♥ Alcohol Addict ♥ แจ้งข่าวเรื่องการตีพิมพ์หนังสือ -P.9- (17.07.2017)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♥ Alcohol Addict ♥ แจ้งข่าวเรื่องการตีพิมพ์หนังสือ -P.9- (17.07.2017)  (อ่าน 82405 ครั้ง)

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: ♥ Alcohol Addict ♥ เมาครั้งที่ 23 -P.7- (19.02.2017)
«ตอบ #210 เมื่อ20-02-2017 00:26:34 »

 :laugh:

ออฟไลน์ itsgonnabeme

  • It's me, not you.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
Re: ♥ Alcohol Addict ♥ เมาครั้งที่ 23 -P.7- (19.02.2017)
«ตอบ #211 เมื่อ20-02-2017 07:50:15 »

โอ๊ยยยยยย คือน่ารักมาก ดีงามมากจริงๆ

บทรักก็หวานละมุนมากเลย
เราชอบแบบนี้นะ ไม่ไห้หวือหวามาก แต่อบอุ่นดี

ชอบความมุ้งมิ้งของพี่ข้าวจัง
นับวันจะทำตัวเป็นคิตตี้ขึ้นไปเรื่อยๆแล้วนะ

เป็นกำลังใจให้คนเขียนเสมอนะคะ❤

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
Re: ♥ Alcohol Addict ♥ เมาครั้งที่ 23 -P.7- (19.02.2017)
«ตอบ #212 เมื่อ20-02-2017 11:26:55 »

รวดเดียว 20 ตอน 5555 ฟินไปสิ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ♥ Alcohol Addict ♥ เมาครั้งที่ 23 -P.7- (19.02.2017)
«ตอบ #213 เมื่อ20-02-2017 12:31:29 »

 :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Ch0cmint

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-5
Re: ♥ Alcohol Addict ♥ เมาครั้งที่ 24 -P.8- (23.02.2017)
«ตอบ #214 เมื่อ23-02-2017 19:59:42 »

เมาครั้งที่ 24




อยู่ๆ ทริปทัวร์กะทันหันก็ผุดขึ้นในอาทิตย์สุดท้ายก่อนเปิดภาคเรียนปีสี่ของแฮงค์กับกันย์ เชียงรายคือเป้าหมายของการไปเที่ยวในครั้งนี้ พี่ต้นคือตัวตั้งตัวตีเลยก็ว่าได้ หัวใจหลักคือ 'ไร่ชาฉุยฟง' ชื่อดัง โดยมีเจ้าของทริปเป็นคนขับรถในครั้งนี้ ใครออกไอเดียให้นั่งเครื่องบินไปพี่ชายตัวดีก็ไม่ยอม เพราะเขาบอกว่ามันไม่เห็นวิวทิวทัศน์อะไร... ยอมใจเขาล่ะ เรื่องเอาแต่ใจนี่ยกให้เลย



ผมบิดขี้เกียจไปมาอยู่บนเตียงในเวลาหกโมงเช้าโดยมีแฮงค์ที่นอนหลับเป็นตายอยู่ข้างๆ เพราะเมื่อคืนไอ้เจ้าเด็กแสบติดเกมงอมแงม อยากปลุกแต่ก็กลัวว่าอีกคนจะงอแง ปล่อยให้ฝันหวานไปก่อนก็แล้วกัน



สายน้ำอุ่นๆ ไหลผ่านร่างกายที่เปลือยเปล่าชำระคราบเหงื่อไคลออก ครีมอาบน้ำสีใสถูกกดออกจากขวดแล้วบรรจงลูบไล้ไปตามผิวขาวอย่างเชื่องช้า แต่ความสุขในการอาบน้ำโดนขัดจังหวะเพราะเสียงเคาะประตู... ใช่เวลาไหมเนี่ย เดาว่าแฮงค์คงตื่นแล้วล่ะมั้ง ถึงจะขัดใจอยู่นิดหน่อยแต่ก็ยอมนุ่งผ้าเช็ดตัวเดินไปเปิดประตูให้ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ล้างคราบฟอง


"มีอะไร"

ผมแง้มประตูแล้วโผล่ออกไปแค่ส่วนหัว พอเห็นหน้าแฮงค์ก็ต้องหลุดขำออกมาอย่างช่วยไม่ได้ สภาพตอนนี้คือหัวยุ่งเหมือนรังนกแถมตายังบวมๆ ปรือๆ อีก น่าสงสารว่ะ เดี๋ยวขึ้นรถคงหลับแน่ๆ



"อาบน้ำด้วยคนดิ เมื่อกี้พี่ต้นเข้ามาปลุกแล้วเร่งผมอะ หาว ~"

พี่ต้นเข้ามาปลุกน่ะไม่แปลกเพราะตอนนี้เรานอนอยู่ที่บ้าน แล้วเรื่องอะไรที่เขาต้องมาขออาบน้ำพร้อมผมด้วยล่ะ ถึงจะรีบแค่ไหนก็ไม่ควรสิ กลัวว่ามันจะไม่จบเพียงแค่นั้นและใช้เวลามากยิ่งกว่าอาบน้ำต่อกันอีก...



"ไม่ได้ พี่อาบใกล้จะเสร็จแล้วเดี๋ยวแฮงค์ค่อยต่อ"

ผมปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยแต่แฮงค์ก็ยังทำมึนแล้วเบียดตัวเข้ามายืนในห้องน้ำและปิดประตูลงได้ ใบหน้าหล่อนั่นยังแสดงอาการสะลึมสะลืออยู่เหมือนเก่า ดูท่าทางไม่มีพิษสงค์อะไร แต่ไม่ควรไว้ใจอย่างยิ่ง



"ดื้อว่ะ ออกไปเลยนะ"

ผมผลักเขาแล้วพยายามเปิดประตูห้องน้ำ แต่แฮงค์เอาตัวบังลูกบิดเอาไว้และสวมกอดเข้ามาแนบแน่นโดยไม่สนว่าเสื้อผ้าจะเปื้อนฟองหรือเปล่า นี่ยิ่งกว่าดื้ออีกต้องด่าว่าด้านถึงจะใช่ เฮ้อ



"ผมไม่ทำอะไรพี่มากกว่าอาบน้ำหรอกครับ ดูสภาพผมสิ ตาจะปิดอยู่แล้ว"

เสียงยานๆ ดังขึ้นก่อนที่เขาจะวางคางไว้บนหัวผม พยายามดิ้นหนีแต่อีกคนก็ออกแรงกระชับกอดมากขึ้น สุดท้ายก็ทำได้แค่ยืนนิ่งๆ แล้วผ่อนลมหายใจออกช้าๆ ต้องนอมอีกใช่ไหม ชีวิตนี้เกิดมาเพื่อยอมแฮงค์หรือไง



"เหอะ ถ้าทำพี่จะโกรธ"



สุดท้ายผมก็ยอมให้อีกคนอาบน้ำด้วยกัน ปากบอกว่าไม่ทำอะไรแต่เล่นเอาขาสั่นแทบยืนไม่ไหวเนี่ยนะ ไว้ใจอะไรได้บ้างวะคนเราเนี่ย ถึงจะไม่ได้มีเซ็กซ์กันแต่ลวนลามแบบนี้ใครจะทนไหว จะไปโกรธก็ไม่ได้ เสียท่าให้ตลอด เบื่อตัวเอง!



แปดโมงตรงทุกคนได้ฤกษ์ขนกระเป๋าขึ้นรถครอบครัวที่จอดอยู่หน้าประตูบ้านเป็นที่เรียบร้อย กันย์หอบขนมถุงโตขึ้นไปนั่งข้างคนขับ ส่วนผมกับแฮงค์หอบหมอนหนุนกับผ้าห่มเตรียมนอนกันเต็มที่ ตกลงกับพี่ต้นเอาไว้แล้วว่าจะสลับกันขับรถคนละครึ่งทางจนถึงเชียงราย และถ้าไม่ไหวจริงๆ ยังมีตัวแทนอีกสองคน



ภายในรถดูจะเงียบเหงาจนผิดปกติของการไปเที่ยว แต่ละคนดูเพลียๆ ยังไงชอบกล แม้แต่เสียงเพลงยังไม่ช่วยให้มีชีวิตชีวา อาจจะเพราะตื่นเช้ากันเกินไปล่ะมั้ง อย่างแฮงค์นี่เอนหัวทับหมอนแล้วพิงหน้าต่างไปเป็นที่เรียบร้อย ไม่คิดจะชวนผมคุยเลยเหรอ ยังมีความผิดติดตัวอยู่นะ



"นี่... ง่วงขนาดนั้นเลยเหรอไง"

ผมหันไปมองคนที่นั่งหลับตาอยู่ข้างๆ หัวคิ้วก็ขมวดเข้าหากันจนแทบจะผูกโบว์ได้อยู่แล้ว ไม่อยากนั่งว่างระหว่างเดินทางเพราะมันน่าเบื่อ จะให้ชวนกันย์ก็ไม่ได้เพราะรายนั้นเอนเบาะนอนไปแล้ว จะให้ชวนพี่ต้นเดี๋ยวจะไม่มีสมาธิขับรถอีก...



แฮงค์ปรือตาขึ้นมองกันแล้วพยักหน้ารับอย่างเชื่องช้า สภาพของเขาบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าง่วงจริงๆ แล้วไอ้ตอนอาบน้ำด้วยกันทำไมคึกจังวะ โรคหอบหื่นมันกำเริบตอนนั้นหรือยังไงกัน คิดๆ แล้วก็หมั่นไส้จนเอื้อมมือไปหยิกแก้มเขา ไม่ยอมให้หนีง่ายๆ หรอกน่า



"โอย ดึงแก้มผมทำไมอ่า เจ็บ ~"

แฮงค์ยกมือขึ้นลูบแก้มตัวเองป้อยๆ ปากหยักเบะลงเหมือนเด็กตัวเล็กๆ เวลาง่วงนอนเต็มที่แล้วโดนขัดใจ ผมยักคิ้วกวนๆ ไปให้แล้วใช้นิ้วดีดหน้าผากเขาไปอีกหนึ่งที ไม่เลิกง่วงก็จะทำแบบนี้ไปจนถึงเชียงรายเลย



"โอ๊ะ พี่ข้าว ทำอะไรครับเนี่ย แกล้งผมเกรอ"

คราวนี้แฮงค์ตื่นเต็มตาแล้วพุ่งตัวเข้ามาหากันจนใบหน้าของเราห่างกันแค่คืบเดียว ผมตกใจผงะถอยหลังไปจนติดประตูฝั่งตัวเอง หัวใจเต้นโครมครามเมื่อแอบจินตนาการไปว่าอีกคนจะจูบกัน... ขืนทำแบบนั้นเขาอาจจะโดนพี่ต้นถีบลงจากรถก็เป็นได้ แล้วผมต้องมานั่งคิดอะไรฟุ้งซ่านแบบนี้เพื่อใครไม่ทราบ รกสมองว่ะ



"พุ่งเข้ามาทำไมวะ"

ผมถามเสียงรอดไรฟันออกไปเพราะไม่อยากให้พี่ต้นเข้ามาร่วมวงสนทนา เพราะเดี๋ยวนี้เขาเข้ากับแฮงค์ได้ดีนะ บางครั้งยังรวมหัวกันแกล้งผมอยู่เลย แต่ความหวงน้องก็ยังหลงเหลืออยู่บ้างนั่นล่ะ ถ้าทำอะไรประเจิดประเจ้อต่อหน้าจะโดนด่าทันที อย่างวันนั้นน้องมันดีใจที่ผมให้คะแนนฝึกงานสูงเลยโดนรวบกอดพร้อมหอมแก้มฟอดใหญ่ พี่ชายตัวดีแทบจะเข้ามาบีบคอแฟนผมเหอะ...



"แล้วพี่แกล้งผมทำไมล่ะครับ"

เขาถามกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่แสดงอารมณ์อะไรแล้วทิ้งตัวลงนอนบนตักของผมอย่างหน้าตาเฉยแล้วคลี่ยิ้มละมุนให้กัน อยากจะดันหัวออกอยู่หรอกแต่เจอสายตาขี้อ้อนเข้าไปแล้วใจมันอ่อนแปลกๆ ตั้งแต่คบกันมาเบื่อตัวเองไปกี่รอบแล้วนะ



"ทำไม แกล้งแค่นี้โกรธเหรอ"

ผมถามก่อนจะยักคิ้วกวนๆ ให้คนที่ขมวดคิ้วยุ่งอยู่บนตัก นานๆ ครั้งได้ยียวนใส่เขามันก็สนุกดี แฮงค์ไม่ได้ตอบอะไรแต่เอื้อมมือมาล็อกคอกันแล้วโน้มศีรษะของผมลงต่ำจนลมหายใจของเราประสานกัน แต่ก่อนจะได้เริ่มทำอะไร พี่ต้นก็กระแอมขึ้นมาซะก่อน ขัดจังหวะจริงๆ เลยพี่ชายเนี่ย



"เกรงใจคนขับที่แฟนหลับเป็นตายบ้างครับ"

พี่ต้นพูดเสียงนิ่งๆ และไม่รู้ว่าสีหน้าเขาเป็นอย่างไรเพราะเห็นแค่ด้านข้าง แฮงค์สะดุ้งก่อนจะปล่อยกันให้เป็นอิสระแล้วแกล้งหลับตาลงทันที ผมที่ยังคงอึ้งๆ พอได้สติกลับมาก็หัวเราะออกไปซะอย่างนั้น อีกคนอิจฉา อีกคนก็กลัว...



"หัวเราะอะไร"

เสียงพี่ต้นยังคงระดับเดิมเอาไว้เหมือนเก่า ผมรีบเม้มปากเพื่อกลั้นหัวเราะแล้วส่ายหน้าไปมาแทนการตอบคำถาม เพราะรู้ว่าเขาเห็นผ่านทางกระจกมองหลัง แฮงค์หรี่ตามองกันแล้วย่นจมูกใส่ ด้วยความที่มันเขี้ยวเป็นทุนเดิมอยู่แล้วผมเลยใช้นิ้วเคาะหน้าผากเขาไปอีกครั้งหนึ่ง



"อีกแล้วนะพี่ข้าว ระวังเถอะ ถึงเชียงรายเมื่อไหร่พี่จะโดนเอาคืน"

แฮงค์พูดแล้วทำหน้าจริงจังใส่ แต่ดูๆ ไปแล้วเหมือนเจ้าซามอยด์ตอนโกรธยังไงไม่รู้ มันไม่น่ากลัวแม้แต่นิดเดียวน่ะสิ ผมหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วไหวไหล่อย่างไม่แคร์ก่อนจะแกล้งขยี้หัวเขาจนยุ่งเหยิง สนุกจริงๆ



หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีกเพราะแฮงค์ฝืนความง่วงของตัวเองไม่ไหวเลยหลับไปทั้งๆ ที่ยังนอนหนุนตักอยู่ มีหลายครั้งที่พี่ต้นเบรกรถกะทันหันจนผมต้องกอดประคองตัวอีกคนเอาไว้ ไม่อย่างนั้นคงได้กลิ้งอยู่ด้านล่างแน่ๆ ขาทั้งสองข้างเหน็บชาเริ่มมาเยือนแต่ด้วยความที่ไม่อยากปลุกอีกคนเลยนั่งทนมาจนถึงพิษณุโลก



ผมเขย่าตัวเขาเพื่อปลุกเมื่อพวกเราจะแวะกินข้าว และในตอนนี้เองเพิ่งได้รู้ว่ากันย์ขี้เซาขนาดไหน... พี่ต้นตะโกนใส่หูยังนอนนิ่งสนิทอยู่เลย เป็นคนของผมต่างหากที่สะดุ้งตื่นและทำหน้าตาเหรอหราก่อนจะลุกขึ้นเช็ดหน้าเช็ดตา



"หือ เกิดอะไรขึ้นครับ"

แฮงค์หันซ้ายหันขวาดูสถานการณ์โดยรอบก่อนจะกลับมาสบตากับผมเพื่อรอคำตอบ คิ้วหนาเลิกขึ้นด้วยความงุนงงเมื่อผมพยักพเยิดให้มองไปเบาะด้านหน้า แต่ไม่นานเขาก็ถึงบางอ้อเมื่อชะเง้อไปดูเพื่อนที่ยังหลับคอพับคออ่อนอยู่



"เรียกให้ตายมันก็ไม่ตื่นหรอกพี่ ไอ้กันย์มันชอบหลับในรถน่ะ"

พี่ต้นถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วพยักหน้ารับเหมือนรู้อยู่ก่อนแล้ว ไม่ค่อยเข้าใจหรอกว่ากันย์หลับลึกไปได้ยังไง เพราะโดยปกติแล้วนอนบนรถมันต้องมีระแวงกลัวนั่นกลัวนี่บ้างสิ ประมาณว่าครึ่งหลับครึ่งตื่น หรือจะมีแค่ผมเป็นคนเดียววะ



"ไม่คิดว่าจะปลุกยากขนาดนี้ ปกติไปไหนมาไหนด้วยกันตะโกนใส่ดังๆ ก็ตื่นแล้ว"

พี่ต้นขมวดคิ้วยุ่งแล้วมองหน้าแฟนตัวเองอย่างปลงๆ แฮงค์หัวเราะออกมาไม่ดังมากนักแล้วเอื้อมมือไปดึงแก้มเพื่อนสนิทแรงๆ คนที่หลับอยู่แค่ยกมือขึ้นปัดป่ายเท่านั้นแต่ไม่ยอมตื่น นับถือความหลับลึกของเขาสุดๆ



"ระยะทางไกลมันยิ่งหลับลึกครับ ผมมีวิธีปลุกมันนะ ง่ายมากด้วย"

แฮงค์ยิ้มกรุ้มกริ่มจนผมเริ่มกลัวว่าวิธีปลุกกันย์มันจะพิสดารยังไงชอบกล อีกอย่างที่ทำให้สงสัยมากกว่าเดิมคือเขากระซิบกระซาบกันแค่สองคนเท่านั้น อยากเสือกอยู่หรอกนะแต่หูดีไม่พอว่ะ



"พี่ข้าวลงไปหาอะไรกินกันดีกว่าเนอะ"

แฮงค์หันมาชวนแล้วจับข้อมือลากผมลงจากรถโดยไม่ขยายความอะไรต่อ คืออะไรยังไง แล้วพี่ต้นกับกันย์ล่ะ



"เดี๋ยวๆ รอพี่ต้นกับกันย์ก่อน"

ผมสะบัดมือให้หลุดจากการเกาะกุมของแฮงค์ในขณะที่เราทั้งสองลงจากรถเรียบร้อยแล้ว จะหันไปมองพี่ต้นสักหน่อยแต่คนข้างกายดันจับหน้ากันเอาไว้ซะอย่างนั้น การกระทำแบบนี้ยิ่งทำให้มั่นใจว่าวิธีปลุกเพื่อนสนิทของเขามันพิสดารแน่ๆ อาจจะติดเรทด้วยซ้ำ...



"เดี๋ยวพวกเขาก็ตามเราไปครับ ผมหิวแล้วอะ นะๆ ไปกันก่อนเถอะ"

ผมลังเลอยู่สักพักแต่พอเจอสายตาอ้อนๆ ของแฮงค์ก็ทำให้ยอมไปโดยปริยาย



หลังจากกินข้าวเสร็จพวกเราก็ออกเดินทางต่อโดยที่ผมรับหน้าที่เป็นสารถีและมีแฮงค์นั่งข้างๆ กัน ดูจากท่าทางของพี่ต้นกับกันย์แล้วพอจะรู้ว่าการปลุกให้ตื่นที่ผ่านมามันต้องเป็นอะไรที่ติดเรทแน่ๆ ไม่อย่างนั้นเจ้าว่าที่น้องสะใภ้คงไม่หน้าแดงก่ำแบบนั้น แถมยังนั่งนิ่งไม่ยอมหลับต่ออีกเลย



"พี่ถามจริงเถอะแฮงค์ ให้พี่ต้นปลุกกันย์ยังไง"

ผมเรียบๆ เคียงๆ ถามเขาที่เอาแต่นั่งกินขนมคบเคี้ยวอยู่ข้างๆ บางทีก็เอื้อมมือมาป้อนกันบ้าง ก็มีความสุขกับการขับรถดีนั่นล่ะ แต่เรื่องนั้นมันก็คาใจ ที่กล้าถามออกมาเพราะพี่ต้นหลับไปแล้ว ส่วนอีกคนก็ใส่หูฟังปิดกั้นตัวเอง... โอกาสเหมาะมากๆ



แต่แฮงค์กลับเลิกคิ้วขึ้นและทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้ใส่แทนจะตอบคำถามอะไร พอดีกับที่รถติดไฟแดงผมเลยได้โอกาสผลักหัวเขาด้วยความหมั่นไส้ ถึงจะเป็นแฟนกันแต่ถ้ากวนตีนก็โดนทำโทษล่ะนะ รักให้ตายก็ไม่ยอมง่ายๆ หรอก



"แฟนครับ ผลักหัวผมทำไมเนี่ย"

แฮงค์มุ่ยหน้าใส่กันแล้วพับถุงขนมในมือเก็บใส่ถุงก่อนจะหันกลับมาจ้องหน้ากันด้วยความจริงจัง



"จะตอบดีๆ หรือจะให้ถีบตกรถไม่ทราบ"

ผมถามเสียงแข็งแล้วมองเขาแบบไม่วางตา มือข้างหนึ่งยังจับพวงมาลัย ส่วนอีกข้างเท้าไว้กับเบาะข้างๆ ตัว แฮงค์ทำหน้าเหวอเล็กน้อยก่อนจะบ่นเสียงกระปอดกระแปดให้ผมได้คิ้วกระตุกเล่น



"เดี๋ยวนี้โหดขนาดจะถีบแฟนตัวเองตกรถเลยเหรอ"

พูดด้วยน้ำเสียงเชิงน้อยใจแถมยังทำตาเศร้าๆ เหมือนหมาหงอยส่งมาให้กัน แต่อย่าคิดว่าผมจะยอมแพ้ง่ายๆ นะ คือเรื่องมันก็ไม่ได้สำคัญขนาดคอขาดบาดตายอะไร แต่มันคาใจน่ะ... ปลุกคนขี้เซาด้วยวิธีง่ายๆ ต้องทำยังไงวะ



"ตอบ"



"โอเคๆ บอกแล้วก็ได้ครับ แต่พี่ขยับเข้ามาใกล้ๆ หน่อยได้ไหม"

ไม่เข้าใจเท่าไหร่ว่าทำไมต้องขยับเข้าไปใกล้ๆ แต่ด้วยความอยากรู้มันครอบงำเลยทำตามอย่างไม่อิดออด



"แค่ทำให้เสียว มันก็ตื่นเองนั่นล่ะ"

แฮงค์ก้มลงมากระซิบด้วยเสียงแผ่วเบา แต่ผมกลับได้ยินชัดเจนแล้วรีบผละตัวออกมาทันทีและเป็นจังหวะเดียวกับที่สัญญาณจราจรเปลี่ยนเป็นไฟเขียว พูดไม่ออกจริงๆ เมื่อได้รู้วิธีปลุกกันย์แบบนั้น แต่... แฮงค์แม่งไปรู้เรื่องพวกนี้มาได้ยังไงวะ



"แม่ง... แล้วแฮงค์ไปรู้เรื่องพวกนี้มาได้ยังไง"

ผมถามด้วยน้ำเสียงสั่นๆ เพราะเผลอคิดไปว่าแฟนตัวเองอาจจะเคยทำเรื่องเสียวๆ กับเพื่อนสนิท ประมาณว่าเพื่อนกันมันส์ดีอะไรแบบนั้น ขับรถไปสติก็กระเจิงไป เจริญจริงๆ เลยชีวิตนายการิน



"หื้ม... ไม่ได้คิดว่าผมเคยทำเรื่องแบบนั้นกับไอ้กันย์หรอกใช่ไหม"

แฮงค์ถามด้วยน้ำเสียงปนตกใจแล้วหันมาเหล่มองอย่างไม่ไว้วางใจ ผมอึกอักไม่ยอมตอบอะไรออกไป ก็คิดจริงนี่หว่า แต่กลัวโดนแฟนสวด



"เงียบนี่แสดงว่าคิดสินะ"

แฮงค์พูดด้วยน้ำเสียงหยอกล้อก่อนจะส่งนิ้วมาจิ้มแก้มกัน ผมชักสีหน้ายุ่งแล้วปัดป่ายออก ไม่น่าสงสัยเลยให้ตายสิ



"เออ สรุปรู้ได้ไง"

ผมบอกด้วยน้ำเสียงกึ่งรำคาญแล้วมุ่ยหน้าอยู่แบบนั้น ผิดเหรอวะที่จะเกิดอาการหวงแฟนตัวเองกับเพื่อนสนิทของเขาขึ้นมาน่ะ...



"แฟนเก่ามันเคยบอกไว้น่ะครับ ส่วนผมก็ปลุกมันด้วยการตะโกนใส่หูนี่ล่ะ"

แฮงค์พูดออกมาด้วยเสียงสบายๆ ทำให้ผมโล่งอกได้ง่ายๆ เชื่อว่าสิ่งที่เขาเล่าเขาบอกจะไม่มีการโกหกแต่อย่างใด



ผมขับรถยาวจนถึงเชียงรายและแวะพักที่โรงแรมในตัวเมืองก่อนจะเดินทางต่อไปอำเภอแม่จันเพื่อไปไร่ชาฉุยฟง พี่ต้นกับกันย์แยกไปพักอีกห้องหนึ่ง ส่วนผมกับแฮงค์พักอีกห้องหนึ่ง ต่างคนต่างเหนื่อยจากการเดินทางหลังจากอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยก็ทิ้งตัวลงนอนก่อนจะเอ่ยราตรีสวัสดิ์แล้วจมลงสู่ห้วงนิทราจนถึงเช้าวันใหม่



วันนี้แฮงค์อาสาเป็นคนขับรถแทนพี่ต้น เราออกจากตัวเมืองเชียงรายตั้งแต่เช้าและแวะกินอะไรนิดๆ หน่อยๆ ที่ตลาดก่อนจะมุ่งหน้าเข้าสู่อำเภอแม่จัน ผมนั่งหาวหวอดอยู่ข้างๆ คนขับเพราะเมื่อคืนหลับไม่ค่อยสนิทสักเท่าไหร่ อาจจะแปลกที่แปลกทางและอากาศหนาวไปสักหน่อยเลยเป็นผลให้ตาจะปิดอยู่ร่อมร่อ ในมือยังถือถุงแคปหมูที่เพิ่งซื้อมาไว้แน่น อยากแกะกินนะแต่ง่วงมากกว่า



"พี่ข้าวนอนก่อนไหม เมื่อคืนนอนหลับไม่สนิทนี่ครับ"

แฮงค์พูดขึ้นในขณะที่เหลือบสายตามามองกันครู่หนึ่งแล้วกลับไปสนใจทางด่านหน้าตา ผมส่ายหน้าน้อยๆ เป็นการปฏิเสธเพราะกลัวว่าคนขับจะเหงาระหว่างเดินทาง กันย์เล่นเอาหัวหนุนตักพี่ต้นหลับไปตั้งแต่ขึ้นรถในสิบนาทีแรก ส่วนอีกคนเอนหัวพิงกระจกทำท่าจะหลับตามแฟนไปด้วย



"ไม่ล่ะ เดี๋ยวอยู่เป็นเพื่อน หาว ~"

พูดจบก็หาวออกมาอีกครั้งอย่างไม่เกรงใจ ถึงจะง่วงจนตาแทบจะปิดก็ยังเป็นห่วงคนข้างๆ อยู่ดี เพราะผมเคยขับรถทางไกลแล้วไอ้จุ้นหลับ... โคตรเหงาเลยไง เสียงเพลงยังไม่ช่วย



แฮงค์หัวเราะออกมาหลังจากฟังที่ผมพูดจบไปเมื่อครู่แล้วเอื้อมมือข้างหนึ่งมาดึงแก้มกันเบาๆ อย่างหยอกล้อ ไม่เข้าใจสักเท่าไหร่ว่ามันตลกตรงไหนและไม่เข้าใจว่าแก้มนี่เป็นของเล่นหรือยังไง เอะอะดึงเอะอะจิ้มเอะอะหอมอยู่ได้ ฮึ่ย



"อะไรวะ อย่าเล่นน่า ขับรถไปเลย หัวเราะอยู่ได้คนเขาแค่หาว"

ผมปัดป่ายมือแฮงค์ออกจากแก้ม ถ้าไม่ติดว่าเสียดายแคปหมูจะปาใส่ให้ เขาหัวเราะเอิ๊กอ๊ากด้วยความสนุกและขับรถต่อพร้อมกับฮัมเพลงเบาๆ อย่างมีความสุข จริงๆ อยากจะเอาเรื่องอยู่หรอกแต่เห็นเขาร่าเริงผมก็พลอยยิ้มไปด้วย บางทีก็อยากรู้ว่าแฟนไปแอบทำเสน่ห์ใส่หรือเปล่าทำไมถึงได้หลงหัวปักหัวปำขนาดนี้นะ



ขับรถมาได้สักระยะก็ถึงอำเภอแม่จันและเจอทางแยกที่มีป้ายบอกทางไปแม่สลองแฮงค์เลยหักพวงมาลัยไปทางนั้น และตลอดทางจะมีป้ายนำไปสู่ไร่ชาฉุยฟง



ไม่นานนักข้างหน้าของพวกเราก็ปรากฏไร่ชาขั้นบันไดสีเขียวชะอุ่ม ต่างคนต่างลงจากรถด้วยความตื่นเต้น พี่ต้นลากกันย์ไปถ่ายรูปโดยลืมน้องอย่างผมไปซะสนิท จะให้เข้าไปเป็นก้างก็ยังไงอยู่เลยขอแยกตัวไปเดินเที่ยวกับแฮงค์แค่สองคน และเขาก็ไม่น้อยหน้าที่จะเตรียมกล้องมาด้วย... ไม่เคยรู้ว่าแฟนตัวเองก็เป็นพวกชอบถ่ายรูปเลย แต่ก็เดาได้จากกล้องที่ใช้มืออาชีพเชียว



"พี่ข้าวไปเป็นนายแบบให้ผมหน่อยสิครับ"

ผมที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้นกับกางเกงขาสามส่วนสีฟ้าน้ำทะเลชี้นิ้วเข้าหาตัวเองแบบงงๆ ไม่ค่อยเข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดในตอนนี้สักเท่าไหร่ แต่แฮงค์ไม่ได้รอคำตอบอะไรเพราะอยู่ๆ เขาก็จับมือและลากให้ผมไปยืนอยู่ตรงตัวอักษรขนาดยักษ์ที่เขียนว่า 'ไร่ชาฉุยฟง' ก่อนจะเดินไปประจำที่ตากล้อง



"โพสต์ท่าหล่อๆ หน่อยครับ"

แฮงค์พูดก่อนจะยิ้มให้กัน ผมที่ยังงงๆ เบลอๆ อยู่เลยได้แต่ยืนนิ่งแล้วได้แต่คิดว่าจะอยากถ่ายรูปผมไปทำไม... คือผมไม่ชอบเข้ากล้องสักเท่าไหร่ ตอนเป็นเดือนคณะนี่แทบจะฆ่ากันตายกับตากล้องเมื่อมีถ่ายแบบโปรโมทอะไรแบบนั้น มันเขินๆ ทำตัวไม่ถูกยังไงไม่รู้ มันแตกต่างจากเซลฟี่มากเลย



"ไม่เอาๆ พี่ไม่ชอบถ่ายรูปน่ะ"

ผมโบกมือปฏิเสธแต่ไม่ทันที่แฮงค์จะหยุดมือทันเพราะได้ยินเสียงเขากดชัตเตอร์ไปแล้ว... รูปมันจะออกมาห่วยแตกขนาดไหนเนี่ย ไม่อยากจะคิดสภาพเลย



"โห... มือบังหน้าเต็มๆ อะ งั้นพี่ข้าวยืนเฉยๆ ทำเป็นมองวิวอะไรก็ได้ครับ"

แฮงค์คิดวิธีจะถ่ายรูปผมใหม่ อยากจะขัดขืนแต่ถ้าเขาอยากให้ทำขนาดนั้นก็จะทำก็ได้ เห็นว่าตั้งใจหรอกนะ



"อืมๆ รีบๆ ถ่ายเลย แดดร้อนชะมัด"

ผมหันไปบ่นก่อนจะทำท่าเป็นมองนั่นนี่ถามที่ตากล้องสั่ง ได้ยินเสียงแฮงค์ลั่นชัตเตอร์เป็นสิบรอบก็รู่สึกขัดเขินขึ้นมาแปลกๆ จะถ่ายเอาไปแปะผนังห้องกรือยังไงกันวะ



"เสร็จยังเนี่ย"

ผมตะโกนถามออกไปเสียงดังเล็กน้อยและมองตรงไปทางกล้องอย่างพอดิบพอดีและนั่นก็เป็นเสียงกดชัตเตอร์ครั้งสุดท้ายก่อนที่แฮงค์จะลดอุปกรณ์ถ่ายภาพในมือลงแล้วส่งยิ้มมาให้ก่อนจะเดินเข้ามาหาและถอดหมวกแก๊ปของตัวเองใส่ให้ผม ครั้นจะเอาคืนให้เจ้าของก็โดนรั้งมือไว้ซะอย่างนั้น... เขินขึ้นมาซะเฉยๆ ทำไงดีวะ



"ไว้บังแดดเนอะ จะได้ไม่ร้อนเกิน"

แฮงค์พูดก่อนจะส่งยิ้มให้กันอย่างอ่อนโยน ผมพยักหน้าหงึกหงักโดยไม่ตอบอะไรออกไปแล้วเอาแต่เบนสายตามองไปทางอื่น คนออกจะเยอะแยะยังจะมาทำตัวหวานๆ อีก ไม่อายบ้างหรือยังไง



"พี่ไหวปะเนี่ย ทำไมหน้าแดงๆ ไปนั่งพักที่ร้านอาหารก่อนไหม"

น้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยถูกส่งมาให้กัน ผมอยากตะโกนใส่เขาเหลือเกินว่าไอ้ที่หน้าแดงเนี่ยไม่ได้จะเป็นลมอะไรเลยเพราะเขินมันนั่นล่ะ แต่ด้วยความที่ฟอร์มจัดเลยยอมโกหกไปจะดีกว่า



"อืม... หิวแล้วด้วย ไปหาอะไรกินเถอะ"



ร้านอาหารที่นี่จะเน้นเมนูเกี่ยวกับชาซะส่วนมากไม่ว่าจะเป็นยำยอดชา ปอเปี๊ยะยอดชา ยำทูน่า สปาเก็ตตี้ยูนาน ชาเย็น ชาเชียว หมั่นโถวชานุ่ม เค้กชาเขียว เค้กซ็อกโกแลต ไอศกรีมชาเขียว และอื่นๆ อีกมากมาย



จากไร่ชาฉุยฟงก็กลับเข้าสู่ตัวเมืองอีกครั้งเพื่อมาเที่ยวถนนคนเดินหรือที่เรียกว่า 'กาดเจียงฮายรำลึก' ที่จะมีทุกวันเสาร์บนถนนธนาลัยใจกลางเมืองเชียงราย ทริปนี้เป็นความต้องการของผมเองเพราะไอ้จีบแนะนำมาว่ามีของประเภทแฮนด์เมด ของตกแต่งบ้านขายเยอะ ด้วยความที่เป็นคนชอบอะไรพวกนี้อยู่แล้วเลยอยากได้อะไรติดไม้ติดมือกลับบ้านสักเล็กน้อย



ผมกับกันย์เดินนำอีกสองคนที่มัวแต่แวะซื้อของกินนั่นนี่ไปตลอกทาง ไม่รู้ว่าจะหิวอะไรกันนักหนาทั้งที่ขนาดตัวก็ไล่ๆ กันทั้งหมด จะมีก็แต่แฟนที่ชายนี่ล่ะที่ดูจะตัวเล็กกว่าคนอื่นเขา



"พี่ข้าว... ไอ้พี่ต้นแม่งจะแดกช้างได้เป็นตัวแล้วมั้งเนี่ย ดูดิ มือหิ้วถุงของกินพะรุงพะรังสุดๆ"

กันย์หันมากระซิบกระซาบแล้วพยักพเยิดหน้าให้ผมมองดูพี่ชายตัวเองที่ตอนนี้มีของกินอยู่ในมือนับสิบอย่างแตกต่างจากพวกผมที่มีของฝากชาวบ้านแทน ส่วนแฮงค์มีแก้วน้ำอยู่ในมือสองแก้วแค่นั้น



"ปล่อยคุณชายเขาไปเถอะ นานๆ ทีจะได้กินอาหารเหนือ"

ผมพูดเสียงกลั้วหัวเราะในขณะที่กันย์มุ่ยหน้าเพราะแฟนตัวเองเอาแต่สนใจของกินในมือ นี่ถ้าไม่ติดว่าพี่ต้นอายุอานามเหยียบเลขสามล่ะก็ใครๆ คงคิดว่าเขาเพิ่งจะยี่สิบต้นๆ จากการดูพฤติกรรมตอนนี้ แล้วถ้าสังเกตโดยรอบแล้วกลุ่มของเราเหมือนจะได้รับความสนใจจากสาวๆ มากพอตัว รวมคนหน้าตาดีไว้ก็แบบนี้ แต่จะว่าไปแล้วหนุ่มๆ สาวๆ ทางเหนือนี่มันหล่อสวยกันซะส่วนใหญ่จริงๆ บางทีพวกผมอาจจะสู้ไม่ได้



"คืนนี้จะให้นอนกอดของกินแทนแล้วกัน น่าหมั่นไส้ชะมัด กินอยู่ได้ วันไหนอ้วนขึ้นมาจะถีบหัวส่ง!"

กันย์พูดด้วยน้ำเสียงกึ่งโมโหกี่งน้อยใจแล้วเอาแต่เกาะแขนผมแจ รู้หรอกว่าที่พูดออกมาไม่มีความจริงเลยสักนิดเดียว เพราะเจ้าเด็กน้อยคนนี้เนี่ยรักพี่ต้นออกจะตายไป ไม่อย่างนั้นคงไม่ยอม... แค่กๆๆ สำลักน้ำลายเฉยเลย



"จริงเหร๊อ จะถีบหัวส่งจริงๆ อะ"

ผมถามด้วยเสียงกวนๆ ทำให้ได้รับใบหน้าหงิกๆ ของกันย์กลับมาก่อนที่เขาจะปล่อยมือออกจากแขนแล้วไปดึงตัวพี่ต้นมาแทนพร้อมกับบ่นอะไรงุ้งงิ้งเรื่องของกินไปด้วย ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยให้เขาเข้าสู่โลกส่วนตัวกันสองคนแล้วกัน



แก้วน้ำปั่นเย็นๆ แตะลงที่แก้มและนั่นเป็นสัญญาณว่าแฮงค์เดินมาอยู่ข้างๆ กันแล้ว ผมขมวดคิ้วใส่คนที่แกล้งกันก่อนจะรับแก้วเจ้าปัญหามาถือไว้



"เอาถุงมาสิเดี๋ยวผมช่วยถือ"

ดวงตาคมมองที่ถุงใส่ของสลับกับใบหน้าของผม แฮงค์ยื่นมือมาเพื่อจะแย่งมันไป แต่เรื่องอะไรที่ต้องเอาภาระขตัวเองไปให้คนอื่นทั้งที่มันไม่จำเป็นด้วยล่ะจริงไหม



"ไม่เอา แค่นี้ถือเองได้น่า เดินสบายๆ ไปเถอะ"



ผมว่าเขาอาจจะเดินสบายไปจริงๆ นั่นล่ะ เพราะดวงตาคมมองซ้ายมองขวาอย่างสนุกสนาน ไม่รู้ว่าสนใจอะไรนักหนาจนครั้งล่าสุดถึงกับเหลียวหลังจนคอแทบหัก... ขอทักสักหน่อยเหอะ เริ่มหมั่นไส้แล้ว



"ตา"

ผมพูดเสียงดังพอตัวจนอีกคนหันมามองด้วยหน้าตาตื่นๆ อยากจะยกมือจิ้มตาให้เข็ดแต่ยั้งไว้ก่อน



"ห๊ะ ว่าไงนะครับ"

ถามด้วยเสียงงงๆ แล้วเอียงคอเหมือนสงสัยเสียเต็มประดา ยัง... ยังไม่รู้ตัวอีกคนเราว่าทำอะไรผิดไว้ แต่จริงๆ ผมก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องเขาจะมองใครหรอก เข้าใจความรู้สึกดี มันก็ต้องมีบ้างที่เราจะหาอาหารทางสายตา แต่แค่อยากแกล้ง



"มองอะไร"

ผมถามเสียงนิ่งกลับไป





ต่อด้านล่างนะ

ออฟไลน์ Ch0cmint

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-5
Re: ♥ Alcohol Addict ♥ เมาครั้งที่ 24 -P.8- (23.02.2017)
«ตอบ #215 เมื่อ23-02-2017 20:01:09 »

"อ๋อ ~ ก็แค่มองเอง รักพี่ข้าวคนเดียวนะ"

แฮงค์พูดด้วยเสียงหวานๆ ทำหน้าอ้อนๆ จนน่าหมั่นไส้ เห็นแล้วก็อยากจะแกล้งต่อ



"หึ งั้นพี่ก็มองสาวๆ ได้สินะ"

ผมแกล้งพูดไปแบบนั้นเพราะอยากดูปฏิกิริยาว่าเขาจะทำยังไง แฮงค์เบิกตากว้างก่อนจะส่ายหน้ารัวๆ แล้วดึงผมออกจากฝูงชนจำนวนนับร้อยเพื่อไปหาที่ยืนเคลียร์กันให้จบ พี่ต้นกับกันย์ทำท่าจะเดินเข้ามาแต่โดนเจ้าเด็กแสบส่งสัญญาณให้เดินไปก่อนแล้วจะโทรหาทีหลัง... หึหึ เหยื่อติดกับง่ายฉิบหาย



"เฮ้ย ไม่ได้ๆ พี่เป็นเมียผมนะ"

แสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของกันทันทีแถมยังจับข้อมือไว้แน่นอีก ผมแกล้งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แถมยังยักไหล่ไม่แคร์ไม่สนใจอีกด้วย ยั่วคนให้หึงนี่มีความสุขจริงๆ เลย



"เมียแล้วไง มีไข่เหมือนกัน"

ผมพูดเสียงราบเรียบแต่ยักคิ้วกวนๆ ส่งให้ แฮงค์เบิกตากว้างก่อนจะเบะปากลงราวกับจะร้องไห้



"เหวอ ไม่พูดงี้ดิ ผมไม่เหล่ใครแล้ว สาบานๆ"

เขาละล่ำละลักพูดจนแทบฟังไม่ออกเลยด้วยซ้ำ มันลำบากที่ผมต้องเม้มปากแทบตานเพื่อกลั้นหัวเราะเอาไว้ โคตรตลกเลยไง



"ไม่เหล่แต่จะมองตรงๆ ใช่ปะ"

ผมยังคงแกล้งเขาต่อไป นานๆ ครั้งจะมีโอกาส ขอหน่อยเหอะน่า



"ไม่ๆ ไม่มองไม่เหล่ใครแล้วๆ ขอโทษครับ"

คราวนี้แฮงค์แทบจะยกมือไหว้ขอร้องกันจนผมต้องจับมือนั่นไว้แล้วรีบบอกความจริงให้รู้ คือคนเยอะไง อายเหมือนกัน เริ่มกลายเป็นจุดสนใจแล้ว



"ล้อเล่นน่า มองน่ะมองได้ แต่ไม่ใช่เหลียวตามจนคอแทบเคล็ด เกรงใจคนที่เป็นแฟนบ้าง เข้าใจไหม"

ผมยกมือข้างที่ว่างขึ้นขยี้หัวคนตรงหน้าแรงๆ ด้วยความเอ็นดู แฮงค์เหลือบมองกันเล็กน้อยก่อนพยักหน้ารับแล้วเอื้อมมาจับมือกันเอาไว้ก่อนจะก้มลงมากระซิบอะไรบางอย่าง



"อ่า ผมแค่สงสัยว่านั่นนมหรือลูกมะพร้าวน่ะ ไม่หนักบ้างหรือไง ชอบอกแบนๆ มากกว่าอีก"

พูดจบก็สายตากรุ้มกริ่มมาให้อย่างไม่ปิดบังแถมจุดโฟกัสยังเป็นหน้าอกของผมอีก ไอ้เด็กนี่มันทะลึ่งไม่เลือกเวลาและสถานที่เลยจริงๆ ให้ตายสิ ควรทำยังไงกับมันดีเนี่ย



"ไปไกลๆ จะกลับแล้ว ง่วง!"

หาทางออกให้ตัวเองไม่ได้เลยโวยวายกลบเกลื่อนแล้วเดินหนีออกมา แต่อย่าคิดว่าแฮงค์จะปล่อยให้ผมรอดพ้นเงื้อมมือเขาไปได้หรอก ก็วิ่งตามมากอดคอกันซะขนาดนี้ ขี้เกียจจะสะบัดออกแล้วด้วย เฮ้อ



กลับมาถึงที่พักก็แทบจะคลานเข้าที่นอนเพราะขาล้าไปหมด การอาบน้ำดูเป็นเรื่องที่ยากเย็นเกินกว่าจะทำ แฮงค์ที่จัดการตัวเองเรียบร้อยคลุมผ้าขนหนูไว้บนหัวแล้วเดินมานั่งข้างๆ กันด้วยรอยยิ้มบาง อิจฉาว่ะ หัวกระเซอะกระเซิงยังหล่อ



"ไปอาบน้ำเถอะพี่ ตาจะปิดแล้วนั่น"



"หึ ง่วงแล้ว ไม่อาบได้ปะ"

ผมส่ายหัวก่อนจะเอนตัวพิงไหล่ของแฮงค์แล้วหลับตาลง ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของเขาก่อนที่สัมผัสอุ่นๆ จะแตะลงที่แก้ม แอบขโมยหอมกันอีกแล้วเจ้าเด็กคนนี้



"ไม่เหนียวตัวหรือไง"

ถามมาด้วยเสียงอ่อนโยน ผมพยักหน้าหงึกหงักตอบกลับไปโดยที่ไม่ลืมตา สภาพตอนนี้ครึ่งหลับครึ่งตื่นแล้ว อะไรๆ มันก็เบลอไปหมด



"งั้นก็ไปอาบน้ำเถอะ จะได้มานอนสบายๆ"



"อือ ขออีกแป๊ป ตอนนี้ยังขี้เกียจ"

ต่อรองออกไปก่อนจะจมสู่ห้วงนิทราจริงๆ ตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็ยังเห็นแฮงค์นั่งอยู่ตรงปลายเตียง ส่วนผมนอนราบสบายๆ อยู่แล้ว เดาว่าอีกคนคงหาผ้ามาเช็ดตัวแล้วเปลี่ยนชุดให้เรียบร้อย



"ทำอะไรอยู่"

ผมถามด้วยเสียงงัวเงียแล้วลุกขึ้นนั่งก่อนจะเอนตัวซบลงบนแผ่นหลังกว้าง แฮงค์สะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็หันมายิ้มให้กันก่อนขยับปากเป็นคำว่า 'เฟรนด์' เพิ่งทันสังเกตว่าเขาคุยโทรศัพท์อยู่เลยพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ



แฮงค์วางสายก่อนจะหันกลับมามองหน้ากัน ผมซึ่งกำลังจะหงายหลังลงนอนเลยยั้งตัวเอาไว้แล้วปรือตาใส่ ไม่ไหวจริงๆ นะตอนนี้ ง่วงสุดๆ



"อาทิตย์หน้าไปงานแต่งงานพี่เฟรนด์ด้วยกันนะครับพี่ข้าว"

แฮงค์เอ่ยปากชวนผมด้วยน้ำเสียงออดอ้อนเล็กน้อย แค่ไปงานแต่งงานน่ะไม่ว่าหรอกแต่จะเอาผมไปเปิดตัวกับคนอื่นๆ ด้วยนี่สิ ไหวแน่เหรอ ญาติๆ จะมองยังไงล่ะ



"ไปนะได้ แต่เรื่องแนะนำให้ญาติรู้จักเบรกไว้ก่อนไหมล่ะ กลัวเขาจะมองแฮงค์ไม่ดี"

จากที่ง่วงกลายเป็นตาสว่างไปซะอย่างนั้น แฮงค์เงียบไปพักใหญ่ก่อนจะพูดต่อ



"จริงๆ ผมไม่แคร์หรอกว่าเขาจะคิดยังไง ครอบครัวผมยอมรับก็พอแล้ว ญาติก็แค่คนนอก"

ที่เขาพูดก็มีเหตุผล แต่สังคมมันมีผลกระทบมากกับความเป็นอยู่และการใช้ชีวิตประจำวันนะ ครอบครัวผมไม่เครียดเรื่องนี้หรอก แต่สำหรับครอบครัวแฮงค์ล่ะ...



"เออ พี่รู้ แล้วพ่อแม่เขาแคร์ไหม"



"ไม่ครับ พ่อกับแม่เห็นความสุขของผมมีค่ามากกว่าคนอื่น"

เขาพูดก่อนจะดึงตัวผมเข้าไปกอดไว้แนบอก ถ้าจะพูดขนาดนี้ก็ไม่รู้จะเถียงอะไรอีกแล้ว เอาเถอะ จะทำยังไงก็ทำ ตามใจเลย



"อืมๆ จะเอายังไงก็เอาแต่นอนนี้นอนกันเหอะ"

ผมยืดตัวขึ้นจูบปากเขาก่อนจะดึงอีกคนลงมานอนด้วยกันแล้วซุกตัวเข้าหาอกแกร่ง ไม่รู้ทำไมช่วงหลังๆ มาติดหมอนข้างจัง...



"ครับ ฝันดีนะ"



"อือ"



ทริปเชียงรายนี่... หวานดีเนอะ





--------------------------------------------------


อยากไปเที่ยวบ้างอะ... 555555 อิจฉา
ตอนหน้าตอนสุดท้ายแล้วเนอะ มีบทส่งท้ายอีกเล็กน้อย
เรื่องนี้เราก็จะส่งต้นฉบับให้ สนพ. อีกแล้ว ใครอยากเห็นมันเป็นรูปเล่มบ้าง ยกมือหน่อย ~

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ♥ Alcohol Addict ♥ เมาครั้งที่ 24 -P.8- (23.02.2017)
«ตอบ #216 เมื่อ23-02-2017 20:19:59 »

"เมียแล้วไง มีไข่เหมือนกัน" :hao3: :hao3: :hao3:
เป็นไงล่ะแฮงค์เจอพี่ข้าวตอบกลับแบบนี้  :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
Re: ♥ Alcohol Addict ♥ เมาครั้งที่ 24 -P.8- (23.02.2017)
«ตอบ #217 เมื่อ23-02-2017 21:50:36 »

 :pig4:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: ♥ Alcohol Addict ♥ เมาครั้งที่ 24 -P.8- (23.02.2017)
«ตอบ #218 เมื่อ23-02-2017 23:21:38 »

 :katai2-1:

ออฟไลน์ Babelilong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • Facebook  เข้ามาขอเป็นเพือนได้เลย
Re: ♥ Alcohol Addict ♥ เมาครั้งที่ 24 -P.8- (23.02.2017)
«ตอบ #219 เมื่อ24-02-2017 01:00:28 »

 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ♥ Alcohol Addict ♥ เมาครั้งที่ 24 -P.8- (23.02.2017)
« ตอบ #219 เมื่อ: 24-02-2017 01:00:28 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: ♥ Alcohol Addict ♥ เมาครั้งที่ 24 -P.8- (23.02.2017)
«ตอบ #220 เมื่อ24-02-2017 01:03:01 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ itsgonnabeme

  • It's me, not you.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
Re: ♥ Alcohol Addict ♥ เมาครั้งที่ 24 -P.8- (23.02.2017)
«ตอบ #221 เมื่อ24-02-2017 07:30:06 »

เราชอบจังงงง
บรรยากาศมันสบาย มันละมุน
อ่านแล้วชุ่มชื่นหัวใจมากค่ะ

แต่ใจหายอ่ะ
จะจบแล้วหรอ
ยังอยากอ่านต่ออยู่เลยยยย

ปล.น้องกันต์ยอมไปแล้วหรอเนี่ยยยยยย
ปล.สอง รอเล่มนะคะ รอภาคต่อด้วยย55

ออฟไลน์ Ch0cmint

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-5
Re: ♥ Alcohol Addict ♥ เมาครั้งที่ 25 -P.8- (27.02.2017)
«ตอบ #222 เมื่อ27-02-2017 19:25:22 »

เมาครั้งที่ 25



ไม่คิดว่าการไปงานแต่งงานใครสักคนจะต้องวุ่นวายขนาดนี้ ไอ้ธีมชุดสีชมพูขาวของแขกผู้ร่วมงานมันคืออะไร แถมจะไม่ใส่ตามที่เขากำหนดก็จะกลายเป็นแกะดำไปซะอย่างนั้น และนั่นมันทำให้ผมมายืนทำหน้าเอือมๆ อยู่ในร้านเสื้อแบรนด์หนึ่งพร้อมกับคนที่ได้ชื่อว่าแฟน 

"ทำไมมันยุ่งยากแบบนี้วะพี่ ใส่สีอื่นไม่ได้เหรอ"
แฮงค์บ่นงุ้งงิ้งในขณะที่เจ้าตัวเดินดูเสื้อเชิ้ตสีชมพูและเสื้อสูท ใบหน้าหล่อเหลาบึ้งตึงจนคิ้วแทบจะผูกโบว์ ก่อนออกมาที่นี่เจ้าตัวก็เถียงกับพี่สาวตัวเองมาแล้ว เฟรนด์แทบจะกัดหัวน้องขาดให้ได้ ไม่ยอมอ่อนข้อแม้แต่นิดเดียว ก็นะ... งานแต่งงานครั้งหนึ่งในชีวิตของมัน ใครๆ ก็อยากให้ออกมาเพอร์เฟ็คที่สุด ซึ่งผมน่ะปลงนานแล้ว ไม่อยากมีปากมีเสียงกับเพื่อน เหนื่อย

"ใส่ๆ ไปเหอะน่า แค่เนคไทสีชมพูก็ได้มั้ง เชิ้ตขาวปกติ"
ผมแนะนำออกไปเพราะอยากให้แฮงค์เลิกทำหน้าบูดสักที นี่ยอมเสียสละไอเดียเลยนะ ของตัวเองน่ะใส่อะไรก็ไม่เกี่ยงหรอกขอแค่อย่าสีชมพูทั้งชุดก็พอ อายชาวบ้านเขา

"เฮ้ย ดีอะ งั้นผมซื้อแค่เนคไทสีชมพูก็พอ แล้วพี่ข้าวล่ะ จะใส่เหมือนผมปะ คู่กัน ~"
คู่กันพ่อง! อยากตะโกนด่าไปแบบนั้นแต่คำได้แค่แยกเขี้ยวใส่ ใครมันจะอยากใส่ชุดคู่กันแบบนั้นล่ะ อายคนอื่นตายล่ะ ทำอะไรมุ้งมิ้งแบบนั้นไม่ใช่นิสัยผมด้วยสิ แฮงค์หัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างอารมณ์ดีผิดกับก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง ปล่อยเขาเถอะ ไปเลือกเสื้อดีกว่า ปวดหัว...

"อย่าเยอะ รีบๆ ไปเลือก พี่จะดูเสื้อเชิ้ต"
ผมผลักแฮงค์ให้ออกไปจากทางแล้วเดินเข้าไปแทนที่เพื่อเลิกเสื้อเชิ้ตสีชมพูพาสเทลตรงหน้า คนข้างกายเหล่สายตามองกันเล็กน้อยก่อนจะมุ่งตรงไปยังชั้นวางเนคไท ต่างคนต่างเลือกสิ่งที่ต้องการแล้วกลับออกจากร้านพร้อมกัน...

งานแต่งงานนี้ หวานซะไม่มี

วันงานมงคลใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เฟรนด์คงจะตื่นเต้นมากกว่าใครทั้งหมด เพราะเธอเข้าคอร์สนั่นนี่เพื่ออัพความสวยของตัวเองเป็นว่าเล่น อย่างตอนนี้ลากผมมาสปาตัวด้วยกัน... ไม่เข้าใจว่าทำไม คือไม่ได้จะเป็นเจ้าสาวด้วยสักหน่อย

"เฟรนด์ แกจะลากเรามาทำอะไรที่นี่วะ"
ผมทำหน้าอึนๆ ใส่คนที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอหันมาฉีกยิ้มร่าแล้วส่งกระดาษอะไรสักอย่างมาให้กัน ตอนนี้ไม่ใช่เวลาอ่านโบชัวร์โฆษณาขายบ้านหรือเปล่าวะ

"อะไร"
ผมถามกลับไปเสียงเรียบและไม่ยอมรับกระดาษแผ่นนั้นจากมือเขา เฟรนด์จิ๊ปากก่อนจะจับมันยัดใส่มือแล้วส่งสายตาบังคับว่าให้เปิดอ่านเดี๋ยวนี้... อะไรของมันเนี่ย ไม่พูดไม่จาเป็นใบ้เหรอ

"เออๆ"
ผมตอบไปส่งๆ ก่อนจะคลี่กระดาษยับๆ ในมือออกแล้วตั้งใจอ่าน ข้อความในนั้นระบุว่าเป็นโปรโมชั่นสปาคู่รักทำหนึ่งคนฟรีหนึ่งคน ความสงสัยเก่าถูกทำให้จางหายไปแต่ความสงสัยครั้งใหม่กลับมาเยือน แล้วทำไมมันไม่ชวนแฟนมาวะ พี่น้องบ้านนี้ชอบทำอะไรชวนปวดหัวจริงๆ

"แล้วแกจะชวนเราเพื่ออะไร ทำไมไม่ชวนแฟนมาวะ"

"อยากให้แกเป็นเจ้าสาวอีกคนไง"
เฟรนด์พูดเสียงกลั้วหัวเราะจนอยากถีบเธอให้ตกรถถ้าไม่เกรงใจว่ามันเป็นผู้หญิงและเป็นพี่สาวของแฟนน่ะนะ ผมกรอกตาไปมาแล้วพ่นลมหายใจด้วยความเบื่อหน่าย ความคิดบ้าบออะไรที่บอกว่าอยากให้เป็นเจ้าสาวอีกคน ลืมไปแล้วเหรอว่าเพื่อนเป็นผู้ชาย แม่ง... ถึงจะเป็นเมียแฮงค์ก็เถอะ

"กวนตีน นี่ถามจริงๆ คือเราไม่ชอบทำสปาเว้ย มันน่าขนลุก"
คิดถึงตอนโดนพนักงานจับตรงนั้นนวดตรงนี้แล้วมันอดขนลุกซู่ไม่ได้ ผมเคยปวดเมื่อยจนอยากไปนวดคลายเส้น แต่สุดท้ายต้องล้มเลิกไปเพราะเหตุผลข้างต้น ไม่ชินกับการให้คนไม่รู้จักกันจับเนื้อต้องตัวน่ะ

"ทำๆ เหอะน่า แล้วจะติดใจ ผิวนุ่มด้วยน้า แฮงค์จะได้หลงแกหัวปักหัวปำไง"
พูดจบก็ทำหน้าตากรุ้มกริ่มใส่กัน คิดว่าจะหลงกลเหรอ นี่ขนาดไม่ได้ทำอะไรกับตัวเองเลยสักอย่างแฮงค์ยังติดผมเป็นตังเมขนาดนี้ ถ้าไม่มีเรียนคงตามมาด้วยแล้วแน่ๆ อย่าให้น้องมันหลงไปมากกว่านี้เลยเถอะ กลัวว่าวันๆ ผมคงตายคาเตียงน่ะ

"จะทำก็รีบๆ หิวข้าว"
ผมบอกปัดๆ แล้วดับเครื่องยนต์ก่อนจะก้าวลงจากรถ ตอนแรกกะว่าจะทรยศเพื่อนด้วยการนั่งรอเฉยๆ แต่สุดท้ายก็โดนมันบังคับจนทำสปาเสร็จจนได้ ก็สบายตัวดีนะแต่ยังรู้สึกขนลุกอยู่เลย บรื๋อ ขอแต่ครั้งเดียวในชีวิตก็พอแล้ว

"ข้าว เดี๋ยวแวะไปเอาของชำร่วยที่ร้านหน่อยดิ"
เฟรนด์พูดขึ้นในขณะที่ผมกำลังจะเข้าเกียร์ออกรถ มือเรียวชะงักกึกก่อนจะเหล่สายตามองเพื่อนด้วยความฉงน ไม่เข้าใจว่าทำไมมันไม่มาทำอะไรแบบนี้กับแฟนอีกแล้ววะ เผลอๆ คนที่ร้านจะคิดว่าผมเป็นว่าที่เจ้าบ่าวไปซะอย่างนั้น

"ถามจริงเหอะ แฟนแกไปไหนวะ ถึงได้ชวนผู้ชายคนอื่นไปเอาของชำร่วยเนี่ย"
ผมถามพลางขมวดคิ้วมองหน้าเพื่อน เธอไหวไหล่เป็นเชิงว่าช่วยไม่ได้

"ไปต่างประเทศอะ กลับพรุ่งนี้เย็นๆ"
เฟรนด์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงสบายๆ ไม่มีแววโมโหหรือโกรธว่าที่เจ้าบ่าวเลยสักนิด ที่ผมแปลกใจก็เพราะวันมะรืนก็จะถึงงานแต่งงานแล้ว...

"อะไรนะ มะรืนจะถึงงานแต่งแล้วนะเว้ย ไม่มีเตรียมตัวอะไรเลยเหรอวะนั่น"
เป็นผมเองที่ออกอาการตกใจเล็กน้อย ซึ่งเฟรนด์ก็ไม่มีทีท่าว่าคิดมากอะไร แปลกคนทั้งพี่ทั้งน้องเลยว่ะ

"ก็มันงานด่วนไงแก... เอาน่า เราไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้นซะหน่อย"

"นี่ขนาดแกไม่ซีเรียสนะเว้ย บังคับแขกร่วมงานเรื่องธีมสีชุดเนี่ย"
ผมแอบแขวะเพื่อนไปเล็กน้อย นี่ขนาดไม่ได้ซีเรียสยังกำหนดธีมงาน ถ้ามันซีเรียสขึ้นมาไม่กำหนดรูปแบบชุดด้วยเลยเหรอ แบบนั้นคงทำแค่ฝากซองไปเฉยๆ ล่ะ กลัวเฟรนด์จะคิดอะไรแผลงๆ

"เออน่า ก็อยากให้งานมันหวานๆ อะ น่ารักดีออก ผู้ชายในชุดสีชมพู งือ ~"
เธอทำหน้าเพ้อฝัน คงกำลังจินตนาการถึงว่าที่เจ้าบ่าวของตัวเองสินะ ผมกรอกตาด้วยความปลงก่อนจะออกรถเพื่อไปยังร้านที่เฟรนด์ได้บอกไว้ เชื่อสิว่าเดี๋ยวต้องเกิดการเข้าใจผิดแน่ๆ

"นี่ข้าว..."
ช่วงเวลาของการติดไฟแดงทำให้คนที่นั่งกดโทรศัพท์คุยกับแฟนมาตลอดทางส่งเสียงเรียกชื่อกัน ผมเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามว่ามีอะไรแล้วจ้องหน้าเฟรนด์อยู่แบบนั้น

"ถามอะไรอย่างได้ปะ พอดีคิดขึ้นได้อะ"
เธอทำเสียงจริงจังจนผมเผลอกลั้นหายใจ จะถามอะไรของมันวะ...

"เออ อยากรู้อะไรล่ะ"
ผมถามกลับไปแล้วลอบสังเกตปฏิกิริยาของเธอ เฟรนด์เม้มปากเหมือนกำลังครุ่นคิดและตัดสินใจอะไรบางอย่าง คือก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่จะถามมันเครียดขนาดนั้นเลยเหรอ พลอยทำให้คนรอเริ่มขมวดคิ้วตามไปด้วย เป็นเรื่องในแง่ลบหรือเปล่าวะ

"เคยคิดจะมีครอบครัวบ้างหรือเปล่า"
เฟรนด์ถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ดวงตากลมฉายแววหวั่นไหวอย่างเห็นได้ชัด ไม่ใช่ว่าเธอไม่มั่นใจที่จะแต่งงาน แต่มันน่าจะเป็นเรื่องระหว่างผมกับแฮงค์มากกว่า

"ครอบครัวนี่หมายถึงมีเมียมีลูกอะเหรอ"
ผมถามกลับไปด้วยน้ำเสียงสบายๆ นิ้วเรียวเคาะลงบนพวงมาลัยตามจังหวะเสียงเพลง ไม่แปลกใจหรอกที่ใครจะตั้งคำถามแบบนี้กับผม ก็ในเมื่อไม่ได้เป็นเกย์และมีทีท่าว่าชอบผู้ชายมาตั้งแต่แรก อืม... นั่นสินะ เคยคิดเรื่องอยากมีเมียมีลูกบ้างหรือเปล่าวะ จำไม่ได้เลย
"ไม่รู้ดิ ไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้นเลยว่ะ เพราะไม่ชอบเด็กด้วยล่ะมั้ง"
ผมตอบไปตามที่คิด ไม่เคยคิดถึงเรื่องการมีครอบครัวเลยสักครั้งเพราะตัวเองยังรักสนุก เฮฮากับบรรดาเพื่อนฝูงอยู่ และไอ้กาสคบกับผู้หญิงหรือกับผู้ชายมันก็ต่างกันสิ้นเชิงด้วย เอามาเปรียบเทียบหรือแทนกันไม่ได้หรอก

"กับแฮงค์น่ะ... แกคิดว่าจะคบกันไปนานแค่ไหน ถ้าวันหนึ่งเลิกกันจะเป็นยังไง"
เฟรนด์ถามด้วยน้ำเสียงที่เครียดพอตัว แววตาที่ใช่มองกันเต็มไปด้วยความห่วงใยที่ผมสัมผัสได้ จริงๆ แล้วคำถามของเธอไม่ได้ตอบยากเลยสักนิด กี่ปีแล้วที่คนอย่างนายการินไม่เคยมีแฟน แล้วจะให้ทิ้งแฮงค์ง่ายๆ คงยาก อีกอย่างคือเสียเอกราชให้เขาแล้วไง จะไปไหนรอด

"เราไม่เคยคิดเรื่องเลิกกับแฮงค์ว่ะ เฟรนด์ก็รู้ว่าเราเป็นผู้ชายแท้ๆ คนหนึ่งที่ตอนนี้ยอมเป็นของแฮงค์ไปแล้ว คิดดูเอาเองแล้วกันว่าเรารักมันมากแค่ไหน"
ผมตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบและหวังว่าเฟรนด์จะได้คำตอบก่อนจะเหยียบคันเร่งเพื่อเคลื่อนรถมุ่งหน้าสู่ร้านรับทำของชำร่วย

ตลอดทางคนที่นั่งข้างๆ เอาแต่มองไปนอกหน้าต่างราวกับว่ามันมีอะไรน่าสนใจ แต่ผมรู้ว่าเธอกำลังประมวลผลหาคำตอบอยู่ เข้าใจว่าคนเป็นพี่ต้องห่วงความรู้สึกของคนเป็นน้องอยู่แล้ว เฟรนด์จะรู้ไหมว่าความรักของผมมันมั่นคงกว่าใครๆ ทั้งนั้นเมื่อตัดสินใจไปแล้ว และแฮงค์อาจจะเป็นผู้โชคดีรายสุดท้ายที่จะได้เข้ามายุ่งวุ่นวายในชีวิต

"เฟรนด์... ถึงร้านแล้ว"
ผมบอกเธอด้วยเสียงที่ไม่ดังนักแต่ทำให้คนที่นั่งคิดอะไรเพลินๆ สะดุ้งได้ เฟรนด์หันมาทำหน้าเหลอหลาก่อนจะหันมองรอบๆ แล้วร้องอ๋อออกมาเบาๆ ให้จูนเรียกสติไหม...

"เออๆ ลงไปกันเถอะ"
เธอพูดจบก็ก้าวลงจากรถแล้วมุ่งตรงเข้าสู่ร้านโดยมีผมเดินตามไปติดๆ

ของชำร่วยชิ้นเล็กๆ ถูกบรรจุลงลังขนาดใหญ่สามลัง มันเป็นสมุดโน้ตสีชมพูพาสเทลขนาดเล็กพร้อมด้วยปากกาจิ๋วแท่งสีขาวลายรูปหัวใจสีแดง หน้าปกมีชื่อคู่บ่าวสาวและตัวการ์ตูนน่ารักๆ ที่บรรจุอยู่ในถุงผ้าแก้วดูหวานแหวว ฝีมือการเลือกของเฟรนด์แน่ๆ
"แฟนหล่อจังเลยนะคะเนี่ย"
อยู่ๆ เจ้าของร้านก็ทักขึ้นมาจนผมที่กำลังดื่มน้ำแดงหวานๆ ถึงกับสำลัก เรื่องเข้าใจผิดที่กลัวไว้ในตอนแรกกำลังเกิดขึ้น มือเรียวรีบวางของในมือลงแล้วโบกไปมาเพื่อปฏิเสธ ยังไม่อยากเป็นมือที่สามโดยไม่ตั้งใจนะ เฟรนด์เห็นท่าทางตื่นๆ เลยช่วยแก้ข่าวให้ด้วยน้ำเสียงปนหัวเราะ แหม... สนุกนักหรือไง

"ไม่ใช่แฟนหนูหรอกค่ะ คนนี้เป็นแฟนน้องชายน่ะ"
เฟรนด์ตอบแล้วส่งยิ้มหวานให้กับเจ้าของร้าน ผมอ้าปากหวอด้วยความตกใจแทนที่จะบอกว่าเป็นเพื่อนทำไมบอกว่าเป็นแฟนน้องล่ะวะ โอย น้องชายด้วยไงประเด็น จะย้ำทำไมเนี่ย ไม่ได้อายแต่เขิน!

"หา! แฟนน้องชายเหรอคะ งั้นก็แสดงว่า... โอ้ย น้องชายคุณเฟรนด์ต้องน่ารักมากแน่ๆ เลยสินะ"
เธอไม่ได้ตกใจในความรักของผู้ชายกับผู้ชายเลยแม้แต่น้อย แต่ตื่นเต้นว่าน้องของเฟรนด์หน้าตาเป็นยังไง ในความคิดของคนทั่วไปเวลาเห็นหน้าผมคงคิดว่าแฟนน่ารักไม่ผิดอะไร แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือข้าวยังมีแฮงค์... คำว่าหล่อคงเหมาะสมกับเขามากกว่า

"เปล่าค่ะ หล่อกว่าคนนี้อีก"
เธอพูดเสียงกลั้วหัวเราะจนผมได้แต่กระทุ้งศอกเป็นสัญญาณให้หยุดจ้อสักที ตรวจของชำร่วยไปแซะเพื่อนไปมันสนุกขนาดนั้นเลยเหรอไง ถ้าไม่เกรงใจเจ้าของร้านผมคงผลักหัวเธอไปแล้ว น่าหมั่นไส้จริงๆ กวนเหมือนคนน้องไม่มีผิด

ผมแบกลังของชำร่วยใส่รถจนเหงื่อออกแทบจะเปียกทั้งตัว อากาศตอนเที่ยงวันแทบหลอมละลายคนๆ หนึ่งได้อย่างง่ายดาย เฟรนด์ก็ไม่ได้ใจร้ายอะไรเพราะยืนเอานิตยสารพัดลมเย็นๆ ให้อยู่ข้างๆ จะให้เธอช่วยยกก็ดูเอาเปรียบไปหน่อย

"ขอบคุณนะข้าว ไม่ได้แกเราคงแย่"
เฟรนด์เอ่ยขอบคุณกันด้วยรอยยิ้ม ผมส่ายหน้าให้กับคำพวกนั้น เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เอง

"เออๆ ไม่เป็นไรหรอกน่า เลี้ยงข้าวเราสักมื้อก็พอ"
ผมพูดเสียงกลั้วหัวเราะซึ่งเฟรนด์ก็ตอบตกลงเป็นอย่างดี แต่พอเราถึงร้านอาหารผมถึงกับต้องเบ้ปากใส่เธอด้วยความหมั่นไส้ เจ้ามือเลี้ยงอาหารมื้อนี้กลายเป็นแฟนของผมเอง... มันใช่ไหมล่ะ เหอะ!! ยัยเพื่อนตัวแสบเอ้ย

"ไหนบอกจะเลี้ยงข้าวเราไงเฟรนด์"
ผมลงจากรถเพื่อให้เฟรนด์ขับแทนเพราะเธอจะกลับบ้านและส่งไม้ต่อให้กับน้องชายตัวเอง ใช้งานเสร็จก็ทิ้งกันแบบนี้เลยเหรอ น่าเกลียดชะมัด

"ให้แฮงค์เลี้ยงแทนไง รีบๆ ไปดิ มันยืนรอนานแล้วนะ"
เฟรนด์เดินมาเบียดตัวเพื่อขึ้นนั่งฝั่งคนขับโดยมีผมยืนค้ำหัวอยู่ไม่ไกล เธอโบกมือไล่กันด้วยสีหน้าร่าเริง น่าถีบให้ตกลงมาจากรถจริงๆ ให้ตายเถอะ นิสัยเสียสุดๆ

"ฝากไว้ก่อนเหอะ แสบนักนะ"
ผมชี้หน้าคาดโทษเธอแล้วเลี่ยงเดินออกไปหาคนที่ยืนรออยู่ เห็นเขายิ้มแล้วรู้สึกหงุดหงิดแปลกๆ ที่ร่มมีตั้งเยอะทำไมต้องมายืนตากแดดด้วย เดี๋ยวก็หน้ามืดเป็นลมไปซะก่อน ก็เมื่อเช้าเขารีบออกไปเรียนจนกินข้าวเช้าไม่ทันน่ะสิ เตือนไม่รู้กี่ครั้งว่าอย่านอนดึกก็ไม่เชื่อ...

"คิดถึงจังครับ"
คำทักทายแรกเมื่อผมหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเขาเป็นอะไรที่หวานเลี่ยนจนเผลอย่นจมูกตอบกลับไป ห่างกันแค่ครึ่งวันจะคิดถึงอะไรไวขนาดนั้น อย่ามาหยอดให้ยากน่า ไม่เขินง่ายๆ หรอก

"อย่าเยอะ แล้วจะยืนตากแดดทำไมล่ะ ไม่ไปรอในร้าน"
ผมว่าก่อนจะดึงข้อมือของเข้าให้เข้าไปในร้านอาหารพร้อมกัน แฮงค์ไม่ตอบอะไรกลับมาเอาแต่อมยิ้มอยู่อย่างนั้น ตอนแรกก็สงสัยอยู่หรอกว่าเมาแดดจนสติเบลอๆ หรือเปล่า พอเห็นสายตาที่เขาจับจ้องอยู่ที่ข้อมือถึงได้รู้ พลาดอีกแล้วไง... ทำไอ้เด็กนี่ดีใจ ถึงจะเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยเขาก็มีความสุขได้ถ้าคนกระทำเป็นผมล่ะนะ

"หุบยิ้มบ้างก็ได้นะ เหมือนคนบ้าเข้าไปทุกวัน"
ผมปล่อยมือออกแล้วเดินนำหน้าเขาไปที่โต๊ะ อีกคนตามมาแทบจะติดๆ นี่ถ้าหยุดเดินสักก้าวคงชนกันแน่ๆ
"ก็คนมันมีความสุขนี่ครับ เป็นบ้าก็ยอมอะ"
ก้มลงมาพูดใกล้ๆ ด้วยเสียงทะเล้นจนต้องหันไปแยกเขี้ยวใส่ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ อีกคนฉีกยิ้มสดใสแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้ามกัน วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขาอยู่ในชุดนักศึกษาตามกฎระเบียบมหา'ลัย แต่มันไม่มีความเรียบร้อยเลย เอาเถอะ ยังไงก็เลิกเรียนแล้ว

"วันนี้เป็นไงบ้างครับ โดนพี่เฟรนด์ลากไปสปาตัว"
เขาถามในขณะที่เราทั้งคู่ก้มหน้าอ่านเมนู ผมชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่ขนในกายจะลุกชันขึ้นอีกครั้ง ถามอะไรน่าขนลุก

"หึ ไม่ดีเลย ขนลุกว่ะ"
ผมตอบออกไปโดยที่ยังก้มหน้าอ่านเมนู แต่สายตาก็พอจะเห็นลางๆ ว่าอีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมองกันด้วยความฉงน

"ยังไงพี่ ใครไปสปาก็สบายตัวทั้งนั้นอะ"

"ขนลุก ไม่ชอบให้ใครมาจับมานวดตัวนี่หว่า"
ผมบ่นกระปอดกระแปดแล้วตวัดสายตามองแฮงค์ที่นั่งขมวดคิ้วแน่น ก็คนมันไม่ชอบจะให้ทำยังไงล่ะ ถ้าเปลี่ยนเป็นแฟนจับก็ว่าไปอย่าง มันรู้สึกคนละแบบกัน...

"ผมยังจับได้เลย"
แฮงค์พูดเสียงทะเล้นจนผมต้องแตะขาเขาใต้โต๊ะ พูดออกมาไม่เคยอาย หน้าด้านสุดๆ แล้วผมตะแก้มร้อนไปเพื่อใคร!

"หยุดพูด พนักงานมาแล้ว"
ผมพูดเสียงรอดไรฟันแล้วก้มหน้าก้มตาเลือกเมนูต่อไป ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของคนฝั่งตรงข้ามแล้วอยากพุ่งเข้าไปบีบคอนัก เรื่องแหย่ให้เขินให้อายนี่งานถนัดเขาล่ะ อย่าให้ถึงทีผมบ้างนะ หึ

การรอคอยจบลงเมื่องานวิวาห์ของเจ้าสาวคนสวยมาถึง ตีห้าคือเวลาที่แฮงค์ต้องแหกขี้หูขี้ตาขึ้นมาเพื่อเตรียมงานหมั้นรอบเช้า ผมถูกลากให้มาค้างที่บ้านของเขาเพื่อความสะดวกอีกด้วย

"หาว ~ ยังไม่อยากตื่นเลยพี่"
แฮงค์พูดเสียงอู้อี้แล้วขยับเข้ามาซุกตรงซอกคอของผม ลมหายใจอุ่นๆ เบารดลงมาจนทำให้ขนในกายลุกชัน ใครสั่งใครสอนให้ทำอะไรแบบนี้ตอนเช้าวะ... สติ ข่มใจ ท่องไว้นะไอ้ข้าว เดี๋ยวนี้คนหื่นจะกลายเป็นผมเองซะแล้ว

"ตื่นๆ เหอะน่า ไปรับซองจากเจ้าบ่าวไง"
ผมก็ยังมึนๆ เบลอๆ แต่ก็ใช้แรงที่มีดันหัวของเขาให้ออกไปห่างๆ แล้วพลิกตัวหนีเพื่อจะลุกขึ้น แต่ดูเหมือนการเคลื่อนไหวจะช้าไปสำหรับอีกคน ผมเลยโดนขนด้านหลังรวบกอดไว้อย่างแน่นหนา มือปลาหมึกไม่มีใครเกินจริงๆ

"อยากนอนกอดแฟนมากกว่า"
พูดจบก็โน้มตัวมากดจูบลงบนแก้มแถมยังสูดลมหายใจจนเกิดเสียงอีก หัวใจผมเต้นระรัวขึ้นซะเฉยๆ เกลียดการหวั่นไหวและคล้อยตามจริงๆ ไอ้เด็กคนนี้มันเก่งหรือผมใจอ่อนกันแน่วะ เมื่อไหร่จะหลุดพ้นจากวังวนหลงมันหัวปักหัวปำสักที หรืออาจจะต้องตายจากกันถึงจะยุติได้

"เมื่อคืนยังกอดไม่พออีกหรือไง"
ผมตีมือลงบนแขนแกร่งเพราะหมั่นไส้คนด้านหลัง เพราะได้ยินเสียงจิ๊ปากเบาๆ กลับมาจากเขา พอจะเดาได้แล้วว่า 'กอด' ที่แฮงค์หมายถึงน่าจะคนละแบบกับที่ผมถามออกไป ลามกจริงๆ

"ไม่ใช้กอดแบบที่ทำอยู่ซะหน่อย"
นั่นไง... เดาไว้ไม่เคยพลาดสักที แฮงค์บอกด้วยเสียงงอนๆ และเริ่มขยับมือลูบไล้หน้าท้องของผมไปมา ไม่ใช่ว่าจะยอมให้ทำอะไรมากกว่านี้หรอกนะ เดี๋ยวเดินไม่ตรงขึ้นมาก็โดนคนทั้งงานสงสัยน่ะสิ

"เลิกหื่นสักวันเถอะน่า ไปอาบน้ำได้แล้ว"
ผมพลิกตัวไปดีดหน้าผากอีกคนด้วยความหมั่นไส้ ไม่รู้จะงอแงอะไรนักหนาเรื่องบนเตียง อาทิตย์ก่อนก็เพิ่งกอดกันไปเหอะ จะงดหน่อยไม่ได้เลยหรือยังไงนะคนเรา เดี๋ยวเอาหนังยางรัดแม่ง...
"โหย เมียใจร้ายอะ ผมอดอยากมาเป็นอาทิตย์แล้วนะ"
มีการตัดพ้อแบบหน้าด้านๆ แถมยังเบะปากลงราวกับจะร้องไห้ ผมอยากเดินไปปิดโคมไฟเหลือเกิน ขี้เกียจจะเห็นคนสำออย ดูๆ ก็รู้ว่าอยากแกล้งกันเฉยๆ ไม่ได้ดราม่าจริงสักหน่อย ประมาณว่าอ้อนขอได้ก็ดีถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นอะไร

"จะไปอาบน้ำดีๆ หรือให้ถีบลงจากเตียง"
ผมว่าเสียงดุๆ แฮงค์มองกันนิ่ง แต่แค่ครู่เดียวอีกฝ่ายก็ยกมือยอมแพ้แล้วลุกจากเตียงเพื่อไปอาบน้ำ

ผมลุกขึ้นในอีกห้านาทีให้หลัง พับผ้าห่มเก็บที่นอนจนเรียบร้อยอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต โทรศัพท์มือถือที่ตั้งอยู่บนหัวเตียงส่งเสียงปลุกเป็นครั้งที่สองของวันจนต้องเอื้อมมือไปปิดและทันได้เห็นว่าใครคนหนึ่งส่งข้อความมาหา... พี่ตุลย์

ผมกดอ่านข้อความ SMS ที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอด้วยความรู้สึกสงสัย ไหนว่าถูกส่งไปอยู่ต่างประเทศไง แล้วทำไมถึงใช้เบอร์ที่นี่ล่ะ หรือว่าจะกลับมาแล้ว

'พี่ขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างนะข้าว พี่สำนึกผิดแล้ว ให้อภัยพี่ได้ไหม - พี่ตุลย์'
ผมถือโทรศัพท์ค้างไว้แบบนั้น แค่ข้อความที่เป็นตัวอักษรไม่ได้บางบอกเลยว่าเขาสำนึกผิดแล้วจริงๆ แต่พี่ตุลย์เป็นคนหัวแข็ง เมื่อไหร่ที่เขาคิดว่าตัวเองไม่ผิด จะไม่มีการขอโทษแบบใดๆ ทั้งสิ้น ครั้งนี้จะเชื่อเขาได้ไหมนะ

"ทำอะไรอยู่ครับ"
แฮงค์ที่เดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพมีผ้าขนหนูผืนเดียวปิดร่างกายส่วนล่างเดินตรงมาหากัน ผมไม่ตอบอะไรแต่ยื่นโทรศัพท์ในมือให้เขาเอาไปอ่านเอง เขาขมวดคิ้วตอนเมื่อเห็นข้อความนั้นก่อนจะเงยหน้ามามองกันด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย

"อยู่ๆ เขาก็ส่งข้อความมาเหรอ"
แฮงค์ถามก่อนจะยื่นโทรศัพท์กลับมาให้ ผมพยักหน้ารับแทนคำตอบ ไม่รู้ว่าอยู่ๆ พี่ตุลย์โผล่มาได้ยังไง ทั้งๆ ที่ห่างหายไปเกือบปี

"เช้านี้พี่พายไม่มางานหมั้นล่ะ บอกว่าติดธุระ จะมางานเลี้ยงตอนเย็นแทน"
แฮงค์บอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่เพียงเท่านั้นทุกอย่างก็กระจ่างโดยไม่ต้องหาคำตอบ แต่ผมไม่สนใจแล้วล่ะ ไม่อยากตอบอะไรกลับไปอีกถึงจะทำให้อีกฝ่ายค้างคาก็ช่าง เรื่องของเรามันจบลงแล้ว

งานหมั้นช่วงเช้าผ่านไปอย่างราบรื่น ช่วงบ่ายเราต้องยกโขยงไปที่โรงแรมเพื่อเตรียมงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรส อยากจะบอกว่าพรีเซ็นเทชั่นคู่บ่าวสาวเป็นฝีมือการตัดต่อของผมเอง... บอกให้จ้างร้านก็ไม่ยอม ลำบากเพื่อนตลอด เฟรนด์อ้างว่าอยากให้ทุกคนมีส่วนร่วมในงานแต่งงาน คิดได้เนอะ ตอนเข้าหอต้องร่วมด้วยปะ แม่ง

"พี่ข้าว ~ ตอนเย็นไปพร้อมกันนะครับ"
เสียงออดอ้อนมาพร้อมกับแรงกอดรัดจากด้านหลัง ผมถอนหายใจออกมาแรงๆ เพราะเสื้อเชิ้ตสีชมพูที่กำลังใส่อยู่นั้นยับหมดแล้ว... กระดุมเสื้อก็ยังไม่ได้ติด สยิวชะมัด

"อืม ~ ตอนนี้ปล่อยก่อนจะติดกระดุมเสื้อ"
ผมแกะมือของเขาออกจากรอบเอวแล้วตั้งหน้าตั้งตาติดกระดุมเสื้อของตัวเอง แต่คนที่ยืนซ้อนหลังกันนั้นกลับรั้งเอาไว้แล้วจับไหล่ให้ผมหันไปเผชิญหน้า แอบคิดไม่ได้ว่าอีกคนน่าจะทำอะไรแผลงๆ อีกแน่ๆ

"อะไร"
ผมถามกลับไปสั้นๆ มือยังจับสาบเสื้อของตัวเองเอาไว้ไม่ยอมปล่อย แฮงค์คลี่ยิ้มหวานก่อนจะโน้มหน้าลงมาจนปลายจมูกของเราชนกัน ไม่รู้จะขยันทำให้คนอื่นหัวใจเต้นแรงไปถึงไหนกันนะ

"ผมติดกระดุมให้"
เขาบอกด้วยรอยยิ้มแล้วแกะมือของผมออก ก่อนจะเริ่มติดกระดุมให้กัน ปลายนิ้วอุ่นๆ สัมผัสโดนผิวกายเป็นครั้งคราวจนรู้สึกขนลุกแปลกๆ จงใจจะแกล้งกันอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย

"รีบๆ ติดเลยแล้วไปแต่งตัวสักที จะหกโมงเย็นแล้ว"
ผมเลี่ยงที่ตะบอกความรู้สึกออกไปแล้วเบนสายตาไปทางอื่น แฮงค์หัวเราะออกมาน้อยๆ ก่อนจะผละตัวเมื่อติดกระดุมเสื้อให้กันเรียบร้อยแล้ว
"เหลือแค่ใส่เนคไทเอง รบกวนคุณแฟนใส่ให้หน่อยได้ไหมครับ"
เขาเอ่ยเสียงหวานแล้วยื่นหน้ามาใกล้กันอีกครั้ง ผมผงะไปเล็กน้อยก่อนพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย ถ้าปฏิเสธกลัวจะโดนกดลงเตียงนี่สิ

ผมหยิบเนคไทสีชมพูพาสเทลมาคล้องคออีกคนแล้วจัดการผูกให้เขาอย่างเรียบร้อย ก่อนเราจะผละออกจากกันริมฝีปากของคนที่มีส่วนสูงมากกว่าก็ทาบทับลงมาตรงตำแหน่งเดียวกันอย่างแผ่วเบา ไม่มีการลุกล้ำใดๆ ให้หวั่นไหว แต่หวานละมุนจนแทบละลาย

"ขอบคุณนะครับ"
งานแต่งงานของเฟรนด์เต็มไปด้วยดอกกุหลาบสีขาวและสีชมพูตามธีมที่ได้กำหนดไว้ แขกที่มาร่วมงานแต่ละคนให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี ไม่มีใครเป็นแกะดำสักคนเดียว ผมกับแฮงค์มาถึงที่โรงแรมพร้อมกันและกลายเป็นจุดสนใจอยู่ไม่น้อย ผู้ชายในชุดสีหวานๆ ดูมะมุนแปลกตานี่นา

"พี่ข้าวไปนั่งกับผมนะ"
แฮงค์พูดเมื่อเราเดินเข้างาน แต่ผมกลับส่ายหน้าปฏิเสธ การไปนั่งร่วมโต๊ะกับเขาก็หมายถึงต้องเจอญาติๆ ของน้องด้วย กลัวจะทำให้เขาโดยคนอื่นๆ ว่ากล่าวเรื่องผิดเพศ

"พี่ไปนั่งกับพี่ต้น กันย์ ไอ้จุ้นแล้วก็ไอ้พีชจะดีกว่านะ"

"แต่ว่า..."

"ทำตามที่พี่พูดเถอะ"

"เฮ้อ ก็ได้ๆ"
สุดท้ายแฮงค์ก็ยอมปล่อยให้ผมเดินไปที่โต๊ะของพี่ต้นที่คนอื่นนั่งพร้อมหน้าพร้อมตากันหมดแล้ว ไอ้ที่ว่างเนี่ย ดูยังไงๆ ก็จงใจชัดๆ ไอ้พีชนะไอ้พีช แฟนก็นั่งอยู่ข้างๆ ยังจะมาเต๊าะผมอีก ยอมใจจริงๆ
"เฮ้ย ~ ข้าว มานั่งนี่ๆ หล่อว่ะ"
เสียงใสๆ ของพีชเรียกให้ผมนั่งลงข้างๆ มัน สายตาแอบเหลือบมองเพื่อนสนิทอยู่ครู่หนึ่งแต่ก็ต้องแปลกใจที่มันนั่งจิบไวน์ด้วยท่วงท่าสบายๆ วันนี้ไม่มีทีท่าหึงหวงเหมือนเคย มันต้องมีอะไรแน่ๆ

"เออ มึงก็หล่อนะพีช"
ผมชมมันกลับแล้วทิ้งตัวลงนั่งตรงกลางระหว่าพี่ต้นกับพีช ที่บอกว่าหล่อนั่นไม่ใช่เรื่องจริวแม้แต่นิดเดียว เห็นหูกระต่ายสีชมพูแล้วอยากขำแทบดิ้น มุ้งมิ้งสุดๆ ไอ้จุ้นอีกคน สายเอี๊ยมสีชมพูอย่างกับเด็กน้อย...

"ปากหวานอะ ชิมได้ปะเนี่ย ~"
ไม่เจอกันนานแต่สกิลการเต๊าะของมันไม่เคยเปลี่ยน จะเมื่อไหร่ไอ้พีชก็ไม่เคยเกรงใจแฟนสักครั้ง ผมถึงกับกรอกตาด้วยความเบื่อหน่ายก่อนจะเอนตัวหนีไปทางพี่ต้น รายนี้ก็เอาแต่อี๋อ๋อกับแฟน น่าหมั่นไส้ว่ะ

"ชิมตีนกูก่อนปะ หัดเกรงใจไอ้จุ้นบ้างเถอะ"
ผมพูดด้วยน้ำเสียงปลงๆ แล้วหยิบแก้วไวน์แดงที่เพิ่งถูกเสิร์ฟขึ้นมาจิบ กลิ่นแอลกอฮอล์อ่อนๆ ทำให้คิดถึงคนที่นั่งอยู่อีกโต๊ะ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้เขามานั่งด้วยกัน แต่ก็เข้าใจว่ามันเป็นงานรวมญาติคงเอาแต่ใจไม่ได้

"ทำไมปากร้ายงี้อะ ใช่สิ มีแฟนแล้วนิ กูคงหมดความหมาย"
เมื่อครู่ยังชมว่าปากหวานอยู่เลย ไหงกลายเป็นปากร้ายไปได้วะ แต่ผมโคตรหมั่นไส้มันเลยนะ พูดจาตัดพอแถมยังบึนปากใส่กันอีก ใครก็ได้เอามันไปเก็บทีเหอะ น่ารำคาญ

"พีช... มึงจะแย่งเมียคนอื่นไม่ได้นะเว้ย เป็นเมียกูดีๆ ก็พอแล้วน่า"
ไอ้จุ้นพูดเสียงกลั้วหัวเราะใส่ไอ้พีชแต่ยักคิ้วกวนมาให้ผม อยากกระโดดเตะปากให้เลือดกบ สันดานเสียจริงๆ เรื่องแซวเพื่อนให้อายต่อหน้าคนอื่นเนี่ย

"มึงพูดมาก จะตอกย้ำกูไปถึงไหนว่าไอ้ข้าวเป็นเมียคนอื่นไปแล้วอะ ฮือๆ"
ไอ้คนที่ตอกย้ำเนี่ยดูท่าทางจะเป็นมึงมากกว่านะพีช คำก็เมียสองคำก็เมียเดี๋ยวมึงจะได้กอนตีนแทนโต๊ะจีนจริงๆ ด้วย เริ่มหงุดหงิดแล้วนะ

"หยุดพูดทั้งคู่นั่นล่ะ ก่อนที่พวกมึงจะได้กินตีนกู"
ผมพูดน้ำเสียงราบเรียบไม่แสดงอารมณ์ใดๆ แต่มันมากพอที่ตะทำให้ไอ้เพื่อนกากๆ สองคนหยุดจ้อได้สักที พี่ต้นเหลือบสายตามองกันก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากให้ นี่ก็อีกคน ชอบล้อน้องเรื่องยอมเป็นเมียคนอื่น ระวังเถอะสักวันผมจะยุให้กันย์กดเขาบ้าง! เอาให้ยับเยินเลย

คู่บ่าวสาวกำลังเล่าว่าเจอกันที่ไหนครั้งแรก ความประทับใจระหว่างคนทั้งคู่คืออะไร ทุกอย่างก็เป็นไปตามสเต็ปงานแต่งงานทั่วๆ ไป เสียงพูดคุยภายในโต๊ะอาหารกำลังสนุกสนานแต่มันกลับเงียบลงเมื่อใครบางคนเดินเข้ามา







ต่อด้านล่างเนอะ



ออฟไลน์ Ch0cmint

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-5
Re: ♥ Alcohol Addict ♥ เมาครั้งที่ 25 -P.8- (27.02.2017)
«ตอบ #223 เมื่อ27-02-2017 19:28:20 »

"ข้าว... ไม่ได้เจอกันนานเลยเนอะ"
เสียงหวานๆ ใสๆ ที่ยังหลงเหลือในความทรงจำทักทายกัน ใบหน้าหวานๆ ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของที่ผมหวงแหนที่สุดในตอนนี้เธอคลี่ยิ้มส่งมาให้

"ก็... อืม"
ผมตอบไปแค่นั้นเพราะไม่รู้จะคุยอะไรกับเธออีก ความสัมพันธ์ระหว่างเราจบลงไปนานแล้ว ผู้หญิงคนที่เคยทิ้งกันไป ผู้หญิงที่ทำให้พี่ต้นมีอาการหวงน้องมากขนาดนี้ เพราะเธอคนเดียว

"ยังโกรธเราอยู่เหรอ... "

"เปล่า เราไม่มีอะไรจะคุยกับแป้ง"
ผมตอบไปตามความจริง ไม่รู้หรอกว่ามันจะไปทำร้ายจิตใจเธอหรือเปล่า แป้งสะอึกไปเล็กน้อยก่อนที่รอยยิ้มนั้นจะหุบลงกลายเป็นใบหน้าเศร้าสร้อย

"อ๋อ... ขอโทษด้วยนะที่เข้ามาทัก"
เธอบอกกันแบบนั้นและกำลังจะสาวเท้าออกจากโต๊ะของพวกเรา แต่แฮงค์กลับเดินเข้ามาและวางมือลงบนไหล่ของผมก่อนจะเรียกชื่อกันทำให้แป้งชะงักฝีเท้าลง


"พี่ข้าว ป๋ากับแม่ให้มาตามไปนั่งด้วยกันอะ เขาบอกว่าคิดถึงลูกสะใภ้จะแย่"
แฮงค์พูดก้อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ ถึงเขาจะมาผิดจังหวะอยู่สักหน่อย ถึงคำพูดคำจาจะชวนให้ใครๆ มองเราไม่ดี แต่ทุกคนที่นั่งอยู่กลับแสดงรอยยิ้มสะใจออกมา ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในนั้น

"โอเคครับคุณแฟน ไปกันเลยไหม"
ผมตอบกลับไปอย่างนั้นแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะคว้ามือแฮงค์มาจับเอาไว้ แป้งดูจะอึ้งที่ต้องมาเห็นภาพแปลกๆ

"ข้าว... มีแฟนเป็นผู้ชายเหรอ"
เธอถามกลับมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ผมยิ้มรับแล้วพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะพูดอะไรบางอย่างให้เธอต้องจุก

"ใช่ ก็ผู้หญิงอย่างแป้งมันเลวไงครับ"
หลังจากจบประโยคนั้นผมก็ลากแฮงค์ออกมา ไม่ใช่ว่าผมยังรู้สึก แต่เกลียดจนทนมองหน้าไม่ได้จริงๆ

"เดี๋ยวๆ เราหาที่คุยกันก่อนได้ไหม"
แฮงค์กระตุกมือผมให้หยุดเดินแล้วมองหน้ากันด้วยแววตาสงสัย ก็ไม่ได้จะปิดบังอะไรซะหน่อย เครียดไปได้คนเรา

"ก็ได้"

ภายในรถคันหรูเราทั้งสองคนนั่งเงียบอยู่แบบนั้นราวห้านาที ไม่รู้ว่าต้องเริ่มต้นคำพูดว่ายังไง แต่คนที่ทนไม่ได้ก็เป็นฝ่ายถามออกมาในที่สุด

"แฟนเก่า... เหรอครับ"
เขาถามด้วยน้ำเสียงขาดห้วงแล้วหันมามองกันด้วยดวงตาสั่นไหว ผมพยักหน้ารับก่อนจะเอื้อมมือไปกุมมือหนาเอาไว้แล้วดึงมาแนบแก้ม

"ใช่ แต่ไม่ได้รู้สึกอะไรแล้วล่ะ แค่เกลียดจนไม่อยากเห็นหน้าเฉยๆ"
ผมตอบก่อนจะโน้มตัวไปประทับรอยจูบบนริมฝีปากหยักตรงหน้าเพื่อยืนยันคำพูดของตัวเอง แฮงค์คลี่ยิ้มบางก่อนจะพยักหน้ารับคำพวกนั้น

"ครับ... ผมขอถามอะไรบางอย่างได้ไหม"

"ถามสิ"

"พี่ข้าว อยากมีลูกบ้างหรือเปล่าครับ"
คำถามเหมือนเฟรนด์เป๊ะๆ แต่ผมไม่แปลกใจ วัยนี้ใครๆ ก็มีลูกกันทั้งนั้น

"หึ ไม่ชอบเด็ก ทั้งชีวิตมีแฮงค์แค่คนเดียวก็พอแล้ว"

"พูดอย่างกับขอแต่งงาน"
แฮงค์พูดเสียงทะเล้นแต่แววตากลับจริงจังจนผมไม่สามารถสบมองได้เพราะหัวใจมันเต้นรัวแปลกๆ ถึงในชีวิตจะไม่เคยคิดเรื่องแต่งงานเอาไว้ก็เถอะ...

"เพ้อเจ้อน่า"
ผมบอกปัดๆ ก่อนจะผละตัวหนีจบแทบติดกระจกรถ อีกคนไม่ยอมแพ้ขยับมาใกล้จนไม่สามารถหาทางหนีไปได้นอกจากเปิดประตูแล้วหงายหลังลงไป

"ผมจริงจังนะครับ เรามาแต่งงานกันไหม"
พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังก่อนจะขยับเข้ามาแตะจมูกลงบนผิวแก้มแล้วลากไล่เบาๆ ไปตามกรอบหน้า ผมยกมือขึ้นจับไหล่ของคนตรงหน้าแล้วบีบแน่นเพื่อระบายความวาบหวามที่เกิดขึ้น ยอมเขาอีกแล้วสินะเรา

"อืม ~ อยู่ด้วยกันครบสิบปีค่อยแต่ง"

"หึหึ เตรียมตัวเป็นเจ้าสาวของผมได้เลยครับ"




---------------------------------------------------

อีกสิบปีเขาจะแต่งงานกันล่ะ... พี่ข้าวก็แก่แล้วดิ หูยยย 5555
อีกไม่นานบทส่งท้ายจะตามมาแล้วจะจบบริบรูณ์น้า

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ♥ Alcohol Addict ♥ เมาครั้งที่ 25 -P.8- (27.02.2017)
«ตอบ #224 เมื่อ27-02-2017 20:22:06 »

ข้าว เจอแฟนเก่า ที่เหมือนอยากกลับมาขอคืนดี
แต่ข้าว ตัดจบไปเลย อึ้งไปเลยนะแป้ง
พี่ตุลย์ เหมือนไม่ยอมจบนะ
แฮงค์ หื่น อ้อนข้าวมากกกก
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Babelilong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • Facebook  เข้ามาขอเป็นเพือนได้เลย
Re: ♥ Alcohol Addict ♥ เมาครั้งที่ 25 -P.8- (27.02.2017)
«ตอบ #225 เมื่อ27-02-2017 20:51:01 »

 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
Re: ♥ Alcohol Addict ♥ เมาครั้งที่ 25 -P.8- (27.02.2017)
«ตอบ #226 เมื่อ27-02-2017 21:04:44 »

 :pig4:

ออฟไลน์ itsgonnabeme

  • It's me, not you.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
Re: ♥ Alcohol Addict ♥ เมาครั้งที่ 25 -P.8- (27.02.2017)
«ตอบ #227 เมื่อ27-02-2017 23:18:03 »

ชอบมากเลยยยยยยยย

มันละมุนละไมนุ่มนวลมากจริงๆ
พี่ข้าวนี่ก็ชัดเจนดีจริงๆ

ใจหายเนอะจะจบแล้ว(>//<)

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: ♥ Alcohol Addict ♥ เมาครั้งที่ 25 -P.8- (27.02.2017)
«ตอบ #228 เมื่อ28-02-2017 07:29:11 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ♥ Alcohol Addict ♥ เมาครั้งที่ 25 -P.8- (27.02.2017)
«ตอบ #229 เมื่อ28-02-2017 08:56:29 »

ปรบมือให้พี่ข้าว ตอกแป้งซะหน้าหงายเลย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ♥ Alcohol Addict ♥ เมาครั้งที่ 25 -P.8- (27.02.2017)
« ตอบ #229 เมื่อ: 28-02-2017 08:56:29 »





ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
Re: ♥ Alcohol Addict ♥ เมาครั้งที่ 25 -P.8- (27.02.2017)
«ตอบ #230 เมื่อ28-02-2017 09:04:03 »

แจกการ์ดให้เราด้วยน้า

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: ♥ Alcohol Addict ♥ เมาครั้งที่ 25 -P.8- (27.02.2017)
«ตอบ #231 เมื่อ28-02-2017 15:29:01 »

 :katai2-1:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
Re: ♥ Alcohol Addict ♥ เมาครั้งที่ 25 -P.8- (27.02.2017)
«ตอบ #232 เมื่อ28-02-2017 16:22:37 »

น่ารักกันเหลือเกิน

ออฟไลน์ Ch0cmint

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-5
เมาส่งท้าย




หลังจากที่แฮงค์เรียนจบเขาก็ได้เข้าทำงานที่บริษัทเกมชื่อดัง... ไม่ได้ห่างไกลตัวผมเลยแม้แต่นิดเดียว เข้ามาเป็นลูกน้องในทีมจนได้ ตามติดยิ่งกว่าปลิงอีก ก็ไหนบอกว่าเข้าวัยทำงานเราจะไม่เป็นคู่ปาท่องโก๋ไง โกหกทั้งนั้น!

ชีวิตประจำวันของเราเต็มไปด้วยงาน เวลาที่จะได้พูดกันเป็นเรื่องเป็นราวก็แทบไม่มีสักเท่าไหร่ เพราะช่วงนี้พี่ต้นลงทุนกับทางญี่ปุ่นผลิตเกมตัวใหม่ ทำให้ต่างคนต่างยุ่งวุ่นวายตั้งแต่ผู้บริหารยันยามเฝ้าประตู แต่พวกเราก็ยังรักกันดีไม่เปลี่ยนแปลง อย่าถามว่ากิจกรรมเข้าจังหวะได้ทำบ้างไหม แค่จะจูบกันแต่ละครั้งยังยากเลย

ผมกับเขาเข้างานพร้อมกันเลิกงานกลับคอนโดด้วยกันก็จริง แต่พอถึงที่หมายต่างคนต่างแยกย้ายเข้าห้องตัวเองเพราะความเหนื่อยล้า และดูเหมือนว่าจะมีคนทนสภาพแบบนี้ไม่ไหวอีกแล้ว ก็ดูแฮงค์สิเดินตามกันมาจนถึงหน้าห้องแบบนี้ มีเรื่องแน่นอน

"ไม่เข้าห้องล่ะ จะเดินตามมาทำไม"
ผมถามในขณะที่ยืนพิงประตูห้อง ร่างสูงเท้ามือข้างหนึ่งไว้กับกำแพงเหมือนจะกักกันไว้ไม่ให้หนี ถ้าใครมาเห็นเข้าคงเกิดเรื่องแน่ๆ

"มีเรื่องจะคุยด้วยน่ะครับ ขอเข้าไปข้างในก่อนได้ไหม"
เขาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ในแววตากลับร้อนรน ก็อยากรู้เหมือนกันว่าสิ่งที่เขาอยากพูดกับสิ่งที่ผมกำลังคิดคือเรื่องเดียวกันหรือเปล่าเลยพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาตแล้วเปิดประตูเข้าไป

ตอนนี้เราทั้งสองคนนั่งเผชิญหน้ากันอยู่บนโซฟา แฮงค์เม้มริมฝีปากเข้าหากันจนเป็นเส้นขาวดูท่าทางจะเครียดเอามากๆ ต่างจากผมที่รอเขาพูดอย่างใจจดใจจ่อ

"ช่วงนี้รู้สึกไม่ดีเลยว่ะ คิดถึงพี่ฉิบหายทั้งๆ ที่อยู่ใกล้กันตลอด แต่ก็เหมือนไกล"
แฮงค์พูดก่อนจะเอื้อมมือมาลูบแก้มกันเบาๆ ผมไม่ได้ปัดป้องการสัมผัสนั้นแต่อย่างใด ก็มันอุ่นดีนี่...

"ก็งานเยอะไง"
ผมนั่งนิ่งๆ ให้อีกคนทำตามอำเภอใจ เดี๋ยวก็ลูบเดี๋ยวก็ดึง สนุกมากไหมเนี่ย แก้มจะยานถึงพื้นอยู่แล้ว

"ย้ายมาอยู่ห้องเดียวกันได้ปะ ผมอยากนอนกอดพี่ว่ะ"
แฮงค์ขยับตัวเข้ามาใกล้กันอีกนิด นิ้วแสนซุกซนไล้ไปตามริมฝีปากของผมอย่างแผ่วเบาแล้วเชื่องช้า ด้วยความมันเขี้ยวผมเลยอ้าปากงับมันเอาไว้และใช้ปลายลิ้นสัมผัสเบาๆ ไม่ได้ยั่วจริงๆ เหอะ แค่อยากแกล้ง... มั้ง

"ก็ย้ายมาสิ ใครห้าม"
ผมช้อนสายตามองก่อนจะเริ่มดูดปลายนิ้วของอีกคนเบาๆ มือเรียวเอื้อมไปลูบไล้อกแกร่งช้าๆ เอาจริงๆ คือคิดถึงสัมผัสร้อนแรงของเขา ห่างหายจากมันมาราวสามเดือนแล้วมั้ง

"พี่ข้าว อย่าเพิ่ง ยะ ยั่วสิครับ ความอดทนผมมีน้อยนะ เรามาคุยเรื่องสำคัญให้จบก่อน... สะ สิ"
เสียงแฮงค์เริ่มสั่นเครือ ดวงตาคมฉายแววอยากเขมือบกันเข้าไปทั้งตัวและนั่นยิ่งทำให้ผมอยากยั่วเขามากยิ่งขึ้น อยากได้สัมผัสที่เต็มไปด้วยความรัก อยากโดนกอด

"ค่อยคุยกันเถอะน่า พี่... อยากถูกกอด"

จบสิ้นคำนั้นก็เหมือนสติของแฮงค์หลุดลอยไปในดินแดนที่อยู่ห่างไกล ทุกสัมผัสที่เต็มไปด้วยความโหยหา ความรักกำลังถูกถ่ายทอดจากร่างกายเขาสู่ร่างกายผม มันผสมผสานความรู้สึกทั้งหวาบหวาม เจ็บปวด และเสียวซ่านราวจะขาดใจ เสียงลมหายใจ เสียงครางสอดประสาน ผิวเนื้อกระทบกันเป็นจังหวะหยาบโลนแต่ก็ชวนฟัง อ่า... นี่ล่ะเซ็กซ์ที่เต็มไปด้วยความรักไม่ใช่แค่เพียงความใคร่

หลังจากทุกอย่างสงบลง ตัวผมซุกอยู่ในอ้อมกอดแข็งแกร่งของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนกัน มือหนาที่คอยลูบหัวนั้นทำให้ความรู้สึกเหนื่อยค่อยๆ ทุเลาลง มันดี ดีมากๆ ถ้าเป็นคนอื่นที่อายุน้อยกว่าอย่าหวังจะได้ทำแบบนี้

"พี่ข้าวครับ ตกลงว่าผมย้ายมาอยู่กับพี่แบบถาวรได้แล้วใช่ไหม"
แฮงค์ถามย้ำในสิ่งที่เราได้พูดคุยค้างเอาไว้ ความจริงแล้วไอ้เรื่องที่เขาจะย้ายหรือให้ผมย้ายไปอยู่กับเขานั้นยังไงก็ได้ ผมไม่ได้ซีเรียสอะไร ถึงจะเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงก็มั่นใจว่าสามารถใช้ชีวิตทุกวันกับคนๆ นี้ได้ไม่มีเบื่อและไม่อึดอัดอย่างแน่นอน แต่เขาล่ะ แน่ใจแล้วเหรอว่าอยากอยู่ร่วมกันจริงๆ

"แฮงค์จะไม่อึดอัดเหรอที่เราต้องอยู่ด้วยกันยี่สิบสี่ชั่วโมงน่ะ"
ผมถามก่อนจะช้อนสายตามอง เขาก้มลงมาประทับริมฝีปากบนหน้าผากกันอย่างแผ่วเบาก่อนจะคลี่ยิ้มบางๆ

"ผมชอบที่จะตื่นมาเจอพี่คนแรก ผมชอบที่จะเป็นคนส่งพี่เข้านอน อะไรๆ ก็ตามที่มีพี่เป็นส่วนประกอบผมไม่เคยอึดอัดหรือเบื่อเลย ตรงข้ามกัน ผมกับรู้สึกมีความสุขในทุกๆ เวลาที่เราอยู่ด้วยกัน แค่นี้พอจะทำให้พี่ใจอ่อนได้ไหม"
แฮงค์พรั่งพรูทุกความรู้สึกออกมาให้ผมฟังแบบไม่มีปิดบังแล้วใช้สายตายืนยันว่าที่พูดออกมาทั้งหมดไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ผมไม่สามารถหุบยิ้มได้อีกต่อไปแล้ว แฟนแม่ง... เล่นแบบนี้ก็แย่สิ แพ้อีกแล้ว หัวใจเต้นแรงชะมัดเลย

"ยอมตั้งแต่ประโยคแรกแล้วน่า"

ชีวิตในวันข้างหน้าของเราอาจจะเต็มไปด้วยอุปสรรค แต่ไม่ว่ายังไงผมจะไม่มีวันปล่อยมือแฮงค์เด็ดขาดถึงหนทางมันจะลำบากแค่ไหนก็ตาม

รักคนนี้ที่สุด ไม่รู้จะขอบคุณอะไรดี เอาเป็นว่า... ถ้าวันนั้นผมไม่ตัดสินใจไปร้าน Addict ก็คงไม่ได้รู้จักกับเขา และคงไม่ได้รู้ว่ารักแท้มีจริง เห็นไหมล่ะว่าแฮลกอฮอล์ไม่ได้สร้างเรื่องแย่ๆ เสมอไปซะหน่อย เรื่องดีมันก็มีล่ะน่า ~


จบบริบูรณ์




----------------------------------------------------------

จบแล้วๆ จุดพลุ ~ รอลุ้นรูปเล่มกันเนอะ
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามมาตลอดน้า /โค้ง

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ about

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ผมชอบที่จะตื่นมาเจอพี่คนแรก ผมชอบที่จะเป็นคนส่งพี่เข้านอน
อะไรๆ ก็ตามที่มีพี่เป็นส่วนประกอบผมไม่เคยอึดอัดหรือเบื่อเลย
ตรงข้ามกัน ผมกับรู้สึกมีความสุขในทุกๆ เวลาที่เราอยู่ด้วยกัน

ใช่เลย สำหรับคนรักกัน
แฮงค์ น่ารัก อบอุ่น มาก
ข้าวรักคนถูกต้องแล้ว
แฮงค์ ข้าว  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด