ไม่มี ✖ ไม่หนี ✖ ไม่รัก [UP! Santa Baby 25/12/61] p.33
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ไม่มี ✖ ไม่หนี ✖ ไม่รัก [UP! Santa Baby 25/12/61] p.33  (อ่าน 263369 ครั้ง)

ออฟไลน์ Windiizz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ลุงงงงง ทำไมซึนนนน นี่นึกถึงตอนแสงบอกเมียโทรมาแล้วกรี๊ดมากกก 55555555

ออฟไลน์ Indigo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1030/-7
ทวงครั้งที่ 13

   เรนย้อมผมทองมาได้สี่ปีนับตั้งแต่ลาออกจากมหา’ลัย
   เขารู้ว่ามันฉูดฉาด  ไม่สุภาพ แถมยังดูเป็นเด็กแว้น
   แต่ก็ไม่เคยมีใครทักเรื่องไม่ย้อมคิ้วเปล่าวะ....

   “อืม....” ชายหนุ่มตรงหน้ากระจกถูเส้นขนเหนือเปลือกตาไปมา  สีของมันดำสนิทตัดกับเส้นผม แต่ก่อนก็ไม่เคยคิดว่าเป็นปัญหา แต่พอโดนทักเข้าดันเสียเซลฟ์สุด ๆ  ลองหรี่ตามองก็เห็นมันลอยเด่นเป็นสง่า
   ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาคิ้วลอยมาได้สี่ปีแล้ว  แม่งไม่เห็นมีใครเตือนเลย  เอ๊ะ!  แต่พอลองคิดกลับกันแบบนี้แสดงว่าคนเตือนมัน ‘ไม่ปกติ’ หรือเปล่า?
   จะปกติได้ยังไงเล่า  อารมณ์แปรปรวนซะขนาดนั้น  ไม่รู้ว่าวัยทองหรือเปล่า

   ถึงแบบนั้นก็ชอบไปแล้วนี่นา.....

   ถุย!  ฟองยาสีฟันสีขาวพ่นลงในอ่างล้างหน้า  นเรนทร์มองฟองฟ่อดไหลเอื่อยลงรูอย่างเงียบสงบ  ราวกับฝึกสมาธิเพ่งการไหลของกระแสวารี และแม้ว่าจะตั้งสมาธิได้ดีเพียงใดภาพเมื่อคืนก็ยังฉายชัดอยู่ในสมอง
   เฮียแสงกอดเขา...
   กอดแบบที่ไม่มีความหมายซับซ้อน  เอาหน้าซุกบ่าสูดกลิ่นฟุดฟิด  ก่อนจะผละออกราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น  เรนก็อยากจะแปลกใจอยู่นะ แต่เฮียแกก็เชี่ยวชาญเรื่องหลอกเด็กผู้ชาย  อาจจะเผลอไผลเพราะห้องมืดหรือไม่ก็หาคนมีเซ็กซ์ด้วยไม่ได้  ช่างเหอะ...





   ยังไงก็กำไรกูล่ะ...
   หึ หึ หึ  เสียงหัวเราะในลำคอลอดออกมาหลังบ้วนปากเสร็จ  พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นหมาจิ้งจอกสะท้อนบนกระจก  แหม...นึกแล้วยังเสียดายที่มัวแต่ช็อก  เลยไม่ได้ดมหัวเฮียแสงกลับ แต่เอ๊ะ! กลิ่นน้ำหอมฉุนขนาดนั้นไม่ดมก็ดีแล้ว
เฮียนี่ก็ประหลาดแท้  เวลาเปิดจังหวะให้ลวนลามก็ไม่ทำแถมด่าซ้ำอีก  แต่พอเขาเผลอดันมาเล่นงานซะงั้น  คนหน้าด้านที่ไม่ได้เตรียมใจมาก็ก่อนก็อ่อนเป็นขี้ผึ้งลนไฟพอดีน่ะสิ  แถมยังมาจับใบหูอันเป็นจุดอ่อนไหวของเขาอีก  สารภาพเลยว่าตอนนั้นเขินแทบแย่  ถึงจะจบด้วยการไล่ไปย้อมคิ้วก็เถอะ
ใจร้ายจังน้า~
   ซ่า...  ฝอยน้ำจากฝักบัวปลุกเด็กซ่งให้ตื่นจากฝันหวาน  เรนยื่นใบหน้าเข้าหาจนเส้นผมเปียกลู่ลงข้างแก้ม  เขาเป็นคนไม่พิถีพิถันกับการอาบน้ำ  แม้แต่ครีมนวดผมยังไม่ค่อยใช้เลยด้วยซ้ำ  ดังนั้นภารกิจในห้องน้ำแค่สิบนาทีก็เหลือเฟือแล้ว
   ห้องนั่งเล่นเงียบสงบไม่เห็นเงาเจ้าของห้อง  วันนี้เฮียแสงสลบยาวอีกเช่นเคย  กว่าจะตื่นก็คงเก้าโมงสิบโมง หรือไม่ก็รอไอ้พี่ถังมายิงตะปูแถวหัวเตียงปลุก  นเรนทร์เริ่มชินกับกิจวัตรประจำวันของเฮียแล้วล่ะ
   คำว่า ‘ชิน’ นี่น่ากลัวชะมัด แต่นเรนทร์เชื่อว่าคนปรับตัวเก่งเยี่ยงจิ้งจกอย่างเขาพร้อมจะ ‘ชิน’ กับหลายสิ่งไปเรื่อย ๆ  พอคุ้นเคยสักพักก็เปลี่ยนแปลง  มนุษย์ก็แบบนี้ล่ะนะ
   ดังนั้นตอนนี้ก็ช่างมันก่อนแล้วกัน

   แกร๊ก...

   กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ ขณะยัดหัวเข้าเสื้อบานประตูกระจกก็ถูกเลื่อนออก  แน่นอนว่าจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากสิ่งมีชีวิตวัยทอง
   “โอ๊ะ!  ทำไมเฮียตื่นเช้าจัง” นเรนทร์ทักทั้งที่ท่อนล่างมีแค่กางเกงในตัวเดียว  ช่างเหอะน่า...ตอนเพิ่งตื่นเฮียจะเบลอ ๆ จนกว่าจะได้ล้างหน้าแปรงฟัน  ระหว่างนี้ทำอะไรก็ได้
   “อื้อ” เสียงครางตอบในลำคอแหบแห้ง  สภาพแสงจัดว่ายับเยินประมาณหนึ่ง  ผมเผ้ารุงรัง  หน้ามีรอยผ้า  แถมเปิดดวงตาได้เพียง 1 ใน 3  ไม่แน่ตอนนี้อาจเห็นเรนเป็นเงาดำเท่านั้น
   คนเด็กกว่าสะบัดกางเกงขาสั้นแล้วดึงขึ้นสวม “ผมยังไม่ได้อุ่นข้าวต้มให้นะ  คิดว่าเฮียจะตื่นสายกว่านี้  งั้นเดี๋ยวไปอุ่นให้นะครับ”
   แสงส่ายหัวหงึก ๆ ให้เด็กมันเดาใจไม่ถูกไม่อีก “เฮียหมายถึงยังไม่กิน?”
   รอบนี้ผงกหัว  โอ๊ะ! เดาถูกด้วย  สงสัยตื่นมาชิ้งฉ่องล่ะมั้ง “เชิญเลยครับ  ผมใช้ห้องน้ำเสร็จแล้ว”
   “ไม่....” ดวงตาขยับเปิด 2 ใน 3 แล้ว “ไม่ได้ปวดฉี่”
   “แล้ว....”
   “มานี่ซิ” ให้ตายเหอะ  ขนาดเบลอยังชอบออกคำสั่งสมเป็นเฮียแสงชะมัด  น้องเรนเด็กดีจึงสาวเท้าเข้าไปใกล้อย่างว่าง่าย “วันนี้ฉันมีนัดคุยงานกับเพื่อนตอนเย็น”
   “เพื่อนจริงอะ” คนแซวยิ้มเผล่
   “เพื่อน” เพราะสมองยังตื่นไม่เต็มที่ไอ้เรนเลยรอดปากเหยี่ยวไปได้หวุดหวิด “คืนนี้กลับดึกนะ  ไม่ต้องรอ”
   “เฮียตื่นเพื่อมาบอกแค่นี้อะนะ?”
   “ไม่ใช่....”

   ตุบ...  มือใหญ่วางลงบนหัวชายหนุ่ม  ขยี้เส้นผมเปียกชื้นจนยุ่งเหยิง

   “ตั้งใจทำงานล่ะเรน”

   ครืด....

   ห้องนอนถูกปิดไปแล้ว  ทิ้งไว้เพียงสีแดงบนหน้าใครอีกคน
   นเรนทร์ยกมือลูบใบหน้า  ทั้งที่เพิ่งอาบน้ำ แต่มันกลับร้อนผ่าว

   แย่แล้ว  เมื่อกี้มันอะไรน่ะ.....

……………………………………
…………………………
……….
…….


   “มาเก็บงานคร้าบ~”
   “เข้ามา ๆ” ลุงรปภ.เชิ้ตฟ้าโบกมือเรียก “บัตรประชาชนด้วย”

   ช่างส่งบัตรให้อย่างไม่มีอิดออด  นเรนทร์ย้ายมาเก็บงานที่นี่ได้หลายวันแล้ว  สลับกับทำงานที่คอนโดเฮียแสงบ้างเพื่อให้มีเงินหมุน  เก็บงานยังไงก็ต้องใช้เงินอยู่ดี  อดทนไว้!  เบิกเป็นก้อนเมื่อไหร่จะได้ลืมตาอ้าปากกับเขาบ้าง
   ชายหนุ่มเท้าแขนลงกับโต๊ะไม้มองลุงจดหมายเลขลงบนกระดาษก่อนจะส่งบัตรแขวนคอมาให้หนึ่งใบ “เหมือนเดิมนะ  ห้ามเสียงดัง  ทำได้ถึงห้าโมง”
   “ครับผม”
   ป้ายสีน้ำเงินแกว่งไปมาตรงหน้าท้องขณะเจ้าตัวก้าวขาเข้าไปในตรอกทางเดินแคบ ๆ  สถานที่เก็บงานของวันนี้คือห้องแผนกบัญชีของบริษัทชื่อดัง  ตามสัญญาพ่อเขาทำบิวด์อินให้สี่ห้อง  แบ่งเป็นสามงวด  สองงวดนั่นเรียบร้อยไปตั้งแต่พ่อยังอยู่ แต่ไอ้ก้อนที่สี่นี่สิ  ดึงแล้วดึงอีก  ดึงจนพ่อตายของแท้
   แต่ก่อนเคยรุ่งเรืองเป็นผู้รับเหมาจ้างช่างมาทำงาน  ตอนนี้นเรนทร์ต้องผันตัวเองมาทำงานช่างแทนแล้ว  เก็บงานรอบนี้จึงมีเขาเพียงหนึ่งชีวิต  หิ้วเครื่องมือเดินดุ่ม ๆ ไปเคาะประตูขออนุญาตอย่างสุภาพ
   พนักงานบัญชีบึ้งตึงใส่เขาทุกคน  ส่วนใหญ่เป็นสาวที่หน้าตาหงุดหงิดเหมือนเป็นวันนั้นของเดือน  ยิ่งเวลาถามว่าเงินจะออกเมื่อไหร่นี่แทบจะแดกหัวเข้าไป  เอาเถอะ...แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน  ทำเหมือนเขาเป็นธาตุอากาศไปเลยยิ่งดี

   “โต๊ะพี่ขอบมันถลอกอะ  เก็บสีให้ด้วยนะ” อาเจ๊ที่เรื่องเยอะที่สุดเดินมาบอกทันที  เรนพยักหน้ารับแต่โดยดีแม้จะแอบค้านในใจว่างานเสร็จเป็นชาติแถมผ่านการใช้งานแล้วถลอกมันไม่ใช่หน้าที่เขาต้องเก็บเลยสักนิด  รอบก่อน ๆ ที่มาห้องอื่นก็มีแต่เรื่องจุกจิก  โต๊ะที่วางของหนักจนทรุด  หลอดไฟขาด  ขาเก้าอี้เอียงเพราะมึงนั่งโยก และนั่นกูก็ไม่ได้บิวด์ด้วย  ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิดจึงตอบกลับไปว่า...
   “ได้เลยครับ”
   มุมปากกระตุกยิก ๆ  ขณะเดินตามเจ้าหล่อนไปที่โต๊ะ  อดทนไว้ไอ้เรนเรื่องงี่เง่าจุกจิกยังไงลูกค้าก็คือพระเจ้า  ยิ่งกับบัญชีที่มีอำนาจในมือจะดึงเรื่องเขาทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้....ทางที่ดีประจบไว้ก่อนดีกว่า
   วันนี้นเรนทร์ถูกเรียกไปเก็บสีโต๊ะสิบตัว  ซ่อมขอบตู้เก็บของ  ยิงซีลีโคนขอบกระจก  เดี๋ยวคลานเดี๋ยวยืนจนหน้ามืดไปหลายที  ระหว่างกำลังมองหาที่ทางต่อไปบานประตูด้านหน้าก็ถูกผลักเข้ามา

   “สวัสดีค่ะพี่ลิต”
   นเรนทร์หูผึ่ง  ใจเต้นโครมคราม  ชื่ออันคุ้นหูทำเอาชายหนุ่มรีบเงยหน้าขึ้น  เป้าหมายเป็นคนเดียวกับที่คิดไว้เลย
   “สวัสดีจ้า” ผู้มาเยือนคือชายหนุ่มผู้มีดวงตาเจ้าชู้ “ส่วนของวันนี้เสร็จหรือยังเอ่ย”
   “สักครู่นะคะพี่ลิต  เดี๋ยวยกไปให้ที่โต๊ะเลยค่า”
   “อย่าช้านะครับคนสวย” ร่างนั้นถอยหลังกลับมาก่อนจะพบว่ามีใครอีกคนยืนอยู่ด้วย  ชายหนุ่มผิวแทนถือกล่องอุปกรณ์ช่างเต็มสองมือ “อ้าว!  เรนมาเก็บงานเหรอ”
   “สวัสดีครับพี่ลิต” แม้จะลำบากแต่ช่างก็ยอมวางของแล้วยกมือไหว้ครบสูตร  หากสะดวกคลานเข่าเรนก็ยอมทำ
   “พอดีเลย  พี่มีเรื่องจะคุยกับเรา  ออกมานี่ซิ”

   นเรนทร์หางกระดิกกองข้าวของแล้วเดินตามเหมือนหมาน้อยทันที  จะอะไรซะอีกก็ ‘ชลิต’ นี่ไงเล่าลายเซ็นที่เขาต้องล่าเพื่อเงินก้อนสุดท้าย  มาเก็บงานหลายวันก็เจอบ้างไม่เจอบ้าง  วันนี้โชคดีชะมัดเรียกมาคุยแบบนี้อาจจะบอกให้ทำเอกสารมาให้เซ็นก็ได้
   ชลิตเป็นหนุ่มวัยสามสิบต้น ๆ ที่ดูดีทั้งหน้าตาและตำแหน่ง  เขาเตี้ยกว่าเรนประมาณแปดเซนติเมตรแถมยังตัวเล็กกว่า  ผิวขาวอย่างผู้ดีนั่งห้องแอร์  มีกลิ่นน้ำหอมติดตัวพร้อมดวงตาเจ้าชู้กรุ้มกริ่ม  ไม่บอกก็รู้ว่าเป็นคนนิสัยยังไง  เดินเข้าแต่ละแผนกสาว ๆ ก็วี้ดว้ายกระตู้วู้กันใหญ่

   “เก็บงานเสร็จหรือยังล่ะเรา”
   “เสร็จแล้วครับ” พูดตามตรงก็เสร็จตามรายการที่ให้ทุกวัน แต่มันงอกออกมาเรื่อย ๆ ถ้าโดนเรียกไปตัดหญ้าหรือดูดส้วมเรนก็ไม่แปลกใจแล้ว “พี่ลิตเซ็นใบส่งมอบงานให้ผมได้ไหมครับ”
   “อืม...” ชลิตลูบปลายคาง “คงต้องขอตรวจงานอีกทีนะครับ  ไว้พี่จะนัดทีมตรวจให้  พอดีช่วงนี้เขาไม่ค่อยว่างเลย”
   “พี่ลิตช่วงเร่งให้ผมหน่อยได้ไหมครับ” เมื่อถูกปัดเรื่องนเรนทร์ก็เข้าเลียแข้งเลียขา “งวดสุดท้ายมันข้ามมาเป็นปีแล้วนะครับ  เซ็นให้วางบิลรอบนี้ทันได้ไหมครับ”
   “พี่เข้าใจเรานะ” ทางนั้นตบบ่าเรนปุ ๆ “แต่มันก็ต้องเป็นไปตามระบบน่ะ  พี่ก็ทำอะไรข้ามหน้าข้ามตาไม่ได้  เอาเป็นว่าจะช่วยเร่งนัดคนตรวจงานให้แล้วกันนะ”
   “ขอบคุณมากครับ”

   ประโยคสวยหรูนั่นทำนเรนทร์ใจชื้น  ที่หมายมั่นไว้ว่าจะปิดหนี้เฮียอู๋ภายในเดือนนี้คงไม่ไกลเกินเอื้อมแล้วมั้ง  ดีใจจนเนื้อเต้นรีบยกมือไหว้อีกฝ่ายรัว ๆ

   “เรานี่ก็ลำบากนะ  พ่อดันมาเสียไปอีก”
   “เนอะครับ  เพราะงั้นพี่ลิตต้องช่วยผมด้วยนะ” เรนก้มหน้าส่งสายตาอ้อนวอน “ถ้าได้ภายในเดือนนี้จะดีมากเลยครับ”
   “ไม่รับปากแล้วกันนะ  เอาเป็นว่าจะพยายามแล้วกัน” ทางนั้นคลี่ยิ้มสุภาพ “ยังไงพี่ขอตัวก่อนนะ  ถ้านัดได้จะโทรไปแล้วกัน”
   “ครับ”
   รองเท้าหนังขยับไปสามก้าวก่อนจะงะชัก  ชลิตหันกลับมา “เออนี่เรน...”
   “.......”
   “พี่ชอบเที่ยวนะ”
   “ครับ?” นเรนทร์ขมวดคิ้ว
   “ไม่มีอะไร  กระจกที่ห้องทำงานพี่เหมือนจะหลุด มายิงซีลีโคนให้หน่อย”

   มันไม่ใช่งานผมสักหน่อย....

   เรนกลืนคำนี้ลงคอก่อนตัดสินใจทำเรื่องนี้ให้มันจบ ๆ ไป...

   “ครับผม”


…………………………………………..
………………………….
………..
…….


   “แกจะถูกฟ้องล้ม?”
   “หนี้บัตรเครดิตน่ะ”
   แสงสบตาคนนั่งฝั่งตรงข้ามแล้วเหลือบมองหมายศาลในมือ  วันที่ในเอกสารคือเมื่ออาทิตย์ก่อน “โทรไปประนอมหนี้แล้วหรือยัง”
   “ยัง” คนตอบหลุกหลิก “ฉัน....ไม่กล้า”
   “คุยซะ” ทนายสั่งราวกับเป็นเรื่องง่ายดาย “ฉันถามแกก่อนว่าคิดจะล้มไหม หรือจะปิดหนี้”

   ‘ยศ’ ไม่ตอบ  เอาแต่กุมขมับก้มหน้ามองโต๊ะ  แสงเองก็ขี้คร้านจะเร่งเร้าเลยปล่อยให้เพื่อนจมกับความคิดไป  ยศเป็นเพื่อนที่เจอในบาร์ซันไชน์  ค่อนข้างคุยกันถูกคอประมาณหนึ่ง  เมื่อหลายปีก่อนยศแต่งงานจึงไม่ได้มาที่บาร์อีก  เห็นว่ามีลูกคนหนึ่งด้วยมั้ง
   ชีวิตเกย์ที่อายุเริ่มเยอะมันก็มีอยู่ไม่กี่แบบล่ะนะ....
   เห็นมันโทรมาก็นึกว่าจะมีเรื่องอะไร  ถ้าไม่ลำบากคงไม่ได้เจอกันหรอก  ดูท่าจะเครียดหนักถึงได้โทรเร่งตลอดจนแสงลืมหยิบมือถือที่ชาร์จแบตมาด้วย  โชคดีที่ยศตรงต่อเวลาเลยหาเจอได้ไม่ยาก
สถานที่นัดหมายคือร้านกาแฟในห้างดังเวลาสองทุ่มครึ่ง เพราะต้องรออีกฝ่ายเลิกงาน  แสงนั่งจ้องป้ายนางเงือกสีเขียวที่หน้าร้านฆ่าเวลา  ดูไปดูมาก็หลอนดีเหมือนกันแฮะ

   “ฉัน...ไม่อยากล้ม” ในที่สุดเจ้าตัวก็สารภาพความในใจ “ถ้าล้มฉันจะเป็นยังไง  ไหนจะลูก  แล้วครอบครัวฝั่งเมียอีกล่ะ”
   “งั้นแกจะปิดหนี้?”
   “ฉันไม่มีเงิน...”

   แม่งเอ๊ย  ทำไมช่วงนี้ถึงมีแต่คนจนมาวนเวียนรอบตัววะ

   “ไอ้ยศ” ฟังแล้วแสงได้แต่คลึงหัวคิ้ว “ฉันจะให้คำปรึกษาแกเบื้องต้นนะ  ที่เหลือไปตัดสินใจเอง”
   มือโยนแผ่นกระดาษลงบนโต๊ะ “มูลหนี้แกล้านสาม  ฉันมีให้สองตัวเลือก  ข้อแรกโทรไปประนอมหนี้แล้วก็ปิดซะ  ต้นมันแปดแสน แกก็ลองต่อไปก่อน  มันไม่ยอมหรอก แต่พนักงานจะไปคุยกับเจ้านายมันให้  ฉันว่าได้สักเก้าแสนก็โอเค”
   “แต่เงิน...”
   “ขอยืมญาติมา  ไม่ก็เมียแก”
   “ไอ้แสง...” ทางนั้นอึกอัก “ฉันไม่เหมือนแต่ก่อนแล้วนะเว้ย  ฉันมีครอบครัว  มีภาระต้องดูแล  แล้วไหนจะครอบครัวฝั่งเมียอีก  ถ้ารู้ว่าฉันต้องไปพึ่งพาเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”
   “ให้ฉันเดา แกยังไม่ได้บอกเมีย”
   “.......”
   “ไปบอกซะ” ปลายนิ้วเคาะลงบนโต๊ะราวกับย้ำคำ “ชีวิตครอบครัวมันต้องแบ่งกัน”
   “แกไม่เข้าใจ  แกไม่เคยแต่งงาน”
   “ก็ฉันเป็นเกย์” คนตอบยอมรับพร้อมยักไหล่ไม่ยี่หระ “แต่งงานกันแล้ว  ถึงจะไม่จดทะเบียนยังไงเมียแกก็ต้องรู้อยู่ดี”

   กล้ามเนื้อบนใบหน้าของยศเขม็งเกลียวอย่างน่ากลัว  ไม่ได้เจอกันหลายปีฝ่ายนั้นดูแก่ขึ้นเยอะ แต่ก่อนเจ้าสำราญลั้นลาในบาร์เกย์  ดูตอนนี้สิ...อมทุกข์อมโรคอย่างกับโลกจะแตกบนหัวมัน  ก็นะ...คนเป็นหนี้ที่ไหนจะยิ้มร่าอารมณ์ดีได้ล่ะ
   แต่ก็มีนี่หว่า...
   รอยยิ้มโง่ ๆ ของใครอีกคนลอยเข้ามาในหัว  พอเจอคนเปรียบเทียบแบบนี้จัดว่านเรนทร์เป็นลูกหนี้ที่สุขภาพจิตดีเกินงามมาก   ไม่รู้พ่อมันคลุกข้าวกับอะไรให้กิน

   “หรืออีกทางก็ล้มละลายไปเลย” ทนายเอนหลังลงกับอาร์มแชร์พลางยกมือขึ้นกอดอก “หลังจากนั้นจะไม่มีใครทำอะไรแกได้อีก แค่เสียเครดิตชั่วชีวิต  ระหว่างนี้ก็ถ่ายทรัพย์สินออกเรื่องนี้แกจ้างฉันดูแลได้  จะซื้ออะไรก็ใช้ชื่อเมียแทน”
   “ไม่...ฉันล้มไม่ได้  เมียฉัน”
   “อา  กาแฟหมดแล้ว  ฉันคงต้องขอตัว” จิบเครื่องดื่มมีคาเฟอีนตอนสามทุ่มนี่ไม่ใช่เรื่องดีเลยแฮะ  แสงขยับคอแก้เมื่อยขบ “แกจะตัดสินใจยังไงก็แล้วแต่ละกัน  ถ้าจะขึ้นโรงขึ้นศาลอยากได้ทนายโทรเรียกฉันได้ หรือขอคำปรึกษาก็ย่อมได้  คิดให้ราคาพิเศษ”
   ยศไม่ตอบอะไร แต่ดูจากสีหน้าแล้วกำลังด่าทอเขาอยู่แน่นอน  แสงไหวไหล่ไม่สนใจก่อนจะลุกขึ้นยืนโดยไม่ลืมหยิบถุงขนมบนโต๊ะ “ขอบคุณที่เลี้ยงล่ะ”

   พื้นรองเท้าผ้าใบเสียดสีเอี๊ยดอ๊าดยามก้าวเดิน  แสงยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูพลางสบถในใจว่าเสียเวลาชะมัด  สามทุ่มเขาควรจะอาบน้ำนอนดูบอล  ดูซีรีส์หรือฟังเพลงเพราะ ๆ แล้วก็เถียงกับเรนไปพลาง  ใช้มันทำกับแกล้มมากินกับเบียร์ด้วย  เห็นแบบนั้นทำของทอดอร่อยมาก  กรอบนอกนุ่มในไม่อมน้ำมัน
   เดี๋ยวสิ...แม่งเอ๊ย  ภาพเหมือนตาเฒ่าเลี้ยงเด็กไว้ดูแลเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวนี่มันอะไรวะ  แล้วนี่เขามาโผล่ซูเปอร์มาร์เก็ตได้ยังไง  แถมทำท่าจะพุ่งเข้าไปหยิบตะกร้าแม่บ้านอีก
   พอดึงสติกลับมาได้ก็เดินย้อนออกไปที่ลานจอดรถแทน  ฟ้าด้านนอกมืดสนิท แต่ชะเง้อคอดูยังเห็นแสงไฟจากรถแออัดเต็มถนน  เขาไม่มีทางเลือกยังไงก็ต้องลงไปร่วมเบียดเสียดด้วยนั่นแหละ  ไปถึงคงเกือบห้าทุ่ม  ไอ้เรนหลับไปแล้วมั้ง

   ทว่ารถเคลื่อนตัวได้เร็วกว่าที่คาด  ถ้าพ้นจากแยกนี้ไปคงถึงคอนโดสักสี่ทุ่มครึ่ง  ดวงตาดุจเหยี่ยวเหลือบมองตัวเลขสีแดงที่นับถอยหลังอย่างใจเย็นพลางคิดถึงเรื่องของเพื่อน
   ‘หัวหน้าครอบครัว’ นี่เป็นอะไรที่หนักหนาชะมัด  ไม่อยากถามหรอกนะว่าไปพลาดอีท่าไหนให้เป็นหนี้บานขนาดนั้น  สมัยยังเที่ยวไอ้ยศมันก็ใช้เงินมือเติบ  ไม่สิ...ทุกคนที่มาบาร์เจ๊ซันก็ทำตัวหน้าใหญ่กันทั้งนั้น  แล้วพอเขาพูดเรื่องค่าจ้างทำเป็นหน้าหงิกใส่  โธ่! ใจคอจะไม่ให้ค่าวิชาชีพเลยหรือไงวะ  แสงชอบโดนด่าอยู่บ่อย ๆ ว่าแค่คุยด้วยก็เสียเงินแล้ว  ก็แน่สิวะ...งานเขามันคือการคุยนี่นา  ไม่ได้เป็นรูปธรรมไม่ได้หมายความว่าไม่มีต้นทุนสักหน่อย
   ไอ้ยศมีแต่หนี้สิน  พอลองมองย้อนมาที่ตัวเองก็พบว่าโชคดีชะมัด

แสงไม่เหมาะกับการมีครอบครัวหรอก  ภาระหนักอึ้งแบบนั้นเขาไม่อยากแบกให้หนักสมอง  พออายุมากขึ้นเพื่อนเกย์ก็แบ่งเป็นสามประเภท  1 ใน 5 แต่งงานมีครอบครัวตามปกติ  แสงคิดว่าไอ้พวกนี้เห็นแก่ตัว แต่ถ้ามันบอกฝ่ายหญิงก่อนแล้วเขาโอเคก็อีกเรื่องหนึ่ง  ประเภทที่สองอยู่กับแฟน มีประมาณ 2 ใน 5  และประเภทสุดท้าย…

อยู่คนเดียวแบบเขานี่ไง


...........................................................
........................................
..............
........


   แปะ!

   ดวงไฟบนหัวสว่างโร่ฉาบให้ทั้งห้องเป็นสีส้มนวลตา  นเรนทร์ไต่ลงจากเก้าอี้พลางกอดอกดูผลงานตัวเองอย่างพึงใจ  อุตส่าห์เจียดเงินซื้อหลอดไฟมาทดแทนบุญคุณเฮียแสงเชียวนะ  ชาติหน้าชีวิตได้ไม่มืดมนมีแสงนำทางเหมือนชาตินี้  คิดแล้วก็ยกมือไหว้สาธุ
จัดการกับปัญหาเสร็จแล้วคุณพ่อบ้านก็เริ่มเก็บกวาดพื้น  ปกติเป็นคนสกปรก แต่มาอยู่บ้านคนอื่นมันก็ต้องปรับตัวเอาหน้ากันหน่อยจะได้ไม่ถูกเฉดหัวด้วย  ไม้กวาดดอกหญ้าถูกซอกแซกไปทุกตารางนิ้วจนฝุ่นฟุ้งกระจาย  พอรวบรวมมาเป็นก้อนได้ก็ปัดขึ้นที่ตักผงเป็นอันเรียบร้อย
ทำงานเหงื่อออกทั้งวันแถมเจองานบ้านเข้าไปอีก  นเรนทร์ครั่นเนื้อครั่นตัวอยากอาบน้ำจะแย่ แต่ภารกิจมันค้ำคออยู่  ดวงตาตวัดฉับไปยังกองเศษผ้าซอมซ่อแล้วยกมือกุมขมับ  แย่แล้ว...เสื้อตัวสุดท้ายที่เหลือก็คาอยู่ตรงคอนี่ไง  ถ้าไม่ซักพรุ่งนี้ต้องใส่เสื้อซ้ำซึ่งเป็นอะไรที่นรกมาก

ผลุบ!
นเรนทร์ถอดเสื้อที่สวมอยู่รวมกับกองโสโครก  แล้วตามมาด้วยกางเกง  ทว่าพอเปิดกระเป๋าสตางค์ดูก็พบกับความซวย...
ไม่มีเหรียญ....
หึ....  อย่าคิดว่าแค่นี้จะทำให้เรนหยุดได้  ซักเครื่องไม่ได้ก็ซักมือไปเลยสิ  คิดได้ดังนั้นก็เดินโทงเทงสวมกางเกงในตัวเดียวไปคว้าอุปกรณ์ที่ระเบียงมา  เก้าอี้เตี้ยถูกดึงออกมาจากใต้อ่างล้างหน้าก่อนบั้นท้ายจะนั่งทับลงไป
ซักผ้าด้วยมือในเวลามืดค่ำเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องที่มนุษย์ปกติควรทำ แต่นเรนทร์ตรรกะผิดเพี้ยนอยู่แล้วจึงไม่แยแส  ตั้งหน้าตั้งตาฟอกฟองในกะละมังจนล้นออกมาด้านนอก  เขาชอบเล่นฟองมาตั้งแต่เด็กเพราะเห็นในโฆษณา  มีครั้งหนึ่งเล่นจนพ่อที่จะเข้าห้องน้ำลื่นล้มเกือบตาย  จัดว่าเป็นเด็กเวรอยู่ที่ไหนก็ฉิบหายไปหมดอย่างแท้จริง
ขณะฮัมเพลงตามจังหวะการกะซวกผ้า  เสียงด้านนอกก็แว่วเข้าหู  ชายหนุ่มชะเง้อคอดู  ต้นเสียงน่าจะมาจากมือถือของเฮียแสงไม่ผิดแน่  มันวูบวาบสั่นเป็นเจ้าเข้าอยู่บนเคาน์เตอร์ครัว  เรนส่ายหัว  เฮียนะเฮีย...นัดเพื่อนไว้แล้วลืมเอามือถือไปเนี่ยนะ

ครืดดดด

เครื่องมือสื่อสารยังสั่นไม่หยุดทว่าเรนเลือกที่จะนั่งลงแล้วคว้ากางเกงมาขยี้ตรงเป้าต่อ  ใครจะโทรมาก็ช่างเถอะ...ยังไงก็ไม่กล้ารับโทรศัพท์เฮียอยู่แล้ว  เดี๋ยวหาว่ามายุ่งกับของส่วนตัวอีก  ยิ่งถ้าคนโทรมาเป็นกิ๊กด้วยล่ะก็มีหวังทะเลาะกับบ้านแตก  ถึงจะแอบชอบแต่เรนไม่มีนโยบายสร้างความร้าวฉานให้ใคร  เป็นเบี้ยล่างแบบนี้ก็สนุกดี....
แค่เผลอมีอะไรกันคืนเดียวก็คุ้มแล้ว…

โอ๊ะ!  เหมือนเพลงนั้นไงของพี่บอย  มันร้องว่ายังไงนะ...  คิดแล้วก็เปล่งเสียงราวนกการเวกเป็นหวัด

แม้จะรักเธอเท่าไหร่ ฉันต้องคอยบังคับใจฉันให้เหินห่าง

ก๊อก ๆ

ทั้งที่ใจตัวเอง อยากระบายให้เธอรู้วววว~  บ้าง

ก๊อก ๆ

และเธอสูงเกินจะใฝ่  เธอคงจะไม่สนใจในคนข้างล่า----

ผัวะ!

“พี่แสง  ทำไมไม่เปิดประตูล่ะครับ  โทรไปก็ไม่...”

ผู้มาเยือนอ้าปากพะงาบ “รับ....”

ฉานกำลูกบิดค้างแน่นิ่งในมือ  ก่อนเด็กหญิงชายด้านหลังจะส่งเสียง ‘เย้! ห้องลุงแสง’ แล้วลอดผ่านเข้าใต้รักแร้ไปโดยไม่ทันตั้งตัว  ถ้าคิดว่านั่นระยำแล้ว  โปรดจับตาดูวินาทีที่หญิงชราก้าวออกมาจากด้านหลังด้วยใบหน้าบึ้งตึงที่เหมือนกับเฮียแสงไม่ผิดเพี้ยน
“มีอะ.....ไร"

ทัศนียภาพอันสวยงามของเครื่องเรือนเฟอร์นิเจอร์ไม่อาจแย่งความโดดเด่นของสิ่งมีชีวิตในห้องน้ำได้เลย  ชายหนุ่มผิวแทนสวมกางเกงในตัวเดียวนั่งแหกขาอ้าซ่าอล่างฉ่างจนเธอเกือบจะก้าวกลับไปดูว่าหน้าห้องไม่ได้มีป้ายเฉพาะทางอะไรใช่ไหม
นเรนทร์กลืนน้ำลายเอื้อกค่อย ๆ หุบขาพับเพียบเพราะทนสายตาไม่ไหว  ใบหน้าเขม็งเกลียวคลี่รอยยิ้มเยี่ยงพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน  หากร้อยไหมมาพนันได้ว่าขาดกระจุย
   ชีเกือบเปลือยเหยียดตัวขึ้นยืนหลังตรง  ยกมือที่ฟองฟ่อดเหมือนสวมถุงมือขึ้นประนมไว้ที่อก



“สะ...สวัสดีครับ”


ยินดีต้อนรับเรืองภพแฟมมิลี....


TBC


ให้เราภาวนาเพื่อเรนค่ะ  ช่วยน้องด้วยนะคะ 55555
เริ่มอยู่กินแบบแฟนกันแล้วเห็นมั้ยคะ  มีการพัฒนาที่ดี และก้าวกระโดดถึงขั้นได้ไหว้แม่ในไม่กี่ตอน  ไวไฟกันเหลือเกิน
แป๊บ ๆ จะหมดก.พ.แล้ว เวลาผ่านไปเร็วมากค่ะ  นี่ก็เกือบ ๆ ครึ่งเรื่องแล้วมั้งคะ  พยายามคุมไม่ให้ยาวเกินไปอยู่ค่ะ  ติดนิสัยชอบเวิ่นเว้อ Orz

ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ
เจอกันตอนหน้าค่า <3

ออฟไลน์ dereel_nx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ช็อคแทนนุ้งเรนนนน.  :a5: :a5: อะไรมันจะเหมาะเจาะขนาดนั้น คุณลุงวัยทองกลับถึงห้องจะทำหน้ายังไงนะ? ฮืออออออ พรุ่งนี้วันอาทิตย์นะคะคุณ indigo  :z3: :z3:

ออฟไลน์ about

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 822
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
ช่วยน้องด้วยนะคะ 5555555555555555

ออฟไลน์ นางสาวกานาเลส

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ตลกกกก 5555555555 นุ้งเรนน่าเอ็นดู อะหล่างฉ่างเลยตอนนี้ อยากสคิปไปอาทิตย์หน้าละค่าาา

ออฟไลน์ Cappello

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
สวดภาวนา
เฮียแสงน่าจะได้แม่เรื่องคำพูด(ขี้บ่น)นะ
สู้ๆนะ เรน แกคงจะสบาย :a2: :a2:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
 :laugh:

ฉ.หาย 5555555555555

ออฟไลน์ todiefor

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
้เรนน่ารัก มีความเป็นธรรมชาติสูงมากกกกกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อย่าให้ภาพพจน์นายเอกของเราเสียหายไปมากกว่านี้เลย  :call:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
เป็นการเปิดตัวกับครอบครัวคุณสาที่น่าประทับใจมากกก  :m20:  ตายๆๆๆๆ  5555

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
5555555 ถถถถ เฟิสอิมเพรสชั่นของน้องเรน

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
อุยย  ถ้าไม่นุ่งลิงตัวเดียวยังพอ แถได้ แต่ตอนนี้อ่ะสิ จะพูดยังไงดีน๊าา


5555


เรนเอ้ยย

ออฟไลน์ jomyingg

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ใครควรช็อคมากกว่ากันระหว่างเรนกับครอบครัวอาสง555555555

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
อะไรคือพัฒนาการที่ดี ไวไฟกันเหลือเกิน 5555555

นุ้งเรนใกล้เดี้ยงแล้ว เฮียแสงกลับด่วนๆ

ออฟไลน์ wikichan

  • ชื่อ:Wi! วิ! วิกิ! วิเวียน//วันๆ ไม่ทำอะไรชอบอ่านมังงะและนิยายเป็นชีวิตจิตใจ ชอบผลงานของพี่แพร์ Nigiri_Sushiที่สุดอ่านทุกเรื่องแต่ไม่ได้ซื้อทุกเรื่อง อยากเจอตัวจริงสักครั้งนึงแบบว่านักเขียนในดวงใจ #เพ้อ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
ต้องเข้าใจว่า อ่อ นี่เมียลูกชายสินะ คิดยังไงก็โดนตรวจสอบทั้งคู่จากคุณแม่แน่ค่ะ  555555555

เห็นใจทั้งเรนและเฮียนะ แต่สมน้ำหน้าไปด้วย ดีเลยงานนี้ความสัมพันธ์อาจจะพัฒนาขึ้นอีก ..มั้งนะ 5555555

ออฟไลน์ มาโซซายตี้

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-2
ลูกสะใภ้ซักผ้าอยู่ค่ะ กรุณาอย่ารบกวน
แต่มาเห็นขนาดนี้ดูท่าว่าน้องเรนจะอยู่ห้องนี้ต่อไม่ได้แล้วมั้ง
น้องเรนน่าสงสารจริง แล้วอาฉานมีกุญแจห้องได้ไงเนี่ย

##แอบสงสัยเรื่องไฟในคอนโด ปกติมันจะเป็นไฟดาวไลท์ดวงเล็กดวงน้อยหลายๆดวงนะ
หลอดขาดไปดวง มันก็ต้องมีดวงอื่นที่ไม่ขาด หรือั่ต่อให้ขาดทุกดวง
 ไฟในครัวก็ต้องมีแยก ไม่ว่าจะไฟใต้ตู้แขวน ไฟจากเครื่องดูดควัน
หรือว่าคอนโดนี้ ลุงแสงประหยัดค่าตกแต่ง ใช้ไฟหลอดเดียวทั้งห้อง

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1691
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
น้องเรนชีวิตน่าสงสารจริ๊งงง เฮียรีบมาดูแลน้องไวๆ เลิกซึนได้ล้าววว

ออฟไลน์ wi_OoO_wi

  • payaaa payaaa padazz taa
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1
ว้ายยยย คุณแม่สวัสดีค่ะ
เกลียดคำว่า ยินดีต้อนรับเรืองภพแฟมมิลี มากกกกกกกกกกกกกก 55555555555555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
อาม่ามีกรี๊ดอ่ะ 555555

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ sunshine538

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
เริ่มมาดี มีอารมณ์มุ้งมิ้ง มีความเป็นพ่อบ้านแม่บ้านให้คนอ่านฟินๆ
แล้วก็ตัดจบแบบ...
 :a5:
คือว่า เรนจะช่วยเป็นนายเอกแบบสวยๆ งามๆ บ้างจะได้ไหม ถ้าไม่เลอะเขรอะขระก็... 555
รออ่านตอนต่อไปค่ะ  :call:

ออฟไลน์ NUTSANAN

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1031
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
โอ้ยยยยฮาาาา อิน้องเรนช่างเปนคนโลคดีอะไรขนาดนี้ เจอแม่ว่าที่สามีในสภาพอล่างฉ่างสุด :laugh:

ออฟไลน์ MooMiew

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 326
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
สงสารรรร สภาพไม่พร้อมรับแขก ก็เพราะไม่คิดว่าจะมีแขก

รอดูเฮียแสงที่กลับห้องมารับมือกับความปวดหัว555555

:pig4:

ออฟไลน์ Indigo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1030/-7
ทวงครั้งที่ 14

   สถานการณ์น่ากระอักกระอ่วนนี่มันอะไรกัน....

   ณ โซฟาหนังอย่างดีมีห้าชีวิตแข่งกันนั่งตัวเกร็ง  ฝั่งตัวยาวมีมนุษย์สายเลือดเดียวกันสี่คนอันประกอบไปด้วยนายแม่  ผู้ซึ่งมองปราดเดียวก็รู้ว่าหน้าเหมือนแสงอย่างกับแกะ  ถัดมาคือฉานคุณหมอใจดีผู้มีเด็กน้อยสองคนกำลังแย่งกันปีนขึ้นมาบนตัก
   และตรงอาร์มแชร์ที่แยกส่วนออกมานั่นเองยังมีร่างของพวกนอกรีต  เลือดสีโคลน แต่งกายหยาบโลนเหมือนเพิ่งผ่านกิจกรรมคาวโลกีย์  นเรนทร์ขยับตัวงุ่นง่าน ใต้ผ้าขนหนูมีกางเกงในเพียงตัวเดียวเท่านั้น  ความฉาวนี้ทำให้ฉานอยากจะเอื้อมมือไปปิดตาลูก ๆ ทั้งสองเลยทีเดียว

   “พ่อ ๆ  ลุงแสงไปไหนครับ” เด็กชายตัวน้อยวัยห้าขวบเอาหัวไถแขนคุณพ่ออย่างน่าเอ็นดู  ฉานอดไม่ได้ที่จะลูบเส้นผมนิ่มมือและเอ่ยตอบด้วยเสียงอ่อนโยน
   “ลุงแสงไม่อยู่ห้องครับผม แต่เดี๋ยวก็คงกลับมาแล้วล่ะครับ”
   “พ่อขา” ลูกช่างถามอีกคนไม่น้อยหน้า  เด็กหญิงวัยแปดขวบถักเปียสองข้างชี้มายังเก้าอี้อีกฝั่ง “แล้วพี่ชายคนนี้เป็นใครคะ”

   พึ่บ...
   ลมพัดวูบ  นเรนทร์ตาแห้งจนเหมือนจะหลั่งน้ำตาเสียให้ได้  ทว่ามุมปากยังคงยกค้างไว้เพื่อความเป็นมิตรน่ารัก  เรื่องโรลเพลย์แกถนัดอยู่แล้วนี่เรน  คิดแล้วก็หยิกขาตัวเอง  ยิ้มไว้มึง....
   น้องอย่าถามเลยครับ  พี่ก็นิยามตัวเองไม่ถูกเหมือนกัน
   ‘ลูกหนี้ที่อัดคลิปแบล็กเมล์และมาขออยู่อาศัยชั่วคราว’ สบตาอ้อนวอนคุณพ่อให้ช่วยจัดการความจำไมของลูกหลานที  ดูเหมือนคุณหมอฉานจะหัวไวเอาเรื่องถึงได้คว้ามือเด็กหญิงลง

   “ไปชี้หน้าพี่เขาแบบนั้นได้ยังไงคะ  ไม่สุภาพเลย  ขอโทษพี่เขาเดี๋ยวนี้เลย”
   “ขอโทษค่ะ” พอถูกดุหนูน้อยก็หน้าหงอ  ลืมเรื่องที่ถามไปสนิทสมใจฉาน  เรนแอบส่งยิ้มแห้ง ๆ ขอบคุณไปหนึ่งที
“พอใจกับภูมิใจต้องเป็นเด็กดีนั่งเรียบร้อยแล้วคุณลุงถึงจะมานะครับ”
“ครับ/ค่ะ!”

เห็นสกีลหลอกเด็กของคุณฉานแล้วเรนอยากจะกราบสามครั้งไม่แบมือ  เจ้าเด็กน้อยสองคนดูท่าจะอยากเจอคุณลุงมากเลยนั่งแข็งเป็นหิน  หมดเรื่องหมดราวไปหนึ่ง  ว่าแต่หลอกเด็กได้แล้วคุณฉานหลอกคนแก่ได้ไหมครับ....

“เมื่อไหร่จะมา” น้ำเสียงคมฉับตวัดมีดมาจ่ออยู่ที่คอนเรนทร์  คำถามไม่ระบุชื่อผู้ตอบไม่ต่างจากการปาหินเข้าไปในฝูงชน  เห็นโดนหัวไอ้เรนไปโป๊กหนึ่งคุณฉานจึงเข้ามากู้สถานการณ์
“พี่แสงไม่รับโทรศัพท์เลยครับ  ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“เอ่อ...” จุดนี้คิดว่าให้ข้อมูลได้เรนจึงทำตัวให้มีประโยชน์ “เฮียแสงลืมมือถือครับ  เห็นว่านัดเพื่อนไว้อาจจะกลับดึก”
“ถ้าอย่างนั้นก็กลับเถอะ”
“โธ่!  แม่ครับ  ไหน ๆ ก็มาแล้วรอเจอพี่แสงหน่อยจะเป็นไร  นี่ก็สี่ทุ่มครึ่งเดี๋ยวคงมาแล้วล่ะครับ”
“ยังจะกลับอีกเหรอ” นายแม่กอดอก  ทว่าพอเหลือบไปเจอเด็กหนุ่มแก้ผ้าก็เหมือนฉุกคิดขึ้นมาได้ “อ้อ...วันนี้คงกลับแหละ”
“เอ่อ...  ผมไปรินน้ำมาให้นะครับ  แฮะ ๆ ๆ”

เอาตัวรอดเป็นยอดดี...นเรนทร์พุ่งตัวไปที่เคาน์เตอร์ครัวไวปานวอก  แสร้งหยิบนู่นนี่ถ่วงเวลา แต่อีกะแค่น้ำแข็งกับน้ำถ่วงนานเกินก็จะมีพิรุธมากไป  สุดท้ายก็ยอมยกถาดพร้อมน้ำเย็นสี่แก้วกลับไป  ระหว่างลังเลว่าควรจะคลานเข่าเข้าไปดีไหมฉานก็เอื้อมมาหยิบแก้วออกจากถาดพลางส่งยิ้มให้กำลังใจ
“ขอบคุณครับเรน”
“ดื่มน้ำดื่มท่ากันก่อนนะครับ  อีกสักแป๊บเฮียแสงก็คงจะมา...”
“เธอชื่ออะไร”
คำถามแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้ยิงแสกหน้า  ทำเอานเรนทร์เกือบพึมพำว่า ‘ถามผมเหรอครับ’ แต่คิดอีกทีก็ไม่มีคนอื่นแล้วนี่หว่า  ชายหนุ่มกลับไปหย่อนตูดลงที่อาร์มแชร์  ยืนคุยกับผู้ใหญ่มันไม่สุภาพนักหรอก
“ผมชื่อเรนครับ”
“ทำงานอะไร”
“เป็นช่างครับ” คนถามชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็แค่นยิ้มออกมา
ฉานได้แต่นั่งเกร็ง  ตอนแรกก็พอจะเนียนหลอกว่าเรนเป็นคู่นอนชั่วคราวพี่แสงสักหน่อย แต่เล่นยกน้ำมาเสิร์ฟแบบนี้  ราศีอยู่กินจับทั่วร่างจนคุณหมอน้ำท่วมปาก  โชคดีที่หญิงชราตัดจบบทสนทนาเพียงเท่านั้นแล้วก็เอาแต่มองเรนหัวจรดเท้า
ตัวนเรนทร์เองก็จ้องเจ้าหล่อนไม่วางตา  สอดส่องอยากรู้อยากเห็นไปหมด  ใบหน้าหล่อนแทบจะเรียกได้ว่าเฮียแสงใส่วิก  โดยเฉพาะดวงตาที่ดุดันเหมือนเหยี่ยว  จะมีก็แต่รูปหน้าที่ต่างกัน  เฮียแสงหน้ายาวมีสันกราม  ส่วนทางนั้นกลมดิ๊กไม่เห็นกราม  จะว่าไปคุณฉานก็ไม่มีเหมือนกันรายนั้นได้โครงหน้าแม่ไปเต็ม ๆ
แม่สิ  เป็นแม่ไม่ผิดแน่  เหมือนกันขนาดนี้ต้องเกิดจากโครโมโซมหลายแท่ง  หล่อนคงเป็นครึ่งหนึ่งอย่างแน่นอน
จ้องกันไปมาอยู่อย่างนั้นคนอึดอัดกลับเป็นฉานเสียเองที่ทนไม่ได้ต้องแทรกตัวเข้ามาแนะนำตามมารยาท 
“เรนครับ  นี่แม่ผมกับพี่แสง  ชื่อไพลินครับ”
“สวัสดีครับ” ไหว้ซ้ำไหว้ซ้อน  ไหว้แล้วไหว้อีก ก็สถานการณ์ตอนนี้ไม่รู้จะทำอะไรดีนี่นา  เรนน่ะไม่เท่าไหร่หรอก  เคยชินกับตาดุ ๆ ของเฮียแสงแล้ว  แต่เป็นฉานผู้จิตปกติที่สุดต้องดิ้นรนหาทางออก  แม่ตัวเองนั่งจ้องตากับเด็กหนุ่มคราวหลานแถมฝ่ายนั้นยังมีผ้าขนหนูพันท่อนล่างไว้ส่วนเดียวดูไม่เหมาะสมนัก  ไหนจะลูกบนตักอีก  ขอเปิดแผน B ใช้ตอนนี้เลยก็แล้วกัน
“เอ่อ...นี่ก็ดึกมากแล้ว” เจ้าตัวพลิกลิ้นหน้าตายเฉย  เมื่อครู่ยังบอกเองว่าจะรอพี่ชาย “เด็ก ๆ จะง่วงนอนกัน  ผมว่าเรากลับก่อนดีไหมครับ”
“พ่อขา~  แต่พอใจอยากเจอลุงแสง”
“นั่นสิครับ  ลุงแสงยังไม่เห็นเครื่องบินของผมเลย” เด็กหญิงหน้าบี้เด็กชายก็หน้าบู้สร้างความหนักใจให้ฉานเท่าทวี แต่กับเด็ก ๆ เขารับมือได้ดีเสมอ
“ลุงแสงไปทำงานเหนื่อย ๆ กลับมาคงอยากพักผ่อน  เราอย่าเพิ่งกวนเลยนะครับ” มือใหญ่ตบลงบนหัวเด็กทั้งสอง “เป็นเด็กดีนะ  เดี๋ยวพ่อพามาหาลุงใหม่”
จัดการเด็กซะอยู่หมัดก็หันมาเคลียร์ธุระให้เสร็จ  มือเลื่อนถุงกระดาษข้างตัวไปตรงหน้าชายหนุ่ม “ผมซื้อของโปรดพี่แสงมาให้  ถ้ายังไงรบกวนฝากให้เขาด้วยนะครับ”
“ครับ”
“แล้วก็...ที่มานี่ตั้งใจจะชวนไปงานวันเกิดพอใจ” เขาว่าพลางตบหัวเด็กหญิงแปะ ๆ “วันเสาร์นี้นะครับ  บอกพี่แสงมาให้ได้นะ”
“ครับ  แล้วจะบอกให้”
“ไปกันเถอะพวกเรา” เมื่อหัวหน้าลุกขึ้นยืนเด็กน้อยก็ยืนตาม  คุณหญิงไพลินจ้องมาที่เรนเก็บรายละเอียดแว้บสุดท้ายก่อนจะยอมลุกขึ้นออกเดินนำไปที่ประตูก่อนใคร  ระหว่างที่สวนกันเรนได้ยินเสียงพึมพำ

“ช่างมันเถอะ  ก็ไม่ได้อยากเจอนักหรอก”

นเรนทร์ชะงักไป  ทุกครั้งที่เจอฉานทางนั้นจะพร่ำบอกเสมอว่าพ่อแม่อยากเจอเฮียนี่นา  แบบนี้เท่ากับว่าโกหก?  ยังไม่ทันคลายสงสัยกลอนประตูในมือหญิงชราก็ลั่นก๊อกแก๊ง  หล่อนรีบขยับถอยหลังเป็นจังหวะเดียวกับที่คนด้านนอกผลักเข้ามา

“อะไรกันเนี่ย” เจ้าของห้องตัวจริงขมวดคิ้วมุ่น  ยังไม่ทันได้คำตอบก็มีเจ้าก้อนน้อยวิ่งไปแปะที่สองขา “อ้าว! พอใจ  ภูมิใจ”
“ลุงแสง!” สองแสบเจื้อยแจ้วประสานเสียง และนั่นเป็นครั้งแรกที่เรนเห็นเฮียยิ้มจนตาปิด  เจ้าตัวก้มลงไปช้อนตัวเด็กชายขึ้นมาอุ้ม
“ว่าไงหือ  มาได้ไงเนี่ยเรา”
“มากับพ่อค่ะ” พอใจที่เกาะตรงขาตอบพาซื่อ “ลุงแสงต้องไปงานวันเกิดพอใจน้า~”
“วันเกิด...” คนฟังขมวดคิ้ว  ดูออกเลยว่าลืมวันลืมคืนก่อนจะนึกขึ้นมาได้ “เสาร์นี้ใช่ไหม”
“ค่ะ” เด็กหญิงพยักหน้าแรง ๆ
“พี่แสง” ตัวต้นคิดโผล่หน้าเข้ามาด้วยใบหน้าโล่งอก “พอดีมาทำธุระแถวนี้จนดึก  เด็ก ๆ งอแงจะมาหาพี่ให้ได้เลย  โทษทีนะครับที่ไขเข้ามาโดยพลการ”
   “ไม่เป็นไร”

แสงรู้ดี  ‘ธุระ’ ที่ว่าคือกินข้าวเย็นนั่นแหละ แต่ฉานไม่กล้าบอกความจริง  กลัวเขาจะคิดมากเรื่องที่ครอบครัวสังสรรค์กันโดยไม่ชวน  กังวลไปได้  เขาเองก็ไม่อยากอยู่ในบรรยากาศกระอักกระอ่วนโดยมีคนคนนั้น....

“สวัสดีครับแม่” หนุ่มใหญ่ยกมือไหว้อย่างเสียมิได้  หญิงชราที่ยืนถัดไปรับไหว้นิ่ง ๆ ไม่พูดต่อความ  ฉับพลันดวงตาก็เหลือบไปเห็นอีกหนึ่งที่ชีวิตบนโซฟา  มือที่อุ้มหลานอยู่กระตุกเล็กน้อยเกือบปล่อยร่วงแล้วไหมล่ะ  สภาพแบบนั้นมันอะไรกันวะ!!
ไอ้เด็กพิเรนทร์ฉีกยิ้มแห้งมาให้  อยากจะยกมือกุมขมับจริง ๆ ให้ดิ้นตาย  เปลือยบนแถมท่อนล่างมีแค่ยังพันผ้าไว้  เขาไม่รู้สถานการณ์ก่อนหน้านั้นด้วย  จะเรียกมันมาดุเลยก็คงไม่งามนักเลยแสร้งทำเป็นไม่เห็นแทน

“ลุงแสง ๆ  ภูมิใจเรียนพับเครื่องบินมาด้วย” ในที่สุดเด็กน้อยก็ได้อวดฝีมืออย่างที่ตั้งใจ  มือกลมป้อมล้วงเอากระดาษที่ยับเยินในกระเป๋ากางเกงออกมา “ดูสิครับ”
“หือ  ปีกหักแบบนี้มันจะบินยังไงล่ะ”
“ผมจะบังคับเครื่องเอง”
ยังไม่ทันต่อมุกชายเสื้อก็ถูกดึงโดยสาวน้อยขี้อิจฉา “ลุงแสง ๆ  พอใจก็มีตุ๊กตาตัวใหม่นะ”
“พอแล้วเด็ก ๆ” เห็นพี่ชายโดนรุมทึ้งฉานจึงเข้ามาห้ามทัพ “ลุงเพิ่งเหนื่อย ๆ กลับมา  ให้ลุงพักผ่อนก่อนนะครับ  เดี๋ยววันเสาร์ก็เจอกันแล้วเนอะ”
แม้จะหน้าหงิกหน้างอแต่เด็กทั้งสองก็ขานรับแต่โดยดี  ภูมิใจหันหน้าไปหาพ่อแล้วกางแขนออก  แสงจึงส่งตัวหลานเข้าอ้อมอกพ่อที่แท้จริง “โทษทีนะ  พอดีลืมเอามือถือไป  เลยได้คุยแป๊บเดียวเอง”
“น่าเสียดาย  กะว่าจะมาเซอร์ไพรสพี่แสงซะหน่อย”

เป็นไงล่ะ  เจอเซอร์ไพรสกลับของแท้เลย....

   เจ้าตัว ‘เซอร์ไพรส’ ทำหน้ามึนก้มเก็บแก้วน้ำบนโต๊ะราวกับเป็นแม่บ้านที่แสงจ้างมา  ไม่รู้จะเรียกว่าแนบเนียนหรืออะไรดี  แก้ผ้าซะขนาดนั้นไม่ทันแล้วไอ้เรนเอ๊ย  คนเขาคิดไปถึงไหนต่อไหนแล้ว

   “ถ้ายังไงผมขอตัวก่อนนะครับ  วันเสาร์ห้ามเบี้ยวนะ  เดี๋ยวหลาน ๆ ร้องไห้”
   “รู้แล้วน่า”
   คุณหมอไม่วายชะโงกบอกคนด้านใน “เรนก็มาด้วยนะครับ”

   ฉานอุ้มลูกชายมือหนึ่ง  ส่วนอีกมือก็จูงลูกสาวเดินออกห้องไป  ไพลินที่นิ่งเงียบมานานสาวเท้าตามไปติด ๆ ไม่เปิดจังหวะให้บอกลาสักคำ  แสงยักไหล่ขณะงับประตูพร้อมกดล็อก  ดีเหมือนกันเขาเองก็ไม่อยากพูดด้วยนักหรอก
   หนุ่มใหญ่ถอนหายใจยาว ๆ  ก่อนจะกลับมาทิ้งตัวลงบนโซฟา  ข้างร่างเกือบเปลือยของนเรนทร์

“ไม่ยักรู้ว่าเฮียชอบบราวนี่”
“นั่นควรเป็นคำถามแรกงั้นเหรอ?”
“ก็...ไม่รู้สิ” เรนไหวไหล่  มือง่วงอยู่กับการติดเทปบนถุงกระดาษที่ออกแกะเพื่อส่องของด้านใน “หรือเฮียอยากให้ผมถามอะไร”
“แกควรจะอธิบายมาก่อนว่าทำไมแต่งตัวแบบนั้น”
“อ๊ะ!  ลืมไปเลย!” พอนึกขึ้นได้เรนก็ลุกพรวด “ผมซักผ้าทิ้งไว้ในห้องน้ำ!”
“หา  ซักผ้า?  ซักมือเนี่ยนะ  แล้วดึกขนาดนี้....”
“ไม่มีเสื้อผ้าใส่แล้ว  เหรียญหยอดตู้ก็ไม่มี  ผมต้องรีบซักเดี๋ยวแห้งไม่ทะ....”
“นั่งลงแล้วฉันจะให้เหรียญ”

ผลุบ  ที่นั่งด้านข้างทรุดลงทันทีอย่างว่าง่าย  ไอ้นี่มันซื้อตัวง่ายเสียจริง!

แสงมองคนไร้ศักดิ์ศรีด้วยหางตา “ทำไมแกไม่เอาเสื้อฉันมาใส่แทน”
“เดี๋ยวเฮียก็ดุหาว่าผมไปยุ่งกับของอีก  ดีไม่ดีหาเรื่องโยนผมออกห้อง”
“แกเลยนั่งแก้ผ้าให้แม่ฉันดูเนี่ยนะ”
“โอ๊ะ!  แม่เฮียจริง ๆ ด้วย” ชายหนุ่มยกกำปั้นทุบฝามือ “ว่าแล้วว่าหน้าเหมือนกันอย่างกับแกะ”
“อืม...แม่  ส่วนเด็กสองคนนั้นเป็นลูกไอ้ฉาน” อันที่จริงดูหน้าตาก็น่าจะเดาได้ แต่เรนมันโง่เขาเลยสงเคราะห์บอกให้ชัดเจนไปเลย “คนโตชื่อพอใจ  คนเล็กชื่อภูมิใจ”
“ติดเฮียน่าดูเลยนี่” เรนคลี่ยิ้มเมื่อนึกถึงใบหน้าของแสงตอนอุ้มหลาน “ตอนแรกจะไม่ยอมกลับบ้านกันเลยถ้าเฮียไม่มา”
“เคยช่วยเลี้ยงอยู่ช่วงหนึ่งน่ะ” แสงเอนหลังลงกับพนัก  หยิบบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นจุดในรอบสองอาทิตย์พร้อมยกขาไขว่ห้าง “ฉันเลี้ยงเด็กเก่ง  อุ้มใครก็หยุดร้องไห้”
“ไม่ใช่เพราะเด็กกลัวเฮียเหรอครับ  หน้าดุซะขนาดนั้น  ฮ่า ๆ ๆ”
“ขำมากนักเหรอ”
“นิดหน่อยเอง” เจ้าจิ้งจอกยิ้มเผล่ “ผมเพิ่งเคยเห็นเฮียอ่อนโยนขนาดนั้น  เล่นเอาตกใจเลย”
“แกจะให้ฉันทำหน้ายักษ์ใส่เด็กหรือไง”
“เปล่าซะหน่อย” คนอยู่ไม่สุขเริ่มเขี่ยถุงกระดาษบนโต๊ะไปมา “เฮีย....”
“อะไร”
“ผมขอโทษนะ”

หือ?  แสงขมวดคิ้ว  จ้องไอ้เด็กซ่งที่ก้มหน้าสำนึกผิดจนไหล่ลู่  ยังไม่ทันออกปากถามมันก็รีบอธิบาย

“แม่เฮียต้องเข้าใจว่าซื้อผมมากินแน่เลย!” ปัง!  นเรนทร์ตบโต๊ะ “แน่ล่ะ  อยู่ ๆ มีผู้ชายนุ่งน้อยห่มน้อยมาเดินป้วนเปี้ยนในบ้านลูกชายใครก็ต้องตกใจทั้งนั้น  ผมทำให้ภาพลักษณ์เฮียย่อยยับ  แล้วไหนจะ...”



“ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่”

คนแซ่ซ่งชะงักกับการบอกปัด  ใจดีแบบนี้ไม่สมเป็นเฮียแสงเลย
   “จะไม่เป็นไรได้ยังไง  เข้าใจผิดแบบนั้นมันดูไม่ดีเลยนะครับ”
   “ช่างมันสิ” ฟู่  ควันลอยเอื่อยจากริมฝีปากค่อย ๆ จางไปกับอากาศ “เขาก็ไม่ได้หวังให้ฉันเป็นลูกดีเด่นอยู่แล้วนี่”

   แสงไม่ได้เจ็บปวด  ไม่มีความรู้สึกใดสะท้อนในแววตาด้วยซ้ำไป  ทว่านเรนทร์ที่นั่งข้าง ๆ กลับสัมผัสได้ถึงบรรยากาศน่าอึดอัด  จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ชายหนุ่มเลือกจะถามมันออกไป

“ผมถามตรง ๆ นะ”
แสงเลิกคิ้ว
“เฮียไม่ถูกกับแม่เหรอ”
“ก็ประมาณนั้น” คนตอบยักไหล่ไม่ยี่หระขณะยัดบุหรี่เข้าปากสูดควันสารเคมีเข้าไป  ลิ้มรสมันอย่างอ้อยอิ่ง “ไม่ค่อยอยากติดต่อกันนักหรอก”
“ทำไมอะ”
“เสือก”
“ใจร้าย!” เด็กร้องเสียงแหว๋ว  ขยับเข้าไปกระแซะจนขาเกยอีกฝ่าย “ให้ผมเสือกหน่อยไม่ได้เหรอ”
แสงกัดริมฝีปากไว้ไม่ให้เผลอยิ้มออกมา  ไอ้เด็กซ่งทำหน้าสอดรู้อย่างจริงใจแล้วตลกชะมัด  แล้วนี่มาเกยเขาทั้งที่แต่งตัวล่อแหลม หรือมันจงใจกันนะ....

แต่ก็เอาเถอะ...

มือกร้านยกขึ้นแหวกเส้นผมบริเวณซีกซ้าย  ตอนนั้นเองนเรนทร์เพิ่งสังเกตว่ามีรอยตะขาบสีขาวตรงนั้นด้วย

“แม่ปาที่เขี่ยบุหรี่ใส่ฉันตอนบอกว่าเป็นเกย์น่ะ”
คนเล่าพูดด้วยท่าทีสบายเหมือนคุยเรื่องดินฟ้าอากาศ  ก็มันผ่านไปเป็นสิบ ๆ ปีแล้วนี่นะ  จะให้มาบีบน้ำตาเจ็บช้ำก็ไม่เหลือความรู้สึกแล้วล่ะ
“ก่อนหน้านั้นก็ไม่ถูกกันอยู่แล้วด้วย  ฉันไม่ค่อยเชื่อฟังใครน่ะ  เจอกันทีไรก็มองหน้ากันไม่ติดทุกที  ฉันถึงได้ออกมาซื้อคอนโดอยู่เอง  สบายใจกว่าเยอะ” เขาปล่อยปอยผมให้ร่วงปรกทับดังเดิม “แต่เสาร์นี้วันเกิดหลานจะไม่ไปก็คง.....ทำอะไรของแก”
พึ่บ...  เส้นผมถูกยกกลับขึ้นไปใหม่  ดวงตาฉงนช้อนขึ้นจ้องรอยแผลเป็นนั้นไม่วางตา  แถมไม่มองเฉย ๆ ปลายนิ้วหยาบไล้สัมผัสไปบนรอยนูนอย่างแผ่วเบา
แสงชะงักไปเล็กน้อย  ไม่เคยมีใครตั้งใจแตะต้องตรงนั้นมาก่อน  น่าแปลกที่มันทำเขาร้อนวูบวาบในอก  ไม่ได้เจ็บแผลเก่าหรอก แต่เป็นเพราะดวงตาหมาจิ้งจอกที่ช้อนมองนี่ต่างหาก  มัวแต่สนใจแผลจนเผลอขยับขาขึ้นมาเกยเขาไปแล้วครึ่งตัว  ตอนนั้นเองที่แสงรู้สึกว่าจุดที่สัมผัสกันร้อนไม่ต่างจากอกเลย

“อูย....ตอนเย็บคงเจ็บน่าดูเลย” คุณหมอจำเป็นให้ความเห็น “เฮียเลยหัวล้านเป็นเส้นเลยเนอะ”
“รอยแค่นั้นไม่ได้เรียกว่าหัวล้านสักหน่อย” เรียวคิ้วขมวดเข้าหากัน  ทั้งที่รำคาญแต่ไม่คิดจะปัดมือออกเลยสักนิด  แสงนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้น  รอจนฝ่ายนั้นลูบจนหนำใจแล้วผละออกมาเอง
“ปาแค่แม่เหรอ  พ่อเฮียไม่ปาด้วยเหรอ”
“ถามได้หยาบคายชะมัด” ปากพูดแบบนั้นแต่เกือบจะหลุดขำแล้วเชียว “พ่อรับได้น่ะ  ประหลาดดีบ้านอื่นเขาจะมีปัญหากับพ่อทั้งนั้น แต่ฉันสบายมาก”
“ดีจังเลยน้า~  พ่อเฮียใจดีเหมือนพ่อผมเลย”
แสงยิ้มเยาะ  ดูท่าคุณณรงค์จะใจดีอย่างเรนมันว่าแหละ  ถึงได้จ่ายเงินชาวบ้านทั้งที่เก็บเงินไม่ได้จนเป็นหนี้เป็นสินให้ลูกชายมาช่วยชดใช้อยู่นี่ไง  เขาตำหนิในใจ แต่ไม่ยอมพูดให้แซ่ซ่งคนลูกฟังหรอก
แสงนึกขอบใจที่นเรนทร์ไม่ได้มองเขาด้วยความสงสารเวทนาเลยสักนิด  ถ้าให้พูดตามตรงมันก็แค่อยากสอดรู้นั่นแหละ
เรนกระตุกยิ้ม  แน่ล่ะ...เรื่องของคนที่ชอบใครจะไม่อยากรู้

“ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าที่คุณฉานพยายามนัดกินข้าวก็เพราะอยากให้เฮียกับแม่ดีกันงั้นสิ”
“ฉานมันเป็นเด็กดี” แสงพูดราวกับว่าน้องชายที่ห่างกันแค่สองปีเป็นเพียงเด็กน้อย “ก็นะ  เขาโชคดีแล้วที่มีไอ้ฉาน.....ลงไปได้แล้ว หนัก”
เพราะทับเขามานานโดยไม่รู้ตัวเรนจึงชักขาหลบแทบไม่ทัน  ชายหนุ่มพาดขาลงบนโซฟาดังเดิม  นี่เขาเผลอปีนตัวเฮียแสงเลยเหรอเนี่ย  สงสัยบรรยากาศพาไป  โทษลมโทษฟ้าไม่มีการโทษตัวเองทั้งนั้น

“ยุคนี้แล้วเขาอาจจะเริ่มยอมรับเฮียแล้วก็ได้นะ”
“ไม่มีทาง  ไม้แก่ดัดยากไม่เคยได้ยินหรือไง” แสงวางอุปกรณ์สูบยาสีเงินลงบนโต๊ะ  สำหรับวันนี้พอแค่นี้ก่อน “ก็เหมือนคนกินหมามาตั้งแต่เกิด  วันดีคืนดีมีคนมาบอกว่าหมากินไม่ได้เขาจะเชื่อไหมล่ะ”
“นั่นสินะ....”
“ทางที่ดีไม่ต้องข้องเกี่ยวกันดีกว่า” หนุ่มใหญ่ถอนหายใจ “เฮ้อ~ แต่เสาร์นี้เลี่ยงไม่ได้จริง ๆ”

คิดถึงหน้าออดอ้อนของหลานทั้งสองแล้วจะใจจืดใจดำได้ยังไงเล่า  จะว่าไปต้องรีบหาของขวัญให้พอใจซะแล้ว  ไม่รู้ว่าเด็กสมัยนี้ชอบอะไร  ปีก่อนซื้อหนังสือนิทานให้ก็ดูดีใจไม่สุดชอบกล  ถ้าแบบนั้นของเล่นก็น่าจะดีกว่า...

“โทษทีนะเฮีย”
แสงหลุดออกจากภวังค์  ลืมไปได้ยังไงว่ายังมีเด็กอีกคน  ตอนนี้มันนั่งคร่ำเคร่งคิ้วขมวด
“เพราะผมชอบเสือกเลยทำให้เฮียต้องมาเล่าเรื่องไม่ดีเลย”

เด็กเวรเสียด้วย....

ทั้งที่น่าจะเขกกะโหลกโขกหัวให้สาสมความสอดรู้ของมันแท้ ๆ แต่แสงกลับเลือกที่จะวางมือลงบนกลุ่มผมสีทองแล้วขยี้มันเหมือนเล่นกับหมา

ร่างสูงเหยียดตัวขึ้นยืน “ไม่ต้องคิดมาก  ฉันจะเคืองก็เรื่องเดียว”
“........”
“ถ้าเขาคิดว่าฉันซื้อแกมามันดูถูกรสนิยมกันมาก”
“โห...เจ็บชะมัด!”
นอกจากไม่สนคำโวยวายแล้ว  แสงที่ยืนค้ำหัวอยู่ก็ควักกระเป๋าสตางค์ออกมาเปิดพร้อมยื่นเหรียญสิบสามเหรียญมาให้ “ซักผ้าซะ”
“ขอบคุณครับ” เด็กซ่งรับเงินด้วยตาเป็นประกาย  ลืมที่โดนดูถูกเสียสนิท  ไม่สิ...ชินแล้วมากกว่า  เฮียก็ตบหัวแล้วลูบหลังแบบนี้ตลอดล่ะน้า~

แผ่นหลังกว้างน่าซุกซบอยู่ห่างไปเพียงนิดเดียว  สัมผัสอุ่นจากมือเมื่อครู่ยังติดแหงกบนหัวอยู่เลย  ร่างกายมันเลยร่ำร้องได้คืบจะเอาศอก  ฉับพลันนั้นเผลอเกร็งลำคอค่อย ๆ ยื่นหัวเข้าไปใกล้  อีกนิดเดียวเท่านั้นสันจมูกก็จะปักหลังพอดี...

“ยังไม่รีบไปอีก” เหยื่อหันขวับแล้วกระดุ้งกับใบหน้าที่แทบแนบหลัง “ทำท่าอะไรของแก”
“มะ...ไม่มีอะไร แค่เสียศูนย์ตอนลุกนิดหน่อย  แฮะ ๆ” ไอ้เรนกุมสีข้างที่ถลอกปอกเปิกลุกขึ้นหนีความอับอาย “ไปเดี๋ยวนี้เลยครับ”

   ฝากไว้ก่อนเถอะเฮียแสง...

.........................................................
....................................
...............
.......

ออฟไลน์ Indigo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1030/-7



“ออกไปซื้อของขวัญกับฉันหน่อยได้ไหม”

เคร้ง!  ตะหลิวร่วงตามแรงโน้มถ่วงโลก  หวิดปักนิ้วก้อยตีนไปไม่กี่มิลฯ  คนฟังแข้งขาอ่อนแทบล้มพับตอนก้มลงไปเก็บ...
“ฮะ..เฮียว่าอะไรนะ”
“ไปซื้อของกับฉัน” แสงชี้นิ้ว “ล้างตะหลิวก่อนสิวะ  จะฆ่าฉันหรือไง”
   ฆาตกรรีบโยนของกลางลงซิงค์ล้างจาน  ยังไม่วายคว้าอันใหม่ด้วยมืออันสั่นเทาหวิดจะร่วงอีกรอบ “เฮียชวนผม....ปะ...ไป....”
   “ซื้อของ” แสงรีบเติมคำในช่องว่าง  นึกกลัวสิ่งที่จะออกจากปากเรนไม่น้อย “ของขวัญหลานฉัน”
   “ทำไมถึงมาชวนผมล่ะครับ”
   คนแก่กว่าถอนหายใจ “ปีก่อนฉันซื้อนิทานให้  พอใจดูไม่ค่อยชอบ  เลยคิดว่าให้เด็กที่อายุสมองเท่ากันช่วยเลือกน่าจะดีกว่า”
   “มีคนบอกหรือเปล่าว่าเฮียขอร้องคนได้แย่มาก”
   “ฉันไม่ได้ขอร้อง” คนปากแข็งยักไหล่ “ก็แค่ชวน  จะไม่ไปก็เรื่องของแก”
   “ไปครับไป!”
   “ไม่ต้องเก็บงานแล้วเหรอ”
   “หึ” พ่อครัวยกนิ้วโป้งพร้อมแสยะยิ้ม “เรียบร้อยแล้วล่ะครับ  แค่รอเขานัดตรวจงานผมก็จะกลับมารวยแล้ว”
   คนไถเงินกระตุกยิ้ม “กล้าพูดนะ”
   “ความจริงว่าจะกลับมาทำงานกับลุงบุญนั่นแหละ แต่ไม่ได้บอกแกก่อนเกิดโผล่หัวไปที่ไซต์เลยโดนด่าแหงม ๆ” มือซ้ายกระดกกระทะอย่างเชี่ยวชาญ “นาน ๆ ทีพักบ้างก็ดีเหมือนกัน”
   “ถ้าตั้งใจจะหยุดแต่แรกแล้วแกแหกขี้ตาตื่นมาทำไม”
   นเรนทร์เหลียวใบหน้ามองคนที่พ่นคำถามโง่ ๆ “ก็ต้องทำข้าวเช้าให้เฮียนี่นา”

   พรึ่บ...

   โน้ตบุคถูกกางขึ้นกะทันหันเพื่อบังใบหน้าดุที่ขึ้นสีแดงเรื่อ

ฉะ...ฉิบหายแล้ว  เผลอคิดไปได้ว่าคำตอบมันน่ารักชะมัด....
   
แสงก้มตัวลงจนหลังโก่งเพื่อให้ไอ้จอสี่เหลี่ยมนั่นบังได้มิด  ดวงตาดุจเหยี่ยวโผล่พ้นมาลอบดูฝ่ายตรงข้าม  โชคดีที่ไอ้เด็กซ่งมัวแต่ง่วงกับการพลิกไข่ม้วนเลยไม่ทันได้สังเกตปฏิกิริยาเมื่อครู่  ไม่ไหวเลยไอ้แสงทำไมเห็นกงจักรเป็นดอกบัว
   ตะ...แต่มันลงทุนตื่นเช้าเพื่อเขาทุกวันแบบนี้มันออกจะเหมือน.....  ไม่สิ! มันทำงานบ้านแลกที่ซุกหัวนอนก็ต้องตื่นตามหน้าที่อยู่แล้วไม่เห็นแปลกเลย  ไม่มีทางคิดอะไรเกินเลยหรอก  ขนาดนอนด้วยกันทุกคืนยังตัวแข็งทื่อเป็นหินกันทั้งคู่ปานนั้น
   อาหารเช้าวันนี้เป็นไข่ม้วนทรงเครื่องใส่แฮมสับละเอียด  เหมือนจะไม่อิ่มแต่นเรนทร์ใช้ไข่สี่ฟองทอดเลยใหญ่อืดเต็มจาน  หน้าตาทุเรศนิดหน่อยเพราะเละตอนพลิกด้าน  แสงก้มดูอาหารในจานก่อนจะเงยหน้ามองขี้ข้าที่ง่วนอยู่กับการล้างอุปกรณ์
   เขาไม่เคยอยู่ในสถานการณ์นี้มาก่อน...
ทุกครั้งเรนจะออกห้องหลังทำอาหารเสร็จ แต่ครั้งนี้ไม่....  ใจคอเขาจะจ้วงข้าวเข้าปากทั้งที่มีเด็กน้อยหิวโหยนั่งมองเฉย ๆ ได้ลงคอเชียวเหรอ  จิตสำนึกคนดีที่ซ่อนอยู่ในซอกหลืบของหัวใจร่ำร้อง  อีกะแค่แบ่งอาหารให้
“เรน”

คิดซะว่าเหมือนเขี่ยเศษกระดูกให้หมาจรฯ แล้วกัน

“มากินข้าวกัน”

   สีหน้าของมันที่ตอบกลับมาทำเอาแสงต้องมุดหลังจอคอมอีกครั้ง....

…………………………………………
…………………………
……………
…..


ทั้งที่มีคอมมูนิตี้มอลล์อยู่ใกล้คอนโดแท้ ๆ แต่กลับเดินไม่ได้ เพราะฝั่งตรงข้ามเป็นถิ่นเฮียอู๋  แสงเลยต้องโง่ขับรถอ้อมไปห้างสรรพสินค้าแทน  โดยมีไอ้ตัวดีหัวเราะแหะ ๆ ว่า ‘ห้างใหญ่เฮียจะได้มีของให้เลือกเยอะกว่าไง’
‘ข้าวเช้าร่วมกันมื้อแรก’ ผ่านไปอย่างธรรมดากว่าที่คิด เพราะกลัวแสงจะเปลี่ยนใจเรนเลยไม่แซวให้มากความ  แถมตัวเองก็ดีใจจนไม่มีหน้าไปแซะใครแล้วล่ะ  แช่กระทะเสร็จก็คว้าจานลากเก้าอี้มานั่งฝั่งตรงข้ามรอให้เฮียตักแบ่ง  จากนั้นก็คุยกันเรื่องสัพเพเหระ
   ห้างสรรพสินค้าตั้งอยู่ที่ริมถนนรถติดแหง็กทั้งที่มาวันธรรมดาแท้ ๆ  แสงต้องใช้เวลาถึงครึ่งชั่วโมงกว่าจะหาที่จอดรถได้  เล่นเอาหงุดหงิดอยู่เหมือนกัน  ในขณะที่ไอ้ตัวแสบนั่งผิวปากสบายเป็นตุ๊กตาหน้ารถน่าตบกะโหลกคว่ำเสียจริง

   “ของสดในตู้เย็นหมดพอดี  แวะซื้อเลยได้ไหมเฮีย” ขี้ข้าถามพลางปลดเข็มขัดนิรภัยออก “ผมเอาเงินที่เฮียให้ติดกระเป๋ามาด้วยนะ”
   “เอาไว้ก่อน  รีบไปเลือกของขวัญให้มันเสร็จก่อน” คนขับปิดงับประตูทันทีที่พูดจบ  เขาไม่ชอบทำอะไรค้าง ๆ คา ๆ ขอเคลียร์ให้จบไปทีละเรื่องก็แล้วกัน
   จะว่าไปเขานี่ก็บ้าบอเสียจริง  พูดจาระแวงว่ามันจะขโมยของสารพัดแต่ฝากเงินให้มันซื้อของเข้าบ้านตลอด  ถึงจะพร่ำบอกตัวเองว่าแค่เงินไม่กี่ร้อยก็ให้มันขโมยไปสิ แต่ส่วนลึกกลับมั่นใจว่านเรนทร์ไม่มีวันขโมยของอย่างแน่นอน  คนอย่างมันไม่ทำอะไรที่คาดเดาง่ายอย่างนั้นหรอก  ต้องซับซ้อนเล่นท่ายากผาดโผนโรลเพลย์นู่นถึงจะใช่
   เพราะมีเป้าหมายชัดเจนทั้งคู่จึงมุ่งหน้าไปยังโซนของเล่นเด็กทันที  มันตั้งอยู่ชั้นบนสุดของโซนห้าง  แถมมีของให้เลือกละลานตาจนแสงจับต้นชนปลายไม่ถูก  สารภาพเลยว่าไม่เคยมาเหยียบแผนกนี้เลย  มากสุดก็แค่เดินผ่าน
   ชั้นวางสินค้าเรียงรายเป็นแถว  ฝั่งขวาเป็นเสื้อผ้าแบรนด์ต่าง ๆ ฝั่งซ้ายเป็นโซนของเล่นที่แบ่งยิบย่อยลงไปอีก  ทั้งชายหญิง หรือแม้แต่บอร์ดเกมสำหรับผู้ใหญ่ก็มีขายเช่นกัน

   “ควรจะเริ่มจากตรงไหนดี” เมื่อจนปัญญาจำต้องหันไปถามคนเด็กกว่า “แกเคยมาซื้อของแบบนี้ไหม”
   “ผมลูกคนเดียวนะ”
   “ไร้ประโยชน์ชะมัด”
   “อะไรเล่า!” เรนงึมงำ “อีกะแค่ซื้อของขวัญมันจะไปยากอะไร  เริ่มจากเฮียอยากให้อะไรกับหลาน”
   ทั้งที่คำถามง่ายปานนั้นแต่คุณลุงนิ่งไปนานมาก  ก่อนจะตอบอย่างไม่มั่นใจ “สมองเด็กกำลังพัฒนาก็ต้องอ่านหนังสือสิ”
   “เพราะคิดแบบนี้ปีที่แล้วหลานถึงได้หน้ามุ่ยตอนได้ของไม่ใช่เหรอครับ” เรนถองสีข้างแซว “ป่านนี้หนังสือนิทานเฮียนอนเป็นปุ๋ยอยู่ในบ้านแล้วมั้ง  เปิดอ่านสักหน้าหรือเปล่าก็ไม่รู้”
   “แกถามเพื่อจะมาตอกย้ำฉันเรอะ”
   “เฮียนี่ไม่ได้พัฒนาเอาเสียเลย” เห็นมันส่ายหัวเอือม ๆ แล้วแสงอยากจะยันสักโครม “ในเมื่อเฮียอยากให้หลานพัฒนาแต่เลือกอะไรน่าเบื่อแบบนั้นมันออกจะ...”
   “งั้นหนังสือนิทานมีเสียง”
   “ยังจะนิทานอีกเหรอ!” เรนล่ะยอมใจความทึนทึกของเฮียเลย “เฮียคิดอะไรง่าย ๆ อย่างของเล่นเป็นไหม  สมัยเด็กไม่เคยอยากได้เหรอ  หรือเกิดมาก็แก่แดดเลย”
   คนฟังน้ำท่วมปาก  นี่มันจะได้ใจถอนหงอกเขาเกินงามไปแล้วนะ...
   “ของเล่นไม่ใช่อะไรไร้สาระนะเฮีย  เอาไปเล่นกับเพื่อนฟาดหัวกันเปรี้ยงปร้างเลือดออกก็ยังถือว่าได้พัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล”
   “แกพูดเหมือนหลานฉันเป็นเด็กแว้น”
   “ผมแค่ยกตัวอย่างน่า” ไอ้เด็กแสบรุนแผ่นหลังกว้างไปด้านหน้า “ซื้ออะไรที่หลานได้ใช้จริงดีกว่าเอาไปทิ้งขว้างนะ”
   “เออ ๆ เข้าใจแล้ว”

   ดูท่าการเอาตัวเรนมาช้อปปิ้งด้วยจะไม่เสียเปล่า  อย่างน้อยมันก็ช่วยชี้ทางสว่างให้เขาคล้อยตามได้  จริงสินะ...มัวแต่เลี้ยงหลานเหมือนอ่านคู่มือเลี้ยงลูกแบบนั้นมันใช้ได้ที่ไหน  อีกอย่างเขาก็กลับบ้านนาน ๆ ทีควรจะทำอะไรให้ทางนั้นประทับใจดีกว่า
   ถึงกระนั้นแสงก็เลือกของอย่างประดักประเดิด  ไม่รู้อันไหนเรียกว่าสวย  ยิ่งของเล่นเด็กผู้หญิงมีแต่โทนสีแปร๋น ๆ ยิ่งยากเข้าไปใหญ่  ขณะกำลังมึนงงเด็กโข่งข้างตัวก็ร้องทัก
   “อ๊ะ!  นี่ไง ๆ” มันชี้ไปที่ตุ๊กตาตัวหนึ่ง “หลานเฮียชอบเอลซ่าไหม”
   “ก็...เอ่อ...ไม่แน่ใจ”
   “ไม่แน่ใจว่าชอบ หรือไม่ใจว่าเอลซ่าคืออะไร”
   “รู้จักสิ  เรื่อง Frozen ใช่ไหม” นอกจากเพลงมันแล้วแสงก็คุ้นหูแค่ชื่อเอลซ่านี่แหละ  ดีนะเอาตัวรอดไม่ให้เด็กมันหาว่าเชยได้ “แต่ไม่รู้ว่าพอใจชอบหรือเปล่า”
   “เด็กสมัยนี้ใครก็ชอบเอลซ่าทั้งนั้นแหละ” ทั้งเป็นแค่ผู้ใช้แรงงานแต่เรนฝอยได้เป็นฉาก ๆ “ขนาดหลานลุงบุญยังงอแงอยากได้ชุดเลย”
   “งั้นเหรอ” หนุ่มใหญ่ก้มตัวลงมาดูยังชั้นที่เรนชี้  จ้องหน้าตุ๊กตาพิมพ์เดียวกับบาร์บี้เพียงแต่มีผมเปียสีทองและสวมชุดฟ้า  เขาเผลอขมวดคิ้ว “ฉันไม่ชอบหน้าตุ๊กตาแบบนี้เลย”
   “อ่า...เขาทำไม่ค่อยสวยอะเนอะ” เรนพยักหน้าเห็นด้วย  งานขายเด็กก็แบบนี้แหละ  รุ่นสะสมสวย ๆ เขาขายแพงให้ผู้ใหญ่นู่น “แต่ของแบบนี้มันมีคุณค่าด้านแบรนด์นะ  ขอแค่เป็นเอลซ่าเด็กก็ชอบแล้ว”
   ฟังมันวิเคราะห์แล้วแสงเผลอมยิ้ม “พูดจาฉลาดเป็นด้วย”
   “เห็นแบบนี้ก่อนลาออกผมเรียนบริหารนะ” มันยืดอกโอ้อวดก่อนออกเดินสอดส่องหาผลิตภัณฑ์ตัวอื่น “ถ้าไม่ชอบตุ๊กตาพลาสติกลองดูแบบผ้าไหมล่ะครับ”
   “อ๊ะ...นั่น!”

   ตาลุงผู้นิ่งเงียบไม่มีความเห็นมานานถึงกับหยุดชะงัก  ทำเอานเรนทร์สนใจว่าของชิ้นนั้นคืออะไร  รีบสาวเท้ากลับมายังล็อกข้าง ๆ แล้วก็พลันขมวดคิ้ว

   “ชุดทำอาหารนี่ไง  ได้ฝึกพัฒนาการเด็กด้วย”
   “เฮีย...” เรนถึงกับกุมขมับ  มองเครื่องครัวพลาสติกสีชมพูแปร๋นอันประกอบไปด้วยเตาไฟ  หม้อ  กระทะ และวัตถุดิบอีกสี่ห้าอย่าง  สิ่งเดียวที่บ่งบอกว่ามันคือ Frozen มีเพียงสติ๊กเกอร์หน้าตัวละครที่แปะอยู่เท่านั้น “ไม่เสริมสร้างพัฒนาการได้ไหมอะ  คุณฉานแกน่าจะเสริมให้พอแล้วนะ”
   “นี่ก็ Frozen แล้วนะ  ยังมีอะไรไม่พอใจแกอีกเหรอ” เด็กสมัยนี้มันจะเอาใจยากเกินไปแล้ว  ไหนจะหลาน  ไหนจะไอ้เรน “ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นเลยนะ”
   “สมัยนี้ยังมีเด็กเล่นทำอาหารอีกเหรอ  เฮียไม่ซื้อเตาขนมครกไปเลยล่ะ”
“แล้วตุ๊กตามันจะมีเยอะไปถมที่เหรอ  พอใจก็เพิ่งอวดว่าได้ตัวใหม่มา”
“เด็กผู้หญิงน่ะมีตุ๊กตาเยอะ ๆ ยิ่งดี  จะได้เล่นตั้งวงดื่มน้ำชาได้ไง!” เรนคว้าตุ๊กตาผ้าตัวสโนว์แมนจมูกแครอทขึ้นมา “เฮียเชื่อผม  เอาอันนี้”
“ไหนว่าต้อง Frozen”
“ไอ้นี่มันก็อยู่ในเรื่อง  นั่นไงล่ะ! เฮียไม่ได้ดูจริง ๆ ด้วย”

โธ่เว้ย!  โชว์เด๋อจนได้

ใบหน้าบิดเบี้ยวเพราะเสียรู้เด็กทำเอาเรนกลั้นขำจนตัวสั่น  ทำไมเฮียน่ารักแบบนี้นะ....
จากที่เก้อเขินเลยกลายเป็นชายสองคนเถียงกันฉอด ๆ โอ้อวดสรรพคุณของขวัญที่ตัวเองเลือกไปเสียอย่างนั้น  น่าแปลกที่โดนเด็กถอนหงอกแล้วแสงดันคิดว่ามันเป็นช่วงเวลาที่สนุกไปซะได้
นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้ทำตัวเป็นเด็กงี่เง่า  พออยู่กับนเรนทร์มากเข้าความบ้ามันเลยออสโมซิสเข้าร่างไปด้วยล่ะมั้ง  ไม่อยากยอมรับเลยว่าเขาโหยหายช่วงเวลานี้มานานแค่ไหน  ยืนเถียงกันโง่ ๆ อย่างเรื่องเสื้อสีไหนสวยกว่า หรือเย็นนี้จะกินอะไรดี
ถ้าไม่สนิทคงไม่กล้าทะเลาะเหมือนเด็กเช่นกัน...

“สรุปว่าเอาชุดครัวนั่นแหละ” มือใหญ่คว้าป้าบขึ้นมาถือตรวจดูของว่ามีส่วนไหนบุบสลายบ้าง “เพราะฉันจ่ายเงิน”
“อ้างเหตุผลแบบนี้เลยเหรอเฮีย” คนจนก็แพ้ไปสิ  มามุกนี้เรนจะเอาอะไรไปสู้
“เขามีบริการห่อของขวัญให้ฟรีด้วยนี่” นอกจากไม่ต่อความแล้วยังเดินดุ่ม ๆ ไปตรงเคาน์เตอร์แบบไม่สนใจความเห็นใคร  เขาวางมันลงบนโต๊ะบอกกับพนักงานด้วยเสียงเฉียบขาด “ห่อให้ด้วยนะครับ”

คนแพ้มองตุ๊กตาโอลาฟในมืออย่างอาลัยอาวรณ์  เวลานี้รอยยิ้มของมันดูเย้ยหยันชอบกล  เรนจับแขนสองข้างของมันเขย่าไปมาเป็นการระบายอารมณ์
แสงเหลือบมองเด็กโข่งด้วยหางตา  ก่อนจะเรียกเสียงดัง




“เรน!  รีบหยิบมาจะได้คิดเงินทีเดียว”

อ๊ะ!  คนฟังเบิกตาโพลง  ใบหน้าดีใจแบบนั้นเล่นเอาแสงประหม่า

“นาน ๆ ทีซื้อสองอย่างเลยก็ได้” ประโยคต่อมาเบาหวิวคล้ายจะพึมพำบอกตัวเอง “พอใจจะได้ดีใจ”


   พอใจ...หรือใครกันแน่...

.....................................................
..............................
...............
.......


นเรนทร์ยืนพิงกำแพงฮัมเสียงตามเพลงที่ดังลอดลำโพงของห้าง  วันนี้เขาได้ใช้โควตาความสุขของเดือนนี้หมดไปหรือยังนะ  หรือพระเจ้ามีโปรสะสมแต้มแล้วเขาแจ็กพอตแตกพอดี  ทำไมเฮียแสงถึงได้อ่อนโยนด้วยขนาดนี้
‘อ่อนโยน’ คำศัพท์ที่ห่างไกลจากสิ่งที่แสงพ่นออกมาลิบลับ  คนอื่นอาจคิดอย่างนั้น แต่นเรนทร์ค้านหัวชนฝา  คนอีโก้เยอะอย่างเฮียแสงไม่ยอมปรึกษาใครง่าย ๆ หรอก แต่กลับชวนเรนมาซื้อของ แถมยังยอมหยิบของที่เขาเลือกติดมือไปด้วย
แค่นี้หัวใจก็พลันฟูฟ่องต่อชีวิตไปได้หลายวัน  กำลังวิ่งเล่นในสวนดอกไม้ก็เห็นแสงเดินกลับมาพร้อมถุงกระดาษของห้างเต็มสองมือ  เจ้าจิ้งจอกจึงวิ่งโร่เข้าไปหาทันที

“ห่อเสร็จแล้วเหรอครับ”
“อืม” เขายกของในมือโชว์เล็กน้อย “กล่องใหญ่ชะมัด”
“กล่องใหญ่เด็กยิ่งชอบสิ  ตอนเด็กผมจับสลากได้กล่องที่ใหญ่สุดและหนักที่สุดในห้องด้วยนะ” เล่าไปมือก็เอื้อมไปยื้อแย่งถุงที่ใหญ่ว่ามาช่วยถือ  ทั้งที่น้ำหนักมันเบาหวิวทั้งคู่แท้ ๆ “ดีใจแทบแย่  เพื่อนทั้งห้องอิจฉากันใหญ่”
“แล้วได้อะไร”
“ข้าวสาร”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ” คนหน้าดุระเบิดเสียงหัวเราะอย่างห้ามไม่อยู่
“ไม่ขำนะครับ  ตอนแกะแทบร้องไห้แหนะ!”
“แกนี่มันดวงซวยชะมัด”

   ถุงในมือแกว่งไปด้านหน้าร่วงลงข้างลำตัว  โบกไปมาราวเด็กเล่น  เรนเดินขนาบข้างแสง  มีบางจังหวะที่แขนเสียดสีกัน แต่เมื่อไม่ถูกตำหนิเท่ากับว่าอนุญาต  เขาจึงขยับเข้าไปอีกรอจังหวะที่แตะกันไม่กี่วิฯ เพื่อให้หัวใจเต้นแรง
   หลังเสร็จภารกิจหลักแล้วก็ควรพุ่งตรงไปซูเปอร์มาร์เก็ต  ทว่าแสงขอแทรกคิวด้วยการแวะร้านหนังสือสักหน่อย  เห็นว่าอยากได้นิตยาสารแต่งบ้านมาดูแก้เซ็งสักหน่อย  ถึงจะไม่มีโครงการทำอะไรแต่งานอดิเรกพวกนี้ใช้คุยกับลูกค้าฆ่าเวลาได้เป็นอย่างดี
   ร้านหนังสือป้ายสีแดงพร้อมไฟขาวสว่างตาจึงเป็นจุดหมายให้เข้าไป  แสงไม่รอช้าที่จะพุ่งตรงเข้าหาชั้นนิตยสารพอดี  มือจับเล่มนู้นเล่มนี้มาเปิดผ่านตา  คาดว่าสุดท้ายจะได้เลือกฉบับล่าสุดนี่แหละ
   เรนที่เดินตามเข้ามาก็พลอยกวาดสายตาดูไปด้วย  ข้าง ๆ ชั้นวางแมกกาซีนคือหนังสือพิมพ์หลายหัวเรียงรายเต็มไปหมด  เขาวาดสายตาอ่านพาดหัวข่าวทีละฉบับอย่างไม่เร่งรีบ  บ้างก็หยุดทึ่งพวกหนังสือพิมพ์บันเทิงที่พาดหัวข่าวด้วยภาษารุนแรง

   “โห...” มันกระตุกแขนเสื้อคุณทนาย “เขียนแรงขนาดนี้เขาไม่ฟ้องเหรอ”
   “หือ” ทางนั้นเหลือบตามอง “ก็มีฟ้องบ้างแหละ  ของไร้สาระพรรค์นั้นไม่ต้องดูหรอก”
   ยังไม่วายมาควบคุมความประพฤติเรนไปอีก  ทว่าเด็กซ่งมันฟังที่ไหนเล่า  มือเอื้อมไปหยิบเล่มที่ใกล้มือที่สุดมา “เฮียดูอันนี้สิ  เขียนคำว่า ‘หวอ’ พร้อมลงรูปถ่ายช้อนแบบนี้  มันออกจะ”
   “เดี๋ยวนะ...”

   พึ่บ...   แสงคว้าหนังสือที่เขาเพิ่งด่าว่าไร้สาระออกจากมือเรน  ที่เขาสนใจไม่ใช่พาดหัวหลัก แต่เป็นข่าวรองกรอบด้านล่างต่างหาก


   ‘จมูกทะลุกลางงาน  ไฮโซอักษรย่อด.  ลั่นจะเอาผิดหมอฉ.ให้ถึงที่สุด’

   วินาทีนั้นเขาร้อนรนจนเผลอเปิดอ่านอย่างเสียมารยาท  พลิกไปยังหน้าที่บอกไว้ในทันที  ดวงตาดุจเหยี่ยวกวาดเอาข้อมูลทั้งหมดใส่หัว  ทั้งที่ตั้งคลินิก  คำบอกใบ้ต่าง ๆ นานา
   ไม่ผิดแน่....  แสงพึมพำออกมาขณะที่ปิดหนังสือพิมพ์ลง....



“นี่มันไอ้ฉาน...”


TBC


ตอนนี้ยาวมากค่ะ  พิมพ์จนนิ้วล็อก แถมตัดจบได้ค้างสาแก่ใจอีช้อยมากค่ะ
เขียนไปก็หลงความเป็นพระเอกซีรีส์ของอาไป  ทั้งซึนทั้งปากร้าย  ถ้าไม่ถึกแบบเรนคงทนไม่ไหว 5555
เจอกันตอนหน้านะคะ  ขอบคุณที่ติดตามค่ะ

PS.ขอบคุณคุณมาโซซายตี้ ที่ทักเรื่องไฟนะคะ  คนเขียนลืมคิดถึงเรื่องนี้ไปค่ะ  เดี๋ยวจะทำการปรับแก้ไขนะคะ

ออฟไลน์ jaja-jj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 548
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
 คนแก่นี่มันแก่จริงๆ นึกว่าวันนี้จะไม่มาซะแล้วค่ะ

ออฟไลน์ jomyingg

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มีการกินข้าวเช้าด้วยกันด้วยอะ ความสัมพันธ์พัฒนาไปไกลจริงๆค่ะ คุณผู้โช้มมม  :-[  :-[  :-[

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
เป็นตอนที่มีหลายอารมณ์มาก

สนุกสุด ๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด