{{ Prince's Room }} ระวัง...เขตอันตราย!! [3P] - ตอนพิเศษ : ครบรอบ1เดือน - P.29 -
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: {{ Prince's Room }} ระวัง...เขตอันตราย!! [3P] - ตอนพิเศษ : ครบรอบ1เดือน - P.29 -  (อ่าน 280181 ครั้ง)

ออฟไลน์ SaJung13

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1057
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
พอสองหนุ่มเขาเข้ากันได้คนที่ลำบากนี้
รัญชัดๆเลยโดนไปเต็มๆ

ออฟไลน์ DESZCZ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 352
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เง้ออออ~~ รัญเป็นไร :katai1:

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'
ตอนที่ 19 : วันเก่าๆ คนเก่าๆ


ผมคลับคล้ายคลับคลาว่าจะจำอะไรได้

มันเป็นความอึดอัดในอกที่คุ้นเคยโดนฝังกลบในความทรงจำ และกลายเป็นความฝันร้ายเมื่อหวนนึกถึง

ผมจำไม่ได้ว่าตอนนั้นอายุเท่าไหร่

แต่คงยังเด็กมาก มากพอที่จะเห็นภาพของพ่อแม่ที่ยิ้มให้และพาไปเที่ยวทะเล

ก่อนที่ผมจะจมลงไป

มันคืออุบัติเหตุจากความประมาท หรือจากเด็กเล่นซนคนหนึ่งที่วิ่งลงน้ำเพราะนึกสนุก ยังไงก็ตาม เรื่องราววันนั้นทำให้ผมนอนโรงพยาบาลถึงสามวันเต็ม มีอาการหวาดกลัวสลับไข้ขึ้นสูง แม่นั่งร้องไห้อยู่ข้างเตียง กลัวว่าผมที่ยังเล็กจะเป็นอะไรไป และหลังจากนั้นครอบครัวเราก็ไม่เคยออกไปเที่ยวที่ไหนนอกใจกลางกรุงอีกเลย

“รัญ...”

ผมปรือตามอง รู้สึกเหมือนหลับฝันเป็นเวลานาน เพราะแทนที่จะรู้สึกดีขึ้น กลับรู้สึกเหนื่อยล้าจนร่างกายหนักอึ้งกว่าเก่า

“เป็นยังไงบ้าง” คีรีที่นั่งห่างออกไปเข้ามาช่วยรินน้ำให้ผมจิบ ส่วนราเชนทร์ที่ถึงขนาดปีนขึ้นเตียงมาเฝ้าอยู่ข้างๆ ก็ช่วยประคองให้ผมไม่สำลัก

“ไข้ลดแล้วนะ”  คีรีเอ่ยขณะทาบมือกับหน้าผาก

“เพราะอาจารย์หมอมาฉีดยาให้น่ะสิ”

“อาจารย์หมอ?” ผมทบทวน พอตั้งสติได้ก็รู้สึกว่าอาการรุมเร้าร้อนผ่าวมันน้อยลงจริงๆ ไอ้ความเหนื่อยล้าทั้งกายและใจน่าจะเป็นผลพ่วงจากฝันร้ายมากกว่า

“ตอนสายรัญเพ้อไม่ได้สติ พวกฉันตกใจแทบแย่จนสุดท้ายต้องตามอาจารย์หมอมาช่วยฉีดยาลดไข้ให้เนี่ยล่ะ”

ผมอาการหนักขนาดนั้นเชียว นึกแล้วไม่ชินเลยสักนิด ถ้าไม่นับตอนเด็กมากๆ ครั้งนั้น ผมก็ไม่เคยป่วยขนาดล้มหมอนนอนเสื่ออีกเลย

แต่ต้องมาเป็นเพราะ ‘เซ็กซ์’ เนี่ยนะ!?

พอนึกได้ผมก็ชักฉุน มองเมินการเอาใจใส่ของทั้งคู่แล้วย้ำชัดอีกครั้ง

“งดหนึ่งอาทิตย์”

“โธ่ รัญจ๋า” ราเชนทร์กอดตัวผมออดอ้อนสุดใจ

“ได้ ครั้งนี้ฉันผิดเอง” เทียบกับคีรีแล้วการควบคุมตัวเองต่างกันลิบ!

“กี่โมงแล้วครับ” ผมหยัดตัวนั่ง เอนศีรษะพิงไปทางราเชนทร์น้อยๆ

“หกโมงเย็น หิวมั้ยรัญ”

“หกโมง? เวรล่ะ ผมยังไม่ได้โทรลางานเลย”

“ฉันโทรลาให้แล้ว”

ขอย้ำอีกครั้ง ผมรักคีรีชะมัด!!

ผมมองท่านประธานด้วยความซาบซึ้ง ถ้าเป็นราเชนทร์น่ะเหรอ...ฮะฮะฮะ เขาคงไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าทำไมผมต้องตื่นตูม จะโทรไปตอนไหนก็ไม่ต่างกัน คนไม่เคยทำงานก็แบบนี้

“หิวมั้ยรัญ” เหมือนรู้ว่าถูกนินทา ราเชนทร์เลยรีบถามอย่างเอาใจ “อยากกินอะไรก็บอกได้ ฉันจะให้พ่อครัวทำสุดฝีมือเลย”
อยู่บ้านนี้สบายตรงที่มีทุกอย่างอำนวยความสะดวกโดยไม่ต้องออกไปไหนไกลล่ะนะ

“ข้าวต้มกุ้งแล้วกันครับ”

“รอแป๊บนะที่รัก” ราเชนทร์หอมแก้มผมก่อนจะเดินลงไปหาแม่บ้านเพื่อออกคำสั่งอีกต่อ คีรีเลยถือโอกาสเขยิบตัวเข้ามานั่งใกล้ชิดขอบเตียง

“วันนี้คุณอยู่ที่นี่ทั้งวันเลยเหรอครับ”

“ใช่”

“...คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ” ผมถามเป็นนัย รู้ๆ กันอยู่ว่าพวกแม่บ้านไม่ค่อยต้อนรับเราสองคนเท่าไหร่

“ไม่ต้องห่วงหรอก เราสามคนคบกันอย่างจริงใจ พวกเขาต้องเข้าใจแน่ ส่วนธาราธาร...” คีรีเว้นช่วงเล็กน้อย “อีกไม่นานก็ต้องเข้าใจแล้วล่ะ”

“วันนี้เขามาหาคุณเหรอครับ” ผมมองท่าทางของคีรีแล้วคิดว่าน่าจะมีการฉะไปอีกยกแน่ๆ แต่ไม่รู้ว่าพูดไปทางนั้นจะยอมฟังแค่ไหน เพราะนี่ก็เป็นการเจรจาครั้งที่สามแล้ว

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก” คีรีเอ่ยเสียงนุ่ม ลูบแก้มผมเบาๆ “ไข้ลดแล้ว ไม่ปวดหัวไม่ปวดตัวตรงไหนนะ”

“...หัวน่ะไม่ปวดหรอกครับ แต่ตัวนี่ปวดจนไม่รู้จะปวดยังไง” ผมมองตัวต้นเรื่องด้วยสายตาคาดโทษ ราเชนทร์น่ะแม้จะมีความต้องการสูงแต่ก็ไม่ได้ใช้พลังงานมากมายอะไร แต่เซ็กซ์ของคีรีนี่ล่อท่ายากแถมยังหนักหน่วงอีก ถ้าไม่สลับกันผมอาจจะนอนตาเหลือก หลับไม่ฟื้นแล้วก็ได้ “คุณต้องเป็นพวกเก็บกดมากแน่ๆ”

“คงงั้น” คีรียิ้มรับ หล่อบาดตาทะลุแว่นมาเลย แต่ดูจากหน้าตาเคร่งขรึมจริงจัง ภาระการงานและความรับผิดชอบเกี่ยวกับบริษัทในฐานะลูกชายคนโต คงจะเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เขามีรสนิยมแบบนี้

“คีรี...” ผมลังเลเล็กน้อย “พ่อแม่คุณเป็นยังไงเหรอครับ”

“เป็นยังไง? หมายถึงมีปัญหามั้ยน่ะเหรอ ไม่หรอก พ่อแม่ฉันรู้ดีว่าฉันเป็นคนยังไง ฉันเสียสละเวลาเกือบทั้งชีวิตในการรับช่วงต่อบริษัทตามที่พวกเขาต้องการแล้ว ถ้าฉันมีความต้องการบ้าง พวกเขาก็ว่าอะไรไม่ได้หรอก”

“ฟังดูห่างเหินจังนะครับ” ผมเอ่ยต่อ เรื่องนี้ให้พูดต่อหน้าราเชนทร์คงไม่เหมาะ เพราะรายนั้นมีความทรงจำแบบครอบครับน้อยมาก

“ตอนเด็กฉันถูกตั้งความหวังไว้มาก ก็เลยเหมือนถูกบังคับให้โตเร็วกว่าคนทั่วไป จะว่าไปถึงอยู่ด้วยกันแต่ก็เหมือนห่างเหินจริงๆ นั่นแหละ” คีรีพูดก่อนจะมองผมยิ้มๆ “โชคดีที่ฉันหัวดีและชอบด้านนี้ ไม่งั้นคงเป็นเด็กมีปัญญาไปแล้ว”

เก็บกดจริงๆ ด้วยแฮะ

“แล้วถ้าเกิดคุณไม่เก่งไม่ชอบขึ้นมา คุณจะทำยังไงเหรอครับ”

“ก็คงจะพยายามให้พวกเขาเห็นว่าฉันรักฉันชอบด้านไหน แล้วทำให้เห็นล่ะมั้งว่ามันดีกว่ายังไง”

...ผมสะอึก เทียบกับตัวเองที่เลือกหนีออกมานี่มันขี้ขลาดชัดๆ

จบเรื่องอึดอัดมาสู่ความเป็นจริงเมื่อราเชนทร์เปิดประตูด้วยรอยยิ้มร่า ในมือมีเจลเย็นสีฟ้าอ่อน ตามมาด้วยหัวหน้าแม่บ้านที่ถือถาดข้าวต้มเข้ามา คงกลัวว่าถ้าให้คุณชายถือเองจะหกระหว่างทางล่ะมั้ง คนในบ้านหลังนี้มักทำอะไรให้เองอย่างเต็มใจโดยไม่ต้องให้คุณชายเอ่ยปากด้วยซ้ำ

ถาดที่ประคองมาเป็นแบบมีขาตั้ง สามารถวางบนเตียงสำหรับทานได้ทันทีโดยไม่ต้องมีโต๊ะเสริม ผมค่อนข้างประทับใจทีเดียว ไม่ลืมมองหัวหน้าแม่บ้านด้วยว่าเขายังเคืองผมอยู่รึเปล่า

“หายไวๆ นะคะ”

มะ...มีพูดอวยพรผมด้วย!!

“ขอบคุณครับ” ผมตอบกลับเป็นมารยาท นึกแปลกใจที่หัวหอกผู้รวบรวมรายชื่อบรรดาคู่ดูตัวและถึงขนาดเตรียมติดต่ออาจารย์สมยันต์ทำไมถึงได้ปลงตกง่ายขนาดนี้ แต่พอเห็นหน้าแดงๆ ของคุณหัวหน้าแม่บ้านเวลามองผมแล้วก็ชักเข้าใจ

เอ่อ...ผมว่าน่าจะเป็นเพราะเมื่อคืนพวกเขาจัดหนักกับผมเกินไปแหง! สายตาหัวหน้าแม่บ้านจากที่มองผมเป็นตัวร้ายถึงได้ทั้งเขินทั้งเวทนาสงสาร ราวกับผมเป็นเหยื่อถูกกระทำชำเราไร้ปรานี นอนพะงาบใกล้ตายอยู่รอมร่อ!

...นับว่าเป็นการเสียตัวที่คุ้มอยู่เหมือนกัน

ผมอ้าปากปล่อยให้ราเชนทร์นั่งป้อนอย่างกระดี๊กระด๊าด้วยความปลงตก คีรีคอยจัดเตรียมยาให้อยู่ไม่ห่าง รู้สึกเหมือนทุกอย่างเข้าที่เข้าทางมากขึ้น

“มีอะไรจะคุยกับผมรึเปล่าครับ” หลังทานข้าวทานยาเสร็จเรียบร้อม ผมที่โดนพวกเขาสองคนจ้องเขม็งมาตลอดก็ทนนิ่งเงียบไม่ไหว นึกงุนงงว่าทำอะไรผิดไปรึเปล่านะ

“เธอ...” คีรีพูดขึ้นมาก่อน ราวกับว่าพวกเขาตกลงตั้งแต่ก่อนผมจะตื่นมาแล้วว่าเรื่องนี้ให้ท่านประธานเป็นผู้ถามจะดีที่สุด “เธอเคยจมน้ำใช่มั้ย”

“ครับ อาการกลัวน้ำก็คงเป็นผลกระทบจากตอนนั้น ผมเคยจมน้ำตอนเด็กๆ น่ะ น่าจะประมาณ...ห้าหกขวบได้มั้ง”

“ไม่ได้ถูกกดน้ำใช่มั้ย”

“จะเป็นไปได้ยังไงล่ะครับ ตอนนั้นผมไปเที่ยวทะเลกับพ่อแม่...” พอพูดขึ้นมาผมก็ชะงัก...เพราะยังมีคดีค้างคาเรื่องหนีออกจากบ้านอยู่ แต่ด้วยกลัวว่าจะโดนพวกเขาล้วงลึก เลยรีบเล่าต่อทำเป็นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร “ตอนนั้นผมหนีไปเล่นซนเอง กว่าจะมีคนมาช่วยก็หมดสติไปแล้วเลยกลัวมาก ไม่ได้ถูกทำร้ายหรอกครับ”

เอาเข้าจริงผมก็เพิ่งนึกได้ตอนไม่สบายเนี่ยล่ะ พ่อกับแม่ผมค่อนข้างเข้มงวดใช่มั้ยล่ะครับ ตอนเด็กเองก็ไม่เว้น คอยจัดการบังคับแม้กระทั่งตอนผมเล่นน้ำ ห้ามไปไหนไกล ห้ามเล่นทราย ห้ามเล่นบอล ห้ามคุยกับคนแปลกหน้า ห้ามเล่นเกินหนึ่งชั่วโมง ห้าม ห้าม ห้าม ผมเองก็คงจะหัวขบถตั้งแต่ตอนนั้นแล้วละมั้ง ในช่วงเช้าก่อนจะกลับ ลับหลังพ่อแม่ที่เก็บของในห้องพักเตรียมเช็คเอ้าท์ ผมเลยแอบหนีออกไปเล่นน้ำคนเดียวกะกอบโกยให้เต็มที่

ผลคือ...ผมโดนน้ำทะเลซัดสาดลากลงไป ตัวตลบอยู่ใต้คลื่น ตะเกียกตะกายทรมานอยู่นานกว่าจะมีคนช่วย เลยกลายเป็นความฝังใจไปซะงั้น

ส่วนที่ผมลืมซะสนิท ก็คงเพราะนับจากนั้นพ่อแม่ก็คุมผมหนักกว่าเดิมเป็นเท่าตัว บังคับทุกอย่างจนขยับตัวแทบไม่ได้ ออกนอกสายตาเข้าหน่อยก็โดนดุด่าเหมือนทำผิดมหันต์แสนสาหัส จนลืมภาพห่วงใยที่พวกท่านเคยนั่งเฝ้าที่โรงพยาบาลไปโดยสิ้นเชิง

“รัญ...”

“ผมขอนอนพักหน่อยนะครับ”

ผมรีบดึงผ้าห่มคลุมแล้วนอนตะแคงข้างหันหลังให้พวกเขาขณะหลับตา ไม่อยากจะยอมรับเลยว่าในช่วงเวลาที่อ่อนแอแบบนี้...

ผมคิดถึงบ้านชะมัด





ผมนอนซมอยู่สามวันถ้วนกว่าจะลุกขึ้นมาเดินเหินได้ตามปกติโดยไม่ติดขัดหรือเจ็บยอกตรงไหน โชคดีที่ราเชนทร์ช่วยให้อาจารย์หมอออกใบรับรองแพทย์ให้ ไม่งั้นผมคงโดนหักเงินเดือนโทษฐานหยุดเกินโควต้าที่คิงส์คลับกำหนดแล้ว

“ฟ้าเหลืองเลยล่ะสิ”

ผมยกนิ้วกลางใส่แมนเงียบๆ ลับหลังเคาน์เตอร์บาร์เพื่อไม่ให้ลูกค้ามาเห็นแล้วเข้าใจผิดจนโดนหาเรื่องเข้า มาจนวันนี้ราเชนทร์ก็ยังนั่งเฝ้าและคอยมองผมไม่ให้เข้าใกล้เพื่อนสนิทเกินขอบเขต อะไรจะหวงขนาดนั้นนะ

“รัญ!”

พลันแมนกระตุกมือผมให้หันไปอีกทาง ทำเอาผมที่กำลังก้มหน้าก้มตาตรวจเช็คเครื่องแก้วพลอยตกใจไปด้วย

“ทำตัวแปลกๆ นะ...” ผมท้วงแมน

“ก็...”

“รัญ? หรัญญ์ใช่มั้ย”

และแล้วผมก็เข้าใจในความหวังดีของเพื่อน

เสียงเรียกอย่างสนิทสนมพร้อมใบหน้าคุ้นเคยที่เดินเข้ามาใกล้บาร์เหมือนประหลาดใจเต็มแก่ ทำให้ผมบรรลุทันทีว่าทำไมแมนถึงได้พยายามขัดขวางเหมือนไม่ให้ผมเห็นอะไรแสลงตาเข้า

และของแสลงตาที่ว่าก็มีอิทธิพลต่อจิตใจมากซะด้วยซิ

“ไม่เจอกันนานเลยนะครับ...พี่วัน”

“นั่นสินะ ห้าปีได้แล้วมั้ง” อีกฝ่ายทักยิ้มๆ “เห็นเราสบายดีพี่ก็เบาใจ”

เห็นผมสบายดีก็เบาใจ? วูบหนึ่งผมนึกโมโหจนอยากจะต่อยหน้าอีกฝ่าย แต่เพราะอยู่ในฐานะบาร์เทนเดอร์และลูกค้า จึงต้องคอยข่มอารมณ์เอาไว้

“รัญ ไปทางนู้นเถอะ” แมนเข้ามาช่วยรับหน้า ดันตัวผมให้ไปหาราเชนทร์ที่นั่งมองเหตุการณ์พิลึกด้วยท่าทีหึงหวง

“เดี๋ยวสิรัญ...”

ผมไม่สนใจเสียงเรียกรั้งนั้นแล้วเดินมาสงบใจที่มุมบาร์

“ทำไมทำหน้าแบบนั้น” ราเชนทร์ยิ้ม แกล้งหยอกเหมือนปกติ “แฟนเก่าเหรอจ๊ะที่รัก”

“ครับ”

แต่แล้วเขาก็ชะงักค้างไปเอง

“แฟนคนแรกของผม เรวันต์”




ผมเคยบอกแล้วสินะว่าผมถูกแฟนคนแรกทิ้ง

ที่น่าโมโหไปกว่านั้นคือเขาทิ้งผมไปดื้อๆ โดยไม่บอกไม่กล่าว!

เอาล่ะ ผมจะเล่าให้ฟัง...เรวันต์คนนี้กำลังเป็นรุ่นพี่ในมหาลัยที่พ่อแม่หมายมั่นปั้นมือให้ผมเข้า เลยถูกจ้างมาติวโดยเฉพาะ เขามีรสนิยมด้านนี้อยู่แล้ว พอใกล้ชิดกับผมมากๆ เข้าโดยที่พ่อกับแม่ให้เวลาเป็นส่วนตัวอย่างหาได้ยาก ก็เริ่มพูดในแง่ของความรักความชอบ และเริ่มจูบผม ลวนลามผม

เขาบอกว่าผมเป็นฝ่ายยั่วเขาเอง

พี่วันเป็นคนหน้าตาดี และเป็นผู้ฟังที่ดี เวลาอยู่ในห้องสองต่อสอง ผมเลยมักระบายความอึดอัดใจออกมา และพี่วันก็จะช่วยปลอบโยน บางครั้งเป็นการกอด บางทีเป็นการจูบ

น่าแปลกที่ผมไม่นึกรังเกียจ เขาเป็นคนที่ผมสบายใจที่จะคุยด้วย เพราะในกลุ่มเพื่อนที่โรงเรียนมักจะแข่งกันเรียนมากกว่าคุยเรื่องส่วนตัว พี่วันถือเป็นคนเดียวก็ว่าได้ที่ผมเปิดใจยอมรับและโหยหาเหมือนกับเขาเป็นความหวังเดียวที่ทำให้ผมไม่ต้องฝืนตัวเองจนเกินไป แม้จะถูกเขาทำอย่างนั้นก็ไม่ขัดขืน คิดแต่ว่าถ้าเขายิ่งรักยิ่งชอบก็คงดี จะได้คอยฟังผมไปนานๆ

พวกเราเริ่มถลำลึกมากเรื่อยๆ

สุดท้ายความแตกดังโพละ ผมทะเลาะกับครอบครัวหนัก คราวนี้อย่าว่าแต่จ้างครูสอนพิเศษมาเลย ผมโดนจำกัดเวลาเข้าออกบ้านอย่างกับนักโทษ ห้ามเถลไถล ห้ามไปเรียนพิเศษข้างนอก ขนาดเพื่อนที่โรงเรียนยังพลอยโดนมองแปลกๆ ไปด้วย ผมโดนกดดันจนสมองแทบแตก เรียนก็ต้องเรียน คนรักก็ไม่ได้เจอ ทางบ้านยังมึนตึงบีบบังคับอีก ตอนนั้นผมเหมือนจะเป็นบ้า ใกล้จะเสียสติอยู่แล้ว

แล้วพี่วันก็เสนอให้ผมหนี

อย่างกับรอคอยให้มีคนช่วยออกไปในกรงขัง ผมตอบรับทันทีโดยไม่ยั้งคิดด้วยซ้ำ หลังตกลงกันหมั่นเหมาะ ผมก็เก็บข้าวของจำเป็นใส่เป้หนึ่งใบทำทีว่าไปเรียน แล้วไม่กลับบ้านอีกเลย

ช่วงปีแรกอะไรก็ดี เราลำบากด้วยกัน มีความสุขด้วยกัน พี่วันมีรายได้จากการสอนพิเศษเยอะพอตัว และมีทุนเรียนมหาลัยอยู่แล้ว ส่วนผมไม่รู้จะเริ่มต้นชีวิตยังไง เลยสมัครงานตามร้านอาหารทั่วไป รับตำแหน่งหน้าที่ที่ไม่จำเป็นต้องใช้วุฒิ

แต่พอเข้าปีที่สอง พวกเราก็เริ่มทะเลาะกันมากขึ้น สาเหตุคือพี่วันเหมือนมีคนใหม่ คนที่ดีพร้อม มีพร้อมทุกอย่าง ไม่ต้องมาประหยัดอดออมอยู่กับผมในห้องเช่าถูกๆ สองคน

ผมรู้ได้ยังไงน่ะเหรอ ก็ดูจากโทรศัพท์ของเขาที่เปลี่ยนใหม่ไงล่ะ

แต่เค้นคอยังไงเขาก็ไม่ยอมสารภาพ จนวันหนึ่ง...พี่วันก็หายไป

ครับ ผมตื่นเช้ามากับเตียงที่ว่างเปล่า ข้าวของทุกอย่างที่สื่อว่าเป็นตัวเขาไม่เหลือสักอย่างเดียว ราวกับกรรมตามสนอง คนที่ชวนผมหนีออกจากบ้านได้หนีจากผมไปแล้ว ไปยังที่ที่ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะไปตามที่ไหน

ผมถึงกับเคว้งหนัก ทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว

เป็นการโดนทิ้งที่เจ็บสุดในชีวิตจนร้องไห้ยังร้องไม่ออก!

สิ่งที่ทำได้มีเพียงเคาะประตูห้องแมน...เพื่อนร่วมหอพักที่เช่าอยู่ข้างๆ กัน แมนเคยจ้างให้ผมช่วยสอนการบ้านน้องๆ เป็นรายได้เสริม เขาเห็นว่าผมหัวดี และอธิบายเข้าใจง่าย เด็กๆ เลยติดผมแจ

ผมไม่ได้เล่าอะไร แต่นั่งอยู่ในห้องแมนด้วยความไม่เข้าใจอยู่อย่างนั้น แมนถามอะไรก็ไม่ตอบ จนเขาไปดูที่ห้องของผม และเข้าใจได้ด้วยตัวเอง

นับจากนั้นผมก็ใช้ชีวิตต่อไปโดยพยายามทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร แต่ความฝังใจก็ทำให้ผมไม่กล้าลองรักใครอย่างจริงจังอีกเลย มุ่งมั่นเก็บเงินอย่างเต็มที่ ไม่รังเกียจแม้จะต้องมาทำงานที่คลับเพราะได้ทิปเยอะ วางแผนจะมีชีวิตในยามแก่ที่สุขสบายไม่คิดพึ่งพาใคร

สิ่งที่ผมขอบคุณพี่วัน คงเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ผมสบายใจที่สุดและมอบความกล้าให้หนีออกมาจนมาพบกับความชอบจริงๆ บาร์เทนเดอร์ไม่ใช่งานที่เป็นได้ง่ายๆ ต้องมีทักษะและมีความจำที่ดี เพราะต้องจำสูตร จำสัดส่วนที่แม่นยำ เหมาะกับผมมากทีเดียว

แต่สิ่งที่ผมขอเกลียดเขาตลอดไป ก็คือการจากลาที่ไม่น่าคิดถึงสักนิด

ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อว่าพวกเราจะหวนมาเจอกันอีกครั้งที่คิงส์คลับ!

------------------------

เปิดผังคีรีและราเชนทร์กันแล้ว มาฝั่งรัญกันบ้างค่ะ!
เรื่องจมน้ำความจริงไม่ได้มีประเด็นสำคัญนักหรอกค่ะ แต่อยากจะเปิดประเด็นเรื่องของสภาพแวดล้อมการเติบโตของแต่ละคน  ซึ่งเป็นผลให้ทั้งสามมีความนิสัยกันไปคนละแบบมากกว่า ส่วนเซอร์ไพรส์นั้น...แตนแต้นน!! เเฟนคนแรกรัญมาแล้ว!!!

มาทำไม? มาเพื่ออะไร? ขอบอกว่าใครรอฉากเปิดตัวหนูนิลและพี่คิงให้เตรียมพร้อมได้เลยค่ะ!!

เพจนักเขียนที่ชูป้ายไฟให้กับเหล่าสมาชิกคิงส์คลับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-12-2016 10:17:57 โดย มาจะกล่าวบทไป »

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
สงสารน้องรัญจังเลย. ชีวิตหนูผ่านลูกระนาดมาเยอะเลยนะ
อีนังผัวเก่านั่นน่าสาปส่งมากค่ะ. ไม่น่ามอบบทตัวประกอบให้เลย. แต่ไหนๆมาแล้วอยากให้จัดหนักๆแบบดับเบิ้ลเลยค่ะ
นี่ปูพรมแดงพี่คิงน้องนิลยังทันไหมคะ. รอๆๆๆ.   :L1: 

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
คิดถึงนิลกับคิง      ถ้าวันมายุ่งกับรัญ :katai1:อีก     คีรีกับราเชนทร์ก็จัดหนักเลย :katai1:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2628
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
คนใหม่มาอีกแล้ว พี่วัน มาคราวนี้จะกลับมาจุดประเด็นอะไรอีกกกก #เชื้อรา #คีรีขัน #แมลงวัน ตามมาอีก หึหึ หนูรัญญ์เราดึงดูดพวกนี้เนาะ

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
มาทำไมให้อายบ้านนาละนวลน้อง ไม่ต้องกลับคืนมา~ แทมๆๆ รัญเค้าได้ใหม่แล้วโปรไฟล์ดีแถมแพ็คคู่ สู้ไม่ได้หรอกนะ :laugh:

ออฟไลน์ flimflam

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
กรี๊ดดด น้องนิลลลลล พี่คิงงงงงงง
ฮืออ รอค่ะ 5555555555555555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Reminder

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ไม่ได้ชื่อสมวัน....ท่าทางจะบทเยอะ555


ออฟไลน์ k_keenny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Rumraisin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
แฟนเก่าหนูรัญไม่ใช่ตระกูลสม!!!! แสดงว่ายังมีบทอีกหลายตอน ฮาาาา โผล่มาให้หนูรัญจบอดีตด้วยดีหรือมาสร้างเรื่องให้สองสามีปวดหัวเนี่ย :katai1: คิดถึงน้องนิลกับพี่คิง หลายปีผ่านไปยังควีนยังป่วนอยู่มั้ยน้อ  :hao3:

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
แฟนเก่ามาเจอกับราเชนทร์น่าจะยังไม่น่ากลัวเท่ากับไปเจอกับคีรีนะ  :katai5:

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
อ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาารอออออออออออออออออน้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ninghyuk

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
เขี่ยมันออกไปเลยค่ะ กล้ามาถึงที่

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
แฟนเก่าถ้ามาแบบไม่ดี คีรี&ราเชนต้องช่วยกันดีดให้กระเด็น

ออฟไลน์ chaoyui

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
คิดถึงพี่แว่นจังค่ะ จะมีบทอีกมั้ย //ผิด :z6:

เชิดใส่เลยรัญ เช้อออออะ!!

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
กริ๊ดด คิดถึงนู๋นิลล กับพี่คิงงงจะมาแล้ววว
แต่ว่าจะกลับมาทำมะ อีแฟนเก่า
คีรีกับราเชนทร์เอาให้หนักเลยนะ ถ้านางมาทำอะไรอีก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
แฟนคนแรกของรัญมาแบบนี้น่าจะมีบทบาทมากกว่ามาให้หึงเป็นแน่แท้

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
 :ling1: :ling1: :ling1:
สุดยอดเลย จะได้เจอคิง ราชินี แล้ว :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
เรวันต์ น่าโดนรัญเมินให้สะใจ เอาคืนซะเลย
ให้เห็นว่าไม่มีเรวันต์ รัญก็อยู่ได้
แถมมีคนที่รักรัญ ทั้งรักทั้งหลง
แล้วมีทีเดียวสองคนเลย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ฮื่อออ โฟกัสที่ตอนต่อไปน้องนิลและผัวสุดแซ่บของนางงงงง  :mew1:

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :impress3: ว๊าวจะได้เจอหนูนิลแล้ว ดีใจจังเลย คิดถึง  :mew1: สรุปไม่มีประเด็นอะไรแต่คือการเลี้ยงดู แสดงว่าครอบครัวของรัญต้องพอมีฐานะเลยทีเดียวและการเป็นลูกคนเดียวเลยทำให้พ่อแม่หวงมากเลยกลายเป็นกักขังไปโดยปริยาย แฟนเก่าโคตรใจร้ายเลยอ่ะ ชวนเขาหนีมาในที่สุดก้อทิ้งเขาแถมยังไม่บอกกล่าวอะไรอีก โคตรชั่ว  :angry2: รอให้ควีนจัดการเลย คงวางแผนร้ายมาแน่ ๆ เผลอ ๆ ได้รับเงินจากพ่อแม่รัญมารึเปล่า  :m16:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
อ๊ายยยยย  อยากเจอน้องนิลลลลลล   

ต้องมีเรื่องสนุกๆ รออยู่แน่เลย   o18

ออฟไลน์ MOMAMi_96

  • เรื่อยๆ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
ชีวิตน้องรัญนี่ดราม่าจริงๆ ้อออ

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
แค่ได้ยินว่าแฟนเก่านี่ตาเชื้อราก็คงเขม่นจะแย่แล้วละ ถ้ามาทำเรื่องให้หนูรัญอีกเดี๋ยวคงมีไปฟ้องคีรีแน่ๆ

ปอลิง พี่คิงน้องนิลจะมาแล้วน้องนิลจะมาป่วนมั้ยน้อ

ออฟไลน์ ชมพูพาล

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
แฟนเก่าเรอะ...ท่าทางงานนี้เชื้อทีมราคีน่าจะได้ร่วมมือกัน  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Minty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'
ตอนที่ 20 : เรวันต์


ผมว่าวินาทีแรกที่ราเชนทร์รู้ว่าผมเจอแฟนเก่า เขาคงอยากจะหึง แต่พอเห็นสีหน้าผมไร้ซึ่งความพิศวาสโดยสิ้นเชิงเลยหึงไม่ออก

ขนาดตอนคีรีมารับยังเห็นถึงความผิดปกติจนทักขึ้นมา และเมื่อผมเล่าว่าเจอเรวันต์ เขาก็ทำหน้าเหมือนจะหึงตามรอยราเชนทร์

แต่ก็นั่นแหละ...พอผมเล่าว่าในอดีตแยกจากเขายังไง โดนทิ้งแบบไหนด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่กำหมัดแน่นเหมือนอยากจะต่อยหน้าคน คีรีก็สลัดพิษรักลมหึงทิ้งแล้วถามว่าผมอยากจะชกมวยกับเขามั้ย

ราเชนทร์ร้องเฮ้ย ส่วนผมตอบว่าอยาก คีรีเลยเปลี่ยนเป้าหมายจากปริ้นส์รูมเป็นคอนโดส่วนตัวของเขาที่นับเป็นหนึ่งในผู้ลงทุน เลยไม่แปลกที่จะใช้อำนาจให้พนักงานมาเปิดห้องออกกำลังกายเอาตอนตีสามย่างตีสี่

“รัญ...ฉันง่วงแล้วนะ”

“งั้นนอนตรงนั้นก่อนแล้วกันครับ” ผมชี้ไปที่เบาะนอนสำหรับยกน้ำหนัก สมกับเป็นคอนโดมีชื่อ ห้องออกกำลังกายมีแบ่งเป็นสัดส่วนเพิ่มระดับตามความต้องการของคีรี กึ่งๆ จะเป็นยิมขนาดย่อมเยา

ผมไม่เคยเล่นต่อยมวยมาก่อนเลยใส่นวมงงๆ จนคีรีต้องเข้ามาช่วยจับให้แน่ใจว่าถ้าผมออกหมัดนวมจะไม่ลอยกระเด็นออกมา จากนั้นท่านประธานในชุดนอนผ้าไหมก็สวมเป้าล่อมือ ท่าทางทะมัดทะแมงขึ้นมาทันที

“ต่อยมาได้เลย”

มีผู้เชี่ยวชาญสนับสนุนขนาดนี้ผมก็จัดสิครับจะรออะไร

ผมต่อยเพื่อต้องการระบายอารมณ์หงุดหงิดล้วนๆ มันเป็นความรู้สึกที่บอกไมถูกพูดไม่ออก ไม่คาดคิดว่าจะมาเจอแฟนเก่าเอาตอนนี้ แถมยังมีหน้ามาทักทายเหมือนไม่เคยทำอะไรผิดอีกต่างหาก ยิ่งคิดผมก็ยิ่งโมโห คิดว่าเป้าล่อเป็นหน้าของเรวันต์แล้วออกหมัดไม่ยั้ง

“...หน่วยก้านเธอใช้ได้นะ”

“คงเพราะผมเห็นในคลับบ่อยๆ มั้งครับ” ผมตอบคีรีที่อุตส่าห์ชมเชยขณะที่ราเชนทร์เอามือลูบหน้าปอยๆ เหมือนเสียวไส้เวลาได้ยินเสียงหมัดกระแทกกับเป้าล่อดังปักๆ

“...นี่เธอโกรธแฟนเก่าขนาดนั้นเลยเหรอ”

“โดนทิ้งโดยไม่บอกอะไรสักคำมันเหมือนให้ความหวังนี่ครับ” ผมพูดพร้อมออกหมัดขวา คีรีรับได้อย่างไม่สะท้านแถมยังให้คำแนะนำว่าผมควรจะบิดเอวเพิ่มแรงขึ้นไปอีก “ถึงจะรู้ว่าถูกทิ้ง แต่ในใจลึกๆ ผมก็คิดว่าเขาอาจจะกลับมา แล้วดูเขาสิ หายไปจากชีวิตผมห้าปี พอเจอกันอีกครั้งดันทักทายว่า ‘เห็นเราสบายดีพี่ก็เบาใจ’ ถ้าเป็นคุณคุณไม่โมโหเหรอ”

“นั่นสินะ” คีรีเป็นผู้ฟังที่ดี เพราะถ้าเป็นราเชนทร์คงพูดจ้อไปเรื่อยไม่นึกเอามาใส่ใจเป็นจริงเป็นจังนัก “ว่าแต่เธอหมดรักเขาแล้วใช่มั้ย”

แถมยังมาทำเนียนล้วงข้อมูลอีกต่างหาก

ผมลอบมองท่านประธานที่ออกจะกระตือรือร้นเป็นพิเศษแล้วเพิ่งนึกได้ว่านี่คงเป็นครั้งแรกที่ผมยอมเปิดปากเล่าอดีตของตัวเอง

“ผมหมดรักเขาตั้งแต่โดนทิ้งในสามเดือนแรกแล้วครับ และคิดว่าต่อให้กลับมาก็จะไม่ยกโทษให้แน่นอน ผมไม่ให้โอกาสคนที่คิดว่าหมดหวังไปแล้วหรอก”

“งั้นแสดงว่าพวกฉันก็มีหวังสินะ” ราเชนทร์แทรกขึ้นหน้าตาชื่นบาน ผมบิดตัวน้อยๆ พร้อมเหวี่ยงหมัดออกไปสุดแรง ปะทะกับเป้าล่อดังเป็นพิเศษจนคุณชายสะดุ้งโหยง

“พวกคุณก็อย่าทำให้ผมตัดสินใจผิดแล้วกัน” พอออกแรงแล้วอารมณ์ก็เริ่มดีขึ้น ผมมองคีรีอย่างชื่นชมที่เขาไม่เป็นอะไรเลยทั้งที่คนออกแรงอย่างผมแขนสั่นหงึกหงัก สมชื่อภูเขาจริงๆ

“พักก่อนมั้ย”

“ก็ดีครับ” คีรีช่วยถอดนวมให้ผมแล้วหาผ้ามาช่วยซับเหงื่อเพราะออกแรงจนเหนื่อยหอบ ราเชนทร์ซึ่งนอนเอกเขนกกับเบาะนอนขยับตัวไปเล็กน้อยเพื่อเว้นที่ให้ผมนั่ง

“เห็นรัญฉุนขนาดนี้ฉันหึงไม่ออกเลย”

“หึงผมกับเรวันต์ สู้หึงผมกับแมนยังดีกว่า” วันนี้ผมชักจะพูดมากไปแล้วแฮะ สงสัยเพราะเจอกับแฟนเก่าทำให้ใจเย็นต่อไม่ไหว เหมือนกับมีใครเอาอดีตมากระแทกหน้าอย่างจัง

“ทำไม” คีรีถาม เขาบริการดีขนาดหาน้ำให้ผมดื่มด้วย แม้จะเป็นผู้ลงทุนหลักแต่คีรีก็วางเงินค่าน้ำสำหรับขายให้โดยไม่คิดใช้สิทธิ์งุบงิบค่าใช้จ่าย

“...แมนเป็นแฟนเก่าคนที่สองของผม”

“ฉันว่าแล้ว!” ราเชนทร์เด้งตัวขึ้นมาทันที เขามองผมเหมือนไม่พอใจที่แอบปิดบังมานาน

“เธอเป็นคนบอกเลิก?”

“ครับ”

“แมนกับเธอน่าจะเข้ากันได้ดีมาก ทำงานด้วยกันมีเวลาให้กัน นิสัยก็ไม่เป็นปัญหาไม่งั้นเธอคงไม่คบเป็นเพื่อนสนิทและเชื่อใจขนาดนั้นหรอก ทำไมถึงได้เลิกกันล่ะ”

คีรีนะคีรี

ผมถึงกับพูดอะไรไม่ออกเมื่อถูกท่านประธานวิเคราะห์ละเอียดยิบ ราเชนทร์เองก็ให้ความร่วมมือดี เพราะถ้าเขาซักเองมีหวังฟังดูหาเรื่องประชดประชันมากกว่าสอบถามอย่างประเมินด้วยความละมุนละม่อม

สงสัยวันนี้คงรอดยาก เพราะดันเป็นฝ่ายหลุดปากออกมาเอง

“แมนชอบผู้หญิงน่ะครับ”

ชื่อเขาก็บอกชัดขนาดนั้น ไม่เห็นน่าแปลกใจตรงไหน

“แต่เขาตกลงคบกับเธอนี่ หรือว่าเขาเพิ่งรู้ตัวทีหลัง อืม...”

...ใครก็ได้ช่วยเอาท่านประธานไปเก็บที ทำไมเขาถึงได้ขี้สงสัยขนาดนี้นะ ยังดีที่น้ำเสียงของเขาฟังอบอุ่นไม่ได้บีบเค้นมาก แต่ไอ้ท่าทางที่เหมือนจะคิดเองเออเองมันทำให้ผมต้องอธิบายออกมาเพื่อไม่ให้ถูกเข้าใจผิด

“แมนรู้จักผมตอนที่คบกับเรวันต์นานแล้วล่ะครับ เขาคอยให้ความช่วยเหลือผมบ่อยๆ ตอนที่ผมเพิ่งเลิกกับเรวันต์ก็ไปอาศัยอยู่กับเขาชั่วคราว ตอนนั้นผมไม่อยากเป็นภาระ พยายามดิ้นรนหาที่อยู่ใหม่ แมนคงเป็นห่วงเพราะผมค่อนข้างเคว้งเลยบอกว่าถ้าไม่อยากคิดมากก็ถือว่าคบกันเป็นคนรักก็ได้ ผมจะได้อยู่กับเขาโดยไม่ลำบากใจ เพราะถ้าเป็นแฟนกันจะอยู่ด้วยกันก็ไม่แปลก”

“แมนมาก...” ราเชนทร์พึมพำด้วยสีหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อ แหงล่ะ พวกสุดโต่งทำดีกับใครไม่ค่อยเป็นอย่างคุณชายท่านนี้คงเห็นว่าแมนเป็นตัวละครในนิยายที่ดีเกินไป

ทักษะบาร์เทนเดอร์ของผมก็ได้มาตอนเป็นแฟนกันนั่นแหละ

“พวกเราไม่เคยมีอะไรกันเพราะห้องของแมนมีน้องชายกับน้องสาวอยู่ด้วย มากสุดแค่กอดจูบ แมนพยายามเป็นคนรักที่ดีให้ผม แต่ผมรู้ว่าเขาไม่ได้มีรสนิยมด้านนี้ เลยบอกเลิก...” พูดจบก็เผลอเสยผมอย่างงุ่นง่าน เอาตรงๆ เลยมั้ยว่าที่ไม่เคยพูดเรื่องแฟนเก่าคนที่สองมาก่อนก็เพราะว่ามันเป็นอะไรที่...อธิบายยาก เหมือนผมเห็นแก่ตัวฝ่ายเดียวแม้ว่าแมนจะเป็นคนเสนอเองก็เถอะ

ถ้าถามว่าแล้วผมไม่รู้สึกหวั่นไหวกับความดีของแมนเลยเหรอ...ก็ต้องบอกว่าหวั่นไหวสิ อย่างที่คีรีบอกนั่นแหละ นิสัยผมกับแมนเข้ากันได้ เราไม่มีความแตกต่างทางฐานะการเงิน แมนไม่ใช่คนโลภมากหรือปันใจง่ายเพราะอยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้น้องๆ การทำงานก็คล้ายกัน คอยช่วยเหลือค้ำจุนตลอด

แต่กับคนที่ไม่ใช่ยังไงก็ไม่ใช่

หมายถึงตัวแมนเองน่ะนะ ผมรู้ว่าเขาพยายามแล้ว และอาจจะหวั่นไหวกับผมด้วยก็ได้ แต่สุดท้ายเราก็ไม่ได้ก้าวข้ามมากไปกว่านั้น กลายเป็นเพื่อนสนิท กลายเป็นเหมือนพี่น้อง แม้จะแปลกๆ ไปบ้างแต่สถานะแบบนี้กลับทำให้เราคบกันอย่างสนิทใจกว่าเดิม

“งั้นคนนี้ฉันก็ไม่ต้องหึงสินะ” คีรีถามยิ้มๆ ทำให้ผมที่กำลังประหม่าเพราะนึกถึงความหลังพลอยยิ้มตามไปด้วย

“ครับ ผมกับแมนยังไงก็เป็นคนรักกันไม่ได้หรอก”

พอบอกออกไปตามตรงก็โล่งดีเหมือนกัน ที่ไม่เคยพูดก็เพราะกลัวว่าพวกเขาจะไม่เข้าใจและทำให้การทำงานในคลับของผมยุ่งยากกว่าเดิม

“แต่ยังไงเธอก็อย่าเอาหน้าไปใกล้แมนมากนักล่ะ”

“ครับ”

ผมเกาะเกี่ยวปลายนิ้วหยอกเล่นกับคีรีอย่าสบายใจ เขาเป็นคนมีเหตุผลและคุยง่ายมาก ผิดกับ...ราเชนทร์ที่หาจังหวะแทรกไม่ได้สักที จึงฉีกยิ้มหวานเหมือนรอให้ผมหันมาเห็นเอง

“คุณง่วงนี่ครับเชนทร์ นอนก่อนได้นะ”

“ไม่เป็นไร ฉันอยากฟังต่อ”

ราเชนทร์คิ้วกระตุกเมื่อเห็นผมไม่ยักถามความเห็นเขาเลย

“ถ้าไม่นับฉันกับราเชนทร์ เธอมีแฟนทั้งหมดกี่คน”

...บางทีผมควรจะหันไปคุยเล่นกับเขาบ้างสินะ เพราะท่านประธานเห็นนิ่งๆ แต่ดันกัดไม่ปล่อย อย่างกับว่าวันนี้จะรีดข้อมูลแฟนเก่าผมให้ครบถ้วนกระบวนความ

“สามคนครับ” ผมตอบ ไม่รู้จะอิดออดไปทำไมเหมือนกัน แม้จะไม่ค่อยอยากพูดถึงนักก็เถอะ “แต่คนที่สามไม่มีอะไรมาก พวกเราคบกันแค่สามวันเอง”

“ฉันก็สามวัน” ราเชนทร์รีบแทรก สมเป็นไอ้ตัวการคบสามวันที่สร้างเรื่องมากที่สุด

“เอาเป็นว่าคนนี้ไม่เป็นปัญหาหรอกครับ พวกเราเลิกกันเพราะเขามีคนรักอยู่แล้ว”

“อยากชกมวยอีกสักนิดมั้ย”

“ครับ” ผมลุกขึ้นไปใส่นวมอีกครั้ง ทำเมินเสียงร้องประท้วงของราเชนทร์ที่อยากเข้านอนเต็มแก่ หรือไม่ก็อยากจะทำอะไรใต้ผ้าห่ม แต่โทษเถอะ เขายังติดทัณฑ์บนหนึ่งอาทิตย์อยู่นะ!

ได้ออกกำลังกายแบบเต็มเหนี่ยวแล้วรู้สึกดีไม่เลว ความหื่นความเครียดก็โดนระบายออกไปหมด ผมชักเข้าใจว่าทำไมคีรีถึงชอบเข้ายิมเวลาเก็บกดหนักๆ

“ถ้าเธอชอบจะพามาบ่อยๆ”

“ดีครับ” ผมยิ้มกับคีรี มองนาฬิกาก็ปาเข้าไปตีห้าเข้าไปแล้ว ดีนะพรุ่งนี้เป็นวันอาทิตย์ ไม่งั้นขืนให้ท่านประธานต้องอดหลับอดนอนไปทำงานเพราะมาเป็นคู่ซ้อมให้ผมคงรู้สึกผิดแย่ “งั้นคืนนี้ค้างที่นี่เลยแล้วกัน”

ราเชนทร์อยากจะประท้วงอยู่หรอก แต่เพราะผมกับคีรีตกลงกันเองแถมรถที่ขับมาก็เป็นของท่านประธาน เขาเลยไม่มีสิทธิ์มีเสียงสักเท่าไหร่

“นายจะใจร้ายกับฉันไปหน่อยแล้วนะรัญ” คนโดนทิ้งเริ่มโวยวายขณะเดินตามออกจากห้องออกกำลังกาย เขาพาดแขนโอบรอบบ่าผมอย่างแสดงตัวเป็นเจ้าของ

“แต่คุณก็รักผมนี่”

“วันนี้ร้ายนักนะ”

ผมหัวเราะ พอได้เปิดใจก็รู้สึกกล้าพูดกล้าเล่นกับพวกเขามากกว่าเคย เห็นอย่างนั้นราเชนทร์ก็โวยวายต่อไม่ออก มองผมด้วยแววตารักใคร่หลงใหลแล้วกดจูบข้างขมับแรงๆ เป็นการเอาคืน

พวกเราพากันขึ้นไปห้องพักชั้นบนสุดของท่านประธาน

ห้องของคีรีแตกต่างกับห้องราเชนทร์ชัดเจนมาก สีขาวตัดดำในโทนเรียบหรูไฮโซ ทุกอย่างจัดเป็นระเบียบเรียบร้อยสะอาดเนี้ยบ เอ่อ ห้องของราเชนทร์ก็สะอาดสะอ้านอยู่หรอก แต่จะว่ายังไงดี การจัดเก็บของในห้องนี้เป็นสัดส่วนกว่า เลยทำให้ดูใช้เนื้อที่ได้ประหยัดและมีประโยชน์มากกว่าเป็นไหนๆ

“เธออาบน้ำก่อนเถอะ”

ปกติแล้วราเชนทร์จะเป็นคนแรกที่ได้ใช้ห้องน้ำ แต่ในเมื่อเจ้าของห้องเอ่ยปากขนาดนี้ อีกฝ่ายเลยได้แต่มองผมเปิดประตูเข้าห้องน้ำไปอย่างคุ้นชินด้วยตาปริบๆ เพราะไม่เคยเหยียบที่นี่มาก่อน จะหยิบจะจับจะใช้อะไรก็ออกจะมึนงงอยู่บ้าง

ห้องของคีรีไม่มีอ่างน้ำขนาดใหญ่แต่เป็นฝักบัวในห้องกระจก เน้นใช้พื้นที่น้อยเน้นความกว้างของห้องให้ดูสบายตาไม่แออัด

พอจัดการตัวเองเสร็จผมที่ตอนแรกยังตื่นตัวก็เริ่มจะง่วงขึ้นมาเหมือนกัน

“เธอนอนก่อนได้เลยนะ” คีรีเพิ่มหมอน แม้เตียงจะไม่ใหญ่นอนสามคนกลิ้งไปมาแบบสบายๆ เท่าที่ปริ้นส์รูมหรือบ้านของราเชนทร์ แต่ถ้านอนกอดกันคงอบอุ่นดี

“วันนี้ไม่ทำกันเหรอครับ”

“ยังไม่ครบหนึ่งอาทิตย์เลยนี่ ไม่ทำหรอก”

เห็นคีรีน่ารักขนาดนี้ผมก็โน้มศีรษะเขาลงมาจูบปากเป็นรางวัล พวกเราคลอเคลียโลมเลียกันอยู่อย่างนั้นจนเกือบจะไฟติดขึ้นมาจริงๆ เลยพากันผละออก คีรีช่วยห่มผ้าให้ผม กล่าวราตรีสวัสดิ์

“ราตรีสวัสดิ์ครับ” ผมเอ่ยกับคนรักแสนดีแล้วเผลอหลับไปแม้ตั้งใจจะถ่างตารอราเชนทร์ก็ตาม

แม้จะนึกโล่งที่ได้สารภาพเรื่องรักๆ ในอดีต แต่ในใจยังนึกกังวลไม่น้อย...

เรวันต์มาทำอะไรที่คิงส์คลับกันแน่นะ




(( ก็ต้องมากู้เงินบอสน่ะสิ ))

วันหยุดแสนสุขสันต์ ผม ราเชนทร์ และคีรี ขลุกตัวอยู่ในห้องออกกำลังกายที่คอนโด ตอนนี้ผมอยู่ในช่วงพักหลังคีรีช่วยสอนมวยติดกันร่วมสองชั่วโมง ราเชนทร์คงนึกเบื่ออยากหาเรื่องออกแรงขึ้นมาเลยใส่นวมต่อยใส่คีรีที่สวมเป้าล่อดังปักๆ ทั้งเตะทั้งต่อยเหมือนถือโอกาสระบายอารมณ์ แต่คีรียืนตั้งรับไม่สะท้าน

“มึงเห็นเขาเข้าออกห้องบอสเหรอ”

คิงส์คลับมีบริการหลากหลาย ส่วนใหญ่มักเป็นเรื่องผิดกฎหมายรวมทั้งการกู้เงินดอกเบี้ยแพงมหาโหด กิจการที่เงินไหลเวียนฟุ้งเฟ้อขนาดนั้นย่อมมีเงินก้อนจัดสรรให้เป็นจำนวนมาก ถ้าไม่นับเรื่องติดต่อธุรกิจแล้วก็มีแค่การกู้เงินเท่านั้นที่ต้องเข้าไปหาบอสในออฟฟิศโดยตรง

(( ใช่ เรวันต์เข้าออกห้องบอสไม่สนใจบาร์หรือการพนันเลย คนที่ไม่อยากเสียเงินกับความบันเทิงก็มีแต่พวกขาดเงินจนต้องมาขอกู้ไม่ใช่รึไง ))

ฟังเข้าท่า

(( มันเห็นมึงแล้ว ระวังตัวหน่อยก็ดีนะรัญ ดูเหมือนว่าการเจรจากับบอสจะไม่ค่อยได้เรื่อง มันถึงได้มาคิงส์คลับบ่อยๆ เทียวเข้าเทียวออกอย่างนี้))

“กูเป็นแค่เบี้ย”

(( แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของคิงส์คลับ ))

“...”

(( ปัญหาส่วนใหญ่เวลากู้เงินคือไม่มีคนช่วยค้ำประกัน ถ้าเป็นคนมีธุรกิจอยู่แล้วก็ไม่เท่าไหร่เพราะตามได้ไม่ยาก แต่ถ้าเป็นคนธรรมดาไม่มีอะไรเลยจะขอกู้เงินต้องมีอีกคนช่วยรับผิดชอบป้องกันไม่ให้หอบเงินหนีหายไปเฉยๆ เมื่อวานมันดูดีใจมากนี่ที่เห็นมึง อย่าใจอ่อนโดนมันกล่อมจนช่วยค้ำเอาล่ะ ))

“กูไม่โง่ขนาดหาเรื่องใส่ตัวหรอกน่า” ผมพูดพลางนึกฉุนขึ้นมาอีกระลอก ว่าแล้วเชียวแฟนเก่าที่หายหัวไปห้าปีจู่ๆ จะมาทักทายสนิทสนมทำไม ที่แท้ก็กะหลอกใช้

(( มึงไม่ใช่คนใจแข็งอย่างที่คิดหรอกนะรัญ ไม่งั้นมึงคงไม่รีบตัดความสัมพันธ์ที่แล้วมาหรอก มึงกลัวว่ายิ่งถลำลึกจะตัดไม่ขาดต่างหาก ))

แทงใจดำชะมัด แอบนึกตัดพ้อว่าก็เพราะแมนที่อยู่ด้วยกันแต่ไม่มีทางสมหวังเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมเคร่งกับตัวเองมาก รู้ตัวว่ายิ่งยื้อก็ยิ่งเสียเวลาเปล่า เขาเป็นคนมอบบทเรียนนี้ให้ผมเอง

ผมไม่ใช่คนใจแข็ง แต่ข้อดีคือผมเป็นคนที่หากตัดสินใจอะไรแล้วจะทำทันทีโดยไม่คิดละล้าละลังประวิงเวลา จนกลายเป็นเด็ดขาดเกินไป

“รัญ”

ผมวางสายแล้วเงยหน้ามองราเชนทร์ที่ยืนหอบอยู่ตรงหน้า ดูเหมือนระหว่างที่ผมโทรหาแมนสองหนุ่มจะวางมวยกันไปไม่ต่ำกว่าหนึ่งยก ไม่งั้นสภาพคุณชายคงไม่โทรมเหงื่อขนาดนี้

“คุณตกน้ำมาเหรอครับ” ผมอดแซวไม่ได้จริงๆ

“ขึ้นห้องกันเถอะ” ราเชนทร์เปลี่ยนเรื่อง ดึงผมที่กำลังนั่งพักให้ลุกขึ้น ส่วนคีรีหลังเอาอุปกรณ์ไปเก็บแล้วก็ตามหลังมา วันนี้ท่านประธานอยู่ในลุคดิบเถื่อนเร้าใจสุดๆ เขาไม่ได้เสยผมขึ้นแถมไม่ได้สวมแว่นเวลาออกกำลัง สวมเสื้อกล้ามกับกางเกงสามส่วนสบายๆ เผยให้เห็นรูปร่างเย้ายวนใจ

ความจริงราเชนทร์เองก็ไม่ได้น้อยหน้า เพราะไม่มีเสื้อจะใส่คุณชายเลยเดินเปลือยอกกับกางเกงวอร์มที่เพิ่งซื้อใหม่สดๆ ร้อนๆ ที่หน้าห้องออกกำลังกาย วันนี้สองหนุ่มเผ็ดเข็ดฟันสุดๆ ไปเลย

ส่วนตัวผมเองยืมชุดของคีรีมาใส่ ทำให้ออกจะหลวมๆ อยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคเท่าไหร่

วันอาทิตย์ช่วงกลางวันแบบนี้มีคนเข้ามาใช้บริการอยู่เหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าเพราะออร่าของคีรีดูดีเกินไปรึเปล่า เลยไม่ค่อยมีใครเข้ามาในพื้นที่เตะต่อยของพวกเราเท่าไหร่นัก

ไม่รู้ว่าตอนคุยกับแมน สองหนุ่มไปตกลงอะไรกันไว้ พอถึงห้องเลยพากันลากผมเข้าห้องน้ำอัดเข้ามาในตู้กระจกพร้อมกันทีเดียวสามคน

“หนึ่งอาทิตย์นะครับ” ผมย้ำคำเมื่อเห็นบรรยากาศไม่สู้ดีเท่าไหร่ ราเชนทร์ประกบหน้า คีรีประกบหลัง แถมหนึ่งในนั้นยังเปิดฝักบัว ปล่อยให้สายน้ำเย็นไหลรดพวกเราจนหนาวๆ ร้อนๆ อย่างบอกไม่ถูก

“อาบน้ำด้วยกันไง” ราเชนทร์ไม่ว่าเปล่ายังถลกกางเกงวอร์มโยนทิ้ง และยังอุตส่าห์มีน้ำใจมาช่วยผมถอดกางเกงด้วย

พวกเราเคยอาบน้ำด้วยกันบ่อยๆ ที่ปริ้นสรูม แต่เป็นอ่างน้ำนอนแช่สบายๆ ไม่ใช่มายืนเบียดกันใต้ฝักบัวแบบนี้ จะขยับตัวทำอะไรทีก็แตะโดนตัวอีกฝ่ายตลอดจนชวนขนลุกเป็นช่วงๆ

พอท่อนล่างผมโดนจัดการ คีรีก็ถลกช่วยถอดท่อนบนผมทิ้ง พร้อมกับแนบร่างเข้ามาชิดจนรู้สึกถึงความร้อนผ่าวของร่างกายแม้น้ำจะเย็นมากก็ตาม

“พวกเราไม่เข้าไปในตัวเธอหรอก” คีรีกระซิบข้างหูผม ดึงอารมณ์วาบหวามให้ยิ่งพุ่งสูง “แต่ถ้าแค่เสียดสีภายนอกคงได้ใช่มั้ย”

ในสถานการณ์ที่โดนประกบหน้าหลังผมจะตอบอะไรได้ล่ะนอกจากพยักหน้าหนึ่งครั้ง ก่อนจะเอนตัวพิงกับคีรีในสภาพอ่อนระทวยเมื่อโดนจับส่วนอ่อนไหวเข้าถูไถกับของราเชนทร์

เสียงครางดังแผ่วสะท้อนก้องในห้องอาบน้ำ ผมยืนขาสั่นเมื่อโดนปรนเปรอจากคนรักจนปลดปล่อยติดๆ กันสองครั้ง โดนจับหันหน้าหันหลังสลับกันไป จนครั้งที่สามสองหนุ่มก็ดันตัวผมให้พิงกับกำแพง พวกเขาหันหน้าเข้ามาพร้อมกับเอาส่วนแข็งขืนเข้ามาใกล้

ผมมองคีรีและราเชนทร์อย่างประหลาดใจ ยอมรับว่าค่อนข้างตกตะลึงเมื่อเห็นท่อนลำสามแท่งโดนจับรวบไว้ด้วยกัน ปกติแล้วสองคนนี้ออกจะแสดงท่าทีกึ่งรังเกียจนิดๆ ด้วยซ้ำเวลาโดนตัวอีกฝ่าย เลยต้องสลับกันคนละรอบตลอด

“อืม...” ผมครางแผ่ว มือเกาะบ่าราเชนทร์และคีรีที่หันหน้าเข้าหาคอยประกบจูบคลอเคลียไม่ห่างด้วยความรู้สึกเสียวปนสุขอย่างบอกไม่ถูก ส่วนอ่อนไหวโดนบดเบียดและกอบกุมด้วยสองมือของผู้ชายสองคนที่ดูจะตื่นเต้นไม่ต่างกัน

ไม่นานพวกเราก็หลั่งออกมาพร้อมกัน เปรอะเต็มมือและถูกชะล้างด้วยสายน้ำเย็นฉ่ำ ผมมองพวกเขาทั้งคู่ที่หอบน้อยๆ แล้วยิ้มอย่างพอใจ...เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่เราเสร็จพร้อมกันด้วยอารมณ์ที่ไม่ได้เรียกว่าหื่นกระหาย แต่คล้ายจะพยายามจูนเข้าหาโดยใช้สัญชาตญาณทางเพศชักนำ

“จะทำก็ทำได้นี่หว่า...” ราเชนทร์เอ่ยออกมาปนทึ่งคนแรก

“นั่นสิ” คีรีเองก็ดูจะมึนๆ งงๆ พอกัน นี่พวกเขาตกลงลองทำโดยที่ไม่รู้ว่าจะสำเร็จรึเปล่าเหรอเนี่ย ผมว่าที่พวกเขาคิดพิเรนทร์แบบนี้อาจเพราะตอนลองกันบนเตียงค่อนข้างราบรื่นกว่าที่คิดจนน่าท้าพิสูจน์ ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่กำแพงทิฐิกั้นกลางระหว่างทั้งสองดูจะลดลงมาเรื่อยๆ โดยที่พวกเขาเองก็ไม่ทันรู้ตัว

“รัญชอบมั้ย” ราเชนทร์ลูบแก้มผมถามด้วยแววตารักใคร่

“...ชอบครับ...” ผมเอ่ยเสียงพร่าพลางเอียงศีรษะน้อยๆ จนเส้นผมเปียกลู่ตามแนวใบหน้าลำคอ เห็นทั้งคู่เลิกมึนตึงใส่กันผมที่เป็นคนกลางก็แสนจะปลาบปลื้มสุดแสนจนยิ้มไปทั้งตาทั้งปาก

คล้ายจะได้ยินเสียงพวกเขาสูดหายใจเกือบจะพร้อมกัน

“ถ้ารัญชอบงั้นเรามาลองแบบดับเบิ้ลเพเน---“

“ผมหิวแล้ว รีบอาบน้ำแล้วออกไปหาอะไรกินกันเถอะครับ” ผมรีบตัดบทดันตัวสองหนุ่มออกห่างพร้อมเว้นระยะห่างป้องกันไม่ให้หน้ามืดตามัวทำอะไรมากไปกว่านี้ ราเชนทร์ออกจะหงอยไปสักหน่อยแต่ก็ยอมตามน้ำ ส่วนคีรีแม้จะไม่ได้แสดงออกชัด แต่ผมว่าเขาก็คงคิดไม่ต่างกับคุณชายจอมทะลึ่งนักหรอก

...แค่นึกว่าพวกเขาจะเข้ามาพร้อมกันสองคนผมก็สยองแล้ว ไอ้เราก็คบแบบทีละคนมาตลอด เลยไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจเซ็กซ์แบบมหัศจรรย์พันลึกมาก่อน ไอ้คิดก็เคยคิดบ้าง แต่คาดไม่ถึงว่าจะได้ประสบพบเจอเร็วขนาดนี้

สรุปแล้วมันดีหรือแย่กันนะที่คีรีกับราเชนทร์ปรับตัวได้ไวเกินไป

คำตอบคือ...มันดีกับพวกเขา แต่สำหรับผมเนี่ย...ท่าทางจะเจอศึกหนักซะแล้วสิ!

---------------------------
เรื่องใต้สะดือโปรดไว้ใจเชื้อรา ส่วนคีรีขันก็เอาด้วยกับเขาทุกรอบไม่เคยปฏิเสธ ลำบากรัญแล้วนะ 555
สำหรับสาววายใสๆ ที่อาจไม่รู้ว่าราเชนทร์หมายถึงอะไร...แนะนำให้ลองเสิร์ชคำว่า Double Penetration ค่ะ //อั๊ย เขิน
ส่วนสาววายไสยๆ เราจะไม่พูดถึง 555

สำหรับพี่คิงน้องนิลตอนแรกว่าจะให้ออกเลย แต่ท่าทางจะยาวเลยขอยกยอดไปตอนหน้าแทนค่ะ

เพจนักเขียนไสยๆ >///<
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-12-2016 20:32:43 โดย มาจะกล่าวบทไป »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด