[yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥  (อ่าน 201698 ครั้ง)

ออฟไลน์ เสพศิลป์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
 :z2: :z2: พี่กันแม่งงงง น่ารักวะ น่ารักแบบคนเยอะๆๆๆ   

พี่ตาคะ(เสียงสอง) เด็กสมัยนี้มันร้ายมากคะพี่ น้องตามไม่ทัน  (พี่กันนี้เรียกได้ว่า โดดนปล่อยทิ้ง มองไม่เห็นฝุ่นเลยคะ
)


ขอฉากซัมตังเถ้อออออออ เอาแบบน่ารักๆก็ได้ ไม่ต้องเลือดกระจายหรอก สงสสารพี่กัน  ฮ่าๆๆๆ



สนับสนุน ไห้ทำหนังสือคะ  ฮุฮุ

ออฟไลน์ เสพศิลป์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
นี้คิดอยากไห้พี่กันรับ ไม่รู้ทำไม น่ารักในความเยอะ และหมันใส่ ในความเยอะของพี่กัน พอกัน

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
หลวมตัวไปแล้วพี่กันย์

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
โธ่  ครบทุกขั้นตอนแล้ว   พี่กันย์ก็หลับหูหลับตาให้ ๆ ไปเถอะ   เก็บไว้ทำไม  เสียดายของ   :z1:

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
ปืนไอ้คนเจ้าเล่ห์

ออฟไลน์ zenzaii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
32-...ก็พี่ต้องเลือก ผมหรือผลไม้ดีครับ?

"สวัสดีตอนเช้าครับผม" ผมเอ่ยทักทันทีที่พี่กันย์ขับรถเข้ามาจอดหน้าหอผมก่อนเจ้าตัวจะเปิดประตูลงมา ผมยิ้มให้ก่อนจะมองคนตรงหน้าที่วันนี้ก็ยังเหมือนกับทุกๆ วันที่ผ่านมา เสื้อยืดแขนยาวที่เจ้าตัวรั้งขึ้นมาที่ข้อดูสบายๆ กับกางเกงขาสั้น รองเท้าผ้าใบ พร้อมด้วย Accessories ทั้งสี่ และทุกอย่างก็ยังเป็นสีดำ ...ไม่เคยเปลี่ยน

หลังจากผ่านพ้นช่วงสอบกลางภาค เด็กมหา'ลัยอย่างพวกเราก็ได้รับการชดเชยจากการพากเพียรอ่านหนังสือและทุ่มเททำโปรเจคด้วยวันหยุดยาวจนถึงปีหน้า ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่จริงๆ มันก็แค่วันหยุดยาวกว่าปกตินิดหน่อยเนื่องในโอกาสอย่างวันส่งท้ายปีเก่าตอนรับปีใหม่ ซึ่งผมกับพี่กันย์ตกลงกันว่าจะไปเที่ยวด้วยกันตามแพ็คเกจที่ได้ของไว้ตอนงานเกษตรฯ สองสามวันก่อนจะแยกย้ายกลับบ้านไปใช้เวลากับครอบครัวในวันสิ้นปี

"อือ หวัดดี" พี่กันย์ทักกลับก่อนจะถอดแว่นกันแดดแล้วส่งยิ้มมาให้ ผมยื่นมองหน้าพี่กันย์ด้วยความรู้สึกฟูๆ ในอกอย่างบอกไม่ถูกจนคนถูกมองเริ่มทำหน้าแปลกๆ จนผมต้องหลุดขำออกมา

"มองอะไรนักหนาวะ?" พี่กันย์ถามอย่างงงๆ ก่อนจะดึงกระเป๋าในมือผมไปใส่ไว้ในท้ายรถจากนั้นจึงเข้าประจำตำแหน่งที่นั่งข้างคนขับ ผมได้แต่ยิ้มขำๆ ก่อนจะก่อนจะเดินอ้อมไปอีกด้านแต่ก็อดแซวคนข้างตัวกลับไปอย่างอดไม่ได้

"มองแฟนตัวเอง ผิดด้วยเหรอครับ?" คำถามของผมทำเอาพี่กันย์ที่กำลังจะเอื้อมมือไปเปิดเพลงถึงกับชะงักก่อนจะปรายตามามองก่อนจะยังคิ้วให้อย่างกวนๆ และคว้าแว่นกันแดดขึ้นมาใส่

"ไม่ผิด แต่ไม่ให้มองโว้ย!"

"งั้น... ผมหาอย่างอื่นมองก็ได้ครับ" ผมบอกก่อนจะละสายตาจากพี่กันย์มามองถนนตรงหน้าแล้วขับรถออกไป

"ทำดี" พี่กันย์พยักหน้าอย่างพอใจก่อนจะไล่เพลงในเพลย์ลิสต์ต่อไป ผมเหลือบมองคนข้างตัวก่อนจะหันไปมองรอบๆ เพื่อหาสิ่งเรียกร้องความสนใจ

"ผู้หญิงคนนั้น" ผมเอ่ยทักทันทีที่สายตาไปหยุดลงตรงผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงทางม้าลายข้างถนนก่อนจะชะลอรถเพื่อให้เธอคนนั้นเดินข้ามไป

"หืม?" พี่กันย์เงยหน้าขึ้นมาจากหน้าจอก่อนจะมองไปที่ผู้หญิงตรงหน้าก่อนจะหันมามองผมอย่างงงๆ

"ผมยาวดีนะครับ สีผมก็สวย" ผมแกล้งพูดสิ่งที่ตรงข้ามในใจออกไปก่อนจะลอบสังเกตปฏิกิริยาจากคนข้างๆ จริงๆ แล้วผมชอบผมสีธรรมชาติมากกว่าอย่างคนข้างๆ เป็นต้น

"อ่าฮะ" พี่กันย์รับคำหลังจากมองผู้หญิงผมยาวย้อมสีบลอนด์ตั้งแต่โคนจรดปลายก่อนจะก้มลงไปสนใจหน้าจอตรงหน้าต่อ

"แถมปากก็ดู...อวบอิ่ม" จังหวะนี้มีคนเม้มปากตัวเองครับก่อนจะเหลือบขึ้นมามองผู้หญิงตรงหน้าอีกรอบแต่มือก็ยังกดเลื่อนเพลงอยู่

"..."

"โอ๊ะ!" พี่กันย์หยุดมือที่เลื่อนเพลงก่อนจะเหลือบมามองทางผมด้วยหางตา

"ส่วนเว้าส่วนโค้งนี่ก็ช่าง..."

"สัด! พอเลยมึง" พี่กันย์ไม่ด่าเปล่าแต่ยังยกมือขึ้นมาปิดตาอย่างทันท่วงทีก่อนจะยื่นมือมาบีบแตรรถตรงหน้าผมจนผู้หญิงคนนั้นหันมามองก่อนจะรีบเดินเร็วๆ ข้ามไป ...เอ่อ ผมต้องขอโทษที่เอาคุณมาพูดเสียๆ หายๆ นะครับ ผมแค่เด็กที่อยากเรียกร้องความสนใจเท่านั้นเอง

"อันนี้ก็มองไม่ได้เหรอครับ?" ผมหันกลับมาสนใจคนข้างๆ ที่ละมือออกไปแล้วก่อนจะกลั้นขำเมื่อเห็นเจ้าตัวเลิกสนใจเพลงแล้วหันมาทำหน้าเซ็งใส่ผมแทน

"ต้องให้ตอบด้วยเหรอ?" พี่กันย์เลิกคิ้วถามจนผมหลุดยิ้มออกมา ผมส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปเลื่อนเพลงที่เจ้าของรถชอบฟังบ่อยๆ ให้แล้วเคลื่อนรถออกไป

"ไม่ต้องก็ได้ครับ"





"เดี๋ยวเราต้องแวะซื้อของเข้าไปด้วยนะครับ ที่พักมันมีแค่พวกอุปกรณ์ที่จำเป็นแต่ไม่มีพวกอาหารสด" ผมบอกรายเละเอียดที่คิดว่าเพื่อนร่วมทริปเพียงคนเดียวในครั้งนี้คงไม่ได้สนใจมานักก่อนจะเปิดแมพในโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูตำแหน่งซูเปอร์มาเก็ตสาขาใหญ่ที่ปักหมุดไว้เอาไว้เพราะเป็นทางผ่านก่อนจะเหลือบมองคนข้างๆ ที่ตอนนี้หันมองบรรยากาศข้างนอกสลับกับมองหน้าผมมาสักพักเหมือนมีอะไรในใจแต่ไม่พูดไม่จา

"พี่กันย์ครับ" ผมเรียกอีกครั้งแต่เจ้าตัวก็ยังไม่สนใจจนผมเริ่มหมั่นไส้เลยแกล้งเอื้อมมือไปบีบแก้มคนข้างตัวเบาๆ จนเจ้าตัวสะดุ้งก่อนจะหันมามองอย่างเคืองๆ

"เจ็บ!"

"ขอโทษครับผม" เลยเปลี่ยนเป็นใช้หลังมือไล้เบาๆ ที่ข้างแก้มเป็นการไถ่โทษแทน

"ก็ช่วยสนใจผมหน่อยสิครับ" ผมลากเสียงอย่างอ้อนๆ จนพี่กันย์ได้แต่ปรายตามามองอย่างเอือมๆ แต่สุดท้ายก็พลิกตัวมามองผมอย่างที่ขออยู่ดี

"มีอะไรก็ว่ามา"

"ผมบอกว่า เดี๋ยวเราต้องแวะซื้อของสดกับพวกเครื่องดื่มติดเข้าไปด้วยครับเพราะที่นั่นไม่มี"

"อือ ก็แวะดิ" พี่กันย์ตอบก่อนจะเลิกคิ้วเป็นคำถามว่า ...คือมึงต้องการคำตอบแค่นี้?

"พี่กันย์ครับ"

"อะไรอีกล่ะ?"

"มีอะไรจะพูดกับผมรึเปล่าครับ?" ผมถามขึ้นอย่างอดสงสัยไม่ได้

"หึ ไม่มี" พี่กันย์รีบส่ายหัวก่อนจะหันกลับไปมองวิวข้างนอกแต่ก็ยังปรายตามามองผมเป็นพักๆ เหมือนเดิม

"พี่กันย์ครับ"

"เรียกกูจังเว้ยเฮ้ย!" พี่กันย์สบถจนเริ่มทำหน้ายุ่งแต่ก็ยังไม่ยอมหันกลับมา ...โอเคครับ การเรียกร้องความสนใจที่ดีที่สุดคือการเรียกชื่อนั่นเอง

"พี่กันย์ครับ"

"สัด! กวนตีนป่ะเนี่ย" พี่กันย์พลิกตัวกลับมาก่อนจะทำหน้าเซ็งเต็มที่

"มีอะไรก็พูดครับพี่?" ผมถามอีกครั้งก่อนจะทำเนียนไปจับมาคนข้างๆ มาไว้บนตักตัวเองเพื่อเป็นตัวประกันซะเลย

"ไม่มี ปล่อยมือกูด้วย!"

"ไม่ปล่อยครับ บอกผมก่อนนะ"

"ก็ไม่มีอะไร จะให้บอกว่าอะไรเล่า โว๊ะ!" พี่กันย์ตอบก่อนจะพยายามดึงมือกลับแต่ก็ไม่ได้ออกแรงมากนักเพราะผมขับรถอยู่

"มีแน่ๆ"

"ไม่มีเว้ย!"

"ไม่บอกผมจูบนะ" ผมบอกก่อนจะยกมือของตัวเองข้างที่มีมือของพี่กันย์อยู่ในมือขึ้นมาก่อนจะแกล้งกดริมฝีปากของตัวเองลงบนหลังมือพี่กันย์จนเจ้าตัวตีป้าบลงมาที่ไหล่ผมทันที

"ปล่อยมือกู!"

"บอกหน่อยนะครับ" ผมย้ำอีกครั้งแต่ยังไม่ยอมปล่อยก่อนจะยกขึ้นมาแกล้งจูบย้ำๆ แต่เจ้าตัวก็ยังเฉยจนผมเริ่มหมั่นเขี้ยวเลยเปลี่ยนจากริมฝีปากเป็นฟันแทน

"โอ๊ย! อย่ากัดดิวะ"

"ถ้าไม่บอกผมจะกัดให้เจ็บเลย"

"หึ" ผมหันไปมองคนข้างๆ ที่สบถออกมาก่อนจะส่ายหัวอย่างเอือมๆ ก่อนจะสบถออกมาเสียงหลงเมื่อผมยังเล่นไม่เลิก

"โอ๊ยย! ไอ้ปืน ปล่อยกูนะโว้ย!"

"จะบอกไม่บอกครับ"

"ไม่เว้ย โอ้ยๆ เออ บอกแล้วๆ" ผมเลยยอมลดมือของคนข้างๆ ลงมาจับไว้เหมือนเดิมก่อนเจ้าตัวส่งตาดุๆ มาให้เลยได้แต่ยิ้มให้กลับไป

"ว่าไงครับ?"

"กูแค่สงสัย ก็...ที่มึงพูดนั่นแหละ" พี่กันย์บอกเสียงอ้อมแอ้มก่อนจะพยักพเยิดหน้ามาทางผมจนผมได้แต่เลิกคิ้วถามอย่างไม่เข้าใจ

"ครับ?"

"ก็ที่บอกว่า... จะทำมากกว่านี้อ่ะ" ผมนั่งคิดตามก่อนจะร้องอ๋อในใจเมื่อนึกไปถึงงานเกษตรฯ และคำพูดตอนนั้นก่อนจะพยายามกลั้นยิ้มแล้วหันไปลุ้นว่าคนข้างๆ จะพูดอะไรต่อ

"..."

"มัน... จริงเปล่าวะ?"

"จริงครับ" ผมตอบทันควันอย่างที่ไม่มีช่องให้เจ้าตัวได้หาคำปฏิเสธ จากการเรียนรู้มาตลอดที่รู้จักกัน อะไรที่รวดเร็ว ฉับไว และเด็ดขาด ...พี่กันย์คิดไม่ทันแน่นอนครับ

"เชี่ย กูอยากกลับบ้าน" พี่กันย์ครางออกมาก่อนจะหันมามองหน้าพลางเบะปากร้องไห้จนผมรู้สึกขำปนเอ็นดูขึ้นมาไม่ได้

"แต่ถ้าพี่ยังพร้อม ผมให้เวลาเตรียมใจก็ได้ครับ" ผมบอกก่อนจะหลุดยิ้มออกมาเมื่อคนข้างๆ มีสีหน้าผ่อนคลายขึ้น

"กี่ปี?" ผมแทบจะเหยียบเบรคทันทีที่ได้ยินคำถามก่อนจะหันไปมองหน้าพี่กันย์อย่างทึ่งๆ

"กี่นาทีก็พอมั้งครับ?"

"สัด!"

"เอาเป็นว่าวันนี่ทั้งวันผมจะปล่อยพี่ไปก่อนแล้วกันครับ" ผมเสนอทางเลือกที่ผมจะไม่เสียเปรียบไปให้ก่อนคนได้รับข้อเสนอจะทำหน้าคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วหันกลับมาถาม

"แน่ใจ?"

"ครับ"

"โอเค" พี่กันย์พยักหน้ารับอย่างพอใจก่อนจะยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี ...นี่คือที่เงียบๆ นิ่งๆ หันมองซ้ายทีขวาทีมาตั้งแต่เช้าคือเรื่องนี้? ผมหันไปมองคนข้างๆ ที่ทำให้บรรยากาศในรถเปลี่ยนไปอย่างนึกขำก่อนจะแกล้งแหย่เจ้าตัวอย่างอดไม่ได้

"เพราะงั้นถ้าไม่ต้องคิดมากแล้ว ก็ช่วยทำตัวน่ารักๆ กับผมหน่อยน้า"

"หึ" พี่กันย์หันมามองอย่างกวนๆ ก่อนจะยกยิ้มมุมปากให้

"ได้มั้ยล่ะครับ?"

"ก็ถ้าไม่ได้... มึงจะได้จับมือกูนานขนาดนี้เปล่าวะ?" ผมเลิกคิ้วอย่างงงๆ ก่อนจะก้มมองตามสายตาเจ้าตัวที่มองมายังมือของตัวเองที่ผมยังจับเอาไว้ไม่ปล่อยก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาทั้งคู่ ผมเหลือบมองคนข้างๆ ที่ตอนนี้หันกลับไปสนใจวิวข้างทางมากกว่าผมเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือรอยยิ้มบนใบหน้า

"รักนะครับ"

"อือ" พี่กันย์ครางรับแต่ไม่ให้หันกลับมา ผมหันไปมองถนนตรงหน้าด้วยความรู้สึกบางอย่างที่มันมากกว่าเดิมก่อนจะรับรู้ได้ถึงแรงบีบเบาๆ จากมือของใครบางคนที่อยู่ในมือผมพร้อมกับคำพูดเบาๆ ที่ทำให้รถคันนี้มีความรู้สึกหวานๆ ไปตลอดทาง

"เหมือนกัน"





"เนื้อไม่ติดมัน 2 แพ็คพอรึเปล่าครับ? หรือจะเอาเบคอนเพิ่มด้วย" ผมถามพี่กันย์ในระหว่างที่เราเดินอยู่ตรงซูเปอร์มาเก็ตขนาดใหญ่ระหว่างทางเพื่อหาของสดและพวกเครื่องดื่มตามแผนที่ได้วางไว้แล้วหลังจากนี้จะมุ่งหน้าไปยังจังหวัดระนองแบบไม่แวะพักอีก

"พอแล้ว"

"งั้นไปดูพวกผักมั้ยครับ จริงๆ ที่ไร่ก็น่าจะมีผักนะครับ แต่ดูเพิ่มก็ได้เผื่อ.."

"หมายถึงของกูอ่ะพอแล้ว เอาของมึงบ้าง" คำพูดนั้นทำเอาผมชะงักก่อนจะหันไปมองคนข้างๆ พี่กันย์เหล่มามองนิดนึงก่อนจะหันกลับไปสนใจชั้นวางเนื้อสัตว์ตรงหน้าจนผมอดยิ้มขึ้นมากับตัวเองไม่ได้

"ผมกินอะไรก็ได้ครับ" ผมตอบยิ้มๆ พลางมองท่าทางคนตรงหน้าที่เดินวนไปวนมาอยู่หน้าชั้นวางเนื้อก่อนจะหันมาถามแถมยังพยายามช่วยผมเค้นหาความชอบที่ 'พิเศษ' ของตัวผมเองออกมาขนานใหญ่

"ไม่อะไรก็ได้ดิ มันต้องมีสักอย่างแหละที่ชอบมากกว่าอย่างอื่นอ่ะ"

"จริงๆ ก็มีนะครับ" ผมคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบออกมาอดยิ้มไปไม่ได้กับท่าทางของคนตรงหน้าที่ดูจะตื่นเต้นมากกว่าทุกครั้ง ...ผมว่าวันนี้ ผมชักจะยิ้มมากเกินไปแล้วนะเนี่ย

"อื้อ ว่ามาเลย" พี่กันย์บอกก่อนยื่นเนื้อหลายๆ อย่างที่คาดว่าผมจะชอบมาให้เลือกตรงหน้าเกือบสิบถาด

"คนนี้ไงครับ ผมชอบมากที่สุดเลย" ผมตอบก่อนจะเลื่อนนิ้วชี้มาหยุดตรงหน้าพี่กันย์แล้วแตะลงไปบนปลายจมูกอย่างล้อๆ เมื่อคนตรงหน้าเริ่มเม้มปากอย่างเขินๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วมองมาอย่างเซ็งๆ แทน

"เอาของที่มีไว้กินสิครับมึง"

"อ้าว แล้วคนนี้กินไม่ได้เหรอครับ โอ้ย!" แซวได้ไม่ทันขาดนิ้วชี้ที่บังอาจไปจิ้มปลายจมูกของคนตรงหน้าก็โดนงับไปเข้าไปเต็มๆ จนชักกลับแทบไม่ทัน

"กูไม่ถามมึงละ กินของกูไปแทนแล้วกัน โว๊ะ!" เป็นอันว่าประเด็นในการพยายามหาของกินของผมเป็นอันตกไปด้วยประการนี้นี่แหละครับ อาเมน...





[Gun's]

"พี่กันย์ครับ"

"ทำไมวันนี้เรียกบ่อยจังวะ เก็บค่าเรียกดีมั้ยเนี่ย?" ผมหันไปมองไอ้ปืนที่วันนี้ดูเหมือนจะคึกผิดปกติอย่างขำๆ ก่อนจะแซวมันขึ้นมาในระหว่างที่ต่อแถวเพื่อจ่ายตังค์

"เราควรซื้อไอ้นั่นป่ะครับ?" ไอ้ปืนถามพลางพยักพเยิดหน้าไปทางอะไรสักอย่างแถวๆ แคชเชียร์

"อะไรวะ?"

"ไอ้นั่นอ่ะ" มันย้ำก่อนจะพยายามส่งสัญญาณให้ผมหันไปมองทางนั้นอีก ...แล้วกูจะรู้กับมึงมั้ยล่ะครับ โว๊ะ!

"อะไรของมึง?"

"ไอ้เนี่ย!" ไอ้ปืนล้วงเอาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของมันออกมาก่อนจะพิมพ์อะไรบางอย่างในหน้าโน้ตแล้วยื่นมาให้ผมพร้อมกับหน้าของมันที่ขึ้นสีแดงจางๆ จนผมต้องก้มลงอ่าน

'ถุงยาง'

"ไอ้!..." ยังไม่ทันทันได้ด่า แต่แค่หันไปเห็นหน้าไอ้เด็กปีหนึ่งของผมที่ชวนซื้ออุปกรณ์ผู้ใหญ่แต่ตัวเองกลับอายเองขึ้นมาซะอย่างนั้น ก็ทำเอาจากผมที่ทำตัวไม่ถูกกลายเป็นขำมันแทนซะได้ โถ...

"เขินขนาดนี้ กล้าเดินไปหยิบเหรอวะ?" ผมแซวมันอย่างขำๆ พลางพยักพเยิดหน้าไปยังทิศทางตามที่มันว่าก่อนจะหยิบของจากรถเข็นขึ้นมาวางเมื่อถึงคิวจ่ายตังค์

"กล้าสิครับ แค่นี้เอง" มันบอกก่อนทำท่าจะเดินไปหยิบจริงๆ จนผมต้องล็อคคอมันอย่างทันท่วงที

"ใจเย็นครับมึง แล้วไหนบอกวันนี้กูรอดไง" ไอ้ปืนชะงักแล้วเงยหน้าขึ้นมามองผมนิดนึงก่อนจะยิ้มออกมา ...กูล่ะเกลียดไอ้รอยยิ้มแบบนี้ของมึงจริงๆ ให้ตาย!

"เราไม่ได้มากันแค่วันเดียวนี่ครับ" มันบอกก่อนพยายามจะเอาหน้ามาคลอเคลียแถวๆ ไหล่เหมือนเด็กน้อยจะอ้อนเอาอะไรบางอย่างพาลเอาผมหน้าร้อนขึ้นมาดื้อๆ เมื่อดันเผลอไปคิดถึงเหตุการณ์ต่อจากนั้นเสียได้

"เอาจริงอ่ะ" ผมถามอย่างไม่มันใจก่อนจะหันไปมองหน้าไอ้คนข้างๆ ที่เอาแต่ยิ้มจนตาหยีตามแบบฉบับของมันแต่สายตามันนี่โคตรไม่น่าไว้วางใจแบบสุดๆ

"เอาครับ" มันยิ้มอย่างมั่นใจก่อนจะเผลอกัดขอบปากตัวเองจนผมได้แต่มองด้วยความรู้สึกเสียวหลังแปลกๆ ...นี่มึง 'เอา' เดียวกับกูป่ะเนี่ย?

"สรุปคือ..." มันทอดเสียงก่อนจะเลิกคิ้วถามอย่างลองเชิง

"เออ" ผมรับคำมันก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

"..."

"ไปหยิบมา"

"เย้!" ...เย้พ่อง! แล้วมึงจะร้องขึ้นมาให้คนมองเพื่อ? ผมคิดพลางพยายามซ่อนใบหน้าร้อนๆ จากพนักงานแคชเชียร์ตรงหน้าที่มองตามไอ้ปืนไปอย่างงๆ อีกคนก่อนจะแอบยิ้มกับตัวเองในระหว่างที่กำลังคิดตังค์อยู่

"อันนี้ด้วยครับ" ไอ้ปืนพูดขึ้นหลังจากเดินกลับมาพร้อมด้วยกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ในมือก่อนจะยื่นให้พนักงานสาวตรงหน้าคิดเงินเป็นชิ้นสุดท้ายทำเอาผมทำหน้าไม่ถูกเลยทีเดียว

"ขอถามอะไรหน่อยได้มั้ยครับ?" คำถามของไอ้ปืนเรียกให้ทั้งผมและพนักงานสาวหันไปมองก่อนมันจะยื่นขวดทรงสูงของบางอย่างส่งให้พนักงาน

"คะ?"

"ปกติเขาใช้อันนี้ด้วยใช่มั้ยครับ?" ...ไอ้ห่า คือมึงยื่นขวดเจลหล่อลื่นให้ผู้หญิง แล้วถามเขาว่าต้องใช้มั้ยเนี่ยนะ?

"เอ่อ แล้วแต่ค่ะ" ...จริงๆ เขาคงอยากบอกว่า 'เรื่องของมึง ไอ้สัด!' มากกว่า

"มันจะทำให้ง่ายขึ้นใช่มั้ยครับ เอ่อ...สำหรับครั้งแรก"

"คะ? ค่ะ" พนักงานสาวทำหน้างงๆ ก่อนจะมองผมทีไอ้ปืนที่ก่อนจะหลุดขำออกมาจนต้องพยายามปรับสีหน้าแล้วตอบรับ

"โอเคครับ งั้นเอาอันนี้ด้วย" ...ไอ้ปืนครับ มึงทิ้งความอายทีมีในตอนแรกไปไหนหมดเนี่ย? ผมคิดอย่างปลงๆ พลางพยายามใจจดใจจ่อกับการจัดเรียงถุงตรงหน้าเพื่อหนีจากโลกแห่งความจริงอันโหดร้ายที่สร้างด้วยไอ้ปืน

"ค่ะ เอ่อ ตอนนี้มีโปรโมชั่นซื้อสองแถมหนึ่งค่ะ สำหรับ เอ่อ ชิ้นนี้ จะรับเพิ่มอีกชิ้นมั้ยคะ? จะได้เป็นสามกล่องไปเลย" พนักงานสาวถามขึ้นก่อนจะยกกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ขึ้นมาประกอบการถาม ...คือถามเฉยๆ ไม่ได้งี้?

"รับครับ"

"เชี่ย! มึงก็ตอบไวไป" ผมสบถทันทีที่เจ้าตัวรีบหันกลับไปทางชั้นวางข้างเคาน์เตอร์ทันที

"เอ่อ ต้องเหมือนกันใช่มั้ยครับ?" ไอ้ปืนไม่สนใจคำพูดผมเลยสักนิดก่อนจะหันไปถามพนักงานพลางชูกล่องที่เหมือนกันให้ดู ประหนึ่งพนักงานนี่เป็นเพื่อนแมร่ง ...เข้าใจแล้วครับว่ามึงไม่อาย แต่คือกูยังอายอยู่ไง เห็นใจความเปราะบางของหน้าและหัวใจกูด้วยครับ สัด!

"ใช่ค่ะ กล่องนี้เป็นกลิ่นและรสช็อคโกแลต อีกกล่องรวมถึงกล่องที่แถมก็ต้องเป็นช็อคโกแลตเหมือนกันค่ะ" ...เดี๋ยวนะ คือกลิ่นนี่ยังพอเข้าใจ แต่รสมันคืออะไรวะ? คือกูต้องกินมันเหรอ หรือยังไง?

"ไอ้เชี่ยปืน! ไม่เอา!"

"ไม่เอาของแถมเหรอครับ?"

"ไม่เอาช็อคโกแลตโว้ย!" จากพนักงานที่พยายามทำหน้าเฉยๆ เริ่มกลายเป็นกลั้นขำอย่างจริงจังจนผมเริ่มทำหน้าไม่ถูกหลังจากรู้ตัวว่าเพิ่งตะโกนอะไรออกไป

"งั้นลองรับเป็นรสผลไม้แทนมั้ยคะ? คุณลูกค้าอาจจะชอบ" พนักงานสาวหันมาถามก่อนจะยิ้มให้แล้วแล้วชะเง้อไปยังชั้นวางก่อนจะแนะนำรสอื่นๆ ให้ไอ้เด็กปีหนึ่งของผมแทนจนผมได้แต่ฟุบหน้ากับรถเข็นอย่างอายๆ


'จะแอปเปิ้ล มะละกอ กล้วย ส้ม กูก็ไม่เอาทั้งนั้นแหละโว้ยยย!'






ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
5555 ตลกอ่ะสองคนนี้
ปืนก็นะทำไรนึกถึงหน้าพี่เค้ามั่งกะได้ เขินจะละลายแล้วมั้ง
แต่ว่าซื้อแล้วแถมขนาดนี้มีจัดหนักแน่ใช่มะ
 :hao6:

ออฟไลน์ mam.nalok

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
 :pigha2: :laugh: :m20: :jul3: ทำไมเป็นการซื้อถุงยางที่ขำหนักมาก

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1

ออฟไลน์ Psycho

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
สตรอว์เบอร์รี่ก็มีนะ ^^

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
สงสารพี่กันย์คนหน้าบาง ฮา

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
น่ารักกันจังเลย
ทั้งขี้แกล้ง ขี้เขิน
ชอบจัง

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :impress2:  จะรสอะไรก็ขอให้ได้ใช้เร็วๆนะ เอ๊ะหรือจะสดๆไปแทน
พี่กันย์น้องดีสจด้วยนะที่ได้แฟนดีรู้จักเลือกซื้อของ

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ปกติพี่กันย์ชอบกินช็อคโกแลตนี่นา.  น่าจะชอบกลิ่นและรสช็อคโกแลตนะ :hao6:

ออฟไลน์ k00_eng^^

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-2

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ไม่เอาชอคโกแลต 5555555555555555

พี่กันย์แพ้ทางปืนหนักมาก

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
แค่ซื้อุปกรณ์ยังขนาดนี้แล้วตอนลงมือจริงจะขนาดไหนกันนะ  อั๊ยยยยยย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
จะน่ารักกันเกินไปแล้วนะคู่นี้
ทั้งพี่กันต์น้องปืน

 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ minkey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ เสพศิลป์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
พี่กันย์น่ารัก  เด้กนี้มันร้ายยยย แต่ชอบบมากกกก

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
งี้ก็ได้หรอปืน ถามกับพนักงานเอางี้อะ  โอ๊ย!~ น่าร๊ากกกกกก~(?) :hao7:

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4

ออฟไลน์ เจ้าเป็ดน้อย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ชอบหนักมากเรื่องนี้อ่าาาา // รอพี่กันต์โดนน้องกินนนนนนน อิอิ

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
พี่กันย์น่าสงสารจริงๆ  :laugh:

ออฟไลน์ zenzaii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
33-...ก็พี่ใจร้อน ส่วนผมมันเด็กว่านอนสอนง่าย

หลังจากสลับกันทำหน้าที่สารถีมาสองสามรอบ ผมก็พาตัวเองและพี่กันย์มาเหยียบจังหวัดระนองได้ในที่สุดโดยอาศัยตัวช่วยอย่างกูเกิ้ลแมพที่แม้จะพาเราไปยังเส้นทางแปลกๆ หลายครั้งก็ตาม

วิวสองข้างทางเริ่มเปลี่ยนจากทางหลวงแปดเลน กลายเป็นถนนสี่เลนของชุมชนเมืองของตัวอำเภอหลักก่อนจะเปลี่ยนอีกครั้งเมื่อเข้าสู่อำเภอเล็กๆ ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่พักที่จองไว้ จากตึกรามบ้านช่องสองข้างทางกลายเป็นสวนยางพาราสลับกับบ้านหลังเล็กๆ ที่แทรกอยู่ในสวนเป็นระยะๆ ทำให้ผมเริ่มผ่อนน้ำหนักที่แตะคันเร่งเพื่อทำเวลามาตลอดทางลงอย่างผ่อนคลาย

“วันหลังนั่งเครื่องมาเหอะ เหนื่อยฉิบหาย” พี่กันย์บ่นพลางเอี้ยวตัวบิดซ้ายทีขวาทีเพื่อคลายกล้ามเนื้อที่ดูจะเมื่อยล้าเพราะนี่ก็เข้าไปเกือบจะชั่วโมงที่เก้าแล้วที่ที่เดินทางสลับกับแวะปั๊มพักไม่กี่นาทีจนผมไม่ได้ที่จะสงสารก่อนจะเอื้อมกำปั้นไปช่วยทุบเบาๆ เพื่อเอาใจ
 
“นานทีปีหนเองครับ” ผมยิ้มพลางพยายามพยักหน้าเพื่อคะยั้นคะยอให้อีกคนเออออไปด้วยแต่ดันได้รับสายตาคาดโทษกลับมาแทน

“เออ กูคงจะปล่อยให้มึงลากมาทำอะไรแบบนี้บ่อยๆ อยู่หรอกเนอะ หึ!” พี่กันย์ย่นจมูกใส่ก่อนจะหันไปมองวิวนอกหน้าต่าง ถึงอย่างนั้นผมก็ยังอดที่จะยิ้มกับตัวเองไม่ได้ …ดีใจที่พี่กันย์ยอมตามใจแล้วมาเที่ยวด้วยกันทั้งที่ไม่ใช่สไตล์อย่างที่เจ้าตัวชอบพูดบ่อยๆ ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ยังไงก็ไม่มีทางแน่นอน คนอย่างพี่กันย์ไม่ได้ติดหรูแต่ก็ชอบใช่ชีวิตแบบสะดวกสบายมากกว่าจะต้องมาทนลำบากถ้าไม่จำเป็น อย่างการไปค่ายอาสาพี่กันย์บอกว่านั่นคือกิจกรรมพิเศษ

…ผมนี่รักความพิเศษของคำว่า ‘แฟน’ ขึ้นมาเลยครับ

“แต่มันก็ดีใช่มั้ยล่ะครับ?” ผมถามยิ้มๆ เมื่อเห็นคนข้างตัวเริ่มตื่นตาตื่นใจไปกับวิวของภูเขาลูกเล็กลูกน้อยที่มีพืชพรรณเขตร้อนชื้นขึ้นให้เขียวไปหมดสลับกับพื้นที่เกษตรกรรมที่มีลำธารเล็กๆ ขนานไปกับถนนอยู่เป็นช่วงๆ อย่างอดไม่ได้ คงดูเป็นภาพแปลกตาสำหรับเด็กในเมืองอย่างพี่กันย์อยู่ไม่น้อยเพราะเห็นเจ้าตัวควักโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมากดถ่ายไว้ทันที

“ก็ดี” พี่กันย์ส่งเสียงรับก่อนจะปรายตามามองผมที่ส่งยิ้มล้อๆ ไปให้คนที่เพิ่งบ่นไม่ค่อยอยากจะมาอยู่เมื่อครู่ก่อนจะแซวขึ้นมาอย่างไม่ได้เมื่อนึกถึงสถานที่ที่พี่กันย์จะชวนไปหากให้เจ้าตัวเป็นคนเลือกเหมือนเช่นทุกครั้ง

“ดีกว่าสยามรึเปล่าครับ?” …และเจ้าตัวก็หันขวับมามองอย่างที่คิดไม่มีผิด

“สยามคือที่สุดเว้ย!” พี่กันย์กอดอกก่อนจะตอบอย่างมั่นใจจนผมต้องหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้

“ดีขนาดนั้นเชียว?” ผมแกล้งย่นจมูกอย่างไม่อยากเชื่อก่อนจะได้รับคำตอบเป็นแรงบีบแรงๆ ที่จมูกกลับมาแทน

“เออ ขนาดนั้นแหละ”

“แล้วผมกับสยามล่ะครับ?”

“ห๊ะ?” พี่กันย์ทำหน้างงๆ ก่อนจะหันมามองจนผมต้องถามใหม่อีกรอบ

“ถ้าต้องเลือกระหว่างผมกับสยาม พี่จะเลือกอะไร?”

“สยาม” พี่กันย์ตอบหน้าตายก่อนจะหันมามองผมอย่างลองเชิง

“ก็ตอบไวไปครับ”

“ต้องคิดด้วยเหรอ ไม่น่าถามนะ” พี่กันย์ยกยิ้มมุมปากก่อนจะปรายตามามองผมเป็นระยะๆ จนผมเริ่มหมั่นไส้ขึ้นมาตงิดๆ

“ผมให้โอกาสเลือกใหม่” ผมบอกก่อนจะเหล่สายตาไปมองพี่กันย์

“ช่วยคิดก่อนตอบสักนิดเถอะครับ เอาใจผมหน่อยนะ” พี่กันย์หัวเราะออกมาก่อนจะเอื้อมมือมาผลักหัวผมเบาๆ แล้วส่ายหน้าให้ความช่างตื้อที่ยังถามไม่เลิก

“ก็สยามอยู่ดีอ่ะ” พี่กันย์บอกพลางส่งสายตามาประมาณว่าช่วยไม่ได้จนผมต้องย่นจมูกอีกครั้งอย่างเซ็งๆ

“น้อยใจนะครับเนี่ย” ผมบอกก่อนจะหันไปเบะปากให้อย่างงอนๆ ก่อนพี่กันย์จะหัวเราะขึ้นมาอีกรอบก่อนจะหันไปมองนอกหน้าต่างแทน  …เพิ่งเข้าใจวันนี้แหละครับว่าสวัสดิการแฟนมันดี แต่ก็ยังไม่ดีเท่าสยาม ผมจะไม่ไปเดินสยามอีกเลยคอยดู!

“ก็ถ้าเลือกมึง กูก็จะไม่ได้ไปสยามใช่ป่ะ?” คำพูดของพี่กันที่ทิ้งช่วงไปนานจนผมเกือบลืมคำถามก่อนหน้าพูดขึ้นจนผมต้องหันไปมองอย่างงงๆ

“ครับ?”

“แต่ถ้ากูเลือกสยาม กูก็จะมีมึงไปเป็นเพื่อนไง”

“หืมมม?” ผมเผลอลากเสียงออกมาอย่างประหลาดใจหลังจากกลั่นกรองประโยคของพี่กันย์และประมวลผลออกมาได้ว่า มันดูเหมือนจะเป็นอะไรที่ชวนเขินมากๆ สำหรับคนอย่างพี่กันย์ก่อนจะเหลือบไปมองคนพูดที่มีพัฒนาการจากการเม้มปากเวลาเขินเป็นกัดริมฝีปากตัวเองแทน …คงเขินขั้นสุด

“แล้วจะไปไม่ไป?”

“ไปไหนครับ?” ผมถามไปอย่างไม่ทันได้คิดตามคำถามเพราะยังมึนกับประโยคเมื่อครู่อยู่

“สยามไง อย่าให้พูดซ้ำได้เปล่าวะ โว๊ะ!”

“ไปสิครับ” ผมตอบกลับพลางมองคนที่ทำท่าว่าจะสนใจโทรศัพท์ในมือมากกว่าผมแต่ดันทิ้งตัวมาพิงกับไหล่ผมอย่างอ้อนๆ ซะอย่างนั้น

“จะไปด้วยทุกวันเลย”





“กูขอร้องไห้ได้เปล่าวะ?” พี่กันย์พูดขึ้นทันทีที่เราทั้งสองคนลงจากรถพลางมองภาพแปลงผักหลากหลายชนิดตรงหน้าบวกกับฉากหลังที่เป็นดงต้นหมากและภูเขาที่อยู่ไม่ไกล …อากาศโคตรดี แต่คนข้างๆ ผมนี่โคตรงอแง
 
“ร้องไห้เพราะชอบมาก?” ผมแกล้งต่อมุกพลางส่งขวดน้ำหวานที่หยิบออกมาจากลังโฟมที่ใช้แช่พวกเครื่องดื่มและอาหารสดให้

“กูเหนื่อยมากจนจะร้องไห้ต่างหากโว้ย ไอ้เชี่ย! ไกลสัดอ่ะ ไกลโคตรๆ” พี่กันย์บ่นออกมาอย่างระบายอารมณ์ก่อนจะหลับตาแล้วทิ้งตัวไปพิงกับรถ ผมส่ายหัวอย่างขำๆ อย่างอดเอ็นดูไม่ได้ก่อนจะเหลือบไปเห็นผู้หญิงท่าทางมีอายุคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพร้อมกับตะกร้าไม้ไผ่สานในมือที่เต็มไปด้วยผักสดหลากหลายชนิด

“สวัสดีครับ ผมขอสักใบนะครับคุณป้า" ผมบอกก่อนจะเด็ดเอาโหระพามากิ่งหนึ่งทันทีที่คุณป้าพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาตก่อนจะเอาไปปัดๆ แถวริมฝีกปากของคนที่หลับตาอยู่จนเจ้าตัวลืมตาขึ้นก่อนจะมองว่าเป็นอะไรแล้วอ้าปากงับเข้าไปอัตโนมัติอย่างที่ชอบทำบ่อยๆ บ่อยขนาดที่ตอนนี้ในกระถางผักสวนครัวตรงระเบียงห้องผมแทบไม่เหลือสีเขียวของผักอยู่เลยสักใบจนอยากจะถามว่า …พี่เป็นคนหรือเป็นหนอนครับ?

“ป้าครับผมลืมถาม มันต้องล้างมั้ยครับเนี่ย?” ผมหันกลับไปถามป้าอย่างนึกขึ้นได้ก่อนคนที่เพิ่งกลืนใบโหระพาลงคอไปจะไอพร้อมมองมาอย่างคาดโทษจนผมต้องกลั้นยิ้ม

“ไอ้เชี่ยปืน!”

“ผมล้อเล่นน่ะครับ ผมอ่านมาแล้ว เขาบอกที่นี่ปลูกผักเองแถมยังปลอดสารพิษอีกด้วย”

“เออ แล้วไป”

“ว่าแต่… ป้าเป็นคนของที่นี่รึเปล่าครับเนี่ย?” และทันทีที่ถามคำถามนี้ออกไปพี่กันย์ก็ตรงเข้ามากระชากคอผมพร้อมกับเขย่าๆ จนผมต้องยกมือยอมแพ้แล้วหัวเราะออกมาพร้อมกับคำตอบของป้าที่เข้ามาช่วยได้ทันเวลาพอดี

“ไม่ต้องห่วงนะลูก สะอาดปลอดภัยแน่นอนจ้ะ” คุณป้าบอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ส่วนพี่กันย์ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะยกมือไว้พร้อมกล่าวสวัสดีอย่างเป็นทางการอีกครั้งเมื่อรู้ว่าคุณป้าเป็นเจ้าของ ‘บ้านไร่ไออุ่นรัก’ ที่พวกเราจะมาพักกันนั่นเอง

“เดี๋ยวไปรอพี่เขาข้างในนะลูก พี่เขาบอกป้าไว้แล้วแหละว่าพวกลูกจะมา” คุณป้าบอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้มก่อนจะยอมปล่อยตะกร้าผักให้ผมช่วยถือแล้วเดินนำเข้าไปข้างในส่วนต้อนรับที่ดูเหมือนจะเป็นคาเฟ่ต์เล็กๆ ที่ตัวอาคารทำจากอิฐมอญก่อเปลือยผสมกับโครงสร้างจากไม้ไผ่ที่นำมาขัดต่อๆ กันเข้ากับบรรยากาศบ้านไร่สมชื่อจริงๆ

รอไม่นาน ‘พี่เขา’ ที่คุณป้าว่าก็เดินออกมาต้อนรับ ‘พี่บอล’ เป็นลูกชายของคุณป้าที่ทำหน้าที่ช่วยดูแลและอำนวยความสะดวกต่างๆ ตั้งแต่ให้ข้อมูลการเดินทาง จุดแวะพัก ตลอดจนเรื่องจิปาถะอีกมากมายที่ผมโทรมาถามตลอดการเดินทาง ผมชอบที่พักแบบโฮมสเตย์มากกว่ารีสอร์ทก็ตรงจุดนี้ ถ้าไปพวกรีสอร์ททุกอย่างจะถูกจัดไว้เตรียมพร้อมอย่างมืออาชีพซึ่งคนข้างๆ ผมตอนนี้ดูจะชอบแบบนั้นมากกว่า แต่ผมว่าบรรยากาศสบายๆ แบบพึ่งพาอาศัยกันเหมือนครอบครัวแบบนี้กลับมีเสน่ห์มากกว่า เพราะเหมือนเราได้มาสัมผัสกับพื้นที่จริงๆ ไม่ใช่ไปแค่พัก ถ่ายรูปแล้วก็กลับบ้าน

“สวัสดีครับ” ผมยกมือขึ้นไหว้ทักทายทันทีที่ชายหนุ่มหน้าคม ผิวแทนเดินยิ้มร่าเข้ามาพลางเอ่ยต้อนรับอย่างเป็นมิตร

“อ้าวพี่! / ไอ้กันย์!” พี่กันย์กับพี่บอลอุทานขึ้นพร้อมกันอย่างดีใจก่อนจะโผเข้ากอดกันอย่างสนิทสนม จากนั้นจึงหันมาแนะนำตัวให้ผมรู้จัก

พี่บอลเป็นรุ่นพี่ที่คณะก๊วนเดียวกับพวกพี่แชมป์ขาวงเหล้าเจ้าประจำของพี่กันย์นั่นแหละครับ แต่เพราะพี่บอลไม่ใช่สายแอลกอฮอล์เท่าไหร่เลยเจอกันแค่ที่เวลามีกิจกรรมของคณะมากกว่าเลยไม่รู้ข้อมูลอะไรมากนอกจากว่าพี่แกติสท์ไม่ทำมันแล้วกับอาชีพนักออกแบบในเมืองแต่เบนเข็มกลับมาทำไร่ทำฟาร์มให้ที่บ้านแทน

“เลิกคุยกันก่อนเถอะลูก น้องหิวจะแย่แล้วเนี่ย” คุณป้าหรือแม่พี่บอลเข้ามาปรามก่อนจะเดินนำไปที่เรือนไม้ไผ่อีกหลังที่มีชานเรือนกว้างกว่าหลังแรกก่อนจะหย่อนพวกเราให้นั่งลงที่โต๊ะตรงมุมสุดพร้อมเมนูอาหารที่มีรายการอาหารง่ายๆ เพียงไม่กี่อย่างในมือ

“ผมต้องแปลงร่างเป็นหนอนใช่มั้ยเนี่ย?” พี่กันย์เอ่ยขึ้นมาอย่างอารมณ์ดีพลางมองเมนูในมือที่มีผักเป็นส่วนประกอบแทบทุกอย่างจนผมหลุดหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้เพราะดันนึกไปถึงเรื่องที่ผมก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าเจ้าตัวเป็นคนหรือหนอนกันแน่

“กูรู้มึงชอบกินผัก อย่ามาทำงอแง” พี่บอลตอบกลับก่อนจะใช้ปากกาเคาะหัวพี่กันย์ทีหนึ่งอย่างหมั่นไส้จนเจ้าตัวที่โดนว่างอแงหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ

“สุกี้น้ำนี่เป็นถ้วยๆ หรือเป็นหม้อๆ ครับ” คำถามของผมทำเอาคนทั้งสองหันมามองผมอย่างงงๆ ก่อนพี่บอลจะตอบ

“ปกติขายเป็นถ้วยนะ แต่ถ้าอยากได้หม้อจะไปเอาหม้อไฟฟ้าที่บ้านมาให้เป็นกรณีพิเศษ”

“โหวว โคตรรักพี่เลยว่ะ” พี่กันย์ยิ้มอย่างอารมณ์ดีก่อนจะล็อคคอพี่บอลมากอดอย่างชอบใจพลางตบเข้าที่หลังดังป้าบสองสามที

“อะแฮ่ม” ผมเผลอกระแอมขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจก่อนจะค้อมหัวเป็นการขอโทษที่เสียมารยาทจนพี่บอลหัวเราะออกก่อนจะผลักพี่กันย์ออกไป …ผมไม่ได้อะไรนะครับ แต่พี่กันย์จะไม่หวงตัวหน่อยเหรอครับพี่ โว๊ะ!

“แต่เนื้อกูมีไม่เยอะ มีแต่ผักนะ เอามั้ย?”

“เอาหมดแหละครับ พี่มีอะไรมาเสนอผมก็เอาทั้งนั้นแหละ” พี่กันย์พูดอ้อนๆ เพื่อขอของฟรีจนพี่บอลหัวเราะออกมา แต่ไม่รู้ทำไมผมกลับไม่รู้สึกขำไปด้วยสักนิด

“ของผมก็มีนะ เอาของผมบ้างมั้ยล่ะครับ?” กว่าจะรู้ตัวผมก็เผลอพูดออกไปจนพี่กันย์หันมามองอย่างอึ้งๆ แต่พี่บอลกลับหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังไปแล้ว

“ของอะไรวะ?”

“พี่จะเอาอะไรผมก็มีทั้งหมดนั่นแหละ เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปอาคนอื่นเลยครับ”

“เดี๋ยวนะมึง ใจเย็น กูไม่ได้จะไปเอาใครทั้งนั้น”

“เอ่อ…” ผมนิ่งไปทันทีที่เพิ่งรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป ผมแค่จะหมายความว่า …ถ้าพี่ต้องการเนื้อ ผมก็ซื้อมาให้แล้วก็เท่านั้น …มั้งครับ

“ไอ้เชี่ย! กูชอบ ฮ่าๆๆ”

“ชอบใครครับ?” ผมหันไปจ้องหน้าพี่บอลทันทีจนเจ้าตัวชะงักก่อนจะตอบกลับมา

“ชอบมึงไง” พี่บอลตอบก่อนจะชี้มาที่ผมอย่างงงๆ

“แล้วไปครับ” ผมถอนหายใจก่อนจะเอนตัวพิงพนักเก้าอี้แทน แต่คราวนี้กลับเป็นอีกคนที่โวยวายขึ้นมาแทน

“พี่ชอบมันไม่ได้ นี่แฟนผมเว้ย!”

“คือตกลงเป็นแฟนกัน?” คำถามของพี่บอลทำให้ทั้งผมทั้งพี่กันย์ชะงักก่อนบรรยากาศเขินๆ จะเข้ามาแทรกจนพี่บอลที่ดูเหมือนจะได้สติก่อนจะหัวเราะขึ้นมาอีกครั้งแล้วเดินออกไป

“กูล่ะปวดหัวกับพวกมึงจริงๆ ให้ตาย”





[Gun’s]

“งั้นเดี๋ยวผมไปเอาเนื้อที่รถมาให้นะครับ” ไอ้ปืนบอกก่อนจะยื่นมือมาขอกุญแจแล้วเดินออกไป ปล่อยให้ผมนั่งปวดหัวกับตัวเองที่ไม่รู้กลายเป็นคน ‘ขี้หวง’ จนถึงขั้นต้องออกโรงประกาศสถานะต่อรุ่นพี่ร่วมคณะซะขนาดนั้น

“ทำไมอยู่ดีๆ มีแฟนเป็นผู้ชายไปได้วะ? กูนึกว่ามึงชอบผู้หญิงซะอีก” พี่บอลที่เดินกลับมาพร้อมหม้อไฟฟ้าถามขึ้นก่อนจะวางหม้อไว้ตรงกลางโต๊ะอย่างขำๆ

“ไม่รู้ว่ะพี่ รู้ตัวอีกทีก็มีแฟนเป็นไอ้ปืนไปซะแล้ว” ผมตอบก่อนจะคิดถามอย่างสงสัยเหมือนกัน …นั่นดิ ทำไมอยู่ดีๆ ผมกับมันถึงได้มาเป็นแฟนกันวะ?

“แต่มึงก็โอเคใช่เปล่าล่ะ?” พี่บอลถามพลางเทน้ำซุปจากกาลงในหม้อให้พลางจัดแจงตั้งค่าความร้อนให้เสร็จสรรพ

“โอเคอะไรพี่?”

“กับแฟนมึงไง แบบไม่ได้รู้สึกแย่ หรืออึดอัดอะไรแบบนั้นใช้มั้ยวะ?”

“อืมม ก็ไม่นะ อยู่กับมันก็สบายใจดี มันเป็นคนตรงๆ อ่ะ มีอะไรก็พูดไม่ต้องคิดเองเออเอง เทคแคร์ เข้าใจ ไม่งอแง”

“โหวว โคตรประเสริฐ”

“จริงพี่” ผมยิ้มรับแล้วยิ่งยิ้มมากขึ้นไปอีกเมื่อคิดได้ว่าตั้งแต่ที่รู้จักกันมามันทำอะไรให้ผมบ้าง อาจจะเป็นเพราะความใส่ใจของมัน ความเข้าใจหรออะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ผมเปิดใจ แต่ตอนนี้ผมรู้แค่ว่าผมดีใจและรู้สึกขอบคุณมากขนาดไหนที่มีมันอยู่ข้างๆ ไม่ต้องมีเรื่องยิ่งใหญ่หรืออุปสรรคอะไรให้ฝ่าฟันกันมาเหมือนในหนัง แค่มีคนช่วยปลุกในวันที่มีส่งงาน มีคนช่วยตัดโมเดลบ้างเวลาที่มันไม่ทัน ขับรถให้เวลาที่ไม่ได้นอน มีเพื่อนไปเดินสยามหรือแค่นั่งๆ นอนๆ อยู่ในห้องในวันว่างๆ ผมว่าก็พอแล้วนะ … แค่นั้นก็พอ

“เนื้อครับ” ไอ้ปืนทักขึ้นก่อนจะวางกล่องโฟมไว้ที่โต๊ะข้างๆ อีกตัวก่อนจะดึงเอาเฉพาะแพ็คเนื้อออกมา ตัดถุงแล้วจัดใส่จานส่งมาให้

“ขอบคุณนะมึง” ผมบอกมัน รู้ในใจว่าคำที่บอกไปนั้นมันมากกว่าแค่เรื่องเนื้อที่มันส่งมาให้ เจ้าตัวพยักหน้ารับอย่างงงๆ ยิ้มตอบแล้วหย่อนตัวที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามตามเดิม

“ไม่เป็นไรครับ” มันยิ้มตอบก่อนจะหันไปสนใจผักนานาชนิดที่คุณป้ายกตามมาให้ก่อนจะเริ่มเด็ดมันแล้วค่อยๆ ใส่ลงในหม้อสุกี้ตรงหน้าซึ่งก็เหมือนทุกครั้งที่ผักที่ผมชอบจะถูกจับโยนลงไปในหม้อจนเกือบเต็ม เหลือเพียงแค่ไม่กี่อย่างที่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่หนักอย่างพวกแครอทหรือเผือกก็จะลอยอยู่ประรายตรงหน้ามันแทน

“อยู่ด้วยกันไปนานๆ นะเว้ย” ผมบอกพลางคีบแครอทที่ต้มสุกแล้วชิ้นหนึ่งให้มันกลบเกลือนความเขินที่พุ่งขึ้นมา แต่ไม่ว่ายังไงผมก็อยากพูดมันออกไปอยู่ดี ไอ้ปืนชะงัก มองหน้าผมงงๆ ก่อนจะยิ้มออกมาเป็นรอยยิ้มยิ้มตาหยีประจำตัวที่เริ่มรู้สึกว่าหลงรอยยิ้มแบบนี้ของมันเข้าไปทุกวันๆ

“ครับพี่”





หลังจากที่มื้อเย็นจบลงพร้อมกับดวงอาทิตย์ที่ตกดินไปเรียบร้อย พี่บอลก็พาผมกับไอ้ปืนเดินมาตามทางที่ทำจากไม้ไผ่และยกสูงขึ้นจากพื้นเพื่อป้องกันช่วงเวลาน้ำหลาก ก่อนจะเจอเข้ากับบ้านไซต์กะทัดรัดหลังหนึ่งซึ่งพี่บอลบอกว่าชื่อบ้าน ‘ละอองดาว’  บ้านหลังนี้มีจุดเด่นสมชื่อคือระเบียงไม้ไผ่ที่ถูกยกสูงจนกลายเป็นเหมือนดาดฟ้าสามารถปีนขึ้นไปได้ด้วยบันไดลิงเล็กๆ ที่พาดอยู่ด้านข้างๆ …เอาไว้ดูดาว ก่อนจะพากันเดินเข้าไปในบ้านที่ตกแต่งด้วยโทนสีขาวและสีของไม้ไผ่ แถมด้วยไฟประดับดวงเล็กๆ ที่กระจายอยู่ทั้งมุมนั้นมุมนี้ให้ความรู้สึกสมชื่อ ‘ละอองดาว’ มากจริงๆ

“ชอบอ่ะดิ” ผมหันไปแซวไอ้เด็กข้างๆ ที่ดูเหมือนจะตื่นเต้นมากกว่า เพราะตั้งแต่เดินเข้ามามันก็เอาแต่จับนู่นจับนี่ไปทั่ว พลางเอาแต่พึมพำว่าน่ารักอย่างนั้น น่ารักอย่างนี้แถมยังขอซื้อพี่บอลไปอีกอย่างแจกันดอกไม้ที่ทำจากไม้ไผ่ดูท่ามันจะชอบมากจริงๆ

ไอ้ปืนมันชอบของน่ารักๆ อย่างพวกข้าวของบนโต๊ะทานข้าวที่หอมันนี่กระถางเซรามิกกระถามเล็กกระถางน้อยเต็มไปหมด เพราะฉะนั้นการตกแต่งของที่นี่ไม่ต้องพูดถึง สไตล์มันชัดๆ กลับไปนี่ห้องของมันต้องเต็มไปด้วยกระบอกไม้ไผ่แหงๆ ถ้ามันยังไม่ขอซื้อจากพี่บอลสักทีล่ะก็นะ

“มากๆ ครับ” มันยิ้มจนตาหยีพลางเดินไปที่ชิงช้าแขวนเพดานที่แขวนไว้ตรงปลายเตียงแทนที่จะเป็นโซฟาอย่างในโรงแรม

“หยุดคิดเลยมึง” ผมชี้หน้ามันอย่างรู้ทันเมื่อเจ้าตัวหันมาทำตาวิบวับให้

“เห็นมั้ยครับ มันแขวนได้จริงๆ นะ” มันย้ำ เล่นเอาผมได้แต่ส่ายหัวอย่างระอาแต่ก็อดพยักหน้ารับไปกับมันไม่ได้เมื่อมันเล่นเข้ามาบีบนวดเพื่อประจบซะขนาดนั้น สงสัยกลับไปคงได้แวะไป IKEA ก่อนกลับปีใหม่แน่ๆ ผมคิดอย่างขำๆ อย่างนึกภาพไม่ออกว่าผมจะเอาไอ้เปลอันใหญ่ที่มันอยากได้เข้าไปแขวนในห้องนอนมันยังไง

“ทุกอย่างโอเคนะ ถ้าคิดว่ามีส่วนไหนต้องปรับปรุงก็บอกได้เลย ถือว่าช่วยๆ กันดู พี่ก็มือใหม่มีอะไรพลาดไปก็ขอโทษด้วย”

“ขอบคุณมากครับพี่ พวกผมชอบมากจริงๆ” ผมถือโอกาสตอบแทนไอ้ปืนเพราะเจ้าตัวเอาแต่สนใจชิงช้าตรงปลายเตียงโดยไม่ได้สนใจคำพูดพี่บอลมากเท่าไหร่ …ดูก็รู้ว่าชอบมากขนาดไหน จะว่าไปก็ชักอิจฉาไอ้ชิงช้านี่ขี้นมาตงิดๆ แฮะ ไม่ซื้อให้ดีกว่ามั้งเนี่ย เดี๋ยวมันสนใจชิงชามากกว่าผม

“โอเค ที่นีมีกฎอยู่สามข้อนะ ข้อ 1 อย่าจุดเทียนหรือสูบบุหรี่ในบ้าน ผ้ากับไม้ไผ่มันเยอะ ติดไฟง่าย ระวังด้วยนะ ข้อ 2 ตอนกลางคืนปิดประตูหน้าต่างดีๆ กันพวกแมลงกับงูเงี้ยวเขี้ยวขอ ถึงแถวนี้จะไม่ค่อยมีแต่ระวังไว้ก่อนแล้วกัน ส่วนข้อสุดท้าย…” พี่บอลหยุดพูดไปนิดหนึ่งก่อนจะส่งยิ้มล้อเลียนมาให้แล้วเดินหนีไปปล่อยให้ผมกับไอ้ปืนมองหน้ากันตาปริบๆ ก่อนไอ้ปืนจะยิ้มร้ายออกมาจนผมต้องละสายตาไปแทน

“ผนังบ้านมันบางนะ ‘เล่น’ อะไรกัน เบาเสียงนิดหนึ่งก็ดี”





“มึงจะอาบน้ำก่อนรึเปล่า?” ผมตัดสินใจถามขึ้นหลังจากที่รู้สึกว่าห้องมันเงียบมานานทั้งทีความจริงพี่บอลเพิ่งเดินออกไปแท้ๆ ไอ้ปืนหันมามองผมงงๆ ก่อนจะหลุดขำออกมา

“ทำไมผมรู้สึกเหมือนผมล่อลวงพี่มาแล้วพี่พยายามจะหาทางออกด้วยการหนีไปในระหว่างที่ผมอาบน้ำล่ะครับ” คำพูดของไอ้ปืนทำเอาผมไปต่อไม่ถูกเพราะบางทีอาจจะจริงตามที่มันว่า …แต่ประเด็นคือจะให้กูหนีไปไหนวะ?

“อาบน้ำก่อนเถอะครับ เหนื่อยมาทั้งวัน” ไอ้ปืนบอกพลางยิ้มขำก่อนจะเดินมาทางผมที่ยืนอยู่ตรงที่กระเป๋าสัมภาระวางไว้พอดี มันก็เดินมาธรรมดาๆ นะ แต่ไม่รู้ทำไมผมรู้สึกว่าการเดินมาของมันครั้งนี้ทำเอาผมเสียวหลังแปลกๆ

“ใครจะอาบก่อน?”

“ถ้าตามบทแล้วต้องผมสินะครับ” มันถามขำๆ พลางรับผ้าเช็ดตัวผืนที่ผมรีบยื่นส่งให้มันเพื่อให้มันไม่ต้องเดินเข้ามาใกล้กว่านี้ แต่ผิดคาดเพราะมันยังเดินเข้ามาหาเรื่อยๆ ก่อนจะหยุดเมื่อหน้าของมันกับผมห่างกันแค่คืบ

“บทที่กูต้องอาบก่อนก็มีนะ” ผมพูดออกไปเพราะเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยเข้าทุกที ถ้ามันโอเค ผมจะได้รีบชิ่งไปอาบน้ำ อย่างน้อย…ถึงหนีไม่ได้ก็จะได้มีเวลาเตรียมใจ

“ผมพี่ยาวแล้วนะครับ” คำพูดของมันทำเอาผมงงว่ามันเกี่ยวอะไรกับเรื่องก่อนหน้านี้ แถมมันไม่พูดเปล่าแต่ดันเอามือขึ้นมาเกี่ยวผมของผมไว้ก่อนจะทัดไปที่หลังใบหูอย่างแผ่วเบา …ทั้งๆ ที่มันแค่เกี่ยวผมแต่ใจผมนี่โคตรเต้นแรง

“กะ.. เกี่ยวอะไรกับเรื่องอาบน้ำวะ?”

“ไม่เกี่ยวหรอกครับ ผมแค่พูดในสิ่งที่เห็นเฉยๆ” มันบอกก่อนจะส่งยิ้มมุมปากมาให้ …มึงอย่ามายิ้มตอนนี้ ใจกูมันไม่ดีครับมึง

“อะ.. อือ”

“หูพี่แดงด้วย ผมเพิ่งรู้ว่านอกจากเวลาพี่เขินแล้วพี่จะเม้มปาก อ้อ เร็วๆ นี้เปลี่ยนมาเป็นกัดปากแล้ว หูพี่ยังจะแดงอีกด้วยนะครับเนี่ย” ผมสัมผัสได้ถึงความร้อนที่แตะลงบนใบหูก่อนจะรับรู้ได้ถึงแรงบีบเป็นระยะๆ จากส่วนบนไล่ลงมาจนถึงติ่งหูแล้วก็ย้ำอยู่อย่างนั้น

“ระ.. เรื่องของกูเปล่าวะ?” ผมพยายามพูดด้วยน้ำเสียงปกติแต่วินาทีนี้กลับห้ามไม่ให้เสียงสั่นไม่ได้เลยครับ ให้ตาย!

“เขินเหรอครับ เม้มปากแน่นขนาดนั้นเดี๋ยวเลือดก็ไม่เดินหรอก” สัมผัสร้อนๆ ที่ติ่งหูหายไปแล้วก่อนจะรับความรู้สึกใหม่ได้ตรงแถวๆ ริมฝีปากแทน …ไอ้เชี่ยปืน! กูไม่ได้เขิน กูเกร็ง มึงเข้าใจมั้ย กูเกร็งเว้ย! เอามือมึงออกไป

“ดะ..เดี๋ยวๆ มือมึงจะไปไหนวะเนี่ย? ใจเย็นครับมึง” ผมรีบตะครุบมือมันทันทีที่รู้สึกเหมือนตำแหน่งมือมันเปลี่ยนไปจากริมฝีปากลากไปคางไล่ลงไปต้นคอแล้วเริ่มต่ำลงไปจนเริ่มอยู่ไม่สุข …ใจกูนี่แหละครับอยู่ไม่สุข กระจัดกระจายหายไปดาวอังคารแล้วมั้งเนี่ย

“ก็ไปเรื่อยแหละครับ” มันยิ้มตาหยีก่อนจะค่อยๆ ชะโงกตัวเข้ามาจนผมต้องก้าวถอยหลังไปจนติดตู้เสื้อผ้าก่อนตัวมันจะทาบทับลงมา

“ผมให้เวลาพี่เตรียมใจสัก…สามวิ”

“สัด!” ผมเผลอสบถก่อนจะมองไปยังดวงตาคมๆ ที่ของมันที่มองจ้องมาพร้อมกับรอยยิ้มมุมปาก รู้สึกเป็นรุ่นน้องมันก็วันนี้เอง

“หนึ่ง”

“ใจเย็นดิวะ” ผมพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบแต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล

“สอง”

“ไอ้ปืน..”สัมผัสได้ถึงลมร้อนๆ ที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนต้องหลับตา

“สาม”

“…” ไม่รอดแน่ๆ ครับ ผมขอลาตายหนึ่งวัน

ก๊อก ก๊อก ก๊อก…

“ใจเย็นครับพวกมึง ปิดประตูก่อนเนอะ” เสียงเคาะประตูที่ตามมาพร้อมเสียงพี่บอลทำให้ให้ปืนผละออกอย่างงงๆ ก่อนจะหมุนตัวกลับไปมองคนพูดที่ยืนส่งสายตายตาล้อเลียนมาให้อยู่หน้าประตู

“พี่บอล คือว่า…” ยังไม่ทันที่ผมจะได้หาตัวช่วยพี่บอลก็ยกมือขึ้นทำท่าจุ๊ปากให้เงียบลงก่อนจะพูดทิ้งท้ายไว้แล้วเดินหนีไปอีกรอบ

“คืนนี้บ้านหลังอื่นยังไม่มีคนเข้าพัก อนุญาตให้เสียงดังได้มากกว่าปกตินิดหน่อย คงไม่เป็นไร”

“พี่บอล!”

“หึ” ไอ้ปืนหัวเราะในลำคอก่อนจะหมุนตัวกลับมามองผมที่ตอนนี้แทบจะไหลลงไปกองกับพื้นซะให้รู้แล้วรู้รอด

“งั้นผมไปอาบน้ำก่อนดีกว่าครับ อย่าเพิ่งหนีไปไหนนะ” ไอ้ปืนพูดยิ้มๆ ก่อนจะพาดผ้าเช็ดขึ้นบ่าแล้วเดินไปทางห้องน้ำ

“ว่าแต่ว่า พี่ได้กลิ่นอะไรมั้ยครับ?”

“กะ..กลิ่นอะไรวะ?”

“กลิ่นเบอร์รี่” มันยิ้มจนตาหยีก่อนจะปิดประตูห้องน้ำลงปล่อยให้ผมยืนงงพลางคิดว่า …เบอร์รี่อะไรของมันวะ? พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่หล่นออกมาจากกระเป๋าของมัน ขวดทรงกระบอกที่มีตัวอักษรบอกกลิ่นเด่นชัดอยู่ปรากฏอยู่บนพื้นสีแดง

‘Sweet Strawberry’

ชัดเลยครับ! ไอ้กล่องสี่เหลี่ยมนั่นอุตส่าห์เลือกแบบธรรมดาราบเรียบ ไม่มีกลิ่น ไม่มีสีมาแล้ว ทำไมถึงได้ไอ้ขวดนี่เป็นไอ้กลิ่นนี้มาได้อีกวะเนี่ย…

“ไอ้เชี่ยปืน แมร่ง!”

“รอเดี๋ยวสิครับพี่ ใจร้อนขนาดนี้เข้ามาอาบด้วยกันเลยมั้ยล่ะครับ?” คนที่ผมคิดว่ามันคงไม่ได้ยินกลับส่งเสียงตอบกลับมา แถมมันไม่ว่าเปล่าแต่ยังเปิดประตูออกมาชะเง้อหน้ามองผมตาปริบๆ อีกต่างหาก

“โหวว นี่พี่เล่นเตรียมเจลไว้พร้อมซะขนาดนั้น รีบเหรอครับพี่ ให้ผมออกไปเลยมั้ย?” ผมมองตามสายตาของมันจนมาหยุดอยู่ที่ขวดเจลที่ผมดันหยิบมาถือไว้ในมือก่อนจะหันกลับไปมองไอ้คนที่เอาแต่ยิ้มล้อๆ มาไม่หยุดอย่างหมั่นไส้ …เมื่อก่อนมันกวนตีนขนาดนี้เปล่าวะ?

“ส่วนถุงยางอยู่ในกระเป๋าด้านหน้านะครับ ถ้ารีบก็ลองเอาออกมาลองใช้ก่อนเล่นๆ ได้ ผมมีหลายอัน”

“ไอ้เชี่ยปืน!” ผมอุทานแก้เขินก่อนจะโยนขวดเจลทิ้งลงบนกองกระเป๋าอย่างไม่รู้จะทำหน้ายังไงดี

“ครับพี่?”

“กูจะทนไม่ไหวแล้วนะ” ผมแกล้งทำเป็นโมโหกลบเกลื่อน ก่อนไอ้ปืนจะหัวเราะออกมา

“เฮ้ยพี่! พี่ต้องอดทนสิครับ ผมยังอาบน้ำไม่เสร็จเลย” มันรู้ว่าผมพูดเรื่องอะไร แต่แมร่งก็ไปเรื่อยจนผมอยากจะเข้าไปฟาดมันเข้าจริงๆ สักที

“มึงออกมานี่เดี๋ยวนี้เลยมา” มันรู้ว่าผมพูดเรื่องอะไร แต่แมร่งก็ไปเรื่อยจนผมอยากจะเข้าไปฟาดมันจริงๆ สักที ถ้าไม่ติดว่าตัวมันหลังประตูในตอนนี้คงไม่มีอะไรห่อตัวอยู่ล่ะก็นะ ผมยังไม่อยากเห็นของแสลงก่อนถึงวัยอันควร และความจริงคือวัยอันควรกำลังจะมาถึงเร็วๆ นี้หลังจากมันอาบน้ำเสร็จนี่แหละ ฮือออ

“โอเคครับ ออกก็ออก ไม่ต้องอาบมันแล้วเนอะน้ำอ่ะ”

“ห๊ะ? เดี๋ยวดิ…” ผมชะงักทันทีที่ไอ้ปืนพูดจบก่อนตัวมันจะหายไปหลังประตูอีกครั้งก่อนจะเปิดออกมาใหม่พร้อมด้วยท่อนบนที่มีหยดน้ำเกาะพราวส่วนท่อนล่าง …ยังดีที่มันมีจิตสำนึกนุ่งผ้าเช็ดตัว

“เดี๋ยวอะไรล่ะครับ ไหนว่าไม่ทนแล้วไง” มันพูดพลางกระตุกยิ้มที่มุมปากก่อนจะย่างสามขุมตรงมาทางผม และรอบนี้ผมไม่ได้คิดไปเอง มันย่างสามขุมมาจริงๆ ครับผม

“มะ..ไม่! กูไม่ได้หมายความว่าอย่างนี้” ผมพยายามอธิบายมันแต่ดูเหมือนมันจะไม่ฟังอะไรนอกจากเดินเข้ามาประชิดตัวผมเรื่อยๆ

“แต่ตอนนี้.. ผมก็จะไม่ทนแล้วนะ” มันบอกในนาทีที่เดินมาหยุดตรงหน้าผมก่อนจะสอดแขนทั้งสองมารั้งเอวผมให้เข้าไปแนบชิดมัน

“เฮ้ย! เดี๋ยว…”

“ไม่เดี๋ยวแล้วครับพี่ มาถึงขั้นนี้ผมถอยไม่ได้แล้วนะ” กูก็ถอยไม่ได้แล้วเหมือนกันครับ  เล่นดันมาจนหลังกูชนตู้เสื้อผ้าแล้วเนี่ย ไอ้เด็กเวร!

“ไอ้เชี่ยปืน! ใจเย็นโว้ยย…”


“หึหึหึ ยอมผมซะเถอะครับ พี่กันย์”











ขอโทษค่า รอบนี้ดองนานกว่าทุกครั้งเลย รู้สึกผิดมากจริงๆ T_____T
ตอนแรกหายไปเพราะติดงานค่ะได้นอนตีสามตีสี่ตลอดเลย มีวันหนึ่งกลับหกโมงเช้าช่างน่าเศร้า
ตอนหลังหายไปเพราะติดเด็กกับนิยายค่ะ ไปติ่งมา สิงโตน่ารักมากจริงๆ -///////-

ในส่วนนิยายของเรานั้น... เขาจะได้กันแล้วค่ะ ฮิ้ววววว จริงๆ มันแอบยืดกว่าที่คิดไว้นิดหนึ่งด้วย
แต่คาดว่าทั้งหมดทั้งมวลอยากให้จบก่อนวาเลนไทน์ค่ะ เพราะตอนพิเศษตอนแรกที่แต่งไว้คือ วันวาเลนไทน์
อยากให้อ่านมาก เราชอบมาก แต่งเสร็จตั้งแต่ปีมะโว้ ยังไงช่วยรออ่านกันด้วยนะคะ ^________^

ขอบคุณมากที่ติดตาม #ก็พี่มันเยอะ นะคะ
Zenzaii

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-01-2017 17:53:22 โดย zenzaii »

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
รอตอนต่อไป จัดไปอย่าให้เสีย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด