ราเชนทร์ – คีรี Part 4
สาเหตุที่คีรีนัดเคลียร์กับธาราธารที่คิงส์คลับ ไม่ใช่ว่าอยากพามายืนยันต่อหน้าหรัญญ์หรอกนะ
แต่เพราะไม่ว่ายังไงราเชนทร์ก็จะร่วมด้วยต่างหาก!!!
เดิมทีคีรีตั้งใจให้เป็นเรื่องในครอบครัว คุยตกลงกันสองคน แต่ราเชนทร์ไม่ไว้ใจ อ้างว่าถ้าเกี่ยวกับหรัญญ์ยังไงเจ้าตัวก็ต้องมีส่วนร่วม
คีรีเลยต้องตกลง
เพราะถ้าเกิดมีคนตั้งท่าจะวอแวหาเรื่องหรัญญ์ แล้วคนคนนั้นมาจากฝั่งของราเชนทร์ เขาก็คงขอให้มานั่งเคลียร์กันต่อหน้าต่อตา ไม่อยากฟังจากปากเปล่า
ก็พวกเขาดันตกที่นั่งเดียวกันแล้วนี่หว่า!
ใครจะกล้าเสี่ยงล่ะหากไม่เห็นกับตา พวกเขาต่างไม่เชื่อใจกัน กึ่งๆ จะโทษและหาเรื่องกันเองด้วยซ้ำไป ถ้าเกิดคีรีจัดการเองไม่ได้ ราเชนทร์ก็จะเข้ามายุ่งด้วยทันที ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็ต้องทำให้ปัญหามาจบ ก่อนที่จะถูกหรัญญ์ตัดสินให้จบซะก่อน
นึกแล้วก็ยังหวาดกลัวไม่หาย พวกเขาต่างคาดเดาไม่ออกว่าหรัญญ์คิดอะไรอยู่ บางครั้งเวลานิ่งเงียบทำหน้าคิดหนักก็เล่นเอาใจสั่น เพราะนั่นเป็นสัญญาณสยองที่ต่างเคยประสบกันมาแล้ว
ถ้าเกิดเริ่มเห็นลางน่าสะพรึงเมื่อไหร่ ต่อให้ราเชนทร์กับคีรีจะไม่ถูกกันแค่ไหนก็พร้อมใจจะรีบสะสางปัญหาให้เร็วที่สุด!
เพราะอะไรน่ะเหรอ
เพราะพวกเขาทั้งสามเกี่ยวโยงกันโดยไม่ขึ้นกับฐานะหรือความจำเป็นใดๆ น่ะสิ
ทุกอย่างมาจากความสัมพันธ์ทางใจล้วนๆ
ราเชนทร์รวยแค่ไหน ใช้ชีวิตสบายจนน่าอิจฉาแค่ไหน ก็รั้งหรัญญ์ไม่ได้
คีรีมีอนาคตที่รุ่งโรจน์แค่ไหน มีฐานที่มั่นคงมากจนน่าพึ่งพาเท่าไหร่ ก็รั้งหรัญญ์ไม่ได้เหมือนกัน
ตรงตามคอนเซปต์ของปริ้นส์รูม
ไม่ว่าใครก็ตาม หากอยู่ในห้องที่มืดสนิท มองไม่เห็นหน้า มองไม่เห็นอะไร ก็กลายเป็นแค่คนธรรมดาตัวเปลือยเปล่า
แม้ในห้องจะมีสัมพันธ์กันอย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่อาจรู้ว่าคู่นอนจะเปิดประตูเดินออกไปตอนไหน
เพราะมืดสนิทจึงไม่อาจรู้ เพราะมืดสนิทจึงไม่อาจไล่ตาม
ถ้าครั้งนี้หรัญญ์เลือกที่จะเลิกรากันอีก พวกเขาก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วเหมือนกัน
“แต่มีสัญญาณที่ดีนะ อย่างน้อย...รัญก็ให้เราบอกรัก”
“อืม” คีรีนั่งจิบไซด์คาร์ระหว่างรอน้องชายมาตามนัด “แล้วเขาก็บอกรักพวกเรา”
“ใช่ นั่นแหละสัญญาณที่ดี ตั้งแต่คบกันมาฉันไม่เคยได้ยินรัญบอกรักเลยสักครั้ง!”
“...ฉันก็เหมือนกัน”
สองหนุ่มชนแก้วอย่างกับเตรียมเฉลิมฉลอง ทั้งที่ยังไม่ทันเริ่มสะสางธุระเลยด้วยซ้ำ
“พวกคุณคุยอะไรกันน่ะ”
หรัญญ์ที่วันนี้วิ่งวุ่นเป็นพิเศษเพราะบาร์เทนเดอร์ลาหยุดไปหนึ่งคนเดินมาถาม นานครั้งจะเห็นคีรีและราเชนทร์ยอมนั่งด้วยกัน เอ่อ...แม้จะเว้นเก้าอี้ระหว่างกลางไว้ตัวหนึ่งก็ตาม
“เดี๋ยวธาราธารจะมา ช่วยเตรียมค็อกเทลอ่อนๆ ให้เขาด้วยนะที่รัก เอ๊ะ หรือจะเอารสแรงมอมไปเลยแล้วให้เซ็นต์สัญญาทาส”
“นั่นน้องชายฉัน”
“คุณธาราธารจะมา?” หรัญญ์มองคีรีเป็นเชิงถาม “คุณตั้งใจให้จบในวันนี้แน่ๆ ใช่มั้ยครับ”
“ใช่”
พลันคนรักของพวกเขายิ้มหวานหมดจด เป็นรอยยิ้มการค้าที่ไร้ความสิเน่หา
“ผมจะรอดู”
...มองปอยผมยาวที่สะบัดน้อยๆ ยามเจ้าตัวหันหลังเดินจากไป คีรีกับราเชนทร์ถึงกับหนาวเยือกในอกจนดื่มกันต่อไม่ลง ทั้งที่เป็นแค่ประโยคธรรมดาประโยคหนึ่ง แต่พอออกมาจากปากของหรัญญ์แล้วกลับให้ความรู้สึกราวโดนขู่ขวัญซะได้
“ตามที่ตกลงนะ ถ้าคุยกันไม่ลงตัว ฉันแทรก”
“อืม ยังไงก็ต้องเคลียร์ให้ได้”
คีรีนึกกลุ้มใจ เขารู้ว่าน้องชายคนนี้หัวรั้นอยู่ไม่น้อยเลย
ธาราธารอายุน้อยกว่าเขาสองปี เป็นน้องชายที่เรียกได้ว่าใกล้ชิดที่สุด และสนิทสนมที่สุด ตั้งแต่เด็ก คีรีก็เป็นคนขยันขันแข็ง เขาขยันอ่าน ขยันเรียนรู้ ชื่นชอบและตั้งใจที่จะแบกรับกิจการของครอบครัวเพราะถูกกรอกหูในฐานะลูกชายคนโตของสายหลักมาตลอด หรือเรียกแบบเข้าใจง่ายว่าเป็นผู้ถือหุ้นหลักนั่นเอง จึงเลือกเรียนในสายบริหารเพื่อรองรับตำแหน่งประธานบริษัทตั้งแต่อายุไม่ถึงยี่สิบ ธาราธารจึงเห็นพี่ชายเหมือนท่านผู้ยิ่งใหญ่ ปูเส้นทางตัวเองที่จะช่วยแบ่งเบาภาระ เป็นผู้ช่วยที่คอยคิดอ่านด้วยกันเสมอ
พวกเขาสองคนเพิ่งมาห่างกันตอนคีรีเรียนจบและเริ่มเข้ามาทำงานที่บริษัทอย่างจริงจัง ความกดดัน ความเครียด แตกต่างจากที่เขาเคยคิดไว้หลายเท่า คีรีเริ่มแยกตัวออกมาอยู่คอนโดคนเดียวเพื่อไปมาระหว่างบริษัทได้สะดวก ช่วงแรกคีรีจดจ่ออยู่แต่เรื่องงานไม่สนความรัก จึงหันไปบ่มเพาะกำลังกายคลุกตัวอยู่ในยิม
พอทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง คีรีที่อายุปาไปยี่สิบกว่าๆ ก็เริ่มสนใจคนรอบข้าง เขาเป็นคนหน้าตาดี มีฐานะไม่เลว ย่อมมีคนเข้าหาบ้าง แต่หากหรัญญ์ไม่ชอบกิจกรรมสังสรรค์เพราะเบื่อหน่ายที่ต้องเจอที่คลับทุกวัน คีรีเองก็ไม่ต้องการคนรักที่คร่ำวอดในธุรกิจเพราะอยากคุยเรื่องอื่นนอกจากสิ่งที่ตนเผชิญทุกวี่วันไม่ต่างกัน เขาเริ่มมองหาคนที่ถูกใจตามงานเลี้ยงงานสังคมต่างๆ มีทั้งผู้หญิงผู้ชายเข้ามาในชีวิต สำหรับคีรี เขาไม่สนเรื่องเพศเท่าไหร่นัก เหมือนกับที่มองทุกอย่างเป็นตัวเลขทางธุรกิจไปซะหมด
แต่คงเพราะมองหาจากในที่เดียวกัน เลยดันไปตกได้คู่นอนเดียวกับราเชนทร์ซะอย่างนั้น
สำหรับธาราธารที่เริ่มห่างเหินตั้งแต่สมัยวัยรุ่น จนตอนนี้คีรีอายุสามสิบแล้ว แทบไม่เคยติดต่อหรือเล่าส่วนตัวให้น้องชายฟัง ซึ่งธาราธารเองก็พอรู้ข่าวบ้างและปล่อยไปเพราะคีรีมักรักๆ เลิกๆ เป็นปกติ เพิ่งจะมาจริงจังก็พามาแนะนำตัวต่อหน้าเขาและเครือญาติ ธุรกิจของคีรีเป็นแบบส่งต่อรุ่นสู่รุ่น เลยกลายเป็นเรื่องใหญ่ว่าจะมีทายาทส่งต่อแน่หรือ
แต่คนที่ดิ้นรนก็มีแค่ธาราธาร คนอื่นออกจะสนับสนุนคีรีด้วยซ้ำไปเพราะเท่ากับว่าลูกหลานมีโอกาสจะได้ขึ้นรับตำแหน่งประธานในอนาคต ธาราธารเห็นพี่ชายเสียผลประโยชน์ แถมคนรักคนนั้นก็เป็นแค่คนธรรมดาน่าดูแคลน เลยยิ่งหัวเสียไม่ยอมรับ
ฉะนั้นธาราธารเลยมุ่งหน้ามาคิงส์คลับพร้อมเหตุผลมากมายที่จะมาบอกให้พี่ชายเปลี่ยนใจ
น่าเสียดายเพราะคีรีเองก็แทบจะร่างรายงานเขียนส่งให้ธาราธารอ่านให้เข้าใจเช่นกัน
ยังไงก็ตาม พอมีตัวกลาง...เอ่อ...ตัวแทรกอย่างราเชนทร์ ก็ทำให้บรรยากาศระหว่างพี่น้องค่อนข้างสับสนมึนงงและไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง
“กามิกาเซ่ครับ” หรัญญ์เข้ามาในตอนนั้นเอง ชายหนุ่มเสิร์ฟค็อกเทลสีฟ้าสวยสมชื่อธาราธาร ไม่รู้ว่าตั้งใจทำคะแนนหรือไม่ แต่อย่างน้อยก็สร้างความประทับใจเล็กๆ น้อยๆ ได้
ใช่ ก็แค่นิดเดียวเท่านั้นล่ะ
“อย่าแอบฟังนะรัญ” ราเชนทร์หันไปพูดกับคนรักที่ทำท่าอยากมีส่วนร่วม
“ทำไมผมถึงฟังไม่ได้ล่ะครับ”
“หรัญญ์” คีรีเอ่ยเรียก ดันแว่นขึ้นหนึ่งจุดหนึ่งองศาเพื่อเรียกสมาธิ สติ และปัญญา พวกเขาจะบอกได้ไงว่าที่กันอีกฝ่ายออกเพราะกลัวว่าถ้าการเจรจาเละ หรัญญ์จะผิดหวังและบอกเลิกในทันทีทันด่วน จริงอยู่หรอกว่าหรัญญ์ไม่ใช่คนทำตัวไร้เหตุผลขนาดนั้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ใช่มั้ยว่าบางครั้งคนรักของพวกเขานั้นแสนจะใจร้าย... “เธอตั้งใจทำงานเถอะนะ นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ไม่ต้องห่วงหรอก”
ไม่-ใช่-เรื่อง-ใหญ่-อะ-ไร!?
ราเชนทร์หัวเราะหึๆ ขณะหยิบมาตินี่ดื่มย้อมใจ ส่วนคีรีเองก็บีบแก้วแน่นแม้จะพยายามตีหน้าเฉย
ตั้งแต่อยู่กับหรัญญ์เรื่องเล็กเรื่องน้อยแค่ไหนก็ดูจะยิ่งใหญ่สำหรับพวกเขาทั้งนั้น!
หรัญญ์มองอย่างลังเลครู่หนึ่ง แต่พอได้ยินเพื่อนสนิทเรียกให้ช่วยหยิบของก็หันกลับ และไม่คิดจะเดินเข้ามาวนเวียนในบริเวณนี้อีก เล่นเอาต่างคนต่างโล่งใจไปตามๆ กัน
เป็นครั้งแรกที่ธาราธารเห็นพี่ชายผู้แสนจะเก่งกาจประหม่าขนาดนี้
“เอาล่ะ” แต่เพียงพริบตาเดียว คีรีก็กลับกลายเป็นท่าประธานน่าเกรงขามในบัดดล “ธาร พี่บอกแล้วว่าห้ามยุ่งกับหรัญญ์ ทำไมถึงไม่ทำตามคำสัญญา”
ถ้าหรัญญ์มาได้ยินคงไม่วายสวนกลับว่า ก็พอกันทั้งพี่ทั้งน้องละวะ!
“พี่จะไม่ให้ผมยุ่งเลยได้ยังไงในเมื่อมันไม่ใช่เรื่องของพี่คนเดียว ทุกคนเองก็พูดถึงเรื่องนี้ ถ้าพี่มีแฟนเป็นผู้ชาย...แล้วใครจะรับตำแหน่งต่อจากพี่” ธาราธารรีบเข้าเรื่องสำคัญทันที แต่...
“เรื่องแค่นี้เองเหรอ...”
เรื่องแค่นี้เอง?
ธาราธารอ้าปากค้างจนแมลงวันบินเข้าไปห้าตัว
“เราเป็นพี่น้องกันนะธาร ไม่ใช่ลูกของพี่คนเดียวถึงจะได้ตำแหน่งนั้นไปสักหน่อย ลูกของนายเองก็...”
“ผมมีหน้าที่แค่สนับสนุนพี่ ไม่ได้หวังตำแหน่งประธานอะไรสักหน่อย!”
เสียงที่ไม่เบาทำให้ราเชนทร์ร้องจุ๊ๆ ขึ้นมาเพราะเกรงว่าหรัญญ์จะได้ยิน นี่ก็เหลือบมองหลายทีแล้ว เสียวสันหลังเหลือเกิน
“งั้นหลังพี่ตายก็ปล่อยให้คนที่อยากได้ไปแล้วกัน พี่ไม่ว่างขนาดมาคิดเผื่อคนอื่นหรอก ถ้านายไม่มีลูกหรือถ้ามีแล้วแต่ยังไม่อยากได้ ก็ยกหุ้นให้คนอื่นเถอะ ได้ชื่อว่าเป็นของนามสกุลเดียวกัน พี่ไม่มีปัญหา”
ธาราธารอ้าปากค้าง แมลงวันบินวนเวียนร่วมสิบตัวเข้าไปแล้ว
ฟังพี่ชายพูดตัดเยื่อใยก็คล้ายกับว่าบ้าบอไปเองชอบกล เหมือนต่อยใส่กระสอบทรายยังไงยังงั้น
“แล้ว...พี่รู้รึยังว่าคนรักของพี่น่ะมีปัญหา” ธาราธารหันมาถลึงตาใส่ราเชนทร์ที่นั่งทำหน้าเบื่อเป็นระยะระหว่างฟังที่พี่น้องถกเถียงเรื่องบริษัทที่ไม่น่าสนใจเลยสักนิด “เขาคบซ้อน!”
เมื่อเผยไพ่ตายสุดท้าย ธาราธารก็รอดูความโกรธเกรี้ยวของคีรีที่อาจจะลุกมาต่อยราเชนทร์ให้น่วม แต่...
“ใช่ เราคบกันแบบสามคน”
ธาราธารอยากจะเอาหัวโขกโต๊ะซะเอง!
“ไม่คาใจกันแล้วนะธาร เรื่องตำแหน่งประธานพี่ไม่มีปัญหา ใครจะมารับช่วงต่อก็ตามสบาย ส่วนเรื่องคบกันสามคนก็เป็นข้อตกลงของพวกเราเอง เป็นเรื่องส่วนตัว คงเข้าใจใช่มั้ย”
ธาราธารอ้าปากพะงาบๆ อยากจะแย้ง แต่สติปลิวหายตั้งแต่พี่ชายยอมรับหน้าตาเฉยว่าคบกันแบบสามคน
เฮ้ยๆ! นี่มันไม่ใช่เรื่องปกตินะ!!“ถ้ามีคำถามก็มาหาพี่แล้วกัน แต่อย่ายุ่งกับหรัญญ์อีก”
“แล้วพี่คิดจะให้เขามายุ่งกับธุรกิจครอบครัวของเรามั้ย ถ้ายืนยันว่าเขาเป็นคนรักของพี่ ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเราสิ และถ้าเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ทุกคนจะต้องช่วยกันประคับประคองให้ยิ่งพัฒนาต่อไป” ธาราธารยังไม่ถึงกับถอดใจซะทีเดียว มุ่งมั่นว่าหากพี่ชายตอบว่าใช่ เขาก็พร้อมจะบรรยายว่าบาร์เทนเดอร์ที่สักแต่ชงเครื่องดื่มนั่งโปรยเสน่ห์ใส่ลูกค้าไปวันๆ อย่างหรัญญ์นั้นมีแต่จะทำให้ล่มจม! แล้วยังจะใส่ไฟว่าเป็นเพราะคีรีรวยจนน่าเกาะขานั่นแหละถึงได้โดนหลอก!
เอ่อ...แต่ธาราธารคงลืมไปว่าคีรีก็ไม่ใช่คนหัวอ่อนขนาดดูไม่ออกว่าใครเข้าหาอย่างหวังผล
และแน่นอน คำตอบของคำถามนั้นคือ...
“ไม่ หรัญญ์ไม่สนใจเรื่องพรรค์นี้หรอก”
ริมฝีปากบนของธาราธารค่อยๆ ประกบติดกับริมฝีปากล่าง และแทบจะเย็บติดกันแนบสนิทอย่างจนคำพูด
ธุรกิจที่ได้รับการปลูกฝังให้รับช่วงต่อแต่เด็ก ทั้งชีวิตและการเรียนทั้งหมดล้วนทุ่มเทมากับสิ่งนี้ แบกรับภาระและตั้งใจทำให้ดียิ่งกว่าใคร แต่กลายเป็น ‘เรื่องพรรค์นี้’ ที่ไม่ยักสลักสำคัญอะไรเลยกับบาร์เทนเดอร์ธรรมดาคนหนึ่งเนี่ยนะ!?
แม้ไม่ใช่กฎของครอบครัว แต่สะใภ้หรือลูกเขยที่แต่งเข้ามานั้นล้วนลงทุนในธุรกิจอสังหาฯเดียวกันอย่างเต็มใจ บางรายถึงขั้นเสนอหน้าเข้าหาด้วยซ้ำ มันจึงเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปแล้วว่าถ้าได้ชื่อว่าเป็นคนรัก เป็นสามีภรรยา จะถือเป็นผู้ถือหุ้นหรือมีอำนาจในการก่อร่างสร้างตัว
แต่น่าเสียดาย....
บางครั้งคนเราก็ไม่ได้จะคิดในทางเดียวกันหรืออยู่ในโลกเดียวกันเสมอไป สิ่งที่หลายคนคิดว่ามันคือโอกาสล้ำค่าที่คว้าให้อยู่หมัดอาจเป็นแค่ลมพัดผ่านสำหรับใครบางคนก็ได้
พวกเขาตกลงกันได้ง่ายอย่างรวดเร็ว
ธาราธารที่ลุกขึ้นยืนโงนเงนเหมือนยังประมวลผลไม่ทันแทบจะกลิ้งตกบันไดคิงส์คลับยามลาจาก
“จะย้อนกลับมามั้ย” ราเชนทร์ยังไม่ไว้ใจ เท่าที่ฟังธาราธารค่อนข้างห่วงเรื่องผลประโยชน์ในตระกูลแบบตายเอาดาบหน้าเลยทีเดียว
“ไม่หรอก ถ้าแยกหรัญญ์ออกจากเรื่องผลประโยชร์ภายในแล้วก็ไม่น่ามีปัญหา”
“หึ ใครใช้ให้นายพาไปเปิดตัวในงานไฮโซอย่างนั้นล่ะ ใครเห็นก็ต้องคิดว่าจะดึงเข้ามาร่วมด้วยน่ะสิ”
“ก็ครอบครัวฉันต่างคนต่างแยกย้ายกระจัดกระจาย จะให้เจอหน้าก็ต้องในงานเลี้ยงอย่างเดียว ให้รู้ๆ กันไปเลยว่าฉันไม่คิดมีลูก จะได้เตรียมตัวกันไว้แน่เนิ่นๆ”
“อ้อ ให้ไปฟัดกันลับหลังเอาเอง?”
“ให้เตรียมแผนสำรองไว้ต่างหาก” สองหนุ่มคุยกันด้วยความรู้สึกคล้ายยกก้อนหินลงไปอีกก้อน พอสะสางปัญหาเรื่องนี้ได้ต่างก็โล่งอกโล่งใจขึ้นมาเยอะ และเริ่มคิดว่าคืนนี้จะขอตบรางวัลกับคนรักให้อิ่มเปรม
คีรีคิดคำนวณถึงถุงยางแบบบางเฉียบ จะได้สัมผัสอย่างไหนกันนะเวลาสอดใส่ในตัวหรัญญ์
ส่วนราเชนทร์นั้นคิดลึกไปถึงไหนต่อไหนแล้ว แต่เป็นอันต้องชะงักงันเมื่อเห็นภาพไม่น่าดู
เพื่อนสนิทที่ชื่อแมนนั่นบังอาจจับหน้าหรัญญ์ให้เข้าใกล้แถมยังโน้มตัวจับผมแสนนุ่มสลวยที่เขาเฝ้าดมดอมทุกคืนวัน!
“ใกล้ไปแล้ว...” คีรีพึมพำ
“ใช่ ใกล้ไปแล้ว” ราเชนทร์กัดฟันกรอดแม้จะคงรอยยิ้มบนใบหน้า ในตอนนั้นเองที่พวกเขาตะโกนขึ้นเกือบจะพร้อมๆ กัน
“รัญ!”
“หรัญญ์!”
เจ้าของชื่อหันมาทำหน้างุนงง เพิ่งสังเกตเอาตอนนี้ว่าธาราธารกลับไปแล้ว
ตอนแรกล่ะเหลือบมองแล้วเหลือบมองอีก แต่พอคลาดสายตาหน่อยเดียวก็หันไปจู๋จี๋กับเพื่อนร่วมงานซะได้!
แน่นอนว่าคีรีกับราเชนทร์รู้แก่ใจว่าหรัญญ์ไม่ได้คิดลึกซึ้งกับแมน แต่ไอ้นิสัยยั่วแบบไม่รู้ตัวมันน่าวางใจซะที่ไหนกัน!! ต่อให้เป็นเพื่อนสนิทพวกเขาก็ไม่ชอบให้คนรักใกล้ชิดกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเพศผู้หรอกน่า!!!
คืนนั้นคีรีย่ามใจกับถุงยางบางเฉียบ
พอๆ กับราเชนทร์ทที่มีความมาดมั่นกับถุงยางผิวขรุขระมีปุ่มสะท้านทรวง
ในความมืดที่พวกเขาต่างบรรเลงเพลงรักอย่างไม่มีใครยอมใคร หลังผลัดกันคนละสามยกหรัญญ์ก็ยกธงขาวยอมแพ้
นี่คงเป็นลิมิตของคนรักแล้ว
ราเชนทร์กับคีรีพากันควานหาถุงยางที่ซุกตามซอกออกไปทิ้งเพื่อทำลายหลักฐาน ทั้งคู่ยังกระหยิ่มยิ้มย่องไม่ได้รู้เลยว่าต่างฝ่ายต่างโดนหรัญญ์ปั่นหัว
คีรีเข้าห้องน้ำเพื่อเตรียมน้ำอุ่น ส่วนราเชนทร์เป็นคนอุ้มหรัญญ์ที่ตัวอ่อนระทวยน่าทะนุถนอมนอนพิงอ่าง ต้องขอบคุณกับนิสัยฟุ้งเฟ้อรักสบาย เพราะอ่างน้ำในห้องนี้สามารถแช่ตัวแบบสามคนได้สบายๆ
หรัญญ์ที่ถูกนวดเฟ้นคลายเมื่อยเคลิ้มจนหลับไปก่อนเหมือนทุกวัน คีรีช่วยเช็ดตัวและสวมชุดนอนให้ด้วยความรักใคร่ ก่อนจะเป็นฝ่ายอุ้มคนรักไปนอนบนเตียงโดยทิ้งให้คุณชายท่ามากทาโลชั่นดูแลตัวเองให้เต็มที่
ปกติแล้วหลังราเชนทร์ตามมาสมทบด้วยชุดนอนหมีบราวน์ พวกเขาจะต่างกอดหรัญญ์และหลับไป ไม่พูดไม่คุยเพราะไม่อยากอารมณ์เสียหลังมีเซ็กซ์แสนเยี่ยมยอด แต่วันนี้...ทั้งคีรีและราเชนทร์ต่างฝืนถ่างตา
“ฉันลองคิดดูแล้ว...” คีรีเริ่มพูดก่อน กอดหอมกลิ่นกายที่ถูสบู่ให้ด้วยตัวเองผ่านแผ่นหลังของหรัญญ์ “พรุ่งนี้ลองทำกันในห้องดูมั้ย”
ใช่ว่าคีรีจะไม่เครียด เขาเครียดหนักขนาดพูดไปยังกัดฟันไปอย่างไม่ยินยอมด้วยซ้ำ! แต่ที่หรัญญ์พูดนั้นก็ถูก พวกเขาคาดหวังให้คนรักยอมรับในความสัมพันธ์แบบสามคน แต่กระทั่งเรื่องเซ็กซ์ยังมีข้อจำกัด แล้วจะไปรอดได้ยังไง หรัญญ์ยังไม่วางใจก็ถือว่าไม่แปลก
เขาทำใจเรื่องนี้นานขนาดแอบออกไปสูบบุหรี่อยู่นอกคลับระหว่างรอหรัญญ์เลิกงานเชียวนะ!
“กลัวหมดอารมณ์ฉิบ” ราเชนทร์ไม่ตอบรับ แต่ก็แอบลังเลอยู่เหมือนกัน พวกเขาต่างอยากให้ความสัมพันธ์คืบหน้าไปกว่านี้ อย่างน้อย...ก็ต้องทำให้หรัญญ์เลิกคิดว่าจะเลิกรากันในเวลาไม่ช้านาน “หรือจะลองเล่นผีผ้าห่ม ค่อยๆ ปรับตัวกันไป?”
ห้องนอนยามปิดไฟยังมีแสงลอดจากหน้าต่างให้พอเห็นกันและกัน ไม่ได้มืดสนิทเหมือนห้องมืด ราเชนทร์คิดว่าถ้าจำลองเหตุการณ์ให้ไม่เห็นหน้าป้องกันอารมณ์เหี่ยว ก็อาจจะไปรอด
“...”
ท่ามกลางความเงียบ สองหนุ่มค่อยๆ ซุกตัวเองในผ้าห่ม จับคลุมโปง
มุมมองมืดขึ้น ดูปลอดภัยไม่เลว เสียอย่างเดียว...
“เชี่ย แบบนี้จะทำกันยังไง!”
ราเชนทร์สบถเพราะแม้จะนอนบนเตียงเดียวกัน แต่ผ้าห่มมีทั้งหมดสองผืน ของคีรีและราเชนทร์ที่แบกมาเองเพราะไม่อยากใช้ร่วมกัน ส่วนหรัญญ์นั้นแล้วแต่ว่าสองหนุ่มใครจะห่มได้ก่อนสำเร็จ บางครั้งโดนทบสองชั้นเจ้าตัวก็จะปัดออกแล้วหยิบผืนใกล้มือใช้แทน
ก้อนบนเตียงนูนๆ สองก้อนที่ไม่ทีท่าจะขยับเข้าหากันโดยมีหรัญญ์นอนหลับสนิทอยู่ตรงกลาง จะให้คืบคลานคร่อมเข้าหาทั้งสภาพแยกฝักแยกฝ่ายอย่างโจ่งแจ้งขนาดนี้ก็ออกจะแปลกๆ ถึงพวกเขาจะพอไหวแต่หรัญญ์คงโวยวายก่อนถ้าโดนจับลากเข้าไปกินตับในผ้าห่มคนละผืนสลับไปสลับมา
“...หรือว่าควรจะเริ่มจากการไปซื้อผ้าห่มผืนใหม่” คีรีพึมพำ
“ฉันจะไปซื้อกับรัญ” ราเชนทร์ถือโอกาสเตรียมทำคะแนน เชื่อเลยว่าต้องถือหางตัวเองว่าเป็นคิดวิธีปรองดองนี้ให้คนรักชมเชย
“ไม่ต้อง ฉันสั่งให้เลขาซื้อเอง”
ผ้าห่มของคีรีเป็นสีน้ำเงินเข้ม ส่วนผ้าห่มของราเชนทร์เป็นลายตารางสลับสีเขียวฟ้าเหลือง ถ้าเกิดคีรีซื้อจะต้องเลือกส่งๆ ไร้รสนิยมแน่ ราเชนทร์ไม่ชอบความเรียบง่าย อย่างน้อยก็ควรจะมีลายให้ดูมีความหมาย!
“ถ้ารัญไม่ถูกใจทำไง” เจ้าตัวเลยอ้างชื่อคนรักขึ้นมา ถ้าไปด้วยกันหรัญญ์ต้องตามใจเขาอยู่แล้ว
“หรัญญ์ไม่ใช่คนเรื่องมากกับเรื่องสีผ้าห่ม”
อันที่จริงหรัญญ์ไม่ชอบอะไรเป็นพิเศษ เจ้าตัวค่อนข้างอยู่ง่ายกินง่ายด้วยซ้ำ
“ก็บอกว่าจะไปซื้อเองไงวะ” ราเชนทร์ชักหัวเสีย ต่อหน้าคนรักเขายิ้มแย้มตลอด แต่กับคู่กัดอย่างคีรีไม่รู้จะวางท่าไปทำไม
“ฉันส่งเมลสั่งเลขาแล้ว พรุ่งนี้จะเอามาส่งให้ตอนเช้า” คีรีไม่สนใจฟัง เถียงกับราเชนทร์ก็เปลืองน้ำลายเปล่า สู้ชิงลงมือก่อนดีกว่า
“เชี่ยนี่” ราเชนทร์สบถ รีบทิ้งตัวนอนเมื่อเห็นคีรีเข้ากอดหรัญญ์เป็นการจบบทสนทนาซะงั้น เรื่องอะไรจะยอม ราเชนทร์พยายามสอดมือรองใต้ศีรษะคนรัก พยายามชิงพื้นที่ให้ตัวเอง
การต่อสู้เป็นไปอย่างเงียบสงบจนกระทั่งหรัญญ์ครางอือเพราะเหมือนร่างกายจะแยกเป็นสองท่อน
เห็นคนรักคิ้วขมวดนอนไม่สบาย ทั้งคีรีกับราเชนทร์ก็รีบยุติศึก เกรงว่าถ้าหรัญญ์ตื่นแล้วรู้ว่าพวกเขาทะเลาะเรื่องอะไรเข้า มีหวังแผนที่วางไว้ล่มตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มแน่ๆ
แต่...เอ่อ...กับแค่เรื่องผ้าห่มยังเถียงกันแทบตาย ก็ชักจะไม่แน่ใจแล้วเหมือนกันว่าเซ็กซ์ในวันพรุ่งนี้จะรอด...หรือจะล่ม
เอาเถอะ ขอแค่หรัญญ์ชมเชยเรื่องกลยุทธ์ผ้าห่มก็ถือว่าพอไหวล่ะนะ!
--------------------------------------------
แม้หนูรัญจะใจแข็งจริงๆ แต่ก็ไม่แปลกเลยที่จะคิดว่ารอดยากจนต้องยื่นคำขาด ก็ดูคีรีกับราเชนทร์ตีกันสิคะ อย่างกับเล่นตลก 5555
แต่ที่แน่ๆ ทั้งคู่อยู่สมาคม #เกลียมัว ของแท้เลย!
เพจนักเขียนที่ชักจะหมดมุกเพราะราคีเล่นกันเองไปหมดแล้ว