{เรื่องสั้น} เมธัสชอบกินน้ำตาล (3/01/2017) ตอนพิเศษที่2!
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: {เรื่องสั้น} เมธัสชอบกินน้ำตาล (3/01/2017) ตอนพิเศษที่2!  (อ่าน 36582 ครั้ง)

ออฟไลน์ antavvanp

  • Cutie Addict
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
    • แฟนเพจกากๆ ของเรา ไม่ได้เข้านานล้าว 5555
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
######################################################################











'ตาล' หนุ่มเฟรชชี่เจ้าเนื้อที่ดันไปเจอพนักงานร้านขนมปังที่หล่อจนใจสั่น!






P.S เตือนก่อนนะคะว่าเรื่องนี้ใช้คำหยาบเยอะมากเพราะบุคลิกของตัวละคร
P.S 2 ก่อนอื่นขอสารภาพเลยค่ะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องระบายอารมณ์(หื่น)ของเราอย่างเต็มที่ 5555555555555555555555




เรื่องกุ๊กกิ๊กที่ผ่านมา by สรรพล้วยควัน




TW acc @kinkysmoke
18+ TW acc @VIPkinkysmoke

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-06-2019 20:35:30 โดย antavvanp »

ออฟไลน์ antavvanp

  • Cutie Addict
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
    • แฟนเพจกากๆ ของเรา ไม่ได้เข้านานล้าว 5555


เมธัสชอบกินน้ำตาล













ตื๊อดื่อ~~

เสียงไซเรนหน้าประตูดังขึ้นเมื่อผมเดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อที่เปิด 24 ชั่วโมงซึ่งคิดว่าเด็กหอทุกคนน่าจะคุ้นเคยกับมันดี เพราะในยามที่ไม่รู้จะกินอะไรหรือในยามวิกาลที่ร้านข้าวปิดกลับบ้านกันไปหมดแล้วเซเว่นแทบจะเป็นเพื่อนตายเลยทีเดียว  โดยเฉพาะผมที่ชอบหิวตอนดึกแล้วหอในมันดันปิดสี่ทุ่ม พอหอปิดร้านอาหารใต้หอมันก็ปิดด้วยไงครับ  เวลาหิวขึ้นมาเซเว่นนี่แหละ The best สำหรับผมแล้ว

 

“67 บาทค่ะ” พนักงานหญิงเงยหน้าขึ้นบอกราคานมช็อกโกแลตกับแฮมเบอร์เกอร์หลังจากผมยื่นให้ไป “เวฟมั้ยคะ?”

 

ผมพยักหน้าหงึกหงัก  พนักงานคนนั้นก็ยื่นแฮมเบอร์เกอร์ส่งต่อไปให้พนักงานอีกคนที่อยู่ใกล้ไมโครเวฟ

 

บางทีผมก็สงสัยนะ  ก็มันเป็นอาหารแช่แข็งแล้วผมก็มาเซเว่นในสภาพเตรียมนอนแล้วด้วย  คือกางเกงบอลกับเสื้อเน่า ๆรองเท้าแตะไว้ใส่ในห้องน้ำนี่ก็คีบมาด้วย  แถมหอผมที่อยู่ข้าง ๆเซเว่นก็ไม่อนุญาตให้เอาเครื่องใช้ไฟฟ้านอกจากพัดลมกับเตารีดเข้าไปใช้อยู่แล้ว  แต่ทุกครั้งที่เข้ามาหาอะไรกินพนักงานก็จะต้องถามตลอดเลยว่าเวฟมั้ย  ซึ่งผมโคตรจะเซ็งอะ  ถ้าไม่เวฟจะกินยังไงวะครับ

 

เออ แต่อย่าสนใจผมมากเลยครับ ที่บ่นยาว ๆไปนี่คือหิว

 

พอได้แฮมเบอร์เกอร์ร้อน ๆจากเตาอบปุ๊บผมก็เดินออกมาจากเซเว่นทันที  ตอนนี้ประมาณสามทุ่มครึ่งกว่า ๆได้ครับ  คนไม่ค่อยมีแล้วเพราะใกล้เวลาหอปิด  แต่ร้านข้าวใต้หอผมนี่เก็บของกลับไปตั้งแต่สองทุ่มได้ ไม่รู้จะรีบกลับอะไรขนาดนั้น

 

ผมหยุดฝีเท้าที่กำลังจะเดินผ่านร้านปังปิ้งข้างเซเว่น  มีคนนั่งรอออเดอร์อยู่ประมาณสองสามคนได้  ที่สำคัญคือกลิ่นขนมปังกับเนยแม่งหอมมาก  แฮมเบอร์เกอร์นี่ผมวางแผนไว้ว่าจะกินเป็นเมนูหลัก ส่วนนมช็อกเอาไว้กินตามกันติดคอ  อืม..ซื้อปังปิ้งช็อกโกแลตราดนมข้นไปกินกันไม่อิ่มดีกว่าเว้ย

 

ผมขยับแว่นสี่เหลี่ยมที่ตกลงมาบนสันจมูกแล้วดันมันขึ้นมาด้วยนิ้วชี้  อ่าวเหี้ย นิ้วดันไปโดนเลนส์อีกคราวนี้มัวไปข้างนึงเลยครับ  ถ้าเอานิ้วดันที่รอยต่อตรงกลางแว่นหรือสันจมูกมันก็ไม่เป็นงี้หรอกแต่ผมดันติดใช้นิ้วดันตรงขอบเลนส์มันน่ะสิ  แล้วก็โง่โดนเลนส์จนมันมัวอยู่บ่อย ๆ

 

กว่าจะเดินมาหน้าร้าน ถอดแว่นออกมาเช็ดกับเสื้อซึ่งโชคดีที่เสื้อมันเน่าแทบจะเรียกว่าเปื่อย(ก็เกินไป)ผ้ามันเลยนุ่มใช้เช็ดแปบเดียวก็ใสกิ๊ง  ผมสวมแว่นคืนแล้วรีบหยิบกระดาษออเดอร์มาเขียน ‘ปังปิ้งช็อก-นมข้น 2’  ลงไปอย่างไม่ลีลา

 

ตอนแรกก็ว่าจะกินแผ่นเดียวแหละแต่แม่งหงุดหงิดจากเรื่องแว่น สั่งเพิ่มให้กำลังใจตัวเองหน่อย  อ้อ! แล้วก็ชดเชยที่วันนี้อ่านหนังสือยาวตั้งแต่เลิกเรียนตอนสี่โมงเย็นจนสามทุ่ม  เมื่อยตูดจะตายห่าแล้ว  นี่กลับไปอ่านสักเที่ยงคืนพอพรุ่งนี้มีเรียนแปดโมงเช้าอีก  ดีนะที่หมดช่วงรับน้องไปแล้วไม่อย่างนั้นป่านนี้น่าจะยังเด้งเอวเย้ว ๆอยู่แถวตึกคณะแน่ ๆ  คิดแล้วก็เกลียดตัวเอง แม่งโดนสั่งให้ไปเต้นมัดหมี่ต่อหน้าเพื่อนแล้วกูก็เต้นไม่เป็นไง! เกิดมานอกจากเรียนกับกินกูเคยทำอย่างอื่นที่ไหน  ถามว่าวันนั้นเป็นยังไงน่ะหรอ ก็อายไง อายเหี้ย ๆเลยล่ะ แม่งมีคนตะโกนว่าหมูโดนเสียบด้วย ไอ้พวกปากหมา แล้วแม่งนะคือหัวเราะกันแบ--

 

“เอาอะไรดีครับ~” เสียงพนักงานทักขึ้นผมเลยวางปากกาแล้วเงยหน้ากะจะยื่นออเดอร์ให้

 

แต่เสียงพนักงานคนนี้แม่งโคตรหล่อ มันทุ้ม ๆใหญ่แล้วก็น่าฟังแปลก ๆทั้งที่ผมก็เป็นผู้ชายเหมือนกันแต่เผอิญว่าเสียงผมมันไม่หล่อแบบนี้อะดิ  แล้วเสียงพนักงานคนนี้นอกจากจะโคตรเท่นะเหมือนเห็นรอยยิ้มดังมาพร้อมเสียงถึงจะไม่เห็นหน้าก็เถอะ  แต่มันก็ปกติของพนักงานป้ะวะ แพทเทิร์นนี้เลยกูได้ยินจนคุ้นหูละเพราะซื้อของกินบ่อย

 

!!!

 

ไอ้เหี้ย! แม่งแบบบบบบ

 

ทันทีที่ผมเงยหน้าขึ้นจะเอากระดาษให้เจ้าของเสียงโคตรหล่อที่ว่า แต่พอได้เห็นเท่านั้นแหละ! กูเหมือนคอมโดนไวรัสเลย!! เครื่องรวนสัด!

 

หล่อเหี้ย ๆ หน้าแม่งโคตรแบด! โคตรเป๊ะ

 

แล้วเสือกยิ้มให้กูอีก!!

 

ณ วินาทีนี้ไม่รู้หรอกว่ายิ้มการค้าหรืออะไรแต่กูตาเหลือกจนแห้งแล้วเนี่ย!

 

จากที่จะยื่นออเดอร์ให้จากมือผมเปลี่ยนแผนแบบฉุกเฉิน เอากระดาษไปเสียบไว้กับที่เสียบกระดาษตรงหน้าแทนซึ่งมันก็เอาไว้เสียบออเดอร์นั่นแหละ แต่พนักงานก็อยู่นี่ไง ยื่นให้กับเจ้าตัวก็น่าจะได้แดกเร็วขึ้นแต่กูไม่มีสติอะ มองกูทำไมล่ะ! ไม่ต้องมายิ้มให้กู!!

 

พอเห็นพนักงานมองตามกระดาษออเดอร์ของผมแบบงง ๆแล้วก็ดึงมันขึ้นมาจากที่เสียบยื่นกระดาษให้พนักงานอีกคนที่กำลังทาแยมอยู่ด้านหลังก่อนจะหันกลับมาหาผมแล้วส่งยิ้มการค้าให้อีกรอบ

 

“รอแปบนึงนะครับ”

 

อ-เออ! รู้อยู่แล้วเว้ยว่าต้องรอ สั่งแล้วได้เลยไม่มีหรอก!

 

ผมพยักหน้ารับหนึ่งครั้งถ้วนเพราะคอแข็งไปแล้ว  เดินแบบจิตไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว ทรุดนั่งรอปังปิ้งอยู่กับเก้าอี้หน้าร้าน  คือร้านมันเป็นเหมือนบล็อกเล็ก ๆน่ะครับ หนีบตัวอยู่ระหว่างเซเว่นกับหอผม  ถ้าเทียบแค่ขนาดก็น่าจะเท่ากับร้านที่เป็นรถตู้เคลื่อนที่ได้ ซึ่งมันเรียกว่าอะไรก็ไม่แน่ใจ

 

มองจากตรงนี้ก็เห็นพนักงานคนนั้นเดินวุ่นอยู่ในช่องแคบ ๆหลังเคาน์เตอร์ร้านกับพนักงานผู้หญิงอีกคนที่กำลังยุ่งไม่แพ้กัน

 

ผัวพี่เค้าหรือเปล่าวะ

 

เฮ้ย ไม่ใช่หรอกมั้งเพราะยังใส่ชุดนักศึกษาอยู่เลย  ถูกระเบียบเกือบร้อยเปอร์เซ็นเลยด้วย ขาดเนคไทที่ปลดออกหน่อยกับกระดุมเม็ดบนสุด  ผ้ากันเปื้อนสีตุ่น ๆไม่ได้ทำให้ความหล่อของมันลดลงเลยสักนิด  แต่พี่ผู้หญิงหน้าตาก็ยังเด็กนี่หว่า น่าจะยังเรียนอยู่  แล้วมันไม่กลับบ้านกลับช่องหรือไงวะ  หรือจะอยู่หอนอก?

 

โอ๊ยช่างแม่งแล้ว!

 

“ปังปิ้งช็อกนมข้นครับ” ไอ้พนักงานหล่อคนนั้นหิ้วถุงปังปิ้งวางไว้บนเคาน์เตอร์พร้อมอ่านออเดอร์ในมือ

 

พอนึกได้ว่าเป็นของตัวเองผมก็ลุกขึ้นเดินไปจ่ายตัง  มือหยิบปังปิ้งมาถือไว้แล้วเตรียมหนีแต่ต้องยืนรอตังทอน

 

โหมึง.. แบบนี้สินะที่ผู้หญิงเขาชอบผู้ชายกัน  ขนาดก้มหน้านับตังทอนแม่งยังเท่ ก็แค่หน้ามันหล่อนิดหน่อย คิ้วเข้มนิด ๆ หูก็ใส่ห่วงเงินอีกวงสองวงเอง  แล้วที่สำคัญเลยคือแม่งไถข้าง! (Uppercut) มันคือทรงผมที่กูอยากตัดมาตลอดชีวิตแต่แม่งไม่รอด  แล้วดูมันดิตัดออกมายังไงให้โคตรหล่อแบบนี้วะ

 

แล้วกูเป็นเหี้ยอะไรเนี่ยหายใจไม่ทั่วท้องเลยสัด!

 

เดี๋ยว มึงตั้งสตินะไอ้ตาล เลิกมองมัน ๆ

 

“เงินทอนครับ” ผมรีบยื่นมือไปรับทันที

 

แล้วด้วยความที่รีบเกินไปนี่แหละ จากที่จะหยิบตังทอนเฉย ๆกลายเป็นโดนมือคนไปด้วย!  แล้วนี่มือหรือหนังควายห๊ะ มึงจะสากไปไหน!! คิดว่ามือหยาบแล้วดูแมนเหรอวะ

 

เออไง!!

 










 

เช้าวันนี้ผมก็มาเรียนปกติครับ  ผิดปกตินิดหน่อยที่วันนี้ผมค่อนข้างจะไม่ง่วงแล้วก็ไม่ต้องโด๊ปกาแฟอย่างทุกวันเพราะเมื่อคืนผมนอนตั้งแต่สี่ทุ่ม อย่าถามว่าทำไมเพราะผมถามตัวเองมาทั้งคืนจนหลับไปว่าทำไมกูอ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง  ปังปิ้งที่ซื้อมาก็ไม่ได้กินป่านนี้มดขึ้นเต็มโต๊ะหนังสือแล้วชัวร์

 

“ไอ้ตาลมึงกินไร!”

 

เฮือก! ไอ้เวรนี่กูตกใจหมด! แล้วเอาแขนควาย ๆของมึงออกไปเลยนะ กูหนัก!

 

“อ-อะไร” แม่งโผล่มาอย่างแรงจนแว่นกูหล่นมาอยู่จมูกเลยไอ้ห่าก้อง

 

“กูถามว่ามึงจะแดกอะไร เห็นยืนสงบนิ่งมาห้านาทีแล้วไอ้อ้วน” ปากคอเลาะร้ายด้วยนะ ถามกูดี ๆนี่จะตายมั้ย

 

“เอาเหมือนเดิม” ไอ้ก้องมองผมเหยียด ๆแล้วส่ายหัว มันดันไหล่ผมให้ไปต่อคิวร้านข้าวที่แถวยาวเอาเรื่อง

 

ผมเห็นเพื่อนคนอื่น ๆถือจานข้าวไปนั่งที่โต๊ะกันเกือบครบแล้วเหลือแต่ผมกับมันนี่แหละ  แล้วตอนเที่ยงโรงอาหารวิศวะเป็นอะไรที่ยิ่งกว่าตลาดสด เสียงแม่งโคตรดังมีแต่พวกผู้ชายแหกปากแข่งกัน แล้วเสียงแม่งทุ้มไงมันก็เลยดังมากถึงจะไม่สูง ๆแหลม ๆเหมือนผู้หญิงแต่ก็น่ารำคาญนะครับ  แต่ก็มีผู้หญิงปะปนอยู่ไม่น้อย ประมาณสิบเปอร์เซ็นต์คือเด็กวิศวะแต่ที่เหลือนี่มาแอ๊วเด็กวิศวะครับ  แต่พวกเธอไม่เคยแม้แต่ปรายตามองผมหรอก ก็พอจะเข้าใจอยู่ ทั้งแว่นแถมยังหุ่นไม่ดี(ไม่อยากพูดว่าอ้วนเพราะแทงใจดำ)  สู้ไอ้พวกทโมนในกลุ่มผมไม่ได้หรอก ได้ฟันกันเป็นว่าเล่น

 

“รีบ ๆกินสิวะมึงนี่! ทั้งโรงอาหารเหลือแค่โต๊ะเราแล้ว” ไอ้ก้องนี่ก็แปลก แม่งจะพูดโทนเสียงธรรมดาไม่ได้เลยนะ จะต้องตะโกนกระโชกโฮกฮากตลอด มึงซ้อมเป็นพี่ว้ากปีหน้าเหรอ

 

“กูจะทิ้งมึงไว้นี่ละ” ไอ้เดือนภาคโยธากดโทรศัพท์พลางเหลือบตามองผม ไม่วายเห่าเสริมไอ้ก้องด้วย  กูล่ะอยากให้แม่ยกมึงมาเห็นสันดานที่แท้จริงของมึงเหลือเกิน อยากจะรู้ว่านอกจากหน้าหล่อ ๆเนี่ยชอบแม่งเข้าไปกันได้ยังไง

 

“ยัง  ยังจะอมข้าวอีกไอ้ตาล” อีกตัวที่นั่งข้างผมก็หยิกแก้มข้างที่ผมไม่ได้อมข้าวแล้วยืดจนผมต้องเอนตัวตามแก้มไปด้วย

 

ไอ้เหี้ย! กูเจ็บ!

 

“อิ่มละ” ผมวางช้อนแม่ง ถึงจะเสียดายเพราะปกติจะแดกจนเกลี้ยงก็เถอะ “ป้ะ”

 

“แล้วอย่าบ่นว่าหิวนะไอ้อ้วนมึง” ไอ้ก้องสะพายเป้ไม่วายด่าผมไปด้วย

 

ไอ้ห่า มึงจะเอายังไงกับกู กินช้าก็ด่า พอไม่กินแล้วก็ด่า มึงเป็นโรคพิษสุนัขบ้ากันเหรอ

 

ก็อย่างที่เห็นครับ ผมเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิศวกรรมโยธา มีเพื่อนผู้ชายกลุ่มใหญ่ที่ถือว่าสนิทกันแต่ไม่ใช่ว่ารู้จักกันมาก่อนนะ ผมเพิ่งมารู้จักพวกมันตอนมหาลัยนี่แหละ แต่พวกมันบางคนก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมแล้ว  ฟังจากชื่อคณะที่ผมเรียนก็คงคิดว่าไอ้ตาลคนนี้น่าจะฮอตใช่มั้ยครับ แน่นอนว่าไม่ ก็อย่างที่บอกไปตั้งแต่แรก ๆนั่นแหละว่าผมเป็นไอ้เนิร์ดใส่แว่นแถมยังอ้วน ถึงจะไม่อ้วนขนาดร้อยโลแต่ก็ไม่ถือว่าหุ่นน่ามองน่ะครับ ทั้งตัวผมมีดีแค่ขาวเพราะป๊าผมเป็นคนจีนร้อยเปอร์เซ็นต์ส่วนแม่เป็นลูกครึ่ง

 

และมันก็เป็นจุดกำเนิดของขื่อผมด้วย เพราะพอญาติ ๆเห็นหม๊าอุ้มผมก็เอาแต่บอกว่าตัวขาวจั๊วะ แต่หม๊าไม่ได้บอกว่าใครเป็นคนแรกที่เอาผิวผมมาเปรียบเทียบกับน้ำตาลทราย  หลังจากนั้นก็เรียกผมว่าน้ำตาลกันมาตลอด  แต่พอผ่านกาลเวลามานับสิบปีผมก็จัดการกร่อนชื่อเล่นตัวเองให้เหลือแค่ตาลเพราะอายเพื่อนผู้หญิงในห้องที่ชื่อดันไปซ้ำกับเค้า

 

กลับมาที่เรื่องวิศวะอีกรอบ อันที่จริงทางบ้านหวังให้ผมเรียนแพทย์ตามกระแสสังคมที่เดี๋ยวนี้ชื่นชมยกย่องอาชีพนี้กันมาก  ซึ่งผมก็ไม่ได้มองว่ามันไม่ดีนะเพียงแต่ผมเลือกอะไรที่ตัวเองอยากทำมากกว่า  ผมเลือกวิศวะทุกอันดับในรอบแอดมิชชั่น เปลี่ยนแค่มหาลัยเอา ที่จริงผมอาจจะได้ที่เรียนตั้งแต่รอบโควตาแล้วถ้าไม่เสียเวลาเถียงกับป๊า  ป๊าบังคับให้ผมสมัครแพทย์แทบทุกโครงการเลย พวกโควตาเรียนดีอะไรก็ด้วย แล้วผมดันติดน่ะสิแต่ก็ทำมึนไม่ไปรายงานตัวจนได้คุยกับป๊าตรง ๆว่าจะไม่เรียนแพทย์แน่ ๆ  ตอนแรกก็คิดว่าจะโดนทำโทษหนักแน่แต่สุดท้ายป๊าก็ยอมเพราะหม๊ากอดเอวผมแล้วร้องไห้  ผมก็เลยได้มาเรียนที่นี่ซึ่งไกลจากที่บ้านจนต้องอาศัยหอพักในมหาลัยอยู่  แต่ก็ยังแฮปปี้ดีครับ

 

“เอาอะไรดีครับ =)”

 

ยังไม่ทันได้เดินเข้ามาแตะพื้นที่ร้านเสียงหล่อ ๆของพนักงานคนเดิมก็ดังมาแตะหูซะก่อน  เหอ ๆผู้หญิงแม่งยืนรอคิวเพียบ  แต่มันก็เพิ่งทุ่มนึงด้วยแหละ คนกำลังออกมาหาอะไรกิน ซึ่งปกติเวลานี้ผมคงนั่งใต้โคมไฟแล้วฝึกแก้สมการอะไรไปตามเรื่องตามราวแต่พักหลังมานี้ผมไม่ปกติ

 

เออ ท่าจะไม่ปกติจริง ๆ

 

ผมพยายามทำตัวลีบเดินแทรกเข้าไปที่เคาน์เตอร์เพื่อจะเขียนออเดอร์  ไอ้ห่า ตัวก็ยิ่งน้อย ๆอยู่นะเบียดโดนผู้หญิงทีก็กลัวเค้าหันมาตบ  พอเขียนเสร็จก็เสียบออเดอร์ไว้แล้วถอยกลับมายืนรอแถว ๆนั้นเพราะโต๊ะเต็ม  อันที่จริงมันก็ไม่ได้ขายดีอะไรหรอกแต่ร้านมันเล็กอะ โต๊ะมีอยู่กี่ตัวเอง แล้วในมอมันก็มีร้านนี้แหละใกล้หอพักสุดละ

 

ห้านาทีผ่านไป...

 

แม่งเอ๊ยทำไมทำนานแบบนี้วะ กูยืนจนเมื่อยขาแล้วสัด  ผมมองบางคนที่ยืนก้มหน้ากดมือถือบางคนก็ทำเป็นเล่นมือถือแต่จริง ๆคือเนียนถ่ายรูปแม่งไง  กูเห็นนะครับ I see ๆ

 

“อ๊ายย โคตรดี! ชื่อไรนะ ๆ” แม่งกระซิบกันยังไงให้กูได้ยิน

 

“ตอนกลางวันเห็นห้อยป้ายชื่อยักษ์นะ” เจ๊อีกคนแม่งตีแขนเพื่อนรัว ๆจนกูเจ็บแทนเลย

 

ว่าแต่ชื่อไรนะ  ยักษ์?

 

เออเอาดิ กูมาแดกขนมปังเป็นอาทิตย์ยังไม่รู้เลยว่าชื่ออะไร เจ๊นี่มาวันเดียว รู้เรื่อง

 

“กรี๊ดด ยักษ์เราแรง ๆ”

 

โหยย ไอ้เหี้ย ผู้หญิงแม่งทำไมน่ากลัวกันได้ขนาดนี้วะ

 

แต่จะว่าไปมันก็เหมาะกับชื่อนี้อยู่นะ ก็ตัวแม่งใหญ่จริง ๆผมที่ว่าอ้วนนี่ยังตัวเล็กกว่ามันอะ ผิดก็แต่มันมีกล้ามเนื้อแน่น ๆแต่ผมมีไขมันล้วน ๆ  แล้วมันเป็นคนผิวขาวที่ใส่ชุดเหี้ยอะไรก็หล่ออะ วันนี้มันใส่เสื้อคอปกซึ่งน่าจะเป็นเสื้อคณะ  ผมเห็นด้วยว่าตรงต้นแขนกับแขนมันสีผิวตัดกันคนละสีเลย  คงจะตากแดดมากไปหน่อย แต่หน้ามึงทำไมไม่ดำวะ

 

“เสื้อเขียนว่าไรอะ ๆ” ยังครับ เจ๊สองคนนี้ยังไม่หยุด  แต่กูก็อยากรู้อยู่นะ

 

“Faculty of Law อะมึง~! กรี๊ด เด็กนิติ กูจะไม่ทน”

 

อืม ก็ดีนะนิติ จบมาก็ช่วยกันกับวิศวะ  แบบช่วยดูเวลาสัญญามีปัญหาไรงี้

 

เหี้ย!

 

เดี๋ยว ๆนี่กูคิดอะไรอยู่! นี่กูวาดฝันไปถึงอนาคตขนาดนั้นเลยเหรอ  ไอ้ชิบหายยย

 

“ปังปิ้งช็อกนมข้นครับ”

 

ไอ้เหี้ยตาลมึงเป็นเอามากนะ แม่งเป็นตุเป็นตะแล้วกู แม่งเวรจริง ๆ

 

“ปังปิ้งช็อกนมข้นครับผม”

 

ไม่หรอก บางทีกูแค่อาจจะชื่นชมมันเฉย ๆก็ได้  ก็แบบว่ามันหุ่นดีและหล่อมากอะไรงี้  อยากทำงานร่วมด้วย  อืม ๆใช่มะ  ใช่นั่นแหละ

 

“โทษนะ..” ไอ้เหี้ย!!!  อ-ไอ้ยักษ์ มึงมาทำอะไรตรงนี้  “อะ  ปังปิ้งช็อกนมข้นได้แล้ว”

 

ติ๊ก.. ติ๊ก..

 

ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่เสียงนาฬิกาหรือระเบิดเหี้ยไรทั้งนั้นแหละ  มันคือเสียงเหงื่อตรงขมับผมเอง  ฆ่ากูเถอะ เอามีดมาแทงกูเลย กูจะได้ไม่ต้องมายืนแข็งเป็นก้อนโง่ ๆอยู่ตรงนี้ตอนนี้

 

“อ-อ่อ  โอเค”

 

โอเคก็เหี้ยแล้ว! ไม่โอเค กูไม่โอเคอย่างยิ่ง!

 

“เดี๋ยว!” เสียงทุ้มที่ผมเคยมองว่าโคตรหล่อโคตรเท่ตอนนี้แม่งเสียดหูยิ่งกว่าเสียงอาเจ้ที่บ้าน

 

“ปังช็อกนมข้น ยี่สิบสี่บาท..”

 

“อา ๆ ลืมเลย! เอาไป ๆ ไม่ต้องทอนนะ ฮ่า ๆๆๆๆ” นี่กูเป็นเหี้ยอะไรไปแล้ว ว้อยยยยย

 

ผมรีบยัดเงินในมือให้มันไปเพราะเตรียมตังไว้รอตั้งนานแล้ว เสร็จปุ๊บก็หันหลังแล้วชิ่งทันทีไม่มองหน้าใครทั้งนั้น  พรุ่งนี้กูมีความคิดว่าจะใส่แมสมาซื้อปังปิ้ง!

 










 






“ตาล มึงอ้วนขึ้นป้ะเนี่ย แก้มจะแตกแล้วไอ้ห่า” ผมตวัดสายตาจากชีทบนโต๊ะมาหาไอ้ก้องทันที  แม่งเถอะ ใครสั่งใครสอนให้ทักเพื่อนแบบนี้

 

เดือนกว่าแล้วครับที่ผมกินปังปิ้งช็อกโกแลตราดนมข้นเกือบทุกเย็น  อันที่จริงต้องใช้คำว่าไปด้อม ๆมอง ๆมากกว่า  ตอนแรกกลัวว่าไอ้ยักษ์มันจะจำหน้าได้แต่ไป ๆมา ๆก็คิดว่าคนมันจะแดกปังปิ้งทุกวันงี้ไม่ได้เหรอ ผิดปกติตรงไหน  แต่ไม่คิดเลยว่าผลพลอยได้จะเป็นชั้นไขมันที่เริ่มขยายออกข้างขึ้นทุกวัน ๆตอนส่องกระจกก็พยายามปลอบใจตัวเองว่าหน้าบวมเพราะนอนดึก  แต่ไอ้ก้องเวรนี่แหละปาขี้ใส่หน้ากูเต็ม ๆ

 

“เออ..”

 

“ไหน ๆกูเช็คหน่อยดิ้” ไอ้จอมหยิกคนเดิมแม่งยื่นมือมาดึงหน้าผมเล่นอีกแล้ว คราวนี้แม่งลามปามใช้มือสองข้างขยำเล่นเลยไอ้ห่า

 

“ฮ่า ๆๆๆๆๆๆๆ มึงดูหน้าไอ้ตาล แดงเป็นรอยหมดแล้ว กูล่ะสงสาร ฮ่า ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” ไอ้เหี้ย ในคำว่าสงสารของมึงนี่มึงหัวเราะกูไปกี่ครั้ง ไอ้เดือนภาคเวร

 

“อะ ๆไม่เครียดนะไอ้ตาล กูให้คิทแคทปลอบใจ” สงสัยว่าไอ้ก้องมันจะเดาอารมณ์จากหน้าผมได้มันก็เลยล้วงช็อกโกแลตแท่งในกระเป๋าเสื้อยื่นให้ผม

 

“มึงไม่ต้องแดกอะ เดี๋ยวอ้วนขึ้นอีก มา ๆเดี๋ยวกูอ้วนแทนเอง” กูสัญญาเลยนะ เย็นนี้กูจะไปกดแสดงความรู้สึกโกรธให้ภาพมึงในเพจคิ้วท์บอยทุกรูป ไอ้เพื่อนเหี้ย

 

“แม่งร้องไห้แล้วป้ะเนี่ย” นี่ไอ้เหี้ยก้องครับ มันก้มหน้ามองผมพลางเอามือขยี้หัว

 

ไม่ต้องมาตบหัวแล้วลูบหลังกู! กูเจ็บแล้วจำ

 

“ไม่ได้ร้อง” ผมตอบแบบพยายามทำเสียงนิ่ง ๆเฉย ๆ พวกแม่งหัวเราะกันใหญ่เลยคราวนี้

 

“แล้วมึงจะไปไหน” ไอ้ก้องตะโกนถามตามหลังผมมาเพราะผมเก็บข้าวของบนโต๊ะเลกเชอร์ตอนพวกมันกำลังแซวนั่นแหละ

 

หึ  มึงเล่นกับใครไม่เล่นนะไอ้ก้อง  คิดว่ากูจะยอมให้พวกมึงแกล้งเล่นกันได้ตามใจชอบเหรอห๊ะ! พวกมึงประมาทคนอย่างกูมากไปแล้ว!! ปากอย่างพวกมึงมันต้องโดนซะบ้าง

 

ผมหันหน้าตอบไปอย่างคูล ๆเลยทันทีว่า..

 

“ไม่บอกหรอก”

 

ไอ้เหี้ย... คูลสาดดด




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-07-2018 03:32:46 โดย antavvanp »

ออฟไลน์ antavvanp

  • Cutie Addict
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
    • แฟนเพจกากๆ ของเรา ไม่ได้เข้านานล้าว 5555
แม่งไม่น่าโมโหเลยกู เป็นไงล่ะ มาร้านปังปิ้งข้างเซเว่นตั้งแต่หัววันไอ้พนักงานหน้าหล่อมันยังจัดโต๊ะอยู่เลย เวรกรรม

 

ชิ่งไปนอนเอาแรงก่อนสักชั่วโมงดีกว่าเว้ย ตื่นมาซื้อปังปิ้งไปกินก่อนอ่านหนังสือฟิน ๆงี้

 

“อ้าว! ช็อกนมข้นมาเร็วจังวะ” ไม่ทันละสัด

 

“อ่อ..” อ่อเหี้ยไรล่ะ บอกไปดิว่ามึงแค่ผ่านมาเฉย ๆไม่ได้จะซื้อปังปิ้ง

 

“ถ้าจะเอาปังช็อกนมข้นต้องรอก่อนนะ  ช็อกโกแลตหมดพี่ขวัญกำลังไปซื้อ”

 

ขวัญไหนล่ะ มึงพูดเหมือนกูเป็นเพื่อนสนิทวิ่งเล่นจิ้มขี้กับมึงมาตั้งแต่ฟันน้ำนมยังไม่หลุดหมดปากเนาะ

 

“อ่อเหรอ..” หยิ่งไปอีกก

 

“นั่งดิ” ผมเดินไปนั่งแหมะลงตามคำสั่งอย่างกับปอมปอม

 

ไอ้พนักงานหน้าหล่อก็เดินไปจัดร้านอะไรของมันไปตามเรื่อง แต่สักพักมันก็มานั่งด้วย ไม่เชิงแฮะ มันมาเช็ดโต๊ะนี่หว่า

 

“เออ เรื่องช็อกนมข้นที่จำได้นี่เพราะเห็นมาสั่งเกือบทุกวันนะ ไม่ต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้นก็ได้เว้ย”

 

อ๋อเปล่าหรอก.. นั่นหน้ากู หน้ากูมันเป็นแบบนี้เองแหละมึง

 

“อือ..” อยากจะตบปากตัวเองสักทีไอ้ห่า มึงเป็นใบ้เหรอ

 

“เรียนคณะไร” มันก้มลงไปเช็ดเก้าอี้แต่ก็มีเงยหน้าขึ้นมามองบ้างเป็นพัก ๆ “กูนิติ”

 

แม่งคุยภาษาพ่อขุนกับกูตั้งแต่ครั้งแรกเลยเว้ย  แล้วกะไม่เว้นวรรคให้กูถามคืนด้วยนะ มึงไปคุยเองคนเดียวเลยมั้ย 

 

นี่ถ้ามึงไม่หล่อนะ

 

“วิศวะ”

 

“จริง??” มึงถามเสียงสูงขนาดนี้ก็หัวเราะใส่หน้ากูแล้วด่าว่าไอ้อ้วนแว่นเลยก็ได้นะ “งี้ก็เก่งคณิตป้ะ ฟิสิกส์งี้”

 

ก็ถ้าไม่ต้องถ่อมตัวกูก็คิดว่ากูเก่งนะ แต่กูยังไม่มั่นใจอะ

 

“ไม่หรอก” ผมกลืนน้ำลายฝืด ๆเข้าไปอึกใหญ่ก่อนจะถามคืนบ้าง “แล้วเรียนนิติก็ต้องเก่งมากดิ”

 

“หึ” มันแสยะยิ้มพลางส่ายหัวเป็นคำตอบ “เก่งไม่เก่งไม่รู้ แต่มึงต้องจำอะ ความจำเท่านั้นสำคัญที่สุด”

 

กูก็พอจะเข้าใจแหละ ดู ๆจากมาตรากฎหมายที่กูฟังผ่าน ๆในเนื้อหาสังคมตอนม.ปลายกูก็รู้ว่ามันต้องจำ จำแบบจำชิบหายเลยล่ะ

 

สู้ ๆนะมึง  ถ้ายังไงเดี๋ยวกูสู้ไปด้วย

 

เอ๊ะ กูว่ารูปประโยคมันแปลก ๆ

 

“กูธัส” มันยืนเต็มความสูงมืออีกข้างที่ไม่ได้ถือผ้าขี้ริ้วก็เท้าเอวเหมือนจะเหนื่อย “มึงล่ะ”

 

อ้าว แล้วยักษ์ล่ะ? แม่งคือชื่อหมาแมวที่ไหนวะ  เจ๊คนนั้นแม่งต้องตอแหลกับเพื่อนแน่ ๆ กันซีนชัวร์

 

“ตาล..” แล้วกูต้องทิ้งท้ายประโยคด้วยเสียงอ่อย ๆตลอดด้วยนะ

 

“พูดน้อยจังวะ”

 

มันว่าแค่นั้นแล้วหันกลับไปจัดร้านต่อ สักพักพี่ขวัญอะไรนั่นก็กลับมาแล้วรออีกไม่ถึงสิบนาทีปังปิ้งช็อกนมข้นสองแผ่นก็วางอยู่บนโต๊ะผมกับนมสดปั่นอีกหนึ่งแก้ว

 

เดี๋ยว ๆตังกูมีพอมั้ยนะ..

 

“กิน ๆไป  พี่ขวัญเค้าแถมให้เห็นมึงมาบ่อย” ธัสมันว่างี้ก่อนจะเดินกลับไปทำปังปิ้งต่อ

 

แล้วชีวิตกูนี่มันยังไง คนรู้จักแต่ละคนจะต้องพูดกระโชกโฮกฮากใส่กูตลอด ทำไมอะ พูดดี ๆกับกูบ้างไม่ได้เหรอ เดี๋ยวไปเผาบ้านแม่ง

 

กินได้ไม่ถึงครึ่งลูกค้าก็เริ่มแน่นร้าน  ผมเลิกเรียนคาบสุดท้ายประมาณสี่โมงเศษจนตอนนี้ห้าโมงแล้วคณะอื่นเริ่มเลิกเรียนทยอยกลับหอกัน  แน่นอนว่าเรียนเสร็จปุ๊บแม่งต้องหิว  อย่างผมนี่เรียกมื้อนี้ว่า sub dinner ชื่อดูมีอะไรแต่แม่งไม่มีอะไรหรอก ก็คือมื้อย่อยก่อนมื้อเย็นนั่นแหละ เค้าบอกว่ากินอาหารหลาย ๆมื้อจะช่วยให้ลดน้ำหนักได้ดีกว่า

 

แต่กูไม่ได้ลดน้ำหนักนี่หว่า  เออ ๆช่างแม่ง

 

ปั้ก

 

“กลับละ” ผมเดินไปวางตังค่าปังปิ้งกับนม ครบถ้วนทุกบาททุกสตางค์ โชคดีที่มีพอถึงจะเหลืออยู่ในกระเป๋าเจ็ดบาทก็เถอะ(ก็ยังไม่ได้กดตังอะ)

 

ไอ้ธัสหันมารับตังไปแล้วยักคิ้วให้แทนคำตอบ เห็นออเดอร์ที่เสียบอยู่หนาหลายสิบแผ่นก็พอจะเข้าใจเลยยกมือข้างนึงข้างบ้ายบาย ถึงมันจะเหมือนปางห้ามญาติก็เถอะ

 

หลังจากวันนั้นผมก็รู้สึกโอเคที่จะไปร้านปังปิ้งมากขึ้น  ไม่หรอก จริง ๆก็โอเคอยู่แล้วแต่หมายถึงรู้สึกไม่อิหลักอิเหลื่อหรือระแวงกลัวว่าไอ้ธัสมันจะจับได้ว่าถ้ำมอง

 

เออ แต่พูดถึงเรื่องนี้แล้วเครียด นี่กูชอบมันเหรอ? ชอบไอ้ธัสอะนะ ประเด็นคือมันเป็นผู้ชายป้ะ แล้วกูก็ผู้ชายอะ มีจู้เหมือนกันด้วย

 

แต่แม่งหล่อนะ หล่อมาก ยกยิ้มทีนี่โคตรเท่ ต่างหูแม่งอย่างแบด พอมันเหลือบสายตามาทีไรกูไม่กล้ามองตอบเลยกลัวหน้าแดง ไอ้เชี่ย คนอะไรจะดูดีได้ปานนั้น  แม่งไม่ต้องเป็นพารากอนละอะแค่นี้คือกูหลงจนหาทางออกไม่ถูกแล้ว

 

“น้ำตาล!” เฮือก! ใจหายใจคว่ำหมด ทำไมต้องมาทักกูกันแบบนี้ตลอดเลยวะ!

 

“ไงเจ้” ผมหันไปมองพี่สาวที่ยืนอยู่ข้างหลังนิดหน่อยแล้วก็หันกับมาสนใจแจ็ค เดอะริปเปอร์ในมือต่อ

 

เสาร์อาทิตย์นี้ผมกลับบ้านครับ ไม่ได้หรอกต้องมาให้เห็นหน้าบ้างเดี๋ยวตังในบัญชีไม่คล่อง

 

“ก็ไม่มีอะไร เห็นแกนั่งอ่านหนังสือแต่ตาลอยยิ้มหวานก็คิดว่ากำลังคิดถึงแฟน” เจ้เดินมานั่งข้างผมแล้วดึงหนังสือไปดู ไม่ถึงนาทีก็เบะปากแล้วยัดคืนให้

 

จริง ๆผมติดเรียกเจ้มากกว่าเจ๊นะ  แต่พอเรียกเจ้แคนดี้แล้วมันประหลาดอะเลยกร่อนเหลือแค่เจ้พอ  และเจ้ก็ไม่ได้มีปัญหากับการเรียกชื่อของผมนะ

 

“แล้วสรุปคือมีความรักจริง ๆใช่ป้ะ~”  ไม่ต้องมาทำหน้าล้อเลียนใส่กูเลยนะ

 

“อะไร ไม่มี” ผมเริ่มเปิดหาหน้าที่อ่านค้างอยู่แต่เสียงแหลม ๆของเจ้ก็กระแทกเข้ามาในโสตประสาทอย่างจัง

 

“โกหก! ฉันมองออกนะเจ้าตาล นั่งตาลอยหน้ายิ้มพอโดนทักก็หน้าแดงลามไปยันคอ  เอากระจกมั้ยล่ะหื้ม”  ผมตาเหลือกมองเจ้ทันที อะไรวะ นี่กูเป็นแบบนั้นจริงเหรอ ไม่ม้าง

 

“มั่วละ”

 

“แฟนชื่อไร”

 

“เจ้”

 

“อ้าว ไม่ใช่แฟนเหรอ โทษ ๆแล้วคนที่แอบชอบเค้าชื่อไรล่ะ”

 

“เจ้แคนดี้!” จะไม่บอกคนอื่นหรอกนะว่าชื่อแรกของเจ้คือลูกกวาด แต่ถ้ายังกวนต่ออีกมีหลุดเรียกชื่อเดิมแน่!

 

“ผู้หญิงหรือผู้ชาย”

 

“เฮ้ยเจ้!!!”

 

ผมตาลีตาเหลือกลุกขึ้นไปปิดปากเจ้ทันที หันมองรอบตัวว่าป๊ากับหม๊าอยู่แถวนี้หรือเปล่า  พอกลับมามองคนที่นั่งกอดอกนิ่งบนโซฟาอีกทีเจ้แกก็ทำเล่นหูเล่นตาใส่ประมาณว่า อ่อ กูรู้ละ

 

“เล่า” พอให้อิสระปุ๊บก็เริ่มเลย แคนดี้เกิดมาคุย

 

“ไม่มีไรเจ้”

 

“ไอ้ตาล”

 

“เออ ๆเล่าแล้ว” ผมรู้ครับว่าถ้าเจ้แกของขึ้นนี่เล่ห์เหลี่ยมโคตรเยอะ ความลับของผมหลายอย่างที่เจ้แกกุมอยู่ผมก็ยังอยากให้มันเป็นความลับต่อไป  เกลียดการเป็นน้องก็ตรงนี้เนี่ยแหละ

 

“ก็ไม่มีอะไร...” ก็จะให้เริ่มยังไงล่ะวะ อยู่ ๆจะให้บอกมันก็กระดากปากมั้ย แล้วกูเองเนี่ยยังไม่รู้เลยว่าชอบมันจริงหรือเปล่า

 

“แอบชอบเค้าถูกมะ”

 

“ไม่มั่นใจ”

 

“เป็นผู้ชาย?”

 

“อืม”

 

“แล้วเค้ารู้ยัง ได้บอกอะไรไปมั้ย” ผมรีบสั่นหัวแรง ๆเลยกับคำถามนี้  กลัวเจ้จะไปทำอะไรแปลก ๆน่ะสิ

 

“ก็น่าอยู่หรอก...” เจ้กวาดสายตามองผมตั้งแต่หัวจรดนิ้วโป้งตีนพร้อมกับสายตาที่ผมเห็นจนชิน คือแม่งมองแล้วเบ้ปากส่ายหน้า “โคตรเนิร์ด”

 

“จริง ๆแกก็พอใช้ได้อยู่นะเว้ยตาล  ดูสิเนี่ยหม๊าให้ผิวแกมาอย่างดี ผมก็สวย จมูกก็ทรงดี ปากก็น่าดูด” เดี๋ยวเจ้ ข้างหลังนี่มันเริ่มออกทะเลละ

 

แต่ตรงที่เจ้บอกว่าผมของผมสวยนี่ขอแย้งเลยครับ  มันเป็นผมที่เหี้ยมากคือมันเหยียดตรงและเส้นเล็ก  ตัดทีผมก็ลู่ลงเหมือนเปียกน้ำอยู่ตลอดเวลา  จัดทรงเหี้ยอะไรก็ไม่ได้ ใช้เจลแต่งผมก็เอาไม่อยู่ ต่อให้เทหมดกระปุกก็เปลืองของ  ผมเลยกลายเป็นไอ้แว่นผมทรงกะลาครอบมาตลอดสิบแปดปี  โคตรเศร้า

 

“เป็นเด็กดีกับเจ้นะวันนี้”

 

กูรู้เลย หายนะเข้าประชิดคอหอยเรียบร้อยแล้ว

 










 







“หวัดดีก้อง”

 

“ดีเว้ยตาล-- เฮ้ยไอ้เหี้ยมึงเป็นใคร!” ไอ้ก้องแอคติ้งโอเวอร์ด้วยการถอยหลังไปชิดกำแพงพร้อมกับยกมือขึ้นทาบหน้าอก  เกินไปมั้ยวะ

 

“อ้าวมึงทำท่าเหี้ยไรไอ้ก้อง  ดีไอ้ตาล อืม..วันนี้ดูแปลก ๆไปป้ะวะ” ผมรีบหลบมือไอ้ตัวที่สองที่เดินเข้าห้องเรียนมาเพราะเดี๋ยวมันจะเข้ามาหยิกแก้มอีก  อะไรที่ป้องกันได้ก็ต้องป้องกันครับ

 

“แม่งโคตรแปลก!” ไอ้ก้องยังไม่หายตกใจ

 

อันที่จริงมันก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากขนาดที่ไอ้ก้องมันแสดงออกหรอกครับ  เจ้ก็แค่พาผมไปตัดแว่นใหม่จากทรงสี่เหลี่ยมสีดำกรอบพลาสติกกลายเป็นรูปทรงสมัยใหม่กรอบกลมใหญ่ ๆสีเงินแถมเลนส์ยังบางมาก กลัวตกแล้วกระจายชิบหาย  แล้วก็พาไปซื้อชุดนักศึกษาใหม่ให้มันเล็กลงหน่อยเพราะผมซื้อเสื้อผ้าไม่เป็น คิดว่าตัวเองอ้วนก็ซื้อ XL ไว้ก่อนไม่ว่าจะชุดอะไรก็ช่าง  แต่พอใส่ชุดที่เจ้ซื้อให้(อันที่จริงคือเลือกให้แต่ผมจ่ายเงินเอง)มันก็ดู...ดีขึ้นมานิด  แต่ที่รำคาญสุดคือครีม แป้ง แล้วก็ลิปมัน แม่งเป็นอะไรที่สิ้นเปลืองเวลาที่สุด นี่ต้องตื่นมาก่อนเวลาปกติเพื่อจัดการกับอุปกรณ์พวกนี้  แม่งใช่เรื่องมั้ย

 

แต่ถ้ามันทำให้ไอ้ก้องหยุดเห่าใส่ผมได้ก็ถือว่าคุ้มอยู่

 

“ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาหน่อย” ไอ้เดือนภาคมันเอ่ยปากขึ้นมาแค่นั้นแล้วก็ไม่ได้พ่นปากหมา ๆของมันอีกซึ่งผมโคตรดีใจเลย  กูยอมวุ่นวายกับการทำนี่ทำนั่นแล้วพวกมึงหยุดกวนตีนแม่งคือผลลัพธ์ที่คุ้มจริง ๆ

 

แต่เป้าหมายที่แท้จริงแม่งคือไอ้นี่ต่างหาก

 

ผมยืนอยู่หน้าเซเว่นข้างหอเดินกลับไปกลับมาอยู่หลายรอบ ถ้าไปร้านปังปิ้งตอนนี้น่าจะพอมีเวลาคุย แต่กูเขินอะสัด ถ้ากูไปคุยแล้วแม่งเฉย ๆเหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงกูก็จะเฟลอีก  แม่ง

 

เอาวะ กูอุตส่าห์ตื่นก่อนเวลาปกติตั้งครึ่งชั่วโมง แม่งจะต้องไม่สูญเปล่าดิ

 

“น้องตาล?? หวัดดีจ้า รอแปบนึงน้าเดี๋ยวพี่ทำช็อคนมข้นให้” พี่ขวัญยิมร่าทักผมตั้งแต่ยังไม่ทันเหยียบหน้าร้านดี

 

โคตรแม่ง.. ไอ้ธัสไม่อยู่  นี่กูควรจะร้องไห้ตรงนี้หรือไปเปิดฝักบัวแล้วร้องในห้องน้ำดี

 

“หูวว วันนี้หล่อน่ารักขึ้นน้า ไปทำอะไรมาเนี่ย” หลายอย่างเลยอะพี่ หมดไปหลายพันด้วย

 

“ขอบคุณครับ”

 

ผมตอบพี่ขวัญไปแบบคนไม่แรงจะเดิน มือคว้าถุงปังปิ้งกระชับสายสะพายเป้แล้วกำลังจะเดินออกจากร้าน แต่เผอิญเจอมันซะก่อน

 

เออ มันนั่นแหละ

 

“หืม? ไปทำไรมาวะมึง” คำพูดคำจานะ

 

“ฮะฮ่า” กูหัวเราะได้ตอแหลที่สุด โคตรไม่เนียนห่า

 

“น่ารักขึ้นนะมึง”

 

“...”

 

แม่งใช่เรื่องมั้ยมาพูดกับกูแบบนี้  คิดว่าหล่อจะพูดยังไงก็ได้เหรอวะ แค่นี้กูไม่หวั่นไหวหรอก

 

“อือ ไปละ”

 

เออ ไม่หวั่นไหวเลยแต่กูหืดขึ้นคออะ เดินกลับหอไปแบบตาลอยอย่างคนพี้ยา  เข้าห้องได้คือนอนคว่ำทั้งที่ยังสะพายกระเป๋าในมือก็ถือปังปิ้ง  แล้วก็หลับไปทั้งอย่างนั้นเลย....

 

 










 

 

น้ำตาล

 

สำหรับผมเป็นคนที่ตลกดีครับ  ครั้งแรกที่เจอผมเห็นเขาเดินเอื่อย ๆออกมาจากเซเว่นพร้อมกับถุงของกินหลายถุง  ท่าทางเหมือนซอมบี้ที่ไร้ชีวิตชีวาสุด ๆเลยล่ะ  แต่จริง ๆแล้วไม่ใช่หรอกนะครับ  ตอนที่น้ำตาลเงยหน้าขึ้นมามองผมหน้าเขาแดงปลั่งไปทั้งแก้มเลย น่าจะเป็นเพราะผิวบางมากพอโดนกระตุ้นนิดหน่อยก็เห็นชัด  ผมชอบใบหน้าของน้ำตาลนะ แล้วก็ชอบเรียกว่าน้ำตาลมากกว่าตาลด้วยเพราะมันเหมาะกับเขามาก ๆเลยครับ  น้ำตาลเป็นผู้ชายที่มีเนื้อที่แก้มเยอะแถมยังคางสั้นเลยทำให้เหมือนตัวการ์ตูนญี่ปุ่น  ถึงจะใส่แว่นเชย ๆแต่ก็ดูดีนะ เหมือนพวกแว่นกาม ๆอะไรแบบนี้ ฮ่า ๆๆๆๆๆๆๆ  แต่ผมคิดว่าน้ำตาลคงไม่ใช่หรอกก็หน้าดูออกง่ายซะแบบนั้น

 

“เรียนคณะอะไร”  ที่จริงผมรู้อยู่แล้วแหละ เพราะน้ำตาลชอบใส่เสื้อคณะมาที่ร้านบ่อย ๆแล้วเสื้อมีเอกลักษณ์ขนาดนั้นใครจะจำไม่ได้ “กูนิติ”

 

ผมมักจะพูดคำหยาบออกมาทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจจะพูด  เหมือนว่ามันหลุดออกมาจากปากเอง  มันเป็นวิธีที่ผมคิดว่าจะทำให้คนสนิทกันได้เร็วที่สุด

 

แล้วผมก็รู้นะ รู้มาตั้งแต่แรกว่าน้ำตาลแอบมองผม จะว่ายังไงดีล่ะ มันเป็นเซ็นส์แห่งความหลงตัวเองน่ะครับ  เราจะรู้สึกได้นะเวลามีใครมามองมาจ้องเรา  แต่ถ้าคิดมากไปก็อาจจะกลายเป็นว่าเราคิดไปเอง  แต่สำหรับน้ำตาลนี่ผมมั่นใจมากเพราะเขาเล่นมาซื้อปังปิ้งช็อคนมข้นทุกวันจนผมจำได้  แต่ผมรู้จักชื่อตาลตอนที่ถามไปนั่นแหละครับ  แต่มารู้ว่าชื่อเต็มว่าน้ำตาลทีหลัง

 

ผมไม่ได้รังเกียจที่น้ำตาลชอบผมนะถึงแม้ว่าน้ำตาลจะเป็นผู้ชาย  ความจริงแล้วก็มีสาวประเภทสอง เกย์อะไรทำนองนี้มาจีบผมอยู่บ้างและผมก็เฉย ๆนะไม่ได้ว่าอะไรแต่ก็ไม่เคยคบ  มีช่วงหนึ่งที่ผมคิดว่าเราน่าจะเป็นเพื่อนกันได้เพราะตอนที่คุยกันผมก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดเลย  แถมยังแลกเบอร์กับน้ำตาลไปอีกเพราะผมบอกว่าเผื่อมีบริการเดลิเวอรี่ ซึ่งน้ำตาลก็คิดแบบนั้นจริง ๆ  พอบันทึกเบอร์ไลน์มันก็จะเด้งใช่ไหมครับ แต่น้ำตาลไม่แอดผมมาจนต้องทักไปโวยวายถึงได้คุยกัน

 

และวันที่น้ำตาลมาร้านปังปิ้งแล้วไม่เจอผมเพราะผมเลิกเรียนเลท  แต่โชคดีที่มาทันได้เห็นน้ำตาลคนที่น่ารักกว่าเดิม  ผมพอจะรู้อยู่แล้วนะว่าน้ำตาลหน้าตาดีแต่พอมาแบบนี้ก็อดจ้องไม่ได้เหมือนกัน

 

เอ... พอใส่ชุดนักศึกษาพอดีตัวแบบนี้แล้วน้ำตาลดูหุ่นดีขึ้นนะเนี่ย  ใส่แต่เสื้อผ้าตัวใหญ่มาตลอดมันเลยทำให้ดูอวบ ๆแต่ก็ไม่ใช่ว่าน่าเกลียดอะไรนะครับ ก็ยังดูดีนั่นแหละแต่แบบนี้ดีกว่าไง

 

แต่พอวันถัดมาน้ำตาลก็หายไปเลยครับ หายไปแบบไม่ติดต่ออะไรมาเลยทุกทาง  ผมทักไปก็เงียบมาก นานเป็นสัปดาห์จนผมต้องใช้เพื่อนที่สนิทกับเด็กวิศวะช่วยดูให้

 

พอได้เรื่องผมก็ลางานที่ร้านปังปิ้งวันนึง  จริง ๆแล้วผมเป็นลูกพี่ลูกน้องกับพี่ขวัญเลยมาช่วยงานแต่พี่ขวัญก็ให้เงินเดือนผมเลยต้องมีมารยาท ไปลามาไหว้หน่อยเดี๋ยวไม่ได้ทำงานแล้วอดเจอคนถ้ำมองที่ตอนนี้น่าจะนอนสลบอยู่ในห้อง

 

ก๊อก ก๊อก

 

ไร้เสียงตอบรับ  ผมแอบขึ้นมาหอพักพร้อมกับเพื่อนในคณะที่อยู่หอนี้ซึ่งลุงยามข้างล่างเขาก็ไม่ค่อยเคร่งครัดอะไรนัก

 

พอลองจับลูกบิดดูก็รู้ว่าเจ้าของห้องประมาทมาก ไม่มีการล็อคอะไรทั้งสิ้น  แต่ในหอแบบนี้ก็ไม่ค่อยมีใครลักอะไรกันนักหรอกครับ  ผมเดินเข้ามาในห้องแล้วล็อคประตูเสร็จสรรพ  รู้มาจากแหล่งข่าวว่ารูมเมทของน้ำตาลกลับบ้านต่างจากหวัดไปแล้วเพราะวันนี้วันศุกร์  ผมได้ยินเสียงผ้าเสียดสีกันดังมาจากมุมห้องซึ่งมีกองผ้าห่มกำลังขยับอยู่บนเตียง

 

1



2







3!



 

“ไฟไหม้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

 

“เฮือก!! ไอ้เหี้ยย! ไฟไหม้!”

 

ผมยืนขำแบบไร้เสียงอยู่ข้างเตียงเดี่ยวของน้ำตาล  เจ้าตัวสะดุ้งเฮือกลุกขึ้นมาพร้อมกับสบถคำหยาบที่ผมเพิ่งจะเคยได้ยินจากน้ำตาลครั้งแรก  คงเป็นเพราะตกใจมากจริง ๆหน้าซีดไปหมดเลยครับ

 

“เฮ้ย!” พอหันมาก็เจอผมยืนหัวเราะไร้เสียงอยู่ น้ำตาลตกใจซ้ำซ้อนถึงสองรอบ

 

“นึกว่าไหลตายไปแล้ว” ปากผมเริ่มทำงานอีกแล้วครับ พูดดี ๆไม่ค่อยได้เท่าไหร่

 

“ย-ยังไม่ตาย”

 

ผมบอกไปใช่ไหมว่าน้ำตาลหายหน้าหายตาไปเป็นอาทิตย์  ได้ความว่าอาจารย์สั่งให้น้ำตาลเอาโปรเจกต์ไปแก้(ปีหนึ่งก็มีโปรเจกต์แล้วหรือเด็กวิศวะ)แถมยังมีเวลาให้จำกัด  เจ้าตัวเลยต้องรีบปั่นให้เสร็จแล้วดันเป็นพวกเพอร์เฟ็กต์ชั่นนิสเพราะเป็นตัวท็อป(เพื่อนในคณะว่ามาแบบนี้)ก็เลยต้องทำหามรุ่งหามค่ำทุกวัน  จนส่งงานไปเรียบร้อยแล้ววันนี้น้ำตาลเลยกลับมาหลับเป็นตายอยู่ที่ห้อง

 

“แล้วไปไหนมา ไม่ไปกินช็อกนมข้นเป็นอาทิตย์ ร้านพี่ขวัญจะเจ๊งแล้วห่า” คนบนเตียงทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เพราะกลัวความผิด

 

ผมทรุดนั่งลงบนเตียงไม่ห่างจากน้ำตาลเท่าไหร่  ฮ่า ๆๆๆ ดูสิครับ ตาเหลือกเลยทั้ง ๆที่ตัวเองตาตี่แล้วไม่ใส่แว่นแบบนี้ยิ่งเห็นชัด  แล้วก็อืม..น่ารักมาก

 

“ทำงาน..”

 

“เหรอ  ก็นึกว่าหนีไปไหน ไม่เห็นบอกกูเลย”  ผมยังแกล้งต่อ

 

ภายในหนึ่งอาทิตย์ที่ผมไม่เห็นหน้าน้ำตาลเลยแถมยังติดต่อไม่ได้มันทำให้ผมกลับมาทบทวนบางอย่างใหม่  ผมนอนคิดทั้งคืนเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้นจนมาสรุปได้ท้ายที่สุดว่าถ้าน้ำตาลหายไปตลอดเลยล่ะ จะทนได้ไหม?

 

และคำตอบพาผมมาอยู่ตรงนี้แล้ว

 

ก่อนหน้าที่จะยอมรับได้ ผมถามตัวเองเป็นล้าน ๆรอบและย้ำแล้วย้ำอีกว่าน้ำตาลเป็นผู้ชาย  ผมเองก็เป็นผู้ชาย  แต่มันก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้วเหมือนกัน เอาจริง ๆยังไม่รู้เลยว่าไปชอบตอนไหน แล้วชอบอะไรในตัวน้ำตาลนัก  ถ้าแค่เรื่องน่ารักแฟนคนเก่า ๆของผมแต่ละคนไม่มีใครขี้เหร่เลยนะ

 

แต่ประเด็นที่สำคัญที่สุดตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องนั้นหรอก มันคือความรู้สึกของเจ้าตัวต่างหาก

 

“กูว่าจะเลิกทำพาร์ทไทม์ละ”

 

“ทำไมอะ” น้ำตาลถามกลับมาแทบจะทันที ผมพยายามกลั้นยิ้ม

 

“ก็ไม่ทำไม  ติสท์” ผมยักคิ้วกวน ๆให้กลับไป  แต่น้ำตาลไม่ตลกด้วย

 

“...”

 

“นี่” ผมขยับตัวไปมองหน้าอีกคนให้ชัด ๆ

 

“...”

 

“ถ้าไม่เจอหน้ากูอีกมึงคิดว่าจะเป็นไง  ไม่ได้คุยกันอีกด้วย ทั้งในไลน์ในเฟซอะ”

 

“ไม่ดี” น้ำตาลเองก็พยายามมองตอบผมถึงหน้าจะเปื้อนสีแดงไปหมดก็ตาม  น่ารักมาก

 

“ถ้าไม่ดีงั้นกูไม่ลาออกก็ได้”

 

“จริงนะ”

 

“จริงสิวะ” ผมย้ำอีกรอบและสบตากับอีกคน น้ำตาลไม่ได้หลบ  ผมคิดว่าเพราะไม่ได้ใส่แว่นน้ำตาลเลยไม่รู้ว่าผมอยู่ใกล้เขามากแค่ไหน “แต่มึงต้องเป็นแฟนกูก่อนนะ...”

 

วันนี้เองที่ผมได้รู้ว่านอกจากคนตาตี่จะตาโตขึ้นได้แล้ว คนน่ารักคนนี้ยังตัวนุ่มสุด ๆไม่ว่าจะนุ่มด้วยไขมันหรืออะไรก็ช่างแต่ผมชอบมาก  แอบหอมผมสวย ๆนี่ไปตั้งหลายรอบด้วย  ฮ่า ๆๆๆ  อย่าแอบบอกน้ำตาลนะครับ  เดี๋ยวปล่อยอ้อมกอดขึ้นมาผมเสียดายแย่  ;)

 

 

 

 

 

 


 


 

 




































ลังเลมากว่าจะเรียกแม่ตาลว่า ม้า หรือ หม๊า แบบไหนจะดีกว่ากัน  :hao5:


อยากแต่งตอนพิเศษเรื่องนี้ใจจะขาด5555555 ว่าจะลงพรุ่งนี้เลยถ้าเป็นไปได้  แง้ ง่วงนอนมากไปนอนล้าาา  :z10:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-07-2018 03:41:09 โดย antavvanp »

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
feel good มากเลย

น่ารักดีอ่าา

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1

ออฟไลน์ Pakeleiei

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 850
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
น่ารักดี แต่ตาลเอ๋อมากกกกก

ออฟไลน์ antavvanp

  • Cutie Addict
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
    • แฟนเพจกากๆ ของเรา ไม่ได้เข้านานล้าว 5555
ตอนพิเศษ น้ำตาลคนบื้อ!

ลิ้งก์ข้างล่างเป็น gif เผื่อใครมองภาพน้องน้ำตาลไม่ออกนะคะ~ (แต่แอบกระซิบว่า 18+ นะเจ้าคะ)  :o8:









“ก้อง  ไอ้ก้องตื่น! ไอ้เชี่ยก้องเลิกคลาสแล้วเฮ้ย!!”  เจ้าของชื่อมันสะดุ้งตื่นลุกขึ้นมาสุดตัว แต่ไม่ใช่เพราะเสียงเรียกนะครับ เสียงกระทบของหัวกับฝ่ามือต่างหาก  ไอ้คนตบนี่หัวเราะสะใจเดินนำออกไปละ

   “อ่าว หมดเวลาแล้วเหรอวะ กำลังได้เลยแม่ง แจ๊บ ๆ”  อุบาทว์ชิบหาย แม่งเคี้ยวน้ำลายด้วยนะ เสียดายหน้าตามึงจริง ๆไอ้ก้อง

   “พวกมึงเดี๋ยวกูไปคุยกับสโมแปบนะ กินกันไปก่อนเลย”  ไอ้เดือนภาคก็อีกคน ทำหน้าง่วงเดินออกไปอีกทางกับไอ้โรคจิตที่ชอบหยิกผมแล้วครับ

   “เออ ๆ” ไอ้ก้องโบกมือไล่  แล้ววาดแขนควาย ๆของมันมาวางบนไหล่ผม “รีบเดิน กูหิวจะตายแล้วเนี่ย ป่านนี้ไอ้แคนแม่งถึงโรงอาหารแล้วมั้ง” ไอ้แคนที่ว่านี่คือคนที่ชอบหยิกผมครับ

   แต่ยังไม่ทันถึงโรงอาหารตาขวาผมก็กระตุกครับ  พอเงยหน้ามองไปชัด ๆแล้วก็เหมือนเห็นภาพหลอนเป็นไอ้ธัส  แต่คาดว่าไม่น่าจะใช่เพราะคณะมันอยู่นอกบ้านนอกเมืองนู่น  ไกลจากคณะผมชนิดขับรถยนต์ยังเหนื่อย  อีกอย่างก็ไม่เห็นว่าจะมีเหตุผลอะไรที่มันต้องมาที่นี่ด้วย มันไม่ได้ลงวิชาคณะผมสักตัว(แอบไปดูตารางเรียนมาแล้วเรียบร้อย)

   ตื่อดึง~
‘น้ำตาล’
‘มองกูแล้วหลบทำไม’
‘สติ๊กเกอร์กระต่ายโมโห’

   ห๊ะ?! หลบเหี้ยอะไรอีก อยู่ดี ๆก็ไลน์มารื้อฟื้นกับกูเนี่ยแล้วจะจำได้มั้ยว่ากูไปหลบมึงตอนไหน  ไอ้ธัสมันส่งไลน์มาหาผมรัว ๆเลยครับ  ถึงจะคุยกันในนี้เป็นปกติแต่ก็ไม่คิดว่ามันจะเกิดเมายาอะไรขึ้นมาแล้วของขึ้นใส่ผม

ตื่อดึง~
‘ยืนงงห่าไร’
‘กูรอจนเหงื่อท่วมแล้ว’

   “ตาล ไอ้นั่นเพื่อนมึงเหรอวะ” แขนหนัก ๆของไอ้ก้องกระชับตัวผมเข้าไปถาม “กูเห็นมันจ้องมึงตั้งแต่เดินเข้ามาละ  หรือเพื่อนรัก?”

   คำว่าเพื่อนรักของไอ้ก้องไม่ได้แปลว่าเพื่อนสนิทหรือความสัมพันธ์ทางด้านบวกหรอกครับ  แต่มันหมายถึงศัตรูอะ คู่อริที่ไม่ถูกกับเราหรือกำลังเขม่นกันนั่นเอง  แต่มึงเดี๋ยว..หน้าอย่างกูนี่จะไปมีปัญหาอะไรกับใครวะ  ทะเลาะพี่สาวตัวเองกูยังไม่กล้าเถียงเลยสักคำ

   “ก็...อืม” พอจบประโยคไอ้นั่นที่ไอ้ก้องพูดถึงก็เดินดิ่ง ๆมาหาเราสองคนที่กำลังเดินเข้าไปในโรงอาหาร  หน้าแม่งบ่งบอกว่าอารมณ์ไม่ดีชัดเจนมาก

   ผมมองตามมันตั้งแต่ก้าวแรกที่ไอ้ธัสเดินมาทางนี้จนมันมาหยุดอยู่หน้าผมกับไอ้ก้อง  มันยิ้มแบบเป็นมิตรหรือที่ผมตั้งฉายาให้ว่ายิ้มการค้า  ไอ้ก้องก็พะหงกหัวแล้วยิ้มรับ

   “มึงเพื่อนไอ้ตาลเหรอ ดีเว้ย” ไอ้ก้องทักทายตามประสาคนมนุษย์สัมพันธ์ดี

   “หวัดดี กูธัส” ไอ้หล่อของผมก็ไม่แพ้กัน  มันคุยท่าทางสบาย ๆกับเพื่อนผมแบบไม่มีอึกอักสักนิด

   เออ พอมึงสองคนมาอยู่ใกล้กันแล้วกูรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้จัดการส่วนตัวดาราเลยว่ะ  แข่งกันเปล่งแสงชิบหายไอ้เปรตสองตัวนี่

   “ไอ้อ้วนนี่ก็ยืนนิ่งเลย ไม่ชวนเพื่อนไปกินข้าวบ้างสัด” ไอ้ก้องด่าผมไปขำไป แต่มันก็พะหงกหน้าชวนไอ้ธัสให้เดินตามมาด้วย

   ไอ้หน้าหล่อคณะนิติเดินตามพวกผมมาจนถึงโต๊ะ  ไอ้แคนนั่งกินข้าวรออยู่ก่อนแล้ว  แม่งเร็วชิบหาย ผมคลาดกับผมไปแปบเดียวเอง  วันนี้มันกินข้าวผัดอเมริกันด้วยเห็นแล้วอยากเลย เปลี่ยนเมนูบ้างดีกว่าว่ะ

   “ใครวะ” ไอ้แคนเอาช้อนชี้คนที่นั่งตรงข้ามมันซึ่งผมก็ยืนอยู่ข้างไอ้ธัสอีกที

   “เพื่อนไอ้ตาล” ไอ้ก้องตอบแทนให้ มันเดินไปนั่งข้างไอ้แคนที่พยักหน้ารับแล้วแดกต่อไปอย่างไม่แยแส  ดูจากรูปการณ์แล้วไอ้ก้องน่าจะใช้ผมไปซื้อข้าวให้เพราะแม่งเป็นประเภทที่นั่งแล้วติดโต๊ะ ไม่ยอมลุกด้วย ดูความขี้เกียจของแม่งนะ

   ผมเดินไปซื้อข้าวผัดอเมริกันสองจานเพราะไอ้ก้องมันกินง่าย  แต่ก็อนุมานได้ว่ามันขี้เกียจคิดได้ด้วยเหมือนกัน  ส่วนไอ้ธัสมันไม่กิน  ซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไรถึงจะงงนิดหน่อยว่าแล้วมันมาทำเหี้ยอะไรที่โรงอาหารวิศวะ

   “แต้งกิ้วเว้ย” ทันทีที่รับข้าวไปไอ้ก้องก็เริ่มโซโล่ ผมหันไปมองไอ้แคน มันกินอิ่มเรียบร้อยแล้วครับกำลังแทะน้ำแข็งในแก้วเล่น ส่วนไอ้คนข้างผมนี่นั่งกดโทรศัพท์ไปเรื่อยแต่ก็มีเหลือบมองผมบ้างตอนเดินมาถึงโต๊ะ

   “มึงธัสใช่ป้ะ” ไอ้แคนเริ่มแล้วครับ “เรียนคณะไรวะ”

   “นิติ” คนถามพยักหน้ารับพลางเคี้ยวน้ำแข็งไป

   “แล้วสนิทกะไอ้ตาลมานานยัง กูอยู่กับมันมาเทอมกว่ายังไม่เคยเห็นเพื่อนมันเลยสักคนนอกจากพวกกูเนี่ย”

   บางเรื่องนี่ไม่ต้องพูดก็ได้มั้งห่า  ไม่มีคนคบนี่มันเป็นเรื่องตลกของพวกมึงเท่านั้นแหละแต่สำหรับกูไม่ใช่เว้ย  เอาจริง ๆก็มีเพื่อนอยู่นะแต่ไม่ได้สนิทกันมากขนาดจะตามมาเรียนด้วย  แล้วเพื่อนในห้องก็เลือกเรียนแพทย์กันเกือบหมดด้วย  จะแหกมาวิศวะอย่างผมนี่มีไม่ถึงห้าคน

   “ก็ไม่นานเท่าไหร่” ไอ้ธัสวางโทรศัพท์ไว้กับโต๊ะแล้วเคาะนิ้วไปเรื่อย แต่เชื่อมั้ยว่าขนาดดูเบื่อโลกแบบนี้มันยังโคตรเท่ “เกือบ ๆสองเดือนได้มั้ง”

   แล้วแม่งก็เท้าคางหันมามองหน้าผม   ไอ้เหี้ย! เกือบสำลักข้าว

   “อ้าวว งี้ก็เป็นเพื่อนใหม่ไอ้ตาลดิ” แล้วมึงต้องทำเสียงตื่นเต้นขนาดนั้นมั้ยไอ้แคน “เหยด มึงมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นได้ด้วยเหรอวะ ฮ่า ๆๆๆๆ”  คราวนี้ทั้งไอ้แคนไอ้ก้องแม่งแข่งกันหัวเราะใส่หน้าผมเลยครับ  ขำแม่งต่อหน้าไอ้ธัสเนี่ยแหละ  กูอายจนร้อนหน้าไปหมดแล้วพวกเวร นี่ดีนะที่ไอ้เดือนภาคมันไม่มาร่ว--

   “แม่งโคตรหิวเลยสัด” เอ่ยถึงไม่ทันจบประโยค ไอ้คนที่ว่าเดินมาตบบ่าไอ้ก้องแล้วทรุดลงนั่งตรงกลางระหว่างไอ้แคนกับไอ้ก้องแล้วครับ

   “หืม?” ไอ้แคนที่อ่านสัญญาณคนข้างตัวมันออกก็แนะนำไอ้ธัสไป เดือนภาคพยักหน้ารับแล้วหันมาทำหน้าเหลือเชื่อใส่ผม

   “นี่มึงเป็นเพื่อนกับไอ้อ้วนนี่จริง ๆป้ะวะ ฮ่า ๆๆๆๆๆ กูไม่อยากจะเชื่อ” ไอ้ก้องพอได้กินข้าวจนอิ่มแล้วก็เริ่มสุมไฟครับ  แม่งแดกเร็วมากกูกินได้ยังไม่ครึ่งจานเลย

   “เปล่า” ห๊ะ....มึงหมายความว่าไงไอ้ธัส  นี่จะใจร้ายขนาดหักหน้ากูอีกคนเลยเหรอ “ไม่ได้เป็นเพื่อนกับมัน  เป็นแฟน”

   !!!!!!!!!!!

   !!!!!!!!!!!

   !!!!!!!!!!!!!!!!

   !!!!!!!!!!!!!!!!!!

   เรียงลำดับความตกใจของแต่ละคนเลยครับ และอันสุดท้ายคือกูเอง  แม่งคือเหี้ยอะไรเนี่ย!!!  ไอ้แคนแม่งวางแก้วน้ำเลยอะ ส่วนไอ้เดือนภาคก็มองผมสลับกับไอ้ธัสตาเหลือก ๆ  ยกเว้นไอ้ก้องที่ผมไม่ทันมองเพราะไอ้ธัสมันเอาแต่ใจซะก่อน

   “เสร็จจากกินข้าวแล้วมึงไม่มีเรียนแล้วใช่มั้ย  รีบ ๆกินแล้วไปดูหนังกับกูตอนบ่าย” มันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อน ๆแล้วชูให้ผมดู “ไหนมึงชวนกูไปดูเรื่องนี้”

   โอ้โห เอาหนังภาคต่อในดวงใจกูมาล่อซะด้วย แล้วแม่งเข้าโรงตั้งแต่เมื่อไหร่วะทำไมกูไม่รู้เนี่ย! ไม่ได้เข้าเฟซอาทิตย์เดียวโลกไปไวขนาดนี้แล้วเหรอวะ เกือบแล้วมึงไอ้ตาล เกือบชวดเรื่องนี้อีกแล้ว ดีนะที่ไอ้ธัสมันช่วยเตือนความจำ เออ ๆตอนบ่ายก็ไม่มีเรียนแล้วด้วย แต่นัดว่าจะไปหน้ามอกับพวกไอ้ก้องนี่หว่า  อืม...ช่างแม่งเหอะ ไม่มีกูสักคนพวกมันไปกันเองได้

   “เฮ้ออ~ กูว่าแล้ว” ไอ้แคนถอนหายใจและพยักหน้าของมันคนเดียว  แม่งเป็นห่าอะไรขึ้นมาอีกเนี่ย “เอาหน่ามึง ทนเอาหน่อย”

   มันบอกใครวะ?

   “กูบอกแล้วใช่มั้ยไอ้ควาย” ไอ้เดือนภาคมันทำหน้าเห็นอกเห็นใจ สักพักก็หันไปหาไอ้ก้องแล้วลูบบ่า “มัวแต่ย่ามใจ เป็นไงล่ะ โดนคาบไปแดกต่อหน้าต่อหน้า”

   “เอาจริง ๆเหมือนแม่งโดนเยี่ยวรดหน้าบ้านอะ กูสงสาร” ไอ้แคนอีกคน มันเอื้อมมือไปตีไหล่ไอ้ก้อง  ส่วนเจ้าตัวแม่งเฉยมาก ซึ่งกูประหลาดใจ ไอ้ก้องนี่ญาติ ๆกับเห็บหมาเลยนะ อยู่นิ่ง ๆไม่ค่อยได้  แต่ตอนนี้มันอย่างกับหิน

   และหลังจากมื้อนั้นเสร็จไอ้ธัสก็ลากผมขึ้นรถมันเลยครับ ดูเหมือนรีบชิบหายอะผมยังไม่ทันยกเลิกนัดหน้ามอกับเพื่อนเลย  แต่ไอ้แคนมันก็พยักหน้าเหมือนเข้าใจนะ ผมแค่มองหน้ามันไม่ทันพูดอะไรสักคำเลยด้วย

   ทุกคนแม่งเป็นอะไรกันไปหมด

   “คิดอะไรอยู่ ทำไมไม่หลับ” ไอ้ธัสว่า

   ตอนนี้ผมอยู่ในรถกับมันแล้วครับ กำลังไปห้างใกล้ ๆมอเนี่ยแหละ เพราะแค่ใกล้ ๆนี่กว่าจะถึงผมก็หลับได้ตื่นนึงละครับ  ปกติผมก็จะหลับไงไอ้ธัสมันคงเห็นจนชินครั้งนี้พอผมไม่หลับมันคงประหลาดใจ

   ก็กูกำลังคิดอยู่นี่หว่าจะหลับได้ไง

   “หรือคิดถึงเพื่อน? จะให้กลับไปส่งป้ะ” คำพูดมึงเหมือนจะใจดีนะแต่หน้ามึงเนี่ยเมธัส  มึงไปโกรธอะไรใครมา

   เออ ลืมบอกเลยว่าไอ้ธัสชื่อจริงมันคือเมธัสครับ  ผมแอบไปดูมาพร้อมกับตารางเรียนมันนั่นแหละ  ชื่อยังหล่ออะ ชีวิตมันดีจังวะ

   “อะไร..” จะถามว่าเหี้ยอะไรของมึงเนี่ยก็เกินไปน่ะครับ ยังเกรงใจมันอยู่

   “ก็ว่าอยู่ทำไมหลัง ๆมานี่ตอบไลน์ช้า”

   “เรียนอยู่..” ก็กูเขินมึงอะ! จะตอบทีก็ต้องคอยหลบพวกมันด้วย เดี๋ยวมาขอดู แถมอ่านไลน์ไอ้ธัสทีไรแม่งเขินหน้าแดงตลอดไม่รู้ทำไม บางทีแค่ไลน์ขึ้นเป็นชื่อมันหูผมก็ร้อนแล้วอะ

   เออ! แล้วที่มึงไปบอกเพื่อนว่าเป็นแฟนกูยังไม่เคลียร์เลยนะประเด็นนี้!!

   แต่ก็เป็นแฟนกันจริง ๆนี่หว่า...

   อิ้~ เขินสัด

   “ไม่รู้เว้ย” ไอ้ธัสยื่นมือข้างนึงมาดันหัวผม(จริง ๆคือผลักแต่ไม่แรง) “ก็กูอยากคุยอะ อยากคุยกับมึง”

   เหมือนกันป้ะ! กูก็ไม่ได้ไม่อยากคุยนี่หว่า

   ไอ้ธัสพาผมไปดูหนังฟอร์มยักษ์ภาคต่อที่กินเวลาไปสองชั่วโมงกว่าต่อด้วยเดินดูนู่นดูนี่  วนอยู่ในห้างเป็นสิบ ๆรอบได้  พอเสร็จมันก็ลากไปกินข้าว  รู้ตัวอีกทีออกมาจากห้างฟ้าก็มืดแล้ว  แต่ไม่เป็นไรครับ หอผมปิดตั้งสี่ทุ่ม

   “พรุ่งนี้มีเรียนกี่โมง” พอออกรถได้มันก็ถามผม ไอ้ธัสอยู่ในสภาพเสื้อปลดกระดุมเม็ดบน เนคไทหาย ชายเสื้อหลุด หน้าเป็นสีเข้มนิด ๆเพราะความมัน

   แต่ก็ยังหล่ออยู่ดี

   “เก้าโมงครึ่ง..” วิชาภาษาอังกฤษด้วย อาจารย์ฝรั่งเข้าเร็วมาก ช้าไม่ได้แม้แต่นาทีเดียว

   “อืม เดี๋ยวจะไปส่งที่คณะ พรุ่งนี้กูเรียนสิบเอ็ดโมง” หว่ายย กูรู้อยู่แล้วว่ามึงเรียนสิบเอ็ดโมง เรียนรัดสาดด้วยใช่ป้ะ กูจำได้

   “ไม่  เดี๋ยวเดินไปเอง ไม่ไกล..” คณะผมกับหอมันใกล้กันมาก ๆเลยครับ แต่คณะผมกับคณะมันอะ โคตรไกล

   “เดินจากคอนโดกูไปมออะนะ? หึหึ”

   ห๊ะ?!

   ไม่ทันได้ถามอะไรมันก็หักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าแยกหน้าแล้วครับ ซึ่งต้องตรงไปไงถึงจะเป็นมหาลัยผม  มันจะพาผมไป..คอนโดมัน?  แล้วก็ไม่ถงไม่ถามกูซ้าก~คำ

   นี่ถ้ามึงไม่หล่อนะ




   




   “....”

   “....”

   ก่อนหน้านี้จำได้ว่าเราต่างคนก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอะไรไปตามประสา แต่ตอนนี้ดันมานั่งอึนกันอยู่ที่โซฟาเฉยเลยครับ โทรทัศน์ก็ไม่เปิดนะ 

แต่แปลก ไม่เห็นรู้สึกอึดอัดเลยวะ ดันรู้สึกอย่างอื่นแทน นี่กูขยับตัวแปดร้อยรอบได้แล้วเนี่ย

“หนังสนุกป้ะ” ไอ้ธัสพูดขึ้น มือมันก็สางผมตัวเองที่หมาด ๆไปด้วย

“โคตรดีเลย สนุกมาก นี่ยังจำฉากนั้นได้ติดตาอยู่เลย ตอนจบอะ จำได้มั้ย?”

เออ กูก็ถามไปนะ พูดไปเถอะ ไอ้ธัสแม่งนั่งยิ้มหวานแล้วกูได้ยินนะว่ามึงขำกูด้วย

“เออ~ จำได้ดิ ก็นั่งดูอยู่ด้วยกัน มึงจะกัดปากตัวเองทำไม” มันเข้ามายีหัวผมแล้วก็เอานิ้วดันปากให้คลายออก “ถ้าจะกัด มากัดกูนี่  ยอม”

กูจะกัดมึงทำไมล่ะ กูไม่ใช่หมาปั๊กนะ!  ไม่ ๆกูอ้วนนี่  งั้น..กูไม่ใช่บูลด็อกนะเว้ย!

“แหนะ มึงโดนแย่งของกินรึไง ดูทำหน้าเข้า ฮ่า ๆๆๆ” คราวนี้แม่งโอบตัวเข้าไปล็อคคอแล้วขยี้ผมใหญ่เลย

โว้ยย หน้ากูโดนซิกแพคมึงแล้วเนี่ย!

“หิวป้ะ?” พอมันขยี้จนเมื่อยมือแล้วก็กุมหน้าผมไว้สองมือ อย่านะ มึงอย่าหยิกกูเหมือนไอ้แคนนะ  กูขอล่ะไอ้ธัส

ผมส่ายหน้ารัว ๆเลย  ในที่นี้ความหมายคืออย่าหยิกกูนะ

“ใช่เหรอ ปกติมึงต้องกินช็อคนมข้นทุกเย็นไม่ใช่ไง?” นั่นกูไปหามึงหรอกไอ้โง่

“ไม่หิวจริงอะ” หิวไม่หิวแล้วเกี่ยวอะไรกับที่มึงต้องเอาหน้ามาใกล้กู “ให้ตอบอีกที”

“ไม่!” ช่วยด้วย T_T ผมแม่งใจสั่นอะ รู้เลยว่าแขนก็สั่นด้วย  ไอ้ธัสเวอร์ชัน HD เป็นอะไรที่หล่อสัด ๆอะ  มันเกิดมาเพื่อใช้หน้าฆ่าคนชัด ๆ  ตาแม่งโคตรคม โคตรเจ้าเล่ห์เลย ขนาดผมเปียก ๆแม่งยังหล่อ

“ตอบไม่ถูกใจ” มันก้มหน้าลงมาจูบปากผมเร็ว ๆทีนึง “ให้โอกาสเพิ่ม แต่ต้องแลกเปลี่ยน”

ไอ้เหี้ย T_T ปกติมึงแค่กอดไหล่ กอดเอว แอบดม ๆแก้มกูเองไม่ใช่เหรอ  แล้ววันนี้เป็นเหี้ยอะไรขึ้นมา! ปากกูอะ แม่งงงงง

“ม..ไม่รู้”

จุ๊บ!

“ตอบใหม่ :-)” ไม่ต้องมายิ้มเลยแม่ง! กูร้อนหน้าไปหมดแล้ว

“ธัส.. ไม่รู้จริง ๆแค่ไม่หิว” กูจะร้องไห้... เรียนแคลแม่งคำถามยังไม่ประสาทขนาดนี้

จุ๊บ!

“อะไร! ยังไม่ได้ตอบเล--”

OxO
อ.ไอ้ธัส..มึง   มึงดูดปากกูทำไม!
ผมรู้สึกเหมือนตัวเองลืมทุกอย่างไปหมดแล้วบนโลกใบนี้  รู้อยู่อย่างเดียวว่ากำลังโดนจูบและจูบแบบโคตรลามกด้วย  ไอ้ธัสมันทั้งดูด เอาปากดึงแล้วก็ปลอบด้วยการจุ๊บซ้ำ ๆตรงที่มันทำไป  แล้วหน้ามันก็ขยับซ้าย หมุนขวา ชิดเข้ามาจนมองไม่น่าออกแล้วว่าอันไหนจมูกผม อันไหนปากผม  แต่ทั้งหมดที่ผมพูดนี่คือผมหลับตาอยู่ตลอดเลยครับ  ก็ไม่กล้ามองหน้ามันอะ! แม่งหล่อไปกูเขิน!

พอมันจูบผมได้สักพักจนผมคิดว่าตัวเองน่าจะลองกดปากลงไปบนปากมันแบบที่ไอ้ธัสทำกับผมบ้าง  แต่อยู่ ๆมันก็เอาลิ้นเข้ามาในปากผมเฉยเลยครับ! ไอ้ที่ผมคิดไว้นี่ต้องหยุดชะงักทั้งหมด  ผมลืมตาโพลงขึ้นมาเลยแล้วก็เห็นไอ้ธัสระยะประชิดที่กำลังละเมียดละไมกับปากผมอยู่  ตามันหลับพริ้มทำสีหน้าฟินสุด ๆจนผมอยากถีบ

แม่ง..ตอนดูหนังเอวีมันทำไมไม่ถ่ายให้ดูวะว่าตอนจูบกันกูต้องอยู่ใกล้กับมันขนาดนี้  แล้วลิ้นมันจะต้องสอดเข้ามาในปากกูลึกแบบนี้  ก็นึกว่าจะแค่แตะ ๆดูด ๆกันข้างนอกนี่หว่า แม่งเอ๊ย

ไอ้ธัสขยับตัวมันเข้ามาใกล้ผมแล้วก็ไล้มือไปตามหลัง วนไปวนมาจนต้องขยับตัวนั่งหลังตรง แล้วมันก็เข้ามาลูบข้างในเสื้อ ผมสะดุ้งจนเผลอผละออกมาจากมัน

“อ-เอ่อ ง่วง... ง่วงแล้วอะ” ผมงงไปหมด ไม่รู้ตัวด้วยว่าพูดอะไรออกไป  รู้แค่ไม่กล้ามองไอ้ธัสแบบเต็มตาเท่าไหร่เพราะมือมันยังอยู่ในเสื้อผมอยู่เลย

“อือ เดี๋ยวพาไปนอน” พอมองก็เห็นว่ามันกำลังยิ้ม

ไหนบอกพาไปนอนวะ! มึงเข้ามาจูบกูอีกทำไม!!

คราวนี้มันไม่สอดลิ้นเข้ามาแล้ว แค่ดูดดึงปากข้างนอก แต่เป็นผมเองที่ทนไม่ไหวเพราะมันนั่นแหละใส่ลิ้นเข้ามาจนชิน  ผมก็เลยเป็นฝ่ายส่งลิ้นเข้าไปหามันบ้าง แต่ทำไม่เป็นหรอกผมเคยจูบที่ไหนล่ะ ถึงจะเคยมีแฟนแต่อย่างมากก็ทำแค่หอมแก้มเท่านั้นแหละครับ

ผมพยายามเลียนแบบมันด้วยการขยับลิ้นเข้าไปแตะกับลิ้นมันแล้วก็ขยับไปเรื่อยข้างในนั่นแหละ  แต่อยู่ ๆไอ้ธัสมันก็ดึงลิ้นผมไปดูด! แถมยังดันหัวผมให้ขยับเข้าไปอีกพร้อมกับเอียงหน้า  คราวนี้ลิ้นมันก็เลยเข้าไปได้ลึกขึ้นและผมก็โดนดูดมากขึ้นด้วย T_T ทีตอนมึงเอาลิ้นเข้ามาในปากกูไม่เห็นรู้เลยว่าต้องดูดของมึงด้วย  แม่งขี้โกง

หลังจากนั้นผมก็ไม่ค่อยมีสติรับรู้อะไรมากแล้วครับ  แต่เสื้อหลุดไปพร้อม ๆกับกางเกงบอล  ที่รู้เพราะหนาวไง แอร์สาดมาโดนตัวเต็ม ๆไอ้เหี้ยแม่งโคตรหนาว

แต่ถามว่าไอ้ธัสมันหยุดมั้ย  ก็ไม่ไง  มันเมามันต่อไปไม่รู้เหี้ยไรหรอก  มือมันก็ลูบขึ้นลูบลงอยู่บนตัวผมนั่นแหละ แต่มันจะรู้มั้ยว่าผมอายมาก ผมไม่อยากให้มันเห็นร่างกายผมเลย ก็เพราะผมไม่ได้หุ่นนักกีฬาแบบมัน  ผมไม่เคยเล่นกีฬาเลยตั้งแต่ขึ้นม.ปลาย แถมผมยังเป็นไอ้อ้วนที่มีแต่ไขมันแล้วก็ไม่ได้มีอะไรเหมือนผู้หญิงเลยด้วย

ผมกลัว...ว่ามันจะรังเกียจ กลัวมันจะไม่ชอบผม

.................

ผมไล้ปลายนิ้วไปตามแนวแก้มเรื่อยลงมาถึงต้นคอของน้ำตาล  คนตรงหน้าหลับตาพริ้มแต่ตัวยังสั่นด้วยความกลัวอยู่นิด ๆแต่ผมรับรู้ได้เพราะผิวกายเราสัมผัสกัน  ตอนที่ผมปลดเสื้อนักศึกษาของน้ำตาลออกแล้วเห็นผิวเนื้อที่ถูกซ่อนไว้อย่างมิดชิดมาตลอดนั่นเต็มตาครั้งแรกผมถึงกับอึ้งค้าง 

น้ำตาลผิวเนียนมาก ดูนุ่มไปทั้งตัว น่าฟัด น่าขยำแรง ๆให้ขึ้นรอยมือ

ตั้งแต่แรกที่ผมเห็นน้ำตาลที่ร้านขนมปังผมรู้ว่าเขาเป็นคนเจ้าเนื้อและดูไม่ค่อยสุงสิงกับใครเท่าไหร่  ผมไม่เคยคาดหวังอะไรกับน้ำตาล  ที่ผมขอเขาเป็นแฟนเพราะผมรู้สึกดีเวลาได้ใช้เวลาอยู่กับเขาจริง ๆ  มันน่าแปลกที่ผมเคยเคยหวังว่าแฟนของผมจะต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ ต้องสวยไปทุกกระเบียดนิ้วหรือดูน่ารักสุภาพอย่างที่ผมต้องการ และสุดท้ายผมผิดหวัง  แต่กับน้ำตาลคนที่ผมไม่ได้คาดหวังอะไรนอกจากค่อย ๆมอบความรู้สึกดี ๆให้กันเจ้าตัวมีสิ่งที่ผมเคยต้องการมากเสียอย่างนั้น

“อ..อือ-”

ผมก้มลงจูบน้ำตาลอีกครั้งและสัมผัสกับก้อนตูม ๆข้างหนึ่งอย่างแผ่วเบา พยายามทะนุถนอมมากที่สุดเมื่ออีกคนเผลอเชื่อใจผมก็บีบขยำแรง ๆ ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าผู้ชายจะมีหุ่นแบบนี้เพราะผมคิดมาตลอดว่าน้ำตาลก็คงเหมือนผม เป็นผู้ชายเหมือนกัน อะไร ๆก็ต้องเหมือนกัน  แต่ผมลืมเอะใจไปว่าน้ำตาลเป็นคน’อวบ’ 

เพราะอย่างนั้น น้ำตาลไม่มีซิกแพคแบบผมแต่มีผิวหน้าท้องที่เรียบเนียนและมีน้ำมีนวลเหมือนมีน้ำเต็มอยู่ในทุกเซลล์ของร่างกาย เหมือนกับเด้งได้อย่างเจลลี่

และผมใช้มือกับนิ้วสัมผัสมันเพื่อพิสูจน์ แต่คงหนักมือไปหน่อยจนเกิดรอยแดงตามไปทุกที่ที่มือผมไปถึง

“อือ...” หน้าผมคลอเคลียอยู่ใต้ใบหูและต้นคอ เพราะอย่างนั้นผมถึงได้ยินเสียงน้ำตาลชัดเจนแม้เจ้าตัวจะเพียงแค่หอบหายใจผิดจังหวะไปนิดเดียวก็ตาม

น้ำตาลไม่หน้าอกแน่น ๆแข็งเป็นหินอย่างผมแต่น้ำตาลมีก้อนเนื้อนุ่มน่าจับสีขาวนวลและจุดเต่งสีชมพูเข้มที่กำลังชูชนตามแรงอารมณ์  ผมใช้นิ้วชี้เกลี่ยมันไปมาให้เจ้าของมันอ้าปากหอบหนัก ๆ  น้ำตาลได้รางวัลจากใบหน้าที่เซ็กซี่ด้วยจูบของผม.... บนยอดอกที่อยู่ในอุ้งมือและมันกำลังจะแดงช้ำเหมือนต้นคอหรือหน้าท้องที่ผมเคยไปพิสูจน์มาแล้ว

อา.. ผมชอบหน้าอกของน้ำตาลจัง  มันไม่เหมือนหน้าอกของผู้หญิงหรอก..ไม่เหมือนเป๊ะ  แต่ก็คล้ายกับอกของผู้หญิงแบบไข่เจียว  ถึงจะไม่กลมเต่งตึงใหญ่โตแต่แบบนี้มันน่าขยำมากกว่าเสียอีก  แถมยังกำรอบได้หมดในมือเดียว  และผมละปากจากการดูดดึงยอดอกที่สีเข้มกว่าเดิมแล้วใช้ปลายลิ้นชิมรสมันแทน

น้ำตาลซนมาก  เอามือคอยดันไหล่ผมสองครั้งแล้วครับ

...และผมจะไม่บอกหรอกว่าเสียงร้องอย่างทรมานในเซ็กส์ของน้ำตาลมันดังบ่อยแค่ไหน

ผมวนเวียนชิมร่างกายด้านบนของน้ำตาลไปอย่างเอื่อยเฉื่อยบนโซฟาที่คับแคบแต่มันดีตรงที่ตัวเราชิดกันไปเกือบทุกส่วน  แต่ผมเริ่มเลื้อยมือลงมาเล่นกับข้างล่างของน้ำตาลให้เจ้าตัวได้ตัวกระตุกสั่นแล้วกอดผมแน่น ๆ  ผมถอดกางเกงน้ำตาลไปแล้วแต่ยังเหลือชั้นในอยู่  ดังนั้นผมเลยร่นมันลงมารวดเดียวให้หลุดออกจากตัว  และน้ำตาลไม่รู้ตัวหรอก..

ผมกดจูบและเม้มบางส่วนที่น่าหมั่นเขี้ยวลงไปเรื่อยจนถึงหน้าท้องอีกครั้ง  พอก้มลงเห็นน้ำตาลน้อย ๆก็ต้องอึ้งอีกครั้ง

ผมเดาว่าน้ำตาลต้องได้เชื้อจากที่บ้านมาเยอะมากแน่ ๆ  ตัวของน้ำตาลแทบจะไม่มีขนเลย ขนาดที่รักแร้ยังไม่มีขน  ผมเพิ่งเคยเห็นผู้ชายที่ไม่มีขนรักแร้แบบชัด ๆครั้งแรกนี่แหละยกเว้นเด็กนะครับ  และตรงนี้ของน้ำตาลก็ไม่มีขน อาจจะเห็นเป็นขนอ่อน ๆบ้างแต่ที่แน่ ๆไม่ได้ใกล้เคียงกับผมเลย

ผมจับขาน้ำตาลตั้งขึ้นแล้วอ้าออกแต่เจ้าตัวขัดขืนคอยแต่จะหุบเข้า  ผมเลยปล่อยไปตามนั้นแต่ไม่ให้เอาขาลง  ทันทีที่ผมจับน้ำตาลน้อยสีอ่อน ๆออกไปทางสีเดียวกับยอดอกของเจ้าตัวน้ำตาลก็ปล่อยเสียงครางออกมา  ก่อนหน้าเจ้าตัวพยายามกัดปากไม่ยอมให้ผมให้ยินอะไรนอกจากเสียงหอบเลยแต่ครั้งนี้คงทนไม่ไหวจริง ๆ  คงไม่ได้ช่วยตัวเองบ่อย ๆมั้งครับ  หนังหุ้มปลายยังปิดเกือบมิดอยู่เลย  แต่น่ารักดี

ก่อนหน้านี้ผมเคยคิดนะว่าถ้ามีอะไรกับน้ำตาลขึ้นมาสักวันแล้วต้องจับไอ้นั่นของผู้ชายที่เหมือนกับของตัวเองผมจะทำยังไง  แต่พอมาเห็นของน้ำตาลแล้วผมคิดว่าผมชอบมันนะ  ไม่เคยรู้สึกว่าไอ้นั่นของใครน่ารักแบบนี้เลยครับ 55

ผมจูบและเลียชิมตามตัวน้ำตาลไปเรื่อย ๆส่วนมือก็ยังรูดขึ้นรูดลงไม่หยุด  พอได้ยินเสียงน้ำตาลครางถี่ขึ้นก็ผละออกจากผิวนุ่มนิ่มมาเล่นกับน้ำตาลน้อยแบบจริงจัง  น้ำตาลเขินหน้าแดงคอแดงตั้งแต่ผมจูบต่ำกว่าคอครั้งแรกแล้วครับ  แต่คราวนี้เจ้าตัวไม่ยอมมองหน้าผม คงจะเขินมากจริง ๆ

จนถึงจุดที่น้ำตาลจะเสร็จผมก็รูดให้เร็วขึ้น พอเห็นน้ำขุ่น ๆไหลเยิ้มออกมาก็บังคับมือบีบแน่น ๆเน้น ๆ  น้ำตาลน้อยหดลงเรื่อย ๆตามจำนวนน้ำขุ่นที่ไหลออกมาอย่างกับปล่อยลมออกจากลูกโป่ง  ขาสองข้างที่ไม่ได้เล็กเรียวเหมือนผู้หญิงแต่ขาว เนียนมาก ๆแล้วก็แน่นนุ่มมือกำลังสั่นระริก  ผมคิดว่าน้ำตาลคงไม่ตัวหรอกว่าตัวเองกำลังขาสั่นพั่บ ๆเพราะเล่นหลับตาปี๋เสียขนาดนั้นแต่ปากก็ปล่อยเสียงน่ารักน่าฟัดออกมาไม่ขาด

ผมป้ายน้ำที่เลอะเปื้อนมือไล้ลงไปตามน้ำตาลน้อยเรื่อยลงถึงรูจีบเล็ก ๆไม่ไกลกัน  น้ำตาลเอื้อมมือจับข้อแขนผมทันทีที่ผมแตะแล้วค่อย ๆสอดนิ้วเข้าไปข้างใน

“ธ-ธัส..ไม่เอา  ไม่เอาจริง ๆ”

ผมยิ้ม

เอื้อมตัวไปจูบหน้าผากที่เหมือนจะเหม่งนิดหน่อยเหนือแว่นกลม  เราจูบกันอีกครั้งพร้อมกับนิ้วของผมที่สอดเข้าไปเรื่อย ๆจากหนึ่งไปสองไปสาม  แต่ความจริงใช้เวลานานอยู่พอสมควรเลยล่ะครับ  ก็ผมไม่อยากให้น้ำตาลเจ็บมากนี่

ตั้งแต่ที่ผมเป็นแฟนกับน้ำตาลผมก็ศึกษาเรื่องอย่างว่าระหว่างผู้ชายมาพอสมควรเหมือนกัน  เพราะผมรู้ตัวเองดีว่ายังไงก็ต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นแน่ ๆและผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับด้านนี้เลย  ถึงจะเป็นเซ็กส์เหมือนกันกับผู้หญิงแต่ก็ไม่แน่ใจนักหรอกครับว่าจะใช้ประสบการณ์นั้นกับน้ำตาลได้  จนตอนนี้ผมเป็นงานแล้วนะครับ  น้ำตาลจะต้องชอบมันมากแน่นอน

“อ.อะ..เจ็บ  ธัสจูบหน่อย”  ผมจูบปลอบน้ำตาลอีกครั้งและอีกครั้ง  มันไม่ได้น่าเบื่อเลยสักนิดที่จะได้จูบน้ำตาลไปแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ

“น้ำตาลครับ” นี่เป็นครั้งแรกเลยมั้งที่ผมพูดเพราะกับเขาขนาดนี้

น้ำตาลสบตาผม  เขาทำหน้าเลื่อนลอยแต่ตาเยิ้ม

“ชอบมั้ย  ชอบธัสมั้ย” ผมขยับเอวให้มันเข้าไปจนสุดลำ น้ำตาลเบ้หน้าแต่สุดท้ายก็ยกแขนขึ้นกอดผมไว้

“ชอบ.. “ ผมก้มลงจูบขมับน้ำตาลแล้วแนบตัวลงให้เราสัมผัสกันให้มากที่สุด

ผมรู้นะว่าน้ำตาลชอบมองหน้าผม  ชอบที่ผมหล่อ ชอบแอบหูแดงเวลาผมตัวเปียกเพราะไปเล่นบาส หรือชอบเวลาผมเรียกเขาว่าน้ำตาล  แต่ผมกลัวว่าน้ำตาลอาจจะชอบแค่ที่ผมหล่อผมเลยโมโหน้ำตาลเมื่อตอนกลางวัน

ตอนแรกผมกะจะไปหาน้ำตาลเพราะเจ้าตัวตอบไลน์ช้ามากจริง ๆบางทีก็หายไปเลย  อีกเหตุผลคือน้ำตาลชอบอยู่กับเพื่อนกลุ่มเดิม ๆคนเดิม ๆ  ถึงผมจะไม่คิดอะไรนักแต่ก็อยากมาเห็นว่าน้ำตาลกำลังทำอะไรอยู่กันแน่  พอผมเห็นว่ามากับเพื่อนผมก็โล่งไปเปราะหนึ่งแต่ตอนที่เพื่อนน้ำตาลทำหน้าสิ้นหวังตอนที่รู้ว่าผมกับน้ำตาลเป็นแฟนกัน  แล้วที่สำคัญคือเพื่อนน้ำตาลคนนั้นมันก็หล่อเหมือนกันน่ะสิ  ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นไอ้งั่ง  เพราะผมไม่ได้รู้จักกับน้ำตาลมาตั้งแต่แรก และผมมาทีหลังพวกนั้น ผมกลัวว่าน้ำตาลจะไม่เลือกผม

ผมคิดว่า...ผมคงติดกับดักน้ำตาลเข้าจัง ๆแล้วล่ะครับ

แต่ผมไม่ยอมหรอกนะ  ผมจะทำให้คนที่กำลังทำหน้าสุขสมอยู่ใต้ตัวผมตอนนี้ติดกับดักของผมให้ได้เหมือนกันครับ :-)









 

      
   
   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-07-2018 03:52:09 โดย antavvanp »

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ธัสยังกินน้ำตาลไม่หมดเลย คนเขียนไปไหนแล้ววววววว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Coffeeblack

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ autopilot

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ นมชมพู

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
กดเข้าไปดูgifน้องน้ำตาลถึงกับ :pighaun:โอ่ยย ฟหกด่าสวา่อดก น่ารัดกดก

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
แอบคิดเล่นๆ ว่าต้องมีเพื่อนน้ำตาลเห็นความน่ารักของน้ำตาลบ้างล่ะ

โอ๊ะโอ เป็นจริงซะด้วยสิ...ช้าไปแล้วนะจ๊ะมดแดงแฝงพวงมะม่วง พี่ธัศนางมาสอยน้องน้ำตาลไปเนียนๆเลย

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
น้ำตาลน่ารักมากกก
ธัสก้ขี้หวงนะเนี่ย555
กรีดร้องกับgifน้ำตาลมากก งืออ
มีอออนท้อปแบบในกิฟมั้ยคะ555 oops!

ออฟไลน์ ณัฐฐา

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ฮืออออ กรี๊ดร้อง น้ำตาลน่ารักมากกกก :hao6:

ออฟไลน์ khwanruen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
มันต้องมีอีก ค้างงงงงงงงงงง
ธัสขี้หึง กินน้ำตาลซะเลย อิอิ
ช้าอดเลย ก้องเอ๊ย อิอิ หาคู่ให้ก้องหน่อย ฮ่าๆๆๆ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :o8:  รอต่อนะคะ
อยากชิมน้ำตาลจังว่าจะหวานขนาดไหน

ออฟไลน์ Minoru88

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ fida

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 352
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ยังมีต่อใช่ไหมคะ

อยากอ่านต่ออ่าา

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1

ออฟไลน์ Pakeleiei

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 850
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1

ออฟไลน์ warinpintee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โอ้ยยยยยยยย มีความค้างคาาาาา :katai4: :ling1: :z3:

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3

ออฟไลน์ zelesz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 525
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
โอยยย อยากได้ตอนพิเศษอีกซักตอนจังเลยค่ะคุณขา
แอบอยากอ่านในมุมของก้องบ้างด้วยยย

ออฟไลน์ Nam-Ing

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ต่อเถอะพลีสสสสสสสสสสสสสสส :hao5: :hao5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด