้พวกคุณ" ปีสามเริ่มกระแทกเสียงหนักขึ้นเมื่อไม่มีปีหนึ่งคนไหนตอบคำถาม

"กล้าทำก็กล้ารับดิวะ เฮ้ย" ผู้หญิงปีสามอีกคนสุมไฟเข้าไป

"ของง่ายๆ แค่นี้ไม่ปัญญาทำเองรึไงครับ แล้วถ้าพวกคุณเจองานใหญ่กว่านี้จะทำยังไง แค่นี้ยังทำไม่ได้ แค่เรื่องแค่นี้ยังไม่ยอมรับ" ไอ้แชมป์ปิดท้ายด้วยคำพูดยอดฮิตสำหรับการจี้ใจดำในห้องเชียร์อย่างที่ทำกันมาทุกปี

...พวกมึงจะตะโกนอะไรกันก็ได้ครับ แต่ช่วยอย่าตะโกนใส่หลังกู เดี๋ยวเสื้อด่าง

"ขออนุญาตครับ"

"เชิญ!" ปีหนึ่งผู้กล้าหาญนามว่า ไอ้พีท ผู้เป็นหัวหน้าชั้นปียืนขึ้น

"ผมนายพีรธัช กิตติรัตนากร ชื่อเล่น พีท ภาควิชาปฐพีวิทยา ครับ"

"มีอะไร!"

"พี่คนนี้เป็นคนช่วยพวกเราทำคัทจริงครับ" เสียงดังฟังชัดสมกับตำแหน่งหัวหน้าชั้นปีทำให้ผมหลุดยิ้มมุมปาก ไม่ว่าจะผ่านไปกี่รุ่น ไม่ว่าจะคณะไหน แต่ห้องเชียร์..มักจะสร้างอะไรบางอย่างขึ้นมาเสมอ

"แล้วพวกผมบอกพวกคุณว่ายังไง!"

"พี่บอกว่า ให้พวกผมทำคัทส่งภายในวันศุกร์ครับ"

"แล้วทำไม! พวกคุณถึงให้คนอื่นมาช่วยทำ!" ไอ้แชมป์กระแทกเสียงหนักขึ้นก่อนจะชี้มาที่ผม

...ถ้ามึงชี้หน้ากูขนาดนี้ เดี๋ยวกูจะไม่ทนนะ

"ขออนุญาตครับ" เสียงที่สองดังขึ้นเรียกความสนใจของคนทั้งห้องให้หันไปมอง

"มีอะไร!"

"ผม นายปภาวิน ภิญญูพงษ์ ชื่อเล่น ปืน ภาควิชาปฐพีวิทยา ครับ"

"ทำไม จะช่วยเพื่อนแก้ตัวรึไง" น้องผู้หญิงคนเดิมถามไอ้เด็กนั่นด้วยสีหน้ากวนๆ ...จริงๆ ผมก็แอบอยากรู้นะว่า สกิลการพูดต่อหน้ารุ่นพี่ของมันจะเป็นยังไง

"เปล่าครับ ผมแค่จะบอกว่า...พี่กันย์ไม่ใช่คนอื่น"

...เหยดดด

"คุณว่าอะไรนะ!"

"พี่กันย์เป็นรุ่นพี่พวกผมครับ ถึงจะอยู่คนละคณะ...แต่ก็เป็นรุ่นพี่ที่ปีหนึ่งทุกคนนับถือ เพราะฉะนั้น พี่กันย์ก็เป็น ‘พวกเรา’ครับ ไม่ใช่คนอื่น" คำแถของแมร่งนี่เกือบทำผมหลุดขำ ไม่ว่าจะตอนผมเป็นเฟรชชี่ปีหนึ่ง พี่พยาบาลปีสอง หรือเป็นพี่ว๊ากตอนปีสาม ไอ้ประโยคเน่าๆ แบบนี้มันต้องมีมาทุกปีสิน่า แต่ดูท่าว่าพวกแก๊งค์ว๊ากปีนี้จะยังไม่ชิน พวกมันเลยอึ้งกันใหญ่

"ก็ดี ถ้าคุณยืนยันว่าเขาเป็น ‘พวกคุณ’ "

"..." …ทำไมอยู่ดีๆ หนังตาข้างขวาผมกระตุกวะ

"งั้นวันเสาร์นี้ ตอนปีหนึ่งทุกคนลงนา.." …ผมว่าไม่ใช่แค่ตาขวาแล้วที่กระตุก ตอนนี้เส้นประสาทที่หัวผมเริ่มกระตุกด้วยละ

"..."

"คุณต้องพา 'พวกของคุณ' มาให้ครบ ขอให้พวกคุณโชคดี" ไอ้แชมป์พูดเสียงนิ่งๆ ทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกไปจากห้องเชียร์ปล่อยพวกเด็กปีหนึ่ง พยาบาลปีสองและผมยืนนิ่งอึ้งกิมกี่

...อ้าวเฮ้ย ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา

...ไอ้-เหี้ย-แชมป์!!!!!





[Bpuen's]

ตอนนี้พวกเพื่อนผมทุกคนมาพร้อมกันที่คณะจะขาดก็แต่... ใครบางคนที่ผมโมเมเอาว่าเป็นพวกเดียวกันในห้องเชียร์

...พี่เขาต้องโกรธมากแน่ๆ ให้ตาย

ผมคิดอย่างกังวลก่อนจะมองนาฬิกาที่บอกเวลาใกล้จะแปดโมงเข้าไปทุกที แถมไม่ใช่แค่ผมที่กำลังคิดมากเรื่องนี้หรอกครับ เพราะพวกปีหนึ่งเริ่มหันมามองหน้ากันแล้วก็ถามถึงพี่กันย์

สำหรับเด็กเกษตรอย่างพวกผม วันนี้ถือเป็นวันสำคัญเพราะมันเป็นวันดำนาปลูกข้าวหรือเรียกสั้นๆ ว่า 'วันลงนา' นอกจากจะทำให้เราเห็นความสำคัญของผืนดินที่เป็นต้นกำเนิดของทุกสรรพชีวิตบนโลกแล้ว ยังทำให้รู้ถึงความลำบากในการทำนาของชาวนา รู้จักการอดทน มีระเบียบวินัยและรู้จักการใช้ชีวิตร่วมกันในสังคมอีกด้วย

แต่จุดประสงค์อ้อมๆ ซึ่งได้ยินพวกพี่ๆ เล่ากันมา มันคือวันชี้ชะตาที่จะบอกว่าพวกผมจะได้รู่นหรือไม่ได้รุ่นนั่นเอง ซึ่งผมคิดว่าสิ่งสำคัญประการแรกของการได้รุ่นน่าจะหมายถึงความร่วมแรงใจในการมาร่วมกิจกรรม หรือพูดง่ายๆ คือต้องลากเพื่อนทุกคนให้มาพร้อมกันให้ได้ก่อนแปดโมง!

"พี่คีย์ พี่ว่าพี่กันย์จะมามั้ยครับ" ผมได้ยินไอ้ธันย์ถามถึงพี่กันย์อย่างเกรงใจ เพราะขนาดพี่คีย์ที่เป็นเพื่อนยังไม่กล้าโทรจิกพี่เขาเลย

"สวัสดีครับ ปีหนึ่ง!" พี่แชมป์ เฮดว๊ากปีสามเดินเข้ามาทำให้ปีหนึ่งทั้งหมดตั้งแถวอัตโนมัติ

"สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ" ปีหนึ่งทักทายอย่างพร้อมเพรียงกัน แต่ก็ยังมีเสียงลอบถอนหายใจด้วยความกังวลออกมาให้ได้ยินเป็นพักๆ ถึงจะไม่ได้จริงจังอะไรกันมากมาย แต่พยายามกันมาถึงขนาดนี้แล้วเพื่อนๆ ผมทุกคนก็คงอยากได้รุ่น ได้รับการยอมรับจากพี่ๆ แน่นอนอยู่แล้ว

"หึ ขณะนี้เวลา.." พี่แชมป์เหยียดยิ้มก่อนจะชูข้อมือที่สวมนาฬิกาก่อนจะเคาะบนหน้าปัดสองสามที

"แปด..."

"ขอโทษที่เกือบสาย แต่คิดว่าน่าจะมาทันนะ" เสียงที่ดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบทำให้ทุกคนหันไปมองก่อนจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก พี่กันย์โผล่มาแบบเฉียดฉิวด้วยอาการหอบนิดๆ ก่อนจะเช็ดเหงื่อที่เริ่มซึมออกมาตามไรผมด้วยความรำคาญ แล้วเดินมาหยุดอยู่ข้างหน้าเหล่าพี่ว๊ากด้วยท่าทางที่เดาไม่ออก

"(มึง)จะเอายังไงครับ" พี่กันย์พูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนจะเย็นกว่าปกติ เรียกสีหน้าแปลกๆ ของพี่แชมป์ได้แว่บหนึ่งก่อนจะกลับมาเป็นปกติ

"(เอ่อ..พี่)ก็ลองถามพวกของคุณ(พี่)ดูสิ" ผมได้ยินเสียงถอนหายใจแรงๆ ครั้งหนึ่งจากพี่กันย์ก่อนพี่เขาจะหมุนตัวกลับมาแล้วหยุดลงตรงหน้าไอ้พีท

"ให้ไว" ..ก่อนที่กูจะหมดความอดทน ไม่รู้ทำไมแต่ผมเหมือนได้ยินประโยคนี้ดังขึ้นมาในหัวต่อท้าย

"เอ่อ นี่ของพี่กันย์ครับ พี่ไปเปลี่ยนก่อนก็ได้" ไอ้พีทพูดก่อนจะยื่นชุดหมีผ้าเดนิมสีเข้มที่ปักตราคณะเกษตรที่กระเป๋าเสื้อห้พี่กันย์ก่อนจะชี้ทางไปห้องน้ำที่อยู่ในตึก

"เดี๋ยวผมพาไปครับ" ผมรีบอาสาแล้วกึ่งจูงกึ่งลากพี่กันย์ไปห้องน้ำเมื่อเห็นพี่เขาเริ่มกัดริมฝีปากพลางมองชุดในมือ

…ผมว่า ถ้าพี่เขาคิดจะชำแหละชุดหมีตรงหน้า ก็ช่วยหลบๆ ไปจากสายตาพวกพี่คณะผมก่อนท่าจะดี





"ข้อ 1 กูเกลียดการตื่นก่อนแปดโมง" เสียงพึมพำของคนที่เดินตามมาทำให้ผมหันไปมองหน้าพี่กันย์ ตั้งแต่รู้จักพี่เขามา วันนี้น่าจะเป็นวันที่พี่กันย์มีสภาพดูดีที่สุดแล้ว ผมที่ถึงแม้ไม่ได้เซทไว้ แต่ก็ไม่ถึงกับพันกันยุ่งเหยิงอย่างวันก่อน หน้าตาดูสดใสถึงแม้จะมีร่องรอยของความอิดโรยที่น่าจะมาจากการตื่นก่อนแปดโมงอย่างที่เจ้าตัวว่า ผิวที่ดูสว่างกว่าปกติคงเพราะตัดกับเสื้อยืดสีดำพอดีตัว กางเกงยีนส์ขาเดปสีเข้มบวกกับรองเท้าหนังกลับสีน้ำตาลที่เจ้าตัวชอบใส่

...จริงๆ พี่กันย์นี่ก็หน้าตาใช่ย่อยนะเนี่ย

"ข้อ 2 กูเกลียดยูนิฟอร์มโว้ยย" ปัง! เสียงกระแทกประตูห้องน้ำทำให้ผมสะดุ้งอย่างตกใจ ...ผมควรทำไงดีครับเนี่ย





ตอนนี้ปีหนึ่งทั้งหมดมายืนแถวตอนเรียงหนึ่งกันรอบคันนาซึ่งเป็นส่วนของแปลงทดลองที่แยกตัวออกมาจากตัวคณะซึ่งอยู่เกือบหลังมหา'ลัย

"เอ่อ ไอ้กันย์ มึงจะถอด Accessories ทั้งหมดของมึงฝากกูก่อนมั้ย" พี่คีย์ถามแบบไม่ค่อยเต็มเสียงนัก

"เออ" พี่กันย์ตอบรับก่อนจะเริ่มถอดนาฬิกาข้อมือที่ผมเพิ่งสังเกตเห็นว่ามันไม่ได้มีตัวเลขหรือเข็มอย่างนาฬิกาทั่วไป แต่มีวัตถุสามเหลี่ยมที่อยู่กลางหน้าปัดนาฬิกาทำหน้าที่ให้เกิดเงาซึ่งมีลักษณะคล้ายเข็มนาฬิกาแทน

...เชี่ยย นาฬิกายังมีดีไซน์

พี่กันย์ส่งนาฬิกาข้อมือให้พี่คีย์ก่อนจะเริ่มปลดสร้อยข้อมือที่มีลักษณะเป็นโซ่เงินเส้นเล็กๆ ตามด้วยต่างหูเพชรและจิวสีดำบนหูซ้ายออกอย่างเริ่มหงุดหงิด ก่อนจะถอดรองเท้าหนังออกแล้วเดินมาหยุดอยู่ข้างๆ ผมแล้วถอนหายใจแรง

"ข้อ 3 กูเกลียดการอยู่ข้างนอกในวันหยุดโดยไม่มีจิว ต่างหู นาฬิกาแล้วก็สร้อยข้อมือ" พี่กันย์หลับตาอย่างคนระงับอารมณ์ก่อนจะพับชายแขนเสื้อขึ้นจนมาถึงข้อพับก่อนจะก้มลงไปพับชายกางเกงให้ลอยขึ้นมาเหนือข้อเท้าทั้งสองข้าง

"นี่คือเครื่องแบบสำหรับการลงนา ดังนั้น พวกคุณต้องแต่งมันให้เรียบร้อยเหมือนชุดนักศึกษา ห้ามพับแขน ห้าม.." เสียงของพี่แชมป์ชะงักไปเมื่อหันมาเห็นพี่กันย์ที่นอกจากจะพับแขนเสื้อและขากางเกงแล้วยังปลดซิบลงมาถึงช่วงอกทำให้เห็นเสื้อยืดสีดำที่อยู่ข้างในจนแทบไม่เหลือเค้าชุดหมีทรงเชยๆ

"ห้ามอะไรครับ.." พี่กันย์เลิกคิ้วถามเสียงเรียบ

"เอ่อ..ช่างเถอะ ปีหนึ่งทุกคนพร้อมแล้วใช่มั้ยครับ!"

"พร้อมคับ/พร้อมค่ะ"

"ดี ขอให้พวกคุณตั้งใจ เพราะกิจกรรมนี้จะทำให้พวกคุณเข้าใจในความเป็นคณะเกษตรของพวกเราทุกคน" พี่แชมป์พูดขึ้นอย่างฮึกเหิมจนทำให้นักศึกษาคณะเกษตรทุกคนอดที่จะภูมิใจในความเป็นเด็กเกษตรไม่ได้ ไม่เว้นแม้แต่พี่กันย์.. ที่มองตรงไปยังแปลงนาตรงหน้าด้วยความสนใจ

"ปีหนึ่งทั้งหมด เชิญครับ!" พี่ปีสองที่วันนี้มาทำหน้าที่เป็นสวัสดิการสำหรับกิจกรรมได้ก้าวขึ้นยืนข้างน้องปีหนึ่งทุกคนก่อนจะส่งต้นกล้าข้าวให้คนละหนึ่งกำมือแล้วถอยออกไปยืนล้อมรอบแปลงนาของของนักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งปี 59 แล้วจับมือกันเอาไว้ เหมือนเป็นสัญญาณให้ปีหนึ่งทุกคนค่อยๆ เดินลงไปในนาแล้วเริ่มปักต้นกล้าลงไปเป็นแถวๆ

"ข้อ 4 กูเกลียดของแหยะๆ ทุกชนิดยกเว้นกาว" ส่วนพี่กันย์ก็ยังคงบ่นต่อไปไม่หยุดจนผมแอบกังวลเล็กๆ ไม่ได้

...เด็กเกษตรอย่างพวกผมน่ะไม่เป็นไรหรอก แต่พี่เขาเนี่ยสิ จะไหวหรือเปล่าก็ไม่รู้

"มึงก็รีบๆ เดินเข้าไปสิ กูจะได้ทำของกูบ้างเนี่ย" เสียงตวาดไอ้ธันย์ยังดังมาแว่วๆ จนผมหลุดขำ ถ้ายังอาละวาดได้แบบนี้คงไม่เป็นไรหรอกมั้งครับ





ตอนนี้ปีหนึ่งหลายคนเริ่มปักกล้ากันเสร็จแล้ว จึงค่อยๆ ทยอยยืนรอบๆ แปลงเพื่อรอให้คนที่เหลือได้เข้าไปปักต่อ สิ่งที่ผมกังวลเมื่อครู่นี่มอดมลายหายไปแล้วครับ ใครจะคิดว่าเด็ก'ถาปัตย์ บุคลิกติดจะสำอางแบบนั้นจะทำงานพวกนี้ได้อย่างคล่องแคล่วไม่แพ้เด็กเกษตรอย่างพวกผมเลยสักนิด

ผมแอบเห็นพี่กันย์เงยหน้าขึ้นอย่างดูภูมิใจเมื่อพี่เขาปักกล้าต้นสุดท้ายลงในแปลงแล้วเดินตามพวกปีหนึ่งกลุ่มสุดท้ายออกมา เสียงปรบมือดังขึ้นไปทั่วแปลงนาจนปีหนึ่งทุกคนหันไปดูด้วยความสนใจ ตอนนี้นอกจากพวกพี่ปีสองและปีสามแล้วยังมีพี่ปีสี่และพี่ที่จบไปแล้วอีกหลายคนยืนล้อมรอบพวกผมอยู่บนคันนาและปรบมือให้จนปีหนึ่งทุกคนยิ้มกันแก้มแทบปริด้วยความดีใจ

...ห้องเชียร์ปีนี้จบลงไปแล้ว และชีวิตเด็กปีหนึ่งในรั้วมหา'ลัยกำลังจะเริ่มต้นขึ้น

"ขอบคุณสำหรับความตั้งใจตลอดสองเดือนที่ผ่านมา ต่อจากนี้ไปพวกคุณคือเด็กเกษตร คืออนาคตของประเทศ และคุณ...คือรุ่นน้องของพวกผมครับ ยินดีด้วยครับ 'น้องๆ' ทุกคน" พี่แชมป์พูดขึ้นก่อเสียงเฮจะดังขึ้นตามมา

‘พี่ๆ’ ต่างกวักมือเรียกปีหนึ่งให้ขึ้นจากแปลงนาแล้วเดินไปรับสร้อยคอซึ่งมีจี้ใสๆ ห้อยอยู่ ตัวจี้มีลักษณะเป็นกระบอกใสบรรจุเมล็ดข้าวที่มีเลข ‘71’ กำกับไว้

"ขอให้มึงมีความสุขกับชีวิตนักศึกษามากๆ ใช่ชีวิตให้เป็น ทั้งเรียน ทั้งเล่น แล้วมึงจะรู้ว่ามึงคิดถูกแค่ไหนที่ได้มาเรียนที่นี่" พี่คีย์พูดก่อนจะหย่อนสร้อยลงบนมือของผม

...เด็กเกษตร รุ่น 71 สินะ





"เอ่อ...พี่กันย์ครับ ผมขอโทษครับพี่.." เสียงโหวกเหวกโวยวายจากเฮดว๊ากหน้าโหดที่ตอนนี้กำลังตกเป็นเหยื่อของรุ่นพี่ต่างคณะกำลังพูดขอโทษพร้อมกับวิ่งหนีไปด้วย เรียกเสียงหัวเราะและเสียงสมน้ำหน้าจากรุ่นพี่และรุ่นน้องคณะเกษตรได้เป็นอย่างดี

"ไอ้-เหี้ย-แชมป์ มึงเล่นอะไรแมร่งไม่ปรึกษากูเลย อย่าหนีนะเว้ย กลับมานี่เลยมึง"

ออฟไลน์ darinsaya

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
 :o8: :o8: :o8: :o8:
     


  สนุกมาก

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
แหมๆ.....พี่แชมป์ ว้ากเกษตร จะรับน้องแรงๆ สินะ
แต่ไปยุ่งกับพี่กัลย์ ฐาปัตย์
ปีน เลยบอกซะเลยเป็นรุ่นพี่ พวกเดียวกัน อะจ๊ากกกก
แต่ได้ใจพี่กัลย์ นะ ทั้งที่ไม่ชอบหลายๆไม่ชอบ
แต่ก็ยอม พี่กัลย์ น่ารัก
ปืน เริ่มเห็นแล้วสินะ พี่กัลย์ เขาหน้าตาดีนะ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ panitanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
พี่กันย์เท่จังงงง :hao7:

ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
ทำไมพี่กันย์ดูน่ารัก ถึงจะเยอะแต่ก็น่ารักนะ
 :really2: :really2:

ออฟไลน์ imac

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 931
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
ชอบพี่ gun

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ wnkth

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
ติดตามๆ สนุกอะครับ

ออฟไลน์ Grey Twilight

  • Moderator
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-17
ทำไมคาแรกเตอร์กันย์เหมือนผมจังวะเนี่ย (ฮา) แต่ผมสุภาพกว่านิดหน่อย (มั้ง) คิดว่างั้นนะ 555 แต่เรื่องนอนได้เยอะๆ กับเด็กต่างคณะชอบเรียกมาให้ช่วยนี่โคตรจริง บางทีจับพลัดจับพลูโดนอาจารย์คณะอื่นถูกใจ ทำเรื่องเรียกมาจีบไปช่วยงานอีก กรรมของเวร 555

เอ้อ แต่ไม่เหมือนอยู่อย่าง ผมไม่ได้เรียนสถาปัตย์ 555 เด็กสถาปัตย์งานเยอะจริงครับ โชคดีที่ไม่ได้เรียน แค่ช่วยเพื่อนทำงานนี่ก็รู้สึกเลยว่างานเยอะจริง คือถ้ารวยขนาดจ้างร้านขึ้นโมเดล 3D หรือทำเลเซอร์แปลนได้มันก็ง่ายอะครับ เปลือง แต่เร็วหน่อย ความจริงตัวเรนเดอร์งานเด็กวิศวะก็ช่วยทำได้นะครับ โปรแกรมบางตัวมันทำงานคล้ายๆกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-10-2016 22:05:59 โดย Grey Twilight »

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
พี่กันย์น่ารักดีนะ

ออฟไลน์ zenzaii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
04-…ก็พี่ขี้เมา

"ไอ้ปืน! ทางนี้โว้ยย" ไอ้ธันย์ตะโกนทักผมมาแต่ไกลจนคนแถวนั้นหันมามอง

…จากที่เดินมาเงียบๆ นี่กลายเป็นจุดสนใจขึ้นมาทันที

"จะตะโกนทำซากอะไรของมึงครับเพื่อน" ผมด่าก่อนจะเดินเข้าไปร่วมวงกับพวกเพื่อนๆ และพี่ๆ ปีสองกลุ่มของพี่คีย์

หลังจากเลิกกิจกรรมลงนากันตอนเกือบเที่ยง พี่แชมป์ก็สั่งให้ทุกคนแยกย้ายก่อนจะกลับมารวมตัวกันใหม่เวลาทุ่มตรงที่ร้านอาหารกึ่งๆ ร้านเหล้าไม่ใกล้ๆ มอ โดยครั้งนี้พวกปีสามอาสาเป็นเจ้ามือเหมาร้านไว้ให้ในวาระที่ฉลองปีหนึ่งได้รุ่นและความต้องการแอลกอฮอล์ส่วนตัวของพวกพี่ๆ เอง แล้วก็ตามระเบียบครับ… พูดถึงงานเลี้ยงก็ต้องมีการแต่งตัว และธีมในการแต่งตัวครั้งนี้คือ 'ใส่ลายดอก..มาบอกรัก' …ซึ่งมันง่ายสุดครับ ก็แค่หาเสื้อผ้าลายดอกซึ่งเป็นแฟชั่นยอดฮิตของเด็กคณะผมอยู่แล้วมาใส่สักตัวแล้วก็ลากตัวเองมานั่งในงานเท่านั้น จบ! (พี่แชมป์เขาว่ามางี้…)

ไอ้ธันย์นี่เล่นใส่เสื้อเชิ๊ตสีเขียวลายดอกสีชมพูสะท้อนแสงเห็นมาตั้งแต่ผมยังอยู่ตรงทางเข้าร้าน ยังดีนะครับที่มันมีสามัญสำนึกเบรกสีสดๆ ของเสื้อมันด้วยกางเกงขาสั้นสีครีมอ่อนๆ กับรองเท้าสีน้ำตาลทำให้สุนัขที่นอนเล่นอยู่ในร้านไม่ลุกขึ้นมาเห่ามันซะก่อน ส่วนของผมนี่ถึงจะไม่ได้เป็นคนแต่งตัวดีอะไรนัก แต่ลายดอกสีพาวเวอร์เรนเจอร์นี่คงต้องขอละไว้บ้าง เลยจัดมาแค่ยืดสีขาวมีกราฟฟิคลายดอกสีดำแซมๆ ชมพูบ้างเป็นบางจุดตรงไหล่กับชายเสื้อพอเป็นพิธีก็พอ

"สวัสดีครับผมมม..." เสียงแก๊งค์พี่ว๊ากที่ตามมาเสริมทัพทักทายกันมาแต่ไกลเล่นเอาพวกผมหลบสายตากันไม่ทัน

…ไม่ใช่อะไรหรอกครับ แต่เสื้อนี่สีสะท้อนแสงพอๆ กับไอ้ธันย์เลยทีเดียว

"ไอ้ธันย์น้องรัก สมแล้วที่เป็นน้องกู" พี่คีย์ที่ติดสอยห้อยตามแก๊งค์พี่ว๊ากเดินเข้ามากอดคอไอ้ธันย์แล้วตรงดิ่งไปที่บาร์ทันที ส่วนผม ไอ้พีทและเพื่อนๆ พี่ๆ ต่างขยับขยายวงเพื่อให้แก๊งค์พี่ปีสามเข้ามานั่งด้วยกัน

…จากนั่นแอลกอฮอล์ทุกชนิดในร้านต่างถูกยกเข้ามาประเคนแบบไม่ว่างเว้นกันเลยทีเดียวครับ





"เอ้อไอ้คีย์ มึงบอกพี่กันย์แล้วใช่เปล่าว่าร้านนี้" พี่แชมป์ถามขึ้นมาเมื่อเห็นว่าตอนนี้เกือบสองทุ่มแล้วแต่รุ่นพี่ต่างคณะที่ชวนมาสังสรรค์ด้วยกันก็ยังไม่มา

"บอกแล้วพี่ แต่เดี๋ยวผมโทรตามมันอีกทีดีกว่า" พี่คีย์ว่าก่อนจะกดโทรศัพท์เพื่อโทรหารุ่นพี่ต่างคณะอีกคนที่นับวันยิ่งทำตัวเหมือนเป็นรุ่นพี่ในคณะผมเข้าไปทุกที

"ฮัลโหลไอ้กันย์ อยู่ไหนแล้ววะ เออ ร้านที่ห้อยผ้าสีส้มๆ อ่ะ เลี้ยวเข้ามาได้เลยมึงข้างหลังมี่ทีจอด พวกกูนั่งอยู่หน้าเวทีนะ" พี่คีย์วางสายก่อนจะหันไปบอกพวกพี่แชมป์ว่าพี่เขากำลังจะถึง





"เฮ้ย นั่นใช่พี่คณะเราเปล่าวะ?"

"ไม่ใช่แก พี่คนที่มาช่วยทำคัทอ่ะ"

"ที่เรียนสถาปัตย์ใช่ป่ะ"

"เชี่ย ไปทำไรมาวะ ทำไมวันนี้โคตรหล่อ"

"กรี๊ดดด.."

เสียงซุบซิบผสมเสียงกรี๊ดยังดังขึ้นมาเป็นระยะๆ และยิ่งดังขึ้นจนคนทั้งโต๊ะทนไม่ได้ต้องหันไปมองก็เห็นตัวต้นเหตุที่กำลังมองหาโต๊ะพวกผมอยู่พอดี

"ไอ้เชี่ยยย พ่อเจ้าแม่เจ้าโว้ยย ถ้ามึงจะจัดเต็มขนาดนี้ เล่นเอากูนี่ไม่มีที่ยืนเลยครับเพื่อน" พี่คีย์อุทานก่อนจะเดินไปรับเพื่อนที่เริ่มจะทำตัวไม่ถูกเพราะทุกสายตาเริ่มพุ่งไปที่เจ้าตัวให้รีบมาที่โต๊ะก่อนจะโดนรุมทึ้งไปซะก่อน

เมื่อเช้าที่ผมว่าสภาพพี่กันย์ดูดีแล้วนี่เทียบไม่ได้กับตอนนี้เลยครับ เสื้อผ้าสไตล์ Casual ของพี่เขานี่กินขาด เสื้อเชิ๊ตสีขาวสะดาดตากับเสื้อคลุมตัวนอกกึ่งสูทกึ่งลำลองสีมัสตาร์ดตัดกับกางเกงยีนส์ขาเดปสีกรม รองเท้าหนังกลับคู่โปรด แถมด้วย Accessories ทั้งสี่ แล้วไหนจะยังไอ้ผมหัวตั้งที่เซทมาอย่างดีกับหน้าใสกิ๊งเหมือนได้รับการนอนชดเชยเมื่อสิบชาติก่อนไปแล้ว

...ถึงพี่จะโคตรหล่อ แต่ช่วยเกรงใจลายดอกสีโคตรสด ตรงนี้ด้วยครับ!

"โทษทีว่ะ กูตื่นสาย รถแมร่งก็โคตรติด" พี่กันย์หันมาค้อมหน้างึกๆ สองสามทีรอบวงอย่างเกรงใจที่มาช้า แล้วดูพี่เขาครับ แต่งตัวดีๆ แบกหน้าหล่อๆ มายังไม่พอ ยังมานั่งท่ามกลางดงดอกไม้ในวันคริสต์มาสอย่างพวกผมอีก คนเบ้าหน้าดียังรอดยากแล้วลองนึกถึงพวกผมสิครับ

...ตายเรียบ

"กูว่าละ หน้ามึงใสขนาดนี้นี่ไปนอนมาชัวร์" ...คุณพระคุณเจ้า สงสัยถ้าผมอยากหล่อนี่ไม่ต้องทำศัลยกรรมแล้วครับ แค่นอนก็พอ

"เออ ไม่ไหวว่ะ ตื่นเช้าเกิน" พี่กันย์บ่นถึงเรื่องเมื่อเช้าก่อนจะรับแก้วเหล้าจากพี่แชมป์มากระดกอึกๆ อย่างกับน้ำเปล่า

"พี่มาทีนี่แย่งซีนพวกผมหมด งานเลี้ยงแบบนี้ต้องให้พวกพี่ว๊ากเป็นพระเอกสิครับพี่" พี่แชมป์แซวเมื่อทุกสายตารอบโต๊ะยังคงหันมามองพี่กันย์ไม่หยุด

"หุบปากเลยมึง กูจะมาคิดบัญชีกับมึงเนี่ย ไหนว่าแค่ให้กูไปยืนเฉยๆ ไง" พี่กันย์ได้ทีรีบทวงถึงเรื่องเก่าๆ ก่อนจะเทเหล้าเพียวๆ ลงในแก้วพี่แชมป์จนสีเข้ม

"ขอโทษจริงๆ พี่ ก็ใครใช้ให้ไอ้เด็กปีหนึ่งมันเล่นนอกบทล่ะ" พี่แชมป์ว่าก่อนพี่กันย์จะเหล่มาทางผม

"เออ กูเป็นพวกมึงตั้งแต่เมื่อไหร่ครับเนี่ย แหม่ กินเข้าไปเลยมึง" พี่กันย์ได้ทีชักเริ่มสนุกชงเหล้าให้คนนู้นทีคนนี้ทีอย่างคล่องก่อนจะเรียกพนักงานเสิร์ฟให้เอาเหล้ามาให้ขวดที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้





"ก็ตอนแรกอ่ะเพ่ ผมอ่ะจะให้..ไอ้..คีย์แมร่งเป็นตัวดราม่า ที่ไหนด้ายย..ย มันดันไปใช้พี่ทำคัทแทนมันอ่าาา.." พี่แชมป์ที่ตอนนี้น้ำเสียงเริ่มยานยังตั้งหน้าตั้งตา 'แฉ' เบื้องหลังการรับน้องไปเรื่อยๆ จนปีหนึ่งเริ่มมามุงฟังด้วยความสนใจ

"พี่ต้องคิดดิว้าา.. พี่จะใช้ผมทำอะไรก็ได้เว้ยยย..ย.. แต่ผมโง่ศิลปะ มีเพื่อนเก่งก็ต้องใช้เพื่อนดิ เนอะ ไอ้กันย์" พี่คีย์พูดก่อนจะโผเข้าไปซบคอพี่กันย์ก่อนจะเอาหน้าไถๆ ที่ต้นแขนจนพี่กันย์ต้องผลักหัวออก

"มึงมาช่วยกูหน่อยดิ" พี่กันย์กวักมือเรียกผมก่อนจะให้ช่วยลากตัวพี่คีย์ที่ตอนนี้เริ่มทิ้งตัวทั้งตัวไปทางพี่กันย์ให้หันไปซบโซฟาอีกข้างที่ยังว่างแทน

"พี่คอแข็งเหมือนกันนะครับเนี่ย" ผมหันไปมองอย่างทึ่งๆ ปริมาณแอลกอฮอล์ที่พี่กันย์กินเข้าไปไม่ได้น้อยไปกว่าแก๊งค์พี่ว๊ากกับพี่คีย์เลย แต่พี่เขากลับมีอาการแค่หน้าแดงเรื่อๆ ขึ้นมานิดหน่อยเท่านั้น

...ที่เขาบอกว่าเด็ก'ถาปัตย์กินเหล้าต่างน้ำท่าจะจริง

"แล้วมึงไม่กินล่ะ" พี่กันย์ถามก่อนจะเติมเหล้าในแก้วของผมที่น้ำแข็งละลายจนหมดแล้ว

"ไม่ค่อยชอบครับ"

"เด็กอนามัย" พี่กันย์พูดก่อนจะหยิบแก้วของผมไปกินเสียเอง

"พี่กันย์ขาา" เสียงหวานของ 'เฟรม' ดาวคณะชั้นปีผมดังมาแต่ไกลก่อนจะเดินมานั่งบนเก้าอี้เดี่ยวข้างๆ พี่กันย์

"ครับผม" พี่กันย์หันไปยิ้มตอบ

"เพื่อนเฟรมชอบพี่อ่ะค่ะ ขอเบอร์ได้มั้ยค้าา" เสียงเฟรมที่เริ่มทอดยาวทำให้ผมรู้ว่าเธอคงกรึ่มๆ ไม่แพ้กัน พอหันไปมองรอบๆ ตัวถึงเพิ่งรู้สึกได้ว่าพวกปีหนึ่งที่มากันในตอนแรกนี่แทบไม่เหลือแล้ว ส่วนพี่ปีสองกับปีสามก็เริ่มทยอยหิ้วปีกกันออกไป

...แล้วไอ้พีทกับไอ้ธันย์ไปไหนแล้ววะ

ผมคิดก่อนตั้งท่าจะออกไปหาเพื่อนแต่จู่ๆ ก็มีมือมาจับต้นแขนแน่นจนต้องหันไปมอง  พี่กันย์นั่นเองครับแถมยังส่งสายตาขอความช่วยเหลือมาเต็มที่

"เฟรม กลับมั้ย เดี๋ยวเราไปส่ง" ผมเดินเข้าไปเขย่าตัวเพื่อนสาวเบาๆ โดยพยายามจะไม่แตะตัวเธอมากเกินไปเพื่อให้เธอมีสติ

...ก็เธอเล่นทั้งดึงทั้งกระชากเสื้อนอกพี่กันย์จนจะขาดติดมือมาอยู่แล้วเนี่ย

"พี่ไม่เห็นใส่ลายดอกเลยย..ยย หนูขอหาลายดอกของพี่หน่อยน้าา..าา"

...เชี่ยย ผู้หญิงสมัยนี้โคตรน่ากลัว

"อิเฟรมม แกทำอะไรพี่เขาา... ขอโทษค่ะพี่" อิแบงแบงที่วันนี้แต่งตัวเป็นผู้หญิงตั้งแต่หัวจรดเท้ารีบเดินเข้ามาลากเพื่อนสาวที่เริ่มเมาแล้วอาละวาดออกไป

"กูจะบ้าตาย" ผมเห็นพี่กันย์ปาดเหงื่อเบาๆ ก่อนจะกระชับเสื้อนอกให้เข้าที่แล้วกระดกเหล้าเข้าปากต่อไป

"มึงนี่ฮอตเนอะ น้องเฟรมแมร่งยังจะกินมึงเลยว่ะไอ้กันย์" พี่แชมป์ที่เดินกลับมาจากห้องน้ำเอ่ยขึ้น

"เดี๋ยวๆ กูอ่ะพี่มึง! อย่าเยอะ!" พี่กันย์พูดแล้วชี้นิ้วอย่างคาดโทษ

"ไม่เป็นไรนะ ไม่เปนรายย...ย.. กูไม่ถือ แต่มึงถือใช่ป่ะล่าา.." พี่แชมป์พูดพลางหงายมือให้ดูว่าในมือพี่เขาไม่มีอะไร แต่พี่กันย์ต่างหากที่ถือแก้วอยู่ในมือ

"สัด!"

"รุนแรงจัง ว่าแต่..ทำไมถึงไม่ใส่เสื้อลายดอกว้าา..า รู้ป่ะเนี่ย ว่าเด็กเกษตรเขาก็มีธีมกันนะเว้ย" พี่แชมป์คะยั้นคะยอถามเพื่อจะเอาคำตอบให้ได้

"ข้อ 5..."

"พี่กันย์ไม่ใส่เสื้อผ้าลายดอกครับ" ผมตอบในขณะที่ส่งถุงพลาสติกให้พี่แชมป์ที่เหมือนกำลังจะคืนแอลกอฮอล์ทั้งหมดออกมาคืนร้าน

"เหยดดด นี่สนิทกับกูถึงขนาดนั้น ใช้ได้ๆ" พี่กันย์พูดอย่างขำๆ ก่อนจะพยักหน้าอย่างพอใจ

"ไม่ได้เว้ย..ย วันนี้มาถิ่นเด็กเกษตร พี่ต้องทำตามธรรมเนียม เข้าใจป่ะ!" พี่แชมป์พูดก่อนจะถอดเสื้อลายดอกจากเพื่อนข้างๆ ที่เมาหลับไปแล้ว แล้วพยายามเอามายัดให้พี่กันย์ใส่ให้ได้

"ไอ้แชมป์ หยุดเลยมึง เมาแล้วกลับบ้านไปโว้ยยย" พี่กันย์ทั้งดันทั้งยันจนเกือบจะถีบพี่แชมป์อยู่แล้ว ผมลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าแล้วล้วงบางอย่างออกมาแล้วพับอย่างเรียบร้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วเสียบมันลงในกระเป๋าเสื้อนอกของพี่กันย์

"นี่ไงลายดอกพี่แชมป์ เห็นยัง เอาเสื้อกลับไปให้พี่วินได้แล้ว พี่เขาจะหนาวตายแล้วนั่น" ผมกล่อมพี่แชมป์เหมือนกล่อมคนบ้าที่คลุ้มคลั่งแล้วพยายามจะทำร้ายคนให้หันไปมองเพื่อนตัวเองที่นอนกอดท่อนบนที่เปลือยเปล่าจนตัวแทบสั่นเป็นเจ้าเข้า

"อะไรของมึงวะ" พี่กันย์มองสิ่งที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อนอกแล้วทำท่าจะดึงออกจนผมต้องรีบหยุดไว้

"มันคือผ้าเช็ดหน้า ของ young designer คนไทย ผมเช็คลาย สี โทนรวมๆ แล้วก็ตะเข็บแล้วเพราะฉะนั้นพี่เก็บไว้นะครับ และอย่าเอามันออกมาเพราะผมพับแบบนั้นได้แค่ครั้งเดียว" ทันทีที่ผมพูดจบพี่กันย์ก็ได้แต่มองผมอย่างอึ้งๆ ก่อนจะชี้ที่ผ้าเช็ดหน้าลายดอกไม้เล็กสี Old rose บนพื้นผ้าสีกรมท่าที่สีของทั้งผืนโดนเบรคลงมาให้ดูออกแนววินเทจประมาณว่า

...มึงให้กูทำไมครับ

“ก็ผมเจอมัน..”

“อ่าฮะ”

 “แล้วผมก็ซื้อมา…”

“อ่าฮะ”

แล้วผมก็ต้องนิ่งแล้วหยุดคิดก่อนจะตอบไปว่า…

“นั่นดิ ไม่รู้เหมือนกันว่ะพี่…”

...เออ ผมซื้อมาทำไมวะ

"เออ.. ขอบใจแล้วกัน"  พี่กันย์ตัดจบเมื่อเห็นผมไม่พูดอะไร

ผมเลยหันไปลากพี่แชมป์ให้กลับไปนั่งที่แล้วจัดการใส่เสื้อคืนให้พี่วินจนเรียบร้อยแล้วจัดการสั่งเหล้าปั่นซึ่งเป็นเหล้าชนิดเดียวที่ผมกินได้แบบไม่ฝืนใจนักมาแก้สถานการณ์ที่เหมือนจะมีบรรยากาศแปลกๆ เกิดขึ้นโดยไม่ลืมเผื่อแผ่ไปถึงพี่เขาด้วย

…ถือซะว่ากินเป็นเพื่อนพี่เขาแล้วกัน เพราะดูท่ารายนั้นจะไม่ยอมหยุดกินง่ายๆ เสียด้วย





"เอ้อ..พี่กันย์ครับ" ผมตัดสินใจทำลายความเงียบขึ้นมาเมื่อเห็นว่าเวลาเริ่มล่วงเข้าสู่วันใหม่และร้านใกล้จะปิดเต็มที

"ว่าไงครับน้องปืน" ...เดี๋ยวนะ

"พี่กันย์.. เรียกผมว่าอะไรนะครับ"

"น้องปืนไง ชื่อปืนไม่ใช่หรอเราอ่ะ"

...เชี่ยย เรียกผมว่า ‘ปืน’ แถมใช้สรรพนานแทนผมว่า ‘เรา’ อีก

...หนักกว่าเหตุผลของการซื้อผ้าเช็ดหน้า ก็ ‘ปืน’ กับ ‘เรา’ นี่แหละครับ

"พี่... เป็นไรป่ะครับ" ผมลองถามอีกครั้งอย่างไม่ค่อยแน่ใจ

"ก็เปล่านี้ ผมปกติดี"

...ผมว่านั่นแหละครับ ‘โคตรไม่ปกติเลย’

"เอ่อ งั้นเดี๋ยวผมออกไปส่งพวกพี่แชมป์ก่อนนะครับ พี่กันย์ นั่งคนเดียวไปก่อนนะครับ" ผมเอ่ยบอกคนที่ยังนั่งหัวโด่อยู่คนเดียวในโต๊ะแล้วช่วยลากพวกแก๊งค์พี่ว๊ากตามพวกพี่ปีสามที่อาสาไปส่งให้

"ได้สิครับน้องปืน" รอยยิ้มหวานๆ ที่ยิ้มจนตาหยีถูกส่งมาให้ผมจนผมนี่ใจคอไม่ดีเลยทีเดียวพลางนึกถึงสาเหตุที่ทำมห้คนคอแข็งใช้คำพูดคำจาแปลกๆ จะว่าเมาก็ไม่น่าใช่..

...น้ำเสียงก็ปกติ

...หน้าตาก็ปกติ

...แล้วอะไรที่ไม่ปกติวะ?





ผมนี่แทบถลาเข้าไม่ทัน เมื่อตอนที่เดินกลับเข้ามาในร้านแล้วเห็นพี่กันย์เริ่มกลายเป็นปีศาจเที่ยวไล่จูบพวกพี่ปีสองที่เหลืออยู่ไปทั่ว แล้วมันดันมีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งทำท่าเหมือนจะเล่นด้วยขึ้นมานี่สิ

"พี่กันย์ครับ!" ผมรีบตะโกนเรียกก่อนจะปีนข้ามเก้าอี้ไปยังโต๊ะที่อยู่อีกมุมหนึ่งของร้านแล้วเอื้อมมือไปปิดปากพี่กันย์เอาไว้ก่อนที่จะจูบพี่ผู้หญิงคนนั้นได้ทัน พี่คนนั้นจิ๊ปากอย่างขัดใจเล็กน้อยแต่ก็ปล่อยผมลากพี่กันย์กลับมาที่โต๊ะแต่โดยดี

"ว่าไงคร้าบบ น้องปืน" ...อ่าฮะ เสียงเริ่มไม่ปกติล่ะ

"พี่กันย์จะกลับแล้วยังครับ"

"ถ้าน้องปืนอยากให้พี่กลับ พี่กลับก็ได้นะคร้าบบ.." พี่กันย์พูดก่อนจะเท้าคางหันมามองหน้าผมตาแป๋ว หน้าเริ่มแดงที่ไม่ใช่เพราะแสงไฟในร้านแน่ๆ ...หน้าเริ่มไม่ปกติ

"แล้วพี่.. จะกลับยังไงครับ" ผมพูดพลางชูกุญแจรถของพี่กันย์ขึ้นมาตรงหน้า ...ถ้าคิดจะเมาแล้วเอารถมาทำไมวะเนี่ย

"อย่าดุพี่ด้วยสายตาอย่างน้านน.. ปกติ พี่ก็ไม่เมาน้าา.." พี่กันย์ยื่นหน้าเข้ามาดูกุญแจรถใกล้ๆ พลางทำท่าคิดอย่างสงสัย

"แล้วทำไมวันนี้..." ยังไม่ทันพูดจบกุญแจรถตรงหน้าผมก็ถูกดึงออกไป ผมเพิ่งสังเกตเดี๋ยวนี้เองว่าหน้าผมกับพี่กันย์ใกล้กันมากขนาดรู้สึกได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่าย แล้วจู่ๆ พี่กันย์ก็ยื่นริมฝีปากออกมา..

"จุ๊บ"

...ผมเพิ่งรู้ตอนนี้นี่เองว่าไอ้ท่าทางของคนที่นั่งคอแข็งมาตลอดนี่คืออะไร

…สรุปว่าว่าไอ้พี่กันย์แมร่งเมา

…แล้วไอ้คนเมาคนนี้ก็ดันมาจูบผมไงไครับ





...เชี่ยยยย ผมโดนผู้ชายจูบปาก อี๋!

"ไอ้เชี่ยพี่กันย์" ผมลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วจนพี่กันย์ตกใจหงายท้องลงไปนอนกับพื้นของร้านแล้วก็เริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับไอ้พี่คีย์ที่ตื่นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

"กูว่าแล้ว ฮ่าๆๆ มึงสั่งมาใช่มั้ย เหล้าปั่นอ่ะ" พี่คีย์ถามก่อนจะชี้ไปที่โถเหล้าปั่นที่ตอนนี้มีแต่โถเปล่า

"ครับ?"

"ไอ้เชี่ยกันย์มันแพ้พวกเหล้าผสมน้ำผลไม้ กินเข้าไปแค่สองสามแก้วก็เยิ้มแล้วมึงเอ้ย ฮ่าๆๆ" พี่คีย์ยังคงหัวเราะต่อไปอย่างสะใจ ก่อนจะยื่นกุญแจรถที่ฉกไปเมื่อกี้คืนมาให้ผม

"ลากมันกลับหอด้วย กูว่ามันขับรถไม่ไหวว่ะ" พี่คีย์ว่าแล้วเดินออกจากร้านไปปล่อยผมไว้กับคนเมาที่เที่ยวไล่จูบคนอื่นแล้วยังหัวเราะไม่ยอมหยุด

‘หึๆๆ ฮ่าๆๆ….’

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-11-2016 08:48:39 โดย zenzaii »

ออฟไลน์ wnkth

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
อุ้ย โดนจุ๊บด้วย น่ารักอะครับ

ออฟไลน์ zenzaii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
05-…ก็พี่ขี้บ่น

อ้วกกก..

สุดท้าย…ผมก็ต้องแบกพี่กันย์กลับมาที่ห้องอีกแล้วครับ และจนตอนนี้พี่เขายังคงนั่งเฝ้าชักโครกไม่ยอมไปไหน

"ไหวมั้ยครับเนี่ย" ผมเดินไปลูบหลังก่อนจะส่งแก้วน้ำให้พี่กันย์ แต่พี่เขากลับเทน้ำลงในชักโครกแล้วนั่งหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังแทนที่จะเอาไปดื่มเสียนี่

"ดูดิมึง เชี่ยนี่ตลกว่ะ เติมเท่าไหร่ก็ไม่เคยเต็ม อ้วกกก..." พี่กันย์ชี้น้ำในชักโครกที่ไม่ว่าพี่เขาจะเทน้ำลงไปเท่าไหร่มันก็ยังรักษาระดับน้ำไว้เท่าเดิม

...มันก็ปกติของมันเปล่าวะพี่

ยังดีที่ตอนนี้อาการปีศาจหายไปแล้วครับ ไม่เรียกผมว่า ‘น้องปืน’ หรือ ‘เรา’ ให้ผมขนลุกเล่นๆ เหลือเพียงแค่ความเพี้ยนระยะเริ่มต้นกับอาการอ้วกที่ยังไม่สิ้นสุดเท่านั้น

"หมดยังครับ" ผมถามเมื่อพี่กันย์ทำท่าจะฟุบหน้าลงไปกับพื้นห้องน้ำซะงั้น

"อือ"

"งั้นไปนอนกันพี่" ผมว่าก่อนจะแบกพี่กันย์ไปพิงไว้หน้าตู้เสื้อผ้าแล้วหาเสื้อกล้ามสีขาวซึ่งดูเป็นตัวที่ใส่ง่ายที่สุดแทนชุดเก่าที่ถอดทิ้งไปเพราะเลอะอ้วก

...จะยอมเปลี่ยนให้แค่วันนี้เท่านั้นแหละครับ จำไว้

"เฮ้อ" ผมถอนหายใจออกมาดังๆ เมื่อในที่สุดผมก็ลากคนตัวสูงมาทิ้งลงบนที่นอนได้สำเร็จก่อนจะดึงผ้าห่มมาคลุมตัวพี่เขาไว้ลวกๆ

"ห้ามทำที่นอนผมเลอะเด็ดขาดนะพี่" พูดไม่ทันขาดคำพี่กันย์ก็ทำท่าจะเอาของเสียออกมาอีกรอบจนผมรีบวิ่งไปเอาถุงจากในครัวมาแทบไม่ทัน

"ฮ่าๆๆ" เสียงหัวเราะทำให้รู้ว่าพี่มันเล่นผมซะแล้ว ผมเลยจัดการเอาหูของถุงทั้งสองข้างจนเกี่ยวหูพี่เขาไว้จนคนที่นอนอยู่เริ่มโวยวาย

"ห้ามอ้วก.. นะครับ" ผมกำชับอีกครั้งแล้วดึงถุงออกไปวางไว้ที่โต๊ะข้างเตียงแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป





[Gun's]

...เหมือนหนังรีรัน

ผมตื่นมาในห้องที่มองยังไงก็ไม่ใช่ห้องผมอีกแล้ว แต่ไม่ต้องเดาหรอกครับผมจำได้ ห้องไอ้เด็กปีหนึ่งคณะเกษตรแน่ๆ

...นี่ผมปล่อยให้มันหิ้วมาอีกแล้วหรอวะ

ผมคิดอย่างเซ็งๆ ปกติถ้าผมคิดจะเมาผมจะไม่เอารถไป แต่เมื่อวานนี้ผมก็ไม่คิดว่าตัวเองจะเมาอะไรขนาดนั้น เพราะไปกินกับเด็กคณะอื่นแถมผมยังคอแข็งอยู่แล้วด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้เด็กนั่นดันสั่งเหล้าปั่นรสแอปเปิ้ลมา แล้วผมก็ดันกินเข้าไป...

06:15 น.

ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมผมถึงตื่นก่อนแปดโมงได้ นี่เป็นข้อดีอย่างหนึ่งที่ผมค้นพบ คือถ้าวันไหนผมเมาหนักๆ ผมจะตื่นเช้ามาก แต่อาการแฮงค์นี่ก็แล้วแต่โอกาสกันไป บางวันซวยตื่นมายังอ้วกอยู่เลยก็มี แต่ถึงอย่างนั้นเตียงข้างๆ ของผมก็ว่างซะแล้ว

...ไอ้เด็กนั่นมันจะตื่นเช้าไปไหนเนี่ย

ผมเดินงงๆ ออกมาจากห้องนอนก่อนจะพบข้าวต้มปลาส่งกลิ่นหอมฉุยออกมาจากห้องครัว ส่วนตัวคนทำกำลังสาละวนกับอะไรบางอย่างอยู่ที่ระเบียงข้างนอก

"ทำอะไรวะ" ผมเดินออกไปพยายามสอดรู้สอดเห็นเต็มที่ก็พบกระถางต้นไม้อยู่สี่ห้ากระถาง มีผักใบเขียวๆ ขึ้นงอกงามน่าเด็ดทีเดียว

"ทำไมตื่นเช้าจังครับ ไหนว่าข้อ 1..."

"หุบปากมึงไปเลย" ผมด่ามันก่อนที่มันจะได้ล้อเลียนผมแล้วนั่งยองๆ ลงข้างมัน

"กินได้ป่ะ" ผมชี้ไปที่ต้นผักชีที่มันกำลังบรรจงเด็ดใบอยู่ก่อนมันจะพยักหน้าให้ ผมเลยเด็ดมาใบหนึ่งแล้วส่งมันเข้าปาก

"เชี่ยย รสธรรมชาติ... ดีว่ะ กูมันพวกมือร้อน ปลูกอะไรก็ตาย มึงคิดดูกระบองเพชรกูยังทำมันตาย" มันหันมาทำหน้าภาคภูมิใจใส่ผมก่อนจะเด็ดต้นหอมออกมายื่นให้ผม

"กูไม่ใช่วัว" ผมด่ามันแต่ปากก็อ้างับต้นหอมที่มันยื่นมาให้เรียกเสียงหัวเราะจากมันได้เบาๆ

"แต่กูรักธรรมชาติไง.."





"กูปวดหัวกับเสื้อผ้ามึงจริงๆ ว่ะ" เป็นอีกครั้งที่ผมต้องขอยืมเสื้อผ้ามัน และเป็นอีกครั้งที่ผมต้องมานั่งปวดหัวกับเสื้อลายกราฟฟิกพวกนี้

...ลายมึงจะเยอะไปไหนวะ

ผมพลิกไปกี่ตัวๆ ก็ต้องมีลายไม่ต้องนู้นก็ตรงนี้สักแห่ง ให้ตาย ถึงจะบ่นอยู่ในใจแต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องหาเสื้อใส่อยู่ดี แต่รอบนี้มันเปิดโอกาสให้ผมรื้อเอง โดยกำชับว่า 'ต้องรื้ออย่างเรียบร้อย' นี่มึงเข้าใจคำว่า ‘รื้อ’ ผิดไปเปล่าวะ

"เฮ้อ" เสียงถอนหายใจดังมาจากคนที่ยืนพิงผนังอีกด้าน ผมหันไปมองหน้ามันก่อนที่ไอ้เด็กนั่นจะเคาะหน้าปัดนาฬิกาแล้วชูสองนิ้ว

...2 ชั่วโมง

…ก็เกินไป 20 นาทีพอเหอะครับ

สุดท้ายเลยตัดสินใจหยิบเชิ๊ตขาวกับกางเกงสแลคสีดำอันคุ้นตาออกมา

"ชุดนักศึกษา?" ไอ้เด็กนั่นถามขึ้นมาอย่างสงสัย

"เออ ยืมหน่อย กูขี้เกียจคิดละ" ผมตอบก่อนจะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่ยังคงผึ่งไว้ที่ระเบียงตั้งแต่ที่ผมมาเมื่อวันก่อน

"แค่แต่งตัวต้องคิดด้วย"

"เอ้า คิดดิมึง เรื่องใหญ่นะเว้ย" มันหัวเราะเบาๆ ก่อนจะยื่นแปรงสีฟันสีดำให้ผม

"ของกู?" ผมถามอย่างไม่แน่ใจ ขืนมันเอาของที่ใช้แล้วมาให้ผมนี่เรื่องใหญ่เลยนะ

"ครับผม กว่าจะหาสีดำได้นี่แทบพลิกแผ่นดิน" มันตอบก่อนจะเดินออกไปรอที่โซฟาข้างนอกเหมือนเดิม

"หาให้กูเพื่อ? อะไรของมันวะ?" ผมได้แต่เดินงงๆ เข้าห้องน้ำไป

...อย่างน้อยคราวนี้กูก็มีแปรงสีฟันใช้ละ





[Bpuen's]

วันนี้ผมว่างทั้งวันเลยกะจะไปซื้อของบางอย่างเพิ่มเติมเผื่อเข้าห้อง พี่กันย์เลยบอกให้ติดรถพี่เขาออกมาเพราะอีกนิดมันก็จะถึงถนนเส้นหลักอยู่แล้วจะได้ไม่ต้องเดินให้ร้อนเปล่าๆ แต่สุดท้ายไม่รู้พี่เขาอารมณ์ไหนเลยจะไปกับผมด้วย โดยให้เหตุผลว่า

"กูขอไปเสพรสนิยมมึงสักหน่อยเหอะว่ะ"

และตอนนี้ผมเลยต้องมาอยู่ตรงหน้าตู้เสื้อผ้าของคนที่บอกว่า 'เรื่องแต่งตัวน่ะมันเรื่องใหญ่'

...ใหญ่จริงๆ ครับ ห้องแต่งตัวพี่กันย์ใหญ่มาก ขอย้ำนะครับ ไม่ใช่ตู้เสื้อผ้า แต่มันคือห้องแต่งตัว

จะว่ายังไงดี ไอ้หอของพี่กันย์เนี่ย มันเป็นหอเก่าแต่เขาขายขาดทำให้ไอ้คนซื้อเนี่ยจะปู้ยี่ปู้ยำมันขนาดไหนก็ได้ ห้องของพี่กันย์ใหญ่กว่าห้องผมมาก เป็นห้องสตูดิโอหนึ่งห้องใหญ่ๆ กับห้องน้ำ 1 ห้องแล้วกั้นทุกอย่างออกเป็นสัดส่วนด้วยชั้นวางของหรือฉากสวยๆ แทนที่จะแบ่งเป็นห้องๆ อย่างห้องผม

มีส่วนรับแขกที่ดูสบายๆ ใช้พวก Bean bag กองๆ กับพื้นแทนโซฟา มีมุมครัวเล็กๆ ที่น่าจะไว้แค่ประกอบอาหารง่ายๆ ได้ ส่วนอีกครึ่งหนึ่งคือห้องนอนครับ ความเท่มันเริ่มตั้งแต่การที่ประตูห้องนอนถูกออกแบบให้คล้ายกับประตูบานพับเหล็กตามร้านขายของชำ พื้นของห้องนอนถูกยกระดับขึ้นมาจากพื้นห้องปกติแล้วมีฟูกอันหนึ่งวางข้างบนอย่างห้องญี่ปุ่น ไม่มีเตียง ซึ่งมันเชื่อมอยู่กับไอ้ห้องที่เป็นประเด็นนี่แหละครับ

ห้องแต่งตัวที่โคตรใหญ่ มันเหมือนตู้เสื้อผ้าที่ไม่มีบานเปิดปิดแต่สูงจนชิดเพดานแปะอยู่บนผนังทั้งสามด้าน สไตล์เสื้อผ้านี่แขวนไล่ไปตามสีซึ่งมากกว่า 80 เปอร์เซ็น คือโทนขาวเทาดำ ส่วนพวกเสื้อผ้าสีสันก็พอมีบ้างแต่เป็นโทนเย็นเป็นส่วนใหญ่ แล้วไอ้พวกขาวเทาดำนี่ก็แยกเรียงกันตั้งแต่สไตล์เป็นทางการไปจนถึงเสื้อยืดที่ดูสบายๆ แต่ไอ้ที่เด่นสุดคงเป็นโต๊ะกระจกกลางห้องที่เต็มไปด้วยเครื่องประดับสี่ชิ้นในตำนานของพี่เขา

...ข้อ 4 ต่างหู จิว นาฬิกา สร้อยข้อมือ

แล้วไอ้นาฬิกานี่น่าทึ่งมาก บอกเลยครับ ไม่มีอันไหนที่ดูเวลาง่ายๆ เลยสักอัน

"ผมรู้แล้วครับว่า..."

"หยุด ห้ามด่ากูเยอะ โอเค๊?" พี่กันย์พูดดักคอจนผมได้แต่ส่ายหน้าอย่างขำๆ

"ไม่ได้จะว่าเลยครับ แค่จะบอกว่ารู้แล้วว่าทำไมพี่ถึงใส่เสื้อผ้าผมไม่ได้แค่นั้นเอง" ผมพูดอย่างยิ้มๆ ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินไปเลือกชุดสำหรับใส่วันนี้

"มึงจะไปดูของที่ไหนนะ" พี่กันย์ถามในขณะที่หยิบเสื้อสองตัวออกมา ตัวหนึ่งเป็นเสื้อยืดคอวีสีขาว ส่วนอีกตัวเป็นเสื้อโปโล เรียบๆ สีดำ ก่อนจะเดินไปหยุดหน้าตู้ที่มีจำพวกเสื้อคลุม

"สยามครับ สยามร้อน" ผมเน้นคำว่า ‘ร้อน’ เป็นพิเศษเพื่อให้พี่เขารับรู้ถึงอากาศเมืองไทยจนเหลือไว้แค่เสื้อโปโลสีดำตัวเดียว

"พี่ชอบแต่งตัวสินะครับ" ผมพูดขึ้นขำๆ ระหว่างที่ยืนดูพี่เขาพลิกกางเกงตัวนั้นตัวนี้มาเป็นนาทีแล้ว

"เปล่าอ่ะ มันจำเป็น" พี่เขาหันมาตอบก่อนจะวุ่นวายกับการหากางเกงต่อไป

"จำเป็น?"

"ก็ไอ้ว่าที่อาชีพกูเนี่ย มันต้องเข้าสังคมไง แล้วสังคมก็มีโคตรจะหลายแบบ การแต่งตัวก็เป็นกาลเทศะอย่างหนึ่งที่มึงต้องเรียนรู้ เข้าใจ๊?"

"พี่แมร่ง.." ผมอุทานจนพี่เขาหรี่ตามอง

"อะไร"

"โคตรเท่อ่ะ" ผมตอบแล้วขยิบตาให้ก่อนจะเห็นรอยยิ้มกว้างจากคนตรงหน้า พี่กันย์ยักคิ้วให้ทีนึงก่อนจะไล่ผมออกมาเพราะพี่เขาจะแต่งตัว





ตอนนี้พวกผมกำลังเดินวนไปในสยามร้อนที่ร้อนสมชื่อจริงๆ ครับ จนผมทนไม่ได้ต้องข้ามกลับไปเดินฝั่งสยามปกติที่มีเครื่องทำความเย็นก็เพราะไอ้คนข้างหลังนี่แหละครับ ที่เดินมาได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็เหงื่อท่วมที่เหมือนเพิ่งไปอาบน้ำมายังไงอย่างงั้น

"ตกลงมึงจะซื้ออะไรครับเนี่ย" พี่กันย์ที่ดูเหมือนจะคืนชีพขึ้นหลังจากได้รับอากาศเย็นถาม

"ก็จะซื้อพวกของใช้เนี่ยแหละพี่ แต่ยังไม่เจอของที่อยากได้เลย" ผมตอบไปพลางมองสองข้างทางอย่างไม่ได้จริงจังนัก

"แล้วมึงอยากได้อะไรวะ"

"ชั้นหนังสือ"

ป้าบบ.. กำปั้นของคนข้างๆ ตีลงมากลางหัวผมแบบพอดิบพอดี จนผมต้องหันไปมองอย่างคาดโทษ

"จะซื้อชั้นหนังสือจะมาสยามทำเพื่อ? ควรไปอิเกียร์อะไรเทือกนั้นมั้ยล่ะ" พี่กันย์ถามอย่างเซ็งๆ

"ก็ไม่รู้จะไปไหนอ่ะ แล้วทำไมพี่ไม่บอกผมก่อนล่ะคร้าบบ"

"ก็กูเพิ่งรู้เมื่อกี้เองนี่คร้าบบ ไม่บอกกูล่ะคร้าบว่าจะซื้อชั้นหนังสืออ่ะ" พี่กันย์ประชดก่อนจะลากผมกลับไปที่ลานจอดรถอย่างรวดเร็ว

"โอเค ตอนนี้บอกกูมามึงจะซื้ออะไรบ้าง"

"ก็ชั้นหนังสือ ชั้นวางต้นไม้ กระถางใหม่ด้วยก็ดี อืมม.. แต่ก็อยากได้พวกเสื้อผ้ากับผ้าขนหนูด้วยนะครับ"

"เยอะจังวะ ถ้ามาคนเดียวจะขนกลับยังไง ใช้สมองบ้างป่ะเนี่ย โว๊ะ" ถึงจะบ่นแต่คนข้างๆ ก็ยอมเคลื่อนรถออกจากชั้นใต้ดินแต่โดยดี





[Gun's]

หลังจากบึ่งรถข้ามค่อนสยามประเทศมา ตอนนี้เราเลยมาอยู่ห้างสรรพสินค้าที่รวมทุกสิ่งอันที่มันอยากได้ไว้หมดแล้ว

"เชิญครับคุณมึง" ผมพูดพลางภายมือไปยังโซนของของแต่งบ้านเป็นอันดับแรกแล้วเดินตามมันเข้าไป ที่นี่เป็นที่ๆ ผมชอบมาเดินบ่อยๆ เพราะนอกจากจะมีของเยอะแล้ว มันยังมีมุมจำลองห้องต่างๆ พร้อมเฟอร์นิเจอร์ให้ได้ศึกษาเพื่อเป็นไอเดียเสมอ แล้วราคาก็ยังอยู่ในขั้นพอรับได้ จะติดก็ตรงที่มันออกจะไกลไปหน่อยนี่แหละครับ

"พี่ว่าอันไหนดีอ่ะ" ผมหันไปตามทิศทางที่มันชี้ก่อนจะเจอเข้ากับชั้นวางขนาดเล็กสีดำ กับชั้นวางสีครีมลายไม้ขนาดสูงกว่าตัวมันนิดหน่อย

"มึงอ่านหนังสือด้วยหรอ" ผมถามมันอย่างสงสัย คราวก่อนไปนี่แทบจะไม่เห็นหนังสืออะไรของมันนอกจากหนังสือเรียนเลยด้วยซ้ำ

"ก็ไม่ค่อยหรอกครับ แต่มีไว้มันก็...ดูน่ารักดี"

...รู้แล้วครับ ไอ้เด็กนี่ต้องเป็นพวกชอบของสิ้นเปลือง ประโยชน์ไม่ เอาที่สบายใจไว้ก่อน ชัวร์!

"กูว่าอันนี้แจ่ม" ผมลากมันมาอีกฝั่งที่เป็นโซนเด็ก ซึ่งโซนนี้เป็นโซนที่ข้าวของทุกย่างจะถูกย่อขนาดลงจนดูจิ๋วไปเลย

"แน่ใจหรอพี่" มันถามผมก่อนจะเดินไปนั่งลงข้างชั้นวางหนังสือนิทานสีสันสดใสแถมยังมีล้อและราวจับเพื่อให้ใช้เข็นไปได้รอบๆ อีกด้วย

"กูประชด ก็เห็นชอบของน่ารักนี่"

"แต่จริงๆ ก็ไม่เลวนะพี่" ...ผมนี่เกลียดไอ้สายตาวิบวับประหนึ่งเจอของถูกใจของมันเหลือเกิน

แล้วไอ้ชั้นหนังสือนิทานเด็กที่ว่านี่ไม่ได้มีแค่ตัวเดียวเดี่ยวๆ นะครับ มันมีมาทั้งเซทครับผม ถ้าดูดีๆ ชั้นหนังสือมันจะมียอดประสาทข้างบนแล้วลิ้นชักข้างหน้าสามารถดึงพาดลงมาให้กลายเป็นสะพานแขวนอย่างในนิทานได้ ส่วนเก้าอี้เด็กตัวข้างๆ นี่เหมือนกำแพงเมือง มีช่องเล็กๆ ไว้สำหรับปืนใหญ่ซึ่งดันยิงได้จริง นอกจากนี้ก็มีโต๊ะเล็กๆ ซึ่งเอามาพับแล้วประกอบกันเป็นร้านค้า หรือบ้านเรือนต่างๆ ในเมืองได้อีกด้วย

"ซื้อเถ๊อะ!" ไม่ใช่เสียงมันนะครับ เสียงผมนี่แหละ เห็นแล้วนี่มันช่างปลุกไฟความเป็นสถาปนิกในตัวผมได้ดีจริงๆ

...ก็ขนาดแค่เกมเดอะซิมส์ยังหลอกล่อให้พวกผมหน้ามืดมาเรียนคณะนี้ได้ แต่นี่มันเมืองจำลองขนาดย่อมๆ ที่เอาตัวมุดเข้าไปได้จริงๆ แบบนี้เนี่ยไม่พลาดแน่ๆ

...แล้วประเด็นคือไม่ใช่เงินผมไง ฮ่าๆๆ

"ตกลงไอ้ที่ซื้อนี่ของใครนะครับ" ไอ้เด็กเกษตรถามด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจแต่ก็หยิบเซทเมืองจำลองที่กล่องโคตรใหญ่มาใส่รถเข็นทันที

"อือ ของมึงอ่ะ แต่กูอยากเล่น" ผมตอบส่งๆ

...เข้ากับห้องรึเปล่าไม่รู้ กูอยากเล่นเป็นพอ





เมื่อครู่นี้เป็นโซนของเด็ก’ถาปัตย์ คราวนี้ได้เวลาของเด็กเกษตรเขาบ้างแล้วครับ เมื่อไอ้เด็กนี่เดินเข้าโซนของจุกจิกส่วนครัวและ OUTDOOR ได้ไม่ถึงห้านาที กระถางต้นไม้หลากสีนี่ลงรถเข็นเป็นอย่างแรกเลย

...แถมยังตามมาด้วยตะเกียงเซรามิกสีขาวและเทียนไขในเบ้าอะลูมิเนียม

"บ้านมึงไฟฟ้าเข้าไม่ถึงหรอครับ" ผมถามมันอย่างสงสัย คือมึงจะเอาเทียนไขไปทำไมตั้งมากมาย ห๊ะ!

"หุบปากพี่ไปเลย ผมซื้อไอ้เซทบ้านจำลองนั่นให้ก็บุญแล้วครับ" โอ๊ะ... ไอ้เด็กนี่ร้ายกาจเว้ยเฮ้ย

"เดี๋ยวๆๆ ไอ้พวกเมื่อกี้กูยังเข้าใจ แต่มึงจะเอาเปลแขวนเพดานอันใหญ่เท่าบ้านนี่ไปไม่ได้" ผมด่ามันในขณะที่มันกวักมือเรียกผมยิกๆ ให้ไปขนไอ้เปลที่ตัวโคตรใหญ่ใส่ลงไปในรถ

"ทำไมล่ะครับ" มันถามพลางเบะปากเหมือนเด็กไม่ได้ดั่งใจ

"หยุดเบะเลยมึง กูสั่งทุบห้องมึงละเอาเปลวางไว้ให้เอามั้ยล่ะ เตียงเติงไม่ต้องใช้มันละ นอนเปลแมร่งไปแล้วกัน" มันทำหน้างอจนผมต้องลากไอ้เด็กโลภมากออกมาจากโซน OUTDOOR ก่อนที่มันจะยอมให้ผมสั่งทุบห้องมันจริงๆ

"ซื้อผักบุ้ง ผักกาดมึงไปไป๊" ผมพูดก่อนจะปล่อยให้มันไปวิ่งเล่นในดงเมล็ดพันธุ์พืชของมันแทน

"พี่อยากกินอันไหนเป็นพิเศษมั้ยครับ ไม่อยากจะอวดแต่ผมนี่ปลูกโคตรเก่งอ่ะ" มันพูดพร้อมกับหอบเมล็ดพืชมากกว่าสิบถุงมาโยนใส่ในรถ

"กูกินหมดอ่ะ กูเลี้ยงง่าย" ผมตอบก่อนจะยิ้มขำๆ เมื่อมันเดินกลับไปยังชั้นวางถุงเมล็ดพืชแล้วโกยมาอีกสิบถุงใหญ่

"สบายมาก เดี๋ยวผมคนนี้จะเลี้ยงพี่เอง" มันหันมายักคิ้วให้ก่อนจะเดินนำไปโซนถัดไป

…อยากเลี้ยงกูหรอ ก็ลองดู!





"เดี๋ยวๆ มึงไว้ทุกข์ใครหรอครับ" ผมถามพลางกระชากรถเข็นหนีเมื่อมันยังไม่หยุดโยนทุกสรรพสิ่งที่เป็นสีดำลงรถเข็นตรงบริเวณโซนของใช้จิปาถะ

"เอ้า" มันสบถก่อนจะจ้องผมตาโตก่อนจะหรี่ตามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า

…แน่นอนครับ ร่างกายผมมีแต่สีดำ

"ของกูเนี่เรียกสไตล์ครับ ส่วนของมึงนี่เกินไป" ผมพูดก่อนจะเขี่ยๆ ดูของในรถเข็นที่มีทั้งผ้าขนหนูผืนเล็ก ผืนใหญ่ ผ้าเช็ดมือ ถ้วย แก้ว จาน ชามรวมไปถึงเสื้อกล้าม บอกเซอร์ มีแม้แต่...กางเกงใน

…ซึ่งทั้งหมดนั่นเป็น สีดำ!

"เป็นเชี่ยไรของมึงเนี่ย อยู่ใกล้กูมากไปรึไง"

"ของผมที่ไหน ของพี่ทั้งนั้นอ่ะ"

"ของกู?"

"ก็พี่ขี้บ่นอ่ะ มาห้องผมทีก็จะเอาแต่สีดำๆ เนี่ยดำพอป่ะ อยากใช้อะไรอีกก็หยิบๆ มา" มันพูดอย่างรำคาญก่อนจะเดินไปหยุดหน้าไม้แขวนเสื้อแล้วหยิบอันที่เป็นสีดำใส่ลงมาอีก

"ประชดกูป่ะเนี่ย" ผมหรี่ตามองอย่างหมั่นไส้ก่อนจะเก็บพวกถ้วยโถโอชามกลับไป รวมถึงเครื่องแต่งกายภายในเหล่านั้นด้วย

"คืนไปหมดแล้วพี่จะใส่อะไรล่ะ"

"เดี๋ยวขากลับกูแวะเอาที่หอให้"

"ห๊ะ?"

"เอ้า ก็อยากได้ไปไว้นักก็เอาของกูไปเลยไง ของกู สไตล์กู จะได้ไม่บ่นกันทั้งมึงทั้งกูอ่ะ" มันพยักหน้าเข้าใจก่อนหยิบอะไรบางอย่างส่งให้

"ต้องการมั้ย?"

...มันคือถุงสำหรับอ้วก

...สีดำ

"กวน-ตีน!"












ออฟไลน์ panitanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
พวกเค้าคือคนจีบกันใช่ไหมคะ5555555

ออฟไลน์ zzzzzz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เอ๊ะ แอ้วกันอยุหรืออะไร หรือยังไง งงไปหมด5555555555555555 เริ่มคืบคลานเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของกันและกันแบบงงๆ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พี่กัลย์ น้องปืน  :mew1: :mew1: :mew1:
พี่กัลย์ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตน้องปืน ไปและ
ที่ปืน พยายามหาเสื้อผ้า ของใช้สไตล์พี่กัลย์เข้าห้อง
นี่ก็ทำให้แปลกๆ แล้วนะ :hao3:
แค่รำคาญ หรือเริ่มตามใจพี่กัลย์ กันแน่ :katai1: :katai1: :katai1:
แต่เริ่มถามเรื่องผักเพื่อปลูกให้กินนี่   
ปืน เริ่มรู้สึกอะไรกับพี่กัลย์ เข้าแล้วหรือเปล่า
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
อารมณ์ผัวเมียซื้อของเข้าบ้าน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด