[yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥  (อ่าน 201685 ครั้ง)

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
เอร้ยยยย เป็นแฟนกันแล้ววววว
พี่กันย์นี่โดนหนักเหมือนกันแฮะ
แอบสงสารตอนพี่น้ำตาตก

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
พี่กันย์ทำตัวน่าฟัดมาก

ปืนก็ขี้หลีว่ะ

น่ารักสุด ๆ

ออฟไลน์ zenzaii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
28-...ก็พี่ไม่นิยาม แต่ผมว่ามันมีความหมาย

[Gun’s]

"พี่กันย์ครับ" เสียงเรียกพร้อมกับแรงเขย่าเบาๆ ทำเอาผมต้องดึงตัวเองออกจากความฝันที่แม้จะหลับแต่ก็ยังเห็นตัวเองนั่งปั่นงานเหมือนตอนก่อนเข้านอนไม่มีผิดก่อนจะลืมตาขึ้นมาพร้อมกับภาพของใครบางคนที่นั่งอยู่ข้างเตียง

"ไอ้ปืน?" ผมเรียกชื่อคนตรงหน้าอย่างไม่แน่ใจนักก่อนจะพลิกตัวจากที่นอนตะแคงข้างเปลี่ยนเป็นเงยหน้ามองเพดานอย่างงงๆ

"เมื่อคืนกูนอนห้องมึงเหรอวะ?" ผมถามมันอีกครั้งก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะหึหึตามมา ผมลุกขึ้นนั่งงัวเงียอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยกมือขึ้นสางๆ ผมที่ชี้ไม่เป็นระเบียบให้เข้าที่พลางมองไปรอบๆ ห้องเพื่อไขความข้องใจ ...เตียง? ตู้? โต๊ะ? ก็ห้องกูนี่หว่า
 
"ละเมออยู่เหรอไงครับ?" ไอ้ปืนหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะเดินไปเปิดผ้าม่านเพื่อให้แสงส่องเข้ามาได้เต็มที่เล่นเอาผมถึงกับตาพล่าไปชั่วขณะก่อนจะหันไปมองคนที่ยืนยิ้มจนตาหยีมาให้พร้อมกับชูพวงกุญแจที่มีทั้งกุญแจสีเงินและคีย์การ์ดสีขาวอยู่ครบถ้วนรวมถึงไอ้ข้อความใจกล้าหน้าด้านของผมที่เคยเขียนไว้ก็ยังอยู่

...เป็นแฟนกัน?
…เสี่ยวชะมัด ให้ตายเหอะ! ผมคิดอย่างเซ็งๆ ก่อนจะมองพวงกุญแจตรงหน้าที่คนถือยังจงใจแก่วงไปมาจนผมต้องแซวมันออกมาอย่างหมั่นไส้

“รถกูก็แทบจะยึดไปแล้ว นี่จะเอาห้องกูด้วยเหรอวะ?” ไอ้ปืนส่ายหน้าก่อนจะยกยิ้มมุมปากแล้วทิ้งตัวลงนั่งที่ปลายเตียง

"จะเอาเจ้าของห้องนะครับ เสียดายตื่นซะก่อน"

“สัด!” ผมมองคนตรงหน้าอึ้งๆ ก่อนจะค่อยๆ ดึงผ้าห่มมาคลุมตัวอย่างไม่ไว้ใจแต่มันก็คอยแต่จะดึงออกซะงั้น

“พูดเล่นน่ะครับ ผมก็แค่ ‘อยากเจอ’” คำพูดของไอ้ปืนที่ส่งมาพร้อมรอยยิ้มหวานๆ ทำให้เผลอจ้องหน้ามันตอบ …จะว่าไปตั้งแต่กลับมาจากค่ายผมก็โดนโปรเจคใหม่โหมกระหน่ำจนแทบจะไม่ได้เจอมันเลยนี่หว่า

“อ่าฮะ” ผมรับคำมันก่อนทำท่าจะลุกจากเตียงแต่คนตรงหน้าดูไม่มีทีท่าจะขยับไปไหนจนทำให้ผมต้องหันไปมอง

“แล้วพี่ไม่อยากเจอผมบ้างเหรอครับ?” ผมมองหน้าคนที่รอคำตอบอยู่ก่อนจะเลิกคิ้วมองอย่างสงสัย

“กุญแจไง”

“ครับ?” ไอ้ปืนรับคำอย่างงงๆ ก่อนจะยกพวงกุญแจในมือขึ้นมาดู

“ก็ให้ไปแล้วไง อยากเจอเมื่อไหร่ …ก็มา” ผมบอกมันอีกครั้งก่อนจะหลบสายตาไปทางอื่น …เชี่ยเอ้ยยย! ผมกำลังอ่อยผู้ชาย

“สวัสดิการของฐานะ ‘แฟน’ รึเปล่าครับ?” ไอ้ปืนถามขึ้นก่อนผมจะรู้สึกได้ถึงแรงยวบที่ข้างเตียงจนต้องหันกลับไปมอง

“แล้วแต่มึงจะคิดอ่ะ” ผมบอกมันก่อนจะพยายามใช้แขนดันมันอย่างเนียนๆ ไว้เพราะเริ่มรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยเข้าทุกที

"ถ้าอย่างนั้นช่วยเพิ่มให้ผมอีกสักข้อได้มั้ยครับ?" คำถามของมันทำเอาต้องหรี่ตามองอย่างไม่ไว้ใจแต่สุดท้ายก็รับคำมันอยู่ดี

"ว่ามา?"

"ก็อะไรใหม่ๆ อย่างเช่น..."

"..."

"มอร์นิ่้ง คิส?"

"…" ผมเผลออ้าปากค้างอย่างคาดไม่ถึงก่อนจะรับรู้ได้ถึงลมร้อนๆ ของคนที่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้

ครีดด... ครืดด...

เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำเอาผมสะดุ้งพร้อมสติที่ถูกดึงกลับมา ผมมองหน้าไอ้ปืนที่ถอยออกไปอย่างเสียดายก่อนจะพยายามปรับสีหน้าของตัวเองให้เป็นปกติแล้วเดินไปหยิบโทรศัพท์ที่เสียบสายชาร์จไว้ตรงโต๊ะทำงานขึ้นมาแล้วกดรับสาย

"ว่าไงวะ?" ผมถามขึ้นทันทีที่เห็นว่าเป็นเบอร์ไอ้ทีที่โชว์อยู่บนหน้าจอ

(ไอ้กันย์ 'จารย์เลื่อนมาตรวจแบบตอนสิบโมงว่ะมึง!)

"ฉิบหาย! แล้วมาบอกอะไรตอนนี้วะเนี่ย?" ผมสบถออกมาเมื่อหันไปมองนาฬิกาที่ตอนนี้ก็เกือบเก้าโมงเข้าไปแล้ว

(มึงมีอะไรไปตรวจยังวะ?) เสียงปลายสายที่ดังขึ้นอย่างร้อนรนทำให้รู้ว่าสภาพคนอื่นในกลุ่มก็คงไม่ต่างกัน ผมเดินไปที่โต๊ะดราฟท์ที่วางไว้ห้องนั่งเล่นก่อนจะพลิกเพลตขนาด A0 สองสามแผ่นที่เขียนๆ ไว้เมื่อคืนออกดู

"เออ ก็พอได้ว่ะ เดี๋ยวกูไปรับหน้าให้ก่อนละกัน"

(ขอบใจมากเว้ย ลากให้ได้สักหนึ่งชั่วโมงนะมึง) ไอ้ทีบอกมาด้วยน้ำเสียงกึ่งสั่งกึ่งขอร้องจนผมต้องส่ายหัวด้วยความอ่อนใจก่อนจะกรอกเสียงลงไป

"กูให้ได้แค่สี่สิบนาที รีบตามไปนะเว้ย" ผมบอกมันก่อนจะกดตัดสายไอ้ทีแล้วม้วนงานทั้งหมดเข้าด้วยกันโดยใช้ยางรัดไว้แล้วกำลังจะไปเตรียมตัว พอดีกลับที่ใครบางคนเดินเข้ามายืนซ้อนหลังพอดี

"อะไร?" ผมถามออกไปด้วยน้ำเสียงปกติพลางมองคนตรงหน้าที่เอาแต่อมยิ้มจนพาลให้นึกไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าจะรับโทรศัพท์

“อย่ามาทำเป็นไม่รู้หน่อยเลยครับ” …ผมบอกแล้ว ไอ้เชี่ยปืนมันร้าย!

“หลีกไปเร็ว กูรีบ” ผมบอกมันอย่างเร่งๆ ก่อนจะพยายามใช้มือดันตัวแต่ดูเหมือนจะไม่สำเร็จ

“ครั้งเดียว” ไอ้ปืนบอกก่อนจะนิ้วชี้ขึ้นมาหนึ่งนิ้วแล้วพยักหน้าเออออเสร็จสรรพ

“ไม่โว้ยยย!”

“ที่ตอนอยู่บนค่ายพี่ยังจูบผมได้เลยนี่ครับ” คำว่า ‘จูบ’ ที่มันเล่นพูดออกมาโต้งๆ ทำเอาผมถึงกับไปไม่เป็นพลางมองคนตรงหน้าที่เอาแต่ยิ้มมุมปากอย่างได้ใจ …เออ วันหลังกูจะไม่เริ่มอะไรก่อนแล้ว โว๊ะ!

“ก็ตอนนั้นบรรยากาศมันได้เปล่าวะ?” ผมแกล้งทำเสียงดุๆ พร้อมกับหน้ายุ่งๆ กับไปแต่ดูเหมือนไอ้ปืนจะไม่สนใจเพราะเอาแต่พึมพำอะไรบางอย่างแล้วเดินไปรอบห้อง

“บรรยากาศสินะครับ” ไอ้ปืนพูดขึ้นมาก่อนจะไล่ปิดม่านจนห้องมืดก่อนจะเดินไปเปิดไฟหรี่ให้พอมีเสียงสลัวๆ จากนั้นก็เดินไปเปิดอยู่เย็น

“ทำเชี่ยไรเนี่ย?” ผมถามมันออกไปอย่างอดไม่ได้ก่อนจะเดินตามมันไปหน้าตู้เย็นอย่างสงสัย

“สำหรับครั้งที่สอง …เอารสแอปเปิ้ลหรือเบอร์รี่ดีครับ” มันถามด้วยรอยยิ้มก่อนจะยื่นขวดเครื่องผสมผลไม้สองคนมาตรงหน้า ผมคิดตามมันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะนึกได้เลยฟาดมันไปทีหนึ่งอย่างหมั่นไส้

“ฝันไปเหอะ ว่าแต่ไอ้ของพวกนี้มาอยู่ที่ห้องกูได้ไงเนี่ย?” ผมถามขึ้นอย่างงงๆ …มันไม่ใช่แค่สองขวด แต่ผมว่ามีเกือบโหลแถมหลายรสอีกต่างหาก

“ผมซื้อมาเอง” ไอ้ปืนตอบก่อนจะยิ้มตาหยีออกมาแบบไม่ทุกข์ไม่ร้อนจนผมต้องมองหน้ามันอย่างอึ้งๆ ก่อนจะยื่นมือไปลูบหัวคนตรงหน้าอย่างขำๆ

“คิดจะมอมกูยังเร็วไปสิบปีครับผม”

ครีดด... ครืดด...

เสียงสั่นของโทรศัพท์ที่ดังขึ้นอีกรอบทำให้ผมมองที่หน้าจออย่างนึกขึ้นได้ก่อนจะกดรับแล้วกรอกเสียงลงไปอย่างตื่นๆ

“เออๆ กูกำลังจะออกแล้ว เดี๋ยวเจอกันโว้ย” ผมบอกไอ้ทีที่โทรมาเร่งก่อนจะหมุนตัวกลับไปทางห้องนอนเพื่อจะได้อาบน้ำและแต่งตัวไปเรียน

“ไว้ผมคิดแผนใหม่แล้วกันนะครับ” เสียงไอ้ปืนที่ดังลอยขึ้นมาทำให้ผมหันกลับไปมองคนที่เอาเครื่องดื่มเข้าไปแช่ไว้อย่างเดิมอย่างอดนึกเอ็นดูไม่ได้ …ได้เด็กน้อยเอ้ย! ผมคิดอย่างขำๆ ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปแล้วเอามือล็อคคอมันจากด้วยหลังก่อนจะดึงเอาตัวของคนที่ได้ชื่อว่า 'แฟน' มาแนบอก

"มอร์นิ่งคิสมันเยอะไป เอามอร์นิ่งฮักไปก่อนละกัน" ผมกระซิบบอกมันก่อนทำท่าจะถอยออกมาแต่อยู่ดีๆ คนที่อยู่ในอ้อมแขนเมื่อครู่ดันหมุนตัวกลับมาด้วยรอยยิ้มมุมปากก่อนจะยื่นแขนทั้งสองข้างมาโอบรอบเอวผมแน่นอย่างรวดเร็วก่อนจะกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูแล้วรีบดีดตัวถอยหลังไปพ้นรัศมีที่ผมกำลังจะฟาดมันด้วยความหมั่นไส้ ...กูไม่น่ายอมมึงเลยจริงๆ ให้ตาย!

"สวัสดีตอนเช้าครับพี่กันย์"

"เออ สวัสดี"





[Bpuen]

หลังจากเปิดเทอมสองได้เพียงสองอาทิตย์ทั้งรายงาน การสอบ โปรเจคก็เริ่มถาโถมกลับมาอีกครั้ง พวกเด็กปีหนึ่งคณะเกษตรอย่างผมน่ะยังไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ดูเหมือนพวกปีสี่คณะสถาปัตย์อย่างพี่กันย์จะเริ่มเข้าสู่โหมดคนอดนอนกันอีกรอบจนผมแทบไม่เจอตัว จะมีบ้างก็บางวันที่ผมดูแล้วว่าน่าจะไม่รบกวนเวลานักก็จะแวะไปหาตอนเช้าเพื่อรับไปส่งที่คณะซึ่งถ้านับตั้งแต่กลับจากค่ายมาก็เพิ่งจะเจอแค่…สองครั้ง

Bpuen : ขี้เกียจจังครับ
Bpuen send you a photo

ผมถ่ายรูปบรรยากาศในคลาสก่อนจะส่งไปให้อีกฝ่าย ผ่านไปไม่นานหลังข้อความของผมก็ขึ้นตัวอักษร Read ก่อนจะได้รับข้อความตอบมา

Gun : เด็กไม่ดี
Gun : ไม่ไหวๆ

ผมหัวเราะให้กลับข้อความตรงหน้าก่อนจะกดตอบกลับไป

Bpuen : แต่เป็น ‘เด็กดีของพี่’ ผมว่าก็น่าจะพอไหวนะ
Bpuen : send you a sticker
Gun : สัด!
Gun : กูเพิ่งคิดได้
Bpuen : ?
Gun : กูได้แฟนเป็นผู้ชายยังไม่พอ
Gun : กูต้องโดนข้อหากินเด็กด้วยใช่เปล่าวะ?

คำถามที่ส่งมาทำเอาผมถึงกับกลั้นหัวเราะไม่อยู่จนไอ้พีทที่กำลังตั้งใจเรียนหันมามองอย่างงงๆ ก่อนจะส่งยิ้มล้อๆ มาให้เมื่อเห็นชื่อของใครบางคนปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์

“หายง่วงเลยดิมึง” ผมพยักหน้ารับก่อนจะพยายามหุบยิ้มแล้วหันมาสนใจหน้าจอใหม่

Bpuen : กินเด็กจะเป็นอมตะ
Gun : แต่ตอนนี้กูเริ่มอยากตาย

ผมมองข้อความตรงหน้าอย่างสงสัยก่อนจะพิมพ์ถามกลับไป

Bpuen : เป็นอะไรครับ? โดน’จารย์แก้งาน?
Gun : อย่าแช่ง! วันนี้งานกูไม่มีปากกาแดงแล้วเว้ย

ผมหลุดขำออกมาอีกรอบเมื่อนึกไปว่าพี่กันย์จะต้องเดินมาอวดงานด้วยสีหน้าแบบไหน พาลนึกไปถึงเมื่อตอนวันจันทร์ที่แวะไปหาแต่เจ้าตัวกลับเบะปากเดินมาพร้อมกับกางกระดาษในมือที่เต็มไปด้วยปากกาแดงอย่างอดที่จะสงสารไม่ได้

Bpuen : ดีใจด้วยครับผม
Bpuen : แล้วตกลงพี่เป็นอะไรครับ?
Gun : คนเริ่มมองกูเยอะเกินไปแล้วอ่ะดิ
Gun : เมื่อไหร่มึงจะเลิกเนี่ย?
Gun send a photo
 
ผมก้มมองข้อความตรงหน้าอย่างงงๆ ก่อนจะกดดูรูปที่พี่กันย์ส่งมา ภาพตรงหน้าเป็นเหมือนโถงใต้อาคารที่มีโต๊ะยาววางเรียงเป็นแผงพร้อมกับนักศึกษาที่นั่งอยู่รอบๆ อย่างคุ้นตา ผมนั่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มกว้างออกมาอย่างห้ามไม่ได้เมื่อเหลือบไปเห็นเสาต้นหนึ่งที่มีป้ายไม้ติดด้วยตัวอักษรสีขาวไว้ว่า ‘ภาควิชาปฐพีวิทยา’

Bpuen : พี่มาหาผมเหรอครับ?
Gun : เปล่าครับ กูแค่ว่างมากเลยมานั่งเล่นเฉยๆ

ผมอดขำไปกับข้อความประชดประชันของคนตรงหน้าไม่ได้ก่อนจะมองเวลาบนจอโทรศัพท์ …พี่กันย์น่าจะเพิ่งตรวจแบบเสร็จ พรุ่งนี้ก็วันศุกร์มีแค่วิชาภาคทฤษฎีอะไรสักอย่าง ผมคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไป
 
Bpuen : งั้นช่วยรออีกสักสิบนาทีนะครับ
Bpuen : เดี๋ยวผมจะไปทำให้พี่ ‘ไม่ว่าง’ เอง





"วันนี้ไปไหนดีวะ?" ไอ้ป้องถามขึ้นในตอนที่อาจารย์ปล่อยแล้วก่อนนักศึกษาทุกคนจะตั้งหน้าตั้งตาเก็บของเพื่อเตรียมแยกย้าย

"ยังมีหน้ามาถาม รายงานมึงเสร็จแล้วเหรอครับเพื่อน" ไอ้พีทพูดพร้อมกับตีไปที่ไหล่คนพูดแรงๆ อย่างหมั่นไส้ก่อนจะสะพายเป้ขึ้นบ่า

"แต่จริงๆ กูก็หิวนะ"

“ไอ้ห่า!” ไอ้ป้องกับไอ้ธันย์เข้าล็อคคอคนที่พูดทันทีอย่างอดไม่ได้ก่อนจะพากันลากออกจากคลาสไป

"วันนี้กูขอบายนะ" ผมบอกพวกมันในระหว่างที่กำลังเดินลงจากตึกจนพวกมันหันมามองอย่างงงๆ แล้วก็เหมือนเดิม...คนหัวไวอย่างไอ้พีทไม่มีทางพลาดอย่างแน่นอนครับ

"ไปไหนวะ?" ไอ้ธันย์ถามขึ้นก่อนจะหันมามองผมอย่างสงสัย

"มีนัดตลอด กับเพื่อนกับฝูงนี่ไม่เคยเหลียวแล" คำไอ้ป้องเสริมขึ้นมาอีกคนทำเอาผมหัวเราะออกมาอย่างขำๆ ก่อนจะเดินไปตบๆ ไหล่พวกมันอย่างอดรู้สึกผิดนิดๆ ไม่ได้

"ปล่อยๆ มันไปเหอะน่า ก็ต้องให้เวลากับแฟนบ้าง" ไอ้พีทพูดก่อนจะส่งยิ้มล้อๆ มาให้จนผมได้แต่ส่ายหัวอย่างระอา
 
"แฟน? มึงมีแฟนแล้วเหรวะไอ้ปืน!" ไอ้คู่หูมันพร้อมใจกันประสานเสียงขึ้นมาจนผมได้แต่หัวเราะก่อนจะหันไปยักคิ้วให้อย่างเหนือกว่าก่อนจะมองโทรศัพท์ที่สั่นอยู่ในมือ

"ครับ กำลังเดินลงไปครับผม" ผมกดรับแล้วตอบปลายสายไปสองสามคำก่อนจะกดวาง

"มึงไปมีตอนไหนวะ กูเห็นวันๆ มึงก็ไม่ได้ไปเจอใคร นอกจาก..." ไอ้ธันย์โวยวายขึ้นมาเหมือนเด็กๆ ก่อนจะค่อยๆ กลืนคำพูดตัวเองลงไปเมื่อฉุกใจคิดอะไรได้บางอย่างแล้วหันไปทำตาโตใส่ไอ้ป้องก่อนจะหันมามองหน้าผมพร้อมกัน

"อย่าบอกนะว่า..." ไอ้ป้องยังพูดไม่ทันจบพี่กันย์ก็เดินเข้ามาก่อนจนไอ้พวกเพื่อนผมมันยกมือไหว้กันแทบไม่ทัน

"สวัสดีครับพี่"

"เออ หวัดดี" พี่กันย์ทักกลับก่อนจะส่งยิ้มมาให้ ผมยืนมองพวกไอ้ป้องกับไอ้ธันย์ที่ยืนทำหน้าอึ้งจนเผลออ้าปากหวอจนไอ้พีทต้องยื่นมือมาปิดอย่างระอา

"งั้นกูไปก่อนนะ" ผมหันไปบอกพวกมันก่อนจะโบกมือให้แล้วเดินตามพี่กันย์ออกไป

"ทำไมพวกมันต้องทำหน้าอึ้งขนาดนั้นวะ เล่นซะกูเสียเซลฟ์เลยเนี่ย" พี่กันย์พูดขึ้นมาในตอนที่เดินมาถึงลานจอดรถข้างคณะก่อนจะมองผมด้วยสีหน้าไปไม่เป็นจนผมต้องหัวเราะออกมา

"ไม่มีอะไรหรอกครับ"

“แต่กูว่ามี” พี่กันย์พูดพลางหรี่ตามามองอย่างไม่ไว้ใจก่อนจะถามต่อ

"แล้วก่อนหน้านี้คุยอะไรกัน"

"แค่บอกว่าวันนี้ไปกับพวกมันไม่ได้นะ" ผมตอบยิ้มๆ จนข้างๆ เริ่มเอียงคอมามองอย่างสงสัย

"แล้วไงต่อ?"

"เพราะผมจะไปกับแฟน"

"…" พี่กันย์หยุดเดินก่อนจะหันมามองหน้าผมหน้าตาตื่นๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาจนผมต้องเป็นฝ่ายถามกลับไปแทน

"บอกไม่ได้เหรอครับ?" ผมถามขึ้นอย่างไม่แน่ใจ พี่กันย์คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันมามองหน้าผมแล้วหันกลับไป

"เปล่านี่ ก็บอกได้"

"ตกใจหมดครับ นึกว่าพี่จะโกรธซะอีก" ผมพูดขึ้นอย่างโล่งอก เพราะถึงแม้จะไม่ได้รู้สึกเป็นประเด็นอะไรกับการที่อยู่ดีๆ มีแฟนเป็นผู้ชาย แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาเที่ยวประกาศบอกใครต่อใครไปทั่ว

"แต่กูยังไม่ได้บอกใครนะ" คำพูดของพี่กันย์ทำเอาผมถึงกับหยุดเดินก่อนจะหันไปมองคนข้างๆ ที่หยุดเดินเหมือนกันอย่างแอบหวั่นใจน้อยๆ

"ทำไมล่ะครับ?"

"กูเขิน" คำตอบของพี่กันย์ทำเอาผมถึงกับหลุดยิ้มออกมาก่อนจะมองคนข้างๆ ที่เผลอเม้มปากเหมือนกัน

“ไม่ต้องบอกหรอกครับ ผมว่าคณะพี่…เขารู้กันทั้งคณะแล้วมั้งครับ” ผมบอกออกไปอย่างกลั้วหัวเราะจนคนข้างๆ หันมามองอย่างอึ้งๆ จนพลอยหลุดขำออกมาด้วยอีกคน

“เออ ก็จริง”





หลังจากฝ่ามรสุมรถติดช่วงเย็นมามากกว่าหนึ่งชั่วโมงเราก็มาโผล่สถานที่ประจำของพี่กันย์ ‘สยาม’ …ผมก็ว่าทำไมวันนี้เจ้าตัวถึงแต่งตัวดูดีเป็นพิเศษ

"พี่กันย์จะมาซื้ออะไรเหรอครับ?"

"เปล่า" คำตอบของคนข้างๆ ทำเอาผมถึงกับหันไปมองอย่างงงๆ …ปกติเวลามาสยามพี่กันย์ต้องมีเป้าหมายในใจอย่างน้อยหนึ่งอย่าง เพราะถึงจะชอบมาที่นี่แค่ไหนแต่จะให้เอาตัวมาฝ่าคนเยอะๆ แบบไม่รู้จะทำไปทำไมเจ้าตัวก็ดันไม่ชอบอีก

"หิวอ่ะ มึงเลือกดิ" ผมยิ่งงงกับคำถามที่ถูกส่งกลับมาเข้าไปใหญ่ …ปกติเจ้าตัวก็เลือกเองตลอดเพราะผมกินอะไรก็ได้อยู่แล้ว

"พิซซ่า …มั้ยครับ?" ผมแกล้งตอบก่อนจะเหลือบไปมองปฏิกิริยาจากคนข้างๆ เล็กน้อย …ปกติพี่กันย์จะชอบกินพวกเนื้อหรือผักมากกว่าพวกคาร์โบไฮเดรตล้วนๆ อยู่แล้ว

"ได้" ผมมองไปยังคนข้างๆ ที่เดินนำไปยังร้านพิซซ่าอย่างอดแปลกใจไม่ได้เอื้อมมือไปดึงคนข้างหน้าไว้

"ผมเปลี่ยนใจแล้วครับ"

"อะไรของมึง?" พี่กันย์หันมามองอย่างงงๆ จนผมต้องยิ้มให้แล้วลากพี่กันย์ไปอีกทาง

"ไปกินชาบูดีกว่า"

"เรื่องมากจังวะ" พี่กันย์บ่นออกมาก่อนจะหันมาทำหน้าเซ็งๆ ให้

"แล้วได้เปล่าล่ะครับ" ผมแกล้งถามออกไปทั้งๆ ที่ในใจรู้คำตอบก่อนจะอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้เพราะคำพูดของคนที่เดินตามมา

"กูเดินมาด้วยขนาดนี้แล้ว ไม่ได้มั้ง!"

…ผมรู้แล้วครับว่า วันนี้มัน ‘ไม่ปกติ’ จริงๆ





หลังจากกวาดเนื้อลงท้องกันไปคนละเกือบกิโล พี่กันย์ก็เอาแต่เดินไปเรื่อยๆ สลับกับดูหน้าจอโทรศัพท์จนผมเริ่มจะสงสัยกับท่าทางแปลกๆ ของคนตรงหน้ามากขึ้นทุกทีจนอดไม่ได้ที่จะเร่งฝีเท้าตามไปก่อนจะดึงไหล่ของคนตรงหน้าให้หยุดลง

"จะไปไหนครับ?" ผมถามก่อนพี่กันย์จะมองมาอย่างตื่นๆ จนผมสังเกตได้

"เปล่า"

"ขออนุญาตนะครับ"

“โทรศัพท์กู” ผมถือวิสาสะดึงโทรศัพท์ในมือคนตรงหน้ามาดูก่อนจะเห็นโปรแกรมหนังยาวเหยียดบนจอ

"อยากดูหนังเหรอครับ?"

"ประมาณนั้น" ผมมองพี่กันย์ที่ตอบออกมาอย่างไม่แน่ใจก่อนจะยื่นโทรศัพท์คืนไปให้

"อยากดูเรื่องอะไรล่ะครับ?" ผมถามในตอนที่พาตัวเองกับคนข้างๆ มายืนมองโปรแกรมหน้าโรงหนังเรียบร้อยแล้ว …ก็ตั้งแต่รู้จักกันมา ยังไม่เคยมาดูหนังด้วยกันสักครั้ง

"มึงเลือกเลย" พี่กันย์พูดขึ้นมาก่อนจะพยักเพยิดหน้าไปทางหน้าจอจนผมต้องแซวขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

"วันนี้ผมโชคดีนะครับ ได้เลือกตั้งสองอย่าง" ผมยิ้มให้ก่อนคนตรงหน้าจะเผลอเม้มปากจนผมต้องกลั้นยิ้มเอาไว้แล้วหันไปสนใจโปรแกรมหนังบนหน้าจอแล้วเลือกหนังฝรั่งชื่อดังที่เข้าฉายช่วงนี้ขึ้นมาเรื่องหนึ่ง

"นึกว่าจะเลือกเรื่องนี้ซะอีก" พี่กันย์มองผมอย่างงงๆ ก่อนจะชี้ไปที่โปรแกรมหนังไทยอีกเรื่องที่มีรอบฉายเวลานี้พอดี

"ก็พี่ไม่ดูหนังไทย"

“รู้ได้ไงวะ?” พี่กันย์อึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะหันมามองหน้าผม

“ขุดเอา” ผมตอบกลับยิ้มๆ ก่อนจะยื่นหน้าจอโทรศัพท์เปิดโปรแกรมเฟสบุ๊คที่เป็นหน้าไทม์ไลน์ของคนตรงหน้าขึ้นมา

“มึงแมร่งร้าย”

“เขาไม่ได้เรียก ‘ร้าย’ ครับ เขาเรียก ‘เรียนรู้เพื่อเอาใจ’” ผมมองพี่กันย์ที่หันมามองอย่างหมั่นไส้ที่หนึ่งก่อนจะเดินนำไปที่เคาน์เตอร์เพื่อซื้อตั๋ว

“ว่าแต่ …พี่รู้ได้ยังไงครับว่าผมอยากดูเรื่องไหน?” ผมถามกลับอย่างงงๆ ก่อนจะมองหน้าจอโทรศัพท์ที่คนตรงหน้ายื่นกลับมาให้

“พี่ก็ร้ายพอกันนั่นแหละครับทำมาเป็นว่าผม” ผมพูดขึ้นอย่างขำๆ ก่อนจะยื่นโทรศัพท์ที่ปรากฎหน้าไทม์ไลน์เฟสบุ๊คของผมคืนไปก่อนคนข้างๆ จะเดินนำไปที่ช่องซื้อตั๋วก่อนจะกดเลือกรอบหนัง …ที่เป็นหนังไทยขึ้นมา

…วันนี้มัน ‘ไม่ปกติ’ จริงๆ นั่นแหละครับ ผมว่ามันออกจะ ‘พิเศษ’ มากกว่าทุกวัน

"พี่กันย์ครับ" ผมเรียกคนข้างๆ ที่กำลังเดินลากผมไปยังโรงหนังเพราะใกล้เวลาฉายแล้วก่อนเจ้าตัวจะหยุดเดินแล้วหันกลับมามองอย่างสงสัย

"ว่า?"

"วันนี้ …เขาเรียกว่าเดทรึเปล่า?" ผมถามออกไปอย่างอดไม่ได้ พี่กันย์ชะงักไปนิดหนึ่งแล้วเม้มปากก่อนจะถามผมกลับมา

"แล้วคำว่า ‘เดท’ ของมึงคืออะไรล่ะ" ผมมองคนถามอย่างอึ้งๆ ไปเล็กน้อยอย่างคาดไม่ถึง …ทำไมต้องถามคำถามยากๆ อย่างนี้ทุกที ให้ตาย!

"ไม่รู้สิครับ อาจจะหมายถึง…การมาเที่ยวด้วยกัน ทำอะไรร่วมกัน ‘สองคน’ อะไรแบบนั้น" ผมตอบออกไปตามคำนิยามที่ชอบได้ยินบ่อยๆ พี่กันย์พยักหน้ารับเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมาให้อย่างขำๆ

"ถ้าอย่างนั้นแสดงว่า เราก็ ‘เดท’ กันมาหลายครั้งแล้วสิ"

"แต่ผมว่าไม่เหมือนกันนะ ตอนนั้นเรายังไม่ได้เป็นแฟนกันสักหน่อย" ผมตอบกลับไปทั้งๆ ที่ในใจเริ่มงงกับคำว่าเดทไปด้วยอีกคน

"งั้นมึงต้องใส่คำว่า ‘แฟน’ ลงไปในนิยามคำว่า ‘เดท’ ของมึงด้วย" พี่กันย์บอกก่อนจะเลิกคิ้วมองอย่างขำๆ เมื่อผมเริ่มทำหน้ายุ่งเข้าไปใหญ่

"โอเคครับผมใส่ลงไปแล้ว"

"อ่าฮะ" พี่กันย์พยักหน้ารับก่อนจะมองมาด้วยแววตาที่ยังขำๆ ผมไม่หยุดก่อนจะยื่นตั๋วให้พนักงานแล้วเดินนำเข้าไป และโดยไม่ทันรู้ตัวผมก็เอื้อมมือออกไปคว้าคนตรงหน้าไว้จนพี่กันย์เริ่มเปลี่ยนแววตามามองอย่างระอาแทน

"งั้นสรุปว่า …วันนี้เรามาเดท?"

“ยังไม่เลิก” พี่กันย์พูดออกมาอย่างติดจะรำคาญนิดหนึ่งจนผมต้องเอาลูกอ้อนเข้าสู้แทน

“นิดหนึ่งเถอะครับ เดี๋ยวผมดูหนังไม่รู้เรื่อง” พี่กันย์ทำท่าคิดเล็กน้อยพลางเหลือบมามองผมที่ยื่นลุ้นอยู่ข้างๆ เป็นระยะๆ ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมา

“เออ”

“หมายความว่า…” ผมถามออกไปอย่างลุ้นๆ พี่กันย์ยักคิ้วอย่างกวนๆ ให้ทีหนึ่งก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าโรงหนังไป


"ถ้ามึงจะเรียกอย่างนั้น ...ก็ตามนั้นแหละ"







#ก็พี่มันเยอะ เดินทางกันมาเกินครึ่งมากๆ แล้ว อีกไม่กี่ตอนก็ใกล้จะจบแล้วค่ะ ใจหายมากๆ
เรื่องนี้นับเป็นนิยายวายเรื่องแรกจริงๆ ที่ลงมือเขียนทั้งที่ตอนแรกคิดไว้ว่ายังไงตัวเองก็คงไม่ชอบแนวนี้
ยกเว้นคู่ชิปที่เป็นศิลปินที่เราติ่งอยู่อย่าง #ยุนแจ ที่ทั้งรักและเทิดทูน 55555 แต่สุดท้าย…ก็กลับมาตายรังจนได้

ส่วนพล็อตคร่าวๆ ของเรื่องนี้ไม่มีอะไรเลยค่ะ เราแค่มองว่า ‘ความรู้สึกของคนที่ต่างชอบกันก่อนจะมาเป็นแฟนนี่มันดีเนอะ’
แล้วมันก็กลายเป็นเรื่องนี้ขึ้นมาเลยค่ะ 55555 แอบรู้สึกดีที่มันกลายมาเป็นเรื่องราวของพี่กันย์กับน้องปืนในวันนี้

ขอบคุณทุกคนที่มาอ่าน มาพูดคุยกัน มาติดตามน้องปืนแล้วก็พี่กันย์น้า ขอบคุณมากๆ จริงๆ ค่ะ
ยังไงก็ช่วยเป็นกำลังใจกันไปจนจบเรื่องด้วยน้า ^__________^

 ฝากทวิตเตอร์ไว้จ้า @zenzaii1 หรือติดแฮชแท็ก #ก็พี่มันเยอะ นะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-12-2016 15:40:51 โดย zenzaii »

ออฟไลน์ Psycho

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
เรื่องนีบู้สินะครับ เอาปืนมาไล่ยิงกัน(ย์)ตั้งแต่ตอนแรกเลย ^^ แถวคว่ำรถอ้อยเป็นระยะๆ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :impress2:   เดทกันใสๆ ดูหนัง กินข้าว  รักในวัยเรียนก็แบบนี้แหละ
มอมเลยค่ะน้องปืน   555555
ขอบคุณค่ะ จบได้ค่ะแต่ขอตอนพิเศษ

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ชอบอ่านเวลาคนจีบกัน
มันกิ๊วก๊าวมากเลย

ออฟไลน์ Bronc

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
พี่กันย์น่ารักจริงจัง อิอิ น้องปืนหลงแย่เลย :mew1:

ออฟไลน์ andaseen

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 742
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-1

ออฟไลน์ oiruop

  • เ รื่ อ ง โ ง่ โ ง่ นี่ ฉ ล า ด นั ก ⊙﹏⊙∥
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
    • https://www.facebook.com/book.yaoi?fref=ts

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
อ่านรวดเดียวเลยอ่ะ สนุกมากๆๆๆๆ
ทั้งปืนทั้งกันต์มีมุมน่ารักๆของตัวเองเยอะเลย ไม่รุ้ว่าใครจะหลงใครมากกว่ากัน
เขินแทนละเนี่ยะ  :-[ :-[

แต่ว่าตกลงถาปัตย์ได้เขยหรือสะใภ้อ่ะนะ
คือตอนแรกก็หวังว่าจะเป็นสะใภ้ แต่ตอนนี้ไม่แน่ใจละ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
อ่านไปก็เขินตามพี่กันต์ไปด้วย
ปืนมันร้าย


 :mew3: :mew3:


ออฟไลน์ mam.nalok

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อ่านทันแล้ว สนุกมากกกกกพี่มันเยอะจริงๆ 555555 แต่พี่มันก็ไม่ทันไอ้ปืนสักที :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ zenzaii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
29-...ก็พี่ไม่รู้ ผมก็ไม่รู้(มั้งครับ)

[Bpuen’s]

"สวัสดีครับ"

"หวัดดี"

ผมมอง 'ไอ้รถถัง' น้องชายบังเกิดเกล้าที่อายุห่างกันถึงหกปีก้าวขึ้นไปนั่งตรงเบาะหลังแล้วส่งเสียงทักคนที่นั่งอยู่ในตำแหน่งคนขับด้วยเสียงดังฟังชัด พี่กันย์หันมามองก่อนจะทักทายกลับแล้วเหลือบมามองผมที่ขึ้นไปนั่งข้างๆ ด้วยท่าทางตื่นๆ จนผมอดยิ้มออกมาไม่ได้จนพาลคิดไปถึงคำพูดเมื่อวันก่อนของเจ้าตัวที่ดูเหมือนจะ ‘ตื่นเต้น’ กับการออกมาด้วยกันครั้งนี้อยู่พอสมควร





"ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์หน้า ผมไม่ว่างนะครับ"

"แล้วไงวะ?" พี่กันย์ที่กำลังนั่งจดจ่ออยู่กับโมเดลของเล่นเงยหน้าขึ้นมามองก่อนจะถามออกมาพร้อมกับรอยยิ้มกวนๆ

"ก็บอกไว้ก่อนไงครับ เผื่อคนแถวนี้เกิดอยากชวนผมไปไหนขึ้นมา" ผมหรี่ตามองอย่างอดหมั่นไส้กับความปากไม่ตรงกับใจของคนตรงหน้าไม่ได้ก่อนจะวางจานมะละกอที่หั่นเป็นชิ้นๆ แล้ว(และไม่สุกจนเละตามที่เจ้าตัวกำชับมา)ลงบนโต๊ะญี่ปุ่นแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้าม พี่กันย์ละมือจากโมเดลบ้านที่เพิ่งถอยมาใหม่ตรงหน้าก่อนจะเท้าคางมองหน้าผม

"แล้วคนแถวนี้จะไปไหนล่ะครับ?"

"ไปทำหน้าที่พี่ชายที่แสนดีสักหน่อยน่ะครับ" พี่กันย์เลิกคิ้วอย่างสงสัยก่อนจะรับมะละกอที่ผมจิ้มแล้วยื่นไปให้เข้าปากไปอย่างไม่ปฏิเสธ

"รถถัง?"

"ครับผม ไอ้รถถังมันจะขึ้นมาหาคอร์สเรียนพิเศษตอนปิดเทอมน่ะครับ"

"โห ขยันจังวะ อีกตั้งนานไม่ใช่เหรอกว่าจะปิดเทอม"

"มันเป็นพวกวิตกจริตน่ะครับ ต้องเตรียมไว้ก่อนล่วงหน้ายาวๆ" ผมบอกอย่างขำๆ เมื่อนึกไปถึงน้องชายที่เหมือนจะยังเด็กแต่กลับคิดทุกอย่างเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับเรื่องข้างหน้าอยู่เสมอ

"ว่าแต่ กูต้องตื่นเต้นเปล่าวะ?" คำถามที่อยู่ดีๆ พี่กันย์ก็ถามขึ้นทำให้ผมหันไปมองคนพูดอย่างงงๆ

"ทำไมเหรอครับ?"

"ก็ประมาณว่า 'เจอน้องของแฟน' อะไรแบบนั้น?" คำตอบที่เหนือความคาดหมายจากพี่กันย์ทำเอาผมชะงักก่อนจะหลุดขำออกมาจนคนตรงหน้าต้องเอามะละกอมายัดปากผมจนเกือบหมดจนผมต้องยกมือยอมแพ้ ...ก็ใครจะไปคิดล่ะครับว่าคนแบบพี่กันย์จะมีมุมแบบนี้ด้วย

...น่าแกล้งชะมัด ให้ตาย!

"พี่กันย์ตื่นเต้นเหรอครับ?" ผมย้อนถามกลับในตอนที่เลิกขำได้แล้วพลางมองคนตรงหน้าที่เอาแต่ทำสีหน้าแปลกๆ

"ก็นิดหนึ่งมั้ง แต่ไม่เท่าตอนพรีเซนต์งานกับอาจารย์ว่ะ"

"นั่นสิครับ แค่เจอ ‘น้องแฟน’ น่ะไม่เท่าไหร่หรอกครับ" พี่กันย์พยักหน้ารับก่อนจะมองผลไม้ที่ผมจิ้มส่งไปให้อีกชิ้นก่อนจะกัดแล้วลากมันออกจากส้อมไป

"ผมว่าเวลามาเจอ ‘แฟน’ น่ะ ตื่นเต้นกว่ากันเยอะ ว่ามั้ยครับ?" ผมบอกก่อนจะยักคิ้วให้ทำเอาพี่กันย์ชะงักแล้วหันมาจ้องหน้าผมก่อนหน้าขาวๆ จะขึ้นสีแดงจางๆ จนผมอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้เพราะสังเกตอะไรบางอย่างมาได้สักพัก ...ก็คนตรงหน้าดันแพ้คำว่า 'แฟน' น่ะสิครับ ผมมองพี่กันย์ที่ยังพยายามเม้มปากต่อไปแม้ในปากจะคาบชิ้นมะละกอไว้ก็ตามก่อนจะแซวขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

"ถ้ายังไม่กินเดี๋ยวผมช่วยกินนะครับ" พี่กันย์หันมามองอย่างสงสัยรู้ตัวอีกทีเจ้าตัวก็ได้แต่นั่งมองตาปริบๆ ก่อนจะทำตาโตขึ้นอย่างตกใจเมื่อผมดึงตัวเองกลับมาพร้อมด้วยมะละกออีกครึ่งชิ้นในปากที่ไปขโมยมา …จากปากของพี่กันย์

"ครั้งที่สอง รสมะละกอล่ะครับ" ผมพูดไปแค่นั้นก็เจอเข้ากับหมอนที่ลอยเข้ามาปะทะใบหน้าพอดี ผมได้แต่หัวเราะอย่างขำๆ ก่อนจะดึงหมอนออกแล้วนั่งมองคนปาที่ตอนนี้เอาแต่นั่งเม้มปากพร้อมกับหน้าที่เริ่มขึ้นสีอย่างห้ามไม่อยู่ ...ดีกว่ารสเหล้าต้มตั้งเยอะแฮะ

"มึงมันแมร่ง!" พี่กันย์สบถออกมาก่อนจะจิ้มส้อมลงไปบนมะละกอชิ้นสุดท้ายอย่างระบายอารมณ์ซึ่งขัดหน้าเขินๆ ตอนนี้จนผมอดหัวเราะออกมาไม่ได้ก่อนจะอ้าปากรับมะละกอที่คนตรงหน้ายัดเข้ามาใส่ปากผมอย่างหมั่นไส้

"อยากกินก็กินไปเลย" ผมมองพี่กันย์ที่หน้ายังมีสีอยู่อย่างขำๆ ก่อนเจ้าตัวจะเหลือบมามองสองสามรอบจนผมสงสัยแล้วอยู่ดีๆ เจ้าตัวก็ยื่นมือมาก่อนจะใช้หัวแม่มือเช็ดที่มุมปากของผมเบาๆ จนผมอดยิ้มให้กับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ไม่ได้

"งั้นที่เขาว่าไว้ก็จริงสินะครับ" คำพูดของผมทำเอาคนที่กำลังเช็ดปากให้ผมชะงักก่อนจะเลิกคิ้วมองอย่างสงสัยก่อนจะดึงมือกลับไปเมื่อเห็นว่าเรียบร้อยแล้ว

"อะไร?"

"ชิ้นสุดท้าย..." ผมพูดขึ้นมาก่อนจะเท้าคางมองคนตรงหน้าที่นั่งทำหน้าเอ๋อๆ ก่อนจะเผลอยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้

"แฟนน่ารัก"





[Roth-thang's]

"เรียบร้อยรึเปล่า?"

"ถามผมเหรอครับ?" ผมถามขึ้นอย่างงงๆ เมื่อได้ยินเสียงคนถามแต่ไม่มีคนตอบก่อนจะหันไปมอง 'พี่กันย์' ที่พี่ปืนแนะนำว่าเป็นรุ่นพี่ต่างคณะที่มหา'ลัยอย่างงงๆ ก่อนจะชี้มือมาที่ตัวเองก่อนที่คนถามจะพยักหน้ายืนยัน ...ใครจะไปรู้ล่ะครับอยู่ดีๆ ก็ถามขึ้นมา แต่หน้าพี่เขาไม่ได้มองผมนี่

"เรียบร้อยดีครับ"

"แล้วยังไงต่อล่ะ?" คำถามที่ถูกถามขึ้นมาทำเอาผมต้องขมวดคิ้วอย่างสงสัยก่อนจะเหลือบไปมองคนที่ทำหน้าที่ขับรถให้ผ่านทางกระจกมองหลังก่อนจะเหลือบไปมองไอ้พี่ปืนที่นั่งยิ้มอยู่อย่างขำๆ ...ผมว่าผมก็ไม่ได้โง่นะ แต่ทำไมผมไม่เข้าใจคำถามพี่เขาวะ?

"เอ่อ..."

"ขยายความคำว่า 'เรียบร้อย' หน่อย" พี่ปืนพูดแทรกขึ้นมาก่อนพี่กันย์จะเหลือบมามองด้วยหน้าตาเหรอหราประมาณว่า ...กูพูดไม่รู้เรื่องเหรอ?

"สามวิชาที่จองได้เลยก็จ่ายตังค์ยืนยันไปแล้วครับ เหลืออีกสองวิชาที่ยังไม่แน่ใจเลยขอเอกสารมาศึกษาก่อน เปรียบเทียบกันอีกสองที่ ถ้าตัดสินใจได้จะโทรมาจองแล้วก็จ่ายตังค์สิ้นเดือนนี้ครับ" ทันทีที่ผมพูดจบไอ้พี่บังเกิดเกล้าก็ปรบมือก่อนจะผิวปากขึ้นอย่างล้อๆ จนพี่คนขับยิ้มมุมปากขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

"ไม่บอกชื่อวิชามาด้วยเลยล่ะ" ไอ้พี่ปืนแซวขึ้นมาจนผมต้องหันไปมองอย่างเคืองๆ

"ก็จะบอกอยู่หรอกครับ แต่กลัวจะละเอียดเกินไป" ผมประชดก่อนจะมองพี่ชายตัวเองอย่างเซ็งๆ

"กูชอบน้องมึงว่ะ" พี่กันย์พูดขึ้นก่อนจะหัวเราะอย่างถูกใจพลางยื่นกล่องขนมมาให้ ผมรับกล่องขนมมาก่อนจะมองไอ้พี่ชายของผมที่หรี่ตามองไปยังคนขับรถจนพี่พี่กันย์หัวเราะออกมา
 
"กินรองท้องไปก่อนนะ รถไม่ขยับเลยว่ะ" พี่กันย์บอกพลางมองไปยังถนนตรงหน้า ผมมองกล่องขนมในมือก่อนจะเปิดออกดู ...มีแต่ช็อคโกแลต ผมเหลือบไปมองเจ้าของขนมก่อนจะหยิบออกมากินชิ้นหนึ่งอย่างรักษามารยาทเพราะไม่ชอบของหวานเท่าไหร่นักก่อนจะส่งทั้งกล่องคืนไปให้ไอ้พี่ปืนที่ยื่นมารับก่อนพี่ชายของผมจะหยิบชิ้นหนึ่งออกมาแกะแล้วยื่นไปป้อนให้คนที่ขับรถอยู่แต่มือไม่ว่างเพราะต้องขับรถ

"พี่เรียนคณะอะไรนะครับ?" ผมถามขึ้นมาเพราะรู้สึกว่ามันเงียบจนเริ่มจะอึดอัด ...ก็ถ้าพี่คนขับรถเล่นเหลือบมองผมเป็นระยะๆ ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรแต่ไม่พูดแบบนั้นล่ะก็ ผมพูดเองก็ได้ครับ

"สถาปัตย์ครับ ภูมิสถาปัตย์" พี่กันย์ตอบก่อนจะยิ้มผ่านกระจกมองหลังมาให้

"ภูมิสถาปัตย์? เรียนเกี่ยวกับอะไรเหรอครับ มันไม่เหมือนสถาปัตย์ใช่มั้ย?" ผมถามออกไปอย่างสนใจ เพราะถ้าพูดถึงสถาปัตย์หรืออินทีเรียผมก็พอรู้จักอยู่หรอก แต่ภูมิสถาปัตย์นี่เป็นอะไรที่ใหม่สำหรับสมองผมมากจริงๆ

"ใช่ เอาง่ายๆ คือ …สถาปัตย์ออกแบบอาคาร อินทีเรียก็ตกแต่งภายใน พวกเราก็ตกแต่งภายนอกไง"

"ออกแบบสวนอะไรแบบนั้นรึเปล่าครับ?"

"ประมาณนั้นเลย" พี่กันย์บอกก่อนจะยิ้มออกมาอย่างขำๆ ก่อนจะได้ยินเจ้าตัวบ่นกับพี่ปืนว่าเป็นวิชาชีพที่อธิบายยากชะมัดเพราะคนไม่ค่อยรู้จัก ...แต่ผมเข้าใจนะพี่ ถ้าพี่พูดยาวๆ จนรู้เรื่องแบบนี้ผมคิดว่าผมเข้าใจ




 
หลังจากฝ่ามรสุมรถติดเพราะต้องผ่านย่านยอดฮิตหลายแห่ง สุดท้ายพวกผมก็มาโผล่ที่ 'สยาม' ซึ่งได้ยินพี่ปืนแซวพี่กันย์ว่า ...คิดได้แค่นี้ใช่มั้ยครับ? จนพี่กันย์หันมาหรี่ตามองอย่าเซ็งๆ แล้วหนีมาเดินข้างผมแทนจนพี่ปืนต้องเดินตามมาง้อจนผมได้แต่มองตามอย่างสงสัย ...เพิ่งเคยเห็นผู้ชายงอนผู้ชายก็วันนี้แหละครับ

"อยากกินอะไรบอกเลย พี่เป็นเจ้ามือเอง" พี่กันย์พูดขึ้นหลังจากที่เราเดินมาตรงโซนอาหาร ผมหันไปยิ้มขอบคุณก่อนจะมองร้านต่างๆ ที่มีทั้งไทย จีน ญี่ปุ่นอยู่รวมกันจนเลือกไม่ถูก

"แล้วแต่พี่เลยดีกว่าครับ ผมกินอะไรก็ได้" ผมบอกก่อนจะเหลือไปมองพี่ปืนที่เดินมายืนข้างๆ ก่อนจะส่งสายตาปริบๆ มาให้พี่กันย์ก่อนคนปรายตามองจะยู่หน้าขึ้นมาทีหนึ่งแล้วหันไปถามความเห็นว่า …ไอ้พี่ชายของผมจะกินอะไร?

"ชาบูอีกมั้ยล่ะครับ?" พี่ปืนพูดขึ้นก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วรีบยื่นมือมาดึงๆ แขนพี่กันย์ที่เริ่มหรี่ตามองอีกครั้งเหมือนจะง้อก่อนพี่กันย์จะตีเข้าที่ท้องแรงๆ หนึ่งทีอย่างหมั่นไส้จนไอ้พี่ชายของผมถึงกับตัวงอก่อนจะหัวเราะออกมา ...เด็กมหา'ลัยนี่ดูจะมีวุฒิภาวะกว่าเด็กมัธยมนะครับ ถ้าเป็นเพื่อนผมนี่ไม่เล่นกันเบาๆ อย่างนี้แน่

"ร้านนั้นแล้วกัน" พี่กันย์สรุปออกมาก่อนจะเดินนำเข้าไปในร้านที่ที่อยู่ถัดไป





"บาร์ตรงนี้ตักได้เลยนะ แต่ถ้าจะกินตรงส่วนนั้นต้องเอาไม้อันนี้ไปหนีบไว้บนเมนูที่จะสั่ง" พี่กันย์อธิบายในขณะที่เราสามคนพาตัวเองเข้ามานั่งในร้านบุฟเฟ่ต์นานาชาติก่อนจะอธิบายให้ฟังคร่าวๆ ว่าอันไหนตักเองได้เลยหรืออันไหนต้องสั่งก่อนจะโกยตัวหนีบไม้ที่มีหมายเลขโต๊ะกำกับไว้ใส่มือผมและพี่ปืนคนละกอง

"ขอบคุณครับ"

"งั้นเดี๋ยวผมไปสั่งก่อนนะ" พี่ปืนบอกก่อนจะลุกขึ้นแล้วหันมาพยักหน้าให้ผมเดินตามไป ผมมองอาหารมากมายหลายอย่างอย่างเลือกไม่ถูกจนได้แต่เดินตามพี่ปืนไปเรื่อยๆ ก่อนจะหยุดลงตรงหน้าเคาน์เตอร์ที่เต็มไปด้วยเมนูเนื้อย่างมุมหนึ่งซึ่งหลังเคาน์เตอร์มีเชฟที่กำลังจัดการเนื้อตามออเดอร์อย่างแข็งขัน

"ขอโทษนะครับ เนื้อจานนี้รบกวนขอแบบมีเดียมแรร์ แต่ไม่อยากให้ข้างในแดงเกิน ขอชิ้นที่มีไขมันแทรกอยู่แค่นิดๆ หน่อยๆ ก็พอครับ" พี่ปืนบอกหลังจากหนีบตัวหนีบไว้กับเมนูเนื้อวากิวย่างจานหนึ่งก่อนจะหันไปสั่งอะไรอีกยืดยาวจนผมเริ่มงง ...ไม่ใช่แค่หนีบไว้ก็พอเหรอวะ?

"ผมต้องสั่งเขาด้วยป่ะ" ผมถามไอ้พี่ปืนที่หันมามองผมอย่างงงๆ ก่อนจะถามขึ้นมาว่า ...ผมอยากกินอะไร? ผมเลยชี้ไปที่หมูสันคอย่างบนเมนูก่อนพี่ปืนจะหยิบไม้หนีบบนมือตัวเองไปหนีบไว้ให้แล้วเดินไปตรงเคาน์เตอร์ถัดไป

"ไม่ต้องสั่งยาวๆ แบบเมื่อกี้เหรอพี่"

"ไม่อ่ะ แค่หนีบไว้ก็พอ" ผมพยักหน้าตามอย่างงงๆ แล้วเดินตามไป ...แล้วเมื่อกี้ไอ้พี่ปืนมันสั่งอะไรเยอะแยะวะ? ดูไม่ยุติธรรมกับผมเลยแฮะ ผมจะกลับไปฟ้องแม่คอยดู!



"พิซซ่าหน้าฮาวายเอี้ยนอันนี้ขอชีสเยอะๆ  แล้วก็รบกวนช่วยอบให้มันละลายเยอะๆ ด้วยนะครับ"

"พี่ปืน ผมจะเอาอันนี้ด้วย"

"หนีบไว้ดิ"




"สเต็กปลาซาบะอันนี้ขอเนื้อไม่แห้งมาก แต่ช่วยทำให้หนังมันกรอบๆ นิดหนึ่งนะครับ"

"พี่ปืน ผมเอาอันนี้"

"ก็หนีบไว้ตรงนั้นเลย"



"พี่ปืน ผม..."

"หนีบไว้ๆ" ผมมองหน้าไอ้พี่ชายที่เดินมาหยุดตรงเคาน์เตอร์สุดท้ายก่อนจะสั่งอะไรอีกยืดยาวๆ แต่หันมาบอกผมด้วยคำพูดเดิมๆ แค่ว่า ...หนีบไว้เลย! แม่! ไอ้พี่ปืนมันแกล้งผมอ่ะ! ผมมองพี่ชายบังเกิดเกล้าที่เดินกลับไปที่โต๊ะอย่างเซ็งๆ ก่อนจะเดินตามไปแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้ามพี่ๆ ทั้งสองก่อนจะมองคนที่นั่งอยู่ก่อนอย่างสงสัยเพราะไม่เห็นลุกไปสั่งอะไรสักอย่าง

"พี่กันย์ไม่กินเหรอครับ?"

"เดี๋ยวกินกับมัน" พี่กันย์ตอบก่อนจะยิ้มให้พลางมองพี่ปืนที่ลุกออกไปตักอาหารตรงบาร์ที่สามารถตักเองได้เลยอีกครั้งก่อนจะเดินกลับมาพร้อมด้วยอาหารหลายอย่างที่วางลงตรงหน้าโดยไม่ลืมเผื่อแผ่มาถึงผมด้วย ...เห็นแก่ความดีครั้งนี้ ผมจะไม่ฟ้องแม่ก็ได้!

"เนื้อวากิวกับหมูสันคอ 2 ที่ครับ" พนักงานที่เดินเข้ามาพร้อมกับถาดอาหารถามขึ้นก่อนจะวางอาหารลงตรงหน้าตามตำแหน่งที่พี่ปืนบอก หมูสันคอยางตรงหน้าผมกับพี่ปืนและเนื้อวากิว 'ยืดยาว' ...ตรงหน้าพี่กันย์

"พิซซ่าหน้าฮาวายเอี้ยนกับพิซซ่าหน้าไก่บาร์บีคิวครับ" พนักงานคนต่อไปเดินเข้ามาพร้อมพิซซ่าชิ้นขนาดกลางในจานสองจานแล้ววางไว้ตามที่ตำแหน่งที่พี่ปืนบอกเหมือนเดิม พิซซ่าหน้าไก่บาร์บีคิวของผมและพิซซ่าฮาวายเอี้ยน 'ยืดยาว' ...ตรงหน้าพี่กันย์

"สเต็กปลาซาบะกับสเต็กแซลมอน 2 ที่ครับ" และเหมือนเดิม สเต็กปลาซาบะ 'ยืดยาว' ...ตรงหน้าพี่กันย์ ผมอดมองไปยังสองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกหลายอย่าง

อย่างแรก ไอ้พี่ปืนมันก็กินแบบปกติเหมือนผมนั่นแหละ(เพราะฉะนั้นผมจะไม่ไปฟ้องแม่แล้ว) แต่คนที่กินไอ้เมนูยืดยาวนั่นกลับเป็นพี่กันย์ ...เอ่อ ช่างเป็นคนที่มีรายละเอียดในชีวิต 'เยอะ' มากจริงๆ

และอย่างที่สอง โดยปกติคนจะไปสั่งอาหารแทนกันบ้างมันไม่ใช่เรื่องแปลก แต่นี่คือสั่งทั้งหมดและตักให้ทุกอย่าง โอเคครับยังเข้าใจได้ว่าไอ้พี่ปืนมันเป็นรุ่นน้อง แต่เมนูของรุ่นพี่พี่ชายผมตรงหน้านี่มันยาวเกินไป แถมผมยังไม่เห็นพี่เขาจะบอกอะไรก่อนพี่ปืนจะไปสั่งสักอย่าง ประเด็นคือ ...ไอ้พี่ชายผมมันรู้ได้ไง?

"พวกพี่สนิทกัน 'มาก' เหรอครับ" ผมถามขึ้นอย่างสงสัยก่อนจะเหลือบมองพี่ชายทั้งสองตรงหน้า พี่ปืนหลุดขำออกมาก่อนจะหันไปมองพี่กันย์ที่ชะงักไปเล็กก่อนจะพยักหน้าให้เบาๆ

"ก็... สนิทนะ"

"ขนาดไหนเหรอครับ" ผมถามออกไปอย่างห้ามไม่อยู่จนพี่กันย์ถึงกับชะงักแล้วหันมามองผมตาปริบๆ ก่อนผมจะรู้สึกได้ถึงแรงสั่นในกระเป๋ากางเกงจนต้องล้วงเอาโทรศัพท์ออกมา

Bpuen : ถามมากจังวะ?

ผมมองหน้าไอ้คนส่งที่ยังหันไปมองคนข้างๆ ด้วยรอยยิ้มขำๆ อย่างอดแปลกใจไม่ได้ ...ออกตัวแรงขนาดนี้ เรื่องนี้มันต้องมีเงื่อนงำ

Roth-thang : งั้นก็ไม่ต้องรอให้ถาม
Roth-thang : รีบๆ บอกมาเลย
Bpuen : บอกอะไร?

ผมมองไอ้คนตรงหน้าที่ยืดเยื้อไปเรื่อยก่อนจะหันมายักคิ้วให้อย่างกวนๆ

Roth-thang : สนิทกัน 'ระดับ' ไหน
Bpuen : เหยดด เดี๋ยวนี้มีซักเว้ยเฮ้ย!
Roth-thang : หรือจะให้ผมถามรุ่นพี่ 'คนสนิท' ของพี่เอง

"ขนาดปกติ" คำพูดพี่กันย์ที่พูดขึ้นมาทำเอาทั้งผมทั้งพี่ปืนเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์ก่อนจะหันไปมองอย่างงงๆ ด้วยกันทั้งคู่

"ขนาดอะไรครับ?" พี่ปืนถามคำถามเดียวกับที่ผมคิดอยู่พอดีจนผมได้แต่หลุดขำออกมา ...บอกแล้วว่าไม่ได้เป็นเพราะผม แต่เพราะพี่กันย์พูดไม่รู้เรื่องต่างหากเล่า

"ก็ถามว่าสนิทกันขนาดไหนไม่ใช่เหรอ?" พี่กันย์ทวนคำถามก่อนจะเม้มปากด้วยหน้าตาตื่นๆ จนพี่ปืนหลุดหัวเราะออกมาก่อนจะยื่นมือไปลูบหัวพี่ชายตรงหน้าด้วยท่าทางเอ็นดู ...เดี๋ยวนะ! ผมต้องตกใจอะไรก่อนดีครับ รุ่นน้องปีนเกลียวลูบหัวรุ่นรุ่นพี่ หรือ รุ่นพี่ยอมให้รุ่นน้องลูบหัว ...ด้วยท่าทางเอ็นดู

"แต่ผมว่าไม่ปกตินะ" ผมยืนยันก่อนจะขมวดคิ้วจนยุ่งจนพี่กันย์เริ่มหน้าเสีย

"ปกติดิวะ" พี่ฟืนยืนยันก่อนจะเอนตัวไปพิงพนักเก้าอี้ด้วยท่าทางสบายๆ ต่างกับคนข้างๆ ที่เหมือนจะเริ่มแผ่ออร่าความเครียดออกมาอย่างเห็นได้ชัด ...พี่จะไม่คว่ำโต๊ะใช่มั้ยครับ? ผมยังกินไม่เสร็จนะ

"ปกติบ้านพี่ดิ"

"ก็ปกติ ...ของคนเป็น 'แฟน' กันไง" พี่ปืนตอบหน้าตายทำเอาทั้งผมทั้งพี่กันย์อึ้งไปพักใหญ่ๆ ก่อนคนแก่กว่าจะเหลือบมองหน้าผมสลับกับพี่ปืนเป็นระยะๆ ...พระเจ้า! ผมบอกแล้วว่าเรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำ!





[Gun's]

"ก็ปกติ ...ของคนเป็น 'แฟน' กันไง" คำพูดของไอ้ปืนทำเอาผมถึงกับไปต่อไม่ถูกก่อนจะเหลือบไปมองน้องชายของคนข้างๆ ที่นิ่งไปพักใหญ่ๆ อย่างกังวล

...ผู้ชายกับผู้ชายนี่ผมว่าก็ทำใจยากแล้วนะ
...พอต้องไปบอกเพื่อนว่า 'กูชอบผู้ชาย' นี่ยากยิ่งกว่า
...แล้ว 'รถถัง' ที่นั่งอยู่ตรงหน้าที่เป็นถึงครอบครัว เป็นน้องชายที่คลานตามกันมาแท้ๆ ของไอ้ปืน!
...เวรเอ้ย! น้องมันต้องรับไม่ได้แน่ๆ

"พี่กันย์คบกับพี่ปืนเหรอครับ?" ผมมองหน้ารถถังที่ถามขึ้นมาด้วยสีหน้าไม่บ่งบอกอารมณ์จนผมเริ่มหวั่นใจก่อนจะเหลือบไปมองไอ้ปืนที่ยักคิ้วให้อย่างสบายอารมณ์ ...ไม่เครียดหน่อยเหรอวะ?

"คือผมสงสัย..."

"สงสัยว่าไอ้ปืนเป็นเกย์รึเปล่าใช่มั้ย? วางใจได้เลยว่ามันไม่ได้ชอบผู้ชาย มันแค่ชอบพี่เฉยๆ ก่อนหน้านี้มันยังมีแฟนเป็นผู้หญิงเลย แล้วมันก็ไม่ได้สนใจผู้ชายคนอื่นนะ เพราะฉะนั้นมันไม่ได้เป็นเกย์ชัวร์ เชื่อใจได้" ผมตอบรัวออกไปก่อนจะหยุดหายใจเข้าลึกๆ พร้อมกับเสียงหัวเราะเบาๆ ของไอ้สองคนพี่น้องที่ดังขึ้นมาจนผมต้องหันไปมองอย่างงงๆ

"ไม่เขินเหรอครับ" ไอ้ปืนถามก่อนจะยื่นนิ้วมาเขี่ยๆ แก้มผมจนผมได้แต่เลิกคิ้วถามมันอย่างงงๆ ก่อนจะได้ยินเสียงหัวใจเต้นของตัวเองทันทีที่นึกขึ้นได้ 'มันแค่ชอบพี่เฉยๆ' ...เวรเอ้ย!

"ไม่ใช่ครับ คือผมสงสัยว่า..."

"หรือสงสัยว่าพี่เป็นเกย์รึเปล่า? พี่ก็ไม่ได้เป็นนะเว้ย พี่ก็แค่ชอบมัน ...แค่นั้นเอง" ผมตอบประโยคสุดท้ายด้วยน้ำเสียงที่เบาลงหลังจากนึกขึ้นได้ว่าตัวเองเผลอพูดอะไรออกไปอีกแล้วจนไอ้สองพี่น้องที่ตอนนี้ผมคิดว่า …มันคงร้ายพอกันหัวเราะออกมาก่อนไอ้ปืนจะหันมายิ้มให้จนตาหยี

"ขอบคุณนะครับที่ พี่-ชอบ-ผม" ผมหันไปส่งสายตาดุๆ ให้ไอ้ปืนที่ยังขยี้ประโยคที่ผมเผลอพูดออกไปอย่างไม่ดูสถานการณ์ก่อนรถถังทำท่าจะพูดขึ้นมาอีกครั้งอย่างอดตื่นเต้นไม่ได้

"ไม่ใช่ครับคือว่า.."

"หรือว่า..." ยังไม่ทันที่ผมจะได้ตั้งข้อสันนิษฐานต่อไปไอ้ปืนก็ยื่นมือมาล็อคคอผมไว้ก่อนจะดึงผมเข้ากับตัวมันแล้วปิดปากไม่ให้พูดจากนั้นจึงพยักเพยิดหน้าไปทางน้องชายมันเพื่อเป็นสัญญาณให้พูดต่อ

"ผมแค่สงสัยว่าระหว่างพวกพี่สองคน..." ไอ้รถถังถามขึ้นอย่างลังเลก่อนจะยกมือไหว้อย่างขออนุญาตก่อนแล้วพูดต่อก่อนจะหลุดเสียงหัวเราะออกมาเมื่อทั้งผมและไอ้ปืนชะงักไปก่อนจะหันมามองหน้ากัน


"ใครเป็นรุกใครเป็นรับเหรอครับ?"





ขอโทษที่หายไปเป็นอาทิตย์เลยนะคะ TT พอดีอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นอาทิตย์สุดท้ายของการทำงานในปีนี้ งานเลยท่วมหัวแทบเอาตัวไม่รอดมากๆ แต่สุดท้ายเราก็ผ่านมันมาได้(โดยการโยนบางส่วนไปปีหน้า 55555) แต่กว่าจะผ่านมาได้นี่มัน …ตาโหลๆ พอๆ กับพี่กันย์เลยค่ะ แทบไม่ได้นอนเลย ฮืออออ ตอนนี้ก็เลยอยู่ในช่วงวันหยุดยาวแล้วค่า อิอิ อัพตอนนี้เสร็จแล้วจะหนีไปดูพารูรุตรงโซนหน้าจอ มีใครเป็นแฟน AKB48 บ้างมั้ยคะ? มาดำดิ่งด้วยกันเถอะ 55555

Merry X’mas นะคะ ขอให้มีความสุขกันถ้วนๆ หน้าทุกคนเลย
เจอกันตอนหน้าค่ะ ^________^

Zenzai



ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เราก้อสงสัยเหมือนกัน อิอิอิอิอิ   :mew1: 

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
พี่กันย์บอกเลยว่าเป็นรับอย่างภาคภูมิ อิอิ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
จะตอบรถถังยังไงล่ะทีนี้ (โดยส่วนตัวคิดว่าปืนน่าจะรุกนะ แต่ถ้าปืนจะยอมให้พี่กันย์ลองรุกดูสักครั้ง (เผื่อพี่ชอบรุกน้อยกว่า จะได้รับให้ถาวรเลย) ก็ไม่ว่ากัน)
ดูพี่กันย์ตื่นเต้นมากมายกับการเจอน้องแฟนครั้งแรก ถ้าเจอพ่อแม่แฟนนี่คงยิ่งกว่านี้ ฮา

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
รถถัง.... พี่ปืน พี่กัลย์ แมนๆ ทั้งคู่
มันก็น่าสงสัยเนาะ
แต่ปืนคงไม่ยอมให้พี่กัลย์รุกแน่เลย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ร้ายๆ อย่างปืน  มีหรือจะยอมให้พี่กันย์รุก  รถถังถามนำอะดิ ใช่ปะ :hao3:

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
น้องรถถังสงสัยเหมือนเราเลย 5555  :แต่เราว่า...คิคิ  จะเดาถูกไหมน๊าาาา

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
เราจะได้รู้พร้อมรถถังใช่ไหม หรือถ้ารถถังรู้ก็มากระซิบบอกกันบ้างนะ อยากรู้ด้วยว่าใครรุกใครรับ :katai2-1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
โอยยยย
พี่กันย์น่ารักมาก ใส่ห่อกลับบ้านให้หน่อยเถอะ

โดนสองพี่น้องป่วนจนหัวปั่นเลย

ว่าแต่....พี่พร้อม "รับ" ใช่ไหมเคอะ?

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
รถถังถามได้ตรงใจเจ๊มากเลยค่ะ อิอิอิ :katai2-1:

ออฟไลน์ satiara

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
หนูรถถังทำดี คำถามดีมากก
#สงสัยมากมานานแล้ว 555

ออฟไลน์ Loste

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 430
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
เราก้อสงสัย งุงิ งุงิ

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6

ออฟไลน์ zenzaii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
30-...ก็ถ้าพี่จะรุก แล้วผมต้องรับมั้ยครับ?

[Bpuen's]

"สวัสดีตอนเช้าครับ" ผมเอ่ยทักคนที่กำลังนอนอยู่ก่อนจะออกแรงเขย่าเบาๆ เพื่อให้เจ้าตัวรู้สึกตัว พี่กันย์ลืมตาขึ้นมามองอย่างงงๆ ก่อนจะคว้าโทรศัพท์ที่วางอยู่ใกล้หมอนขึ้นมาดูเวลา

"เช้าตลอดอ่ะ" พี่กันย์บ่นงุบงิบๆ ก่อนจะนิ่งไปพักหนึ่งเพื่อเรียกสติก่อนจะยื่นมือมาให้ ผมยิ้มให้กับท่าทางขี้อ้อนของคนตรงหน้าที่ดูเหมือนจะมากขึ้นทุกวันก่อนจะดึงเจ้าตัวให้ลุกขึ้นมานั่งอย่างที่ต้องการ

"ไปอาบน้ำเลยครับ วันนี้ให้แค่สิบห้านาทีนะ" ผมบอกก่อนจะยัดผ้าขนหนูใส่มือคนที่ยังไม่ตื่นดีก่อนจะออกแรงดึงให้เจ้าตัวไปยังห้องน้ำ

"ยี่สิบไม่ได้เหรอวะ?" พี่กันย์ทำตาปริบๆ ก่อนจะกอดวงกบประตูไว้อย่างไม่ยอมขยับ

"ยี่สิบก็ได้ครับแต่ห้ามมากกว่านี้นะ" ผมกำชับก่อนจะขยี้หัวคนตรงหน้าเบาๆ จนเจ้าตัวคลี่ยิ้มออกมาก่อนจะถอยหลังเข้าไปในห้องน้ำ ผมมองอย่างขำๆ ก่อนจะดึงประตูมาปิดให้พร้อมกับเสียงรับทราบจากคนที่เริ่มปฏิบัติภารกิจของตัวเอง

"โอเค"




"ดูอะไรอยู่วะ?" เสียงทักดังขึ้นทันทีที่เจ้าของห้องเดินออกมา วันนี้เจ้าตัวใส่เสื้อยืดสีดำพอดีตัวกับกางเกงขาเดปสีเข้มพร้อมด้วย Accessories ทั้งสี่ที่ไม่เคยขาดก่อนจะทักทายไอ้รถถังที่นั่งดูการ์ตูนตอนเช้าอยู่หน้าโทรทัศน์

"สวัสดีครับพี่"

"หวัดดี" พี่กันย์เอ่ยตอบก่อนจะเดินถือถุงเท้าไปนั่งตรง Bean bag อีกอันที่วางอยู่ข้างๆ อันที่รถถังนั่งอยู่

"แต่งตัวซะหล่อเลยพี่" ไอ้รถถังชมจนเจ้าตัวหันไปยิ้มมุมปากให้อย่างมาดมั่นจนผมอดหมั่นไส้ให้กับคนที่มีความมั่นใจในรสนิยมเกินร้อยไม่ได้ก่อนจะวางจานแซนวิสกับแก้วใส่นมโอวิลตินของโปรดไว้ตรงหน้าพี่กันย์แล้วนั่งลงกับพื้นข้างเจ้าตัว

"ยังไม่เซตผมเหรอครับ" ผมถามพลางยื่นมือไปปัดๆ ผมของคนตรงหน้าที่ดูเหมือนจะยาวขึ้นจนแทบจะเข้าตาอยู่แล้วอย่างอดรำคาญแทนไม่ได้ พี่กันย์พยักหน้าก่อนจะอ้าปากรับแซนวิสที่ผมยื่นไปให้เพราะเห็นว่าใกล้จะได้เวลาแล้ว

"ลืมไปเลยก็ได้ครับว่าผมอยู่ตรงนี้" เสียงของไอ้รถถังบวกกับสายตาล้อเลียนทำให้พี่กันย์หยุดชะงักก่อนจะหันมามองหน้าผมก่อนจะมองมือที่จับปลายแซนวิสอีกด้านไว้อย่างเขินๆ

"เดี๋ยวกูกินเอง" พี่กันย์บอกก่อนจะใช้ปากดึงแซนวิสในมือไปทั้งชิ้นก่อนจะตั้งใจใส่ถุงเท้าจนเสร็จ จากนั้นก็เดินไปล้างมือก่อนจะจับแซนวิสมากินต่อจนหมด ผมได้แต่หันไปมองอย่างขำๆ ก่อนจะหันมามองไอ้รถถังที่หันมายักคิ้วให้อย่างอารมณ์ดี

“แกล้งแฟนกูเหรอวะ?” ผมถามมันอย่างหมั่นไส้ก่อนจะยก Bean bag อันที่ว่างอยู่ทุ่มใส่หัวมัน

"พวกมึงสองคนล่ะกินอะไรยัง?"

"เรียบร้อยแล้วครับ" ผมหันไปตอบก่อนจะดึง Bean bag อีกอันที่ไอ้รถถังเตรียมจะทุ่มใส่ผมกลับมาก่อนจะมองหน้าไอ้น้องตัวแสบที่ยิ้มร้ายๆ เหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้อีกแล้ว

"ต้องขยายความคำว่า 'เรียบร้อย' อีกมั้ยครับพี่เขย เอ๊ะ หรือพี่สะใภ้?"

"พรวดดด แค่กๆๆๆ" คำถามของไอ้รถถังทำเอาพี่กันย์ที่กำลังดื่มนมในแก้วถึงกับพ่นออกมาก่อนเจ้าตัวจะไอต่อขนานใหญ่จนผมต้องเอื้อมมือไปช่วยลูบหลังให้

"เป็นอะไรมั้ยครับ?" ผมถามขึ้นทั้งๆ ที่ในใจก็อดขำไปด้วยไม่ได้ ...ไอ้รถถังนี่มันร้ายโดยสายเลือดแท้ๆ

"กูโอเค" พี่กันย์บอกก่อนจะดึงทิชชู่ที่ผมส่งให้ไปเช็ดปากก่อนจะมองไอ้รถถังที่หลังจากทิ้งระเบิดตูมใหญ่ไว้แล้วมันก็หันกลับไปดูการ์ตูนต่ออย่างสบายออกสบายใจ

"แต่จะว่าไป ...ผมก็เริ่มสงสัยแล้วเหมือนกันนะครับ" คำพูดของผมทำเอาพี่กันย์ที่เพิ่งหายใจเข้าทีหันมามองอย่างงงๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นหรี่ตาอย่างไม่ไว้ใจ

"สงสัยอะไรของมึง?"

"ระหว่าง เขย กับ สะใภ้ พี่กันย์อยากเป็นอะไรมากกว่ากัน?"

"ไอ้เชี่ยปืน!"





[Gun's]

"ไอ้พี่น้องคู่นี้แมร่ง!" ผมอดสบถออกมาไม่ได้เมื่อนึกถึงสองศรีพี่น้องที่กำลังนั่งรอผมอยู่หน้าโทรทัศน์ในระหว่างที่ผมเดินเข้ามาเซตผมก่อนจะนึกไปถึงคำพูดที่พวกมันเอาแต่ถามผมอยู่นั่น ...รุกหรือรับ? เขยหรือสะใภ้?

...เกิดมายี่สิบเอ็ดปีมีแฟนเป็นผู้ชายนี่ผมว่ารันทดแล้วนะ ทำไมต้องมานั่งคิดด้วยวะว่าต้องรับบทไหน ให้ตาย!

"ให้เวลาอีกห้านาทีนะครับ" เสียงไอ้ปืนตะโกนเข้ามาทำให้ผมเหลือบไปมองประตูห้องอย่างหงุดหงิดก่อนจะตะโกนรับคำมันออกไป หลังจากนั้นจึงหันมาเซตผมด้วยความไวแสงอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน …สองนาที ผมมองสารรูปขอตัวเองในกระจกให้พอรับได้ก่อนจะเอาเวลาที่เหลืออีกสามนาทีล้วงโทรศัพท์ขึ้นมา กดเข้าแอพกูเกิ้ลแล้วพิมพ์ลงไปว่า

'รุกกับรับ ต่างกันอย่างไร?"

...ไม่เคยคิดมาก่อนเลยครับว่าตัวเองจะมีโมเมนต์ที่ต้องมาพิมพ์อะไรแบบนี้ลงไปในกูเกิ้ล ผมล่ะอยากตาย!





"ผมขับให้นะครับ" ไอ้ปืนที่เดินอยู่ข้างๆ เอ่ยขึ้นก่อนจะยื่นมาตรงหน้าผมเหลือบไปมองมันก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธ

"เดี๋ยวกูขับเอง" ผมบอกก่อนจะเดินไปนั่งยังฝั่งคนขับจนไอ้ปืนได้แต่มองตามอย่างงงๆ แต่ก็ยอมไปนั่งฝั่งข้างคนขับแต่โดยดี

"เข็มขัดมึง" ผมมองหน้ามันแล้วมองเลยไปยังเข็มขัดนิรภัยข้างๆ ที่เจ้าตัวยังไม่ได้รัดก่อนจะเอื้อมมือผ่านตัวมันไปเพื่อจะดึงมารัดให้อย่างที่ไอ้ปืนชอบทำ …เชี่ยยย! ติด! ผมก้มมองเข็มขัดนิรภัยของตัวเองที่รั้งตัวผมไว้อย่างเซ็งๆ

"พี่จะทำอะไรครับ?" ไอ้ปืนถามขึ้นพลางมองผมอย่างงงๆ พลางมองผมที่เอนหลังกลับมาที่เบาะของตัวเอง

"รัดเข็มขัดให้มึงไง" ผมบอกก่อนจะมองหน้าคนตรงหน้าที่ยิ้มอย่างขำๆ ก่อนเจ้าตัวจะเอื้อมมือมาเพื่อปลดล็อคเข็มขัดที่ของผมให้แล้วถอยกลับไป

"เอาล่ะครับ รัดให้ผมได้แล้ว" มันบอกก่อนจะยักคิ้วมาให้ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ จากไอ้เด็กที่นั่งอยู่เบาะหลังจนหน้าผมเริ่มร้อนๆ …ไม่รงไม่รัดให้แมร่งแล้ว โว๊ะ!

"รัดเองเลยมึง ลำบากกูเกิน" ผมบอกก่อนจะรัดเข็มขัดให้ตัวเองใหม่จนไอ้ปืนหลุดหัวเราะออกมาอีกครั้ง ผมเหลือบไปมองคนที่รัดเข็มขัดให้ตัวเองอย่างเซ็งๆ พลางนึกไปถึงเนื้อหาในอินเตอร์เน็ตที่ผมเพิ่งเจอมา

'รุกกับรับต่างกันอย่างไร?'
'รุก คือฝ่ายกระทำเปรียบเสมือน ฝ่ายชาย'
'รับ คือฝ่ายถูกกระทำเปรียบเสมือน ฝ่ายหญิง'

...ไหนๆ ก็ได้ผู้ชายแล้วขอเป็นชายเหนือชายแล้วกันนะครับ อย่าให้ชีวิตผมต้องอัปยศอดสูไปมากกว่านี้เลย!





[Bpuen's]

"เดี๋ยวกูเปิดให้" ผมชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตูก่อนจะมองพี่กันย์อย่างงงๆ แต่สุดท้ายนั่งรอให้คนที่เพิ่งละจากตำแหน่งคนขับรถเดินอ้อมโลกเพื่อมาเปิดประตูให้แล้วอันเชิญให้ผมลงจากรถก่อนจะยิ้มกว้างให้แล้วหลบไปถอนหายใจ

…อาการแบบนี้ มีแผนในใจอะไรอีกชัวร์!

"ขอบคุณครับผม" ผมหันไปยิ้มให้คนที่วันนี้ดูจะใจดีเป็นพิเศษก่อนจะพากันเดินเข้าไปยังประตูทางเข้าขนาดใหญ่ที่มีป้ายตัวอักษรเขียนว่า 'สวนสัตว์ดุสิต' พร้อมด้วยรูปปั้นสิงสาราสัตว์อีกมากมาย ผมหันไปมองคนต้นคิดที่จะพาไอ้รถถังมาที่นี่อย่างเริ่มสงสัยกับท่าทางแปลกๆ ไม่ได้ ก่อนจะไล่ไปตามวันสำคัญต่างๆ ก็ดูไม่มีวันไหนจะเข้าเค้าที่จะเป็นสาเหตุให้คนตรงหน้าทำตัวแปลกๆ เลยสักอย่างจนผมเริ่มปลงก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปหาพี่กันย์

"รอตรงนี้ก็ได้ครับ เดี๋ยวผมไปซื้อ..."

"เดี๋ยวกูไปซื้อให้" พี่กันย์เสนอตัวก่อนจะฝากกระเป๋าสะพายไว้กับผมแล้วพาตัวเองเดินเข้าไปต่อแถวเพื่อซื้อตั๋วเข้า

"กี่ท่านคะ?" เสียงพนักงานสาวถามขึ้นพลางยิ้มให้อย่างมีไมตรี

"สามคนครับ" พี่กันย์บอกก่อเจ้าตัวจะล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วก็ชะงักไปจนผมสงสัย ก่อนจะเจอสายตาที่มองมาอย่างขอความช่วยเหลือจนผมต้องเดินเข้าไปหาอย่างงงๆ

"มีอะไรหรอครับ?" ผมถามก่อนเจ้าตัวจะชี้มาที่กระเป๋าสะพายหลังที่ฝากไว้

"กระเป๋าตังค์" พี่กันย์บอกอย่างเซ็งๆ จนผมเผลอหัวเราะออกก่อนจะปลดกระเป๋าสะพายลงแล้วล้วงเอากระเป๋าตังค์ของเจ้าตัวยื่นไปให้

"มีตังค์พอใช่มั้ยครับ?" ผมแกล้งถามจนได้รับสายตาดุๆ กลับมาก่อนเจ้าตัวจะหันไปจ่ายตังค์แล้วรับตั๋วมาสามใบ

"ทำไมมันยากอย่างนี้เนี่ย เฮ้อ"

"พี่ว่ายังไงนะครับ" ผมหันไปกลับไปถามเพราะได้ยินไม่ค่อยชัดก่อนเจ้าตัวจะหันมาทำหน้าเหรอหราแล้วบอกให้เดินเข้าไป





"เอาไปให้มันกินดิ" พี่กันย์กำใบไม้ที่เป็นอาหารของเจ้ายีราฟตรงหน้ามากำหนึ่งก่อนจะยื่นให้ไอ้รถถังเพื่อเอาไปให้มันกินแต่คนยื่นกลับไม่เข้าไปด้วย

"ไม่ไปด้วยกันเหรอพี่?" ไอ้รถถังถามพลางพยักหน้าคะยั้นคะยอให้เจ้าตัวเดินตามมาด้วยกันแต่พี่กันย์ก็เอาแต่สายหน้าจนผมต้องเดินเข้าไป

"เป็นอะไรครับ?"

"ไม่เป็นไรนี่" พี่กันย์บอกก่อนจะฉีกยิ้มออกมาจนผมเกือบจะเชื่อจริงๆ ถ้าไม่ติดว่า…

"อ่ะพี่ ผมเอายีราฟมาให้" ไอ้รถถังพูดขึ้นก่อนจะค่อยๆ ใช้ใบไม้ที่เหลือล่อยีราฟมาตรงด้านที่พี่กันย์ยืนอยู่จนผมอดขำในความกวนตีนของมันไม่ได้ ก่อนจะหันไปมองคนที่เอาแต่ยืนหันหน้าไปทางอื่นในขณะที่มือก็พยายามยื่นใบไม้ให้เข้าปากยีราฟตามคำชักชวนของไอ้รถถัง

"เชี่ย!" พี่กันย์สบถออกมากก่อนจะปล่อยตะกร้าลงบนพื้นแล้วกระโดดถอยห่างออกไป เจ้าตัวยกมือทั้งสองข้างขึ้นอย่างยอมแพ้ด้วยท่าทางสั่นๆ เหมือนกลัวอะไรบางอย่าง

"เป็นอะไรครับ?" ผมถามย้ำก่อนล้วงเอาทิชชู่เปียกออกมาเช็ดมือของคนตรงหน้าที่เห็นเป็นคราบเปียกๆ ติดอยู่

"ลิ้นมันโดนมือกูอ่ะ" พี่กันย์บอกก่อนทำหน้าเหมือนร้องไห้พลางเอามือมาเช็ดๆ ที่เสื้อผมอย่างรวดเร็ว
 
"พี่กลัวยีราฟ?" ไอ้รถถังถามอย่างสงสัยก่อนจะพยายามกลั้นยิ้มเมื่อเมื่อเห็นท่าทางพี่กันย์ที่พร้อมจะสลายร่างทุกเมื่อ

"เปล่า กูแค่ไม่ชอบลิ้นมัน" พี่กันย์บอกก่อนจะทำหน้าแหยงๆ อีกครั้งเมื่อหันไปตอบไอ้รถถังแต่ไอ้คนถามดันหยิบใบไม้ยื่นไปให้ยีราฟจนมันยื่นลิ้นยาวๆ ของมันออกมาเกี่ยวใบไม้เข้าปากไปอีกที

"ไอ้ปืน กูอยากฆ่าน้องมึง" พี่กันย์บอกก่อนจะกระโดดมายืนข้างๆ ผมพร้อมกับมองไอ้ตัวต้นเหตุที่เอาแต่หัวเราะอย่างคาดโทษ

"ทำไมพี่ไม่ชอบล่ะครับ" ไอ้รถถังถามหลังจากที่ยอมลามือจากการให้อาหารยีราฟก่อนจะหยิบตะกร้าใส่ใบไม้ขึ้นมาแล้วส่งคืนไปให้คนดูแล

"มันแหยะ" พี่กันย์บอกก่อนจะทำหน้าแหยงๆ แล้วเดินนำลงลงบันไดไป

"งั้นพี่ก็ไม่ชอบสัตว์ที่มีลิ้นทุกตัวเลยป่ะครับ" ไอ้รถถังยังถามต่อจนพี่กันย์ชะงักก่อนจะทำท่าคิดอย่างจริงจัง

"ประมาณนั้น" ไอ้รถถังพยักหน้าเออออก่อนจะหันมาตบไหล่ผมเบาๆ อย่างเห็นใจจนพี่กันย์ยังหันกลับมามออย่างสงสัยอีกคน

"จำไว้นะพี่"

“อะไรวะ?”

"พี่กันย์ไม่ชอบลิ้น อย่าเผลอใช้นะครับผม" ไอ้รถถังพูดต่ออย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินนำไปยังกรงถัดไปปล่อยให้ผมกับพี่กันย์ยืนมองหน้ากันย์อย่างงงๆ ก่อนจะนึกได้เมื่อคนตรงหน้าเผลอสบถออกมาก่อนจะไล่ตามไอ้น้องชายตัวดีของผมไป

...เวรกรรม ใช้ไม่ได้จริงๆ เหรอวะ?






[Gun's]

"เอาน้ำอะไร?" ผมหันไปถามไอ้ปืนที่ตอนนี้ยืนรอไอ้รถถังมันเข้าไปซื้อของในร้านขายของที่ระลึกของสวนสัตว์ด้วยเหตุผลที่ว่าจะเอาไปฝากสาวก่อนมันจะยิ้มให้แล้วบอกว่า

“อะไรก็ได้ครับ” …ไอ้เชี่ยปืนครับ! เรื่องมากหน่อยมั้ยมึง ตอบแบบนี้กูต้องคิดอีกสิ โว๊ะ!

ผมคิดอย่างเซ็งๆ ก่อนจะตรงไปร้านขายน้ำเพื่อซื้อน้ำเปล่าสองขวดและเกลือแร่อีกขวด ...ของผมเองครับ ทำไมการพยายามทำตัวเป็นชายเหนือชายนี่มันเหนื่อยขนาดนี้วะ? ผมสบถในใจเพื่อไม่ให้เชิงชายก่อนจะเดินกลับมาหาไอ้ปืนที่ยืนอยู่กับไอ้รถถังที่ตอนนี้มีตุ๊กตาช้างน้อยน่ารักติดดอกไม้สีชมพูอยู่ในมือหนึ่งตัวก่อนจะยื่นขวดน้ำเปล่าไปให้

...รสนิยมแมร่งพอกันทั้งพี่ทั้งน้อง

"ขอบคุณครับ" ไอ้ปืนบอกก่อนจะรับขวดน้ำขวดหนึ่งไปเปิดฝา ใส่หลอดลงไปแล้วยื่นไปให้ไอ้รถถัง ผมมองภาพนั้นอย่างเงียบๆ ก่อนจะเรียนรู้จากมัน จากนั้นจึงดึงขวดน้ำหนีเมื่อมันทำท่าจะเอาไป

"เดี๋ยวกูเปิดให้" ผมบอกมันก่อนจะฝากขวดเกลือแร่ให้มันถือแล้วหันมาสนใจกับขวดน้ำตรงหน้าแทน ผมบรรจงบิดฝาขวดน้ำตรงหน้าแต่ทำไมมันไม่เห็นง่ายเหมือนเวลาไอ้ปืนมันทำเลยวะ? เลยตัดสินใจเพิ่มแรงบิดอีกนิด อีกนิดและอีกนิด จนในที่สุดฝาก็เปิดออกแต่น้ำมันดันกระฉอกออกมาเพราะไอ้ขวดแสนบอบบางที่ถูกออกแบบมาด้วยความรักษ์โลกดันทำตัวอ่อนแอเกินไปแค่เพราะแรงบีบของผม

...แมร่ง ทำไมไม่ออกแบบมาให้ซัพพอร์ตความอยากเท่ของกูหน่อยวะ

"ทิชชู่ครับ" ไอ้ปืนส่งทิชชู่มาให้(ซึ่งเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ของวัน)ก่อนจะช่วยซับน้ำที่เลอะอยู่ตามข้อมือของผม
 
"เดี๋ยวกูเช็ดเอง" ผมบอกก่อนจะแย่งทิชชู่ในมือมันมาทั้งหมดเพื่อซับรอยน้ำที่ยังเหลืออยู่ก่อนจะรับขวดเกลือแร่ที่มันส่งกลับมาให้แล้วชวนไอ้สองพี่น้องขีปนาวุธตรงหน้าไปหาข้าวเที่ยงกิน





"เคลียร์โต๊ะให้หน่อย" ผมบอกไอ้ปืนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะก่อนจะค่อยๆ วางถาดไก่และอะไรต่อมิอะไรที่อยู่ในเมนูลงตรงหน้าก่อนจะจัดการแยกถาดออกมาแล้วเอาไปวางไปที่เคาน์เตอร์กลาง

"ผมไปเอาจานมาให้นะครับ" ไอ้ปืนบอกก่อนทำท่าจะลุกไปจนผมต้องยกมือห้ามไว้แล้วลุกขึ้นเอง ...ให้มันทำไม่ได้ครับ เสียเชิงชายหมด

"เดี๋ยวกูไปเอาให้" ผมบอกก่อนจะอาสาเดินกลับไปเคาน์เตอร์กลางอีกครั้งก่อนจะหยิบจานสามใบกลับมา

"ช้อนกับส้อม" ไอ้ปืนพูดเกริ่นขึ้นมาก่อนจะมองหน้าผม ผมมองมันงงๆ ก่อนจะนึกได้แล้วเดินกลับไปใหม่จากนั้นก็หยิบช้อนกับส้อมสามคู่กลับมาที่โต๊ะ

"เอ่อ...." ไอ้ปืนส่งเสียงขึ้นมาครั้งจนผมต้องมองไปบนโต๊ะก่อนจะนึกขึ้นได้อย่างเริ่มหงุดหงิดก่อนจะเดินกลับไปที่เคาน์เตอร์กลางอีกครั้งเพื่อหยิบมีดกลับมา ...มันจะหลายรอบเกินไปแล้วนะผมว่า

"ซอสครับ" คราวนี้เป็นตาไอ้รถถังที่พูดขึ้นมาบ้าง ผมหันกลับไปที่เคาน์เตอร์กลางอย่างน้ำตาจะไหลก่อนมือของไอ้ปืนจะยื่นมาดึงไว้แล้วทำท่าจะลุกไปเอง

"ไม่เป็นไร กู-ไป-เอา-ให้" ผมบอกมันอย่างเริ่มหมดความอดทนก่อนจะเดินกลับไปที่เคาน์เตอร์กลางอีกครั้งแล้วหยิบถ้วยพลาสติกเล็กๆ มาสองใบก่อนจะกดซอสมะเขือเทศลงไปแล้วเดินกลับมา ...ไม่เหลืออะไรให้กูหยิบแล้วนะเว้ย!

"พี่กันย์ครับ" เสียงเรียงของไอ้ปืนทำเอาที่เพิ่งกลับมานั่งได้ไม่ถึงนาทีเงยหน้าขึ้นมองอย่างเริ่มโอดครวญก่อนจะถามมันออกไป

"กูลืมอะไรอีก?"

"ซอสพริกครับ" ผมอ้าปากค้าง

"มึงจะกินใช้มั้ย? โอเค เดี๋ยวกูไปเอาให้นะ" ผมบอกกับตัวเองอย่างใจเย็นแล้วลุกขึ้นอีกรอบก่อนคนตรงหน้าจะดึงไว้แล้วยิ้มให้ก่อนจะลุกขึ้นเอง

"ก็พี่กันย์ไปไม่กินซอสมะเขือเทศไม่ใช่เหรอครับ? เดี๋ยวผมไปเอาให้นะ" มันบอกก่อนจะยื่นมือมาขยี้หัวผมเบาๆ จนผมต้องฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะอย่างหมดแรง

...ถ้าจะเหนื่อยขนาดนี้ กูไม่เป็นแมร่งละ ฝ่ายรุก ฝ่ายรับอะไรนั่น เซ็งโว้ยย!





[Bpuen's]

"กูขอไปห้องน้ำห้านาที" พี่กันย์บอกก่อนจะฝากโทรศัพท์ไว้แล้วเดินเข้าห้องน้ำไปพร้อมกับไอ้รถถัง ผมเลยไปหาที่นั่งรอใต้ต้นไม้ตรงหน้าห้องน้ำ

ครืดด... ครืด... แรงสั่นจากโทรศัพท์ในมือทำให้ผมต้องยกโทรศัพท์ของพี่กันย์ที่ฝากไว้ขึ้นมาดูก่อนจะเห็นเบอร์ที่ไม่ได้บันทึกไว้โทรเข้ามา ...เบอร์ไอ้รถถังนี่หว่า ผมมองอย่างงงๆ ก่อนจะกดรับ

"ว่าไงมึง" ผมกรอกเสียงลงไป ปลายสายเงียบอยู่พักหนึ่งก่อนจะตอบกลับมา

(อ้าว ไอ้ปืนเหรอวะ?) เสียงกันย์ถามขึ้นอย่างงงๆ ก่อนจะได้ยินเสียงไอ้รถถังหัวเราะแล้วแซวคนข้างๆ กลับมา

(แก่แล้วฟั่นเฟือนนะพี่)

"ครับ?"

"เปล่าๆ ไม่มีอะไร กูแค่หาโทรศัพท์ไม่เจอ แค่นี้นะ" บอกได้เท่านั้นก็ตัดสายไป ผมได้แต่ก้มมองโทรศัพท์ในมืออย่างขำๆ ก่อนจะสะดุดใจกับอะไรบางอย่างที่ปรากฎขึ้นมาบนหน้าจอ มันเป็นหน้าต่างของแอพพลิเคชั่นสำหรับหาข้อมูลอย่างที่คุ้นเคยกันนั่นแหละครับ เพียงไอ้คำค้นหน้าตรงหน้ามัน…

'รุกกับรับต่างกันอย่างไร?'

"โห จริงจังวะ" ผมพูดกับตัวเองอย่างขำๆ ก่อนจะเลื่อนลงไปอ่านเนื้อหาที่มีคนคอมเมนต์ต่อไว้อีกยืดยาว ...รุก คือฝ่ายกระทำ เปรียบเสมือนผู้ชาย รับคือฝ่ายถูกกระทำ เปรียบเสมือนผู้หญิง ฝ่ายกระทำ? เหมือนผู้ชาย? ผมเอะใจกับคำนิยามตรงหน้าจนพาลนึกไปถึงการกระทำแปลกๆ ของเจ้าของโทรศัพท์วันนี้อย่างอดไม่ได้

...ที่แท้ก็อยากรุก!

"กลับกัน" เสียงพี่กันย์ที่ดังมาพร้อมกับเจ้าตัวทำให้ผมละสายตาจากโทรศัพท์ก่อนจะกดล็อคแล้วส่งคืนให้ก่อนจะแซวเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อกี้กลับไป

"ลืมเหรอครับว่าฝากผมไว้"

"เออ" พี่กันย์บอกอย่างเซ็งๆ ก่อนจะเหลือบไปมองไอ้รถถังที่คงจะแซวเรื่องนี้มาตลอดทางแน่ๆ

"เหมือนคุณครูแก่ๆ ที่โรงเรียนผมที่เอาแต่หาแว่นทั้งๆ ที่คาดแว่นไว้บนหัวไม่มีผิด"

"ไอ้น้องเวร!" พี่กันย์ด่าก่อนจะขยี้หัวไอ้น้องชายผมแรงๆ อย่างหมั่นไส้จากนั้นจึงพากันเดินออกไปเพราะต้องไปส่งไอ้รถถังให้ทันขึ้นรถกลับบ้านตอนเย็น

"จะขับเองมั้ยครับ?" ผมถามขึ้นมายิ้มๆ พลางมองเจ้าของรถที่ตอนนี้ดูหมดเรี่ยวแรงมากกว่าปกติอย่างขำๆ ก่อนจะยื่นกระเป๋าสะพายคืนไปให้

"มึงขับเลย กูไม่ขับแมร่งละ" พี่กันย์พูดขึ้นมาก่อนจะล้วงเอากุญแจรถในกระเป๋าออกมาโยนให้แล้วก้าวขึ้นไปนั่งข้างที่นั่งคนขับอย่างเซ็งๆ

"ผมคาดเข็มขัดให้นะครับ" ผมบอกในขณะที่พาตัวเองขึ้นมานั่งประจำที่สารถีเรียบร้อยแล้วพาลนึกไปถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เจ้าตัวพยายามทำมาตั้งแต่เช้าอย่างอดไม่ได้ จากนั้นจึงค่อยๆ เอื้อมมือไปดึงสายเข็มขัดของอีกฝ่ายมาล็อคไว้กับที่ล็อคข้างตัวพลางเหลือบไปมองพี่กันย์ที่พยายามจะลอกตามการกระทำของผมอย่างอดยิ้มไม่ได้

“เวลาจะรัดเข็มขัดให้คนอื่น ก็อย่าเผลอรัดของตัวเองซะก่อนล่ะครับ”

"เออ กูจะจำไว้" พี่กันย์ประชดก่อนจะเอนตัวลงกับเบาะแล้วหันหน้าไปมองนอกหน้าต่างอย่างเซ็งๆ





"จอดตรงนี้เลยพี่" ไอ้รถถังร้องบอกก่อนผมจะเทียบรถเข้ากับข้างทาง มันหันมาไหว้พวกผมคนละทีก่อนจะเอ่ยขอบคุณแล้วลงจากรถไป

"กลับดีๆ นะเว้ย" พี่กันย์ลดกระจกลงก่อนจะโบกมือให้จนคนที่ต้องกลับบ้านส่งยิ้มกว้างกลับมา

"ไปเที่ยวที่บ้านผมบ้างนะครับ พี่สะใภ้!"

"บ้านมึงสิ!" พี่กันย์สบถออกมาก่อนจะริบปิดหน้าต่างเมื่อคนเริ่มหันมามองอย่างอายๆ ที่น้องชายผมตะโกนขึ้นมาพร้อมกับระบุสถานะให้เสร็จสรรพ

"น้องมึงนี่มันแมร่ง!" พี่กันย์ยังคงบ่นงุบงิบตลอดเวลาที่ผมขับรถกลับหอจนผมอดที่จะแกล้งต่อไม่ได้

"ไม่อยากเป็นสะใภ้เหรอครับ?"

"เออดิ กูเป็นผู้ชายนะเว้ย!" พี่กันย์หันมามองหน้าผมเซ็งๆ ก่อนจะล้วงเอาช็อคโกแลตในกล่องออกมากิน

"แต่ก็มีแฟนเป็นผู้ชาย"

"อย่าย้ำ ไอ้ห่านี่!" เจ้าตัวปรายตามามองแรงๆ หนึ่งทีจนผมอดหัวเราะออกมาไม่ได้ก่อนจะเลี้ยวเข้าที่จอรถเมื่อมาถึงหอพี่กันย์

"อยากเป็นเขยว่างั้น?"

"ก็ยังดีกว่าเปล่าวะ?" คนอยากเป็นเขยบอกก่อนจะทำหน้ายู่ให้หนึ่งที ผมมองพี่กันย์อย่างขำๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปปลดเข็มขัดของเจ้าตัวเพื่อให้คนข้างๆ เอื้อมไปหยิบกระเป๋าสะพายที่อยู่เบาะหลังได้สะดวก

"งั้นถ้าพี่อยากรุกนัก ผมรับให้ก็ได้นะครับ" คำพูดของผมทำเอาเจ้าตัวหันมามองอย่างอึ้งๆ ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างถูกใจ

"ดีมากเด็กน้อย ว่าง่ายๆ โตไวไว" พี่กันย์พยักหน้ากับตัวเองอย่างอารมณ์ดีก่อนจะส่งยิ้มกว้างมาให้ ผมมองริมฝีปากคนตรงหน้าที่มีรอยช็อคโกแลตติดอยู่เป็นคราบอย่างขำๆ …โตจนป่านนี้ยังกินเหมือนเด็กๆ ผมคิดก่อนจะเอื้อมมือไปเช็ดคราบบนริมฝีปากให้จนเจ้าตัวชะงักไปก่อนจะหรี่ตามองผม

"ไหนบอกจะรับไง"

"ครับ?" ผมเลิกคิ้วกลับไปอย่างสงสัยโดยที่มือก็ยังไม่ละจากริมฝีปากจากคนตรงหน้า ...ทำไมมันเพลินแบบนี้วะ?

"รุกกูทำไมเนี่ย?" คำถามที่ถูกส่งมาทำให้ผมหลุดขำก่อนจะละสายตาจากริมฝีกปากเป็นตาของคนตรงหน้าแทน

"เปล่านี่ครับ นี่กำลังอ่อยให้พี่รุกอยู่" ผมบอกก่อนเจ้าตัวจะชะงักไป สักพักพี่กันย์จึงค่อยๆ เอื้อมมือมาแล้วแตะลงบนริมฝีปากผมไว้บ้าง

"ไอ้ห่า อย่าจูบนิ้วกูดิวะ"

"ขอโทษครับ มันเผลอ" ผมบอกอย่างขำๆ ก่อนจะมองเจ้าของนิ้วมือที่กำลังสั่นน้อยๆ อย่างรีรอว่าเจ้าตัวจะเอายังไง

"ไม่ไหวว่ะ ใจเต้นเกิน" พี่กันย์บอกก่อนจะผละนิ้วมือออกจากปากผมไปจนผมตัดสินใจได้ว่าจะไม่รอแล้วเหมือนกัน

"ไหนว่ามึงจะระ.." ไม่ทันที่พี่กันย์จะพูดจบประโยคริมฝีปากตรงหน้าก็ถูกปิดด้วยริมฝีปากของผมก่อนเจ้าตัวจะค่อยๆ หลับตาปี๋ ผมมองคนตรงหน้าอย่างขำๆ ก่อนจะใช้ริมฝีปากเม้มขอบปากล่างของพี่กันย์อย่างแกล้งๆ ก่อนจะผละออกมา

…อยากทำมากกว่านี้ แต่ไว้วันหลังแล้วกันครับ

"ไหนบอกจะรับไง เล่นซะกูเสียเชิงชายเลย" พี่กันย์อ้อมแอ้มพูดออกมาก่อนจะยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองไว้จนผมอดที่จะยิ้มกับภาพตรงหน้าไม่ได้

"นี่ผมก็รอรับอยู่นะ" ผมบอกอย่างๆ ขำก่อนคนตรงหน้าจะหรี่ตามามองในจังหวะนั้นก็รับรู้ได้ถึงสัมผัสเบาๆ ที่มุมปากก่อนเจ้าตัวจะผละออกแล้วเม้มปากอย่างเขินๆ

"กูรุกได้แค่นี้แหละ สัด!"

"แค่นี้ก็เก่งแล้วครับ" ผมขยี้หัวคนตรงหน้าอย่างเอ็นดูก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้

"แล้วเวลาอยากเปิดประตูรถให้อีกฝ่าย" พี่กันย์หันมามองหน้าผมงงๆ ที่อยู่ๆ ผมก็พูดขึ้นมาจนผมต้องยิ้มให้ก่อนจะเอื้อมมือทาบไปบนเจ้าตัวแล้วค่อยๆ ไล่มือไปยังประตูอีกฝั่ง

"ลองทำแบบนี้สิครับ ไม่ต้องเหนื่อยเดินอ้อมแถมได้กำไรอีก" ผมบอกในจังหวะที่ซีกหนึ่งของตัวผมทาบทับอยู่บนตัวพี่กันย์ ใบหน้าใกล้กันจนลมหายใจของคนที่สงบไปแล้วเริ่มถี่ขึ้นอีกครั้งจนสัมผัสได้ ผมได้แต่ยิ้มตาหยีก่อนจะเปิดประตูให้อีกฝ่ายแล้วดึงตัวกลับมา

"ไอ้เชี่ยปืน! ไหนบอกจะรับ" พี่กันย์ปรายตามองมาอย่างเซ็งๆ ในขณะที่หน้าก็ไม่ได้ลดความแดงลงก่อนจะลงจากรถไปก่อน

"ก็รับไงครับ" ผมยืนยันก่อนจะยิ้มตาหยีไงแล้วลงจากรถก่อนจะเดินตามเจ้าตัวที่ส่ายหัวอย่างไม่เชื่อไปจนผมได้แต่คิดในใจเพราะถ้าพูดออกไปมีหวังอดเข้าห้องพี่กันย์แหงๆ


‘ก็รับไงครับ …รับหน้าที่เป็นรุก’





ในที่สุด!!! น้องปืนขอรุกค่าา หลายคนคงรู้กันอยู่แล้วล่ะเนอะแต่ประเด็นคือ พี่กันย์ดันไม่ยอมรับจ้า
นิดนึงก็ขอให้พี่ได้รุก คงต้องดูกันต่อไปว่าน้องจะใช้มารยาเล่มไหนกล่อมพี่ให้มารับได้ 55555
ปล.ตอนนี้พี่กันย์พ่นคำสบถมาเยอะหน่อยนะคะขออภัย ก็อะไรๆ มันดันไม่ได้ดั่งใจพี่เลยนี่นา

สำหรับเรื่องทำเล่ม ใจจริงอยากทำมากๆ ค่ะเพราะชอบอ่านอะไรก็ตามในรูปแบบหนังสือมากกว่าออนไลน์
พอมีเรื่องเป็นของตัวเองก็อยากได้มาไว้เป็นเล่มเหมือนกัน ยังไงก็ขอศึกษาก่อนอีกสักระยะนะคะ
ถ้าใครสนใจก็ฝากติดตามด้วยน้าา ได้ความคืบหน้ายังไงไว้จะมาบอกค่ะ

ขอบคุณที่ติดตาม #ก็พี่มันเยอะ นะคะ ^__________^
Zenzaii





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-12-2016 10:58:37 โดย zenzaii »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
พี่กันย์น่ารักอ่ะ รังสีรับแรงเหลือเกิน ฮา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด