ไม่มี ✖ ไม่หนี ✖ ไม่รัก [UP! Santa Baby 25/12/61] p.33
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ไม่มี ✖ ไม่หนี ✖ ไม่รัก [UP! Santa Baby 25/12/61] p.33  (อ่าน 263312 ครั้ง)

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อารมณ์แปรปรวนดีเนอะเฮีย

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
ทำมาเป็นเย็นชาใส่กัน

จริงๆ ก็อยากคุยกันอ่ะแหละ

ออฟไลน์ Bradly

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ kokilolylove

  • รัก ได้ยินหรือเปล่า
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-1

ออฟไลน์ Indigo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1030/-7
ทวงครั้งที่ 6

   “ทำได้ดีมาก!” เสียงชมอย่างเดียวไม่พอ  มือป้อมอูมตบลงมาที่บ่าแสงดังปุ ๆ “นึกว่าต้องใช้ไม้แข็งซะแล้ว”
   “พูดกันตามตรง  สมบัติเขาเยอะจะตาย แค่ไม่ยอมจ่ายเฮียเท่านั้นแหละครับ”
   “บ๊ะ!  เพราะแบบนี้ไงอั้วถึงได้เกลียดอีพวกกะเทย!”

   เอาแล้วไง...ไม่น่าพูดมากเลยว่ะ
   แสงก่นด่าตัวเองในใจ  จะให้เคาะโต๊ะลงโทษก็ยอมขอแค่เฮียใหญ่หยุดพูดเรื่องนี้สักที  เข้าใจว่าเป็นบาดแผลฉกรรจ์ แต่เล่นเหมารวมแบบนี้มันน่ารำคาญชะมัด
   เขาอยู่ที่นี่....ห้องผู้บริหารที่คลุ้งกลิ่นพิมเสน และเครื่องเสริมดวงระโยงระยาง  วันนี้แสงมารายงานผลการทวงหนี้ที่ผ่านมา  ทั้งเรื่องเก็บดอกและสืบทรัพย์  แน่นอนว่าไฮไลต์อยู่ที่การยึดที่ดินเจ๊ร้านเสริมสวยได้  เล่นเอาเฮียใหญ่หน้าบานอารมณ์ดีประหนึ่งได้หนี้คืนครบทุกคนแล้ว
   เจ้าหนี้ฮัมเพลงพลางขยับแหวนหยกที่นิ้วกลาง  เห็นความคับแน่นของมันแล้วแสงกลัวเหลือเกินว่าจะปริแตก  ขณะกำลังนินทาเฮียก็พูดขึ้นมาลอย ๆ

   “อีแบบนี้รายที่เหลือเฮียค่อยเบาใจหน่อย”
   “ครับ....”
   “หวังว่าแกจะเก็บได้ครบ  ไม่ขาดสักรายเดียวนะแสง...”

   แม่ง.....ใครปรับแอร์วะ...
   พระเอกจีวีฉีกยิ้มเย็น ๆ แสร้งเมินหยดเหงื่อที่ข้างขมับของตัวเอง  เฮียใหญ่ไว้ใจเขามากจนไม่มานั่งไล่ทวนทีละรายชื่อ แถมยังให้แสงไปจัดตารางทวงเองแล้วมาแจกแจงเงินที่เข้าบัญชีหรือทรัพย์สินที่ยึดได้ให้ฟัง  ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่เขาจะยืดลมหายใจต่อไปอีกเฮือก
   ทั้งของเขาและไอ้เด็กซ่ง...

   “ว่าแต่...” เฮียใหญ่หรี่เสียงลงทั้งที่ในห้องมีแค่สองคน “ทำงานดีแบบนี้แกอยากได้รางวัลพิเศษไหม”
   “แล้วแต่เฮียจะกรุณาเลยครับ”
   ตาเฒ่าคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ “เดือนหน้าซ้อไม่อยู่”
   “.........”
   “เดี๋ยวเฮียพาไปลงอ่าง”

   ฉิบหายล่ะ...

   “อะ...เอ่อ...  ผมขอผ่านดีกว่าครับเฮีย”
   “เฮ้ย!  ได้ไงวะ!” ชายอ้วนตบเข่าฉาด “แกยังไม่ได้แต่งงานนี่หว่า  ทำเป็นหงอไปได้!  ผู้ชายน่ะมันต้องเสพสุขซะให้พอโว้ย”
   “ผมเกรงว่า...เอ่อ  ถ้าซ้อมารู้เข้าจะไม่ดีนะครับ”
   “ซ้อจะรู้ได้ยังไง  ห้องนี้มีแค่ฉันกับแก” มิน่าเล่าเฮียถึงหรี่เสียงเบาขนาดนี้  กะไม่ให้ไอ้มั่นไอ้หมายหน้าห้องได้ยินเลยว่างั้น
   “เอ่อ...”
   แอ่ก!  ยังไม่ทันพูดก็โดนเฮียใหญ่ตบบ่าเข้าไปอีกผัวะ  ไม่น่าเชื่อว่าเตี้ยขนาดนี้ยังเขย่งมาตบได้ แถมแรงซะด้วย
“ยังหนุ่มยังแน่นอย่าทำตัวซังกะตายนักเลยแสงเอ๊ย”
“แฮะ ๆ”
“ไม่ใช่พวกเก้งกวางสักหน่อย  ไม่อย่างนั้นแกคงโดนซ้อมอย่างไอ้คนก่อนไปแล้ว ฮ่า ๆ ๆ” ป้าบ ๆ  เฮียตบอีกอย่างเมามัน “ไอ้นั่นก็โง่คิดว่าแค่ลาออกจะจบง่าย ๆ  อย่ามาเล่นกับเฮียใหญ่นะโว้ย!”
“ฮะ ๆ นั่นสิครับ” กับลูกสาวยังตัดญาติขาดมิตรปานนั้น  คนนอกจะตัดไปถึงไหนก็มิอาจทราบได้
   “เอ้า! ไปได้แล้ว  กลับเย็นเดี๋ยวก็รถติดพอดี”
   “ครับเฮีย”

เกย์เฒ่ายกมือไหว้ตาเฒ่าอย่างนอบน้อม  ขณะเดินออกห้องก็คิดแผนการชิ่งหนีอ่างในอนาคต  เฮียอยากไปเองไม่เห็นต้องพาเขาไปเป็นข้ออ้างเลย  มีที่ไหนให้ของขวัญไม่ดูหน้าคนรับแบบนี้บ้างล่ะ  อีกอย่างเขาเป็นเกย์ด้วย  ถ้าไปแล้วไม่มีอารมณ์มีหวังโดนสงสัยพอดี
“อ๊ะ! พี่แสงกลับแล้วเหรอครับ” ไอ้หมายแฝดน้องผู้คิ้วแตกเอ่ยทัก  แสงแยกหน้าพวกมันด้วยคิ้วนี่แหละ “ไม่อยู่กินข้าวด้วยกันเหรอครับ  วันนี้เฮียให้เงินสั่งพิซซาด้วย”
“ไม่ล่ะ  ขี้เกียจรถติด” แสงโบกมือหย็อย ๆ เดินออกมาเจอสายสมรที่กำลังโจ้มะม่วงดองในถุงอย่างเอร็ดอร่อย “พี่กลับแล้วนะ”
“วันนี้เฮียอารมณ์ดีเพราะพี่แสงเลยนะคะ  หมอนเลยลาภปากได้อานิสงส์พิซซามาด้วย” เจ้าหล่อนหน้าชื่นตาบานกว่าใคร  ก็แหม...ประหยัดมื้อเย็นไปอีกมื้อนี่นา
“ใช่เลย ๆ พี่แสงสุดยอด!” ไอ้มั่นยกนิ้วโป้งให้  ดูปัญญาอ่อนสิ้นดี
“ก็ทำไปตามปกตินั่นแหละ”
“โอ๊ย!  หมอนทวงแทบตายยังไม่ได้  ต้องถึงมือพี่แสงนี่แหละค่า” สายสมรโบกไม้เสียบมะม่วงไปมา “ระดับพี่แสงหมอนว่าเก็บได้ครบทุกคนอยู่แล้ว โฮะ ๆ ๆ”

ฉึก!  รายชื่อ ‘นเรนทร์ แซ่ซ่ง’ ที่ด้านหลังกระดาษลอยวาบเข้ามาในหัว และก่อนที่อ้ายอีคนใดจะทำให้แสงลำบากใจไปมากกว่านี้เขารีบพุ่งตัวปิดประตูบริษัทในทันใด  แสงถอนหายใจเฮือกใหญ่มือเผลอล้วงกระเป๋ากางเกงหาซองบุหรี่ก่อนจะพบว่าเขาได้สูบมวนสุดท้ายไปเมื่อหลายวันก่อน
ในวันที่เจอกับนเรนทร์ตรงบันไดหนีไฟ...

   หลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอนเรนทร์อีกเลย  เขาเองก็หมกตัวอยู่ในห้องมาสามวัน  บางทีอาจจะห่างกันแค่กำแพงกั้นก็ได้  แม้จะแอบเหล่มองทุกครั้งที่ออกไปหาอะไรกินแต่แสงก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาหัวไอ้เด็กซ่ง
บางทีอาจจะไปเฝ้าแฟนเก่า?
นึกมาถึงตรงนี้ก็ก่นด่ามันในใจ  แทนที่จะเอาเวลามาทำงานใช้หนี้ดันไปนั่งเฝ้าผู้หญิงเป็นวัน  เป็นลูกเป็นหลานจะด่าให้ลืมกลับชาติมาเกิดเลย
แต่มันไม่ใช่กงการอะไรของแสง  ที่เขาต้องทำคือสืบทรัพย์วงศ์ตระกูลมันและยึดมาให้ได้มากที่สุด  หนี้หลักล้านนั่นพ่อเป็นคนสร้างก็จริงอยู่ แต่จะไม่มีญาติมิตรที่ไหนเลยแสงไม่เชื่อหรอก  อย่างน้อยก็บีบให้มันกู้หนี้ยืมสินมาโปะของเฮียใหญ่ได้สักหน่อยก็ยังดี
Citroen C5 หันหัวไปทางทิศตะวันออกทะยานไปด้วยความเร็วสูงสุด  นาฬิกาดิจิตอลที่คอนโซลบอกว่าใกล้จะถึงเวลาเลิกงานแล้ว  หากช้าไปกว่านี้คงติดแหง็กอีกเป็นชาติกว่าจะถึงคอนโด  คิดแล้วก็เหยียบคันเร่งฝ่าไฟเหลืองไปได้แบบหวุดหวิด
ภาพคอมมูนิตี้มอลล์ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ทั้งที่ควรจะรีบเหยียบหนีแหล่งอุดมคนให้เร็วที่สุด แต่แสงกลับชะลอรถ  ร้านขายอะไหล่ยนต์ขนาบอยู่ทางซ้ายมือของเขา  วินาทีนั้นคนรีบกลับบ้านเลือกที่จะดับเครื่องลงในซอยแคบ ๆ ถัดไปอีกสิบเมตร
หนุ่มใหญ่สาวเท้าเร็วขึ้นโดยไม่รู้ตัว  ระยะทางเพียงไม่กี่เมตรก็ทำให้เขาหอบแฮ่ก ๆ ได้แล้ว  แสงหยุดยืนอยู่ตรงหน้าร้านอะไหล่ยนต์มองเข้าไปยังตึกคูหาข้าง ๆ

   “เรนกลับเถอะนะ  วันนี้ยังไงเช็กก็ออกไม่ทันหรอก” คนพูดคือหญิงสาวหน้าตาน่ารัก  หล่อนสวมเสื้อแขนตุ๊กตาและกระโปรงพลีทยาวครึ่งเข่า
   “หา!? ไหนเมื่อวานบอกว่าวันนี้ได้ชัวร์ไง” นเรนทร์เถียงหน้าดำคร่ำเครียด  แสงไม่เคยเห็นสีหน้าแบบนี้ของมันมาก่อนเลย “เราไม่ไหวแล้วนะเบล  ถ้าเดือนนี้เงินยังไม่ออกเราตายแน่ ๆ”
   “เบลก็พยายามตามให้ถึงที่สุดแล้วนะ แต่นายเขาไปดูงานที่เมืองนอกพอดีน่ะสิ”
   “อะไรนะ?  ดูงานอีกแล้ว  เดือนที่แล้วก็ไป”
   “งานยุ่งน่ะ” หญิงสาวที่ชื่อเบลฉีกยิ้มแห้ง ๆ “อีกอย่างกว่าจะทำเอกสารขอเปลี่ยนชื่อเช็กเป็นของเรนแทนพ่อก็ต้องใช้เวลา  ทุกอย่างมันเป็นไปตามระบบนะ  เบลก็ช่วยอะไรมากไม่ได้”
   “แต่....”
   “หวังว่าเรนจะเข้าใจเบลนะ” สายตาอ้อนวอนที่ส่งมาทำนเรนทร์ชะงัก “เห็นแก่เบลเถอะนะ  เรนช่วยกลับไปก่อนได้ไหม”
   ราวกับน้ำสาดเข้ากองไฟ  นเรนทร์ที่โวยวายเกรี้ยวกราดพลันอ่อนปวกเปียก  ยืนน้ำท่วมปากอยู่ตรงนั้น  จวบจนมือเรียวบางตบลงตรงบ่า  เบลขยับเข้ามาเอ่ยเสียงออดอ้อน “ขอบใจมากนะเรน”

   เจ้าหล่อนจากไปแล้ว...  ทิ้งไว้เพียงนเรนทร์ที่ยืนคอตกอยู่หน้าประตู  ขณะที่หันหลังกลับนั้นเองยมทูตก็ง้างเคียวขึ้นรอ
   “แกน่ะ  มาคุยกับฉันหน่อย”
   เรนถอนหายใจกับความซวยซ้ำซ้อน แต่ก็ยอมเดินตามเฮียแสงไปแต่โดยดี

…………………………………………
………………………..
………..
….


เป๊าะ!

น้ำอัดลมสีดำส่งเสียงฟู่ตามมา  ก่อนนเรนทร์จะกรอกมันเข้าปากไปหลายอึก
“เอิก~”
“ไม่อ้วกเลยล่ะ” ตาลุงฝั่งตรงข้ามบ่นไม่หยุด  ดูมันเรอซิถ้าแสงใส่วิกคงปลิวไปแล้ว “มีมารยาทหน่อย  ไม่ใช่ว่าไร้การศึกษานี่นา”
“ว้าว~” เรนตาโต “เฮียสืบเรื่องผมด้วย  ได้ความว่าไงบ้างล่ะครับ”
“เรื่องอะไรฉันต้องเล่าให้ฟัง”

พวกเขาอยู่ในร้านอาหารตามสั่งในซอยที่แสงจอดรถ  เป็นรถเข็นเบียดเบียนทางสาธารณะที่ควันขโมงโฉงเฉงไม่ถูกสุขลักษณะ แต่รสชาติดีอย่าบอกใคร  คนแถวนี้กล่าวขานกันว่าอร่อยระดับถ้าเจอแมลงสาบในจานให้รีบโยนมันออกแล้วจงกินต่อไป
ทำไมถึงเป็นที่นี่น่ะเหรอ  ก็...มันใกล้ที่จอดรถสุดไง  แถมยังไม่เลิกงานคนก็ไม่เยอะมาก  แสงเองก็ไม่ได้กินร้านนี้บ่อย ๆ ได้โอกาสแล้วก็ควรรีบคว้าไว้----
โอเค....ยอมรับก็ได้ว่าเขาไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองมานั่งทำซากอะไรที่นี่!  แถมยังนั่งตรงข้ามไอ้เด็กนรกที่อัดคลิปแบล็คเมล์อีกต่างหาก  ถ้าไม่เสียสติก็โง่เง่าปัญญานิ่ม...

“ป้าคร้าบ~  ขอข้าวผัดปูจานหนึ่ง”
“จ้า” เจ้าป้าขานรับ  ก่อนกระดกกระทะอย่างชำนาญเยี่ยงยอดกุ๊กแดนมังกร
แสงจ้องหน้าเด็กเวรที่คาบขอบกระป๋องโค้กไว้ “ฉันไม่จ่ายนะ”
“แต่เฮียเป็นคนจูงมือผมมานั่งนะ  เท่ากับว่าชวนกินข้าวไม่ใช่เหรอไง”

มันก็จริง แต่....
อา...แต่อะไรดีวะ


“อ๊ะ!  กะเพราไข่เยี่ยวม้าของเฮียมาแล้ว  รู้งี้ผมรีบสั่งดีกว่า” เพราะนเรนทร์ชิ่งเปลี่ยนเรื่องก่อนแสงจึงรอดตายมาได้หวุดหวิด “โต๊ะนี้ครับลุง!”
โบกไม้โบกมือเล่นใหญ่ขนาดนี้ลุงรีบเดินมาเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะ  แซงคิวเขาหรือเปล่าก็ไม่รู้แต่แดก ๆ ไปเถอะ  แสงรับช้อนมาจากเด็กช่างบริการแล้วจ้วงอาหารเข้าปากในทันที

“ร้านนี้อร่อยเนอะ แต่คนเยอะไปหน่อยเลยไม่ค่อยได้กิน”
“อื้อ” แสงตอบได้แค่นี้เพราะข้าวเต็มปาก
“วันนี้โชคดีจริง ๆ ที่เฮียชวนมากิน  แหม...เวลากำลังดีเลย แทบไม่มีคน”
“ไม่ได้ชวน”
“แต่เฮียบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วยนี่นา...”

ไอ้แสงเอ๊ย  นอกจากขว้างงูไม่พ้นคอแล้วงูยังพันรัดคอเกือบหักไปอีก  หนุ่มใหญ่ดันคอตัวเองกลับมาตั้งตรง  พอกันที!  เลิกหาคำตอบที่ตัวเองไม่เข้าใจแล้วถามมันไปตรง ๆ เลยดีกว่า
“ผู้หญิงเมื่อกี้คือแฟนเก่าที่แกมาตามเฝ้าเหรอ”
“หือ?” เรนเลิกคิ้ว  วางกระป๋องน้ำอัดลมที่ว่างเปล่าลงบนโต๊ะ “เบลน่ะเหรอ  น่ารักใช่ไหมล่ะ”
“งั้น ๆ” แสงไม่สนใจผู้หญิงอยู่แล้ว จะสนใจก็แต่... “ไม่เห็นบอกว่ามาทวงเงิน”
“ก็ไม่จำเป็นต้องบอกนี่นา” ปลายนิ้วชี้เขี่ยกระป๋องบนโต๊ะเล่นไปมา  ดูไม่ใส่ใจกับประเด็นนี้ “อย่าบอกว่าเฮียลากผมมาคุยเรื่องนี้นะ”
หมับ!  เพราะทนรำคาญไอ้กระป๋องนั่นไม่ไหวแสงจึงคว้ามันวางไว้ฝั่งเขาแทน  น้ำเสียงที่เปล่งออกมาเฉียบขาดราวครูฝ่ายปกครอง “คุยกับผู้ใหญ่อย่าเล่นอย่างอื่น  เสียมารยาท”
“คะ...ครับ”
“ฟังนะ” ปลายนิ้วเคาะบนโต๊ะเหล็กสีแดงเป็นการกระตุ้นให้ตั้งใจ “ฉันเป็นตัวแทนเจ้าหนี้แก  ดังนั้นแกต้องตอบคำถามฉันมาตามตรง  ข้อแรก...แกไปทำอะไรที่นั่นกันแน่”
“ผมเคยทำบิวด์อินที่ออฟฟิศนั่น  เฮียเห็นใช่ไหมว่าข้างหน้ามันเป็นคาเฟ่น่ะ  นั่นแหละ” ชายหนุ่มยักไหล่ “ทำตั้งแต่สมัยพ่อยังไม่ตาย  จนตายแล้วยังเก็บเงินไม่ได้เลย”

หนุ่มใหญ่พยักหน้า  เท่าที่เขาสืบทราบมานายณรงค์เป็นถึงผู้รับเหมาไม่ใช่แค่ช่างทั่วไปอย่างนเรนทร์  สมัยก่อนก็มีเงินถุงเงินถังไม่ใช่น้อย  ไม่อย่างนั้นจะมีให้เจ๊ซันกู้ยืมได้ยังไง

“เบลเป็นบัญชีที่นั่นก็เลยแนะนำงานให้ผมตั้งแต่สมัยคบกันแล้ว  พูดตามตรงผมก็เข้าใจเธอนะ  มันเป็นไปตามระบบบัญชีจะเร่งมากก็คงไม่ได้” มันแก้ตัวให้เสร็จสรรพ “แต่เดือนนี้ผมไม่ไหวจริง ๆ มือเป็นแผลหัวหน้าเลยไม่ให้ทำงาน  กลัวไปทำของแกเสีย  กว่าจะได้เข้างานอีกทีก็...”
“โง่เอ๊ย”
“หา!?” นเรนทร์สะดุ้งเฮือก  อะไรวะ  อยู่ดี ๆ ก็โดนตาลุงนี่ดุเฉยเลย “งานช่างมันต้องใช้มือนี่นา  ถ้าไม่...”
“ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น” แสงกอดอกยืดหลังตรง  ดูมีอำนาจกว่าปกติแม้จะนั่งเก้าอี้พลาสติกขาง่อนแง่น “แกน่ะโง่  โดนมารยาหญิงหลอกเข้าให้แล้ว”
“ไม่ได้หลอกซะหน่อย  ก็มัน...”
“เงียบ!  ฟังนะไอ้ลูกเจี๊ยบ” พ่อไก่โก่งคอขึ้น “ที่แกว่ามานั่นมันมุกเตะถ่วงจ่ายเงินยอดนิยมเลย  แพทเทิลนี้มีแต่ควายที่หลอกได้”

เอ๊ะ...กำลังโดนด่าอยู่ชัด ๆ

“แต่...”
“อย่าพูดแทรกผู้ใหญ่” นาทีนี้เรนคิดว่าอาเฮียเหมือนลุงเจ้ายศเจ้าอย่างในวันรวมญาติชอบกล “ยิ่งแกมานั่งเฝ้าหน้าร้านหวังให้เขาจ่ายเงินให้มันยิ่งน่าสมเพช  ผู้รับเหมาโง่ ๆ อย่างแกเจ๊งมาแล้วกี่ราย”
“เฮียจะพูดคำว่าโง่สองครั้งในหนึ่งนาทีไม่ได้นะ อ๊ะ! ขอบคุณครับ” เพราะอาหารที่สั่งมาพอดีนเรนทร์จึงเอื้อมมือไปรับ “อีกอย่างก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้เงินเลย  เขาแบ่งจ่ายเป็นงวด  ค้างแค่งวดสุดท้าย”
“แล้วเงินที่ได้หายไปไหนหมด”
“พ่อผมจ่ายช่างไปหมดแล้ว”
“โง่บรม!”
“อ๊า~ โง่ที่สามแล้ว”
“เดี๋ยวสี่จะตามมาเร็ว ๆ นี้แหละ” เชื่อขนมกินได้ว่าแสงไม่ได้ขู่เกินจริง “เพราะทำแบบนี้กำไรมันเลยกองอยู่งวดสุดท้ายนี่ไง  แล้วยังไง?  งานเสร็จแล้ว  มันเรื่องอะไรที่ร้านมันจะรีบจ่าย  ดึงได้ก็ดึงไปสิ  ยิ่งมากวันก็กินดอกในธนาคารไปอีก!”
“เอ่อ....”
“แฟนเก่าแกทำบัญชียิ่งสบายเลย  เตะถ่วงไปได้อีกชาติเศษ  ออกมาตีหน้าเศร้านิด ๆ หน่อย ๆ แกก็ถอยกลับบ้านแล้ว”

เถียงไม่ออกเลยแฮะ....
ยอมรับเลยว่าที่แสงพูดมาถูกต้องทุกอย่าง  ทุกครั้งที่นเรนทร์มานั่งเฝ้าเบลจะเป็นคนเดียวที่ลงมาเจรจาขอให้เขากลับไปแต่โดยดี  บางครั้งเขายังแอบตามเธอไปที่ป้ายรถเมล์เพื่อขอให้เร่งออกเช็กให้หน่อย  แน่นอนว่าติดปัญหาที่นายใหญ่ไม่ยอมเซ็น
“แล้วไอ้มุกไปต่างประเทศน่ะซ้ำซากจะตาย  หวังว่าแกจะไม่เชื่อ”
“ผมรู้น่าว่าเขาโกหก แต่จะให้ทำยังไงเล่า” ชายหนุ่มตักข้าวผัดใส่ปากแล้วเคี้ยวกร้วม ๆ  ไม่ได้การเฮียแสงกินเสร็จแล้วเกิดลุกไปก่อนเขาอาจจะต้องจ่ายเงินเองจริง ๆ “นายเขารวยขนาดนั้นคงไม่เบี้ยวเงินผมหรอกมั้ง”
“มันก็ไม่แน่หรอก  เขาอาจจะมองว่าแกไม่มีปัญญาจ้างทนายไปฟ้องอยู่แล้ว”
“แต่เขารวยนะ”
“ไอ้ลูกเจี๊ยบ” แสงส่ายหัว  โธ่...ทีกับเขาล่ะเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์  มาเสียเหลี่ยมกับอีแค่เกรงใจผู้หญิงคนเดียว  ทุเรศสิ้นดี “คนรวยน่ะเขาไม่สนใจหรอกว่าแกจะเป็นจะตาย  เขารู้แค่ว่าดึงก้อนนี้ได้ก็มีดอกเพิ่ม  เด็กบัญชีนั่นก็ได้หน้าเป็นลูกรักนายไปอีก  มีแต่แกที่ยืนงงในดงตีนลูกน้องเฮียอู๋”
ฉึก! ฉึก! ฉึก!
นเรนทร์จมกองเลือด  แผลเหวอะหวะเต็มตัวแทบกระอักข้าวผัดทางปาก แต่ไม่ได้....เขาจะไม่ยอมเสียข้าวไปแม้แต่เม็ดเดียว

“ฉันมีวิธีการดี ๆ มาแนะนำ”
“หา!?”
ปลายแหลมของส้อมชี้มาตรงหน้านเรนทร์ “แกจะได้เงินที่เหลือโดยลงทุนแค่ยี่สิบบาทเท่านั้น”
“เฮียไม่ได้ขายฝันใช่ไหม....” เขากลัวเหลือเกินว่าเฮียจะควักแคตตาล็อกแอมเวย์ออกมา
“หึ” หนุ่มใหญ่แค่นหัวเราะ “ยังไงก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้วนี่”
“ยังไงก็ได้ แต่...”
“......”
“มื้อนี้เฮียจ่ายให้หน่อยได้ไหม  ผมไม่มีเงินอะ  แล้วกระป๋องตรงนั้นอย่าเพิ่งทิ้ง จะเก็บไปขาย”

พับผ่าสิ...เหม็นกลิ่นคนจนชะมัด


……………………………………
…………………………..
……………
…….

ออฟไลน์ Indigo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1030/-7


เป็นบุญที่ยี่สิบบาทมันยอมควักจ่ายเอง

แสงถอนหายใจอยู่หน้าร้านถ่ายเอกสาร ชะเง้อคอรอนเรนทร์อยู่ครู่หนึ่ง  ก่อนเด็กหัวทองจะกลับออกมาพร้อมกระดาษปึกหนึ่งในมือ  สีหน้าคนถือดูไม่มั่นใจนัก
“เฮียว่าวิธีนี้จะดีจริง ๆ เหรอ”
“ดีกว่าหลอกนอนกับคนอื่นแล้วอัดคลิปก็แล้วกัน”
“อูย  เจ็บจัง” หน้าตาสำนึกผิดเสียเต็มประดาจนแสงอยากจับมาแทงเข่าสักที

เขาออกเดินนำนเรนทร์กลับไปทางร้านเป้าหมายในวันนี้  ท่วงท่าการก้าวขาราวกับมาเฟียที่ถือระเบิดไว้ในมือพร้อมจะทำลายศัตรูให้ราบเป็นหน้ากลอง  โดยมีพ่อแกะน้อยเดินตามต้อย ๆ
ฝูงคนแหวกออกเป็นทางด้วยเกรงต่ออำนาจบารมีที่แผ่ซ่านตั้งแต่หัวจรดเท้า  แสงเหวี่ยงตัวเองแปะลงตรงเสาไฟหน้าร้าน  ล้วงหาบุหรี่ไฟฟ้าในกระเป๋าขึ้นมาคาบไว้แล้วหันมาเอ่ยบอกเยี่ยงคำสั่ง

“ฉันจะรอตรงนี้”
“อ้าว” เรนถึงกับอ้าปากค้าง “เฮียไม่ช่วยกันเหรอ”
“แล้วมันเรื่องอะไรที่ฉันต้องช่วย”

ตอนนี้ก็ช่วยอยู่ไม่ใช่เรอะ...  นเรนทร์เถียงในใจ  มองคนขี้เก๊กยืนพิงเสาด้วยท่าพระเอกซีรีส์แถมยังแสร้งมองไปทางอื่นเหมือนจะบอกว่า ‘ยัยบ้าเอ๊ย! ฉันไม่ได้สนใจเธอสักหน่อย’  จะแอคท่าเยอะไปทำไม  ไม่เมื่อยหน้าบ้างหรือไง?  เรนคิดแล้วกลั้นขำจนไหล่สั่นหงัก ๆ
“ยัง...ยังไม่ไปอีก”

เฮียก็มีมุมน่ารักกับเขานี่นา

ประหลาดคนชะมัด  ปากด่าไม่หยุด แต่ก็โดดลงมาช่วยเนี่ยนะ?  ว่าเขาแปลกแล้วเฮียแสงแปลกยิ่งกว่าอีก  เรนนินทาคนแก่กว่าในใจพลางก้าวเท้าไปยังประตูเร็วขึ้น  พูดตามตรงก็แอบหวั่นไม่น้อยว่าวิธีของเฮียจะได้ผลจริงเหรอ
แต่หมาจนตรอกมันจะงับจนกว่าเขี้ยวจะหลุดหมดปากนั่นแหละ...

ผัวะ!
“พี่!  อย่าไปกินกาแฟร้านนี้มันเลยครับ  พี่กำลังสนับสนุนพวกขี้โกงนะครับ” ลูกหนี้เฮียใหญ่ตะโกนลั่นร้านอย่างหน้าไม่อาย  ลูกค้าราวสิบคนชะงักค้างกลางอากาศเป็นจังหวะดีที่นเรนทร์จะพุ่งเข้าหาป้าที่อยู่ใกล้ประตูที่สุด  ยัดกระดาษแผ่นหนึ่งใส่มือ
“ฝากกระจายข่าวด้วยนะคร้าบ~” มันฉีกยิ้มหวาน “พี่คนสวย”
“ทำอะไรของคุณน่ะ!” เด็กเฝ้าร้านที่หลังเคาน์เตอร์ทนไม่ไหวโผเข้ามาปิดทาง “ออกไปจากร้านเดี๋ยวนี้นะ”
“พี่ดูนะครับ  คนเรามันทำกันแบบนี้  ตัวเองเปิดร้านใหญ่โตแต่ไม่จ่ายเงินช่างตาดำ ๆ  โอ๊ย...กาแฟที่พี่ดื่ม ๆ กันอยู่ต้นทุนก็เงินผมทั้งนั้นเลย”
ป้าพลิกกระดาษขึ้นดู  มันไม่มีรายละเอียดอะไรเลยนอกจากเขียนชื่อร้านและคำว่า ‘ขี้โกง’ ด้วยฟอนต์ขนาด 72  ใหญ่ระดับมองจากอีกฝั่งของถนนยังเห็น  แน่นอนว่าพนักงานไม่รอช้าพุ่งเข้ามายื้อแย่งกระดาษพร้อมขยำทิ้ง
“คุณออกไปเลยนะ”
“อา...คุณเป็นพนักงานคงไม่รู้เรื่องสินะ  อ๊ะ! ผมให้อีกใบจะได้ไม่ต้องไปแย่งของพี่เขา” ว่าแล้วก็ยัดใส่มือ แถมยังแทรกตัวเดินดุ่ม ๆ ไปหาชายวัยกลางคนด้านหลัง “ฝากพี่ด้วยนะครับ  อย่าสนับสนุนคนขี้โกงน้า~”

   “เรน!”
เสียงหวาน ๆ ดังมาจากโถงบันได  ก่อนเบลจะเดินหน้าตาตื่นเข้ามา  นเรนทร์รีบยื่นกระดาษให้เธออย่างสุภาพ
“อ้าว! เบลจะเอาด้วยเหรอ  ผมให้สามแผ่นเลย”
“ทำไมทำแบบนี้!”
“ช่วยไม่ได้นี่  ก็ผมโดนโกงจริง ๆ” หนุ่มผิวแทนตอบแฟนเก่าเพียงเท่านั้นก่อนจะมุ่งหน้าเข้าไปในร้าน  เป้าหมายคือหญิงสาวไฮโซที่กำลังเบิกตาค้างกับเหตุการณ์ระทึกขวัญตรงหน้า “ฝากคุณผู้หญิงกระจายข่าวด้วยนะครับ”
คราวนี้เบลหน้าซีดอย่างเห็นได้ชัด  ดูท่าลูกค้าคนนี้จะเป็นคนมีหน้ามีตาในสังคมถึงได้กลัวเสียหายปานนั้น แต่เรนไม่หยุดเท่านั้นเขามุ่งหน้าแจกจ่ายกระดาษจนครบทั่วทั้งร้าน  จวบจนพนักงานชายคนแรกวิ่งมารวบตัวนั่นแหละ

“ออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
“โอ๊ย!  นอกจากโดนโกงแล้วยังถูกพนักงานทำร้ายร่างกายอีก  โอ๊ย ๆ เจ็บจังเลยครับ!” เรื่องแอคติ้งไว้ใจนเรนทร์ได้เสมอ  หนักกว่านี้ก็ทำมาแล้ว “ช่วยด้วยครับ! ผมถูกทำร้ายร่างกาย”
   เพราะถูกใส่ไคล้อีตาพนักงานจึงเด้งตัวออกราวถูกของร้อน  เห็นท่าไม่ดีมันรีบส่งสายตาให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายรับช่วงต่อแทน  เบลเดินเข้าไปประชิดแฟนเก่าส่งสายตาอ้อนวอนอีกครั้ง
   “เบลขอเถอะนะเรน  นายเขาไม่โกงแน่นอน”
   “ไม่โกงแต่ไม่จ่าย ใครก็พูดได้นี่” เขาเบนสายตาหนีใบหน้าน่ารัก  ชูกระดาษโบกไปมาในอากาศ “ใครยังไม่ได้อีกครับ!”
   “เรน...” เมื่อใช้ไม้แข็งไม่ได้หล่อนก็กระตุกชายเสื้ออีกฝ่าย  ดวงตากลมเริ่มมีน้ำตาคลอ “เบลขอร้องล่ะ  อย่างน้อยก็ออกไปคุยกันข้างนอกนะ”

   ภาพนั้นของอดีตคนรักทำจิตใจที่เกรี้ยวกราดอ่อนยวบเป็นขี้ผึ้งลนไฟ  ถึงจะเลิกกันไปนานแค่ไหนแต่น้ำตาของเบลกัดกร่อนหัวใจเรนได้เสมอ  ไม่อยากให้ใบหน้าสวย ๆ ต้องเศร้าหมองเพราะเขาเลย
   กระดาษที่ชูขึ้นค่อย ๆ ลดระดับขนาบข้างลำตัว  นเรนทร์แพ้อีกแล้ว...  พ่ายแพ้ต่อคำลวงแสนหวานอีกครั้ง  ปลายรองเท้าหันกลับไปยังประตู  ณ ตรงนั้นเองที่เขามองเห็นชายวัยกลางคนเบือนหน้าไปยังถนน  ทั้งที่ไม่ได้จ้องมาที่เขาด้วยซ้ำ  ทว่าเสียงหนึ่งตะโกนเข้ามาในหัวของนเรนทร์

‘โง่เอ๊ย!’

“ผมไม่กลับ  ถ้าวันนี้ยังไม่ได้เช็กงวดสุดท้าย!” เจ้าจิ้งจอกขู่คำรามฟ่อ  ทำเอาสาวน้อยตกใจ
   “ไม่เอาน่าเรน  ค่อย ๆ พูดกันก่อน”
   “มันเลยจุดนั้นมานานแล้ว  เบลไม่รู้หรอกว่าผมต้องเจออะไรมาบ้าง!”
   “เบลไม่...”
   “ไม่ต้องห่วงนะ  ผมจะแปะมันให้เต็มร้าน!  เต็มเสา!  เต็มกำแพง!  ประกาศให้มันรู้กันไปเลยว่าเจ้านายเบลมันขี้โกง!  อีกะแค่เงินไม่กี่แสนไม่ยอมจ่ายทั้งที่ลูกค้านั่งเต็มร้าน!”
   เมื่อการขอร้องใช้ไม่ได้ผลเบลเริ่มมือไม้สั่นทำอะไรไม่ถูก  สุดท้ายก็เผลอหลุดปาก “ไปคุยกับเจ้านายเบลข้างบนก่อนนะ”

   ไอ้หมาบ้าแสยะยิ้ม  ก่อนจะตบเท้าก้าวขึ้นบันได

   “กลับมาจากเมืองนอกแล้วเหรอ?”


..............................................
...........................
...........
.......


   “อ้า~  ผมนึกว่าจะโดนเขายิงตายซะแล้ว”
   “คนเยอะขนาดนั้นใครมันจะกล้ายิง  อีกอย่างไม่ใช่ร้านผู้มีอิทธิพลซะหน่อย  แค่ไฮโซขี้เหนียว”
   นเรนทร์ทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้อีกฝั่ง  เท่ากับว่าตอนนี้พวกเขาหันหลังชนกัน  แบบนี้ก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องเห็นสายตาเหยียดหยามของเฮียแสง
   ธนาคารสีม่วงคือสถานที่ที่เรนมุ่งตรงมาทันที  เช็กเงินสดถูกเปลี่ยนสภาพเป็นธนบัตรปึกหนาเต็มซองเอกสารสีน้ำตาล  ชายหนุ่มกอดมันไว้แนบอก  ก่อนโรคย้ำคิดย้ำทำจะกำเริบ  มือซน ๆ แงะแม็กออกเอานิ้วเขี่ยนับจำนวนฟ่อนไปมา

   “ตอนแรกนึกว่าจะเด้งซะแล้ว”
   “ต่อให้อยากดึงให้เด้งก็ทำไม่ทันแล้วล่ะ  สงสัยจะไม่ได้สมัครอีแบงก์กิ้ง” อีกฝั่งของเก้าอี้ให้ความเห็น “ดูท่าเงินในบัญชีจะเยอะเสียด้วย”
   “แล้วมาดึงผมได้ตั้งนานน้อ~”
   “เขาถึงได้เรียกว่าคนรวยไง  แกน่ะมันกระดูกอ่อนชะมัด  ไม่สิ...พ่อแกด้วย”
   “รอบนี้ด่าถึงพ่อเลยเหรอ”
   “ก็จริงนี่หว่า” เรียกได้ว่าไม่มีเกรงใจกันเลยทีเดียว “เพราะพ่อแกเป็นผู้รับเหมาแบบนั้นแหละถึงได้เจ๊งเป็นหนี้เฮียใหญ่อยู่นี่ไง”
   “เถียงเฮียไม่ได้เลยแฮะ”

   คนโดนด่าพ่อล่อแม่เผลอคลี่ยิ้มบาง  ต้องขอโทษด้วยที่นเรนทร์ไม่สามารถปกป้องสมองและปัญญาของพ่อได้  ก็ที่เฮียแกพูดมามันก็ถูกต้องทุกอย่าง...  ดวงตาเรียวเหล่มองแผ่นหลังที่ขนาบกับของตัวเอง  บ่ากว้างนั้นดูแข็งแกร่งและพึ่งพาได้อย่างไม่น่าเชื่อ
   ทั้งที่เป็นผู้ชายทั้งแท่ง แต่อดคิดไม่ได้ว่าน่าซบจริง ๆ น้า~
   ตุบ...
  แล้วก็ไม่หยุดแค่ความคิด  นเรนทร์เอียงคอวางตุบลงบนบ่าขวาของแสง  วินาทีนั้นราวกับความเครียดที่สั่งสมมาตลอดหลายวันถูกปัดเป่าออกไป
   แสงเองก็ไม่ได้ออกปากไล่อะไร  เหลือบมองกลุ่มผมสีทองด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก...

   “ว่าแต่...ไม่คิดเลยว่าวิธีของเฮียจะได้ผลดีขนาดนี้”
   “นิสัยพื้นฐานของพวกไฮโซน่ะ” คนประสบการณ์โชกโชนอธิบาย “กับคนต่ำกว่าจะขี้งกขี้เหนียว  สักบาทก็ไม่ให้กระเด็น แต่กับพวกไฮโซด้วยกันจะหน้าบางขึ้นมาเชียว”
   “ฮ่า ๆ ดูท่าจะเจอมาเยอะ” ปลายนิ้วเขี่ยเงินในซองเล่นไปมา “เจอแบบนี้บ่อย ๆ คงลำบากแย่”
   “ส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนั้น แต่พวกดี ๆ ก็มีอยู่”
   คนหางตาชี้หลุบมองฟ่อนเงินบนตัก  บางอย่างตีตื้นขึ้นมาในอก  ท่ามกลางความวุ่นวายในธนาคารใหญ่เขาพึมพำประโยคอันเรียบง่าย แต่อัดแน่นไปด้วยความรู้สึก...

   “ขอบคุณนะครับเฮียแสง”

อกซ้ายอุ่นวาบ...

 “เท่านี้ผมก็จะปิดหนี้เฮียอู๋ได้หมดละ-----“

   ฉึบ...  เพราะไม่ทันระวัง  รู้ตัวอีกทีมือใหญ่ก็โฉบลงมาฉกเงินในซองออกไปฟ่อนหนึ่ง  นเรนทร์รีบงับปิดลง ทว่าไม่ทันเสียแล้ว  ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์กระโดดออกไปอีกฝั่งห่างกับเขาห้าเมตรถ้วน

   “หนึ่งแสน” ทั้งที่เป็นคนขรึมแท้ ๆ แต่บัดนี้ใบหน้าเฮียแสงดูยียวนกวนส้นตีนเหลือเกิน “ดอกเบี้ยของเฮียใหญ่เดือนนี้”
   “โหดร้าย!” เด็กแซ่ซ่งร้องเสียงแหว๋ว “นี่เฮียกล้าฉกเงินในธนาคารเลยเหรอ!”
   “ผู้จัดการสาขานี้มันเป็นเพื่อนฉัน” กร่างระดับนี้ลูกนายกยังต้องยอม “อีกอย่างฉันไม่ได้ขโมย  แค่เอาส่วนที่ควรจะได้มา”
   “ชั่วร้าย!”
   “เมตตาไปด้วยซ้ำ” นิ้วโป้งกรีดฟ่อนแบงก์สีเทาไปมาดังพึ่บ ๆ “ค่าจ้างที่ปรึกษาฉันยังไม่ได้คิดเลย”
   “เฮีย...  ไม่นะเฮีย” เห็นทางนั้นเริ่มถอยหลังเรนยิ่งลนลานเดินตามจนแข้งขาพันกัน “เฮียจะทำแบบนี้กับผมไม่ได้....”
   “ได้ซี่...” ริมฝีปากบางแสยะยิ้มในวินาทีที่คว้ามือจับประตูได้ “ก็ทำอยู่นี่ไง”

   ปัง!

   บานกระจกปิดงับ  สั่นพั่บ ๆ อยู่สามทีก่อนจะหยุดแน่นิ่งไม่ต่างจากคนตรงนั้น  นเรนทร์มองตาลุงขี้ขโมยที่หายวับไปตรงมุมตึกแล้วได้แต่กำหมัดจนมือสั่นระริก  พลาดแล้วไอ้เรน...พลาดแล้ว
   ในใจของมันฉีกซองกระดาษออกเป็นชิ้น ๆ ราวกับว่านั่นคือเนื้อหนังของแสง  ราดน้ำมัน  จุดไฟเผา  คุกเข่าและกรีดร้องคำเรียกที่ครั้งนี้เสียงสูงกว่าปกติจนแทบกลายเป็นคำอื่น....



เฮียยยยยยย!!



TBC


สวัสดีปีใหม่ 2017 ค่ะทุกคนนนนนน  เฮ้ ๆ ๆ  จุดพลุ ๆ
มีความสุข  สุขภาพแข็งแรง  ขอให้เป็นปีที่ดีนะคะ  ใครเดินทางกลับก็ขอให้ปลอดภัยกันทุกคน
และของขวัญแก่ทุกท่านก็คือ.....ตอนที่ 6 ไงจ๊ะ  เย้ๆ ๆ
พูดถึงเรื่องหน่อยดีกว่า  แหมมมมมมม  อย่าคิดมาเล่นกับแบดกายอย่างอาแสง  นึกภาพอาแสงฉุดข้อมือเรนแล้วพูดว่า "ฉันเตือนเธอแล้ว อย่าเล่นกับไฟ"  นาวเบิร์นเบบี้เบิร์นมากค่ะ 5555555
เอาจริง ๆ ตอนนี้ก็เริ่มเข้าโหมดสวีต(?)แล้วนะคะ  เดี๋ยวจะหวานจนน้ำตาลไหม้เลย  นิยายโรแมนติกค่ะ//จริงจัง

สำหรับปีนี้ก็ฝากตัวอีกเช่นเคยนะคะ
ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่ติดตามมาโดยตลอดค่ะ   :กอด1:
เจอกันตอนหน้าค่า

ป.ล.ลืมขายของ  ตอนนี้รีปริ้นท์ใส่ รัก ป้าย สีลงสต็อกพร้อมส่งแล้วนะคะ  ฝากสนพ.เฮอร์มิตขาย  ใครสนใจเชิญทางนี้ค่ะ http://www.hermitbookshop.com/product/187/%E0%B9%83%E0%B8%AA%E0%B9%88-%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81-%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2-%E0%B8%AA%E0%B8%B5-by-indigo

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
โอ๊ยตอนท้ายฮามาก    :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
ว่าแล้วเชียวเฮียต้องฉกแน่ๆ
 :jul3: :jul3:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ในที่สุด อาแสง ก็กู้หน้าคืนได้บ้างแล้ว

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ตลกเฮียจริงๆ เอาจนได้สินะ

สวัสดีปีใหม่นะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
หายใจหายคอโล่งขึ้นอีกนิด
สวัสดีปีใหม่ค่ะ

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
สงสารเรนดีไหม แอบซึ้งใจเฮียแสงอยู่แป๊บนึง

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
กระดูกมันคนละเบอร์หนูน้อย  :laugh:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 702
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
อย่างน้อยก็ได้ดอกเบี้ย โอ้ยยย ปลื้มปริ่มน้ำตาจะไหล

ออฟไลน์ zelesz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 525
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
สวัสดีปีใหม่ค่าาาา แหม่ ดอกเบี้ยช่างโหดร้ายจริงๆ

ยังไงก็รอดไปอีกเดือนนะเฮียยย หนูเรนก็เริ่มหวั่นไหวกับเฮียแสงแล้วใช่ไหมล่าาาาาาาา

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
โหหหห ไอ่เราก็นึกว่าเฮียจะช่วยแบบเท่ห์ๆ 'ผมเป็นทนายคุณนเรนทร์มาติดตามเงืนที่ค้างครับ' ไรงี้ ที่ไหนได้ ...55555 เออออ แบบนั้นมันก็ไม่ใช่อาแสงสไตล์ดิเนอะ  :hao3:

ออฟไลน์ kokilolylove

  • รัก ได้ยินหรือเปล่า
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-1
เฮียใจร้ายยยยยยยยยยยยนนนนนน :ling1:

ออฟไลน์ kanunsak

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
เฮียก้อยังเป็นเฮียจริงๆน้า...  ฮ่าๆๆๆ มือโปรจริงๆ

ออฟไลน์ Indigo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1030/-7
ทวงครั้งที่ 7

   สุดท้ายก็พลาดโอกาสปิดหนี้เฮียอู๋จนได้...

   หนุ่มผิวแทนเดินคอตกอยู่ริมถนนแกว่งถุงโจ๊กในมือไปมา  เขาเพิ่งเสร็จภารกิจยืดอายุขัยตัวเองไปเมื่อครู่นี้เอง  หลังกำเงินหลายแสนบุกเข้ารังเฮียอู๋นเรนทร์ก็ได้รับการปล่อยตัวออกมา แต่ยังไม่วายโดนขู่ว่าถ้ายังไม่ครบก็เจอตีนแน่นอน
   ทำไมถึงอยากรีบปิดหนี้เฮียอู๋คนแรกน่ะเหรอ?  เพราะเขาโดนหมายหัวไง  ลูกน้องมือขวาที่ชื่อ ‘กิจ’ เป็นเพื่อนร่วมรุ่นสมัยมัธยม  ฟังเหมือนจะดีแต่ไม่เลย  เพื่อนสนิทนเรนทร์เคยแย่งแฟนมันจนเป็นเรื่องชกตีใหญ่โต  แน่นอนว่าเด็กวัยรุ่นเลือดร้อนอย่างเขาเพื่อนต้องมาก่อน  กระโดดลงไปร่วมวงเต็ม ๆ แล้วเป็นยังไงเล่า?  ไอ้กิจหมายหัวเขาอย่างกับเป็นหนี้สักพันล้าน  ก่อนกลับมันยังชี้หน้าขู่ว่าถ้าเดือนหน้าปิดหนี้ไม่ได้จะไม่รอดอกแล้ว  ส่งมึงไปคุยกับรากมะม่วงดีกว่าไอ้เรน

   เดือนหน้าเหรอ...
   อา...  หาวิธีหลบตีนน่าจะง่ายกว่า

   “เรน!” เสียงเรียกจากด้านหลังทำให้ชายหนุ่มหันไป “ทำไมวันนี้กลับดึกจัง”
   “ทำธุระนิดหน่อยจ้ะป้า”
   คนทักทายคือป้าร้านน้ำเต้าหู้ในซอย  เรนซื้อดื่มเป็นประจำเพราะยามไม่มีจะแดกน้ำเต้าหู้มันอยู่ท้องที่สุดแถมยังราคาถูกด้วย  คุณป้าก็ใจดีแถมให้ครึ่งกระบวยทุกครั้งเลย
   “เอาเหมือนเดิมเลยเนอะ”
   “ครับผม”
   ‘น้ำเต้าหู้ทรงเครื่องใส่ทุกอย่างยกเว้นถั่วแดง’ ถูกบรรจุลงจนปริ่มขอบถุง แต่ป้าก็สามารถมัดหนังยางได้อย่างคล่องแคล่วไม่มีหกสักหยด  นเรนทร์หยิบเหรียญให้ขณะกำลังก้าวถอยหลังอยู่นั่นเองลูกค้าข้าง ๆ ก็ถามเสียงเข้ม

   “เรน.....ไม่ทักเจ๊เลยนะ”
   ใครวะ...  จังหวะก้าวขาชะงัก  เขาหรี่ตามองเพ่งร่างที่อยู่ห่างกันไม่กี่เมตร  วิเคราะห์สัดส่วนบนใบหน้าอยู่ราวสิบวินาทีกว่าจะรู้ “อ้าว! เจ๊ซัน”
   “จ้า  เจ๊เอง” จำได้ทันทีก็เกินไป เล่นกะเทาะเมคอัพออกซะขนาดนั้น  หน้าสดกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว  แป้งฝุ่นยังไม่ได้ทาด้วยซ้ำมันถึงได้มันเลื่อมล้อแสงหลอดไฟจนเรนตาลาย “ป้าจ๋า  เอาทรงเครื่องไม่หวานนะ”
   “แปลกจังวันนี้ผมว่าผมกลับดึกแล้วยังเจอเจ๊ด้วย” นเรนทร์แกว่งถุงในมือเล่น “ไม่เฝ้าร้านเหรอครับ”
   “แหม....ให้ฉันพักผ่อนบ้างเถอะ” เจ้าของร้านถอนหายใจ “ช่วงนี้เงียบเป็นป่าช้า  เมื่อวานเด็กที่ร้านก็เพิ่งลากลับไปทำนาอีกสองคน  เฮ้อ~”
   “โห ลำบากแย่เลยนะครับ”
   “ช่าย~  นี่ค่ะป้า” เจ๊ซันส่งเงินให้แม่ค้า “ตอนนี้เจ๊ก็เลยแอบไปลงทุนร้านนวดกับเพื่อน”
   “นะ...นวดปกติใช่ไหมครับ”
   “ปกติสิยะ! ธุรกิจมืดอย่างเดียวชีวิตก็ฉิบหายแล้ว”
   “แฮะ ๆ ผมก็แค่ถามเฉย ๆ น่ะครับ” เพราะแซวพลาดไปหน่อยนเรนทร์จึงรีบประจบ “เจ๊กลับเลยไหมครับ  เดี๋ยวผมเดินไปส่งที่รถน้า~  ดึกดื่นแบบนี้ปล่อยคนสวยเดินคนเดียวมันอันตราย”
   “ต๊าย!  ปากหวานเชียว” หล่อนก้าวเท้าออกนำ “เจ๊จอดไว้ตรงร้านตัดผมนู่นน่ะ”

   นเรนทร์รู้จักเจ๊ซันเมื่อสี่ปีที่แล้ว  พ่อบอกว่าเป็นเพื่อนรุ่นน้องสมัยเรียนมหา’ลัย  เพิ่งมารู้ภายหลังว่ามีเรื่องบุญคุณที่ยืมเงินไปเปิดร้านด้วย เพราะอาศัยอยู่ละแวกนี้เจอกันบ่อยเข้าเลยพลอยสนิทไปโดยปริยาย  อีกอย่างเจ๊เป็นคนน่ารัก  คุยสนุก  ใครอยู่ด้วยก็สบายใจทั้งนั้น
   ซอยที่เรนอาศัยอยู่เป็นตรอกแคบ ๆ สัญจรด้วยรถยนต์ลำบากคนจึงนิยมจอดไว้ด้านหน้าแล้วเดินมาหาซื้ออะไรกินแทน  ชายหนุ่มเดินขนาบข้างซันชายน์ไปเรื่อย ๆ แน่นอนว่าคนคุยเก่งอย่างเจ๊ซันไม่เคยปล่อยให้ความเงียบครอบงำ
   “ว่าแต่เจ๊กลับดึกเถอะ  เรนล่ะไปไหนมา”
   “เคลียร์เรื่องหนี้สินนิดหน่อยครับ”
   “หือ?” ซันไม่รู้เรื่องหนี้สินอื่น ๆ ของตระกูลซ่งด้วยหรอก  เขามีอุดมการณ์ร่วมกับเพราะเฮียใหญ่เพียงอย่างเดียว “กับแสงน่ะเหรอ?”
   “ไม่ใช่ครับ...” ชายหนุ่มปฏิเสธทันควัน ก่อนจะเพิ่งนึกได้ “เอ่อ...แต่จะว่าไม่เกี่ยวก็คงไม่ใช่”
   “พูดอะไรวกวนหือ? เด็กน้อย”
   “อืม...” นเรนทร์ลูบปลายคาง  ความสงสัยผสมเคียดแค้นที่เก็บมาตั้งแต่เย็นทำให้อดจะถามออกไปไม่ได้ “เฮียแสงนี่เป็นคนยังไงเหรอครับ”
   “หา!?” ซันตาโต “ทำไมอยากรู้ล่ะ  อย่าบอกนะว่าแอบไปทำอะไรกันมาอีก!  ไอ้แสงมันข่มขู่ให้สมยอมใช่ไหม?  เจ๊ว่าแล้ว!  ไอ้นี่มันมักมากในกาม! ไอ้เฒ่าหัวงู”
   “เอ่อ...ไม่ใช่ครับเจ๊” พูดตามตรงมีแต่นเรนทร์นี่แหละที่ข่มขู่แสง “เดินเข้าไปใกล้เฮียยังไล่ตะเพิดผมเลยครับ”
   “ค่อยโล่งอกหน่อย” แน่นอนว่าง้างตบไอ้แสงไปแล้วไม่มีคืนคำ  ถือว่าโดนด่าฟรีไป “แต่ไหนว่าขู่ไม่ให้ยุ่งด้วยไง  ไอ้แสงมันยังกล้ามาตามทวงเงินอีกเหรอ”
   “สถานการณ์มันพาไปน่ะครับ  อา...จะเล่ายังไงดี” สีหน้าเจ๊ซันสนใจเต็มประดาขนาดนั้นถ้าไม่เล่าก็คงไม่ได้กลับบ้าน “ตอนนี้ผมทำงานที่ไซต์แถวห้องเฮียแสง  ก็เลยบังเอิญเจอกันบ่อย ๆ แล้วเฮียดันมาเจอผมตอนไปทวงเงินร้านพอดีก็เลยเข้ามาช่วยแนะนำวิธีทวงให้”
   “ไอ้แสงช่วย?”
   “แล้วก็จิ๊กเงินผมไป”
   “สารเลว!” ซันตบเข่าฉาด “ว่าแล้วเชียวคนอย่างมันจะไปช่วยใครฟรี ๆ”
   “แต่ไม่ต้องช่วยก็ได้ไงครับ  ผมเลยว่าแกแปลก ๆ” ว่าแล้วก็เครียดจนคิ้วขมวดเป็นปม “คนแบบนี้ก็มีเหรอครับ”

   นเรนทร์ไม่เคยคาดหวังกับใคร  เขาเหมือนไม้เกี๊ยะลอยน้ำ ไหลไปมาไม่ขึ้นฝั่งแต่ก็ไม่เคยจม  ดังนั้นจึงประหลาดใจกับเหตุการณ์ในวันนี้มาก  จะหักหลังหรืออะไรก็ช่าง แต่ช่วยก็คือช่วยไม่ใช่เหรอ?

   “เรนเอ๊ยลูก” คำถามน่าเอ็นดูจนซันอดจะลูบเส้นผมสีทองไม่ได้ แม้จะต้องเขย่งก็ตามที “เพื่อนบางคนเราก็ไม่อยากเสียเขาไปหรอกถ้าไม่จำเป็น”
   “.......”
   “แสงก็เป็นหนึ่งในนั้น” ทั้งที่หน้าสดไร้เครื่องสำอางใด ๆ แต่ใบหน้าของซันตอนเล่าถึงเพื่อนช่างดูมีความสุข “มันบ้าเนอะ ว่าไหม?”
   “ฮ่า ๆ ๆ นั่นสิครับ”

   สรุปว่าเป็นคนบ้าคนหนึ่ง....
   พอได้คำตอบแล้วก็เดินกลับบ้านด้วยหัวสมองกลวงโบ๋

   ห้องแถวแออัดอับชื้นคือที่ซุกหัวนอนอันแสนสุข  ลุงเจ้าของตึกเป็นเพื่อนกับพ่อจึงปล่อยเช่าในราคาถูกบรมหรืออีกแง่คือห้องมันแคบมากจนไม่รู้จะเอาอะไรไปแพง  ข้อดีอีกอย่างก็คือสองชั้นด้านล่างเป็นโกดังที่ลุงใช้เก็บเสื้ออันเป็นธุรกิจหลักของแก  นั่นเท่ากับว่าตึกหลังนี้มีนเรนท์อาศัยอยู่เพียงคนเดียว
เมื่อวานเขาเพิ่งขนขยะไปทิ้งจึงมีที่ให้ล้มตัวแบ้แผ่หลาบนพื้นสบาย ๆ  เรนชอบนอนบนพื้นเป็นที่สุดถึงจะปวดหลัง แต่ก็เย็นสบาย  เขาพลิกตะแคงมองถ้วยแก้วที่ใช้งานเมื่อครู่อย่างเกียจคร้าน
อา...ไม่อยากล้างจานเลยน้อ  มือเป็นแผลอยู่ด้วย
   พูดถึงแผลก็รีบยกมือขวาขึ้นมาดู  พังผืดระหว่างนิ้วโป้งและชี้ที่ฉีกขาดเมื่ออาทิตย์ก่อนสมานเข้าหากันบ้างแล้วทิ้งสะเก็ดแผ่นใหญ่ไว้รอคนมือบอนมาแกะเล่น  พอลองขยับนิ้วโป้งก็พบว่ามันเริ่มกลับมาแล้ว  ดูซิ! เป็นแผลที่อื่นจะไม่ว่าเลยแต่มนุษย์ที่ไร้นิ้วโป้งน่ะสูญเสียความสามารถในการหยิบจับสารพัดรูปแบบไปเลยนะ  ให้นิ้วอื่นด้วนไปเลยยังดีซะกว่า!
   โชคดีจริง ๆ ที่เก็บเงินก้อนนั้นมาได้เลยพอมีกินไปทั้งเดือน  พอคิดถึงเรื่องนี้ก็พลอยนึกถึงหญิงสาวที่น้ำตาคลอเพราะเขา  รู้สึกผิดก็ส่วนหนึ่ง แต่สิ่งที่วูบโหวงในอกนั่นกลับเป็นสิ่งอื่น

   ใจหาย....
   ต่อจากนี้คงไม่มีเหตุผลที่ต้องไปเจอเบลอีกแล้วสินะ

.........................................
..........................
..........
.....


   “ไอ้เวรนี่  บอกว่าไม่ให้ยุ่งกับโครงก็ไม่ฟัง  เดี๋ยวปั๊ดไล่ออกเลยนี่!”
   “แหม  ลุงบุญก็...  มันงานถนัดผมนี่นา”
   “ไป้! ไปทากาวห้องนู้น  จะติดลามิเนตแล้ว”
   “คร้าบ~”

   ลุงบุญขี้บ่นเหมือนเดิม  อย่างว่าแหละเนอะหัวหน้าที่ไหนไม่ขี้บ่นบ้างล่ะ  นเรนทร์ยักไหล่แล้วเดินเข้าห้องข้าง ๆ ไปโดยดี  เขาน่ะไม่ถนัดงานประณีตศิลป์อย่างติดลามิเนตเอาเสียเลย  ต้องมานั่งเล็งซ้ายขวาเลื่อนแล้วเลื่อนอีก  พอเห็นรอยต่อทีลูกค้าก็ไม่รับงาน  แถมมีโอกาสโดนตัดเงินเป็นกรณีพิเศษอีก  งานแบบนี้ใครจะไปอยากทำ!
   บ่นไปก็เท่านั้นรู้ตัวอีกทีไอ้หนุ่มผิวแทนก็นั่งยอง ๆ ทากาวบนบานเปิดตู้  กลิ่นสารเคมีทำลายจมูกแม้จะใส่แมสปิดปากไว้แล้ว  พอเรียบร้อยก็ตะโกนเรียกรุ่นพี่อีกคนมาช่วยวางแผ่นลามิเนตแทน
   เพราะร้างราการทำงานหนักมานานร่างกายจึงอ่อนเปลี้ยไปหมด  เรนเผลอเอนตัวหลับในห้องจนโดนหัวหน้าตามมาเขกกบาลถึงสองครั้ง  ปลุกผีขึ้นมาทำงานจนตะวันตกดิน

   “เรนเอ๊ย!” เสียงแหบทุ้มตะโกน “มาเอาเงินเร็ว”
   “ทันทีเลยครับลุง!” ลิ้นไม่ทันเข้าปากไอ้ลูกจ้างก็วิ่งดุ๊ก ๆ ออกมาแบมือ  กระดิกหางระริกระรี้จนบุญอยากจะริบคืน
   “หักไปห้าสิบบาทนะ  หลับครั้งละยี่สิบห้า”
   “ใจร้าย!”
   เหมือนจะพูดเล่นแต่หักจริง  นเรนทร์มองเงินที่ไม่เต็มจำนวนในมือแล้วส่งสายตาลูกหมาอ้อนวอน แต่ดูสีหน้าลุงแล้วเกรงว่าจะได้รอยตีนกลับมามากกว่า
   ชายหนุ่มยัดเงินลงกระเป๋ากางเกงช่วยทุกคนเก็บของนิดหน่อย  อย่างว่าแหละถ้าปล่อยอุปกรณ์เรี่ยราดคนในคอนโดจะไปฟ้องนิติฯ เอาได้ และแน่นอนจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก....

   “อ้าว!  แกจะไปไหนเรน” ทั้งที่แห่กันมายืนรอกันหน้าลิฟต์แล้ว แต่ไอ้ลูกจ้างคนหนึ่งกลับถลันเถลือกวิ่งกลับไปทางเดิม
   “ลุงกลับก่อนเลยครับ  ผมลืมของนิดหน่อย”
   “เออ  รีบลงไปล่ะ  เดี๋ยวมีคนไปฟ้องนิติฯ จะซวยเอา”
   “ครับ!”

   ตุบ ๆ ๆ  รองเท้าแตะกระทบพื้นเสียงดังไปทั้งชั้น  คนลืมของวิ่งฝ่าคราบฝุ่นเกรอะกรังพุ่งตัวไปที่บันไดหนีไฟ  ทันทีที่เปิดออกลมก็หวดเข้าหน้าวูบใหญ่  เส้นผมสีทองปลิวกระเซอะกระเซิงจนต้องทิ้งตัวลงนั่งข้างประตูเพื่อหลบทางลม
   เขาไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องมาที่นี่…  ก็แค่อยากมารับลม....ล่ะมั้ง?
   เรนถามตัวเองอีกครั้ง  หรือความจริงเขาหวังจะเจออะไรกันแน่?

   แกร๊ก...

   คิดไม่ทันแตกฉานกลอนประตูเหนือศีรษะก็ขยับหมุน  ในนาทีที่มันถูกผลักออกนั่นเองชายหนุ่มก็ได้รับคำตอบเมื่อครู่...

   แอ่ก!

   เต็ม ๆ หลัง...

   “เกะกะ” น้ำเสียงเรียบเฉยกลับทำเจ้าจิ้งจอกเผลอกระตุกยิ้มน่าขนลุก “ว่าแล้วเชียวว่าใครมันมาวิ่งเสียดัง  กำลังจะไป----”
   “ฟ้องนิติฯ” นเรนทร์ยักคิ้ว “ใช่ไหมครับเฮีย”
   อา...  แค่ขมวดคิ้วก็เหมือนมีคำด่านับล้านนับพันพุ่งใส่หัวนี่คงมีแต่เฮียแสงที่ทำได้ และก็มีแต่นเรนทร์ที่ยิ้มระรื่นให้ด่าอย่างเป็นสุข
   “ยังไม่หลบไปอีก” ไม่ว่าเปล่ายังขยับบานพับกุกกักกระแทกแผลเก่าเรนไปอีก  เด็กนรกจึงยอมแพ้ขยับตูดหลบไปอีกทาง  ทันทีที่ก้าวออกมาได้เสียงทุ้มก็เอ่ยบอก “เหม็นเหงื่อ”
   “ก็เพิ่งทำงานเสร็จนี่ครับ”
   แสงเดินหลบเข่าเกือบเกี่ยวหัวเด็กล้มฟาดพื้นแต่ก็มิได้นำพา  ขายาว ๆ ก้าวข้ามขึ้นขั้นบันไดไปด้านบนเพื่อดักต้นลม  เขาจะไม่ยอมดมกลิ่นเหงื่อเด็ดขาด ในขณะเดียวกันก็ไม่สนว่าไอ้เด็กเรนจะต้องรมควันบุหรี่หรือไม่  จัดว่าเป็นผู้ใหญ่ที่ไร้รับความรับผิดชอบต่อสังคม

“ถ้าจะมาขอเงินคืนบอกไว้ก่อนว่าไม่มี”
“ก็ไม่ได้คิดว่าจะมีสักหน่อย” เรนพูดอู้อี้ในแมส เพราะรำคาญเสียงตัวเองจึงดึงมันลงมากองที่ใต้คาง “แล้วเฮียเป็นไง  ได้หน้าเลยล่ะสิครับ”
“ก็พอควร” แสงตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมาพลางยกบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นใส่ปาก “ได้เปอร์เซ็นต์ด้วยนะ”
“โอ้โห อิจฉาจัง” เงินกูทั้งนั้น  นั่งตอกตะปูแทบตายเฮียเอาไปใช้หน้าตาเฉย “งั้นเลี้ยงข้าวเย็นผมหน่อย”
“เรื่องสิ  กว่าจะได้มาเหนื่อยแทบแย่”

วินาทีนั้นเขาเผลอคำนวณองศาการโยนคนลงจากตึก...

เพราะนเรนทร์เงียบไปแสงจึงลอบมองชายหนุ่ม  ไอ้เด็กซ่งอยู่ในสภาพยับเยินเอาเรื่อง  เสื้อยืดสีเทาชุ่มเหงื่ออย่างชัดเจน  แถมใบหน้าก็มันมะเมื่อมเหมือนทาน้ำมันมวย  ขนาดไม่ได้กลิ่นยังรู้ว่าเหม็นเหงื่อขนาดไหน
กระนั้นก็ยังมีเสน่ห์อย่างประหลาด...
ใบหูที่หมุดแทงเลอะเทอะ  ปลายคางที่มีหน้ากากอนามัยกองอยู่  รายละเอียดเล็กน้อยเหล่านั้นทำให้นเรนทร์ไม่เหมือนใคร....
เพราะมันบ้าไง....

คนบ้าสองคนสบตากันจนกระแสไฟฟ้าแล่นเปรี๊ยะ ๆ  แสงที่อยู่ด้านบนเริ่มแผ่ออร่าเจ้าถิ่นก้มมองผู้บุกรุกที่ปลายเท้า  เขาถามด้วยเสียงเย็นเยียบ “มาทำอะไรตรงนี้”
“ไม่รู้สิ” ไอ้เด็กซ่งจ้องกลับ “อยู่ ๆ ก็อยากเจอเฮีย”
“หา!? ประโยคเหมือนจิ๊กโก๋บ้านนอกจีบสาวนั่นมันอะไรวะ”
   “อ่า...ไม่รู้สิ”
   “แกพูดว่าไม่รู้สองครั้งแล้ว”
   “เหรอครับ อ้า~” นเรนทร์ยกมือขยี้เส้นผมสีทองจนยุ่งเหยิงราวกับหาที่ระบายไม่ได้แม่งก็ลงหัวตัวเองมันเนี่ยแหละ “แต่อยากเจอเฮียจริง ๆ นะ...”

   หน้าเฮียแสงเหยเกอย่างกับเห็นผี  อะไรเล่าพูดความจริงก็ไม่ได้เหรอ!  ก็เขาไม่รู้จริง ๆ นี่นาว่าทำไมถึงอยากมาเจอ  รู้แค่ว่าถ้าอยู่กับเฮียแสงแล้วพ่นเรื่องราวบ้าบอนับพันทางนั้นจะด่ากลับมาให้เขาสบายใจ  อ๊ะ! ใช่แล้ว...

   “เฮียด่าผมหน่อยสิ”
   “อะไรของแกอี๊ก!”
   “ไม่รู้จะด่าอะไรใช่ไหมล่า  เอางี้เดี๋ยวผมเล่าเรื่องผมให้ฟังแล้วเฮียด่ามานะ”
   “โดนฟาดจนสมองบวมหรือไง”
   “เมื่อคืนก่อนน่ะ...” ถามว่านเรนทร์มันเคยฟังที่ผู้ใหญ่พูดไหม “หลังจากที่เฮียขโมยเงินผมไป”
   “ไม่ได้ขโมย  มันเป็นของฉันแต่แรก  จำใส่สมองกลวง ๆ ของแกไว้ซะ”

   อ๊ะ! ด่าแล้ว

   เรนเผลอดีใจจนเนื้อเต้น  สีหน้าตอนนั้นเล่นเอาแสงขนลุกซู่  นี่กูไปโดนสวิตช์อะไรมันเข้าล่ะนี่....
   “ตอนนั้นผมก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าจะไม่ได้เจอเบลอีกแล้ว” ขายาว ๆ เหยียดออกจนสุด  นเรนทร์ทิ้งศีรษะพิงประตูไว้คล้ายกับหมดแรง “พอคิดแบบนั้นก็ใจหายขึ้นมาเลยล่ะ”
   พื้นเหล็กของบันไดหนีไฟเย็นยะเยือก  ประกอบกับท้องฟ้าสีเทาทำบรรยากาศหม่นหมองลงไปทันตา  ชายหนุ่มเขย่าขาเหมือนเด็กซุกซน ทว่าแววตากลับเศร้าสร้อย
   “ตอนแรกที่ผมเห็นหน้าเธอวันนั้น  แวบแรกมันสะใจชะมัด  ฮะ ๆ  คิดว่ายิ้มหวานให้แล้วผมจะหลงเชื่อทุกครั้งเหรอ  คบกันมาตั้งกี่ปีจะหลอกทั้งทีหัดใช้วิธีอื่นซะบ้างสิ” ริมฝีปากบางคลี่รอยยิ้ม “เฮียรู้อะไรไหม  เบลน่ะชอบช้อนตามองเวลาขออะไรจากผม  เขาเรียกว่าอะไรนะ?  ใช้ส่วนสูงให้เป็นประโยชน์”
   “ฉันไม่ได้ชอบผู้หญิง  ไม่เข้าใจไอ้ความน่ารักแบบนั้นหรอก” คนฟังตอบอย่างเฉยชา “แกยังรักเขาอยู่หรือไง”
   “ไม่รู้สิ แต่ก็ไม่ได้อยากกลับไปคบหาด้วยนะ แค่....ใจหายนิดหน่อย” เรนถอนหายใจ “เหมือนเวลาย้ายโรงเรียนแล้วเกิดนึกขึ้นมาได้ว่าจะไม่ได้เจอเพื่อนคนนั้นอีกแล้วสินะ  อ๊ะ! ใช่แล้วเขาเรียกว่าผูกพัน!”
   “หือ”
   “ใช่...ผูกพัน  ถึงไม่ได้รักแบบนั้นแล้วก็ใจหายอยู่ดี”

   เด็กประหลาด...
   คิ้วรกขมวดเข้าจนเป็นรอยบุ๋มขณะจ้องมองร่างด้านล่าง  นเรนทร์ดูนิ่ง ๆ แต่ก็ไร้ความกังวลบนใบหน้า  ถ้าให้เปรียบก็คงเหมือนนกขาหักที่ยังบินต่อโดยไม่ร้องโอดครวญเลยสักแอะ  ทั้งที่ผู้หญิงคนนั้นหลอกให้มันรอเงิน แถมยังเสี่ยงตายไปโดนยำตีนอีกเนี่ยนะ
   “แกไม่โกรธสักหน่อยเหรอ”
   “โกรธทำไมอะ” ชายหนุ่มถามอย่างใสซื่อ “ผมไม่เคยคาดหวังอะไรจากเธอตั้งแต่แรกแล้วนี่นา”
   
   ถ้าไม่แปลกก็เรียกว่าสมองกลวงแล้วกัน...

   “อ๊ะ! แต่มีเรื่องน่ายินดีอย่างหนึ่งนะครับ” ไม่รอให้แสงถาม  มันเล่าต่อทันที “ปกติผมแพ้เวลาเบลอ้อนตลอดเลย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ผมชนะเธอได้! เพราะเฮียแท้ ๆ เลย”
   “ฉันไปเกี่ยวอะไรด้วย”
   “ตอนง่อยเปลี้ยกำลังจะแพ้พอนึกขึ้นได้ว่ากลับไปต้องโดนเฮียด่าแหงม ๆ  ผมก็เลยฮึดสู้ขึ้นมา!” เรนชูสองนิ้วท่าทางปัญญาอ่อนสิ้นดี “แล้วก็ชนะด้วย ฮี่ ๆ”
   “หึ” แสงพ่นลมออกจมูก เกือบสำลักควันอยู่เหมือนกัน “แกเห็นฉันเป็นคลับฟรายเดย์หรือไง”
   “ฮ่า ๆ ๆ” มันยิ้มระรื่น “เท่านี้ก็ไปต่อได้แล้ว”

   เขาเห็นตัวเองในดวงตาไอ้เด็กนั่น...
   ...แต่เป็นแสงเมื่อหลายสิบปีก่อน


   ความรักที่ไม่สมหวังครั้งแรกนั้นยังสวยงาม  ทว่าเมื่อมันซ้ำแล้วซ้ำเล่าหัวใจก็พลันด้านชาไม่รู้รสรัก  ยิ่งกับผู้ชายด้วยกันยิ่งไม่เห็นปลายทางของความสัมพันธ์  ราวกับเพียงพบเจอเพื่อเสพรสหวานจนจืดจางแล้วก็แยกจากไปเรื่อย ๆ

   “เด็กเอ๊ย”
   “ยี่สิบสี่แล้วนะครับ  อ๊ะ! แต่ถ้าเทียบกับเฮียก็ถือว่าเด็กแหละเนอะ”
   “เด็กเปรต” การด่าพัฒนาไปสู่อีกขั้นอย่างรวดเร็วจนนเรนทร์ทนไม่ได้  เดินไปเกาะที่ขั้นบันไดทำท่าจะจู่โจม “หยุดตรงนั้นเลย!”
   “หา?”
   “กฎข้อแรก” เจ้าถิ่นพ่นควัน “ห้ามขึ้นบันได  ฉันไม่อยากได้กลิ่นเหงื่อแก”
   “โอ้โห นี่ผมโผล่มายุคศักดินาเหรอ” ปากบ่นแต่มันก็ล่าถอยขยับกลับไปโดยดีพร้อมกับยกมือยอมแพ้ “โอเค ไม่ขึ้นบันไดก็ได้ แต่ช่วยทำอะไรสักอย่างที่มนุษย์ยุคปัจจุบันเขาทำกันหน่อยได้ไหมครับ”
   “อะไร”
   “ผมชื่อเรน”
   “ฉันรู้”
   “ไม่ได้ชื่อแกสักหน่อย”
   “เรื่องนั้นไม่จำเป็นต้องใส่ใจ  เผื่อจะลืมว่าฉันแก้ผ้าอยู่ในมือถือแก” น้ำเสียงนั้นเรียบเฉย “ดังนั้นไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องพูดจาดีด้วย”
   “ใจร้าย!  ผมออกจะนับถือเฮียนะ”
   “ถ้างั้นก็ลบคลิปสิ”
   “แต่รักตัวเองมากกว่า”

   เปรี๊ยะ...  ลำแสงจากดวงตาปะทะกันกลางอากาศ  ไม่ไหว ๆ เผลอคิดไปว่าไอ้เด็กนี่มันใสซื่อได้ยังไง!  อย่างน้อยแสงตอนอายุเท่ามันก็ไม่อัดคลิปไว้แบล็คเมล์ใครแน่นอน

   “นะเฮีย”
   “เฮียห่าอะไรนักหนา ไม่ใช่คนจีน”
   “อ๊ะ! เอางี้ดีไหม” คนแซ่ซ่งดีดนิ้ว “มาแลกกัน  เฮียเรียกชื่อผม แล้วผมจะเรียกเฮียว่าลุงแสง”

   โอ้โห! เท่าเทียมกันมาก  ไม่ฉลาดจริงคิดไม่ได้เลย!

   “ทำหน้าแบบนั้นหมายความว่าไง  จะให้ลดลงมาถึงพี่แสงเลยเหรอ  เฮียไม่คิดว่าแก๊ปมันมากไป?”
   แม่งขยี้ตรงจุดเลยเว้ย!
   “แล้วแกล่ะ!  ผู้ชายบ้าอะไรชื่อเรน”
   “อ้าว! พูดงี้เฮียไม่เคยฟังเพลงเกาหลีอะดิ  พี่เรนไง! พี่เรนที่ฉีกเสื้อ อ้าส์~”
   “ขอร้องอย่าทำท่าประกอบ” คนแก่ยกมือห้าม  อยู่ ๆ แม่งมาถลกเสื้อขึ้นไม่ได้น่าดูเลยสักนิด  ดีนะไม่ฉีกจริง “รู้จัก แต่ไม่คิดว่าใครมันจะตั้งชื่อลูกชายแบบนี้”
   “นี่ไม่ได้หลอกด่าพ่อผมใช่ไหม” ว่ากันตามตรงถึงเฮียด่าเรนก็ไม่ตกใจแล้ว “นเรนทร์น่ะแปลว่าพระราชาเชียวนะ  แสดงว่าจะเป็นเจ้าคนนายคน  มีอำนาจยิ่งใหญ่ แล้วก็...เดี๋ยว ๆ เฮียจะไปไหน  ฟังกันก่อนเซ่!”
   “ฉันไม่ได้ว่างมาฟังแกพูดเรื่องไร้สาระนะ” แสงเดินเลี่ยงร่างอีกฝ่ายตรงไปยังประตูเหล็ก “แล้วก็รีบลงไปได้แล้วก่อนที่ฉันจะโทรเรียกยามมาลากลงไป”
   “โห!  ใจร้ายชะมัด  อยู่คุยกับผมก่อนสิเฮีย  เฮี้ย!  เดี๋ยวสิ!  อย่างน้อยก็ช่วยลงไปส่งผมหน่อย  เดี๋ยวลุงยามจับได้ว่าออกงานไม่ตรงเวลานะ!”

   แน่นอนว่าคนเลือดเย็นอย่างเฮียไม่ได้ชายตาแลสักนิดเลย  นเรนทร์มองแผ่นหลังกว้างค่อย ๆ หายเข้าไปหลังบานประตูพร้อมเสียงคำรามหงุดหงิด


   “เข้ามาได้ก็ออกไปให้ได้แล้วกันไอ้เรน”

   ปัง!

‘ไอ้เรน’ เผลอยกมือขึ้นกุมอก
   อ๊ะ...เผลอกระตุกขึ้นมาวูบหนึ่งเลยแฮะ...


TBC


สั้นเนอะ  รู้ตัวค่ะเลยชิ่งพูดก่อนเลย 5555555
เริ่มขยับเข้ามาทีละนิดแล้ว  หนทางแห่งรักอยู่ไม่ไกลแล้วค่ะ  มองไปที่เส้นขอบฟ้านั่นสิคะ....
น้องเรนน่าเอ็นดูเนอะ  นี่เขียนเองอวยน้องเองค่ะ แงงงงงง้  เด็กอะไรน่าตีแบบนี้  อาแสงไม่เลี้ยงเดี๋ยวเจ๊เลี้ยงเองค่ะ 5555
ฝากเอ็นดูน้อง และหมั่นไส้เฮียแสงด้วยนะคะ  แล้วเจอกันตอนหน้าจ้า
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
อย่าว่าคนบ้า 2 คนเขาคุยกันเลย  คนอ่านเรื่องนี้ก็เริ่มจะคล้าย 2 คนนั้นเข้าไปทุกที ณ จุดๆนี้ ...

แค่เรนอยากมาเจอเฮีย อยากได้ยินเฮียด่า ... เรนผิดตรงไหน??  เฮียนี่เข้าใจอะไรยากแท้ 55555

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
นุ้งเรนน่าตีมากเลย บังอาจเรียกเฮียแสงว่าลุง!!!

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1691
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
เริ่มชอบเฮียแล้วล่ะซี้

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
มีความหวั่นไหวเกิดขึ้นรึเปล่าน๊าาา

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ทำไมเราเขินๆแปลกๆ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ตลกทอล์คของคนเขียนค่ะ หนทางแห่งรักอยู่ไม่ไกลแล้วค่ะ  มองไปที่เส้นขอบฟ้านั่นสิคะ.... ต้องมีจุดต่ออีกสักหน่อยด้วยนะ ฮา

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
สารภาพเลยว่า.....
รู้สึกว่า กูคงบ้าพอ ๆ กับเฮียแสงกะนุ้งเรน ถึงได้อ่านไปฟินไป

กร๊ากกกกกกกก

ออฟไลน์ jaja-jj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 548
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
น่าเอ็นดูไรจะขนาดนี้คะ ตลกมัน 55555

ออฟไลน์ todiefor

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
ถึงจะด่าทุกเม็ด แต่ทำไมรู้สึกกร๊าวๆ คันในหัวใจเบราๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด