[yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥  (อ่าน 201664 ครั้ง)

ออฟไลน์ bluerose

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
งืออออออ ในที่สุดดดดด

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
คนเขียนขา เห็นใจคนอ่านหน่อยสิคะ. มาต่ออีกนิด.   :ling1:

ปืนเก๊กไว้ก่อนนะ อย่าพึ่งหลุด.  อยากอ่านพี่กันย์ง้อน้องปืน รอฉากฟิน :hao3:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
รักเขามากกว่าก้อแบบนี้แหละ  แค่เห็นคำว่าขอโทษบนซองยาก้อระทวยแล้ว
พี่กันย์นี่น้อ ต้องรอคนกระตุ้น สองสาวรบกวนมาไซโคอีกค่ะ ก็พี่กันย์มันเยอะ
ตอนปัดมือนี่กระตุกจี้ดได้อีก
 :pig4: 

ออฟไลน์ andaseen

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 742
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-1

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
ดีใจจัง กันย์รู้ตัว ยอมรับซะที

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
หึหึ    รอดูพี่ง้อน้อง

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
รุ่นพี่ ที่ไม่ฟังเหตุผล
เอาแต่ความต้องการของตัวเองนี่แย่ มากกกก......
บังคับให้น้องกินเหล้าด้วยตลอด
ถ้าไม่กินก็ขาดกัน ตัดพี่ตัดน้อง อะไรจะขนาดนั้น
น่าจะดูเป็นเรื่องๆไป น้องไม่สบายก็ไม่ฟัง :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
น้องกินอย่างอื่นแทนเหล้าก็น่าจะได้ งงงงงงงงง
ปืน คงได้ฟังทั้งหมดไปและ ถึงยิ้มเจ้าเล่ห์
พี่กันย์ จะไปง้อปืน ยังไงนะ :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-12-2016 21:49:45 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ semen

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 :-[ :-[ :o8: :o8: รีบๆมาต่อนะคับผม

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
มันต้อิย่างนี้ซิพี่กันต์
ชอบก็ยอมรับว่าชอบ

 :กอด1: :กอด1:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
ปืนมันร้าย มีแผนตลอด สนุกค่า รอตอนต่อไปนะคะ :hao7:

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
ให้พี่กันต์ง้อก่อนนะ  :hao7:

ออฟไลน์ zenzaii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
25-...ก็ถ้าพี่มาง้อ ผมก็รออยู่ตรงนี้ไงครับ (1)
(เนื้อหาเหมือนเดิมค่ะ ใครอ่านแล้วข้ามไป 26 ได้เลยน้า)

“กูชอบมัน”

...คำตอบง่ายๆ แต่ไม่ได้ทำให้ชีวิตผมง่ายขึ้นสักนิด เพราะอะไรล่ะครับ ก็เพราะไอ้ปืนมันยังโกรธ ยังงอน ยังน้อยใจ หรือยังอะไรก็แล้วแต่ของมันอยู่น่ะสิ ซึ่งวันนี้ก็ปาเข้าไปเป็นวันที่สี่แล้วที่ไอ้ปืนมันไม่เข้ามายุ่ง …กับผม แถมมันออกจะทำตัวเกินกว่าปกติและอารมณ์ดีมากเป็นพิเศษกับทุกคนบนโลก …ยกเว้นผม

"แค่นี้พอรึเปล่าครับ?" เสียงของไอ้คนที่ผมกำลังจะเป็นบ้าเพราะมันดังขึ้นมาจนทำให้ผมหันไปมอง ไอ้ปืนเดินยกถังปูนที่เต็มไปด้วยเนื้อปูนที่ผสมแล้วขึ้นมาตามขั้นบันไดก่อนจะวางลงตรงลานหน้าห้องสมุดที่พวกก่อ 1 กำลังช่วยกันเทพื้นแล้วเดินกลับลงไปตามเสียงเรียกของน้องในคณะผมคนหนึ่งที่บอกให้ไปเอาวัสดุที่ใกล้จะหมดมาเพิ่ม

"ทำมาเป็นแอบมอง" ไอ้ปูนที่แอบมานั่งอู้อยู่ตรงฝ่ายสวนทักขึ้นก่อนจะเบะปากมาให้แล้วทำหน้าล้อเลียนจนผมได้แต่ปรายตาไปมองมันอย่างเซ็งๆ

"กูไม่ได้แอบ กูมองมันตรงๆ เลยเนี่ย แมร่ง! ไม่สนใจกู" ผมพูดเองก็แทบกระอักน้ำลายตัวเองก่อนจะตอกตะปูลงบนไม้หน้าสามตรงหน้าแรงๆ เพื่อระบายอารมณ์แล้วเหลือบมองไปยังคนที่เดินกลับขึ้นมาอีกรอบพร้อมถังน้ำในมือ

"อย่าใช้สายตาแบบนั้นกับน้องค่ะ เดี๋ยวมันละลาย"

"ช่างหัวมันดิ! กูกะจะมองให้มันระเหยไปเลยเนี่ย หมั่นไส้โว้ยย!”

“ใจเย็น” ไอ้ปูนพูดออกมาก่อนจะหลบลงบนไหล่ผมเบาๆ แล้วส่งตะปูในถังมาให้

“มึงว่ากูเข้าไปแบบตัวตัวเลยดีเปล่าวะ เห็นมันเดินไปเดินมาแบบนี้แล้วกูหงุดหงิดว่ะ" ผมบอกไอ้ปูนก่อนจะหันไปมองหน้าไอ้ปืนตรงๆ  อีกครั้งจนมันหันมาสบตาเข้ากับผมพอดีแต่ไม่ได้พูดอะไรก่อนจะเดินกลับลงไปอีกรอบ

"อ้าว มึงยังไม่ได้ง้อน้องมันเหรอ?" ไอ้ปูนถามก่อนจะจับหน้าผมให้หันไปสนใจมันอย่างงงๆ

"ง้อแล้ว" ผมยืนยัน

"ยังไง?"

"กูยิ้มให้"

"ตลกละ นั่นเรียกว่าง้อ?" ไอ้ปูนทำสีหน้าเหมือนจะร้องไห้แล้วเปลี่ยนเป็นมองผมด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าระอาสุดๆ

"เออดิ ก็ถ้ามันยิ้มตอบ กูก็จะถือโอกาสเดินเข้าไปขอโทษมันไง" ผมบอกในสิ่งที่ผมตั้งใจไว้ออกไปจนไอ้ปูนต้องถามออกมาด้วยความสงสัย

"แล้วทำไมต้องรอ? ก็เดินไปหาแล้วขอโทษมันไปเลยดิวะ"

“หน้ากูมันยังไม่อยากจะมอง ถ้าขืนเข้าไปแล้วมันเดินหนีกูจะทำยังไงวะ?"

"เอ้า! ก็ไม่ทำไมไง น้องมันงอนมึงอยู่ มึงก็ต้องง้อไงคะเพื่อน" ไอ้ปูนพูดออกมาเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ แบบที่เด็กอนุบาลโกรธกันก็ทำได้อย่างไม่เข้าใจ

"ไม่ได้ว่ะ" ผมบอกมันก่อนจะมองไปยังคนที่ยังคงเดินขึ้นเดินลงระหว่างไซต์ก่อสร้างของห้องสมุดกับลานกว้างที่เป็นที่วางอุปกรณ์ก่อสร้างอยู่ ...โดยที่ไม่ได้สนใจผมสักนิด

"อะไรไม่ได้?"

"กูนี่แหละจะทนไม่ได้” คำพูดของผมทำเอาไอ้ปูนชะงักก่อนจะหันมามองหน้าผมตาโต

“ตอนนี้มันไม่สนใจกูก็เรื่องหนึ่ง แต่ถ้าต้องให้กูเข้าหาแล้วมันจะไม่สนใจกูชัดเจนขนาดนั้น …กูว่ากูทนไม่ได้ว่ะ" ผมถอนหายใจออกมาอีกรอบก่อนไอ้ปูนจะยื่นมือมาตบไหล่ผมอย่างให้กำลังใจ

...การที่คนเคยรู้จักแล้วมาทำเป็นไม่รู้จักผมก็ว่า 'เจ็บ' แล้ว
...การที่คนเคยสนิทมาทำเป็นเมินใส่ผมว่า 'เจ็บ' ยิ่งกว่า
...แต่การที่โดนคนเคยบอกว่า 'ชอบ' มาเดินหนีไปในตอนที่เราเพิ่งรู้ใจตัวเองนี่ ผมว่า...

"ไอ้กันย์ดูตรงหน้ามึงด้วย ไอ้เชี่ยเอ้ยย มือ!" เสียงของไอ้โฟมดังขึ้นแต่ไม่ทันแล้วครับเพราะแทนที่ค้อนในมือผมจะตอกลงบนหัวตะปูแต่มันกลับมาลงบนนิ้วของผมแทน

"โอ้ย!"

"บอกแล้วให้ระวัง ไหนดูดิ" ไอ้โฟมวิ่งเข้ามาหาพร้อมกับไอ้ปูนที่ดึงมือผมไปดูอย่างตกใจ ผมก้มมองนิ้วโป้งตัวเองที่ตอนนี้เริ่มมีรอยแดงๆ ขึ้นมาเล็กน้อยแต่ไม่ได้เจ็บอะไรมากก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจพลางเงยหน้าขึ้นไปสบตาคนที่ยืนอยู่ข้างหลังพอดี

"เอ่อ พี่โฟมครับ พี่ซันบอกว่าถ้าตรงนี้เสร็จแล้วรบกวนไปช่วยเทพื้นตรงลานด้านหน้าหน่อยนะครับ" ไอ้ปืนพูดเสร็จก็ปรายตามามองผมแว่บหนึ่งแล้วเดินจากไปโดยไม่พูดไม่จาอะไรกับผมสักคำ ...หรือผมต้องลองโดนให้ครบทั้งสิบนิ้วมั้ยครับ? มันถึงจะยอมสนใจผมบ้าง

"เฮ้ย เจ็บมากเหรอวะ?" เสียงไอ้โฟมที่ดังขึ้นทำให้ผมดึงสติกลับมาก่อนจะหันไปมองหน้ามันก่อนจะส่ายหัวอย่างงงๆ

"ก็ไม่นี่"

"เหรอวะ ก็เห็นตาแดงๆ นึกว่าเจ็บมากซะอีก" คำพูดของมันทำให้ผมชะงักไปนิดหนึ่งก่อนจะสัมผัสได้ถึงความร้อนผ่าวบริเวณขอบตาก่อนจะตั้งสมาธิเพื่อกลับไปทำงานต่อ แต่สุดท้ายก็ได้แต่ลอบถอนหายใจออกมาเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ของวัน

...มึงแมร่งอ่อนว่ะ ไอ้กันย์





หลังจากที่งานฝ่ายสวนของวันนี้เสร็จ พวกไอ้โฟมก็ยกโขยงกันไปช่วยพวกไอ้ซันเทพื้นที่เหลือก่อนจะไล่ผมให้ลงมาล้างหน้าล้างตาเพื่อเรียกวิญญาณกลับเข้าร่างที่ดูห่อเหี่ยวให้สดชื่นขึ้นมา  ไหนๆ ก็ไม่มีอารมณ์ทำงานอยู่แล้ว ผมเลยไม่ขัดศรัทธาด้วยการลงมาหากาแฟกินที่โรงอาหารเผื่อกลิ่นกาแฟมันจะช่วยเยียวยาหัวใจผมให้สดชื่นขึ้นมาได้อย่างที่ไอ้โฟมมันต้องการ

"พี่ปูนครับ ผมขอน้ำสักแก้วสิครับ" เสียงของคนที่เข้ามาใหม่ทำให้ผมหันไปมองก่อนจะเจอเข้ากับไอ้ปืนที่ยืนมองผมด้วยสายตาไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ

"รอเดี๋ยวนะ" ผมตอบมันอย่างพยายามที่จะไม่ทำให้บรรยากาศของโรงอาหารอึดอัดเกินไปนักก่อนจะหยุดมือที่กำลังจะเทผงกาแฟสำเร็จรูปลงในแก้วน้ำร้อนของตัวเองแล้วเทน้ำออกครึ่งหนึ่งจากนั้นจึงผสมน้ำที่อุณหภูมิปกติเข้าไปแทนแล้วเดินเอาไปให้มัน

"พอดีไอ้ปูนไม่อยู่ เอานี่ไปก่อนแล้วกัน" ผมบอกมันอย่างแอบคาดหวังว่ามันคงจะไม่ใจร้ายเกินไปจนปฏิเสธน้ำใจของผมที่ยื่นไปให้ มันมองมาที่ผมเล็กน้อยก่อนจะรับแก้วไปแต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดคำขอโทษอย่างที่ตั้งใจไว้ ไอ้คนตรงหน้าก็เดินไปที่อ่างล้างจานก่อนจะเทน้ำในแก้วออกแล้วเติมน้ำจากขวดน้ำดื่มเข้าไปแทน

"ขอบคุณครับ แต่ผมอยากกินน้ำธรรมดามากกว่า" ไอ้ปืนพูดขึ้นลอยๆ โดยไม่ได้หันมองหน้าผมก่อนจะแกะยาแก้อักเสบออกจากแผงซึ่งเป็นคนละอันกับที่ผมฝากไอ้ปูนเอาไปให้แล้วกินน้ำตามจากนั้นก็เดินออกไป

ผมมองแก้วเปล่าที่ไอ้ปืนทิ้งไว้ด้วยความรู้สึกแปลกๆ ก่อนจะเก็บไปล้างแล้วตัดสินใจเดินกลับไปที่ศูนย์ฯ (ซึ่งผมใช้นอนแทนเต็นท์ของไอ้ปืนมาหลายคืน) แทนที่จะเป็นหน้าไซต์ที่ผมพยายามถ่อไปทุกวันถึงแม้บางวันฝ่ายสวนจะไม่มีงานก็ตาม …ก็ใครมันใช้ให้ไอ้ปืนดันจับฉลากได้ฝ่ายก่อแทบทุกวี่ทุกวันกันล่ะครับ





'ไม่เคยจะทำอะไรแบบนี้มาก่อน เพราะไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน แต่เพราะเธอ แต่เพราะเธอ ฉันจึงยอม...'

...พวกมึงแมร่งจะเล่นเพลงเศร้ากันไปไหนวะเนี่ย ผมคิดก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่ายจนอยากจะหนีกลับศูนย์ฯ เต็มที

"เอาหน่อยมั้ยเอ็ง?" ลุงชาวบ้านคนเดิมที่ยังแวะเวียนมาไม่ขาดโดยเฉพาะวันที่ค่ายมีกิจกรรมรอบกองไฟ และไม่ลืมที่จะพกเหล้าต้มสูตรโคตรพิเศษของลุงแกติดไม้ติดมือมาด้วยก่อนจะรินใส่แก้วแล้วยื่นมาให้ผม

"ไม่ล่ะครับ ขอบคุณ" ไม่รู้ทำไมแต่แค่เห็นน้ำใสๆ ในแก้วตรงหน้าผมก็ไม่มีอารมณ์แม้แต่จะหยิบมันขึ้นมาแล้วล่ะครับ ผมจึงได้แต่หันไปยิ้มขอบคุณให้พอเป็นพิธีแล้วเลือกที่จะเดินเลี่ยงออกมาแทน

"ปืนกินเหล้ารึเปล่า?" ชื่อของคนที่เวียนเข้าเวียนออกในหัวผมบ่อยเหลือเกินในช่วงนี้ดังขึ้นมาอีกแล้วจนผมต้องเงยหน้าไปมอง ไอ้ปืนเดินมากับเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักและเป็นคนรุ่นเดียวกับมัน …ที่ไม่ใช่ผม

"ก็กินได้นะ แต่ปกติไม่ค่อยกินหรอก พายล่ะกินรึเปล่า?" เสียงสนทนาที่ดูสดใสและเป็นธรรมชาติยังดังขึ้นมาโดยไม่มีทีท่าว่าคนพูดจะสังเกตเห็นผมเลยสักนิด ผมมองไปยังคนตรงหน้าที่ยังไม่รู้ตัวก่อนจะคาดคะเนระยะห่างด้วยสายตา ...แค่สิบก้าว ไกลกันขนาดนั้นเชียว?

"ก็นิดหนึ่งอ่ะ เห็นเพื่อนสนุกก็เลยนึกสนุกตามไปด้วย” เด็กปีหนึ่งที่ผมเพิ่งรู้ตอนนี้เองว่าชื่อ ‘พาย’ พูดขึ้นก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ

"เสพบรรยากาศสินะ สมกับเป็นเด็ก'ถาปัตย์จริงๆ"

"ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกน่า ว่าแต่ปืนเคยกินเหล้าต้มรึยัง? ลุงชาวบ้านแกเอามาให้ แรงอยู่แต่เด็ดเลยนะ" คำพูดของคู่สนทนาทำให้ไอ้ปืนชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะยิ้มบางๆ ไปให้ก่อนจะหันกลับมาแล้วสบตาเข้ากับผมที่ยืนอยู่ตรงหน้ามันพอดีจนผมอดที่จะยิ้มมุมปากออกมาไม่ได้ ...ก้าวเดียว ต้องใกล้ขนาดนี้ใช่มั้ยวะถึงจะเห็น?

"แต่เราว่าลองหน่อยก็ดีนะ ไหนๆ ก็มาแล้ว" ไอ้ปืนละสายตาแล้วหันไปบอกคนข้างๆ อีกครั้งก่อนทั้งคู่จะหันกลับมาที่ผมเพราะน้องพายทักขึ้นมา

"อ้าวพี่กันย์ จะไปนอนแล้วเหรอคะ?" น้องพายถามออกมาเมื่อเห็นผมเดินมาในทิศทางตรงกันข้ามกับวงรอบกองไฟ

"อืม พอดีปวดหัวนิดหน่อยน่ะ"

"จริงสิคะ พี่กันย์เพิ่งหายไข้นี่นา อากาศยิ่งหนาวๆ อยู่ด้วยนะคะคืนนี้" ผมยิ้มรับในความเป็นห่วงใยก่อนจะเอ่ยลาแล้วเดินเลี่ยงไปอีกทาง

"หนาวเหรอครับ เอ่อ พายเอาเสื้อเรามั้ย?” เสียงที่เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่ผมไม่ได้ยินมาหลายวันทำให้ผมอดที่จะหันกลับไปมองไม่ได้

ภาพที่ไอ้ปืนกำลังถอดเสื้อกันหนาวของตัวเองออกมาแล้วส่งให้กับน้องปีหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆ ทำให้ผมสัมผัสได้ถึงความร้อนผ่าวของขอบตาตัวเองอีกครั้ง เพียงแต่คราวนี้ตาของผมเริ่มพล่ามัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

…นอกจากจะร้ายแล้ว ยังใจร้ายมากด้วยนะ ไอ้เชี่ยปืน!





ผมเดินหลบเข้ามาในห้องเปิดใจแทนที่จะกลับไปนอนอย่างที่คิดไว้ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะตัวหนึ่งที่มีซองสีน้ำตาลแปะอยู่แล้วถูกเขียนที่หน้าซองด้วยตัวอักษรโตๆ ด้วยปากกาเมจิกสีน้ำเงินว่า 'ปืน ปีหนึ่ง(เกษตร)'

ห้องแห่งความลับคือกิจกรรมหนึ่งของค่ายอาสาที่จะทำให้ชาวค่ายได้พูดคุยและสร้างมิตรภาพระหว่างกันอีกทางหนึ่ง ซึ่งจริงๆ แล้วห้องนี้คือห้องเรียนเล็กๆ ที่อยู่ข้างๆ ส่วนที่ถูกกันเป็นห้องพักสำหรับผู้ชาย โดยเอาโต๊ะนักเรียนมาต่อๆ กันไปรอบห้องเท่าจำนวนของคนที่มาค่าย จากนั้นก็แปะซองเอกสารสีน้ำตาลเอาไว้พร้อมเขียนชื่อกำกับ ส่วนโต๊ะตัวแรกก็มีโพสต์อิทพร้อมปากกาสีหลายๆ ด้ามวางไว้สำหรับเขียนจดหมายถึงกันแล้วเอาไปใส่ไว้ในซองรอให้เจ้าของเขามาเปิด

...และดูเหมือนว่าเจ้าของซองที่ผมเอาจดหมายไปใส่ให้ตลอดสี่วันที่ผ่านจะไม่เคยมาเปิดมันออกดูเลยแม้แต่ครั้งเดียว

"เฮ้อออ" ผมถอนหายใจยาวๆ ออกมาอีกครั้งก่อนจะเดินไปที่โต๊ะตัวแรกเพื่อหยิบกระดาษใบหนึ่งขึ้นมาแล้วลงมือเขียนเหมือนทุกๆ วัน จากนั้นก็เอากระดาษยัดใส่ซองไว้ก่อนจะฟุบลงไปกับโต๊ะอย่างไม่รู้จะทำยังไงดี

'ขอโทษ'





เผลอแป๊บเดียว อีกสามวันกิจกรรมค่ายอาสาที่พวกเราเตรียมงานกันมาตลอดทั้งปีก็จะหมดลง ผมยืนมองอาคารที่อยู่บนเนินตรงหน้าที่ใกล้จะเสร็จเรียบร้อยเต็มที

...ความฝันของนักออกแบบนอกจากเราจะได้คิดในสิ่งที่คนอื่นไม่เคยคิดแล้ว ความฝันอีกอย่างก็คือการที่งานชิ้นนั้นสามารถออกมาเป็นรูปเป็นร่างได้จริงๆ

ผมมองอาคารตรงหน้าอย่างอดภูมิใจไม่ได้ถึงมันจะไม่ใช่งานที่ได้รับการออกแบบมาอย่างวิจิตรพิศดาร แต่มันเป็นงานที่เราทั้งหมดร่วมแรงร่วมใจกันทำมันขึ้นมาตั้งแต่หาทุนจนกระทั่งจัดหนังสือในชั้น และหวังว่าน้องๆ ที่ได้ใช้มันจะสามารถเติมเต็มตามความต้องการได้จริงๆ อย่างที่พวกผมตั้งใจ

"สุดยอดไปเลยว่ะ" ไอ้กัมป์ที่เดินมายืนข้างๆ พูดขึ้นพลางมองไปยังทิศทางเดียวกัน

"ดีใจด้วยนะครับ ไอ้ประธานค่าย" ผมพูดออกไปอย่างอดดีใจกับมันที่ดูจะพยายามหยักกว่าใครไม่ได้ก่อนเจ้าตัวจะหัวเราะขึ้นมาแล้วเอามือมาพาดคอผม

"นี่มันงานของทุกคนนะเว้ย มาดีใจด้วยกันดิวะ"

"เออ กูดีใจอยู่เนี่ย หรือมึงตาบอด?" ผมบอกมันก่อนจะหัวเราะขึ้นมาเบาๆ

"กูรู้ครับว่ามึงดีใจ แต่หน้ามึงนี่สุนัขไม่รับประทานสุดๆ อยากให้ผมขนกระจกในห้องน้ำมาให้มึงส่องมั้ย?" คำพูดของไอ้กัมป์ทำให้ผมหันไปมองหน้ามันก่อนจะพยายามยิ้มออกมาจนไอ้คนตรงหน้าได้แต่ยื่นมือมาวางบนหัวผมแล้วโยกเบาๆ

"ไอ้สัด กูปวดหัวโว้ยย" ผมโวยวายก่อนจะแกะมือมันออกอย่างรำคาญ

"ยิ้มได้แล้ว พวกไอ้ทีเป็นห่วงมึงกันหมดแล้วเนี่ย" คำพูดของมันทำเอาผมรู้สึกผิดขึ้นมานิดๆ ไม่ได้ก่อนจะหันไปมองพวกที่เพิ่งเอ่ยถึงไปหยกๆ เดินตามมาสบทบพอดี

"ได้เวลาลาดตระเวนแล้วครับเพื่อน" ไอ้ทีพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดีก่อนจะลากทั้งผมทั้งไอ้กัมป์ให้ไปด้วยกัน





"ดีนะที่กูเอากล้องติดมาด้วย" ไอ้โฟมพูดขึ้นมาในระหว่างที่พวกผมกำลังยืนอยู่บนยอดดอยซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดของดอยแห่งนี้ก่อนจะมองออกไปยังวิวป่าไม้ข้างล่างที่ทอดยาวออกไปผสมกับควันสีขาวๆ ของหมอกที่เริ่มมากขึ้นเพราะความหนาวที่เริ่มมาเยือนในช่วงใกล้สิ้นปี

วันนี้พวกเราทุกคนพร้อมใจกันหยุดกิจกรรมทุกอย่างในช่วงบ่ายเพราะแทบไม่เหลืองานให้ทำแล้วก่อนจะพาพี่ๆ น้องๆ ออกมาทัศนศึกษาหรือพูดง่ายๆ ว่า ‘มาเที่ยว’ รอบๆ หมู่บ้านนั่นเอง

"ถ่ายรูปกันหน่อยครับผม" ไอ้กัมป์ตะโกนบอกทุกคนก่อนไอ้โฟมจะเดินไปตั้งกล้อง DSLR ตัวเก่งของมันบนขาตั้งตรงถนนแล้วให้ทุกคนหันหลังให้วิวเพื่อเป็น Background ก่อนทุกคนจะยิ้มออกมาตามจังหวะที่มันให้เพื่อเก็บไว้เป็นรูปที่ระลึกที่คงจะนึกถึงไปอีกนาน

หนึ่ง สอง สาม แชะ!

ผมเดินตามเจ้าของกล้องไปก่อนจะดูภาพที่มันเปิดให้ดู ผมไล่มองหน้าทุกคนก่อนจะไปหยุดที่คนๆ หนึ่งที่มีสีหน้าที่ยิ้มแย้มจนผมอดที่จะยิ้มบางๆ ตามมันไม่ได้ ...อย่างน้อยมันก็มีความสุขกับกิจกรรมที่ผมชวนมา

"ไปนั่งเล่นตรงนั้นกัน" ไอ้ปูนที่เพิ่งเดินเข้ามาชวนก่อนจะลากผมให้ไปตรงบริเวณลานหินที่มีขนาดไม่ใหญ่และมีแท่นหินเรียบๆ วางอยู่สองสามก้อนก่อนจะนั่งลงไป

"ยังไม่ได้คุยกันอีกเหรอวะ?"

"ยังว่ะ มันคงโกรธกูหนักจริงๆ แหละงานนี้" ผมบอกก่อนจะพยายามฝืนยิ้มออกมาแต่ก็รู้ว่าทำได้ไม่ดีนักก่อนจะฟุบหน้าลงไปกับเข่าตัวเองแล้วถอนหายใจออกมา

"เอาน่า เดี๋ยวน้องมันก็ดีเองแหละ อย่าคิดมากๆ ให้เวลามันหน่อย" ไอ้ปูนพูดขึ้นก่อนผมจะสัมผัสได้ถึงแรงตบเบาๆ ที่หลัง จากนั้นก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่เสียบเข้ามาที่หูของผมจนผมต้องเงยหน้ามองเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆ อย่างสงสัย

"อะไรวะ?" ผมถามมันก่อนจะหยิบสิ่งแปลกปลอมออกมาดู มันคือหูฟังสีขาวที่น่าจะเชื่อมไปกับโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อหนาวของไอ้ปูน ผมมองมันที่ส่งยิ้มแปลกๆ มาให้ผมอีกครั้งก่อนจะมองหูฟังสีขาวในมือ ...อย่าคิดเข้าข้างตัวเองหน่อยเลย หูฟังยี่ห้อนี้มันก็เป็นแบบนี้ทุกอันนั่นแหละ ผมคิดก่อนจะยัดหูฟังกลับไปเข้าไปในหูแล้วหันไปยิ้มให้มันอย่างขอบคุณก่อนจะฟุบหน้าเข้ากับเข่าอีกครั้ง

'แต่ต้องเก็บต่อไปอีกนานแค่ไหน รักที่เอ่อล้นใจ รักที่มีให้เธอมากมาย สุดท้ายไม่มีค่าใด
จะทำให้เธอเห็นใจจะทำให้เธอสนใจ เพราะรักที่มีมันเกินเอ่ยไป เกินกว่าคำอธิบายใดๆ จะเท่าเทียม'


"ไอ้กันย์ เฮ้ย! ไอ้กันย์" แรงเขย่าจากคนข้างๆ ทำให้ผมสะดุ้งขึ้นมาอย่างตกใจก่อนจะหันไปมองอย่างงงๆ

"อะไร?"

"กูเรียกตั้งนาน มึงนี่มัน.. เดี๋ยวนะ มึงร้องไห้เหรอ?" ไอ้ปูนถามขึ้นอย่างตกใจก่อนจะเอาสองมือมาจับหน้าผมไหวแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ จนผมต้องเอามือขึ้นมาจับหน้าตัวเอง ...ทำไมมันเปียกวะ?

"ไม่ได้ร้อง ฟืดดด.. สักหน่อย" ...แล้วทำไมเสียงผมแมร่งแหบอย่างนี้เนี่ย ผมสังเกตตัวเองอย่างตกใจก่อนจะหันไปมองไอ้ปูนที่กำลังมองผมด้วยสีหน้าอึ้งอย่างสุดๆ

"ไอ้เชี่ยกันย์!" มันสบถออกมาก่อนจะยื่นมือมาขยี้หัวผมพลางมองมาอย่างตื่นเต้น …ไอ้ห่า คนกำลังเศร้า

“กูไม่ได้ร้อง ฟืดดด.. กูเป็นหวัด" ผมบอกมันก่อนจะพยายามหลบจากฝ่ามือมันก่อนจะเจอสายตาของไอ้ปูนที่มองมาอย่างกึ่งสงสารกึ่งหัวเราะเยาะ

"เออ เป็นหวัดก็ได้ แต่น้ำมูกบ้านกูไม่ได้ไหลออกทางตานะบอกเลย"





"ไอ้ปูน ไอ้กันย์ถ่ายรูปกัน" ไอ้ทีเดินมาเรียกพวกผมที่นั่งอยู่ก่อนจะยื่นกล้องโพราลอยด์ของมันให้ไอ้เป้ช่วยถ่ายรูปให้

"ปืนถ่ายรูปกัน" เสียงเรียกชื่อไอ้ปืนที่ดังอยู่ใกล้ๆ ทำให้ไอ้ปูนที่ยืนอยู่ข้างๆ หันมามองผมที่เริ่มจะประสาทเสียเพราะชื่อไอ้ปืนอย่างขำๆ ก่อนจะหันไปมองคนที่เดินไปตามเสียงเรียก

"กล้องไหนดี" ไอ้ปืนพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดีก่อนจะชี้ไปที่ทั้งกล้องโทรศัพท์ กล้องโพราลอยด์และกล้อง DSLR ที่ถูกรุ่นน้องร่วมคณะผมยกขึ้นมาเพื่อจะถ่ายรูปคู่มันกับน้องพาย

"สักกล้องเหอะน่า" น้องพายที่ยืนอยู่ข้างมันพูดขึ้นมาก่อนจะหัวเราะ แล้วยิ้มให้กล้อง

"ฮอตสุดๆ" ไอ้ปูนพูดขึ้นก่อนจะตบเข้าที่ไหล่ผมอย่างเห็นใจ

"เออดิ"

"ไม่เอาค่ะกันย์ ไม่หึงน้องนะคะ" มันบอกก่อนจะยิ้มล้อมาให้ผมอีกครั้งจนผมได้แต่หลบสายตามันอย่างเซ็งๆ ก่อนจะเหลือบไปมองคนที่เอาแต่ถ่ายรูปกับคนนั้นคนนี้อย่างอารมณ์ดี …ทีตอนไปทะเลผมจะถ่ายกับคนอื่นบ้างทำมาเป็นหวง หึ!

"เออไอ้ที" ผมตะโกนเรียกไอ้เพื่อนที่มันยังเที่ยวถ่ายกับคนนู้นคนนี้ไปทั่วก่อนจะเดินไปหา

"กูขอยืมกล้องหน่อยดิ" ผมบอกก่อนจะชี้ไปที่กล้องโพราลอยด์ในมือมันก่อนเจ้าของจะส่งมาให้ผมอย่างงงๆ

"อือ เอาไปดิ"

"ขอบใจเว้ย"





ผมยืนอยู่หน้าซองเอกสารสีน้ำตาลในห้องแห่งความลับอีกครั้งก่อนจะมองซองตรงหน้าที่เริ่มจะนูนขึ้นมาเพราะกระดาษที่อยู่ข้างในเริ่มเยอะมากขึ้นทุกที จากนั้นจึงเดินไปที่โต๊ะตัวแรกเพื่อที่จะหยิบกระดาษอย่างเช่นที่ทำทุกวันก่อนจะมองข้อความในมือที่เขียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า

...อีกสามวัน ไอ้เจ้าของซองนี้ก็คงจะเห็นสิ่งที่ผมพยายามจะบอกมัน ถ้ามันคิดจะเปิดอ่านอ่านะ

ผมคิดก่อนจะยิ้มปลอบใจตัวเองแล้วพับโพสต์อิทที่ผมเขียนให้มันก่อนจะใส่เข้าไป จากนั้นผมก็ล้วงบางสิ่งบางอย่างออกมาจากกระเป๋า

...มันคือรูปโพราลอยด์ที่ผมแอบถ่ายไอ้ปืนไว้ตอนที่อยู่บนยอดดอย

ผมหยิบปากกาเมจิกแบบกันน้ำออกมาก่อนจะเขียนลงไปบนรูปใบนั้นแล้วสอดมันตามเข้าไปในซองสีน้ำตาล


26.10.xx
ค่ายอาสา. กูขอโทษ








หลังจากที่พิจารณาด้วยประการทั้งปวง เปลี่ยนแค่ชื่อตอนเท่านั้นค่าา 555555
Re-write มันคืออะไรอย่าไปสนใจใครอ่านไปรอบหนึ่งแล้วก็ต่อตอนที่ 26 ได้เลย
ขอโทษน้าที่ทำให้ตอนมันปั่นป่วนปานกลางถึงมากที่สุด กราบขออภัยอย่างสูงเพราะความนัวของเราเอง TT
แต่อย่าเพิ่งทิ้งพี่กันย์กับน้องปืนไปไหนน้าา มาช่วยกันดันให้พี่น้องคู่นี้ไปถึงฝั่งฝันกันเถอะค่ะ

ขอบคุณทุกคนที่อยู่เป็นเพื่อนกันมาตลอดมาช่วยอ่าน ช่วยคอมเมนต์ ดีใจมากๆ
ปล.มีตอนพิเศษอันหนึ่งที่เขียนไว้ เราชอบมากเลย ช่วยอยู่ด้วยกันจนกว่าจะได้อ่านมันน้าาา

ขอบคุณมากนะคะ ^_________^

Zenzaii

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-12-2016 01:08:33 โดย zenzaii »

ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
ถ้าจะเมินขนาดนี้แล้วไปใส่ใจคนอื่น ขอให้พี่กันย์เลิกชอบอีปืนไปเถอะค่ะ

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
อ้าวปืนนน ไหนตอนนั้นเหมือนจะเข้าใจแล้วไงงงง เกิดอะไรขึ้นนนน

ออฟไลน์ Nattharikan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :hao5: :hao5: :hao5:
สงสารพี่กันย์นะปืน  อย่าเล่นแรงนักนะ :z6:
พี่กันย์ร้องไห้น่าเอ็ดดูมาก :z3: :z3:

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
อ้าววววว   อะไรยังไง   พี่กันก็นะ ไปขอโทษใส่ซอง ง้อในมุมลับ อิน้องปืนมันจะรู้ได้ไง

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
เกินไปละปืน. เล่นกับความรู้สึกแบบนี้มันหนักไป เมินได้แต่ไม่ใช่ควงคนอื่น

พี่กันย์ต้องมีศักดิ์ศรีแล้วนะ ก้อพี่มันเยอะต้องรักษาตัวตนไว้บ้าง เจ็บเกินไปละ

ง้อเขาแต่อย่าให้เราตกต่ำจนน่าสงสารขนาดนี้

เจ็บยังไง ต้องหยิ่ง ต้องเยอะไว้ ยืดไว้

พอละ ท่องไว้ เชิดหน้าแล้วเดินต่อไป

ปืนจะลองใจขนาดนี้ จะเอาคืนขนาดนี้ก้อปล่อยเถอะ

อินอ่ะ.

 :a5:  :z6:   :z6:  :z6:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ดูเหมือนเพื่อนพี่กันย์กับปืนจะรวมหัวกันแกล้งพี่กันย์นะ
แต่แกล้งกันแบบนี้เราไม่ขำด้วย แทบจะร้องไห้ตามพี่กันย์อยู่แล้ว เดี๋ยวก็เชียร์ให้พี่กันย์เลิกชอบซะเลยนี่
ยุทธการงอนไม่เลิกเลยงอนกลับ ทีนี้ใครต้องง้อกันแน่

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
ตอนแรกก็สงสารปืนนะ
แต่ตอนนี้ ขอเอาความสงสารนั่นคืนมาได้ป่าว

 :mew4: :mew4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เห็นด้วยกับหลายเม้น ตอนแรกก็เชียร์ให้ปืนเมินแต่ไม่ได้หมายถึงต้องประชดทำดีกับคนอื่นหรือไม่ใส่ใจขนาดนี้ เอาแค่พอดีสิ รู้อยู่ว่าพี่มันพยายามขอโทษแล้วก็น่าจะเข้าใจนิสัยแก อีกอย่างก็เป็นพี่ด้วย ลองใจ? มากไปหน่อยไหม ทำดีมาตั้งเยอะจะมาตกม้าตายตอนท้าย หรือว่าพอรู้ว่าเค้าชอบแล้วก็หยุด ดีไม่จริงนี่หว่า -_-#

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :mew2:   เออเว้ยยย สงสารพี่กันย์อ่า น้ำตาพี่จะไหล
น้องปืนมันร้ายจริงๆค่ะ ยอมรับเลย  :กอด1:   :L2: 
รอ Rewrite นะคะ เอาใจช่วยคนเขียนค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-12-2016 10:50:19 โดย ❣☾月亮☽❣ »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ปืน เล่นแรง เล่นนานนะ
แต่พี่กัลย์ ก็เยอะ สมควรให้รู้ต้วซักที
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
รอ re-write น้าาาา

ออฟไลน์ zenzaii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
26-…ก็ถ้าพี่มาง้อ ผมก็รออยู่ตรงนี้ไงครับ(2)

“กูชอบมัน”

...คำตอบง่ายๆ ที่หลุดออกมาจากคนปากหนักอย่างพี่กันย์ทำให้โลกของผมที่กำลังหดหู่อยู่สดใสขึ้นทันตาเห็นก่อนจะแอบมองไปยังคนที่นั่งอยู่บนเนินที่เอาแต่ทำท่าเหมือนจะเข้ามาแต่ก็ไม่เข้ามาสักทีอย่างอดยิ้มออกมาไม่ได้ ผมรู้ครับว่าพี่กันย์ต้องใช้ความพยายามมากขนาดไหนที่จะต่อสู้กับเหตุผลในหัวร้อยแปดเพื่อจะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาผมก่อน แต่ผมขอ ‘รอ’ อีกนิดได้มั้ยครับ ผมอยากรู้ว่าคนเยอะๆ อย่างพี่กันย์จะมีวิธี …ง้อคนที่ชอบยังไง?

“แค่นี้พอรึเปล่าครับ?” ผมจงใจถามขึ้นให้เสียงดังกว่าปกติในระหว่างที่หิ้วถังปูนขึ้นไปให้พวกพี่ซันที่อยู่ตรงไซต์บนเนินเพื่อเรียกร้องความสนใจจากคนที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาตอกไม้อยู่พอดีจนเจ้าตัวเหลือบมามองจนผมต้องเป็นฝ่ายหลบซะเอง

“ผสมอีกสักครึ่งถุงกูว่าก็น่าจะพอแล้วนะ” พี่ซันเอ่ยขึ้นมาจนผมต้องเดินเอาถังปูนไปยื่นให้เลยไม่ได้สนใจพี่กันย์อีกก่อนจะรีบเดินลงเนินไปตักน้ำมาให้พี่อีกคนที่กำลังฉาบพื้นไปพร้อมๆ กัน

"น้ำครับพี่” ผมยื่นถังน้ำให้พี่ที่นั่งฉาบอยู่ก่อนจะนั่งลงข้างๆ ในมุมที่มองเห็นพี่กันย์ที่กำลังทำหน้ายุ่งๆ อยู่พอดีก่อนจะถามพี่อีกคนไป

“พี่อยากได้อะไรอีกมั้ยครับ?”

“วันนี้ขยันแปลกๆ นะ มีอะไรเปล่าวะ?” พี่ขิงถามขึ้นอย่างสงสัยก่อนจะส่งสายตาแบบมีเลศนัยมาให้จนผมต้องรีบส่ายหัวแล้วยิ้มกลบเกลื่อนก่อนพี่เจที่วันนี้อยู่ฝ่ายครัวจะเดินหิ้วกระติกน้ำเย็นๆ ซึ่งเป็นอภินันทนาการจากฝ่ายครัวมาให้

“จะอะไรล่ะครับ ก็ทางขึ้นลงไซต์มันอยู่ตรงหน้าพวกฝ่ายสวนที่กำลังทำกระบะต้นไม้อยู่ไง” พี่เจพูดขึ้นจนพี่ขิงร้องอ๋อขึ้นอย่างไม่มีเสียงก่อนจะหันมามองผมอย่างหมั่นไส้

“งั้นกูขอเอาอะไรสักอย่างได้มั้ยครับ?”

“ได้สิครับพี่ ว่าแต่…พี่จะเอาอะไรดีครับผม?” ผมรับมุกแล้วลุกขึ้นยืนข้างพี่ขิงก่อนเจ้าตัวจะทำเป็นกระแอมแล้วพูดออกมา

“ถ้ากูขอ ‘เอากันย์’ มึงจะไปเอาให้กูได้มั้ยครับ?” คำพูดสองแง่สองง่ามทำให้พี่เจหัวเราะออกมาเป็นบ้าเป็นหลังก่อนจะตบลงที่ไหล่พี่ขิงอย่างชอบใจจนผมได้แกล้งหรี่ตามองอย่างไม่ไว้ใจแล้วถามต่อ

“ไอ้ให้ไปเอาน่ะได้ครับ แต่ผมเกรงว่าจะมาไม่ถึงพี่เนี่ยสิ ว้า” ผมเกรงทำหน้าลำบากใจจนพี่เจถึงกับระเบิดหัวเราะออกมาชุดใหญ่

“กูไม่เล่นกับมึงละ” พี่ขิงได้แต่เบะปากหมั่นไส้จะเดินกับไปทำงานต่อปล่อยให้ผมกับพี่เจหันมามองหน้ากันก่อนจะส่ายหัวอย่างระอาๆ

“ไอ้กันย์ดูตรงหน้ามึงด้วย ไอ้เชี่ยเอ้ยย มือ!" เสียงพี่โฟมที่ตะโกนแทรกเสียงหัวเราะขึ้นมาทำให้ผมหันไปมองเจ้าของชื่ออย่างตกใจก่อนจะรีบวิ่งไปเลยไม่ได้ยินคำพูดที่พี่เจที่แซวตามมา

“ไอ้เชี่ยปืนแมร่งก็ไวไป”





"โอ้ย!"

"บอกแล้วให้ระวัง ไหนดูดิ" พี่โฟมกับพี่ปูนที่รีบเข้าไปดูเพื่อนตัวเองทำให้ผมต้องชะงักมือที่กำลังเอื้อมไปก่อนจะหลบมายืนดูอยู่ข้างหลังอย่างเป็นห่วงก่อนจะเจอสายตาของคนเจ็บที่หันมามองพอดี

"เอ่อ พี่โฟมครับ พี่ซันบอกว่าถ้าตรงนี้เสร็จแล้วรบกวนไปช่วยเทพื้นตรงลานด้านหน้าหน่อยนะครับ" เพราะสายตาที่คาดไม่ถึงที่อยู่ดีๆ ก็มองมาทำให้ผมที่ในหัวตอนนี้มีแต่เรื่องอุบัติเหตุของคนตรงหน้าถึงกับสติหลุดจนพูดอะไรไปเรื่อยก่อนจะรีบถอยออกมาตั้งหลัก

"เฮ้ย เจ็บมากเหรอวะ?" เสียงของพี่โฟมที่ดังขึ้นมาอีกครั้งทำให้ผมนึกขึ้นได้ก่อนจะเดินไปที่กระติกน้ำแข็งแล้วเอาผ้าเช็ดหน้าของตัวเองออกมารองน้ำแข็งที่ตักมาใส่ก่อนจะรวบๆ ชายผ้าแล้วเดินเข้าไปหาพี่ปูน

“ฝากหน่อยนะครับพี่” พี่ปูนที่หันมาตามแรงสะกิดยิ้มรับก่อนจะรับของในมือไปก่อนผมจะถอยออกมาด้วยความยากลำบากที่จะไม่เป็นคนเข้าไปดูแลคนตรงหน้าซะเอง

...ใจแข็งไว้ดิวะ ไอ้ปืน!





ผมแอบเดินตามคนเจ็บที่หลบมาโรงอาหารทันทีที่งานฝ่ายสวนเสร็จอย่างห่วงๆ ก่อนจะยืนรีรออยู่ข้างหน้าโรงอาหารเพราะไม่รู้ควรจะเข้าไปด้วยสถานการณ์ประมาณไหนดี เพราะ…

ข้อหนึ่ง ผมกำลังเล่นตัวเป็นคนที่รอให้พี่กันย์เป็นฝ่ายมาง้ออยู่ถึงแม้ตอนนี้ผมจะเป็นฝ่ายมาอ่อยเจ้าตัวถึงที่ก็ตาม
ข้อสอง ถ้าผมต้องกลายมาเป็นฝ่ายง้อก่อนเหมือนที่ผ่านๆ มา เดี๋ยวคนที่อยู่ในโรงอาหารจะได้ใจเกินไปถึงแม้จริงๆ แล้วผมจะยอมให้ตั้งแต่ได้ยินคำว่า ‘ชอบ’ ก็ตาม

“กูชอบมัน” …แล้วทำไมแค่คิดผมยังต้องเขินด้วยเนี่ย ชักจะอ่อนแอเกินไปแล้วไอ้ปืนเอ้ย

ผมมองพี่กันย์ที่อยู่คนเดียวในโรงอาหารก่อนจะเดินไปเดินมาระหว่างโต๊ะเพื่อหาอะไรบางอย่างก่อนจะนึกขึ้นได้แล้วรีบเดินกลับไปที่เต็นท์ ผมเดินเข้าไปรื้อตรงกองถุงนอนที่ตอนนี้มีแต่ผมคนเดียวที่ใช้อย่างรีบๆ ก่อนจะเจอแผงยาแก้อักเสบที่หล่นลงมาพร้อมกับถุงยาชนิดเดียวกันที่มีตัวหนังสือ ‘ขอโทษ’ อยู่ ผมหยิบขึ้นมามองอย่างอดยิ้มออกมาไม่ได้ …นี่คงเป็นการแสดงออกที่เป็นรูปธรรมมากที่สุดสำหรับคนเยอะๆ อย่างพี่กันย์ ผมคิดก่อนจะเก็บถุงยาแก้อักเสบถุงนั้นกลับเข้าไปในถุงพลาสติกก่อนจะปิดด้วยเทปไว้อย่างดีเพราะไม่อยากให้ตัวหนังสือที่เขียนด้วยปากกาเมจิกหลุดออกไปเร็วนัก ก่อนจะหยิบแผงยาที่ขอมาจากพี่ฝ่ายพยาบาลมาแทนแล้วเดินกลับไปยังโรงอาหาร

“พี่ปูนครับ ผมขอน้ำสักแก้วสิครับ” ผมหายใจเข้าออกเพื่อระงับความตื่นเต้นก่อนจะเรียกชื่อคนที่เห็นๆ อยู่แล้วว่าไม่ได้อยู่ในโรงอาหารก่อนคนที่ผมเล็งไว้จริงๆ จะหันมาแทน

“รอเดี๋ยวนะ”พี่กันย์ตอบเบาๆ ก่อนจะหันไปทำอะไรสักอย่างกับแก้วน้ำที่อยู่ตรงหน้าแล้วเดินเอามายื่นให้

"พอดีไอ้ปูนไม่อยู่ เอานี่ไปก่อนแล้วกัน" พี่กันย์ยื่นให้อยู่นานจนผมต้องละสายตาจากมือของคนตรงหน้าที่เห็นแล้วว่าไม่ได้มีเลือดคั่งหรือรอยแผลแต่อย่างใดก่อนจะสะดุ้งอย่างตกใจเพราะความร้อนของน้ำในแก้วที่คงมากเกินกว่าจะใช้กินยาได้ ผมเลยตัดสินใจเดินไปที่อ่างล้างจานก่อนจะเทน้ำออกแล้วผสมน้ำธรรมดาเพิ่มลงไปก่อนจะเหลือบไปเห็นสีหน้าของพี่กันย์จนผมเพิ่งรู้สึกตัวว่าอาจจะทำให้คนตรงหน้าเข้าใจผิดได้

"ขอบคุณครับ แต่ผมอยากกินน้ำธรรมดามากกว่า" ผมอธิบายเหตุผลที่เทน้ำในแก้วออกไปก่อนจะแกะยาออกมาจากแผงแล้วใส่เข้าปาก จากนั้นจึงรีบเดินออกมาจากโรงอาหารเพื่อหลบไปยังห้องน้ำข้างๆ ก่อนจะคายยาในปากออกมาเพราะยังไม่ใช่เวลาของมันก่อนจะคิดถึงคนที่ผมเพิ่งเดินออกมา

“จะคิดมาอะไรอีกมั้ยเนี่ย” ผมคิดอย่างเป็นกังวลเมื่อนึกถึงนิสัยของพี่กันย์ก่อนจะก้มลงมองยาเม็ดสีเขียวฟ้าในมือ

…ผมลงทุนขนาดนี้ รีบๆ มาง้อผมหน่อยนะครับพี่กันย์





'ไม่เคยจะทำอะไรแบบนี้มาก่อน เพราะไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน แต่เพราะเธอ แต่เพราะเธอ ฉันจึงยอม...'

ผมมองไปยังคนที่นั่งรวมอยู่กับวงรอบกองไฟตั้งแต่ค่ำ แต่ยังดีที่ดูเหมือนวันนี้เจ้าตัวจะไม่แตะเหล้าต้มที่ลุงชาวบ้านคนนั้นยื่นมาให้ก่อนพี่กันย์จะบอกปัดไปแล้วทำท่าจะลุกออกมาจนทำเอาผมที่นั่งมองอยู่จากหน้าเต็นท์ต้องลุกขึ้นตามโดยอัตโนมัติ แต่เหนือสิ่งอื่นใด …ผมหมดมุกแล้วครับ ถ้าพี่กันย์ยังไม่มาง้อภายในวันนี้ ผมจะ! …เป็นคนไปง้อเองก็ได้

ผมคิดอย่างเซ็งๆ ในความใจอ่อนของตัวเองพลางมองไปยังคนที่กำลังก้าวเดินมาอย่างช้าๆ ก่อนจะส่ายหัวอย่างทำอะไรไม่ได้ …ไม่มีเหตุผลอะไรต้องมานั่งทรมานเองในเมื่อ ‘ชอบ’ กัน

“อ้าว! ปืน” เสียงทักขึ้นมาทำให้เท้าของผมที่กำลังจะก้าวต้องชะงักก่อนจะหันไปมองเพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จักไม่นานเพราะอยู่กลุ่มเดียวกันหลายครั้งตอนทำกิจกรรมแล้วยิ้มให้กลับไป

“จะไปไหนเหรอ?” พายถามขึ้นอย่างเป็นมิตรก่อนจะชี้ไปยังทิศทางที่ผมกำลังจะเดินไปคือวงรอบกองไฟ ผมพยักหน้ารับอย่างไม่มั่นใจนัก …คือผมจะไปหาคนที่อยู่ตรงนั้น ถ้าอย่างนั้นก็คงใช่แหละครับ

"ปืนกินเหล้ารึเปล่า?" พายถามขึ้นมาเพื่อทำลายความเงียบในระหว่างที่ผมกำลังแอบมองคนที่เดินตรงมาไปด้วยอย่างเหม่อๆ ก่อนจะหันไปตอบแล้วถามกลับเพื่อไม่ให้เสียมารยาทมากนัก

"ก็กินได้นะ แต่ปกติไม่ค่อยกินหรอก พายล่ะกินรึเปล่า?"

"ก็นิดหนึ่งอ่ะ เห็นเพื่อนสนุกก็เลยนึกสนุกตามไปด้วย” พายตอบกลับมายิ้มๆ ก่อนผมจะพยักหน้าหน้าอย่างเข้าใจเมื่อนึกไปถึงใครบางคนที่ไม่ว่าเพื่อนจะส่งอะไรให้กินก็กินหมดอย่างขำๆ

"เสพบรรยากาศสินะ สมกับเป็นเด็ก'ถาปัตย์จริงๆ"

"ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกน่า ว่าแต่ปืนเคยกินเหล้าต้มรึยัง? ลุงชาวบ้านแกเอามาให้ แรงอยู่แต่เด็ดเลยนะ" คำพูดของพายที่ดังขึ้นพร้อมกับเงาของคนตรงหน้าที่ทอดลงมาพอดีทำให้ผมชะงักก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมอง …ในที่สุดก็เดินมาถึงจนได้สินะครับ

"แต่เราว่าลองหน่อยก็ดีนะ ไหนๆ ก็มาแล้ว" ผมตอบไปตามมารยาทก่อนจะหันไปมองคนข้างๆ ที่ดูเหมือนจะไม่ได้สังเกตว่าไม่ได้อยู่กันแค่สองคนอีกต่อไปก่อนจะหันกลับมามองหน้าพี่กันย์อีกครั้งพร้อมๆ กับพายที่ทักขึ้นมา

"อ้าวพี่กันย์ จะไปนอนแล้วเหรอคะ?"

"อืม พอดีปวดหัวนิดหน่อยน่ะ" คำตอบจากคนตรงหน้าทำให้ผมเผลอขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างสงสัยไม่ได้ …ไหนพี่ปูนบอกว่าหายแล้วนี่นา

"จริงสิคะ พี่กันย์เพิ่งหายไข้นี่นา อากาศยิ่งหนาวๆ อยู่ด้วยนะคะคืนนี้" ผมยิ้มรับคำของน้องคณะตัวเองก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกทางอย่างห่วงๆ

"หนาวเหรอครับ” ผมได้ยินเสียงตัวเองถามออกไปก่อนพี่กันย์จะหยุดแล้วหันมามองผมจากนั้นก็เลื่อนสายตาไปหาคนข้างๆ ที่ยืนยิ้มให้พร้อมทั้งพยักหน้ารับจนผมต้องจำใจถามต่อทั้งๆ ที่อยากจะถามอีกคนมากกว่า

“เอ่อ พายเอาเสื้อเรามั้ย?” พายยิ้มกว้างจนผมต้องถอดเสื้อหนาวแล้วส่งไปให้ก่อนจะมองไปยังพี่กันย์ที่หมุนตัวเดินไปอีกทาง

“ไม่ไปรอบกองไฟแล้วเหรอ” พายถามขึ้นในขณะที่ผมกำลังจะเดินย้อนกลับไปยังทางที่มาก่อนจะหันไปส่ายหน้าให้

“ก็ไม่ได้จะไปตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”





“เห็นพี่กันย์มั้ยครับ?” ผมถามหาพี่กันย์จากพี่ปีสี่คนหนึ่งที่เดินสวนมาก่อนคนถูกถามจะส่ายหน้าแล้วเดินจากไป ผมหันไปมองรอบๆ ก่อนจะเห็นร่างคุ้นๆ ของคนที่ผมตามหาอยู่เดินออกมาจากห้องๆ หนึ่งใกล้ๆ กับโซนที่พักของผู้ชายก่อนจะเดินกลับไปที่ศูนย์ ตอนแรกผมทำท่าจะเดินตามไปแต่เพราะด้วยความสงสัยผมจึงเดินย้อนกลับไปยังห้องที่พี่กันย์เพิ่งเดินออกมา

ผมมองป้าย ‘ห้องแห่งความลับ’ ที่แปะอยู่บนประตูอย่างสงสัยก่อนจะเปิดเข้าไปแล้วพบกับโต๊ะนักเรียนที่ถูกวางต่อๆ กันไปรอบห้อง ทุกโต๊ะมีซองสีน้ำตาลแปะอยู่และถูกเขียนชื่อกับชั้นปีกำกับไว้ทุกซอง

“มาเขียนจดหมายหาใครเหรอครับเพื่อน?” ไอ้การันต์ที่เดินผ่านมาทักขึ้นก่อนจะเดินเข้ามาหาผมด้วยใบหน้าที่ดูเหมือนไอ้คนตรงหน้าน่าจะกระดกแอลกอฮอล์มาได้ที่ทีเดียว

“จดหมายอะไรวะ?” ผมถามมันอย่างงงๆ ก่อนไอ้การันต์จะเดินไล่นิ้วไปตามซองสีน้ำตาลรอบห้องแล้วหยุดอยู่ตรงหน้าโต๊ะตัวหนึ่ง

“มาค่ายอาสาก็ร่วมกิจกรรมบ้าง อย่าทำตัวเป็นเด็กติดพี่ให้มันมากนัก กูล่ะหมั่นไส้” ไอ้การันต์เหยียดยิ้มออกมาอย่างหมั่นไส้ก่อนจะกวักมือเรียกให้ผมเดินเข้าไปหาแล้วใช้มือเคาะซองที่อยู่ตรงหน้า

'ปืน ปีหนึ่ง(เกษตร)'

“ทำไมมีชื่อกูด้วยวะ?” ผมถามมันอย่างงงๆ ก่อนจะก้มลงมองซองตรงหน้าอย่างสงสัย …เหมือนมีอะไรอยู่ข้างในแฮะ ผมคิดก่อนจะล้วงมือเข้าไปในซองก่อนจะดึงกระดาษมากมายออกมา

“จดหมายไงไอฟายยย” ไอ้การันต์ด่าก่อนจะเดินไปที่ตัวอีกตัวหนึ่งที่น่าจะเป็นของมันแทน ผมหยิบกระดาษโพสต์อิทหลากสีสันในซองออกมาก่อนจะไล่อ่านข้อความทีละใบ

‘ยินดีที่ได้รู้จักนะเด็กคณะเกษตร’
‘ตามพี่กูขนาดนี้ ก็ขอพี่กูเป็นแฟนไปเลยไม่ดีรึไง …การันต์’
ผมอ่านข้อความที่ตอนนี้คนเขียนดันเอาแต่นั่งสบถอะไรขมุบขมิบก่อนจะเดินไปหยิบกระดาษใบใหม่มาเขียนแล้วยัดใส่ซองโน้นซองนี้ไปทั่ว

“กูขอแล้วเว้ย” ผมตะโกนไปบอกมันก่อนเจ้าตัวจะหันมามองอย่างสงสัยจนผมต้องยกข้อความในมือให้มันดู

“แล้วผลเป็นไง?”

“ระดับนี้แล้ว น่าจะไม่พลาดนะ” ไอ้การันต์หัวเราะขึ้นมาก่อนจะยิ้มให้อย่างไม่เชื่อเท่าไหร่แล้วหันไปสนใจของตรงหน้ามันต่อ

‘หายไวไวนะมึง’
‘ขอโทษ’


“หืม?” ผมสะดุดใจกับลายมือและข้อความคุ้นๆ ที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าก่อนจะเปิดใบถัดไปแล้วก็เจอเหมือนเดิม

‘ขอโทษ’
‘ขอโทษ’


และ

‘ขอโทษ’


“นี่คือวิธีของพี่สินะครับ” ผมคิดขึ้นมาอย่างอดดีใจกับตัวบรรจงในกระดาษไม่ได้ …ก็เหมาะสมแล้วล่ะครับสำหรับคนปากหนักและเรื่องเยอะอย่างพี่กันย์

“บ่นอะไรของมึงวะ” เสียงทักจากคนที่ผมคิดว่าออกจากห้องไปแล้วทักขึ้น ผมเก็บกระดาษที่มีข้อความ ‘ขอโทษ’ ทั้งสี่ใบไว้ก่อนจะรวบข้อความที่เหลือยัดกลับเข้าไปในซองตามเดิมก่อนจะเดินไปหาไอ้การันต์ที่เริ่มไล่ยัดโพสต์อิทใส่ซองโน้นซองนี้อีกรอบ

“เฮ้ยมึง! กูขอบ้างดิ”





"ถ่ายรูปกันหน่อยครับผม" เสียงพี่กัมป์ที่ตะโกนขึ้นมาเรียกให้ทุกคนหันไปมองก่อนไอ้พวกแก๊งค์ปีหนึ่งของไอ้การันต์จะชวนผมเดินไปถ่ายรูปรวมเป็นที่ระลึกแล้วจึงแยกย้ายกันไปเดินรอบๆ ตามศรัทธา

“พี่ปูนครับ พี่กันย์มีไข้รึเปล่า?” พอถามตอนที่พี่ปูนแยกออกมาถ่ายรูปอยู่คนเดียวก่อนจะถามถึงใครบางคนที่วันนี้สีหน้าไม่สดใสนัก

“ถ้าหมายถึงไข้ใจล่ะก็ไม่แน่” พี่ปูนพูดขึ้นก่อนจะส่งยิ้มขำๆ มาให้ผมมองหน้าพี่ปูนอย่างงงๆ แล้วคิดตามก่อนจะเอะใจอะไรบางอย่าง …นี่คงมัวแต่เขียนให้คนอื่นจนไม่ได้เปิดอ่านของตัวเองสินะ ให้ตายเถอะพี่กันย์!

“เอาไอ้นี่ไปแก้ขัดก่อนได้มั้ยครับ?” ผมยื่นโทรศัพท์ที่ยังพกไว้แม้จะไม่มีสัญญาณกับหูฟังให้ปูนก่อนคนรับจะส่งสายตาอย่างมีคำถามมาให้

“ไม่เอาไปให้มันเองอ่ะ?”

“เดี๋ยวผมไปแน่ครับ ขอเวลาอีกแค่นิดเดียว”





“ลุงครับ ของผมอ่ะ” ผมถามทันทีที่รถของลุงจอดหน้าโรงเรียนตามเวลาที่ได้นัดหมายกันไว้ก่อนลุงจะยื่นถุงพลาสติกสีดำมาให้ ผมเปิดดูของข้างในก่อนจะพยักหน้ารับแล้วยื่นเงินค่าของไปให้ก่อนจะรีบเอาไปเก็บในโรงเรียนแล้ววิ่งกลับขึ้นมาบนยอดดอยใหม่อีกรอบ …ทำไมมันเหนื่อยกว่าตอนรับน้องอีกวะเนี่ย? ผมคิดก่อนจะปาดเหงื่อแล้วรีบเดินเข้าไปรวมกลุ่มกับพวกไอ้การันต์ทันทีเพื่อไม่ให้คนอื่นสงสัย

"ปืนถ่ายรูปกัน" พายที่เดินมากับพวกไอ้การันต์ทักขึ้นก่อนจะกวักมือเรียก ผมเลยได้ทีตีเนียนไปอย่างนึกดีใจที่ไม่มีใครทันสังเกตว่าผมหายไปไหนมา

"กล้องไหนดี" ผมถามก่อนจะมองกล้องหลายกล้องตรงหน้าอย่างงงๆ

"สักกล้องเหอะน่า" พายพูดขึ้นก่อนจะชี้ให้ผมมองกล้องนั้นกล้องนี้จนผมเริ่มตาลายก่อนจะเห็นคนที่เพิ่งชวนผมถ่ายรูปยื่นมือรับกล้องโพราลอยด์กลับมาจากเพื่อนอีกคน

“เออพาย เราขอยืมกล้องหน่อยดิ”





ผมยืนอยู่หน้า ‘ห้องแห่งความลับ’ อีกครั้งด้วยหัวใจที่เต้นแรงมากกว่าปกติพร้อมกับคำๆ หนึ่งที่ผุดขึ้นมาในหัว

‘คิดถึง’

ผมยิ้มเขินๆ ให้กับความคิดของตัวเองก่อนจะส่ายหัวอย่างขำๆ อย่างคิดไม่ถึงในอาการที่เป็นอยู่ก่อนจะตัดสินใจค่อยๆ เปิดประตูเข้าไป

ผมมองดูพี่กันย์ที่กำลังเขียนอะไรบางอย่างด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ก่อนจะเผลอยิ้มออกมาเมื่อคิดได้ว่าคนตรงหน้าต้องพยายามขนาดไหนที่จะสลัดเหตุผลร้อยแปดของตัวเองทิ้งไปแล้วพยายามที่จะขอโทษกับเรื่องที่หากเป็นในเวลาปกติเจ้าตัวคงจะมองว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ จนไม่คิดจะเก็บมาคิดให้มันมากความด้วยซ้ำ

“ขออนุญาตครับ” เสียงของผมที่ดังออกไปทำให้คนที่เพิ่งใส่อะไรบางอย่างเข้าไปในซองถึงกับสะดุ้งก่อนจะหันมามองผมแล้วทำตาโตอย่างตกใจ

“มึง! …มาตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“หลังพี่นิดหน่อยครับ” ผมบอกก่อนจะเดินอ้อมโต๊ะไปนั่งข้างเจ้าตัวที่ทำท่าทางเลิ่กลั่กอย่างไปไม่เป็นก่อนจะพยายามเลื่อนมือมาบังชื่อบนซองตรงหน้าไว้

“เขียนใส่แต่ซองคนอื่น ของตัวเองไม่เปิดดูบ้างหรอครับ” ผมพูดก่อนจะเท้าคางมองคนข้างที่หันมามองอย่างงงๆ พี่กันย์ย่นคิ้วอย่างใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเดินไปที่ซองของตัวเอง ผมเลยได้ทีหยิบอะไรบางอย่างที่ดูเหมือนพี่กันย์จะเพิ่งใส่เข้าไปออกมา

26.10.xx
ค่ายอาสา. กูขอโทษ


ผมมองรูปถ่ายตรงหน้าที่เห็นเพียงเสี้ยวหน้าด้านข้างของผมที่อยู่ท่ามกลางวิวของทุ่งข้าวโพดบนยอดดอยเมื่อกลางวันก่อนจะหันไปมองคนที่ดูเหมือนจะจมไปกับกองกระดาษตรงหน้าตัวเองซะแล้ว

“เจอคำตอบรับของข้อความที่พี่ส่งมามั้ยครับ” ผมถามก่อนจะเดินยิ้มๆ เข้าไปหาแล้วมองกระดาษโพสต์อิทสี่แผ่นที่พี่กันย์แยกออกมาวางต่อกันตรงหน้าก่อนผมจะวางหยิบกระเป๋าตังค์แล้วล้วงเอาโพสต์อิทที่ผมเก็บไว้ออกมาไปเรียงไว้ด้านล่างอีกแถว

ขอโทษ – ขอโทษ – ขอโทษ - ขอโทษ
ไม่เป็นไรครับ – ไม่เป็นไรครับ – ไม่เป็นไรครับ – ไม่เป็นไรครับ


“แล้วนี่คือคำง้อในส่วนของผมครับ” ผมบอกก่อนจะยื่นถุงสีดำตรงหน้าไปให้ พี่กันย์มองหน้าผมอย่างงงๆ ก่อนจะรับไปแล้วเปิดออกดูก่อนจะหลุดยิ้มออกมา

“ไอ้นี่อีกแล้ว” พี่กันย์บอกด้วยน้ำเสียงรำคาญก่อนจะทำหน้าเซ็งๆ แล้วยื่นห่อช็อคโกแลตคืนมาให้

“ไม่เอาเหรอครับ” ผมถามอย่างอดใจแป้วขึ้นมานิดหน่อยไม่ได้ก่อนพี่กันย์จะส่ายหน้าแล้วอมยิ้มออกมาก่อนจะตีหน้าขรึมใหม่

“กูให้แกะให้ครับ ไม่ได้ให้คืน” …น้ำเสียง ท่าทางและแววตาแบบเดิมที่กลับมาทำให้ผมต้องลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนจะแกะช็อคโกแลตในมือให้อย่างที่เจ้าตัวต้องการ

“ส่วนอย่างสุดท้าย” ผมบอกก่อนจะวางรูปโพราลอยด์ใบที่พี่กันย์เพิ่งใส่เข้าไปตรงหน้า

“ผมไม่อยากได้รูปเดี่ยวหรอกครับบอกเลย” ผมบอกก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างๆแล้วยกกล้องโพราลอยด์ที่ยืมมาขึ้นมาตรงหน้าแล้วกดถ่ายก่อนจะลุกหนีออกมาแล้วเดินกลับไปนั่งตรงโต๊ะที่มีซองของผมแล้วเขียนอะไรบางอย่างลงไปก่อนจะเดินมายื่นให้พี่กันย์

“ไอ้เชี่ยปืนนน!” พี่กันย์ดูรูปที่ผมยื่นไปให้ก่อนจะโวยวายขึ้นมา
 
“ครับพี่?” ผมถามกลับไปด้วยใบหน้าที่ไม่สามารถหุบยิ้มลงไปได้ และดูเหมือนว่าคนตรงหน้าก็คงเป็นเหมือนกัน

“กูเป็นพี่มึงนะ มาเรียกชื่อกูเฉยๆ ได้ไง กลับมานี่นะเว้ย!”


26.10.xx
ห้องแห่งความรัก ♥ หายโกรธกันย์นะ








ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
ดีกันแล้ว ค่อยยังชั่ว สงสารพี่กันย์มากตอนโดนน้องเมิน

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
อืมมม.  มุมของปืน

พี่กันย์คิดเยอะ คนอ่านก็คิดแยะ

 :n1:   :n1:   :n1:   :n1: 

...

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6

ออฟไลน์ Nattharikan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด