#HollywoodBoyfriend
•special•1•
•come back home•
"5 ปีผ่านไปแล้วนะ ....ฟ้าก็ยังคงสวยเหมือนเก่า ...แล้วเราสองล่ะยังมั่นคงไหม?"
"ไม่มีทางที่ฟ้าจะเป็นเหมือนเดิม....ทุกๆวันโลกหมุนไป อากาศเปลี่ยนแปลง อาจเกิดปฏิกิริยาที่บดบังท้องฟ้า อาจเกิดเมฆชั้นหนา ...เอ่อ....แล้วก็....อ่า...ยากอ่ะ!! ไม่ท่องได้มั้ย"
"ถ้าเอมอ่านมันก็ไม่ได้อารมณ์นี่"
"นางเอกบ้าอะไรวะพูดแต่วิทยาศาสตร์ ..กูตกวิทย์-คณิตฯ นี่หว่า...."
"บ่นอะไรครับ ให้ที่รักเข้าใจหน่อยสิ"
"ไม่บอกหรอก ...นี่อเล็กซ์...ไอง่วงแล้ว เราอาบน้ำนอนกันนะ~...."
"งั้นก็ได้ครับ พรุ่งนี้จะได้ไม่เหนื่อย"
"อืม...ขึ้นเครื่องเช้าด้วย"
.
.
.
.
ไม่น่าเชื่อว่าเวลาเพียงห้าปี หลายสิ่งหลายอย่างจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้...
อเล็กซ์ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองใฝ่ฝัน ผลิตหนังเล็กๆ บทดีๆให้ผู้ชมดู โดยปกติหนังจำพวกนี้จะมีคนติดตามและพร้อมจ่ายอยู่แล้ว หนังของอเล็กซ์จึงค่อยๆเป็นที่รู้จัก ผู้กำกับเขาไม่สนรายได้มาก จึงมีความสุขกับงานที่ทำดี ด้านงานแสดงหนังก็รับเล่นบ้าง ประมาณปีละเรื่องสองเรื่อง พอให้แฟนคลับหายคิดถึง
ส่วนเพชรไพลินตั้งแต่เรียนจบ เขาได้งานเป็นผู้ช่วยฝ่ายคอสตูมของบริษัทผลิตหนังอินดี้เล็กๆแห่งหนึ่ง ที่มีชื่อเรียกง่ายๆว่า AA production ซึ่งเขาก็พยายามสรรหาชื่อที่ดูครีเอทิฟกว่านี้นะ แต่ก็สู้เจ้าของบริษัทไม่ได้จริงๆ ไอ้คนดื้อแสนดื้อนั่นก็ยังยืนยันจะเอาชื่อนี้
A ตัวแรก ย่อมาจาก Alexander ไม่ผิดนัก
ส่วน A ตัวที่สอง ถูกเรียกอย่างประชดประชันว่า Absolutely
เขายังมีความเกรงใจบรรดาหุ้นส่วนเซเลบของคนรักอยู่บ้าง จึงไม่กล้าคิดว่าเอตัวที่สองคือชื่อตัวเอง
แต่แน่นอน ...ความเป็นจริงแล้ว มันก็คือชื่อของเขานั่นแหละ!
.
.
.
เมื่อเครื่องบินแตะถึงพื้นดินประเทศบ้านเกิด หัวใจของหนุ่มไทยก็เต้นตุบ เขากลับมาที่นี่แค่ไม่กี่ครั้ง กลับเป็นครอบครัวตัวเองที่ไปหาถึงอเมริกาเสียมากกว่า
ทุกครั้งที่มา ก็อดตื่นเต้นไม่ได้ที่จะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของประเทศไทย
"ถึงแล้ว.."
เสียงกระซิบแผ่วเบาดังขึ้นข้างหู เพชรไพลินอมยิ้มด้วยรู้ความหมายนั้น
...อเล็กซ์กำลังตื่นเต้น
ทว่าความล้าจากการเดินทางก็ทำเอาสองหนุ่มเดินเอื่อยๆราวกับว่าลืมจังหวะการก้าวขาไปแล้ว อเล็กซ์ดันรถเข็นกระเป๋าออกมาตามทาง โดยมีคนรักงัวเงียอยู่ข้างๆ พยายามมองหาพ่อแม่ตัวเอง
ใช่ว่าอเล็กซ์จะไม่เคยเห็นหน้าครอบครัวของอีกฝ่าย แต่พูดก็พูดเถอะ เวลาห้าปีนั้นน้อยเกินไปสำหรับการรู้จักพ่อตาแม่ยายจริงๆ
ดาราหนุ่มไม่เคยร่วมวงทานข้าวด้วยกัน ไม่เคยสรวลเสเฮฮากับพี่ชายของเพชรไพลิน
นี่จึงเป็นครั้งแรก และเป็นครั้งที่จริงจังที่สุดในการคบหาใครสักคน
ดวงตาคมสีอ่อนเหลือบมองแหวนทองคำขาวบนนิ้วนางข้างซ้ายของเพชรไพลิน มันถูกสลักชื่อAlexanderอยู่โดยรอบ โดยไร้อัญมณีใดๆ เพราะให้เหตุผลว่าเพชรไพลินก็คืออัญมณีของเขาแล้ว
ส่วนบนนิ้วนางของหนุ่มอเมริกันก็เช่นกัน เป็นแหวนทองคำขาวแวววาว แตกต่างเพียงชื่อAmethyst แสนเย้ายวนเท่านั้น
นึกแล้วก็ขำถึงวันที่สวมแหวนเมื่อสองปีก่อน....
วันนั้นฝนตกหนัก อเล็กซ์ติดอยู่ในสนามบินเพราะเครื่องดีเลย์ไปหลายชั่วโมง ทั้งๆที่อุตส่าห์วางแผนขอหมั้นไว้แล้ว แต่ทุกอย่างกลับล้มเหลวไม่เป็นท่า
เมื่อลงจากเครื่องบินได้ก็รีบสวมกอดคนมารับที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ หัวใจมันอ่อนไหวด้วยความคิดมาก ....ช่วงเวลาที่ผิดพลาดไปหมดทำให้อเล็กซ์คิดได้ทันทีว่าไม่ควรรอ ถ้าเป็นเรื่องที่ร้ายแรงกว่านี้ล่ะ?
ขณะอยู่ในรถแท็กซี่ เขาจึงหยิบแหวนมาสวมให้ และได้รับการสวมกลับในอีกสองวันถัดมา
ฉากง่ายๆ บรรยากาศง่ายๆ แต่ประทับใจไม่รู้ลืม
ทว่าทั้งคู่กลับงานยุ่งจนหยุดสถานะทางนิตินัยไว้ที่ 'คู่หมั้น' มาสองปี
เพชรไพลินคงไม่รู้ว่าอเล็กซ์นั้นอยากแต่งงานใจจะขาด ผัดวัดประกันพรุ่งมาตั้งนาน รู้ตัวอีกทีก็สองปีแล้ว คราวนี้อเล็กซ์จึงจัดเวลาพักร้อนเสียใหม่ เพื่อมาสู่ขอลูกชายเขากับพ่อแม่ตามประเพณีไทยโดยลงทุนศึกษาจากญาติที่อาศัยอยู่ในประเทศบ้านเกิดคนรักเลยทีเดียว
"เดี๋ยวผมช่วยเข็นดีกว่า"
เที่ยวนี้บอดี้การ์ดประจำตัวติดตามมาด้วย ร่างใหญ่เกือบสองเมตร กับแววตาดุๆช่างขัดกับรอยยิ้มอบอุ่น
"ไม่เป็นไรอดัม ไอไหว"
อเล็กซ์ปฏิเสธบอดี้การ์ดร่างใหญ่ของตน
"ผมดูแลคุณมาตั้งสี่ปีแล้วนะครับ หน้าอย่างนี้ไม่เรียกว่าไหวหรอก"
"เฮ้อ! ก็ได้ๆ"
"พูดกับอดัมดีๆหน่อยสิ ขอบคุณเขาด้วย ..ขอบคุณนะอดัม"
เพชรไพลินผู้อ่อนโยนต่อผู้อื่นเสมอเอ่ย โดยเฉพาะกับอดัมที่ดูแลเขามาหลายปีตั้งแต่เขาเริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะแฟนหนุ่มของนักแสดงดาวรุ่ง
"เพชร!"
พี่เป้ชูมือเรียกสุดแขน ในมาดที่ดูอย่างไรก็คูลเกินกว่าจะเป็นคนหวงน้อง
ร่างสมส่วนก้าวขาเร็วขึ้น ยกแขนกอดพี่ชายสุดแรง
ถึงจะตีกันตลอด แต่พอถึงเวลาจริงๆก็คิดถึง
"เหนื่อยมั้ย"
"อืม ล้ามาก ไม่ได้เดินทางแบบนี้นานละ พ่อกับแม่ล่ะ?"
"ไปเข้าห้องน้ำ.... Hi"
พี่ชายส่งยิ้มกวนให้คนข้างหลัง
เพชรไพลินล่ะอ่อนใจ โตจนมีลูกได้อยู่แล้ว ยังจะเขม่ยนกันอยู่นั่นแหละ
ถึงจะรู้ว่าไม่ได้เกลียดกันจริงจัง แต่ในฐานะคนกลาง เขาก็ขี้เกียจเล่นตามน้ำ
“พี่เป้...”
น้องชายกลอกตาเอือมระอาพี่
“ช่วยไม่ได้ ก็อเล็กซ์มันหล่อกว่าพี่นี่หว่า”
“คร้าบๆ เชื่อจ้ะเชื่อ นั่นไง พ่อแม่มาแล้ว”
เขยอเมริกันยกสองมือประกบระหว่างอก พร้อมเอ่ยคำที่ฝึกปรือมาทั้งอาทิตย์
“ซาหวัดดีครับ”
“ห้ะ! อเล็กซ์...ยูพูดเหรอ?”
พี่เป้ดูจะตกใจไม่น้อย
“เยส ซาหวัดดีครับ ผ่อ..แหม่”
หนุ่มอเมริกันตาคมทำเอาทุกคนแปลกใจ ครอบครัวของเพชรไพลินตาค้างตกตะลึงกับความน่ารักที่ไม่เคยเจอมาก่อน
และถึงแม้จะมีเพียงเพชรไพลินเท่านั้นที่รู้ว่าคนรักตัวเองติ๊งต๊องมากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่เคยเห็นว่าอเล็กซ์จะสนใจภาษาบ้านเกิดตัวเองด้วย!
“ไปฝึกมาตอนไหนวะ”
คนรักหันไปเม้าท์กับพี่ชาย
“จะรู้ไหมเนี่ย”
“เอ้อเงียบก่อนๆลูกๆเทวดา.....สวัสดีนะพ่อคุณ เก่งจริงพูดชัดเชียว”
อเล็กซ์ยิ้มกริ่มเมื่อเห็นว่าพ่อตาแม่ยายถูกใจใหญ่ ไม่ลืมยักคิ้วอย่างเป็นต่อให้พี่เป้ด้วยนะ
“เอาล่ะๆ ไปพักที่บ้านกันก่อนเถอะ ไหวไหมเพชร หรือจะนอนโรงแรมที่กรุงเทพฯก่อนลูก? แล้วคุณบอดี้การ์ดล่ะนอนไหน”
“เอาไงอเล็กซ์?”
“?”
“อ่ะ อ้อ ลืมไป....” เพชรไพลินรีบปรับโหมดเป็นภาษาอังกฤษ “อยากไปบ้านไอเลยมั้ย ไม่กี่ชั่วโมงหรอก หรือถ้าเหนื่อยมากก็นอนโรงแรมแถวนี้ไปก่อน เอาไงดีที่รัก”
“ไปบ้านยูเลยดีกว่า ....อยากนอนเตียงของเอม”
ไม่ลืมเขี่ยคางจิ้มลิ้มหยอกเย้า
“อะไรเล่า ฝุ่นเกาะหมดแล้วมั้งป่านนี้”
เพชรไพลินเบนหน้าหนี
“เดี๋ยวลงไปนอนกลิ้งสักหน่อย ก็สะอาดเอง”
“...ก...กลิ้งยังไงล่ะ”
เจ้าของเตียงจินตนาการเตลิดเมื่อเห็นสายตายั่วเลือดในกายให้พลุ่งพล่าน
“หยุดพลอดรักกันสักนาทีเถ้อะ”
เพชรไพลินค้อนขวับ
“เบื่อคนขี้อิจฉาแถวนี้ว่ะ ไปกันครับพ่อแม่ อเล็กซ์เขาอยากไปบ้านเรา”
น้องชายสุดดื้อไม่ลืมหันไปแลบลิ้นใส่คุณพี่ขี้หวง
.
.
.
.
คู่รักหวานชื่นใช้เวลาสองวันไปกับการกินและนอน อเล็กซ์เพิ่งมาปรับเวลาร่างกายตัวเองได้ในวันที่สอง ขณะที่เพชรไพลินเจ้าบ้านปรับได้ตั้งแต่วันแรก
ผ่านไปจนถึงวันที่สามในประเทศไทย อเล็กซ์จึงออกมาชมบรรยากาศรอบๆบ้านคนรัก บ้านของเพชรไพลินอยู่ในรั้วโรงงานผลิตอาหารแช่แข็ง เขารู้สึกว่าได้กลิ่นเย็นๆ และกลิ่นอาหารตลอดเวลา แต่ก็ไม่รุนแรงถึงขนาดระคายจมูก
…. ออกจะเป็นเอกลักษณ์เสียอีก ถ้าหากต้องอยู่ห่างจากเพชรไพลินขึ้นมา ก็แค่ไปสูดกลิ่นทะเลเท่านั้น คงจะช่วยผ่อนคลายความคิดถึงไปได้บ้าง
“สวัสดีค่ะพี่ฝรั่ง”
เด็กสาววัยไม่เกินสิบขวบวิ่งปรู๊ดมาหยุดข้างหน้าร่างสูง ยกมือไหว้เรียบร้อย อเล็กซ์เข้าใจการไหว้ จึงยกมือไหว้กลับ เพียงเท่านั้นเด็กน้อยก็วิ่งหน้าแดงจากไปอย่างงงๆ
“โตไวเหมือนกันนะน้องนาว ... ยูกินข้าวหรือยัง”
ร่างสูงถูกโอบกอดจากด้านหลัง หน้าคนรักถูไถแผ่นหลังแกร่ง พร้อมคำถามห่วงใย
“กินแล้ว อร่อยดี ...โจ๊ก? ใช่มั้ย?”
“อื้ม” เพชรไพลินพยักหน้า ผละออกมายืนข้างๆ
เขาโบกมือทักทายคนงานบางคนที่คุ้นหน้าคุ้นตา แอบเขินนิดหน่อยเมื่อโดนแซวว่าแฟนหล่อ ทั้งๆที่โดนแซวมาตลอดสามวันก็ยังไม่ชินสักที
“วันนี้ไปเที่ยวกันมั้ย ชมสวนผลไม้กัน”
“ไม่ผจญภัยมากนะ?”
“ไม่หรอก แค่เดินเล่น ไอก็ขี้เกียจเหมือนกัน”
“โอเค เอาไว้อาทิตย์หน้านะที่รัก ...จะพาไปปีนเขาก็ยังได้”
“คิก..อเล็กซ์คนฟิตหายไปไหนแล้วเนี่ย”
คู่รักที่ใครๆต่างอิจฉาผลัดกันแกล้งโพสต์รูปภาพตลกๆของอีกฝ่ายลงบนอินสตาแกรม
อเล็กซานเดอร์ลงรูปหนุ่มไทยทำหน้าแหยเพราะโดนมดกัด แต่เพชรไพลินเอาคืนโหดกว่านั้น เขาให้อเล็กซ์กินทุเรียนไปแล้วถ่ายวิดีโอสาธยายความอร่อยของทุเรียนไทยเสียละเอียดยิบ โดยมีนักแสดงอเมริกันเป็นนายแบบจำเป็น ...ที่หน้าตาบ่งบอกถึงความทรมาน
-น่ารักจังคู่นี้-
-smol bean♥-
-เมื่อไหร่จะแต่งงานกันสักที-
“หึๆ”
“หัวเราะอะไร? มีคนแซวไอใช่มั้ย”
เพชรไพลินลุกขึ้นจากเสื่อ เผยหน้าด้านซ้ายเป็นรอยหยักไปทั้งแถบ
“ก็ลองเปิดอ่านสิ จะได้รู้”
“เดี๋ยวเถอะ!”
ร่างบางนอนคว่ำ มือไถจอ ก่อนริมฝีปากจะคลี่ยิ้มน้อยๆ
หนุ่มอเมริกันมองหน้าแฟน ปฏิเสธไม่ได้ว่าเพชรไพลินคือรอยยิ้มของเขา คือเหตุผลที่ทำให้มีแรงบันดาลใจมากมายขนาดนี้
ศีรษะทุยทรงใหญ่กว่าชาวเอเชียนอนลงบนหลังบางๆของคนรัก มองท้องฟ้าสีฟ้าใส ตัดกับใบไม้สีเขียวสด
“บรรยากาศที่นี่ดีนะ อยากมีบ้านแบบนี้สักหลัง”
“ใช่มั้ย.....ไว้หาซื้อที่สวยๆไว้ พอเราสองคนเกษียณค่อยมาสร้างบ้านเนาะ”
“เกษียณเลยเหรอ? นานจัง”
“ถ้าใจร้อนนัก ก็สร้างมันซะพรุ่งนี้เลยก็ได้”
“อืมมมม...ไม่เอาอ่ะ พรุ่งนี้แต่งงาน ส่วนมะรืนค่อยสร้างบ้าน ...ตกลงมั้ย?”
“ ....โอเค้ deal!”
“นี่จะไม่ทำท่าคิดเลยเรอะ”
“คิดเพื่อ?? ได้ผัวหล่อรวยขนาดนี้ จะเกาะจนตายเลย”
.
.
.
.
.
คู่รักแสนหวานกลับถึงบ้านในเวลาอาทิตย์ลับขอบฟ้า คนงานกลับบ้านกันเกือบหมด เหลือเพียงไม่กี่คนที่อยู่ทำโอที บรรยากาศจึงค่อนข้างเงียบสงัด
“อดัมหายไปไหนของเขานะ ไม่เห็นตั้งแต่เย็นวาน”
“ไปเตรียมงานแต่งเราสองคนไง”
“อย่าล้อเล่นน่า ไหนบอกว่าจะให้อดัมมาพักผ่อนไง แล้วไหงถึงใช้งานเขาอีก?”
“ฮ้าว....หิวจัง มีอะไรกินบ้างน้า ทำอาหารโชว์แม่ยายดีกว่า”
“ไม่เมกเซนส์เลย ยูเพิ่งจะเหมามังคุดไปทั้งสวน ท้องโตเป็นลูกมะพร้าวแล้ว”
“อเล็กซ์!! อย่าหนีนะเว้ย เรียกอดัมกลับมาเที่ยวเลยไอ้ต๊อง!”
“เสียงดังอะไรกันเพชร”
ลูกชายชะงักกึก รีบเกาะแขนแน่นๆของแฟนหาที่กำบัง
“เปล่าแม่ แค่เล่นๆกัน ....แหะๆ...”
“หิวกันหรือยังล่ะ แม่กำลังเตรียมกับข้าว อยากกินอะไรวันนี้”
“อเล็กซ์เขาอยากช่วยแม่อ่ะครับ แม่ให้ลูกเขยช่วยนะ”
“เบื่อจริงๆ”
แม่แพรส่ายหน้าระอา ตั้งแต่ลูกชายคนเล็กที่แสนนุ่มนิ่มมีแฟน ก็มักขี้อ้อน ขี้หยอกกว่าเดิม
“โอเคใช่ป่ะครับ งั้นเพชรไปอาบน้ำรอนะ ....อเล็กซ์ เดี๋ยวยูอยู่เป็นลูกมือแม่นะ bye”
หนุ่มไทยลืมตัวนิดหน่อย เผลอเขย่งตัวจูบแก้มคนรักต่อหน้าแม่
แม่แพรหัวเราะอย่างเอ็นดูตามหลังลูกไป แววตามีความสุขเมื่อเห็นลูกมีความสุข แต่แม่ก็ลืมเหมือนกันว่าตัวเองจะสื่อสารกับลูกเขยยังไงดี แกพูดอังกฤษได้งูๆปลาๆด้วยสิ
“เอ้อ....you …come help I นะ” หวังว่าลูกเขยจะรู้เรื่องสักนิดนะ
อเล็กซ์ช่วยแม่ยายหั่นผักเหม็นๆที่ตัวเองไม่ชอบเท่าไหร่ มักเขี่ยทิ้งเมื่อเห็นมันอยู่ในอาหารไทยประจำ
การหั่นผักช่วยให้ใจของชายหนุ่มสงบขึ้น เขาไม่ใช่เด็กอายุ 19 ปีที่มีแต่ความฝัน ตอนนี้อเล็กซ์มีทุกอย่างเพียบพร้อม ทั้งหน้าที่การงานที่มั่นคง และความรักที่มั่นคง....ชมตัวเองอย่างไม่กระดากเลยว่าตั้งแต่คบกันมา ทำให้เพชรไพลินเสียใจแค่ไม่กี่ครั้งเอง ครั้งที่ร้ายแรงที่สุดก็คงจะเป็นตอนที่หายเงียบไปแล้วมีข่าวกับโอลิเวียร์ ซึ่งหลังจากกลับมาจากอิตาลีก็ใช่ว่าเพชรไพลินของเขาจะหายโกรธนะ คนน่ารักยังคงนิ่งเงียบ แถมแผ่รังสีกดดันออกมาตลอดเวลา และเขารู้ดีว่าเพชรไพลินไม่มีความสุขที่ทำอย่างนั้น
เป็นเวลาเกือบครึ่งปีได้ที่ถูกเพชรไพลินลงโทษ และเป็นช่วงเวลาที่ทำให้พ่อดาราสุดฮอตได้คิดอย่างจริงๆจังๆว่าควรจัดสรรตัวเองอย่างไรให้คนรักมีความสุขที่สุด และเขาก็มีความสุขกับมันด้วย
ถึงตอนนี้ทุกอย่างก็ราบรื่น ....อเล็กซ์ไม่รู้หรอกว่าในวันข้างหน้าจะมีอุปสรรคอีกไหม เขาจะหมดใจ หรือเพชรไพลินจะหมดใจหรือเปล่า แต่อเล็กซ์ก็อยากยืนยันการมีตัวตนของคำว่า ‘รัก’ ที่ใครๆหลายคนต่างสิ้นศรัทธา... โดยเฉพาะกลุ่มรักร่วมเพศ อเล็กซ์นี่แหละ...จะเป็นอีกหนึ่งโมเดล ที่ทำให้ใครหลายคนได้เปลี่ยนความคิด หรืออย่างน้อยๆ...ก็เกิดแสงไฟแห่งความหวัง
เพราะความหวัง คือความสุข
เขาเชื่ออย่างนั้น
“แหม่แพร ผม...มีอะไรจะ...เอ่อ..บ้อกก”
มือใหญ่ละจากมีด ตื่นเต้นพอสมควร แล้วยิ่งต้องพูดภาษาไทยที่ยากแสนยาก เหงื่อจึงแตกพลั่ก
“อะไรลูก?”
“ผม..ขอเอม แต่งงาน นะครับ”
อเล็กซ์ชี้ไปที่แหวนตัวเอง
“จริงเหรอ วันไหนล่ะลูก เตรียมงานหรือยัง ต้องจดทะเบียนไหม??!!”
แม่ยายรัวภาษาไทยใส่จนลูกเขยมึน
“เอ่อ...?”
“เอ้อ...whenจ้ะ?”
“maybe this Saturday”
“ว้อท!! มันควิกไปไหมลูก แม่จะเตรียมงานยังไงทัน”
อเล็กซ์เกาหัว เขาไม่เข้าใจที่แม่พูดเลย! รู้งี้น่าจะเรียนมาเพิ่ม ไม่ใช่ท่องแต่ประโยคที่น้าเอริคสอนมา
หนุ่มอเมริกันแอบถอนใจเบาๆ เห็นทีต้องรอวันเสาร์ทีเดียวเลยดีกว่า
“I will talk about this on Saturday … my mom and my uncle will come visit us”
“อะไรนะ มัม?”
“yes, please wait. I want it to be a surprise for Ame.”
“อ๋อ...เข้าใจละ wait...รอเซอร์ไพร์ส โอเคลูก มาๆ ทำกับข้าวต่อ เลิกหั่นผักชีแล้วมาทำซุปที่หนูจะทำให้แม่ชิมดีกว่า”
อเล็กซ์เข้าใจจากการที่แม่แพรดันหลังเขาเข้าหากระทะ
แต่ก็สงสัยว่าทำไมแม่แพรหายตื่นเต้นไวจริง...?
เขายังไม่ค่อยวางใจนัก กลัวแผนแตก เอาไว้คุยกับพี่เป้น่าจะได้เรื่องกว่า
………………………….
เช้าวันเสาร์ของที่นี่ไม่ได้แตกต่างจากวันอื่น คนงานยังคงมาทำงาน เด็กๆวิ่งเล่น กลิ่นหมูทอดแสนอร่อยลอยอบอวลไปทั่วบ้าน ลูกชายคนเล็กของตระกูลเสรีดีพาทีจึงรีบลุกขึ้นอาบน้ำแปรงฟัน อดทนต่อเสียงท้องร้องโครกครากได้ตั้งสิบนาทีแล้วจึงหายตัวมานั่งหัวโต๊ะ จับจองหมูเค็มทอดติดมันชิ้นใหญ่ ส่งสายตาเป็นศัตรูกับพี่ชาย
“ทำหน้าตลกจัง ฟอดดด”
“อเล็กซ์!”
เพชรไพลินตีต้นแขนเบาๆ ตั้งแต่สอนเรื่องการหอมแก้มให้ฝรั่งไป มันก็ติดใจยกใหญ่ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยจูบแก้มแล้ว พี่แกชอบหอมมากกว่า บอกว่าแก้มเพชรหอมกลิ่นแป้งดี ได้ดมแล้วสดชื่น มีกำลังใจ
“มาครบแล้วนะ กินเลยลูก”
ผู้(เป็น)ใหญ่ในบ้านส่งสัญญาณให้เด็กๆลงมือ เพชรไพลินตักหมูชิ้นที่ดีรองจากของตัวเองให้คนรัก พร้อมกับผักต้มราดน้ำพริกให้เสร็จสรรพ
“อเล็กซ์กินได้เหรอลูก? แคน ยู อีท?”
พ่อป้อมอดจะเป็นห่วงลูกเขยไม่ได้
“อเล็กซ์กินได้ครับพ่อ มีแฟนเป็นคนไทยทั้งที”
“โอ่ย เลิกพูดอะไรเลี่ยนๆสักวันได้มั้ย พี่กินข้าวไม่ลง”
“โอ่ยย เบื่อคนขี้อิจฉา ตัวเองไม่มีแฟนน่ะซี้”
“พอๆ กินข้าว เถียงกันตั้งแต่เด็กจนโตแล้วนะลูก เพลาๆมั่งก็ได้ เป้ก็จะสามสิบแล้วนะ เพชรด้วย ปีนี้ก็ยี่สิบสี่แล้ว ทำตัวให้สมกับอายุหน่อย”
“ครับแม่”/”คร้าบ”
สองพี่น้องจำต้องสงบศึกชั่วคราว ก่อนที่หูจะชาไปมากกว่านี้
ก็คงเป็นช่วงเวลาเดียวที่ทั้งคู่สามัคคีกันนั่นแหละ
ปริ๊น...ปริ๊น...
“เดี๋ยวผมไปดูเองครับ”
พี่เป้อาสาก่อนใครเพื่อน
ซึ่งมัน....ผิดปกติมาก
เพชรไพลินหรี่ตาลงเมื่อเห็นพี่กับแฟนตัวเองส่งซิกให้กัน เขาแกล้งทำเป็นไม่สนใจ ตักข้าวกินต่อ แต่ด้วยความที่หน้าบ้านกับในบ้านไม่ได้ไกลกันเลย เขาจึงได้ยินเสียงทักทายเป็นภาษาอังกฤษอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง
แน่นอนอยู่กับลูกชายเขามาตั้งห้าปี ทำไมเพชรไพลินจะจำไม่ได้ เสียงเนือยๆหวานๆเหมือนตัวการ์ตูนที่กำลังทักพี่ชายอยู่นั้น จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคุณแม่มิเชล วิลสัน!
“อะไรเนี่ย....”
ในที่สุดเพชรไพลินก็รู้สาเหตุที่อดัมหายไป บุคคลแรกที่เข้ามาในครรลองสายตาคืออดัม พี่เป้ มิเชล และชายหนุ่มปริศนาสองคนที่เดินจูงมือกันมา
“สองคนนั้นเป็นญาติห่างๆของไอเอง ชื่อเอริคกับคอร์น”
อเล็กซ์กระซิบข้างหู
“สวัสดีจ้าคุณมิเชล เอริค แล้วก็น้องคอร์น”
คุณลูกชายแทบลมจับเมื่อแม่ตัวเองลุกขึ้นสวัสดีแขกที่แม้แต่เขายังไม่รู้จัก
มันมีบางอย่างผิดพลาด
บางอย่างที่เพชรไพลินคิดว่าตัวเองกำลังตกเป็นเหยื่อ!
“บอกมาให้หมดเลยนะอเล็กซ์!”
“ได้จ้ะที่รัก ว่าแต่ทักมัมหน่อยสิ มัวแต่นั่งอ้าปากหวอ หึๆ”
จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นเพชรไพลินไม่เดา แต่ที่แน่ๆคืนนี้นายอเล็กซานเดอร์ได้โดนดีแน่!
.
.
.
.
“”เราก็ไปอเมริกาทุกปีนะ แต่ก็ไม่ได้เจอคุณมิเชลเลย คุณมิเชลสวยมากเลยค่ะ”
เพชรไพลินหันไปแปลภาษาให้แม่สามีฟัง และดูท่าทางจะชอบใจที่ถูกชม
“เดี๋ยวต่อไปก็คงได้เจอกันบ่อยๆค่ะ ไอน่ะอยากให้เจ้าอเล็กซ์แต่งงานตั้งนานแล้ว มัวแต่ผัดวันประกันพรุ่งอยู่ได้ นี่ก็พาน้องชายที่เขาอยู่ที่นี่มานานให้ช่วยเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ช่วยประสานงานทางนี้ให้ งานจะได้สะดวกรวดเร็ว และไม่ตกเป็นภาระของคุณแพรคุณป้อมมาก”
คราวนี้เพชรไพลินสะกิดพี่ชายให้แปลแทน เพราะเขาประดักประเดิดที่จะแปลเรื่องตัวเอง
“ทางฝั่งผมจะจัดงานทุกอย่าง ตั้งแต่ขันหมาก งานเลี้ยง ถ่ายพรีเว็ดดิ้ง”
เอริค นักธุรกิจหนุ่มเชื้อชาติอเมริกันเอ่ย
“แล้วทางเราจะทำอะไรล่ะคะเนี่ย”
“แม่ก็พาเพชรไปขัดสีฉวีวรรณสิครับ”
พี่เป้ขี้หวงไม่รอช้าเอาคืน ในอกนั้นแสนจะดีใจที่ฝ่ายเจ้าบ่าวออกทุกอย่าง ถ้าพี่แกหัวเราะก็คงได้ยินเสียงจอมมารดังออกมา
“แล้วก็หลังจากที่แต่งงานที่ไทยเสร็จแล้ว ก็จะไปจัดพิธีเล็กๆที่อเมริกาค่ะ เชิญญาติผู้ใหญ่ในวงการมาให้รับรู้และจดทะเบียนสมรส”
“ถึงขนาดจดทะเบียนเลยเหรอคะ”
“การจดทะเบียนสมรสนั้นสำคัญมากเลยนะครับคุณแพร คู่สมรสมีสิทธิ์ในทุกๆอย่างเหมือนคู่ชาย-หญิง คุณแพรอาจไม่แคร์เรื่องทรัพย์สมบัติ แต่เรื่องสิทธิ์ในการตัดสินใจแทนญาติเวลาเข้ารับการผ่าตัด และเรื่องสำคัญอื่นๆยังมีอีกเยอะเลยนะครับ”
“โห...คุณเอริคพูดไทยเก่งจังเลยค่ะ”
ลูกชายคนเล็กแอบรู้ทันความคิดแม่ ตอนนี้ในหัวคุณแพรต้องกำลังปลาบปลื้มหนุ่มหล่อคนนี้อยู่แน่ๆ
“ก็อยู่มานานแล้วครับ...ว่าแต่..เรื่องวันแต่ง ทางคุณแพรเน้นเรื่องฤกษ์มั้ยครับ”
“เอาฤกษ์สะดวกดีกว่าค่ะ ว่าไงลูก ว่างวันไหนบ้าง”
“เอ่อ...เพชรต้องถามอเล็กซ์ก่อนนะแม่ แล้วแต่เขาอ่ะครับ”
“เดือนหน้า วันเสาร์ที่24 ส่วนงานที่อเมริกา เอาวันที่24 เดือนถัดไป”
“what? มันแค่เดือนเดียวเองนะ ยูบอกเพื่อนแล้วเหรอ”
“บอกแล้ว”
“อะไรเนี่ย ทำไมไม่คุยกับไอก่อนล่ะ”
“ก็ไออยากเซอร์ไพร์สนี่นา ไม่โกรธนะที่รัก”
อ้อมกอดหนักๆรวบตัวเพชรไพลินขึ้นนั่งตัก
“จะให้โกรธยังไงล่ะ ผู้ใหญ่อยู่กันเต็มบ้าน”
หนุ่มไทยผู้(คิดว่าตัวเอง)รักนวลสงวนตัวกระซิบกระซาบกับแฟน เพชรไพลินมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่หันไปเจอหน้าแดงเผือดของคุณคอร์น
ร่างบางรีบไถตัวกลับที่เดิม แอบตีแขนคนรักตามถนัดไปหนึ่งที
“ขอโทษครับพี่คอร์นที่เสียมารยาท”
“ไม่เป็นไรครับ พี่ไม่ว่า”
คุณคอร์นผู้แสนดีและเรียบร้อยกว่าเพชรไพลินหลายเท่ารีบบอก ซึ่งทุกคนก็เห็นด้วย ไอ้คนผิดมันนั่งลอยหน้าลอยตาอยู่นู่น
.
.
.
.
.
การสู่ขอผ่านไปด้วยดีในเวลาไม่ถึงชั่วโมง เพราะดูเหมือนอเล็กซ์จะเตรียมวางแผนทุกอย่างมาเรียบร้อยแล้ว เขาแค่อยากให้ผู้ใหญ่มาคุยกันเพื่อความเป็นทางการอย่างที่น้าเอริคบอกมา ว่าผู้ใหญ่ชอบการให้เกียรติ์ซึ่งกันและกัน ที่อเล็กซ์ไปเบียดลูกเขาก่อนเรียนจบโดยไม่โดนลูกซองก็นับว่าใจดีมากแล้ว ต่อไปนี้ผู้กำกับหนังจึงต้องทำอะไรที่เป็นผู้ใหญ่ และเข้ากับประเพณีไทยบ้าง
มิเชลอยู่พักกับครอบครัวเพชรไพลิน ส่วนเอริคกับคนรักเลือกพักรีสอร์ทแถวนั้น ให้เหตุผลว่าอยากพาแฟนเที่ยวบ้าง เพราะทำงานหนักมาตลอด สายตาหวานๆที่ทั้งคู่ส่งถึงกันนั้นทำเอาเพชรไพลินเขินได้ทุกครั้ง
แต่ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้าย พ่อป้อมก็ขอเป็นเจ้าภาพจัดวงเหล้าเล็กๆ เพื่อกระชับความสัมพันธ์เสียก่อน อเล็กซ์เลยได้โอกาสหาเรื่องตบตีกับพี่เป้แบบที่ทุกคนรู้ไม่ทัน ส่วนเพชรไพลินขอตัวมาปิ้งกุ้งปิ้งหมึกกับพี่คอร์นดีกว่า
“พี่คอร์นชอบทำอาหารเหรอครับ”
ตั้งแต่คบกับอเล็กซ์มา หนุ่มเงียบๆก็เริ่มมีสกิลในการเข้าหาคนอื่นมากขึ้น เพราะอเล็กซ์มันไม่พูด เขาเลยต้องพูดกับคนอื่นก่อนทุกที โดยเฉพาะเรื่องติดต่องาน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก และอเล็กซ์ก็ชินไปแล้วเมื่อเพชรไพลินทำหน้าที่นี้ไปโดยปริยาย
“อื้มม พี่ชอบทำกับข้าว ทำขนม เพราะว่าคุณเอริคเขาไม่ให้พี่ทำงานน่ะสิ”
“หืม?? แสดงว่าเขาต้องหวงพี่มากเลย”
คอร์นส่ายหน้า
“ไม่รู้สิ เขาขี้เกียจห่วงมากกว่า เลยให้อยู่บ้านมันซะเลย จะได้ไม่วุ่นวาย”
“พี่พูดเล่นใช่ไหมเนี่ยพี่คอร์น”
“ก็นะ” คนตอบยักไหล่ “เอ้อ...ไม่ต้องพี่ว่าคอร์นหรอก มันแปลกๆน่ะ คุณเขาแค่ไม่ชอบชื่อเล่นจริงๆของพี่ เลยเอาชื่อจริงมาเรียก ....ต่อไปนี้ให้เรียกพี่ว่าพี่พีก็พอ”
“แล้วชื่อจริงพี่ชื่ออะไรเหรอครับ”
“พงศกร”
“ชื่อเพราะออก เพชรว่าเขาชอบชื่อจริงพี่มากกว่า ว่าแต่...พี่จะว่ามั้ยถ้าเพชรอยากรู้ว่าคุณเอริคมาอยู่นี่ได้ยังไง โลกกลมมากๆเลยที่อเล็กซ์ดันเป็นญาติกับนักธุรกิจฝรั่งที่หล่อที่สุดในประเทศไทย”
พงศกรขำ “เรานี่น่ารักจัง พี่อยากมีน้องชายแบบเรา”
“ก็เป็นแล้วนี่ไงครับ พี่เล่นโซเชียลหรือเปล่า แลกกันนะครับ”
“อื้ม....แล้วพี่จะเมาท์ให้ฟังในนั้นนะ พอดีพี่เขินอ่ะ พี่พูดไม่เก่งด้วย”
หนุ่มขี้อายขยับแว่นตัวเอง
“เหมือนกันเลย เพชรก็พูดไม่เก่ง”
“ไม่จริงหรอก เพชรออกจะพูดเก่ง ร่าเริงด้วย”
“สงสัยเพชรจะชอบพี่มากๆเลยมั้ง แล้วเราสองคนก็มีอะไรที่เหมือนๆกันด้วย”
“อะไรเหรอ?”
เพชรไพลินอมยิ้ม มองหนุ่มอเมริกันร่างใหญ่ที่กำลังคุยเรื่องฟุตบอลอย่างออกรสกับกลุ่มแก็งค์หนุ่มหล่อ
“มีแฟนเป็นฝรั่งเหมือนกันไงครับ”
......................................
จบตอนที่1 สวัสดีปีใหม่ค่ะ
อยากแต่งออกมาให้ธรรมดาๆ เรื่อยๆมาเรียงๆ นกบินเฉียงไปทั้งหมู่ ตัวเดียวไม่ไร้คู่ พี่ไม่อยู่เพียงเดียวดาย
หลังจากที่แต่งตอนนี้ ก็รู้สึกว่า...ทำไมตัวเองให้ตัวละครแต่งงานกันทุกเรื่องเลยฟระ! จริงๆจะให้มีฉากในงานแต่งด้วยนะเนี่ย แต่นั่นแหละค่ะ เบื่อแล้ว555 เลยให้เป็นฉากสู่ขอดีกว่า เรายังไม่ค่อยเห็นการสู่ขอแบบนิ่มๆ ผู้ใหญ่ๆ เท่าไหร่เลย