...ผมเดินยิ้มตลอดทางตั้งแต่ร้านมายังรถไอ้จ๋า ไอ้จ๋ามันขับรถมาส่งผมก่อน แล้วค่อยไปส่งไอ้ติ๊ก และไอ้ปั้นตามลำดับ
ในรถ ไอ้จ๋า มันชวนผมไปเล่นสงกรานต์ด้วย ผมก็บอกว่า ดูก่อน เพรากลางวันมันร้อน ไม่อยากเล่น ไอ้จ๋าก็อยากจะเล่นให้ได้ มันชวนไอ้ติ๊ก ไอ้ปั้นด้วย พอผมบอกว่าไม่ไป ไอ้ปั้นก็หาเรื่องผมอีก บอกไม่ไป จะลงไปฟ้องที่บ้านผม เรื่องกลับดึกหรืออะไรสักอย่าง มันชอบยกมาอ้างว่าจะฟ้อง
คือไอ้นี่มันชอบอ้างว่าจะไปฟ้องที่บ้านผมครับ เช่น บอกว่า เดี๋ยวจะไปฟ้องว่าผมกินเหล้ากินเบียร์ ไรเงี้ย คือที่บ้านผมจะไม่รู้ครับ ไอ้ปั้นก็แบบ ประมาณว่า อยากทำลายภาพพจน์ผมว่างั้น
ตอนม.ปลาย มันมารับผมออกไปที ก็ทำตัวลีบเบนซะจะติดประตู มันบอกว่า ไม่ค่อยอยากมารับผมหรอก คุณย่าผมท่านจะชอบซักน่ะครับ ว่าไปไหน ทำอะไร กลับกี่โมง
มันไม่อยากตอบคำถามผู้ใหญ่ ตลกดีเหมือนกัน มันบอกอึดอัดนิดหน่อย พอมันมาให้ผมรีบวิ่งออกมาจากบ้านขึ้นรถเลย ผมก็เลยฮา แต่จริงๆ ผมก็ไม่อยากให้เค้าถามอะไรเหมือนกัน
สรุปวันนั้นลงรถได้ผมก็ยิ้มแก้มแทบปริครับ จริงๆ เรียกว่ายิ้มไม่หุบมากกว่า เข้าบ้านได้ก็ว่าจะอาบน้ำ อาบน้ำเสร็จมันก็หุบยิ้มไม่ได้ครับ จนต้องโทรหาเพื่อน อยากระบายให้มันฟัง มันไม่รับสายอีก เลยโทรหารุ่นน้องแทนครับ
ผมก็เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง พอนึกถึงตอนที่ปัดเศษน้ำตาลให้มัน ก็เขินอะ สายตามันหวานมาก หวานสุดๆ อะ ผมงี้แทบละลาย ไม่รู้จงใจแกล้งกันหรือเปล่า
รุ่นน้องก็ถามแทบตาย ว่าใครคือคนนั้น มันรู้จักไหม เพราะว่า จบม.ปลายที่เดียวกันครับ แต่มันเป็นรุ่นน้องผมปีนึง ผมก็บอกว่า ไม่บอก มันบอกว่าจะไปสืบเอาเอง พอระบายเสร็จ ก็ว่าจะนอนครับ
แต่ก็นะ...มันนอนไม่หลับครับ ภาพไอ้ปั้น มันลอยไปลอยมาอยู่ในหัวอะครับ หลับตาก็เห็นตลอด
เลยโทรไปหาเพื่อนอีก เล่าให้ฟัง มันก็บอกว่า ...
“สักพักแหละ เดี๋ยวก็หาย อย่าคิดมากสิวะ”
ฮ่าๆ พูดเหมือนผมเป็นโรคอะไรสักอย่างเลยครับ ผมก็เออออไป กว่าจะข่มตาหลับลงไปก็ปาเข้าไปชั่วโมงที่สามของวันใหม่เข้าไปแล้ว
ตื่นขึ้นมาตอนเช้า ไม่น่าเชื่อครับ หน้ามันลอยมาเป็นอย่างแรกเลย รอยยิ้มผมก็โผล่ขึ้นมาอีกแล้ว
ให้ตาย...มันจะหลอกหลอนผมไปไหนครับเนี่ย
ผมไม่อยากเป็นแบบนี้เลยครับ มันเป็นแฟนเจน
...ผมรู้มาตลอด ผมไม่อยากรู้สึกแบบนี้กับแฟนเพื่อนอะ จริงๆ ควรเรียกว่า กับเพื่อน ด้วยนั่นแหละ มันรู้สึกผิดยังไงไม่รู้ ที่ผ่านมาผมก็พยายามไม่คิดเกินเลยกับมัน แม้จะยากเต็มทีก็เหอะ
แต่...พอผมใกล้ชิดกับมันทีไร ผมก็เป็นแบบนี้ทุกที ต้องกลับไปเพ้อคนเดียว นอนไม่หลับแบบนี้ เหมือนเพลงอะไรนะ...
ไม่อยากเป็นคนอารมณ์อ่อนไหว
ที่ไปรักใครง่ายดายเหลือเกิน ที่ไปรักเธอไม่ทันจะรู้ตัว
ส่วนหนึ่งในใจของฉันก็กลัว
บอกกับหัวใจตัวเองทุกที บอกมันทุกวันให้มันหยุดรักเธอ
รักแล้วก็ช้ำเปล่าๆ ฉันรู้และพอเข้าใจ
เตือนตัวเองเอาไว้ ห้ามตัวเองเอาไว้ ไม่ให้แสดงออกมา
อยู่ใกล้กันยิ่งหวั่นไหว ห้ามใจตัวเองไม่ได้เลย
สั่งหัวใจให้เมินเฉย ไม่รู้ต้องทำยังไง
ใกล้เธอทำไมทุกครั้งใจมันสั่นๆ จิตใจของฉันนั้นวุ่นวาย
ตัวของฉันควบคุมไม่ได้ เมื่อสุดท้าย ... หัวใจมันรักเธอไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน แต่ก็ไม่ลืมเธอไปสักที
ตราบใดที่ฉันยังคงต้องหายใจ จะหลอกตัวเองได้นานแค่ไหน
ว่าตัวฉันไม่มีใจให้เธอ ว่าตัวฉันไม่เป็นไร ไม่เสียใจ
เสียงดนตรีแว่วๆ อยู่ในหู ในขณะที่ผมกำลังพึมพำฮัมเพลงไปด้วยพร้อมรอยยิ้ม รอยยิ้มกว้างที่มีทุกครั้งหลังจากนึกถึงเรื่องดีๆ
ผมไม่รู้หรอกว่า...
ผมรักไอ้ปั้นหรือเปล่า?
ผมชอบมันไหม?
หรือเป็นแค่ความหลงใหลชั่วครั้งชั่วคราวที่รู้สึก
ผมไม่อยากรู้แล้วล่ะ...
ผมแค่รู้สึกว่ามีความสุขที่ได้ใกล้ชิดมัน แม้ นานๆ ครั้ง แต่ก็....ทำให้ผมใจเต้นแรงได้เสมอ
....ทำให้หูร้อน หน้าแดงได้ไม่ยาก....อยู่ใกล้กันยิ่งหวั่นไหว ห้ามใจตัวเองไม่ได้เลย
สั่งหัวใจให้เมินเฉย ไม่รู้ต้องทำยังไง
ใกล้เธอทำไมทุกครั้งใจมันสั่นๆ จิตใจของฉันนั้นวุ่นวาย
ตัวของฉันควบคุมไม่ได้….เมื่อสุดท้าย...
ฉันเป็น...แค่...เพื่อนเธอ ---
เรื่องสั้นคั่นเวลาเหงาๆ ครับ มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริงไม่มากไม่น้อยครับ
อ่านเรื่อง พี่จี (G_wa เขียนงี้ป่าวหว่า?) แล้วอารมณ์มันพาไปครับ (ทั้งๆ ที่ไม่เกี่ยวกันเล้ยยยย)
เลยอยากแต่งขึ้นมา ด้วยอารมณ์ไหนก็ไม่รู้ครับ...
อารมณ์...มีความสุข ยิ้มกับความทรงจำเก่าๆ
รอยยิ้มเหงาๆ แต่ไม่เศร้านะครับ ปล. อาจจะมีตอนต่อหรือไม่ ดูอีกทีนะครับ แล้วแต่อารมณ์ เอิ๊กส์
