ทวงครั้งที่ 12
“เย็นนี้มีนัดที่รัชดา แกไปเป็นเพื่อนเฮียหน่อยนะแสง”
ใครจะคิดว่าสายจากเฮียใหญ่เมื่อตอนกลางวันจะพลิกผันชีวิตคนคนหนึ่งให้ฉิบหายได้ขนาดนี้....
“เลี้ยวขวา ๆ เห็นเขาว่าตรงเข้าไปลึกหน่อย”
“เฮียครับ ผมว่ามัน....”
“ตรงไป” น้ำเสียงที่สั่งเฉียบขาดสมเป็นเจ้าพ่อเงินกู้ “ปากซอยมีเซเว่น”
คนรถจำเป็นได้แต่กล้ำกลืนฝืนทนขับต่อไป ที่นี่รัชดาเวลาสามทุ่มตรง ในตรอกเลนเดียวอันครึกครื้นผิดปกติ แน่นอนว่าไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อจิบกาแฟในร้านเก๋ ๆ พร้อมโพสรูปอวดเพื่อนฝูงในไอจี
เอารถออกใช้ในรอบสองสัปดาห์ ใครจะคิดว่าต้องมาถูกใช้การในที่แบบนี้ ป้ายไฟชื่อคุ้นหูในหมู่ผู้ชายโชว์หราอยู่บนหัว คนขับรถเอ่ยเรียกสติเจ้านายอีกครั้ง
“ซ้อรู้เข้ามันจะไม่ดีนะครับ”
“ก็อย่าให้รู้สิ” น้ำเสียงข้าง ๆ เริ่มไม่พอใจ “มีฉันกับแกแค่สองคนเท่านั้น ถ้าเรื่องไปถึงหูซ้อล่ะก็....”
“ซ้อจะไม่มีวันรู้เรื่องนี้แน่นอนครับ”
“ดีมาก”
ตาเฒ่าตะล่อมให้เขาร่วมหัวจมท้ายกับแผนนรกนี้จนได้ เอาเถอะ....ลูกจ้างชั่วคราวจะไปงัดกับเฮียให้เสียเวลาทำไม แกคงแค่อยากได้คนขับรถมาส่ง เพราะถ้าใช้งานคนอื่นเรื่องแดงไปถึงหูซ้อแน่ ทั้งฝาแฝดสมองถั่วและสายสมรมนุษย์ป้าสายนินทา ดี ๆ ทั้งนั้น.....
ดวงตาเหลือกขึ้นอ่านคำว่า ‘อาบ อบ นวด’ บนหัวให้แน่ใจอีกครั้งก่อนจะหักพวงมาลัยเข้าไปจอดเทียบที่หน้าประตูกระจก พนักงานรีบมาเปิดประตูให้เฮียใหญ่ถึงที่ ร่างท้วมเตี้ยลุกอย่างมั่นใจก่อนกระตุกปกเสื้อแบบพระเอกซีรีส์
“แสง...ลงรถ”
“หา!?” คนขับรถชี้หน้าตัวเอง “ผมไม่....”
“เปิดประตูให้คนขับด้วย” เพราะขี้เกียจพูดกับแสงเฮียเลยหันไปสั่งพนักงานแทน ไอ้เด็กนั่นก็ทำตามอย่างดี แสงจับพวงมาลัยแน่นขึ้น “แกมากับเฮีย”
“ผมรอที่รถได้ครับ”
“ลงมา”
ตาแก่นี่น่ารำคาญชะมัด แสงสบถในใจด้วยสีหน้าเรียบเฉย เขาปลดเข็มขัดนิรภัยพร้อมทำตามคำสั่งแต่โดยดี เห็นว่าเฮียเอาแบงก์แดงยื่นให้พนักงาน หวังว่ามันจะหน้าบานหาที่จอดดี ๆ ไม่ต้องหักพวงมาลัยหลายรอบให้แสงนะ
ขายาวก้าวตามร่างชายแก่เข้าไป หลังบานประตูกระจกคือห้องโถงขนาดใหญ่ หรูหราไม่ต่างจากล็อบบี้โรงแรม วัสดุเคลือบผิวเฟอร์นิเจอร์ทำจากหินอ่อนผิวมันวาวสว่างท่ามกลางไฟสลัว ด้านขวามือเป็นเคาน์เตอร์เก็บเงิน ทางซ้ายห้องน้ำ ส่วนตรงกลางเป็นห้องอาหาร รูปแบบการจัดวางไม่ต่างจากโรงแรม
กวาดสายตายังไม่ทันทั่วชายวัยกลางคนก็รีบรุดเข้ามาประชิดตัวพร้อมยกมือไหว้ “ยินดีต้อนรับครับเสี่ย”
“อื้อ” เฮียยกนิ้วที่สวมแหวนแม่งทุกนิ้วขึ้นรับไหว้ แสงเชื่อแล้วว่าทองคือสสารที่แข็งแรง ไม่อย่างนั้นคงปริแตกไปแล้ว
“เสี่ยก็ด้วยนะครับ” เขาคิ้วกระตุกนิดหน่อย เฮียก็เป็นไปแล้ว นี่กูยังต้องมาเป็นเสี่ยต่ออีกเหรอ แต่ก็สวมมาดนิ่งไม่ว่าอะไร ทำตัวเป็นแค่คนรถก็พอ “เชิญทางนี้เลยคร้าบ~”
พวกเขาถูกพาเข้าไปด้านในอีกชั้น ตรงนั้นเป็นห้องกระจกใสยาวจรดกำแพง แน่นอนว่าด้านในมีสาว ๆ ติดหมายเลขกำลังส่งยิ้มแย่งซีนกันไปมาจนเวียนหัว ไฟนีออนในตู้แรงเสียจนแสงคิดว่าคงตาบอดหากจ้องมันนานเกินไป เขาหรี่ตาหลบก่อนจะก้มหน้าก้มตาเดินตามหลังเจ้านาย
“เสี่ยสนใจแบบไหนเป็นพิเศษบอกผมได้เลยนะครับ” คนเชียร์หันมาประจบประแจง “เบอร์สีแดงแบบธรรมดา สีฟ้าแบบไซด์ไลน์ รับรองว่าสวยแจ่ม เด็ดทุกคนเลยครับ”
แสงไม่ได้ฟังรายละเอียดค่าบริการต่อ เพราะมัวแต่กวาดตาสำรวจร้านไปทั่ว พูดตามตรงว่าเพิ่งเคยเข้าอาบ อบ นวดเป็นครั้งแรกเลยตื่นตาตื่นใจนิดหน่อย ไม่ใช่เด็กดี แค่ไม่ได้ชอบผู้หญิงเท่านั้นแหละ เคยได้ยินเพื่อนเล่าให้ฟังเหมือนกันว่าแถวรัชดาเรตแพงกว่าชาวบ้าน เฮียใหญ่คงหาข้อมูลมาแล้ว ไม่ก็เพื่อนที่เล่นหุ้นแนะนำให้ เห็นช่วงนี้สนิทสนมไปออกรอบด้วยกันบ่อย
ศัพท์หยาบโลนผ่านหูแสงนับไม่ถ้วน พนักงานคนอื่นแทบจะมีแต่ผู้ชาย ถ้าไม่นับแม่บ้านที่เข้ามาเช็ดไวน์หกเมื่อครู่ แสงเห็นสาวติดเบอร์สีฟ้าขยิบตาให้เฮียใหญ่ด้วย พอถามนิดหน่อยคนเชียร์ก็สาธยายเสียยืดยาว แน่นอนว่าคนขาดความมั่นใจอย่างเฮียใหญ่รีบตอบตกลง...
“ตกลงเอาเบอร์ 126 แล้วกัน”
ใช่...ขาดความมั่นใจ
ใส่ทองแน่นเหมือนพระพุทธรูป อีกนิดก็ให้สาวเอาดอกไม้ธูปเทียนมาบูชาได้แล้ว ไหนจะสูทแน่นเปรี๊ยะเดินหลังตรงแหน่ว เห็นเหงื่อเม็ดเป้งที่ข้างขมับเจ้านายแล้วได้แต่ส่ายหัว ให้ตายเหอะ...แก่ขนาดนี้ยังจะมาใจแตกอีก แต่จะว่าเฮียมากก็ไม่ได้ไอ้แสงใจแตกตั้งแต่วัยรุ่นแล้วนี่หว่า
เอาวะ...ถือว่ามาส่งแกให้มันจบ ๆ ไป ขณะกำลังสบายใจเจ้านายก็ออกปาก
“แสง...” เฮียหันขวับ “แกก็เลือกมาสักคนสิ”
ฉิบหายแล้วไง...
เดี๋ยวก่อน! มันมาหล่นตุบลงบนหัวไอ้แสงได้ยังไง!
“จริงด้วยครับ” แม่งเปลี่ยนเป้าหมายมาทางเขาแล้ว “เสี่ยสนใจแบบไหนบอกผมได้เลยนะครับ”
“เอ่อ...ผมไม่สนใจ” ผู้หญิง....
“แสง” เฮียใหญ่ทำหน้าเครียด “แกก็เลือก ๆ มาเถอะ ฉันจ่ายให้เอง”
นี่มันอะไรกันวะ.... บรรยากาศเหมือนปวดเยี่ยวแล้วบังคับให้ไปเข้าห้องน้ำเป็นเพื่อนแบบนี้ ก็ไม่ได้ปวดเฮียเข้าใจไหม! แม่งเอ๊ย! ไม่คิดเลยว่าแค่พลาดเข้าร้านมาด้วยจะต้องมาเจออะไรแบบนี้
แสงทำหน้านิ่งไม่กระโตกกระตาก “ไม่รบกวนเฮียหรอกครับ เดี๋ยวผมนั่งรอที่ล็อบบี้ก็ได้”
“ไม่ได้! แกต้องเลือก!” ราวกับโดนมีดจ่อคอให้เยี่ยว เยี่ยวออกมาสิวะไอ้แสง! “ถ้าแกเขินเฮียเลือกให้เอง”
“ไม่....”
“เอา 113 แล้วกัน ขาวดีแกน่าจะชอบ”
“หูย~ เสี่ยนี่ตาถึงจริง ๆ น้องเขาเป็นถึงพริตตี้มอเตอร์โชว์ แถมยัง....”
แสงไม่ได้ฟังอะไรต่อเพราะวิญญาณได้หลุดลอยออกปากไปในที่ไกลแสนไกลแล้ว รู้ตัวอีกทีก็โดนถูลู่ถูกังเข้ามาในห้องอาหาร ถูกยัดเมนูใส่มือแล้วบังคับให้สั่งคนละอย่างเป็นการรีดไถเงินเบื้องต้น ไม่สั่งเท่ากับมึงจน แน่นอนหน้าใหญ่สมชื่ออย่างเฮีย....จัดไป! สั่งสี่อย่างทั้งที่มาแค่สองคน แสงว่ายัดหมดก็ขึ้นไปนอนหลับพอดี
“แกก็สั่งสิแสง”
เพราะรู้ว่าไม่ได้สั่งเพื่อแดก แต่เพื่อแสดงอำนาจแสงเลยจิ้มที่หน้าแรกไปอันหนึ่งให้มันจบ ๆ ไป “อันนี้ที่หนึ่งครับ”
“น้องไม่สั่งอะไรเหรอจ๊ะ” สารภาพว่าแสงขนลุกซู่กับเสียงสองของเฮียใหญ่มาก ถ้าเกลียดใครควรอัดไปเปิดกรอกหูมัน
สาวน้อยที่นั่งบนตักบิดตัวเขินอาย “หนูขอน้ำเปล่าก็พอค่ะ”
“หนูด้วยค่ะ” สาวเบอร์ 113 เล่นง่ายเข้าว่าลอกเพื่อนมันซะเลย น้ำเปล่าเป็นอะไรที่สั่งแล้วน่ารักที่สุด ราคาถูก ถ่อมตน น่าเลี้ยงดู
เสียงเพลงกระหึ่มจนปวดหูตุบ ๆ ห้องอาหารที่นี่ไม่ต่างจากผับแบบนั่งเลยสักนิด จัดไฟสลัวกับโต๊ะกลมคลุมผ้าแบบโต๊ะจีน ดูไม่ใส่ใจกับดีไซน์ตรงนี้มาก มันเป็นแค่จุดหลอกเอาเงินเบื้องต้นสำหรับอาเสี่ยกระดูกไม่แข็งจริง อย่างไอ้คนตรงข้ามเขานี่ไง....
แสงมองเจ้านายพูดจาอี๋อ๋อกับเด็กสาวคราวลูกพลางปลงสังเวชกับโชคชะตามนุษย์ เฮียใหญ่ดูคลายกังวลไปเยอะเพราะคุยกันถูกคอ เผลอแป๊บ ๆ ก็กระแซะขึ้นมานั่งบนตัก จับตาหูจมูกปากเหมือนเด็กสามขวบเล่นกับคุณปู่ แบบนี้มันออกจะ....
“เสี่ยไม่สนใจหนูเลยอะ”
แผล่บ..
ร่างสะท้านวาบหัวจรดตีนเมื่อถูกลิ้นอุ่นลากผ่านที่ใบหู แสงผงะไปด้านหลังราวเด็กสาวเสียพรหมจรรย์ มือกุมใบหูอันเป็นของรักของหวง
ตัวต้นเหตุยิ้มยั่วก่อนขยับร่างเข้ามาแนบเนื้อ เนินหน้าอกแน่นเปรี๊ยะบดเข้าหาท่อนแขน หารู้ไม่ว่าทางนั้นมิได้พิศวาสนมแม้แต่น้อย “เสี่ยชื่ออะไรเหรอคะ”
“แสง” แค่บอกชื่อไม่มีอะไรเสียหายนี่นา แสงยกแก้วจิบแก้อาการวิงเวียนศีรษะจากน้ำหอม
“พี่แสง” หล่อนเรียกเสียงหวาน “มาครั้งแรกเหรอคะ ดูเกร็ง ๆ จัง”
“อืม” ใบหน้าเรียบเฉยดุดันแทนที่จะสร้างความหวาดกลัวกลับทำให้เจ้าหล่อนชอบใจหัวเราะคิกคัก
“น่ารักจังเลย”
คำชมเป่ารดใบหูก่อนจะตามมาด้วยความเปียกชื้นจากลิ้น แสงนั่งนิ่งไม่สะทกสะท้าน เขาไม่ใช่ไอ้ไก่อ่อนหงิกง่อยให้หล่อนปั่นหัว เป็นบุญล้นพ้นที่เด็กเสิร์ฟยกอาหารมาพอดี แสงจึงขยับตัวออกทำท่าเหมือนหิวเต็มประดา
อาหารบนโต๊ะเป็นกับแกล้มล้วน แน่นอนว่าไม่มีใครสั่งข้าวเป็นโถกินในอาบ อบ นวดอยู่แล้ว กระนั้นแสงก็ยังจ้วงยำทะเลเข้าปาก พยายามโฟกัสไปที่การกินมากกว่านมที่แนบแขนและลิ้นแผล่บ ๆ ตรงหู
เขาวันไนท์สแตนก็จริง คิดว่าเซ็กซ์คือสิ่งจำเป็นที่แลกเปลี่ยนกันแบบวิน-วิน พอเห็นเป็นสินค้าแล้วก็สงสารนิด ๆ แต่ก็นั่นแหละ.....
“ว้าย~ เสี่ยอ๊ะ” คู่ตรงข้ามระริกระรี้เล่นปูไต่ไล่ข้ามเขาแปดลูก “ทะลึ่ง!”
“ฮ่า ๆ ๆ” ไอ้เฮียเหงื่อแตกมียางอายมันหายไปไหนแล้ววะ เหลือแต่ลุงหื่นกามพ่นลมหายใจหืดหาด สงสัยเห็นโต๊ะไหนก็ทำกันเฮียเลยเลิกเคอะเขินแล้วแปลงร่างเป็นปลาหมึกแทน อีกนิดก็จับร่างอีหนูนั่นฉีกกินแกล้มเหล้าแล้ว
“พี่แสงขา” เมื่อคุณลูกค้าไม่สนใจแถมเอาแต่เสือกเรื่องชาวบ้านน้องเบอร์ 113 ก็เริ่มไต่ขึ้นมานั่งบนตัก ยกสองมือขึ้นคล้องลำคอ ปัดป่ายปลายนิ้วเขี่ยแผ่นอก “เล่นกันบ้างสิคะ”
“จะกินข้าว”
“อ๊ะ! อยากให้น้องป้อนให้ใช่ไหมคะ” เกิดมาเพิ่งเคยขุดหลุมศพตัวเองก็วันนี้ ทำไมเจ้าหล่อนตีความไปทางนั้นได้วะ แน่นอนว่าไม่รอคำขอนักบริการที่ดีต้องจัดให้ หล่อนเอื้อมไปคว้าเฟรนฟรายก่อนจะงับส่วนหนึ่งไว้ในปากแล้วยื่นหน้ามาส่งเสียงในลำคอว่า ‘อ้าม~’
ป้อนปกติก็เครียดจะแย่แล้ว นี่มาแบบแอดวานซ์เลย แสงรีบเบือนหน้าหนี ขณะคิดว่าหากเปลี่ยนไปขอกินสปาเก็ตตี้เจ้าหล่อนจะม้วนเส้นขึ้นมายังไง เฮียใหญ่ผู้นำพาแต่ความฉิบหายก็เดินเข้ามา...
ตุบ มือหนาอวบตบลงข้างบ่า
“แหม สนุกกันใหญ่เลยนะ” ไม่ทราบว่าเฮียเอาอะไรดูครับ “บอกแล้วว่าไม่ต้องเกรงใจเฮีย”
“ครับ” แสงกระตุกยิ้มแห้งเหือด
“เดี๋ยวเฮียจะขึ้นห้องก่อนนะ เงินน่ะจ่ายให้แกไว้แล้วไม่ต้องห่วง”
“ขอบคุณครับ”
“ตามสบายเลยนะ” ประโยคนี้เฮียหันมาพูดกับน้องบนตักก่อนจะพากันควงแขนเด็กคราวลูกเดินดุ่มหายไปตรงบันได ทิ้งให้ไอ้แสงเคว้งเต้งกับจานอาหาร
พอไม่มีใครอยู่น้อง 113 ก็ดูจะกล้ามากขึ้น หน้าอกหน้าใจเบียดขึ้นมาแทบจะหนีบหน้าไอ้แสง ถ้าเป็นผู้ชายปกติคงสติเปิดเปิงไปแล้ว แต่พอดีแสงไม่ใช่ ปลายนิ้วชี้เขี่ยไปมาตรงช่วงอกพลางเอ่ยเสียงง้องแง้ง “พี่แสงไม่ชวนน้องขึ้นห้องบ้างเหรอครับ”
“พอดีฉันหิว” คนที่เข้าอาบ อบ นวดเพื่อกินข้าวคือคนแบบไหนกัน มันว่างมากนักหรือ
“แหม ไม่ต้องเขินหรอกค่ะ ครั้งแรกก็ตื่นเต้นแบบนี้แหละ” เจ้าหล่อนหัวเราะคิกคัก ยอมรับว่าสวยดีเหมือนกัน ผิวขาวเนียนดูจะลื่นมือไม่น้อย เธอก้มลงมางับเบา ๆ ที่ใบหูอย่างซุกซน “ไปกันเถอะค่ะ”
ขนลุกซู่ซ่าทั่วสรรพางค์กาย เวรแล้วไง! จะต้องขึ้นห้องจริง ๆ เหรอวะ ถึงจะเก๊กหน้าขรึมยังไง แต่ใจมันเสียไปแล้ว น้องสาวผู้ไม่รู้เรื่องก็ยังคงขยับกายเย้ายวนต่อไป
ไม่ได้โกรธเคืองเธอ รู้ว่าทำงานอยู่ ถ้าจะมีคนผิดก็คงเป็นไอ้เกย์เฒ่าคนนี้ที่โผล่มาผิดที่ผิดทาง ขณะขมวดคิ้วหน้านิ่วไปใบหูก็เปียกชุ่มไปหมด ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปเธอต้องรู้แน่ว่าเขาเป็นเกย์ แล้วเกิดเรื่องมันแดงไปถึงเฮียใหญ่ล่ะ...
แสงไม่ใช่คนดี ออกจะเหลวแหลกด้วยซ้ำ เซ็กซ์เป็นสิ่งที่มนุษย์ขาดไม่ได้ เพราะจุดมุ่งหมายพื้นฐานของสัตว์คือการสืบพันธุ์นี่นา ดังนั้นถึงจะไม่ใช่เพศหรือคนที่ชอบก็น่าจะมีเซ็กซ์ได้เหมือนกัน
“ไปกันเถอะค่ะ”
ถ้าอย่างนั้นคืนนี้....
ไม่มีทาง! ไม่! ไม่! ไม่! เขาทำไม่ได้ ไอ้ตอนเป็นวัยรุ่นก็สนุกอยู่หรอก พอแก่ตัวไปแล้วก็พบว่ามันไม่มีอะไรเลย ต่อมความรู้สึกตายด้านเข้าไปทุกที...
ให้ทำกับไอ้เรนยังดีซะกว่า....
ความคิดนั้นทำเอาแสงชาวูบไปถึงปลายนิ้ว ทำไมเขาจะต้องคิดถึงไอ้เด็กนรกนั่นขึ้นมาตอนนี้ด้วย ปลาที่อ้าปากจะงับเบ็ดเป็นอันชะงัก แรงสั่นบางอย่างจากกระเป๋ากางเกงปลุกเขาให้ตื่นจากภวังค์
แผล่บ ๆ ใบหูฉ่ำเยิ้มด้วยน้ำลายเพราะถูกกระทำย่ำยีมาหลายนาที แสงขบริมฝีปากขณะควานหามือถือเพื่อถ่วงเวลา..
สาวน้อยโดดลงจากตักเสี่ย เปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นคล้องแขน เอนใบหน้าซบพร้อมเอ่ยเสียงหวาน “รับรองว่าพี่แสงจะต้องชอบค่ะ”
แม่งเอ๊ย นี่คือโอกาสสุดท้ายแล้ว...
คิดสิวะแสง สาเหตุเดียวที่ผู้ชายจะหนีออกจากอาบ อบ นวดทั้งที่จ่ายเงินแล้วโดยไม่เป็นที่สงสัย ใช่แล้ว....มันคือ....
“เดี๋ยวก่อน....”
อาวุธลับถูกควักออกมาจากกางเกง โชว์หราสว่างวาบกระแทกตาราวกับจะให้เป็นต้อ....
“เมียที่บ้านโทรตาม!”
หน้าจอของมันเขียนว่า ‘Rain’
..........................................
.......................
...........
.....
‘เฮียครับ ผมโดนเรียกตัวด่วน ต้องขอโทษด้วยที่ปล่อยให้กลับเอง’
ข้อความตอแหลถูกส่งออกไปก่อนแสงจะตัดสินใจปิดมือถือเพื่อความอยู่รอด การให้บริการต่อรอบคือหนึ่งชั่วโมงครึ่งเขาจึงกะเวลาส่งเมจเสจให้เฮียใหญ่เข้าใจผิดว่าทำเสร็จแล้วแต่รีบออกมาก่อน ถ้าหลังจากนี้ความแตกเฮียก็คงรู้แค่ว่าเขามีแฟนแล้ว โชคดีชะมัดที่เรนมันโทรเข้า ชื่อเลยพอจะเนียนเป็นผู้หญิงได้อยู่ ตอนนั้นไม่น่าไปว่าพ่อมันรสนิยมประหลาดเลย
Citroen C5 แน่นิ่งอยู่ในซองมาร่วมห้านาทีแล้ว แสงมองหน้าจอมือถือที่ดับลงไปด้วยสายตาว่างเปล่าไม่ต่างจากหัวสมอง เพิ่งผ่านเหตุการณ์สุดระทึกมาได้ เหยื่อจึงสะเทือนใจจมดิ่งอยู่พักใหญ่กว่าจะตั้งสติเปิดประตูออกไป
สภาพบอบช้ำเสื้อผ้ายับเยิน หูชุ่มน้ำลาย กลิ่นน้ำหอมฉุนแสบจมูก ผมเผ้าที่เซทไว้แตกระแหงราวผืนดินยามหน้าแล้ง ดวงตาลึกโหลอิดโรย ร่างเยิน ๆ ไต่ออกมาจากตัวรถแล้วไถลเข้าประตูไป
เมื่อลิฟต์เปิดออก ณ ชั้น 12 ซอมบี้ก็เดินฝ่าความมืดสลัวไป ทั้งพื้นที่มีไฟอยู่ตรงหน้าห้อง 1206 เท่านั้น เขาก้มหน้ามองก็ไม่เห็นแสงลอดจากใต้ประตู คาดว่านเรนทร์คงหลับไปแล้วตามที่สั่งไว้ ก็มันปาเข้าไปห้าทุ่มแล้วนี่นา
เจ้าของห้องไขกุญแจเข้าไป และก็เป็นไปตามคาด ห้องนั่งเล่นมืดสนิทไม่มีสิ่งมีชีวิต...
“เฮียแสง! กลับมาแล้วเหรอ”
“เชี่ย!” ไม่มีห่าอะไรล่ะ! โผล่มาจากเคาน์เตอร์ครัวหน้าตาเฉย “เล่นอะไรของแก”
“เล่นบ้าอะไรล่ะครับ” แสงเห็นเงาดำขยับวูบไหวเปิดตู้เย็น แสงสีส้มจากช่องเล็กนั่นทำให้เขาเห็นใบหน้าเจ้าจิ้งจอกชัดขึ้น “หลอดไฟขาด ผมจะโทรไปบอกให้ซื้อเข้ามาเฮียก็ไม่รับสาย”
“งั้นเหรอ” หนุ่มใหญ่สาวเท้ามายังเคาน์เตอร์อีกฝั่ง “ขอน้ำแก้วหนึ่ง”
นเรนทร์น้อมรับคำสั่ง คว้าแก้วใสมารินน้ำสะอาดให้ ตอนยื่นแก้วได้เห็นสภาพหน้าอิดโรยของแสงชัด ๆ เลยอดจะเอ่ยแซวไม่ได้ “ช่วงนี้ปาร์ตี้บ่อยนะครับเฮีย”
“ฉันไม่ได้ไปบาร์”
“หนักน่าดูเลยน้า~” มันยิ้มเผล่ “ความจริงไม่ต้องเกรงใจผมหรอก จะกลับเช้าก็ได้ รับรองว่าไม่แซว”
เรนไม่ได้ประชด ไม่มีแม้แต่ความน้อยใจในน้ำเสียง ทว่าแสงกลับหงุดหงิดขึ้นมาในใจ ไอ้เด็กนี่มองเขาเป็นคนหมกมุ่นในกามขนาดนั้นเชียว โอเคแต่ก่อนอาจจะเลือกน้อยไปบ้าง แต่หลังได้บทเรียนคนเราต้องรู้จักจำบ้าง
ผู้ชายที่หนีจากอาบ อบ นวดกระดกน้ำอึก ๆ จนหมดในครั้งเดียว แสงยื่นแก้วกลับไปให้ขี้ข้า พลันสังเกตเห็นว่าบนโต๊ะมีถุงพลาสติกปริศนาวางอยู่ด้วย หวังว่ามันจะไม่แอบยักยอกทรัพย์ระหว่างที่เขาไม่อยู่นะ น่าสงสัยชะมัดไฟก็ไม่มียังจะมาแถวนี้อีก
เรนช่างน่าสงสารที่อยู่เฉย ๆ ก็ถูกจับผิด กระทั่งท่วงท่าตอนล้างจานแสงยังตีความไปนับหมื่นนับพันอย่าง เช่นว่ามันจะทุบแก้วแล้วหันมาปาดคอเขาไหม หรือน้ำยาล้างจานที่ใช้มีสารพิษหรือเปล่า
แล้วเขาเป็นบ้าอะไรถึงกล้าให้มันมาอยู่ในห้องกันนะ…
เอาเถอะ…เลิกคิดดีกว่า ตอนนี้ร่างกายเหนื่อยล้าเกินจะใช้สมองแล้ว ไม่คิดเลยว่าชีวิตเกย์คนหนึ่งต้องมาเจออะไรแบบนี้ แสงเอนร่างพิงกับเคาน์เตอร์ มองแผ่นหลังอีกฝ่ายที่ยังเคลื่อนไหวไม่หยุด
“ทำอะไรไม่หลับไม่นอน”
“ขโมยของมั้ง” คนที่ซิงค์หันมาแสยะยิ้มอย่างรู้ทัน “แหม เฮียเล่นจ้องเขม็งปานนั้น ใครมันจะฉวยไปทัน”
“ขอโทษที่ขัดจังหวะแล้วกัน”
“ไม่เป็นไรครับ วันนี้ไม่ทันวันอื่นก็ได้” กวนประสาทไม่มีใครเกินล่ะ มันจะมีใครบ้าป่าวประกาศว่าจะขโมยของต่อหน้าเจ้าของบ้างล่ะ ถ้าไม่โง่จริงทำไม่ได้นะ
“เลิกเพ้อเจ้อได้แล้ว” ว่าแต่เด็ก เมื่อกี้เขายังจับผิดมันอยู่เลย “ตกลงทำอะไร”
เรนหันกลับไป ขยับเลื่อนถุงพลาสติกบนโต๊ะจนเกิดเสียง “แค่คิดว่าเฮียน่าจะกลับดึกเลยมาทำข้าวต้มรอ”
คำตอบทำเอาร้อนวูบไปทั้งอก วินาทีนั้นแสงตระหนักได้ถึงความต้องการในส่วนลึก บางอย่างที่ซ่อนเอาไว้ใต้ความเย็นชา....
“ก็นะ.... เฮียไม่กินก็เก็บไว้พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องตื่นเช้าไง เห็นไหมล่ะผมฉลาดจะตาย”
อา..เหนื่อยชะมัด ทั้งรอยลิปสติกบนหน้า คราบน้ำลายที่หู กลิ่นน้ำหอมตรงปลายจมูก เสียงโทรศัพท์ที่ช่วยชีวิตในตอนสุดท้าย....
“เรน มานี่” เจ้าของชื่อทำตามอย่างว่าง่าย ร่างสูงหยุดยืนตรงหน้าคนแก่กว่าพร้อมขมวดคิ้ว
“มีอะ---“
หมับ!
“ไร....” คำต่อมาเบาหวิวราวปุยนุ่น ก่อนทุกอย่างจะถูกดูดกลืนเข้าสู่อ้อมแขนร้อนผ่าว...
“อยู่เฉย ๆ”
นี่คือคำสั่ง….
แสงไม่ได้เมา ไม่มีแอลกอฮอล์สักหยดในเส้นเลือด ถึงกระนั้นสิ่งที่ทำอยู่ก็ไม่ได้ใช้เหตุผลเลยสักนิด แค่อยากกอด อยากถูกกอด อยากสอดแขนโอบรัดใครสักคนในขณะที่ฝ่ายนั้นลูบแผ่นหลังตอบกลับมา...
ขอแค่ยืนทำหน้าโง่ ๆ แล้วพูดว่า ‘กลับมาแล้วเหรอ’ หรือ ‘กลับดึกฉิบหายเลย’ ก็ได้ทั้งนั้น
นั่นน่ะเรียกว่าครอบครัว...
ใบหน้าดุซบลงบนบ่าชายหนุ่ม ความเย็นจากต่างหูหลายชิ้นแนบเข้าข้างแก้มร้อน จั๊กจี้ทว่าไม่คิดอยากจะผละออกเลยสักนิด คนในอ้อมแขนเกร็งตัวในตอนแรกก่อนจะอ่อนลง
น่าแปลก....ผิวนเรนทร์ไม่ได้ดีอย่างน้อง 113 ทั้งหยาบทั้งกร้านแห้งแตกเป็นเกล็ด ลูบไปนึกว่ากอดงูอยู่ แต่เขากลับชอบอ้อมกอดไร้จริตนี้มากกว่าสาวสวยเป็นไหน ๆ แต่คิดอีกทีผู้ชายมันก็ต้องดีกว่าอยู่แล้วนี่เนอะ...
ฟืดดดดด อา...กลิ่นผู้ชายนี่มันดีกว่าเป็นไหน ๆ ไม่ใช่เพราะเป็นเรนหรอก ไม่ใช่....
โธ่เว้ย! ไอ้หัวใจห่านี่ หยุดเต้นสักทีได้ไหมวะ
เมื่ออาการเสียขวัญเริ่มบรรเทาความอับอายก็เข้ามาแทนที่ สติสตังกลับเข้าร่างเมื่อเด็กในวงแขนลูบแผ่นหลังป้อย ๆ
“โอ๋ ๆ ไม่เป็นไรนะเฮีย” มันกระซิบปลอบ “ถ้าหาไม่ได้จะมาลงกับผมก็ได้นะ”
แสงดีดผึงออกมาจากมันราวกับถูกของร้อน ถอยแท่ด ๆ ไปสุดขอบเคาน์เตอร์
“แต่บอกคู่ขาเปลี่ยนน้ำหอมหน่อยน้า~ กลิ่นนี้ผมว่าฉุนไปหน่อย” เด็กแซ่ซ่งยกคอเสื้อย้วย ๆ ขึ้นดมพลางเบ้หน้า แย่ละ....กลิ่นติดมาซะด้วย
“พูดอะไรของแก”
“เฮียโดนเทมาล่ะซี่” ไม่ได้ใส่ไคล้แบบไร้หลักฐานนะ สภาพเฮียแสงดูยังไงก็ออกมาจากเที่ยวกลางคืนชัด ๆ ไอ้จิ้งจอกขยับปกเสื้อลงเผยให้เห็นไหปลาร้า “ในฐานะบ่าวไพร่ที่ดี ผมจะยอมสละเรือนร่างให้เฮียคืนนี้”
ถ้าให้ทำก็ดะ...เอ๊ย! ได้กับผีสิ! แม่งเอ๊ยไอ้เด็กซ่งเกือบทำคล้อยตามแล้ว คนเราเวลาเสียขวัญนี่น่ากลัวฉิบ
หนุ่มใหญ่เสยผมอย่างที่ติดเป็นนิสัยเวลาเครียด “ให้ตัดไอ้จ้อนยังดีกว่า”
“น่าน้อยใจชะมัด” เรนทำปากยู่ ไม่ได้น่ารักเลยสักนิด “ถ้าไม่ทำเฮียก็ไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวผมจัดการงานเรียบร้อยจะไปนอนเอง”
“แก....ทำอาหาร?”
“ใช่”
“ในความมืด?”
“สบายมาก! เวลาโดนตัดน้ำตัดไฟผมยังรีดผ้าได้เลย”
“เศร้าจนพูดไม่ออกเลยแฮะ”
“แอบไปร้องไห้ในห้องน้ำก็ได้ครับเฮีย” นเรนทร์โบกมือไล่ “ไม่ต้องห่วงผมน้า~”
‘ใครห่วงแกวะ’ แสงงับคำนั้นไว้ทันก่อนจะหลุดปาก พอเถอะ....จะต่อความยาวสาวความยืดกับเด็กนรกมันไปทำไม เขาควรจะไปอาบน้ำนอนได้แล้ว ทั้งที่คิดแบบนั้นแต่ดวงตายังไม่วายจ้องไปที่แผ่นหลังตรงหน้าเตาไฟฟ้า...
จริงอยู่ว่าแสงจันทร์ลอดเข้ามาทางระเบียงสว่างพอให้เห็นสิ่งของ แต่การทำอาหารในความมืดก็ไม่ใช่เรื่องสมควรอยู่ดี ไหนจะไฟไหนจะมีด ของอันตรายทั้งนั้น เกิดเลือดตกยางออกขึ้นมาคงไม่พ้นแสงต้องมาลำบากอีก
แกร๊ก...
มือถือปล่อยลำแสงสีขาวสาดลงบนเขียง ทำเอานเรนทร์เงยหน้าฉับ เจ้าของอุปกรณ์พึมพำ “เดี๋ยวจะตายในบ้านฉัน”
ไอ้เด็กซ่งฉีกยิ้มก่อนจะหันไปก้มหน้าจัดการงานบนเขียงต่อ พอเห็นชัดก็จับนู่นนี่คล่องมือขึ้นเยอะ แต่เพราะเนื้อหมูถูกแช่ในช่องฟรีซเลยต้องเสียเวลาในการหั่นมากหน่อย
เจ้าของไฟฉายเฉพาะกิจมองภาพตรงหน้าไม่วางตา อาจเพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่สว่างจ้าในตอนนี้ ผิวของนเรนทร์มีสีเข้มขนาดส่องไฟยังเหมือนถูกกลืนหายเข้าไป เสื้อกล้ามสีขาวกลับสะท้อนแสงออกมาแทน ทั้งที่ไม่ตรงกับรสนิยมเลยสักนิดแต่เขาก็ยังจ้องมันอยู่อย่างนั้น
ฉับ ๆ ๆ
คมมีดกระทบเขียงไม้เป็นจังหวะ หากตั้งใจฟังสักนิดจะพบว่ามันดังขึ้นเรื่อย ๆ ตามจังหวะการเต้นของหัวใจพ่อครัว อื้ออึงร้อนผ่าวอยู่อย่างนั้นจนต้องเอ่ยปาก....
“ฮะ...เฮีย...”
“อะไร...”
“อย่าจ้องได้ไหม เสียสมาธิ”
ความงุ่นง่านปรากฏชัดขึ้น ทั้งที่ปกติออกจะกวนประสาทปานนั้น แต่บัดนี้นเรนทร์เหมือนคนทำอะไรไม่ถูก แม้แต่จังหวะการลงมีดยังผิดเพี้ยนไปหมด ส่วนตัวการน่ะเหรอ นอกจากไม่ทำตามที่สั่งแล้วยังจ้องเขม็งจับผิดมากกว่าเดิมเสียอีก
ดวงตาดุจเหยี่ยวเลื่อนขึ้นมาจากแผ่นหลัง ลำคอ หยุดนิ่งณ กลุ่มผมสีทองสว่างเห็นใบหูทั้งสองข้างขึ้นสีแดงเรื่อ น่าติดใจเสียจนเผลอไผลยกมือขึ้นแตะ
อ๊ะ! นเรนทร์สั่นสะท้าน ทว่ามือสกปรกเกินกว่าจะยกขึ้นปัดป้อง พอเห็นว่าเด็กไม่ว่าอะไรคนแก่ก็ยิ่งเอาใหญ่ ไล้หลังนิ้วไปตามกระดูกอ่อนของใบหู มองสีแดงที่ขับให้หมุดเงินเย็นเยียบดูงดงามขึ้น พอได้เห็นคนหน้าด้านมีอาการแบบนี้แล้วมันช่าง....
“ทำอะไรน่ะครับ”
เปล่านี่ ไม่ได้ทำอะไร ก็แค่คิดว่า....
“น่าระ...”
ไม่!!
“หน้าดำทำผมทอง แล้วยังไม่รู้จักย้อมสีคิ้วอีก”
เปรี้ยง! ฟ้าผ่าลงมากลางหัวผู้นำแฟชั่น อ้าปากพะงาบ ๆ ยังไม่ทันตอบโต้คนฟอร์มจัดก็รีบวางไฟฉายจำเป็นไว้บนโต๊ะแล้วชิ่งหนีจากสถานการณ์น่าอายที่ตัวเองเป็นคนก่อเอง
“ไปอาบน้ำละ แกทำเสร็จก็เอามือถือเข้าไปคืนฉันด้วย”
สิ้นเสียงหนุ่มใหญ่ก้าวฉับ ๆ เข้าห้องน้ำไปไม่แลเหลียวกลับมา แผ่นหลังแนบเข้ากับบานประตูโน้มตัวลงหอบหายใจราวกับวิ่งสี่คูณร้อยมาก
ฉิบหายแล้ว....เกิดอะไรขึ้นกับระบบความคิดวะเนี่ย จะต้องมีส่วนหนึ่งส่วนใดพังไปแล้วแน่นอน รอบก่อนยังพอโทษเหล้าได้ แต่รอบนี้ไม่รู้จะโทษอะไรแล้ว
จริงสิ...เพราะเพิ่งถูกสาวพริตตี้รุกใส่แน่ ๆ เขาถึงได้โหยหาสัมผัสจากชายหนุ่มนัก นั่นสินะ...ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว
แก้ตัวให้ตัวเองเสร็จสรรพสบายใจก็พร้อมชำระร่างกายจะได้ไปผักผ่อนเสียที ก่อนผละออกจากบานประตูแสงเงี่ยหูฟังเสียงความเคลื่อนไหวจากด้านนอกเป็นครั้งสุดท้าย
ฉับ ๆ ๆ
ทำไมมันหั่นหมูดังจังวะ....
TBC
หายไปอาทิตย์นึง เป็นไงคะ กลับมาหวานอย่างปากว่าจริง ๆ
แม่ขา เขากอดกันแล้วนะคะ จริง ๆ ก็ไม่ควรตกใจเพราะเขานัวกันตั้งแต่ตอน 2 แล้ว 55555555555
อาแสงกำลังหวั่นไหวอย่างหนัก รอบนี้เด็กไม่ได้รุกเองด้วยนะคะ หึหึหึหึ
ขออัญเชิญแท็ก #สูงวัยใจต้องแกร่ง จากคุณ PP_annann ค่ะ
เม้าท์นิดนึง ตอนหาข้อมูลอาบอบนวดรู้สึกตัวเองเป็นหญิงบาปเลยค่ะ ฉันอ่านอะไรอยู่เนี่ย จิตใจสาวน้อยปิดหน้าเขินอาย ฟฟฟฟฟฟ
เอาเป็นว่าคัมแบคแล้ว เจอกันอาทิตย์หน้าอีกเช่นเคยนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามค่า
ป.ล.คุณ wikichan คะ ตาเป็นจิ้งจอกนะคะ ไม่ใช่จิ้งจก ใจเย็นค่ะ น้องเรนไม่น่ากลัวขนาดนั้น 5555555