27-...ก็พี่มีแฟน
"ในที่สุดพวกเราก็มีวันนี้ อย่างนี้มันต้องฉลอง เอ้า! ไชโย! ไชโย! ไชโย!" ไอ้กัมป์ลุกขึ้นพูดก่อนจะยกแก้วในมือขึ้นชูตามธรรมเนียมอย่างอารมณ์ดีทำเอาคนที่เหลือถึงกับต้องรับมุกยกแก้วในมือขึ้นกินตามอย่างอดที่จะคึกคักไปด้วยไม่ได้
ผมมองไปรอบๆ อย่างนึกใจหาย เพราะคืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายก่อนที่พรุ่งนี้จะทำการส่งมอบอาคารให้กับทางโรงเรียน หลังจากนั้นเราจะลงจากที่นี่ ต่อรถเข้าเชียงใหม่แล้วเดินทางกลับกรุงเทพฯ กันยาวๆ เพราะฉะนั้นวงรอบกองไฟในวันนี้เลยยิ่งพิเศษกว่าทุกวันเพราะมันเหมือนงานเลี้ยงปิดค่ายกลายๆ ที่ทุกคนจะพร้อมใจกันมาร่วมวงเพื่อระลึกชีวิตค่ายตลอดสิบกว่าวันที่ผ่านมาก่อนจะกลับไปผจญโลกความจริงของการเปิดภาคเรียนที่สองที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
"กูต้องคิดถึงที่นี่แน่ๆ" ไอ้ทีพูดขึ้นก่อนจะทำท่าบีบน้ำตาแล้วเอนตัวมาซบผมอย่างน่าหมั่นไส้
"ไม่คิดถึงก็บ้าแล้ว กรุงเทพฯ ร้อนฉิบหาย" ไอ็โฟมบอกก่อนจะยื่นมือไปตบหัวไอ้ทีทีหนึ่งอย่างนึกรำคาญที่มันยังเล่นใหญ่ไม่เลิกแล้วหันไปรับแก้วจากน้องปีหนึ่งที่บริการเติมเหล้าให้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องมาไว้ในมือก่อนจะยกขึ้นกินตามจังหวะที่ไอ้ประธานค่ายมันบิ้ว
"พี่กันย์เอามั้ยครับ?" น้องคนเดิมหันมาถามทันทีที่สังเกตเห็นว่าในมือของผมยังไม่มีแก้วก่อนจะจัดแจงหาแล้วยื่นมาให้อย่างรู้ใจ ผมมองน้ำใสๆ ในแก้วตรงหน้าก่อนจะเหลือบไปมองคนที่กำลังเดินถือเสื้อหนาวเข้ามาอย่างอดลังเลไม่ได้
"เอ่อ..."
"รอให้มันขอพ่อก่อนนะคะ" ไอ้ปูนตอบก่อนจะมองมาที่ผมอย่างหมั่นไส้แล้วมองเลยไปยังไอ้ปืนที่เพิ่งเดินเข้ามา
[Bpuen's]"มีอะไรเหรอครับ" ผมถามขึ้นอย่างสงสัยก่อนจะยื่นเสื้อกันหนาวที่หยิบติดมาส่งให้พี่กันย์
"ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่น้องมันยื่นแก้วมาให้ไอ้กันย์" พี่ทีตอบพลางทำหน้าล้อเลียนก่อนจะพยักเพยิดไปให้อีกคนรับมุก
"ช่ายย ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่ไอ้กันย์มันไม่กล้ารับไว้ก็เท่านั้น" พี่โฟมพูดต่อก่อนจะยักคิ้วให้แล้วปรายตาไปมองพี่กันย์ที่ได้แต่หลบสายตาอย่างเซ็งๆ
"ทำไมล่ะครับ?" ผมแกล้งถามออกไปทั้งๆ ที่ผมพอจะรู้แล้วล่ะครับว่าเพราะอะไร
"กูแค่ไม่อยากกิน ทำไมวะ?" พี่กันย์ตอบก่อนจะถามกลับจนผมแทบจะหลุดยิ้มออกมา ...ผากก็บอกว่าไม่แต่สายตานี่โหยหาไอ้แก้วตรงหน้าเหลือเกินนะครับพี่
"ไอ้เชี่ยย คนอย่างไอ้กันย์ไม่อยากกินเหล้าว่ะ?" พี่ทีพูดขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นมาดูสลับกับหน้าพี่กันย์ที่เริ่มเบื่อโลกเข้าไปทุกที
"พี่กันย์ไม่อยากกินเหรอครับ?"
"เออ"
"ไม่อยากกินจริงๆ เหรอครับ?" ผมแกล้งเอื้อมมือไปหยิบแก้วเหล้าที่อยู่ตรงหน้าก่อนจะชูขึ้นมาถามเพื่อความแน่ใจ
"เออออ" พี่กันย์ลากเสียงก่อนจะเบนสายตาไปโฟกัสที่อื่นจนผมแทบกลั้นขำไม่ไหวก่อนจะงัดไม้ตายออกมาอย่างอดสงสารคนที่พยายามจะอดทนตรงหน้าไม่ได้
"ว้าา แย่เลยครับ ผมก็อุตส่าห์เตรียมตัวมา"
"เตรียมไรวะ?" พี่กันย์หันกลับมาด้วยความสนใจก่อนจะเพ่งมองใกล้ๆ เมื่อผมล้วงเอาอะไรบางอย่างที่เตรียมไว้ออกมา
"นี่ไงครับ" ...มันคือถุงอ้วกครับแถมยังเป็นสีดำอีกด้วย!
"ตกลงวันนั้นมึงซื้อมาจริงอ่ะ" พี่กันย์ถามขึ้นก่อนจะมองผสมสลับกับถุงอ้วกในมือตาโตอย่างอดทึ่งไม่ได้จนผมหลุดยิ้มออกมา
"ครับ"
"ไม่มีใครเหมือนมึงอีกแล้วแหละ" พี่กันย์พูดขึ้นก่อนจะส่ายหัวอย่างระอาก่อนจะส่งถุงที่ดูจะเป็นที่สนใจให้พี่คนอื่นดู
"แล้วตกลงพี่จะไม่กินจริงๆ ใช่มั้ยครับ ผมจะได้เก็บ" ผมย้ำอีกครั้งก่อนจะหรี่ตามมองคนตรงหน้าที่เหมือนจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการตัดสินใจใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"ไม่!" พี่กันย์ยืนยันหนักแน่นจนผมต้องเลิกคิ้วถามอย่างสนใจ
"ไม่กิน?"
"ไม่ใช้โว้ยย! กูซะอย่าง ไม่อ้วกแน่นอนครับผม!"
[Gun's]"อีกแก้วว!" ไอ้เจที่เริ่มเมาได้ที่จนต้องให้ไอ้ขิงมันหิ้วปีกแต่ยังพยายามถลาเข้ามาหาผมก่อนจะยกแก้วขึ้นชนจนผมต้องเล่นกับไอ้น้องรหัสไปด้วยอย่างนึกสนุก
"กูว่ามึงควรไปนอนครับไอ้น้องชาย" ผมบอกก่อนจะตบไหล่ไอ้เจอย่างหมั่นไส้แล้วหันไปมองไอ้ขิงที่ทำหน้ารำคาญอยู่ข้างๆ อย่างเห็นใจ
"พี่ลากมันไปเก็บให้หน่อยดิ" ไอ้ขิงบอกก่อนจะลากแขนไอ้เจที่ลงไปกองกับพื้นขึ้นมาพาดคออีกครั้งแล้วพยายามลากให้คนที่มองยังไงก็ไม่ไหวแล้วกลับไป
"กูไม่เมาา!" ไอ้เจร้องขึ้นก่อนจะพยายามตะเกียกตะกายมาทางผมจนผมแทบจะถีบมันส่งกลับไป
"เอามันไปเก็บไป" ผมบอกเพื่อนสนิทน้องรหัสก่อนจะมองส่งพวกมันอย่างลุ้นๆ จนพวกมันกลับถึงห้องแล้วจึงค่อยเดินกลับมาร่วมวงกับพวกไอ้ที
"ไอ้เชี่ยเจแมร่งไม่ไหวแล้วว่ะ" ไอ้โฟมพูดขึ้นอีกคนพลางมองไปยังน้องทั้งสองคนที่เดินหายไปก่อนจะยกขวดเหล้ามาเทใส่แก้วในมือผมที่พร่องไปเกินครึ่ง
"ว่าแต่ไอ้เจ แล้วไอ้ทีล่ะวะ?" ผมถามมันอย่างงงๆ ก่อนจะมองไปรอบๆ ...จะว่าไปผมก็ไม่ได้ยินเสียงมันมาสักพักแล้วนะเนี่ย
"เออ เดี๋ยวกูไปหาแมร่งก่อน" ไอ้โฟมบอกก่อนจะลุกออกไปจนผมได้แต่มองตามไปอย่างพยายามจะช่วยหาแต่กลับสะดุดกลับสายตาของใครบางคนที่กำลังมองมาเสียก่อน
"มองอะไรครับ?" ผมถามขึ้นอย่างอดหมั่นไส้ไม่ได้ ...ไม่มองเปล่าครับ เสือกยิ้มด้วย!
"มองไม่ได้เหรอครับ" ไอ้ปืนบอกก่อนจะขยับเข้ามานั่งใกล้ๆ เพราะตอนนี้วงเริ่มแตกกระจายออกเพราะสังขารที่เริ่มถดถอยไปตามระดับแอลกอฮอล์ในเลือดของแต่ละคน
"เรื่องของมึงอ่ะ" ผมบอกมันก่อนจะยกแก้วในมือขึ้นกินก่อนจะหันไปเจอสายตามันที่ยังคงมองมา ...ผมไม่น่ารับคำ
"เบาๆ หน่อยครับ คืนนี้ยังอีกไกล" มันบอกยิ้มๆ ก่อนจะเอื้อมมือมาแตะก้นก่อนจะออกแรงกดจนผมต้องดึงแก้วออกจากริมฝีปาก
"ขี้บ่นจังวะ"
"ไม่ได้บ่นครับ เขาเรียก 'เป็นห่วง' ต่างหาก" ...เชี่ยยยยย!
"ไอ้ปืนโว้ยยย!" ไอ้การันต์ตะโกนแทรกขึ้นมาก่อนจะยื่นเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์เบาๆ มาให้ไอ้คนที่นั่งไม่แตะเหล้าจนไอ้ปืนได้แต่ยิ้มอย่างขอบคุณก่อนจะยื่นมาให้ผมอีกที
"กูไม่กิน" ผมบอกมันพลางมองรูปแอปเปิ้ลที่แปะหลาอยู่หน้าขวดแล้วชี้ให้มันดู
"ไม่ได้ให้กินครับ ให้เปิดให้ผมหน่อย" คำพูดของมันทำเอาผมถึงกับมองไอ้คนตรงหน้าด้วยความงงแต่มือก็ยอมบิดฝาก่อนจะยื่นกลับไปให้แต่โดยดี
"ทำเป็นไม่มีแรง" ผมมองคนที่นั่งยิ้มพร้อมกับขวดเครื่องดื่มในมือก่อนจะพูดขึ้นด้วยความหมั่นไส้อย่างอดไม่ได้
"แรงน่ะมีครับ แต่ผมแค่อยากอ้อน ไม่ได้เหรอครับพี่กันย์?"
"มึงมันแมร่ง!" ....ทำใจกูเต้นเลยเนี่ย ผมสบถด่ามันก่อนจะยกแก้วขึ้นมากินเพื่อปิดรอยยิ้มที่กำลังจะหลุดออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
"วันก่อนครับ" พูดที่อยู่ดีๆ ไอ้ปืนก็พูดขึ้นมาทำให้ผมหันไปมองหน้ามันอย่างงงๆ ก่อนจะขำออกมาเมื่อนึกไปถึงมุกที่เด็กในคณะผมมันชอบเล่นกัน
"กูต้องเล่นมุกกับมึงด้วยมั้ยเนี่ย" ผมถามมันก่อนยกแก้วเหล้วของตัวเองขึ้นกินบ้าง
"ผมได้ยินที่พี่บอกว่า 'กูชอบมัน'"
"แค่กๆๆ" คำพูดของมันทำเอาถึงกับผมสำลักออกมาจนเจ้าตัวต้องยื่นมือมาลูบหลังให้ก่อนจะพูดต่อ
"ได้ยินได้ไงวะ?" ผมสบถออกมาเบาๆ ก่อนจะเหลือบไปมองคนที่ยังยิ้มไม่หยุดก่อนมันจะตอบว่า
"แสดงว่าหูผมไม่ฝาด" ...โอเคครับ กลายเป็นผมยืนยันคำตอบมันเป็นที่เรียบร้อย
"เออ แล้วไง" ผมพยายามแถก่อนจะตีหน้าซื่อตาใสแล้วกินเหล้าในมือที่แทบเหลือแต่แก้วเปล่าต่อไป
"ก็ผมไม่อยากเป็นบุรุษที่สามนี่นา ขอเป็นบุรุษที่สองแทนได้รึเปล่าครับ?" เหตุผลของมันทำเอาผมงงไปพักหนึ่งก่อนจะนึกขึ้นได้ ...มึงแมร่งร้ายเกินไปแล้วนะ ไอ้เชี่ยปืน!
[Bpuen's]"บอกผมหน่อยนะครับ" ผมร้องขอคนตรงหน้าที่เริ่มทำสีหน้าไม่ถูกอย่างนึกขำ
"บอกอะไรวะ?"
"บอกว่า 'พี่ชอบผม'" คำพูดของผมทำเอาคนตรงหน้ามองผมอย่างอึ้งๆ ก่อนจะเม้มปากแล้วฟุบลงกับแขนตัวเอง
"ทีผมยังกล้าบอกพี่เลย" พี่กันย์พลิกหน้ามามองผมอย่างสงสัยก่อนจะถามออกมา
"บอกว่า?"
"ผมชอบพี่"
"..." พี่กันย์ไม่ตอบ แต่หน้าแดงขึ้น ...ไม่ใช่เพราะเหล้าแน่นอนครับเชื่อผม
"แล้วพี่ชอบผมมั้ยครับ?"
"ไอ้เชี่ยปืนนน!" พี่กันย์ส่งเสียงออกมากึ่งเรียกกึ่งสบถกับตัวเองจนผมได้แต่หัวเราะออกมาอย่างขำๆ ก่อนจะยื่นนิ้วไปนวดระหว่างคิ้วของพี่กันย์ที่ยู่เข้าหากันอย่างอดไม่ได้
"ต้องเครียดขนาดนั้นเลยเหรอครับ"
"อือ"
"งั้นไม่ต้องบอกก็ได้ครับ เพราะยังไงผมก็รู้แล้วอยู่ดี" ผมบอกก่อนฟุบหน้าลงกับแขนตัวเองแล้วพลิกหน้าไปมองคนข้างๆ เหมือนกัน
"ไม่อ่ะ กูจะบอก" อยู่ดีๆ พี่กันย์ก็พูดขึ้นมาหลังจากที่นิ่งไปนานเหมือนตัดสินใจได้ทำให้ผมมองไปอย่างอดใจเต้นไม่ได้
"ผมรอฟังอยู่นะครับ" ผมบอกก่อนจะยิ้มให้แต่ดูเหมือนคนตรงหน้าจะยิ่งขมวดคิ้วมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก
"อ่ะ" พี่กันย์ยื่นขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์กลิ่นแอปปิ้ลอีกขวดที่ยังไม่ได้เปิดยื่นมาให้จนผมได้แต่เลิกคิ้วให้อย่างสงสัย
"ผมกินไปหลายขวดแล้วนะครับ" ผมบอกอย่างงงๆ ก่อนจะชี้ไปยังขวดเปล่าของผมที่เริ่มมีจำนวนเยอะขึ้นเรื่อยๆ เพราะอยากกินเป็นเพื่อนพี่กันย์ที่ยังคงกินเหล้าต้มต่อไปอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
"เปิดให้กูหน่อย" คำพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ อย่างคาดไม่ถึงทำเอาผมถึงกับมองอย่างอึ้งๆ ก่อนจะรับขวดมาถือไว้แล้วเปิดให้ตามคำขอ พี่กันย์มองขวดที่รับคืนไปอย่างชั่งใจก่อนทำท่าจะกระดกเข้าไป
"ทำอะไรครับ?" ผมคว้ามือคนตรงหน้าไว้ก่อนจะถามออกมาเพราะนึกขึ้นได้ว่าคนตรงหน้าแพ้พวกแอลกอฮอล์ผสมผลไม้
"กินไง" พี่กันย์บอกก่อนจะมองงมือของผมที่ไแดึงข้อมือพี่กันย์ไว้อย่างงงๆ
"แต่พี่แพ้"
"กูจะชนะวันนี้แหละ" พี่กันย์บอกก่อนจะยิ้มมุมปากมาให้แล้วทำท่าจะกินอีกครั้งจนผมเริ่มเอะใจก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ ผมส่งยิ้มกลับไปก่อนจะยึดขวดของพี่กันย์มาถือไว้แล้วโน้มเข้าไปกระซิบเบาๆ
"พี่ไม่ชนะหรอกครับ"
"รู้ได้ไง?"
"เพราะผมไม่จูบกับคนแพ้เหล้าเป็นรอบที่สองแน่ๆ" ผมบอกอย่างขำๆ ก่อนจะยกขวดแอลกอฮอล์ในมือขึ้นมากินซะเองจนคนตรงหน้าได้แต่มองอย่างอึ้งๆ ที่ผมรู้ทันก่อนจะยิ้มมุมปากขึ้นมาอีกครั้ง
"เออ กูยอมแพ้ก็ได้" พี่กันย์บอกพลางถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วมองหน้าผม
"ยอมง่ายเกินไปป่ะครับ" ผมถามก่อนจะสบตาคนตรงหน้าที่มองมากลับไปเหมือนกัน
"เพราะวันนี้ถึงกูจะไม่แพ้เหล้า" พี่กันย์บอกก่อนจะยกยิ้มมุมปากขึ้นมาอีกครั้ง รู้ตัวอีกทีอะไรบางอย่างก็ทาบลงบนริมฝีปากของผมก่อนจะได้ยินเสียงกระซิบเบาๆ ที่ดังตามมา
"แต่กูก็แพ้มึงไปแล้วไง ไอ้เชี่ยปืน"
"ใครให้ไอ้กันย์แดกเหล้าผลไม้วะเมื่อคืน เมาแล้วจูบไปทั่ว" เสียงไอ้กัมป์ที่ยังมีอาการแฮงค์อยู่ข้างๆ บ่นขึ้นมาในระหว่างอยู่บนขบวนรถไฟขากลับทำให้ผมต้องปรายตาไปมองก่อนจะสลับมามองหน้าอีกคนที่กำลังนั่งมองผมอยู่ฝั่งตรงข้ามพร้อมกับรอยยิ้มอันมีเอกลักษณ์ของเจ้าตัว
ตึ้ง ตึง! เสียงข้อความไลน์ดังขึ้นเป็นครั้งแรกหลังจากที่โทรศัพท์มีสัญญาณทำให้ผมละสายตาจากคนตรงหน้าก่อนจะเปิดโปรแกรมไลน์ขึ้นมา
Bpuen : ก็เห็นมีแค่ผมคนเดียว จะเรียก 'ไปทั่ว' ได้ยังไง?
ข้อความที่ส่งมาทำให้ผมแทบอยากจะเดินไปผลักไอ้คนที่ส่งข้อความออกนอกหน้าต่างรถไฟให้รู้แล้วรู้รอดก่อนจะพาลนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืนอย่างอดไม่ได้ ...ผมมันใช้ร่างกายเปลือง ผมทอดสะพานให้มัน!
"ว่าแต่ใครโดนลูกหลงบ้างวะ?" เสียงไอ้ทีที่มีอาการไม่ได้ต่างกันถามขึ้นอย่างสงสัยก่อนจะรับลูกอมที่ไอ้ปูนยื่นให้ไปกินแก้เวียนหัว
"จะใครล่ะครับ ไอ้ปืนไง ซวยสุดละดันนั่งใกล้มัน"
"ไอ้เชี่ยย มีความถูกคนว่ะ" ไอ้ปูนที่นั่งอยู่ข้างๆ ไอ้ปืนสบถออกอย่างถูกใจก่อนจะยิ้มมาให้อย่างล้อๆ จนผมเริ่มทำหน้าไม่ถูก
Bpuen : อยากยิ้มก็ยิ้มสิครับ
Bpuen : ^_____________^
Gun : บิ้วกูจังเลยวะ
ผมหันไปมองหน้าคนที่เอาแต่ยิ้มเหมือนคนไม่มีอะไรทำอย่างหมั่นไส้ก่อนจะก้มลงมองหน้าจออีกครั้งเมื่อมีสัญญาณแจ้งเตือน
Gun : เอ้อ พี่กันย์ครับ
Bpuen : ว่า?
ผมพิมพ์ตอบกลับไปก่อนจะมองให้คนตรงหน้าอย่างสงสัยก่อนจะเห็นมันพิมพ์ยุกยิกๆ อะไรกลับมาก่อนเจ้าตัวจะหันออกไปนอกหน้าต่างก่อนจะพยายามกลั้นยิ้มที่ดูเหือนจะไม่ได้ช่วยอะไรออกมา
Bpuen : คราวหน้าขอรสช็อคโกแลตได้มั้ยครับ เหล้าต้มนี่ผมไม่ไหวจริงๆ
"สัด!" ผมด่ามันไปก่อนจะหลบสายตาของพวกไอ้ทีที่หันมามองอย่างงงๆ ด้วยการมองออกไปนอกหน้าต่างก่อนจะเห็นภาพของตังเองลางๆ ที่สะท้อนอยู่ในกระจก ...แล้วทำไมผมถึงต้องยิ้มตามที่มันบอกด้วยวะเนี่ย?
"เอ้อ พี่กันย์ครับ" เสียงเรียกจากปากของไอ้ปืนแทนที่จะเป็นในไลน์ดังขึ้นทำให้ผมหันไปมองก่อนจะเห็นพวงกุญแจและคีย์การ์ดของผมลอยอยู่ตรงหน้าตามที่ไอ้ปืนมันยื่นมาให้
"กุญแจห้องกู?" ผมถามมันอย่างไม่มั่นใจก่อนจะยื่นมือไปรับพวงกุญแจไว้ ผมมองคนตรงหน้ากับพวงกุญแจในมือสลับไปมาอย่างรู้สึกแปลกๆ ก่อนจะนึกไปถึงเหตุผลของการชวนมันมาค่ายรวมไปถึงอะไรหลายๆ อย่างที่ผ่านเข้ามาตั้งแต่ ...ได้รู้จักกับ 'ไอ้ปืน'
"มีปากกาเปล่าวะ?" ผมถามก่อนไอ้ปืนจะหันมามองหน้าผมอย่างงงๆ แล้วล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าส่งมาให้
"นี่ครับ แต่วันนี้เรายังไม่ได้ถ่ายรูปกันนะ" ไอ้ปืนบอกก่อนจะยิ้มล้อๆ มาให้เมื่อนึกถึงเหตุผลที่ผมมักจะถามหาปากกาทุกครั้งจนผมต้องหันไปมองมันอย่างหมั่นไส้
"ให้กูเอาไปทำอย่างอื่นบ้างเห๊อะ" ผมบอกก่อนจะรับปากกาเมจิกมาแล้วลุกเดินออกไปจากที่นั่งเพื่อเดินไปยังโบกี้ถัดไปที่ไม่มีพวกเด็กคณะผมนั่งอยู่ก่อนจะลงมือเขียนอะไรบางอย่างลงไป
"สกิลการอ่อยพี่นี่พื้นฐานมากครับ" คำพูดของคนที่มาใหม่ทำให้ผมอดหันไปมองอย่างหมั่นไส้ไม่ได้ก่อนมันจะทรุดตัวลงนั่งที่ฝั่งตรงข้ามแล้วมองมาอย่างยิ้มๆ
"กูไม่ได้อ่อยครับ ได้ข่าวว่ามึงมาเอง" ผมตอบพลางยักคิ้วให้มันอย่างกวนๆ ก่อนจะยกยิ้มให้อย่างอดไม่ได้ ผมหายใจเข้าลึกๆ อีกครั้งก่อนจะตัดสินใจโยนพวงกุญแจที่มันเพิ่งคืนมาให้กลับไปจนมันแทบรับเอาไว้ไม่ทันก่อนจะหันมามองหน้าผมอย่างงงๆ
"นี่คือ..?"
"กูให้" ผมบอกมันสั้นๆ ก่อนจะลุกออกมาแล้วรีบเดินกลับไปยังโบกี้เดิม แต่ต้องหยุดลงอีกครั้งตรงรอยต่อระหว่างโบกี้เพราะมือของใครบางคนที่คว้าข้อมือผมไว้
"มุกเดิมตลอดอ่ะครับ" มันบอกก่อนจะยิ้มกว้างออกมาพลางชูพวงกุญแจขึ้นตรงหน้าผมทำให้ผมเห็นข้อความเล็กๆ ที่ตัวเองเขียนอยู่มุมล่างของคีย์การ์ด
29.10.xx
เป็นแฟนกัน?"ให้กูเลิกใช้มั้ยล่ะ?" ผมถามมันอย่างเซ็งๆ ก่อนทำท่าจะคว้าพวงกุญแจกลับมาแต่ไอ้ปืนดันมือไวกว่า
"ยังไม่ทัน 'เป็น' เลย จะเลิกได้ไงล่ะครับ" มันบอกก่อนจะยิ้มตาหยีจนผมอดที่จะด่ามันไม่ได้
"มุกควาย"
"โอ๋เอ๋ ไม่งอนผมนะ" ไอ้ปืนพูดอย่างๆ ขำก่อนจะยื่นมือมาลูบหัวผมเบาๆ จนผมต้องหันไปหรี่ตามองมัน
"น้อยๆ หน่อยครับ ยังไงกูเป็นพี่มึงนะ" ผมบอกก่อนจะยักคิ้วให้มันอย่างกวนๆ ก่อนคนที่โดนกวนกลับจะเป็นผมเอง
"อ้าว! เป็นพี่เหรอครับ ผมนึกว่า 'เป็นแฟน'"
ตอนเกือบพิเศษ 2"กินป่ะ?" พี่กันย์ถามขึ้นในขณะที่เจ้าตัวเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผมก่อนจะหยิบอะไรบางอย่างที่เจ้าตัวต้องหอบหิ้วขึ้นมาทุกครั้งที่รถไฟเทียบชานชาลาที่สถานีระหว่างทาง
...เค้กช็อคโกแลตเหมือนเดิมครับ แต่คราวนี้เป็นรูปหัวใจ! ผมคิดอย่างขำๆ ในความพยายามจะทำตัวเป็นปกติที่แฝงไปด้วยความไม่ปกติของคนตรงหน้าก่อนจะยิ้มออกมากับท่าทางที่ดูเก้ๆ กังๆ ไปบ้าง ...อย่างรู้สึกขอบคุณ
"เอ่อ ขอโทษนะคะ" เสียงผู้หญิงคนหนึ่งเอ่ยทักขึ้นจากด้านหลังทำให้ผมหันไปมองก่อนจะเจอเข้ากับผู้หญิงที่ตอนขามาเพื่อนอีกคนบอกผมว่า 'เธอคนนี้สนใจ' ...แต่ดูเหมือนว่าวันนี้เธอจะรวบรวมความกล้าแล้วมาด้วยตัวเอง
"ครับ?"
"พอดีเราเห็นเธอตั้งแต่วันก่อน" เธอพยายามเท้าความเพื่อให้ผมจำได้พร้อมกลับทำท่าทางเอียงอายทำให้ผมไม่กล้าที่จะเสียมารยาทที่จะพูดแทรกเธอขึ้นมาก่อน
"เราเลยอยากจะขอ..."
"ขอโทษนะครับ" เสียงคนที่คราวนี้ผมคิดว่า 'ยังไงก็ต้องมา' ดังขึ้นก่อนจะโผล่มายืนข้างๆ อย่างคราวที่แล้วไม่มีผิดก่อนจะยิ้มให้ผู้หญิงตรงหน้าแล้วยกมือขึ้นมาพาดไหล่ผม
"นี่ 'แฟน' ผมครับ ขอตัวก่อนนะ" พี่กันย์บอกก่อนจะยิ้มให้อย่างสุภาพก่อนจะออกแรงลากผมขึ้นไปด้วยกันจนผมได้แต่มองคนที่เดินอยู่ข้างๆ อย่างยิ้มไม่หุบ
"ยิ้มอยู่นั่นอ่ะ เป็นไรมากป่ะ?" พี่กันย์ถามขึ้นอย่างหมั่นไส้ก่อนจะฟังคำตอบแล้วหันไปแอบยิ้มอยู่อีกทาง
"เป็นแฟนพี่กันย์ครับ"