ทวงครั้งที่ 30
ภาพบนหน้าจอเลือนรางนัก เพราะกล้องคุณภาพต่ำ แต่ยังพอจับรายละเอียดรูปร่างสิ่งของได้ครบถ้วน แถมติดไว้ตรงใต้หลังคายุ้งฉางจึงเห็นภาพไกลลิบไปถึงถนนได้
ปลายลูกศรเลื่อนไปแตะเปลี่ยนเวลาตามที่ถูกสั่ง นายวีระจิ๊ปากไม่พอใจ แต่ก็ยอมทำตาม ตอนนี้สถานการณ์พลิกจากหน้ามือเป็นหลังเท้า เขาอยู่ในห้องของตัวเอง และมี ‘ผู้ต้องสงสัย’ อีกสี่ชีวิตยืนล้อมด้านหลัง
“เลื่อนไปอีกหน่อย ไม่ ๆ เยอะเกิน กลับไป...ซ้ายอีกนิด”
“กดเองเลยไหมล่ะ”
“ได้” ชายหนุ่มผู้สูงที่สุดโน้มตัวลงมา มือขวายื้อแย่งเม้าส์จากวีระเปลี่ยนมาเป็นผู้ควบคุมเสียเอง แสงกะเวลาจากช่วงที่พบศพไปสักหน่อย แล้วก็...โป๊ะเชะ!
“พี่แสง ๆ มีรถผ่านด้วย” ไอ้หมายเขย่าแขนเสื้ออย่างตื่นเต้น ถ้าเป็นยามปกติแสงคงรำคาญ แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลามาสนใจเรื่องอื่นแล้ว หัวใจเต้นโครมครามด้วยระทึกว่าความหวังชิ้นสุดท้ายจะพอมีประโยชน์อะไรหลงเหลือให้บ้าง
โครม! รถตกหลุมขนาดใหญ่จนแฉลบออกมาข้างทาง เกยเข้ามาใกล้กล้อง น่าเสียดายที่มันไม่ติดเลขทะเบียน แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่..
ครึ้น! ล้อบดหลุมโคลนอย่างเอาเป็นเอาตาย น้ำสาดกระเซ็นขึ้นมาถึงกระจก ทันใดนั้นเองประตูคนขับก็เปิดผัวะออก สารถีก้มลงมองล้อที่จมลงไป 1 ใน 3 ดูเหมือนจะเรียกคนลงมาช่วย เพราะประตูด้านหลังถูกเปิดผัวะในทันที ในรอยแง้มของประตูนั่นปรากฏสีขาวของอะไรสักอย่าง
“ห่อผ้าสีขาวแบบเดียวกับศพ” จริงไหมแสงก็ไม่มั่นใจนัก แต่ตอนนี้เขาต้องพูดให้ตำรวจคล้อยตามไปก่อน
“อาจจะไม่ใช่ห่อผ้าก็ได้” ทางนั้นเถียงกลับทันที
“ถ้าไม่ลองตรวจสอบ----”
ตอนที่แสงแห่งความหวังหรี่ลงนั้นเอง ผู้ชายหัวฟูรูปร่างผอมแห้งที่ออกมาจากเบาะนั่งด้านหลังก็เข้ามาช่วยเข็นรถ ใบหน้าของมันคล้ายกับคนที่แสงเพิ่งเจอเมื่อครู่เหลือเกิน ยังไม่ทันคลายสงสัยไอ้แห้งนั่นก็ถลกแขนเสื้อขึ้นมาบนไหล่ แสงเบิกตาโพลง ใต้ร่มผ้านั้นซ่อนใบหน้าของใครบางคนไว้ ถึงจะเห็นแค่ช่วงปากแสงก็จำได้ทันทีว่ารอยสักนั่นคือ...
เช กูวารา....
ไม่สิ...ไม่ใช่แค่ ‘เช’ แต่เป็น ‘เชที่หน้าเบี้ยว’ เสียด้วย...
จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายถูกวางลงล็อกพอดีเป็นพวกมันอย่างนั้นเหรอ เขาเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ที่แท้ปัญหาทุกอย่างก็มากองอยู่ใต้จมูกนี่เอง ข้อมูลมากมายเชื่อมโยงกันไปมาราวกับถูกขีดเส้น
‘ฤทธิ์’ สินะ พี่ชายไอ้เดชนำพาความฉิบหายมาถึงขีดสุด ถึงรอบนี้จะไม่ได้ตั้งใจเล่นงานเขาโดยตรงก็เถอะ เป้าหมายคือเฮียใหญ่ไม่ผิดแน่ แสงเป็นแค่หมากตัวหนึ่งบนกระดานที่โยกสนุก ๆ ไว้แก้แค้นเรื่องมรดกเท่านั้น
ใครจะไปคิดว่าสัมปทานถนนที่ประมูลในเดือนหน้าจะมีคู่แข่งเป็นนักการเมืองท้องถิ่นกัน แสงรู้ดีว่าโลกสีเทานั้นขัดแข้งขัดขากันรุนแรงขนาดไหน แล้วเม็ดเงินคราวนี้ก็ไม่ใช่น้อย ๆ เห็นว่าพยายามเข้าเมืองหลวงด้วยธุรกิจก่อสร้าง เมกะโปรเจกต์ระดับนี้ใต้โต๊ะอย่างเดียวไม่พอ ใคร ๆ ก็ทำกันทั้งนั้น แต่ถ้าตัดคู่แข่งด้วยการป้ายสีโจมตีอีกฝ่ายได้จะยิ่งเพิ่มโอกาสมากขึ้น
ส่วนไอ้ปรักน่ะเหรอ....ก็แค่ลูกน้องเดนตายที่น่าจะรู้มากเกินไปเลยหาเรื่องเก็บมันซะ สบจังหวะกับตอนที่คู่แข่งอย่างเฮียใหญ่ลากมันเข้าโกดังไปทวงหนี้พอดี ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวชัด ๆ แบบนี้ก็แสดงว่า...
“ผู้ชายคนนี้สักรูปเช กูวาราไว้ที่แขนขวา” เขาชี้ไปบนหน้าจอ “ไม่คิดว่าเป็นหลักฐานชั้นดีเหรอครับ”
“ดูยังไงว่าเป็นเช”
“ตอนนี้อาจจะยังไม่เหมือน แต่ผมให้ข้อมูลคุณได้แน่นอน” แสงยักไหล่ “ถ้ายอมฟังน่ะนะ”
“นี่! คุณเป็นผู้ต้องสงสัยนะ เข้าไปในที่เกิดเหตุแบบนี้ยิ่งน่าสงสัยเข้าไปใหญ่เลย”
“ใครว่าผมเข้าไปเองล่ะ”
นายตำรวจนั่งเงียบเหมือนตกอยู่ในความคิดตัวเอง แสงกอดอกพิงพนักเก้าอี้ดูคลิปที่เล่นต่อจนกระทั่งรถคันนั้นหายวับไปที่มุมจอ เขาหันไปพยักหน้าให้มั่นที่แอบยกมือถืออัดวีดีโอจากจอภาพตามคำสั่ง มันฉีกยิ้มตอบก่อนจะหย่อนมือถือลงกระเป๋าไปอย่างแนบเนียน เมื่อการบันทึกเรียบร้อยแสงก็รีบปิดหน้าต่างโปรแกรมลง ถึงอย่างไรในนั้นก็มีภาพเขาก่อนที่กล้องจะพัง ฉะนั้นค่อย ๆ จัดการทีละเรื่องดีกว่า
อีกอย่าง....ปมเชือกที่คอกำลังจะคลายแล้วด้วย....
วีระคิดไม่ตก.... อยู่ ๆ ผู้ต้องหาที่เขาต้องจับให้มั่นคั้นให้ตายก็โผล่เข้ามาพร้อมหลักฐานอย่างดี ขณะกำลังหัวหมุนว่าจะทำเช่นไรก็เผลอไปประสานสายตาเข้ากับชายที่อายุมากที่สุดในห้อง
มุมปากเหี่ยวย่นแสยะขึ้นมาเล็กน้อย เฮียใหญ่เจ้าพ่อเงินกู้นั่งเอนหลังกับพนักสบาย ๆ ไม่มีท่าทีหวั่นวิตกเหมือนตอนเช้าเลยสักนิด ลางสังหรณ์บางอย่างทำให้วีระขนลุกซู่ เขาเคยเห็นแววตาแบบนี้...
....แววตาของผู้ชนะ.... “โทรศัพท์ดังน่ะ” ชายแก่เอ่ยขึ้นหลังจากเงียบมาเป็นเวลานาน ทำเอาวีระสะดุ้งเฮือกตกใจเสียงริงโทนตัวเอง เฮียใหญ่ส่งยิ้มเย็น ๆ ให้เขา “จะไม่รับสักหน่อยเหรอ....”
ทั้งที่มีเพื่อนตำรวจนั่งอยู่ในห้องด้วย แต่เหมือนกำลังถูกคุกคามชอบกล ชายหนุ่มหยิบเครื่องมือสื่อสารแล้วหายออกไปที่ประตู
เฮียใหญ่ไม่ได้ชะเง้อคอมองตาม ชายแก่ทำเพียงแค่ฮัมเพลงจีนเก่า ๆ ในลำคอ ปลายนิ้วอวบอูมเคาะจังหวะลงบนผิวโต๊ะอย่างรื่นรมย์
เอาล่ะ...นับ...
สาม สอง หนึ่ง “เอ่อ...เชิญพวกคุณกลับไปก่อนได้เลยนะครับ”
.................................................
............................
...............
.......
“ซ้อนี่สุดยอดเลยเนอะครับ!” ไอ้หมายพูดเสียงดังจนเหมือนตะโกน ภูเขาที่ถูกยกออกจากอกทำเอาโล่งจนกะระดับเสียงไม่ถูก “นางฟ้ามาโปรดแท้ ๆ”
“นี่ถ้าซ้อกลับมาเร็วกว่านี้ก็ไม่คงไม่ต้องโดนสอบทั้งวันเนอะครับ”
ฝาแฝดพี่น้องเลียแข้งเลียขาบุคคลที่สามจนเปียกชุ่ม แสงส่ายหัวปลง ๆ กับการประจบของมัน แต่ก็ยอมรับว่าต้องขอบคุณซ้อจริง ๆ นั่นแหละ....
หลังกลับมาจากทัวร์ยุโรปเมื่อเที่ยงซ้อก็ปรี่เข้ามาช่วย ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะติดต่อเพื่อนไฮโซที่เป็นเมียนายตำรวจใหญ่ได้ เพราะอีกฝ่ายดันอยู่ระหว่างฉลองครอบรอบแต่งงานที่มัลดีฟส์ ไหนจะรอติดต่อกับลูกน้องที่ไทยอีกก็กินเวลาไปค่อนวัน นี่คือการแข่งขันของเส้นสายอย่างแท้จริง และดูท่ารอบนี้ชัยชนะจะเป็นของซ้อ
ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกไหม แต่แสงจะโทรไปขอบคุณหล่อนอย่างแน่นอน หนุ่มใหญ่แหงนหน้ามองท้องฟ้า ตอนนี้มันมืดสนิทไม่เห็นกระทั่งดวงจันทร์ ก้มมองนาฬิกาข้อมือก็พบว่าปาเข้าไปสามทุ่มกว่าแล้ว
แสงล้วงมือลงไปในกระเป๋ากางเกง เนื้อผ้าของมันค่อนข้างสากเพราะเขาเพิ่งซื้อมาเปลี่ยน รวมไปถึงเสื้อยืดนี่ด้วย หลังจากกลับออกมาพร้อมกล่องบันทึกข้อมูลแสงก็ทนไม่ไหวต้องแวะซื้อเครื่องแต่งกายใหม่ยกชุด ได้ทั้งความสะอาดและโกหกว่าได้หลักฐานมาจากคนรู้จัก
เขามองตรงไปด้านหน้า ใจที่ยุ่งเหยิงเริ่มสงบลง จากนี้ก็รอแค่ให้ตำรวจสรุปสำนวนให้อัยการ หลักฐานชั้นดีขนาดนี้จะส่งฟ้องศาลต่อก็ดันทุรังไปหน่อยมั้ง อีกอย่างแบคอัพทางนี้ก็ไม่ใช่----
“ซ้อช่วยอย่างเดียวไม่รอดหรอก ต้องมีหลักฐานของพี่แสงด้วย” ผู้ถูกพาดพิงสะดุ้งเล็กน้อย แสงมองตรงไปยังไอ้แฝดน้องที่ยักคิ้วส่งสัญญาณมาให้ “เนอะพี่แสง”
เพราะเขาไม่ต่อคำไอ้มั่นจึงเข้ามาช่วยเสริม “พี่แสงช่วยพวกเราไว้ขนาดนี้ เป็นหนี้บุญคุณเหลือเกินครับ”
แสงโบกมือไล่คำพูดน้ำเน่าเหมือนหนังจีนฉากที่ศิษย์พี่ศิษย์น้องดื่มเหล้าร่วมสาบาน ขนแขนลุกชันเสียยิ่งกว่าตอนโดนคนร้ายไล่ล่า สบจังหวะมาถึงลานจอดรถพอดีจึงเดินแยกออกมา พวกเขาคงต้องร่ำลากันในความเงียบเช่นนี้
ถ้าไม่ใช่ว่า...“เดี๋ยว...แสง...” ชายชราที่เงียบมานานเรียกด้วยเสียงแหบพร่า หนุ่มใหญ่หันกลับไปประจันหน้าด้วย “อย่าเพิ่งไป”
“ขอล่ะครับ ผมไม่ชอบนอนโกดัง แล้วก็—”
“ฉันต้องขอโทษแกด้วย” ประโยคนั้นหนักแน่น ทว่าแสงยังคิดว่าตัวเองหูฝาดถึงได้มีสีหน้าตื่นตกใจ อะไรนะ? ขอโทษงั้นเหรอ? เฮียใหญ่ขอโทษ....
“ฉันทำเกินไปจริง ๆ” ร่างท้วมก้มตัวคอตกเล็กน้อย แสงเดาว่าอาจจะโดนซ้อเทศน์มาผสมกับอารมณ์อ่อนไหวของวัยทอง “แกจะเป็นตุ๊ดเป็นแต๋ว จะหลอกลวงตอแหลยังไงก็ไม่น่าถึงกับสั่งกระทืบ”
“........”
“ถึงยังไงแกก็เป็นลูกน้องที่ดีมาตลอด” ปากที่อ้าค้างอยู่แล้วอ้ากว้างขึ้นไปอีก... อย่าเรียกว่าตกใจมันเกินคำนั้นไปไกลเหลือเกิน เขายืนนิ่งเป็นรูปปั้น ปล่อยให้ชายแก่ระบายความในใจออกมาให้หมด
เฮียใหญ่ไว้ใจมาก พอรู้ว่าโดนหลอกถึงได้ทั้งโกรธทั้งผิดหวัง เขาพ่นลมหายใจออกมา “แล้วก็นะ----”
“ผมก็บอกแล้วว่าเฮียทำเกินไปนะครับ” ลูกน้องแสลนแทรกเข้ามาในวงสนทนา “บางทีพี่แสงอาจจะไม่ใช่เกย์ก็ได้”
“ใช่ ๆ เพราะงั้นพวกผมถึงได้ปล่อยตัว----อุป” หมายปิดปาก “แย่ละ”
“ไม่เป็นได้ยังไง” นายใหญ่เถียงไม่ลดละ “เห็นในคลิปชัด ๆ”
“พะ...พูดไปก็น่าอาย” มั่นตบบ่าอดีตลูกพี่แปะ ๆ “ผมเข้าใจพี่แสงนะครับ”
คนฟังได้แต่ขมวดคิ้ว “เข้าใจอะไรของแก”
“ผมก็ชอบทำแบบนั้นกับพ่อ...” “หา!?” ทั้งแสงและเฮียใหญ่ร้องลั่น คุณทนายรีบตั้งสติถาม “แกว่าอะไรนะ แกทำอะไร....กับพ่อ”
“กะ...ก็เวลาอ้อนพ่อ...” คนล่ำบึ้กบิดตัวเขินอายก่อนจะสาธิตโดยใช้แผ่นหลังของน้องชายฝาแฝด “ชอบเอาหัวไถ ๆ แบบนี้...”
อะ...เอาหัวไถไหล่.....‘โอ๊ย! พูดแล้วอายจัง’
‘บอกให้พูดตั้งนานแล้วไม่งั้นพี่แสงก็ไม่โดนกระทืบหรอกโว้ย’
‘แล้วทำไมแกไม่พูดเองวะ’
‘ดูยังไงมันก็เกย์ชัด ๆ’
‘ไม่นะครับเฮีย! ลูกหลานพี่แสงหรือเปล่า’
บทสนทนาเหล่านั้นไม่ได้เข้าหัวแสงเลยสักนิด เพราะวิญญาณได้หลุดลอยออกไปในที่ไกลแสนไกล หนุ่มใหญ่ยืนค้างอยู่อย่างนั้นเกือบนาทีก่อนจะดูดสมองกลับเข้าร่าง เขาพึมพำ.... “คลิป...”
“.......”
“เอาคลิปมาให้ฉันดู”
ภาพที่ปรากฏบนจอคือลานจอดรถอันมืดสลัว ไฟนีออนเรืองวาบ แสงคุ้ยเคยฉากหลังนี้เสียยิ่งกว่าอะไรก็เป็นร้านประจำของเขานี่นา ตรงกลางจอมีผู้ชายสองกำลังเดินเบียดกันไปมาก่อนคนผิวแทนจะก้มลงมาไถหัวเข้ากับบ่าอีกฝ่ายอย่างออดอ้อน และนั่นคือทั้งหมดที่มี...
“เฮียโวยวาย....เพราะเรื่องแค่นี้เหรอครับ”
น้ำเสียงเย็นเยียบทำเฮียใหญ่อึกอักเล็กน้อย “ก็เอ่อ...แกว่ามันไม่ประเจิดประเจ้อเหรอ”
“ไม่ครับ!” เจอเสียงประสานสามคนเข้าไปชายแก่ก็หัวเราะแฮะ ๆ พึมพำว่า ‘อ้าวเหรอ แย่จัง’ ไปมา
โธ่เว้ย! แสงน่าจะฉุกคิดได้ว่าไอ้โตโยต้าวีออสสีดำที่สะกดรอยตามมาตั้งแต่ร้านอาหารมันก็แก๊งไอ้เดช ใครจะไปคิดว่ามันถ่ายคลิปเปิดโปงว่าเขาเป็นเกย์ให้โดนกระทืบด้วย ใจคอมึงจะยิงปืนนัดเดียวให้ได้นกกี่ตัววะ!
ระหว่างคิดไม่ตกจนคิ้วพันกันมืออวบอูมก็ตบปุลงบนบ่า
“ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าแกไม่ใช่เกย์น่ะสิแสง” คำถามนั้นคือวิธีแก้ปมเชือกอันซับซ้อน จะมีอะไรสมบูรณ์แบบไปกว่าการถอดบ่วงเกย์น่ารังเกียจในสายตาเฮียใหญ่ออกจากคอพร้อมกับกลับไปทำงานอย่างปกติสุข แสงวางมือทาบลงบนมืออีกฝ่ายคลี่รอยยิ้มสุภาพให้
“ไม่ครับ”
“.......”
“ผมเป็นเกย์” ของแบบนั้นไม่เอาด้วยหรอก... เขาตอบด้วยเสียงอันหนักแน่นพร้อมกับปลดนิ้วอูมที่เต็มไปด้วยแหวนออกจากบ่า “เฮียเข้าใจถูกแล้วล่ะครับ”
ความตกใจปรากฏขึ้นในดวงตาชายแก่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหายไป “ไม่เป็นไร เป็นก็เป็น แต่แกก็กลับมาทำ---“
“และผมจะลาออกจากจ๊อบของเฮียแล้วล่ะครับ”
“พี่แสง!” มั่นกับหมายร้องลั่น
“อันที่จริงก็คิดเรื่องนี้มาสักพักแล้ว ไม่ใช่เพราะโดนจับได้ว่าเป็นเกย์หรอกครับ” เขาก้มหัวให้อดีตเจ้านาย แสดงความนอบน้อมจากใจจริง “ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทวงหนี้มันเสี่ยงโดนเพิกถอนใบอนุญาตด้วย ครั้งนี้รอด แต่ครั้งหน้าไม่แน่ ผมไม่ขอเสี่ยงกับอาชีพตัวเองดีกว่า”
“อย่างนั้นเหรอ” เหตุผลที่ยกมาไร้ข้อโต้แย้ง อันที่จริงแค่แสงกล้าเสี่ยงลงมาในโลกมืดครึ่งตัวเช่นนี้ก็นับว่าใจกล้ามากแล้ว น่าเสียดาย....คงยากที่จะหาใครฝีมือดีและมีความรู้ได้เท่าแสง แต่ในเมื่อเจ้าตัวตัดสินใจแล้ว แถมเขายังเคยสั่งกระทืบมัน คงยากที่จะกลับมาทำงานด้วยกันอีก “ถ้าอย่างนั้นก็ขอให้แกโชคดีก็แล้วกัน”
“ขอบคุณครับ” แสงยกมือไหว้ “ไหน ๆ ก็คงไม่ค่อยได้เจอกันแล้ว ผมเองก็มีเรื่องที่อยากจะบอกเฮียมาตลอดเหมือนกันครับ”
“........”
“ได้อ่านหนังสืออย่างอื่นนอกจากตรวจหวยหรือหุ้นไหมครับ” อดีตลูกน้องพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “เฮียควรจะไปศึกษาเรื่องความหลากหลายทางเพศมาสักหน่อยนะครับ เพราะความเข้าใจของเฮียนั้นล้าหลังเต่าล้านปีมาก”
ฉึก!“ข้อแรกแค่ชอบผู้ชายด้วยกันไม่ได้เรียกว่าเป็นตุ๊ดแต๋วอย่างที่เฮียว่า มันแยกย่อยได้มากกว่านั้น แล้วคำว่าเกย์ก็ใช้ได้ทั้งชายชายกับหญิงหญิงด้วย”
ฉึก!“ข้อสอง เพศไม่ได้บ่งบอกสันดานคน คนที่หนีหนี้เฮียไปมีครบทุกเพศทำไมต้องจับผิดว่าเพศที่สามมันคบไม่ได้ ชอบโกงเงินชาวบ้าน คนมันจะโกงต่อให้เป็นชายจริงหญิงแท้มันก็โกงอยู่ดี”
ฉึก!“และข้อสุดท้ายจะชอบเพศไหนมันก็แค่รสนิยมอย่างหนึ่ง เหมือนที่เฮียชอบดื่มกาแฟใส่นม แต่ซ้อชอบกาแฟดำ” แสงถอนหายใจ เพราะใช้พลังงานไปจนหมด “นั่นแหละครับ คนอื่นไม่เท่าไหร่ แต่การที่พ่อแม่ไม่ยอมรับมันเจ็บปวดจนเฮียจินตนาการไม่ออกเลยล่ะ”
“.......”
“ที่อยากบอกก็มีเท่านี้ ผมลาล่ะครับ” จบประโยคด้วยการยกมือไหว้อีกครั้ง “อ้อ...แล้วก็อีกอย่าง”
“ยังมีอีกเหรอ!”
“เที่ยวอ่างมันไม่ดีนะครับ ถ้าซ้อรู้เข้าคงเสียใจแย่”
ไอ้เด็กเมื่อวานซืนเอ๊ย! เจ้าพ่อเงินกู้แยกเขี้ยวขู่ไล่หลัง ทำวางท่ายืนสั่งสอนฉอด ๆ ถอนหงอกไม่หยุด วันนี้เห็นว่าทำประโยชน์ให้จะปล่อยไปก็แล้วกัน
เขาหันกลับไปส่งสัญญาณให้ลูกน้องเอารถออก ร่างอ้วนท้วมยัดตัวเข้าไปตรงเบาะด้านหลังอย่างเหนื่อยล้า วันนี้มันนักหนาเกินว่าจะมีแรงพูดอะไรต่อแล้ว
ถนนไหนผ่านตาไปเรื่อย ๆ แต่ไม่เข้าสู่สมองเลยสักนิด ในหัวของเฮียมีแต่ภาพบางอย่างเล่นวนไปมาเหมือนแผ่นฟิล์มเก่า
เจ็บปวดจนจินตนาการไม่ออก....งั้นเหรอ... เด็กหญิงตัวน้อยในอ้อมกอดค่อย ๆ เติบโตเป็นสาว ถึงกระนั้นเธอก็ยังไม่อายที่จะหอมแก้มเขาก่อนไปทำงานทุกเช้าหรือช่วยจูงมือยามเดินข้ามถนน ความทรงจำอันสวยงามถักทอเข้าหากันราวกับเกลียวเชือก...
ก่อนมันจะถูกตัดฉับด้วยมือของเขาเอง....
นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้เห็นหน้า เหมยของป๊าจะเป็นยังไงบ้าง สบายดีหรือเปล่า กินอาหารครบทุกมื้อไหม ยังชอบกัดเล็บเหมือนเดิม หรือว่าจะแก้นิสัยได้แล้ว เหมยนอนหลับที่ไหน ทำงานอะไร.....
แล้ว...ยังทรมานอย่างที่แสงมันว่าหรือเปล่า กำแพงทิฐิถูกดึงอิฐออกทีละก้อน ๆ จนพังทลายลงมา บางทีด้านในของกำแพงหนาอาจเป็นเพียงโพรงกลวงว่างเปล่า เพราะความอ่อนไหวทำให้เฮียใหญ่ลืมสิ้นทุกอย่าง กลายเป็นคนไร้สติที่แตะมั่วซั่วบนจอมือถือไปมาหาชุดตัวเลขที่ถูกฝังลึกลงไปเมื่อหลายปีที่แล้ว…
“ฮัลโหล....อาเหมยเหรอ...”....................................................
.................................
............
.....
แสงกำลังจะเป็นบ้า ถึงได้ทำอะไรโง่ ๆ อย่างการวิ่งขึ้นบันไดบุกบ้านคนอื่นในยามวิกาลเพื่อยืนฟังเสียงหมาเห่าอย่างเกรี้ยวกราด
กว่ายี่สิบนาทีที่ไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวในห้องเป็นหลักฐานอย่างดีว่านเรนทร์ไม่ได้กลับมาที่นี่ มือถือเจ้ากรรมก็ตายมาเป็นเวลานานแล้ว เจ็บใจที่ตัวเองไม่ซื้อสายชาร์จแบตให้รู้แล้วรู้รอด คิดอะไรตื้น ๆ ว่าเรนต้องอยู่ที่ห้องแน่นอน เมื่อการเคาะประตูไม่มีประโยชน์เขาจึงเปลี่ยนมาทิ้งตัวนั่งตรงบันได
ขณะนี้เวลาห้าทุ่มสามสิบสามนาที ไฟจากห้องแถวข้าง ๆ ดับลงแทบทั้งหมด มีเพียงแสงจันทร์ในคืนเดือนมืดส่องทางให้เท่านั้น ตึกสีเขียวช่วยสะท้อนแสงให้อีกนิดหน่อย เพิ่งจะเห็นประโยชน์ของมันก็วันนี้แหละ
เขาแลบลิ้นเลียริมฝีปาก อาการเปรี้ยวปากอยากบุหรี่กลับมาอีกครั้ง เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วแสงไปสอบถามแม่ค้าน้ำเต้าหู้ตรงปากซอย หล่อนบอกว่าเห็นนเรนทร์เข้ามาเมื่อตอนหัวค่ำดูรีบร้อนชอบกล แต่ช่วงนั้นลูกค้าเยอะเลยไม่ได้ทักทายกัน
คืนนี้คงไม่กลับมาแล้วล่ะ.... แสงมองโลกจากความเป็นจริงเสมอ และนี่คือสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจดับความร้อนรุ่มในใจลงได้เลย เขาทำพลาดไปแล้ว เลวร้ายที่สุด
ใบหน้าซีดเผือดของเรนยังติดตรึงแม้จะหลับตา ตอนนั้นมันจะรู้สึกยังไงนะ....อุตส่าห์ตามมาช่วย เสี่ยงอันตรายสารพัด แต่ดันถูกกล่าวหาอย่างนั้น...
คงกลัวสินะ ต้องกลัวมากแน่ ๆ ถึงจะตัวสูงไม่ได้บอบบาง แต่กลับสั่นขนาดนั้น อุตส่าห์วิ่งตามมาช่วย ทำเรื่องผิดกฎหมาย ทำทุกอย่างเพื่อเขา...
ไอ้โง่ที่ไม่ยอมฟังอะไรเลย... ทิฐิสูง หัวแข็ง เชื่อแต่ตัวเอง.... ตอนนั้นเอาแต่คิดว่าคงเชื่อใจเรนไม่ได้อีกแล้ว ดูตอนนี้สิ....เขามาที่นี่เพื่อจะวิงวอนขอให้เด็กนั่นเชื่อใจตัวเองอีกสักครั้งหนึ่ง ช่างน่าสมเพชสิ้นดี
ถูกใส่ร้าย ทำร้ายจิตใจถึงขนาดนั้นจะปวดร้าวแค่ไหนนะ แค่คิดก็พลันเจ็บขึ้นมาตรงอกซ้าย ก้อนเนื้อในนั้นบีบตัวแรงขึ้น ทำอย่างไรดี....เขาปล่อยมือจากนเรนทร์ไม่ได้อีกแล้ว
อยากเห็นหน้า อยากขอโทษ อยากดึงเข้ามาในอ้อมกอด... ราวกับความเจ็บปวดลอยตัวอยู่ในอากาศ เพียงแค่สูดลมหายใจก็สัมผัสมันได้อย่างง่ายดาย บาดแผลบนร่างกายกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยในทันที....
เจ็บที่ทำร้ายจิตใจมัน เจ็บที่ไม่ยอมเชื่อใจ เจ็บที่ดูถูกความหวังดีเหล่านั้น...
แสงซบหน้าลงกับฝ่ามืออย่างเหนื่อยล้า
และที่เจ็บที่สุด....
กูดูแก่จนเหมือนพ่อไอ้เรนแล้วเหรอ....TBC
กว่าจะมาอัพตอนนี้ได้ต้องใช้ความกล้ามากค่ะ....
อ่านเม้นแต่ละคนแล้วปาดหงื่อเลย ทุกคนคิดเยอะมาก ไกลมาก พล็อตซับซ้อนซ่อนเงื่อนแทบจะแตกเป็นอีกเรื่องได้
กลัวว่าเฉลยแล้วจะโดนรุมกระทืบเลยค่ะ กรี๊ดดดดดดดด
ใจเย็น ๆ นะคะ เมตตาเราด้วย จั่วแล้วว่าเป็นคอมเมดี้ ไม่หนักหน่วงอะไรปานนั้นค่ะ 5555
แน่นอนว่าจุดจบของพระเอกสายแบดคือการตามง้อนายเอกนะคะ คาวีโมเดลเลยค่ะพี่แสง
ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ
ป.ล.อีกสองตอนจบแล้วค่า เย้ ๆ
ป.ล.ยังคงขายของ หลง(มา)รักใกล้ปิดจองสุด ๆ แล้วจย้าาาา สนใจเชิญทางนี้ค่า
https://www.facebook.com/pg/IndigosFiction/photos/?tab=album&album_id=1596878287094544