ตอนที่ 13 : ลอยตัว
เมื่อคืนผมฝันร้าย
ฝันว่าโดนปีศาจจับตัวไปถลกหนังต้มกินทั้งเป็น เลยนอนกระสับกระส่ายไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่
พอตื่นมาก็แอบรู้สึกวูบโหวงอย่างบอกไม่ถูก เพราะรู้ว่าคีรีจะต้องไปทำงานแล้วแน่นอน ฉะนั้นภาพที่ผมเห็น...ควรจะเป็นเตียงกว้างว่างเปล่าที่มีแค่ตัวเองนอนกลิ้งไปมาตลอดคืน
ใช่ มันควรจะเป็นแบบนั้น
แต่พอผุดลุกขึ้นมา แขนที่พาดอกผมพลันตกมาที่ตัก พอมองไล่สายตาลงไปก็เจอกับราเชนทร์ที่นอนเบียดตัวเข้าหาในผ้าห่มผืนเดียวกัน
มาได้ยังไง!?ผมอึ้งจนได้แต่นั่งนิ่งในท่านั้น นึกถึงความเป็นไปได้ต่างๆ นาๆ
คีรีไปตาม? หรือว่าราเชนทร์เป็นฝ่ายแอบย่องเข้ามา?นึกไปนึกมาก็คล้ายว่าจะเป็นเหตุการณ์เดจาวู ตอนที่คีรีเพิ่งจีบผมใหม่ๆ เขาก็ทำเนียนขอนอนด้วยแล้วหายตัวไปตอนเช้าอย่างนี้
ส่วนที่นอนซึ่งเหลือเพียงความว่างเปล่า ก็มีตัวปัญหาในชุดนอนหมีบราวน์เข้ามากอดผมหนึบอย่างกับขี้ปลาทอง
ตอนนั้นผมถีบราเชนทร์จนตกเตียง แต่ตอนนี้...พวกเราอยู่ในสถานะคนรักกัน จะให้ถีบเขาจนหงายหลังเห็นจะไม่เหมาะ อีกอย่าง...มือเขาก็ติดแน่นเหมือนทากาว ถ้าถีบตกมีหวังผมโดนรั้งร่างจนร่วงตามกันไปพอดี
นึกแล้วก็เหนื่อยแสนเหนื่อย กลัวว่าคีรีจะมาเห็นแล้วเข้าใจผิดคิดว่าผมยกโทษให้ราเชนทร์ ใช่ ผมยังเคืองไม่หาย แถมตัวต้นเรื่องอย่างราเชนทร์ก็ดันไม่ยอมฟังใครและไม่ยอมรับผิดอะไรทั้งนั้น ปัญหาเดิมๆ ที่เคยทำให้ผมหมดความอดทนมาแล้ว และกำลังย้อนกลับมาทำร้ายพวกเราทั้งสามคน
ก่อนอื่นก็ต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจก่อนที่คีรีจะมองกล้องวงจรปิดแล้วเห็นภาพไม่ควรเข้า
“อรุณสวัสดิ์ครับ”
(( อรุณสวัสดิ์ วันนี้ตื่นเช้าจังนะ ))
ผมมองนาฬิกาแล้วยิ้มแห้ง เพิ่งจะเก้าโมงเช้าเท่านั้นเอง ถึงว่าสิราเชนทร์นอนตาปิดไม่กระดิกตัว
“ผมนอนหลับไม่ค่อยสนิทน่ะครับ...” ผมตอบอ้อมแอ้ม “แล้วพอตื่นมาก็เจอราเชนทร์นอนอยู่ข้างๆ แล้ว...เขาเข้ามาได้ยังไง คุณตามเขามาเหรอ”
เยี่ยมมากรัญ หมากตานี้เดินได้ดี ฟังดูเป็นกลางมากเลย!แต่คนที่ผมแสนกังวลอย่างคีรีกลับให้คำตอบเป็นเสียงหัวเราะเบาๆ อย่างสบายอกสบายใจซะนี่ ผมถึงกับยกโทรศัพท์ออกห่างเพื่อดูปลายสาย เสริมสร้างความมั่นใจว่าไม่ได้โทรผิด
เพียงข้ามคืนไหงคีรีถึงหายโกรธเร็วนักล่ะ!
(( ราเชนทร์บอกว่าเธอกลัวน้ำ? ทำไมเมื่อวานไม่บอกกันเลย ))
ถามมาได้ ใครจะกล้าบอกทั้งที่มีชนักติดหลังขนาดนั้น!
“นี่พวกคุณไปคุยกันตอนไหนครับ”
(( ตอนเธอหลับไง )) เป็นคำตอบที่ไม่ช่วยไขข้อข้องใจมากขึ้นสักนิด (( วันนี้ก็ลองดูใหม่แล้วกัน ถ้าไม่ไหวจริงๆ ค่อยหาวิธีอื่นดู ))
“คุณ...ยังจะให้ผมไปบ้านราเชนทร์อีกเหรอ” ผมถามอย่างไม่อยากเชื่อ เขาจะใจกว้างไปแล้วนะ ให้ผมไปกับราเชนทร์ในถิ่นอีกฝ่ายสองต่อสอง สุ่มเสี่ยงยิ่งกว่าอะไร
(( ทำไมถามแบบนั้นล่ะ ))
เฮ้ ผมควรจะพูดประโยคนั้นมากกว่ามั้ย!“เราค่อยไปด้วยกันในวันอาทิตย์ดีกว่ามั้ยครับ” ผมพยายามหาทางลงที่เป็นกลางที่สุด ยังไงก็ไม่ได้รีบร้อนต้องว่ายน้ำเป็นอยู่แล้ว อันที่จริงผมไม่คิดว่าจะเก่งกาจขึ้นมาได้ภายในวันสองวันหรอก อาการกลัวน้ำผมหนักขนาดไหนตัวเองก็รู้ดี
(( ถ้าเธอไม่ไว้ใจราเชนทร์ อย่างน้อยก็ควรไว้ใจตัวเองนะ ))
“แล้วถ้าผมไม่ไว้ใจตัวเองล่ะ...” ผมถามลองเชิง
(( ถ้าอย่างนั้น...เธอก็ควรไว้ใจราเชนทร์ ))
“...”
พูดอะไรไม่ออก ผมกดวางสายแล้วกุมขมับ
อะไรของพวกเขาวะเนี่ย!!
ก็นั่นแหละครับท่านผู้ชม
ผมมาเวียนว่ายตายเกิดที่สระน้ำบ้านราเชนทร์อีกครั้ง แม้จะบอกกับตัวเองว่าให้เว้นระยะเอาไว้ อย่าย่ามใจ อย่าให้ราเชนทร์เกิดอารมณ์จู่โจมขึ้นมาอีก แต่พอเดินลงน้ำปุ๊บ ไอ้ความระแวดระวังก็หายลับ เหลือแต่ขาสั่นพั่บๆ อยู่ใต้น้ำ
ผมเอื้อมมือไปหาราเชนทร์อัตโนมัติหวังหาที่พึ่งพิง แต่แล้วก็ชะงัก เพราะคุณชายที่ดูแลตัวเองดีดันมีปานม่วงที่หน้าท้องซะได้
ไม่สิ เขามีปานที่ไหน!“คุณ...”
“ฝีมือคนที่นายคิดนั่นแหละ” ราเชนทร์ตอบพลางลูบรอยช้ำวงใหญ่ที่ดูน่าสยดสยองเหมือนโดนลูกตุ้มเหวี่ยงใส่
“พวกคุณแอบไปตีกันตอนผมหลับเหรอ”
ผมยอมรับว่าอึ้ง สาเหตุที่คีรีหายโกรธเพราะแอบไปจัดการราเชนทร์ลับหลังแล้วนี่เอง เหล่าคนรับใช้ในบ้านเองพอเห็นคุณชายบาดเจ็บก็ยกมือปิดปากรับไม่ได้ ราวกับเห็นลูกน้อยที่เฝ้าประคบประหงมมานานถูกทารุณอย่างไม่เป็นธรรม
“ไม่ต้องไปเรียกหมอมาเลย” ราเชนทร์รีบออกคำสั่งดัก
“แต่...คุณชายคะ” หัวหน้าแม่บ้านที่มีอายุราวแม่ คอยเลี้ยงคอยดูแลรู้ใจอย่างดีกุมอกน้ำตาคลอ ประหนึ่งว่าเธอถูกต่อยเสียเอง
“ขอยาแก้ฟกช้ำก็พอ ไอ้นี่น่ะ...ไม่ได้เจ็บเท่าไหร่หรอก”
ครับ ผมเชื่อ ไม่เจ็บเลยจริงๆ เนอะ“โอ๊ย!” ราเชนทร์ร้องเสียงหลง สะดุ้งสุดตัวจนน้ำกระจายเมื่อโดนผมจิ้มเข้ากลางพุง
“รัญ นายอยากโดนจับกดแบบเมื่อวานอีกใช่มั้ย”
“ระวังครั้งหน้าจะไม่จบแค่หมัดเดียวนะครับ คุณเองก็คงไม่อยากขึ้นสังเวียนกับคีรีอีกใช่มั้ยล่ะ” ผมมองรอยยิ้มบิดเบี้ยวแกมข่มขู่แล้วพูดตอบทั้งรอยยิ้มรู้ทัน
“เอาหมอนั่นมาขู่คิดว่าฉันกลัวรึไง ที่ยอมให้มันต่อยน่ะก็เพราะ...”
“เพราะ?”
ราเชนทร์หันหน้าหนี ให้ตาย เขาจะท่ามากไปถึงไหน บอกมาตามตรงว่ารู้สึกผิดเหมือนกันก็สิ้นเรื่อง
แต่อย่างน้อยก็ถือว่ามีพัฒนาการ!
คล้ายรู้ทันว่าผมคิดอะไรอยู่ ราเชนทร์ผู้แสนจะกลัวเสียหน้าเลยเข้ามาอุ้มผมทั้งตัว แล้วเดินดุ่มๆ ไปกลางสระ เล่นเอาตัวสั่น หัวใจแทบตกไปตาตุ่ม
“เชนทร์!”
ผมเกาะคอเขาแน่น จู่ๆ โดนพามาลึกขนาดนี้ก็ต้องกลัวเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ราเชนทร์หัวเราะ หอมแก้มผมดังฟอด
“อย่าน่ารักมากจะได้มั้ย ไม่รู้รึไงเวลาเห็นคนรักทำตัวอ่อนแอแบบนี้มันน่าฟัดแค่ไหนน่ะ”
“คุณมันโรคจิตชัดๆ!”
ด่ากันหนึ่งยกพอหอมปากหอมคอราเชนทร์ก็พาผมกลับเกาะขอบสระเหมือนเดิมอย่างว่าง่าย แถมยังยืนเหยียดหลังตรงกอดอกด้วยท่าทีเป็นจริงเป็นจังราวกับอาจารย์ผู้รู้แจ้งแห่งศาสตร์การว่ายน้ำอีกต่างหาก
“เอาล่ะ ฉันคิดมาทั้งคืนแล้วว่าเราเริ่มต้นกันผิดวิธี นายกลัวน้ำ ให้คว่ำหน้าตีขาในน้ำยังไงก็คงไม่รอด ฉะนั้นวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้...คือให้นายฝึกลอยตัวก่อน”
“คุณคิดเองคนเดียวทั้งคืนเลยเหรอ”
“ก่อนอื่นก็ทำตัวสบายๆ นอนราบขนานไปกับผิวน้ำ”
ราเชนทร์เข้าโหมดหูทวนลมแล้ว ผมกลั้นยิ้ม ก่อนจะลองนอนหงายโดยที่ยังกล้าๆ กลัวๆ แต่โทษเถอะ พูดเหมือนง่าย พอเอาลองยกขาขึ้นเข้าหน่อยจนตัวเอนเอียงก็เล่นเอาผวาจนไม่กล้าทำอะไรแผลงๆ อีก
“มันจะไปลอยได้ยังไง” ผมเกาะขอบสระไม่ปล่อย
“ฉันทำให้ดู”
ราเชนทร์พูดจบก็นอนลอยเอื่อยๆ อยู่ข้างผมอย่างง่ายดาย แถมยังตีขาเบาๆ เบี่ยงทิศทางลอยหน้าลอยตาลอยไปลอยมาพ่วงยักคิ้วให้อีก เห็นแล้วผมก็หมั่นไส้ขึ้นมาตงิดๆ กวักน้ำเข้าหน้าเขาซะเลย
ราเชนทร์สะดุ้ง ตัวจมพรวดก่อนจะทะลึงตัวเข้ามายืนหน้าผม ชี้นิ้วทำเป็นคาดโทษ
“ตานายเสร็จฉันแน่รัญ”
“ห้ามมีอะไรกัน ห้ามลวนลามผม ห้ามล้วงกางเกงผมด้วย”
ราเชนทร์ชักหน้าเซ็งทันควัน
“เออน่า”
วันนี้ว่าง่ายเว้ยเฮ้ย ผมมองราเชนทร์เหมือนเห็นคนถูกผีสิง แต่ก็ไม่กล้าสงสัยมากกลัวจะดีแตกเข้าซะก่อน
“แล้วผมจะนอนลอยตัวได้ยังไง แค่ยกขาขึ้นก็จะจมแล้ว”
“สบายมาก” ราเชนทร์เข้ามาอุ้มผมท่าเจ้าหญิงโดยไม่บอกกล่าว เล่นเอาหัวใจแทบวายเพราะศีรษะปริ่มน้ำ แต่พอตั้งสติใหม่ถึงค่อยสังเกตว่าเขาช่วยประคองให้ผมเหยียดขาออกเพื่อจัดท่าเป็นนอนระนาบ ดันสะโพกและประคองศีรษะไว้ไม่ยอมให้จมลงไป
“อย่าปล่อยมือเด็ดขาดนะ!”
“จ๋าจ้ะ”
...หมดอารมณ์จะโต้เถียง ผมค่อยๆ กางมือตามคำบอกของราเชนทร์เพื่อพยุงตัวเอง ถึงจะกลัวแสนกลัวจนใจเต้นตุบๆ อยากวิ่งหนีขึ้นบกแค่ไหน แต่ไอ้จุดอ่อนอันไม่น่าพิสมัยนี้ทำให้ผมอยากว่ายน้ำเป็นเหมือนกัน ถ้าเกิดตกน้ำตกท่าตอนแก่ตัวแล้วอยู่คนเดียวไม่มีคนช่วยเหลือ มีหวังจบสิ้นชีวิตแน่นอน
“อย่าเกร็ง ทำตัวสบายๆ นึกซะว่าอยู่ในห้องมืดของปริ้นส์รูมก็ได้ ที่นั่นนายปล่อยตัวปล่อยใจเต็มที่เลยนี่”
ดูเปรียบเปรยเข้าสิ!
แต่ก็น่าแปลก เพราะพอวาดภาพห้องสีดำขึ้นมาแล้ว นึกถึงสัมผัสของพวกเขาสองคนที่มอบให้ผมโดยไม่มีอะไรเหนี่ยวรั้ง ตัวผมก็รู้สึกเบาสบายอย่างบอกไม่ถูก ผมหลับตา ฟังคำของราเชนทร์ที่คอยพูดกรอกหูไม่หยุดว่าคอยพยุงตรงนั้นตรงนี้ไว้ก็คลายความกังวล จนกระทั่งได้สติตื่นเมื่อราเชนทร์ปรบมือเปาะแปะชมเชย ถึงลืมตามาเห็นว่ามือสองข้างเขาอยู่ตรงนั้น...แล้วตัวผมล่ะใครประคองอยู่!?
พอเผลอผงกศีรษะขึ้นตัวผมก็จมพรวด เล่นเอาตระหนกสุดขีดแทบร้องลั่น โชคดีที่ราเชนทร์เฝ้าระวังอยู่แล้วเลยรีบช้อนเอวผมทำตัวเป็นหลักยึดได้รวดเร็วในพริบตาเดียว
ผมเบิกตากว้างหอบหายใจหนัก ในหัวมึนงงประมวลผลไม่รอดชอบกล เลยอดจะเงยหน้าถามเขาอย่างเคลือบแคลงไม่ได้
“เมื่อกี้...ผมทำได้แล้ว...รึเปล่านะ”
ราเชนทร์ยิ้มขัน จุ๊บปากผมเบาๆ เป็นคำตอบ
ความดีใจล้นทะลักขึ้นมาในอกทันที ในที่สุดผมก็ไม่ต้องกลัวจมน้ำแล้วตะเกียกตะกายเป็นคนบ้าอีกแล้ว! แต่...เอ่อ...เมื่อกี้จมพรวดพราดก็ยังสติแตกอยู่เลย ผมไม่ควรรีบดีใจสินะ
สรุปแล้ววันนั้นผมตั้งอกตั้งใจกับการลอยตัวขนานกับผิวน้ำมาก ซึ่งสุดท้ายก็สามารถทำได้เองโดยไม่ต้องให้ราเชนทร์ช่วยอุ้มนอนในตอนเริ่มแล้ว แต่ปัญหาที่น่าสลดก็บังเกิด นั่นคือผมลอยตัวเองได้ แต่ดันหาทางลงไม่ได้ เพราะพอจะพลิกกลับมายืนโดยการเผลอขยับแขนขยับขาผิดองศาทีไร หน้าผมก็จมพรวดก่อนเป็นอย่างแรกทำเอาใจเสียไปซะทุกรอบ
หลังแยกย้ายอาบน้ำและนั่งรถราเชนทร์ไปร้านอาหารที่นัดคีรีไว้ ผมก็นึกขอบคุณเขาขึ้นมาที่วันนี้ดูมีความอดทนมากเป็นพิเศษ
“เมื่อเช้าคุณเข้ามากอดผมตอนไหนน่ะ แล้วคีรีลุกไปเมื่อไหร่ พวกคุณคุยเรื่องผมกันทั้งคืนจริงๆ เหรอ”
“หึหึ จะบอกอะไรให้นะ ฉันน่ะเป็นคนเรียกเจ้าคีรีออกมาปรึกษาเอง แถมยังคร่ำเคร่งหาวิธีช่วยนายสารพัดอย่าง คุยกันถึงเช้าจนมันได้เวลาไปทำงานนั่นแหละ ฉันถึงได้เพิ่งได้นอน” ราเชนทร์เอ่ยอย่างทวงถามความดีความชอบ แถมยังไม่วายหันมายักคิ้วโปรยเสน่ห์ใส่ผมอีก “ซาบซึ้งจนตกหลุมรักฉันอีกรอบเลยล่ะสิ”
“นั่นไม่ใช่คุณเลย” ผมพูดตรงๆ ต่อให้ราเชนทร์จะนึกอยากเปลี่ยนตัวเองแค่ไหน แต่ไม่มีทางพลิกกลับหน้ามือเป็นหลังมือ จากซาตานเป็นเทวดาไปได้ ไม่งั้นเขาคงทำให้ผมเห็นนานแล้ว “ผมว่านะ...ที่วันนี้คุณทำดีกับผมเพราะกลัวผมบอกเลิกมากกว่า เพราะก่อนเราเลิกกันคุณก็ทำผมฉุนจนไล่ออกจากห้องมาแล้ว มาครั้งนี้แม้รู้ว่าผิดแต่ก็ไม่อยากพูดขอโทษ เลยกลบเกลื่อนทำดีอย่างอื่นเพื่อชดเชยให้ผมแทน ส่วนเรื่องตามคีรีไปปรึกษา...วิธีในวันนี้ถ้าเสิร์ชหาข้อมูลเอาเองก็ได้ คุณไม่ใช่คนโง่คิดเองไม่เป็นสักหน่อย”
ยิ่งพูด ผมก็ยิ่งจ้องราเชนทร์เขม็ง
“สรุปแล้วคุณห่วงผม หรือคุณหึงผมเลยจงใจดึงตัวคีรีให้ออกห่างกันแน่”
ราเชนทร์ยิ้มหวานหยดปานน้ำผึ้งเดือนห้าเป็นคำตอบ
ครับ ราเชนทร์ก็ยังเป็นคุณชายแสนเจ้าเล่ห์คนเดิม ถ้าอยากได้อะไรหรือนึกทำอะไรขึ้นมาก็ไม่สนวิธีการ เรื่องเอาความดีเข้าตัวโยนขี้ให้คนอื่นล่ะถนัดนักล่ะ
อันที่จริงผมยังสงสัย คีรีที่ทำงานทุกวันแถมคุมคนเยอะขนาดนั้นจะดูราเชนทร์ไม่ออกเลยรึไง หรือว่าแม้จะรู้เต็มอกแต่ก็ยอมติดกับ เหมือนกับที่เขายอมเดินตามรอยราเชนทร์มาอยู่ในวังวนนี้ด้วยกันทั้งที่มีประวัติโปรไฟล์ดีชนิดหาทางเลือกอื่นได้ไม่ยาก
เพราะอะไรเขาถึงต้องยอมถอยกันนะ
หรือว่าจะเป็นรอยช้ำตามตัวผมที่เป็นรอยนิ้วจางๆ...ซึ่งเริ่มเลือนหายไปแล้วเพราะถูกแดดเผาระหว่างฝึกว่ายน้ำในวันนี้
“เรียบร้อยดีมั้ย”
คีรีถามผมพลางคอยจัดผ้าเช็ดปากวางบนหน้าขาอย่างเอาใจใส่ ดูสิ คนช่างดูแลที่ดีเลิศอย่างนี้น่าจะมีคนเข้ามาติดพันอย่างจริงใจมากกว่าผมเป็นไหนๆ
“ไม่มีปัญหาครับ และผมก็ลอยตัวได้แล้วด้วย”
“ลอยตัวได้แต่พลิกตัวกลับลงมาไม่ได้ ไม่ถือว่าสำเร็จหรอกนะรัญ” ราเชนทร์แทรกขึ้นลอยๆ ขณะทำเป็นเปิดเมนูดูไปเรื่อยๆ วันนี้พวกเรานั่งกินร้านอาหารร่วมสมัยเพื่อให้ต่างคนต่างสั่งได้โดยไม่ต้องฝืนทาน เจ้ามือเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคีรีที่หาข้อมูลมาเพื่อผมโดยเฉพาะว่าร้านนี้มีขนมหวานอร่อยเหาะ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพลังงานเติมเต็มหลังหักโหมฝึกว่ายน้ำตลอดวัน
“ยังมีเวลาอีกนาน ค่อยๆ เรียนรู้ แล้ววันอาทิตย์ฉันจะไปสอนท่าฟรีสไตล์ให้นะ”
“ผมไม่ต้องว่ายเก่งก็ได้มั้งครับ แค่เอาตัวรอดก็พอแล้ว” ผมแย้งเมื่อนึกว่าต้องถูกพวกเขาสองคนเคี่ยวกรำเป็นเวลานาน ผมไม่อยากเสียเวลาไปกับสระน่าสยองทุกวันหรอกนะ จุดประสงค์แรกเริ่มคืออย่างน้อยก็ทำให้ผมตกน้ำแล้วไม่ตายต่างหาก
“แค่เอาตัวรอดไม่พอหรอก อย่างน้อยเธอก็ต้องปรับตัวให้ชินมากกว่านี้”
“ไม่จำเป็นขนาดนั้นหรอกครับ วันนี้ถึงจะยังพลิกตัวไม่ได้ แต่ผมก็ตั้งสติเวลาหัวจมน้ำได้ดีขึ้นแล้วนะ”
“แต่...”
“ก็บอกไปตรงๆ สิว่าอยากเห็นรัญใส่กางเกงว่ายน้ำตัวเดียวเซ็กซี่ขยี้ใจจนไม่อยากทำอย่างอื่น” ราเชนทร์แทรกพร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่มมองผมอย่างกับว่าเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ล่องหน “งั้นเรามาฝึกว่ายน้ำกันอีกสักเดือนแล้วกัน”
“...”
คีรีครับ อย่างน้อยคุณควรจะปฏิเสธหน่อยมั้ย
----------------------------------
ตอนนี้ขอยกประโยชน์ให้จำเลย หรือยกให้เชื้อราเขาไปนะคะ
อันที่จริงเราค่อนข้างหมั้นไส้ราเชนทร์มากๆ เลยค่ะ แต่...แบบว่า...ราเชนทร์รู้ตัวว่าตัวเองนิสัยแย่ แต่บางครั้งไอ้ความนิสัยแย่ก็เป็นเสน่ห์ที่ทำให้คนคาดไม่ถึงบ่อยๆ และเป็นสีสันอยู่เหมือนกัน ยิ้มทั้งวันทั้งคืน แถมเวลาหมกมุ่นรักใครรักจริงขึ้นมาก็ทุ่มเทชนิดไม่ว่าใครต้องยอมรับ แม้จะมากไปหน่อย แต่ก็ดีกว่าขาดล่ะน้า...
ถ้าให้เลือกแน่นอนเราเลือกคีรี แต่ถ้าถามว่าแถมราเชนทร์มาเอามั้ยก็ตอบว่าเอา! 555
เพจนักเขียนที่ยิ้มหวานหยดย้อยปานน้ำผึ้งเดือนห้าตอนนี้สั้นหน่อยนะคะ รีบปั่นรีบลงนิดนึง ถ้าไม่ลงกลัวจะไม่ได้อัพสักที พยายามให้สม่ำเสมออยู่ กระดึ้บๆ