┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ [ตอนพิเศษ HNY P.33]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ [ตอนพิเศษ HNY P.33]  (อ่าน 353482 ครั้ง)

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER16 P.12 [11/01/17]
«ตอบ #360 เมื่อ11-01-2017 23:37:51 »

ดราม่าแน่ๆเธอเอ้ย ไม่มากก็น้อย

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER16 P.12 [11/01/17]
«ตอบ #361 เมื่อ12-01-2017 00:11:10 »

สู้ๆนะ ขอแค่อยู่ด้วยกันเชื่อใจกันก็พอ เดี๋ยวก็จะผ่านปัญหาครั้งนี้ไปได้นะ

ออฟไลน์ Peung002

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER16 P.12 [11/01/17]
«ตอบ #362 เมื่อ12-01-2017 01:03:42 »

ถือพู่ไว้สองมือ พร้อมโบกสะบัดเชียร์พี่กีล์น้องโซ  :hao3:

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER16 P.12 [11/01/17]
«ตอบ #363 เมื่อ12-01-2017 11:10:39 »

 :กอด1:

ออฟไลน์ ป้ากิ่งkingkarn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER16 P.12 [11/01/17]
«ตอบ #364 เมื่อ12-01-2017 18:28:36 »

อ่านเรื่องนี้อย่างมีความสุข
ยิ้มเพราะความน่ารัก จิกหมอนเพราะความอบอุ่นละมุนหัวใจ
น้ำตาไหลเพราะแอบอิจฉา (อยากมีแบบนี้บ้าง) ว่าช่างเป็นรักที่น่าฝันใฝ่ รักที่แค่สบตาก็รู้ภาษาของหัวใจ
เข้าใจกันแม้ไม่ได้พูดหรือถึงพูดก็ช่างเล็กน้อยถ้อยคำ รักที่แค่ขยับต่างก็ปรับเข้าหากันได้อย่างพอเหมาะ
รักที่รักเป็นเรื่องของคนสองคนจริงๆ รักที่มีดวงตาไว้เพื่อต่างจ้องมองกันและกัน
รักที่ช่างให้ความสบายใจที่จะเป็นตัวของตัวเอง รักที่ไม่ต้องลังเลสงสัยว่าจะทำตัวถูกใจอีกฝ่ายหรือเปล่า
รักที่มองอีกคนในอิริยาบทไหนๆก็จะอดยิ้มไม่ได้เพราะเห็นแต่ความน่ารักของเขาเสมอ
รักพร้อมจะทำให้คนที่รักมีแต่รอยยิ้มเพราะรักที่จะเห็นความสุขของอีกคนมีอยู่ตลอดไป
คืออ่านแล้วอิ่ม อ่านแล้วอมยิ้ม อารมณ์ดี อ่านแล้วอยากเดินไปหอมแก้มตาลุงข้างๆ :hao3:
รักของทั้งคู่มันช่างมากมายจนเผื่อแผ่กระจัดกระจายให้ป้าอยากจะแบ่งปันให้คนรอบข้างบ้าง
ขอบคุณมากๆนะคะ feel very very goodมากๆจริงๆ
รออ่านต่ออยู่นะคะ :กอด1:

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER16 P.12 [11/01/17]
«ตอบ #365 เมื่อ13-01-2017 00:25:46 »

จับมือก้าวไปด้วยกันนนน  :กอด1:

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER16 P.12 [11/01/17]
«ตอบ #366 เมื่อ13-01-2017 18:15:53 »

ยิ่งกลัวจะเสียไป ยิ่งต้องจับให้แน่นๆนะพี่กีล์

ออฟไลน์ CHESS.

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +228/-2
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER16 P.12 [11/01/17]
«ตอบ #367 เมื่อ13-01-2017 22:34:18 »

-17-

 

ตั้งแต่ที่ผมมองไปที่โทรศัพท์ตลอดเวลาก็ดูเหมือนโซโล่จะเริ่มเข้าใจช้าๆว่าสายที่โทรมาเมื่อครู่ไม่ใช่เก้าอย่างที่คิด ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้วที่เรานั่งกันนิ่งๆอยู่แบบนี้ ผมไม่ได้พูดอะไรออกไปอีก โซโล่เองก็ไม่ได้พูดอะไรเหมือนกัน เราแค่มองหน้ากันเงียบๆรอเวลาว่าใครจะเริ่มพูดออกมาก่อน

“หิวไหม”สุดท้ายก็เป็นผมที่ทำลายความเงียบและความอึดอัดก่อน

“กีตาร์…”โซโล่มองผมด้วยสายตาอ้อนวอน ดวงตาที่มักเฉยชากับคนอื่นที่ไม่ใช่ผมวูบไหว

“คนที่โทรมา….”ผมเริ่มพูด โซโล่มองกลับมาด้วยดวงตาที่ดูดุดันขึ้นทันที “เขาบอกว่าถ้ายังเห็นแก่เพื่อนคนนี้ก็อย่าขัดคำสั่งคุณท่านอีก อะไรที่รู้ว่าไม่ควรก็ให้หยุด…”

ผมดึงมือของเขาที่ทำท่าจะทุบโต๊ะไว้ได้ทันเพราะคิดอยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้

“เขาบอกว่านายท่านจะเดินทางมาหาเองถ้ายังไม่ยอมติดต่อกลับไป”

“เจย์…”โซโล่กัดฟันกรอด กำมือผมแน่นจนรู้สึกเจ็บนิดๆ

“โซ…”ผมยิ้มและเปลี่ยนเป็นฝ่ายจับมือเขาไว้แทน “โซบอกว่าถ้าพร้อมจะเล่าให้พี่ฟัง…และพี่จะเคารพการตัดสินใจนั้น”

ในเมื่อเขาไม่ต้องการให้ผมรู้ ผมก็จะทำเป็นไม่รู้ต่อไป และต่อให้สงสัยก็จะไม่ถาม

“แต่โซรู้เอาไว้อย่างนะครับ…ถ้าไม่อยากเจอทางตันเราต้องคุยกัน ต้องแก้ปัญหาไปพร้อมๆกัน ถ้าโซอยากให้พี่อยู่ตรงนี้โซต้องบอกพี่ เราจะได้ช่วยกันคิด”ผมลูบมือที่กำแน่นเบาๆจนเขายอมคลายออก โซโล่มองหน้าผมไม่ละสายตา ซึ่งผมเองก็มองกลับไป…ส่งต่อสายตาเข้าใจไปให้เขา

เข้าใจทุกอย่างถึงจะไม่ได้พูดอะไร…เข้าใจว่าเขามีเหตุผลของเขา

“ถ้าโซมีความสุขแค่กับจุดนี้ที่เรายืนก็ปล่อยมันไป พี่เองก็จะมีความสุขกับวันนี้เหมือนกัน…แต่วันไหนที่ปัญหามาถึงกะทันหันโดยที่พี่ไม่รู้อะไรเลย โซรู้ใช่ไหมครับว่าทุกอย่างมันจะกลายเป็นทางตันที่ทำยังไงก็หาทางออกไม่เจอนอกจากจะปล่อยมือกัน”ผมไม่ได้พูดอะไรต่อนอกจากยิ้มให้คนที่หลุบตาลงต่ำ

เขาต้องตัดสินใจเอง…

โซโล่เป็นแค่เด็กผู้ชายอายุสิบแปดสิบเก้า เขายังเด็ก และถ้าเทียบกับคนที่ดูแลตัวเองมาตลอดตั้งแต่จำความได้อย่างผมเขายิ่งเด็กเข้าไปใหญ่…ถึงอย่างนั้นผมก็ทำได้แค่ช่วยให้เขาคิดแต่ตัดสินใจแทนไม่ได้

ผมไม่รู้ว่าเขาแบกปัญหาอะไรหนักหนาแค่ไหน ไม่รู้ว่าจะช่วยบรรเทาปัญหาของเขายังไง เพราะเขาไม่เคยพูดออกมา

แต่ถ้าเขาบอก…ถ้าเขาพูดออกมา ผมจะเป็นคนที่ยืนอยู่ข้างๆและแก้ปัญหาไปพร้อมกับเขาแน่นอน

“ผมไม่รู้ว่าควรทำยังไง…”โซโล่พูดออกมาช้าๆ ใบหน้าก้มต่ำจนผมมองไม่เห็นดวงตาของเขา

“บอกพี่สิครับ”

“ผมกลัวจะเสียกีตาร์ไป…ถึงพยายามทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วเก็บปัญหาไว้คนเดียว”มือที่จับมือผมไว้บีบแน่นขึ้นเหมือนกลัวว่าผมจะเดินหนีไป

“…”

“ผมเคยบอกไว้ว่าถ้ายังไม่คบกันแล้วกีตาร์อยากไปก็จะยอมปล่อยไป แต่เอาเข้าจริงผมกลัว…กลัวว่ากีตาร์จะเดินหนีไป”

“โซ…”

“มีสองเหตุผลที่ทำให้ผมยังไม่อยากคบกับกีตาร์”โซโล่เงยหน้า ดวงตาของเขาฉายแววเจ็บปวดแบบที่ทำให้ผมรู้สึกเจ็บตามไปด้วย “ผมอยากให้ทางเลือกกับกีตาร์…ผมรู้ว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น รู้ว่าพ่อจะเป็นยังไง วันไหนที่พ่อเข้ามายุ่งกีตาร์จะต้องเจ็บปวด ผมไม่อยากรั้งกีตาร์ไว้ถ้าอยากจะไป แต่ถ้าเราคบกัน…ถึงตอนนั้นกีตาร์จะร้องไห้ผมก็คงไม่ยอมปล่อยไป”

“…”ผมพูดอะไรไม่ออกเมื่อได้ยินเหตุผลที่ไม่คาดคิด สิ่งที่ทำได้มีเพียงการจับมือเขาให้แน่นกว่าเดิม

“ผมเห็นแก่ตัวตั้งแต่วันแรกที่เข้าหากีตาร์แล้ว ผมรู้ตั้งแต่แรกว่ามันต้องมีปัญหาแต่ก็ยังทำ รู้ว่ากีตาร์ต้องเจ็บสักวันแต่ก็ยังไม่หยุด ผม…ไม่ควรดึงกีตาร์เข้ามาเกี่ยวเลย”

ผมรู้สึกเหมือนหัวใจเต้นช้าลง ความเจ็บปวดทิ่มแทงไปทั่วแค่เพราะเห็นใบหน้าเศร้าหมองของเขา

“อีกเหตุผลไม่เกี่ยวกับปัญหา แต่เกี่ยวกับเรื่องแม่…ผมยังไม่อยากพูดถึง”

ผมไม่ได้ว่าอะไรนอกจากพยักหน้า เพราะใบหน้าของโซโล่ดูเจ็บปวดยิ่งกว่าเดิมทันทีที่เขาพูดถึงเรื่องแม่

“ถ้ากีตาร์อยากไปจากผมตอนนี้…ผมจะไม่รั้งไว้”มือที่จับมือผมไว้แน่นในตอนแรกคลายออกช้าๆ โซโล่ส่งยิ้มมาให้ผมเหมือนเตรียมใจยอมรับไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

ผมปล่อยมือออกช้าๆ มองใบหน้าที่แสนเจ็บปวดแล้วส่งยิ้มให้เหมือนทุกทีก่อนจะตบที่ขาตัวเองเบาๆ

“เล่าให้พี่ฟังสิครับ”

“กีตาร์…”โซโล่เรียกเสียงแผ่ว รอยยิ้มมีความสุขเล็กๆปรากฏขึ้นมาแทนที่ความเจ็บปวด และมันทำให้ผมอบอุ่นในใจตามไปด้วย

ผมลูบหัวคนที่ล้มตัวลงมานอนตักเบาๆ โซโล่มองหน้าผม ผมมองหน้าเขา แล้วเราก็ยิ้มให้กัน ยังไม่ต้องพูดอะไรแต่การกระทำที่ผมแสดงออกมันชัดเจนและส่งไปถึงเขาแล้ว

ผมเลือกจะอยู่ตรงนี้…

“ผมไม่ชอบพ่อ ไม่ได้รัก ไม่ได้ผูกพันอะไรทั้งนั้น…”โซโล่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ดวงตาของเขาทอประกายแข็งกร้าว แต่เมื่อผมส่งยิ้มอ่อนโยนไปให้ท่าทางนั้นก็อ่อนลงแทบจะทันที

“ตั้งแต่แม่ตายไปเมื่อสี่ปีก่อน คนที่อยู่เป็นเพื่อนผมมาตลอดก็มีแค่เจย์ ถึงจะรู้ว่าเขาเป็นคนของพ่อแต่ผมก็ยังเคารพเขามาก เป็นเหมือนเพื่อน พี่ชาย เป็นคนในครอบครัว…”

ผมพยักหน้า มือยังลูบหัวเขาอยู่แต่ในหัวกำลังไม่เข้าใจ

คนที่โทรมาคงเป็นเจย์...และน่าจะเป็นคนเดียวกับที่โทรหาโซโล่ที่ทะเล แต่ถ้าเป็นแบบนั้นทำไมโซโล่ถึงขว้างโทรศัพท์แถมยังมีท่าทางโมโหขนาดนั้นในเมื่อสนิทกัน

“พ่อเอาตัวเจย์กลับไปเมื่อสองปีก่อน เขาทำทุกอย่างตามที่พ่อสั่ง ยอมกลับไปง่ายๆทั้งที่รู้ว่าผมไม่เหลือใคร…และนั่นทำให้ผมเข้าใจว่าที่เจย์มาเป็นเพื่อนผมก็เพราะคำสั่งพ่อเหมือนกัน”โซโล่จับมือข้างที่ว่างของผมไว้แล้วลูบเบาๆ

“ผมเหลือตัวคนเดียว ทำทุกอย่างคนเดียว เจย์ไม่ได้ติดต่อมาอีก พ่อเองก็ไม่ได้สนใจ ผมทำตัวเหลวแหลกเป็นปี…”

ผมเริ่มเข้าใจช้าๆ รับรู้ถึงความเสียใจที่แฝงมากับน้ำเสียงที่พยายามทำให้นิ่ง

คนที่ไม่เจอไม่มีทางเข้าใจ

ผมรู้สึกดีที่เขาระบายออกมาแม้จะเข้าใจไม่หมด ถึงช่วงชีวิตของผมจะลำบากอยู่มาก แต่ผมก็มีน้องๆและแม่ใหญ่อยู่เคียงข้างเสมอ เพราะงั้นต่อให้ไม่มีพ่อแม่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร

แต่โซโล่ไม่มีใคร…

เขามีที่พึ่งแค่สองคนในชีวิต แต่อยู่ๆทั้งคู่ก็หายไป

เขาคงจะเสียใจมาก…

“ผมกินเหล้า เที่ยวกลางคืน ทำทุกอย่างที่คิดว่ามันไม่ดี ครั้งไหนมีเรื่องจนเข้าคุกก็มีคนของพ่อมาพาออกไป พ่อไม่เคยโผล่มาให้เห็นหรือฝากคำพูดอะไรมาสักอย่าง เขาก็แค่พาผมออกไปแล้วก็เอาไปปล่อยไว้ที่บ้านหลังใหญ่ที่น่าอึดอัดเหมือนเดิมทุกครั้ง”

โซโล่แค่นหัวเราะเหมือนจะตอกย้ำตัวเอง ผมลูบหัวเขาเบาๆ ส่งยิ้มให้กำลังใจ อยากให้เขารู้ว่าผมอยู่ตรงนี้

“วันที่ผมต้องเลือกทางเดินชีวิต วันนั้นเป็นครั้งแรกในรอบสองปีที่เจย์ติดต่อมา เขาบอกว่าพ่อจะยอมให้เรียนแบบที่ต้องการตามคำสั่งเสียของแม่ก่อนตาย ผมเลยเลิกทำตัวเละเทะเพราะนึกถึงหน้าแม่ จัดการข้าวของแล้วเดินทางมาที่นี่ เข้าเรียนแบบที่แม่เคยเรียน…”

ผมไม่ได้พูดแทรกเมื่อเห็นโซโล่นิ่งไป ผมเองก็เข้าใจความรู้สึกนั้นดี อาจจะต่างตรงที่เขานึกถึงคนที่จากไปแล้ว แต่ผมนึกถึงคนที่ยังอยู่แต่ไม่มีโอกาสได้เจอ

“ผมรู้ว่าคนของพ่อตามดูอยู่ตลอด รู้ว่าเขาต้องการอะไร ทุกอย่างเป็นเพราะผมเป็นลูกคนเดียวของมหาเศรษฐีที่มีกิจการใหญ่โต และมหาเศรษฐีคนนั้นต้องการให้ผมเดินไปตามเส้นทางที่เขาเลือก เขาโทรมาเพื่อเตือนเรื่องกีตาร์ เตือนเรื่องเพื่อน เตือนว่าอย่าเข้าใกล้ใครมากไป เตือนว่าผมต้องทำอะไรและต้องมีชีวิตแบบไหน…พ่อกำลังจะขยายกิจการมาที่นี่ และเขาจะให้ผมดูแลมัน”

ผมรับฟังเขาด้วยใจที่หนักอึ้ง บ่าของเขาแบกภาระหนักหน่วงกว่าที่ผมคิดไว้มาก และมันทำให้ผมรู้สึกหนักตามไปด้วย

“ผมไม่มีความสุขเลย ผมนอนไม่หลับ ผมเหนื่อย รำคาญทุกอย่าง”

โซโล่หลับตาลงเหมือนต้องการควบคุมอารมณ์ ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลายที่บรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้

“แล้วผมก็ได้เจอกีตาร์…”

เขาลืมตา ส่งรอยยิ้มบางที่ดูมีความสุขมาให้ผม

“วันที่แม่จากไป แม่เอารอยยิ้มกับความสุขของผมไปด้วย…”

“โซ…”

“แต่วันที่กีตาร์เข้ามา…กีตาร์สอนให้ผมรู้จักมันอีกครั้ง”

ผมยิ้ม…เป็นเวลาเดียวกันกับที่เห็นหยดน้ำหยดแหมะลงบนแก้มของคนที่นอนอยู่ที่ตัก ความรู้สึกหนักหน่วงที่สะสมมาตั้งแต่เริ่มฟังกลั่นออกมาเป็นน้ำตาแทนคนที่ไม่ยอมร้องไห้

“โซจะทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร หรือจะไม่ร้องไห้ก็ไม่เป็นไร…พี่จะร้องแทนเอง”

“กีตาร์…”โซโล่ลุกขึ้นนั่ง ยกมือเช็ดน้ำตาให้ผมแล้วดึงเข้าไปกอด

“โซ…”ผมกอดกลับ ไม่ได้สะอึกสะอื้น แค่รู้สึกว่าอยากเสียใจแทนเขาจนน้ำตามันไหลออกมา

“ครับ”

“เหนื่อยหรือเปล่าครับ”ผมหลับตา รับรู้ได้ถึงเสียงหัวใจหนักแน่นของคนที่กอดผมไว้ “ที่แบกไว้…เหนื่อยไหม”

“…เหนื่อย”โซโล่กระซิบ อ้อมกอดกระชับแน่นขึ้น

“งั้นแบ่งมาให้พี่นะครับ…ให้พี่ช่วยแบกนะ”

ผมไม่รู้ว่าโซโล่ทำหน้าแบบไหนเพราะซุกหน้าอยู่กับอกเขา แต่ผมรับรู้ได้ถึงเสียงหัวใจที่เต้นเร็วขึ้นอย่างชัดเจน

“กีตาร์…ไม่ไปเหรอ”คนที่วางคางไว้บนหัวผมพูดเสียงแผ่ว

“ถ้าพี่ไปใครจะอ้อนพี่ล่ะครับ…ฮัสกี้ตัวไหนก็แทนไม่ได้หรอกนะ”ผมพูดขำๆ ได้ยินอีกคนหัวเราะเบาๆก็รู้สึกใจชื้นขึ้นเป็นกอง

“ขอบคุณครับ”

“โซ…”ผมดันตัวออกมามองใบหน้าของคนที่กำลังยิ้มบางแล้วยกมือแตะแก้มเขา “ฟังพี่นะครับ”

“ครับ”

ผมหัวเราะมองคนที่พยักหน้าแข็งขันด้วยรอยยิ้ม

“ในเมื่อโซบอกให้พี่ย้ายมาอยู่ด้วยกันแล้ว แถมยังแบ่งสิ่งที่แบกไว้มาให้พี่ด้วย เพราะงั้นต่อไปเวลามีปัญหาอะไรเราต้องบอกกันนะครับ…”

โซโล่วางมือซ้อนลงบนมือผมที่แตะแก้มเขาไว้ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ

“พ่อโซจะไม่ยอมเรื่องของเราใช่ไหม”

“ใช่…”

“พี่ขอบอกตรงๆว่าตอนนี้พี่ยังไม่รู้ว่าจะทำยังไง ไม่รู้ว่าจะช่วยโซยังไง ไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับเรื่องพ่อโซ พี่ไม่รู้อะไรเลยจริงๆ เรื่องนี้เราคงเตรียมรับมือกับมันไม่ได้จนกว่ามันจะเกิดขึ้น…”

ผมพูดออกไปตามความรู้สึกในใจ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อเขาเป็นคนแบบไหนหรือคิดจะทำอะไรต่อไป แต่ว่า…

“…แต่พี่อยากให้โซมั่นใจว่าเราจะผ่านมันไปด้วยกัน โซทำในส่วนที่โซทำได้ พี่ก็จะทำในส่วนที่พี่ทำได้”

โซโล่มองผมด้วยดวงตาที่บ่งบอกความหมายได้มากมายโดยไม่ต้องพูดออกมา

“ครับ…”

“เรามาแก้ปมกันทีละนิดนะครับ…แก้ไปด้วยกัน”

ทั้งเรื่องพ่อของเขา…และเรื่องเขาเองด้วย

“ครับ”

“อยากโทรหาเขาเลยไหม”ผมเตือนเรื่องที่คุณเจย์ฝากข้อความมา โซโล่ไม่ได้มีท่าทีโมโห เขาแค่พยักหน้าเงียบๆ

“ผมจะโทรหาเขา”โซโล่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายแล้วกดเปิดลำโพง ผมยิ้มเมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้คิดจะปิดบังอะไรอีกต่อไป

[สวัสดีครับคุณชาย]

เสียงคนๆเดิมกับที่ผมรับสายครั้งก่อนดังขึ้นหลังจากสัญญาณดังแค่ครั้งเดียว…เหมือนกับเขากำลังรออยู่

“พ่อล่ะ”โซโล่พูดเสียงห้วน ผมลูบมือเขาเบาๆแล้วส่งยิ้มให้จนท่าทางแข็งๆดูอ่อนลง

[คุณท่านประชุมครับ แต่บอกธุระไว้กับผมแล้ว]

“มีอะไร”

[คุยกับคุณกีล์แล้วสินะครับ]

“อย่ายุ่ง!”โซโล่ตวาด แต่เมื่อหันมาสบตาผมอีกครั้งเขาก็ถอนหายใจหนักๆเหมือนต้องการระงับอารมณ์

[ผมแค่อยากเตือนในฐานะเพื่อน…ไม่อยากให้คนสำคัญของคุณต้องเดือดร้อน]

“หุบปากแล้วบอกมาว่าพ่อมีธุระอะไรกันแน่เจย์”

[คุณท่านก็ต้องการเตือนคุณชายเรื่องสถานะตัวเองเหมือนเดิมนั่นล่ะครับ อีกอย่างคือท่านจะเลื่อนการเดินทางที่บอกว่าจะไปไทยเดือนหน้าไปก่อน งานทางนี้เสร็จเมื่อไหร่ถึงจะเดินทางไป]

หมายความว่าจะไม่มาเร็วๆนี้สินะ

“รู้แล้ว”โซโล่ถอนหายใจ ท่าทางโล่งใจไม่แพ้กัน “แค่นี้ใช่ไหม”

[คุณชาย…ผมยังเป็นเพื่อนคุณเสมอนะครับ และอยากเตือนคุณอีกครั้งว่าตอนนี้คุณท่านทราบเรื่องคุณกีล์แล้ว ถ้าคุณไม่อยากให้เขาเดือดร้อนก็หยุดเถอะครับ]

โซโล่หันมามองหน้าผมเหมือนจะถามย้ำ ผมส่งยิ้มจางเป็นคำตอบไปให้ สุดท้ายเขาก็ยิ้มออกมาแล้วตั้งท่าจะตอบ

“ไม่…”

ผมหยุดคำพูดนั้นไว้ด้วยการยกมือจับใบหน้าอีกคนไว้ทั้งสองมือ ยื่นหน้าเข้าไปจนติดและสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน

“ในเมื่อโซบอกว่าตัวเองเห็นแก่ตัวที่เดินเข้ามาหาพี่ทั้งที่รู้ว่าพี่จะต้องลำบาก งั้นพี่ขอเห็นแก่ตัวบ้างโดยการไม่สนใจเหตุผลทั้งสองข้อของโซ…”

“…”

“คบกับพี่นะครับ…และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็อย่าปล่อยมือพี่”

ต่อให้ต้องร้องไห้…ต่อให้ท้อจนอยากเดินหนีหรือจะเจออะไรก็ตาม

ผมตัดสินใจแล้ว…

“คำตอบล่ะ”ผมอมยิ้ม เขี่ยจมูกตัวเองกับจมูกโด่งของอีกคนเบาๆเหมือนจะทวงถาม

ความเงียบดำเนินอยู่แค่ชั่วอึดใจ…และวินาทีต่อมาผมก็ได้ทราบคำตอบ โดยริมฝีปากที่กดลงมาหนักๆคือคำตอบของคำถามทั้งหมด

หวังว่าคุณจะเข้าใจนะครับคุณเจย์

[เข้าใจแล้วครับ แล้วเจอกัน]

 

 

“กีตาร์…”

“ครับ”

มือปลาหมึกของหมาตัวโตเลื้อยมากอดเอวทันทีที่ผมตอบรับ ผมหันไปมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของคนที่นอนอยู่ข้างๆแล้วก็อดยิ้มตามไม่ได้

“คบกันแล้ว…”

“ครับ”

“ต่อให้อยากไปก็ไม่ให้ไปแล้วนะ”โซโล่ย้ำเป็นรอบที่สาม ผมหัวเราะเบาๆกับคำพูดของเขาจนคนพูดหน้ามุ่ย

“ต่อให้ไล่ก็ไม่ไปครับ”ผมยกมือบีบแก้มอีกคนเบาๆ

โซโล่หลับไปทั้งที่ยังยิ้มอยู่ ผมมองภาพนั้นด้วยรอยยิ้มที่หุบไม่ได้เหมือนกัน นึกถึงคำพูดที่เขาบอกทีไรก็รู้สึกอบอุ่นในใจทุกครั้ง

ผมคือความสุขของเขา

แต่มันไม่ใช่แค่นั้น…

ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาที่ร้านจนกระทั่งวันนี้ที่กอดผมจนหลับไป…

ยิ่งนานวันก็ยิ่งมั่นใจ…

“โซก็เป็นความสุขของพี่เหมือนกัน”

-----------------------------

 

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-03-2017 21:46:44 โดย CHESS. »

ออฟไลน์ ma-prang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER17 P.13 [13/01/17]
«ตอบ #368 เมื่อ13-01-2017 23:13:41 »

ชอบความแอบดาร์กนิดๆของโซ ตรงที่ว่ายังไงก็ไม่ยอมให้ไป ฮิๆๆๆ

ออฟไลน์ farfarneenee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER17 P.13 [13/01/17]
«ตอบ #369 เมื่อ13-01-2017 23:16:29 »

 โถ่ พี่กีล์ ทูนหัวของบ่าวววววว  :heaven :heaven

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER17 P.13 [13/01/17]
« ตอบ #369 เมื่อ: 13-01-2017 23:16:29 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER17 P.13 [13/01/17]
«ตอบ #370 เมื่อ13-01-2017 23:16:34 »

สู้ๆนะทั้งสองคน กำลังใจล้นเปี้ยม

ออฟไลน์ Peung002

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER17 P.13 [13/01/17]
«ตอบ #371 เมื่อ13-01-2017 23:39:31 »

ตอนนี้พี่กีล์มาเอสใจเราไปทั้งดวงเลยเหอะ
พี่เจ๋งสุดๆอะ



พี่กีล์เหมาะกับการเป็นเจ้าของฮัสกี้ตัวนี้จริงๆค่ะ.  :hao3:

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER17 P.13 [13/01/17]
«ตอบ #372 เมื่อ13-01-2017 23:45:46 »

พี่กีล์มีเหตุผลดีพอที่จะทำให้เรื่องนี้จบโดยที่ทุกคนจะกลับมาเข้าใจกันแน่นอน โดยเฉพาะพ่อกับโซ

เอาใจช่วยนะ

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER17 P.13 [13/01/17]
«ตอบ #373 เมื่อ13-01-2017 23:58:25 »

พ่อก็พ่อเถอะ :z3:

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER17 P.13 [13/01/17]
«ตอบ #374 เมื่อ14-01-2017 00:14:31 »

พี่กีล์เท่มากกก หนูฮัสกี้คงต้องแบกอะไรมากจริงๆ สู้ๆนะ ตอนนี้มีพี่กีล์อยู่ข้างๆแล้ว สู้ไปด้วยกันนะทั้งสองคน

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER17 P.13 [13/01/17]
«ตอบ #375 เมื่อ14-01-2017 00:24:58 »

พี่กีล์คือเดอะเบสสสสอะ
ชอบบความมีเหตุผลเหนือทุกสิ่งอะ
คือสตรองมากจริงๆ
กี่สิบพ่อก้ต้องพ่ายแพ้แน่ๆ555555
รอค่าาา

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER17 P.13 [13/01/17]
«ตอบ #376 เมื่อ14-01-2017 00:54:00 »

พี่กีล์คนดีของน้อง สู้ๆนะ

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER17 P.13 [13/01/17]
«ตอบ #377 เมื่อ14-01-2017 01:00:06 »

เครียดแทนเลยเนี่ย

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER17 P.13 [13/01/17]
«ตอบ #378 เมื่อ14-01-2017 01:01:30 »

รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER17 P.13 [13/01/17]
«ตอบ #379 เมื่อ14-01-2017 02:44:43 »

อย่าปล่อยมือนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER17 P.13 [13/01/17]
« ตอบ #379 เมื่อ: 14-01-2017 02:44:43 »





ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER17 P.13 [13/01/17]
«ตอบ #380 เมื่อ14-01-2017 09:05:55 »

พี่กีลล์อย่างเท่ห์ อย่าปล่อยมือกันนะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Chise

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER17 P.13 [13/01/17]
«ตอบ #381 เมื่อ14-01-2017 09:52:00 »

กลัวพ่อโซจะทำร้ายพี่กีล์จัง
สู้ๆนะโซโล่ พี่กีล์ จับมือกันไว้ให้แน่นๆ

ออฟไลน์ aurusma

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER17 P.13 [13/01/17]
«ตอบ #382 เมื่อ14-01-2017 11:25:36 »

รัก :L2: #โซโล่กีล์

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER17 P.13 [13/01/17]
«ตอบ #383 เมื่อ14-01-2017 13:15:16 »

 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ Janny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER17 P.13 [13/01/17]
«ตอบ #384 เมื่อ14-01-2017 14:12:51 »

งุ้ยยย เราหายไปหลายตอนเลยยยยย มาอีกทีเขาคบกันแล้ว!! นี่ล่ะค่ะ ในวิกฤติย่อมมีโอกาสซ่อนอยู่เสมอ 555555 เราว่าแน่เลยค่ะ โซโล่นี่ไม่ใช่คนซื่อแน่ๆแล้ว คนเจ้าเล่ห์! นี่ทำให้เราเริ่มคิดว่าแกวางแผนจะงาบพี่กีล์มาแต่ต้นเลยรึเปล่านะคะ ที่ทำหน้ามึนไปขอนมทุกวันงี้ มีนั่งรอตอนมืดๆ เดินไปส่ง โอ๊ยยย แผนแน่ๆค่ะ เรามั่นใจแล้ว แต่จะยังไงพี่กีล์กใจอ่อนตลอดอ่ะค่ะ นี่แพ้ทางโซโล่มากนะคะ นิดหน่อยนี่พี่กีล์ยอมตลอด แค่น้องงอนพี่ก็ตามง้อแล้ว โอ๊ยยยย พี่คะะะะะ แล้วดูค่ะ ยังจะมากอดปลอบจับมือ ฮื้ออออ แต่ก็ดีนะคะ เราเชื่อว่าพี่กีล์ตะผ่านด่านคุณพ่อไปได้ เรื่องที่น่ากลัวกว่าน่าจะเป็นปมคุณแม่นะคะ นี่ก็เดาไปว่าคุณพ่อคุณแม่โซโล่อาจจะไม่ได้แต่งงานกันเพราะความรัก อาจจะมีอะไร พอค่ะ ไม่เอา ไม่เดา เราอ่านเรื่องนี้แล้วมีความสุขจังค่ะ เราเชื่อว่าจะไม่มีดราม่านะคะ คุณนักเขียนว่าไงเราก็ว่างั้นค่ะ เท่าที่ดูต่อให้ดราม่าพี่กีล์ก็จะอยู่ข้างๆโซโล่ตลอดแหละค่ะ แล้วพออยู่ข้างกันมันก็จะกลายเป็นหวานซะเฉย กลายเป็นเย็นตาโฟไปอีก 555555 แต่ก็ดีค่ะ เราชอบดราม่าที่ทำให้เขาได้ใกล้กันมากขึ้นนะคะ  :mew3:

ออฟไลน์ Margarita

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER17 P.13 [13/01/17]
«ตอบ #385 เมื่อ14-01-2017 21:11:17 »

โอ๊ยยพี่กีล์ :L1:

ออฟไลน์ AmPnie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER17 P.13 [13/01/17]
«ตอบ #386 เมื่อ14-01-2017 21:27:59 »

โโอ๊ยอะไรคือน้้ำกำลังกลั่นตัวแล้วมาตัดแบบนี้ ม่าก็ม่าไม่สุด แต่ก็ดีแล้ว 555  :mew6:

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER17 P.13 [13/01/17]
«ตอบ #387 เมื่อ14-01-2017 22:51:48 »

รอเป็นทัพเสริมให้โซกีล์ค่ะ  :hao5:

ออฟไลน์ Margarita

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER17 P.13 [13/01/17]
«ตอบ #388 เมื่อ15-01-2017 06:54:38 »

อะไรคือการตื่นมาอ่านเล่นซ้ำตอนหกโมง5555555 รออออ

ออฟไลน์ CHESS.

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +228/-2
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER17 P.13 [13/01/17]
«ตอบ #389 เมื่อ15-01-2017 19:58:02 »

-18-

 

หลังจากการสอบผ่านพ้นไปแล้วชีวิตผมก็เข้าสู่โหมดปกติอีกครั้ง…และน่าจะรวมถึงคนอื่นๆด้วย ช่วงนี้ลูกค้าในร้านดูบางตาลงไปมากถ้าเทียบกับช่วงสอบที่มักขนหนังสือมานั่งอ่านกันจนดึก พอหมดสอบก็หมดความเครียด กลับไปใช้ชีวิตตามจุดต่างๆที่โหวกเหวกได้เหมือนเดิม ไม่ต้องหาที่เงียบๆเพื่ออ่านหนังสือกันแล้ว

วันนี้ผมเองก็มาที่ร้านเหมือนกัน แต่แตกต่างจากปกติตรงที่วันนี้ผมไม่ได้มาในฐานะพนักงาน แต่มาในฐานะลูกค้า ซึ่งจะว่าไปแล้ว…ถ้าจำไม่ผิดตอนนี้น่าจะเป็นกะของ…

“พี่กีล์ สวัสดีค่า”

“สวัสดีครับขิม”ผมยิ้มให้น้องแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะใกล้ๆกับเคาน์เตอร์

“ไม่เจอนานเลย คิดถึงมากเลยค่ะ”ขิมว่าแล้วนั่งลงข้างๆผมก่อนจะทำหน้าตาแปลกๆ…ที่แลดูไม่น่าไว้วางใจ

“ไม่ทำงานเหรอเรา”

“ให้เต้ทำไปก่อนค่ะ”ขิมบอกปัดแล้วนั่งจ้องหน้าผมนิ่ง

บางทีผมน่าจะให้พวกน้องทำงานกันกะละคนจะได้ไม่มีเวลามานั่งว่างแบบนี้ เพราะนอกจากผมที่ทำงานคนเดียวแล้วปกติกะทำงานช่วงเปิดเทอมจะมีพนักงานกะละสองคน เหตุผลเพราะไม่อยากให้น้องๆเหนื่อยเกินไป รวมถึงเวลามีปัญหาอะไรจะได้มีคนช่วยด้วย

“พี่บอกให้พี่แก้วหักเงินเราน่าจะดี”

“ไม่เอานะคะพี่กีล์…ขิมแค่สงสัยเฉยๆเอง”ขิมทำหน้าบึ้งแวบเดียวก็กลับมานั่งจ้องหน้าผมด้วยสายตาจับผิดเหมือนเดิม

“สงสัยอะไรครับ”ผมยิ้มกลับ ไม่ได้รู้สึกโดนกดดันเท่าไหร่เพราะยังไม่รู้ว่าเรื่องที่น้องบอกว่าสงสัยคือเรื่องอะไร

“เรื่องพี่กีล์…กับโซโล่”

ก็คิดไว้แล้วล่ะนะว่าต้องเรื่องนี้…

“สงสัยอะไรครับ”

“ใครๆเขาก็บอกว่าพี่กีล์กลับบ้านกับโซโล่ทุกวันเลยนี่คะ นี่มีคนลือว่าพี่กีล์กับโซโล่คบกันด้วยนะ ถึงขนาดบอกว่าอยู่ด้วยกันแล้วก็มี”ขิมทำตาโตเหมือนกำลังรอคอยว่าผมจะพูดอะไร ซึ่งผมก็ยังคงรอยยิ้มไว้เช่นเดิมโดยไม่ได้พูดปฏิเสธ

ก็มันความจริงทั้งนั้น…

กิ๊ง

ผมเมินสายตาสงสัยของขิมแล้วหันไปมองประตูร้าน เพื่อนสามคนที่นัดกันไว้เดินตรงมาหาผมตามด้วยคนที่ผมไม่ได้เจอมานานอีกคน

“สวัสดีกีล์”

“สวัสดีครับซัน”ผมทักซันที่ยังไม่ได้เจอกันเลยสักครั้งตั้งแต่เปิดเทอม คงเพราะเขาเรียนหนักไม่มีเวลาไปไหนมาไหนโนว์มันถึงต้องเป็นฝ่ายไปหาตลอด ผมเลยไม่มีโอกาสได้เจอตามไปด้วย

“พวกพี่มาผิดเวลากันจังเลย”ขิมทำหน้ามุ่ยแต่ก็ยอมลุกขึ้นให้พวกเพื่อนผมนั่งแทนที่

“ทำไมอะ คุยไรกัน…”ยังไม่ทันพูดจบไวน์มันก็โดนขิมดึงไปคุยกระซิบกระซาบกันอยู่สองคน

ลืมไปเลยว่าไม่ควรปล่อยให้สองคนนี้อยู่ด้วยกัน…

ถ้าให้เดา…อีกเดี๋ยวผมคงต้องเจอพวกมีความอยากรู้อยากเห็นมากกว่ามนุษย์ทั่วไปถามคำถามจนกว่าจะยอมตอบ

“หืม…..”ผมหยิบแก้วกาแฟขึ้นดื่ม ไม่สนใจสายตาที่เหลือบมองมาแบบแปลกๆของไวน์กับสายตาไม่เข้าใจของคนอื่น สุดท้ายพอคุยกันจบขิมก็ยืดตัวตรงด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ส่วนไวน์ก็หันมาถามผมตามที่คาดไว้ “สรุปว่าไงกีล์ ตอบคำถามเลยดิ พวกกูก็อยากรู้เหมือนกัน”

“พูดเรื่องอะไรกัน”

“เดี๋ยวมึงก็รู้ซัน…ถ้ากีล์มันตอบนะ”

ผมกรอกตาอย่างอดไม่ได้กับการโยนขี้ของไวน์ กลายเป็นสายตาสงสัยใคร่รู้ของซันเบนมามองผมอย่างคาดหวัง

จริงๆเมื่อก่อนซันก็ไม่ใช่คนขี้สงสัยแบบนี้หรอก แต่รู้สึกความขี้เสือกของโนว์มันจะถ่ายทอดไปถึงแฟนมันด้วย

“ก็ตามนั้น”

“ตามไหนคะ!”

ผมเหลือบมองขิมที่ยืนดี๊ด๊าอยู่หลังไวน์แล้วหัวเราะเบาๆ

เอาเถอะ…ไม่ได้คิดจะปิดอะไรอยู่แล้ว

“ก็ตามที่ขิมพูด…จริงทุกอย่าง”

“กรี๊ดดดดดดดดดด!”

“เพื่อนกูคนจริงอยู่แล้ว”ไวน์ตบบ่าผมเบาๆแล้วชูนิ้วโป้งให้

“เดี๋ยวนะ แล้วไอ้ที่บอกว่าตามนั้นตามนี้อะไรของมึงนี่คืออะไรวะ”โนว์ดึงแขนผมไว้แล้วมองมาด้วยสายตาไม่เข้าใจเช่นเดียวกับอีกสองคนที่ยังดูงงๆ ซันนี่เหวอไปแล้วตั้งแต่ได้ยินขิมกรีดร้องชักดิ้นชักงอ ส่วนเบียร์มันเลิกคิ้วแล้วมองมาอย่างกดดัน

“คืองี้ค่ะพี่!”ขิมที่ลงไปดิ้นกับพื้นเกาะโต๊ะแล้วมองหน้าเพื่อนผมด้วยหน้าตาสดใสผิดปกติ “ขิมถามพี่กีล์เรื่องโซโล่ค่ะ คือมีคนบอกว่ากลับด้วยกันทุกวัน คบกันแล้ว แล้วก็น่าจะอยู่ด้วยกันด้วย ทีนี้ขิมเลยเอามาถามแล้วพี่กีล์ก็บอกว่าตามนั้นทุกอย่าง…ฮืออออ”

“เข้…เปิดเผย”

ผมยักไหล่รับคำพูดโนว์ ถึงจะไม่ได้ประกาศให้ใครรู้แต่ผมก็ไม่เคยคิดปิดบัง ยังยืนยันคำเดิมที่เคยพูดกับมันไว้ว่าถ้าใครถามก็จะตอบตามตรง

“มึงอย่าลืมนะกีล์…ถ้าพูดออกมาแล้วมันจะไม่ได้รู้กันแค่นี้”เบียร์เตือนแล้วเหลือบมองขิมที่กำลังเดินกดโทรศัพท์ดี๊ด๊ากลับไปทำงาน

“ไม่เป็นไร”ผมยิ้มให้เพื่อนรวมถึงซันที่มองมาอย่างอึ้งๆ

รู้หรือไม่รู้มันต่างกันตรงไหนในเมื่อผมไม่คิดจะปิดบังอะไร

“สรุปพวกมึงนัดมาที่นี่ทำไม”ผมถามเข้าเรื่อง จริงๆวันนี้เลิกเร็วกว่าปกติ ตอนแรกก็แยกย้ายกันไปแล้ว แต่ไปๆมาๆพวกมันก็เรียกมารวมกันที่ร้านนี้อีกรอบ ผมไม่มีปัญหาอะไรเพราะรอโซโล่เลิกเรียนอยู่แล้ว แต่พวกมันที่กลับไปถึงบ้านแล้ววนมาอีกรอบนี่สิ

แสดงว่าคงมีอะไรสำคัญสักอย่าง

“กีล์…นี่มึงไม่รู้เหรอ”เบียร์มองหน้าผมแล้วถอนหายใจ

ไม่รู้อะไร…

จะว่าไปก็รู้สึกเหมือนลืมอะไรไปสักอย่าง

“กีล์…วันนี้มีแข่งบอลมหา’ลัยนะ”ซันที่นั่งข้างๆหันมากระซิบบอกผม

แข่งแล้วทำไม…ปกติผมก็ไม่ได้ไปเข้าร่วมหรือดูการแข่งอยู่แล้วนี่

“วันนี้วิศวะเจอดุริยางค์ เป็นการแข่งของพวกปีหนึ่ง พวกกูเป็นคนคัดตัวน้องไงเลยต้องมาดู”เบียร์อธิบายแล้วมองหน้าผม

“แล้วตอนแรกพวกมึงกลับกันไปทำไม”

“พวกกูกลับไปเปลี่ยนชุด ส่วนไอ้โนว์ไปรับเมีย นี่รอบชิงแล้วกะว่าจะพาพวกมันไปเลี้ยงด้วยเลยไม่ว่าจะแพ้จะชนะ”

ผมพยักหน้าเข้าใจที่ไวน์พูด แต่ก็ยังไม่เห็นเหตุผลว่าผมเกี่ยวอะไรด้วยอยู่ดี

“กีล์ อาทิตย์ที่แล้วมึงบอกพวกกูว่าจะไปดูบอลรอบนี้ด้วยไม่ใช่เหรอ”เบียร์ทำหน้าเนือย มองผมด้วยสายตาเหมือนมองคนโง่

ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกเหมือนลืมอะไรไป…

“ตอนแรกกูก็ไม่แน่ใจว่าทำไมมึงอยากไปแต่ตอนนี้รู้ละ…กูไปอ่านชื่อตัวจริงรอบนี้มา รู้สึกฝั่งดุริยางค์จะมีคนที่โอนชื่อจากตัวสำรองมาเป็นตัวจริงอยู่คน ที่น่าสนใจคือเหมือนจะลงนัดชิงเป็นนัดแรก…”เบียร์มันลากเสียงเหมือนต้องการให้ผมนึกออก และแน่นอนว่าฟังมาขนาดนี้แล้วผมย่อม… “ชื่อโซโล่ ศิวโลคินทร์”

จำได้แล้ว…

 

“กีตาร์…”

“ครับ”

“ศุกร์หน้าผมลงบอลนัดชิงด้วยนะ”

“ทำไมมาลงนัดชิงล่ะครับ”

“ในทีมมีคนเจ็บมาจากรอบที่แล้ว ผมเพิ่งเคลียร์งานเดือนเสร็จเลยโดนบังคับลงเพราะดุริยางค์คนน้อยมีตัวสำรองอยู่ไม่กี่คน เหมือนผมจะเป็นคนเดียวที่เตะบอลเป็นในกลุ่มตัวสำรอง”

“งั้นพี่จะไปดูนะ แต่จะให้เชียร์ออกนอกหน้าคงไม่ได้เพราะเราแข่งกับคณะพี่ใช่ไหมครับ”

“แค่มาดูก็พอแล้ว”

“ครับ ต้องไปอยู่แล้ว ถ้าไม่ไปจะกลับยังไงล่ะ”


 

ผมยังจำใบหน้ายิ้มดีใจนั่นได้อยู่เลย แล้วทำไมถึงลืม…

อาจจะเพราะเรียนหนัก ทำงานหนัก แถมยังติดต่อเรื่องฝึกงานสารพัดเลยทำให้มึนๆจนลืมอะไรไปบ้าง แต่ผมไม่เคยคิดเลยว่าสิ่งที่ลืมจะเป็นเรื่อง ‘สำคัญ’ แบบนี้

“บอลแข่งกี่โมง”ผมหันไปถามเบียร์แล้วลุกขึ้นยืน

“น่าจะใกล้จบครึ่งแรกแล้ว นี่พวกกูก็จะไปดูครึ่งหลัง”

จบครึ่งแรกไปแล้ว!?

ผมวิ่งออกมาจากร้าน ไม่ได้สนใจเสียงเพื่อนที่ดังไล่หลังมา มุ่งหน้าไปที่สนามบอลที่อยู่ใกล้คณะศึกษาศาสตร์ที่ห่างออกไปพอควร

ตั้งแต่คบกันเราก็ยังทำตัวกันเหมือนเดิม ไม่เคยทำให้ลำบากใจกันเลยสักครั้ง นี่คือเรื่องผิดพลาดเรื่องแรก เพราะผมสัญญาไปแล้วแต่กลับลืม…ไม่รู้ว่าโซโล่จะคิดอะไรไหม

ขอให้ไปถึงก่อนเริ่มครึ่งหลังด้วยเถอะ…

สนามบอลเต็มไปด้วยคนมากมายที่เข้ามาดู และดูเหมือนผู้หญิงจะเยอะผิดปกติ ผมเดินแหวกทางเข้าไปด้านในแล้วก็กวาดสายตามองหาเป้าหมาย ดีที่ผมมาถึงตอนอยู่ในช่วงพักครึ่งพอดี…

“พี่กีล์!”

ผมสะดุ้ง หันไปตามเสียงเรียกแล้วก็เห็นว่าเป็นเอสที่โบกมือมาให้

“เอสคือพี่…”

“มาดูเหมือนกันเหรอครับพี่ ตอนนี้เสมอกันอยู่1-1 เบอร์สี่ฝั่งนู้นแม่งน่ากลัวโคตร พวกผมนี่ขนลุกไม่อยากเข้าใกล้เลยอะ”

ผมยืนหอบมองเอสพูดรัวไม่หยุดแล้วก็ไม่รู้จะแทรกยังไง

“นี่ถ้ามันไม่ใช่เดือนมหา’ลัยผมคงคิดว่ามันลงสนามมาฆ่าใครอะ ยิ่งไอ้เคนี่โดนมองหนักจนร่างจะพรุนอยู่ละ”

“เอสว่า…ใครนะครับ”

“เคไงพี่ ที่อยู่ภาคเดียวกับพี่อะ”เอสว่าแล้วชี้ไปทางเคที่กำลังมองมาที่ผมพอดี

“ไม่ใช่ครับ พี่หมายถึงเบอร์สี่ฝั่งนั้น”

“อ๋อ…โซโล่อะพี่ เดือนมหา’ลัยไง พี่ก็รู้จักมันไม่ใช่เหรอ ยังไงฝากบอกมันหน่อยนะว่าหยุดส่งออร่ามืดเถอะ ผมกลัวจนไม่กล้าแย่งบอลมันแล้วเนี่ย”

ผมไม่ได้ฟังเสียงเอสพูดต่อแต่เลือกที่จะวิ่งไปทางฝั่งดุริยางค์ที่กำลังพักกันอยู่แทน ร่างคุ้นตาของคนที่ผมตามหานั่งหลบมุมอยู่ริมเก้าอี้ ใบหน้านิ่งสนิทน่ากลัวอย่างที่เอสว่ากำลังจ้องมองพื้นเหมือนกำลังมองหาอะไร

ผมรู้สึกปวดใจนิดๆกับท่าทางนั้น ไม่ได้สนใจพวกดุริยางค์ที่มองมางงๆเพราะคิดว่ายังไงก็รู้จักกันอยู่แล้วตั้งแต่ไปทะเล

“พี่กีล์…ฝากหน่อยนะพี่”เก้าที่อยู่ในชุดบอลเบอร์หนึ่งเดินเข้ามาหาผมแล้วยื่นผ้าเย็นให้พร้อมรอยยิ้ม

“ขอบคุณครับ”

ผมเดินเข้าไปหาคนที่นั่งก้มหน้าแล้ววางผ้าเย็นแปะลงบนหัวอีกคน โซโล่เงยหน้าแล้วจ้องมองมาด้วยดวงตาเฉยชา แต่พอเห็นว่าเป็นผมเขาก็เบะปากน้อยๆแล้วก้มหน้าลงเหมือนเดิม

“กีตาร์มาช้า”

“ขอโทษครับ”

“ผมไม่อยากเตะแล้ว”

“ขอโทษครับ”ผมย่อตัวลงนั่งยองๆข้างหน้าโซโล่แล้วเงยหน้ามองคนที่ก้มหน้าทำให้สายตาเราประสานกันพอดี โซโล่ยังคงทำหน้าบึ้งแต่ก็ไม่ได้หันหน้าหนี

“หึ”

“พี่ยอมรับว่าลืมจริงๆ ขอโทษนะครับ”ผมใช้มือซ้ายจับนิ้วที่อยู่บนขาของเขาแกว่งไปมาเบาๆแล้วยิ้มให้

“…”

“ช่วงนี้พี่วุ่นวายทั้งเรื่องเรียน เรื่องทำงาน แล้วก็เรื่องฝึกงานอีกเลยลืมไปบ้าง…ถึงจะเหมือนแก้ตัวแต่พี่ก็อยากบอกเหตุผล ขอโทษนะครับ”ผมมองหน้าโซโล่ พยายามเลียนแบบสายตาอ้อนๆของเขาแต่กลับได้รับรอยยิ้มขันกลับมาแทน

ขำนี่หมายความว่าไง…แต่เอาไว้ก่อนละกันเพราะมีความผิดติดตัว

“ผมไม่ได้โกรธ…”โซโล่เกี่ยวนิ้วกลับแล้วมองผมด้วยสายตาอ่อนโยน “อาจจะหงุดหงิดไปบ้างที่กีตาร์ไม่มาแต่ไม่เคยโกรธ ผมรู้ว่ากีตาร์เหนื่อยแค่ไหน…”

“ลงสนามๆ!”

“เดี๋ยวค่อยคุยนะ”โซโล่ยิ้มบางแล้วลุกขึ้นยืนจนผมต้องลุกตาม ผมรั้งแขนเขาไว้ตอนที่กำลังจะเดินเข้าไปในสนาม

“สู้ๆนะครับ พี่จะเชียร์อยู่ตรงนี้”ผมหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นอีกคนมองเป็นเชิงถามว่าแน่ใจนะ

วิ่งมาหาโจ่งแจ้งขนาดนี้แล้ว จะให้เดินกลับไปสงสัยคงได้โดนแซวหนักกว่าเดิม ไหนๆก็ไหนๆแล้วอยู่ตรงนี้ไปเลยน่าจะดีกว่า

บอลครึ่งหลังเริ่มแล้วแต่เหมือนสายตาคนดูจะสับไปสับมาระหว่างบอลในสนามกับผมที่นั่งหลบมุมอยู่ที่ที่พักดุริยางค์ เพื่อนสี่ตัวที่ยืนอยู่ฝั่งวิศวะเองก็มองมาที่ผมด้วยสายตาที่เหมือนจะด่าว่าไอ้ทรยศ แต่ปากมันนี่มีแต่รอยยิ้มแซว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเดินกลับไปหาเมื่อไหร่จะเจออะไร

จะโทษใครก็ไม่ได้นอกจากตัวเองที่วิ่งมาฝั่งนี้แล้วก็คนในสนามที่เตะบอลไปหันมามองไปจนโดนซุบซิบยังไม่รู้ตัว…หรืออาจจะรู้แต่ไม่ได้สนใจ โซโล่ก็ไม่ได้ดูผิดปกติอะไรนอกจากหน้าที่นิ่งเสมอต้นเสมอปลาย เขาดูโดดเด่นทั้งที่ก็แต่งชุดบอลเหมือนคนอื่น ผู้หญิงรอบสนามนี่แทบจะกรี๊ดทุกครั้งที่โซโล่ได้บอล

อยากจะเห็นท่าทางก่อนหน้านี้ที่ทำให้เอสกลัวจริงๆ…

ไม่รู้เจ้าหมานั่นจะรู้ตัวไหมว่าโดนถ่ายรูป ยิ่งตอนที่เจ้าตัวเสยผมเพราะเหงื่อออกผมได้ยินเสียงกดชัตเตอร์รัวมากจนน่ากลัว

และผมก็เป็นหนึ่งในนั้น…

ห้องที่คอนโดว่างมากไม่มีรูปเจ้าของห้องสักรูป ซึ่งดูเหมือนเจ้าตัวก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่ผมเลยคิดว่าจะจัดการเอง อีกอย่างเก้าแอบมาบอกเมื่ออาทิตย์ก่อนว่าสิ้นปีนี้เป็นวันเกิดเจ้าหมา ผมก็เลยอยากทำอะไรให้เขาบ้าง

จะให้ของขวัญสมฐานะเจ้าตัวคงไม่ไหวเลยได้แต่ใช้วิธีนี้…

ปี๊ดดดดดด!

ผมสะดุ้งกับเสียงนกหวีด พอหันไปมองในสนามก็เห็นว่าจบเกมส์แล้วและกำลังจับมือกันอยู่ บอลจบลงโดยที่วิศวะเป็นฝ่ายชนะไป2-1 พวกดุริยางค์ก็ดูไม่ได้เสียใจอะไร สนิทกันถึงขั้นเดินไปตบหัวลูบหลังกับเด็กวิศวะบางคนที่อยู่ภาคผมหลังจบเกมส์ด้วยซ้ำ

คงต้องขอบคุณค่ายรับน้องที่ทะเลที่ทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้

“กีตาร์…”

“ครับ”ผมยืนขึ้นแล้วยิ้มให้คนที่เดินมาหาก่อนจะเอาผ้าที่ยังไม่ได้ใช้เช็ดหน้าเช็ดตาให้หมาตัวโตที่ส่งสายตาอ้อนๆมาให้

“พวกนั้นชวนไปเลี้ยง…ทั้งวิศวะทั้งดุริยางค์ กีตาร์จะไปไหม”

ส่งสายตาแบบนี้มาให้แล้วยังจะถามอีกนะเจ้าหมานี่

“ถ้าโซไปพี่ก็ไปครับ”

โซโล่ยิ้มนิดๆก่อนจะยกมือลูบแก้มผมเบาๆแล้วเดินไปคุยกับพวกดุริยางค์คนอื่น ผมยิ้มฝืดเมื่อเห็นว่าพวกดุริยางค์หันมาส่งสายตาล้อเลียนให้ทั้งแถบ ไหนจะพวกรอบสนามที่กรีดร้องหนักหน่วงตอนที่โซโล่ลูบแก้มผมอีก

“ไปกัน”โซโล่สะพายกระเป๋าแล้วจูงมือผมเดินออกจากสนามโดยไม่สนใจใคร…รวมถึงผมด้วย

ถึงจะบอกว่าเปิดเผยแต่ไม่ได้หมายความว่าไม่เขินนะ…ไม่รู้หน้าเจ้าหมานี่ทำด้วยอะไร แต่ถึงจะว่าอย่างนั้นผมก็ไม่ได้ปฏิเสธมือที่จับไว้แต่อย่างใด กลายเป็นเดินตามแรงจูงอีกคนไปง่ายๆเสียอีก

“โซ…”ผมเรียกเบาๆแล้วรั้งมือคนที่กำลังเดินข้างๆให้เดินช้าลง “เดี๋ยวพี่บอกแล้ววิ่งเลยนะครับ”

โซโล่หันมามองงงๆ แต่พอมองตามสายตาผมไปแล้วก็เหมือนจะเข้าใจเลยหัวเราะออกมาเบาๆ จะอะไรซะอีกถ้าไม่ใช่พวกเพื่อนผมที่เล่นยืนออกันเต็มประตูทางออกอย่างกับตั้งใจ

“เอานะ…”ดูเหมือนไวน์มันจะเห็นผมแล้วเลยชี้ให้คนอื่นหันมามอง รอยยิ้มล้อเลียนกับเสียงแซวโหวกเหวกดังมาแต่ไกล

“แหม เพื่อนกูนี่…”

“วิ่ง!”

“ไอ้กีล์!”

ผมไม่สนใจเสียงเรียกด้วยความตกใจของไวน์แต่ออกแรงดึงมือคนที่จับอยู่ให้วิ่งตามผ่านหน้าเพื่อนออกมานอกสนามอย่างรวดเร็ว ได้ยินเสียงมันดังตามมาแว่วๆ

“อย่าคิดว่าจะหนีพ้นนะมึง!”

“เจอแน่ไอ้กีล์!”

“พี่เอาเพื่อนผมไปไหนอะ!”

ก็รู้อยู่หรอกว่าหนีไม่พ้น แต่รอดจากที่ที่คนเยอะอย่างกับอะไรดีมาได้ก็ดีกว่าโดนแซวกลางสนามต่อหน้าฝูงชนก็แล้วกัน

“กีตาร์…”โซโล่เรียกเสียงหอบ ผมหยุดเท้ากะทันหัน พอหันไปมองหน้าที่ยังนิ่งแต่ดูเหนื่อยสุดๆของเขาแล้วก็ต้องด่าตัวเองในใจ

ลืมไปเลยว่าเจ้าหมานี่เพิ่งเตะบอลมาเหนื่อยๆ

“ขอโทษนะครับ โซไหวไหม”ผมรีบเอาผ้าที่พาดอยู่ที่คอเช็ดเหงื่อให้โซโล่ ส่วนคนที่ยืนหอบอย่างหนักก็ยังมีแรงพยักหน้ากลับมาให้เหมือนจะบอกว่าไหว

ผมยืนรอจนเขาเริ่มกลับมาหายใจปกติแล้วก็จับมืออีกคนไว้ คิดว่าจะพาเดินไปที่รถที่จอดอยู่ไม่ไกล แต่กลายเป็นว่าโซโล่รั้งมือผมไว้

“กีตาร์…”โซโล่ยืดตัวตรงแล้วทำหน้าจริงจัง ดึงแขนผมให้เดินหลบเข้าไปในมุมตึก “ผมมีเรื่องต้องคุยกับกีตาร์ต่อจากตอนนั้น”

“ครับ”

“กีตาร์บอกว่าถ้ามีอะไรต้องบอกกันใช่ไหม”

ผมพยักหน้า ถึงจะไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการสื่ออะไรแต่ก็ไม่มีทางลืมสิ่งที่ตัวเองพูด

“มันไม่ใช่แค่ผมต้องบอกกีตาร์…แต่กีตาร์มีอะไรก็ต้องบอกผมเหมือนกัน เรามีอะไรต้องบอกกันใช่ไหม”โซโล่พูดเสียงอ่อน ดึงมือผมไปจับไว้

“ครับ”

“ผมรู้ว่าช่วงนี้กีตาร์เหนื่อยแค่ไหน ทั้งเรื่องเรียน เรื่องทำงาน เรื่องที่ฝึกงาน เราอยู่ด้วยกันแท้ๆแต่กีตาร์ไม่เคยพูดอะไรให้ผมฟังเลย”

“โซ…”

“ถ้าผมจะโกรธ ผมจะโกรธเพราะกีตาร์ไม่บอกอะไรผมเลย ทำเป็นไหวทั้งที่เหนื่อย ทำเป็นไม่เป็นไรทั้งที่มีผมอยู่ข้างๆ…”

ผมมองใบหน้าของคนที่พูดเสียงอ่อนนิ่งงัน พูดอะไรไม่ออกเพราะมันเป็นไปตามที่เขาบอกทุกอย่าง

“ผมแบ่งภาระของผมให้กีตาร์แบกแล้ว…แล้วกีตาร์แบ่งภาระของกีตาร์ให้ผมบ้างได้ไหม”

“ขอโทษครับ”ผมดึงมือที่จับไว้มาแนบแก้มเหมือนที่เขาชอบทำ พอได้ทำแล้วถึงเข้าใจ

มันอบอุ่นแบบนี้นี่เอง…

“สัญญานะว่าจะบอก…”

“สัญญาครับ”

โซโล่ยกอีกมือลูบแก้มผมเบาๆแล้วส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้

“ผมเป็นคนรักของกีตาร์นะครับ”

--------------------------------

 

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-03-2017 21:48:23 โดย CHESS. »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด