ทวงครั้งที่ 16
เช้าวันเสาร์นั้นเรนยังจำได้ไม่ลืม....
กลิ่นหอมของขนมปังหน้าหมูเคล้าด้วยกาแฟลอยฟุ้งในอากาศ และจำแม่นที่สุดในวินาทีที่ฟันงับลงบนไส้กรอกทอดหนังกรอบตึงเปรี๊ยะ
“วันนี้แกไปวันเกิดพอใจด้วยล่ะ”
พรูด!
กระสุนไส้กรอกพุ่งเฉียดแขนเหยื่อไปนิดเดียว นเรนทร์ไอค่อกแค่กน้ำลายเหนียวฝืดคอ สภาพมันว่าแย่แล้วเคยคิดถึงจิตใจเหยื่อบ้างไหม หนุ่มใหญ่ผู้เกือบสูญเสียแขนขวานั่งตัวแข็งทื่อ ฟังเสียงไอ้ฆาตกรไอจนเสลดแตกในคอแล้วได้แต่สังเวชใจ
“ของกินอย่าเอามาเล่น”
“ไม่ได้เล่นสักหน่อย แค่ก ๆ” ถ้าหูไม่แว่ว แสงว่าเขาได้ยินเสียงขากในลำคอ “กะ...ก็เฮีย..แค่ก ๆ ๆ เล่นพูดอะไรไม่รู้”
“แค่ชวนไปวันเกิดหลาน” ทางนั้นยักไหล่พลางจิ้มขนมปังเข้าปาก “ของเยอะแยะ ไปช่วยถือหน่อย”
มันเรื่องธรรมดาที่ไหนเล่า! นี่มัน ‘ลูกหนี้ที่อัดคลิปแบล็กเมล์’ เชียวนะเว้ย! ต้องได้รับเกียรติขนาดไหนถึงจะได้เข้าบ้านเรืองภพกัน
“ไม่ต้องทำหน้าระรื่น ไปในฐานะเด็กรับใช้”
“ยุคศักดินาอีกแล้วเหรอ” แต่ไม่เป็นไร เจ้าสมัยก่อนก็ชอบกินคนรับใช้อยู่ ข้อนี้นเรนทร์ใช้ปลอบใจตัวเองได้ “เอาสิครับ! เฮียจะให้ผมแบกรถไปก็ยังไหว”
“ก่อนอื่นแกเก็บไส้กรอกที่พื้นขึ้นมาก่อนเลย” แสงชี้นิ้วสั่ง “ห้ามกินล่ะ”
“ว้า~ ไม่ห้ามจะกินอยู่แล้วเชียว”
ไม่รู้ว่ามันพูดเล่นหรือตั้งใจจริง แต่แสงก็ขอบคุณเหลือเกินที่ไอ้เด็กซ่งคีบซากอาวุธไปหย่อนลงถังขยะแต่โดยดี พอเห็นหางตาแว้บ ๆ ว่ามันกลับมาก็แสร้งยกกาแฟขึ้นจิบชมนกชมไม้ไป
แสงเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องชวนมันไปด้วย ลึก ๆ แล้วเขาอาจจะอยากเห็นแม่อกแตกตายล่ะมั้ง? ลูกผู้ไม่ได้ความพาเด็กชายคู่ขาเข้าบ้านคงสนุกพิลึก ยิ่งงานวันเกิดหลานสาวสุดที่รักหล่อนคงไม่กล้าโวยวายได้เก็บความแค้นทดไว้ในใจ ตัวเขาก็เหลือเกิน....ขนาดแก่แล้วยังมีแรงขบถใช่ย่อย
ใช่...มันก็แค่ความทรพีส่วนตัวเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้น....
ย้ำกับตัวเองจนสบายใจแล้วก็จิ้มอาหารเข้าปากจนเกลี้ยงจาน รอจนเด็กเก็บกวาดล้างจานเขาถึงได้เดินไปทิ้งตัวนอนราบบนโซฟา วันหยุดแบบนี้ใครเขาทำงานกันเล่า เป็นนายตัวเองยิ่งขี้เกียจเข้าไปใหญ่ ขอนอนเอกเขนกกลิ้งไปมาจนถึงเวลานัดเลยแล้วกัน
“เฮีย” เสียงเรียกเหนือศีรษะทำเอาต้องกะพริบตาปริบ ๆ ใบหน้าของไอ้เด็กซ่งโผล่หราเป็นอย่างแรก “ผมต้องไปทำงานก่อน วันนี้ไปไซด์ใหม่แถวตลาดตรงข้ามนี่เอง เฮียจะออกไปกี่โมง”
“วันเสาร์ยังต้องทำงานอีกเหรอ” กฎนิติไม่อนุญาตให้ทำเสาร์-อาทิตย์เลยคิดว่ามันจะว่าง ที่ไหนได้วิ่งรอกรับงานอื่นซะงั้น
“เป็นช่างมันมีวันหยุดที่ไหนล่ะครับ” มันตอบปากยื่นปากยาว “ผมน่ะกินค่าแรงรายวันนะ ไม่ไปก็ไม่มีจะกินพอดี ไหนจะค่าเช่าห้องอีก”
“รีบไปเลยไป” เขาโบกมือไล่ “เหม็นคนจน”
“ฮ่า ๆ ๆ” เรนหัวเราะจนตาปิด “แต่ผมชอบกลิ่นคนรวยน้า~”
‘งั้นก็ก้มลงมาสิ’ คนรวยกลืนประโยคนั้นลงคอพร้อมกับปิดเปลือกตาแสร้งหลับเป็นการตัดบท เงี่ยหูฟังรอจนบานประตูปิดลงนั่นแหละถึงได้ลืมตาโพลง ทั้งที่ตั้งใจจะหลับแสงดันคว้าสมาร์ทโฟนมาเปิดดูข่าวสารเรื่อยเปื่อยแก้ฟุ้งซ่าน
ไอ้เด็กซ่งเป็นคนขยันแบบโง่ ๆ ชาตินี้ก็ไม่มีวันรวยหรอก ถ้าจะขึ้นมาระดับที่ทำงานสบาย ๆ ต้องมีมากกว่าความถึกทน มันน่ะนิดหน่อยก็ใจอ่อนโดนหลอกดึงเงินไปซะทุกที่ แถมยังหน้าบางไม่กล้าทวงออกนอกหน้าอีก กระดูกเปราะขนาดนี้แสงหลอกมาสร้างบ้านทั้งหลังด้วยเงินแสนเดียวได้เลย
นี่ก็จะหลอกมันไปยั่วโมโหคนที่บ้านอยู่ แทนที่จะฉุกคิดสักหน่อยดันเออออง่าย ๆ เสียอย่างนั้น ก็เอาเถอะ...บ้านนั้นเขาคงสงบสุขกันแล้ว...
ฉานไม่โดนฟ้องแล้ว
พี่นกโทรมาบอกแสงเมื่อเย็นวันศุกร์ เพื่อนของเธอเกลี้ยกล่อมคุณดี๋จนสำเร็จ หล่อนยอมโทรไปนัดแก้จมูกพร้อมออกปากว่ารอบนี้ต้องทำให้สวยกว่าเดิมแล้วจะอภัยให้
ฉานมันคงสบายใจมีความสุขกับวันเกิดลูกสาวได้เต็มที่ เป็นครั้งแรกที่แสงได้ใช้วิชาชีพกับคนในครอบครัวแบบนี้ คนจบนิติน่ะไม่ใช่แค่ว่าความอย่างเดียว การเกลี้ยกล่อมไม่ให้เป็นคดีความนั้นถือเป็นประโยชน์สูงสุดต่อจำเลยแล้ว
พ่อทนายกระตุกยิ้มกับตัวเองเมื่อคิดว่าเขาเองก็มีประโยชน์เหมือนกันนี่นา
.................................................
................................
...............
........
เรนกลับมาตอนสี่โมงเย็น ตัวเหม็นเหงื่อโทรมกายจนแสงไล่ไปอาบน้ำแทบไม่ทัน หนำซ้ำยังตะโกนย้ำว่าให้สระผมด้วย ฝุ่นจากไม้จะหนักกว่าปกติเกาะเสื้อผ้าเส้นผมจนขึ้นสีขาว ถ้าไม่โดนน้ำไม่ออกแน่นอน
ชายหนุ่มเดินตัวหอมฉุยออกมารื้อเสื้อผ้าชุดที่ดีที่สุด ได้เสื้อยืดขาวสกรีนลายวง linkin park ทั้งร็อกและแว้นไปในตัว ส่วนกางเกงคว้ายีนส์สีดำขาด ๆ ยาวถึงข้อเท้า เรนรวบเส้นผมที่ยังไม่แห้งดีขึ้นมัดเป็นจุกด้านหลัง แทนที่จะเรียบร้อยขึ้นเลยกลายเป็นโชว์หูที่เจาะจนพรุน
เอาเถอะ... นี่ก็ถือว่าเรียบร้อยสำหรับมันแล้วล่ะ แสงมองแล้วส่ายหัวปลง ๆ เสน่ห์ของนเรนทร์คือความประหลาดเนี่ยแหละ จะว่าดูดีก็ใช่จะว่าแว้นก็ไม่เชิง แต่เอาเป็นว่ามอง ๆ ไปก็น่ารักดี...
“อืม...หล่อขนาดนี้ถ้าหลานเฮียมาชอบผมจะทำยังไงเนี่ย”
น่ารักกะผีน่ะสิ!
“หลานฉันไม่มีรสนิยมประหลาดแบบนั้น” เหมือนฉัน.... เขาต่อในใจ แล้วรีบกลืนน้ำลายที่ขมเหมือนยาพิษ “นี่เสื้อที่ดีที่สุดของแกแล้วใช่ไหม”
“เรียบร้อยกว่านี้ก็รื้อจีวรพร้อมสบงมาใส่แล้วเฮีย” แสงถอนหายใจ จะท้าก็ไม่กล้ากลัวมันดึงออกมาจริง ๆ “ชุดไปสมัครงานตามบริษัทก็ไม่มีอะ”
“linkin park นี่มันสมัยไหนกัน” ไม่ต้องสืบก็รู้ว่าจากตลาดนัดแน่นอน ลายยอดนิยมของผู้ต้องหาในข่าว
“ตัวนี้ผมใส่เดทกับเบลเชียวนะ”
“มิน่าถึงได้โดนทิ้ง” ได้ด่าเด็กแล้วก็สบายใจใช้งานต่อ “หยิบถุงของขวัญตรงนู้นมาด้วย”
“คร้าบ ~”
เด็กรับใช้คว้าสมบัติของแสงเต็มสองมือ ทั้งของขวัญทั้งขนมไม่รู้ซื้อไปแจกทั้งหมู่บ้านหรือเปล่า พอออกประตูเอาถุงไปชนผนังแสงก็จิ๊ปากกลับมาดึงของในมือซ้ายมาช่วยถือ แถมยังไม่วายด่า ‘ถือให้มันดี ๆ หน่อย’ ทำเอาเรนอมยิ้มกับท่าทีแข็งกร้าวราวพระเอกหนังพิศาล
เวลาเย็นย่ำแบบนี้คนแย่งใช้ลิฟต์กันเสียจนแทบไม่มีที่ให้ยืน พอผลักประตูกระจกไปยังลานจอดรถก็พบกับความวุ่นวาย แสงไขเปิดกระโปรงหลัง Citroen C5 ของตนแล้วยัดสัมภาระทุกอย่างเข้าไป
“ของขวัญเอาวางไว้ตรงเบาะหลังนะ เดี๋ยวอย่างอื่นกลิ้งมาทับ”
เรนพยักหน้ารับทราบแล้วยัดถุงลงไป รอจนเฮียปิดงับแล้วเดินวนไปยังที่นั่งคนขับมันถึงได้ตามไป ตอนที่แทรกตัวเข้าไปตรงตำแหน่งตุ๊กตาหน้ารถเรนก็บุ้ยปากไปยังเบาะหลัง
“เฮียว่า...หลานจะชอบของขวัญกล่องไหนมากกว่ากัน?”
“มันก็ต้องของที่ฉันเลือกอยู่แล้ว” คนขับเสียบปลายเข็มขัดนิรภัยลงล็อกดังกริ๊ก “เด็กผู้หญิงยังไงก็ชอบทำอาหาร”
“แต่ก็ชอบตุ๊กตาด้วยเหมือนกัน”
เปรี๊ยะ... สองตาสบประสานกันจนไฟฟ้าแล่น เรนแสยะยิ้มท้าทาย
“มาพนันกันไหมเฮีย”
“ไม่เอาตัวแกเข้าแลกนะ”
“รู้แล้วน่า!” บาปกรรมของคนไม่เกิดเป็นสโนว์ไวท์นี่มันหนักหนาเหลือเกิน “เอาแบบในหนังไง ใครชนะจะสั่งให้คนแพ้ทำอะไรก็ได้”
“งั้นแกต้องลบคลิป”
“ไม่เอาแบบนั้นสิ งั้นเฮียเลิกทวงหนี้ผมได้ปะล่ะ” เพราะไอ้สองข้อนั้นเป็นเงื่อนไขหลักที่ทำให้ต้องมาจมปรักอยู่ด้วยกันนี่ไง เรื่องอะไรจะจบง่าย ๆ ด้วยการพนันครั้งเดียว “เอาอย่างอื่นสิ”
“ไม่อยากมีที่ซุกหัวนอนขนาดนั้นเชียว”
เรนแสยะยิ้ม ได้ทีเตรียมเฉดหัวเชียวนะ “ผมไม่แพ้อยู่แล้ว”
คนขับยักไหล่ “กลับมาเก็บกระเป๋าด้วยล่ะ”
แล้วล้อก็เริ่มหมุน....
..........................................................
....................................
.................
.......
บ้านของแสงอยู่ไกลจากคอนโดพอสมควร ขนาดขึ้นทางด่วนยังใช้เวลาเกือบชั่วโมงครึ่ง นานจนนเรนทร์หลับไปได้สองตื่น รอบล่าสุดคือตอนที่กำลังเลี้ยวเข้าซอยเล็ก ๆ
มันเป็นย่านที่อยู่อาศัยของผู้ดีเก่าอย่างแน่นอน ดีไซน์บ้านดูแก่ทึนทึกก็จริง แต่คนที่สร้างแบบนี้ตั้งแต่สมัยก่อนได้แสดงว่ามีอันจะกิน บางทีก็มีแนวโมเดิร์นโผล่มาขัดตาเหมือนกันคาดว่าลูกหลานคงจะทุบแล้วสร้างใหม่ ขณะกวาดตาสำรวจเพลิน ๆ รถก็มาจอดเทียบสนิทตรงข้างรั้วไม้
บ้านไม้สองชั้นตั้งตระหง่านอยู่หลังสวนเขียวครึ้ม มองจากตรงนี้เห็นเพียงหลังคาทรงปั้นหยาสีโอ๊คเท่านั้น พวกเขาลงจากรถแล้วช่วยกับหอบหิ้วของเต็มสองมือ จังหวะที่แสงใช้สะโพกดันรั้วไม้เข้าไปก็มีเสียงแหลมสูงดังขึ้น
“ลุงแสง!” เด็กชายตัวกลมป้อมแผดเสียงเสียจนนกตกใจบินออกจากกิ่งไม้ “พ่อครับ! ลุงแสงมาแล้ว”
ไม่รอให้ผู้ปกครองขานรับภูมิใจก็วิ่งดุ๊ก ๆ มาเกาะแข้งขาจนเกือบล้มคว่ำไปทั้งลุงทั้งหลาน “ภูมิใจอย่าเพิ่งเกาะลุงสิ เดี๋ยวก็ได้แผลกันพอดี”
“ขอโทษครับ” ถึงจะโดนดุก็ยังฉีกยิ้มร่าพร้อมยกมือไหว้ตามมารยาทที่พ่อแม่สั่งสอน “หวัดดีครับลุงแสง”
“หวัดดีครับ” หนุ่มใหญ่ฉีกยิ้ม “ไหน...จัดโต๊ะกันตรงไหนพาลุงไปดูหน่อยซิ”
“ครับ”
เด็กชายหันมาสบตากับนเรนทร์แว้บหนึ่งก่อนจะก้มหน้างุด คงอยากถามแต่ก็กลัวคนแปลกหน้าล่ะมั้ง รอบนี้ไม่มีพ่อคุ้มกะลาหัวด้วย เลยได้แต่ออกเดินนำเข้าไปตามแผ่นหินวงกลมที่ปูเป็นทาง
ต้นไม้รกครึ้มแค่ด้านหน้าเท่านั้น ก้าวผ่านเข้ามาเพียงนิดเดียวก็เปลี่ยนเป็นไม้พุ่มสูงแค่เอวไปหมด จากตรงนี้นเรนทร์สามารถมองเห็นบ้านได้ทั้งหลัง ขนาดของมันจัดว่าใหญ่ไม่ใช่น้อย มาเวลาใกล้ค่ำแบบนี้ยิ่งดูน่าเกรงขาม โดยเฉพาะเมื่อถูกฉาบด้วยแสงสีส้มจากโคมไฟเสาไปตลอดทาง
ตรงลานหน้าบ้านนั้นเองที่มีโต๊ะยาว ๆ วางรออยู่ บนนั้นปูผ้าสีชมพูหวานแหววพร้อมกล่องของขวัญหลายชิ้น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าจะปาร์ตี้กันตรงไหน ข้างกันนั้นมีลูกโป่งรูปหัวใจทั้งสีแดงสีเงินและแบบใส ดูน่ารักเข้ากับเสียงเจื้อยแจ้วของกลุ่มเด็กผู้หญิง
หนึ่งในนั้นแต่งตัวสวยที่สุดในชุดกระโปรงชีฟองสีโอลโรสจับระบายเป็นชั้น ๆ บนศีรษะติดกิ๊ฟรูปดอกกุหลาบเข้าคู่กัน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นนางเอกของงานอย่างแน่นอน
พอโดนเพื่อนสะกิดเรียกพอใจจึงเงยหน้าขึ้นมอง ทันใดนั้นดวงตาเด็กหญิงก็เป็นประกาย “ลุงแสง!”
สมแล้วที่เป็นพี่น้องกัน... เรนคิดในใจขณะมองภาพฉายซ้ำ แค่เปลี่ยนเด็กชายเป็นหญิงเท่านั้นเอง แถมอ้อร้อทักทายเสร็จยังส่งสายตาสงสัยมาทางนี้เหมือนกันเด๊ะอีกต่างหาก...
“สุขสันต์วันเกิดนะครับ ดูซิ...ลุงมีของขวัญมาให้พอใจด้วย” แสงที่เริ่มหน้ามืดเพราะก้มหน้าคุยกับหลานเปลี่ยนมาเป็นนั่งยอง ๆ แทน “เรน! เอาของมาซิ”
“ครับ ๆ” ชายหนุ่มยื่นถุงกระดาษของห้างให้สองใบ และตอนที่นางเอกของงานช้อนตาขึ้นมองเจ้าตัวก็เผลอหลุดปาก “สุขสันต์วันเกิดครับเจ้าหญิง”
อ่อก... แสงแทบขย้อนข้าวกลางวัน แม่งเอ๊ย! สมัยนี้ยังมีคนพูดอะไรลิเกแบบนี้อยู่อีกเหรอ...
“ขะ...ขอบคุณค่ะ” แล้วหลานกูจะหน้าแดงทำไมเนี่ย!
“อ๊ะ!” มาถึงตรงนี้ภูมิใจที่แอบจ้องมานานก็นึกออก สมแล้วที่แม่บังคับให้ดื่มซุปไก่ทุกวัน มือกลมป้อมยกขึ้นชี้ด้วยสีหน้ามั่นใจราวกับเจอคนร้าย “พี่ชายที่แก้ผ้าในห้องลุงสะ----”
“ยู้ดดดดดดด!” แสงคว้าปากน้อย ๆ ไว้ได้ทันท่วงที ใบหน้าใจดีเริ่มเคร่งขรึม....เอาไงดีวะ จะอ้างอะไรให้เด็กมันเลิกสงสัยดี โชคดีที่เหตุผลหนึ่งแว้บเข้ามาในหัว “พี่เขามีชื่อนะ ไปเรียกแบบนั้นได้ไง”
“อ๋อ...” เด็กน้อยเชื่อโดยง่าย “พี่ชายชื่ออะไรเหรอครับ”
“พี่ชื่อเรนครับ” คนแซ่ซ่งยิ้มกว้างให้เด็กทั้งสอง ถ้าตาไม่ฝาดแสงเห็นพอใจอมยิ้มตามด้วย แย่แล้ว...ใครจะไปคิดว่าหลานจะมีรสนิยมชอบแนวแว้น ๆ แบบนี้เล่า “เรียกพี่เรนดีกว่าเนอะ”
“ค่ะ”
“ครับผม” ทั้งสองพยักหน้า “พี่เรนที่แก้ผ้าในห้องลุงแสง...”
พัง...
แสงยกมือขึ้นกุมขมับในขณะที่เด็กเวรหัวเราะฮ่า ๆ ไม่หยุด ไม่มียางอายเอาเสียเลย ไม่รู้โชคดีหรือร้ายที่แถวนั้นมีแต่เด็กน้อยคงจะไม่เอาเรื่องไปแพร่งพรายให้ใครฟัง หรือคิดอีกทีเด็กนี่ก็ตัวดีเลย มีอะไรมันถามพ่อแม่หมด
ระหว่างกำลังเครียดว่าจะลบความทรงจำของเด็กอย่างไรดี ผู้ใหญ่คนแรกก็โผล่หน้าออกมาจากประตูบ้าน คุณหมอฉานคลี่ยิ้มทันทีที่เห็นว่าใครมา
“สวัสดีครับพี่แสง” มองไปเจออีกคนก็ทักต่อ “เรนด้วยนะครับ”
นเรนทร์ยกมือไหว้แทบไม่ทัน “หวัดดีครับคุณฉาน”
“นี่พ่อฉันชื่อจรัส” แสงผายมือไปทางชายชราที่เดินตามออกมา โครงหน้าเหมือนเฮียแสงไม่มีผิด เรนรีบยกมือไหว้ต่อ
“สวัสดีครับ” ทางนั้นรับไหวด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะทิ้งตัวบนเก้าอี้มองดูหลานวิ่งเล่นกับเพื่อน
“แกแก่มากแล้ว บางทีก็มึน ๆ ไปบ้าง”
“ดีจังที่เรนมาด้วย” ฉานยิ้มละไม
“เอามาให้ใช้แรงงานน่ะ จะจิกหัวใช้ยังไงก็เชิญเลย”
“ฮ่า ๆ ๆ” คนดีอย่างฉานยังอุตส่าห์เข้าใจว่าพี่แสงเล่นมุกไปอีก “นี่กินข้าวเย็นกันมาหรือยังครับ”
“ยังเลย” ชายตาไปเห็นโต๊ะที่ยังว่างเปล่าแสงจึงเอ่ยต่อ “ดูท่าจะมาทันเวลาพอดี”
“เดือนกำลังจะยกออกมาเลยครับ ตอนนี้อยู่ในครัวกับแม่”
ให้น้องสะใภ้ทำงานคนเดียวแบบนี้คงไม่ดีนัก “เดี๋ยวฉันกับเรนไปช่วยยกนะ จะได้ไปสวัสดีแม่ด้วย”
“ครับ” ฉานมองพี่ชายด้วยแววตาเปี่ยมสุข วันเกิดลูกสาวแถมพี่ชายยังมีแนวโน้มจะคุยกับแม่อีก ช่างโชคดีอะไรเช่นนี้
ระหว่างเดินตามหลังผู้ใหญ่เรนก็สังหรณ์ใจแปลก ๆ จะเอ่ยขอยืนอยู่กับเด็กก็ไม่กล้า มาถึงบ้านเรืองภพจะไม่ไหว้เจ้าบ้านก็กระไร ได้แต่หอบหิ้วข้าวของเต็มมือ เห็นเฮียว่าจะได้เอาพวกของสดเข้าตู้เย็นเลย
ครัวอยู่ด้านหลังของตัวบ้าน เป็นครัวไทยขนานแท้ มีหน้าต่างมุ้งลวดบานเบ้อเร่อไว้ระบายอากาศไม่ต้องใช้ที่ดูดควัน ได้กลิ่นหอมของอะไรสักอย่างลอยมาแต่ไกล พร้อมเสียงคุ้นหู
“เดือนมายกกุ้งชุบแป้งทอดออกไปก่อนเลย แม่จะได้มีที่วางข้าวผัด”
“ค่ะแม่”
ไม่ทันจะก้าวต่อร่างของหญิงสาวคนหนึ่งก็โผล่พ้นขอบประตู เรนรู้ในทันทีว่าเธอเป็นภรรยาคุณฉาน หน้าเหมือนน้องพอใจเสียขนาดนั้น
“อ้าว! สวัสดีค่ะพี่แสง” หล่อนก้มหัวแทนการไหว้เพราะมือไม่ว่าง “มาทำอะไรตรงนี้คะเนี่ย นั่งรอที่โต๊ะสิคะ เดือนกำลังจะยกออกไปแล้ว”
“พี่มาช่วยยก” พี่เขยชี้ไปด้านหลัง “พอดีเอาเด็กใช้แรงงานมาด้วย”
ขี้ข้าก้มหัว “สวัสดีครับ”
“ฮะ ๆ พี่แสงนี่ตลกจังค่ะ” นอกจากไม่เชื่อแล้วยังวิ่งในทุ่งลาเวนเดอร์ไม่ต่างจากฉานเลย เดือนคิดว่าคงเป็นเพื่อนสักคนนั่นแหละ เธอไม่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นเสียด้วย “เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ มีอีกหลายจานเลย วันนี้แม่กับเดือนโชว์ฝีมือเต็มที่”
“พี่ซื้อนมกับขนมมาฝากเด็ก ๆ เต็มเลย จะใส่ไว้ให้ในตู้เย็นนะ”
“ขอบคุณค่า” หล่อนออกก้าวอีกครั้งก่อนฝากฝังภารกิจไว้ “เดือนไปวางจานก่อนนะคะ เด็ก ๆ หิวจะแย่แล้ว”
สะใภ้ของบ้านจากไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงชายสองคนที่มองหน้ากันด้วยอารมณ์ที่คอนทราสสุดขั้ว เรนส่งซิกทางสายตาว่า ‘จะดีเหรอเฮีย’ แต่ทางนั้นดันยักไหล่ตอบ ‘ไม่เห็นมีอะไรนี่นา’
และไม่รอให้เสียเวลาขายาว ๆ ก้าวนำเข้ากรอบประตูไปเป็นที่เรียบร้อย ผู้ติดตามได้แค่ส่ายหัวปลง ๆ แล้วมุ่งหน้าสู่ความฉิบหายไปด้วยกัน
“สวัสดีครับ” ทันทีที่เสียงทุ้มต่ำเรียกออกไปหญิงชราที่หน้าเตาแก๊สก็เงยหน้าขึ้น พอเห็นว่าเป็นใครมือที่จับตะหลิวก็ชะงัก
“เอ่อ...สวัสดีครับ” นเรนทร์ไหว้ด้วยท่าทีที่สุภาพที่สุด
“อืม” หล่อนตอบแค่นั้นก่อนจะสาละวนคนข้าวในกระทะราวกับมันต้องใช้สมาธิระดับเดียวกับสนเข็ม แสงรู้ทันทีว่านั่นเป็นวิธีการเมินเฉยแบบที่เจ้าตัวชอบทำ เขายักไหล่ขยับเข้าไปชะโงกดูอาหารบนโต๊ะ
วันนี้มีเพื่อนที่โรงเรียนพอใจมากันหลายคนเมนูคาวหวานเลยทำมาเอาใจเด็กโดยเฉพาะ นอกจากกุ้งชุบแป้งทอดที่เดือนยกออกไปแล้วก็มีไข่ตุ๋นหมูสับ ไส้กรอกทอดรูปปลาหมึก เฟรนช์ฟราย ไก่นิวออร์ลีนส์ สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศไก่ ส่วนที่อยู่ในกระทะก็ข้าวผัดปู
แสงคลี่ยิ้มอย่างพึงใจก่อนหันมาเรียก...
“เรน...เอานมกับขนมไปใส่ตู้เย็นสิครับ”
“หา!?”
ไอ้เด็กซ่งแหกปากจนหม่อมแม่ทำตะหลิวร่วง มันรีบยกมือปิดปากแสร้งว่าไม่ใช่เสียงตนเอง ซึ่งเป็นวิธีที่ควายเท่านั้นที่จะคิดออก
“คือเฮียเรียกผะ...”
แสงเปิดตู้เย็น “เร็วสิครับ”
ครับพ่อครับแม่เฮียสิวะ! จิกหัวกระทืบเรียกไอ้เหี้ยไอ้ห่ายังชินหูกว่าอีก!
นเรนทร์ขนลุกไปทั้งสรรพางค์กาย ราวกับเลือดทุกหยดถูกสูบออกจากร่าง จะก้าวขาไปทางตู้เย็นยังแทบล้ม กระนั้นคนถึกทนก็กัดฟันสาวเท้าต่อ
เฮียแสงเป็นบ้าอะไรเนี่ย พูดจาน่าขนลุกแล้วยังคลี่ยิ้มพยายามจะหวานใส่อีก เคยคิดว่าตัวเองจะดีใจถ้าเฮียอ่อนโยนด้วย แต่ไม่ใช่เลยอีแบบนี้มันหยึยชะมัด แล้วยังมาทำต่อหน้าแม่ตัวเองอีก...
เดี๋ยวสิ...หรือว่า....
“เรนดูสิครับ” หนุ่มใหญ่ชี้นิ้วไปยังก้อนเค้กรูปกระต่ายสีชมพู “เค้กน่ากินมากเลย”
โอเค! เรนมั่นใจแล้ว เฮียหนีบเขามาเพื่อยั่วโมโหแม่ชัด ๆ!
คนแซ่ซ่งยิ้มแห้ง ๆ เกรงใจคุณหญิงไพลิน แต่ก็ไม่อยากหักหน้าเฮียแสง เอาวะ...เรื่องโรลเพลย์ก็งานถนัดอยู่
“นั่นสิครับ น่ากินจังเลย ฮะ ๆ ๆ” ใจหนึ่งก็กลัวเฮียแกเอาครีมมาป้ายจมูกแล้วบอก ‘นี่แหนะ’ อยู่เหมือนกัน อย่าเชียวนะเฮีย...ไอ้เรนต่อบทแนวนั้นไม่ถูก
“วันเกิดเรนอยากได้เค้กแบบนี้หรือเปล่าล่ะ”
“แบบไหนก็ได้แหละครับ”
“นั่นสินะ ถ้าได้จากพี่จะแบบไหนก็ได้ทั้งนั้นสินะครับ”
เรนลดเสียง “เดี๋ยว ๆ ‘พี่’ เลยเหรอ”
“เออน่า” คุณชายแสงขู่ลอดไรฟัน “ตามน้ำไปก่อน”
“ครับ...ถ้าเป็นของที่พี่แสงให้ผมชอบทุกอย่าง”
แก๊ง! เสียงขูดตะหลิวด้านหลังทำไอ้เรนเสียวฟันจี๊ด กำลังจะหันไปดูก็ถูกเฮียคว้าหมับเข้าที่คางแล้วบิดให้หันกลับมาก่อน
กฎข้อแรกของการยั่วโมโหคือทำเป็นไม่รู้ว่าฝ่ายนั้นของขึ้นแล้ว หนุ่มใหญ่ล้วงมือเข้าไปในถุงที่เรนถืออยู่ หยิบนมพาสเจอร์ไรส์รสผลไม้ขึ้นมาสามสี่ขวดแล้วยัดมันลงในช่องแช่
“แบบขวดไว้ตรงนี้ แบบกล่องเรนเรียงไว้ด้านล่างนะครับ”
“ครับ” เรนชะงักเล็กน้อยตอนที่ล้วงมือแล้วบังเอิญไปสัมผัสกันในถุง ด้วยระยะห่างแค่นี้น่ากลัวว่าเฮียจะได้ยินเสียงหัวใจที่ทำงานหนัก
ชายหนุ่มถอยหลังมาครึ่งก้าวเพื่อจัดวางช็อกโกแลตที่ฝาเปิด บรรยากาศในห้องยากเกินจะบรรยาย ทั้งใจเต้นทั้งอึดอัดจนหาคำจำกัดความไม่ได้ ใบหูแว่วเสียงวางจานเซรามิกกระแทกกับโต๊ะ
สงครามประสาทดำเนินต่อไปแบบนั้นจนกระทั่งเดือนกลับมาเอาอาหารไปวางเพิ่มนั่นแหละแสงถึงได้รู้ตัวว่าเขาต้องเริ่มช่วยงานน้องสะใภ้จริง ๆ จัง ๆ เสียที หลังหญิงสาวคล้อยหลังและซีเรียลกล่องสุดท้ายถูกเรียงในตู้กับข้าวแสงก็เดินกลับมาที่โต๊ะ
มือคว้าหมับเข้าตรงจานใบใหญ่ที่สุด หญิงชราที่กำลังขูดข้าวจากกระทะถึงกับชะงักมือไป หล่อนเผลอช้อนตามองด้วยอารามตกใจ
แสงคลี่ยิ้มให้เธอ....
“ข้าวผัดเสร็จแล้ว ยกออกไปเลยนะครับ”
ไพลินพยักหน้า หันกลับไปยัดกระทะลงซิงค์แล้วเปิดน้ำด้วยความแรงที่สุด
ซ่า....
เรนรีบคว้าถ้วยซอสสปาเก็ตตี้ที่หนักไม่แพ้กันออกเดินนำไปก่อน ยืนรอจนแสงพ้นกรอบประตูไปราวห้าเมตรถึงได้เข้าไปประชิด
“เฮียเล่นอะไรเนี่ย!”
“เปล่านี่” คนแก่กว่าลอยหน้าลอยตาแล้วก้าวขาให้เร็วขึ้น “รีบหน่อย ยังมีอีกหลายจาน ฉันเอาแกมาช่วยงานนะ”
“คร้าบ~”
ป่วยการจะง้างปากคนหัวดื้อ นเรนทร์จึงก้าวให้เร็วขึ้นตามคำสั่งแต่โดยดี
พวกเขาเดินไปกลับอีกสามรอบข้าวของถึงได้กองบนโต๊ะครบครัน เดือนเป็นคนจัดวางตำแหน่งให้สวยงาม เธอแยกโต๊ะออกเป็นสามฝั่ง ตัวหนึ่งสำหรับผู้ใหญ่ ตัวหนึ่งสำหรับเด็ก และอีกตัววางเค้กพร้อมกล่องของขวัญดูน่ารักสดใส
ไฟทุกดวงในสวนถูกเปิดฉาบแสงสีส้มสว่างไปทั่วบริเวณ ผู้ปกครองของเด็กน้อยนั่งเสวนากันเต็มโต๊ะจนเรนเกร็งเล็กน้อย แต่ความหิวโหยมีมากกว่า มันจึงใช้สมาธิไปกับการจ้วงนู่นจ้วงนี่เข้าปาก ยอมรับเลยว่าสาว ๆ บ้านนี้ทำอาหารอร่อยมาก มิน่าเฮียแสงถึงไร้ฝีมือด้านนี้ เพราะมีคนอื่นคอยทำให้นี่เอง
เรนนั่งอยู่ริมสุดขอบจักรวาล ไฟส่องแทบไม่ถึงรวมกับสีผิวจัดว่าพรางตัวเป็นธาตุอากาศได้อย่างดี ซึ่งเขาชอบตำแหน่งนี้มาก กวาดตามองทีเดียวก็เห็นความเป็นไปของคนทั้งโต๊ะ แถมจะคว้าอะไรกินก็ไม่มีคนสนใจ จานกับข้าวของเขามีเพียงเฮียแสงที่ร่วมกินด้วยเท่านั้น
ซ้ายเป็นเจ้านาย ขวามือคือคุณฉานผู้สุภาพทุกท่วงท่ากริยา เรนเห็นเขามองไปยังโต๊ะของเด็ก ๆ ด้วยแววตาอ่อนโยน และตอนนั้นก็เผลอคิดขึ้นมา...
โชคดีจริง ๆ ที่ไฮโซคนนั้นยอมถอนฟ้อง...
ไม่อย่างนั้นงานวันเกิดคงไม่สดใสแบบนี้ ดูสิ...ทุกคนมีความสุข โต๊ะเด็กคุยกันเจี๊ยวจ๊าว ส่วนผู้ใหญ่ก็แย้มยิ้มมองลูกมองหลานตัวเอง แม้แต่คุณไพลินยังหัวเราะคิกคัก ช่างเป็นบรรยากาศที่ดีจริง ๆ
หลังมื้ออาหารก็เป็นช่วงแกะของขวัญ นเรนทร์ใช้โอกาสนั้นช่วยคุณเดือนขนจานที่ว่างเปล่าไปกองไว้หลังบ้าน เพราะเดี๋ยวต้องวางจานเค้กลงไปแทน พอเห็นเขาลุกแสงก็ตามมาช่วยอีกแรง
ตอนที่วางใบสุดท้ายเสร็จและกลับมาพร้อมจานขนมหวานนางฟ้าของงานก็วิ่งโร่เข้ามากอดที่ขาแสง จนเขาต้องรีบวางจานลงบนโต๊ะ
“พอใจรักลุงแสงที่สุดเลย!”
“หือ?” คุณลุงก้มลงไปยกตัวสาวน้อยขึ้นมาอุ้ม “เป็นอะไร ทำไมอยู่ ๆ มารักลุงครับ”
ตอนนั้นเองที่แสงเพิ่งเห็นว่าพอใจกอดบางอย่างไว้แนบอก...
ตุ๊กตาสโนว์แมนจมูกแครอท...
ฉิบหาย...อย่าบอกนะว่า...
“เพราะลุงแสงให้โอลาฟ ตอนนี้พอใจเลยเป็นเอลซ่าแล้ว!” เด็กหญิงยกมันขึ้นจนจมูกส้ม ๆ เกือบแทงเข้าเบ้าตาไอ้แสง “พอใจจะเสกปราสาทให้ลุงแสงเองค่ะ!”
“เอ่อ...เดี๋ยวนะ” ตาลุงขยับหักให้แครอททิ่มลง “พอใจชอบตุ๊กตานี่เหรอ”
“ชอบที่สุดเลยค่ะ!” ทางนั้นตอบกลับโดยไม่เสียเวลาคิด
“มากกว่าเครื่องครัวอีกเหรอ อันนั้นก็ลาย Frozen นะ ทำอาหารได้ด้วย แถมยังชวนเพื่อนละ---“
“ชอบมากกว่าค่ะ!”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ” มาถึงตรงนี้ไอ้เด็กซ่งที่เงียบมานานก็ระเบิดเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง แทบลงไปชักดิ้นชักงอบนพื้น มันปาดน้ำตาที่คลอเบ้าออกพร้อมตบไหล่เฮียแปะ ๆ อย่างถือดี “อย่าพยายามเลยเฮีย ผู้หญิงเขาไม่ชอบก็คือไม่ชอบ”
คนฟังทำตาดุใส่ แต่มีหรือไอ้เด็กเวรจะหวาดกลัว ต่อให้เฮียคว้ามีดออกมาขู่ไอ้เรนก็ยังอดขำไม่ได้
พอใจมีสีหน้างุนงงเล็กน้อยว่าผู้ใหญ่เขาคุยอะไรกัน แต่กระนั้นหล่อนก็ยังกอดโอลาฟไว้แน่น เอาหน้าไถซุกบนผ้าเนียนนุ่ม มีความสุขที่สุดเลย
“ขอบคุณมากนะคะ”
“ความจริงแล้ว....” แสงถอนหายใจ “เรนเป็นคนซื้อให้น่ะ”
“หา!?” คนโดนแอบอ้างสะดุ้งเล็กน้อย “ซะ..ซื้ออะไรผมไม่...”
“ขอบคุณพี่เขาสิครับพอใจ”
เด็กหญิงยกมือไหว้ “ขอบคุณค่ะพี่เรน”
เพราะเอ๋ออยู่นานจนโดนส่งสายตาดุอีกครั้งเรนจึงเอ่ยอย่างเสียมิได้ “ไม่เป็นไรครับ”
“พอใจมานี่หน่อย! จะเป่าเค้กแล้วนะลูก” ฉานตะโกนมาจากหน้าโต๊ะวางเค้ก เขากำลังง่วนอยู่กับการดับไฟบริเวณนั้น “พี่แสงกับเรนก็มาด้วยนะครับ”
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาแสงจึงอุ้มเด็กน้อยไปวางให้ถึงที่ เธอรีบโผเข้ากอดขาแม่เพราะเห็นว่าเดือนอุ้มน้องภูมิใจอยู่ หนุ่มใหญ่ถอยกลับออกไปหลายก้าวจนอยู่นอกสุดของวงล้อม แน่นอนว่าข้างกายยังมีเด็กติดตามที่ทำหน้าเหมือนอยากจะถามอะไรสักอย่าง...
“ถือว่าใช้เงินค่าจ้างที่แกทำอาหารให้แล้วกัน”
คนฟังซาบซ่านไปทั้งหัวใจ แต่ไม่วายเอ่ยแซว “ลุงแสงใจดีจังครับ เรนรักลุงแสงที่สุดเลย!”
“อยากเดินกลับใช่ไหม”
“ฮ่า ๆ ๆ”
“เอาล่ะ! ผมจะนับถึงสามพวกเรามาร้องเพลงวันเกิดพร้อมกันนะครับ” ฉานชูนิ้วขึ้นเหนือศีรษะ หนึ่ง...สอง...สาม!”
Happy birthday to you, Happy birthday to you
ทั้งสวนมีแต่แสงสลัว ตอนนี้สิ่งที่เด่นชัดที่สุดคือเปลวไฟบนปลายเทียนเท่านั้น สีส้มนวลตาฉาบภาพครอบครัวอันแสนสุข คุณพ่อปรบมือเสียงดัง คุณแม่อุ้มลูกชายไว้ในอ้อมกอด มืออีกข้างลูบบนเส้นผมเจ้าหญิงตัวน้อย...
Happy birthday Happy birthday
เรนลอบสังเกตคนด้านข้าง.... เขาพบว่าแสงไม่ได้ร้องเพลงหรือปรบมือด้วยซ้ำ ร่างนั้นยืนแน่นิ่งจ้องไปยังครอบครัวของน้องชาย...
ด้วยแววตาที่อบอุ่นยิ่งกว่าเปลวเทียน....
Happy birthday to you…