┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ [ตอนพิเศษ HNY P.33]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ [ตอนพิเศษ HNY P.33]  (อ่าน 353543 ครั้ง)

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER26 P.19 [10/02/17]
«ตอบ #570 เมื่อ11-02-2017 09:30:22 »

 :mew4: :mew4: :mew4: :mew4:


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER26 P.19 [10/02/17]
«ตอบ #571 เมื่อ11-02-2017 11:15:46 »

ไม่เป็นไรนะพี่กีล์ เดี๋ยวก็ได้เจอแม่ใหญ่แล้ว

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER26 P.19 [10/02/17]
«ตอบ #572 เมื่อ11-02-2017 19:42:49 »

แล้วมันจะผ่านไปด้วยดีนะ

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER26 P.19 [10/02/17]
«ตอบ #573 เมื่อ11-02-2017 21:51:35 »

มาม่ากองตรงหน้า

ออฟไลน์ Peung002

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER26 P.19 [10/02/17]
«ตอบ #574 เมื่อ11-02-2017 22:24:04 »

อ่านตอนนี้จบ รักเจ้าฮัสกี้จนบอกไม่ถูกเลยค่ะ
เรารู้สึกว่าเค้าคือความสุขของกันและกันอะค่ะ  :hao3:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER26 P.19 [10/02/17]
«ตอบ #575 เมื่อ12-02-2017 02:18:19 »

พี่กีล์สู้ๆนะ

ออฟไลน์ Honeyhoney

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER26 P.19 [10/02/17]
«ตอบ #576 เมื่อ12-02-2017 04:11:26 »

 :ling1: กีต้าร์ สู้ ๆ นะ มีเจ้าหมาอยู้ข้าง ๆ ไม่เป็นไรหรอก

ออฟไลน์ Margarita

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER26 P.19 [10/02/17]
«ตอบ #577 เมื่อ12-02-2017 12:21:35 »

 :pig4:

ออฟไลน์ CHESS.

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +228/-2
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER26 P.19 [10/02/17]
«ตอบ #578 เมื่อ12-02-2017 13:25:48 »

-27-



ช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ผมค่อนข้างยุ่งเพราะเข้าสู่ช่วงสอบปลายภาคแล้ว ผมที่ไม่ได้ทำงานที่ร้านแล้วเลยโดนเพื่อนลากมาติวหนังสือกันที่หอไวน์ โซโล่เองก็เหมือนจะวุ่นๆอยู่กับการซ้อมดนตรี เขาบอกว่ามีสอบดนตรีไทยที่ตัวเองไม่ถนัดสุดๆเลยต้องให้เก้าช่วย ผมเลิกสงสัยไปแล้วว่าทำไมต้องเป็นเก้า เพราะรายนั้นดูจะทำได้ทุกอย่างตามที่เคยโฆษณาไว้จริงๆ

การที่ได้แยกมาติวหนังสือทำให้ผมพอมีเวลาโทรคุยกับเก้าอยู่บ้าง เก้าจะคอยแนะนำอะไรต่างๆให้ ตอนแรกผมรู้สึกเหมือนไม่มีจิตใจทำอะไรเท่าไหร่ ยอมรับว่ายังมีความกังวลเรื่องแม่ใหญ่อยู่ไม่น้อย แต่ผมก็รู้ดีว่าตอนนี้ยังทำอะไรไม่ได้…และผมต้องไม่ทำให้ท่านผิดหวัง

ต้องขอบคุณเก้าที่ช่างสังเกตเหลือเกิน พอรู้ว่าผมไม่ปกติก็ส่งเสียงบ่นอุบอิบผ่านมาทางโทรศัพท์ บอกว่าตอนซ้อมโซโล่ก็ดูไม่มีจิตใจซ้อมเหมือนกัน เอาแต่มองนาฬิกาเหมือนรอเวลาเลิก

นั่นทำให้ผมรู้ตัวว่าไม่ได้อยู่คนเดียว และถ้าผมท้อหรือคิดมากจะมีอีกคนที่เศร้าไปด้วย

ผมพยายามมองโลกในแง่ดี นึกถึงแต่สิ่งดีๆและทำตัวให้เป็นปกติ ไปติวกับเพื่อน พอว่างก็ซ้อมร้องเพลงกับเก้าทางโทรศัพท์เป็นการคลายเครียด ตกเย็นก็กลับไปหาเจ้าหมาที่มักจะนั่งรออยู่ที่โต๊ะกินข้าว จากนั้นก็ทำกับข้าวให้ กินข้าวพร้อมกัน กินนมด้วยแก้วคู่ นั่งคุยกันจนง่วง สุดท้ายก็นอนกอดกันจนถึงวันใหม่

มันเป็นความสุขเล็กๆที่ช่วยให้ผมคลายความกังวลไปได้มาก

“เหลือสอบอีกตัวเดียวปะวะ”ไวน์ฟุบตัวลงกับโต๊ะแล้วพูดด้วยเสียงอู้อี้เหมือนจะบอกว่าไม่ไหวแล้ว ท่าทางมันดูแย่ที่สุดในพวกเราทั้งหมด

“ใช่”ผมตอบมันเพราะน่าจะเป็นคนเดียวที่ว่าง โนว์มันไปคุยโทรศัพท์อยู่ที่ระเบียง ส่วนเบียร์นี่นอนหลับไปนานแล้ว มันบอกว่าก่อนผมกับโนว์จะมามันติวให้ไวน์ตั้งแต่เมื่อคืน ทำยังไงก็ไม่ฉลาดขึ้นเสียทีเลยโยนหน้าที่มาให้ผมแทน

ในบรรดาพวกเราสี่คนรวมถึงในภาคเบียร์คือคนที่เรียนเก่งที่สุด ส่วนไวน์ก็อ่อนสุดในกลุ่ม ไม่ใช่ว่ามันโง่หรืออะไร แต่มันเป็นพวกขี้เกียจ โดดเรียนบ่อย เวลาเรียนในห้องก็ไม่ตั้งใจเลยต้องให้พี่ตัวเองติวให้ สุดท้ายคะแนนก็ออกมาโอเคทุกที แค่เหนื่อยหน่อยตอนติวให้เพราะเหมือนเริ่มสอนใหม่หมดเท่านั้นล่ะ โนว์มันยังเคยพูดอยู่เลยว่าพวกมันเป็นฝาแฝดกันได้ยังไง สงสัยพ่อแม่เอาส่วนดีๆไปให้เบียร์หมด แต่โนว์มันก็พูดกัดไปงั้น เพราะถ้าไวน์มันไม่เจ๋งจริงมันคงไม่ได้ที่ฝึกงานเป็นคนแรกหรอก…แถมยังเป็นที่ที่มีชื่อเสียงด้วย

“กูเหนื่อยยยย”มันโวยวายแล้วปัดข้าวของจนหล่นลงจากโต๊ะ ถ้าทำแล้วเก็บเองนี่จะไม่ว่าสักคำ แต่กลายเป็นมาลำบากผมต้องนั่งเก็บให้ทุกที

“ทนหน่อย อีกวันเดียว”ผมปลอบมัน

“กู…”

“หุบปากสักที!”

ทั้งผมทั้งไวน์สะดุ้งกันทั้งคู่ เมื่อคนที่นอนอยู่ไม่ไกลลุกมาพูดอย่างหัวเสียพร้อมกับปาหมอนใส่หัวคนที่ยังบ่นไม่เลิก ไวน์มันทำหน้ามุ่ยแต่ก็ไม่ได้เถียงอะไรกลับไป มันน่าจะรู้ดีที่สุดว่าพี่มันเวลาหงุดหงิดน่ากลัวขนาดไหน

สุดท้ายไวน์ก็ยอมนั่งเงียบๆให้ผมติวหนังสือให้แต่โดยดี ผ่านไปไม่นานโนว์ก็เดินเข้ามานั่งด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอารมณ์ดี ไม่ต้องเดาก็รู้ว่ามันคงได้กำลังใจมาจากซันเหมือนทุกวันนั่นล่ะ ต่อให้เครียดแค่ไหนพอได้ออกไปรับโทรศัพท์แล้วกลับเข้ามาอารมณ์ดีทุกที

“งงตรงไหนปะ”ผมหันไปถามไวน์ พอเห็นมันส่ายหน้าแล้วนอนแผ่ไปกับพื้นก็ปิดหนังสือลง ถือว่าช่วยเท่าที่ช่วยได้แล้ว พรุ่งนี้ก็แล้วแต่เวรแต่กรรมก็แล้วกัน

ผมเดินแยกตัวออกมาที่ระเบียงก่อนจะทักแชทเก้าไปเหมือนทุกวัน ข้อความที่ผมส่งไปถูกอ่านอย่างรวดเร็ว เก้าคงกำลังเล่นโทรศัพท์หรือฟังเพลงอยู่พอดี แต่รอสักพักแล้วก็ยังไม่ตอบอะไรกลับมา จนผมจะเก็บโทรศัพท์ถึงขึ้นว่ามีคนคอลมาทางเฟส

“สวัสดีครับ”

[ดีพี่ ทำไมวันนี้ไวอะ]

“เนื้อหาวันนี้ไม่เยอะเท่าไหร่ครับ เบียร์ติวให้ไวน์มาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วด้วย”ปัญหาหลักๆก็มีมันอยู่คนเดียว โนว์มันหัวไวอยู่แล้ว แค่พูดนิดหน่อยก็เข้าใจ “ว่าแต่เก้าว่างแล้วเหรอครับ”

[ว่างแล้วพี่ นอกจากช่วยดูโซก็ไม่ได้ทำไรละ เมื่อกี้คอลช้าเพราะรอมันออกไปอยู่]

จริงด้วย…ปกติเวลานี้ทั้งฝั่งผมทั้งฝั่งเก้าจะยังไม่เลิกกัน ผมก็ลืมดูเวลาไปเลย ตอนแรกก็คิดว่าเลิกไวกว่าเดิมแค่นิดหน่อย แต่นี่ดูเหมือนจะไวกว่าเดิมสองสามชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ

“พรุ่งนี้หลังสอบพี่จะไปเหนือ คิดว่าคงไม่ได้ติดต่อไปให้ช่วยแล้วนะครับ”ผมบอกตามแผนที่วางไว้ เพราะผมอยากจะใช้เวลากับแม่ใหญ่เยอะๆ ไม่น่าจะมีเวลาโทรไปหาเก้าอีก

[พี่ทำได้แล้วแหละ ผมว่าวันนี้ไม่ต้องซ้อมหรอก เอาเท่าที่ได้นั่นก็ดีแล้ว ใส่ความรู้สึกลงไปยังไงมันก็ชอบ]

“วันนี้เก้าไม่ว่างเหรอครับ”ผมถามอย่างแปลกใจ จริงๆก็ไม่รู้ว่าตัวเองยังร้องห่วยอยู่หรือเปล่า ถึงจะดีขึ้นจนรู้สึกได้เพราะได้เก้าช่วยบอก แต่ผมก็ยังเกร็งๆอยู่เลย

[ผมอะว่าง…แต่พี่กำลังจะไม่ว่าง]

“ทำไม…”

“กีล์! เด็กมึงมาหาอะ”

พอได้ยินเสียงโนว์ตะโกนมาจากในห้องผมก็เข้าใจที่เก้าพูดแทบจะทันที

[ไปหามันเหอะพี่ เรื่องร้องเพลงก็ทำเต็มที่ เชื่อเหอะ…ต่อให้พี่ร้องเสียงเหมือนควายออกลูกมันก็ยังบอกว่าเพราะ]

จะไม่กล้าร้องก็เพราะคำพูดแบบนี้นี่ละไอ้เด็กแสบ!

[ผมไปกินติมละพี่ บาย]

ผมมองโทรศัพท์ที่ถูกตัดสายไปอย่างพูดไม่ออก…อยากจะรู้จริงๆว่าใครจะเอาเด็กแสบนี่อยู่

“ไอ้กีล์!”

“รู้แล้ว!”ผมตะโกนกลับก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเปิดประตูเข้าไป แต่ดูเหมือนจะไม่ทันเพราะคนหน้านิ่งเปิดประตูระเบียงมายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว

“กีตาร์…ออกไปทำอะไร”

“ออกมายืดเส้นยืดสายครับ”ผมตอบไปตามที่คิดไว้ในใจ พยายามสังเกตบนใบหน้าอีกคนว่ามีความไม่พอใจอะไรไหม แต่ดูยังไงก็ไม่พบอะไรสักอย่าง โซโล่พยักหน้าก่อนจะเดินออกมาที่ระเบียงแล้วปิดประตู “โซ…”

“ครับ”

ผมถอนหายใจ มองใบหน้าของคนที่ทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรแล้วยิ้มน้อยๆ ผมเป็นคนโกหกไม่เก่ง เจ้าหมาเองก็รู้ว่าที่ผมพูดคือการโกหกแต่ก็ยังไม่ถามอะไร

สุดท้ายก็เป็นผมเองที่ทนไม่ได้…

“พี่ออกมาคุยโทรศัพท์ครับ”ผมทรุดตัวลงนั่งกับพื้นแล้วกวักมือให้อีกคนนั่งตาม โซโล่หันมาหาผม มองด้วยสายตาเป็นคำถามแต่ก็ยอมนั่งลงข้างๆ “พี่ยังบอกโซไม่ได้…”

“ผมเข้าใจ”

เข้าใจ…แต่เสียงกับหน้าหงอยๆนั่นไม่เห็นเหมือนคนเข้าใจเลย

“อย่าเข้าใจผิดสิครับ…”ผมอมยิ้ม เอนหัวพิงไหล่ของคนขี้งอนไว้ เจ้าตัวทำหน้ามุ่ยแต่ก็ยังยื่นแขนมาโอบไหล่ผมอยู่ดี

“เข้าใจอะไรผิด”

“พี่ไม่ได้อยากปิดบัง…แต่มันเป็นเซอร์ไพรส์”

“เซอร์ไพรส์ผม?”เจ้าหมาทำหน้างง พอเห็นผมยิ้มให้ก็เริ่มยิ้มตาม “เซอร์ไพรส์อะไรเหรอ”

“บอกไม่ได้ครับ…นี่พี่บอกแค่นี้ก็จะไม่เซอร์ไพรส์อยู่แล้ว”

แต่ทำไงได้…จะให้โกหกก็ไม่อยากทำอยู่ดี

“แต่ผมอยากรู้…กีตาร์บอกหน่อย”

“ไม่เอา”ผมผละตัวออกมา ส่ายหน้าให้เป็นคำตอบทั้งที่ยิ้มอยู่

“กีตาร์…”เจ้าหมาทำหน้าอ้อน โอบไหล่ผมแน่นขึ้นเหมือนไม่ต้องการให้ลุกหนี

“เสียใจด้วยครับ ครั้งนี้ไม่ได้ผลหรอก”

“บอกหน่อยนะ…”

ผมส่ายหน้า ยกมือทำท่ารูดซิบปากจนเจ้าหมาหัวเราะ

“นะครับ…”

“โซ!”ผมถลึงตามองหมาขี้อ้อนที่พูดคำต้องห้าม รีบดึงแขนคนที่ยังไม่ทันตั้งตัวออกแล้วลุกหนีทันที

ให้ตายเถอะ…ลองอยู่นานกว่านี้ผมได้หลุดหมดแน่

ผมเดินหนีเข้ามาในห้องซึ่งมีศพเพื่อนสามคนนอนตายอยู่ โซโล่เองก็เดินตามเข้ามา ใบหน้านี่ยิ้มแย้มต่างจากตอนแรกโดยสิ้นเชิง ผมนั่งลงที่โซฟา แสร้งทำเป็นมองไม่เห็นหน้าอ้อนๆของคนที่เดินมา

“กีตาร์…”

“ว่าไงครับ”ผมตอบรับแต่ไม่หันไปมอง

“ไม่บอกจริงๆเหรอ”

“อือฮึ”

“อืม…”

สิ้นเสียงนั้นทุกอย่างก็เงียบไปจนผมแปลกใจ คิดว่าจะอ้อนจนกว่าจะได้คำตอบเสียอีก…ผิดคาด

“โซ…”ผมกำลังจะหันไปดูว่าเจ้าของชื่อกำลังทำอะไรอยู่ แต่ยังไม่ทันได้หันอ้อมแขนของคนที่เงียบไปก็สวมกอดมาจากทางด้านหลังเสียก่อน ผมยกมือแตะแขนหมาขี้อ้อนไว้แล้วยืนยันคำเดิม “จะอ้อนอะไรครับ…พี่บอกไม่ได้จริงๆนะ”

“รู้แล้ว…”เจ้าหมาขยับแขนนิดหน่อยให้เข้าที่มากขึ้น ไม่รู้ว่าโน้มตัวมากอดผมทั้งที่ยืนอยู่ไม่เมื่อยหรือยังไง ตัวเองก็สูงมากแท้ๆ

“ไม่เมื่อยเหรอครับ เดี๋ยวปวดหลังเอานะ”

“ไม่”หัวที่วางไว้บนไหล่ผมส่ายไปมา อ้อมแขนที่กอดช่วงไหล่ผมไว้กระชับแน่นขึ้น

“โซ…”

“ขอบคุณครับ”

“ขอบคุณ?”

“ขอบคุณที่นึกถึงผม…ทั้งที่กีตาร์อยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากแท้ๆ”

ผมพิงตัวไปด้านหลัง ริมฝีปากยกยิ้มโดยไม่รู้ตัว ผมเข้าใจดีว่าโซโล่จะสื่ออะไร แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่แค่การนึกถึง…ไม่ใช่แค่เพื่อโซโล่ แต่เพื่อตัวผมเองด้วย

การได้พยายามทำอะไรเพื่อเขา…คือสิ่งที่ทำให้ผมยังยิ้มได้

เป็นเหมือนการพักผ่อน เหมือนการผ่อนคลาย เพียงแค่คิดว่าจะได้รับรอยยิ้มดีใจนั่นกลับมาก็แทบจะลืมทุกอย่าง

“พี่เต็มใจครับ”เต็มใจทำให้ทุกอย่าง…

 

 

ผมหันไปมองคนที่กำลังขับรถอย่างแปลกใจเมื่อเส้นทางที่กำลังไปไม่ใช่เส้นทางเดิม ปกติช่วงสอบโนว์มันจะแวะไปส่งผมหลังติวเสร็จ แต่ก็มีสองสามครั้งที่โซโล่เลิกไวแล้วแวะมารับเอง เพราะงั้นผมถึงรู้ว่านี่ไม่ใช่ทางกลับเหมือนทุกที

“แวะซื้อของก่อน”โซโล่พูดลอยๆทั้งที่ผมยังไม่ทันได้ถาม

“รู้ได้ยังไงครับว่าพี่จะถามอะไร”

“ก็ผมเป็นคนรักของกีตาร์”

เดี๋ยว…

“แล้วกีตาร์ก็เป็นคนรักของผมด้วย”

มันก็ใช่…

“คนรักกัน…แค่หายใจร่วมกันก็รู้ใจ”

เขามีแต่มองตาก็รู้ใจ…

“เนอะ”

ตบท้ายด้วยการหันมายิ้มหวานให้

ผมทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ จะว่าอึ้งก็ใช่ จะว่าขำก็ใช่ แถมยังกลั้นยิ้มไม่ไหวจนสุดท้ายหลุดออกมาเป็นรอยยิ้มกว้างเกินเหตุอีกต่างหาก

และมันคงเป็นรอยยิ้มที่กว้างที่สุดนับตั้งแต่ผมรู้เรื่องแม่ใหญ่…

“ยิ้มเยอะๆ”คนที่กำลังขับรถหันมาหา ยกมือบีบแก้มผมเบาๆแล้วมองมาด้วยสายตาอ่อนโยน

มันเป็นการกระทำเล็กๆน้อยๆที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมากจริงๆ…

 

 

โซโล่จอดรถที่ห้างประจำที่เราชอบมาซื้อของกัน เราเดินไปข้างๆกันโดยไม่ได้พูดอะไรมากมาย พอมีคนใส่ชุดนักศึกษามองมาผมก็แค่ยิ้มให้ตามมารยาท ดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติไปแล้วกับการมาเดินห้างแล้วโดนคนมอง พวกเขาคงรู้จักพวกผมจากเพจหรือตำแหน่งนั่นล่ะ

ผมรีบดึงชายเสื้อคนที่เดินเยื้องไปด้านหน้าไว้เมื่อเห็นว่าเราไม่ได้กำลังเดินลงไปที่ซุปเปอร์อย่างทุกที

“โซ…นี่มันโซนเสื้อผ้าไม่ใช่เหรอครับ”

“ใช่”

“จะซื้อเสื้อผ้าใหม่เหรอครับ”ผมดึงเสื้อแรงขึ้นจนเจ้าหมายอมหยุดเดิน จริงๆเสื้อผ้าเจ้าหมาที่ห้องก็เยอะอยู่แล้ว เขายังใส่ไม่ครบทุกตัวเลยด้วยซ้ำ แถมแต่ละตัวก็ราคาแพงๆทั้งนั้นด้วย บอกตรงๆว่าผมเสียดายแทน

“ใช่…แต่ผมไม่ได้ซื้อให้ตัวเอง”คนที่เดินนำหันมาหาแล้วดึงมือผมไปกุมไว้แทน พอเห็นผมมองงงๆก็ออกแรงดึงให้เดินต่อโดยไม่อธิบายอะไรเพิ่ม

ถ้าไม่ซื้อให้ตัวเองแสดงว่าซื้อให้ผม…ซึ่งมันหนักกว่าเดิมอีก!

“หยุดเลยโซ…เสื้อผ้าที่ซื้อให้พี่ตอนวันเกิดพี่ยังใส่ไม่ถึงครึ่งเลยนะครับ”

เรียกได้ว่าแทบจะไม่ได้ใส่เลยดีกว่า เสื้อผ้าผมเองที่ขนมาจากหอก็มีอยู่แล้ว…ถึงจะไม่ได้เยอะก็เถอะ จะเอาเสื้อผ้าแพงๆพวกนั้นมาใส่ทีไรผมเสียดายทุกที กลัวจะไปทำขาดเอาเลยได้แต่ปล่อยไว้ในตู้อยู่อย่างนั้น

โซโล่ลากผมเข้าไปในร้านเสื้อผ้าร้านหนึ่ง หลังจากหลบมุมมาอยู่ตรงที่ไม่มีคนก็หันมาเผชิญหน้าแล้วจับไหล่ทั้งสองข้างของผมไว้

“ผมไม่ได้จะซื้อเสื้อผ้าธรรมดาพวกนั้น…รู้อยู่แล้วว่ากีตาร์ไม่ยอมหรอก”

แล้วจะซื้ออะไรล่ะนั่น

“รู้หรือเปล่าว่าช่วงนี้ที่เหนืออากาศหนาว…”ว่าแล้วก็จูงมือผมเดินไปที่โซนเสื้อผ้าฤดูหนาว “แล้วกีตาร์ก็ไม่มีเสื้อผ้าหนาๆสักตัว”

อย่างนี้นี่เอง…ที่มารับไวก็เพราะจะพาผมมาซื้อเสื้อผ้า

จะว่าไปผมก็ลืมเรื่องอากาศไปเลย อยู่ที่นี่นอกจากฤดูร้อนก็แทบไม่รู้สึกถึงความหนาวเลยลืมคิดไปสนิทว่าภาคเหนือตอนนี้อากาศกำลังหนาว แถมผมยังไปถึงจังหวัดเชียงใหม่เลยด้วย

“ผมบอกแล้วว่ากีตาร์ไม่ชอบนึกถึงตัวเอง”เจ้าหมาบ่น มือหยิบเสื้อตัวนั้นตัวนี้มาทาบกับตัวผมแล้วโยนใส่ตะกร้าที่มีพนักงานมายืนถือให้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

ผมมองภาพนั้นด้วยรอยยิ้มจนลืมไปเลยว่าควรจะห้ามไม่ให้ซื้อเยอะเกินไป แต่พอเห็นหน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนคนกำลังตั้งใจนั่นแล้วก็พูดไม่ออก

“นี่ถ้าผมไม่จัดกระเป๋าให้ด้วยกีตาร์คงเอาแต่เสื้อผ้าของตัวเองไปไม่กี่ชุดอีกล่ะสิ”คนที่หยิบเสื้อผ้าตัวนั้นตัวนี้พูดไปเรื่อยด้วยความไม่พอใจ “ซื้อให้แล้วไม่ยอมใส่…ผมน้อยใจนะ”

“ขอโทษครับ”ผมพูดทั้งที่ยังยิ้มอยู่ เดินตามหลังเจ้าหมาต้อยๆโดยไม่ปฏิเสธอะไร

“วันนี้กลับไปผมจะเลือกเสื้อผ้าให้เอง…ไม่ต้องเถียงเลย”โซโล่หันหน้ามาดุ ทำเอาปากที่กำลังจะอ้าเพื่อเถียงของผมหุบลงทันที “เสื้อผ้าที่ห้องมีแต่บางๆ…เอาพวกนี้ไปทั้งหมดนั่นล่ะ”

“แต่มันแพง…”

“ผมรวย”

“…”

รู้แล้วว่ารวย แต่คนประหยัดมาทั้งชีวิตเสียดายแทนนี่นา…

โซโล่หันมาหาเมื่อเห็นว่าผมหยุดเดิน เจ้าตัวเดินกลับมาอยู่ตรงหน้าแล้วถอนหายใจ

“เสื้อผ้าพวกนี้มีคุณภาพ ถ้าเก็บรักษาก็ใช้ได้อีกนาน ผมซื้อเพราะเป็นห่วงกีตาร์ ถ้ากีตาร์เสียดายเงินก็ดูแลของที่ผมให้ดีๆแล้วใช้ไปนานๆ…นะครับ”

พูดแบบนี้แล้วใครจะปฏิเสธลง

“ไม่ต้องเยอะนะครับ…เอาเท่าที่จำเป็นพอ”ผมพูดเสียงอ่อยจนเจ้าหมายิ้มออก หลังยกมือขยี้หัวผมเหมือนเด็กแล้วก็หันไปเลือกต่อ

สรุปใครแก่กว่าใครกันแน่ล่ะเนี่ย…

ผมแอบอาศัยจังหวะที่เจ้าหมากำลังเลือกเสื้อผ้าหยิบบางส่วนที่พนักงานถือไว้ออกไปหลายตัว ต้องขอบคุณที่พนักงานอมยิ้มมองโดยไม่ฟ้องอะไร แต่ผ่านไปสักพักผมถึงรู้ว่ายิ่งหยิบออกไปมากเท่าไหร่อีกคนจะใส่มาใหม่มากขึ้นเท่านั้น สุดท้ายเลยกลายเป็นต้องเดินตามเป็นหุ่นลองเสื้อแต่โดยดี ไม่กล้าหยิบอะไรออกอีก

เราเดินไปซื้อของต่อที่ซุปเปอร์เพราะกับข้าวจะหมดแล้ว เพียงแต่ครั้งนี้คนเดินนำเอาแต่หยิบอาหารแช่แข็งออกมาจนผมต้องตีมือไปหนึ่งที

“ก็กีตาร์ไม่อยู่…ผมทำไม่เป็น”ว่าแล้วก็ส่งสายตางอแงมาให้

“ไปซื้อทานข้างนอกก็ได้ครับ ชวนเก้าไปก็ได้ แต่อย่าทานอาหารแช่แข็งเยอะแบบนี้ มันไม่ดีต่อสุขภาพเลย”ผมจับมือที่ถูกตีดังเพี๊ยะมาลูบให้เบาๆจนคนงอแงยอมพยักหน้า เอาอาหารแช่แข็งไปวางเก็บไว้ที่เดิม

สุดท้ายนอกจากนมแล้วก็ไม่ได้ซื้ออะไรเพิ่มอีก เรากลับมาถึงห้องกันช่วงค่ำ โซโล่ตรงดิ่งเข้าไปคว้าเป้มาจัดกระเป๋าให้ผมจริงๆอย่างที่เขาว่าไว้ ผมได้แต่ยืนขำมองคนที่พยายามม้วนเสื้อผ้าที่ซื้อมาใหม่ลงเป้ แต่เพราะมันเยอะเกินไปเลยยัดไม่ลงเสียที พอกดลงไปมันก็เด้งขึ้นมาใหม่จนเจ้าหมาหัวเสีย แต่ก็ไม่ยอมละความพยายามจนสุดท้ายก็ทำได้สำเร็จ หลังเอาพวกเครื่องอาบน้ำที่เขาบอกว่าแวะซื้อให้ก่อนมาหาใส่ลงไปแล้วเจ้าหมาก็ปิดกระเป๋า มองดูผลงานตัวเองด้วยใบหน้าพอใจ

“กีตาร์”

“ครับ”ผมเดินเข้าไปหา นั่งลงตรงพื้นข้างๆกัน

“พรุ่งนี้ผมเลิกช้ากว่า…คงไปส่งไม่ได้”

“ไม่เป็นไร…”

“เดี๋ยวเจย์ไปรับหน้าคณะ มีคนขับรถไปส่งที่สนามบิน”

ผมพยักหน้าเพราะรู้ดีว่าปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้ว ตอนแรกไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะนั่งเครื่องบินไป จนเมื่อวานคุณเจย์มาบอกว่าจองเรียบร้อยพร้อมเดินทางตั้งนานแล้วผมถึงได้รู้ว่าเจ้าหมานี่เตรียมการไว้ล่วงหน้าให้ทุกอย่าง นอกจากจะไม่ปฏิเสธแล้วผมยังรู้สึกขอบคุณด้วยซ้ำที่ช่วยคิดอะไรแทนผมมากขนาดนี้

เขาเต็มใจให้ และผมก็เต็มใจรับความห่วงใยนั้นไว้

“ห้าวัน…”โซโล่พึมพำ เอนหัวมาพิงอกผมไว้

“ห้าวันเอง…ตั้งใจสอบนะครับ”

“รู้แล้ว”เขายกหัวขึ้น แต่ไม่ได้ผละออก เปลี่ยนมาเป็นจ้องหน้ากันใกล้ๆแทน

“มองอะไรครับ”ผมอมยิ้มถาม รู้สึกเขินหน่อยๆเมื่อเห็นสายตาแพรวพราวที่เก็บอะไรไว้มากมายของอีกคน

“มองกีตาร์ไง”

“เหรอ…พี่ก็มองหมาอยู่”

“กีตาร์ก็เป็นหมานี่นา…”เจ้าหมายิ้มกว้างเมื่อเห็นผมทำหน้าบึ้ง “แม่หมา”

“โซ!”ผมเรียกเหมือนไม่พอใจ แต่นอกจากจะไม่สำนึกแล้วโซโล่ยังหัวเราะออกมาเสียงดัง ดูอารมณ์ดีจนผมต้องยิ้มตาม สุดท้ายก็หัวเราะใส่กันโดยไร้เหตุผล

“กีตาร์…”

ผมหลับตาลงเมื่อคนตรงหน้าโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ ริมฝีปากร้อนกดจูบเบาๆบนหน้าผาก ไล่ลงมายังปลายจมูก และสิ้นสุดอยู่ที่ริมฝีปาก…แผ่วเบาทว่าเนิ่นนาน ความร้อนจากจุดที่โดนสัมผัสทำให้ผมปวดในอก…ต้นเหตุคงมาจากหัวใจที่เต้นรัวแรงจนเหมือนจะทะลุออกมา

ผมกำแขนอีกคนแน่นขึ้นเมื่อรู้สึกว่าจะหมดลมหายใจ เขาถอนจูบออกครู่หนึ่งแล้วกดลงมาซ้ำๆเหมือนจะเผื่อไว้ในเวลาที่เราต้องห่างกัน…จวบจนถึงจูบสุดท้ายที่หนักแน่นไม่ต่างจากความรู้สึกของเราทั้งคู่ โซโล่ดูดริมฝีปากล่างของผมเบาๆแล้วผละออก พิงหน้าผากของเราไว้ด้วยกัน

“รอผมนะ…”

“ครับ”

“แต่ถ้าทนไม่ไหว ถ้ากีตาร์ต้องการ…ขอแค่บอกมา”

“โซ…”

“ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่…”

“…”

“ผมจะไปกอดกีตาร์”

-------------------------

 ติดแฮชแท็ก #โซโล่กีล์



Fan Page : Chesshire. Twitter : @Chesshire04
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-03-2017 20:07:03 โดย CHESS. »

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER27 P.20 [12/02/17]
«ตอบ #579 เมื่อ12-02-2017 15:02:41 »

 :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER27 P.20 [12/02/17]
« ตอบ #579 เมื่อ: 12-02-2017 15:02:41 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER27 P.20 [12/02/17]
«ตอบ #580 เมื่อ12-02-2017 18:00:46 »

ตอนแรกก็ไม่คิดเยอะ แต่พออ่านtalkจบ อ้าวมะใช่ละ มีดราม่าชุดใหญ่ของแม่ใหญ่แน่ กีล์สตรองไว้นะลูก ชีวิตก็งี้  :hao5: *ยัง!*

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER27 P.20 [12/02/17]
«ตอบ #581 เมื่อ12-02-2017 19:37:27 »

 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER27 P.20 [12/02/17]
«ตอบ #582 เมื่อ12-02-2017 20:04:00 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER27 P.20 [12/02/17]
«ตอบ #583 เมื่อ12-02-2017 20:26:36 »

ชอบคำพูดโซอ่ะ พี่กีล์ไม่ต้องกังวลเนอะ ขอแค่บอกเดี๋ยวหมาตามไปกอดพี่แน่ๆ

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER27 P.20 [12/02/17]
«ตอบ #584 เมื่อ12-02-2017 20:31:35 »

อบอุ่นตลอด โอ๊ยยยยอิจฉาตาร้อนคู่นี้มันดีจริงๆ

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER27 P.20 [12/02/17]
«ตอบ #585 เมื่อ12-02-2017 21:57:46 »

น้องโซสายเปย์ :laugh:

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER27 P.20 [12/02/17]
«ตอบ #586 เมื่อ12-02-2017 22:34:49 »

ขอให้สู้นะทั้งคู่เลย

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER27 P.20 [12/02/17]
«ตอบ #587 เมื่อ12-02-2017 22:42:37 »

เจ้าหมาของพี่กีล์มันน่ารักเกินไปแล้ว

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER27 P.20 [12/02/17]
«ตอบ #588 เมื่อ12-02-2017 22:44:17 »

กังวลไปกับกีล์ด้วยเลย สู้ๆนะกีล์  :hao5:

ออฟไลน์ m.starlight

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER27 P.20 [12/02/17]
«ตอบ #589 เมื่อ12-02-2017 23:57:05 »

ผมรวย คำเดียวจบ....
โซรีบๆตามไปนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER27 P.20 [12/02/17]
« ตอบ #589 เมื่อ: 12-02-2017 23:57:05 »





ออฟไลน์ Margarita

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER27 P.20 [12/02/17]
«ตอบ #590 เมื่อ13-02-2017 13:27:55 »

 :o8:

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER27 P.20 [12/02/17]
«ตอบ #591 เมื่อ13-02-2017 15:51:40 »

 :กอด1:

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER27 P.20 [12/02/17]
«ตอบ #592 เมื่อ14-02-2017 01:41:04 »

ตั้งห้าวันน้องหมาจะคลั่งมั้ยเอ่ยยยย

ออฟไลน์ wickedwoman

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER27 P.20 [12/02/17]
«ตอบ #593 เมื่อ14-02-2017 08:18:24 »

ร่ารักมากๆเลยค่ะ
น้องโซขี้อ้อนมากกก
อยากอ่านต่อแล้ว

ออฟไลน์ i_Tipz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER27 P.20 [12/02/17]
«ตอบ #594 เมื่อ14-02-2017 12:29:54 »

ละมุน ละไม มากมาย   :L2: :L2:

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER27 P.20 [12/02/17]
«ตอบ #595 เมื่อ14-02-2017 20:20:09 »

ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ Margarita

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER27 P.20 [12/02/17]
«ตอบ #596 เมื่อ15-02-2017 15:00:18 »

สามวันแหล่ววว :ling3:

ออฟไลน์ CHESS.

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +228/-2
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER27 P.20 [12/02/17]
«ตอบ #597 เมื่อ15-02-2017 18:29:34 »

-28-

 

ตอนเช้าโซโล่ออกไปก่อนผม หลังจากรู้ว่าผมสอบเที่ยงส่วนตัวเองสอบเช้าก็สั่งให้ผมนอนต่อ บอกเหตุผลว่าต้องพักผ่อนเยอะๆเพราะรู้ว่าถ้าไปเชียงใหม่ไม่มีตัวเองลากไปนอนผมต้องไม่ยอมนอนแน่ๆ ซึ่งก็ไม่ผิดเท่าไหร่…ผมนึกภาพตอนที่ต้องนอนคนเดียวไม่ออกเหมือนกัน

ตอนที่ผมเดินไปส่งหน้าประตูห้อง คนที่บังคับให้นอนต่อก็คว้าตัวเข้าไปกอดแน่นโดยไม่พูดอะไร อาจเพราะเมื่อคืนเราก็พูดกันไปหมดแล้ว เจ้าหมาเดินคอตกออกไปโดยไม่ยอมหันมามองอีก ซึ่งนั่นก็ดีแล้ว…เพราะถ้าเขาหันมาอาจจะเป็นผมเองที่วิ่งเข้าไปรั้งไว้

รู้ตัวว่าเป็นโรคขาดหมาไม่ได้ก็วันนี้นี่ล่ะ

คุณเจย์กับคนที่เขาแนะนำว่าเป็นคนขับรถแวะไปส่งผมที่คณะ บนรถมีกระเป๋าอยู่สองใบซึ่งน่าจะเป็นของผมกับของคุณเจย์ เขาบอกว่าจะรอจนผมสอบเสร็จแล้วออกเดินทางเลย เห็นว่าเจ้าฮัสกี้ย้ำนักย้ำหนาให้พาผมไปไวๆแต่ต้องปลอดภัย

ผมใช้เวลาสอบไม่นาน ทุกอย่างตรงกับที่อ่านมา หลังจากลาเพื่อนเรียบร้อยแล้วเราก็แยกย้ายกันหน้าคณะ พอได้ขึ้นมาบนรถผมก็รู้สึกใจหายหน่อยๆ ถึงจะเข้าใจดีว่าเจ้าหมามาส่งไม่ได้เพราะติดสอบต่อเนื่องก็เถอะ แต่ด้วยความที่ไม่เคยห่างกันเลยมาหลายเดือน อยู่ๆก็ต้องห่างกันห้าวันแบบนี้…

อดคิดไม่ได้ว่าตอนฝึกงานจะเป็นยังไง…เพราะคงไม่ใช่แค่โซโล่ที่อาการหนัก

 “คุณสองคนนี่เหมือนกันเลยนะครับ”น้ำเสียงเจือรอยยิ้มของคุณเจย์ดังตัดความคิดเรื่อยเปื่อยของผม ผมหันไปมองหน้าคุณเจย์ด้วยความไม่เข้าใจ เขายิ้มแล้วยื่นโทรศัพท์ตัวเองมาให้ “ขี้กังวลเหมือนกันเลย”

ผมรับโทรศัพท์มาดู บนหน้าจอเป็นโปรแกรมไลน์ที่เจ้าหมาส่งมาตั้งแต่ชั่วโมงก่อน

SOLO : เจย์ รอกีตาร์อยู่หน้าตึกหรือเปล่า

JAY : รออยู่แล้วครับคุณชาย ว่าแต่คุณสอบอยู่ไม่ใช่เหรอครับ

SOLO : สอบปฏิบัติ ยังไม่ถึงคิว ผมแอบเล่น

JAY : คุณชาย…

SOLO : บอกให้คนขับรถขับดีๆนะ ถึงแล้วทักมาบอกผมด้วย

JAY : ทำไมคุณชายไม่ทักไปล่ะครับ

SOLO : ผมกลัวกีตาร์สอบอยู่

JAY : ผมจะบอกให้นะครับ

SOLO : อืม

SOLO : ดูแลกีตาร์ให้ผมด้วยนะ

JAY : ครับคุณชาย

หลังจากนั้นก็เป็นข้อความที่คุณเจย์ส่งไปบอกว่าผมขึ้นมาบนรถแล้ว โซโล่ยังไม่ได้อ่าน น่าจะกำลังสอบอยู่ ว่าแต่คนปกติเวลารอสอบนี่ต้องเครียดกันไม่ใช่เหรอ ยิ่งเป็นสอบปฏิบัติด้วย เจ้าหมานี่ยังกล้าแอบเล่นโทรศัพท์อีก น่าตีจริงๆ

“คุณชายกังวลเรื่องคุณมาก…เป็นห่วงไปทุกเรื่อง ตอนแรกผมก็กังวลว่าคุณจะไม่พอใจอะไรหรือเปล่าเลยอยากจะขอให้เข้าใจเขา คุณชายไม่เคยอยากดูแลใครมาก่อน พอได้เจอคนๆนั้นถึงได้ทำอะไรไม่ถูก”คุณเจย์รับโทรศัพท์คืนไปแล้วยิ้มกว้างกว่าเดิม “แต่ดูเหมือนผมจะคิดมากไปเองสินะครับ…เพราะตั้งแต่ขึ้นรถมาคุณก็ดูกังวลไม่แพ้คุณชายเลย”

ผมหัวเราะรับคำถามนั้น จริงอย่างที่คุณเจย์ว่าทุกอย่าง ผมเคยชินกับการดูแลคนอื่นก็จริง แต่อาการกังวลใจเพราะต้องห่างกันแบบนี้เกิดขึ้นครั้งแรกเหมือนกัน บางทีถ้าเป็นโซโล่ที่เดินทางไกล ผมอาจจะมีอาการมากกว่าเขาด้วยซ้ำ

“เป็นห่วงน่ะครับ”ผมอมยิ้ม มือจับโทรศัพท์ไว้แน่นเพราะไม่อยากพลาดถ้าคนที่รอโทรมา

“ห่วงคุณชายเหรอครับ”

“ครับ…เป็นห่วงคนที่ไม่ชอบดูแลตัวเอง”

“จริงด้วย…คุณชายไม่ชอบดูแลตัวเองจริงๆนั่นล่ะครับ”คุณเจย์พยักหน้าเห็นด้วย

“ถ้าผมไม่บังคับก็คงไปซื้อข้าวกล่องสำเร็จรูปมากินทุกมื้อแน่ๆเลยครับ นี่ผมก็ส่งข้อความไปให้เก้าช่วยดูให้ ดีที่เก้าเต็มใจช่วย เห็นบอกว่าดีเหมือนกันจะได้กินฟรีทุกมื้อ…”ทั้งผมทั้งคุณเจย์หัวเราะแทบจะทันทีที่นึกถึงเด็กแสบนั่น ตอนที่ผมบอกว่าให้ดูโซโล่ให้หน่อย เจ้าเด็กนั่นรับปากแทบจะทันที เห็นว่าจะโทรไปจิกทุกมื้อให้มารับไปกินข้าวเลยด้วยซ้ำ ดูเหมือนเด็กแสบจะโดนคุณแม่หักค่าขนมเพราะไม่ยอมโทรกลับไปที่บ้าน

“ดีแล้วล่ะครับที่คุณชายมีคุณเก้าเป็นเพื่อน”

นั่นสิ…ถ้าไม่มีเก้าก็ไม่รู้ว่าโซโล่จะเป็นยังไงบ้าง

ถึงจะแสบไปหน่อยแต่ก็เป็นคนที่พึ่งพาได้…มั้ง

 

 

ผมกับคุณเจย์ขึ้นเครื่องบินโดยใช้เวลาประมาณชั่วโมงเดียวก็ถึงเชียงใหม่ ช่วงแรกที่ลงมาก็ยังไม่หนาวเท่าไหร่ แต่พอได้ยืนไปครู่เดียวเท่านั้นล่ะผมถึงขนาดต้องหยิบเสื้อมาใส่ทับ คิดไม่ออกเลยว่าถ้าโซโล่ไม่ได้พาไปซื้อแล้วเอามาแต่เสื้อผ้าตัวเองจะเป็นยังไง

คุณเจย์ยืนกดโทรศัพท์อยู่ข้างผม ตอนแรกน่าจะคุยกับโซโล่อยู่ แต่พอมีสายเรียกเข้าเขาก็กดตัดสายแล้วปิดเครื่องทันที

“ต่อไปคุณชายจะติดต่อมาทางคุณกีล์นะครับ”เขาหันมายิ้มขอโทษให้ผม

“ครับ”

ที่คุณเจย์ต้องปิดโทรศัพท์น่าจะเพราะไม่ต้องการติดต่อกับคุณท่าน ตอนนั้นโซโล่ก็เคยบอกผมว่าที่คุณเจย์มากับผมก็เพราะจะพักผ่อน จะปิดโทรศัพท์ไม่รับสายคุณท่าน…ถึงผมจะกังวลแทนหน่อยๆแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่เชื่อว่าคุณเจย์คงคิดมาดีแล้ว

ผมเดินทางไปที่โรงพยาบาลตามทางที่สามคิงจดไว้ให้ พวกนั้นบอกว่าหลังจากสอบเสร็จจะขึ้นมาหา ส่วนจักรพรรดิที่เรียนจบแล้วก็จะขึ้นมาพร้อมน้อง ฮ่องเต้บอกผมว่าจักรพรรดิยังไม่หายดี ยังต้องการพักผ่อนอยู่

“คุณกีล์ไปอยู่กับคุณแม่เถอะครับ เดี๋ยวผมซื้อซิมใหม่แล้วจะติดต่อไป”

“เที่ยวให้สนุกนะครับคุณเจย์”

ผมแยกกับคุณเจย์หน้าโรงพยาบาล ตอนอยู่บนเครื่องผมบอกเขาไว้ว่าคงจะอยู่กับแม่ใหญ่ตลอดไม่น่าได้ไปไหน เราเลยตกลงกันว่าจะแยกกัน ให้เขาไปเที่ยว ส่วนผมก็คงอยู่แต่ที่โรงพยาบาล โซโล่เองก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่ย้ำว่าถ้าจะไปไหนนอกจากโรงพยาบาลให้รอเขามาถึงก่อน

ผมหยุดยืนอยู่หน้าห้องพิเศษของแม่ใหญ่ ต้องขอบคุณสามคิงที่ช่วยออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด พวกเขาบอกว่าแม่ใหญ่ก็เป็นเหมือนแม่ตัวเองเหมือนกัน ผมเองก็ขอบคุณและรับโอกาสนั้นไว้เพราะผมอยากให้แม่ใหญ่อยู่ห้องดีๆ…แต่ลำพังตัวเองคงออกค่าใช้จ่ายไม่ไหว

“ไม่เข้าไปเหรอคะ”

ผมหันไปตามเสียง เห็นเป็นคุณพยาบาลท่าทางใจดียืนยิ้มให้อยู่ เธอถือถาดอาหารของโรงพยาบาลเอาไว้

“นี่เวลาทานอาหารเหรอครับ”

“ค่ะ…คุณยายแกทานได้มากที่สุดก็เวลานี้ ถ้าให้ทานหลังจากนี้แกจะทานไม่ลงเลย”

ผมพยายามมองข้ามดวงตาสงสารของคุณพยาบาลแล้วเปิดประตูให้เธอ ด้านในก็สมกับเป็นห้องพิเศษ ดูสะอาด กว้างขวาง ผมวางกระเป๋าลงที่โซฟาแล้วเดินเข้าไปชิดเตียง

บนเตียงมีร่างของคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของผมนอนอยู่ แม่ใหญ่ดูชราลงจากสี่ปีก่อนมาก ใบหน้าที่เคยสดใสของท่านดูซีดเซียวเต็มไปด้วยริ้วรอย ร่างกายที่เคยผอมอยู่แล้วผอมยิ่งกว่าเดิม เส้นผมบนศีรษะกลายเป็นสีขาวทั้งหมด ท่านดูเปราะบางและอ่อนแอจนน่าใจหาย

“เดี๋ยวก็ตื่นค่ะ…ผู้สูงอายุวัยนี้ไม่ควรปลุกให้ตื่น ควรให้พักผ่อนให้เต็มที่ แต่ปกติแกจะตื่นเวลานี้ตลอด”คุณพยาบาลหันมายิ้มให้ผมอย่างใจดี “คุณคงเป็นลูกหลานของท่าน…”

“ครับ…”ถึงจะไม่ใช่แม่ลูกแท้ๆก็เหมือนใช่

“เหมือนกันเลยนะคะ”คุณพยาบาลวางถาดข้าวลงแล้วหันมามองผม “รอยยิ้มแล้วก็บรรยากาศค่ะ…อ่อนโยนแต่เข้มแข็ง”

“งั้นเหรอครับ”ผมยิ้มออกมา แตะปลายนิ้วลงที่ฝ่ามือผอมแห้งของแม่ใหญ่

“อยากป้อนท่านเองหรือเปล่าคะ”

“ครับ…เดี๋ยวผมให้ท่านทานเองครับ”

 “งั้นเดี๋ยวดิฉันจะเข้ามาเก็บนะคะ ส่วนยานี่ให้ทานหลังอาหาร”

“ขอบคุณมากนะครับ”

ผมนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียงเมื่อคุณพยาบาลออกไปแล้ว จากนั้นก็ค่อยๆจับมือแม่ใหญ่มากุมไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง มือของท่านไม่ได้นุ่มนวล มันทั้งเหี่ยวย่นและหยาบกระด้างจากการทำงานหนัก แต่ก็เป็นมือที่คอยอุ้มชูผมมาตลอดตั้งแต่จำความได้

‘ถ้ากีล์โกรธน้องไปอีกคน แล้วใครจะคอยห้ามเวลาน้องทะเลาะกัน กีล์อยากเห็นน้องร้องไห้เหรอลูก’

‘กีล์เป็นพี่คนโต พี่คนโตต้องดูแลน้อง แม่อยากให้กีล์เข้มแข็ง รู้จักอดทน กีล์ไม่อยากเป็นฮีโร่ของน้องแล้วเหรอ’

ตอนที่ผมโกรธน้อง ตวาดใส่น้องจนน้องร้องไห้ แม่ใหญ่คือคนที่เข้ามาสอนผมโดยไม่เคยใช้ไม้แม้แต่ครั้งเดียว ท่านสอนให้ผมรู้จักอดทนและเข้มแข็ง

“กีล์…”

“แม่ใหญ่!”ผมผุดลุกขึ้นด้วยความตกใจ แม่ใหญ่กำลังมองมาที่ผมด้วยสายตาอ่อนโยน

ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าต่อให้ภายนอกแม่ใหญ่เปลี่ยนแปลงไปสักแค่ไหน แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ตาม

สายตาและรอยยิ้มของท่าน…

ผมช่วยปรับเตียงของแม่ใหญ่ให้ตั้งขึ้นเล็กน้อย และมันทำให้ผมสังเกตเห็นว่า…นอกจากดวงตากับปากแล้ว…ไม่มีร่างกายส่วนไหนของท่านที่ขยับเลย

“เป็น…ยังไง”

เสียงแผ่วเบาขาดห้วงของแม่ใหญ่ทำให้ผมต้องขยับตัวเข้าไปใกล้ขึ้นเพื่อให้ได้ยินท่านชัดๆ ผมไม่อยากพลาด ไม่อยากให้ท่านพูดซ้ำ เพราะแค่พูดแต่ละคำออกมาก็ดูเหมือนท่านต้องใช้แรงมากเหลือเกิน

“สบายดีครับ”ผมกุมมือของท่านมาแนบแก้มแล้วส่งยิ้มให้

“ดี…”

“แม่ใหญ่ทานข้าวทานยาก่อนนะครับ กีล์มีเรื่องจะคุยด้วยเยอะเลย”ผมหยิบชามอาหารมาวางไว้บนตักตัวเอง พยายามบังคับมือไม่ให้สั่นแล้วป้อนอาหารที่เละจนเป็นน้ำให้แม่ใหญ่ทาน “ทานหน่อยนะครับ”

ผมช่วยป้อนอาหารแล้วก็เช็ดปากให้แม่ใหญ่ช้าๆ ท่านมองมาที่ผมตลอดเวลา ส่งรอยยิ้มอบอุ่นมาให้ถึงจะดูไร้เรี่ยวแรงขนาดไหนก็ตาม จวบจนผมป้อนอาหารคำที่ห้าท่านก็หยุดทาน ดูเหมือนที่คุณพยาบาลบอกว่าทานได้มากที่สุดคงจะได้แค่นี้จริงๆ สุดท้ายผมก็ต้องให้ท่านทานยาทั้งที่ทานข้าวไปแค่ห้าคำ

“แม่…อยากคุย”

“ครับแม่ใหญ่”ผมกลับมากุมมือแม่ใหญ่ไว้อีกครั้ง พยายามส่งยิ้มที่เป็นธรรมชาติที่สุดไปให้

“เล่า…”

“แม่ใหญ่อยากฟังเรื่องของกีล์เหรอครับ”ผมอมยิ้ม ถูแก้มกับมือของแม่ใหญ่เบาๆแล้วส่งสายตาอ้อนที่เรียนรู้มาจากหมาบางตัวไปให้ท่าน แม่ใหญ่ไม่ได้ตอบแต่ยังคงมองมาที่ผมเหมือนจะบอกว่าใช่

“ตอนเข้ามหา’ลัยก็ลำบากหน่อยครับ ดีที่คุณป้าเจ้าของหอท่านใจดียอมให้กีล์ค้างค่าหอไว้ก่อน ตอนปีหนึ่งกีล์ทำงานเยอะแยะเลยครับแม่ใหญ่ ทำร้านกาแฟ ล้างจานที่ร้านอาหาร ส่งของให้ลูกค้า แล้วก็รับจ้างทำความสะอาดห้องให้พวกนักศึกษา…มีครั้งหนึ่งที่กีล์โดนจับก้นตอนกำลังขัดห้องน้ำด้วย ดีที่หนีออกมาทัน”

แม่ใหญ่ส่งสายตาขบขันมาให้ ทว่าไม่มีเสียงหัวเราะหลุดออกมา…ท่านคงจะไม่มีแรง แต่แค่นั้นก็เพียงพอที่จะทำให้ผมยิ้มกว้างได้แล้ว

“กีล์ได้เป็นเดือนมหา’ลัยด้วยนะครับ ไม่รู้ว่ารุ่นพี่เห็นอะไรในตัวเหมือนกัน ตอนโชว์ก็ร้องเพลงห่วยจนเขินตัวเองเลย แต่สุดท้ายก็ได้ตำแหน่งมางงๆ”ผมหัวเราะเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ตอนนั้น แม่ใหญ่เองก็ยังคงมองมาที่ผมเหมือนเดิม “กีล์เก็บเงินมาเรื่อยๆ ดีที่เป็นเด็กทุนเลยไม่ต้องเสียค่าเทอม ปีหลังๆมาก็ทำงานที่เดียวแล้ว แถมได้เงินดีด้วยเพราะเป็นร้านของย่ารหัสกีล์ครับ กีล์คิดไว้ว่าถ้าอยู่ปีสี่เมื่อไหร่น่าจะมีเงินพอไปหาแม่ใหญ่ กีล์จะพาแม่ใหญ่ไปทานอาหารอร่อยๆ ไปเที่ยวที่ที่แม่ใหญ่อยากไป…”

“ไว้แม่ใหญ่หายเราไปด้วยกันนะครับ กีล์อยากฟังแม่ใหญ่เล่าเรื่องบนเขาด้วย…”ผมหลับตาลงเมื่อเห็นว่ารอยยิ้มหายไปจากใบหน้าของแม่ใหญ่ สายตาที่ส่งมาให้ผมเป็นสายตาอาทรที่ทำให้ผมรู้สึกใจสลาย

“กีล์…”

“ครับแม่ใหญ่”ผมลืมตาขึ้นอีกครั้ง จับมือแม่ใหญ่แน่นขึ้นแล้วยิ้มให้ท่านเหมือนปกติ

“เล่า…ต่อ”

“แม่ใหญ่อยากฟังเรื่องอะไรครับ”

“ความ…”จู่ๆเสียงของท่านก็หายไป ผมมองภาพที่แม่ใหญ่พยายามอ้าปากหลายครั้งให้เสียงดังออกมาโดยไม่พูดอะไร…ทำได้เพียงฝืนยิ้มทั้งที่ใจสั่นเทา “…สุข”

ความสุข…

ภาพใบหน้าของคนๆเดียวปรากฏชัดในความทรงจำที่ว่างเปล่าของผม

“กีล์เจอคนๆหนึ่งตอนเปิดเทอมปีสี่ครับแม่ใหญ่ เขาเข้ามาซื้อกาแฟ แต่พอกีล์แนะนำให้ดื่มนมอุ่นแทนเขาก็เชื่อ เขาบอกว่าถ้าไม่ได้ดื่มมนมอุ่นที่กีล์ให้แล้วเขาจะนอนไม่หลับ…เขาเป็นเด็กปีหนึ่งตัวสูง หน้านิ่งๆง่วงๆ แต่พออยู่กับกีล์แล้วชอบทำตัวเป็นหมาฮัสกี้ขี้อ้อน…”ผมหัวเราะเมื่อนึกภาพคนหน้านิ่งทำตัวเป็นหมาแล้วเดินเข้ามาอ้อน “เขาชื่อโซโล่ เป็นเด็กดุริยางค์ปีหนึ่ง…”

“อีกห้าวันเขาจะมาหากีล์ที่นี่ กีล์อยากให้เขามาเจอแม่ใหญ่ครับ”

“…แฟน”

“ครับ…เราเป็นคนรักกัน”ผมยิ้ม ลูบมือแม่ใหญ่เบาๆ “แต่ดูเหมือนพ่อเขาจะไม่อยากให้เราคบกัน เขาเป็นลูกคนเดียวของคนมีฐานะครับแม่ใหญ่”

“อย่า…”

อย่ายอม…

“กีล์ไม่ยอมหรอกครับ”ผมพูดแทนเมื่อเดาได้ว่าสิ่งที่ท่านจะสื่อออกมาคืออะไร “เรารักกัน เราต้องสู้ไปด้วยกัน ถ้าเขาไม่ปล่อยมือกีล์ กีล์ก็จะไม่มีวันปล่อยมือเขา เหมือนที่แม่ใหญ่เคยสอนกีล์ไงครับ”

‘อย่าหาข้ออ้างมาบังหน้าแค่เพียงเพราะเราไร้ความสามารถ’

“ถ้ากีล์ไร้ความสามารถจะเป็นลูกแม่ใหญ่ได้ยังไงเนอะ”ผมลุกขึ้นยืน ปรับเตียงแม่ใหญ่ให้เอนลงเหมือนเดิม ท่านอมยิ้มส่งมาให้ ผมมองเห็นความภูมิใจในดวงตาคู่นั้น

“โทร…ศัพท์”

“โทรศัพท์ทำไมเหรอครับแม่ใหญ่”

“อยากคุย…”

“แม่ใหญ่อยากคุยกับโซเหรอครับ…รอให้โซมาที่นี่ก่อนก็ได้ครับ อีกห้าวันเอง”

“ไม่ทัน…”

“แม่ใหญ่พักนะครับ พรุ่งนี้กีล์จะโทรหาโซให้”ผมพูดตัดประโยคที่แม่ใหญ่กำลังจะพูดแล้วห่มผ้าให้ท่าน

ผมรู้จักแม่ใหญ่ดี…และผมตีความได้ว่าสายตาและรอยยิ้มที่หายไปของท่านกับคำพูดสั้นๆที่สื่อออกมามันหมายความว่าอะไร

ผมยังไม่พร้อม…ยังไม่ใช่ตอนนี้

 

 

ครืด ครืด

ผมละสายตาออกจากแม่ใหญ่ที่หลับไปได้สักพักมามองโทรศัพท์ที่กำลังสั่น ชื่อที่ปรากฏบนจอทำให้ผมยิ้มออก

“สวัสดีครับ”

[กีตาร์ เปิดกล้องหน่อย]

ผมเสียบหูฟังแล้วเปิดกล้องตามที่โซโล่บอก ฝั่งนั้นกล้องสั่นอยู่สักพักก็เข้าที่ ดูเหมือนเขาจะหามุมวางโทรศัพท์ได้แล้ว จากที่ผมดูแล้วน่าจะเป็นหัวเตียง ส่วนตัวคนพูดก็นอนคว่ำเท้าคางมองผมอยู่บนเตียง

[นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เปิดกล้องเลย]

“พี่ก็เหมือนกันครับ”ถ้าโซโล่ไม่ได้เปิดเน็ตให้ผมเราคงไม่ได้คุยกันแบบนี้ แต่กว่าจะขอออกเงินได้นี่แทบจะต้องเอาไปแอบยัดใส่กระเป๋าตังค์อีกฝ่ายเอง สุดท้ายก็กลายเป็นออกกันคนละครึ่ง

[คุณแม่ล่ะ]

“หลับไปแล้วครับ”ผมถือโอกาสกลบรอยยิ้มเศร้าของตัวเองด้วยการหันกล้องไปทางเตียงให้โซโล่เห็นแม่ใหญ่ หลังจากสูดลมหายใจเข้าและเปลี่ยนกลับมาเป็นยิ้มที่ผมคิดว่าปกติแล้วก็เบนกล้องกลับมาที่โซฟาที่ผมนั่งอยู่เหมือนเดิม

[ง่วงหรือเปล่า]

“ยังครับ โซกลับมานานแล้วเหรอ”

[เมื่อกี้เอง พาเก้าไปกินชาบู…แดกยิ่งกว่าหมูอีก]

“ดีแล้วครับ”ผมหัวเราะออกมาเบาๆกับท้ายประโยคที่โซโล่บ่นอุบอิบ

[หัวเราะจริงๆเสียที]

“จริงๆ?”

[คิดว่าผมดูไม่ออกเหรอว่ากีตาร์ฝืนยิ้ม] โซโล่วางคางไว้กับหมอน หรี่ตามองผมด้วยใบหน้าบึ้งตึง

“ปิดอะไรโซไม่ได้เลย ขอโทษน้า”ผมลากเสียงยาวเป็นการง้อคนหน้าบึ้ง สุดท้ายเจ้าหมาก็ยกมุมปากขึ้นนิดๆเป็นรอยยิ้ม

[คงต้องขอบคุณไอ้เก้าที่เรื่องของมันทำให้กีตาร์ยิ้มได้]

“ถ้าไปขอบคุณพรุ่งนี้โซอาจจะได้เลี้ยงหมูกระทะ…”

[มันบ่นว่าอยากกินโออิชิแกรนด์…] โซโล่ทำหน้ายุ่ง ท่าทางเหมือนจะรู้อนาคตตัวเอง

“ดีแล้วครับ พี่จะได้มั่นใจว่าโซทานข้าว แต่โออิชิแกรนด์นี่จะเปลืองเงินไป…”ผมยั้งปากตัวเองไว้เมื่อนึกได้ว่าอีกคนจะตอบกลับมาว่าอะไร แต่ดูเหมือนจะไม่ทัน…

[ผมรวย]

“รอบที่สามแล้วนะครับประโยคนี้”ผมกลั้นขำจนปวดท้อง คำพูดอาจไม่เท่าไหร่ แต่หน้านิ่งๆเหมือนไม่รู้สึกรู้สาตอนที่พูดคำว่าผมรวยออกมานี่มันน่าหมั่นไส้สุดๆ

[ก็มันจริงนี่ แล้วอีกอย่าง…]

“ครับ?”

[ทุกครั้งที่ผมพูด…มันทำให้กีตาร์ยิ้มได้]

อา…

จริงด้วย

ผมกำลังยิ้มอยู่จริงๆนั่นล่ะ

“ขอบคุณนะครับ”

[ครับ…แล้วคุณแม่เป็นไงบ้าง]

“ก็…ดูเหมือนท่านจะไม่มีแรงขยับแล้วครับ นี่ท่านก็หลับไปสักพักแล้ว”

[กีตาร์…]

“ครับผม”ผมส่งยิ้มให้เจ้าหมาเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร เขาส่งสายตาเป็นห่วงมาให้แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ “ท่านอยากคุยกับโซด้วยนะครับ”

[ท่านรู้จักผมด้วยเหรอ] โซโล่ทำตาโต ท่าทางดูตื่นเต้นเหมือนเด็กๆ

“พี่เล่าให้ท่านฟังครับ”

[บอกหรือเปล่าว่าผมหล่อและรวยมาก] ว่าแล้วก็ยกยิ้มมุมปากเหมือนจะอวด

“ใครจะบอกแบบนั้นครับ”ผมหัวเราะออกมาอีกครั้ง เห็นอีกคนยิ้มพอใจก็เข้าใจทันทีว่าที่พูดประโยคขี้อวดพวกนั้นออกมาก็แค่อยากให้ผมยิ้ม “พรุ่งนี้สอบหรือเปล่า”

[ไม่สอบ…แต่มีซ้อมดนตรี แล้วก็น่าจะโดนเก้าลากไปเลี้ยงข้าวตามคำสั่งกีตาร์] เจ้าหมาทำหน้ามุ่ย น่าเอ็นดูจนผมอยากลูบหัว เสียดายที่อยู่ไกลเกินไป

“ดีแล้วครับ รวยนักนี่”ผมแกล้งกัด แต่นอกจากไม่สะทกสะท้านแล้วเขายังเชิดหน้ายิ้มรับอีกต่างหาก “พรุ่งนี้ถ้าแม่ใหญ่ตื่นพี่จะติดต่อไปนะครับ”

[รอผมไปหาจริงๆก็ได้]

“…”ผมพูดอะไรไม่ออกเมื่อได้ยินคำพูดที่มีความหมายเดียวกันกับที่ผมพูดกับแม่ใหญ่ไปก่อนหน้านี้

[เปิดกล้องให้แม่ใหญ่ดูด้วยนะ สงสัยท่านทนไม่ไหวอยากเห็นหน้าพ่อหมาลูกเขย] ดูเหมือนโซโล่จะเข้าใจความหมายของการที่ผมเงียบ ถึงได้กล้าพูดประโยคน่าตีนั่นออกมา

“พ่อหมาลูกเขยคืออะไรครับ”

[ก็กีตาร์เป็นแม่หมา ผมเลยต้องเป็นพ่อหมา]

“พี่ไม่ใช่หมาเสียหน่อย”ผมบ่นเบาๆ

[ต้องใช่สิ…ส่วนลูกเขยก็คือลูกเขย]

“เป็นลูกเขยตั้งแต่เมื่อไหร่กันครับ”

[ตอนนี้ยังไม่ได้เป็นหรอก…แต่พรุ่งนี้คงได้เป็นแล้ว] คนหน้าด้านหน้าทนส่งยิ้มมั่นใจมาให้

“ใครอนุญาตเรา”ผมถามเสียงดุทั้งที่ตัวเองกำลังยิ้มกว้าง

[ก็คอยดูแล้วกัน]

“ครับ…จะคอยดูนะ”

เรามองหน้ากัน พูดคุยสัพเพเหระไปเรื่อย ทั้งเรื่องสอบของโซโล่ที่เจ้าตัวอวดว่าง่าย เรื่องกินชาบูที่บอกว่าเก้ากินจนโดนพนักงานมองแรง เรื่องที่ผมกินข้าวของโรงพยาบาลไปเมื่อเย็นซึ่งโซโล่เบะปากแล้วบอกว่าห่วยแตก แค่ไม่ถึงวันที่ไม่ได้เจอกันเรากลับมีเรื่องคุยกันมากมายไม่รู้เบื่อ และมันทำให้ผมรู้สึกดีมากจริงๆที่มีเขาอยู่ด้วย

ผมมองใบหน้าของคนที่หลับคาโทรศัพท์ไปแล้วเงียบๆ นึกอยากลูบใบหน้านั่นเบาๆแต่ก็ทำได้เพียงสัมผัสหน้าจอ ความห่างไกลทำให้ผมทรมาน แต่การได้มองหน้าเขาแม้ว่าจะผ่านหน้าจอกลับทำให้ผมลืมความเจ็บปวดในจิตใจไปได้มากเหลือเกิน

ผมเอนตัวลงนอนกับโซฟา ถือโทรศัพท์มองดูใบหน้าที่กำลังหลับสนิทของอีกคน แค่หวังให้ความสุขช่วยให้ผมทำใจได้เร็วขึ้นบ้างสักหน่อยก็ยังดี

‘กีล์ต้องเข้มแข็งนะลูก’

แล้วเมื่อไหร่กีล์ถึงจะอ่อนแอได้ล่ะครับแม่ใหญ่…

----------------------------

 

 ติดแฮชแท็ก #โซโล่กีล์



Fan Page : Chesshire. Twitter : @Chesshire04
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-03-2017 20:08:36 โดย CHESS. »

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER28 P.20 [15/02/17]
«ตอบ #598 เมื่อ15-02-2017 19:12:57 »

กีล์ ยิ้มไว้นะลูก แม่ใหญ่เห็นหนูแบบนี้ แม่คงหมดห่วงแล้ว // หนูอยู่กับโซโล่ หนูอ่อนแอได้นะลูก *ตบไหล่ปุปุ*

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER28 P.20 [15/02/17]
«ตอบ #599 เมื่อ15-02-2017 19:15:28 »

 :hao5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด