ถ้าเรื่องนี้เป็นวรรณกรรมเยาวชนแบบที่ไม่มีเรื่องรักๆใคร่ๆก็น่าจะเป็นนิยายที่ดีมากเรื่องหนึ่งเลยนะครับ
ผมจั่วหัวแบบนี้ไม่ใช่ว่าเรื่องนี้เขียนไม่ดีครับ ตรงกันข้ามนะ การบรรยายเรื่องนี้ใช้ได้ บุคลิกและรูปลักษณ์ตัวละครดูอุดมคติไปหน่อย แต่สภาพแวดล้อมและเนื้อเรื่องพื้นหลังของตัวละครแต่ละตัวออกแบบมาดีมาก ดีจนสำหรับผม มันเอื้อให้เป็นวรรณกรรมเยาวชนอ่านสนุก ได้ข้อคิด มากกว่าจะเน้นเรื่องรักๆใคร่ๆเสียอีกนะครับ ตัวปมเชิงครอบครัวของตัวนายหัวชาญกับทยากร ความสนิทสนมที่ไม่เคยมีและกำลังจะมี การพัฒนาความสัมพันธ์ของพ่อลูก ปมเรื่องการสูญเสียลูกไปของนายช่าง ความเหมือนและน่าเอ็นดูของทยากรที่จะทำให้นายช่างเปิดใจให้กับสิ่งต่างๆใหม่ๆอีกครั้ง ทั้งหมดนี้ก็น่าจะเป็นสิ่งที่น่าถ่ายทอดและติดตาม
ประเด็นของนายช่างใหญ่ผมไม่ได้มองด้านความโรแมนติกหรือความรักเลยนะครับ เนื่องจากเรื่องมี Age Gap เยอะ(เป็นสิบปี) ผมเลยมองความสัมพันธ์ระหว่างทยากรกับนายช่าง เป็นภาพของความเอ็นดูระหว่างเด็กวัยรุ่นเพิ่งจบ กับผู้ใหญ่ที่เคยมีครอบครัว แล้วผิดหวังจนต้องจมอยู่กับความทุกข์ไปตลอดชีวิต ซึ่งส่วนตัว ผมกลับมองในมุมที่ว่า ถ้าทยากรสามารถเปิดใจให้นายช่างสามารถกลับใจให้ความรักกับคนอื่นๆได้อีกครั้ง กลับมาร่าเริงและเอาชนะปมความ ‘กลัว’ และ ‘เสียใจ’ ในการสูญเสียของตัวเองได้ มันจะทำให้ผู้ชายคนนี้กล้าที่จะมีชีวิตใหม่อีกครั้ง สุภาพขึ้น หาแฟนใหม่ที่ดี มีคนดูแลที่จะไม่ทรยศ และ ‘กล้า’ พอที่จะมีลูกใหม่อีกครั้ง กลับมามีครอบครัวที่สมบูรณ์ได้อีก และทั้งหมดมันก็อาจมาจากเด็กวิศวะเมืองกรุงตัวขาวนี้แหละ ที่จะเปิดใจของนายช่างคนนี้ได้อีก
แต่สิ่งที่ต้องติก็มีนิดหนึ่งครับ คือความไม่แน่นในการหาข้อมูล ประเด็นนึงที่ผมสังเกตเห็นตอนนี้คือเราสร้างให้ทยากรเรียนเครื่องกล (ผมอนุมานจากสถาบันที่ดังที่สุดนะ) แต่ความสมจริงมันน้อยไปนิดหนึ่ง ปกติวิศวะภาคเครื่องกลจะต้องดูได้หมดทุกแบบครับ แต่ไม่เชี่ยวชาญในด้านใดด้านหนึ่ง ถ้าด้านยานยนต์ก็จะมีภาคยานยนต์ ถ้าเรื่องเรือก็จะมีภาคเรือ ภาคเครื่องกลจะแสดงศักยภาพได้เต็มที่ต่อเมื่อคุณมีแปลนเครื่องจักรแบบดิจิตอล มีกระดาษและโต๊ะดราฟ อุปกรณ์ตรวจซ่อม และคุณมีความต้องการกับซอฟต์แวร์เขียนแบบ เมื่อนั้นแหละครับ คุณจะเห็นภาคเครื่องกลแสดงฝีมือได้ดีที่สุด เพราะคำนวณภาคนี้แน่นที่สุด เขาสร้างเครื่องจักรจากความว่างเปล่าได้เพื่อตอบรับความต้องการของคน และถ้ามีแบบ เขาสามารถแก้ปัญหาเครื่องจักรได้ตรงจุดเป๊ะๆครับ
ในเมื่อทยากรไม่มีสิ่งที่กล่าวมาเป็นทรัพยากร อันนี้ผมว่าเมคเซนส์ที่ทยากรจะไม่ได้แสดงฝีมือ เรื่องออกแบบไม่ต้องพูดถึง เพราะออกแบบเครื่องจักรนี่เฉพาะทางครับ ภาคเครื่องทั่วๆไปจะเน้นการออกแบบเครื่องจักรในอุตสาหกรรม ส่วนภาคยานยนต์และเรือก็เฉพาะทางของแต่ละคนกันไป แต่ที่น่าสนใจว่ามันไม่ค่อยสมจริงในสายตาเด็กวิศวะ คือเรื่องการซ่อมเครื่องจักร
เพราะปกติแล้วสามภาคนี้จะสนิทกันครับ เนื่องจากมันเรียนในสายเดียวกัน ต้องแชร์เซกเรียนกันเป็นประจำ ดังนั้นถ้ามีอะไรที่ไม่แน่ใจ เขาสามารถโทรหากันได้ครับ ดังนั้นถึงแม้ว่าทยากรจะไม่แม่นเรื่องเครื่องจักรเรือ แต่ถ้าถามเพื่อนที่เรียนภาคเรือให้อธิบายอย่างคร่าวๆ กลไกมันไม่ต่างกันมากนักหรอกครับ ยิ่งเป็นเรือไม้โดดๆที่ใส่แต่เครื่องจักรเข้ามาเป็นบางส่วนเพื่อให้มันเดินเรือได้ อันนี้ของเบสิคของภาคเรือเลย ซึ่งเด็กเครื่องกลที่เก่งๆส่วนมากไม่มีปัญหาในการเข้าใจ ตัวเฉพาะทางของภาคนี้ที่ภาคอื่นจะเข้าใจไม่ได้ ส่วนมากจะเป็นพวกเรือยอร์ช หรือเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ที่ต้องใช้อะไหล่รวมกันหมดและทุกอย่างเชื่อมกัน (แบบเรือไททานิคครับ)
PS. ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมจะ edit เพิ่มในกระทู้นี้นะครับ
ขอบคุณคุณ Grey Twilight มากค่ะ ละเอียดมากๆ
ปัญหาของเรื่องนี้ ที่เราเป็นห่วงอยู่คือเรื่องความเป็นเด็กเครื่องกลนี่แหละ กังวลอยู่ว่าสร้างทยากรออกมาอ่อนวิชาไปหรือเปล่า ความตั้งใจของเราคือพยายามจะสื่อว่า นี่คือเด็กที่เรียนเก่งนะ แต่เก่งแค่บทเรียน ประมาณว่ารู้ตำรา พอมาเจอของจริงก็เลยรู้ตัวว่ายังต้องฝึกอีกมาก ตามประสาเด็กรุ่นๆ ที่จบออกมาแล้วมั่นใจตัวเองน่ะค่ะ เดี๋ยวขอเดินเรื่องไปสักพักเนอะ เดี๋ยวจะย้อนกลับมาดู ปรับตรงไหนได้ก็จะพยายามปรับให้เมคเซ้นส์ไป
ส่วนพ้อยท์อื่นๆ ของเรื่อง...ก็ตามนั้นค่า 55555
ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นนิยายรักนะ หนักไปทางครอบครัวบ้าง แต่เดี๋ยวมันก็วนกลับมาเป็นความรักนั่นแล

ขอบคุณอีกครั้งนะคะ มาเพิ่มเติมได้ตลอดน้า เรารออ่าน ยินดีมากๆ ค่า