{{ Prince's Room }} ระวัง...เขตอันตราย!! [3P] - ตอนพิเศษ : ครบรอบ1เดือน - P.29 -
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: {{ Prince's Room }} ระวัง...เขตอันตราย!! [3P] - ตอนพิเศษ : ครบรอบ1เดือน - P.29 -  (อ่าน 262400 ครั้ง)

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ช่างเป็นความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนจริงๆ  ว่าแต่หนูรัญเป็นคนคุมเกมชิมิ   :hao3:

ออฟไลน์ Lattechan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ชอบหนูรัญจังเลยยยย มาดราชินีสุด :katai2-1:
ยังยืนยันคำเดิม
ถ้าเบื่อราคีเมื่อไหร่ให้มาหาพี่  :-[

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'
ราเชนทร์ – คีรี Part 4

สาเหตุที่คีรีนัดเคลียร์กับธาราธารที่คิงส์คลับ ไม่ใช่ว่าอยากพามายืนยันต่อหน้าหรัญญ์หรอกนะ

แต่เพราะไม่ว่ายังไงราเชนทร์ก็จะร่วมด้วยต่างหาก!!!

เดิมทีคีรีตั้งใจให้เป็นเรื่องในครอบครัว คุยตกลงกันสองคน แต่ราเชนทร์ไม่ไว้ใจ อ้างว่าถ้าเกี่ยวกับหรัญญ์ยังไงเจ้าตัวก็ต้องมีส่วนร่วม

คีรีเลยต้องตกลง

เพราะถ้าเกิดมีคนตั้งท่าจะวอแวหาเรื่องหรัญญ์ แล้วคนคนนั้นมาจากฝั่งของราเชนทร์ เขาก็คงขอให้มานั่งเคลียร์กันต่อหน้าต่อตา ไม่อยากฟังจากปากเปล่า

ก็พวกเขาดันตกที่นั่งเดียวกันแล้วนี่หว่า!

ใครจะกล้าเสี่ยงล่ะหากไม่เห็นกับตา พวกเขาต่างไม่เชื่อใจกัน กึ่งๆ จะโทษและหาเรื่องกันเองด้วยซ้ำไป ถ้าเกิดคีรีจัดการเองไม่ได้ ราเชนทร์ก็จะเข้ามายุ่งด้วยทันที ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็ต้องทำให้ปัญหามาจบ ก่อนที่จะถูกหรัญญ์ตัดสินให้จบซะก่อน

นึกแล้วก็ยังหวาดกลัวไม่หาย พวกเขาต่างคาดเดาไม่ออกว่าหรัญญ์คิดอะไรอยู่ บางครั้งเวลานิ่งเงียบทำหน้าคิดหนักก็เล่นเอาใจสั่น เพราะนั่นเป็นสัญญาณสยองที่ต่างเคยประสบกันมาแล้ว

ถ้าเกิดเริ่มเห็นลางน่าสะพรึงเมื่อไหร่ ต่อให้ราเชนทร์กับคีรีจะไม่ถูกกันแค่ไหนก็พร้อมใจจะรีบสะสางปัญหาให้เร็วที่สุด!

เพราะอะไรน่ะเหรอ

เพราะพวกเขาทั้งสามเกี่ยวโยงกันโดยไม่ขึ้นกับฐานะหรือความจำเป็นใดๆ น่ะสิ

ทุกอย่างมาจากความสัมพันธ์ทางใจล้วนๆ

ราเชนทร์รวยแค่ไหน ใช้ชีวิตสบายจนน่าอิจฉาแค่ไหน ก็รั้งหรัญญ์ไม่ได้

คีรีมีอนาคตที่รุ่งโรจน์แค่ไหน มีฐานที่มั่นคงมากจนน่าพึ่งพาเท่าไหร่ ก็รั้งหรัญญ์ไม่ได้เหมือนกัน

ตรงตามคอนเซปต์ของปริ้นส์รูม

ไม่ว่าใครก็ตาม หากอยู่ในห้องที่มืดสนิท มองไม่เห็นหน้า มองไม่เห็นอะไร ก็กลายเป็นแค่คนธรรมดาตัวเปลือยเปล่า

แม้ในห้องจะมีสัมพันธ์กันอย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่อาจรู้ว่าคู่นอนจะเปิดประตูเดินออกไปตอนไหน

เพราะมืดสนิทจึงไม่อาจรู้ เพราะมืดสนิทจึงไม่อาจไล่ตาม

ถ้าครั้งนี้หรัญญ์เลือกที่จะเลิกรากันอีก พวกเขาก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วเหมือนกัน

“แต่มีสัญญาณที่ดีนะ อย่างน้อย...รัญก็ให้เราบอกรัก”

“อืม” คีรีนั่งจิบไซด์คาร์ระหว่างรอน้องชายมาตามนัด “แล้วเขาก็บอกรักพวกเรา”

“ใช่ นั่นแหละสัญญาณที่ดี ตั้งแต่คบกันมาฉันไม่เคยได้ยินรัญบอกรักเลยสักครั้ง!”

“...ฉันก็เหมือนกัน”

สองหนุ่มชนแก้วอย่างกับเตรียมเฉลิมฉลอง ทั้งที่ยังไม่ทันเริ่มสะสางธุระเลยด้วยซ้ำ

“พวกคุณคุยอะไรกันน่ะ”

หรัญญ์ที่วันนี้วิ่งวุ่นเป็นพิเศษเพราะบาร์เทนเดอร์ลาหยุดไปหนึ่งคนเดินมาถาม นานครั้งจะเห็นคีรีและราเชนทร์ยอมนั่งด้วยกัน เอ่อ...แม้จะเว้นเก้าอี้ระหว่างกลางไว้ตัวหนึ่งก็ตาม

“เดี๋ยวธาราธารจะมา ช่วยเตรียมค็อกเทลอ่อนๆ ให้เขาด้วยนะที่รัก เอ๊ะ หรือจะเอารสแรงมอมไปเลยแล้วให้เซ็นต์สัญญาทาส”

“นั่นน้องชายฉัน”

“คุณธาราธารจะมา?” หรัญญ์มองคีรีเป็นเชิงถาม “คุณตั้งใจให้จบในวันนี้แน่ๆ ใช่มั้ยครับ”

“ใช่”

พลันคนรักของพวกเขายิ้มหวานหมดจด เป็นรอยยิ้มการค้าที่ไร้ความสิเน่หา

“ผมจะรอดู”

...มองปอยผมยาวที่สะบัดน้อยๆ ยามเจ้าตัวหันหลังเดินจากไป คีรีกับราเชนทร์ถึงกับหนาวเยือกในอกจนดื่มกันต่อไม่ลง ทั้งที่เป็นแค่ประโยคธรรมดาประโยคหนึ่ง แต่พอออกมาจากปากของหรัญญ์แล้วกลับให้ความรู้สึกราวโดนขู่ขวัญซะได้

“ตามที่ตกลงนะ ถ้าคุยกันไม่ลงตัว ฉันแทรก”

“อืม ยังไงก็ต้องเคลียร์ให้ได้”

คีรีนึกกลุ้มใจ เขารู้ว่าน้องชายคนนี้หัวรั้นอยู่ไม่น้อยเลย

ธาราธารอายุน้อยกว่าเขาสองปี เป็นน้องชายที่เรียกได้ว่าใกล้ชิดที่สุด และสนิทสนมที่สุด ตั้งแต่เด็ก คีรีก็เป็นคนขยันขันแข็ง เขาขยันอ่าน ขยันเรียนรู้ ชื่นชอบและตั้งใจที่จะแบกรับกิจการของครอบครัวเพราะถูกกรอกหูในฐานะลูกชายคนโตของสายหลักมาตลอด หรือเรียกแบบเข้าใจง่ายว่าเป็นผู้ถือหุ้นหลักนั่นเอง จึงเลือกเรียนในสายบริหารเพื่อรองรับตำแหน่งประธานบริษัทตั้งแต่อายุไม่ถึงยี่สิบ ธาราธารจึงเห็นพี่ชายเหมือนท่านผู้ยิ่งใหญ่ ปูเส้นทางตัวเองที่จะช่วยแบ่งเบาภาระ เป็นผู้ช่วยที่คอยคิดอ่านด้วยกันเสมอ

พวกเขาสองคนเพิ่งมาห่างกันตอนคีรีเรียนจบและเริ่มเข้ามาทำงานที่บริษัทอย่างจริงจัง ความกดดัน ความเครียด แตกต่างจากที่เขาเคยคิดไว้หลายเท่า คีรีเริ่มแยกตัวออกมาอยู่คอนโดคนเดียวเพื่อไปมาระหว่างบริษัทได้สะดวก ช่วงแรกคีรีจดจ่ออยู่แต่เรื่องงานไม่สนความรัก จึงหันไปบ่มเพาะกำลังกายคลุกตัวอยู่ในยิม

พอทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง คีรีที่อายุปาไปยี่สิบกว่าๆ ก็เริ่มสนใจคนรอบข้าง เขาเป็นคนหน้าตาดี มีฐานะไม่เลว ย่อมมีคนเข้าหาบ้าง แต่หากหรัญญ์ไม่ชอบกิจกรรมสังสรรค์เพราะเบื่อหน่ายที่ต้องเจอที่คลับทุกวัน คีรีเองก็ไม่ต้องการคนรักที่คร่ำวอดในธุรกิจเพราะอยากคุยเรื่องอื่นนอกจากสิ่งที่ตนเผชิญทุกวี่วันไม่ต่างกัน เขาเริ่มมองหาคนที่ถูกใจตามงานเลี้ยงงานสังคมต่างๆ มีทั้งผู้หญิงผู้ชายเข้ามาในชีวิต สำหรับคีรี เขาไม่สนเรื่องเพศเท่าไหร่นัก เหมือนกับที่มองทุกอย่างเป็นตัวเลขทางธุรกิจไปซะหมด

แต่คงเพราะมองหาจากในที่เดียวกัน เลยดันไปตกได้คู่นอนเดียวกับราเชนทร์ซะอย่างนั้น

สำหรับธาราธารที่เริ่มห่างเหินตั้งแต่สมัยวัยรุ่น จนตอนนี้คีรีอายุสามสิบแล้ว แทบไม่เคยติดต่อหรือเล่าส่วนตัวให้น้องชายฟัง ซึ่งธาราธารเองก็พอรู้ข่าวบ้างและปล่อยไปเพราะคีรีมักรักๆ เลิกๆ เป็นปกติ เพิ่งจะมาจริงจังก็พามาแนะนำตัวต่อหน้าเขาและเครือญาติ ธุรกิจของคีรีเป็นแบบส่งต่อรุ่นสู่รุ่น เลยกลายเป็นเรื่องใหญ่ว่าจะมีทายาทส่งต่อแน่หรือ

แต่คนที่ดิ้นรนก็มีแค่ธาราธาร คนอื่นออกจะสนับสนุนคีรีด้วยซ้ำไปเพราะเท่ากับว่าลูกหลานมีโอกาสจะได้ขึ้นรับตำแหน่งประธานในอนาคต ธาราธารเห็นพี่ชายเสียผลประโยชน์ แถมคนรักคนนั้นก็เป็นแค่คนธรรมดาน่าดูแคลน เลยยิ่งหัวเสียไม่ยอมรับ

ฉะนั้นธาราธารเลยมุ่งหน้ามาคิงส์คลับพร้อมเหตุผลมากมายที่จะมาบอกให้พี่ชายเปลี่ยนใจ

น่าเสียดายเพราะคีรีเองก็แทบจะร่างรายงานเขียนส่งให้ธาราธารอ่านให้เข้าใจเช่นกัน

ยังไงก็ตาม พอมีตัวกลาง...เอ่อ...ตัวแทรกอย่างราเชนทร์ ก็ทำให้บรรยากาศระหว่างพี่น้องค่อนข้างสับสนมึนงงและไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง

“กามิกาเซ่ครับ” หรัญญ์เข้ามาในตอนนั้นเอง ชายหนุ่มเสิร์ฟค็อกเทลสีฟ้าสวยสมชื่อธาราธาร ไม่รู้ว่าตั้งใจทำคะแนนหรือไม่ แต่อย่างน้อยก็สร้างความประทับใจเล็กๆ น้อยๆ ได้

ใช่ ก็แค่นิดเดียวเท่านั้นล่ะ

“อย่าแอบฟังนะรัญ” ราเชนทร์หันไปพูดกับคนรักที่ทำท่าอยากมีส่วนร่วม

“ทำไมผมถึงฟังไม่ได้ล่ะครับ”

“หรัญญ์” คีรีเอ่ยเรียก ดันแว่นขึ้นหนึ่งจุดหนึ่งองศาเพื่อเรียกสมาธิ สติ และปัญญา พวกเขาจะบอกได้ไงว่าที่กันอีกฝ่ายออกเพราะกลัวว่าถ้าการเจรจาเละ หรัญญ์จะผิดหวังและบอกเลิกในทันทีทันด่วน จริงอยู่หรอกว่าหรัญญ์ไม่ใช่คนทำตัวไร้เหตุผลขนาดนั้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ใช่มั้ยว่าบางครั้งคนรักของพวกเขานั้นแสนจะใจร้าย... “เธอตั้งใจทำงานเถอะนะ นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ไม่ต้องห่วงหรอก”

ไม่-ใช่-เรื่อง-ใหญ่-อะ-ไร!?

ราเชนทร์หัวเราะหึๆ ขณะหยิบมาตินี่ดื่มย้อมใจ ส่วนคีรีเองก็บีบแก้วแน่นแม้จะพยายามตีหน้าเฉย

ตั้งแต่อยู่กับหรัญญ์เรื่องเล็กเรื่องน้อยแค่ไหนก็ดูจะยิ่งใหญ่สำหรับพวกเขาทั้งนั้น!

หรัญญ์มองอย่างลังเลครู่หนึ่ง แต่พอได้ยินเพื่อนสนิทเรียกให้ช่วยหยิบของก็หันกลับ และไม่คิดจะเดินเข้ามาวนเวียนในบริเวณนี้อีก เล่นเอาต่างคนต่างโล่งใจไปตามๆ กัน

เป็นครั้งแรกที่ธาราธารเห็นพี่ชายผู้แสนจะเก่งกาจประหม่าขนาดนี้

“เอาล่ะ” แต่เพียงพริบตาเดียว คีรีก็กลับกลายเป็นท่าประธานน่าเกรงขามในบัดดล “ธาร พี่บอกแล้วว่าห้ามยุ่งกับหรัญญ์ ทำไมถึงไม่ทำตามคำสัญญา”

ถ้าหรัญญ์มาได้ยินคงไม่วายสวนกลับว่า ก็พอกันทั้งพี่ทั้งน้องละวะ!

“พี่จะไม่ให้ผมยุ่งเลยได้ยังไงในเมื่อมันไม่ใช่เรื่องของพี่คนเดียว ทุกคนเองก็พูดถึงเรื่องนี้ ถ้าพี่มีแฟนเป็นผู้ชาย...แล้วใครจะรับตำแหน่งต่อจากพี่” ธาราธารรีบเข้าเรื่องสำคัญทันที แต่...

“เรื่องแค่นี้เองเหรอ...”

เรื่องแค่นี้เอง?

ธาราธารอ้าปากค้างจนแมลงวันบินเข้าไปห้าตัว

“เราเป็นพี่น้องกันนะธาร ไม่ใช่ลูกของพี่คนเดียวถึงจะได้ตำแหน่งนั้นไปสักหน่อย ลูกของนายเองก็...”

“ผมมีหน้าที่แค่สนับสนุนพี่ ไม่ได้หวังตำแหน่งประธานอะไรสักหน่อย!”

เสียงที่ไม่เบาทำให้ราเชนทร์ร้องจุ๊ๆ ขึ้นมาเพราะเกรงว่าหรัญญ์จะได้ยิน นี่ก็เหลือบมองหลายทีแล้ว เสียวสันหลังเหลือเกิน

“งั้นหลังพี่ตายก็ปล่อยให้คนที่อยากได้ไปแล้วกัน พี่ไม่ว่างขนาดมาคิดเผื่อคนอื่นหรอก ถ้านายไม่มีลูกหรือถ้ามีแล้วแต่ยังไม่อยากได้ ก็ยกหุ้นให้คนอื่นเถอะ ได้ชื่อว่าเป็นของนามสกุลเดียวกัน พี่ไม่มีปัญหา”

ธาราธารอ้าปากค้าง แมลงวันบินวนเวียนร่วมสิบตัวเข้าไปแล้ว

ฟังพี่ชายพูดตัดเยื่อใยก็คล้ายกับว่าบ้าบอไปเองชอบกล เหมือนต่อยใส่กระสอบทรายยังไงยังงั้น

“แล้ว...พี่รู้รึยังว่าคนรักของพี่น่ะมีปัญหา” ธาราธารหันมาถลึงตาใส่ราเชนทร์ที่นั่งทำหน้าเบื่อเป็นระยะระหว่างฟังที่พี่น้องถกเถียงเรื่องบริษัทที่ไม่น่าสนใจเลยสักนิด “เขาคบซ้อน!”

เมื่อเผยไพ่ตายสุดท้าย ธาราธารก็รอดูความโกรธเกรี้ยวของคีรีที่อาจจะลุกมาต่อยราเชนทร์ให้น่วม แต่...

“ใช่ เราคบกันแบบสามคน”

ธาราธารอยากจะเอาหัวโขกโต๊ะซะเอง!

“ไม่คาใจกันแล้วนะธาร เรื่องตำแหน่งประธานพี่ไม่มีปัญหา ใครจะมารับช่วงต่อก็ตามสบาย ส่วนเรื่องคบกันสามคนก็เป็นข้อตกลงของพวกเราเอง เป็นเรื่องส่วนตัว คงเข้าใจใช่มั้ย”

ธาราธารอ้าปากพะงาบๆ อยากจะแย้ง แต่สติปลิวหายตั้งแต่พี่ชายยอมรับหน้าตาเฉยว่าคบกันแบบสามคน

เฮ้ยๆ! นี่มันไม่ใช่เรื่องปกตินะ!!


“ถ้ามีคำถามก็มาหาพี่แล้วกัน แต่อย่ายุ่งกับหรัญญ์อีก”

“แล้วพี่คิดจะให้เขามายุ่งกับธุรกิจครอบครัวของเรามั้ย ถ้ายืนยันว่าเขาเป็นคนรักของพี่ ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเราสิ และถ้าเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ทุกคนจะต้องช่วยกันประคับประคองให้ยิ่งพัฒนาต่อไป” ธาราธารยังไม่ถึงกับถอดใจซะทีเดียว มุ่งมั่นว่าหากพี่ชายตอบว่าใช่ เขาก็พร้อมจะบรรยายว่าบาร์เทนเดอร์ที่สักแต่ชงเครื่องดื่มนั่งโปรยเสน่ห์ใส่ลูกค้าไปวันๆ อย่างหรัญญ์นั้นมีแต่จะทำให้ล่มจม! แล้วยังจะใส่ไฟว่าเป็นเพราะคีรีรวยจนน่าเกาะขานั่นแหละถึงได้โดนหลอก!

เอ่อ...แต่ธาราธารคงลืมไปว่าคีรีก็ไม่ใช่คนหัวอ่อนขนาดดูไม่ออกว่าใครเข้าหาอย่างหวังผล

และแน่นอน คำตอบของคำถามนั้นคือ...

“ไม่ หรัญญ์ไม่สนใจเรื่องพรรค์นี้หรอก”

ริมฝีปากบนของธาราธารค่อยๆ ประกบติดกับริมฝีปากล่าง และแทบจะเย็บติดกันแนบสนิทอย่างจนคำพูด

ธุรกิจที่ได้รับการปลูกฝังให้รับช่วงต่อแต่เด็ก ทั้งชีวิตและการเรียนทั้งหมดล้วนทุ่มเทมากับสิ่งนี้ แบกรับภาระและตั้งใจทำให้ดียิ่งกว่าใคร แต่กลายเป็น ‘เรื่องพรรค์นี้’ ที่ไม่ยักสลักสำคัญอะไรเลยกับบาร์เทนเดอร์ธรรมดาคนหนึ่งเนี่ยนะ!?

แม้ไม่ใช่กฎของครอบครัว แต่สะใภ้หรือลูกเขยที่แต่งเข้ามานั้นล้วนลงทุนในธุรกิจอสังหาฯเดียวกันอย่างเต็มใจ บางรายถึงขั้นเสนอหน้าเข้าหาด้วยซ้ำ มันจึงเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปแล้วว่าถ้าได้ชื่อว่าเป็นคนรัก เป็นสามีภรรยา จะถือเป็นผู้ถือหุ้นหรือมีอำนาจในการก่อร่างสร้างตัว

แต่น่าเสียดาย....

บางครั้งคนเราก็ไม่ได้จะคิดในทางเดียวกันหรืออยู่ในโลกเดียวกันเสมอไป สิ่งที่หลายคนคิดว่ามันคือโอกาสล้ำค่าที่คว้าให้อยู่หมัดอาจเป็นแค่ลมพัดผ่านสำหรับใครบางคนก็ได้

พวกเขาตกลงกันได้ง่ายอย่างรวดเร็ว

ธาราธารที่ลุกขึ้นยืนโงนเงนเหมือนยังประมวลผลไม่ทันแทบจะกลิ้งตกบันไดคิงส์คลับยามลาจาก

“จะย้อนกลับมามั้ย” ราเชนทร์ยังไม่ไว้ใจ เท่าที่ฟังธาราธารค่อนข้างห่วงเรื่องผลประโยชน์ในตระกูลแบบตายเอาดาบหน้าเลยทีเดียว

“ไม่หรอก ถ้าแยกหรัญญ์ออกจากเรื่องผลประโยชร์ภายในแล้วก็ไม่น่ามีปัญหา”

“หึ ใครใช้ให้นายพาไปเปิดตัวในงานไฮโซอย่างนั้นล่ะ ใครเห็นก็ต้องคิดว่าจะดึงเข้ามาร่วมด้วยน่ะสิ”

“ก็ครอบครัวฉันต่างคนต่างแยกย้ายกระจัดกระจาย จะให้เจอหน้าก็ต้องในงานเลี้ยงอย่างเดียว ให้รู้ๆ กันไปเลยว่าฉันไม่คิดมีลูก จะได้เตรียมตัวกันไว้แน่เนิ่นๆ”

“อ้อ ให้ไปฟัดกันลับหลังเอาเอง?”

“ให้เตรียมแผนสำรองไว้ต่างหาก” สองหนุ่มคุยกันด้วยความรู้สึกคล้ายยกก้อนหินลงไปอีกก้อน พอสะสางปัญหาเรื่องนี้ได้ต่างก็โล่งอกโล่งใจขึ้นมาเยอะ และเริ่มคิดว่าคืนนี้จะขอตบรางวัลกับคนรักให้อิ่มเปรม

คีรีคิดคำนวณถึงถุงยางแบบบางเฉียบ จะได้สัมผัสอย่างไหนกันนะเวลาสอดใส่ในตัวหรัญญ์

ส่วนราเชนทร์นั้นคิดลึกไปถึงไหนต่อไหนแล้ว แต่เป็นอันต้องชะงักงันเมื่อเห็นภาพไม่น่าดู

เพื่อนสนิทที่ชื่อแมนนั่นบังอาจจับหน้าหรัญญ์ให้เข้าใกล้แถมยังโน้มตัวจับผมแสนนุ่มสลวยที่เขาเฝ้าดมดอมทุกคืนวัน!

“ใกล้ไปแล้ว...” คีรีพึมพำ

“ใช่ ใกล้ไปแล้ว” ราเชนทร์กัดฟันกรอดแม้จะคงรอยยิ้มบนใบหน้า ในตอนนั้นเองที่พวกเขาตะโกนขึ้นเกือบจะพร้อมๆ กัน

“รัญ!”

“หรัญญ์!”

เจ้าของชื่อหันมาทำหน้างุนงง เพิ่งสังเกตเอาตอนนี้ว่าธาราธารกลับไปแล้ว

ตอนแรกล่ะเหลือบมองแล้วเหลือบมองอีก แต่พอคลาดสายตาหน่อยเดียวก็หันไปจู๋จี๋กับเพื่อนร่วมงานซะได้!

แน่นอนว่าคีรีกับราเชนทร์รู้แก่ใจว่าหรัญญ์ไม่ได้คิดลึกซึ้งกับแมน แต่ไอ้นิสัยยั่วแบบไม่รู้ตัวมันน่าวางใจซะที่ไหนกัน!! ต่อให้เป็นเพื่อนสนิทพวกเขาก็ไม่ชอบให้คนรักใกล้ชิดกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเพศผู้หรอกน่า!!!




คืนนั้นคีรีย่ามใจกับถุงยางบางเฉียบ

พอๆ กับราเชนทร์ทที่มีความมาดมั่นกับถุงยางผิวขรุขระมีปุ่มสะท้านทรวง

ในความมืดที่พวกเขาต่างบรรเลงเพลงรักอย่างไม่มีใครยอมใคร หลังผลัดกันคนละสามยกหรัญญ์ก็ยกธงขาวยอมแพ้
นี่คงเป็นลิมิตของคนรักแล้ว

ราเชนทร์กับคีรีพากันควานหาถุงยางที่ซุกตามซอกออกไปทิ้งเพื่อทำลายหลักฐาน ทั้งคู่ยังกระหยิ่มยิ้มย่องไม่ได้รู้เลยว่าต่างฝ่ายต่างโดนหรัญญ์ปั่นหัว

คีรีเข้าห้องน้ำเพื่อเตรียมน้ำอุ่น ส่วนราเชนทร์เป็นคนอุ้มหรัญญ์ที่ตัวอ่อนระทวยน่าทะนุถนอมนอนพิงอ่าง ต้องขอบคุณกับนิสัยฟุ้งเฟ้อรักสบาย เพราะอ่างน้ำในห้องนี้สามารถแช่ตัวแบบสามคนได้สบายๆ

หรัญญ์ที่ถูกนวดเฟ้นคลายเมื่อยเคลิ้มจนหลับไปก่อนเหมือนทุกวัน คีรีช่วยเช็ดตัวและสวมชุดนอนให้ด้วยความรักใคร่ ก่อนจะเป็นฝ่ายอุ้มคนรักไปนอนบนเตียงโดยทิ้งให้คุณชายท่ามากทาโลชั่นดูแลตัวเองให้เต็มที่

ปกติแล้วหลังราเชนทร์ตามมาสมทบด้วยชุดนอนหมีบราวน์ พวกเขาจะต่างกอดหรัญญ์และหลับไป ไม่พูดไม่คุยเพราะไม่อยากอารมณ์เสียหลังมีเซ็กซ์แสนเยี่ยมยอด แต่วันนี้...ทั้งคีรีและราเชนทร์ต่างฝืนถ่างตา

“ฉันลองคิดดูแล้ว...” คีรีเริ่มพูดก่อน กอดหอมกลิ่นกายที่ถูสบู่ให้ด้วยตัวเองผ่านแผ่นหลังของหรัญญ์ “พรุ่งนี้ลองทำกันในห้องดูมั้ย”

ใช่ว่าคีรีจะไม่เครียด เขาเครียดหนักขนาดพูดไปยังกัดฟันไปอย่างไม่ยินยอมด้วยซ้ำ! แต่ที่หรัญญ์พูดนั้นก็ถูก พวกเขาคาดหวังให้คนรักยอมรับในความสัมพันธ์แบบสามคน แต่กระทั่งเรื่องเซ็กซ์ยังมีข้อจำกัด แล้วจะไปรอดได้ยังไง หรัญญ์ยังไม่วางใจก็ถือว่าไม่แปลก

เขาทำใจเรื่องนี้นานขนาดแอบออกไปสูบบุหรี่อยู่นอกคลับระหว่างรอหรัญญ์เลิกงานเชียวนะ!

“กลัวหมดอารมณ์ฉิบ” ราเชนทร์ไม่ตอบรับ แต่ก็แอบลังเลอยู่เหมือนกัน พวกเขาต่างอยากให้ความสัมพันธ์คืบหน้าไปกว่านี้ อย่างน้อย...ก็ต้องทำให้หรัญญ์เลิกคิดว่าจะเลิกรากันในเวลาไม่ช้านาน “หรือจะลองเล่นผีผ้าห่ม ค่อยๆ ปรับตัวกันไป?”

ห้องนอนยามปิดไฟยังมีแสงลอดจากหน้าต่างให้พอเห็นกันและกัน ไม่ได้มืดสนิทเหมือนห้องมืด ราเชนทร์คิดว่าถ้าจำลองเหตุการณ์ให้ไม่เห็นหน้าป้องกันอารมณ์เหี่ยว ก็อาจจะไปรอด

“...”

ท่ามกลางความเงียบ สองหนุ่มค่อยๆ ซุกตัวเองในผ้าห่ม จับคลุมโปง

มุมมองมืดขึ้น ดูปลอดภัยไม่เลว เสียอย่างเดียว...

“เชี่ย แบบนี้จะทำกันยังไง!”

ราเชนทร์สบถเพราะแม้จะนอนบนเตียงเดียวกัน แต่ผ้าห่มมีทั้งหมดสองผืน ของคีรีและราเชนทร์ที่แบกมาเองเพราะไม่อยากใช้ร่วมกัน ส่วนหรัญญ์นั้นแล้วแต่ว่าสองหนุ่มใครจะห่มได้ก่อนสำเร็จ บางครั้งโดนทบสองชั้นเจ้าตัวก็จะปัดออกแล้วหยิบผืนใกล้มือใช้แทน

ก้อนบนเตียงนูนๆ สองก้อนที่ไม่ทีท่าจะขยับเข้าหากันโดยมีหรัญญ์นอนหลับสนิทอยู่ตรงกลาง จะให้คืบคลานคร่อมเข้าหาทั้งสภาพแยกฝักแยกฝ่ายอย่างโจ่งแจ้งขนาดนี้ก็ออกจะแปลกๆ ถึงพวกเขาจะพอไหวแต่หรัญญ์คงโวยวายก่อนถ้าโดนจับลากเข้าไปกินตับในผ้าห่มคนละผืนสลับไปสลับมา

“...หรือว่าควรจะเริ่มจากการไปซื้อผ้าห่มผืนใหม่” คีรีพึมพำ

“ฉันจะไปซื้อกับรัญ” ราเชนทร์ถือโอกาสเตรียมทำคะแนน เชื่อเลยว่าต้องถือหางตัวเองว่าเป็นคิดวิธีปรองดองนี้ให้คนรักชมเชย

“ไม่ต้อง ฉันสั่งให้เลขาซื้อเอง”

ผ้าห่มของคีรีเป็นสีน้ำเงินเข้ม ส่วนผ้าห่มของราเชนทร์เป็นลายตารางสลับสีเขียวฟ้าเหลือง ถ้าเกิดคีรีซื้อจะต้องเลือกส่งๆ ไร้รสนิยมแน่ ราเชนทร์ไม่ชอบความเรียบง่าย อย่างน้อยก็ควรจะมีลายให้ดูมีความหมาย!

“ถ้ารัญไม่ถูกใจทำไง” เจ้าตัวเลยอ้างชื่อคนรักขึ้นมา ถ้าไปด้วยกันหรัญญ์ต้องตามใจเขาอยู่แล้ว

“หรัญญ์ไม่ใช่คนเรื่องมากกับเรื่องสีผ้าห่ม”

อันที่จริงหรัญญ์ไม่ชอบอะไรเป็นพิเศษ เจ้าตัวค่อนข้างอยู่ง่ายกินง่ายด้วยซ้ำ

“ก็บอกว่าจะไปซื้อเองไงวะ” ราเชนทร์ชักหัวเสีย ต่อหน้าคนรักเขายิ้มแย้มตลอด แต่กับคู่กัดอย่างคีรีไม่รู้จะวางท่าไปทำไม

“ฉันส่งเมลสั่งเลขาแล้ว พรุ่งนี้จะเอามาส่งให้ตอนเช้า” คีรีไม่สนใจฟัง เถียงกับราเชนทร์ก็เปลืองน้ำลายเปล่า สู้ชิงลงมือก่อนดีกว่า

“เชี่ยนี่” ราเชนทร์สบถ รีบทิ้งตัวนอนเมื่อเห็นคีรีเข้ากอดหรัญญ์เป็นการจบบทสนทนาซะงั้น เรื่องอะไรจะยอม ราเชนทร์พยายามสอดมือรองใต้ศีรษะคนรัก พยายามชิงพื้นที่ให้ตัวเอง

การต่อสู้เป็นไปอย่างเงียบสงบจนกระทั่งหรัญญ์ครางอือเพราะเหมือนร่างกายจะแยกเป็นสองท่อน

เห็นคนรักคิ้วขมวดนอนไม่สบาย ทั้งคีรีกับราเชนทร์ก็รีบยุติศึก เกรงว่าถ้าหรัญญ์ตื่นแล้วรู้ว่าพวกเขาทะเลาะเรื่องอะไรเข้า มีหวังแผนที่วางไว้ล่มตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มแน่ๆ

แต่...เอ่อ...กับแค่เรื่องผ้าห่มยังเถียงกันแทบตาย ก็ชักจะไม่แน่ใจแล้วเหมือนกันว่าเซ็กซ์ในวันพรุ่งนี้จะรอด...หรือจะล่ม

เอาเถอะ ขอแค่หรัญญ์ชมเชยเรื่องกลยุทธ์ผ้าห่มก็ถือว่าพอไหวล่ะนะ!



--------------------------------------------
แม้หนูรัญจะใจแข็งจริงๆ แต่ก็ไม่แปลกเลยที่จะคิดว่ารอดยากจนต้องยื่นคำขาด ก็ดูคีรีกับราเชนทร์ตีกันสิคะ อย่างกับเล่นตลก 5555
แต่ที่แน่ๆ ทั้งคู่อยู่สมาคม #เกลียมัว ของแท้เลย!

เพจนักเขียนที่ชักจะหมดมุกเพราะราคีเล่นกันเองไปหมดแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-12-2016 19:10:59 โดย มาจะกล่าวบทไป »

ออฟไลน์ Minty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
รัญต้องดีใจแน่ๆ ที่ไม่ต้องทำในห้องมืดแล้ว

หวังว่าสองคนนั้นจะยุติศึกใต้ร่มผ้าได้ :hao7:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :katai2-1:   โถ่วว ตัวประกอบหน้าเลืดได้เสพรสชาติกามิกาเซ่รึยังน่ะหรือมัวแต่ทำปากพงาบๆแล้วเดินกลับไป 5555
น้องรัญจ๋า จะฟิตไปไหนเนี่ย วันละหกรอบของรุก. ถถถถ ยังต้องทำงานตอนค่ำอีก สงสารจริงๆเคะราชินีของเรา
ยังคงยืนยันนะว่าผ้าปิดตา เทคไทกับกุญแจมือนี่ช่วยได้แน่นอน สว่างๆสิดี น้องรัญจะได้เปล่งประกาย
ราคีปิดตาก้อดีนะ ปล่อยน้องรัญเป็นคนนำก้อจบ ฮี่ๆๆๆ

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
ตั้งกล้องรอดูเรือสิว่าพรุ่งนี้พายุจะมาน้ำจะนอง หรือเรือจะล่ม 555

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
 :hao6: จะรอดหรือจะล่มกันนะ ในส่วนของตัวนีกอ่านนั้นเชียร์ให้รอด  :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ผีผ้าห่มจะรอดมั้ย ท่าทางผ้าห่มกี่ผืนก็คงเอาไม่อยู่ จะให้ดีคงต้องผ้าเต๊นท์ล่ะมั้ง 5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ flimflam

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
ขอให้ยุทธการผีผ้าห่มสำเร็จด้วยดีนะคะทั้งสองคน 5555555555555555

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
ตลกกกกมากกกก
กลัวเมียกันจริงจริ๊งง 2 คนนี้

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :z1: ขำจริง ๆ กับความคิดของราคีเนี่ย เป็นอะไรที่ขัดแย้งกันกระทั่งเรื่องผ้าห่ม เนี่ยน่ะ  :hao4: เธอจะเด็กไปไหนจ้ะ ลองลุ้นตอนหน้าว่าจะรอดไหม กลัวหมดอารมณ์เรอะ ไม่ใช่ว่ามีอารมณ์มากกว่าเดิมน่ะ  :z1:

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
เถียงกันทุกเรื่อง ไม่เว้นแม้แต่เรื่องผ้าห่ม  :mew5:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ราชาราเชนทร์ ท่านประธานคีรี
เอิ่ม......กลัวเมีย ชอบบบบบ  :ling1: :ling1: :ling1:
ดูท่ารัญ ดุมากๆเลย แค่ทำหน้าครุ่นคิด
สองผัวก็หนาวๆร้อนๆซะแล้ว  กร๊ากกกกก ชอบบบบ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
บอกธาราธารไปเล้ยยยย
รัญ ชอบอยู่แบบพอเพียงสามคน
เรื่องธุรกิจ ความก้าวหน้า เงินทอง รัญไม่แคร์......
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
น่าหนักใจแทนราคีกะเชื้อราจริงๆ จะปรองดองหรือจะแข่งกันมัดใจน้องรัญดี 555

แต่น้องรัญคนอึด ยังงัยก็จัดการได้ช่ายปะ   :hao7:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
รัญ ราชินีตัวจริงแท้

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2

ออฟไลน์ ชมพูพาล

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
มีความหวง มีความหึง และมีความหื่น
น่ารักดีนะสองคนนี้ 5555  :katai5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
หมั่นไส้อิตาเชื้อราจริงๆ ยังไงเราก็อยู่ทีมคีรีขันอะ ส่วนจะจัดสามพีในห้องสว่างนี่ไม่เห็นต้องเครียดเลยและมุ่งความสนใจไปที่รัญญ์คนเดียวก็พอแล้ว

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 :mew5: แค่ผ้าห่มนี่นะ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Fragrant

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
ทำไมเราขำ เรื่องเล็กๆของเราแต่มันเป็นเรื่องใหญ่จริงๆสำหรับสองคนนี้  :pigha2:

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
ไม่มีใครยอมใครเลยจริงๆ  :katai4:
จะเป็นยังไงบ้างพรุ่งนี้ อยากรู้ซะแล้ว

ออฟไลน์ johari317

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ฮรออลลลล ตามทันแล้วววว
อ่านปุ๊บบติดปั๊บ ติดยาวว ฮืออออออ มีความลุ้น มีความเรียกเลือด มีความไม่ยอมกัน ตั้งหน้าตั้งตารอค่ะะะะ

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
กร๊ากกกกกกกกก ฮาไปอี๊กกกกก

ออฟไลน์ fukuroki

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เหมือนเด็กแย่งของเล่นจริงๆ ตอนแรกเหมือนเคมีไม่ลงตัว ตอนนี้หรอ อะไรที่ลงตัวกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
ชอบๆมากค่ะ ติดตามๆอีกเรื่อง
#ทีมนู่รัญ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ทะเลาะกันได้ทุกเรื่องจริงๆแม้แต่เรื่องผ้าห่ม

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'
ตอนที่ 16 : เล่นละคร


เสียงกุกกักผสมถกเถียงทำให้ผมฝืนลืมตาทั้งที่ยังง่วงงุน

ไฟห้องถูกเปิดสว่างจ้า เล่นเอาปรับสายตาไม่ทันจนต้องหรี่ตามองเงาร่างสองคนที่ยืนคุยอยู่หน้าประตู

“ว่าแล้วต้องเป็นผ้าห่มเห่ยๆ” เงาคนทางซ้ายพูดค่อนแคะเหน็บแนมไม่ไว้หน้า

“ซื้อแล้วก็ต้องใ...อ้าว หรัญญ์ อรุณสวัสดิ์” เงาคนทางขวายืนยันความตั้งใจ ก่อนจะหันมาหาผมและเดินเข้าใกล้ ในมือของคนคนนั้นคือผ้านวมหอบใหญ่ที่เล่นเอาเกือบบังหน้าตัวเอง

“...พวกคุณทำอะไรน่ะ”

คราวนี้ราเชนทร์ที่ทำทียืนขวางหน้าประตูก็รีบปราดมายืนประกบพร้อมยิ้มสดใสจนตาพร่า

“ผ้าห่มผืนใหม่ของพวกเราไงจ๊ะรัญจ๋า”

ผ้าห่มผืนใหม่...ของพวกเรา?

“ฉัน...กับราเชนทร์คิดว่าควรจะหันมาสมานฉันท์โดยการใช้ผ้าห่มผืนเดียวกันน่ะ” คีรีตอบผมพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นราวบอกให้วางใจ อีกไม่นานพวกเราจะปรองดองกันได้ ขอให้ผมเตรียมตัวเตรียมใจไว้เป็นพอ “เธอชอบมั้ย”

เอ่อ...บอกตรงๆ เลยแล้วกันว่าผมค่อนข้างทึ่ง แต่ก็ยังพอมีสติจะก้มดูผ้าห่มสีครีมไข่ไก่ผืนใหญ่ที่คลี่วางบนเตียงคล้ายอยากได้รับคำชมเชย

“ดีครับ”

สีแบบนี้เวลาเลอะเทอะเปรอะเปื้อนคงจะกลืนกันดี

พูดจบก็คล้ายจะเห็นคีรีและราเชนทร์ปะทะสายตากลางอากาศอยู่ครู่หนึ่ง นี่คือปรองดองกันแล้ว...ใช่มั้ย

“พวกคุณลงไปซื้อด้วยกันแต่เช้าเลยเหรอ”

“จะเป็นแบบนั้นได้ยังไง ฉันอยากจะไปกับนายแค่สองต่อสองเท่านั้นแหละ” ราเชนทร์สะดุ้งรีบพูดแก้ตัวทั้งรอยยิ้มเอาอกเอาใจ ดูจากสภาพชุดนอนหมีบราวน์แล้วคาดว่าคงเป็นความจริงเพราะเขาคงไม่กล้าเดินลงไปโทงๆ ทั้งที่เวลาออกจากบ้านแต่ละทีต้องแต่งองค์ทรงเครื่องนับครึ่งชั่วโมง

“ฉันให้เลขาช่วยติดต่อแทนน่ะ นี่ก็ปั่นแห้งมาแล้ว ใช้ได้ทันที” คีรีตอบ ไม่สนใจกับคู่กรณีราวกับว่าราเชนทร์เป็นอากาศธาตุ “เธอชอบก็ดีแล้ว”

“...อย่าบอกนะว่าพวกคุณคิดจะทำกับผมในผ้าห่มน่ะ”

รอยยิ้มของทั้งคู่แข็งค้างในบัดดล

อะฮ้า ว่าแล้วเชียว กัดกันขนาดนี้จะไปปรองดองได้ยังไง ขนาดคุยกันยังไม่มองหน้า แซะกันเองขนาดนี้ ถ้าไม่เพราะเรื่องบนเตียงมีหรือจะยอมลุกขึ้นมาปฏิวัติ

“ไม่ได้เหรอ” คีรีใจกล้าไม่เบา ตั้งสติได้ไวกว่าราเชนทร์ซะอีก

“มันก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้...” แต่ผมคิดว่าน่าจะไม่รอด “คุณจะไปทำงานเลยรึเปล่าครับ”

ผมเปลี่ยนเรื่อง มองคนในชุดทำงานเต็มยศแล้วตาวาว นานครั้งจะตื่นทันเห็นคีรีในสภาพสดใหม่ เอ่อ...หมายถึงเพิ่งแต่งตัวหอมกลิ่นโคโลนจ์อ่อนๆ ผมหวีเรียบดูทรงภูมิ สูทสีดำขับอีกฝ่ายให้ดูโดดเด่นน่าจับตา

“ใช่”

“งั้นผมไปส่งหน้าประตูแล้วกัน”

ผมลุกจากเตียงช่วยส่งกระเป๋าทำงานให้คีรีแล้วตามไปหน้าประตู สีหน้าของท่านประธานพลันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงานสดชื่นสดใสมีชีวิตชีวาจนพลอยยิ้มตามไปด้วย ผมแกล้งทำเป็นช่วยจัดปมเนคไทแม้จะเนี้ยบอยู่แล้วพลางหอมแก้มเขาเบาๆ

“เดินทางดีๆ นะครับ”

คีรีมองผมตาหวาน ก้มหน้าจูบหน้าผากแล้วค่อยเดินออกไป

เป็นอะไรที่รู้สึกดีอยู่เหมือนกัน ผมไม่เคยทำแบบนี้กับแฟนคนไหนเลย เพราะกับราเชนทร์เอง...

อ้าว ราเชนทร์นอนติดเตียง งอนตุ้บป่องไปแล้ว

ผมเข้าไปดึงผ้าห่มลายตารางของเขาออก ก่อนจะนำผ้าห่มผืนใหม่กลิ่นหอมฉุยคลุมแทน

“มานอนด้วยกันสิรัญ” ราเชนทร์เหมือนจะไม่พอใจสักเท่าไหร่ คงเพราะลายผ้าไม่ถูกสเปค พอเห็นผมเอามาใช้งานทันทีก็พูดต่อไปออก ได้แต่รักษาหน้าตัวเองโดยการดึงผมไปนอนข้างกัน “วันนี้ถุงยางแบบไหนดี”

เข้าเรื่องหื่นกามอีกแล้ว ผมไม่ตอบ พอโดนจับซุกในอ้อมกอดก็ง่วงงุน หลับสนิทต่อทันทีเพราะเมื่อคืนโดนหนักพอตัว

คืออย่างนี้ครับ...ที่พวกผมให้เขาสลับถุงยางกันไม่ใช่ว่านึกพิเรนทร์หรอกนะ แต่ผมไตร่ตรองแล้ว เพราะคีรีค่อนข้างเน้นเรื่องการโหมแรงมาทั้งตัว เขาใช้ถุงยางแบบมีปุ่มแล้วเสี่ยงทำให้ผมเจ็บตัว แถมยังทำให้ร่างกายต้องปรับตัวหนักด้วย ส่วนราเชนทร์เป็นคนโรคจิตที่มีความรู้สึกอยากจะเซ็กซ์ได้ตลอดทั้งวัน ถุงยางแบบไม่แนบเนื้อแนบชิดมากนั้นอาจจะช่วยลดความต้องการของเขาลงมาได้

ผลน่ะเหรอ

แทบจะไม่ช่วยอะไรเลย!

คีรีก็ยังโหมแรงหนักจนโดนเบรกเป็นระยะ ส่วนราเชนทร์เองก็ตะกละตะกลามร้องขออีกรอบๆ เหมือนเดิม!

สรุปแล้วจะใช้ถุงยางแบบไหนก็ตามสบายเถอะ ผมยกธงยอมแพ้





ตื่นมาอีกครั้งในช่วงสาย พวกเราไปบ้านของราเชนทร์

บรรดาคนรับใช้ค่อนข้างดีอกดีใจ คงเพราะนับตั้งแต่คบกับผม ราเชนทร์ก็แทบไม่ได้กลับบ้านกลับช่องเลย แถมพอเริ่มมาแล้วก็ดันเว้นช่วงไปหนึ่งวันจนชวนใจหาย พ่อครัวคงจะเหงาน่าดู เลยจัดมื้ออาหารชุดใหญ่ที่เล่นเอากินไม่หมด แถมยังตบท้ายด้วยของหวานที่ผมต้องบอกปัดเพราะกลัวจะจุกซะก่อน ตอนจับมือกันมาที่สระ พวกแม่บ้านก็คอยปรนนิบัติราเชนทร์ ดึงเสื้อคลุมคลี่กาง ทาครีมกันแดด บีบๆ นวดๆ ไม่ให้เป็นตะคริว แสดงออกถึงความรักใคร่คิดถึงเป็นอย่างมาก

ผมที่นั่งทาครีมคนเดียวอย่างสันโดษรู้สึกเหมือนไปแย่งคนสำคัญจากพวกเธอชอบกล

แต่คุณชายน้อยคงจะเป็นที่รักน่าดูเพราะเสียผู้ปกครองไปตั้งแต่ยังเด็ก คนที่คอยชุบเลี้ยงเอาใจใส่ดูแลก็มีแต่บรรดาคนรับใช้ในบ้าน ต่อให้ราเชนทร์จะเกเรนิสัยเสียแค่ไหน พวกเธอและพวกเขาก็คงมองว่าเป็นอาการดื้อรั้นที่น่ารักแทบขาดใจ

หลังสอบถามว่าอยากได้อะไรเพิ่มเติมอีกมั้ย ราเชนทร์ก็บอกปัดและโบกมือไล่ให้ถอยห่างออกไปเพราะเตรียมจู๋จี๋กับผม ไม่วายตัดพ้อที่ผมทาครีมกันแดดโดยไม่รอให้เขาช่วย ผมมองกลุ่มแม่บ้านปลีกตัวออกไปก็พาลงสระเตรียมตัว แต่พอเว้นไปหนึ่งวัน ผมดันลอยตัวไม่รอดซะงั้น

ราเชนทร์หัวเราะชอบใจเวลาผมร้องขอให้ช่วยอุ้ม แอบแกล้งหยอกทำเหมือนจะหลุดมือให้หวาดเสียวเล่น ไอ้บ้านี่คงชอบให้ผมด่าสินะ

ไม่รู้ว่าสบายใจเรื่องผ้าห่ม หรือเรื่องธาราธารที่เคลียร์เสร็จ เขาถึงได้ขยันหยอกผมนัก

“คุณชายค่ะ คุณหญิงสมใจมาขอพบค่ะ”

“ให้รอไปก่อน”

“แต่...”

“ไปเถอะครับ” มาได้จังหวะชะมัด เพราะผมกำลังหมั่นไส้อยากจะเตะราเชนทร์ไปไกลๆ พอดี เห็นเขาทำหน้ายียวนไปมาตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง บอกตรงๆ ว่าผมเองก็นึกอยากจะยกเข่าลอยเสยใส่ดูสักทีเหมือนกัน “ไปให้นานๆ ด้วย”

“ใจร้ายจังรัญ” ราเชนทร์กุมอกทำหน้าเจ็บปวดเสแสร้ง ก่อนจะมาจูบหน้าผากผมซ้ำรอยกับคีรีเมื่อเช้า และลูบแปะๆ อีกสองที “ฉันจะรีบกลับมา”

“ไปให้นานๆ นะครับ” ผมย้ำโดยมีเสียงหัวเราะไล่หลัง

พอเหลือคนเดียวก็ค่อยเป็นส่วนตัวขึ้นมาหน่อย พวกแม่บ้านเองก็ไม่ได้ยืนเฝ้าห่างๆ เหมือนก่อนหน้านี้ อาจจะตามไปพร้อมราเชนทร์ก็ได้เพราะไม่ได้เป็นหน้าที่ต้องมาคอยดูผม

แต่พอราเชนทร์ไม่อยู่ ผมก็ไม่กล้าลอยตัว กลัวจะจมพรวดพราด เลยได้แต่ยืนเกาะขอบสระ ทำตาปริบๆ ไม่รู้จะทำอะไรดี

ลองดำน้ำดูดีมั้ยนะ

ผมชั่งใจคิด นึกอยากเอาชนะความกลัวด้วยการลองท้าทายตัวเองขึ้นมา

อืม...มือเกาะขอบสระแบบนี้คงไม่อันตรายหรอก ถ้าไม่ไหวก็ดันตัวขึ้นเหนือน้ำเอง เซฟตี้สุดๆ ไปเลย

ผมพยายามทำใจสู้ ใครเลยจะชอบเวลามีจุดอ่อนโดยที่ตัวเองก็ยังจำไม่ได้ว่าเพราะอะไร จะมาละล้าละหลังอย่างนี้ตลอดไปไม่ได้หรอก

คืออย่างนี้ครับ ไอ้อาการกลัวน้ำต้องมีสาเหตุใช่มั้ย แต่ความทรงจำสมัยเด็กของผมค่อนข้างเลือนราง อาจเพราะมีแต่การอ่านหนังสือกับเรียนพิเศษทั้งวี่ทั้งวันละมั้ง เลยฝังใจจัดจนจำรายละเอียดอย่างอื่นไม่ได้เลย หรือไม่ ก็เป็นผมที่ไม่ใส่ใจจะจำเอง

พอตัดสินใจได้ผมเลยค่อยๆ ย่อตัวลงช้าๆ ขาที่เหยียบพื้นอย่างมั่นคงทำให้ใจชื้น ยิ่งสองมือเกาะขอบสระแน่นก็ทำชวนให้รู้สึกปลอดภัย แต่พอใบหน้าเริ่มจม ตัวผมก็เริ่มสั่น...หลังกลั้นหายใจได้ไม่ถึงห้าวินาทีผมก็เงยหน้าพรวด หอบหายใจอย่างกับออกกำลังกายหนัก

ไม่ไหวๆ


ผมลองปรับลมหายใจอีกครั้ง เมื่อกี้อาจจะรีบไปหน่อย คราวนี้ลองช้าๆ และเตรียมใจนานขึ้นดีกว่า

ผมหลับตา ค่อยๆ ย่อตัวลงไป คราวนี้แม้จะเกร็งนิ้วจนขึ้นข้อ ตัวสั่นกึกๆ และหลับตาปี๋พยายามคิดถึงเรื่องอื่น พยายามฝืนตัวเองอย่างที่สุด ผมก็นับจนครบสิบวินาทีจนได้

เจ็ด...แปด...เก้า..สิบ!


ผมเงยหน้าพรวด รู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหลออกมาชอบกล นี่ผมกลัวขนาดนั้นเลยรึไงเนี่ย คิดแล้วก็ละเหี่ยใจ สงสัยวิธีท้าทายตัวเองไม่ได้ผลซะละมั้ง

“อุ๊ย”

เสียงอุทานของผู้หญิงทำให้ผมที่ก้มหน้าก้มตาอยู่กับตัวเองเงยมอง เจอกับหญิงสาวคนหนึ่งที่คุ้นหน้าว่าเคยเจอมาก่อน เธอใส่ชุดเดรสสีขาวลูกไม้ ดูสวยงามอ่อนหวานปานดอกไม้แรกแย้ม เอ่อ เปรียบเปรยไปงั้นแหละครับ สำหรับผม เธอก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำหน้าตกใจเหมือนเจอตัวประหลาดผุดขึ้นจากสระ

เอ๊ะ...หน้าตาแบบนี้ เธออยู่ในกลุ่มสาวสวย.oงานเลี้ยงตอนราเชนทร์เรียกไปหานี่นา

เพราะเป็นคนที่มองผมด้วยสายตาไม่สบอารมณ์ที่สุด เลยจำได้แม่นทีเดียว

แล้วเธอมาทำอะไรที่นี่ ในบ้านของราเชนทร์ แถมยังมาเดินเล่นถึงสระว่ายน้ำที่อยู่ในส่วนลึกต้องเดินข้ามห้องรับแขกมาอีกต่างหาก

คำตอบเดียวที่พอคิดได้คือเธอมาพร้อมกับคุณหญิงสมใจ

“มาสิคะ ฉันช่วย” เห็นหญิงสาวตระกูลไฮโซที่ไม่น่าจะยอมลดตัวเกลือกกลั้วกับผมโน้มตัวมาด้านหน้าแล้วยื่นมือให้อย่างไม่รังเกียจพร้อมคลี่ยิ้มหวานปานนางฟ้า ผมก็หยุดคิดมากแล้วยื่นมือออกไปตามมารยาท

แต่ใครเลยจะเชื่อ มือยังไม่ทันจะแตะ ร่างที่นั่งย่อตัวยิ้มๆ อยู่หน้าผมก็กระโจนพุ่งหลาวตกน้ำมาแล้ว!

ผมเบิกตากว้าง มองตามร่างที่ทิ้งตัวลงน้ำดังตูม!

เอ่อ...มือผมยังคาในท่ายื่นมือออกไปด้วยซ้ำ แล้วนี่มันอะไรล่ะเนี่ย กว่าจะได้สติอีกทีก็ได้ยินเสียงร้องตะโกนให้ช่วย เธอพาตัวเองไปอยู่กลางสระได้ไวยิ่งกว่าผมเกาะราเชนทร์ไปซะอีก ช่างทุ่มทุนสร้างเหลือเกิน

“ช่วยด้วยค่ะ! ช่วยด้วย!!!!”

เห็นผู้หญิงที่ดำผุดดำว่ายห่างออกไป มือตะเกียกตะกายโบกสะบัดแต่ตัวไม่ยังจะจมลงสักที ผมก็ได้แต่มองนิ่งด้วยสายตาเฉยชาราวดูละครฉากหนึ่ง คลับคล้ายเห็นเธอเหลือบมองผมเป็นระยะให้ช่วย พร้อมจะทำทีเป็นสลบเหมือดเมื่อผมแตะตัว แต่เพราะผมไม่ขยับเลยได้แต่ตีน้ำอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งมีเสียงคนวิ่งมานั่นแหละ ร่างของเธอถึงค่อยๆ จมลงพร้อมเสียงโวยวายตกใจ พวกคนงานผู้ชายรีบลงไปช่วยประคองร่างปวกเปียกน่าสงสารขึ้นมาได้

ประจวบเหมาะเหลือเกินที่หญิงวัยกลางคนในชุดเดรสสีจัดประโคมเครื่องประดับวิ่งไล่หลังมา พากันรุมล้อมหญิงสาวที่ยังนอนตัวเปียกไม่ขยับ

“เป็นไงบ้างลูกสมจันทร์...”

อ้อ ที่แท้ก็ลูกสาว


เห็นคุณหญิงเธอลูบหน้าลูบตาด้วยสีหน้าวิตกกับลูกสาวที่ลืมตาปรือปรอยอย่างพอดิบพอดีแล้ว ผมก็ได้แต่ชื่นชมเงียบๆ กับจังหวะรับส่งแสนเพอร์เฟ็ค

“แม่คะ...”

“ไม่ต้องพูดอะไรแล้วลูก มีคนเดียวเท่านั้นที่จะทำหนูตกสระในเมื่อตรงนี้ไม่มีใครอื่นเลย” คุณหญิงสมใจว่าจบก็หันมาตวาดใส่ผมทันที “ทำไมต้องทำร้ายลูกฉันด้วย! หรือถ้าเป็นอุบัติเหตุ แล้วทำไมถึงไม่ช่วย!!”

ผมใช้สายตาราบเรียบไร้อารมณ์มองเป็นคำตอบ

เพราะยังไงผมก็ถูกตัดสินว่าผิดอยู่แล้ว

ผมคิดว่าแผนของสมจันทร์ที่น่าสงสาร คงจะเป็นทำทีตกน้ำแล้วหลอกให้ผมไปช่วยตรงกลางสระ ระหว่างนั้นอาจจะแกล้งทำเป็นต่อสู้ขัดขืนสักยก พอมีคนมาก็ทำเป็นสลบเหมือดเหมือนโดนผมจับกดน้ำ หลักฐานคามือ แต่พอผมยืนมองเฉยๆ ก็เลยกลายเป็นบรรยากาศกระอักกระอ่วน เพราะสมจันทร์ดันแหวกว่ายอยู่กลางสระ ส่วนผมยืนเกาะขอบสระซะงั้น

แต่คนจะใส่ร้ายยังไงก็ทำได้ แถมยังทำให้ผมดูเหมือนฆาตกรเลือดเย็นซะด้วยสิ

เสียก็แต่เหล่าแม่บ้านผู้หญิงรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร เลยพยายามสะกิดบอกคุณหญิงให้เลิกท้วงเรื่องนี้แล้วโดยเอาผ้าขนหนูมาช่วยปิดเสื้อแนบเนื้อสีขาวของสมจันทร์

“อ้าว เกิดอะไรขึ้นน่ะ”

ราเชนทร์เดินเข้ามาร่วมด้วยท่าทางงุนงงเพราะมีคนรับใช้ยืนมุงกันเกือบหมดบ้าน ในมือของเขาถือกล่องเครื่องประดับ สงสัยจะขึ้นไปหยิบจากบนชั้นสองล่ะมั้งถึงไม่ได้ตามมากับคุณหญิงสมใจด้วยตั้งแต่ตอนแรก

“คุณชายคะ...” สมจันทร์ถือโอกาสชม้อยตามองด้วยสภาพตัวเปียกโชกน่าสงสารทันที ท่าทางไร้เรี่ยวแรงปานกระดาษทิชชูแสนบอบบาง

“คุณชาย คนของคุณชายทำลูกสาวฉันตกน้ำแถมยังไม่ช่วยอีก แบบนี้หมายความว่ายังไงคะ!” คุณหญิงสมใจเลยหันไปเฉ่งทันควัน มองเมินสัญญาณจากพวกแม่บ้านที่หวังดีซะอย่างนั้น

ส่วนราเชนทร์...เขาหันมาเลิกคิ้วให้ผม ผมเลยเลิกคิ้วกลับ

“คุณแม่คะ จันทร์กลัว” หญิงสาวซุกหน้ากับอ้อมอกอวบๆ คุณหญิงสมใจ “จันทร์ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเลยค่ะ ไม่คิดเลยว่าจะถูกดึงไปทิ้งกลางสระแบบนั้น แค่พยุงตัวเองก็แทบแย่แล้ว”

โอ้ ใส่ไฟกันเห็นๆ


“ไม่ต้องกลัวนะคะลูก โดนผู้ชายพาไปแบบนั้นคงจะสู้แรงไม่ไหวและตกใจมากเลยสินะคะ”

เพราะเห็นว่าเรื่องท่าจะยาว ผมที่แช่น้ำจนมือเริ่มเปื่อยเลยตัดสินใจปีนขึ้นสระแล้วหยิบเสื้อคลุมมาห่มปกปิดรอยจูบตามตัวกันอุจาดตา แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจผมเลย เพราะทุกสายตาเอาแต่ถามหาความรับผิดชอบจากราเชนทร์ที่ยังยืมยิ้มขำๆ แต่ไม่ยักจะโต้เถียงอะไร

“นี่ค่ะคุณหนู”

“ขอบคุณจ้ะ”

คุณหญิงสมใจกับคุณหนูสมจันทร์ดูจะสนิทสนมกับบรรดาคนรับใช้ดีทีเดียว เพราะนอกจากจะถามไถ่เป็นระยะ  เอาผ้าเช็ดตัวมาให้แล้ว ยังช่วยเช็ดผมช่วยจับเนื้อตัวว่าไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหน สีหน้าเป็นห่วงแกมกังวลใจกันหมด

เทียบกับผมที่ยืนอยู่บริเวณเดียวกันแล้ว อืม...เหมือนมีกำแพงกั้นขวางระหว่างผมกับพวกเขาชอบกล

“คุณชาย เรื่องวันนี้ฉันจะทำเป็นมองไม่เห็น แต่คุณชายช่วยดูคนของตัวเองด้วยนะคะ ทำไมถึงได้ก้าวร้าวขนาดนี้ กับผู้หญิงตัวเล็กๆ ก็ทำได้ลงคอ”

“ไม่หรอกค่ะคุณแม่ จันทร์ไม่ดีเองที่ทำตัวสนิทสนมกับเขา”

“โธ่ ลูกรักของแม่ เขาต่างหากที่ต้องสำนึก เป็นแค่บาร์เทนเดอร์จะยกตัวสูงส่งแค่ไหนเชียว อีกอย่าง จันทร์ก็เป็นคนที่คุณหญิงท่านหมายมั่นปั้นมือว่าจะยกเป็นคู่หมายกับคุณชายก่อนเสียชีวิตด้วย ลูกไม่ผิดหรอกจ้ะ”

โอ๊ะโอ...

“นั่นเป็นเรื่องตกลงกันเองก่อนผมจะจำความได้อีกนะครับ” ราเชนทร์พูดแทรกยิ้มๆ พลางเหลือบมองผมเป็นระยะเหมือนกลัวถูกเข้าใจผิด แต่ไม่ยักจะช่วยแย้งข้อแก้ต่างให้เลยสักนิด

อะไร? อยากให้ผมแสดงความเป็นเจ้าของ? อยากให้ผมหึงเหรอ

ฝันไปเถอะ

“จันทร์รู้ค่ะ แต่จันทร์ก็...”

ดูสายตาที่ช้อนมองอย่างให้ท่า คลุมผ้าทำตัวลีบน่าสงสารแล้ว ผมก็ชักหงุดหงิด

ไม่ใช่เพราะหึงหรอกนะ แต่ผมหงุดหงิดที่คาดการณ์ผิดอีกแล้วต่างหาก!

ให้ตายสิ เอาแน่เอานอนกับคีรีและราเชนทร์ไม่ได้เลยจริงๆ คนที่น่าห่วงเหมือนจะมีบ่วงติดพันมากที่สุดอย่างคีรี ดันจัดการปัญหาได้ง่ายดายสบายๆ คีรีพิสูจน์ตัวแล้วว่าเขามีอำนาจมากที่สุด มีสิทธิ์ขาดในต่อรองที่ไม่ว่าใครก็ไม่กล้าแหยม ราวกับว่าทุกคนต้องยอมยกให้เพราะคนที่หุ้นและมีส่วนช่วยประคองธุรกิจให้ยังคงติดอันดับอยู่ตอนนี้ก็คือเขา เรื่องผู้หญิงมาเกาะแกะหรือไม่เคยจะมี ด้วยภาพลักษณ์เคร่งขรึมจริงจังจนไม่มีใครกล้าเล่นด้วย

ผิดกับราเชนทร์ คนใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยตามใจตัวเอง สุดท้ายแล้วกลับมีคนคิดจับคู่ให้ซะนี่

คนในมองว่าเขาเหลวแหลก แต่ดูเหมือนคนนอกจะเห็นเป็นเหยื่อโอชะ

สงสัยอาชีพนักถลุงมรดกจะยวนใจจนมีคนคิดอยากช่วยใช้ล่ะมั้ง

“คุณหญิงกลับไปก่อนเถอะครับ” คุณหญิงสมใจคงจะเป็นเพื่อนเก่าของแม่ราเชนทร์ เขาถึงได้พูดสุภาพอย่างให้เกียรติแบบหาได้ยาก ผมเองยังแปลกใจ

“คุณชายคะ ถ้ายังใงคุณหนูสมจันทร์ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน....”

หัวหน้าแม่บ้านช่วยพูดพลางประคองสมจันทร์ที่ทำหน้าเหมือนจะเป็นลมไปอีกรอบ ถ้าให้ผมเดานะ...คุณหญิงสมใจเป็นเพื่อนเก่ากับแม่ราเชนทร์ และมีการพูดปากเปล่าเรื่องหมั้นหมาย เรื่องที่สมจันทร์มาบ้านนี้บ่อยๆ ก็ถือว่าเข้าใจได้ เธอเลยค่อนข้างสนิทสนมและได้รับความเอ็นดูจากคนรับใช้

ส่วนผม...

ผมยังคงเป็นส่วนเกิน ไม่มีสิทธิ์ไม่มีเสียง ไม่มีใครสนใจทั้งที่ถูกกล่าวหา

“จันทร์หนาวจังคะคุณแม่”

“ว้าย ตัวร้อนเชียว คุณชายคะ ถ้ายังไงให้ลูกจันทร์ขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อก่อนได้ไหม ถ้าปล่อยแบบนี้คงต้องไม่สบายแน่ๆ”
มองกลุ่มคนที่โต้ตอบกันลื่นไหลไม่มีท่าว่าจะกลับง่ายๆ ผมก็ค่อยๆ เดินถอยหลัง

ทีละก้าว ทีละก้าว

จนปลายเท้าแตะกับระลอกน้ำอุ่นริมขอบสระในยามสาย ผมก็หยุด

ก่อนจะทิ้งตัวลงไป

ตูม!

“รัญ!!!”

ราเชนทร์กระโดดตามมาทันที รวดเร็วจนผมไม่ทันสำลักน้ำด้วยซ้ำ ราวกับว่าเขาคอยมองอยู่ตลอด และน่าจะขยับตัวตั้งแต่ขาผมยังไม่ลอยจากพื้น น่าตลกชะมัด เมื่อกี้ผมพยายามเอาชนะความกลัวให้ได้ แต่พอตั้งใจเดินตกลงมาเอง ชั่ววินาทีนั้นกลับสงบมาก และแทบไม่รู้สึกอะไรเลย

นอกจากความหงุดหงิดในอก

และความรู้สึกนั้นก็ยิ่งทวีมากขึ้นเมื่อราเชนทร์รั้งเอวผมช่วยประคองอย่างห่วงใย แม้สิ่งที่ได้ตอบแทนจะเป็นมือของผมที่จิกแน่นกับบ่าของเขาพร้อมเสียงกระซิบข้างหู

“บอกไปสิครับ”

ผมไม่ยอมให้เขาประวิงเวลาไร้สาระอีก ราเชนทร์ชะงักไปครู่หนึ่ง ไม่รู้เพราะเจ็บรึเปล่าเพราะผมจิกเล็บไปเต็มแรง และเขาก็ไม่ได้หนังหนาเท่าคีรีด้วย แต่ไม่ต้องรอให้ผมย้ำซ้ำสอง คุณชายของบ้านก็ทำทีเป็นโอบผมแน่นเหมือนกลัวทำหาย แถมยังตะโกนเสียงดังฟังชัด เล่นละครได้เก่งไม่แพ้แม่ลูกคู่นั้นเลย

“ไม่เป็นอะไรใช่มั้ยรัญ ระวังตัวเองหน่อยสิ นายว่ายน้ำไม่เป็นนะ!”

ผมหลุดยิ้มบางออกมาด้วยกรุ่นอารมณ์ขุ่นเคืองที่ยังไม่จางหาย

ใช่ ผมว่ายน้ำไม่เป็น แล้วจะลากคนไปกลางสระได้ยังไง

เป็นคุณหนูนั่นซะอีกที่ว่ายน้ำเป็นซะเปล่ามาตะเกียกตะกายเล่นละครอยู่ได้

ไม่อายตัวเองบ้างเหรอ?

ไม่รู้ว่าความคิดผมส่งผ่านสายตาที่จ้องตรงสมจันทร์รึเปล่า เธอถึงได้รีบก้มหน้าหลบ ในที่สุดสองแม่ลูกก็เงียบปากได้สักที

เฮอะ ไม่ให้ผมพูด ผมก็จะไม่พูด และผมก็จะทำให้พวกเธอหยุดพูดด้วย!

“เรื่องในวันนี้ผมจะทำเป็นมองไม่เห็น แต่คุณหญิงช่วยดูคนของตัวเองด้วยนะครับ ใส่ร้ายคนของผมแบบนี้ ผมเองก็ไม่พอใจนะรู้มั้ย” ราเชนทร์ยังคงยิ้ม ก่อนหน้านี้เขาคงเกรงใจ แต่พอจับความไม่พอใจผมได้ เขาก็ใส่ไม่ยั้ง “ส่งแขก!”

น้ำเสียงกระแทกในตอนท้ายทำเอาหลายคนสะดุ้ง

ครั้งนี้ไม่มีใครคิดแย้งอีก ผมปีนขึ้นจากสระโดยมีราเชนทร์ช่วยพยุง เพราะเสื้อคลุมเปียกไปหมดแล้วเลยต้องถอดมาวางผึ่งเผยให้เห็นรอยจูบที่พลอยทำเอาใครต่อใครอ้าปากค้าง

“เดี๋ยวก็หนาวหรอกรัญ” ราเชนทร์หันไปสั่งให้หัวหน้าแม่บ้านช่วยส่งผ้าเช็ดตัวสะอาดที่เตรียมเผื่อให้คุณหนูสมจันทร์แทนผืนที่เปียกมาให้ผมแทน แน่นอนเขายังคงหวง ไม่ให้ใครเข้าใกล้หรือแตะต้องผม เลยรับมาห่อตัวให้อย่างเอาใจ

ส่วนแม่ลูกคู่นั้นน่ะเหรอ

หน้าถอดสีเสียจริตไปเต็มเหนี่ยว มองดูแล้วไม่เห็นจะเหมือนลูกคุณหญิงคุณนายทีไหน หน้าคล้ำหน้าหมอง ไร้ราศีแทบดูไม่ได้!

จะโทษพวกเธอประมาทก็คงบอกได้ไม่เต็มคำ ใครเลยจะคิดว่าผู้ชายอายุยี่สิบห้าที่ไหนยังว่ายน้ำไม่เป็นอีก

ถ้าจะโทษ ก็คงโทษที่ทำการบ้านมาไม่ดี มีคนช่วยสะกิดก็ยังเล่นใหญ่ต่อล่ะนะ!


------------------------------

ริจะสู้คนนิ่งแต่ขี้อ่อย ได้ผลดาเมจคริติคอลฮิตใส่สองหนุ่มแทบทุกครั้งต้องทำการบ้านมากกว่านี้! รัญหึงก็บอกมาค่ะ ขี้อ่อยจริงๆ เลย!

ปล.ช่วงนี้ยังคงอัพแบบกระดึ้บๆ อยู่นะคะ เเละจากกรณีแอพดูดนิยาย ซึ่งเราเองก็โดนทั้งคิงนิล เอกนาย ยันเรื่องนี้ เลยขออัพเฉพาะในเล้าเป็ดก่อน จนกว่าทุกอย่างปลอดภัยกว่านี้แล้วก็จะอัพในเวปอื่นตามปกติค่ะ


เพจนักเขียนที่นั่งเอานิ้วจิ้มพื้น ดูดนิยายเค้าไปทำไม...
  :z13:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-12-2016 19:24:48 โดย มาจะกล่าวบทไป »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด