{{ Prince's Room }} ระวัง...เขตอันตราย!! [3P] - ตอนพิเศษ : ครบรอบ1เดือน - P.29 -
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: {{ Prince's Room }} ระวัง...เขตอันตราย!! [3P] - ตอนพิเศษ : ครบรอบ1เดือน - P.29 -  (อ่าน 265250 ครั้ง)

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ mkianit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-3
คนเดียวไม่เวิคลองสองไหมจ้ะ  :hao7:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
อุตส่าห์โอเคกันแล้ว แต่ก็เข้าใจรัญญ์ว่าคงทำใจไม่ได้จริงๆถ้าคบไปนานกว่านี้

อยากอ่านต่อเลย อยากรู้ว่าจะลงล็อคยังไง คนเขียนสู้ๆนะคะ :mew1:

ออฟไลน์ kiolkiol

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
สงสารหนูรัญเหมือนกันนะ คือเป็นคนในแง่ร้ายจนเกินไปน่าสงสารอ่ะ

ออฟไลน์ thyme812

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 313
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
เง้อ สงสารอ่ะ #ทีมคีรี

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
ถ้าเครียปมชีวิตตัวเองไม่ได้ชีวิตก็ไปต่อไม่ได้,,,,,ทุกอย่างมีไว้ให้แก้ไม่ใช่ตัดปัญหาทิ้งแบบที่รัญทำสุดท้ายก็ได้แต่รอลุ้นตอนต่อไปซินะ :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ ninghyuk

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
สงสารทุกคน :mew2:

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
โอ๊ย.....จะคีรีขันรึเชื้อรา ก็เจอจุดจบไม่ต่างกัน หนูรัญใจร่มๆ ค่ะลูก ค่อยๆเลือก หรือขอสองเลยก็ได้ เอาใจช่วยจ้า   :katai2-1:

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
โอ้ยยยยย รัญเอ้ยยยยย
สงสัยต้อง3pจิงๆ 5555555
รอราเชนทร์ปรับตัว ให้ดีกว่านี้
แล้วก้คีรี เผยธาตุแท้กว่านี้ 555

ออฟไลน์ นมชมพู

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :sad4: :o12:รัญเอ้ยยยย  :ling1:อยากอ่านต่อออ

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
โอ้ยย มึนไปหมด ที่คิดๆมาสลับกันสินะ
แสดงว่าตอนคบกันกับราเชน ไม่เคยมีอะไรกันเลย

ออฟไลน์ Minty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ตามมาเพราะ 3P  :z1:

ออฟไลน์ Fragrant

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
รัญน่าสงสารได้อีก กลัวความรัก กลัวความเจ็บปวดและกลัวการเลิกรา มาๆหอมหัวทีนึงไม่เป็นไรนะ แล้วมันจะผ่านไปเมื่อถึงเวลานั้น รัญต้องก้าวผ่านมันไปให้ได้นะ ติดแฮชแท็ก #รัญเอ้ย

ออฟไลน์ J029

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ VarainDark

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
สงสารรัญอ่ะ เมื่อไรจะมีความสุขสักที

ออฟไลน์ ชมพูพาล

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ยังคงยกป้ายเชียร์เชื้อรานะจ๊ะ  :hao7:

ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
ลุ้นมากว่าจะเป็นยังไงต่อ
หนูรัญจะก้าวผ่านความกลัวของตัวเองไปได้อย่างไรหนอ
รอติดตามตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ
 :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
โถววว สงสารพี่คีรีอะ รัญเอ้ยยยคบแค่สามวันก็เลิกแล้วเหรอ โปรสั้นไปนะเราสนใจปรับโปรมั้ยสักสามเดือนก็ยังดี

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'

ตอนที่ 8 : เราสองสามคน?

มันเป็นความรู้สึกที่...โหวงเหวงแปลกๆ

จนชวนให้เศร้าซึม เหมือนสีสันผ่านตามัวหมอง ร่างกายหมดเรี่ยวแรงไร้กำลังใจ

“เลิกกันแล้วล่ะสิ”

และยิ่งเจ็บยอกเมื่อถูกซ้ำเติมจากแฟนเก่าอย่างราเชนทร์ ตัวปัญหาที่ยังคงนั่งกินลมชมวิวอยู่หน้าบาร์ทุกวันไม่เคยขาด แม้กระทั่งตอนผมคบกับคีรี ราเชนทร์ก็ยังมานั่งขายขนมจีบให้ผม แน่นอนว่าผมไม่ได้พูดเรื่องความรักครั้งใหม่หรอก แต่เป็นเขานั่นแหละที่ทักขึ้นมาเองเหมือนในวันนี้

คีรีเป็นคนบอก?

ช่างเถอะ พวกเขาสองคนจะรู้จักกันยังไงติดต่อทางไหนก็ช่าง

ผมไม่อยากจะยุ่งกับทั้งคู่แล้ว รู้ทั้งรู้ว่าสุดท้ายต้องเจ็บก็ยังกระโจนเข้าหา แล้วเป็นไงล่ะ

“อารมณ์ไม่ดีซะด้วย”

ผมกระแทกแก้วใส่หน้าราเชนทร์ที่ยังล้อไม่เลิก แต่แฟนเก่าคนนี้ยังคงยิ้มยียวนและทำปากจู๋

“พักใจกับป๋ามั้ยจ๊ะ รัญจ๋า”

ถ้าเป็นปกติผมคงขนลุกเกรียวไปทั้งตัว แต่ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะมาเต้นตามคำเย้าแหย่ของราเชนทร์เลยจริงๆ

ผมเหนื่อย

แมนเข้ามาช่วยรับหน้าขณะตบไหล่ให้กำลังใจเบาๆ แม้จะไม่ได้เล่าให้ฟัง แต่การที่ผมเก็บข้าวของกลับมานอนที่หอเหมือนเคยก็พอทำให้เพื่อนสนิทพอเดาได้อยู่แล้ว

เพราะเหตุการณ์นี้เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่รู้เบื่อ จนผมไม่อยากจะนับ

แต่โชคชะตายังคงไม่เป็นใจ

เพราะหลบหน้าราเชนทร์ไปได้ไม่เท่าไหร่ คนคุ้นตาในชุดสูทก็เดินขึ้นบันไดชั้นสองตรงมาที่บาร์

ผมถึงกับสบถ

ดูเขาสิ...ยังคงแต่งตัวเนี้ยบเหมือนเคย แว่นตาตั้งบนดั้งโด่ง ผมเรียบเปล้ คิ้วขมวดตลอดเวลา ไม่เข้ากับบรรยากาศครึกครื้นของคิงส์คลับสักนิดเดียว

คีรีทิ้งตัวนั่งตำแหน่งเดิม และสั่งเครื่องดื่มชนิดเดิม

“ไซดคาร์”

ไม่เจอเขาสามวัน ณ ที่ตรงนี้ เป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุข แต่พอกลับมาจ้องหน้าผ่านบาร์กันเหมือนวันวาน ผมกลับรู้สึกไม่อยากจะสบตา

ตอนราเชนทร์ยังพอเตี๊ยมกับแมนได้ เพราะตัวปัญหาเป็นลูกค้าประจำ จะเลิกไม่เลิกเขาก็ยังนั่งหน้าสล๋อนไม่สนใจใครทั้งสิ้น แต่พอเป็นคีรี...ผมไม่ทันตั้งตัว ไม่ทันคาดคิดว่าเขาจะเจียดเวลามาที่คลับเลยเพื่อเจอผม ทำไปทำไม? มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยเพราะสุดท้ายแล้วเราก็ไปกันไม่ได้

“วิน” ผมหันไปเรียกเพื่อนร่วมงานอีกคน “แลกที่กัน”

“เอ๊ะ”

ภาวินไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่าง แม้เค้นถามแค่ไหนแต่ผมก็ไม่เคยตอบเพราะไม่จำเป็นต้องมาเล่าเรื่องส่วนตัว เลยค่อนข้างประหลาดใจเมื่อผมยอมยกลูกค้าทิปหนักให้ทั้งที่ปกติจะเก็บไว้คนเดียว

แต่พอเห็นผมสลับที่โดยไม่รอคำตอบ ภาวินก็รีบกระตือรือร้นชวนคุยเพราะรู้ดีว่าคีรีกระเป๋าหนัก ส่วนผม...ผมก็คอยรับลูกค้าขาจรที่มักซื้อพวกถุงยางไม่ก็สั่งเหล้าเป็นขวดๆ

มีคนนั่งที่บาร์บ้างแต่ก็ไม่นานเท่าคีรีกับราเชนทร์

เป็นวันทำงานที่ผมอึดอัดที่สุดในชีวิต

หลังเลิกงาน ผมแอบระแวงจะโดนดักรอรึเปล่า ราเชนทร์นั้นตามอารมณ์ บางทีก็มาทักทายบางทีก็ชวนเล่นๆ แม้ว่าตอนคบกับคีรีเขาจะหายไปเลยก็ตาม

แต่ตอนนี้...ไม่มีวี่แววจากทั้งสองคน

“รัญ”

แมนส่งกระดาษโน้ตเล็กๆ ให้ผม

“คนของมึงฝากมา”

ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าคนไหนหรอกนะ แต่ตอนเปิดอ่านก็จำได้ว่าเป็นลายมือของคีรี

- พวกฉันจะรอที่ปริ้นส์รูม -





แล้วเรื่องอะไรผมต้องไปด้วยล่ะ!

เอาตามตรงเลยมั้ย ผมค่อนข้างเบื่อหน่ายกับท่าทางลับๆ ล่อๆ เต็มทน เดี๋ยวทำทีว่าจีบ เดี๋ยวทำทีว่าไม่รู้จักกัน แล้วนี่อะไรอีกล่ะ ‘พวกฉัน’ เขียนมาโต้งๆ แบบนี้ ต้องการให้ผมสงสัยจนอดไม่ไหววิ่งโร่ไปหาหรือยังไง

ใช่! ผมอยากรู้เต็มแก่ว่าพวกเขาทั้งคู่ต้องการอะไรกันแน่ และทำไมถึงมาดีแตกเอาตอนนี้ แต่สิ่งที่ทำได้มีเพียงการยั้งอารมณ์ฉุนเฉียวพาตัวเองกลับมาที่ห้อง และขย้ำกระดาษปาทิ้งใส่ถังขยะ

พอ-กัน-ที!

ผมนั่งหงุดหงิด คันยุบยิบในใจว่าราเชนทร์กับคีรีต้องการอะไรกันแน่ หรือยังต้องการเอาชนะ? เอาชนะอะไรล่ะ!ต่างโดนผมบอกเลิกขนาดนี้ แล้วยังไอ้การเดินหน้าเข้าหาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนั่นอีก ทั้งที่บรรยากาศทั้งสองเหมือนคู่แข่งมากกว่าเพื่อน แต่ไหงวันนี้เหมือนร่วมมือกันซะได้

นั่นสิ ทำไมจู่ๆ ถึงมาร่วมมือกันได้

สุดท้ายผมก็แพ้ภัยตัวเอง ความอยากรู้มันจุกอก จนต้องตั้งสติและลองทบทวนเรื่องทั้งหมดอีกครั้ง แม้ใจจะอยากสลัดทิ้งเต็มแก่ก็ตาม

เอาล่ะ มาลองคิดกันก่อน

ราเชนทร์กับคีรี เพราะอะไรที่ทำให้ทั้งคู่ยังตามราวีผมไม่เลิกรา

ขอโอกาส?

มันจะเป็นไปได้ยังไง! ถ้าแก้ปัญหาได้ตั้งแต่ตอนคบกัน ผมคงไม่บอกเลิกหรอกน่า

กั๊กผมไว้เล่นๆ?

กับราเชนทร์ยังพอเข้าใจได้ แต่กับคีรี...ท่านประธานคงไม่ว่างขนาดเจียดเวลาหาผมทุกวันทั้งที่รู้ว่าไม่มีทางกลับไปเป็นเหมือนเดิมหรอกมั้ง ขนาดบาร์เทนเดอร์ธรรมดาอย่างผมยังรู้เลยว่าไม่คุ้มและเสียเวลาเปล่า

กันทางกับอีกคน?

เอ่อ...ถ้าต้องการกีดกันผมกับอีกคนจริงๆ แล้วไอ้คำว่า ‘พวกฉัน’ ล่ะหมายถึงอะไร!?

ยิ่งคิดผมก็ยิ่งปวดหัวจนชักจะฉุนขึ้นมาอีกรอบ ผมสูดหายใจเข้าลึก บอกกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้สงบอารมณ์

ตั้งสติสิหรัญญ์

พวกนั้นรู้จักนาย นายเองก็รู้จักทั้งคู่ดีไม่ใช่รึไง


ใช่ มาลองค่อยๆ วิเคราะห์กันอีกครั้ง บางที...ผมอาจมองข้ามบางอย่างไปเพราะไม่ทันฉุกคิดก็ได้

เริ่มที่ราเชนทร์กันก่อน...แฟนเก่าคนนี้เป็นคนยังไงงั้นเหรอ เอาแต่ใจที่หนึ่ง ชอบเป็นผู้นำ หวงก้าง ใช้เวลาผ่านไปวันๆ ด้วยการหาความสำราญจนน่าอิจฉา ที่ผมไม่ทันคิดว่าเขาจะเป็นคนในคืนแรก เพราะตอนคบกันเซ็กซ์ระหว่างผมกับราเชนทร์เป็นอะไรที่...ผมต้องเป็นฝ่ายตามสถานเดียว และต้องยอมลงให้ตลอด ราเชนทร์มักเป็นคนคุมเกมเสมอ ไอ้เรื่องที่ผมจะไปขึ้นขย่มบังคับจังหวะตามใจชอบน่ะไม่มีทาง และอีโก้ด้านนี้ของเขาก็สูงจนผมไม่คิดโยงถึงคืนแรกที่ปริ้นส์รูมเลยสักครั้งเดียว

แต่-ก็-เป็น-ไป-แล้ว!

ราเชนทร์คือชายในคืนแรก เซ็กซ์โอนอ่อนอย่างเอาใจมาจากผู้ชายที่ท่ามากคนนี้ ถ้าไม่เพราะหลักฐานคาตา ผมก็คงไม่อยากจะเชื่อ ในเมื่อเขายังนิสัยเสียเหมือนเดิมไม่คิดเปลี่ยนแปลง

นี่เป็นจุดแรกที่ผมมองข้ามและโดนตลบหลังจนแทบจุกอัก!

เอาล่ะ มาที่คีรีกันบ้าง

ท่านประธานที่แสนเคร่งขรึมจริงจัง และมีมุมบ้าบิ่นบ้าพลังอย่างเหลือเชื่อ เซ็กซ์ในคืนที่สองค่อนข้างหนักไปสักหน่อย ท่ายากท่าพิสดารมาเพียบจนนึกแล้วยังแอบหวั่นว่าคีรีคงจะเป็นพวกเก็บกด แต่พอคบกัน เขากลับดูแลเอาใจใส่ดีเกินคาดหวังซะอีก มันทำให้ใจผมอ่อนยวบยาบ แต่ก็แอบระแวงเหมือนกัน ที่บอกเลิกเร็วขนาดนั้น ส่วนหนึ่งก็เพราะยังไม่อยากให้ถึงขั้นต้องขาดใจตายคาอกคีรี

ยิ่งคิด ก็ยิ่งเห็นการจับคู่ที่เป็นไปไม่ได้เลย มันขัดแย้ง ย้อนแย้งกันสุดๆ!

ผมเคยลองถามว่าพวกเขารู้จักกันยังไง นานแค่ไหน คีรีก็ไม่ยักจะตอบ แถมทำหน้าเหมือนไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวด้วยซ้ำไป แล้วเพราะอะไรล่ะที่ทำให้ทั้งคู่ร่วมมือ ถึงขนาดฝากข้อความมาให้ผมไปเจอที่ปริ้นส์รูม

คล้ายจะจับทางได้ชอบกล รัญดะอิจิ เอ๊ย นายหรัญญ์คนนี้เริ่มไฟลุก นั่งคิดจริงจังว่าอะไรที่ทำให้คีรีและราเชนทร์ที่เหมือนแยกฝักแยกฝ่ายมาตลอดยอมใช้คำว่า ‘พวกฉัน’ ได้

คิดไปคิดมาก็มีคำตอบแค่อย่างเดียว

“...ผม...งั้นเหรอ”

เสียงพึมพำแผ่วเบาด้วยความอึ้งทึ่ง ทำเอาผมแทบจะนั่งไม่ติดเตียง

เหมือนใกล้จะไขคำตอบได้ชอบกล แต่มโนสำนึกบางอย่างยังคงขวางกั้นไว้

งั้นถ้าเกิดลองสลัดไอ้สัจธรรมความเป็นจริงออกไป แล้วมองในมุมที่ไม่เคยฉุกคิดมาก่อนล่ะ!?

คิดครั้งที่หนึ่ง

คิดครั้งที่สอง

คิดครั้งที่สาม...

“บ้าน่า...”

ผมอุทานเสียงเบาปานลมพัดแผ่ว ยังคงนั่งทำใจยากกับคำตอบที่ปรากฏออกมา

ก่อนหน้านี้ ราเชนทร์เข้าหาผม คอยจีบมาเป็นครึ่งปี ก่อนจะเลิกรากัน หลังจากนั้นคีรีก็รุกเข้าใส่ แม้จะเป็นช่วงเวลาไม่นานเท่า แต่เราก็โดนบอกเลิก

หากจุดประสงค์ของทั้งคู่คือตัวผม แล้วจะมานั่งหวงก้างทำไมในเมื่อต่างรู้ว่ายังไงก็กลับเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ ในเมื่อข้อเสียของราเชนทร์อยู่ที่นิสัยเอาแต่ใจไม่ฟังใคร ส่วนข้อเสียของคีรีคือเวลาที่มีให้ผมไม่มากพอ

ข้อเสียที่ต่างแก้ไม่ได้ด้วยตัวเอง

...แต่ถ้าเป็น ‘พวกเขา’ ล่ะ!?


ผมขบปาก เริ่มด่าทอตัวเองว่าชักจะล้ำเกินไปแล้ว แต่มันเป็นอะไรที่ลงตัว อย่างที่ไม่ทันได้หวนนึกมาก่อน ราเชนทร์กับคีรีต่างกันมาก เรียกสุดขอบเหวและเหนือขอบสวรรค์ชั้นฟ้าขึ้นไป แต่ว่า...นิสัยน่าโมโหของราเชนทร์ ผมปรามเองคนเดียวไม่ไหว เขาเองก็ไม่คิดจะปรับปรุง แต่ถ้ามีคีรีที่ใช้กำลังเข้าว่าล่ะก็นับว่าเป็นต่อ ส่วนเรื่องเวลาของคีรี...หึ ไอ้คุณชายนั่นมีทดแทนให้อย่างเหลือเฟือเลยไม่ใช่รึไง

เว้ยเฮ้ย เอาจริงดิ!?
   
ผมรื้อกระดาษที่ขย้ำทิ้งขึ้นอ่านใหม่ ยิ่งเห็นคำว่า ‘พวกฉัน’ ประทับตราตรึงตรงหน้า ผมก็คิดว่า...มันเป็นไปได้

ความแตกต่างที่ไม่เคยคิดจะนำมารวมกัน ข้อดีข้อเสียที่ชดเชยกันได้พอดิบพอดี เป็นอะไรที่ไม่น่าเชื่อแต่ก็น่าลอง

ผมยังคงขบปาก สิ่งที่แย้งขึ้นมาหลังจากได้คำตอบที่ต้องการ คือ...คบกันสองคนว่ายากแล้ว คบสามคนไม่หนักกว่าเรอะ!?

โดยเฉพาะในแวดวงสังคมที่แค่รักชอบเพศเดียวกันก็ผิดปกติแล้ว คบกันสามคน...ยิ่งยากทำใจเชื่อยิ่งกว่า ถึงสำหรับพวกผมจะดูเป็นไปได้ แต่ถ้าอิงตามหลักความจริง ก็ไม่น่าเป็นไปได้เลย

ผมปากระดาษทิ้งลงถังขยะอีกครั้ง ความสับสนคลุมเครือผุดขึ้นในใจไม่หยุด

ทำเอาปวดหัวจนต้องไปหายาพาราฯมาทานเพื่อให้นอนหลับสนิท

วันนี้พอแค่นี้ก่อน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่

ผมปลอบตัวเองแล้วพักผ่อน ยุติความวุ่นวายเพียงเท่านี้ แต่ผมเอาความมั่นใจจากไหนกันนะว่าจะเจอทั้งคู่อีก

ใช่...ผมไปเอาความมั่นใจมาจากไหนกัน





“เกิดอะไรขึ้นวะ มึงคงไม่ได้ไล่ลูกค้าหรอกใช่มั้ย”

ห้าวันแล้วที่ไม่เห็นพวกเขาสองคนที่คิงส์คลับ

“คุณคีรีของมึงน่ะไม่เท่าไหร่ แต่กับราเชนทร์...เขาไม่เคยหายไปนานขนาดนี้นี่ คนอย่างนั้นไล่ก็ไม่ไปไม่ใช่เหรอ”

แมนรู้จักราเชนทร์ดีทีเดียว ดีจนผมพูดต่อไม่ถูก จะเอ่ยข้อสันนิษฐานก็พูดไปไม่ได้ แถมยังสูญเสียความมั่นใจกะทันหัน แต่ยังพยายามตีหน้าตายเวลาโดนมองอย่างคาดเค้น

“รัญ...อย่าน้อยมึงก็ควรแย้งว่าคุณคีรีไม่ใช่ของมึงสิ”

เชคเกอร์แทบหลุดจากมือ ผมรีบยิ้มกวานแก้เก้อให้ลูกค้า แม้ว่าอีกฝ่ายไม่ค่อยจะสนใจบาร์เทนเดอร์เพราะมัวแต่หลีสาวโต๊ะตรงข้ามอยู่ก็ตาม

หลังเสิร์ฟเครื่องดื่มเสร็จแมนก็คว้าศอกของผมให้มาพูดด้วย แต่ในเมื่อผมไม่ยอมเปิดปาก แมนก็ได้แต่ยอมแพ้

“ตามใจมึงแล้วกัน”





ห้าวัน เจ็ดวัน สิบวัน สองสัปดาห์...

แมนเลิกพูดถึงราเชนทร์กับคีรีตั้งแต่วันที่ผมทำเป็นไม่รู้เรื่อง จนเกือบลืมไปแล้วว่าคิงส์คลับเคยมีลูกค้าประจำเรียกทิปได้มากแค่ไหน จะมีก็แต่ภาวินที่โอดครวญ เพราะถ้าไม่ใช่การยัดเงินเข้ามือแล้ว ส่วนต่างจะถือเป็นทิปรวมที่ต้องหารกันตอนสิ้นเดือน ก่อนหน้านี้แมนช่วยรับหน้าราเชนทร์ตลอด เลยมักเป็นทิปเหมาเข้ากองกลาง

อย่าว่าแต่ภาวินเลย ผมเองก็หน้าเสียไปเหมือนกัน คงเพราะช่วงหลังมานี้แม้จะทำเป็นไม่รู้สาแต่รู้สึกกระวนกระวายสงบใจไม่ลง ออกหน้ารับลูกค้าไม่เต็มที่เท่าไหร่ ทิปส่วนตัวก็เลยพลอยลดไปด้วย เทียบกับตอนต้นเดือนแล้วน้ำตาแทบไหล!

ช่วงสิ้นเดือน พี่แว่นหรือบิชอปคุมคลับเป็นคนจ่ายเงิน ปกติผมกับแมนมักไปนั่งกินเลี้ยงฉลอง แต่พอเห็นเงินที่น้อยลงกว่าปกติก็เฮฮาไม่ออก

“กลับบ้านกันเถอะ”

มองหน้าแสนไร้อารมณ์ของผมแล้วแมนก็ตอบตกลงอย่างว่าง่าย เป็นสิ้นเดือนที่แสนสลดหดหู่

ผมซ้อนมอเตอร์ไซค์แมนกลับถึงหอพัก อำลาพอเป็นพิธีก็ไขกุญแจห้องเข้าไปนอนกองอยู่บนเตียง มองเหม่อครู่ใหญ่ ก็ค่อยคิดขึ้นมาได้ว่าควรจะเอาเงินสดไปฝากธนาคารสักหน่อย แต่พอจะเอื้อมมือควานหาสมุดบัญชีในลิ้นชักที่โต๊ะข้างๆ ผมกลับ...หาอะไรไม่เจอเลย!

ผมลุกพรวด แทบกระชากลิ้นชักออกมาทั้งอัน

ไม่มี...ไม่มีอะไรเหลือสักอย่างเดียว!!

อย่าว่าแต่สมุดบัญชี กล่องเหล็กที่ผมไว้ใส่พวกของมีค่าอย่างนาฬิกา ของจุกจิกที่ได้มาจากพวกลูกค้าก็หาย กระทั่งเงินฉุกเฉินไว้ใช้จ่ายเกือบหมื่นที่ซุกอยู่ใต้ฟูกก็ไม่มี!!!

และนั่นทำให้เพิ่งสังเกตว่าไม่ใช่แค่ของมีค่า ขนาดเสื้อผ้า แปรงสีฟัน หรือกระทั่งผ้าขนหนูของผมล้วนอันตธาน ราวกับเป็นห้องเปล่าๆ ที่มีแค่ตู้กับเตียง!

โดนยกเค้างั้นเหรอ?

เฮอะ คนประสาทที่ไหนจะยกไปทั้งห้องขนาดนี้ !

ผมมีคำตอบในใจอยู่แล้ว แต่ก็ยังลังเลเลยเผลอขบปากเป็นกังวล เดินพล่านไปทั่วห้อง จนกระทั่งเจอกับกระดาษแผ่นหนึ่งที่เขียนแปะไว้ตรงประตู หากไม่หันหน้าเตรียมออกไปข้างนอกคงไม่ทันสังเกตเห็น
   
- พวกฉันจะรอที่ปริ้นส์รูม -

ลายมือราเชนทร์ คำตอบชัดแจ้งเห็นชัด

วินาทีนั้น...ผมยิ้ม

อย่าเพิ่งคิดว่าผมบ้าไปแล้วเชียวที่มายิ้มในสถานการณ์นี้ ผมควรจะโกรธ! ควรจะโมโหที่โดนบุกรุกแล้วยังขโมยของไปอีก! แต่ไม่...ผมไม่รู้สึกอย่างนั้นเลย เพราะของพวกนั้นก็เหมือนเศษเงินสำหรับราเชนทร์และคีรี เขาไม่ได้ตั้งใจจะเอาไปจริงๆ   

‘พวกเขา’ ก็แค่...ล่อผมต่างหาก

“สองสัปดาห์ สองสัปดาห์เชียวนะ” ผมหัวเราะอย่างกับคนบ้า เหมือนความพยายามจะไม่นึกถึงระบายออกมาทั้งหมด มือกุมกระดาษแผ่นนั้นเอาไว้ ยิ่งเห็น ผมก็ยิ่งขำ

ไม่ๆๆ ไม่ต้องกลัวว่าผมเสียสติไปหรอก แต่จะว่ายังไงดีล่ะ...อืม...คงประมาณว่าผมกำลัง ‘รอ’ ให้เกิดขึ้นก็คงได้

แน่นอนว่าตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมไม่พูดถึง ไม่ถามถึงราเชนทร์และคีรีเลย แมนเองก็ให้ความร่วมมือจนเขาเชื่อว่าผมตัดใจจากทั้งสองคนแล้วจริงๆ ซึ่ง...ผมจงใจทำให้เหมือนเป็นอย่างนั้น ทำตัวไม่รู้สา ไม่แยแสหรือสะทกสะท้านใดๆ ใช่ ผมทำได้

แต่โทษเถอะ...ผมทำได้ แต่ราเชนทร์น่ะ ‘ทำไม่ได้!’

คีรียังไม่เท่าไหร่ แต่ผมรู้จักราเชนทร์ดี รู้ว่าคนอย่างเขาที่ไม่ชอบหลบหน้า ไม่ชอบทำตัวเหมือนเป็นผู้แพ้ และเกลียดการถูกมองข้ามเป็นที่สุด แล้วคนอย่างนั้นน่ะเหรอจะหายหน้าหายตาไปง่ายๆ ตั้งแต่ครั้งแรกที่พวกเขาหายตัวไป ผมประหลาดใจ แต่ความประหลาดใจก็มาพร้อมความรู้ทัน...นี่ไม่ใช่ความคิดของราเชนทร์ ไม่มีทางเป็นไปได้เลย

ฉะนั้นไอ้แผนถอนตัวกลับฐานทัพนั่น ย่อมเป็นแผนของคีรี

แล้วยังไงต่อน่ะเหรอ

บอกตามตรงเลยว่าผมแอบเขวไม่น้อย แต่พอรู้อยู่แก่ใจว่าทั้งคู่ร่วมมือกัน ทุกอย่างก็ง่ายขึ้น

ถ้ากับคีรีคนเดียว ผมอาจจะติดกับไปแล้ว ใช่ ถ้าเป็นคีรี ผมคงทนไม่ไหวและไปที่ปริ้นส์รูมเอาดาบหน้า

แต่เพราะไม่ได้มี ‘แค่’ คีรีเนี่ยสิ!

ผมยอมรับ ผมไม่ชอบใจที่พวกเขาทำตัวลับๆ ล่อๆ รวมหัวกันวางแผนเหมือนพยายามชักใย ฉะนั้นถึงอยากจะเดินหน้าไปเคลียร์กันให้รู้แล้วรู้รอดแค่ไหน ผมก็พยายามยั้งใจและทำเป็นตัดขาดกับทุกอย่าง

เพราะรู้ว่าราเชนทร์จะต้องออกโรง

แล้วผิดจากที่คิดซะที่ไหน ห้องของผมโดนยกเค้าไปแล้ว! ให้ตายสิ ผมแทบจะนึกภาพออกเลยว่าราเชนทร์ต้องทะเลาะกับคีรีไปหลายยกกว่าจะทำแบบนี้ได้ เผลอๆ อาจจะแอบลงมือก่อนค่อยบอกด้วยซ้ำ คุณชายเอาแต่ใจจะต้องโมโหมากทีเดียวและแทบจะภาวนาให้ผมกลับบ้านเร็วขึ้นกว่าปกติ ซึ่งเขาก็ทำสำเร็จ

อย่างน้อยก็ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่เต้นบนฝ่ามือของพวกเขา เดินมึนงงในเส้นทางที่ทั้งคู่จัดเตรียมเสียดิบดี

ผมก็เล่นงานให้ราเชนทร์กับคีรีหัวปั่นได้เหมือนกัน!

แล้วจะไม่ให้ผมอารมณ์ดีได้ยังไง

ตลอดเวลาสองอาทิตย์ ผมถึงกับพลาดทิปจากลูกค้าหลายคน เพราะเอาแต่ใจจดใจจ่อครุ่นคิดว่าเมื่อไหร่ราเชนทร์จะทนไม่ไหว ผมบอกแล้ว...ว่าผมไม่ชอบการรอคอย เพราะมีแต่จะทำให้คิดวกวนและกระสับกระส่ายไม่มีสมาธิ แต่ก็ถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่น่าพอใจ

มันคือการพนัน

ไม่ใช่พนันกับคีรีและราเชนทร์หรอกนะ ทั้งคู่ลงทุนวางแผนมากมาย ยังไงก็คงไม่ปล่อยให้จบไปซะเฉยๆ ถ้าวันนี้ผมไม่ไปหา ยังไงสักวันก็คงต้องพยายามหาทางอื่นเร่งรัดอยู่ดี ไม่มีวันปล่อยให้เงียบหายไปดื้อๆ แน่

หืม ในเมื่อไม่ใช่การเดิมพันกับทั้งคู่ แล้วผมพนันกับอะไรน่ะเหรอ

...กับใจผมเองไงล่ะ!






ตลอดเวลายี่สิบห้าปีเต็ม ผมมีคนรักทั้งหมดสี่...ไม่ ห้าคน

คนแรกไม่อยากนึกถึงที่สุด และคบกันนานที่สุดด้วยความพยายามอยากจะยื้อไว้จนแทบขาดใจ

คนที่สอง เป็นช่วงที่ผมเปลี่ยวเหงาต้องการพึ่งพา แต่ก็เลิกกันด้วยดีและกลายเป็นมิตรต่อกัน

คนที่สาม เป็นเพียงการผ่านมาและผ่านไป พวกเราต่างปลอบโยนซึ่งกันและกัน

คนที่สี่...คือราเชนทร์

และคนที่ห้า ก็คือคีรี

หากไม่นับคนแรกที่เป็นฝ่ายถูกทิ้ง ผมก็ไม่เคยหันไปคบกับใครคนเดิมเป็นครั้งที่สอง เพราะรู้ดีว่าถ้าแก้ปัญหาได้แต่แรกคงไม่คิดบอกเลิก

แต่ตอนนี้ผมกลับมีความคิดพิเรนทร์ๆ ขึ้นมา เป็นความคิดที่เล่าให้แมนฟังไม่ได้ และไม่กล้าพูดออกมาแม้กระทั่งกับตัวเองก็ยังขลาดเขลาที่จะยอมรับว่าผมจะเอาจริงๆ น่ะหรือ

ความละล้าละลัง กังวลใจ และกำกวมในความรู้สึก ทำให้ผมได้แต่ปล่อยเวลาผ่านไปอย่างไร้ค่า

ยังไงก็ตาม วันนี้ผมก็มาถึงปริ้นส์รูมจนได้

ตอนเดินเข้าไปในโรงแรมกึ่งม่านรูดนั้นสงบกว่าที่คาด พอแจ้งชื่อกับทางหน้าเคาน์เตอร์ พนักงานก็พาผมขึ้นไปชั้นห้า...ชั้นบนสุดโดยไม่ถามความสมัครใจ

แต่การที่ผมพาตัวเองมาถึงนี่ก็ไม่ได้คิดจะถอยหลังกลับอยู่แล้ว

“ขอให้โชคดีนะคะ”

เป็นคำอวยพรที่น่าใจหาย ราวกับว่าส่งผมมายังสนามรบที่พร้อมพลีชีพชอบกล ประตูปิดลงแล้ว แต่ในห้องไม่มีใคร
มีแค่ผมคนเดียว

ห้องพักนี้ใหญ่กว่าที่เคยมาเป็นไหนๆ เตียงขนาดคิงส์ไซส์นอนเรียงกันได้ห้าคนแบบสบายๆ กว้างราวกับเป็นเพนส์เฮาส์ที่สามารถกินนอนใช้ชีวิตได้เลย อุปกรณ์อำนวยความสะดวกมีครบถ้วน ขนาดตู้เย็นและไมโครเวฟก็ยังมี ผมเดินสำรวจไปทั่ว ก่อนจะกลับมายืนกลางห้องพยายามคาดเดาว่าราเชนทร์กับคีรีเล่นบ้าอะไรอีก

และนั่นก็ทำให้ผมสังเกตเห็นประตูสองบานทางด้านขวา เป็นประตูไม้ มีสัญญาณไฟสีเขียว

ตอนแรกผมเดินผ่านเพราะคิดว่าเป็นห้องน้ำหรือห้องเก็บของเพราะยังไม่มีแสงไฟ แต่ตอนนี้ ผมเข้าใจแล้ว

พอเดินเข้าไปใกล้ พลิกป้ายชื่อที่คล้องอยู่กลอนประตูก็ทำเอาแทบสำลักขำ

ประตูทางขวาคือราเชนทร์

ประตูทางซ้ายคือคีรี

แม้แสงสีเขียวจะติดทั้งสองบาน แต่ผมยังไม่ได้กดไฟทางฝั่งตัวเอง

ราเชนทร์...กับคีรี

ถ้าให้เทียบด้านความรู้สึก สิ่งที่ผมมีให้ราเชนทร์คือความรักความชอบที่แฝงความหลงใหลในที คำพูดราเชนทร์ทำให้ผมหัวเราะ แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้โมโหแทบเป็นแทบตาย เวลายิ้มร่าก็ช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน แต่ถึงอย่างนั้น...ก็น่าเตะเป็นบ้า

ส่วนคีรี...คีรีทำให้ผมหวาดกลัวเป็นบางครั้ง แต่เวลาคบกันเขากลับเอาใจใส่อย่างดี ให้ความรักให้ความดูแลเอาใจใส่ ช่างสังเกตและไม่เคยทำให้ผมฉุนเฉียวเลย ถึงจะไม่ได้รู้สึกลึกซึ้งกับเขามากเท่าราเชนทร์ แต่ใครบ้างจะไม่รู้สึกดีหากมีคนเห็นความสำคัญ นับเป็นความผูกพันที่ไม่อยากละทิ้งเลยจริงๆ

หากเทียบกันแล้ว ผมชอบเวลาอยู่กับคีรีมากกว่าราเชนทร์

แต่ถ้าถามว่ารักใครมากกว่ากันแล้ว ผมตอบได้เต็มปากว่ารักราเชนทร์มากกว่าคีรี

ถ้าให้เลือกคนใดคนหนึ่ง ผมทำไม่ได้ เพราะต่างเป็นเส้นทางที่มีแต่ความผิดหวังล้มเหลว

แต่ในเมื่อพวกเขาปูทางมาขนาดนี้ ปั่นหัวผมและโดนผมปั่นหัวกลับ คำตอบก็มีแค่อย่างเดียว...ปุ่มเตรียมพร้อมถูกกดพร้อมกันจากทั้งสองฝั่ง!

เสียงประตูปลดล็อกดังขึ้น แต่ผมไม่ได้ก้าวเข้าไป เพราะในความเป็นจริงแล้ว ผมกำลังเดินถอยหลังห่างออกมา

และเฝ้ารอ

ไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำ ประตูทางขวาก็เปิดออกราวกับรอแทบไม่ไหว มาพร้อมกับเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของราเชนทร์

“หลงให้พวกเรารอตั้งนานแหน่ะที่รัก!”

ราเชนทร์เข้ามากอดผมทั้งตัว พอดีกับประตูฝั่งซ้ายที่เปิดออก คีรียืนคิ้วขมวดแลหงุดหงิด คล้ายแม้จะเตรียมใจมาแล้ว แต่ก็ยังไม่อยากจะยอมรับว่าผมจะตัดสินใจแบบนี้

เห็นอย่างนั้นผมก็ยกมือหนึ่งกอดตอบราเชนทร์ อีกมือยื่นไปหาคีรี

ท่านประธานคลายปมคิ้วทันที เขาเดินมาหาผม และจับมือของผมประสานนิ้วแนบแน่น

ความอบอุ่นที่ส่งผ่านมาทำให้ผมผ่อนคลายอย่างประหลาด

“สรุปแล้วแผนพวกคุณคืออย่างนี้ใช่มั้ย อยู่ด้วยกันสามคน? คิดว่าแบบนี้ผมจะไม่บอกเลิกทั้งคู่งั้นเหรอ”

คิดแล้วผมเองยังไม่อยากจะเชื่อ บอกตามตรง...ผมใช้เวลาทำใจเรื่องนี้อยู่นานทีเดียว ก็ตลอดสองสัปดาห์ที่พวกเขาหายตัวไปพร้อมประโยคว่า ‘พวกฉัน’ ที่ทำเอาผมปลดล็อกความคิดได้นั่นแหละ ถึงไม่รู้ว่าทั้งคู่รู้จักกัน หรือไปตกลงอะไรกันท่าไหน แต่คำว่า ‘พวกฉัน’ ก็ทำให้ผมฉุกคิดว่า...ยังมีอีกวิธีที่ไม่เคยลองมาก่อน

คบแบบสามคน

เป็นวิธีคิดที่ค่อนข้างเกินรับใช่มั้ย ใช่ ผมเองก็รู้ และเพราะรู้ถึงได้ปิดปากเงียบมาตลอด

ผมคิดแล้วคิดอีก ลังเลสับสน...และเพราะตัดสินใจเองไม่ได้ จะเพราะความกลัว ไม่กล้าพอ หรืออะไรก็ตาม ผมเลยเดิมพันกับการกระทำของราเชนทร์ว่าจะเข้ามากระตุ้นได้ถูกจังหวะรึเปล่า

สองอาทิตย์ กับการยกเค้า

เกินกว่าที่คาดไว้ซะอีก!

จากตอนแรกที่กังวลจนแทบซึมเศร้า พอเห็นห้องโล่งว่างเปล่าก็เหมือนโดนตีแสกหน้า คล้ายปลุกความบ้าในตัว...จะว่ายังงั้นก็คงได้ละมั้ง เอาเป็นว่าผมละทิ้งความกลัดกลุ้มว้าวุ่นในอกก่อนหน้านี้ทั้งหมด หัวเราะจนเหนื่อยหอบ แล้วตัดสินใจแน่วแน่มาที่ปริ้นส์รูมหลังละล้าละลังมานาน

ถ้าไม่ลองจะรู้เหรอ ผมเองก็เคยตกลงคบหากับผู้ชายหลายคน ทำไมแค่นี้ต้องกลัวด้วย!?

โอเค ผมยอมรับก็ได้ว่าเอนเอียงไปกับบทสรุปแบบนี้อยู่แล้ว ในเมื่อผมไม่ใช่ฝ่ายเสียหาย ผมอยากอยู่กับคีรี แต่รักราเชนทร์ เท่ากับว่าออกจะเอื้อประโยชน์กับผมมากกว่าไม่ใช่รึไง

และถ้าสุดท้ายต้องเลิกกัน ก็คงไม่เจ็บไปมากกว่านี้หรอก!

“ไม่มีอะไรเสียหายนี่” ราเชนทร์ยักคิ้วตอบ กอดจูบผมไม่หยุดอย่างกับรอคอยที่จะลวนลามมานานเกินทน โชคดีที่คีรีเข้ามาจับคอเสื้อเพื่อนและกระชากออก ด้วยมือเดียวเท่านั้น...เจ้าของมือปลาหมึกที่ผมไม่เคยทำอะไรได้ก็ตัวลอยล้มก้นจ้ำเบ้ากับพื้น

“ถึงจะไม่อยากให้เป็นแบบนี้ก็เถอะ แต่ในเมื่อหาวิธีอื่นกว่านี้ไม่ได้ก็ต้องลงเรือลำเดียวกันแทนล่ะนะ” คีรีเอ่ยอย่างจำใจ ส่วนราเชนทร์ยังนั่งกับพื้น หันมายักคิ้วให้ผมหนึ่งที

“ยังไงซะ รัญก็รักพวกเราทั้งสองคน”

“ใครบอกว่าผมรักพวกคุณทั้งสองคนกันครับ”

ผมถามสุภาพ  ทำเอาราเชนทร์ถึงกับหุบยิ้ม คีรีเองก็ตัวแข็งทื่อ

“ถะ ถ้างั้น...ที่กดปุ่มพร้อมกันล่ะ”

โธ่ ท่านประธานติดอ่างซะแล้ว

ผมเอียงศีรษะพลางยิ้มนิดๆ ก่อนตอบชัดถ้อยชัดคำ

“ให้ผมเลือกคนใดคนหนึ่งจากทั้งสอง ผมทำไม่ได้หรอก ที่ผมทำ...ก็แค่...เลือกตัวเอง”

“ว่าไงนะ”

“ผมรักตัวเองที่สุด และผมก็เป็นคนโลภมากๆ ด้วย ผลเลยเป็นแบบนี้”

ราเชนทร์ที่นั่งกับพื้นถึงกับทิ้งตัวลงนอนหงายกับพื้นไม่กลัวสกปรก เขาหัวเราะออกมาดังลั่น

“ต้องงี้สิถึงจะสมกับฉัน ฮ่าฮ่าฮ่า!”


---------------------------------------------------------------------------

กว่าจะลงเอย รัญดะอิจิต้องใช้สมองมากแค่ไหน ตอบ!

รัญ : ปวดกบาลมากครับ พวกเขาก็ยังจะคิดมาได้เนอะ หลุดโลกจนผมยอมเลยจริงๆ
เชื้อรา : มานอนพักใจกับตักฉันมั้ยจ๊ะ
คีรีขัน : มานี่สิ ฉันจะนวดหัวให้เธอเอง

รัญดะอิจิมองผู้ชายสองคนที่หน้ายิ้มแต่ยืนเบียดแอบกระแทกศอกใส่กีดกันกันเองก็ถอนหายใจเฮือก...เลือกถูกเลือกผิดกันแน่เนี่ย!

---------------------------------

ในที่สุดก็จบบทเกริ่นเรื่องการโยงมาสามพีแล้วค่ะ เย้! สำหรับบทสรุปว่าสองคนนี้มาร่วมมือกันได้ยังไง ข้อตกลง และความสัมพันธ์ว่าเป็นเพื่อนหรือศัตรูหรือหุ้นส่วน จะมีย้อนความในตอนหน้าซึ่งเป็นพาร์ทของทั้งคู่ เป็นช่วงคั่นเวลาโดยในเวลาปัจจุบันทั้งสองจะเล่าให้รัญฟังค่ะ!

บอกเลยว่าอย่างฮา ไม่สมกับที่เรานั่งปวดหัวกันเลย 5555

ปล.มีคนเรียกสองคนนี้สั้นๆ ว่ารากับคี รวมกันเป็นราคีไปแล้ว 5555 #ทำไมนักอ่านเอ็นดูสองหนุ่มจังคะ #เชื้อราก็แล้ว #คีรีขันก็แล้ว #ยังมาราคีอีก #สงสาร #55555

เพจนักเขียนที่หลั่งน้ำตานองไปหมดกับความเอ็นดูของนักอ่านที่มีต่อหนุ่มๆ

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
555 ในที่สุด ก้อลงตัว เราสองสามคน

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
คนเขียนน่ารักจัง มาต่อรวดเร็วทันใจ  รอตอนต่อไปนะคะ ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
ยกนี้รัญวินค่ะ  นางคือผู้กุมอำนาจ

ออฟไลน์ envylover

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 166
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
คำตอบสุดท้ายสมกับเป็นหนูรัญมากกกก หนุ่มๆเงิบเลยมั้ยเนี่ยยยย

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ชื่อทีมก็ขำแล้วววว รัญดะอิจิ แสบได้ใจจริงๆ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ฉลองให้ราชีนีรัญกันหน่อยเร้ว.  :katai2-1:   เอ้าชนจ้า
 :z1:   นอนรอตอนต่อไปค่ะ. 3พีที่รอคอย
โดนยกเค้าเหรอ หึหึ เรื่องนั้นไม่มีใครกังวลสักนิด

ออฟไลน์ J029

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
เชนกะล่อนมาก อิอิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด