ไม่มี ✖ ไม่หนี ✖ ไม่รัก [UP! Santa Baby 25/12/61] p.33
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ไม่มี ✖ ไม่หนี ✖ ไม่รัก [UP! Santa Baby 25/12/61] p.33  (อ่าน 263381 ครั้ง)

ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
มาต่อเลยได้ไหม

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ทำไมเราเริ่มรู้สึกสงสารอาแสงแล้วล่ะ ไอ้เด็กเรนนั่นคงไม่ใช่มีคลิปตอนนั้นเป็นตัวประกันนะ

ออฟไลน์ reverofjs

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อาแสงนี่ก็ลีลาแซ่บใช่เล่นนะเนี่ยยยยย   :hao6:

ออฟไลน์ Carina

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
กรี๊ด อาแสงนี่เอง รออ่านตอนต่อไปค่ะ  :impress2:  :impress2:

ออฟไลน์ Indigo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1030/-7
ทวงครั้งที่ 3

“อ้าว! หวัดดีครับเฮียแสง”
ประโยคทักทายพร้อมยกมือไหว้ผู้หลักผู้ใหญ่ถูกหลักมารยาทไทยไม่ได้ทำให้นเรนทร์ดูน่ารักขึ้นเลยสักนิด  ประกอบกับของอันตรายในมือที่ยังส่งเสียง ‘อย่าครับเฮีย’ อื้ออ้าไม่หยุดหย่อนยิ่งทำให้รอยยิ้มดูเสแสร้งสิ้นดี

“แก...” เรนไม่ได้พูดขัด ทว่าแสงพูดไม่ออก  คนเด็กกว่าเอียงคอเป็นเชิงถาม ‘ว่าไงครับ?’
“โฮ่ง ๆ ๆ ฟ่อ ๆ” ท่ามกลางความฉิบหายในเมืองหลวงหมาบางแก้วบ้านข้าง ๆ ก็มิได้หยุดปาก  ทว่าเสียงของมันมิได้ลอดเข้าโสตประสาทของแสงแต่อย่างใด  ตอนนี้ทุกความคิดทุกห้วงคะนึงหาของเขามีเพียงคนตรงหน้าเท่านั้น....

“ไอ้เด็กเวร!” ในที่สุดวลีแรกก็หลุดออกจากปาก  ใช้เวลานานจนหมาน้ำลายแห้งไปหมดแล้ว
“แหม...รุนแรงจัง” คนผิวแทนขมวดคิ้วน้อยใจ  ตาเหลือบมองจอมือถือก่อนจะหันไปให้พระเอกของเรื่องดู “แต่ตอนนั้นก็รุนแรงนี่เนอะ”
ผัวะ!  หลังมือปัดเข้าที่โทรศัพท์  ภาพสองร่างเปลือยเปล่าหลุดออกจากมือทว่าเรนตามไปคว้าได้ทัน

“อย่าทำลายข้าวของสิครับ  เครื่องนี้เพิ่งผ่อนหมดด้วย”
“ต้องการอะไร” แสงตอบด้วยคำถามที่ยิงตรงประเด็นที่สุด
เจ้าลูกแกะตัวน้อยปลดซิปที่ด้านหลังออกลอกคราบทิ้ง  หางตาชี้ขึ้นกับรอยยิ้มแสยะแบบนั้น  ชัดเลย...แกะห่าอะไรล่ะ  หมาป่าชัด ๆ!
   “คุยกันตรงนี้คงไม่สะดวก  แคทเธอรีนเห่าจนเหนื่อยแล้ว” เรนบุ้ยปาก “ตามผมมาสิ”

   ฮึย!  แสงเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันจำใจเดินตามขึ้นบันได  มองสะโพกที่เคยร่วมรักลอยเด่นอยู่ตรงหน้าด้วยอารมณ์ที่เปลี่ยนไป  อยากจะถีบจริง ๆ ให้ดิ้นตาย  แค่คิดปลายเท้าก็สั่นระริกไปหมดแล้ว  ประกอบกับเสียงอื้ออ้าอย่าไม่ที่ดังก้องในโถงบันไดแล้วปวดขมับตุบ ๆ
   “อย่างน้อยก็ช่วยหยุดเล่นคลิปสักทีได้ไหม”
“ฮ่า ๆ ๆ โทษทีครับ”
ด้วยเมตตามันจึงหยุดให้ตามที่ขอ  หน้าไม่อายชะมัดเปิดคลิปโป๊ตัวเองเสียงดังลั่น  ขนาดแสงที่กร้านโลกยังอดหน้าร้อนวูบวาบไม่ได้
บันไดคอนกรีตทอดตัวยาวสู่ชั้นสอง  แสงคิดว่ามันจะเปิดประตูเข้าไปแต่ไอ้เด็กนั่นยังไม่หยุด  ก้าวขึ้นไปอีกหกเจ็ดขั้นก็เจอประตูที่ปลายสุดของบันได  สรุปได้ว่าทาวน์เฮ้าส์หลังนี้มีสองชั้นครึ่ง

“ห้องแคบไปหน่อย  ขออภัยด้วยนะครับ”
จะไม่แคบได้ไงเล่า ก็มันเป็นห้องใต้หลังคานี่นา  แสงสามารถเอื้อมมือแตะเพดานได้สบาย ๆ  ภายในห้องมีเฟอร์นิเจอร์แค่ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะญี่ปุ่นซอมซ่อ  ของระเกะระกะเต็มพื้นห้องไม่นับรวมในลังกระดาษที่เรียงรายอยู่ตรงกำแพงอีก  โชคดีหน่อยที่ไม่มีกลิ่นเหม็นอับอย่างที่คิด
นเรนทร์เดินไปเปิดหน้าต่างเหนือฟูกนอนก่อนจะกลับเข้ามาเก็บกองขยะ  เมื่อเห็นว่ามีช่องว่างก็ผายมือออกอย่างสุภาพ “นั่งสิครับเฮีย”

“เท่าไหร่ก็ว่ามา”
“หือ?”
จะลีลาไปเพื่ออะไรจุดประสงค์ก็เขียนอยู่บนหน้าผากแกแล้วแท้ ๆ  แสงเสยผมอันยุ่งเหยิงขึ้นยอมรับความพ่ายแพ้ของตัวเอง “ค่าลบไอ้คลิปนั่นน่ะ”
ชายหนุ่มเอียงคอหน้าตาบ๊องแบ๊ว “เฮียคิดว่าผมอยากได้เงิน?”
“แล้วไม่ใช่หรือไง”
“ไม่ใช่  ไม่ใช่เงินหรอก....”
“.......”
“ผมจะเอามากกว่านั้นอีก”

ไอ้-เด็ก-ผี!
หากฆ่าคนตายไม่ผิดกฎหมายแสงจะขอใช้สิทธินั้นเดี๋ยวนี้  ปลายนิ้วสั่นระริกจิกเข้าหาฝ่ามือพยายามอดกลั้นเหยียบย่ำโมโหโทโสใด ๆ ทั้งปวง  พอเห็นเขายืนนิ่งไม่ยอมนั่งเจ้าบ้านเลยแทรกตัวลงไปนั่งที่พื้นเสียเอง  แถมยังเอนหลังเหยียดขาสบายใจเฉิบ
“เรามาทำข้อตกลงกันดีกว่าครับเฮียแสง”
   ดูท่าจะขาดทุนเต็มประตู ทว่าแสงก็ต้องกัดฟันยอมรับ “ว่ามา”
   “ถ้าเฮียไม่อยากให้คลิปขืนใจผม....”
   “ฉันไม่ได้ขืนใจ”
   “แต่ในคลิปมันดูเป็นงั้นนะครับ  เฮียจะลองดูเต็ม ๆ ไหมล่ะ” นเรนทร์ทำท่าจะเปิดให้ดูอีกรอบจนแสงต้องร้องห้าม
   “ไม่ดูโว้ย!” อีกนิดจะเข้าไปยื้อแย่งแล้วปามือถือมันออกนอกหน้าต่างแล้ว “แกรีบ ๆ พูดมา อย่ามัวลีลา”
   เรนจิ๊ปาก  ตัวเองเป็นคนพูดขัดแท้ ๆ ยังมาว่าเขาอีก “ผมมีเงื่อนไขข้อเดียว  อย่ามาให้ผมเห็นหน้าอีก”
   “ฉันก็ไม่ได้อยากเห็นหน้าแกนักหรอก แต่....”
   “และห้ามทวงหนี้เฮียใหญ่กับผมด้วย”

   กึก...  แสงชะงักในทันที  สมองอันชาญฉลาดเพิ่งจะหลุดพ้นจากโคลนตม เพราะมัวแต่ตกใจที่ตัวเองกำลังจะได้เป็นพระเอกหนังโป๊จนลืมเรื่องสำคัญไปเสียสนิท  ก็ไอ้ที่เขาซมซานมาที่นี่ก็เพราะหนี้ก้อนนั้นไม่ใช่หรือไง
   “เห็นทีจะไม่ได้” แสงตอบเสียงเรียบ “มันเป็นงานของฉัน”
   “แน่ใจเหรอครับ?” เรนแหงนหน้าขึ้นมองคนแก่กว่า  ฉับพลันนั้นมุมปากก็ระบายรอยยิ้มน่ารัก “ถ้าเฮียใหญ่รู้ว่าลูกน้องคนโปรดเป็นเกย์ แถมยังขืนใจคนรุ่นราวคราวลูกจะว่ายังไงน้า~”
   “แก...” ขู่เรื่องเกย์ก็เจ็บแล้ว เสือกมาบอกว่าเขาแก่คราวพ่ออีก  ไอ้เด็กนี่ดูท่าจะไม่อยากตายธรรมชาติ
   “แหม...ใครก็รู้ว่าเฮียใหญ่เกลียดเพศที่สามจะตายชัก  ไอ้ผมน่ะลูกหนี้ยังไงก็โดนตื้บอยู่แล้ว แต่กับลูกน้องนี่เฮียใหญ่จะว่ายังไงนะ  ฮะฮะฮะ”
   “ไอ้....”
   ผัวะ!  ไม่รู้ว่าชาตินี้จะได้ด่ามันเต็มปากเต็มคำไหม  ต้องมีเหตุเภทภัยมาแทรกอยู่ร่ำไป  ชายทั้งสองหันขวับไปยังบานประตูที่เปิดออก  เสียงแปดหลอดแทงเข้ามาเป็นอย่างแรก

   “เรน!  เจ๊ซื้อน้ำเต้าหู้มาฝะ...ว้ายยยยย!”
   ผู้มายืนหวีดร้องจนเผลอปล่อยถุงน้ำเต้าหู้ร่วงดังโพละ   น้ำสีขาวนองเต็มพื้นค่อย ๆ ไหลเข้ามาในห้องจนถึงส้นรองเท้าหนัง  คนรักความสะอาดชักเท้าหนี
   “สะ...แสง...”
   “ว่าไงเจ๊ซันไชน์” การที่มันเรียกชื่อเต็มยศแบบนี้เจ๊ซันรู้ดีว่าไม่ได้อยู่ในอารมณ์ปกติแน่  ร่างที่สูงใหญ่อยู่แล้วราวกับขยายใหญ่ขึ้นจนชนเพดาน  รังสีอำมหิตแผ่ซ่านจนหล่อนไม่กล้าจะสูดหายใจเพราะกลัวจะสำลักเข้า
   “อุ๊ย....ดูเหมือนจะคุยกันอยู่  งั้นเจ๊ไป...”
   หมับ! แสงคว้าบ่าเพื่อนรุ่นพี่เอาไว้มั่น  บีบอีกนิดก็แหลกคามือ “นั่งก่อนสิครับเจ๊....”

   ภาพตัดมาที่ผู้เสียหายยืนกอดอกพิงกำแพงและคนร้ายทั้งสองนั่งจุมปุ๊กอยู่บนพื้น  ซันไชน์หลบตาเลิ่กลั่กในขณะที่เรนยังมีท่าทีสบาย ๆ  แสงใช้ดวงตาเหมือนเหยี่ยวจ้องเขม็งมายังจุดอ่อน
   “เจ๊ก็ร่วมมือกับมันด้วยสินะ”
   ตอนนี้เขาบนหัวแสงได้แทงทะลุเทือกเขาแอลป์ไปแล้ว  โง่ระดับพรีเมี่ยม ยอดเยี่ยมที่สุด!  โธ่เว้ย! พอมาลองย้อนนึกดูเขาน่าจะเอะใจตั้งแต่เห็นสภาพตึกซอมซ่อนี่แล้วสิ  ลูกค้าเจ๊มันจะไปอยู่โทรมแบบนี้ได้ยังไง  ยิ่งไปกว่านั้นยังจับพิรุธเจ๊เมื่อคืนนั้นได้หลายอย่าง  ทั้งพนักงานน้อยผิดปกติ  ร้านที่ว่างเปล่าไม่มีลูกค้า  ป้ายปิดร้าน  ไหนจะเสื้อที่บางเป็นกระดาษทิชชูนั่นอีก  ถ้าไม่มัวแต่หื่นหน้ามืดตามัวคงไม่ต้องมารับเคราะห์กรรมแบบนี้
   เพราะความเงียบเข้าปกคลุม  ทำเอาซันไชน์หายใจไม่ทั่วท้อง “แสง...  อย่ามองเจ๊ด้วยสายแบบนั้นสิ”
   “ผมรู้จักเจ๊มาเป็นสิบปี” ไอ้โกรธน่ะแน่อยู่แล้ว แต่ผิดหวังมากกว่า “ทำไมทำแบบนี้”
   “ฟังเจ๊ก่อนนะ” หล่อนยกมือขอความเห็นใจ “จริง ๆ แล้วเรนไม่ใช่ลูกชายเพื่อนเจ๊ แต่เป็น...”
“ผัวใหม่?”
“อีผี!  ผัวบ้านป้าแกสิ!” นอกจากแว้ดใส่แสงอย่างลืมตัวแล้วยังหันไปพะเน้าพะนอเด็กข้าง ๆ “เรนอย่าไปฟังมันนะลูก  เจ๊ไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นเลย”
“ไม่ใช่แล้วเป็นอะไร  ทำให้เจ๊ถึงขั้นมาช่วยแบล็คเมล์ผมเนี่ยนะ?”
“พ่อเขาเป็นผู้มีพระคุณของฉัน” เจ๊ซันสูดน้ำมูกที่ทำท่าจะไหลกลับเข้าไป  ไม่นะ...หัวใจของฉันจะต้องไม่ร้องไห้ “พี่ณรงค์ให้ฉันยืมเงินก้อนแรกสำหรับเปิดบาร์  แกก็รู้ใช่ไหมแสง สมัยนั้นน่ะมีแต่คนรังเกียจฉัน แต่พี่เขาดีต่อฉันมาก ๆ เลย”
“.......”
หล่อนถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ละ...แล้วแกจะให้ฉันปล่อยให้ลูกชายของพี่เขาต้องถูกทำร้ายเหรอ  ฮึก....”

   จากเคียดแค้นหัวใจของแสงก็พลันอ่อนวูบ  จากที่รู้จักกันมานานเจ๊มันก็เป็นคนอารมณ์อ่อนไหวแบบนี้แหละ  ถึงจะปากร้าย แต่เรื่องการถูกเหยียดหยามเหมือนปมในใจมาโดยตลอด  คงไม่แปลกที่จะซาบซึ้งในบุญคุณของใครสักคนจนช่ว-----


   “เพราะงั้นแกก็.....อย่าเพิ่งทวงเงินเจ๊นะ”
   “ไอ้สัน!”
   “กรี๊ดดดดดดดด! ใครให้แกเรียกชื่อนั้น!” สันติ์ชัยหวีดเสียงลั่นจนคนในห้องแก้วหูแทบแตก  เดินมาตบหน้ายังไม่เจ็บเท่าเรียกชื่อเก่าเช่นนี้ “ฉันชื่อซันไชน์!”
   “สันติ์ชัย” แสงย้ำอีกครั้งให้เต็มยศ “ไหนพูดมาตรง ๆ เลยซิ”
   “แสงแก....  เออ!  ฉันยอมรับก็ได้ไอ้เรื่องบุญคุณนั่นแค่บังหน้า  ความจริงคือร้านฉันฝืดมากหมุนอันโน้นไปแปะอันนี้จนถึงขีดสุดแล้ว  ฉันไม่มีปัญญาคืนเฮียเร็ว ๆ นี้แน่  ที่สำคัญ...ที่สำคัญ....” มาถึงตรงนี้หล่อนก็ซบใบหน้าลงกับฝ่ามือ “ผัวเด็กมันเพิ่งทิ้งฉันไป แถมไม่ทิ้งเปล่า ๆ ยังหอบเครื่องเพชรไปด้วย  โฮ~”
   ราวกับเส้นความอดทนขาดสะบั้น  ซันไชน์ทรุดตัวร่ำไห้ลงกับพื้นน้ำตาหยดแหมะ ๆ แทบจะไหลนองไปผสมกับน้ำเต้าหู้เมื่อครู่  โดยมีนเรนทร์ลูบหลังปลอบไม่ห่าง  แถมยังส่งสายตาตำหนิมาทางแสงอีกต่างหาก  เฮ้ย ๆ เดี๋ยวก่อนสิเว้ย!
   แม่งเอ๊ย...  นี่เป็นการแท็กทีมที่น่ากลัวมาก  พวกมันพยายามเปลี่ยนผิดเป็นถูก  ไหนจะการเล่นละครที่สมจริงราวนักแสดงมืออาชีพ  มิน่าคืนนั้นไอ้เด็กนั่นถึงร้องปานควายถูกเชือด  ไม่รู้ว่าดื่มน้ำผึ้งมะนาววอร์มเสียงก่อนออกศึกด้วยหรือเปล่า

   “ฟังนะ  ทั้งเจ๊ทั้งแก” แสงกอดอกยืนค้ำหัวคนทั้งสอง  แผ่ออร่าสีดำทะมึนอีกครั้ง “เงินน่ะยืมเฮียเขามายังไงก็ต้องคืน  อย่าคิดว่ามาใช้แผนทุเรศแบบนี้แล้วจะหยุดฉันได้”
   “ถ้าเฮียใหญ่รู้ความจริงผมว่าดีไม่ดีคนที่ถูกซ้อมจะไม่ใช่ผมนะครับ” เรนสบตาดุ ๆ นั้นอย่างไม่หวั่นไหว “หลอกเฮียใหญ่มาตั้งกี่ปี  คิดว่าเขาจะปล่อยไปง่าย ๆ เหรอครับ”
   คนฟังไม่แสดงอาการทางสีหน้า  ไอ้เด็กนี่ร้ายกาจชะมัด  ดูท่าจะสืบเรื่องนิสัยเฮียใหญ่มาไม่น้อยเลย  ใช่แล้ว...แสงรู้ดีว่าถ้าความจริงเรื่องนี้ถูกเปิดเผยเขาจะโดนเล่นงานอ่วมขนาดไหน  สำหรับคนอย่างเฮียใหญ่เรื่องเงินยังไม่ทำให้โกรธเท่าเรื่องนี้เลย
   “ทำหน้าเหมือนจะฆ่าผมเลย” ความจริงนั่นคือหน้าปกติของแสง “จะอุ้มผมไปฆ่าโบกปูนก็เชิญ แต่เฮียจะไม่มีวันรู้หรอกว่าคลิปมันถูกก๊อปปี้ไว้ที่ไหนบ้าง  บางทีถ้าผมตายไปอาจจะเป็นแค่ตัวเริ่มระเบิดเวลาก็ได้นะ”

   นอกจากเบี้ยวหนี้แล้วยังมาขู่เขาซ้ำอีกยอมใจมันเลยจริง ๆ อะไรจะเลวครบสูตรปานนั้น  กำปั้นสั่นระริก แสงพยายามอย่างที่สุดที่จะไม่ลงไม้ลงมือกับนเรนทร์  รอยบุ๋มที่คิ้วลึกลงไปอีกราวกับรอยแผลเป็น  ดวงตาดุจเหยี่ยวจ้องเขม็งไปยังเด็กเมื่อวานซืน
   “แค่ไม่ต้องมาให้ผมเห็นหน้า  ถ้าผมหาเงินมาได้เมื่อไหร่รับรองว่าจะคืนแน่นอน”
   “ใช่ ๆ แกก็แค่ตีเบลอลืมพวกเราไปสักเดือนสามสี่เดือน” เจ๊ซันรีบเข้ามาช่วย “ไม่ได้ชักดาบสักหน่อยแสง  แค่ขอเวลาหาเงินเท่านั้น  ฉันรู้ว่าแกจัดคิวทวงเอง  ขอเถอะนะช่วยหน่อยเถอะ”

   วิถีของหมาจนตรอกคือการทำทุกอย่างให้รอดตาย  ต่อให้กัดจนเลือดตัวเองกบปากมันก็จะทำ  นั่นแหละสิ่งที่น่ากลัวที่สุด  แสงรู้สึกเหมือนยืนอยู่บนหน้าผามีให้เลือกสองทางคือโดดลงไปตายหรือถูกผลักลงไปตาย  สมองตึงเครียดจนพูดอะไรไม่ออก
   “โธ่เว้ย!” สิ่งที่หลุดออกมาหลงเหลือเพียงคำสบถเท่านั้น  ส้นรองเท้าหนังกระแทกกับพื้นตามมาด้วยเสียงปึงปังของประตู

   แสงจากขุมนรกนั้นมาโดยไร้สุ้มเสียง  ปัญหาตรงหน้ามันมากเกินกว่าที่เขาจะแก้ไขภายในวินาทีเดียว  สู้กลับออกมาหาวิธีรับมือกับมันใหม่ดีกว่า  รอบนี้เขาเดินผ่านเสียงเห่าของสุนัขอย่างเฉยชา  มือหนึ่งล้วงกระเป๋ารีบจุดบุหรี่ขึ้นสูบบรรเทาความเครียด
   สองขาเดินย้อนกลับไปยังตรอกที่จากมา  เลยที่จอดรถตัวเองก่อนจะอ้อมไปด้านหน้าของถนน  แบงก์ยี่สิบสองใบถูกควักออกจากกระเป๋าสตางค์ วางมันลงตรงโต๊ะสแตนเลส

   “ค่าโจ๊ก  ผมไม่กินแล้วนะ เอาไปให้ใครก็ได้”


   ...แดกไม่ลงหรอก
แค่นี้ก็เละเป็นโจ๊กพอแล้ว…



………………………………………
………………………
………
……


   เฮือก!

   แสงลืมตาโพลงขึ้นมา  สะดุ้งเสียจนเท้ากระตุกเหมือนคนตกจากที่สูง  เขาเป็นอย่างนี้มาสี่ห้าครั้งตลอดคืนเพราะความเครียด  รอบนี้เห็นแดดแยงเข้ามาตรงหน้าต่างจึงตัดสินใจดึงตัวเองขึ้นจากเตียง
   ปกติเขาค่อนข้างตื่นสาย  เช้าที่สุดคือเก้าโมง เพราะทำงานที่ห้องไม่ต้องเผื่อเวลาไปตอกบัตรเข้ากะอะไรอย่างใครเขาแสงจึงใช้เวลากับการนอนอย่างเต็มที่  แต่ดูสิ...นาฬิกาบนข้างฝาเพิ่งเจ็ดโมงอยู่เลย  ตื่นมาทำบ้าอะไรวะเนี่ย!
ถึงจะก่นด่าตัวเองแต่แสงก็เดินลากเท้าไปยังห้องครัว  รินน้ำเย็นดื่มอึก ๆ ไปสองแก้วพอให้ร่างกายสดชื่นขึ้นมาบ้าง  เขาทิ้งซากลงบนเก้าอี้ดวงตาปรือปรอยเหม่อมองแก้วเปล่าในมือ
พูดตามตรงต่อให้นอนแห้งตายบนเตียงก็ข่มตาไม่หลับแน่นอน  เรื่องเมื่อวานยังวนลูปในหัวเป็นละครรีเมคไม่หยุดหย่อน  จนแล้วจนรอดแสงก็ยังไม่รู้ว่าจะจัดการเรื่องบ้า ๆ นี้อย่างไร  เลยตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้
ระหว่างเป็นพระเอกจีวีพร้อมโดนกระทืบตายกับประวิงเวลาให้ลูกหนี้ที่พร้อมจะหนีทุกเมื่อ  ถ้าพูดในแง่ความเสียหายแล้วอย่างหลังน่าจะพอไหว  หนี้เจ๊ซันเขาไม่หนักใจเท่าไร เพราะพอจะรู้อยู่บ้างว่ามีทรัพย์สินตรงไหนให้ยืด แต่ไอ้เด็กไม่รู้หัวนอนปลายเท้านี่สิ...
แค่นึกถึงภาพใบหน้ายียวนกวนประสาทก็ลอยวาบขึ้นมา  ไอ้หมาจิ้งจอกเอ๊ย! ไม่รู้คืนนั้นเขาหน้ามืดตามัวระดับไหนถึงได้ไปตกหลุมมันได้  แถมยังโรลเพลย์บ้าบอเป็นเรื่องเป็นราว  ขายขี้หน้ากว่าแก้ผ้าก็ตอนพูดบทเนี่ยแหละวะ  โกรธตัวเองจนอยากวิ่งไปหั่นไอ้จ้อนทิ้งให้รู้แล้วรู้รอด  ต่อจากนี้คงไม่กล้าไปนอนกับใครเรื่อยเปื่อยอีกแล้ว  ไม่สิ...แก่ขนาดนี้ต้องเลิกไปเลยดีกว่า

เฮ้อออออ...

ถอนหายใจจนขนจมูกจะร่วงอยู่แล้ว  เมื่อสรุปได้ว่าตอนนี้เขายังกระโตกกระตากทำอะไรมากไม่ได้  คงต้องคอยประวิงเวลาหนี้ก้อนนั้นไปก่อน  ระหว่างนั้นก็หาทางสืบทรัพย์รีดเค้นสมบัติที่เหลือของมันมาให้ได้ และต้องกระทำการอย่างเงียบ ๆ ไม่ให้รู้ตัวด้วย

‘แค่ไม่ต้องมาให้ผมเห็นหน้า  ถ้าผมหาเงินมาได้เมื่อไหร่รับรองว่าจะคืนแน่นอน’

พูดเหมือนเขาอยากเห็นหน้ามันนักล่ะ  ความจริงลบเมมฯ ทิ้งตั้งแต่คืนนั้นแล้วด้วยซ้ำไป  แล้วไหนจะไอ้คำพูดคำจาอวดดีว่าจะหาเงินมาคืนนั่นอีก  ขนาดจะขอร้องยังใช้วิธีข่มขู่แล้วประสาอะไรกับเรื่องคืนเงิน  เกรงว่าจะทำได้แค่ขูดรีดตามสมควรไม่ให้เป็นหนี้สูญเท่านั้นแหละ  เฮียใหญ่นะเฮียใหญ่ช่างสรรหาลูกหนี้มาให้เขาปวดกบาลเสียจริง
เพราะนอนไม่หลับเลยได้โอกาสทำอาหารเช้ากินแทน  แสงปิ้งขนมปังป้ายเนยแล้วส่งเข้าปากตอนที่ยังร้อน ๆ อยู่  ห้องครัวใหญ่โตแต่มีปัญญาทำได้ไม่กี่อย่างหรอก  ระหว่างที่เดินกลับไปรินนมดื่มเสียงโทรศัพท์ก็แผดขึ้น  ลูกค้าเก่าโทรมาปรึกษาเรื่องที่ดิน เห็นว่าว่างพอดีแสงจึงตกปากรับคำว่าจะไปกินข้าวเย็นด้วยวันนี้

   ครืดดดดดด

   เสียงลากแผ่นไม้ผ่านหน้าห้องเป็นสัญญาณเตือนว่าใกล้จะได้เวลาช่างเริ่มงานแล้ว  คนอยู่บ้านทั้งวันได้แต่สบถในใจ  ทำไมช่วงนี้ถึงได้มีแต่เรื่องที่ควบคุมไม่ได้วะ!
   แสงหยิบคอมพิวเตอร์แล้วกลับเข้าไปในห้องนอน  สวมแว่นแล้วก้มหน้าก้มตาอ่านข่าวสารบ้านเมืองในนั้น  สักพักก็คล้อยหลับไปอีกรอบ ตื่นมาอีกทีเพราะเสียงยิงตะปูจากห้องด้านข้าง
   แสงเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองหมายมั่นว่าจะแวะซูเปอร์ฯ ด้านล่างแล้วกวาดเสบียงขึ้นมากักตุนไว้  จังหวะที่คว้ากระเป๋าสตางค์กับกุญแจห้องขึ้นมาช่างด้านนอกก็บรรเลงเสียงโซโล่โป๊กป๊ากกันอย่างเมามัน

   วี๊ดดดดด
   
   เส้นประสาทตรงขมับกระตุกยิก ๆ ใกล้จะขาดผึงเต็มที  แสงกระแทกเท้าพร้อมกระชากบานประตูออกอย่างรุนแรง “ช่วยเบา ๆ กันหน่อยได้ไหม!”

   เท่านั้นแหละ...โลกก็หยุดหมุน...

ช่างสองคนที่ช่วยกันแบกแผ่นไม้ยาว ๆ ไว้บนบ่าหยุดชะงักตรงหน้าห้องพอดี  จะไม่อะไรเลยถ้าหนึ่งในนั้นไม่มีผมสีทอง  ผิวแทน และหางตาที่ชี้ขึ้น

แสงอ้าปาก  ไม่นะเว้ย...ไม่...

ทันใดนั้นแมสปิดปากก็ถูกดึงลงมากองที่คาง...


“อ้าว! เฮีย....”


......................................................
.....................................
.................
.........


“แกเป็นเจ้ากรรมนายเวรฉันหรือไง”

แสงคงฆ่ามันตาย และอาจจะตายอย่างทรมานด้วยเขาถึงต้องมารับกรรมในภพภูมินี้

“เฮียพูดอะไรอย่างนั้นเล่า ฮ่า ๆ ๆ” ไอ้ตัวต้นเหตุยังมีหน้ามาหัวเราะร่า “มีอะไรก็รีบคุยสิ  เดี๋ยวหัวหน้าด่าผมหมด”

นเรนทร์อยู่ในสภาพพังยับเยิน  เสื้อดำมอซอ  กางเกงเปื่อยยุ่ย  ตีนดำเมี่ยมขึ้นเป็นจุดขาวเพราะฝุ่นเกาะ  ไหนจะรองเท้าที่แบนเป็นแผ่นกระดาษ เหยียบตะปูทีทะลุถึงตาตุ่มเลยมั้งนั่น  ถ้าคืนนั้นมันเดินมาสภาพนี้ยั่วยวนให้ตายไอ้หนูเขาก็ไม่ตื่นหรอก
เมื่อสองนาทีก่อนเขาเพิ่งจะลากมันออกมายังบันไดหนีไฟตัวที่อยู่ด้านนอกตึก  รีบร้อนจนแผ่นไม้บนไหล่ร่วงกราวโชคดีที่เพื่อนมันอีกคนคว้าไว้ได้ทัน  แทนที่จะหวาดกลัวนเรนทร์กลับตะโกนเข้าไปบอกหัวหน้าช่างว่าขอเวลาแป๊บนึง
“แกรู้อยู่แล้วใช่ไหม?”
“รู้...ผมรู้อะไร?”
“ก็เรื่องที่ฉันอยู่คอนโดนี้ไง  เจ๊ซันคงบอกแกไว้สินะ  ถึงได้แกล้งมาทำงานที่ไซต์นี้”
“เดี๋ยว ๆ  อย่าปรักปรำกันสิ” เรนขมวดคิ้ว “ผมก็ตกใจเหมือนกันที่มาเจอเฮียแสง  แล้วก็ไม่ได้แกล้งมาด้วย ผมทำงานกับที่นี่มานานแล้ว  เรื่องอะไรผมต้องสมัครงานเพื่อมาเจอเฮียด้วยเล่า”
“มาข่มขู่ฉันไง”
“หลงตัวเองเกินไปแล้ว!” นอกจากไม่ยอมรับแถมยังด่าซ้ำอีก “ทำไมต้องลงทุนขนาดนั้น   ผมอยากเห็นหน้าเฮียตายล่ะ”
“ฉันควรจะพูดประโยคนั้นมากกว่า”
   “อีกอย่างนะผมมีคลิปนั้นแค่อย่างเดียวก็ไม่จำเป็นต้องขู่อะไรเฮียแล้วล่ะ”
พอฟังมันพูดก็เริ่มคล้อยตาม  โอเค...ยอมรับก็ได้ว่าเขาคงคิดมากไปเอง แต่จะไม่ให้ตกใจได้ยังไง  ตื่นเช้ามาคนที่เพิ่งข่มขู่เมื่อวานก็มาโผล่ที่ข้างห้อง  แบบนี้เท่ากับว่าชีวิตและทรัพย์สินของเขาไม่ปลอดภัย  นั่ง ๆ นอน ๆ อยู่ไม่รู้จะถูกบุกเข้ามาปล้นฆ่าหรือเปล่า  ยิ่งมันร้อนเงินแบบนี้ด้วย...
“ไม่ต้องมองด้วยสายตาแบบนั้นเลย  ผมไม่ทำอะไรเฮียหรอกน่า”
“เมื่อวานเล่นซะหนักยังมีหน้ามาพูดอีกเหรอ”
“อา ก็จริงอะเนอะ” เรนทำสีหน้าสำนึกผิดเล็กน้อย “เมื่อวานอยู่ ๆ เฮียก็ออกไปเฉยเลย  ตกลงว่ายอมรับข้อเสนอของผมแล้วใช่ไหม?”
“กล้าเรียกสิ่งนั้นว่าข้อเสนอเหรอ” แสงด่าลอดไรฟันขณะที่มือสาละวนควักบุหรี่ออกมาสูบแก้เครียด  ลมพัดเอื่อยไม่รุนแรงมากเพราะเหลื่อมตึกบังทิศทางกำลังดี
“ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าตกลง” แน่ล่ะ...มันคือการข่มขู่นี่นา  เรนเขย่าเสื้อชื้นเหงื่อเพื่อระบายอากาศ  คนแก่กว่าทำหน้าขยะแขยงใส่ทันที  โธ่...ทีตัวเองพ่นควันปุ้ย ๆ เขายังไม่ว่าสักคำ “ไม่มีอะไรแล้วก็ดี  ผมกลับไปทำงานก่อนนะครับ”
“.......”
“อ้อ” ปลายเท้าที่ก้าวออกชะงัก  ก่อนจะผินใบหน้ากลับมาอีกครั้ง “ถ้าเจอกันอีกก็ไม่ต้องทักนะครับ”


แสงดูดลมเข้าไปจนเปลวแดงบนกระดาษแทบไหม้ปาก


   ฉันควรจะพูดประโยคนั้นมากกว่าโว้ย!



TBC


น้องเรนสตรองค่ะ! อยู่กับเฮียแสงสายแบดต้องแบบนี้
เห็นมีคนเดาว่าน้องเรนจะมาเช่าห้องข้าง ๆ  ไม่ใช่นะคะ สภาพดีเกินไป  ระดับนี้ต้องคนงานเลยค่ะ 555555555
ยังไงฝากเอ็นดูเฮียแสงกับน้องด้วยนะคะ
อากาศเริ่มเย็น(เฉพาะตอนเช้า)แล้ว  รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ
เจอกันตอนหน้าค่า//กอดๆๆ

ป.ล.เรื่องนี้จะ(พยายาม)ไม่ให้ยาวมากนะคะ  ตบตีตัวเองห้ามเอื่อยเฉื่อยอีก TvT

ออฟไลน์ chacogothicW

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สภาพดีเกินไป555555555
สงสารอาแสงอ่ะ ปล่อยลุงเขาไปเหอะหนู//ช่วยวิงวอน

ออฟไลน์ JARKISREAL

  • [ ฉันเอง ]
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-2
ชอบคำพูดคำจาเกรี้ยวกราดของแสง มันกร๊าวใจจจจจจ

ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
ว่าหล่ะ น้องเรนดูแปลกๆ 55555
อาแสงโดนเล่นซะแฃ้ว

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
อาแสงโดนซะล้าวววว นเองเรนทำไมร้าย 55

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ทั้งโกรธทั้งโมโหไปกับอาแสง
จะว่าไปถ้าอาแสงเลิกทำงานกับเฮียใหญ่ ทั้งดอกทั้งหนี้ของเฮียใหญ่ก็เก็บคืนมาได้ยาก (หรือเปล่า)
ลำพังลูกน้องสองแฝดนั่นคงทำงานได้ไม่เท่าไหร่ อย่างนี้น่าจะเป็นความสัมพันธ์เชิงพึ่งพากันสิ
ถ้ารู้เรื่องเฮียใหญ่จะซ้อมอาแสงได้แบบไม่คิดหน้าคิดหลังเลยเหรอ
เรนกับเจ๊ซันทำขนาดนี้นะ ถ้าอาแสงหัวรุนแรงเสียหน่อย ก็ลาออกเลย (ว่าแต่จะเอาอะไรกินล่ะนั่น) แล้วให้คนทวงหนี้คนใหม่ (โหดกว่าเดิมหรือเปล่า) มาจัดการเสียให้รู้แล้วรู้รอด ฮึ่ม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 822
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
หัวร้อนไปกับอาแสงแล้วค่ะ ไอ้เด็กนี่มันร้ายจริงๆ!

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
สมน้ำสมเนื้อจริงๆ คุณค่าที่คุณคู่ควร #แสงสายแบด #เรนเด็กเปรต

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เรน เหมือนผี ตามหลอกตามหลอนเฮียแสง
กล้าเล่นแรง เล่นใหญ่ มากกกกก
นี่ถ้าเล่นคนอื่น เรนอาจตายไปแล้ว
พวกเลว ชั่วช้าสุดๆ ไม่แคร์คลิ้ปหลุดหรอก
เฮียแสงนี่ ถึงโหด แต่ไม่ขั้นฆ่าคนไม่กระพริบตา
เอ่อ....เนื้อคู่ของเฮีย ปรากฎตัวแล้ว :katai1: :katai1: :katai1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Carina

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
สงสารอาแสงโดนเด็ก blackmail เล่นมาวนเวียนอย่างนี้ อาแสงจะ keep cool ได้มั้ยเนี่ย  :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ reverofjs

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เรนแม่งร้ายมากกกกกกก
โมโหแทนอาแสงเลยนะเนี่ย   :m16:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
วุ่นวายดีเนอะชีวิต

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
ฮึ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย   :katai1: :katai1: :katai1:
แค้นแทนเฮียแสงเลยอ่ะ
 :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
พี่แสงกะน้องเรน มุ้งมิ้งเชียว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ wikichan

  • ชื่อ:Wi! วิ! วิกิ! วิเวียน//วันๆ ไม่ทำอะไรชอบอ่านมังงะและนิยายเป็นชีวิตจิตใจ ชอบผลงานของพี่แพร์ Nigiri_Sushiที่สุดอ่านทุกเรื่องแต่ไม่ได้ซื้อทุกเรื่อง อยากเจอตัวจริงสักครั้งนึงแบบว่านักเขียนในดวงใจ #เพ้อ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
คนเรามักจะได้คนรักตรงอุดมคติ สเปคยาก
แต่อีกอย่างนึง คนเรามักอยากมีคนรักเวลาเจาะจงหาก็ไม่มี เวลาไม่ปักใจอะไรกลับได้มา

..ดูแล้วลงเอยกันยากไหมนะคู่นี้ 55555 แลเครียดและก็ขำขันไปในตัวมาก
 อาแสงสู้ๆ นะ คนเขาแค่คิดหาวิธีป้องกันตัวไว้ อาอย่าลืมป้องกันหัวใจตัวเองไว้ด้วยล่ะ กิ้วๆ
รออออออตอนต่อไป

ออฟไลน์ kokilolylove

  • รัก ได้ยินหรือเปล่า
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-1
555555555555555555655
น่าสงสารลุงแสงเหลือเกิน

ออฟไลน์ Ming2910

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เพราะเรื่องนี้พระเอกไม่จนแล้ว

นายเอกเลยจน(สุดๆ)แทน

มันต้องมีสักคน 5555

ภาคิน- รถจะพัง (แต่มีรถไง)

พี่ภาพ- ไส้แห้ง (อัพเวล แม้แต่รถก็ไม่มี)

หลง- มีแต่ตัว ( ไม่มีไรเลย)

ล่าสุด

เรน- เป็นหนี้ (ติดลบไปเลยยย)

เรื่องหน้า ไม่รู้จะจนกว่านี้ยังไง 555555


ออฟไลน์ bradpitt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1


:o8: :o8: :o8: :o8: :o8:

 ทำไม  เราอ่าน NC แล้วเขินนนนน แทน เรน


 สงสาร อาแสงงงงงง  โดนเด็กหลอก ง่ะ 

:เฮ้อ: 

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
อ่านตอนแรกก็ยังไม่เอะใจหรอกว่าแสงไหน แต่พอบอกว่าเป็นหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบเอ็ดปีปุ๊บก็นึกออกเลยว่าต้องเป็นอาแสงของคุณอโณแน่ๆ โถววว อาแสงคะจะมีคู่กับเขาทั้งทีก็หาแบบดีๆธรรมดาๆไม่ได้เนอะ สงสารรร

ออฟไลน์ swoooaa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เข้ามาเพราะชื่อคนแต่งเลย คิดไว้แล้วต้องเป็นเฮียแสงพญานกของเรานี่เอง 55+ :hao7:

ออฟไลน์ Indigo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1030/-7
ทวงครั้งที่ 4

   ‘นเรนทร์  แซ่ซ่ง’

   อายุ 24
   สูง 179
   เชื้อชาติ ไทย-จีน
   สัญชาติ ไทย
   เคยเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยแต่ลาออกแล้ว  อาชีพปัจจุบัน ช่างเฟอร์นิเจอร์

   และเจ้ากรรมนายเวร

   ตุบ!  แสงโยนกระดาษลงบนโต๊ะ  มองดูมวนบุหรี่มอดอยู่บนที่เขี่ย  อาทิตย์แรกของการเลิกบุหรี่ล้มเหลวไม่เป็นท่า  สุดท้ายก็หยิบออกมาจุดนั่งดมแก้เครียดจนได้  ถึงจะแค่สองฟืดแต่ความรู้สึกผิดในใจก็ไม่ได้ลดลงเลย  ถ้าอย่างนั้นก็โยนความผิดไปให้ไอ้เด็กซ่งนั่นเลยเป็นไง
   เสียงโป๊กป๊ากลอดฝาผนังเป็นการตอกย้ำความล้มเหลวในชีวิตของแสง  สี่วันผ่านมาแล้วยังไม่สามารถขจัดเสี้ยนหนามใด ๆ ออกจากชีวิตได้เลย  แสงจึงตัดสินใจว่าเมื่อเขี่ยทิ้งไม่ได้ก็ต้องอยู่กับมันอย่างนั้นแหละ

   “เงียบหน่อย!  คนจะทำงาน!”

   สิ้นเสียงตะโกนด่าทอช่างฝั่งตรงข้ามก็ไสไม้อย่างสุภาพขึ้นเล็กน้อย  แสงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะหยิบมือถือมาเสริชหาซื้อบุหรี่ไฟฟ้าสักอัน  พอกันทีกับการหักดิบ  เดี๋ยวก็ได้ตายเพราะความเครียดแทนมะเร็งปอดกันพอดี
   วันนี้เขามีนัดกับลูกค้าตอนเย็นอีกเช่นเคย  ทางนั้นนัดคุยกับนายหน้าที่ดินให้  บอกว่าไม่กล้าตัดสินใจเองยังไงก็ขอให้มีแสงไปด้วย  ก็ดีแล้ว...เงินเขามาจากการแนะนำกึ่งตัดสินใจแทนชาวบ้านนี่แหละ
   บ่ายสองโมงแสงรวบสัญญาใส่ซองเอกสารก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ดูน่าเชื่อถือ  ส่องกระจกแค่สองวินาทีแล้วเปิดผัวะออกไป

   กึก...
แสงชะงัก  ไอ้เด็กนั่นก็เช่นกัน
   นเรนทร์เบิกตาเล็กน้อยก่อนอุปกรณ์ในมือจะลั่น

   ผุก!
   “เฮ้ย!”
   แม่งจะยิงตะปูเข้าแสกหน้าอยู่แล้ว!  หนุ่มใหญ่มองแผ่นไม้ข้าง ๆ ที่เป็นรูด้วยความสงสัยว่ามันจงใจหรือไม่  ไอ้ตัวต้นเหตุก้มหัวขอโทษงก ๆ ก่อนจะเดินผ่านเข้าไปยังอีกห้องอย่างไร้เยื่อใย  โชคดีที่มันยิงตะปูเข้าแผ่นไม้ที่เป็นวัสดุก่อสร้างพอดีไม่อย่างนั้นแสงจะตามไปเล่นงานมันต่อแน่นอน
   ต้องทนเห็นหน้ามันมาสี่วันแล้วสารภาพว่าแทบขาดใจ  อยากจะเอาแผ่นไม้ฟาดให้น่วมแล้วจับไปแขวนคอตรงบันไดหนีไฟ  ยิ่งเห็นสภาพเน่าหนอนสกปรกตัวเหม็นเหงื่อแล้วได้แต่ถามตัวเองว่าคืนนั้นเจ๊ซันมันวางยาด้วยหรือเปล่าเขาถึงได้เห็นกงจักรเป็นดอกบัว


…………………………………..
……………………..
…………
…..
   

   “ขอบคุณมากนะจ๊ะ  ไม่มีแสงพี่คงทำอะไรไม่ถูก”
   “พี่นกก็พูดเกินไปครับ” ทนายหนุ่มโบกไม้โบกมือ “ก็แค่มาช่วยดูนิด ๆ หน่อย ๆ เอง”
   “ช่วยได้มากเลยล่ะจ้ะ”
   “ไม่ต้องขอบคุณกันขนาดนั้นหรอกครับ”
   “เรื่องค่าเสียเวลาพี่จะโอนให้วันนี้นะจ๊ะ”

   กำลังรอประโยคนี้อยู่เลย...
   แสงตบเข่าฉาดในใจทั้งที่ใบหน้าเรียบเฉย  ว่าแล้วเชียวพี่นกน่ะเป็นคนคุยง่ายไม่เคยต้องออกปากพูดเอง  แถมเรทราคายังเป็นมาตรฐานไม่มีต่อรองเกี่ยงงอนใด ๆ  ลูกค้าพรีเมี่ยมแบบนี้จะปล่อยให้หลุดมือไม่ได้ งานราษฎร์งานหลวงแสงก็เหาะมาหาทั้งนั้น
   พี่นกเป็นคุณนายร้านจิวเวลรีพ่วงด้วยแม่บ้านว่างงาน  แสงมารู้จักกับเธอได้เพราะสามีหล่อนเคยว่าจ้างให้เขาจัดการเรื่องแบ่งมรดกกับน้องชายให้  หลังจบกิจคุณนายดันติดใจเรียกใช้บริการไม่ขาด  ก็อย่างว่าแหละนะคนรวยว่าง ๆ ก็เล่นทองเล่นหุ้นเล่นที่ดินกันไป  แถมเธอยังเป็นพวกขาดความมั่นใจในตัวเองต้องรอคนมาฟันธงให้และแสงชอบทำหน้าที่นั้นสุด ๆ ไปเลย

   “แสงกลับเลยหรือเปล่าจ๊ะ?”
   “ว่าจะแวะซื้อของตรงซูเปอร์ฯ นิดหน่อยน่ะครับ” แสงยกมือไหว้ “ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวเลยนะครับ”
   “จ้า  กลับบ้านดี ๆ นะ”

   เจ้าหล่อนโบกมือให้ดูเป็นคุณแม่ DIY อบพายให้ลูกกินสุด ๆ  แสงแย้มยิ้มยกมือไหว้เธอเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะแยกตัวออกมา
   พวกเขานัดเจอกับนายหน้าที่คอมมูนิตี้มอลล์แถวคอนโดของแสง  นี่จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะแวะซื้อของไปกักตุนในห้อง  เดินช้อปปิ้งตามประสาชายโสดร่วมครึ่งชั่วโมงก็หิ้วถุงพะรุงพะรังออกมายังลานจอดรถหน้าห้าง  ขณะกำลังยัดของลงหลังรถก็พลันเหลือบไปเห็นบางอย่างที่ฝั่งตรงข้ามของห้าง

   หือ...ไอ้เด็กซ่งไม่ใช่เหรอไง?
   เพราะเริ่มสายตายาวแสงจึงมั่นใจว่าไม่ผิดคนแน่ ๆ  รูปร่างลักษณะโดดเด่นขนาดนั้น  อย่างน้อย ๆ ก็ไม่มีใครบ้าย้อมผมสีนี้นอกจากลูกไฮโซกับเด็กแว้น  แน่นอนว่านเรนทร์เป็นอย่างหลัง
   ร่างสูง ๆ นั่งกอดเข่าอยู่ตรงบันไดหน้าร้านอุปกรณ์อะไหล่ยนต์ที่ปิดแล้ว  ดวงตาจดจ้องไปยังที่แห่งหนึ่งซึ่งแสงไม่อาจคาดเดาได้  แน่นิ่งอยู่ตรงนั้นชั่วครู่จวบจนเห็นบางอย่างมันถึงได้ลุกขึ้นมาแล้วเดินกลืนเข้าไปกับฝูงชน
   ท้องฟ้ามืดสนิทขนาดนี้แสงเองก็ไม่ควรเสียเวลาเช่นกัน  เขารีบสตาร์ท Citroen C5 พุ่งออกไปบนถนนทันที  ใช้เวลาพอสมควรกว่าจะฝ่าสี่แยกในตำนานได้  ปลายนิ้วเคาะพวงมาลัยนับถอยหลังเป็นการฆ่าเวลา  และเมื่อเลี้ยวเข้ามาสู่ถนนสองเลนความวุ่นวายก็เริ่มบรรเทา...

   “ว้าย!  คนตีกันรีบหนีเร้ว!”

   บรรเทากับผีน่ะสิ!  หนักกว่าเดิมเลยไม่ใช่เหรอ!
   ด้วยปฏิกิริยาตอบสนองอัตโนมัติทำให้คนขับหันขวับไปยังฟุตปาธ  แม่ค้าร้านตลาดกำลังโหวกเหวกโวยวายเก็บของหนีกันยกใหญ่  ยังไม่ทันคลายสงสัยตัวปัญหาก็มาถึง
   “หนีเหรอวะมึง!” ผัวะ!  แผงผักผู้โชคร้ายถูกอันธพาลที่วิ่งโฉบเกี่ยวล้มระเนระนาด  มีเสียงแม่ค้าหวีดร้องเป็นเพลงประกอบ “คิดว่าจะรอดเหรอวะ”
   จะไม่อะไรหรอกนะถ้าไอ้คนที่วิ่งหนีลิ่ว ๆ นั่นไม่ใช่คู่กรณีของแสงเช่นกัน  ไอ้เด็กซ่งสาวขายาว ๆ ของมันวิ่งจนแซงรถของแสงไปเรียบร้อย  สมองอันชาญฉลาดเริ่มประมวลผล  ถ้าจำไม่ผิดไอ้นักเลงสองคนนั้นมันลูกน้องเฮียอู๋นี่หว่า  แม่งเอ๊ย! นี่มึงมีหนี้กี่ที่กันวะเนี่ย
   โอกาสทองขนาดนี้แสงจะไม่ปล่อยให้มันหลุดมือเด็ดขาด  เขาเหยียบคันเร่งแซงขึ้นไปขนาบข้างนเรนทร์  ชายหนุ่มผู้น่าสงสารวิ่งจนเหงื่อกาฬไหลพลั่กเต็มตัว  ใบหน้าบิดเบี้ยวเพราะความเหนื่อยล้า ราวกับว่าหากขยับไปเพียงสองสามก้าวก็จะล้มพับลงไปทันที
   แม้จิตใจจะเหี้ยมโหดเพียงใดหากได้มาเห็นภาพมนุษย์ที่ดิ้นรนเอาชีวิตรอดคงไม่อาจทนได้  แค่เพียงเมตตาหยิบยื่นความช่วยเหลือให้สักนิดก็จะเปลี่ยนชีวิตของคนคนหนึ่งไปตลอดกาล

   เอี๊ยด...

   ล้อค่อย ๆ ชะรอความเร็วลง  ดวงตาดุจเหยี่ยวจ้องมองไปยังร่างของชายหนุ่ม  ก่อนจะขยับ....



   ...เหยียบคันเร่งให้มิด

บรึ้นนนนน!

   วะฮ่า ๆ ๆ  เห็นไหม ๆ เมื่อกี้เห็นสีหน้าไอ้เด็กนรกนั่นไหม  วิ่งเป็นหมาหอบแดดเลยไม่เสียแรงที่ชะลอรถดูชัด ๆ  สะใจเสียจนเผลอตบแตรเสียงดังลั่น  ไม่ได้อารมณ์ดีแบบนี้มาหลายวันแล้วว้อย!

ก็บอกว่าไม่ให้ทักนี่หว่า
โชคดีล่ะ  ไอ้เด็กเปรต…



...................................................
..............................
............
......


   “หึ  ยับเยินเชียวนะ” แสงไม่ได้พูด แต่มันเขียนอยู่บนหน้า

   จะให้ห้ามใจได้ยังไง  วินาทีที่เปิดประตูออกมาเจอใบหน้าพังยับแสงดีใจเสียจนอยากเปิดไวน์ฉลอง  ไอ้เด็กซ่งหลบตาวูบก่อนจะแบกแผ่นไม้เดินฉับ ๆ เข้าห้องทางขวาไป  ทิ้งไว้เพียงหนุ่มใหญ่ที่แสยะยิ้มอยู่ด้านหลัง
   ตาขวาบวมเป่ง  ปากแตก  แผลถลอกตามแขนขา  เด่นชัดสุดก็ตรงหัวเข่าท่าจะล้มลุกคลุกคลานน่าดูเลยล่ะสิ  โถ ๆ น่าสงสารจนเกือบปาดน้ำตา  แสงผิวปากหวือยิ้มแย้มกับความฉิบหายของมันขณะก้าวขาตรงไปยังลิฟต์
   นี่แหละน้าเขาว่าบาปกรรมมันติดจรวดไม่ต้องรอถึงชาติหน้า  บางทีแสงอาจไม่ต้องทำอะไรมากนั่งเฉย ๆ รอเฮียอู๋ทำให้มันเป็นซากก็พอ  ถึงตอนนั้นเขาก็จะเป็นไทไม่โดนเฮียใหญ่กระทืบแถมยังมีข้ออ้างที่ทำหนี้สูญอีก  แผนการยืมมือคนอื่นนี่มันดีจริง ๆ

   “เอ็งนี่นะ! บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าไป ๆ ก็รู้อยู่ว่าเฮียอู๋อยู่แถวนั้น” เสียงแหบแห้งของหัวหน้าช่างทำเอาคนหน้าลิฟต์ต้องเงี่ยหูฟังเก็บข้อมูล “บุญแค่ไหนที่ยังมาทำงานได้น่ะ”
   “ลุงอย่าบ่นนักเลย”
   “ไอ้นี่!  ข้าเตือนแล้วนะ  ทำไม...”

   ติ๊ง!  น่าเสียดายที่ประตูลิฟต์เปิดในจังหวะนั้นดึงแสงกลับมาจากการสอดรู้สอดเห็น  เขาก้าวเข้าไปในกล่องสี่เหลี่ยมขยับลงสู่ด้านล่าง  วันนี้แสงมีนัดกับลูกค้าอีกเช่นเคย  รอบนี้เป็นอาเสี่ยเจ้าของโรงสีที่กำลังฮึ่ม ๆ เรื่องแบ่งมรดกกับพี่ชายไม่ลงตัว  งานบ้านแตกสาแหรกขาดแบบนี้ไว้ใจนายแสง  เรืองภพได้เลย

   สถานที่นัดหมายคือร้านกาแฟในย่านธุรกิจรถติดแหงก  พอไปถึงก็เจอเสี่ยนั่งรออยู่แล้ว  พวกเขาใช้เวลาร่วมสองชั่วโมงในร้าน เพราะเป็นลูกค้าใหม่จึงต้องเสียเวลาแจกแจงอธิบายขอบเขตและค่าใช้จ่ายกันหน่อย  ดูจากภายนอกแล้วเสี่ยเหมือนจะไม่มีอะไรมาก แต่แสงรู้ดีคนพวกนี้เขี้ยวลากดินจะตาย  ไม่อย่างนั้นจะจ้างเขามาจัดการกับพี่ชายเหรอ
   หลังเสร็จภารกิจแสงก็ฝ่ารถติดกลับมา เพราะเลิกงานพอดีเลยเสียเวลายิ่งกว่าขามาเป็นสองเท่า  แหงนมองท้องฟ้าก็เห็นแต่ความมืด  โดนถนนกรุงเทพฯ สูบชีวิตไปอีกจนได้  ระหว่างกำลังก่นด่าสรรพสิ่งในใจดวงตาก็พลันเหลือบไปเห็นบางอย่างที่ริมฟุตปาธ

   หือ ไอ้เด็กซ่งอีกแล้วเหรอ?

   ตำแหน่งเดิมท่านั่งเดิม แต่ระแวดระวังมองซ้ายมองขวาไม่หยุด  โชคดีเหลือเกินที่รถของแสงแน่นิ่งอยู่ตรงหน้านเรนทร์พอดีจึงพอมีเวลาประเมินสถานการณ์  โถ ๆ ตาปูดขนาดนั้นยังจะมานั่งเป็นกุ้ยให้ชาวบ้านตกใจเล่นอีก  เสื้อผ้าก็มอมแมมขนาดนั่งในรถยังเหมือนได้กลิ่นเหงื่อแบบ 4DX
   ระหว่างนินทาก็สงสัยไปถึงสาเหตุที่มันมานั่งอยู่ที่นี่  รู้ทั้งรู้ว่าเป็นถิ่นเจ้าหนี้แท้ ๆ  ถ้าไม่โง่ก็คงโง่นั่นแหละ

..............................................
................................
...........
.....

   แสงเจอมันอีกแล้ว...
   ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว  เกือบทุกครั้งที่ขับรถผ่านตรงนั้นเป็นอันต้องเหลือบไปเห็นทุกที  ส่วนเรื่องโดนตามหนี้ทุกวันหรือไม่นั้นต้องมาดูผลเอาตอนเช้า  ล่าสุดตาขวาหายปูดแล้วมาเขียวข้างซ้ายแทน  สร้างเซอร์ไพรสได้เรื่อย ๆ ดีจริง

   วันนี้แสงออกไปตามนัดเสี่ยโรงสีอีกเช่นเคย  ด้วยความเข็ดหลาบจากคราวก่อนจึงเลือกจะเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะแทน  ขึ้นรถเมล์มาต่อตรงรถไฟฟ้าแล้วค่อยไปลงสถานีช่องนนทรี  แน่นอนว่าแม้จะรีบสักแค่ไหนก็ไม่เคยถึงก่อนเสี่ยสักที
   รอบนี้มาคุยเรื่องกำหนดการณ์ขึ้นศาลในเดือนหน้า  ค่อนข้างเคร่งเครียดพอควร แน่นอนว่าบอกลากันตอนฟ้ามืดเรียบร้อยแล้ว  แสงยกนาฬิกาเห็นว่าเป็นเวลาเลิกงานพอดีก็สบถในใจ  ให้ไปเบียดกับเด็กบนรถไฟฟ้าไม่สู้ด้วยหรอก  ไปหาที่กินข้าวฆ่าเวลาแล้วกลับตอนคนซาดีกว่า
   เขาฝากท้องที่ร้านอาหารไทยราคาแรงแถวนั้นเพราะจะได้นั่งแช่นาน ๆ  รอจนเกือบสองทุ่มจึงตัดสินใจขึ้นรถไฟฟ้ากลับ  พับผ่าสิ!  ไม่รู้คิดถูกคิดผิดที่ไม่เอารถมาด้วย  สุดท้ายก็แลนดิ้งลงป้ายรถเมล์ตอนสองทุ่มครึ่งพอดิบพอดี

   เอี๊ยด..

   รถเมล์สนิมเขรอะปุเลง ๆ เข้ามาจอดเทียบที่ป้าย  ตัวเลขด้านบนตรงกับสิ่งที่รอคอยทำให้แสงรีบโผขึ้นไป  ไม่ไหวแล้วสภาพร่างกายใกล้จะพังให้รอรถปอ.ต้องตายแน่นอน  นั่งทนร้อนมันไปก่อนแล้วกัน
   “อ้าว  นั่งเลย  ข้างในว่างเยอะเลย” ไอ้หนุ่มกระเป๋าโบกไม้โบกมือ “ชิดในเลยเพ่”
   ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีกี่ชาติประโยคหากินก็ไม่เคยหายไป  แสงเซแท่ด ๆ ไปแปะอยู่บนเก้าอี้แถวที่สี่จากท้ายสุด  โชคดีที่เขาขึ้นต้นทางคนไม่เยอะจึงได้นั่งสบาย ๆ  ลองดูตอนผ่านหน้าห้างสิรับร้องว่าเบียดกันเป็นปลากระป๋องแน่นอน
   ลมกระพือตีแสกหน้าจนผมที่เซ็ตไว้แตกกระจุย  ตาแห้งแทบแตกเป็นผง  แสงถามตัวเองในใจว่าคุณภาพชีวิตประเทศไทยทำไมจึงต่ำเช่นนี้  ไหนจะคนขับชั้นนำที่หลังพวงมาลัย....
   “กวนตีนเหรอมึง  อยากตายเหรอ!”

   อา...รอบหน้าขับรถมาดีกว่าว่ะ...

   ระหว่างกำลังจิกเกร็งปลายเท้าต่อสู้กับศูนย์ถ่วงรถก็จอดเอี๊ยดตรงหน้าคอมมูนิตี้มอลล์แถวคอนโด  กระเป๋ารีบโหนออกไปตะโกนเรียกลูกค้าด้วยภาษาที่ลิ้งก์เสียงทุกคำจนงงว่ามึงตั้งใจให้เขาฟังรู้เรื่องไหม
   “เอ้า!  รีบก้าวเลยคร้าบ” แกบ ๆ  กระบอกเหล็กงับรัว ๆ เป็นการเร่ง “ก้าวเร้ว  ชิดในเลยเพ่  ข้างหลังยังมีที่”

   ฝูงชนเบียดกันเข้ามาต่างยื้อแย่งหาที่วางตูด  แสงไม่ว่าเลยสักนิดเพิ่งเลิกงานเหนื่อย ๆ ใครมันจะอยากโหนรถเมล์กัน  เพราะเวลาดึกดื่นมืดค่ำแล้วคนจึงไม่เยอะอย่างที่คิด  ผู้โดยสารได้ที่นั่งกันครบทุกคน...
   “รอก่อนครับ!”
   เสียงวิ่งทั่ก ๆ ดังอยู่ข้างตัวรถก่อนเจ้าตัวจะโผล่มาที่ประตู  วินาทีนั้นในหัวแสงมีเอฟเฟกต์ ‘ผ่าง’ ดังขึ้นมา...

   ไอ้เด็กเรน!

   ไม่ใช่แค่แสงมันเองก็เบิกตาโพลงเช่นกัน  ยืนตัวแข็งทื่อตรงหน้าประตูจนรถเบรกนั่นแหละถึงได้เซแท่ด ๆ ไปแปะอยู่ตรงเสา  กระเป๋าผู้เชี่ยวชาญด้านการทรงตัวเดินเข้าไปประกบทันที  ระหว่างกำลังเอากระบอกงับ ๆ ตั๋วก็เอ่ยบอก
   “พี่ไม่นั่งล่ะ  ข้างในว่างอยู่ที่หนึ่ง”
   นเรนทร์เหลือบดู  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตรงไหนว่าง  ก็เพื่อนร่วมทางหน้าดุซะปานนั้นหมาไหนมันจะไปอยากนั่ง  ขณะกำลังจะปฏิเสธพนักงานก็พูดต่อ
   “เดินเข้าไปดิพี่  ป้ายหน้าคนขึ้นมาอีกเกะกะเขา”
   “เอ่อ...”
“ที่นั่งข้างลุงนั่นน่ะ  นั่งเลยเพ่”

   แสงอ้าปากค้าง
   โอ้โห...เจ็บที่สุดตรงกูเป็นลุงเนี่ยแหละ
   เจ็บขนาดที่ไม่รู้ตัวว่าไอ้เด็กนเรนทร์โผล่มาหย่อนตูดข้าง ๆ ตอนไหน  แสงหันขวับมองมันอย่างไม่ไว้ใจและก็พบว่าเรนส่งสายตาแบบเดียวกันกลับมาให้  เฮ้ย ๆ ใครกันแน่ที่ต้องผวาวะ
   บรรยากาศน่าอึดอัดจนอยากจะหายใจทางผิวหนังแทน  แสงเบียดตัวเข้าสิงสู่หน้าต่างอีกนิดจะมุดออกไปด้านนอกอยู่แล้ว แต่ถึงจะแสดงท่าทีรังเกียจสายตาดุจเหยี่ยวก็ไม่วายจับจ้องสแกนกรรมอีกฝ่าย
   นเรนทร์ไม่ได้มอมแมมเหมือนทุกวัน  เสื้อยืดสีเทาไม่มีรอยเปรอะเปื้อนสักจุด  เห็นอย่างนี้ค่อยสบายใจกล้าหายใจเต็มปอดอีกครั้ง  โอเค...ไม่เหม็นเหงื่อ  แม้แต่รองเท้าแตะเน่าหนอนก็ไม่ได้ส่งกลิ่นอย่างที่คิด  คาดว่าวันนี้คงไม่ได้ไปทำงาน
   เส้นผมสีทองปลิวไสวตามแรงโบกโบยของสายลมเห็นโคนผมสีดำนิด ๆ  นเรนท์ไม่ได้เซ็ตผมเหมือนตอนที่เจอในบาร์และก็ไม่ได้มัดผมแบบตอนทำงานด้วย  จะว่าไปหน้าตาก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ขนาดที่เขาด่า  นึกยังไงมันถึงได้มานอน....

   ปี๊นนน!
   “เชี่ย! ขับรถประสาอะไรวะ!”
   เอี๊ยดดด!

   กลิ่นยางเหม็นไหม้กรุ่นปลายจมูก  โลกถูกเหวี่ยงหวือไปวิมาน สำเริงสำราญผ่านอโศกสถานไกล  ไกลขนาดไหนก็ขนาดที่หัวไอ้แสงกระแทกอัดขอบกระจกไปเต็ม ๆ แทบขึ้นไปวิมานของแท้  เขาเบิกตาโพลงเห็นกลุ่มผมสีทองค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้  ไม่นะเว้ย...

แอ่ก!
นั่นไงล่ะ!  เต็ม ๆ คาง!
   “เฮีย!!” เรนหวีดเสียงหลง  อีกนิดจะเปลี่ยนคีย์เป็นคำอื่นแล้ว “โทษครับ  เฮียเป็นไรไหม”
   แสงมึนงงไปชั่วขณะ  จะตอบก็ตอบไม่ได้เพราะปวดแปล๊บ ๆ ที่กราม  แม่งเอ๊ย...ถ้าพูดอยู่นี่ลิ้นขาดไปแล้ว  ไอ้เจ้ากรรมนายเวรยกมือไหว้ปลก ๆ
   “เฮียอย่าฆ่าผมนะ”
   “แกน่ะสิจะฆ่าฉัน!” แสงแยกเขี้ยวขู่  ทันใดนั้นเส้นประสาทก็ลั่นเปรี๊ยะ “อูย...เจ็บฉิบ”
   “ขอโทษนะเฮีย  ผมไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ  ถ้าเฮียจะด่าก็เดินไปด่าลุงคนขับนะ”
   “วางแผนกำจัดฉันทางอ้อมสินะ”
   “โธ่!  มองโลกในแง่ร้ายชะมัด” แสงก็ไม่เห็นว่าคนอย่างมันจะมีอะไรดี ๆ ให้มอง “ผมรู้สึกผิดนะ  ไม่งั้นไม่แหกกฎห้ามคุยกันหรอก”
   “ฉันเกือบจะร้องไห้แล้ว”

   ขนาดว่าโดนสายตาอาฆาตไอ้เด็กบ้าก็ยังหัวเราะแฮะ ๆ  ไม่รู้มันสำนึกอย่างปากว่าหรือเปล่า  เอาเถอะ...ไม่ใช่ความผิดมันนี่นา  ถึงจะเกลียดแค่ไหนแสงก็ไม่งี่เง่าขนาดใส่ความเรื่องนี้หรอก
   ปลายนิ้วลูบสันกรามไปมาเพื่อบรรเทาความเจ็บ  ไอ้เด็กซ่งทำท่าเหมือนอยากจะขอดูแผลแต่ไม่พูดออกมาสักที
   “เฮียจะไม่ตายใช่ไหม”
   “ถามหรือแช่งวะ”
   “ถามสิ” มันตบตัก “ผมเคยอ่านข่าวพวกที่หัวถูกกระแทกอย่างรุนแรงแล้วช้ำในตายด้วยนะ”
   “ฟังยังไงก็แช่งชัด ๆ” คนแก่กว่าจ้องหน้า  ปล่อยมือที่จับปลายคางออก “หายเจ็บแล้ว”
   “อืม...”

   และความเงียบก็เข้าครอบงำอีกครั้ง  ชายทั้งสองเสใบหน้าไปคนละทาง  ทั้งที่เก้าอี้ตัวอื่นก็ว่างแล้ว แต่ก็ไม่อยากลุกออกไปก่อนให้รู้สึกพ่ายแพ้  เอาสิ...มาแข่งว่าใครจะทนไมไหวก่อนกัน
   ลมตีเข้าหน้าจนเส้นผมพันกันเป็นปม  เนื้อตัวเริ่มเหนียวฝุ่นจนงุ่นง่าน  แสงภาวนาให้ภาพคอนโดปรากฏตรงหน้าเร็ว ๆ  จะได้ไปพ้น ๆ บรรยากาศน่าอึดอัดบรรลัยนี่...
   “ทำไมเฮียมานั่งรถเมล์อะ”

   หือ?...
   ไม่น่าเชื่อว่านเรนทร์เป็นฝ่ายทำลายความเงียบอีกครั้ง  แสงหันขวับส่งสายตาที่เสียมารยาทสุด ๆ
   “ไหนว่าไม่ให้ทัก”
   “คนเรามันต้องอะลุ่มอล่วยกันบ้างสิ” เรนยักไหล่ “อีกอย่างผมทักเฮียก่อน  ผมแพ้  โอเคไหม?”
   อายตัวเองที่ทำตัวเป็นเด็กชอบกล  นึกได้ดังนั้นแสงก็จำใจยอมคุยกับมัน “แล้วมีอะไร”
   “เปล่า  ก็แค่สงสัยว่าทำไมเฮียไม่ขับรถ”
   “นัดลูกค้าแถวช่องนนทรีเลยขี้เกียจรถติด”
เรนพยักหน้าให้คำตอบห้วน ๆ “แล้ว...”

เอี๊ยดดดด...
รถเหวี่ยงตัวอีกครั้งรอบนี้แสงยกปลายคางหลบได้ทัน  แต่นเรนทร์ก็เซแท่ด ๆ มาเบียดอยู่ดี  ไหล่ชนกันแนบแน่นไม่ต่างจากคืนที่ร่วมรักกัน  วินาทีนั้นหัวใจคนแก่กระตุกวูบ

ฉิบหาย....  มันแอบตั้งกล้องไว้ตรงไหนอีกหรือเปล่าวะ...
หัวหันขวับซ้ายขวา  หรือมันซื้อคนทั้งรถเมล์ไว้แล้วเพื่อสร้างสถานการณ์  ทั้งลุงตีนผี  กระเป๋านักชง  บางทีพัดลมบนหัวอาจจะมีกล้องติดตั้งเอาไว้  คิดได้ดังนั้นก็เอ่ยสั่งเสียงเหี้ยมเกรียม
“ขยับไปหน่อย”
นเรนทร์ผละตัวออกอย่างว่าง่าย  แถมยังทำสีหน้า ‘อยากเบียดตายล่ะ’ ใส่อีกต่างหาก
“เฮียไม่แวะไปหาเจ๊ซันบ้างเหรอ” อยู่ ๆ มันก็เปลี่ยนเรื่องอีกครั้ง “เจ๊เขาอยากเจอนะ”
   “ไปให้โดนต้มอีกหรือไง”
   “ไม่โดนแล้วน่า” แน่ล่ะสิ แค่นี้เปื่อยจนไม่เหลือซากให้ต้มซ้ำแล้ว “เจ๊เขารู้สึกผิดจริง ๆ นะ”
   “เหอะ” แสงแค่นหัวเราะ  ถูกเพื่อนหักหลังไม่ใช่เรื่องตลกเลย
   “ผมเจอเขาเมื่อวันก่อนสภาพไม่โอเคเลย  ถึงกับหน้าสดออกบ้านเลยนะ” ใครก็รู้ดีว่าหน้าสดของซันไซน์เป็นสิ่งของลี้ลับประหนึ่งพระศพฟาโรห์ที่ทั้งห่อทั้งโบกหนาหลายชั้น  มนุษย์ทั่วไปมิใช่จะเห็นกันได้ง่าย ๆ
   ทว่าแสงกลับไม่แยแส “เครียดเรื่องโดนทิ้งล่ะสิไม่ว่า”
   “โธ่!  แฟนเขาทิ้งเจ๊ไปเป็นเดือนแล้วยังเห็นโบกหน้ามาจ่ายตลาดทุกวัน  เพิ่งมาเป็นเอาตอนแตกหักกับเฮียเนี่ยแหละ”
   พูดไปก็ไม่ได้ทำอะไรดีขึ้นแสงจึงเบือนหน้าหนี  ภาพตึกอาคารคุ้นตาใกล้เข้ามาทุกที
   “เจ๊เขารักเฮียแสงนะ”
   “หา?”
   “แบบเพื่อนน่ะ” น้ำเสียงของนเรนทร์จริงจัง “เขารักตัวเองมากกว่าก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่รักเฮียนะ”

   พูดจาสวยหรูชะมัด  คิดว่าไอ้แสงเป็นคนโลกสวยหรือยังไง  หนุ่มใหญ่แค่นยิ้มปรายตามองใบหน้าคนพูดอย่างไม่ยี่หระ

   “ไม่ได้ขอให้ยกโทษให้หรอก แต่นาน ๆ ทีกลับไปคุยกันก็ได้นะ  ไปด่าก็ยังดี”
   “นี่แกหวังดีแล้วใช่ไหม?”
   “ไม่มีใครเป็นคนดีเท่าผมแล้ว  เรื่องตัวเองก็ไม่ใช่ยังแส่มาพูดเนี่ย” เรนยักคิ้ว  ยกนิ้วเกี่ยวผมที่ยุ่งเหยิงขึ้นทัดใบหู  วินาทีนั้นแสงเพิ่งเห็นว่ามีผ้าก๊อซปิดที่ข้อศอก  ดูท่าจะแผลใหม่เสียด้วย  น่าสงสัยเสียจนหลุดปากถาม...

“แล้วแกล่ะ...”

แกไปรออะไรที่หน้าห้างทุกวัน...
โชคดีที่แสงกลืนคำถามลงคอได้ทัน  ถามแบบนั้นก็เท่ากับว่าเขาสนใจเรื่องมันน่ะสิ!  แม่งเอ๊ย  เด็กนรกอย่างนี้จะเป็นจะตายก็เรื่องของมันเหอะ

“ผม...ผมทำไมเหรอ?”
“เปล่า  ไม่มีอะไร” จังหวะนั้นเองที่ภาพคอนโดเด่นชัดอยู่ตรงหน้า  แสงสบโอกาสลุกขึ้น “ถอย”
นเรนทร์เบี่ยงตัวเอาขามาไว้ด้านข้าง  จะลุกให้หน่อยก็ไม่ได้ตัวก็ไม่ใช่เล็ก ๆ แต่เพราะขี้เกียจต่อปากต่อคำแสงจึงแทรกตัวออกมากดกริ่งแล้วจับเสาไว้แน่น  รอจนลุงเหวี่ยงฉวัดเฉวียนจนพอใจแล้วจอดสนิทเทียบฟุตปาธ  แสงก้าวลงไปยืนตรงป้ายพร้อมถอนหายใจออกมายาว ๆ

จบกันทีวันที่แสนวุ่นวาย...

“เฮีย!”
จบอะไรล่ะ!  ไอ้เด็กซ่งโผล่มายืนข้าง ๆ ตอนไหนก็ไม่รู้แถมทำหน้าตาตื่น  เขาต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายตกใจ
“แกจะตามมาทำมะ...”
“เฮียเลือดออก!”

หือ?  พอโดนทักปุ๊บกลิ่นคาวเลือดก็ลอยวูบ  ความเจ็บแล่นแปล๊บขึ้นสมอง  แสงยกมือแตะที่ริมฝีปากตัวเองและพบว่าต้นเหตุคือมันจริง ๆ  คงจะแตกตอนโดนกระแทกนั่นแหละ  พอไอ้เด็กนั่นชวนคุยเลยปริไปกันใหญ่
   “เพราะแกแท้ ๆ เลย”
   “ผมเช็ดให้เอง”

   พึ่บ!  นเรนทร์ตลบชายเสื้อขึ้นยกค้างในอากาศ  ปัดป่ายไปมาโดยมีเป้าหมายคือปากที่สั่นระริกของแสง  ไม่นะเว้ย!  ไม่ ๆ ๆ แกจะยกเสื้อมาเช็ดเลือดไม่ได้!
   “อย่าดิ้นสิเฮีย เลือดพุ่งใหญ่แล้ว”
   แสงปัดมือทิ้งไปมา แต่ไอ้ห่านี่ก็ดื้อด้านเหลือเกิน  แรงก็ไม่ใช่น้อย ๆ สมเป็นช่าง “อย่าเช็ด!”
“ไม่ต้องกลัวเสื้อผมเปื้อนน่า”
“มันสกปรกโว้ย!”

   “พี่แสง”
   เจ้าของชื่อหันขวับไม่แปลก แต่นเรนทร์เผลอมองตามไปด้วย  ชายหนุ่มสวมแว่นกำลังเบิกตามองภาพสวีทหวานแหววตรงหน้า  เรนยกชายเสื้อค้างเติ่งในมือเกือบจะควบหัวแสงได้อยู่แล้ว  ดูยังไงมันก็ผิดผีกันริมถนนชัด ๆ!
   ‘พี่แสง’ อ้าปากพะงาบอยู่สองสามทีก่อนจะตั้งสติปัดมือเด็กเวรไปพ้น ๆ ทางแล้วโผเข้าไปยืนตรงหน้าผู้มาเยือน  ริมฝีปากเปื้อนเลือดขยับเรียก....


“ฉาน...”


TBC


เห็นทุกคนเอ็นดูน้องเรนเราก็ดีใจค่ะ  อ่านเม้นท์ไปปาดน้ำตาไป 555555
ตอนนี้เฮียได้เอาคืนบ้างเบา ๆ ไปก่อน  เดี๋ยวต้องได้จัดหนักแน่ค่ะ  เป็นกำลังใจให้เฮียต่อสู้กับโลกอันโหดร้ายด้วยนะคะ
ใกล้สิ้นปีแล้วใครกลับบ้านขอให้เดินทางอย่างปลอดภัยทุกคนนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามค่า //ไล่กอดเรียงตัว

ป.ล.ขำคุณ Ming2910 สรุปกร๊าฟความจนมากค่ะ  เป๊ะสุด กร๊ากกกกกกกก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-12-2017 14:35:50 โดย Indigo »

ออฟไลน์ Starry[Blue]

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
นึกภาพเฮียแสงระแวงทุกอย่างแล้วก็ฉากที่ขับรถจอดดูหน้าเรนแล้วขับหนีนี่มันเด็กชัดๆเลยค่ะ55555555555
 

ออฟไลน์ Malimaru

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-4
    • facebook


เขาว่ากันว่า คู่กันแล้วไม่แคล้วกันนะคะอาแสง... ไปไหน ๆ ก็เจอน้องเรนเนอะ
ถ้าหนีน้องมันยากนัก ก็ดักตีหัวแล้วลากมาดูแลเสียเองเลยค่ะ น้องเรนจะได้ไม่ต้องหนีหนี้หัวซุกหัวซุนอีก ^^
รอตอนต่อไปค่ะ  :กอด1:


ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อนาทใจตัวละครในทุกๆเรื่องของคุณจริงๆ  :hao7:  :z2: ไม่ใครก็ใครสักคนนั้นแหละต้องมีสภาพแบบ... :mew5:  แต่ก็ชอบนะ  o13  o13 จริงๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด