┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ [ตอนพิเศษ HNY P.33]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ [ตอนพิเศษ HNY P.33]  (อ่าน 353500 ครั้ง)

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER24 P.18 [04/02/17]
«ตอบ #540 เมื่อ08-02-2017 03:16:51 »

คุณพ่อน้องโซอย่าใจร้ายกับลูกๆเลยนะ

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER24 P.18 [04/02/17]
«ตอบ #541 เมื่อ08-02-2017 10:13:25 »

บริษัทที่กีตาร์จะไปฝึกงานนี่ต้องเป็นของพ่อโซแน่ๆ เลย  :mew4:

ออฟไลน์ CHESS.

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +228/-2
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER24 P.18 [04/02/17]
«ตอบ #542 เมื่อ08-02-2017 19:16:20 »

-25-

 

อีกไม่ถึงสองอาทิตย์ก็จะเข้าช่วงสอบแล้ว ผมทั้งตื่นเต้นแล้วก็ดีใจ เพราะนอกจากจะหมดการเรียนการสอนแล้วผมยังต้องไปฝึกงานจริงจังด้วย อีกอย่างที่สำคัญคือผมกำลังจะได้เจอแม่ใหญ่

แค่คิดก็รู้สึกมีความสุข ไม่รู้สี่ปีที่ผ่านมาท่านเป็นยังไงบ้าง เพราะนอกจากจดหมายที่ส่งมานานๆทีผมก็แทบไม่รู้ข่าวท่านเลย แม่ใหญ่เคยบอกว่าจะส่งจดหมายต้องรอเวลามีคนเข้าเมือง ซึ่งบางทีก็เป็นปีกว่าจะเข้าเมืองที ในช่วงเกือบสี่ปีนี่ผมก็ได้จดหมายมาแค่สามฉบับเอง

อยากให้สอบเสร็จวันนี้เลย ผมจะได้เอาความสำเร็จไปให้ท่านดูไวๆ

“ไอ้โซ!ไอ้ขี้โกง!”

“มึงโกงก่อน”

“กูโกงไรวะ”

“มึงชนะติดกัน”

“นั่นเรียกเก่ง ไม่ใช่โกง!”

“โกง”

“ถ้าเก่งอย่างกูเรียกโกง แล้วเล่นๆอยู่มาปิดตากูนี่เรียกไร”

“ฉลาด”

“ไอ้เลวววววววววว!”

ผมส่ายหน้ามองสองเพื่อนซี้ที่นั่งเล่นเกมส์กันไปเถียงกันไปหน่ายๆ ตอนแรกก็เล่นกันดีๆอยู่หรอก แต่พอเก้าเริ่มชนะติดกันเจ้าหมาเลยงอแง ยื่นมือไปปิดตาเพื่อนเสียอย่างนั้น

“คุณเก้านี่เก่งหลายด้านเลยนะครับ”

ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับคุณเจย์ เก้าเก่งหลายอย่างจริงๆ…ทั้งร้องเพลง เล่นดนตรี เล่นเกมส์ เห็นว่าเรียนก็เก่งด้วย แล้วยังเล่นกีฬาอีก

“แต่ดูแสบจริงๆ”

“นั่นสิครับ ใครเอาอยู่ได้นี่คงเก่งน่าดู”ผมพูดขำๆ วางมีดปอกผลไม้ลงแล้วเลื่อนจานไปให้คุณเจย์ “แต่ก่อนจะเอาอยู่คงปวดหัวสุดๆ”

“ผมก็ว่าแบบนั้นครับ”คุณเจย์หัวเราะแล้วดันจานชมพู่คืนให้ผม “เอาไปให้เด็กๆเถอะครับ ผมอิ่มแล้ว”

หลังจากตื่นมาตอนเช้าผมก็พบว่ามีแขกที่ควรจะสลบและตื่นสายสุดนั่งดูการ์ตูนอยู่ที่โซฟาอยู่แล้ว น่าแปลกมากที่เก้าตื่นก่อนผมเสียอีก แถมท่าทางยังไม่เหมือนคนเมาค้างอะไรแม้แต่นิดเดียว เรียกได้ว่าแข็งแกร่งจนน่าตกใจ

พอผมทำอาหารอะไรเสร็จคุณเจย์ก็มาเคาะประตู ส่วนเจ้าหมาที่ตื่นสายสุดก็เดินออกมาจากห้องเหมือนได้กลิ่นอาหารพอดี หลังจากกินข้าวเช้ากันหมด สองเพื่อนซี้ก็ไปนั่งเล่นเกมส์กันอย่างที่เห็น ผมเลยต้องแยกมานั่งปอกผลไม้ให้เพราะไม่อยากกวน ดีที่มีคุณเจย์คุยเป็นเพื่อน

“กีตาร์ ป้อนหน่อย”คนที่กำลังจดจ่อกับเกมส์เรียกผมโดยไม่หันมามอง มือหนึ่งเล่นส่วนอีกมือยังพยายามยื่นไปกวนเพื่อนให้แพ้เหมือนเดิม

“อ่อนว่ะ”เสียงเหยียดๆจากคนเก่งดังขึ้นขัดจังหวะที่โซโล่กำลังอ้าปากพอดี

“อะไร”

“แค่นี้ก็แดกเองไม่ได้ โคตรกาก”ว่าแล้วก็โชว์การใช้มือเดียวเล่นส่วนอีกมือหยิบชมพู่กินอย่างสบายใจ แถมยังหันมายักคิ้วให้เพื่อนหมาหัวร้อนเล่นอีก

“เก้า...”ผมเรียกเสียงอ่อน แต่ดูเหมือนที่กำลังจะห้ามคงไม่ทันแล้ว เมื่อหมาตัวโตละทิ้งทุกอย่างในมือแล้วพุ่งเข้าไปฟัดกับเพื่อนด้วยความหัวร้อน

เอาเถอะ...ร่าเริงกันทั้งคู่ก็ดีแล้ว

“คุณกีล์ไม่เอาด้วยเหรอครับ”คุณเจย์พูดไปขำไป ดูมีความสุขที่เจ้าหมาอารมณ์ดี

“สู้เด็กไม่ไหวแล้วครับ แก่ขึ้นเรื่อยๆ”ถึงจะต่างกันแค่สามปีก็เถอะ แต่กับเด็กที่ยังไม่พ้นยี่สิบตั้งสองคน…ถ้าไปเล่นด้วยกระดูกคงจะหักเอาเสียก่อน

“เข้าใจดีเลยครับ ยิ่งคุณชายนี่แรงเยอะมาตั้งแต่เด็กเลยด้วย”

“ผมก็พอจะเดาได้ครับ”ก็ไม่เคยสู้แรงได้เลยสักครั้งนี่นะ…

“แต่นี่ก็ใกล้ได้เวลาแล้วนะครับ”คุณเจย์เงยหน้ามองนาฬิกา “เดี๋ยวจะถึงเวลานัดแล้ว”

“ประชุมเหรอครับ”

“ครับ แต่ดูเหมือนต้องไปคุยธุรกิจต่อด้วย ผมคิดว่าจะให้คุณชายตามไปดูงานเสียหน่อย”

“ก็ดีเหมือนกันครับ เรียนรู้ไว้บ้างก็ดีเหมือนกัน”ผมพยักหน้าเห็นด้วยเพราะยังไงโซโล่ก็คงหนีไม่พ้น ถึงจะดูโหดร้ายไปหน่อยเพราะเขาเป็นแค่เด็กปีหนึ่ง แต่ก็ควรจะเรียนรู้ไว้แต่เนิ่นๆจะได้ไม่ลำบากทีหลัง

เมื่อวานคุณเจย์บอกผมว่าโซโล่ต้องเข้าประชุมกับเขาวันนี้ อยากให้ไปดูงานเต็มๆเพราะยังไงวันนี้ก็ว่างอยู่แล้ว ส่วนเรื่องต้องไปคุยธุรกิจนี่คงหลังประชุมเสร็จ

นั่นเป็นเหตุผลที่เก้ายังอยู่ที่นี่ ดูเหมือนเจ้าหมาจะกลัวผมเหงา…แต่ก็ดีเหมือนกัน ผมมีเรื่องให้เก้าช่วยพอดี

“โซ ไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้วครับ”ผมเรียกคนที่ยังกัดกันไม่เลิก พอได้ยินอย่างนั้นเจ้าหมาก็ยอมปล่อยเพื่อนแล้วเดินหน้ามู่ทู่เข้าไปอาบน้ำแต่โดยดี

ดีที่โซโล่เป็นคนพูดง่าย ถึงจะดูเซ็งๆแต่ก็ไม่เคยปฏิเสธ เหมือนจะรู้อยู่แล้วว่าเป็นอะไรที่ต้องทำ ตอนที่คุณเจย์บอกให้ไปด้วยกันก็รับคำแต่โดยดี แค่มาถามผมว่าอยู่ได้หรือเปล่าก็เท่านั้น

“งานเสร็จหมดแล้วโทรบอกพี่นะครับ จะเตรียมอาหารไว้ให้”ผมจัดปกเสื้อให้คนที่เดินออกมาจากห้องนอนพร้อมกับส่งยิ้มให้

“อือ...ไปนะ”เจ้าหมาทำหน้าหงอย ยกมือแตะแก้มผมเป็นเชิงลาแล้วหันหลังเดินออกไปพร้อมคุณเจย์

“สู้ๆนะครับ”ผมพูดไล่หลังไป พออีกคนหันมามองก็ชูกำปั้นขึ้นสองข้างเป็นเชิงให้กำลังใจ เจ้าหมาส่งยิ้มน้อยๆมาให้ก่อนจะปิดประตูห้อง

ผมเดินมาทรุดตัวลงนั่งข้างคนที่ยังเล่นเกมส์ไม่เลิก เพิ่มเติมจากเดิมคือลุกไปหยิบขนมมากินตอนไหนไม่รู้

“พี่มีไรจะพูดกับผมเหรอ”

“หืม...”ผมหันไปมองคนที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ

ยังไม่ได้พูดอะไรเลย

“ตั้งแต่เช้าก็เห็นมองผมเหมือนจะพูดอะไรอยู่ตลอด พอไอ้โซออกมาก็เงียบ แสดงว่าไม่อยากให้มันรู้ชัวร์”เก้าพูดทั้งที่ยังไม่หันมามอง

รู้สึกว่าเด็กนี่จะฉลาดไปแล้ว…ช่างสังเกตจริงๆ

“จริงๆพี่ก็มีเรื่องให้เก้าช่วยนิดหน่อยครับ แต่ยังหาเวลาไม่ได้สักที”ผมยอมรับไปตามตรง ไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องปิดบังเพราะยังไงก็อยากให้ช่วยอยู่แล้ว

“เรื่องอะไรอะ”ว่าแล้วก็ยอมกดหยุดเกมส์ก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับผม

“คือ...”

“เดี๋ยวพี่”

“ครับ?”ผมมองคนที่ยกมือขัดจังหวะงงๆ อยู่ๆก็ทำหน้าตาจริงจังใส่เสียอย่างนั้น

“ผมไม่ทรยศเพื่อนนะ”

“อะไรนะ”

“ถ้าพี่จะพูดอะไรไม่ดีหรือทำร้ายความรู้สึกมันลับหลัง ผมขอให้พี่หยุดเดี๋ยวนี้เลย”

“เอ่อ...”ผมเงียบไปชั่วขณะ รู้สึกเหมือนมีจุดสามจุดอยู่ในหัว แต่สุดท้ายก็เข้าใจความหมาย

ต่อหน้าก็กัดกันแทบตาย แต่จริงๆห่วงกันสุดๆเลยนี่นะ

“เก้าคิดว่าพี่จะพูดอะไรครับ”ผมอมยิ้มถามอย่างนึกสนุก อยากรู้ความคิดเด็กนี่อยู่เหมือนกัน

“ถ้าแง่ดีก็น่าจะปรึกษาผมเรื่องอะไรสักอย่างที่เกี่ยวกับมัน...หรือขอให้ผมช่วยเรื่องของมัน”

ผมตาโต รู้สึกเหมือนเด็กนี่จะเก่งไปแล้ว ขนาดเดายังถูกเลย

“ถ้าแง่ร้ายก็อาจจะบอกผมว่าไม่โอเคเรื่องพ่อมัน กังวลนั่นนี่ จะไปจากมัน เจอคนใหม่ มีคนมาจีบ อยากให้ช่วยทำให้เลิกกัน ให้ช่วยปิดบังอะไรสักอย่าง หรือไม่ก็...”

“หยุดๆๆเลยครับเก้า”ผมยกมือห้ามคนที่พูดความเป็นไปได้ทั้งหมดออกมาอย่างรวดเร็ว บางทีก็อยากไปแงะหัวเด็กนี่ดูว่าในสมองจุอะไรไว้บ้างจริงๆ “พี่มีเรื่องให้เก้าช่วยจริงๆครับ...”

“ผมไม่...”

“แต่มันเป็นแง่ดี”ผมรีบพูดตัดก่อนอีกคนจะคิดไปว่าจะให้ช่วยอะไรแย่ๆอีก เก้าสลายใบหน้าจริงจังแทบจะทันที กลับไปนั่งไขว่ห้างหยิบขนมเข้าปากด้วยท่าทางเนือยๆเหมือนเดิม

พอรู้ว่าไม่ได้จะพูดอะไรไม่ดีกับเพื่อนตัวเองแล้วนี่เปลี่ยนท่าทางไวจริงๆ

“ช่วงวันเกิดโซพี่จะไปหาคุณแม่ครับ โซเองก็จะไปด้วย”ผมมองท่าทางผ่อนคลายของเด็กแสบแล้วก็ลอบยิ้ม "พี่คิดไว้แล้วว่าจะให้อะไรโซ"

“ให้อะไรอะ”

“ไม่ใช่ของมีราคาอะไรหรอกครับ พี่เองก็ไม่ใช่คนรวย จะให้ซื้ออะไรให้คงยาก อีกอย่างของมีราคายังไงเจ้าหมานั่นก็ซื้อเองได้ทุกเมื่ออยู่แล้ว”ผมหัวเราะเมื่อเห็นท่าทางอยากรู้อยากเห็นของเก้า “ก็เรื่องของขวัญนี่ล่ะที่พี่อยากให้เก้าช่วย”

“ให้ผมช่วย?”

“พี่…อืม…ได้ยินว่าพวกเด็กดุริยางค์ต้องเล่นดนตรีได้หลายอย่างสินะครับ

“ก็ใช่…”เก้าทำหน้าสงสัยแต่ก็พยักหน้าตอบ “เราเรียนกันหลายอย่างไม่ใช่แค่เฉพาะของเอกตัวเอง ประมาณว่าต้องเล่นให้ได้ทุกอย่างก็ว่าได้”

“แล้วเก้าเล่นอะไรได้บ้างเหรอครับ”ผมถามด้วยความอยากรู้ส่วนตัว

“อย่าให้พูดว่าอะไรบ้างเลยพี่ เอาเป็นว่าเล่นได้ทุกอย่างที่คนทั่วๆไปพอจะนึกชื่อออกก็แล้วกัน คนเรียนคณะนี้ต้องเล่นได้หลายอย่างอยู่แล้ว อย่างน้อยก็สองสามอย่าง ยิ่งผมที่อยู่กับเครื่องดนตรีมาตั้งแต่เด็กๆ…จะเครื่องดนตรีสากลอะไรก็เล่นได้หมดอะ”เก้าว่าแล้วยืดอกภูมิใจเหมือนจะอวด นี่ถ้าเจ้าหมายังอยู่สงสัยได้มีพูดแขวะจนกัดกันตายไปข้างแน่นอน

แต่เอาเถอะ…ดูท่าจะเก่งจริงๆ คงว่าอะไรไม่ได้

“คือ…พี่ว่าจะร้องเพลงเป็นของขวัญ”ผมเริ่มพูดเข้าเรื่องด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจนัก

“พี่จะร้องเพลงให้มัน…ที่ถามเรื่องดนตรีแสดงว่าอยากเล่นด้วยใช่ปะ”เก้าปะติดปะต่อเรื่องอย่างรวดเร็ว ผมพยักหน้าหงึกหงักตอบกลับไป “แล้วพี่จะให้ผมช่วยอะไรเหรอ อยากเล่นอะไรอะ”

“คือช่วงวันเกิดโซพี่จะขึ้นไปหาคุณแม่บนเขาครับ ท่านเคยเขียนจดหมายมาบอกว่ามีคนเอากีตาร์มาบริจาคไว้ นอกจากกีตาร์แล้วก็คงหาอย่างอื่นไม่ได้ เพียงแต่ว่า…”

“ว่า…”

“เพียงแต่ว่าพี่ไม่ค่อยจะมีความสามารถด้านนี้สักเท่าไหร่”ผมว่าแล้วหัวเราะเขินๆ ไม่ใช่แค่กีตาร์หรอก แต่ผมแทบจะไม่เคยแตะเครื่องดนตรีอะไรสักอย่าง ตอนประกวดเดือนก็เคยพยายามแล้วแต่ดูเหมือนจะไม่ไหว จนสุดท้ายรุ่นพี่ต้องบอกให้พอแล้วร้องเพลงอย่างเดียว ซึ่ง…

“ไม่เห็นเป็นไรเลย ผมว่าจริงๆร้องเพลงอย่างเดียวก็ได้นะ”

“คือจริงๆ…”ผมยกมือเกาแก้มแล้วหลบสายตาเก้าที่มองมา “จริงๆแล้วนอกจากการเรียนกับการทำงานพี่ก็ไม่เก่งอะไรเลยครับ…รวมถึงการร้องเพลงด้วย”

ผมพยายามหลีกเลี่ยงคำว่าห่วย แต่ดูเหมือนสีหน้าที่แสดงออกไปจะทำให้เก้าพอเดาได้ เด็กแสบทำหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วหันกลับมามองผม

“คงไม่ถึงขนาดนั้นมั้งพี่ ไม่ต้องร้องให้เพราะอะไรหรอก เอาแค่ไม่เพี้ยนก็พอแล้ว”

“เก้าคือ…”

คือมันไม่ใช่แค่นั้น…คำว่าห่วยที่ว่าผมหมายความตามนั้นจริงๆ ตอนปีหนึ่งที่ประกวดเดือนนี่เสียงผมแทบจะกลืนไปกับเสียงดนตรี เพราะมันทั้งเพี้ยนแล้วก็ไม่มีความเพราะ ที่ได้ตำแหน่งมานี่ผมยังแอบเสียวๆอยู่เลยว่าจะมีใครคิดว่าเส้นหรือเปล่า

“เอาน่ะพี่ ลองกันก่อน”เก้ายกเท้าขึ้นมานั่งขัดสมาธิแล้วหันมามองหน้าผม “ไหนพี่ลองร้อง โด เร มี ฟา ซอล ลา ที ตามผมนะ”

พอผมพยักหน้าแล้วเก้าก็เริ่มร้องออกมา เขาทำเหมือนมันเป็นแค่เรื่องง่ายๆที่ใครก็ทำได้ ขนาดแค่ไล่เสียงไม่กี่คำผมยังรู้สึกว่ามันเพราะเลย

“เอาเลยพี่”

ผมหลับตาแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อเรียกสติตัวเอง ก่อนจะเปล่งเสียงออกมา

“ดะ…โด”

“…”

“เร”

“…”

“มี”

“…”

“ฟา”

“…”

“ซะ...เอ่อ…เก้าครับ”ผมหยุดเสียงตัวเองไว้ พอมองหน้าเก้าที่เหมือนสติหลุดไปแล้วก็รู้สึกเขินๆขึ้นมา ก็พอจะรู้หรอกว่ามันทั้งเพี้ยนทั้งห่วย ไม่งั้นจะอยากให้ช่วยหรือไงเล่า

“เอ่อ…พี่กีล์”เก้ากระพริบตา ยกมือเกาหัวตัวเองเหมือนจะทำอะไรไม่ถูก “จริงๆพี่แค่ร้องไปตามความรู้สึกยังไงโซมันก็น่าจะชอบแล้วนะพี่”

“คือจริงๆพี่ก็อยากร้องๆไปตามความรู้สึกนะครับ แต่พี่กลัวโซจะขำมากกว่าซึ้ง…”ผมก้มหน้าต่ำ เผลอกัดปากขมวดคิ้วเครียดๆเพราะไม่รู้จะแก้ปัญหายังไง

“ทำไมพี่ถึงอยากร้องเพลงอะ”เก้าถามด้วยสีหน้าจริงจัง

ผมมองหน้าคนถามงงๆ ไม่ค่อยเข้าใจนักว่าทำไมอยู่ๆถึงถามขึ้นมา แต่ก็ตอบไปตามความจริงโดยไม่ปิดบัง

“ตอนวันเกิดพี่…ที่โซร้องเพลงให้”ผมพูดช้าๆ เผลอยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงเหตุการณ์นั้น “พี่รู้สึกมีความสุขมากเลยครับ ใจเต้นแรง ตื้นตัน เขิน มันตีกันหลายอย่าง…”

“…”

“พี่แค่คิดว่าอยากให้โซรู้สึกแบบพี่ตอนนั้นบ้าง อยากให้เขามีความสุขเหมือนที่พี่มี อยากทำอะไรตอบแทนให้เขาแบบที่เขาทำให้พี่บ้าง อยากให้มันเป็นความทรงจำดีๆที่เก็บไว้ได้ก่อนพี่จะไปฝึกงานแล้วต้องห่างกัน”

“มันจะบินไปหาทุกอาทิตย์ไม่ใช่เหรอ”

ผมหัวเราะกับคำพูดของเก้า มองใบหน้ารู้ทันแถมยังมั่นใจเกินเหตุก็พอเข้าใจแล้วว่าต้นแบบความคิดนั่นมาจากใคร

“เก้าเป็นคนแนะนำโซสินะครับ”

“แนะนำอะไร!”เก้าทำตาโต ส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่ใช่ผมนะ”

“ถ้าให้พี่เดา…เก้าน่าจะรู้ก่อนพี่บอกโซอีก เพื่อนพี่สักคนคงไปบอกล่ะสิ”ผมว่ายิ้มๆ จริงๆก็พอจะเดาออกแต่แรกแล้วว่าเพื่อนสักคนน่าจะเอาไปพูดกับเก้า เพราะตอนที่ผมบอกโซเจ้าหมาก็แค่ทำเสียงอ่อยใส่ ไม่ได้ดูแปลกใจหรือหงุดหงิดอะไร ท่าทางตอนนั้นเหมือนคนที่คิดแผนมาแล้ว

และแผนกับคำพูดคำจาแบบนั้นไม่น่าจะมาจากความคิดคนอย่างโซโล่แต่แรก มันต้องมีอะไรสักอย่างไปสะกิดต่อมก่อนแน่ๆ

“ก็พี่ไวน์บอก”เก้าตอบอ้อมแอ้ม พอเห็นผมมองขำๆก็หันมาปฏิเสธข้อกล่าวหาเดิม “แต่ผมไม่ได้บอกให้มันบินไปทุกอาทิตย์นะพี่”

“เล่าเหตุการณ์ตอนนั้นให้พี่ฟังได้หรือเปล่าครับ”ผมถามด้วยความอยากรู้ ไม่ได้ติดใจอะไร แค่อยากรู้ว่าตอนนั้นอาการของโซโล่เป็นยังไง และเด็กนี่ไปสะกิดต่อมอะไรไว้เจ้าหมาถึงได้บอกจะบินมาหาทุกอาทิตย์

“ก็พอรู้จากพี่ไวน์ผมก็บอกมัน…”

“แล้วโซไม่หงุดหงิดเหรอครับ”

“หงุดหงิดนี่น้อยไปอะ!”เก้าว่าแล้วกรอกตา “มันเงียบทั้งวันเลย ทำเหมือนคิดอะไรตลอด พูดด้วยก็ไม่พูด ถามอะไรก็ไม่ตอบ”

“ขนาดนั้นเลยเหรอ”

“ผมก็หงุดหงิดที่มันเป็นแบบนั้นเหมือนกัน”

“แล้วเก้าทำยังไงครับ”

“ตอนนั้นหัวร้อนเลยเข้าไปดึงผมมันแล้วด่าไอ้โง่ไปที…”ว่าแล้วก็อมยิ้มเหมือนภูมิใจกับวีรกรรมตัวเอง “ตอนแรกมันก็มองหน้าผมเคืองๆ แต่ตอนนั้นผมหงุดหงิดมากกว่ามันอีกเลยชิงพูดก่อนที่มันจะด่า”

“พูดว่า…”

“ผมบอกว่า…รวยก็รวยจะคิดมากทำส้นตีนอะไร เขามาหาไม่ได้มึงก็ไปเองสิวะ…เห็นปะพี่ ผมไม่ได้บอกให้มันบินไปทุกอาทิตย์เลยนะ”

ผมส่ายหน้ามองคนที่ยังแก้ตัวไม่เลิก จะว่าขำก็ขำ จะว่าเพลียก็เพลีย

“ครับๆ โซคิดเองนั่นแหละ”พอผมยอมเก้าก็พยักหน้าพอใจแล้วนั่งพิงโซฟาด้วยท่าทางสบายๆเหมือนเดิม “แต่เก้ารู้ใช่หรือเปล่าว่ามันเป็นไปไม่ได้…”

“เรื่องบินไปหาทุกอาทิตย์สินะ”

“ใช่ครับ”

“พี่ไม่ต้องห่วงหรอก เรื่องนี้ต่อให้ผมไม่บอกโซมันก็เข้าใจ มันก็แค่พูดให้ตัวเองรู้สึกดีไว้ก่อนเท่านั้นล่ะ พอถึงเวลาก็ต้องผ่านไปให้ได้อยู่ดี”

พอได้ยินเก้าพูดแบบนั้นผมก็โล่งใจ ผมกังวลเรื่องที่เจ้าหมาพูดไม่น้อย โซโล่จริงจังกับคำพูด ถ้าเขาบอกว่าจะทำก็คงทำจริงๆ ผมกลัวว่าเจ้าตัวจะละเลยการเรียนหรือหน้าที่ตัวเองเพื่อมาหาผมทุกอาทิตย์ ตอนแรกคิดว่าจะให้เก้าช่วยเตือนอีกแรงเจ้าหมาจะได้เข้าใจ แต่พอเก้าว่าอย่างนั้นแล้วผมก็คิดว่าไม่จำเป็นต้องพูดแล้ว ผมผิดเองที่มองว่าโซโล่เป็นเด็ก…ทั้งที่จริงๆมันไม่ใช่แบบนั้นเลย

 “เอาเรื่องของขวัญพี่ก่อนดีกว่า…”เก้าวกกลับมาเรื่องเดิม ผมที่นั่งสบายๆอยู่เลยยืดหลังตรงโดยอัตโนมัติ “ถ้าพี่ไม่อยากให้โซมันรู้ จะให้ผมมาหาหรือมาหาผมตลอดก็คงไม่ได้…แถมใกล้ช่วงสอบแล้วด้วย”

“นั่นสินะ…”ผมลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย ถ้าจะให้เก้าสอนหรือช่วยอะไรก็ต้องเจอกัน แบบนี้โซโล่ต้องรู้แน่ๆ

“เอางี้…เรื่องแรกพี่ตัดเรื่องการเล่นดนตรีทิ้งก่อนเลย เพราะถ้าพี่ไม่มีพื้นฐานมาก่อนแล้วมาฝึกใหม่โดยมีระยะเวลาจำกัดแถมยังต้องหลบๆซ่อนๆนี่…ผมว่าไม่ทันวันเกิดมันแน่นอน”

“ครับ”ผมพยักหน้าเข้าใจ แต่ก็กังวลหน่อยๆที่ต้องร้องเพลงสดๆโดยไม่มีดนตรีช่วย

“ส่วนเรื่องร้องเพลง…ผมว่าน่าจะช่วยทางโทรศัพท์ได้นะ หรือเอาไว้มีโอกาสก็แอบนัดเจอกันไม่ให้โซมันรู้”

“ได้ครับ”ผมพยักหน้าเห็นด้วย “งั้นถ้าพี่ว่างเมื่อไหร่จะลองทักไปก่อน ถ้าเก้าว่างตรงกันแล้วโซไม่ได้อยู่ด้วยค่อยติดต่อกันนะครับ”

“โอเคครับ”

หวังว่าจะผ่านไปด้วยดี…

 

 

ครืด ครืด

ผมหยิบโทรศัพท์ตัวเองที่ยังสั่นไม่หยุดขึ้นมาดู แปลกใจหน่อยๆเพราะร้อยวันพันปีนอกจากเพื่อนที่เมมไว้หมดแล้วกับโซโล่ก็ไม่เคยมีใครโทรมาหาผมเลย แต่นี่เบอร์แปลก…

“กีตาร์…”คนที่นอนหนุนตักผมปรือตามอง ผมรีบกดรับโทรศัพท์ไม่ให้อีกคนรำคาญแล้วลูบหัวให้นอนต่อ

หลังกลับมาจากไปคุยงานเจ้าหมาก็มีสภาพอ่อนล้า พอเข้ามาอ้อนขอนอนตักรวมถึงไล่เก้ากลับหอแล้วก็หลับไปทันที  นี่ก็หลับไปได้ไม่นานเอง

พอหลับตาลงไปอีกทีคราวนี้ดูเหมือนเจ้าหมาจะหลับสนิทจริงๆ ผมขยับตัวแล้วก็ยังไม่กระดุกกระดิก ท่าทางดูเหนื่อยจนน่าสงสาร

[กะ….]

เสียงที่ดังแว่วๆมาจากในโทรศัพท์ทำให้ผมรู้สึกตัวว่ากดรับสายเบอร์แปลกนั่นไว้

“สวัสดีครับ”

[นั่นใช่กีล์ไหม]

“ครับ ไม่ทราบว่านั่นใครครับ”

[เต้ เอามาให้กูคุยบ้างดิ]

ยังไม่ทันที่ผมจะได้ตอบอะไรกลับไปทางฝั่งนั้นก็เหมือนจะแย่งโทรศัพท์กันไปมา ผมได้ยินเสียงผู้ชายสองคนเถียงกันเหมือนจะแย่งกันมาคุย เอาจริงๆผมยังไม่รู้เลยว่าพวกเขาเป็นใคร…

“เอ่อ…”

[กีล์! กีล์จะคุยกับเต้หรือมุข พูดมาเลย!]

เดี๋ยวสิ…เต้กับมุขที่ว่าคือใครผมยังไม่รู้เลย

“ไม่ทราบว่าพวกคุณปะ…”

[เอาโทรศัพท์มานี่]

จู่ๆก็มีเสียงใครอีกคนดังเข้ามาแทน น่าแปลกที่คนชื่อเต้กับมุขที่เถียงกันอยู่เงียบไปแทบจะทันที

[กีล์]

“ครับ”

[ผมจักรพรรดิ จำกันได้หรือเปล่า]

จักรพรรดิ…

“จักรพรรดิ?พี่น้องสามคิงเหรอครับ!”ผมเผลอเสียงดังด้วยความตกใจ ดูเหมือนจะขยับตัวแรงไปหน่อยจนคนที่นอนอยู่ลืมตาขึ้นมามองหน้า

[ยังเรียกแบบนั้นอีกนะ…]

ปลายสายส่งเสียงหัวเราะผ่านมาเบาๆ

“กีตาร์?”โซโล่เขย่าแขนผม มองมาด้วยความไม่เข้าใจ ผมเห็นตาแดงๆของอีกคนแล้วก็รู้สึกผิด อยากจะให้นอนต่อเลย แต่พอดูท่าทางที่โซโล่จ้องมาที่โทรศัพท์แล้วผมก็ยิ้ม รู้สึกว่าถ้ายังไม่เคลียร์เรื่องนี้เจ้าตัวคงไม่ยอมนอนต่อแน่ ผมเลยเปลี่ยนมากดเปิดลำโพงให้เขาฟังด้วย

[มุข กูได้ยินเสียงใครอยู่กับกีล์ด้วยว่ะ…..เออได้ยินเหมือนกัน]

ผมขำเบาๆกับประโยคสนทนาจากทางนั้น ส่วนคนที่นั่งฟังอยู่กับผมนี่ก็ขมวดคิ้ว หันมามองเป็นเชิงถามว่านี่อะไร

[กีล์ เป็นยังไงบ้าง]

เป็นจักรพรรดิที่กลับมาพูดอีกครั้ง

“สบายดีครับ แล้วสามคิงเป็นยังไงกันบ้าง”ผมรอบยิ้มโล่งอกเมื่อไม่เห็นโซโล่แสดงท่าทีอื่นนอกเหนือจากความไม่เข้าใจ

ดีที่ไม่หงุดหงิด…

[สบายดี…]

“แล้วนี่…”

[กีล์]

“ครับ”

[มาเจอกันหน่อยไหม]

เอ่อ…

น่าจะหงุดหงิดแล้วล่ะ…

-----------------------------------

 

 ติดแฮชแท็ก #โซโล่กีล์



Fan Page : Chesshire. Twitter : @Chesshire04
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-03-2017 20:04:27 โดย CHESS. »

ออฟไลน์ Pisoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 241
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER25 P.19 [08/02/17]
«ตอบ #543 เมื่อ08-02-2017 19:41:09 »

ทำพี่น่ารักแบบนี้ ขอพี่กีล์ห่อกลับบ้านค่ะ  :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER25 P.19 [08/02/17]
«ตอบ #544 เมื่อ08-02-2017 19:54:02 »

พี่กีล์ไม่ต้องร้องเพลงหรอกแค่เอาพี่กีล์ผูกโบว์โซก็ตีใจแล้วววววว

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER25 P.19 [08/02/17]
«ตอบ #545 เมื่อ08-02-2017 20:24:41 »

ง่ำๆ สามคิงนี่ใครเอ่ยย พี่น้องจากบ้านกำพร้าเดียวกับพี่กีล์หรออ???

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER25 P.19 [08/02/17]
«ตอบ #546 เมื่อ08-02-2017 20:26:44 »

เด็กงอแง ฮ่าๆๆ พี่กีล์น่ารักจังงงง สามคิงคือใครอ่ะ

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER25 P.19 [08/02/17]
«ตอบ #547 เมื่อ08-02-2017 20:34:10 »

พี่น้อง3คิง เกี่ยวข้องยังไงกับกีล์อีกล่ะเนี่ย

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER25 P.19 [08/02/17]
«ตอบ #548 เมื่อ08-02-2017 20:47:43 »

น้องเก้านี่ควรได้ตำแหน่งศิรานีประจำเรื่อง เพราะช่วยทุกคน    แล้วอิพวกศิรานีมันเก่งแค่เรื่องคนอื่นแต่โง่เรื่องตัวเอง  เชื่อเราเราเคยเป้น 5555 


ส่วนสามคิงจะเแนใครมีบทบาทอย่างไร อันนี้รอลุ้นอยู่นะคะ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER25 P.19 [08/02/17]
«ตอบ #549 เมื่อ08-02-2017 21:36:52 »

 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER25 P.19 [08/02/17]
« ตอบ #549 เมื่อ: 08-02-2017 21:36:52 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER25 P.19 [08/02/17]
«ตอบ #550 เมื่อ08-02-2017 22:08:58 »

ตัวละครมาอีกสาม เด็กๆจากบ้านเดียวกับพี่กีล์ป้ะเนี่ย

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER25 P.19 [08/02/17]
«ตอบ #551 เมื่อ08-02-2017 22:21:46 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER25 P.19 [08/02/17]
«ตอบ #552 เมื่อ08-02-2017 22:57:11 »

 :L2:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER25 P.19 [08/02/17]
«ตอบ #553 เมื่อ08-02-2017 23:04:16 »

 :pig4:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER25 P.19 [08/02/17]
«ตอบ #554 เมื่อ09-02-2017 00:04:42 »

สามคิง?

ออฟไลน์ Honeyhoney

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER25 P.19 [08/02/17]
«ตอบ #555 เมื่อ09-02-2017 06:51:49 »

 :hao7: กีต้าร์ช่างน่ารักอะไรขนาดนี้

ออฟไลน์ konjingjai

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +226/-4
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER25 P.19 [08/02/17]
«ตอบ #556 เมื่อ09-02-2017 07:18:36 »

อย่ามีมาม่ามากนะ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER25 P.19 [08/02/17]
«ตอบ #557 เมื่อ09-02-2017 08:23:32 »

 :L1:  ละมุนจังเลยค่ะ

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER25 P.19 [08/02/17]
«ตอบ #558 เมื่อ09-02-2017 11:33:59 »

อะไรยังไงๆๆๆ >{   }<
อิสามคิงคือใคร มีโทรมานัดเจอด้วยอ่ะ!!!

ออฟไลน์ monetacaffeine

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-5
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER25 P.19 [08/02/17]
«ตอบ #559 เมื่อ09-02-2017 19:08:12 »

อ่านรวดเดียวแม้พรุ่งนี้สอบค่ะ!!! สนุกมาก 555555 ชอบบบบบ ช่วงนี้จิตใจอ่อนแอ ต้องการสายฮีลแรงๆค่ะ ><
กำลังติ่งเกรทพอร์ชในทวิตด้วยอ่า เจอเรื่องนี้เข้าไปแบบแงงงงง ขอให้คู่นั้นเค้าจริงจังแบบคู่นี้ได้ไหมคะ (ฮา)
ชอบพี่กีล์มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เป็นเคะที่แบบ โหย สุดยอดอ่ะ
เราว่าพี่เค้ามีความ tough ในตัวเองนะ (ไม่รู้จะใช้คำไทยยังไง แบบ เข้มแข็ง/แข็งแกร่ง อะไรแบบนี้อ่ะค่ะ)
ฉากที่ไปปกป้องน้องนี่อย่างหล่อเลยยยยย กรี๊ดมาก เท่มาก ; /////////// ;
คู่นี้เค้ารักกันแบบมีจังหวะดีค่ะ เราชอบ <3

รอติดตามตอนต่อไปนะคะ เชื่อว่าถึงจะมีเรื่องพ่อหรือเรื่องอะไรเข้ามาพี่กีล์ก็เอาอยู่ค่ะ!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER25 P.19 [08/02/17]
« ตอบ #559 เมื่อ: 09-02-2017 19:08:12 »





ออฟไลน์ tae1234

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER25 P.19 [08/02/17]
«ตอบ #560 เมื่อ09-02-2017 23:37:39 »

สนุกดีครับ...

ออฟไลน์ Margarita

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER25 P.19 [08/02/17]
«ตอบ #561 เมื่อ10-02-2017 12:20:26 »

 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ CHESS.

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +228/-2
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER25 P.19 [08/02/17]
«ตอบ #562 เมื่อ10-02-2017 21:49:39 »

-26-

 

“ทำหน้าบูดอะไรเรา”ผมหัวเราะก่อนจะยื่นมือไปดึงแก้มของคนที่ขมวดคิ้วไม่เลิกมาตั้งแต่ขึ้นรถ จนตอนนี้จะลงรถอยู่แล้วก็ยังขมวดอยู่

“เพื่อนจริงนะ”โซโล่หันมาถามด้วยใบหน้าจริงจัง ผมพยักหน้ากลับไปอย่างมั่นใจ พอได้รับคำตอบที่พอใจแล้วเจ้าตัวก็ถอนหายใจเบาๆ พยักหน้าเข้าใจแล้วก็ตั้งท่าจะลงจากรถ…แต่ผมรั้งแขนไว้ก่อน “กีตาร์?”

“สามคนนั้นเป็นลูกชายของผู้มีพระคุณกับสถานรับเลี้ยงของพี่ครับ”ผมลูบมือโซโล่เบาๆ คิดว่าควรจะอธิบายให้ชัดเจนขึ้นจะได้ไม่คิดมาก

ดูเหมือนเมื่อวานเจ้าหมาจะง่วงมากจริงๆ พอผมบอกว่าแค่เพื่อนสมัยเด็กก็ยอมหลับต่อ แถมยังยอมรับปากให้มาเจอง่ายๆด้วย…แน่นอนว่าเจ้าตัวต้องตามมาอยู่แล้ว ผมก็คิดว่าจะไม่อะไร ที่ไหนได้…แค่เปลี่ยนจากหน้ามุ่ยตอนกลางคืนมาเป็นตอนเช้าแทนเท่านั้นเอง

“พวกเขาชื่อจักรพรรดิ ฮ่องเต้ แล้วก็ประมุขครับ…ตอนเด็กๆพี่เลยเรียกว่าสามคิง”ผมยิ้มตามเมื่อเห็นเจ้าหมายกมุมปากนิดๆเป็นรอยยิ้มขัน “คุณพ่อของพวกเขามักจะแวะมาบริจาคของบ่อยๆ มาแต่ละทีก็พาสามคิงมาด้วยตลอด เพราะอายุพอๆกันก็เลยเข้ากันได้ พี่เป็นพี่คนโตของบ้าน อายุต่างจากคนอื่นเยอะ เวลาเรียนก็รีบกลับมาดูแลน้องต่อเลยไม่ค่อยมีเพื่อนเล่นมากเท่าไหร่ แต่พอพวกนั้นมาทีไรก็จะลากพี่ไปเล่นด้วยทุกที เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนสมัยเด็กก็ได้ล่ะมั้ง”

โซโล่พยักหน้าแล้วบีบมือผมเบาๆ เขาคงคิดว่าผมจะเศร้ากับเรื่องพวกนี้ ผมส่งยิ้มอ่อนโยนไปให้ก่อนจะส่ายหน้า เพราะผมไม่เคยรู้สึกว่ามันเป็นปมด้อยหรืออะไรเลย ผมมีครอบครัวที่อบอุ่น เพราะงั้นถึงจะไม่มีเพื่อนก็ไม่เป็นไร แถมพอพวกสามคิงนี่โผล่มาก็เรียกได้ว่าชีวิตผมมีความสุขมากกว่าที่คิดเสียด้วยซ้ำ

“พวกนั้นมาเล่นกับพี่ได้ในช่วงปิดเทอมครับ ดูเหมือนพ่อของพวกเขาจะมีบ้านพักอยู่แถวนั้นเลยมาหาได้ทุกวัน แต่ที่มาก็แค่มาพักผ่อนปิดเทอม พอเปิดเทอมก็จะไม่ได้มาอีกยกเว้นแต่จะมีวันหยุดยาว…”ผมยิ้มน้อยๆเมื่อนึกถึงสมัยเด็ก นึกถึงวีรกรรมที่พวกนั้นเคยสร้างแล้วก็ได้แต่สงสัยว่าจะโตมาเป็นแบบไหนกัน “ตอนแรกๆพวกนั้นแสบมาก เกเรสารพัดจนถูกคุณพ่อส่งมาให้แม่ใหญ่อบรมบ่อยๆ พี่ที่อยู่กับแม่ใหญ่ตลอดเลยสนิทไปด้วย”

แรกๆผมนี่โดนแกล้งตลอดเลย ไม่รู้ทำไมอยู่ๆกลายมาเป็นเพื่อนกันได้เหมือนกัน

“เป็นแบบนั้นประมาณสามปี สุดท้ายตอนพี่อายุสิบเอ็ดสิบสองพวกเขาก็มาหาด้วยหน้าเศร้าๆ ไม่ร่าเริงเหมือนเคย บอกว่าครอบครัวจะย้ายไปอยู่ต่างประเทศ หลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย”และพอพวกนั้นจากไปไม่นาน สถานรับเลี้ยงก็ปิดไป…

“กีตาร์…อย่าทำหน้าเศร้า”คนที่บอกว่าอย่าทำหน้าเศร้านั่นแหละที่กำลังทำหน้าเศร้าอยู่ แต่น่าแปลก…ที่เพียงแค่สัมผัสอ่อนโยนของมือที่ลูบแก้มกลับทำให้ผมลืมเลือนความเศร้าไปได้หลายส่วน

“โซก็อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับ”ผมจับมือเขาไว้แล้วส่งยิ้มไปให้ แต่ไม่รู้ว่ายิ้มแบบไหนออกไปเขาถึงได้ไม่หยุดทำหน้าแบบนั้นเสียที ผมเลยจับมือที่แนบแก้มมาจ่อไว้ที่ปากแล้วเลิกคิ้วมอง “ถ้าไม่หยุดทำหน้าแบบนั้นพี่กัดนะ”

ว่าแล้วผมก็งับนิ้วชี้ของเจ้าหมาเบาๆก่อนจะส่งยิ้มกวนๆไปให้ ไม่รู้ว่าทำได้ดีพอหรือเปล่าเพราะไม่เคยยิ้มแบบนี้เหมือนกัน แต่เสียงหัวเราะที่หลุดออกมาน่าจะเป็นคำตอบได้ดี

จะออกมาเป็นยิ้มกวนหรืออะไรก็ตาม แค่เจ้าหมานี่ยิ้มได้ก็พอแล้ว

“ถ้าจะกัด…ต้องทำแบบนี้”ไม่ต้องรอให้ผมสงสัยนาน เพราะทันทีที่พูดจบเจ้าหมาก็ดึงมือผมไปกัดทันที

“โซ!”ผมร้องด้วยความตกใจเมื่อกัดที่ว่ามันคือการกัดจริงๆ แถมยังกัดตรงเนื้อสันมือด้วย

“เจ็บเหรอ”

“ไม่ต้องถามเลย!”ผมขมวดคิ้วหน่อยๆ ลูบมือตัวเองป้อยๆ มีอย่างที่ไหนถามเหมือนจะห่วงแต่มองด้วยสายตาขบขัน “หมาบ้า!”

“งั้นกีตาร์ก็เป็นแม่หมาสิ”

“แม่หมา?”ผมทวนคำงงๆ แต่พอนึกได้ว่าหมายถึงอะไรความร้อนก็พุ่งขึ้นมาถึงใบหน้าแทบจะทันที “ลงรถเลยครับ จะได้เวลานัดแล้ว”

“รอด้วยสิแม่หมา”

“โซ!”

 

 

จักรพรรดินัดผมที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งแถวบ้านเขา ตอนแรกเหมือนบอกว่าจะมาหาแถวมหา’ลัย แต่ฮ่องเต้แย่งโทรศัพท์ไปแล้วขอให้มาที่นี่แทนเพราะจำเป็น ผมไม่ได้ถามอะไรไปเพราะคิดว่าเอาไว้ค่อยมาถามตอนเจอเอาก็ได้ แถมตอนนั้นหมาข้างตัวยังหน้าบูดเป็นตูดเป็ด ถ้ายังไม่ยอมวางโทรศัพท์สงสัยผมคงต้องโดนหมาบ้ากัด

“กีล์!”ผู้ชายคนหนึ่งโบกมือให้ผมจากโต๊ะไกลๆ ผมพยักหน้ารับแล้วเดินเข้าไปหาพร้อมกับคนข้างกาย

ที่โต๊ะมีผู้ชายนั่งอยู่สองคน อายุรุ่นราวคราวเดียวกับโซโล่ คนที่ทักผมเมื่อครู่และกำลังส่งยิ้มร่าเริงมาให้คงเป็นประมุข ส่วนคนที่กำลังหรี่ตาสำรวจโซโล่อยู่น่าจะเป็นฮ่องเต้ สองพี่น้องนี่เกิดปีเดียวกันแต่เป็นลูกหัวปีท้ายปี หน้าตาก็คล้ายๆกัน เอาจริงๆเมื่อก่อนผมแทบจะแยกไม่ออกด้วยซ้ำว่าสามคิงนี่ใครเป็นใครบ้าง เพียงแต่จักรพรรดิที่อายุพอๆกับผมจะดูโตกว่าเพื่อนเลยแยกง่ายหน่อย

สงสัยไปอยู่ต่างประเทศแล้วจะกินดีอยู่ดี จากเด็กตัวเล็กๆที่เดินตามแกล้งผมต้อยๆกลายเป็นผู้ชายตัวโตหน้าตาดีกันไปหมดแล้ว

“สวัสดีครับ”ผมทักแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้าม เจ้าหมาเองก็นั่งตามโดยไม่พูดอะไร “มากันนานหรือยัง”

“ไม่นานหรอก”ประมุขว่าแล้วยักไหล่ แต่ดูจากท่าทางแล้วไม่น่าจะใช่อย่างที่เจ้าตัวว่าเลยสักนิด

“ขอโทษทีครับ ผมขับรถมาไกลนะ ประมุขอย่าลืมสิ”ผมแก้ตัว แต่จริงๆแล้วที่นานเพราะจอดรถคุยกับเจ้าหมาอยู่ต่างหาก “แล้วจักรพรรดิล่ะครับ”

“เดี๋ยวก็มา”

“อ่อ…”

“แล้วนี่…”ฮ่องเต้ที่ยังไม่ได้พูดอะไรสักคำหรี่ตามองโซโล่เป็นเชิงถาม ส่วนคนข้างกายผมก็มองกลับไปนิ่งๆตามนิสัยโดยไม่ตอบอะไร

“นี่โซ…”

“กีล์”เสียงคุ้นเคยดังตัดคำพูดของผมมาจากด้านหลัง เป็นเสียงที่ดูอ่อนแรงไม่ต่างจากในโทรศัพท์เท่าไหร่ ผมคิดว่าคิดไปเอง แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่…

จักรพรรดิที่นั่งอยู่บนรถวีลแชร์มองมาที่ผม ใบหน้าที่คล้ายคลึงกับน้องทั้งสองคนดูซีดเซียว อีกสิ่งที่แตกต่างจากฮ่องเต้กับประมุขคงเป็นบรรยากาศ… เมื่อก่อนต่อให้โตกว่าแค่ไหนจักรพรรดิก็เป็นเด็กสดใสไม่แพ้อีกสองคน แต่ตอนนี้…เขาดูเปลี่ยนไปมาก

“จักรพรรดิ?”ผมเรียกเสียงแผ่ว ทั้งแปลกใจและไม่แน่ใจ

“อืม”เขาพยักหน้าน้อยๆเป็นเชิงตอบรับก่อนจะเข็นรถมาที่โต๊ะ “ขาผมมีปัญหานิดหน่อย ไม่ต้องใส่ใจหรอก”

ผมพยักหน้า ไม่ได้ถามอะไรต่อ ลองบอกมาแบบนี้แล้วก็คงจะไม่อยากพูดถึง ยิ่งเห็นสายตาเย็นเยียบนั่นยิ่งแล้วใหญ่ เหตุผลที่สองคนนั้นบอกให้ผมมาร้านแถวบ้านตัวเองก็คงเป็นเพราะเรื่องนี้

“แล้วนี่…”จักรพรรดิมองไปที่คนที่นั่งหน้านิ่งอยู่ข้างตัวผม

“นี่โซโล่ครับ”ผมแนะนำตัวแทนอีกคน “เป็น…คนรักของผม”

“คนรัก!?”ประมุขตาโต มองสับระหว่างผมกับเจ้าหมาด้วยสายตาตกใจไม่ต่างจากฮ่องเต้ มีแค่จักรพรรดิที่พยักหน้าเข้าใจเงียบๆ

จะว่าเขินมันก็เขินอยู่หน่อยๆ แต่ผมก็ไม่ใช่คนประเภทที่จะนั่งหน้าแดงหรือแสดงออกให้คนอื่นเห็นง่ายๆอยู่แล้ว จะหลุดก็เวลาที่หมาหน้านิ่งแสดงความรู้สึกออกมาตรงๆนั่นล่ะ…ไม่ว่ายังไงก็ไม่ชินเสียที

ผมสะดุ้งน้อยๆเมื่อคนข้างๆยื่นมือมากุมไว้ใต้โต๊ะ พอหันไปมองก็พบว่าเจ้าหมากำลังมองมาพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ

กลายเป็นพูดอะไรไม่ถูก จะเอามือออกก็ไม่อยากอีก…

“แล้วนี่กลับมากันเมื่อไหร่ครับ”ผมพยายามเปลี่ยนเรื่อง พร้อมกับพลิกมือหงายเพื่อจับมืออีกคนกลับ ต้องขอบคุณที่เจ้าหมาไม่พูดหรือทำอะไรมากกว่านี้ผมถึงยังควบคุมตัวเองได้ ประมุขยังแลดูอยากพูดเรื่องเดิมต่อ แต่พอเห็นสายตาพี่ชายคนโตของตัวเองแล้วก็เงียบไป

“พวกผมกลับมาหลายเดือนแล้วเพราะมาเรียนต่อที่นี่ แต่พี่จักรมาเมื่ออาทิตย์ก่อน…”ฮ่องเต้เป็นคนตอบ ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่าว่าท้ายประโยคของเขาดูหม่นหมองแปลกๆ

“แล้วนี่รู้เบอร์ผมได้ยังไงกันครับ”

“ก็ครู…”

“ผมให้คนสืบน่ะ”จักรพรรดิพูดแทรก “พอติดต่อได้ก็เลยอยากเจอ ยังไงก็ไม่ได้เจอกันนานแล้ว”

“แล้วครั้งนี้มาอยู่กันนานแค่ไหนเหรอครับ”

“ผมกับมุขคงอยู่ยาว ส่วนพี่จักร…”ฮ่องเต้มองไปทางพี่ชายตัวเองเหมือนไม่แน่ใจ

“ยังไม่แน่ใจ”จักรพรรดิตอบเสียงเรียบ “แต่สภาพแบบนี้กลับไปก็ทำงานอะไรไม่ได้”

“พี่จักร…”ประมุขเรียกเสียงอ่อย ผมเองได้ยินน้ำเสียงเย็นๆเหมือนไม่ใส่ใจตัวเองแบบนั้นก็นิ่งไปเหมือนกัน จักรพรรดิถอนหายใจเบาๆก่อนจะยื่นมือไปลูบหัวน้อง ประมุขถึงได้กลับมาร่าเริงเหมือนเดิม

ถึงเมื่อก่อนจะสนิทกันแค่ไหนเราก็ไม่ได้เจอกันมานานมากอยู่ดี เขาดูเปลี่ยนไปมาก เหมือนไม่ใช่คนๆเดิม และผมรู้สึกว่าความสนิทสนมตอนเด็กมันไม่เพียงพอให้ผมยุ่งเรื่องส่วนตัวของเขา เพราะงั้นอย่าถามดีกว่า

“กีล์ได้เจอครูใหญ่บ้างหรือเปล่า”

“ไม่ได้เจอเลยครับ ตั้งแต่เข้าปีหนึ่ง”ผมมองจักรพรรดิอย่างแปลกใจเมื่อเห็นเขาถอนหายใจ ส่วนสองคนที่นั่งด้านข้างก็มองหน้ากันโดยไม่พูดอะไร

และท่าทางพวกนั้นมันทำให้ผมรู้สึก…ใจหาย

“มีอะไรหรือเปล่าครับ”

“ไม่มีอะไร…กีล์จะไปเยี่ยมท่านหรือเปล่า”

“ผมคิดว่าจะขึ้นไปหาท่านตอนปิดเทอมปีใหม่นี้ครับ”

“ปิดตอนไหน”

“อีกประมาณสามอาทิตย์ครับ…”

“อืม…สอบเสร็จแล้วก็รีบไปล่ะ”

“จักรพรรดิ…มีอะไรหรือเปล่าครับ หรือแม่ใหญ่เป็นอะไร”ผมถามอย่างจริงจัง พยายามควบคุมเสียงตัวเองไม่ให้สั่น ท่าทางของพวกเขามันเหมือนคนที่รู้อะไรมา…และมันทำให้ผมรู้สึกแย่ขึ้นเรื่อยๆ

“กีล์…”

ผมหันไปมองฮ่องเต้เมื่อไม่ได้รับคำตอบจากจักรพรรดิ แต่นอกจากหลบสายตาผมแล้วสามคิงก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคำ

ผมรู้สึกเหมือนร่างกายเย็นเฉียบ ความกังวลคือสิ่งที่สัมผัสได้ชัดเจนที่สุดในความรู้สึก

แม่ใหญ่เป็นอะไร…

“ทำไมถึงไม่ตอบ แม่ใหญ่เป็นอะไร!”ผมเผลอขึ้นเสียงเหมือนคนขาดสติ จ้องหน้าจักรพรรดิที่มองกลับมาเงียบๆ

“ครูใหญ่ไม่ได้เป็นอะไร…”คำตอบของจักรพรรดิไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นสักนิด

“ไม่ได้เป็นอะไรแล้วทำหน้าอย่างนั้นกันทำไมครับ…”ผมยกมือขึ้นลูบหน้า พยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองแต่มันกลับแย่ขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งคิดว่าต้องกดมันเอาไว้มันกลับยิ่งปะทุ

“กีล์…”

“ว่ายังไงครับ”

“…”

“บอกผมเถอะ”ผมอ้อนวอน รู้สึกปวดในอกจนหน่วงไปหมด

อย่าคิดไปก่อน…พวกเขายังไม่ได้ตอบเลย แม่ใหญ่อาจจะแค่ไม่สบายก็ได้

“ผมว่าให้กีล์สอบเสร็จก่อนดีกว่า”ประมุขพูดเสียงอ่อน มองผมเหมือนอยากให้เข้าใจ แต่ไม่เลย…ผมไม่เข้าใจสักนิด ทำไมพวกเขาถึงไม่บอกว่าแม่ใหญ่เป็นอะไร ทำไมถึงต้องปิดบังผม

“บอกผมมาเลยเถอะครับ ปล่อยให้ค้างคาแบบนี้ผมคงไม่มีอารมณ์อ่านหนังสือสอบหรอก”ผมพยายามยิ้ม แต่กลับรู้สึกว่ามันแห้งแล้งเหลือเกิน อารมณ์มากมายตีรวนอยู่ในอกจนรู้สึกปวดไปหมด

“กีล์…”

“บอกมาเถอะ….”

“…”

ปึง!

“บอกมาสิวะ!”ผมทุบโต๊ะเสียงดัง ไม่ได้สนใจว่าใครจะหันมามอง ความรู้สึกมากมายที่รวมกันอยู่ถูกแสดงออกมาในรูปแบบของความโกรธ ผมรู้สึกเหมือนควบคุมตัวเองไม่ได้ อยากจะกระชากคอเสื้อพวกนั้นขึ้นมาถามให้รู้เรื่อง

ทำไมไม่บอก บอกว่าแค่ไม่สบาย…บอกว่าเหนื่อยง่าย บอกว่าอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่…

“กีตาร์”

ทุกอย่างชะงักไปเพียงแค่ได้ยินเสียงอ่อนโยนดังแทรกเข้ามา ผมหันไปมองด้านข้าง มองคนที่กำลังมองมาด้วยสายตาเป็นห่วง มือที่กระชับแน่นขึ้นทำให้ผมรู้ตัวว่าเผลอจับมือเขาแน่นแค่ไหน ความอบอุ่นจากฝ่ามือนั้นราวกับจะบอกว่าผมไม่ได้อยู่คนเดียว

“โซ…”ผมไม่แน่ใจว่าทำไมเสียงตัวเองถึงสั่นขนาดนั้น โซโล่ยกมือที่ว่างขึ้นแตะใบหน้าผมโดยไม่พูดอะไร บนใบหน้าที่เต็มไปด้วยความห่วงใยยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ชัดเจน สิ่งที่เหมือนพยายามจะถ่ายทอดมาให้โดยไม่ใช้คำพูด

ผมอยู่ตรงนี้

ผมหลับตาลง สูดหายใจเข้าเพื่อเรียกสติตัวเองกลับมา เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้งอารมณ์ที่แปรปรวนเมื่อครู่ก็หายไปเกือบจะหมด ผมเขย่ามือที่จับมืออีกคนไว้เบาๆแล้วส่งยิ้มให้เป็นเชิงขอบคุณ

“บอกมาเถอะครับ…ผมไม่เป็นไรจริงๆ”ผมหันไปมองจักรพรรดิ พูดด้วยน้ำเสียงปกติ ส่งยิ้มให้เขาเป็นเชิงขอโทษที่เสียมารยาท อีกฝ่ายเพียงแค่พยักหน้าไม่ถือสาแล้วหันไปมองฮ่องเต้

“พี่จักรไม่รู้อะไรมากหรอกกีล์…มีแค่ผมกับมุขที่รู้เรื่อง”ฮ่องเต้มองหน้าผมแล้วยืดตัวขึ้น “อาทิตย์ก่อนผมกับมุขกลับไปที่สถานรับเลี้ยง พวกผมไม่รู้ว่าที่นั่นปิดไปแล้ว ตอนที่ทำอะไรไม่ถูกก็จำได้ว่าเคยไปบ้านครูนิดที่อยู่แถวนั้น”

ครูนิดที่เขาว่าคือครูพี่เลี้ยงที่เคยอยู่ที่สถานรับเลี้ยงตอนที่ยังไม่ปิด ครูนิดเคยพาพวกผมเดินเล่นแล้วชี้บอกว่านั่นเป็นบ้านของครู พวกเราเลยไปเล่นที่บ้านครูบ่อยๆ

“เราไปหาครูนิดที่บ้าน ครูบอกว่าครูใหญ่ไปเป็นครูอาสาอยู่บนเขานานแล้ว ส่วนกีล์ก็กำลังเรียนมหา’ลัยอยู่ พวกเราไม่รู้ว่าจะติดต่อกีล์ยังไงเลยเดินทางไปหาครูใหญ่บนเขาตามที่ครูนิดบอก แต่คนบนนั้นบอกว่าครูใหญ่อยู่ที่โรงพยาบาลในเมือง อาทิตย์ก่อนที่พวกเราจะไปถึงครูใหญ่เป็นลมจนพวกชาวบ้านต้องแบกลงเขาไปโรงพยาบาล…”

“กีตาร์…”โซโล่บีบมือผมเบาๆจนผมรู้สึกตัว รู้สึกเหมือนร่างกายไร้เรี่ยวแรงแต่ก็พยายามฝืนส่งยิ้มจางไปให้

“ครูใหญ่ไม่ได้เป็นอะไรนอกจากโรคประจำตัวที่เป็นอยู่ แต่…ท่านก็อายุมากแล้ว มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะ…”ฮ่องเต้หยุดพูดไป เช่นเดียวหัวใจผมที่เหมือนจะหยุดเต้นตาม ผมเข้าใจความหมายของสิ่งที่เขาจะสื่อดี ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดออกมาก็ตาม “แต่ท่านก็ยังพูดคุยกับพวกผมได้นะ! แค่เขียนจดหมายไม่ไหวแล้วเลยให้เบอร์กีล์มา บอกให้พวกผมติดต่อไปหากีล์ ท่านอยากให้กีล์ไปหาหลังสอบเสร็จ…แต่ไม่ให้พวกผมบอกว่าท่านเป็นอะไร ท่านไม่อยากให้กีล์คิดมาก”

ผมเผยรอยยิ้มออกมาเมื่อได้ยินแบบนั้น แม่ใหญ่ยังคงเป็นคนอ่อนโยนที่เป็นห่วงผมอยู่เสมอ…

“แต่ท่านก็บอกไว้แล้วว่าถ้าปิดกีล์ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ให้บอกกีล์ว่าถ้ายังสอบไม่เสร็จจะล็อคห้องไม่ให้เจอ”

ผมหัวเราะออกมาเบาๆ นึกภาพใบหน้าแม่ใหญ่ตอนที่พูดแบบนั้นออกแทบจะทันที…ผมคิดถึงท่านเหลือเกิน

“ท่านบอกว่าจะไม่ไปไหนจนกว่าจะได้เจอกีล์อีกครั้ง”

ประมุขส่งยิ้มมาให้ผม เช่นเดียวกับอีกสองคนที่มองมาเหมือนจะเพิ่มความมั่นใจให้

“ขอบคุณครับ”

ขอบคุณที่มาบอก

ขอบคุณที่แม่ใหญ่ยังไม่ไปจากผม

ขอบคุณที่ยังรอเจอผม…อีกครั้ง

 

 

“ผมจะรีบตามไป”

ผมละสายตาจากวิวนอกกระจกห้อง หันไปมองเจ้าของเสียงอย่างแปลกใจ โซโล่ทรุดตัวลงนั่งข้างๆแล้วส่งยิ้มบางมาให้

“ถ้าสอบเสร็จ…ผมจะรีบตามไป”เขาขยายความ ยื่นมือมาโอบไหล่ผมแล้วดันเบาๆให้ล้มตัวลงนอนตักตนเอง

“โซ?”ผมขยับตัวให้หงายขึ้นแต่ก็ไม่ได้ลุกหนี แค่รู้สึกแปลกๆเพราะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้นอนตักใครสักคนแบบนี้

“ผมชอบนอนตักกีตาร์…”โซโล่พูดด้วยรอยยิ้ม แต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นขมวดคิ้วแทน “จริงๆก็ชอบทุกอย่างที่ได้ทำกับกีตาร์นั่นล่ะ”

ผมหัวเราะออกมาทันทีที่เขาพูดจบ เช่นเดียวกับคนพูดที่หัวเราะตาม น่าแปลกที่คำพูดเพียงไม่กี่ประโยคกลับทำให้ความรู้สึกหม่นหมองที่ปกคลุมไปทั่วจิตใจจางลงไปมากจนรู้สึกได้ เมื่อสิ้นเสียงหัวเราะความเงียบก็เข้ามาปกคลุมอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้ผมไม่ได้คิดมากเหมือนเคย คงเป็นเพราะสัมผัสแผ่วเบาจากฝ่ามือที่กำลังลูบหัวอยู่มันส่งต่อความรู้สึกอบอุ่นมาจนถึงจิตใจ

“เวลาที่ผมนอนตักกีตาร์…ผมรู้สึกอบอุ่นทุกครั้ง”

เหมือนกับที่เป็นอยู่เลย…

“ผมมีความสุข รู้สึกดี”

เหมือนกัน…ทั้งมีความสุข ทั้งรู้สึกดี

“ผมอยากให้กีตาร์รู้สึกแบบนั้นบ้าง…ขอโทษที่เสียมารยาท ทั้งที่กีตาร์โตกว่าแท้ๆ”ถึงจะว่าอย่างนั้นแต่ใบหน้านั่นไม่เห็นจะบ่งบอกว่ารู้สึกผิดสักนิด แต่เอาเถอะ…

“พี่ไม่ถือครับ”

เพราะงั้นอย่าหยุดนะ…

“กีตาร์…แม่ใหญ่อายุเท่าไหร่เหรอ”เสียงนิ่งๆเอ่ยถามเหมือนไม่มั่นใจนักว่าควรหรือเปล่า ผมเองก็เข้าใจดีว่าเขาอยากรู้อะไรถึงได้ยิ้มกลับไปเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร

“แปดสิบปลายๆครับ”ตอนที่อยู่ที่สถานรับเลี้ยงแม่ใหญ่ก็อายุหกสิบกว่าแล้ว ท่านบอกว่าสถานรับเลี้ยงเป็นมรดกที่พ่อท่านทิ้งไว้ให้ เป็นสถานที่ที่มีแต่ความอบอุ่น…และผมก็รู้สึกแบบนั้นจริงๆ “ตั้งแต่พี่เด็กๆแม่ใหญ่ก็ไม่สบายบ่อยๆ ครูนิดบอกว่าคนอายุมากแล้วก็เป็นแบบนี้”

เพียงแต่ไม่เคยหนักถึงขนาดเข้าโรงพยาบาล…

“กีตาร์…”

“ไม่เป็นไรครับ”ผมยกมือขึ้นลูบแก้มของคนที่ก้มลงมองเบาๆ ใบหน้าเคร่งเครียดและน้ำเสียงจริงจังของเขาช่วยคลายความหน่วงในอกให้ผมได้หลายส่วน “พี่โอเค”

ยังโอเคอยู่…

“มันจะผ่านไปได้ด้วยดี”

ผมยิ้มรับคำโดยไม่พูดอะไร และผมเชื่อว่าโซโล่เองก็รู้ดีไม่ต่างจากผม สำหรับเรื่องนี้…

คำว่าผ่านไปได้ด้วยดี…มันไม่มีจริง

“ผมจะอยู่ข้างๆกีตาร์”คำพูดหนักแน่นมาพร้อมกับความอบอุ่นของมือที่วางทับลงบนมือผมซึ่งอยู่บนแก้มเขา มันเป็นความรู้สึกอุ่นวาบที่ไม่ใช่แค่ที่มือ…แต่ฝังลึกลงไปถึงใจ

“ขอบคุณนะครับ”

“กีตาร์คือความสุขของผม”

“โซ…”

“ตอนที่กีตาร์มีความสุข ผมก็มีความสุข แต่ตอนที่กีตาร์ทุกข์ ผมเองก็ทุกข์ไม่ต่างกัน”มือที่จับมือผมแนบแก้มไว้สั่นเทา ดวงตาคมที่มักเฉยชาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดจนผมรู้สึกปวดใจ

“อย่าทำหน้าแบบนั้น…”

“งั้นกีตาร์ยิ้มให้ผมหน่อยนะครับ…ยิ้มให้ผม ยิ้มที่ไม่ใช่ยิ้มเศร้าแบบนั้น”โซโล่เอียงหัวแนบแก้มเข้ากับฝ่ามือผมมากขึ้น จ้องมองมาด้วยดวงตาที่เหมือนจะขอร้อง “อย่าเป็นแบบนี้…”

“…”

“ผมปวดใจจะตายอยู่แล้ว”

ผมลุกขึ้นนั่ง โถมตัวเข้ากอดอีกคนไว้แน่น แนบแก้มไว้กับอกอุ่นๆจนรู้สึกถึงจังหวะการเต้นของหัวใจที่หนักแน่นมั่นคง มืออุ่นๆที่ทำให้รู้สึกสบายใจลูบหัวผมราวกับจะปลอบโยน

ผมไม่ได้ร้องไห้สะอึกสะอื้นทั้งที่เจ็บปวดเหลือเกิน ไม่ได้พูดว่ารู้สึกอะไรทั้งที่เสียใจจนบรรยายไม่ได้ ไม่ใช่เพราะไม่เป็นไร ไม่ใช่เพราะคิดว่ามันยังมาไม่ถึง แต่คนที่กอดผมไว้แน่นคือคำตอบของทุกอย่าง

เพราะคนๆนี้ผมถึงอยากเข้มแข็ง ผมไม่อยากให้เขาเศร้า ไม่อยากให้เขาเสียใจไปด้วย

ผมผละตัวออกมาจากอ้อมกอด จับมือทั้งสองข้างของโซโล่ขึ้นแนบแก้มตัวเอง ก่อนจะเผยรอยยิ้มที่ส่งต่อความรู้สึกทั้งหมดที่มีไปให้

“ถ้าโซยังอยู่ตรงนี้…พี่จะไม่เป็นไร”

แค่โซ…

--------------------------------

 ติดแฮชแท็ก #โซโล่กีล์



Fan Page : Chesshire. Twitter : @Chesshire04
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-03-2017 20:05:34 โดย CHESS. »

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER26 P.19 [10/02/17]
«ตอบ #563 เมื่อ10-02-2017 22:12:07 »

งื้อออออ....ชอบดมเมนนี้

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER26 P.19 [10/02/17]
«ตอบ #564 เมื่อ10-02-2017 22:14:38 »

 :hao5: :hao5: :hao5:
เค้าสงสารกีตาร์อ่ะ
แต่แม่ใหญ่ก็อายุมากแล้ว..อ่านแล้วน้ำตาซึม

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER26 P.19 [10/02/17]
«ตอบ #565 เมื่อ10-02-2017 22:36:50 »

น้ำตามาแน่ๆ

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER26 P.19 [10/02/17]
«ตอบ #566 เมื่อ10-02-2017 23:00:42 »

ผ่านไปให้ได้นะทั้งสองคน

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER26 P.19 [10/02/17]
«ตอบ #567 เมื่อ11-02-2017 07:52:51 »

โถ่วววว กีล์ แต่ละเรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิต TT
ขอให้แม่ใหญ่ไม่เปนอะไร (แต่เราก้อต้องทำใจไว้ด้วยเนอะ)

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER26 P.19 [10/02/17]
«ตอบ #568 เมื่อ11-02-2017 08:52:24 »

มันจะผ่านไปด้วยดีนะกีล์   :mew2:

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER26 P.19 [10/02/17]
«ตอบ #569 เมื่อ11-02-2017 09:20:59 »

พ่อก็แค่รออยู่ที่โรงแรมเองไม่มีไรหรอกใช่มะคนแต่ง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด