#HollywoodBoyfriend
@3 say my name
People call those imperfections, but no, that’s the good stuff.”
—Sean Maguire, Good Will Hunting
เรื่องแอบเพ้อแอบฝันว่าเขาจะเป็นซินเดอเรลล่า ถูกจูบจากเจ้าชายรูปหล่อพ่อรวย มันก็ย่อมมีเป็นพักๆ
เพชรไพลินไม่ปฏิเสธหรอกว่าเขาแอบยิ้มเชิญชวนอีกฝ่ายจนเหงือกแห้ง พยายามเงี่ยหูฟังว่าอเล็กซ์ชอบอะไร คุยด้วยความสบายใจมากไหม ซื้ออะไรมากินบ้าง
ทุกคนก็ย่อมมีความแรดในตัวกันทั้งนั้นแหละ อยู่ที่ว่าจะเปิดเผยมากหรือน้อย
สำหรับเพชรไพลิน...เขาวางตัวเองให้เป็นกลาง เป็นเด็กเนิร์ดที่สามารถคุยเรื่องทะลึ่งได้ ดูหนังได้ทุกแนว และกินได้ทุกอย่าง ดังนั้นชีวิตของเขาจึงดูง่ายๆ เข้าได้กับทุกคน ยกเว้นพวกนิสัยแย่สุดกู่นะ ให้ตายก็ไม่เล่นด้วยหรอก
"แซลลี่น่ารักว่ะ"
เอ็ดเวิร์ดเอ่ยท่ามกลางความเงียบ ตอนนี้คนในหอส่วนใหญ่นอนกันหมดแล้ว ยกเว้นหนุ่มไทยที่นอนอ่านกระทู้ดัง แล้วจู่ๆเจ้าเอ็ดโพล่งขึ้นมา
"อื้ม นิสัยดีด้วยนะ"
เพชรไพลินเชียร์เพื่อน ถึงเพิ่งเจอกันแค่วันเดียว แต่แซลลี่เป็นคนเปิดเผย ไม่มีละอองแห่งความลึกลับจากเธอเลย
"คุยด้วยแล้วสนุกดี"
"ท่าทางคนแถวนี้จะตกหลุมรักเต็มเปา"
เขาล้อ
"แล้วคนแถวนั้นล่ะ หลงเสน่ห์ดาราหรือเปล่า"
"บ...บ้าน่า! มันก็ปกติมะ หล่อขนาดนั้น แต่ถ้าให้คบก็ไม่เอาหรอก ...อีกอย่าง..เขามองเราหรือเปล่าเหอะ"
"พูดแล้วอย่าคืนคำก็แล้วกัน"
ทำไมเอ็ดเวิร์ดจะไม่รู้....ทว่าฝั่งนี้ไม่น่ากังวลเท่าฝั่งนั้น...
เอ็ดเวิร์ดเห็นเพชรไพลินเหล่คนเดียวเสียที่ไหน
เจ้าดาราหนังนั่น...สายตาของมันอย่างกับสัตว์ป่า เหมือนงูเจ้าเล่ห์ที่พร้อมปล่อยพิษร้ายสู่หัวใจหนุ่มไทย
สัญชาตญาณผู้ชายเหมือนกัน ...ทำไมจะดูไม่ออก
อีกไม่นานหรอก...มันต้องมาเกาะแกะรูมเมทแสนเนิร์ดคนนี้แน่
"อย่าลืมที่บอกนะเพชร อย่าไว้ใจผู้ชายหล่อๆเชียว"
"รู้แล้วน่า นายนี่เหมือนพ่อไอเข้าไปทุกที"
เพชรไพลินหัวเราะลั่น นี่หน้าเขาดูซื่อขนาดนั้นเลยหรือไง
"ถ้ารู้ก็จงนอน จะตีสี่แล้วนะ เดี๋ยวก็ลุกไปเรียนไปไหวหรอก"
"จ้า คุณป๋า อีหนูนอนก่อนนะ"
............
เป็นเช้าที่เพชรไพลินเกลียดที่สุด
เพราะเขาง่วงไง!
ให้ตายเถอะไม่น่านอนอ่านเรื่องชาวบ้านเลย ตัวเองเดือดร้อนรึก็ไม่ใช่ ตามเผือกตามวิเคราะห์อยู่นั่นแหละ พอตื่นไม่ไหวก็เพิ่งสำนึกได้ว่าที่ทำมันไปไม่มีประโยชน์
ฮ้าว~~
"หึ..."
เพชรไพลินหันขวับตามเสียงหัวเราะในคอ ที่มั่นใจว่าต้องขำเขาแน่ๆ
"สวัสดียามเช้า"
เสียงทักมาพร้อมใบหน้าหล่อเข้มชนิดที่ว่าตามัวๆของหนุ่มไทยต้องสว่างจ้า
เท่าที่สังเกตเมื่อวาน อเล็กซานเดอร์เป็นคนพูดน้อยกับคนแปลกหน้า แต่พูดมากกับคนสนิท เสียงเจื้อยแจ้วชวนสาวดูสิ่งแปลกตาย่านไชน่าทาวน์ทำให้ดารากลายเป็นคนธรรมดาติดดิน ซึ่งมีเสน่ห์ไปอีกแบบ
เพชรไพลินส่งยิ้มให้คนข้างๆ ทักแค่ "ไฮ" ก็เงียบ
เขาไม่กล้าตีตนเสมอตัวขนาดนั้น ก็แค่แฟนของเพื่อนของเพื่อนอีกที เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีความสัมพันธ์ใดๆต่อกันเลย
"เช้านี้อากาศดีนะ"
พ่อดารารูปหล่อพูดขึ้นอีก
"เหมาะกับการถ่ายหนังจริงๆ"
"ขอโทษนะ อาจารย์สอนแล้ว"
เพชรไพลินพูดตัดสัมพันธ์อย่างไร้เยื่อใย
เขาไม่อยากได้ดาราคนนี้มาเป็นเพื่อนตั้งแต่รู้ว่าเจ้าชู้แล้ว เขาชอบคนปกติ ที่ใช้ชีวิตอย่างปกติมากกว่า
เดี๋ยวหมดคาบค่อยขอถ่ายรูปอวดเพื่อนให้มันจบๆไป จะได้ไม่มานั่งเพ้ออีก
.
.
.
.
"เพชร..."
เสียงทุ้มถามขึ้นขณะที่อาจารย์กำลังสั่งงาน
เจ้าของชื่อกลอกตาอย่างเสียไม่ได้
"เพชรแปลว่าอะไร"
"ไดมอนน่ะ(daimond)"
เขาตอบเบาๆ กำลังจดรายละเอียดของรายงาน
"ชื่อน่ารัก มอนดี้"
"อะไร?"
"มาจากไดมอน ไอจะเรียกยูว่า มอนดี้"
คนได้ยินถึงกับขำ พูดเองเออเอง
ชื่ออะไรห่วยเป็นบ้า
"จริงๆแล้วไอมีพี่ชายที่ชื่อเพชรเฉยๆแล้วน่ะ ชื่อจริงของไอคือ เพชรไพลิน"
คงเป็นประโยคที่ยาวที่สุดตั้งแต่คุยกับอเล็กซ์มา
"พี่น้องชื่อเหมือนกันเหรอ?"
"เปล่า ชื่อจริงพี่ชายชื่อเพชร ชื่อเล่นชื่อเป้ ส่วนชื่อเล่นไอคือเพชร ชื่อจริง..เพชรไพลิน"
"โอย ...สรุปก็ชื่อเดียวกันอยู่ดี"
อเล็กซ์ทำหน้างงเต๊ก
"คนละชื่อต่างหาก"
"แต่ไอขอเรียกมอนดี้"
"ไม่เอาอ่ะไม่ชอบ"
เพชรไพลินโวยวาย
"แล้วอีกชื่อล่ะ ไพลินอะไรนั่น"
"อืมม ไพลินเหรอ....น่าจะอะเมทีส แซฟไฟร์ อะไรเทือกนั้นนะ"
พูดไปแล้วก็อาย ถ้าเขาบอกว่าเขาแยกระหว่างไพลิน เพทาย และอัญมณีอื่นๆไม่ออกเลยล่ะ
เพชรไพลินมองว่ามันก็แค่หินสวยๆที่ผู้หญิงชอบ สำหรับเขาแล้วไม่ได้น่าสนใจขนาดนั้น
เรื่องสวยๆงามๆที่เขาสนใจก็มีแต่พวกเสื้อผ้าเท่านั้นเอง อย่างวันนี้เขาใส่โทนพาสเทลทั้งตัว เสื้อเชิ้ตฟ้าอ่อนลายจุดสีขาว กางเกงขายาวชมพูพาสเทล และรองเท้าผ้าใบสีขาว
"อ้ะ!"
จู่ๆคนหล่อก็ดีดนิ้ว ใบหน้าดีใจเหมือนค้นพบแสงแห่งธรรม
"อะไร??"
"ชื่อเอมสิ มาจากอะเมทีส"
"อ่า..."
เขานึกว่าอเล็กซ์หยุดคิดไปแล้ว ที่เงียบไปคือนั่งคิดชื่อให้อยู่เหรอเนี่ย
"สองคนนั่นน่ะ สรุปการบ้านหน่อยซิว่ามีอะไรบ้าง"
"ซวยแล้วไง.."
เป็นอเล็กซ์ที่พูดขึ้นมา ร่างสูงโย่งยืนขึ้นขอพูดคนเดียว อาจารย์ก็อนุญาต
เพชรไพลินส่งยิ้มโชว์รอยบุ๋มที่แก้มแทนคำขอบคุณ
.
.
.
.
"ทำไมถึงลงเรียนวิชานี้"
อเล็กซ์เอ่ยถามตอนอาจารย์ปล่อย เพชรไพลินกำลังยัดสมุดโน้ตใส่กระเป๋าอย่างลวกๆ ด้วยอยากกลับไปนอนเต็มแก่
"เอาไว้ฝึกความมั่นใจน่ะ"
เขาพูดถึงวิชาการแสดงละครเวที
เพชรไพลินเป็นคนขี้อาย ถ้าอยู่ต่อหน้าคนมากๆ สมองจะรวน ทำอะไรไม่ได้ คิดอะไรไม่ออก กลายเป็นผู้อยู่เหนือการควบคุมไปโดยสิ้นเชิง เขาจึงลงวิชานี้เป็นวิชาโท ไม่นึกว่าจะได้เจอกับอเล็กซ์อีกครั้ง
"แซลลี่ไม่ลงด้วยด้วยเหรอ"
"ไม่หรอก แซลลี่ลงแค่วรรณกรรม"
เขาเก็บกระเป๋าเสร็จแล้ว ยกขึ้นสะพาย
"เป็นอะไรมั้ย?"
พ่อดาราถามขึ้นเมื่อเห็นใบหน้าเหยเกอีกฝ่าย ที่กำลังทุบไหล่ตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย
"นอนตกหมอนน่ะ เลยเจ็บไหล่นิดหน่อย"
เพชรไพลินตอบก่อนขอตัวเดินออกมา
...ก็ไม่ได้แย่อย่างที่จินตนาการไว้
อย่างน้อยๆอเล็กซานเดอร์ก็ไม่ได้หยิ่งเหมือนที่แซลลี่บอก เจ้าตัวก็เป็นวัยรุ่นทั่วไป อาจจะมีเครียดบ้าง เฮฮาบ้าง ยิ่งต้องทำงานไปด้วยแล้ว คงยิ่งพยายามมากกว่าคนอื่น
จากบทสนทนาที่คุยกันเมื่อครู่ ...เพชรไพลินไม่ได้อคติเพิ่มขึ้น อเล็กซ์เข้าหาเขาในฐานะเพื่อนนี่นะ ..เขาบวกคะแนนให้เป็น98คะแนนแล้วกัน
อ้ะ..! จะว่าไปแล้ว เขาลืมขอถ่ายรูปนี่นา
"อยู่หอเหรอ เดี๋ยวเดินไปส่ง"
วันนี้จะต้องหันขวับอีกกี่ครั้งกัน
ร่างผู้ชายตัวสูงใหญ่เดินขนาบข้างเขา แว่วเสียงหายใจแรงๆ ราวกับว่าอเล็กซ์วิ่งมา
"ไม่เป็นไร ไปพักเถอะ"
เพชรไพลินตอบอย่างเกรงใจ
เริ่มเอะใจแล้วแหละว่าเพื่อนกันต้องไปส่งกันด้วยเหรอ หรือวัฒนธรรมอเมริกันเป็นอย่างนี้
ตอนอยู่ไทยเขาก็ไม่เคยทำอะไรหวานแหววแบบนี้นะ
"วันนี้ไม่มีถ่ายหนัง"
"เมื่อวานก็ไม่มีไม่ใช่ไง"
หนุ่มไทยบ่นพึมพำเป็นภาษาบ้านเกิด
"ภาษาอะไรน่ะ?"
แววตาขี้สงสัยเหมือนหมารอเจ้าของส่งมา เพชรไพลินเป็นพวกบ้าคลั่งหมามากๆด้วยสิ
"ภาษาไทย ไอเป็นคนไทย"
"อืม แปลกดี"
เขาก็ว่างั้น เวลาเพื่อนฝรั่งได้ยินก็จะพูดแนวนี้กันหมด แปลกบ้างล่ะ น่ากลัวบ้างล่ะ
เพชรไพลินเดินไปตามทางเรื่อยๆ หอเขาอยู่ไม่ไกลมาก เดินเอื่อยๆเนือยๆ รู้ตัวอีกทีก็ถึงแล้ว เขาแอบตัดคะแนนให้อเล็กซ์จนเหลือ50คะแนนพอ เหตุเพราะมันแอบแต๊ะอั๋งเขา โอบเอวแน่นตอนรถจักรยานปั่นสวนทางมา
เอาล่ะ....นี่เขาจะเชื่ออะไรในตัวผู้ชายคนนี้ได้บ้างเนี่ย
..........................
....อยากโดนจีบงี้บ้างอ่ะ5555
ขอขอบคุณ คุณบิลลี่ คุณรักซึงรี คุณพนิตานุ่น และทุกท่านค่า