34.2
ผวั๊ะ! แรงตบที่ถูกถวายลงมาที่ศีรษะแบบยั้งๆเกือบทำให้หน้าผมทิ่มลงไปในชามก๋วยเตี๋ยวต้มยำ
“ต๊าย กูก็นึกว่าโอปป้าที่ไหนมานั่งแดกข้าวในโรงอาหาร ที่แท้ก็อิรันรันเพื่อนกูนี่เอง” เสียงแบบนี้ ลักษณะการพูดแบบนี้กับผมมีคนเดียวเท่านั้น...ไอ้สุเทพ(ท็อฟฟี่)
“มือหรือตีน หนักชิบสัส” ผมเลิกคิ้วกวนตีนด่ามันกลับไป ก่อนจะก้มลงซดน้ำก๋วยเตี๋ยวในชามต่อ สุเทพจึงย้ายร่างยักษ์ๆของมันไปนั่งลงตรงข้ามกับผม
“เอาตรงๆนะ มึงไปทำผมมาใหม่แล้วโคตรหล่ออ่ะ มาเป็นผัวกูเถอะรันต์”สุเทพพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ผมไม่ได้เงยหน้าจากชามก๋วยเตี๋ยวแต่แจกนิ้วกลางให้มันแทนคำตอบ
“น่า ลองเบี้ยนดู กูแซ่บกว่าที่มึงคิดนะ กูยอมเป็นผัวมึงก็ได้เอ้า!”
“ไปไกลๆตีนกูเลย ขนลุก” ผมยกเท้าถีบหน้าแข้งมันใต้โต๊ะ
“อินี่! ทำร้ายร่างกายอันบอบบางของกู”สุเทพแกล้งร้องโอดครวญ
“ถุ้ยยย”
“หยาบคาย แล้วนี่ผัวสำรองมึงไปไหนคะ”
“ใคร?”
“ไอ้เมฆ ผัวคนที่ห้าสิบสามของกูไง” ไอ้นี่มันมีผัวกี่คนกันวะ
“ไม่รู้อ่ะ เดี๋ยวก็มามั้ง”
“โอ๊ะนั่นไง พูดถึงหมาหมาก็มา” ผมหันไปมองตามเสียงสุเทพ ไอ้เมฆเดินเข้ามาในโรงอาหารพร้อมไอ้เก่ง
“เมฆ สุเทพมันบอกว่ามึงเป็นหมา”ทันทีที่ไอ้เมฆนั่งลงข้างๆกัน ผมก็เอ่ยฟ้องคนตัวสูงทันที
“อิรันต์อิเพื่อนทรยศ...โอ๊ย!ไอ้เหี้ยเมฆผมกูเสียทรงหมด”สุเทพโวยลั่นโรงอาหาร เพราะเมฆตบหัวมันพร้อมกับขยี้แรงๆให้เสียทรง
“กูไม่เคยอยู่ข้างเดียวกับมึง” ผมแลบลิ้นใส่มัน ใครบอกมึงมาตบหัวกูก่อนล่ะ
“เหอะ! รุมกูหรอ ไอ้เก่งช่วยกูด้วย”แล้วสุเทพมันก็หันไปออเซาะเก่งที่นั่งอยู่ข้างๆมันแทน
“เคลียร์กันเองดิ กูไม่เกี่ยว ไปหาไรแดกล่ะ”พูดจบเก่งก็ลุกจากโต๊ะไปหาอะไรกินก่อนที่ไอ้ท็อฟฟี่จะโวยวายให้หนวกหู
“จำไว้เลยพวกมึงแกล้งกู ชิ!”แล้วมันก็สะบัดตูดที่มันคิดว่างอนไปหาอะไรกินตามไอ้เก่ง
“มาตั้งแต่เมื่อไหร่”เมฆเอ่ยถามขึ้น
“สักครึ่งชั่วโมงได้ละ หิวสัส” ผมบ่น คือแทบไม่มีแรงทำเองเลย ลากสังขารลงจากเตียงมาเรียนได้ก็โคตรเทพแล้วอ่ะผม
“โดนจัดหนักสิมึง รอยเต็มคอเชียว” เมฆเปิดคอเสื้อผมส่องดูรอย จริงๆมันก็ไม่เห็นหรอกถ้าไม่พิเรนท์เปิดดูเหมือนมัน
“เออ แล้วทำไมมึงมากับเก่งได้” ผมตอบปัดๆ เฉถามไปเรื่องอื่นแทน
“เมื่อวานมันไปนอนที่คอนโดฯกู”
“หืม?”ผมเลิกคิ้วมองนิดๆอย่างสนใจ ก๋วยเตี๋ยวหมดชามแล้วด้วยแหละ
“มองเหี้ยไรของมึง พวกกูพากันไปเมามาเถอะ ไม่เหมือนมึงหรอกอยู่แต่กับ...ผัว”เมฆผลักหัวผมเบาๆ ดีหน่อยที่ท้ายประโยคมันก้มลงมากระซิบ
“อ่ะแฮ่มๆๆ ทำอะไรเกรงใจเพื่อนกูด้วย”
“อะไรติดคอหรอครับพี่สมิธ” ผมหันไปพูดกับผู้มาใหม่
“ตีนไอ้ทศมั้งสัส เดี๋ยวมันมาเห็นก็เป็นเรื่องอีก” พี่สมิธพูดพลางนั่งลงแทนที่สุเทพ
“ไม่ได้ทำอะไรไม่ดีสักหน่อย” ผมเบะปากนิดๆ ตอนนี้คงกำลังคุยกับอาจารย์เรื่องขาดเรียนไปหลายวัน
“หรอ ถ้าพ่อมึงมาก็ปากเก่งให้ได้แบบนี้นะ” พี่สมิธยื่นมือมาดีดเหม่งผมเบาๆ พ่อที่เขาหมายถึงก็คือทศกัณฐ์นั่นแหละครับ
“แต่วันนี้พี่สมิธมาเช้าจัง มีเรียนสิบโมงไม่ใช่หรอครับ” ผมจำตารางเรียนพวกเขาได้ ตอนนี้พึ่งจะแปดโมงเช้านิดๆเท่านั้น
“ก็กู...ไม่อยากอยู่นาน” พี่สมิธมีสีหน้าลำบากใจเล็กน้อย
“เออ เดี๋ยวกูไปหาซื้อไรแดกก่อนนะ”เมฆเอ่ยขึ้นอย่างรู้สถานการณ์ก่อนจะลุกออกไปเลย
“พี่...ได้นอนห้องตัวเองรึเปล่าครับ” ผมเอ่ยถามร่างสูงตรงหน้าออกไปตรงๆ
“เปล่า...แต่ไม่เป็นไรหรอก มันทำอะไรกูไม่ได้หรอก” พี่สมิธไหวไหล่เหมือนชิลๆ
“พี่โอเคนะ ผมขอโทษที่ทำให้เรื่องทุกอย่างมันเป็นแบบนี้” ผมเอ่ยอย่างรู้สึกผิด
“ไม่ใช่ความผิดมึงสักหน่อย กูเลือกที่จะทำเอง อีกอย่างกูคิดว่ากูควรเดินไปข้างหน้าว่ะ กูไม่อยากจมปรักอยู่กับความรู้สึกบ้าๆนี้อีกแล้ว กูจะทำให้มันเห็นว่ามันไม่มีค่าอะไรสักนิดกับชีวิตกู”ดวงตาพี่สมิธฉายแววเด็ดเดี่ยว
“พี่อยากให้ผมช่วยไหม?”
“ห๊ะ!?”
“เอาเป็นว่าพี่ไม่ต้องกลัว ถ้าพี่ต้องการผมจะช่วยพี่ขยี้เขาเอง” ผู้ชายคนนั้นสมควรได้รับกรรมกับสิ่งที่เขาก่อไว้อย่างสาสมและคนที่จะทำให้เขาเจ็บได้ ก็มีแต่พี่สมิธเท่านั้น
++++++++++++++++++++
วันนี้ครบกำหนดที่คุณหมอนัดตัดไหมแผลของทศกัณฐ์(ของผมตัดไปก่อนแล้ว) ผมนั่งรอทศกัณฐ์กับโจเซฟที่โซฟาหน้าห้องใช้เวลาไม่นานเขาก็เดินตัวปลิวออกมา ผมเดินเข้าไปหาเขา ส่วนโจเซฟแยกตัวไปเตรียมรถ ทศกัณฐ์พาดแขนกับบ่าผม เดินกอดคอผมออกไปโดยไม่สนสายตาของใครต่อใครที่มองมา
“รันต์!”เสียงเรียกชื่อผมจากด้านหลังทำให้เท้าผมหยุดชะงักพลอยทำให้ทศกัณฐ์หยุดเดินไปด้วย
ผมหันไปมองทางต้นเสียง พบผู้ชายอายุห้าสิบกลางๆ แต่งตัวดูภูมิฐานเหมือนพึ่งเลิกงานเพราะมือข้างหนึ่งเขาถือสูทพาดแขนไว้ด้วย ใบหน้าดูอ่อนล้ากว่าที่ควรจะเป็น และผู้ชายคนนั้นคือพ่อของผมเอง
“เป็นอย่างไรบ้าง” คนตรงหน้าเอ่ยถามผม ตอนนี้เรานั่งอยู่ในร้านคอฟฟี่ของโรงพยาบาล
“สบายดีครับ” แล้วพ่อล่ะ...ผมไม่กล้าถามออกไป
“มาทำอะไรที่โรงพยาบาล ป่วยตรงไหนรึเปล่า” เขาถามอย่างเป็นห่วง
“ผมไม่ได้เป็นอะไร แต่ว่าแฟนผมเป็น” ผมเหลือบไปมองทศกัณฐ์ที่นั่งถัดไปอีกสองโต๊ะ ก็ไม่ได้คิดจะปิดบังอะไรอยู่แล้วเลยบอกไปตรงๆดีกว่า พอคนตรงหน้าได้ยินคำตอบผมเขาก็เบิกตากว้างอย่างตกใจนิดๆพลางเหลือบสายตามองทศกัณฐ์ไปด้วย
“คนนั้นแฟนน้อง?”
“ใช่ครับ” ผมพยักหน้ารับ
“พ่อคงไม่ห้ามอะไร พ่อไม่รู้ว่าพ่อมีสิทธิ์พูดได้ไหม แต่ความรักแบบนี้มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ถ้าน้องยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้พ่อก็ไม่ว่าอะไร ค่อยๆดูกันไปนะลูก” แม้ว่าเขาจะมีสีหน้าคิดหนักแต่เขาก็เลือกที่จะให้ผมตัดสินใจด้วยตัวเอง
“ผมรู้ว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำ ขอบคุณนะครับที่เป็นห่วง”
“อืม แล้วน้องจะกลับบ้านเมื่อไหร่”
“ผม...ไม่รู้” ผมเอ่ยออกไปตรงๆ คือผมจากที่บ้านมานานมาก มันก็มีหลายเรื่องที่ทำให้ผมต้องออกมา เอาจริงๆที่ตอนนี้ผมยังไม่กลับไปไม่ใช่เพราะยังโกรธอะไรอยู่หรอกครับแต่เพราะทิฐิในใจผมยังมีอยู่ ซึ่งผมโคตรเกลียดตัวเองเลยเพราะสีหน้าของคนตรงหน้าผมซีดลงอย่างเห็นได้ชัด
“ถ้าเป็นเรื่องนั้นพ่อขอโทษ พ่อผิดเองที่ทำเกินกว่าเหตุ พ่อคิดถึงน้อง น้องกลับบ้านไปอยู่กับพ่อกับริวได้ไหมลูก” เขาเอ่ยอย่างอ่อนแรง น้ำตาคลอขึ้นมา ผมคงบาปมากใช่ไหมที่ทำให้ผู้ให้กำเกิดต้องมาเสียน้ำตาให้กับความงี่เง่าของผม
“เรื่องนั้นผมลืมแล้ว อย่าโทษตัวเองเลยนะครับ”
“มาหาพ่อบ้างได้ไหมลูก ก่อนพ่อจะตายพ่ออยากอยู่กับน้องกับริวอย่างพร้อมหน้า”
“พ่อเป็นอะไร!” ผมถามอย่างตกใจ เผลอเสียงดังขึ้นมานิดหน่อย
“แค่ความดันสูงน่ะ ไม่ใช่โลกร้ายแรงอะไรหรอก แต่ก็ไม่รู้จะตายวันตายพรุ่ง”
“…”
“…”
“แล้ววันนี้มาตรวจใช่ไหม มากับใครครับ” ผมเอ่ยถามหลังจากที่ต่างคนต่างเงียบ
“พ่อมาคนเดียว”
“แล้วริว หรือน้ามิ่งล่ะ ทำไมไม่ให้พามา” ผมขมวดคิ้วมุ่น ถ้าอยู่ๆความดันขึ้นขณะขับรถล่ะ จะอันตรายรึเปล่า
“ริวติดเรียน มิ่งพ่อใช้ไปทำธุระอย่างอื่นให้”ผมพยักหน้ารับรู้แต่ก็อดหงุดหงิดไม่ได้
“คราวหลังถ้าไม่มีใครพาไปโทรหาน้องนะครับ เดี๋ยวน้องพามาเอง”
“พ่อโทรหาได้หรอ น้องจะรับใช่ไหม” ชายสูงวัยเอ่ยขึ้นอย่างดีใจ ผมยิ่งรู้สึกผิดเพิ่มขึ้นไปอีก นี่ผมมัวทำอะไรอยู่ ทำไมถึงปล่อยให้ทิฐิมันบังตาได้ขนาดนี้
“โทรได้ตลอด ถ้าว่างน้องก็จะโทรหา”
“ขอบใจนะลูก แค่นี้พ่อก็ดีใจมากแล้ว”คนตรงหน้าผมยิ้มกว้างทำให้ผมยิ้มตามออกมานิดๆ
“เสร็จจากนี้แล้วคุณ...พ่อว่างไหม” ผมเอ่ยขัดนิดๆหลังจากที่ไม่ได้เรียกคำนี้มานาน
“ว่างแล้วล่ะ ทำไมหรือ?”
“น้องอยากกินเป็ดย่างภัตตาคารเทียน แต่จำทางไม่ได้” ผมพูดนิ่งๆ พ่อเผยอรอยยิ้มกว้างให้
“ถ้าอย่างนั้นให้พ่อพาไปนะลูก” เขาเอ่ยบอกอย่างกระตือรือร้น ผมจึงพยักหน้าตกลง
ผมไม่ค่อยชอบเป็ดย่างเท่าไหร่ แต่ในความทรงจำผมก็บันทึกไว้ว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าผมนี้ชอบเมนูนี้ที่สุด
+++++++++++++++++
Smith’s part
“จะกินอะไร” เสียงทุ้มโมโนโทนเอ่ยถามเมื่อรถเคลื่อนตัวออกจากมหาวิทยาลัยได้สักพัก
“กูไม่กิน” ผมเอ่ยเสียงห้วนแข็งๆตอบกลับมันไป สายตามองออกไปนอกรถ จราจรในกรุงเทพช่วงเวลาห้าโมงเย็นนี่เป็นอะไรที่ผมโคตรจะเกลียด แต่ก็เกลียดได้ไม่ถึงเสี้ยวของอะไรคนที่นั่งอยู่ข้างๆผมหรอก
“กัซเซปเปสไหม อาหารอีกตาเลี่ยนที่นายชอบ” มันเอ่ยชื่อร้านอาหารอิตตาเลี่ยนที่ผมชอบไปกินอย่างไม่สนใจคำปฏิเสธ ผมจิ๊ปากอย่างรำคาญมันนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป ได้แต่หวังว่ามันจะเลิกพล่ามไปเอง
“ผู้ใหญ่ถามทำไมไม่ตอบ หืม?” มือหนายื่นมาเชยคางผมให้หันไปมองหน้ามัน ผมปัดมือมันออกจากหน้าด้วยความรังเกียจ สายตาตวัดมองมันเหมือนสัตว์ตัวหนึ่ง
“กูเลือกตอบเฉพาะกับคน สัตว์กูไม่อยากพูดด้วย”ผมพูดเน้นคำใส่หน้ามันเต็มๆ ใบหน้าคมออกหวานเหยียดยิ้มนิดๆอย่างที่ผมรู้คือมันเริ่มหงุดหงิดแล้ว
“ปากนี่มันทำจากอะไร เวลาจูบก็นิ่มดีอยู่หรอก แต่ทำไมเวลาพูดมันถึงได้ร้ายกาจขนาดนี้” มันเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม สายตาแพรวระยับที่ผมโคตรขยะแขยงจ้องมองริมฝีปากผม ผมกัดฟันกรอด
“ไม่ต้องมาพล่ามมาก กูไม่เคยจูบกับเหี้ย”คิ้วไอ้นรกนี่กระตุกข้างหนึ่ง
“พูดให้มันดีๆกว่านี้สมิธ อย่าทำให้พี่โมโห” มันกดเสียงต่ำลง
“ก็เอาดิ เชิญมึงโมโหได้ตามสบาย แล้วไง? จะฆ่ากูเลยไหมล่ะ” ผมเอ่ยตอบกลับไปอย่างไม่เกรงกลัวแม้ในใจจะหวั่นมากแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าผมอ่อนแอให้มันเห็นมันก็จะไล่ต้อนผมได้ตลอดไปน่ะสิ
“ก็ไม่ฆ่าหรอก แต่จะทำอย่างอื่นแทน...กลับคอนโดฯ”ท้ายประโยคมันสั่งลูกน้องมันเสียงนิ่ง ลมหายใจผมสะดุดทันที
“มึงคิดจะทำอะไร” ผมขยับตัวชิดกับประตูรถ
“ก็จะทำให้นายเห็นไงว่าเวลาที่พี่โมโหนายจะเป็นยังไง...จำได้ไหม” มันแสยะยิ้มที่ทำให้ขนทั้งตัวผมลุกเกรียว
“มึงจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ ไหนว่าสัญญาแล้วไง” ผมเสียงสั่นโดยไม่รู้ตัว มันน่ากลัวเกินกว่าผมจะรับไหวได้อีกแล้ว
“ทีตอนนี้ทำมาทวงสัญญา...แต่พี่จะบอกอะไรให้นะ สัญญามันขาดลงตั้งนานแล้ว ที่พี่ยังปล่อยให้นายอิสระก็เพราะพี่อยากตามใจนาย แต่เห็นทีความใจดีของพี่จะไม่เป็นผล ถ้าอย่างนั้นก็กลับไปเป็นเหมือนเดิมนั่นแหละง่ายดี” มันพล่ามยาวเหยียดคำพูดมันแทบจะไม่เข้าหูผมด้วยซ้ำ รถเบนซ์เลี้ยวเข้าคอนโดฯที่ถึงเร็วกว่าที่คาด
ผมเหมือนเห็นประตูนรกกำลังจะเปิดออก
ผมจะทำยังไงดี...
++++++++++++++
อิพี่ลุค อิชั่ว เกลียดว่ะ ตอนหน้ามาเอาใจช่วยสมิธกัน