ตอนที่ 14 : เกื้อหนุน
ผมไม่แน่ใจว่าพวกคุณลืมภาวินไปรึยัง
แต่ผมจะขอแนะนำตัวอีกครั้ง ภาวิน คือบาร์เทนเดอร์อีกคนหนึ่งของคิงส์คลับ เขาอายุเท่ากับผม แต่ทำงานพร้อม ๆ กับแมน เลยชอบทำตัวเหมือนรุ่นพี่ที่มีสิทธิ์มีเสียงมากกว่า
และวันนี้เขาก็ตกลูกค้าคนหนึ่งได้
ผมจะไม่สนใจเลยหากลูกค้าคนที่ว่าไม่ใช่ ‘ธาราธาร’
ครับ คนที่บอกกับคีรีว่าจะไม่ยุ่งกับผมอีก แต่...ไม่ยุ่งกับผม เลยไปยุ่งกับคนใกล้ตัวผมแทนเนี่ยนะ!?
“มีหนูหลุดมาตรงนี้ตัวหนึ่งด้วยแฮะ” ราเชนทร์หันมาพูดยิ้มๆ กับผม ปรายตามองธาราธารที่ดูจะคออ่อนพอๆ กับพี่ชาย ซึ่งกำลังขอคำแนะนำจากภาวินเพราะไม่รู้จักพวกเครื่องดื่มเท่าไหร่นัก “เอากาวดักซะดีมั้ย”
“ดักอะไรของคุณครับ” ผมวางแก้วดรายมาตินี่ตรงหน้าคนยิ้มเจ้าเล่ห์ “เขาอาจอยากมาดูว่าผมเป็นบาร์เทนเดอร์จริงรึเปล่าก็ได้”
“เอ๊าะเหรอ” ราเชนทร์กระดกลิ้นกวนประสาทขณะยกแก้วจิบ ผู้โปรดปรานในมาตินี่ทุกประเภทวันนี้เลือกดื่มรสอ่อนอย่างดรายที่ต้องกรองกากทำให้ไม่ได้รสชาติจัดจ้านซาบซ่านชวนมึนเมามากนัก
“อย่ารุ่มร่ามสิครับ” ผมเอ็ดราเชนทร์ที่จงใจลูบมือผมโชว์ต่อหน้าธาราธาร ไม่รู้ว่าทำไปเพื่อยั่วยุอะไรหรอกนะ แต่ผมกลัวเขาจะเอาไปฟ้องพี่ชาย...ไม่รู้ว่า...คีรีพูดเรื่องเราสามคนยังไง แต่คงเหมือนราเชนทร์ที่แนะนำตัวผมว่าแฟน โดยไม่ได้ระบุลึกซึ้งว่ามีคนอื่นพ่วงมาด้วย
ถ้ารู้เข้าสายตาคนนอกคงมองพิลึกน่าดู
โดยเฉพาะกับคนในครอบครัวอย่างธาราธาร ที่จ้องผมเขม็งเหมือนเห็นคนรักนอกใจ
“รัญ มาช่วยดูสต็อกของทางนี้หน่อยสิ”
“เออๆ”
ผมรีบผละตัวจากราเชนทร์แล้วหันไปหาแมนที่ก้มๆ เงยๆ อยู่ตรงที่เก็บของซึ่งไม่เกี่ยวกับพวกเครื่องดื่มแต่เป็นที่ยอดนิยมมากกว่าอย่างถุงยาง ซองบุหรี่ และอีกสารพัดอย่างจิปาถะเท่าที่จะนำมามั่วด้วยกันได้
“ใจว่ะ” ผมกระซิบบอกเพื่อนซี้ที่คอยช่วยเหลือเสมอ แม้จะรู้ว่าผมคบทั้งราเชนทร์และคีรี ก็ไม่ได้มีทีท่ารังเกียจหรือมองด้วยสายตาแปลกๆ
“เลยสามวันมาแล้วนะ”
หรือไม่ก็เพราะแมนคิดว่าพวกผมไม่น่าจะคบกันได้นานอยู่แล้ว
ประวัติผมใช่ย่อยที่ไหน
“ก็...พอไหวอยู่แหละ” ผมตอบแบบไม่มั่นใจเท่าไหร่
“เคร่งกับตัวเองมากไปแล้ว” แมนตบอกผม “เปิดใจยอมรับบ้างเถอะน่า อะไรมองข้ามได้ก็มองข้ามไป อย่าเอามาใส่ใจนักเลย”
“อะแฮ่ม”
ผมกับแมนหันไปมองราเชนทร์ที่ทำเป็นคันคอขึ้นมาดื้อๆ
“ขี้หวงเหมือนเดิม” แมนไหวไหล่ ยอมเว้นระยะห่างจากผมเล็กน้อยเพราะเมื่อครู่เราโน้มหน้ากระซิบใกล้กันเกินไป ก่อนหน้านี้ตอนคบกับราเชนทร์ใหม่ๆ เขาก็ขี้หวงขี้หึงอย่างนี้ ผมได้ส่งยิ้มแห้งๆ ให้เป็นเชิงขอโทษเพื่อนสนิท “อยู่กับคนอย่างนั้นทั้งวันได้อึดอัดตาย อย่างน้อยพอมีอีกคนมาแทรก ก็พอหายใจหายคอขึ้นใช่มั้ยล่ะ”
“มันก็ใช่”
“ดีแล้ว” แมนมองผมเหมือนเป็นน้องชาย อาจเพราะมีน้องชายน้องสาวที่ต้องดูแลอยู่แล้วสองคน แถมเขายังอายุมากกว่าและเป็นคนช่วยสอนงานบาร์เทนเดอร์ ชักชวนให้ผมเข้ามาทำงานที่นี่ เลยคอยเฝ้าสังเกตและเอาใจช่วยอยู่เสมอ
“ปกติคนผมยาวนั่นสนิทสนมกับคนอื่นไปทั่วงี้เลยเหรอ”
“อ้อ ครับ จะกับลูกค้าหรือกับคนไหน ก็เล่นด้วยทั้งนั้นแหละครับ”
เสียงถามตอบที่ไม่เบาจากธาราธารและภาวินทำเอาทั้งผมทั้งแมนเลิกหันหลังทำเป็นซุบซิบอยู่หลังบาร์
“แล้วนั่นล่ะ” ธาราธารพยักเพยิกไปทางราเชนทร์ “พวกเขาคบกันเหรอ”
“ใ---“
“เฮ้ น้องชาย ถ้าสงสัยก็ถามฉันตรงๆ ซี่” ราเชนทร์แทรกขึ้นพลางฉีกยิ้มเชิญชวนแสนเป็นมิตร เขาไม่ชอบให้ใครมาทำเป็นต่อว่าหรือนินทาลับหลังอยู่แล้ว โดยเฉพาะกับคนที่ไม่ถูกชะตาอย่างน้องชายของคีรีซึ่งผลักผมตกน้ำไปรอบ
“พวกคุณแอบคบชู้กันลับหลังพี่คีรีใช่มั้ย” ธาราธารรีบถามทันควันราวรอจังหวะอยู่แล้ว
“ไม่คิดว่าพี่นายเป็นชู้แทนบ้างเรอะ” ราเชนทร์กลั้วหัวเราะถามกลับไม่ใส่ใจ
“อย่าทะเลาะกันเองสิครับ” ผมเห็นท่าไม่ดีก็รีบเข้ามาแทรก ส่งยิ้มการค้านุ่มนวลให้ธาราธารที่ฉุนเฉียวไม่สบอารมณ์ ยังไงซะเขาก็จงใจเล่นงานผมอยู่แล้ว กับราเชนทร์น่ะถ้าเลี่ยงได้เลี่ยงไว้ก่อนดีกว่า ไม่รู้ว่าในสายตาพวกสังคมไฮโซมองชนชั้นรากหญ้าอย่างผมเป็นยังไง แต่คงอ่อนด้อยที่เหยียบย่ำได้ง่ายๆ ละมั้ง “เอางี้แล้วกัน ถ้าคุณอยู่ที่คิงส์คลับได้ถึงเวลาปิดตอนตีสาม ผมจะตอบคำถามคุณ”
ไม่ได้โกหกนะ เพราะคีรีจะมารับผมกลับ ถือเป็นคำตอบให้เห็นด้วยตาตัวเองดีออก
“ได้” ธาราธารตอบ “อยากรู้เหมือนกันว่าคนอย่างนายมีอะไรดี และแอบควงใครอีกรึเปล่า”
ผมยังคงยิ้ม มองนาฬิกาที่บอกเวลาสามทุ่มแล้วก็ยิ้มแม้ดวงตาจะจ้องอย่างเย็นชาพอกัน
ดูถูกผมได้ แต่อย่าดูถูกคิงส์คลับหน่อยเลย!
ก็อย่างที่ทุกคนคิดนั่นแหละครับ
พนันครั้งนี้ผมชนะขาดลอย
ขนาดคีรีที่เจอความวุ่นวายเข้าไปยังโดนแก้วปาใส่จนคิ้วเป็นรอยช้ำ กับธาราธารที่ไม่มีองค์นักสู้เข้าสิงอย่างพี่ชายมีหรือจะรอด โชคดีที่ภาวินช่วยพาหลี้ภัยจากเดนเจอร์โซนได้ทันท่วงที ไม่งั้นป่านนี้คีรีคงได้หามร่างสลบไสลของน้องชายกลับไปด้วยแล้ว
“ธาราธารมางั้นเหรอ” คีรีขมวดคิ้วมุ่นเมื่อผมขึ้นรถแล้วรีบฟ้อง เอ่อ...รายงานสถานการณ์
“ครับ แต่เขากลับไปตั้งแต่ตีหนึ่งแล้ว”
ราเชนทร์ที่นั่งคู่ข้างคนขับกับคีรีหัวเราะในลำคออย่างครึ้มอกครึ้มใจ อย่างกับว่าแก้หน้าพี่ชายไม่ได้ ดูน้องชายเสียหน้าก็ยังดี
อย่าให้พูดเลยว่าธาราธารรีบตะบึ่งออกจากคลับไวขนาดไหน
อืม...เอาเป็นว่าไวอย่างกับติดจรวดเลยล่ะ!“เขาหาเรื่องเธอรึเปล่า”
“จะไปเหลือเรอะ” ราเชนทร์ตอบแทน ดูจะตั้งใจออกหน้าแทนผม แต่ความจริง...แค่อยากเหน็บแนมอีกฝ่ายมากกว่า “ฉันยังไม่เคยทำให้รัญลำบากใจเรื่องครอบครัวเลยนะ นายควรไปพิจารณาตัวเองสะสางภาระหน้าที่ได้แล้วมั้งสหาย”
“เรื่องของฉัน ฉันจัดการเองได้ไม่ต้องให้ใครมาบอก”
ผมกุมขมับ เพิ่งจะดีกันได้ไม่เท่าไหร่พวกเขาก็กัดกันเองอีกแล้ว
“ตอนรัญคบกับฉันไม่เคยมีแมลงตัวไหนมาเกาะแกะ” ราเชนทร์ยังคงยกตัวกระทบกระเทียบ แต่ส่วนหนึ่งเขาน่าจะหงุดหงิดจริงๆ กับแมนเขายังหวง พอมีธาราธารมายุ่งเลยไม่ชอบใจสุดขีด เพราะตอนคบกันราเชนทร์เกาะผมหนึบจนแมลงวันกระเจิงหมด ไม่เคยให้อะไรมาเกาะแกะได้จริงๆ
“ฉันบอกแล้วไงว่าจะจัดการเอง” คีรีย้ำเสียงเครียด รายนี้ก็โดนกดดันจนหน้านิ่วคิ้วขมวดไปหมดแล้ว พวกเขาคิดว่าจะต้องทำให้ได้ดีเท่าที่อีกคนเคยทำสถิติไว้หรือไง ไม่จำเป็นต้องมาทับที่ทางกันซะหน่อย ราเชนทร์ก็เป็นพวกสุดโต่ง คีรีก็ดีในอีกแบบ มาเทียบกันได้ที่ไหนล่ะ
แต่ว่าอย่างโน้นอย่างนี้ ผมเองก็นึกหงุดหงิดธาราธารเหมือนกันเลยไม่พูดสิ่งที่คิดออกไป
ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ปัญหาวุ่นวายเข้ามาไม่จบสิ้น
ผมไม่รู้เลยจริงๆ ว่าพวกเราจะคบกันไปรอดได้ถึงไหนกันแน่
“เอาอีกแล้ว คนรักของเราเข้าโลกส่วนตัวไปอีกแล้ว...”
เหมือนจะจับความเงียบผิดปกติของผมได้ ราเชนทร์พลิกตัวหันมาหาผม ยิ้มอย่างแสนอ่อนอกอ่อนใจ
“ที่รักครับ อย่าทำให้พวกเราผวากันหน่อยจะได้มั้ย แค่นี้ฉันกับไอ้แว่นนี้ก็พยายามประคองกันสุดความสามารถแล้ว อะไรที่มันเกะกะขวางทางพวกเราจะจัดการกันเอง ที่รักช่วยอยู่เฉยๆ และรออย่างใจเย็นจะได้มั้ยครับ”
นานครั้งจะได้ยินคำพูดน่ารักจากราเชนทร์ ทำให้คนไม่ชอบรอและพยายามจัดการทุกอย่างเองแบบผมเริ่มฉุกใจคิดขึ้นมาได้
มานึกดูดีๆ...การที่พวกเขาแอบไปคุยกันสองคนเพราะอยากสะสางโดยที่ผมไม่ต้องออกหน้ารึเปล่านะ ต่างคนต่างช่วยเตือนปัญหาที่เกิดจากอีกฝ่าย ราเชนทร์ท้วงเรื่องนั้น คีรีท้วงเรื่องนี้ ถึงจะดูเหมือนทะเลาะกันแต่ความจริงแล้วกำลังเกื้อหนุนกันอยู่ต่างหาก
บางทีผมอาจจะมองทั้งคู่ในแง่ร้ายเกินไป
“ปัญหาที่เกิดจากผม ผมพยายามรับผิดชอบถนอมน้ำใจแล้ว ฉะนั้นปัญหาที่เกิดจากพวกคุณ ก็ต้องพยายามจัดการกันเองสินะ...”
“เธอพึมพำอะไรนะ”
ผมมองคนขับรถที่คล้ายจะเสียสมาธิแล้วอมยิ้มบาง
แปลกดีเหมือนกัน เมื่อก่อนตอนคบสองคน ผมมักเป็นฝ่ายคอยพูดคอยเตือน แต่ครั้งนี้พอมีสามคน พวกเขาต่างท้วงกันเอง หน้าที่ของผมเลยมีแค่กระดิกเท้านอนดูอยู่เฉยๆ ซะงั้น
ถึงจะไม่ค่อยชอบรอแบบไร้จุดหมายสักเท่าไหร่ แต่ว่า...
”เปล่าครับ ผมแค่คิดว่าครั้งนี้ยอมอยู่เฉยๆ ไม่คิดมากแล้วกัน”
ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีคล้ายได้ยินเสียงถอนหายใจจากทั้งคู่เกือบจะพร้อมกัน ฟังแล้วเลยอดเสริมไปอีกประโยคไม่ได้...
“แต่อย่าให้นานนักล่ะ พวกคุณก็รู้ ผมไม่ชอบการรอคอย”
แล้วผมก็เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงได้สามัคคีขนาดนี้ เพราะพอถึงห้อง ราเชนทร์กับคีรีก็จับผมเปลื้องผ้า แก้ผ้าตัวเอง แล้วลากเข้าห้องมืดทันทีทันด่วนโดยไม่ลืมหยิบถุงยางไปคนละกล่อง
ผมเห็นพวกเขากระตือรือร้นเหมือนเร่งทำเวลากลัวผมจะเปลี่ยนใจก็พูดอะไรไม่ออกนอกจากยอมยืนให้พวกเขากอดจูบลูบคลำในความมืด แต่เพราะครั้งนี้ผมไม่ได้เตรียมตัวก่อน เลยมีปลายนิ้วชุ่มช่ำซุกซนจากคนสองคนสอดแทรกเบียดเสียดเข้ามาในร่างกาย ผมโน้มตัวโอบกอดคนด้านหน้า...ที่คงจะเป็นราเชนทร์ ครางหวิวในลำคอซบกับอกของเขาและพยายามถ่างขาเพื่อลดความคับแน่นที่ทั้งคู่พยายามขยายช่องทางให้พร้อมรับศึกหนัก
“ใครก่อน” ราเชนทร์ถามเสียงอัดอั้น
“ฉันสิ” คีรีตอบทันที พร้อมกับประคองสะโพกผมให้ยกขึ้นพร้อมกับกดตัวเองลงมา
“อี๊!” ผมร้องอย่างตกใจ แต่ถูกคีรีรั้งใบหน้าให้เข้าหาแถมยังปิดปากไว้ราวรู้ทัน
สัมผัสที่ค่อยๆ รุกล้ำเข้ามานั้น...ไม่ปกติ!
...มันมีผิวขรุขระตะปุ่มตะป่ำด้วย!!ผมนึกถึงถุงยางที่ราเชนทร์กวาดลงรถเข็นเมื่อครั้งไปซื้อของเข้าห้องด้วยกัน ตอนนั้นแค่นึกเอามาเผื่อเล่นๆ แต่ไม่คิดว่าคนที่เอามาใช้คนแรกจะเป็นคีรี แถมยังทำตีเนียนไม่ให้ผมส่อพิรุธ ปิดปากผมที่เงยหน้าพิงกับบ่าแน่นๆ ของเขา ขณะมืออีกข้างก็โอบประคองสะโพกไม่ให้ถอยหนี ดันตัวสอดใส่เข้ามาให้ผิวสัมผัสไม่ธรรมดาเบียดกับผนังอ่อนนุ่มและจุดอ่อนไหวในตัวผมจนเหงื่อแตกซิก
นี่มัน...โอ๊ย ผมไม่เคยลองถุงยางแบบนี้มาก่อนเลย!
ผมได้แต่ครางเสียงอู้อี้ในลำคอเมื่อโดนล่วงล้ำเข้ามาลึกอย่างค่อยเป็นค่อยไปให้พอปรับตัว แต่การทำแบบนี้ยิ่งทำให้ผมรู้สึกถึงตุ่มไตที่ค่อยๆ ชำแรกเข้ามาชัดเจนจนเบิกตากว้างพูดอะไรไม่ออก และยิ่งสะดุ้งสุดตัวเมื่อราเชนทร์ที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก้มหน้าช่วยโลมเลียกลางลำตัวของผมจนเสียววาบไปทั้งท้องน้อย
ผม...ผม...แทบระทวยไปทั้งตัวด้วยความเสียวซ่านเกินคาดคิด ผมพยายามสูดลมหายใจเข้าลึก ระงับเสียงครางที่คล้ายจะดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคีรีขยับ บางทีนี่อาจเป็นวิธีเอาคืนที่ผมไปมีอะไรกับราเชนทร์ที่สระว่ายน้ำ แม้ต่อหน้าจะแย้มยิ้มและแอบต่อยหมัดใส่ราเชนทร์แล้วหนึ่งที แต่พออยู่ในห้องมืดสนิทที่มีเพียงสัญชาตญาณ เขาก็สวนตัวเข้ามาลึกจนแทบทรงตัวไม่ไหว สัมผัสที่ไม่เคยลองมาก่อนทำเอาตัวสั่นไปหมด
“...หรัญญ์” คีรีที่ยังปิดปากผมไว้ก้มหน้าขบเม้มสร้างรอยไปทั่วลำคอและลาดไหล่ของผมอย่างระงับอารมณ์ไม่ให้โหมหนัก แต่จังหวะที่เริ่มกระแทกสวนกระชั้นขึ้นเรื่อยๆ ก็ทำเอาผมต้องกัดนิ้วอีกฝ่ายเพื่อระงับเสียง กลัวว่าราเชนทร์ที่มองไม่เห็นว่ามีอะไรผิดปกติรู้ทันเข้าซะก่อน ไม่ใช่ว่าอยากปกปิดหรอกนะ แต่ผมกลัวว่าเราเชนทร์จะนึกสนุก ใช้ถุงยางแบบเดียวกันด้วยต่างหาก!
อันที่จริงปุ่มพวกนั้นก็ทำเอาเจ็บอยู่เหมือนกัน แต่พอเบียดโดนจุดกระสันทีไรสติผมก็พร่าโล่งไปหมด พอคีรีกระทุ้งเข้ามาติดๆ กันอีกไม่กี่ครั้ง ผมก็ปลดปล่อยตัวเองออกมารวดเร็วจนราเชนทร์ยังตกใจ
“วันนี้รัญมีอารมณ์จังนะ” เขาแซวขณะช่วยกลืนกินน้ำข้นคาวและโลมเลียส่วนนั้นของผมให้ตื่นตัวโดยคีรียังคงกระทั้นกระแทกหนัก กว่าเขาจะเสร็จสมผมก็แทบจะหลั่งอีกรอบหนึ่งแล้ว แต่พอเห็นคีรีหยุดพร้อมเปิดปากผมให้เป็นอิสระ ราเชนทร์ที่คอยท่าอยู่แล้วก็รีบเหนี่ยวตัวผมขึ้นมาจัดท่าทาง เพราะความมืดและความรู้สึกซาบซ่านที่ยังคาในร่างทำให้ผมไม่ทันได้สนใจ รู้ตัวอีกทีก็ถูกจับอุ้มให้ทิ้งกายลงไปกับส่วนที่ตั้งโด่ขนาดไม่ธรรมดาของราเชนทร์แล้ว
“!!!” ผมกัดปาก ตกใจเมื่อลองปัดป่ายมือแล้วพบว่าราเชนทร์อยู่ในท่านั่งพิงกำแพงและให้ผมขึ้นควบ ความอุ่นร้อนที่แทบแผดเผาอยู่ภายในเล่นเอาแทบบ้า ผมรู้สึกถึงเส้นเลือดที่เต้นตุบอยู่ในร่างด้วยซ้ำ จนเกือบจะหลุดปากถามราเชนทร์ออกไปว่าเขาเสียบสดงั้นเหรอ
แต่พออีกฝ่ายเริ่มขยับและจับความรู้สึกใหม่อีกครั้ง ผมก็โล่งใจเพราะราเชนทร์ไม่กล้าขนาดเสียบสดโดยมีคีรีรอต่อยกสอง เพียงแต่เขาหยิบ ‘ถุงยางรุ่นบางเฉียบ’ มาใช้ต่างหาก! ผมที่ถูกบังคับให้ยกสะโพกลอยแล้วทิ้งตัวซึมซาบความร้อนผ่าวประหนึ่งเนื้อแนบเนื้อหลุดครางอย่างชอบพอ เร่งให้ราเชนทร์โอบเอวและกระทุ้งตัวเองขึ้นดังสวบจนตั้งตัวไม่ทัน
เสียงเนื้อกระทบดังสนั่นในความมืด ร่างผมโยกคลอนจนต้องเอื้อมมือยึดเข่าราเชนทร์เพื่อไม่ให้พลิกตก จะบอกว่าผมนำจังหวะก็คงไม่ใช่ในเมื่อคนที่กระแทกตัวจากเบื้องล่างและกอบกุมบั้นท้ายคอยบังคับให้โยกขึ้นลงเองซะอย่างนั้น ความอุ่นร้อนที่เบียดเสียดเข้ามาแนบชิดช่วยดึงอารมณ์ให้พุ่งสูง ก่อนใบหน้าผมจะถูกคีรีเชยคางขึ้นจูบ พร้อมกับส่วนร้อนแทบระเบิดจะจ่อเข้ามา
ผมดูดกลืนส่วนนั้นเข้ามาในโพรงปากทั้งที
เสียงสูดปากอย่างพึงใจของสองหนุ่มเร่งเร้าให้บรรยากาศในห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นอายร้อนเร่าเจียนคลั่ง ไม่นานผมก็เป็นฝ่ายหลั่งออกมาก่อน ช่องทางกระตุกตอดร้อนให้ราเชนทร์เร่งจังหวะสวนเอวเข้าถี่จนต้องผละศีรษะแล้วใช้มือช่วยคีรีแทนเพราะกลัวจะไปกัดส่วนนั้นของเขาเข้า
แล้วสองหนุ่มก็ปลดปล่อยออกมาเกือบจะพร้อมกัน
คีรีอุ้มผมขึ้น เล่นเอารู้สึกโล่งไม่น้อยเมื่อส่วนนั้นของราเชนทร์หลุดออกไป พลันร่างผมถูกจัดแจงให้นอนราบหงาย ขาทั้งสองพาดกับบ่าของเขาจนสะโพกยกขึ้นลอยเหนือพื้น พร้อมกับความแข็งขืนที่ดุนดันเข้ามา
“อ๊า!”
...ถุงยางมีปุ่มอีกแล้ว!
ผมรู้สึกเหมือนวันนี้หนักกว่าทุกที ความเสียดเสียวเองก็มากกว่าทุกครั้งจนแทบคุมตัวเองไม่อยู่ ราเชนทร์ช้อนท่อนบนของผมขึ้นจากพื้นให้เอนพิง ฟ้อนเฟ้นไปทั่วทั้งตัวก่อนจะหยุดที่ยอดอกสองข้างของผม เขาหยอกตุ่มเล็กๆ คู่นั้นสลับกับการดูดดึงจนอารมณ์ของผมเหมือนถูกกระชากขึ้นลงไม่หยุด
ตอนนั้นเองที่คีรีเองเริ่มหยัดตัวเข้าจนสุด สะโพกที่ถูกรั้งขึ้นไปอีกทำให้ร่างผมไถลจากอกราเชนทร์ แต่ก็ไม่ทำให้ทั้งคู่ผ่อนแรงเลยสักนิด
“อ๊ะ อา อ๊า”
เหมือนสติหลุดลอยไปที่ไหนสักที่เมื่อคีรีโถมตัวเข้ามาเต็มแรง นำสัมผัสหยาบกระด้างเสียดสีจุดกระสันของผมเข้าอย่างจังจนตัวแอ่นบิดเกรียวปัดป่ายไปทั่ว หน้าอกของผมยังถูกหยอกล้อไม่เว้นช่วง ผมที่ถูกปรนเปรอจากสองทางครางจนเหนื่อยหอบ ยกมือควานหาใบหน้าของราเชนทร์แล้วบังคับให้เข้าโน้มหน้าลงจูบ
ปลายลิ้นเกาะเกี่ยวพัลวันได้หนักหน่วงไม่แพ้กันจนเหมือนหาเรื่องให้ตัวเองเห็นๆ ราเชนทร์ยิ่งเพิ่มน้ำหนักมือบนบนยอดอกของผมจนเรียกได้ว่าบดขยี้ เล่นเอาผมดิ้นเร่าแทบบ้า
“วันนี้รัญเร่าร้อนสุดๆ เลย” ราเชนทร์กระซิบและก้มหน้าบดจูบที่คล้ายจะดูดกลืนลมหายใจผมไปด้วย
แทบจะไม่มีใครยั้งใจอยู่แล้ว คีรีเองก็หนักกว่าทุกวันจนเหมือนสะโพกจะหักซะให้ได้ อาจเพราะไอ้ความรู้สึกที่จี๊ดขึ้นสมองทำให้ผมตอดรัดเขาแน่นเกินไป พอเขาจับขาผมที่พาดบ่าให้อ้ากว้าง จังหวะรุกเร้าก็ที่ทำให้ดิ้นพล่านอยู่แล้วก็ยังมีขั้นกว่าที่เล่นเอาแทบหมดสติ
“เฮ้ เฮ้”
ราเชนทร์ละจูบจากผมแล้วหันไปเรียกสติคีรีที่เริ่มคลั่งหนักจนแทบจะยกตัวผมลอยโดยมีสะโพกถูกจับเชื่อมกับส่วนนั้นโดดเด่นอยู่กลางอากาศ หวิดๆ จะหกสูงอยู่รอมร่อ เสียก็แต่ราเชนทร์โอบกอดตัวผมไว้ ไม่ยอมยกให้คีรีทำตามใจชอบ
อันที่จริงตอนนั้นผมจนเบลอไปหมดแล้ว ช่วงล่างก็เจ็บหนึบปนเสียวซ่านจนนิ่วหน้าครางกับอกราเชนทร์ไม่หยุด คีรีที่เกือบจะลุกยืนกลับมานั่งคุกเข่าตะกองกอดสะโพกผมบังคับให้แนบชิดกับท้องน้อยของเขาเหมือนเดิม ก่อนจะเดินจังหวะใหม่อีกครั้งที่ทำให้พวกเราทั้งคู่ถึงฝั่งฝันเกือบจะพร้อมกัน
ผมได้พักหายใจแค่ชั่วครู่เท่านั้นราเชนทร์ก็จับผมหันหลังแล้วแทรกตัวเข้ามาทันที
ความร้อนรุ่มที่คล้ายจะขยายใหญ่กว่าเดิม อย่างกับอดกลั้นเป็นเวลานานชำแรกเข้าในครั้งเดียว คราวนี้เป็นคีรีที่จับผมให้กอดคอเขาเป็นหลักยึด ผมเลยจิกเล็บระบายความเสียวซ่านบนแผ่นหลังนั้นอย่างเต็มที่
ส่วนนั้นของราเชนทร์ร้อนจัด ร้อนราวกับเนื้อแนบเนื้อจนผมเผลอคิดว่าเขาไม่ได้ใส่ถุงยางซะอีก ความร้อนนั้นแทบจะทำให้ผมหลอมละลาย ยิ่งกระทุ้งถี่เข้ามาเท่าไหร่เรี่ยวแรงของผมก็ยิ่งอ่อนล้ามากเท่านั้น เหมือนโดนสูบพลังงานก็ไม่ปาน
แล้วผมก็ต้องสะดุ้งเมื่อราเชนทร์หลั่ง น้ำร้อนเดือดจัดที่ฉีดพุ่งในร่างทำให้ผมใจหาย แต่พอเขาถอนกายออกไปก็ทำความเข้าใจได้ว่าถุงยางรุ่นบางเฉียบนั้นช่างบางจนน่ากลัวจริงๆ
บรรยากาศในห้องคล้ายกับไม่มีเครื่องปรับอากาศ ทั้งที่จะมีระบบติดตั้งความเย็นเป็นลมอ่อนๆ ยิ่งเปลือยกายแบบนี้ยิ่งรู้สึกได้ง่าย แต่พวกเราสามคนร้อนไปทั้งตัวอย่างกับอยู่ในห้องอับ ราเชนทร์กับคีรีจับผมจูบขบเม้นสร้างรอยไปทั่ว ก่อนที่สะโพกของผมจะถูกรั้งไปอีกทาง พร้อมกับยกจ่อเข้าส่วนปลายที่แข็งขืนพร้อมสู้ศึก
“พอก่อน...” ผมเอ่ยเสียงสั่น รีบดันอกคีรีไว้ “วันนี้พอก่อน...นะครับ”
ผมพูดปนหอบ ถ้านับตามจริงวันนี้พวกเขาเพิ่งทำกันไปคนละสอง น้อยกว่าวันแรกที่เข้ามาในห้องนี้ด้วยกันซะอีก แต่ร่างกายผมกลับปวกเปียกโรยรา อย่างกับโดนบังคับให้ออกกำลังกายหนักๆ ติดต่อกันหลายชั่วโมงจนยากจะรับไหว
“อีกคนละครั้งน่า...” ราเชนทร์เข้ามาคลอเคลีย เอื้อมมือช่วยปลุกปั้นน้องชายของผมที่ยังผงกหัวสู้ คีรีเองก็แสดงความเห็นโดยการใช้ผิวขรุขระนั้นเสียดสีไปมาที่ปากทางจนชวนเสียวปนจั๊กจี้นิดๆ
ไอ้อยากก็อยากอยู่ แต่ว่า...“...มากกว่านี้...ผมสลบแน่”
ผมรู้ลิมิตตัวเองดี และรู้ว่าถ้าเกิดโดนทำต่อมีหวังหมดสติกลางคันระหว่างที่คีรีกำลังเสพสมอยู่แน่ๆ
“ผมใช้ปาก...ให้แล้วกัน”
เห็นใจอยู่หรอกเพราะคีรีก็แข็งขนาดนี้แถมราเชนทร์ก็ใช้ส่วนนั้นที่เปลือยเปล่าไร้ถุงยางห่อหุ้มถูไถกับหลังผมอีกต่างหาก จะให้พวกเขาอดทนอดกลั้นช่วยตัวเองก็น่าสงสารเกินไป
“รัญน่ารักที่สุด” ราเชนทร์จุ๊บปากผม ส่วนคีรีก็จัดแจงท่าทางให้ผมนั่งพิงกับกำแพง ยืนจ่อส่วนนั้นเข้ามาใกล้ใบหน้า ถึงจะมองไม่เห็น แต่ผมว่าพวกเขาต้องทำตาหื่นกามอยู่แน่
แม้จะรู้สึกเสียดร้าวไปทั้งตัวแต่ผมก็พยายามบังคับมืออ่อนแรงช่วยรูดให้ทั้งคู่ ใบหน้าหันสลับดูดเลียดุนดัน ผมว่าผมทำไม่เก่งหรอกนะแต่ดูเหมือนทั้งราเชนทร์และคีรีที่สูดปากเป็นระยะจะชอบใจ เพราะตอนที่คอเริ่มจะเคล็ดอยู่นั้นทั้งคู่ก็ปลดปล่อยออกมาไล่เลี่ยกันพอดี
ผมยกมือแตะใบหน้า รู้สึกถึงของเหลวเหนียวแฝงกลิ่นคาวที่รู้จักดี นึกโชคดีเป็นบ้าที่ห้องนี้มืดเกินไป ถ้าเกิดพวกเขามาเห็นนั่งพิงกำแพงพังพาบอ้าขาน้อยๆ เพราะรู้สึกเจ็บเสียดที่ช่องทาง ใบหน้าและลำคอเลอะน้ำรักอย่างกับตัวเอกหนังเอวีแบบนี้ มีหวังอารมณ์ขึ้นจนใช้แค่มือกับปากก็ไม่ช่วยสงบแหง
ผมแตะนิ้วที่ปลายลิ้น ย่นคิ้วน้อยๆ เมื่อได้รสขมฝาด
อืม...โชคดีจริงๆ
-----------------
ความในใจของทั้งคู่หลังพาหนูรัญเข้านอน
ราเชนทร์ : หึหึหึ วันนี้รัญจะต้องติดใจกับความเรียบดุจไร้อาณาขวางกั้นของฉันแบบหัวปักหัวปำแน่ๆ
คีรี : ผิวขรุขระเสียวสะท้านขนาดนี้จะต้องติดตรึงประทับใจหรัญญ์ไปอีกนานแสนนานแน่นอน
-------------
รู้สึกหื่นมาก รัญก็อีโรติกมาก เขินจังคะ 555 ว่าแต่... #ทีมผิวเรียบ หรือ #ทีมผิวขรุขระดีคะ
เพจนักเขียนที่ชักอยากจับราเชนทร์กับคีรีมาเล่นตลก แลตบมุกขัดแข้งขัดคอกันดีจริงเชียว ตึงโปะ!