30-...ก็ถ้าพี่จะรุก แล้วผมต้องรับมั้ยครับ?
[Bpuen's]"สวัสดีตอนเช้าครับ" ผมเอ่ยทักคนที่กำลังนอนอยู่ก่อนจะออกแรงเขย่าเบาๆ เพื่อให้เจ้าตัวรู้สึกตัว พี่กันย์ลืมตาขึ้นมามองอย่างงงๆ ก่อนจะคว้าโทรศัพท์ที่วางอยู่ใกล้หมอนขึ้นมาดูเวลา
"เช้าตลอดอ่ะ" พี่กันย์บ่นงุบงิบๆ ก่อนจะนิ่งไปพักหนึ่งเพื่อเรียกสติก่อนจะยื่นมือมาให้ ผมยิ้มให้กับท่าทางขี้อ้อนของคนตรงหน้าที่ดูเหมือนจะมากขึ้นทุกวันก่อนจะดึงเจ้าตัวให้ลุกขึ้นมานั่งอย่างที่ต้องการ
"ไปอาบน้ำเลยครับ วันนี้ให้แค่สิบห้านาทีนะ" ผมบอกก่อนจะยัดผ้าขนหนูใส่มือคนที่ยังไม่ตื่นดีก่อนจะออกแรงดึงให้เจ้าตัวไปยังห้องน้ำ
"ยี่สิบไม่ได้เหรอวะ?" พี่กันย์ทำตาปริบๆ ก่อนจะกอดวงกบประตูไว้อย่างไม่ยอมขยับ
"ยี่สิบก็ได้ครับแต่ห้ามมากกว่านี้นะ" ผมกำชับก่อนจะขยี้หัวคนตรงหน้าเบาๆ จนเจ้าตัวคลี่ยิ้มออกมาก่อนจะถอยหลังเข้าไปในห้องน้ำ ผมมองอย่างขำๆ ก่อนจะดึงประตูมาปิดให้พร้อมกับเสียงรับทราบจากคนที่เริ่มปฏิบัติภารกิจของตัวเอง
"โอเค"
"ดูอะไรอยู่วะ?" เสียงทักดังขึ้นทันทีที่เจ้าของห้องเดินออกมา วันนี้เจ้าตัวใส่เสื้อยืดสีดำพอดีตัวกับกางเกงขาเดปสีเข้มพร้อมด้วย Accessories ทั้งสี่ที่ไม่เคยขาดก่อนจะทักทายไอ้รถถังที่นั่งดูการ์ตูนตอนเช้าอยู่หน้าโทรทัศน์
"สวัสดีครับพี่"
"หวัดดี" พี่กันย์เอ่ยตอบก่อนจะเดินถือถุงเท้าไปนั่งตรง Bean bag อีกอันที่วางอยู่ข้างๆ อันที่รถถังนั่งอยู่
"แต่งตัวซะหล่อเลยพี่" ไอ้รถถังชมจนเจ้าตัวหันไปยิ้มมุมปากให้อย่างมาดมั่นจนผมอดหมั่นไส้ให้กับคนที่มีความมั่นใจในรสนิยมเกินร้อยไม่ได้ก่อนจะวางจานแซนวิสกับแก้วใส่นมโอวิลตินของโปรดไว้ตรงหน้าพี่กันย์แล้วนั่งลงกับพื้นข้างเจ้าตัว
"ยังไม่เซตผมเหรอครับ" ผมถามพลางยื่นมือไปปัดๆ ผมของคนตรงหน้าที่ดูเหมือนจะยาวขึ้นจนแทบจะเข้าตาอยู่แล้วอย่างอดรำคาญแทนไม่ได้ พี่กันย์พยักหน้าก่อนจะอ้าปากรับแซนวิสที่ผมยื่นไปให้เพราะเห็นว่าใกล้จะได้เวลาแล้ว
"ลืมไปเลยก็ได้ครับว่าผมอยู่ตรงนี้" เสียงของไอ้รถถังบวกกับสายตาล้อเลียนทำให้พี่กันย์หยุดชะงักก่อนจะหันมามองหน้าผมก่อนจะมองมือที่จับปลายแซนวิสอีกด้านไว้อย่างเขินๆ
"เดี๋ยวกูกินเอง" พี่กันย์บอกก่อนจะใช้ปากดึงแซนวิสในมือไปทั้งชิ้นก่อนจะตั้งใจใส่ถุงเท้าจนเสร็จ จากนั้นก็เดินไปล้างมือก่อนจะจับแซนวิสมากินต่อจนหมด ผมได้แต่หันไปมองอย่างขำๆ ก่อนจะหันมามองไอ้รถถังที่หันมายักคิ้วให้อย่างอารมณ์ดี
“แกล้งแฟนกูเหรอวะ?” ผมถามมันอย่างหมั่นไส้ก่อนจะยก Bean bag อันที่ว่างอยู่ทุ่มใส่หัวมัน
"พวกมึงสองคนล่ะกินอะไรยัง?"
"เรียบร้อยแล้วครับ" ผมหันไปตอบก่อนจะดึง Bean bag อีกอันที่ไอ้รถถังเตรียมจะทุ่มใส่ผมกลับมาก่อนจะมองหน้าไอ้น้องตัวแสบที่ยิ้มร้ายๆ เหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้อีกแล้ว
"ต้องขยายความคำว่า 'เรียบร้อย' อีกมั้ยครับพี่เขย เอ๊ะ หรือพี่สะใภ้?"
"พรวดดด แค่กๆๆๆ" คำถามของไอ้รถถังทำเอาพี่กันย์ที่กำลังดื่มนมในแก้วถึงกับพ่นออกมาก่อนเจ้าตัวจะไอต่อขนานใหญ่จนผมต้องเอื้อมมือไปช่วยลูบหลังให้
"เป็นอะไรมั้ยครับ?" ผมถามขึ้นทั้งๆ ที่ในใจก็อดขำไปด้วยไม่ได้ ...ไอ้รถถังนี่มันร้ายโดยสายเลือดแท้ๆ
"กูโอเค" พี่กันย์บอกก่อนจะดึงทิชชู่ที่ผมส่งให้ไปเช็ดปากก่อนจะมองไอ้รถถังที่หลังจากทิ้งระเบิดตูมใหญ่ไว้แล้วมันก็หันกลับไปดูการ์ตูนต่ออย่างสบายออกสบายใจ
"แต่จะว่าไป ...ผมก็เริ่มสงสัยแล้วเหมือนกันนะครับ" คำพูดของผมทำเอาพี่กันย์ที่เพิ่งหายใจเข้าทีหันมามองอย่างงงๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นหรี่ตาอย่างไม่ไว้ใจ
"สงสัยอะไรของมึง?"
"ระหว่าง เขย กับ สะใภ้ พี่กันย์อยากเป็นอะไรมากกว่ากัน?"
"ไอ้เชี่ยปืน!"
[Gun's]"ไอ้พี่น้องคู่นี้แมร่ง!" ผมอดสบถออกมาไม่ได้เมื่อนึกถึงสองศรีพี่น้องที่กำลังนั่งรอผมอยู่หน้าโทรทัศน์ในระหว่างที่ผมเดินเข้ามาเซตผมก่อนจะนึกไปถึงคำพูดที่พวกมันเอาแต่ถามผมอยู่นั่น ...รุกหรือรับ? เขยหรือสะใภ้?
...เกิดมายี่สิบเอ็ดปีมีแฟนเป็นผู้ชายนี่ผมว่ารันทดแล้วนะ ทำไมต้องมานั่งคิดด้วยวะว่าต้องรับบทไหน ให้ตาย!
"ให้เวลาอีกห้านาทีนะครับ" เสียงไอ้ปืนตะโกนเข้ามาทำให้ผมเหลือบไปมองประตูห้องอย่างหงุดหงิดก่อนจะตะโกนรับคำมันออกไป หลังจากนั้นจึงหันมาเซตผมด้วยความไวแสงอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน …สองนาที ผมมองสารรูปขอตัวเองในกระจกให้พอรับได้ก่อนจะเอาเวลาที่เหลืออีกสามนาทีล้วงโทรศัพท์ขึ้นมา กดเข้าแอพกูเกิ้ลแล้วพิมพ์ลงไปว่า
'รุกกับรับ ต่างกันอย่างไร?"
...ไม่เคยคิดมาก่อนเลยครับว่าตัวเองจะมีโมเมนต์ที่ต้องมาพิมพ์อะไรแบบนี้ลงไปในกูเกิ้ล ผมล่ะอยากตาย!
"ผมขับให้นะครับ" ไอ้ปืนที่เดินอยู่ข้างๆ เอ่ยขึ้นก่อนจะยื่นมาตรงหน้าผมเหลือบไปมองมันก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธ
"เดี๋ยวกูขับเอง" ผมบอกก่อนจะเดินไปนั่งยังฝั่งคนขับจนไอ้ปืนได้แต่มองตามอย่างงงๆ แต่ก็ยอมไปนั่งฝั่งข้างคนขับแต่โดยดี
"เข็มขัดมึง" ผมมองหน้ามันแล้วมองเลยไปยังเข็มขัดนิรภัยข้างๆ ที่เจ้าตัวยังไม่ได้รัดก่อนจะเอื้อมมือผ่านตัวมันไปเพื่อจะดึงมารัดให้อย่างที่ไอ้ปืนชอบทำ …เชี่ยยย! ติด! ผมก้มมองเข็มขัดนิรภัยของตัวเองที่รั้งตัวผมไว้อย่างเซ็งๆ
"พี่จะทำอะไรครับ?" ไอ้ปืนถามขึ้นพลางมองผมอย่างงงๆ พลางมองผมที่เอนหลังกลับมาที่เบาะของตัวเอง
"รัดเข็มขัดให้มึงไง" ผมบอกก่อนจะมองหน้าคนตรงหน้าที่ยิ้มอย่างขำๆ ก่อนเจ้าตัวจะเอื้อมมือมาเพื่อปลดล็อคเข็มขัดที่ของผมให้แล้วถอยกลับไป
"เอาล่ะครับ รัดให้ผมได้แล้ว" มันบอกก่อนจะยักคิ้วมาให้ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ จากไอ้เด็กที่นั่งอยู่เบาะหลังจนหน้าผมเริ่มร้อนๆ …ไม่รงไม่รัดให้แมร่งแล้ว โว๊ะ!
"รัดเองเลยมึง ลำบากกูเกิน" ผมบอกก่อนจะรัดเข็มขัดให้ตัวเองใหม่จนไอ้ปืนหลุดหัวเราะออกมาอีกครั้ง ผมเหลือบไปมองคนที่รัดเข็มขัดให้ตัวเองอย่างเซ็งๆ พลางนึกไปถึงเนื้อหาในอินเตอร์เน็ตที่ผมเพิ่งเจอมา
'รุกกับรับต่างกันอย่างไร?'
'รุก คือฝ่ายกระทำเปรียบเสมือน ฝ่ายชาย'
'รับ คือฝ่ายถูกกระทำเปรียบเสมือน ฝ่ายหญิง'
...ไหนๆ ก็ได้ผู้ชายแล้วขอเป็นชายเหนือชายแล้วกันนะครับ อย่าให้ชีวิตผมต้องอัปยศอดสูไปมากกว่านี้เลย!
[Bpuen's]"เดี๋ยวกูเปิดให้" ผมชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตูก่อนจะมองพี่กันย์อย่างงงๆ แต่สุดท้ายนั่งรอให้คนที่เพิ่งละจากตำแหน่งคนขับรถเดินอ้อมโลกเพื่อมาเปิดประตูให้แล้วอันเชิญให้ผมลงจากรถก่อนจะยิ้มกว้างให้แล้วหลบไปถอนหายใจ
…อาการแบบนี้ มีแผนในใจอะไรอีกชัวร์!
"ขอบคุณครับผม" ผมหันไปยิ้มให้คนที่วันนี้ดูจะใจดีเป็นพิเศษก่อนจะพากันเดินเข้าไปยังประตูทางเข้าขนาดใหญ่ที่มีป้ายตัวอักษรเขียนว่า 'สวนสัตว์ดุสิต' พร้อมด้วยรูปปั้นสิงสาราสัตว์อีกมากมาย ผมหันไปมองคนต้นคิดที่จะพาไอ้รถถังมาที่นี่อย่างเริ่มสงสัยกับท่าทางแปลกๆ ไม่ได้ ก่อนจะไล่ไปตามวันสำคัญต่างๆ ก็ดูไม่มีวันไหนจะเข้าเค้าที่จะเป็นสาเหตุให้คนตรงหน้าทำตัวแปลกๆ เลยสักอย่างจนผมเริ่มปลงก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปหาพี่กันย์
"รอตรงนี้ก็ได้ครับ เดี๋ยวผมไปซื้อ..."
"เดี๋ยวกูไปซื้อให้" พี่กันย์เสนอตัวก่อนจะฝากกระเป๋าสะพายไว้กับผมแล้วพาตัวเองเดินเข้าไปต่อแถวเพื่อซื้อตั๋วเข้า
"กี่ท่านคะ?" เสียงพนักงานสาวถามขึ้นพลางยิ้มให้อย่างมีไมตรี
"สามคนครับ" พี่กันย์บอกก่อเจ้าตัวจะล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วก็ชะงักไปจนผมสงสัย ก่อนจะเจอสายตาที่มองมาอย่างขอความช่วยเหลือจนผมต้องเดินเข้าไปหาอย่างงงๆ
"มีอะไรหรอครับ?" ผมถามก่อนเจ้าตัวจะชี้มาที่กระเป๋าสะพายหลังที่ฝากไว้
"กระเป๋าตังค์" พี่กันย์บอกอย่างเซ็งๆ จนผมเผลอหัวเราะออกก่อนจะปลดกระเป๋าสะพายลงแล้วล้วงเอากระเป๋าตังค์ของเจ้าตัวยื่นไปให้
"มีตังค์พอใช่มั้ยครับ?" ผมแกล้งถามจนได้รับสายตาดุๆ กลับมาก่อนเจ้าตัวจะหันไปจ่ายตังค์แล้วรับตั๋วมาสามใบ
"ทำไมมันยากอย่างนี้เนี่ย เฮ้อ"
"พี่ว่ายังไงนะครับ" ผมหันไปกลับไปถามเพราะได้ยินไม่ค่อยชัดก่อนเจ้าตัวจะหันมาทำหน้าเหรอหราแล้วบอกให้เดินเข้าไป
"เอาไปให้มันกินดิ" พี่กันย์กำใบไม้ที่เป็นอาหารของเจ้ายีราฟตรงหน้ามากำหนึ่งก่อนจะยื่นให้ไอ้รถถังเพื่อเอาไปให้มันกินแต่คนยื่นกลับไม่เข้าไปด้วย
"ไม่ไปด้วยกันเหรอพี่?" ไอ้รถถังถามพลางพยักหน้าคะยั้นคะยอให้เจ้าตัวเดินตามมาด้วยกันแต่พี่กันย์ก็เอาแต่สายหน้าจนผมต้องเดินเข้าไป
"เป็นอะไรครับ?"
"ไม่เป็นไรนี่" พี่กันย์บอกก่อนจะฉีกยิ้มออกมาจนผมเกือบจะเชื่อจริงๆ ถ้าไม่ติดว่า…
"อ่ะพี่ ผมเอายีราฟมาให้" ไอ้รถถังพูดขึ้นก่อนจะค่อยๆ ใช้ใบไม้ที่เหลือล่อยีราฟมาตรงด้านที่พี่กันย์ยืนอยู่จนผมอดขำในความกวนตีนของมันไม่ได้ ก่อนจะหันไปมองคนที่เอาแต่ยืนหันหน้าไปทางอื่นในขณะที่มือก็พยายามยื่นใบไม้ให้เข้าปากยีราฟตามคำชักชวนของไอ้รถถัง
"เชี่ย!" พี่กันย์สบถออกมากก่อนจะปล่อยตะกร้าลงบนพื้นแล้วกระโดดถอยห่างออกไป เจ้าตัวยกมือทั้งสองข้างขึ้นอย่างยอมแพ้ด้วยท่าทางสั่นๆ เหมือนกลัวอะไรบางอย่าง
"เป็นอะไรครับ?" ผมถามย้ำก่อนล้วงเอาทิชชู่เปียกออกมาเช็ดมือของคนตรงหน้าที่เห็นเป็นคราบเปียกๆ ติดอยู่
"ลิ้นมันโดนมือกูอ่ะ" พี่กันย์บอกก่อนทำหน้าเหมือนร้องไห้พลางเอามือมาเช็ดๆ ที่เสื้อผมอย่างรวดเร็ว
"พี่กลัวยีราฟ?" ไอ้รถถังถามอย่างสงสัยก่อนจะพยายามกลั้นยิ้มเมื่อเมื่อเห็นท่าทางพี่กันย์ที่พร้อมจะสลายร่างทุกเมื่อ
"เปล่า กูแค่ไม่ชอบลิ้นมัน" พี่กันย์บอกก่อนจะทำหน้าแหยงๆ อีกครั้งเมื่อหันไปตอบไอ้รถถังแต่ไอ้คนถามดันหยิบใบไม้ยื่นไปให้ยีราฟจนมันยื่นลิ้นยาวๆ ของมันออกมาเกี่ยวใบไม้เข้าปากไปอีกที
"ไอ้ปืน กูอยากฆ่าน้องมึง" พี่กันย์บอกก่อนจะกระโดดมายืนข้างๆ ผมพร้อมกับมองไอ้ตัวต้นเหตุที่เอาแต่หัวเราะอย่างคาดโทษ
"ทำไมพี่ไม่ชอบล่ะครับ" ไอ้รถถังถามหลังจากที่ยอมลามือจากการให้อาหารยีราฟก่อนจะหยิบตะกร้าใส่ใบไม้ขึ้นมาแล้วส่งคืนไปให้คนดูแล
"มันแหยะ" พี่กันย์บอกก่อนจะทำหน้าแหยงๆ แล้วเดินนำลงลงบันไดไป
"งั้นพี่ก็ไม่ชอบสัตว์ที่มีลิ้นทุกตัวเลยป่ะครับ" ไอ้รถถังยังถามต่อจนพี่กันย์ชะงักก่อนจะทำท่าคิดอย่างจริงจัง
"ประมาณนั้น" ไอ้รถถังพยักหน้าเออออก่อนจะหันมาตบไหล่ผมเบาๆ อย่างเห็นใจจนพี่กันย์ยังหันกลับมามออย่างสงสัยอีกคน
"จำไว้นะพี่"
“อะไรวะ?”
"พี่กันย์ไม่ชอบลิ้น อย่าเผลอใช้นะครับผม" ไอ้รถถังพูดต่ออย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินนำไปยังกรงถัดไปปล่อยให้ผมกับพี่กันย์ยืนมองหน้ากันย์อย่างงงๆ ก่อนจะนึกได้เมื่อคนตรงหน้าเผลอสบถออกมาก่อนจะไล่ตามไอ้น้องชายตัวดีของผมไป
...เวรกรรม ใช้ไม่ได้จริงๆ เหรอวะ?
[Gun's]"เอาน้ำอะไร?" ผมหันไปถามไอ้ปืนที่ตอนนี้ยืนรอไอ้รถถังมันเข้าไปซื้อของในร้านขายของที่ระลึกของสวนสัตว์ด้วยเหตุผลที่ว่าจะเอาไปฝากสาวก่อนมันจะยิ้มให้แล้วบอกว่า
“อะไรก็ได้ครับ” …ไอ้เชี่ยปืนครับ! เรื่องมากหน่อยมั้ยมึง ตอบแบบนี้กูต้องคิดอีกสิ โว๊ะ!
ผมคิดอย่างเซ็งๆ ก่อนจะตรงไปร้านขายน้ำเพื่อซื้อน้ำเปล่าสองขวดและเกลือแร่อีกขวด ...ของผมเองครับ ทำไมการพยายามทำตัวเป็นชายเหนือชายนี่มันเหนื่อยขนาดนี้วะ? ผมสบถในใจเพื่อไม่ให้เชิงชายก่อนจะเดินกลับมาหาไอ้ปืนที่ยืนอยู่กับไอ้รถถังที่ตอนนี้มีตุ๊กตาช้างน้อยน่ารักติดดอกไม้สีชมพูอยู่ในมือหนึ่งตัวก่อนจะยื่นขวดน้ำเปล่าไปให้
...รสนิยมแมร่งพอกันทั้งพี่ทั้งน้อง
"ขอบคุณครับ" ไอ้ปืนบอกก่อนจะรับขวดน้ำขวดหนึ่งไปเปิดฝา ใส่หลอดลงไปแล้วยื่นไปให้ไอ้รถถัง ผมมองภาพนั้นอย่างเงียบๆ ก่อนจะเรียนรู้จากมัน จากนั้นจึงดึงขวดน้ำหนีเมื่อมันทำท่าจะเอาไป
"เดี๋ยวกูเปิดให้" ผมบอกมันก่อนจะฝากขวดเกลือแร่ให้มันถือแล้วหันมาสนใจกับขวดน้ำตรงหน้าแทน ผมบรรจงบิดฝาขวดน้ำตรงหน้าแต่ทำไมมันไม่เห็นง่ายเหมือนเวลาไอ้ปืนมันทำเลยวะ? เลยตัดสินใจเพิ่มแรงบิดอีกนิด อีกนิดและอีกนิด จนในที่สุดฝาก็เปิดออกแต่น้ำมันดันกระฉอกออกมาเพราะไอ้ขวดแสนบอบบางที่ถูกออกแบบมาด้วยความรักษ์โลกดันทำตัวอ่อนแอเกินไปแค่เพราะแรงบีบของผม
...แมร่ง ทำไมไม่ออกแบบมาให้ซัพพอร์ตความอยากเท่ของกูหน่อยวะ
"ทิชชู่ครับ" ไอ้ปืนส่งทิชชู่มาให้(ซึ่งเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ของวัน)ก่อนจะช่วยซับน้ำที่เลอะอยู่ตามข้อมือของผม
"เดี๋ยวกูเช็ดเอง" ผมบอกก่อนจะแย่งทิชชู่ในมือมันมาทั้งหมดเพื่อซับรอยน้ำที่ยังเหลืออยู่ก่อนจะรับขวดเกลือแร่ที่มันส่งกลับมาให้แล้วชวนไอ้สองพี่น้องขีปนาวุธตรงหน้าไปหาข้าวเที่ยงกิน
"เคลียร์โต๊ะให้หน่อย" ผมบอกไอ้ปืนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะก่อนจะค่อยๆ วางถาดไก่และอะไรต่อมิอะไรที่อยู่ในเมนูลงตรงหน้าก่อนจะจัดการแยกถาดออกมาแล้วเอาไปวางไปที่เคาน์เตอร์กลาง
"ผมไปเอาจานมาให้นะครับ" ไอ้ปืนบอกก่อนทำท่าจะลุกไปจนผมต้องยกมือห้ามไว้แล้วลุกขึ้นเอง ...ให้มันทำไม่ได้ครับ เสียเชิงชายหมด
"เดี๋ยวกูไปเอาให้" ผมบอกก่อนจะอาสาเดินกลับไปเคาน์เตอร์กลางอีกครั้งก่อนจะหยิบจานสามใบกลับมา
"ช้อนกับส้อม" ไอ้ปืนพูดเกริ่นขึ้นมาก่อนจะมองหน้าผม ผมมองมันงงๆ ก่อนจะนึกได้แล้วเดินกลับไปใหม่จากนั้นก็หยิบช้อนกับส้อมสามคู่กลับมาที่โต๊ะ
"เอ่อ...." ไอ้ปืนส่งเสียงขึ้นมาครั้งจนผมต้องมองไปบนโต๊ะก่อนจะนึกขึ้นได้อย่างเริ่มหงุดหงิดก่อนจะเดินกลับไปที่เคาน์เตอร์กลางอีกครั้งเพื่อหยิบมีดกลับมา ...มันจะหลายรอบเกินไปแล้วนะผมว่า
"ซอสครับ" คราวนี้เป็นตาไอ้รถถังที่พูดขึ้นมาบ้าง ผมหันกลับไปที่เคาน์เตอร์กลางอย่างน้ำตาจะไหลก่อนมือของไอ้ปืนจะยื่นมาดึงไว้แล้วทำท่าจะลุกไปเอง
"ไม่เป็นไร กู-ไป-เอา-ให้" ผมบอกมันอย่างเริ่มหมดความอดทนก่อนจะเดินกลับไปที่เคาน์เตอร์กลางอีกครั้งแล้วหยิบถ้วยพลาสติกเล็กๆ มาสองใบก่อนจะกดซอสมะเขือเทศลงไปแล้วเดินกลับมา ...ไม่เหลืออะไรให้กูหยิบแล้วนะเว้ย!
"พี่กันย์ครับ" เสียงเรียงของไอ้ปืนทำเอาที่เพิ่งกลับมานั่งได้ไม่ถึงนาทีเงยหน้าขึ้นมองอย่างเริ่มโอดครวญก่อนจะถามมันออกไป
"กูลืมอะไรอีก?"
"ซอสพริกครับ" ผมอ้าปากค้าง
"มึงจะกินใช้มั้ย? โอเค เดี๋ยวกูไปเอาให้นะ" ผมบอกกับตัวเองอย่างใจเย็นแล้วลุกขึ้นอีกรอบก่อนคนตรงหน้าจะดึงไว้แล้วยิ้มให้ก่อนจะลุกขึ้นเอง
"ก็พี่กันย์ไปไม่กินซอสมะเขือเทศไม่ใช่เหรอครับ? เดี๋ยวผมไปเอาให้นะ" มันบอกก่อนจะยื่นมือมาขยี้หัวผมเบาๆ จนผมต้องฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะอย่างหมดแรง
...ถ้าจะเหนื่อยขนาดนี้ กูไม่เป็นแมร่งละ ฝ่ายรุก ฝ่ายรับอะไรนั่น เซ็งโว้ยย!
[Bpuen's]"กูขอไปห้องน้ำห้านาที" พี่กันย์บอกก่อนจะฝากโทรศัพท์ไว้แล้วเดินเข้าห้องน้ำไปพร้อมกับไอ้รถถัง ผมเลยไปหาที่นั่งรอใต้ต้นไม้ตรงหน้าห้องน้ำ
ครืดด... ครืด... แรงสั่นจากโทรศัพท์ในมือทำให้ผมต้องยกโทรศัพท์ของพี่กันย์ที่ฝากไว้ขึ้นมาดูก่อนจะเห็นเบอร์ที่ไม่ได้บันทึกไว้โทรเข้ามา ...เบอร์ไอ้รถถังนี่หว่า ผมมองอย่างงงๆ ก่อนจะกดรับ
"ว่าไงมึง" ผมกรอกเสียงลงไป ปลายสายเงียบอยู่พักหนึ่งก่อนจะตอบกลับมา
(อ้าว ไอ้ปืนเหรอวะ?) เสียงกันย์ถามขึ้นอย่างงงๆ ก่อนจะได้ยินเสียงไอ้รถถังหัวเราะแล้วแซวคนข้างๆ กลับมา
(แก่แล้วฟั่นเฟือนนะพี่)
"ครับ?"
"เปล่าๆ ไม่มีอะไร กูแค่หาโทรศัพท์ไม่เจอ แค่นี้นะ" บอกได้เท่านั้นก็ตัดสายไป ผมได้แต่ก้มมองโทรศัพท์ในมืออย่างขำๆ ก่อนจะสะดุดใจกับอะไรบางอย่างที่ปรากฎขึ้นมาบนหน้าจอ มันเป็นหน้าต่างของแอพพลิเคชั่นสำหรับหาข้อมูลอย่างที่คุ้นเคยกันนั่นแหละครับ เพียงไอ้คำค้นหน้าตรงหน้ามัน…
'รุกกับรับต่างกันอย่างไร?'
"โห จริงจังวะ" ผมพูดกับตัวเองอย่างขำๆ ก่อนจะเลื่อนลงไปอ่านเนื้อหาที่มีคนคอมเมนต์ต่อไว้อีกยืดยาว ...รุก คือฝ่ายกระทำ เปรียบเสมือนผู้ชาย รับคือฝ่ายถูกกระทำ เปรียบเสมือนผู้หญิง ฝ่ายกระทำ? เหมือนผู้ชาย? ผมเอะใจกับคำนิยามตรงหน้าจนพาลนึกไปถึงการกระทำแปลกๆ ของเจ้าของโทรศัพท์วันนี้อย่างอดไม่ได้
...ที่แท้ก็อยากรุก!
"กลับกัน" เสียงพี่กันย์ที่ดังมาพร้อมกับเจ้าตัวทำให้ผมละสายตาจากโทรศัพท์ก่อนจะกดล็อคแล้วส่งคืนให้ก่อนจะแซวเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อกี้กลับไป
"ลืมเหรอครับว่าฝากผมไว้"
"เออ" พี่กันย์บอกอย่างเซ็งๆ ก่อนจะเหลือบไปมองไอ้รถถังที่คงจะแซวเรื่องนี้มาตลอดทางแน่ๆ
"เหมือนคุณครูแก่ๆ ที่โรงเรียนผมที่เอาแต่หาแว่นทั้งๆ ที่คาดแว่นไว้บนหัวไม่มีผิด"
"ไอ้น้องเวร!" พี่กันย์ด่าก่อนจะขยี้หัวไอ้น้องชายผมแรงๆ อย่างหมั่นไส้จากนั้นจึงพากันเดินออกไปเพราะต้องไปส่งไอ้รถถังให้ทันขึ้นรถกลับบ้านตอนเย็น
"จะขับเองมั้ยครับ?" ผมถามขึ้นมายิ้มๆ พลางมองเจ้าของรถที่ตอนนี้ดูหมดเรี่ยวแรงมากกว่าปกติอย่างขำๆ ก่อนจะยื่นกระเป๋าสะพายคืนไปให้
"มึงขับเลย กูไม่ขับแมร่งละ" พี่กันย์พูดขึ้นมาก่อนจะล้วงเอากุญแจรถในกระเป๋าออกมาโยนให้แล้วก้าวขึ้นไปนั่งข้างที่นั่งคนขับอย่างเซ็งๆ
"ผมคาดเข็มขัดให้นะครับ" ผมบอกในขณะที่พาตัวเองขึ้นมานั่งประจำที่สารถีเรียบร้อยแล้วพาลนึกไปถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เจ้าตัวพยายามทำมาตั้งแต่เช้าอย่างอดไม่ได้ จากนั้นจึงค่อยๆ เอื้อมมือไปดึงสายเข็มขัดของอีกฝ่ายมาล็อคไว้กับที่ล็อคข้างตัวพลางเหลือบไปมองพี่กันย์ที่พยายามจะลอกตามการกระทำของผมอย่างอดยิ้มไม่ได้
“เวลาจะรัดเข็มขัดให้คนอื่น ก็อย่าเผลอรัดของตัวเองซะก่อนล่ะครับ”
"เออ กูจะจำไว้" พี่กันย์ประชดก่อนจะเอนตัวลงกับเบาะแล้วหันหน้าไปมองนอกหน้าต่างอย่างเซ็งๆ
"จอดตรงนี้เลยพี่" ไอ้รถถังร้องบอกก่อนผมจะเทียบรถเข้ากับข้างทาง มันหันมาไหว้พวกผมคนละทีก่อนจะเอ่ยขอบคุณแล้วลงจากรถไป
"กลับดีๆ นะเว้ย" พี่กันย์ลดกระจกลงก่อนจะโบกมือให้จนคนที่ต้องกลับบ้านส่งยิ้มกว้างกลับมา
"ไปเที่ยวที่บ้านผมบ้างนะครับ พี่สะใภ้!"
"บ้านมึงสิ!" พี่กันย์สบถออกมาก่อนจะริบปิดหน้าต่างเมื่อคนเริ่มหันมามองอย่างอายๆ ที่น้องชายผมตะโกนขึ้นมาพร้อมกับระบุสถานะให้เสร็จสรรพ
"น้องมึงนี่มันแมร่ง!" พี่กันย์ยังคงบ่นงุบงิบตลอดเวลาที่ผมขับรถกลับหอจนผมอดที่จะแกล้งต่อไม่ได้
"ไม่อยากเป็นสะใภ้เหรอครับ?"
"เออดิ กูเป็นผู้ชายนะเว้ย!" พี่กันย์หันมามองหน้าผมเซ็งๆ ก่อนจะล้วงเอาช็อคโกแลตในกล่องออกมากิน
"แต่ก็มีแฟนเป็นผู้ชาย"
"อย่าย้ำ ไอ้ห่านี่!" เจ้าตัวปรายตามามองแรงๆ หนึ่งทีจนผมอดหัวเราะออกมาไม่ได้ก่อนจะเลี้ยวเข้าที่จอรถเมื่อมาถึงหอพี่กันย์
"อยากเป็นเขยว่างั้น?"
"ก็ยังดีกว่าเปล่าวะ?" คนอยากเป็นเขยบอกก่อนจะทำหน้ายู่ให้หนึ่งที ผมมองพี่กันย์อย่างขำๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปปลดเข็มขัดของเจ้าตัวเพื่อให้คนข้างๆ เอื้อมไปหยิบกระเป๋าสะพายที่อยู่เบาะหลังได้สะดวก
"งั้นถ้าพี่อยากรุกนัก ผมรับให้ก็ได้นะครับ" คำพูดของผมทำเอาเจ้าตัวหันมามองอย่างอึ้งๆ ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างถูกใจ
"ดีมากเด็กน้อย ว่าง่ายๆ โตไวไว" พี่กันย์พยักหน้ากับตัวเองอย่างอารมณ์ดีก่อนจะส่งยิ้มกว้างมาให้ ผมมองริมฝีปากคนตรงหน้าที่มีรอยช็อคโกแลตติดอยู่เป็นคราบอย่างขำๆ …โตจนป่านนี้ยังกินเหมือนเด็กๆ ผมคิดก่อนจะเอื้อมมือไปเช็ดคราบบนริมฝีปากให้จนเจ้าตัวชะงักไปก่อนจะหรี่ตามองผม
"ไหนบอกจะรับไง"
"ครับ?" ผมเลิกคิ้วกลับไปอย่างสงสัยโดยที่มือก็ยังไม่ละจากริมฝีปากจากคนตรงหน้า ...ทำไมมันเพลินแบบนี้วะ?
"รุกกูทำไมเนี่ย?" คำถามที่ถูกส่งมาทำให้ผมหลุดขำก่อนจะละสายตาจากริมฝีกปากเป็นตาของคนตรงหน้าแทน
"เปล่านี่ครับ นี่กำลังอ่อยให้พี่รุกอยู่" ผมบอกก่อนเจ้าตัวจะชะงักไป สักพักพี่กันย์จึงค่อยๆ เอื้อมมือมาแล้วแตะลงบนริมฝีปากผมไว้บ้าง
"ไอ้ห่า อย่าจูบนิ้วกูดิวะ"
"ขอโทษครับ มันเผลอ" ผมบอกอย่างขำๆ ก่อนจะมองเจ้าของนิ้วมือที่กำลังสั่นน้อยๆ อย่างรีรอว่าเจ้าตัวจะเอายังไง
"ไม่ไหวว่ะ ใจเต้นเกิน" พี่กันย์บอกก่อนจะผละนิ้วมือออกจากปากผมไปจนผมตัดสินใจได้ว่าจะไม่รอแล้วเหมือนกัน
"ไหนว่ามึงจะระ.." ไม่ทันที่พี่กันย์จะพูดจบประโยคริมฝีปากตรงหน้าก็ถูกปิดด้วยริมฝีปากของผมก่อนเจ้าตัวจะค่อยๆ หลับตาปี๋ ผมมองคนตรงหน้าอย่างขำๆ ก่อนจะใช้ริมฝีปากเม้มขอบปากล่างของพี่กันย์อย่างแกล้งๆ ก่อนจะผละออกมา
…อยากทำมากกว่านี้ แต่ไว้วันหลังแล้วกันครับ
"ไหนบอกจะรับไง เล่นซะกูเสียเชิงชายเลย" พี่กันย์อ้อมแอ้มพูดออกมาก่อนจะยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองไว้จนผมอดที่จะยิ้มกับภาพตรงหน้าไม่ได้
"นี่ผมก็รอรับอยู่นะ" ผมบอกอย่างๆ ขำก่อนคนตรงหน้าจะหรี่ตามามองในจังหวะนั้นก็รับรู้ได้ถึงสัมผัสเบาๆ ที่มุมปากก่อนเจ้าตัวจะผละออกแล้วเม้มปากอย่างเขินๆ
"กูรุกได้แค่นี้แหละ สัด!"
"แค่นี้ก็เก่งแล้วครับ" ผมขยี้หัวคนตรงหน้าอย่างเอ็นดูก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้
"แล้วเวลาอยากเปิดประตูรถให้อีกฝ่าย" พี่กันย์หันมามองหน้าผมงงๆ ที่อยู่ๆ ผมก็พูดขึ้นมาจนผมต้องยิ้มให้ก่อนจะเอื้อมมือทาบไปบนเจ้าตัวแล้วค่อยๆ ไล่มือไปยังประตูอีกฝั่ง
"ลองทำแบบนี้สิครับ ไม่ต้องเหนื่อยเดินอ้อมแถมได้กำไรอีก" ผมบอกในจังหวะที่ซีกหนึ่งของตัวผมทาบทับอยู่บนตัวพี่กันย์ ใบหน้าใกล้กันจนลมหายใจของคนที่สงบไปแล้วเริ่มถี่ขึ้นอีกครั้งจนสัมผัสได้ ผมได้แต่ยิ้มตาหยีก่อนจะเปิดประตูให้อีกฝ่ายแล้วดึงตัวกลับมา
"ไอ้เชี่ยปืน! ไหนบอกจะรับ" พี่กันย์ปรายตามองมาอย่างเซ็งๆ ในขณะที่หน้าก็ไม่ได้ลดความแดงลงก่อนจะลงจากรถไปก่อน
"ก็รับไงครับ" ผมยืนยันก่อนจะยิ้มตาหยีไงแล้วลงจากรถก่อนจะเดินตามเจ้าตัวที่ส่ายหัวอย่างไม่เชื่อไปจนผมได้แต่คิดในใจเพราะถ้าพูดออกไปมีหวังอดเข้าห้องพี่กันย์แหงๆ
‘ก็รับไงครับ …รับหน้าที่เป็นรุก’ในที่สุด!!! น้องปืนขอรุกค่าา หลายคนคงรู้กันอยู่แล้วล่ะเนอะแต่ประเด็นคือ พี่กันย์ดันไม่ยอมรับจ้า
นิดนึงก็ขอให้พี่ได้รุก คงต้องดูกันต่อไปว่าน้องจะใช้มารยาเล่มไหนกล่อมพี่ให้มารับได้ 55555
ปล.ตอนนี้พี่กันย์พ่นคำสบถมาเยอะหน่อยนะคะขออภัย ก็อะไรๆ มันดันไม่ได้ดั่งใจพี่เลยนี่นา
สำหรับเรื่องทำเล่ม ใจจริงอยากทำมากๆ ค่ะเพราะชอบอ่านอะไรก็ตามในรูปแบบหนังสือมากกว่าออนไลน์
พอมีเรื่องเป็นของตัวเองก็อยากได้มาไว้เป็นเล่มเหมือนกัน ยังไงก็ขอศึกษาก่อนอีกสักระยะนะคะ
ถ้าใครสนใจก็ฝากติดตามด้วยน้าา ได้ความคืบหน้ายังไงไว้จะมาบอกค่ะ
ขอบคุณที่ติดตาม
#ก็พี่มันเยอะ นะคะ ^__________^
Zenzaii