[END]►East meets North บูรพากับองศาเหนือ◄ ตอนพิเศษ ในวันที่... 28/05/18
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [END]►East meets North บูรพากับองศาเหนือ◄ ตอนพิเศษ ในวันที่... 28/05/18  (อ่าน 309694 ครั้ง)

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
โถ่ บรูพาน่าสงสารจริง

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
เรื่องนี้ไม่น่าขำๆนะ

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
ถ้าเกิดบอกไปกลัวจะแย่ไปกว่านี้ใช่ไหม กลัวมองหน้ากันไม่ติดรึเปล่า
สงสารบูรพาเหมือนกัน เห้อ

อยากให้เหนือเลิกกับแพทจริงๆ สรุปแพทมันเบี้ยนใช่ไหม!?

ออฟไลน์ เต้าหู้ไข่

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +279/-5
    • twitter
การพบกันครั้งที่ 17
บูรพาขัดใจไม่เป็น


ผมไม่ได้กลับไปลำปางอีกเลยตั้งแต่ย้ายกลับไปอยู่กรุงเทพฯ เพราะคิดถึงที่นั่นก็เลยขอไอ้เหนือตามมันกลับบ้านด้วย พอมันอนุญาตก็เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าสองสามชุดกับของที่จำเป็นอีกนิดหน่อย ก่อนจะออกไปรอไอ้เหนือที่หน้าหอ  สักพักมันก็เดินตามลงมา

"ให้กูขับรถไปก็ได้นะ"

"ไม่เอามึง ไกล ไปรถทัวร์ดีกว่า"

"ตามใจ"

ไอ้เหนือเดินไปขึ้นรถอีกฝั่ง ก่อนผมจะขับออกมาจากหอ มันกำลังโทรรายงานแพทว่ากำลังกลับบ้าน ความพ่อบ้านกลัวเมียของมัน วางสายจากแพทก็หันมาหาผม

"ไอ้บูรพา มึงเคยนั่งรถไฟป่ะ?"

"เคยดิ"

"แต่กูไม่เคยว่ะ"

"บ้านนอก"

"สัด!"

หาเรื่องโดนด่าซะงั้นแหละ

"มันมีรถไฟไปลำปางด้วยนะเว้ย"

"มันนานไม่ใช่เหรอ?"

"กูอยากลองอะ ไปรถไฟกันป่ะ?"

"เอาดิ"

ผมเออออกับมันไปด้วย แล้วเปลี่ยนเส้นทางจากบขส. ไปสถานีรถไฟ โชคดีที่รถไฟขบวนที่จะไปลำปางกำลังจะมาถึงพอดี

"อีกนานป่ะวะกว่ารถไฟจะมา" ผมหันไปถาม ก่อนมันจะหยิบตั๋วขึ้นมาดู

"ถ้ามันมาตรงเวลาก็อีกสิบห้านาที"

"งั้นเดี๋ยวกูมานะ"

"อ้าวไปไหนอะ! เดี๋ยวไม่ทันนะเว้ย!"

ผมลุกออกมาจากเก้าอี้ในสถานีแล้ววิ่งออกไปหาเซเว่น ก่อนจะข้ามถนนไปเข้าเซเว่นแล้วเลือกซื้อขนมและของกินที่จะเอาไว้ยัดปากไม่ให้มันบ่นหิว จ่ายเงินเสร็จก็รีบวิ่งกลับไปหามัน ได้ยินเสียงประกาศจากสถานีว่ารถไฟขบวนที่ต้องขึ้นกำลังมาถึงพอดี

"มึงไปไหนมาวะ!"

"ซื้อขนมให้นี่ไง"

มันนิ่งไปนิดหนึ่งตอนที่หันมามองขนมในมือ แค่เห็นโคอาลามาร์ชก็หน้าบานล่ะ

"รู้ใจจริงๆ มึงนี่ ไปเร็วรถไฟจะมาแล้ว"

พอรถไฟมาถึงไอ้เหนือก็รีบลากผมไปขึ้นรถอย่างตื่นเต้น เหมือนเด็กหลังเขาเพิ่งออกมาเห็นว่าโลกนี้มียานพาหนะที่เรียกว่ารถไฟอะ ก่อนเราจะมาได้ที่นั่งในตู้ท้ายๆ ไอ้เหนือยิ้มกว้างตอนที่รถไฟค่อยๆ เคลื่อนตัวออกไป แล้วโผล่หน้าออกไปนอกหน้าต่าง

ตอนเย็นๆ ยังพอมีแสงอยู่ ผมจึงไม่รอที่จะยกกล้องที่ขึ้นมาถ่ายรูปมันเอาไว้

รถไฟออกมาจากสถานีพิษณุโลกได้ไม่กี่สถานีฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนสีจนมองไม่เห็นบรรยากาศข้างนอก

"น่าเสียดายเนอะ น่าจะมากลางวัน จะได้ดูวิวข้างนอกด้วย"

"ไว้ขากลับดิ"

"เออ งั้นเดี๋ยวกูโทรบอกให้พ่อมารอรับที่สถานีรถไฟก่อน มันประมาณกี่ชั่วโมงวะ" ไอ้เหนือหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาพ่อแล้วพูดเป็นภาษาเหนือ ผมห้ามตัวเองไม่ให้ยิ้มไม่ได้เลยตอนไอ้เหนือพูดคำเมือง โคตรของโคตรน่ารักเลยบักหำน้อย

ผ่านไปประมาณชั่วโมงกว่าๆ ผมไม่รู้ว่าเรามาถึงไหนกันแล้วเพราะข้างนอกมืดมาก ไอ้เหนือกินขนมที่ผมซื้อมาเกือบจะหมดแต่ก็ยังบ่นว่าหิวอยู่ มันเป็นควายกระเพาะเลยใหญ่ใช่มั้ยเนี่ย

"เอาป่ะ?" มันยื่นซองทาโร่มาให้ 

"กินเหอะ"

"เดี๋ยวหาว่ากูไม่แบ่ง" ว่าแล้วก็หยิบใส่ปากเคี้ยวหยับๆ มันหยิบมือถือขึ้นมาเล่น เลื่อนหน้าจอไปๆ มาๆ ลุกขึ้นยืนยืดตัว เดินไปเดินมาแล้วกลับมานั่งที่เดิม หยิบมือถือขึ้นมาเล่นอีกที สีหน้าเริ่มหงุดหงิด

"อีกนานป่ะวะ"

"ไม่รู้ดิ"

"โห่ ง่วงล่ะเนี่ย"

"นอนก่อนดิ ตื่นมาคงถึงพอดี"

"ไม่เอาอะ หลับบนรถไฟน่ากลัว เดี๋ยวใครมาอุ้มไปทำไง"

มึงไปเอาความเชื่อนี้มาจากไหนเนี่ย!

"มึงนอนเหอะ กูไม่หลับหรอก ใครมาอุ้มมึงเดี๋ยวไล่ให้"

"ไม่เอาอะ มึงไม่นอนกูก็ไม่นอน อยู่เป็นเพื่อนกัน"

"ตามใจ"

"ฟังเพลงดีกว่า" มันว่าแล้วหยิบหูฟังขึ้นมาเสียบมือถือแล้วเปิดเพลง ก่อนจะยัดข้างหนึ่งใส่หูให้ผม เพราะหูฟังไม่ยาวมากมันก็เลยเขยิบเข้ามาใกล้ๆ แล้วเอนตัวมาพิงผม

 

เนี่ย...ก็ชอบทำให้กูหวั่นไหว

 

"ได้ยินป่ะ" มันหันมาถาม ยิ่งทำให้หน้าใกล้เข้าไปอีก ผมก็เลยได้แค่พยักหน้าแล้วหันมองไปอีกทาง

เพลงเล่นไปได้ไม่กี่เพลง หัวของไอ้เหนือก็ซบลงมาบนไหล่ผม ผมหันไปมองจึงเห็นว่าหำน้อยมันหลับไปแล้ว ไหนบอกอยู่เป็นเพื่อนกันไง ฟาย ผมถอดหูฟังออกแล้วจับตัวมันเอนลงไปนอนบนตักเพราะกลัวมันจะปวดคอ สะดุ้งนิดหนึ่งตอนที่มันขยับตัวเหมือนจะตื่น แต่ก็นอนหลับต่อ

ถึงตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าเรามาถึงไหนกันแล้ว ไอ้เหนือก็ยังคงนอนอยู่บนตัก เหน็บแดกไปสองสามรอบก็ยังไม่ตื่น กว่าจะถึงลำปางคงไม่เป็นอัมพาตช่วงล่างไปก่อนนะ แต่แลกกับการได้นั่งมองหน้ามันมาตลอดทางก็ถือว่าคุ้มอยู่

"ขอตรวจตั๋วด้วยครับ"

ผมหันไปหาเจ้าหน้าที่บนรถไฟที่เดินมาขอตรวจตั๋ว เห็นไอ้เหนือยัดอยู่ในกระเป๋ากางเกงของมัน

"แป๊บหนึ่งนะครับ"

ผมค่อยๆ ดึงตั๋วนั่นออกมาจากกระเป๋ากางเกงของมันอย่างระวังเพราะกลัวมันตื่น เมื่อได้ตั๋วแล้วก็ยื่นให้เจ้าหน้าที่ตัดตั๋วนั่น

"แฟนเหรอ"

"ครับ?"

"น่ารักดีนะ" เจ้าหน้าที่คนนั้นพูดยิ้มๆ แล้วยื่นตั๋วคืนให้

เอ่อ...

 

แฟนครับ...แฟนคนอื่นน่ะ

 

"ที่นี่สถานี..."

คนบนตักผมขยับนิดหนึ่ง ก่อนจะลืมตาขึ้นมา เบิกตาขึ้นนิดหนึ่งเมื่อมองขึ้นมาเห็นผม แล้วลุกพรวดขึ้น มันยกมือขึ้นขยับเปลือกตาเบาๆ ก่อนจะกระพริบตาถี่ๆ

"เป็นไรวะ"

"คอนเทคมันเลื่อนอะ"

"เอาแว่นมาป่ะเนี่ย กูไม่อยากจูงคนตาบอดนะ"

"มันแค่เลื่อนไม่ได้หลุดเว้ย แล้วนี่ถึงไหนแล้ววะ"

"ไม่รู้ดิ ใกล้แล้วมั้ง"

"โห่ ไม่ถึงสักทีวะ!"

"เป็นไงล่ะ อยากลองขึ้นรถไฟ ประทับใจมั้ย"

"มึงอะ มึงน่าจะบอกกูสิว่ามันนาน"

"กูบอกไปแล้ว ฟาย"

"อ้าวเหรอ? แต่มึงก็น่าจะห้ามกูอะ"

"กูขัดมึงได้เหรอ"

มันนิ่งไปนิดหนึ่งแล้วหันมามองหน้า

"เออ มึงก็ตามใจกูตลอดเลยนะ"

"ก็มึงดื้อเหี้ย ขัดใจก็มาเหวี่ยงกูอีก"

"กับคนอื่นกูไม่เป็นงี้นะ แต่มึงไม่ขัดกู กูก็เลยชอบเอาแต่ใจกับมึงว่ะ"

"ก็เอาแต่ใจไปดิ"

"..."

"กูตามใจได้"

ไอ้เหนือหันขวับไปอีกทาง ก่อนจะแอบยิ้มออกมา

 

เฮ้ย...ยิ้มว่ะ...

 

...

ในที่สุดเราก็มาถึงลำปาง หลังจากลงจากรถไฟไอ้เหนือลงไปยืดเส้นยืดสายเหมือนจะแข่งยิมนาสติกโอลิมปิก มึงไม่ตีลังกาแปดตลบม้วนตัวกลับบ้านมึงไปเลยล่ะ

ผมกวาดสายตามองไปรอบๆ สถานี แล้วเงยหน้ามองท้องฟ้ามืดๆ แต่ยังพอมีดาวอยู่

 

ฟ้าลำปาง...

อากาศลำปาง...

กลิ่นลำปาง...

คนลำปาง...

สำเนียงลำปาง...

 

ที่นี่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยแม้แต่ความรู้สึกของผม ลำปางเป็นเมืองช้าๆ ใช้ชีวิตได้ช้าๆ หายใจได้ช้าๆ เป็นเมืองที่พอดีกับชีวิต และเป็นเมืองที่มีไว้เพื่อคิดถึง คิดถึงชีวิตที่นี่ คิดถึงคนที่นี่...

 

"มึงจะยืนเล่นเอ็มวีอีกนานมะ?"

ผมเหลือบตาไปมองไอ้เหนือเคืองๆ กูกำลังได้ฟีล...

"พ่ออยู่ไหนก็ไม่รู้เนี่ย ไปหาพ่อกัน"

ผมช่วยไอ้เหนือมองหาอาลิปดาพ่อของมัน ก่อนจะมองไปเห็นผู้ชายใส่แว่นยืนอยู่ที่ร้านน้ำใกล้ๆ สถานี

"เหนือ พ่อมึงอะ"

"อยู่ดีๆ มาด่าพ่อกูทำไมเนี่ย!"

"กูหมายถึงพ่อมึงอยู่นั่นอะ"

ไอ้เหนือตาวาวตอนที่มองไปเห็นพ่อตัวเองแล้วรีบวิ่งเข้าไปหา

"ป้อ!"

"อ้าว ถึงล่ะก๊า!"

"กึ๊ดเติงขนาด มากอด!"

"กอดๆ!"

ผมมองดูสองพ่อลูกกอดกันกลม พ่อไอ้เหนือดูใจดีไม่เปลี่ยนเลย

"เอ้อ ป้อ เหนือพาเปื่อนมาโตย" 

อาลิปดาหันมามองผม ก่อนจะขมวดคิ้วนิดๆ

"บูรพา!"

"จำผมได้ด้วยเหรอครับ"

"จำได้ดิ โห โตขึ้นอย่างหล่ออะ! แล้วนี่ทำไมมาด้วยกันได้ล่ะ"

"ผมเรียนที่เดียวกับไอ้เหนืออะครับ"

"จริงดิ! แล้วนี่..."

"พ่อ เหนือหิวอะ ไปหาอะไรกินแล้วค่อยคุยกันได้ป่ะ"

"ได้ๆ"

...

อาลิปดาพาผมกับไอ้เหนือมากินข้าวที่ร้านอาหารใกล้ๆ บ้านมัน ร้านที่เคยเป็นร้านประจำของผมกับไอ้เหนือ เมนูเดิมๆ ถูกสั่งมาโดยไอ้เหนือ ระหว่างมื้ออาหารก็พูดคุยกันอย่างคนที่ไม่ได้เจอกันนาน

"แล้วนี่เราไปอยู่ที่ไหนมา"

"ผมกลับไปอยู่กรุงเทพฯ ครับ"

"อ๋อ ตั้งแต่ตอนม.สามอะนะ"

"ใช่ครับ"

"โอ๊ย ตอนนั้นนะ เหนือมันมาร้องห่มร้องไห้แทบทุกวัน"

"ป้อ!" ไอ้เหนือหวีดขึ้นมาตอนที่พ่อมันกำลังเผา

"บอกคิดถึงบูรพา บูรพาไปไม่ล่ำไม่ลาอย่างนั้นอย่างนี้"

"พูดเรื่องอื่นได้มั้ย!"

"เอ้อ มันยังขอพ่อไปกรุงเทพฯ ด้วยนะ บอกว่าจะไปตามหาบูรพา"

ไอ้เหนือส่ายหน้ายิกๆ แล้วตักข้าวยัดใส่ปากไม่หยุด

"ยิ่งตอนที่ไอ้เจ้าเอมาบอกบูรพาไปอยู่เมืองนอก โอ้โห คราวนี้อาการหนักเลย ร้องไห้งอแง บอกว่าชาตินี้คงไม่ได้เจอกันแล้ว"

ผมเหลือบตาไปมองไอ้เหนือที่เคี้ยวข้าวตุ้ยๆ ทำเป็นไม่สนใจ

"คร่ำครวญยิ่งกว่าตอนแม่มันตายอีกนะ"

"ขนาดนั้นเลยเหรอครับ"

"เอ้อ อาการหนัก นึกว่าจะฆ่าตัวตายไปตั้งแต่ตอนนั้นล่ะ"

ทั้งกินข้าวทั้งคุยกันจนร้านเกือบปิด พวกเราก็กลับมาที่บ้านไอ้เหนือ บ้านของมันก็ยังเหมือนเดิม ผมเข้ามาในห้องนอนที่เมื่อก่อนมานอนบ่อยๆ

"บูรพามึงอาบน้ำเลย เดี๋ยวกูไปอาบห้องพ่อ"

ผมพยักหน้าตอบรับ ก่อนไอ้เหนือจะออกไปจากห้อง ผมกวาดสายตาไปรอบๆ ห้อง แล้วไปหยุดมองกรอบรูปมันกับแพทที่หัวเตียง ทำได้แค่ถอนหายใจเบาๆ แล้วหยิบเสื้อผ้าไปอาบน้ำ ก่อนจะออกมาเห็นไอ้เหนืออาบน้ำเสร็จแล้ว

"พ่อนอนแล้วเหรอ"

"เออ นอนไปล่ะ"

"นึกว่าจะมาคุยกันต่อ"

"พอเลยไอ้ห่า เผากูหัวไหม้หมดแล้วเนี่ย"

ผมหัวเราะเบาๆ แล้วเดินไปนั่งบนเตียงมัน

"มึงเคยร้องไห้คิดถึงกูด้วยเหรอ?"

"เปล่าเว้ย ตอนนั้นกูแพ้คอนเทคเลนส์ พ่อเข้าใจผิด"

"ไอ้บ้า ไม่เห็นต้องอายเลย กูยังร้องไห้เพราะคิดถึงมึงเลย"

มันหันขวับมามองแล้วขมวดคิ้วนิดๆ ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ๆ

"จริงดิ?"

"ตอนที่มึงลบเพื่อนในเฟซบุ๊คกูอะ กูเศร้ามากเลยนะ"

"ทำเป็นดราม่า ก็แอดใหม่แล้วนี่ไง"

"ไอ้เหนือ"

"ฮึ?"

"ตอนเราอยู่ด้วยกันแบบนี้ อดีตมันพุ่งชนมึงบ้างมั้ยวะ?"

ไอ้เหนือนิ่งไปนิดหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ

"ตลอดเวลาว่ะ กูคิดถึงวันเก่าๆ อยู่เรื่อยๆ คิดถึงสิ่งที่เคยทำด้วยกัน เวลาที่เคยสนุกด้วยกัน"

"มึงคิดถึงมั้ย?"

"คิดถึง"

ผมยิ้มออกมานิดๆ ตอนที่มันตอบออกมาอย่างไม่เฉไฉเหมือนทุกครั้ง ผมดึงมันให้เข้ามาใกล้ๆ

"ขอกอดหน่อยดิ"

"ฮะ?"

"ขอกอดให้หายคิดถึงหน่อยได้เปล่าวะ"

"ไอ้บ้า...แมนๆ ที่ไหนเขาจะมากอดกันวะ..."

ผมไม่รอให้มันพูดจบดึงเข้ามากอดแม่งเลย มันเองก็ไม่ได้ขัดขืนแล้วยกมือตบหัวผมที่นั่งอยู่บนเตียงเบาๆ 

"ต้องกอดนานแค่ไหนถึงจะหายคิดถึงวะ"

 

ไอ้เหนือ...กูจะทำยังไงกับความรู้สึกนี้ดีวะ...

.

.

.

ความรู้สึกในใจกูเนี่ย...

...

วันนี้ผมกับไอ้เหนือมาขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวรอบเมืองลำปาง มันพาผมมารำลึกความหลังในที่ที่เคยไป บ้านที่เคยอยู่ ร้านอาหารที่เคยกิน ก่อนจะมาจบที่โรงเรียนที่เคยเรียนด้วยกัน แต่เพราะวันนี้เป็นวันหยุดโรงเรียนก็เลยเงียบกว่าปกติ ผมเดินหามุมถ่ายรูปไปรอบๆ โรงเรียนจนเดินกลับมาเจอไอ้เหนือนั่งกินลูกชิ้นที่ซื้อมาจากหน้าโรงเรียนอยู่ที่ชิงช้าในสนามเด็กเล่น

"แชะ! แชะ! แชะ!"

            พอได้ยินเสียงชัตเตอร์ของผมมันก็หันมามอง

"ถ่ายกูจัง กูจะเก็บตังค์แล้วนะ ภาพละห้าบาท"

กูคงหมดตัวครับ...

ผมยิ้มหน่อยๆ แล้วเดินไปนั่งชิงช้าข้างๆ มัน เรื่องราวในอดีตค่อยๆ ถูกพูดถึงขึ้นมาทีละเรื่อง ตอนที่เรานั่งคุยกัน

"มึงจำได้ป่ะ เมื่อก่อนเราชอบพับเครื่องบินกระดาษแข่งกันอะ"

ผมพยักหน้าหน่อยๆ

"มึงแพ้กูตลอด"

"ตอนนั้นกูแขนสั้นไงเลยแพ้มึง แต่ถ้าเป็นตอนนี้กูคิดว่าต้องชนะมึงแน่ เออ งั้นเดี๋ยวกูมา" ไอ้เหนือว่าแล้ววิ่งเข้าไปในตึกเรียน สักพักหนึ่งก็วิ่งกลับมาพร้อมกระดาษเอสี่ในมือสองใบ

"ไปเอามาจากไหนวะ"

"ไปขอรปภ.มา อะ เอาไป"

ผมรับกระดาษมาจากมันแล้วพับให้เป็นเครื่องบินกระดาษ ผมหยิบปากกาในกระเป๋าขึ้นมาส่งให้มัน

"เขียนชื่อด้วย เดี๋ยวตีกันเหมือนตอนนั้นอีก"

จำได้ว่าเคยแข่งกันแต่จำไม่ได้ว่าของใครเป็นของใคร ทะเลาะกันแทบตาย ผมกับมันมีเรื่องทะเลาะกันมากกว่าร้อยเรื่องเพราะความขี้โวยวายของมัน แล้วผมก็ไม่ใช่คนใจเย็น ตีกันอยู่เรื่อยๆ แต่ส่วนใหญ่ก็จะทะเลาะกันด้วยเรื่องปัญญาอ่อนจึงไม่เคยทะเลาะกันได้นาน กลับมานั่งขำทุกทีว่าจะทะเลาะกันเพื่ออะไร

ไอ้เหนือเขียนชื่อตัวเองลงบนเครื่องบินกระดาษของมันแล้วส่งปากกาคืนมาให้ผม

"พร้อมยัง"

"อือ"

"ใครแพ้โดนลงโทษนะ"

"โทษอะไร?"

"ตกเป็นทาสหนึ่งวัน"

ผมพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

"โอเค ไฮไฟว์"

ผมยกมือขึ้นไปแตะกับมือมัน ก่อนมันจะดูมั่นอกมั่นใจแล้วเหวี่ยงเครื่องบินกระดาษในมือออกไปพร้อมๆ กับผม ผมมองเครื่องบินกระดาษสองลำที่ลอยละล่องตามลมไปแล้วร่อนลงสู่พื้น ของผมไปได้ไกลกว่ามาก สักสามเมตรได้

"ง่ะ! ไม่จริงอะ!"

"อ่อนว่ะเหนือ"

"เอาอีกทีดิ"

"ได้"

ผลการแข่งขันรอบที่สองผมก็ยังชนะมันอยู่ดี มันโตขึ้นแขนยาวขึ้นก็จริงแต่แรงไม่ค่อยจะมี กินแต่ขนมไม่มีประโยชน์ไม่ค่อยกินข้าวแถมไม่เคยออกกำลังกาย แค่ยกอะไรหนักๆ ก็ยังจะไม่ไหวแล้ว

"โห่ แพ้อีกแล้ว!"

"คิดจะสู้กับพี่สิบปียังเร็วไป"

"งั้นเอาใหม่ ใครชนะสองในสามถือว่าชนะเลย ไม่มีการต่อรองแล้ว"

"ได้"

"มึงเตรียมตัวเป็นทาสกูเลยไอ้บูรพา"

"กูรึเปล่าที่ควรจะพูดคำนั้น"

"มาเลย!"

ผมชนะมันสองครั้งรวดอย่างไม่ได้ออกแรงอะไรมาก ขนาดอ่อนให้มันแล้วมันยังเอาชนะไม่ได้ คนแพ้ก็เลยโวยวายจนแทบจะลงไปชักดิ้นชักงอ

"โห่! ไม่จริงอะ! ไม่จรี๊ง! มึงโกงกูป่ะเนี่ย!"

"โกงห่าอะไรล่ะ"

"แล้วทำไมชนะตลอดเลย"

"อะๆ กูให้อีกครั้ง"

"เป็นครั้งตัดสินเลยนะ"

"เออ"

ไอ้เหนือแสดงสีหน้ามั่นอกมั่นใจ ก่อนจะเหวี่ยงเครื่องบินออกไปอีกที ผมเองก็ด้วย ของมันลอยออกไปไกล ส่วนของผมพุ่งขึ้นไปติดพุ่มไม้

"เย่! กูชนะแล้ว!"

ถ้าไม่โง่จริงๆ ก็คงจะพอรู้ว่ากูตั้งใจพุ่งไปตรงนั้นอะนะ แต่เพราะว่ามันเป็นควายโดยกำเนิดก็เลยกำลังดีอกดีใจว่าตัวเองเป็นผู้ชนะอยู่

"เห็นมั้ยว่ากูชนะแล้ว"

"เออ เห็นแล้ว"

"มึงต้องเป็นทาสกูนะ"

"เชิญลงทัณฑ์บัญชาเลยครับ"

"หน้าที่แรกของทาส ไปซื้อโกโก้ปั่นให้กูหน่อย"

"แดกอีกล่ะ"

"กฎของทาสไม่มีสิทธิ์เถียงเจ้านาย!"

"สัด..."

"ทาสห้ามด่าเจ้านาย เดี๋ยวกูโบย!"

"เออ!"

"พูดให้มันเพราะๆ เดี๋ยวกูสั่งประหาร!"

"คร้าบ!"

ผมกระโดดไปเก็บเครื่องบินกระดาษที่ติดอยู่บนพุ่มไม้ใส่กระเป๋าแล้วเดินออกไปซื้อโกโก้ปั่นให้มันที่หน้าโรงเรียน แล้วเดินกลับมาให้มัน

"โกโก้ปั่นครับนายท่าน"

"ดีมากเจ้าทาส" มันว่าแล้วยกมือเคาะหัวผมสองสามที

"เกินไปล่ะๆ"

"กลับบ้านยังอะ ป่านนี้พ่อน่าจะกลับมาแล้ว"

ผมพยักหน้าหน่อยๆ  ก่อนไอ้เหนือจะเดินนำไปที่ลานจอดรถ ความซนของมันไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่อง จึงวิ่งกระโดดข้ามรั้วเล็กๆ ในสนามเด็กเล่นไปเรื่อยๆ จนไปถึงรั้วพุ่มไม้ที่ที่ริมสนามที่ค่อนข้างสูง

เดี๋ยวก็หน้าทิ่มหรอก...

"ตุ้บ!"

"อ๊า!!"

นั่นไง!

"ไอ้เหนือ!"

ผมรีบก้าวข้ามพุ่มไม้นั่นไปหาไอ้เหนือที่นอนคว่ำลงไปกับพื้น มันยันตัวเองขึ้นมาแล้วเบะปากทำท่าจะร้องไห้

"โกโก้ปั่น..."

"ห่วงแดกอีก" ผมก้มลงไปเก็บแก้วโกโก้ปั่นที่ล้มอยู่ข้างๆ

"ซนไม่เข้าเรื่องมึงอะ"

"กูเคยโดดข้ามได้"

"ทางดีๆ มีก็ไม่เดินไงไอ้ควาย เจ็บมั้ยเนี่ย"

"เจ็บดิ" มันยกมือปัดฝุ่นตามตัว ก่อนจะหันไปเห็นรองเท้าเตะที่มันใส่ของพ่อมันมา หูรองเท้าแยกออกเป็นสองส่วนไปเรียบร้อย

"เชี่ย รองเท้าขาดเลย!"

"สมน้ำหน้า"

"อย่าตอกย้ำกูสิ" มันลุกขึ้นมาแล้วยืนขาเดียวเพราะพื้นปูนค่อนข้างจะร้อน

"เดินได้มั้ยเนี่ย"

"เดินไม่ได้แล้ว" มันก้มลงไปหยิบรองเท้าแล้วเงยหน้าขึ้นมาด้วยองศาเหนือแบ๊วลุค ทำหน้าอย่างนี้คือคิดแผนอ้อนอะไรอยู่ในใจแน่ๆ 

"เจ้าทาส มาให้ข้าขี่หลังซะดีๆ"

"โห่ มึงหนัก!"

หนักจริงไม่ได้ล้อเล่น ถึงหน้าตามันจะน่ารักแต่น้ำหนักมันคือกระสอบข้าวสาร

ริมฝีปากชมพูของมันเชิดขึ้นนิดๆ กับหัวคิ้วที่ยกขึ้นแล้วกระพริบตาปิ๊งๆ

ยอมครับยอม

ผมถอนหายใจแรงๆ แล้วนั่งลงไปกับพื้น มันรีบกระโดดขึ้นมาขี่หลังจนเกือบเซ มันได้แต่หัวเราะคิกคัก

"มึงเป็นทาส มึงต้องยอมกู"

"ยอมแล้วนี่ไง"

"เมื่อกี้ก็ยอมแพ้ให้กูใช่ป่ะ"

"ไรนะ"

"ที่แข่งเครื่องบินไง กูรู้หรอกว่ามึงแกล้งเหวี่ยงไปติดต้นไม้อะ"

อ้าว...ไม่โง่นี่หว่า

"มึงแพ้แล้วก็โวยวายไง"

มันหัวเราะหน่อยๆ แล้วยกสองมือขึ้นโอบคอผมเอาไว้ ในขณะนั้นหน้ามันก็เฉียดเข้ามาใกล้ ก่อนมันจะพูดเสียงเบาๆ ที่ข้างๆ หู

"ก็โวยวายให้มึงตามใจไง"

 

เก็บศพกูด้วย ฝากบอกญาติว่ากูจากไปอย่างสงบ...

 


to be continued.


มีภาษาเหนือปรากฏในตอนนิดหน่อย ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ค่ะ
:o8: :o8: :o8:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-12-2018 17:47:32 โดย รชา »

ออฟไลน์ Sky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 933
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
โอ้ยยยย แพท.. เบี้ยนเหอะขอร้อง เค้าอยู่ด้วยกันแล้วมันดีมากเลย

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เหนือตัวอ่ะ ทั้งอ่อย ทั้งอ้อน บูรพาอยู่รู้ตัวป่ะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
"ก็โวยวายให้มึงตามใจไง"
เหนือ ขี้โวยวาย
บูรพา ก็ตามใจ เพราะรัก
รู้ว่าเขาตามใจ ก็เลยเอาแต่ใจ
คนถูกตามใจ จะติดคนเอาใจตัวเองนะ 
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
ลึกๆ แล้วเศร้าเนอะ
บูรพายอมเหนือทุกอย่างเลย เหตุผลเพราะรัก
ชอบตอนที่แข่งเครื่องบินกระดาษ
บูรพาก็ยังยอมให้เหนือชนะ

เหนือโสดไวๆ เถอะ


ออฟไลน์ เต้าหู้ไข่

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +279/-5
    • twitter
การพบกันครั้งที่ 18
บูรพาฝ่าไฟแดง


วันหยุดและเวลาที่ลำปางของผมหมดไปอย่างรวดเร็ว พรุ่งนี้ต้องกลับม.แล้ว ไอ้เหนือค้านหัวชนฝาตอนที่ผมชวนมันกลับรถไฟ แต่มันไม่เอาด้วยแล้ว ก็เลยตกลงกันว่าจะกลับรถทัวร์เพราะไวกว่าและสะดวกกว่า พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าแต่มันยังนอนรูดมือถือเล่นไม่เลิก

"เฮ้ย..." มันส่งเสียงออกมาเบาๆ แล้วทำคิ้วขมวดตอนที่มองไปยังหน้าจอมือถือ

"อะไรวะ"

"มึงดูดิ!" ไอ้เหนือเขยิบเข้ามาใกล้แล้วยื่นหน้าจอมือถือให้ผมดูก่อนจะเห็นว่าเป็นรูปแพทกับลูกไม้นอนอยู่บนเตียงเดียวกัน และเป็นเตียงหอในที่ขนาดแค่สามฟุตครึ่งสองคนนั้นจึงนอนตัวติดกันใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน น่าจะเป็นรูมเมทอีกคนถ่ายมาโพสท์และแคปชั่นที่ทำให้คนข้างๆ ผมหน้ายุ่ง

 

Saii sarika : เป็นรูมเมทไม่พอ เลื่อนขั้นเป็นเบดเมทค่ะ #ทีมแพทลูกไม้

 

"เบดเมทห่าอะไร!" ไอ้เหนือพูดอย่างโมโหแล้วจิ้มลงไปบนหน้าจอสองสามที

"มึงจะเมนท์อย่างนั้นไม่ได้นะเว้ย"

ดูเหมือนจะไม่ทันแล้ว ผมดึงมือถือมาจากมือไอ้เหนือแต่มันกดโพสท์คอมเมนท์ใต้ภาพนั้นไปแล้ว

 

เหนือ องศาเหนือ : แพทแฟนกู เลิกเล่นได้แล้วไม่ขำ   

 

"โพสท์งี้ไม่เป็นไรเหรอวะ"

"จะเป็นอะไรวะ ก็แพทแฟนกูอะ"

ผมถอนหายใจเบาๆ แล้วส่งมือถือคืนให้มัน

"มึงสงสัยอะไรก็ไปถามแพทมันตรงๆ ดีกว่า จะได้ไม่เข้าใจผิดกัน"

มันถอนหายใจแรงๆ แล้ววางมือถือไว้ที่โต๊ะใกล้ๆ หัวเตียงก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปง จิตใจคงกำลังฟุ้งซ่าน ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะพูดกับมันว่าไง ก็เลยลุกไปปิดไฟแล้วกลับมานอน

เรื่องของมันกับแพท ผมเสือกไม่ได้อยู่แล้ว...

...

"ตื้ด...ตื้ด..."

ผมลืมตาขึ้นมาเพราะเสียงนาฬิกาปลุกข้างๆ กำลังจะยกมือไปกดปิดแต่ก็ต้องชะงักกึก เมื่อหันไปเห็นไอ้เหนือมันนอนทับแขนของผมอยู่

กูว่าล่ะ ฝันว่าแบกหินทั้งคืน

ผมใช้มืออีกข้างเอื้อมมือไปปิดเสียงนาฬิกาปลุกแล้วหันกลับมามองไอ้เหนือที่นอนซุกอยู่ข้างๆ ผมค่อยๆ  ยกหัวมันออกจากแขน แล้วดึงแขนออกมา

โอ๊ย...เหน็บแดก

ผมยกไหล่ขึ้นเบาๆ ให้หายเมื่อยก่อนจะพลิกตัวกลับไปมองไอ้เหนือที่ยังหลับอยู่ หำน้อยนี่มันขี้เซาจริงๆ ผมยกมือแตะริมฝีปากชมพูๆ ของมันเบาๆ  อยากจูบมันแบบที่ไอ้ไกด์ทำแต่ชั่วไม่พอเท่าไอ้นั่นเลยไม่กล้า


"บูรพา เหนือ ตื่นได้แล้วนะ เดี๋ยวไม่ทันรถเน้อ!"

เสียงอาลิปดาที่ดังมาจากข้างนอกทำให้คนข้างๆ ผมขยับตัว ใกล้จนผมลุกหนีไปไหนไม่ทันก็เลยแกล้งหลับตาลงไป ได้ยินเสียงงู่งี่เบาๆ ของคนข้างๆ ที่ลุกขึ้นไปนั่ง

"ป้อเสียงดังอะหยังแต่เจ๊า แล้วแว่นต๋าฮาอยู่ไหนเนี่ย " [พ่อเสียงดังอะไรแต่เช้า แล้วแว่นกูอยู่ไหนเนี่ย]

"บูรพา ตื่นได้แล้วเว้ย"

มึงก็ลุกไปสิ ลุกไป

"บูรพา"

ผมกัดฟันแน่นตอนที่เสียงมันเหมือนดังอยู่ใกล้ๆ หน้า

"เป็นเห็บหมาแล้วยังขี้เซาอีก"

ไอ้บ้าเอ๊ย...ละเมอถีบเลยดีมั้ย

ผมยิ่งตัวแข็งทื่อตอนที่ไอ้เหนือจิ้มเข้ามาที่ข้างแก้ม มันเลื่อนมือขึ้นไปที่ปลายจมูกของผม แล้วลูบเบาๆ ที่ริมฝีปากอย่างที่ผมทำกับมันเมื่อกี้ อย่าทำแบบนี้ไอ้หำ อย่าทำแบบนี้!

"เพี๊ยะ!"

"โอ๊ย!" ผมเบิกตาขึ้นมาตอนที่ถูกมันตบเข้าที่หน้าผาก

"ตัวเหี้ย ตื่นได้แล้ว ไก่ขันแล้ว เดี๋ยวไปแดกไก่ไม่ทัน"

"เชี่ย..."

ผมพลิกตัวหนีมันมาอีกทาง แล้วกัดริมฝีปากแน่น

โอ้โห...ใจแทบระเบิด

...

อาลิปดามาส่งเราที่บขส.เพื่อนั่งรถกลับม. ล่ำลากันเสร็จก็ได้เวลารถออกพอดี ผมต้องบอกลาลำปางอีกครั้ง แต่คิดว่าคงได้กลับมาที่นี่อีก รถทัวร์ใช้เวลาน้อยกว่ารถไฟ นั่งมาไม่นานเราก็มาถึงบขส. แต่ขามาเสือกจอดรถไว้ที่สถานีรถไฟไง ก็เลยต้องต่อรถไปสถานีรถไฟ ไอ้เหนือนั่งเงียบมาตลอดทางเพราะก่อนหน้านี้เพิ่งโทรทะเลาะกับแพท เหมือนแพทไม่พอใจที่มันไปคอมเมนท์หยาบๆ ใต้ภาพเมื่อคืน ก็เลยทะเลาะกันไปยกหนึ่ง จากนั้นมันก็กลายเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้าทันที

"หิวเปล่า หาอะไรกินก่อนมั้ย"

"ไม่อะ กูอยากกลับหอเลย"

ผมพยักหน้าหน่อยๆ ก่อนจะตรงกลับหอเลย พอถึงหอมันก็รีบเข้าห้องไป ผมเองก็เดินเข้าห้องตัวเอง เพราะทำอะไรไม่ได้ เทเสื้อผ้าออกมาจากเป้ ตั้งใจจะเอาลงไปซักใต้หอแต่ขี้เกียจก็เลยทิ้งตัวลงที่นอน หยิบแลปท็อปมาเปิดแล้วเสียบยูเอสบีจากกล้องเข้าไปเพื่อโหลดไฟล์ภาพจากกล้องใส่แล็ปท็อปไว้ ผมกดดูรูปที่ถ่ายมาผ่านๆ แล้วเลือกเฉพาะรูปของไอ้เหนือใส่โฟลเดอร์ที่ซ่อนเอาไว้

             

องศาเหนือ

 

จัดการลากรูปของมันทั้งหมดเข้าไปในโฟลเดอร์นั้นแล้วเลื่อนดูรูปพวกนั้นวนไปวนมา

 

เหตุผลที่ทำให้ผมต้องยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปมันบ่อยๆ เพราะมันน่าจะเป็นวิธีเดียว…ที่ทำให้มันหันมายิ้มให้ผม

...

เกือบอาทิตย์ผ่านไปอย่างไวอีกแล้ว กิจกรรมห้องเชียร์ใกล้จะจบแล้ว อาทิตย์หน้าก็จะถึงงานพาวเวอร์เชียร์แล้ว เพื่อนๆ ทุกคนภาวนาให้ห้องเชียร์วันสุดท้ายมาถึงเร็วๆ สักที แต่ผมรู้สึกเฉยๆ มานั่งห้องเชียร์เหมือนมาเป็นก้อนหินนั่งให้ไอ้เหนือพิงตอนพัก แล้วก็บ่นเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้ฟังมากกว่า อย่างตอนนี้ก็เหมือนกัน บทลงโทษที่ผมต้องตกเป็นทาสของมันหมดเวลาไปนานแล้ว แต่มันยังทำเหมือนผมเป็นทาสมันอยู่เลย ต้องมานั่งเอาป้ายชื่อโบกๆ พัดๆ ให้มันเพราะงอแงว่าร้อนอยู่นั่นแหละ ส่วนมันก็บ่นเรื่องแพทให้ฟังไม่หยุด

"แพทแม่งด่ากูงี่เง่า กูแค่แสดงความเป็นเจ้าของมันงี่เง่าตรงไหนวะ มึงคิดดูดิ คบกันมาสี่ปี แต่ถ้าคนที่ไม่ใช่เพื่อนกันจริงๆ นี่ไม่มีใครรู้เลยนะ ตั้งความสัมพันธ์ในเฟซบุ๊คก็ไม่ได้ โพสท์รูปคู่ก็ไม่เคย กูไปโพสท์อะไรหน้าวอลแม่งก็ตั้งไพรเวทไม่มีใครมองเห็นอะ คนอื่นเขาทำแบบนี้ป่ะวะ"

"ไม่รู้ดิ"

"หึงกูก็ไม่เคยหึง คุยกันก็เหมือนเพื่อนอะ ไม่มีอะไรพิเศษเลย"

"ก็มึงเป็นเพื่อนกันมาก่อนไง"

"ก็ใช่ แต่ตอนนี้มันเป็นแฟนกูไง ถ้ามึงเป็นแฟนกูมึงจะทำงี้มั้ย?"

"ถ้ากูเป็นแฟนมึง?"

"เออ มึงจะทำไงวะ"

"คงต้องเอามึงก่อน"

"ไอ้บูรพา ไอ้บ้า!"

ผมหัวเราะเบาๆ ในใจไม่ขำหรอก กูคิดงั้นแหละ...

"หรือว่าแพทไม่รักกูแล้ววะ"

"คิดมาก"

ได้ยินแค่เสียงถอนหายใจเบาๆ ของมันก่อนจะหมดเวลาพัก กิจกรรมห้องเชียร์ดำเนินต่อไปจนจบ ไอ้เหนือก็แยกตัวกลับหอไปก่อน ส่วนผมไปกินข้าวต่อกับพวกเพื่อนๆ แก๊งผู้ชายในเอกที่มีน้อยนิดเลยต้องเกาะๆ กลุ่มกันเข้าไว้

"ไอ้บูรพา เพื่อนกูอยากได้ไอดีไลน์มึงอะ"

"เอาไปทำอะไร"

"มึงมีไลน์ไว้ทำอะไรล่ะเพื่อน นี่ เพื่อนกูชื่อแอ๋ม เป็นหลีดคณะสังคมฯ " ไอ้บอมบ์ว่าแล้วเลื่อนรูปในเฟสบุ๊คของผู้หญิงคนนั้นให้ดู

"อย่างสวยครับ" ไอ้ภัทรว่าขณะชะโงกหน้าเข้ามามองด้วย

"ให้ไปเลยไอ้บูรพา"  ไอ้อิฐเสริมเข้ามาอีกคน

"ไม่เอา กูไม่ชอบคุยไลน์กับใคร"

"งั้นกูบอกให้มันมาคุยกับมึงตัวเป็นๆ ล่ะกัน"

"วี้วๆๆ" ไอ้พวกนี้แหกปากแซวจนโต๊ะข้างๆ หันมามอง ผมได้แต่ส่ายหัวเบาๆ แล้วตักข้าวใส่ปาก

 

"ติ๊ง!"

 

ผมควักมือถือในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาเปิดดูไลน์ที่ดังขึ้น ก่อนจะเห็นว่าเป็นไอ้เหนือจึงกดเข้าไปอ่าน

 

องศาเหนือ : มึง ไม่อยู่ห้องเหรอ

บูรพา : กินข้าวอยู่

องศาเหนือ : กินเสร็จยัง

บูรพา : ยัง มาเปล่า

องศาเหนือ : งั้นกูฝากซื้อได้ป่ะ

บูรพา : เอาอะไร

องศาเหนือ : อะไรก็ได้

 

ผมกดส่งสติกเกอร์กลับไปตัวหนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาเห็นไอ้สามตัวนี้ชะโงกหน้าเข้ามารุมอ่านไลน์ผม จึงรีบกดปิดหน้าจอ 

"อะไรของพวกมึง"

"ไหนบอกไม่ชอบคุยไลน์กับคนอื่นไงครับคุณบูรพา"

"พิมพ์ให้ยิกๆ เลยนะ"

"ไอ้เหนือไง มันฝากซื้อข้าว" ผมพูดปัดๆ แล้วตักข้าวใส่ปากอีกที

"เมียมึงอะนะ"

"แค่ก!" สำลักข้าวเลยไอ้บ้า

"ใจเย็นๆ" ไอ้ภัทรว่าแล้วยกแก้วน้ำให้

"ก็กูเห็นไอ้พวกสาววายมันหวีดกัน บูรพากับองศาเหนืองี้"

"ไม่มีอะไร กูรู้จักกับมันมาตั้งแต่ม.ต้นแล้ว"

"ตอนแรกๆ เห็นบอกไม่ถูกกันนี่หว่า"

"ดีกันแล้ว"

"มึงชอบมันเหรอ?"

ผมเงียบไปตอนที่ไอ้บอมบ์พูดแบบนั้น ไอ้พวกที่เหลือก็มองหน้าอย่างลุ้นเอาคำตอบ

"พูดมาเหอะ เพื่อนกัน"

"เออ รับได้"

ผมได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ

"มันมีแฟนแล้วไง"

"..."

"แฟนมันก็เป็นเพื่อนกูด้วย"

 

เพื่อนชอบแฟนเพื่อนเนี่ย...มันโคตรเหี้ยเลยใช่เปล่า?

 

            ...

 

            วันนี้วันศุกร์ มีเรียนแค่ถึงเที่ยง หลังเลิกเรียน พวกเพื่อนๆ แก๊งชะนีของไอ้เหนือ ชวนผมมาเดินเล่นที่เซนทรัล ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะมากับพวกมันด้วยแต่พวกมันส่งไอ้เหนือมาอ้อน แถมเอาไก่มาล่อผมก็เลยต้องยอมขับรถมาให้พวกมัน หลังจากออกมาจากเคเอฟซีพวกผู้หญิงรวมถึงไอ้หนุ่มก็แยกออกไปเดินดูเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าตามแบบฉบับผู้หญิง ส่วนผมกับไอ้เหนือแยกกันมาเดินอีกทาง ผมพยายามลากมันให้ห่างๆ จากแผนกของเล่น เลยมาเดินวนกันอยู่ที่ร้านหนังสือ ผมมาอยู่ที่ชั้นหนังสือหมวดท่องเที่ยว เพราะเป็นคนชอบเที่ยว หาที่สวยๆ ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ มันเริ่มจากตอนที่ผมไปแลกเปลี่ยนที่แคนาดา ไลฟ์สไตล์ผมไม่ตรงกับเพื่อนฝรั่งสักคนที่นั่น วันหยุดของผมจึงไม่เคยออกไปจอยที่ไหนกับเพื่อน แต่ออกเดินทางไปเรื่อยๆ หาที่ถ่ายรูป จากนั้นก็กลายเป็นคนชอบเที่ยวไปเลย ตอนกลับมาไทยก็แบกกระเป๋าเที่ยวกับไอ้อาคเนย์ น้องชายไปด้วยกัน แต่พอผมมาเรียนที่นี่ก็ไม่ค่อยมีเวลา มันเก็บแต้มทั่วประเทศแซงผมไปแล้ว แถมยังถ่ายรูปมาอวดบ่อยๆ ให้อิจฉาเล่นอีก  ผมหยิบหนังสือท่องเที่ยวที่อยากได้สองสามเล่ม แล้วเดินไปหาไอ้เหนือที่กำลังยืนอ่านอยู่

"มึงอ่านหนังสือแบบนี้ด้วยเหรอวะ" ผมมองไปยังหนังสือในมือมัน เป็นหนังสือบทความสร้างแรงบันดาลใจอะไรทำนองนั้น

"ทำไม? หน้าอย่างกูอ่านพระไตรปิฎกสิมึงค่อยตกใจ"

กวนตีนจริงๆ

"มึงก็น่าจะลองอ่านบ้างนะ กูแนะนำสองเล่มนี้" มันว่าแล้วดึงหนังสือออกมาจากชั้นให้ผมสองเล่ม เป็นหนังสือที่มาจากคนเขียนคนเดียวกัน

 

หนึ่งวันธรรมดา : Sundaynight01

สุดท้ายมันก็กลายเป็นอดีต : Sundaynight01

 

"ที่มึงเคยเอาในไอจีให้กูดูอะนะ"

"เออใช่ คนนี้แหละเจ้าของไอจีนั้น ถ้ามึงลองอ่านแล้วจะชอบ"

"แต่กูว่ามึงเหมาะจะอ่านเล่มนั้นมากกว่า"

ผมเดินไปหยิบหนังสือที่มองไปเห็นพอดี ก่อนจะเอากลับมาส่งให้มัน

 

"108 วิธี ทำอย่างไรให้ฉลาดขึ้น"

 

"ไอ้บูรพา ไอ้สารเลว!" มันคว้าหนังสือเล่มนั้นแล้วใช้สันหนังสือฟาดเข้ามาใส่หัวผม

"โอ๊ย ไอ้เหนือ เจ็บ!"

"สมน้ำหน้า กูจะฟาดให้หน้าแหกเลย!"

"เบาๆ ไอ้เหนือ อายเขา!" ผมดึงหนังสือในมือมันไปเก็บที่เดิม ก่อนจะลากมันออกมาจากร้านท่ามกลางสายตาคนอื่นที่มองมา แต่ไอ้เหนือก็ยังด่าผมไม่เลิก

"ไอ้บูรพา ไอ้เห็บหมา! มึงนี่มันตัวเหี้ยจริงๆ! มึงมัน..."

อะ...ด่าวนไปให้ถึงหอเลย

...

ผมออกมายืนอยู่ที่ระเบียง มองดูอากาศที่ครึ้มฟ้าครึ้มฝนหลังจากเพิ่งตากผ้าเสร็จ ขอบคุณมาก น่ารักจริงๆ ผมกลับเข้ามาในห้องแล้วเห็นแชทจากเฟซบุ๊กเด้งขึ้นมาที่หน้าจอแลปท็อป

แพท?

 

แพท : บูรพา ทำไรอยู่วะ ว่างเปล่า?

            บูรพา : ว่างอยู่

แพท : คอลไปนะ

จบประโยคนั้นแพทก็โทรผ่านแชทมาหาผม  แปลกใจนิดหน่อยว่ามีเรื่องอะไรจะคุยกับผม

"ว่าไงแพท"

(ไม่ได้อยู่กับใช่เหนือป่ะ)

"เปล่า มีอะไรเหรอ"

(เครียดๆ เรื่องมันแหละ ไม่รู้จะคุยกับใคร)

"อ่อ ยังไม่ดีกันอีกเหรอ"

(เหนือมันงี่เง่าว่ะ พูดไปก็ชวนทะเลาะ นี่ไม่ได้คุยกันมาหลายวันแล้วเนี่ย)

แพทระบายเรื่องไอ้เหนือออกมาให้ผมฟังไปเรื่อยๆ ผมทำได้แค่เป็นผู้ฟังที่เออๆ ออๆ ตามไป

(เฮ้อ บ่นมากไปแล้ว รำคาญป่ะเนี่ย)

"เฮ้ย ไม่"

(แกนี่เหมือนตอนม.ต้นไม่เปลี่ยนเลยนะ ใครมีอะไรก็มาบ่นกับแก)

"เออ แพท ถามอะไรหน่อยดิ"

(ว่า)

"แกกับลูกไม้อะ ไม่มีอะไรจริงๆ ใช่ป่ะวะ"

อีกฝ่ายเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบกลับมา

(ไม่มีอะไร ก็เหมือนบูรพากับองศาเหนือนั่นแหละ)

ถ้าเหมือนกูนี่...กูมีอะไรนะครับ

"อ่อ งั้นก็ไปคุยกันดีๆ ดิ"

(อือ เดี๋ยวหาโอกาสคุยกันอีกที งั้นแค่นี้ก่อนนะบูรพา ขอบใจมาก)

ผมกดวางสายจากแพท แล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ

ไปคุยกันเองสิ...ต้องมาฟังทั้งสองฝ่ายระบายใส่ผ่านกูเนี่ย...

 

เห็นใจกูบ้าง....

...

ผมนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงด้วยใจว้าวุ่นขุ่นมัว ออกไปสูบบุหรี่ที่ริมระเบียง สูดดมอมควันอยู่สักพักอารมณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น โว้ย! หงุดหงิดเว้ย! ผมลุกพรวดแล้วคว้ารถบังคับออกไปที่หน้าห้อง ยืนรวบสติอยู่หน้าห้องไอ้เหนืออยู่หนึ่งอึดใจก่อนจะเคาะประตูห้องมัน สองสามครั้งมันก็ออกมาเปิด

ไอ้เหนือใส่แว่น...

ไอ้เหนือใส่แว่นว่ะ...

น่ารักเชี่ย...โอ๊ย ใจเหลวหมดเลยกู

"มีไรมึง"

ลืมเลยว่ากูจะพูดอะไร

"กูหงุดหงิดว่ะ ไปหาที่ซิ่งรถกันป่ะ?"

มันเหลือบตามามองที่รถบังคับในมือผม

"เออ เอาดิ อารมณ์ไม่ดีอยู่เหมือนกัน"

 

ผมกับไอ้เหนือมาอยู่ที่ลานพลังงานทดแทนพร้อมรถซิ่งคนละคัน ถนนเส้นนี้ที่ปกติไม่ค่อยมีรถอยู่แล้ว พอเป็นวันศุกร์ยิ่งโล่งเข้าไปใหญ่ บริเวณสนามในลานที่ปกติจะมีนิสิตมานั่งเล่นกันก็ไม่มีใครเลย คงอากาศที่ดูเหมือนฝนจะตกจึงไม่มีใครออกมา เว้นผมกับไอ้เหนือที่กำลังเล่นรถบังคับในถนนกว้างๆ ที่กลายเป็นลานแข่งเรซซิ่งคาร์ของเราสองคน จากที่ต่างคนต่างเล่นกันอยู่ พอหำน้อยมันหันมาเห็นผมดริฟท์รถบังคับหลายๆ ท่ามันก็เริ่มหันมาให้ความสนใจ

"มึงทำงั้นได้ไงอะ"

"กูเก่ง"

"สอนมั่งดิ"

เหนือมันเป็นคนที่มักจะสนใจสิ่งแปลกๆ ที่มันไม่เคยทำ ขอให้สอนทำนั่นทำนี่อยู่เรื่อยๆ ชอบเวลามันกระตือรือร้นที่จะอยากทำ ก็เลยต้องสอนให้มัน

"เอาของกูนี่"

ผมแลกรีโมทบังคับของผมให้มัน

"โห ของมึงอย่างไวอะ! เฮ้ย บังคับยาก!"

"แต่ดริฟท์ง่ายกว่าไง มึงใช้ความเร็วพอดีๆ ไม่ต้องเร็วมาก แล้วมึงก็บังคับเลี้ยวข้างที่มึงถนัดอะ"

"อ่า"

"นั่นแหละ ไปเรื่อยๆ เลย"

"ยางมึงลื่นดีว่ะ"

"กูหารุ่นนี้ให้มึงแล้วแต่ไม่มี เดี๋ยวเจอซื้อมาให้"

"เย่ ขอบใจมาก เออ แต่ของมึงดริฟท์ง่ายจริงๆ ด้วยว่ะ"

"เล่นไป"

ผ่านไปครึ่งชั่วโมงมันยังสนุกอยู่กับการดริฟท์รถเล่น ส่วนผมมายืนดูมันเล่นอยู่อีกทาง ไม่ได้เอากล้องมาด้วยเลยได้แต่หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปมันที่เล่นสนุกเป็นเด็ก โคตรชอบตอนมันใส่แว่น ยิ่งมองยิ่งเขิน

"ไอ้บูรพา"

"ฮะ?"

"มึงเป็นบ้าอะไร ยืนแกะเปลือกต้นไม้?"

            หือ?

"อ้อ กู...อยากรู้ว่ามันคือต้นอะไร"

"แล้วมันมีชื่อแปะอยู่ในเปลือกต้นไม้หรือไงไอ้บ้า"

ผมได้แต่หัวเราะแห้งๆ

"ไม่เล่นต่อล่ะไง?"

"เมื่อยแล้วอะ"

"บรื้น!!"

ทั้งผมและไอ้เหนือหันไปมองเสียงรถยนต์ที่ขับมาอย่างเร็ว

"เฮ้ย รถมึง!" ไอ้เหนือร้องลั่นแล้ววิ่งไปที่ถนนเพราะรถบังคับของผมยังอยู่ตรงนั้น ผมรีบคว้าตัวมันเอาไว้ และใช้อีกมือคว้ารถบังคับที่จอดอยู่ มาได้ทันก่อนที่รถยนต์นั้นจะเหยียบ

"ไอ้สัด จะรีบไปไหนวะ!" มันหันไปด่าไล่หลังไอ้รถที่ขับออกไป

ผมนี่ใจแทบจะหลุดออกจากอก

"ดีนะไม่เหยียบรถมึงอะ ไอ้บ้าเอ๊ย!"

"มึงนั่นแหละบ้า!"

ไอ้เหนือเงยหน้าขึ้นมามองแล้วกระพริบตาถี่ๆ อย่างงงที่ผมเสียงดังใส่

"วิ่งพรวดออกมาแบบนั้นเกิดโดนรถชนขึ้นมาว่าไง"

"แต่กูเป็นห่วงรถมึง"

"รถมันตายได้มั้ยไอ้ควาย!"

"เออๆ กูขอโทษ กูโง่เอง ควายมากๆ เลยกูเนี่ย"

"ไอ้ห่าเอ๊ย" ผมสบถอย่างหงุดหงิดแล้วผลักหัวมันทีหนึ่ง ได้ยินเสียงมันบ่นงุ้งงิ้งตอนที่เดินตามหลังมา

"จะต้องโมโหอะไรเบอร์นี้..."

ผมกับไอ้เหนือมานั่งอยู่ที่ริมบ่อน้ำกลางสนาม เมฆฝนก็ครึ้มขึ้นทุกทีๆ จะตกก็ไม่ตก ไอ้เหนือหยิบมือถือขึ้นมารูดๆ อยู่พักหนึ่งแล้วเก็บยัดใส่เข้าไปที่เดิม ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ

"มึงอารมณ์ไม่ดีเรื่องอะไรวะ" ผมหันไปถาม

"ก็เรื่องแพทแหละ"

"ก็ทักไปดิ แพทมันรอให้มึงง้ออยู่มั้ง"

"ไม่เอาอะ เดี๋ยวอยากคุยก็คงทักกูมาเองแหละ"

"คิดแบบนี้ทั้งคู่เดี๋ยวก็ไม่ได้คุยกันหรอก"

"เฮ้ย มึงอย่าพูดงี้ดิ กูหวั่นเลยเนี่ย"

"ก็ทักไปดิ ไปคุยกันดีๆ"

มันพยักหน้าหน่อยๆ แล้วหยิบมือถือขึ้นมากดเข้าไลน์ เดาว่ามันคงทักไปหาแพท เสร็จแล้วก็วางมือถือลงข้างๆ แล้วหันมาผม

"แล้วมึงอะ หงุดหงิดเรื่องอะไร"

"หงุดหงิดตัวเองอะดิ"

"เป็นอะไรอะ เป็นมะเร็งเหรอ"

"พ่อง!"

"เล่นพ่อกูอีก แล้วมึงเป็นอะไร"

ผมเงียบไปพักหนึ่ง หันมองหน้ามันจนมันเลิกคิ้วอย่างสงสัย

"ว่าไง เป็นอะไร"

"เป็นคนเหี้ยๆ"

"อ้าว ก็ธรรมชาติของมึงถูกแล้ว"

"ไอ้บ้า! ถีบตกน้ำเลยดีมั้ย!" ผมแกล้งผลักมันเกือบจะหล่นน้ำก่อนจะดึงตัวมันกลับมา

"เฮ้ยๆ ล้อเล่นๆ! อะๆ แล้วตกลงเป็นอะไร"

"ที่มึงเคยบอกว่า เพื่อนชอบแฟนเพื่อนนี่มันโคตรเหี้ยเลยใช่มั้ย"

"ใช่ดิ"

"กูกำลังชอบแฟนเพื่อนอยู่ว่ะ เหี้ยมากเปล่าวะ"

"เหี้ยดิ! ไม่ได้นะเว้ย เรื่องนี้ชีวิตมึงติดไฟแดง มึงต้องเหยียบเบรก"

"กูก็อยากจะหยุด แต่ใจกูมันสั่งให้เหยียบมิดไมล์เลย"

"ไม่ได้นะมึง ห้ามใจไม่เป็นหรือไงวะ"

"กูพยายามแล้ว แต่มันไม่ได้ไง"

"แล้วนี่มึง...แอบชอบแฟนใครวะ"

"แฟนแพท"

ไอ้เหนือนิ่งไปตอนที่ได้ยินแบบนั้น มันหลบสายตาลงไปนิดหนึ่ง ถอนหายใจเบาๆ แล้วเงยขึ้นมา ผมไม่ได้คิดว่าจะบอกกับมันในวันนี้ อยากเก็บเอาไว้เป็นความรู้สึกของตัวเองแค่คนเดียว แต่มันยากเกินไป ไม่อยากทนแล้ว...

"บูรพา มึงต้องเคารพกฎจราจร"

"แล้วถ้ากูอยากฝ่าไฟแดงล่ะ"

"มึงก็ถูกรถชนตายสิ"

"งั้นกูยอมฆ่าตัวตาย"

โอเค...กูไม่ทน

ผมดึงหน้าไอ้เหนือเข้ามาใกล้แล้วกดริมฝีปากเข้าไปอย่างห้ามไม่ได้ คนถูกจูบตัวแข็งทื่อคงช็อกไปแล้ว เดาว่าหากปล่อยปากออกคงโวยวายลั่นที่ผมบังอาจไปข่มขืนปากมัน ไอ้เหนือไม่โต้ตอบจูบของผม ไม่รู้ด้วยเหตุผลอะไร สติหลุดไป ไม่รู้วิธีจูบ หรือแท้จริงแล้ว ไม่ได้รู้สึกอะไร

เห็นแก่ตัวมากพอผมจึงถอนริมฝีปากตัวเองออกมา ไอ้เหนือกระพริบตาถี่ๆ แล้วเอ่ยบางคำออกมาเบาๆ

"มึงทำอะไรวะ"

.

.

.

"กูจูบมึงไง"


to be continued.


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-04-2020 09:59:18 โดย เต้าหู้ไข่ »

ออฟไลน์ Starry[Blue]

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เป็นนิยายที่เหมาะกับการอ่านในบรรยากาศแบบนี้มากๆค่ะ (อากาศวันนี้เย็นสบายสุดๆๆ)
แอบตามมาสักพัก อ่านแล้วชุ่มชื่นใจจังค่ะ ชอบความรู้สึกตอนบูรพาอยู่กับองศาเหนือ มันเนียนจริงๆ กราบเลย55555 คิดเหมือนคนอื่นว่าแพทกั๊ก เออใช่ แพทกั๊ก แพทกลัวที่จะถูกเข้าใจเป็นเลสด้วยใช่ไหม แล้วเพิ่งรู้ในตอนนี้ว่าระหว่างคบกับเหนือนี่ไม่ได้ต่างจากเพื่อนเลย โห เหนือมันทนได้เนาะ ละตอนแพทพูดว่าก็เหมือนเหนือกับบูรพาเนี่ย เดาว่าจริงๆแพทเฉลยกลายๆหรือเปล่าเรื่องตัวเองกับลูกไม้ อาจจะด้วยว่ารู้สึกมานานแล้วเรื่องสองคนนี้
ตอนนี้ดีใจที่ในที่สุดบูรพาก็พูดออกไปแล้วไม่งั้นก็คงไม่มีใครกล้าเปิดประเด็นนี้คุยกันเลยสักคน ตลกเหนือที่โดนสารภาพแทนที่จะโวยวายก็กลับนิ่งซะงั้น แบบนี้อาจจะดูเหมาะกับการเป็นเหนือมากกว่าก็ได้5555555
ประทับใจบรรยากาศของชายฉกรรจ์สองคนโมโหแล้วออกมาเล่นรถบังคับมากๆเลยค่ะ555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
ในที่สุดบูรพาก็บอกไปจนได้ 
เหนือไม่โวยวายกำลังอึ้งอยู่รึเปล่า ฮ่าๆ

ส่วนแพทบอกไม่มีไรแต่วันนั้นทำไมปิดบังเหนือ
ถ้าเบี้ยนจริงๆ ก็เข้าใจได้นะถ้ากลัวคนอื่นรู้
แต่กับเหนือคือรู้จักคบกันมานาน น่าจะเปิดใจคุยได้
ถ้าคบกับลูกไม้จริงแล้วปิด มันไม่แฟร์กับเหนือนะ

ออฟไลน์ panitanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ดับเครื่องชนไปเลยค่าบูรพาเรื่องน้องแพทต้องมีเงื่อนงำ :hao3:

ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
ดับเครื่องชน....

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
แพท กั๊กเหนือ เพื่ออะไร
ทำตัวปิดบังทุกอย่าง
แตะต้อง สัมผัส หึงหวง ไม่มี
ถ้าแพท เบี้ยนจริง กับลูกไม้
ก็เท่ากับไม่แฟร์ กับเหนือ ลูกไม้ และบูรพา
แพท ลอยตัวอยู่เหนือปัญหา
แพท มีอะไรเป็นปมอยูในใจสินะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เออโว้ย สารภาพไปแล้ว แล้วเหนือจะทำยังไงต่อล่ะ

ออฟไลน์ mirage

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
เป็นเหมือนที่คิดเลย สารภาพไปแล้ว
เหนือจะว่าไงนะ

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ เต้าหู้ไข่

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +279/-5
    • twitter
การพบกันครั้งที่ 19
คอนเวิร์ส ทางใคร ทางมัน


องศาเหนือ :

 

"แควก แควก แควก"

ผมกำลังขัดห้องน้ำด้วยอารมณ์ที่สับสนปนเป ความคิดตอนนี้ยุ่งยิ่งกว่าสายหูฟังที่พันกัน ภาพไอ้บูรพาดึงผมเข้าไปจูบหลอนอยู่ในหัวไม่เลิกรา ทั้งๆ ที่ตอนนั้นมีคำด่าอยู่ในหัวมากกว่าสามแสนประโยคที่พร้อมจะพ่นออกไปด่า แต่พอมองหน้ามันทุกอย่างกลืนลงคอไปหมด ฟิลลิ่งนางเอกละครมาเลยกู พอโดนจูบแล้วถามออกไปได้ คุณทำอะไรฉันน่ะ ถุย! ช่วยแคะขี้ฟันด้วยลิ้นมั้ง

 

"กูจูบมึงไง"

"กูจูบมึงไง"

"กูจูบมึงไง"

 

โอ๊ย! กูรู้แล้วโว้ย!  แล้วจูบทำไม จูบทำไม จูบทำไม!

ผมนั่งลงไปกับพื้นแล้วพาดหัวลงไปบนฝาชักโครก โดนข่มขืนปากสองครั้งแล้วอะ ควรฟ้องสมาคมคุ้มครองสิทธิทางเพศดีมั้ยเนี่ย? ครั้งแรกที่โดนไอ้ไกด์เปิดซิงริมฝีปากผมไม่ได้รู้สึกฟุ้งซ่านเท่าครั้งนี้ เพราะครั้งนั้นมันคือไอ้ไกด์ที่จูบไปเพราะความสำส่อนของมัน แต่ครั้งนี้ดันเป็นไอ้บูรพา...ไอ้เห็บหมาบูรพา

โว้ย...ใจว้าวุ่นสุดๆ ว่ะ

ผมเลิกขัดห้องน้ำเพราะพบว่ามันไม่ได้ช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น ก่อนจะอาบน้ำแล้วมานอนเงียบๆ อยู่บนเตียง นั่งมองไลน์ที่พิมพ์ไปหาแพท แต่อีกฝ่ายยังไม่อ่าน

 

องศาเหนือ : เราขอโทษ จะไม่งี่เง่าแล้ว

 

อ่านแล้ว

 

เชี่ย! อ่านแล้ว!

ผมลุกพรวดขึ้นมาจากเตียงเพื่อรอลุ้นว่าแพทจะตอบอะไรกลับมา

 

แพท : ขอโทษเหมือนกัน

 

ผมยกมุมปากขึ้นมานิดๆ ตอนที่แพทตอบกลับมาแบบนั้น แต่ก็หุบยิ้มไปเมื่อนึกไปถึงหน้าไอ้บูรพา

 

กูขอโทษว่ะ...

...

ผมงัดตัวเองขึ้นมาจากเตียงในเช้าวันจันทร์ เป็นเช้าวันจันทร์มึงก็น่ารังเกียจพอล่ะ มึงยังเสือกเป็นเช้าวันจันทร์ที่ฝนตกลงมาอีก อากาศอย่างนี้มันควรตื่นมั้ยถามจริง

ผมมาหยุดอยู่ที่หน้าหอเพราะฝนกระหน่ำลงเม็ดลงมา ไม่อยากเสี่ยงขี่มอเตอร์ไซค์ลุยฝนไปก็เลยยืนรอให้มันหยุด แต่ดูไม่น่าจะซาลงง่ายๆ สักพักหนึ่งผมก็เห็นไอ้บูรพาเดินลงมาจากหอ มันพยักหน้าให้นิดหนึ่งเป็นเชิงทักทาย

"ไปกับกูดิ"

"ไม่เป็นไร เดี๋ยวรอฝนหยุดก็ได้"

"จะได้เวลาเรียนแล้ว ไปเหอะ"

"ก็ได้"

ผมเดินไปขึ้นรถมันก่อนมันจะขับออกไป ระหว่างทางเงียบกว่าที่เคย

"ไอ้บูรพา"

"ฮึ?"

"คือกู..."

ผมอยากบอกความรู้สึกตัวเองให้ชัดเจนไปเลย แต่อีกใจก็ยังกลัว

"มีอะไร"

"กูอยากเล่นแบตฯ อะ ตอนเย็นไปตีแบตฯ กันป่ะ"

"เอาดิ"

"ชวนพวกไอ้หลิวไปด้วยนะ"

"อือ ไปเล่นที่สนามแบตฯ ข้างโดมนะ ไม่ไปที่เดิมแล้วเดี๋ยวเล่นไม่ได้อีก"

"โอเค"

โอเค...เอาไว้ก่อนก็ได้...ไอ้เรื่องของความรู้สึกน่ะ

...

ผมชวนพวกเพื่อนๆ แก๊งชะนีมาตีแบตฯ หลังเลิกห้องเชียร์ ตอนแรกพวกมันอิดออดที่จะมาเพราะเหนื่อยจากห้องเชียร์ แต่พอมาถึงสนามเท่านั้นแหละสนุกกันอย่างไม่มีใครยอมใครเลย เพราะมีไม้แบตฯ แค่สองอันก็เลยต้องผลัดๆ กันเล่นใครแพ้ก็ออก ผมแพ้ทุกเซ็ทไม่ว่าจะแข่งกับใคร ถึงตาเข้าไปเล่นยังไม่ทันจะได้เสิร์ฟสักตา กูออกอีกล่ะ ควรพิจารณาตัวเองถูกมั้ย? ไอ้หนุ่มครองแชมป์อยู่อีกฝ่ายอย่างไม่มีใครล้มมันได้ ไอ้บูรพาเดินกลับเข้ามาหลังจากออกไปซื้อน้ำมาให้พวกเรา มันยื่นโกโก้ปั่นให้ผมก่อน ก่อนจะเอาที่เหลือให้คนอื่น

"ขอบคุณค่า"

"หล่อแล้วยังใจดีอีก"

"แน่นอน" ไอ้บูรพาพูดขำๆ แล้วหันมาหาผม

"สนุกมั้ย"

"ไม่สนุกเลย แพ้ตลอด"

"ขนาดใช้ไม้แบตฯ อเวนเจอร์นะ"

"เออดิ"

"เหนือ ตามึงล่ะ"

ผมลุกไปรับไม้แบตฯ มาจากน้ำหวาน แล้วเข้าไปเล่นกับไอ้หนุ่ม ไอ้นี่มันเล่นเก่งจริงทั้งลูกตบ ลูกหยอด หลอกให้ผมวิ่งไปหน้าเน็ตแล้วก็ตบไปหลังเน็ต

"โอ๊ย! มึงจะเล่นเอาแชมป์โลกหรือไง เบาๆ สิวะ!"

"ก็เหนืออ่อนอะ"

"เดี๋ยวมึงโดน!"

"ขวับ!"

ผมเสิร์ฟลูกไปหามันอย่างแรง แต่มันก็โต้กลับมาอย่างเร็ว

"ขวับ!"

"ปั้ก!"

"อ๊า!"

ผมร้องลั่นเมื่อลูกขนไก่ที่ไอ้หนุ่มตบกลับมามันเข้าเบ้าตาผมพอดี

"ว้าย! ขอโทษ!"

"ไอ้เหนือ!"

ไอ้บูรพารีบวิ่งเข้ามาหาผม

"เป็นอะไรเปล่า"

"ไม่เป็นไรๆ" ผมโบกมือปัดๆ แล้วเลื่อนคอนเทคเลนส์ที่เกือบจะหลุดเข้าไปที่เดิม

"คอนเทคหลุดเปล่า"

"ไม่หลุดๆ"

"ขอโทษนะเหนือ เราไม่ได้ตั้งใจ" ไอ้หนุ่มรีบเข้ามาขอโทษขอโพย ผมกำลังจะบอกว่าไม่เป็นอะไร แต่โดนไอ้คนข้างๆ ตัดหน้าไปก่อน

"หนุ่ม มึงเล่นเบาๆ ดิวะ มันเจ็บตัวเลยเนี่ย"

"อุ้ย...โดนบูรพาดุ"

"กูจะต่อยมึงด้วยซ้ำ"

"ว้าย อย่ารุนแรงกับกะเทย กะเทยขอโทษ! ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ!"

"เฮ้ย กูไม่ได้เป็นไร ไปเล่นกันต่อเหอะ" ผมพูดปัดๆ ก่อนไอ้บูรพากับผมจะเดินออกมานอกสนาม

"ไม่เป็นไรแน่นะ"

"เออ ไม่ได้เป็นอะไร"

"ความห่วงเมียอะเนอะ"

"จะต่อยกะเทยเลยคิดดู"

            ไอ้บูรพาหันขวับไปมองไอ้พวกนั้น ก่อนพวกมันจะหันไปเล่นแบตฯ กันต่อ ผมเลิกเล่นแล้วมานั่งอยู่ข้างสนามกับไอ้บูรพา ดูดโกโก้จนหมดแก้วก็ยังไม่ได้พูดอะไรกันสักคำ

"บูรพา"

"ฮึ?"

"กูเป็นอะไรไม่รู้ว่ะ"

"เป็นอะไร?"

"กูอึดอัดแปลกๆ"

"เวลาอยู่กับกูเหรอ"

ผมพยักหน้าอย่างไม่ปฏิเสธ

"ให้ไปไกลๆ มั้ย?"

ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ

"เอ้า จะเอายังไง"

"ก็นั่นไง ถึงได้บอกว่ามันแปลกๆ"

ไอ้บูรพาส่ายหน้ายิ้มๆ

"ไอ้เหนือ มึงก็ใช้ชีวิตของมึงไป เหมือนที่ผ่านๆ มานั่นแหละ"

"แล้วมึงล่ะ"

"กูก็จะใช้ชีวิตของกู"

"ต่างคนต่างอยู่เหรอ"

"อยู่ด้วยกันดิ"

"..."

"แต่แค่ไม่ได้อยู่ข้างๆ กัน"

ขออนุญาตงงกับคำพูดมันได้เปล่า?

"มึงไปตามใจคนอื่นให้พอ แต่ถ้าอยากเอาแต่ใจเมื่อไร ก็ค่อยมาหากู"

"..."

"โอเคมั้ย?"

"โอ...โอเค"

"ไฮไฟว์"

ผมยกมือขึ้นไปแปะกับมือมัน ไม่ค่อยเข้าใจคำพูดของมันเท่าไร แต่คิดว่ามันคงเป็นทางออกที่ดีของทุกๆ ความรู้สึก

...

ผ่านไปสองอาทิตย์ ห้องเชียร์จบไปแล้วพร้อมกับงานพาวเวอร์เชียร์ กิจกรรมที่ผมรู้สึกเบื่อในตอนแรกกลับทำให้รู้สึกปลื้มใจที่ผมผ่านมันมาได้ วันสุดท้ายของห้องเชียร์พวกพี่วินัยที่เป็นนิสิตเอกดุริยางคศาสตร์สากลขนเครื่องดนตรีมาเล่นปิดงานกันอย่างกับเปิดเวทีงานวัด สลัดคราบพี่ว้ากสายโหดอย่างเก็บกด ผมได้เป็นหนึ่งในงานพาวเวอร์เชียร์ที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ ขนลุกขนพองตอนที่ได้ร่วมบูมมหาลัยพร้อมกับเพื่อนทุกคณะหลายพันคน เสียงกึกก้องดังไปทั่วสนาม กลับมาดูประมวลภาพจากฝ่ายโสตฯ ของม.แล้วภาคภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในนั้น ตอนนี้ก็เข้าใจแล้วว่าผลตอบแทนของการเข้าร่วมกิจกรรมห้องเชียร์ไม่ใช่แค่ติ้งคณะที่ใส่แล้วเท่ แต่ได้อะไรมากกว่านั้น...มากกว่าเยอะเลย

ชีวิตปีหนึ่งของผมดำเนินไปเรื่อยๆ พอไม่มีกิจกรรมอะไรก็เหลือแต่เรียน อย่างที่บอกว่าผมเรียนไม่ค่อยเก่งเลยต้องพยายามมากกว่าใคร ขอบคุณไอ้หลิวและแพทที่คอยเคี่ยวเข็ญให้อ่านหนังสือก่อนสอบทุกครั้งเลยไม่เคยตกเลย ผมใช้ชีวิตของผมอย่างดี...แต่ผมรู้สึกเหมือนไอ้บูรพามันค่อยๆ ถอยห่างออกจากชีวิตไป

หลังห้องเชียร์จบผมก็ไม่ได้เจอกับมันทุกวันอย่างเคย ไม่ได้นั่งติดกัน ไม่ได้กลับขึ้นหอพร้อมกัน ไม่ได้กินข้าวด้วยกัน ในวิชาเรียนรวมมันก็ย้ายที่นั่งไป เจอกันที่คาบอื่นๆ ก็แทบไม่ได้คุยกัน แค่ทักทายกันในตอนที่บังเอิญเดินสวนกัน ทำเหมือนกูเป็นโฆษณาคั่นบนยูทูปอะ ดูแว้บหนึ่งแล้วก็กดสคิปกูเฉย...

แล้วจะให้ใช้ชีวิตต่อไปแบบนี้จริงๆ เหรอ? ชีวิตที่ตัวมันค่อยๆ หายไปเนี่ยนะ...

 

"เหนือ รอนานเปล่า"

ผมหันไปมองแพทที่เดินเข้ามาในรานกาแฟที่ผมมานั่งรออยู่

"เพิ่งมา"

"เลิกเรียนก็รีบมาเลยเนี่ย ไหนเค้กอะ"

ผมเดินไปเอาเค้กที่สั่งเขียนหน้าเอาไว้ที่เคาเตอร์ก่อนจะเอามาวางบนโต๊ะให้แพท เมื่อวานเป็นวันเกิดแพท แต่แพทไม่มีเวลาให้ผมก็เลยนัดเจอกันวันนี้แทน ผมเห็นในเฟสบุ๊คแพทฉลองอยู่กับพวกเพื่อนๆ ดาวเดือนที่อยู่ในช่วงซ้อมการแสดงเพราะใกล้ถึงวันเฟรชชี่ไนท์และเป็นวันตัดสินดาวเดือนรอบสุดท้ายด้วย

"ไม่เห็นมีคำว่าสุขสันต์วันเกิดเลย" แพทพูดตอนที่มองไปยังหน้าเค้ก

"ก็มันเลยวันเกิดมาแล้วนี่"

"โอเค จะเขียนคำว่าอะไรสุดท้ายก็ต้องกินมันอยู่ดีอะเนอะ งั้นกินเลยนะ"

ผมพยักหน้าเบาๆ แล้วมองไปยังหน้าเค้กนั่น ก่อนที่แพทจะหยิบมีดขึ้นมาตัดเค้ก

 

I really Love you

 

"ฉับ!"

 

มันหั่นคำว่ารักกูแหกเลยครับ

แต่ก็เอาเหอะ สมเป็นแพท ผมยื่นของขวัญให้

"เฮ้ย ที่จริงไม่ต้องให้ของขวัญก็ได้นะ"

"ต้องให้ดิ"

"มันก็ไม่ได้สำคัญอะไรป่ะวะ" แพทพูดพลางแกะกล่องของขวัญ แกะมันต่อหน้าเลย ชอบก็เอาไป ไม่ชอบมันก็คืนมา เชื่อมะ?

"ไหนดูสิ ปีนี้ให้อะไร" แพทเปิดกล่องออกก่อนจะนิ่งไปนิดหนึ่ง เมื่อเห็นว่าเป็นรองเท้า แพทบ่นกับผมวันก่อนว่าอยากได้รองเท้าผ้าใบใหม่ ผมก็เลยไปซื้อมาให้ เลือกคอนเวิร์สคลาสสิคที่ดูเรียบๆ ใส่ทำกิจกรรมได้ไม่ผิดระเบียบ แล้วก็ใส่ในวันธรรมดาได้ด้วย

"ไอ้หลิวมันบอกว่าแฟนกันไม่ควรซื้อรองเท้าให้กัน เพราะเดี๋ยวคนรักจะเดินจากไป แต่เราไม่เชื่อแบบนั้นอะ เพราะเราเคยให้ถุงเท้าแพทมาแล้ว ยังอยู่ด้วยกันมาตั้งเกือบสี่ปี"

แพทพยักหน้าหน่อยๆ

"เพราะงั้นแพทใส่รองเท้าคู่นี้แล้วมาเดินไปด้วยกันนะ"

แพทยกมุมปากขึ้นนิดหน่อยตอนที่หยิบรองเท้าคู่นั้นขึ้นมาดู

"เหนือ..."

"ฮึ?"

"เราใส่รองเท้าเบอร์หกอะ"

"อ้าว เท้าใหญ่ขึ้นเหรอ"

"อืม เปลี่ยนไซส์มาหลายปีแล้ว เพราะงั้นคู่นี้คงคับไป เราใส่ไม่ได้"

"เดี๋ยวเอาไปเปลี่ยนก็ได้"

"คงไม่เหมาะที่จะเดินไปด้วยกันแล้วมั้ง"

ผมเงยหน้าขึ้นไปมองแพทที่พูดออกมาแบบนั้นแล้วขมวดคิ้วนิดๆ

"แพทว่าไงนะ"

"ขอพูดตรงๆ เลยได้มั้ย"

อยู่ดีๆ ใจก็เต้นรัวขึ้นมาซะอย่างนั้น เหมือนฝนกระหน่ำตกลงมาโดยไม่มีเมฆตั้งเค้า ปุบปับกะทันหันเหมือนตายโดยไม่ได้บอกลาใคร ความรู้สึกแบบนี้มัน...

"เราเลิกกันเหอะ"

"ฮะ..."

"เราสองคน เลิกกันได้ป่ะวะ"

"ไม่ได้ดิ"

"เราไม่ได้รักเหนือแล้วว่ะ"

"แพท..."

"ขี้เกียจโกหกแล้วอะ เหนื่อย"

"..."

"เราชอบคนอื่นแล้ว"

"แพท...ล้ออะไรเล่นป่ะเนี่ย"

แพทส่ายหน้าเบาๆ

"ชอบใครอยู่เหรอ"

"เหนือไม่ต้องรู้หรอก"

"มันเป็นใคร"

"รู้แล้วจะทำไม"

"จะไปต่อยหน้ามันดิ"

"เหนือจะต่อยผู้หญิงเหรอ"

เหมือนฟ้าผ่าลงมาเลย ผมเดาอยู่ในใจอยู่แล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้ ผมไม่ได้โง่ ที่ผ่านมาไม่ได้โง่ แค่แกล้งปิดหูปิดตาเพราะผมรักแพท แพทโกหกผมว่าไม่ว่างแต่ไปอยู่กับลูกไม้ตั้งหลายครั้ง ผมเห็นแต่ต้องมองผ่าน แกล้งตาบอดแกล้งหูหนวกไม่ฟังใคร เพราะผมไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้ ไม่อยากให้มีวันนี้...

"เราคบกับลูกไม้มาตั้งแต่จบบิกินนิ่งแคมป์แล้ว"

"แล้วที่ผ่านมามันคืออะไรวะ"

"เราเคยชอบเหนือนะ เคยชอบมาก"

"แล้วไปทำอะไรให้ ถึงเลิกชอบ"

"เหนือไม่ได้ทำอะไรให้ แต่เรารู้ตัวว่าเราไม่เหมาะที่จะเป็นแฟนกับเหนืออะ"

"แล้วทำไมเพิ่งมาบอกตอนนี้อะ"

"ก็เหนือเป็นพวกไม่ฟังใครอะ ไม่มีเหตุผล แล้วตอนเรียนมัธยมเราก็ต้องเจอหน้ากันตลอด เราจะอยู่ยังไงถ้าต้องเจอหน้ากันทุกวัน เราจะหลบหน้าไปทางไหนได้"

"..."

"เราขอโทษนะ แต่เรากลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมได้นะ เหมือนที่ผ่านมา"

"ทำไมแพทพูดเหมือนง่ายวะ"

"มันจะยากอะไรล่ะ"

"แพทไม่ได้รักแล้วมันก็ง่ายดิ แต่สงสารคนที่ยังรักอยู่ด้วย คิดบ้างว่ามันจะยากแค่ไหน"

แพทถอนหายใจเบาๆ แล้วปิดกล่องของขวัญก่อนจะเลื่อนคืนมาให้

"ขอโทษจริงๆ นะเหนือ ถ้ากลับไปเป็นเพื่อนไม่ได้ก็เกลียดเราไปเลยง่ายกว่า"

แพทพูดแค่นั้นก่อนจะเดินออกไปจากร้าน ทิ้งผมไว้กับเค้กที่ถูกตัดแล้ว กล่องรองเท้า และความรู้สึกห่าเหวอะไรไม่รู้ที่พุ่งเข้ามา คนเราบอกเลิกกันง่ายๆ งี้ได้ด้วยเหรอวะ...

ผมเพิ่งเคยถูกบอกเลิกครั้งแรก โลกไม่ได้ถล่มทลายลงมาตรงหน้าเหมือนที่เคยได้ยินมา โลกมันก็อยู่ของมันอย่างนั้น ถ้าจะมีอะไรถล่มทลายหายไป ก็น่าจะเป็นใจของผมมากกว่า

เรียกว่าแหลกเลยเหอะ

"ทั้งหมดสามร้อยห้าสิบบาทค่ะ"

ผมยื่นแบงค์พันจ่ายค่าเค้กและโกโก้ปั่นที่ยังไม่ทันได้กิน อกหักครับ ไม่มีเวลาห่วงแดก

"เงินทอนค่ะ"

ผมรับเงินทอนแล้วกำลังจะเดินออกมาจากร้าน

"น้องคะ ลืมของค่ะ"

พี่พนักงานร้านกาแฟส่งกล่องรองเท้าให้ผม ผมรับเอาไว้ก่อนจะเดินออกมาจากร้าน ขอบคุณที่วันนี้ฝนไม่ตกลงมาตอกย้ำความอกหัก ฟิลลิ่งเดินตากฝนร้องไห้เลยไม่เกิดกับผม มีแค่แดดเปรี้ยงๆ ไม่มีน้ำตา มีแต่เหงื่อ ไม่รู้ว่าควรหัวเราะ ร้องไห้ ฟูมฟายหรือคร่ำครวญว่ายังไงดี

มันทำตัวไม่ถูกว่ะ...

...

มากกว่าชั่วโมงที่ผมเอาแต่นอนมองเพดานด้วยสายตาเบลอๆ เพราะถอดคอนเทคเลนส์ออกไปและไม่ได้ใส่แว่น เพดานขาวโพลนเหมือนความรู้สึกในหัวผมเลยตอนนี้

มันควรจบง่ายๆ แบบนี้ หรือผมจะลุกขึ้นไปโวยวายดี

โอ๊ย...อาการแบบนี้มันคืออะไรเนี่ย สับสนโว้ย!

ผมหยิบแว่นที่หัวเตียงมาใส่แล้วคว้ามือถือขึ้นมาเล่นให้เย็นใจ ก่อนกดเข้าไปที่อินสตราแกรม โพสท์ใหม่ของแอคฯ โปรดทำให้ผมหยุดอยู่กับที่ โลกไม่ได้หยุดหมุน นาฬิกาไม่ได้หยุดเดิน แต่ทำไมผมรู้สึกว่าตัวเองหยุดหายใจไป 

 

Sundaynight01 : คนรัก เดินจากไป แต่ ความรัก ยังคงอยู่

 

กระแทกใจสัดๆ นี่น่าจะเป็นโพสท์แรกที่ผมไม่กดหัวใจให้แล้วโยนมือถือทิ้งไป เพราะมันเสือกตรงกับความรู้สึกมาก มากจนกูรับไม่ได้!

 

อกหักโว้ย!!!

 

ผมเปิดประตูออกมาแล้วเคาะห้องไอ้บูรพาเบาๆ

"บูรพา"

"ก๊อกๆ"

"ไอ้บูรพา"

ไม่มีเสียงตอบรับจากคนข้างใน ผมจึงนั่งลงที่หน้าห้องมัน

"ไอ้บูรพา กูอยากเอาแต่ใจ"

"..."

"มาตามใจกูหน่อย"

"แกร๊ก"

ผมเงยหน้าขึ้นไปมองประตูที่เปิดออกมา

"บูรพา"

"มีอะไรวะ"

เห็นหน้ามันผมก็พูดอะไรไม่ออก ผิดหวังมาจากแพทกลับคิดถึงมันขึ้นมาคนแรก เหมือนเป็นคนที่เห็นแก่ตัวแต่มันดันเป็นคนเดียวที่ผมคิดถึงจริงๆ เหมือนไอ้บูรพาเข้าใจความรู้สึกของผมโดยไม่ต้องพูดอะไรมันจึงดึงผมเข้าไปกอด แค่นั้นแหละฟูมฟายเหมือนตอนแม่ตายเลยกู

"ฮือ!"

"ไม่ร้องดิ"

"ฮือ"

"ไม่เอา ไม่ร้อง"

"ฮือออ"

"เออ ร้องเลย"

"ฮือออออ!!!"

to be continued.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-08-2020 16:23:49 โดย เต้าหู้ไข่ »

ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
หมั่นแพทอะ เกลียดคนชอบกั๊ก ทำมาเป็นพูดว่าเหนือเป็นคนงั้นงี้ ตัวเองนอกใจเองไง

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
เหนืออกหัก อ่านละแอบดีใจ 555+

แพทพอจะตรง ก็โคตรตรงเลยนะ
ก็อย่างว่าคนที่ไม่รัก อะไรๆก็คงดูง่าย

ส่วนเหนืออกหักตอนนี้ก็ทำใจนะ
เอาน่าๆ ยังดีมีบูรพาคอยปลอบ

ออฟไลน์ เต้าหู้ไข่

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +279/-5
    • twitter
การพบกันครั้งที่ 20
คำยินดี


วันนี้ไอ้บูรพาพามาเซนทรัลฯ เอาจริงๆ เรียกว่าลากมันมาดีกว่า ผมตรงไปร้านหนังสือก่อนเพราะในเพจสำนักพิมพ์บอกว่าหนังสือเล่มใหม่ของซันเดย์ไนท์วางขายแล้ว แต่ที่สาขานี้ยังไม่มี ก็เลยผิดหวังนิดหน่อย ไอ้บูรพาที่แวะไปกดเงินเดินตามเข้ามา

"มีเปล่ามึง"

"ไม่มี"

"ไปถามเคาเตอร์มายัง"

"ถามแล้ว บอกว่ายังไม่มา เซ็งเลย"

"เดี๋ยวค่อยมาดูวันอื่นก็ได้"

"ที่จริงมันก็สั่งในเว็บได้นะ แต่กูเคยสั่งแล้วมันนานมากเลยอะ กว่าจะได้"

"งั้นเดี๋ยวกูกลับกรุงเทพฯ แวะไปดูให้ป่ะล่ะ"

"จริงดิ งั้นเดี๋ยวกูส่งรูปหนังสือให้ดูนะ"

"อือ"

"งั้นไปซื้อของกัน"

ผมลากรถเข็นเข้ามาในท็อปส์ คราวนี้ไม่ต้องเลือกมากเพราะตั้งใจมาตั้งแต่หอแล้วว่าจะซื้ออะไร ลากรถไปหยิบได้เลย

"ไอ้เหนือ มึงซื้ออะไรเยอะแยะ" ไอ้บูรพาขมวดคิ้วถามตอนที่ผมหยิบเป๊บซี่แพ็คใหญ่ใส่รถเข็น

"แพทแม่งห้ามกูกินน้ำอัดลมมาหลายปีล่ะ คราวนี้กูจะแดกให้กระเพาะขาดไปเลย"

"เฮ้ย ไม่ได้ดิ กินเป๊บซี่มากไม่ดี"

"เรื่องของกูเหอะน่า"

หลังจากได้ของจนพอใจ ผมกับไอ้บูรพาก็กลับมาที่หอ ผมแวะไปเอาแล็ปท็อปที่ฝากไอ้บอมบ์เซียนเกมโหลดเกมให้ ก่อนจะมาเริ่มเล่นเกมหลังจากที่ห่างหายไปนาน ห้ามกูนักใช่มั้ย กูจะเล่นข้ามวันข้ามคืนไปเลย

ในคาบเรียนผมย้ายที่นั่งข้างๆ ไอ้หลิวมานั่งข้างๆ ไอ้บอมบ์เพื่อคุยกันเรื่องเกม มันแนะนำให้ผมโหลดเกมในมือถือก่อนจะสอนผมเล่น เพิ่งรู้ว่าโลกนี้มีเกมที่โคตรสนุกแบบนี้ ที่ผ่านมากูไปหลบอยู่หลุมไหนเนี่ย

"ไอ้เหนือ วันพุธมีควิซนะ อ่านหนังสือยัง"

"ยัง" ผมตอบไอ้หลิวขณะมือยังกดเกมในมือถืออยู่

"ไปติวกับพวกกูมั้ย"

"ไม่ไปอะ"

"เฮ้ย เลิกเล่นเกมก่อนดิ ไปอ่านหนังสือกัน" ไอ้หลิวว่าแล้วดึงมือถือในมือผมไปกดอออกเกม ผมได้แต่ถอนหายใจเบาๆ

"เดี๋ยวกูกลับไปอ่านที่ห้อง" ผมพูดแค่นั้นแล้วดึงมือถือกลับมา ก่อนจะเดินไปที่ลานจอดรถเพื่อกลับหอ กลับมาถึงหอก็ไม่ได้อ่านหนังสืออย่างที่บอกกับไอ้หลิวเอาไว้ เพราะไอ้บอมบ์ทักมาชวนฟอร์มทีมแข่งเกม วิถีเกมเมอร์อย่างเราก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้ว เล่นมาได้สักพักใหญ่ๆ  ไอ้บอมบ์ก็หนีไปนอนตั้งแต่ห้าทุ่มเพราะความอ่อนของมัน แต่แมนๆ สไตล์เรายันเช้าเลยครับ

"ก๊อกๆ"

"ไอ้เหนือ"

ผมลืมตาขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงเคาะประตู

"ไอ้เหนือ!"

หยิบแว่นมาใส่แล้วลุกไปเปิดประตู ก่อนจะเห็นไอ้บูรพายืนอยู่หน้าห้อง

"มาเคาะห้องคนอื่นแต่เช้านี่มึงคิดอะไรอยู่ มีมารยาทบ้างมั้ย"

"เพิ่งตื่นเหรอ"

"สภาพงี้ยังจะถามอีก" ผมเดินกลับไปที่เตียงแล้วทิ้งตัวลงไปอีกที

"ไม่ไปเรียนหรือไง"

"ไม่ไปอะ ขอโดด"

"คาบที่แล้วก็ไม่เข้านะมึง"

"เออน่า โดดได้สามคาบไม่ใช่เหรอ"

"ลุกขึ้นมาเลย"

"ไม่เอา"

"ไปเรียน!"

ไอ้บูรพาเสียงดังแล้วดึงแขนผมขึ้นมา

"ไปอาบน้ำ"

"กูง่วง กูจะนอน ไหนมึงบอกจะตามใจกูไง ต้องตามใจกูดิ ตามใจกู"

"ถ้าทำตัวแบบนี้กูก็ไม่ตามใจ ไปอาบน้ำ!"

"เฮ้ย!" มันลากผมไปจากเตียงด้วยพละกำลังที่ผมไม่อาจจะต้านทานได้ เลยต้องยอมเข้าไปอาบน้ำ แล้วไปเรียนแบบเบลอๆ เพราะอดนอนมาแทบทั้งคืน พอได้เวลาเรียนก็เลยฟุบลงไปกับโต๊ะตั้งแต่ห้านาทีแรกเลย ตื่นมาอีกทีก็ตอนท้ายคาบ ได้ยินเสียงเพื่อนๆ มันคุยกันเรื่องงานเฟรชชี่ไนท์คืนนี้

"ไอ้เหนือ คืนนี้ไปป่ะเนี่ย"

"ไม่ไป"

นอกจากมันจะเป็นงานเฟรชชี่ไนท์ที่มีการแสดงและคอนเสิร์ตจากศิลปินมาเล่นแล้วมันยังเป็นการประกวดดาวเดือนมหาลัยรอบสุดท้ายด้วย ผมไม่อยากไปเห็นหน้าแพท

"ไปเหอะ น่าสนุกออก มันเป็นงานของเฟรชชี่นะเว้ย มึงเป็นเฟรชชี่มึงควรไป ปีอื่นเข้าไม่ได้แล้วนะ"

"ไม่ไป"

"ไปเหอะนะ เพื่อนไปกันหมด"

"ไม่ไปอะ"

"เอ๊ะ! มึงนิ! ตามใจละกัน"

"ไปดิมึง ไปด้วยกัน" ผมหันไปมองไอ้บูรพาที่พูดขึ้นมา มันพยักหน้าหน่อยๆ เป็นเชิงชวน ใครสั่งให้สอนให้ทำหน้าตาแบบนั้นใส่กู...

"เออ ไปก็ได้"

"แหม่ กูชวนแทบตายไม่ไป ผัวพูดคำเดียวตกลงเลยนะ"

"เงียบไปเลยไอ้หลิว"

มันยักไหล่หน่อยๆ ก่อนเพื่อนที่เดินแจกกระดาษข้อสอบคืนจะเดินมาถึงแถวเรา

"ขององศาเหนือจ้ะ"

ผมรับกระดาษข้อสอบคืนมาก่อนจะต้องเบิกตากว้างขึ้นมานิด โอ้โห...อะเมซิ่งสมองกู ห้าเต็มเจ็ดสิบเนี่ยนะ ดรอปได้ตอนไหนเหรอครับ

"มึงไม่ได้อ่านหนังสือใช่มั้ยไอ้เหนือ"

"โด่ แค่ควิซเอง เก็บคะแนนไม่กี่เปอร์เซ็นต์" ผมพับกระดาษข้อสอบนั่นใส่กระเป๋าแล้วลุกออกไปนอกห้อง ก่อนกลับหอพวกเพื่อนๆ มันชวนกันมาหาอะไรกินที่โรงอาหารใต้ตึกเรียนรวม ผมยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้านอกจากเป๊บซี่สองขวด ตอนนี้กะเพราะมันกำลังงอแงเลยเจ็บๆ แสบๆ ทำให้กินอะไรไม่ลง 

"ไม่กินอะไรเหรอ" ไอ้บูรพาหันมาถาม

"ปวดท้องอะ"

"แดกแต่เป๊บซี่ไง"

"ไม่เกี่ยวเว้ย กูไม่ได้กินข้าวต่างหาก"

"งั้นก็ไปหาอะไรกินไป"

"เออๆ"

ผมรับคำแล้วเดินออกมาจากตรงนั้น ก่อนจะนั่งลงเงียบๆ ที่หลังเสาหน้าห้องน้ำ ขอนั่งไว้อาลัยให้ความบัดซบของชีวิตสักหน่อยเหอะ  สอบตกไม่พอต้องมานั่งทรมานกระเพราะอีก

 

พอไม่มีแพทแล้ว ทุกอย่างมันแย่จัง...

...

 

งานเฟรชชี่ไนท์ ประจำปีการศึกษา 25XX

 

ผมนั่งมองการแสดงของดาวเดือนของแต่ละคณะที่ดำเนินไปเรื่อยๆ แสงสีในงานทำให้ผมปวดตานิดหน่อยเพราะไม่ค่อยชอบบรรยากาศแบบนี้ จึงก้มหน้าลงไปพักสายตาแป๊บ

"ต่อไปเป็นการแสดงของน้องๆ ดาวเดือนคณะสาธารณสุขศาสตร์ ขอเสียงปรบมือด้วยค่า!"

ผมเงยหน้าขึ้นไปมองตอนที่พิธีกรประกาศชื่อคณะ ก่อนจะมองไปเห็นแพทเดินออกมา

ไม่อยากดู...

ไม่อยากดูเลย...

"ไม่อยากดูก็ก้มลงไป" เสียงไอ้บูรพาดังขึ้นข้างๆ หู ก่อนมันจะกดหัวผมให้ก้มต่ำลงไป ผมไม่ได้ขัดขืนตอนที่โดนมันจับกดหัวลงมาเพราะไม่อยากดูจริงๆ ก็เลยซบหน้าลงไปบนตักมันเพื่อหลบสิ่งที่ไม่อยากเห็น

"ขอบคุณนะมึง"

เสียงเบาๆ ของผมพูดออกไปแต่คงถูกกลบด้วยเสียงจากรอบข้าง เดาว่ามันคงไม่ได้ยิน

"ไม่เป็นไร"

ใจผมกระตุกวูบตอนที่มันพูดคำนั้นข้างๆ หู ทำไมได้ยินอะ มีหูทิพย์เหรอ?

 

หลังจบการประกวดดาวเดือนก็เป็นเวลาของคอนเสิร์ตจากวงดนตรีมหาลัยและศิลปินรับเชิญที่ขึ้นมาแสดงต่อ ผลการประกวดดาวเดือน ผู้ชนะฝ่ายหญิงคือตัวแทนจากคณะแพทย์ฯ ส่วนเดือนเป็นของคณะวิศวะ ไอ้ไกด์มันได้ที่สองด้วยนะ แต่ดีแล้วที่มันไม่ชนะจนได้เป็นเดือนมหาลัย ไม่อยากให้มหาลัยมีเดือนมหาลัยที่หื่นกามอย่างมัน

"มึง กูไปห้องน้ำแป๊บนะ"

"กูไปเป็นเพื่อนเปล่า"

"กูโตล่ะ" ผมหันไปบอกไอ้บูรพาก่อนจะเดินลงจากแสตนด์ไปห้องน้ำ ผมเดินมาที่ห้องน้ำใต้โดมที่ไม่ค่อยมีคน หลังจากเดินออกมาจากห้องน้ำจึงหันไปเห็นผู้หญิงสองคนยืนคุยกันอยู่หน้าห้องน้ำหญิง

แพทกับลูกไม้

ผมมองไปยังสายสะพายที่ทั้งคู่สวมอยู่ซึ่งเป็นผู้ชนะในรางวัลป็อบปูลาร์โหวตด้วยคะแนนที่เท่ากันทั้งสองคน จึงได้รางวัลทั้งคู่ 

"ล้างหน้าเลยได้ป่ะเนี่ย"

"อย่าเพิ่งดิ เดี๋ยวต้องถ่ายรูปอีก"

"อ่อเหรอ"

"แล้วจะรีบล้างไปไหน สวยจะตาย"

"งั้นแต่งทุกวันเลยดีป่ะ"

"ดีดิ"

"แต่งให้หน่อยดิ"

"ได้ เดี๋ยวลุกมาแต่งให้ทุกวันเลย"

"น่ารัก"

"เออแพท เรามีของขวัญให้แพทด้วยนะ"

"ของขวัญ? ให้โอกาสอะไร"

"อยากให้ก็ให้ไง ลองเปิดดูสิว่าชอบมั้ย"

"รองเท้า?"

"อื้อ ก็บ่นว่าอยากได้รองเท้าใหม่ไม่ใช่เหรอ"

"เคยได้ยินความเชื่อที่บอกว่าห้ามให้รองเท้าคนรักป่ะ เดี๋ยวเขาเดินจากเราไป"

"เคยได้ยิน แต่ไม่เชื่ออะ แพทเชื่อเหรอ"

"ไม่รู้ดิ ได้ยินคนอื่นบอกมาอะ"

"อืม งั้นเอาตังค์มายี่สิบ"

"ฮึ?"

"เอามายี่สิบ"

"อะ"

"เราขายต่อนะ ไม่ได้ให้เฉยๆ โอเคป่ะ?"

"อย่างนี้ก็ได้เหรอ"

"ได้ดิ จะได้สบายใจไง แล้วชอบป่ะเนี่ย"

"ชอบดิ สวยดี มาเดินไปด้วยกันนะ"

"อื้ม...เดินไปด้วยกัน"   

"ไปดูคอนเสิร์ตข้างในกัน"

"ไปดิ"

แพทกับลูกไม้เดินออกมาจากตรงนั้น แล้วหันมาเห็นผมพอดีก็เลยชะงักกึก ผมสูดลมหายใจทีหนึ่งแล้วเดินเข้าไปหา แม้จะไม่อยากมอง แต่ก็ต้องยอมรับความจริง

"ยินดีด้วยนะ"

"..."

"ทั้งสองคนเลย"

 

"ฉันมายินดีให้กับรักที่สดใส ยินดีที่เธอได้พบเจอ คนที่ดี คนที่ควรคู่รักของเธอ คนที่เข้ากันมากกว่าฉัน...."

 

"เหนือ...เราขอโทษจริงๆ นะ"

"ไม่เป็นไร เราโอเค"

 

"ฉันหวังจะยืนที่ตรงนั้น ข้างๆ เธอ ได้เดินร่วมทางกันเหมือนเดิม แต่ก็รู้ น่าเสียใจเมื่อมันสายเกิน ไม่มีแล้วที่เคยรักกัน.."

 

"งั้น เรากับลูกไม้ไปก่อนนะ"

"อื้ม...โชคดีนะ"

 

"ในวันนี้มีเพียงถ้อยคำส่งท้าย ลาก่อนรักที่เคยงดงาม ไม่โกรธเคืองเธอเลย มีแค่คำยินดี และคำอวยพรจากฉันให้เธอ..."

 

แพทกับลูกไม้เดินกลับเข้าไปในโดม ผมเดินตามไปห่างๆ จนมองไม่เห็นสองคนที่หายเข้าไปในกลุ่มคนนั้น ผมเลื่อนสายตาไปมองนักร้องบนเวทีตอนที่ยืนอยู่ตรงทางเข้า

 

"ขอให้ความรักมีแต่ความสุขใจ ไม่ว่าสิ่งไหนเข้ากันได้ทุกอย่าง ขอให้ความรักเขาและเธอไม่มีจืดจาง มีเขาเคียงข้างไม่มีความทุกข์ใด..."

 

เพลงมีเป็นร้อยต้องร้องเพลงนี้ด้วยเหรอ? สงสารกูหน่อยครับพี่

 

"ไอ้เหนือ"

ผมหันไปเห็นไอ้บูรพาที่เดินเข้ามาหา

"มาทำอะไรตรงนี้วะ กูโทรก็ไม่รับ"

"มีอะไรเปล่า"

"ก็เห็นออกมานาน"

"กูอยากกลับแล้วอะ"

"อืม กลับก็กลับ เดี๋ยวกูไลน์บอกหลิวก่อน"

ไอ้บูรพาหยิบมือถือขึ้นมากดสองสามทีก่อนจะหันมาหาผม

"ไปเลยป่ะ"

ผมถอนหายใจทีหนึ่งแล้วทรุดลงไปนั่งกับพื้น

"เฮ้ย เป็นไรวะ"

"ขี้เกียจเดินอะ ขอขี่หลังหน่อย"

"มึงหนัก"

"กูเดินไม่ไหวแล้ว ขาไม่มีแรงเลย"

"เออๆ ขึ้นมา"

ผมหัวเราะหน่อยๆ แล้วปีนขึ้นไปบนหลังมัน ก่อนมันจะพาเดินออกไปที่ลานจอดรถ

"อยู่กับมึงบ่อยๆ กระดูกหลังกูเบี้ยวหมด"

"ตามใจกูหน่อยเหอะ ใจกูบางมากตอนนี้"

"เออ...รู้แล้ว"

"..."

"ก็ตามใจอยู่นี่ไง"

 
to be continued.



แต่งไปแต่งมา อยากได้บูรพาเองล่ะ พ่อบูรพาคนดีของพี่ :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-12-2018 17:56:25 โดย รชา »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
เหนือทำแบบนี้เหมือนประชดเลยนะ ประชดแพทไปแพทก็ไม่รู้หรอก
ทรมานตัวเองเปล่าๆ เนอะ

มีบูรพาดูแลทั้งคน รีบๆกลับเหมือนมาเหมือนเดิมล่ะ


ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เหนือ เอาแต่ใจมาก
ที่ผ่านมา แพท จะรักเหนือจริงๆหรือ
คิดว่าไม่น่าใช่ เหมือนแพทไม่มีใครคบก็คบด้วย
เพราะแต่แรกแพท ก็แมนๆ ยิ่งกว่าเหนือด้วยซ้ำ
แต่ส่วนดีแพทก็มี ช่วยเตือนให้เหนือ อ่านหนังสือ
ไม่ให้เล่นเกม ไม่ให้กินน้ำอัดลม
พอเลิกกัน เหนือทำทุกอย่างตรงกันข้ามที่แพทเคยบอก
ประชดแล้วได้อะไร มีแต่ผลเสียกับตัวเอง
เหนือ ทำตัวแย่มาก ไม่รักตัวเอง  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Sky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 933
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
มันจะดีขี้นนะ เหนือต้องเลิกประชดนะรู้เปล่า :hao5:

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
เหนือรีบๆกลับมาเป็นคนเดิมเร็วๆนะ
หันมามองบรูพาดีกว่าเน๊อะ

ปล.ห้ามอ่านเรื่องนี้ในที่สาธารณะเพราะคุณจะเลือดกลบปากจากการกั้นขำ 55555กลับมาร่าเริงเร็วๆนะ

ออฟไลน์ kyungploy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
เหนือสู้ๆ กลับมายืนด้วยตัวเองให้ได้ไวๆนะ ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวซะหน่อย เพื่อนเยอะแยะ ไหนจะบูรพาอีกเนอะ แค่ผู้หญิงคนเดียวเอง ฮึบนะคนเก่ง

ออฟไลน์ aiyarin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
เห็นแก่ตัวอ่ะ แช่งให้มีชู้

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
บทจะเลิกก็บอกง่ายๆ เลยนะแพท สงสารเหนือนะ เลิกประชดตัวเองแบบนี้เถอะ มันไม่ดีเลย

ออฟไลน์ เต้าหู้ไข่

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +279/-5
    • twitter
การพบกันครั้งที่ 21
แมลงเฟรชชี่สายพันธุ์บูรพา


"หมดแก้ว!"

"เอ้า! หมดแก้ว!"

"หมดแก้วโว้ย!"

ผมยกแก้วขึ้นไปชนกับพวกเพื่อนๆ ชนจนแก้วกูจะแตกแล้วเนี่ย วันนี้พวกไอ้หลิวชวนผมมาร้านเหล้าเพื่อเปิดหูเปิดตาเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ ของวัยรุ่น เอาจริงๆ ไอ้ไกด์เป็นคนชวนแล้วไอ้พวกนี้มันก็เลยไม่ปฏิเสธต่างหาก ผมที่อยู่ห้องหม่นๆ อยู่แล้วก็เลยมาด้วยเลย ตั้งใจจะมานั่งชิลๆ ฟังเพลง เสพบรรยากาศเฉยๆ สรุปกูเมาคนแรกครับ ไอ้ไกด์ที่นั่งอยู่ข้างๆ ชงเหล้าให้ไม่หยุด ผมก็ดื่มจนหมด สติก็หมดไปด้วยเลย เพลงในร้านเหล้าแม่งก็เศร้ากระทบกระเทือนจิตใจ ฟังในยูทูปมันไม่เศร้า พอมีเหล้า โอ้โห ใจกูนี่ละลายไวกว่าน้ำแข็งในถังอีก

 

"ให้เธอได้กับเขา และจงโชคดี อย่ามีอะไรให้เสียใจ ส่วนตัวฉันจะลืม ว่าเคยร้องไห้..."

 

โอ๊ย สะเทือนใจ ทำอะไรไม่ได้นอกจากยกเหล้าขึ้นกระดก

"เฮ้ยๆ ไอ้เหนือ เมาตายห่าแล้ว"

"ก็กูกินให้เมาเว้ย"

"เฮ้ย เมาแล้วนะเนี่ย พอแล้วพอๆ"

"ยังไม่หายเฮิร์ตอีกเหรอวะ" ไอ้ไกด์หันมาถาม

ผมไม่ตอบแล้วเทเหล้าในแก้วมันมาใส่แก้วผมแล้วยกขึ้นดื่มอีกที

"มึงจะเศร้าทำไมวะ"

"จะให้กูดีใจเหรอ คบกันมาเกือบสี่ปี แม่งบอกเลิกกูไม่ถึงนาทีเลย จะให้กูทำใจยังไงไหววะ"

"เหนืออย่าโกรธแพทเลยน่า ความรักมันบังคับกันไม่ได้ มันเลือกไม่ได้ด้วย เราไม่รู้หรอกว่ามันจะเกิดตอนไหน กับใคร เพศอะไร ความรักไม่ผิดหรอก"

ผมหันไปมองไอ้หนุ่มที่พูดขึ้นพลางยกมือตบไหล่ผมเบาๆ

"กูไม่ได้โกรธแพทที่แพทไปคบกับใครนะเว้ย แต่กูโกรธที่แพทแม่งไม่ยอมบอกกูต่างหาก"

"อะๆ ไม่ดราม่าล่ะ แดกๆ"

"เออ มาร้านเหล้าใครใช้ให้พูดเรื่องเศร้า เดี๋ยวเอาขวดเหล้าฟาดหน้าแม่ง! เอ้าชน!"

"ไอ้เหนือพอแล้ว เมาแล้ว!"

"กูคือองศาเหนือนะโว้ย กูจะเมาแค่ไหนก็ได้!"

"ไม่เอาแล้ว พอๆ เมาแล้วๆ"

"ถ้ากิ๋นเหล้าบ่ะเมา แล้วจะกิ๋นทำไม เอาแก้วกูมา!"

"พอแล้ว! กลับหอกัน"

"ม่าย!!"

"กูว่าโทรให้ไอ้บูรพามารับมันมั้ย"

"เออๆ โทรเหอะ"

"ไม่เอา กูไม่กลับ กูยังไม่กลับ!"

ผมไม่ได้ฟังบทสนทนาของเพื่อนเพราะสนใจอยู่แต่กับเหล้า ไม่ได้คิดว่ามันจะโทรหาไอ้บูรพาจริงๆ แต่พอนั่งกินต่ออีกพักหนึ่งก็หันไปเห็นไอ้บูรพาเดินเข้ามา หน้าตาเหมือนเห็บหมาโมโหนิดหน่อย เพราะหัวคิ้วที่ขมวดยุ่ง   

"โทษทีว่ะบูรพาที่ต้องโทรหามึง มันไม่ฟังใครเลยอะ"

"กูไม่ฟังใครทั้งนั้นแหละ ไม่ฟังๆๆ"

"ใครเป็นคนชวนมาร้านเหล้าเนี่ย"

"กูเอง" ไอ้ไกด์ยกมือยอมรับ

"คราวหลังมึงไม่ต้องเสือกมาชวนมันเลยนะ" ไอ้บูรพาหันไปชี้หน้าไอ้ไกด์อย่างคาดโทษเอาไว้ก่อนจะหันมาหาผม

"ไอ้เหนือ กลับหอ"

"ไม่เอา กูจะเมา" ผมคว้าแก้วเหล้าขึ้นมายกดื่มแต่ไอ้บูรพาดึงกลับไป

"ปล่อย!"

"ไม่ปล่อย! กูจะกินนน!!"

"กูบอกให้ปล่อย!"

"พรวด!"

"เชี่ย..." ไอ้บูรพาหวีดออกมาเบาๆ ตอนที่ผมปล่อยมือจากแก้วกะทันหันเหล้าในแก้วจึงหกพรวดใส่เสื้อมันพอดี

"ก็มึงบอกให้กูปล่อย" มันวางแก้วเหล้าลงบนโต๊ะแล้วเหลือบตามามองผมเคืองๆ

"ไป กลับหอ"

"ไม่กลับ กูคือองศาเหนือไง มึงต้องตามใจกูไง"

"บอกแล้วไงว่าทำตัวแบบนี้กูไม่ตามใจ ไป!" มันว่าแล้วกระชากผมให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วลากออกไป

"ม่าย!! พวกมึงช่วยกูด้วย ไอ้บูรพามันฉุดกู!"

"ไป!"

ไอ้พวกที่นั่งอยู่ได้แต่โบกมือให้เป็นเชิงล่ำลา ไอ้เพื่อนเลว!! เห็นเพื่อนโดนฉุดก็ไม่ช่วย เกิดมันลากกูไปฆ่าจะทำยังไง! ฉุดกระชากลากถูกันอยู่พักหนึ่งไอ้บูรพาก็พาผมมาถึงหอพักได้ มันโยนผมลงบนเตียงในห้องมันด้วยอารมณ์หงุดหงิดนิดหน่อย

"มึงอะ พากูกลับมาทำไม"

"เมาแล้วไง"

มันพูดเบาๆ แล้วหันไปถอดเสื้อที่เปียกเหล้าออก โอ้โห...อะเมซิ่งหุ่นไอ้บูรพา กล้ามแขนมันนี่กินได้เปล่า?

"มองอะไร?"

ผมสะดุ้งนิดหนึ่งตอนที่มันหันกลับมา

"จะอาบน้ำมั้ย?"

"ไม่อาบ"

"งั้นก็นอนไป"

ผมแอบคว่ำปากใส่มันนิดหน่อยที่ทำเป็นเสียงดุใส่ เหอะ! เป็นตัวเหี้ยไม่ควรทำหน้าโหด เพราะมันจะกลายเป็นโหดเหี้ยๆ ฮ่าๆ ชอบอ่า! มุกนี้ตลกจัง ผมหัวเราะเบาๆ แล้วยกมือถอดคอนเทคเลนส์ออก

"ทำไมต้องเมาขนาดนี้วะ"

"กูอกหักไง"

"..."

"ไอ้บูรพา มึงไม่เข้าใจกูหรอก มึงไม่เคยมีความรักไง"

ไอ้บูรพาเดินมานั่งที่ปลายเตียง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรภายใต้ใบหน้าเรียบนิ่งนั่น กระทั่งมันเอ่ยบางคำออกมาเฉยๆ อย่างไม่เข้าใจนัก

"กูมี"

"ฮึ? มีไร"

"ความรักไง"

"รักกูเหรอ"

"อืม"

"ฮ่าๆ!" ผมระเบิดหัวเราะเสียงดัง ไอ้บูรพาขมวดคิ้วมองหน้า

"ใครจะไปเชื่อว่ามึงจะมาชอบกู ชอบมานานยังวะ"

"กูไม่บอก"

"ตั้งแต่ม.ต้นเลยป่ะ"

"ไม่รู้เว้ย"

"กระจอกสัด"

"ไรนะ?"

"มึงอะ กระจอกสัดๆ แอบชอบกูก็ไม่บอก ไม่เรียกกระจอกจะให้เรียกว่าอะไร"

"ไอ้เหนือ"

"มาจูบกูแล้วก็ค่อยๆ เฟดตัวเองหายไป ปัญญาอ่อนชิบ"

"ไอ้เหนือ มึงจะด่ากูทำไมเนี่ย"

"ก็มึงโคตรอ่อนไง"

"ไอ้สัด เดี๋ยวกูจับปล้ำแม่ง!"

"มึงไม่กล้าหรอกไอ้บูรพา"

"สักทีดีไหม"

"อย่ามาปากดีเลย คนอย่างมึงมัน...เฮ้ย!" ผมเบิกตากว้างเมื่อไอ้บูรพาลุกขึ้นมาคร่อมร่างผม สายตาที่มันจ้องมานั่นดูเกรี้ยวกราดคล้ายกำลังโกรธแต่มันเสือกยิ้ม

"ไอ้บูรพา...ไอ้บ้า...กูล้อเล่น บูรพา..." ผมหลับตาแน่นตอนที่ใบหน้าของมันพุ่งเข้ามาใกล้ ความท้าทายกลายเป็นศูนย์เมื่อเห็นว่าบูรพามันไม่ตลกด้วยกับการล้อเล่นของผมสักนิดเลย หัวคิ้วยิ่งขมวดแน่นขณะสั่นเกร็งไปทั่วทุกส่วน ก่อนที่จะรู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าผากเพราะถูกปลายนิ้วของบูรพาดีดเข้ามาทีหนึ่ง

 

"เป๊าะ!"

 

"อย่าเล่นแบบนี้" บูรพาพูดแค่นั้นแล้วปล่อยผมออก ผมยันตัวเองลุกขึ้นนั่งพลางลูบหน้าผากเบาๆ เพราะความเจ็บ ขณะหันมองบูรพาที่ยังคงนั่งอยู่ที่ปลายเตียง ในความเงียบ หัวใจของผมยังไม่กลับมาเต้นให้เป็นจังหวะ ยิ่งในตอนที่บูรพาหันหน้ามายิ่งเต้นแรงกว่าวินาทีก่อน ผมไม่ได้สติเลอะเลือนหายด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ เพราะรู้ตัวดีทุกอย่าง แต่ความรู้สึกที่ผมไม่เข้าใจมันก็หลั่งไหลเข้ามากระทั่งสั่งให้ผมท้าทายบูรพาอีกสักครั้ง           

"นึกว่าจะแน่"

"อะไร"

"สุดท้ายมึงก็ไม่เอาไหน ปล่อยให้กูสับสนอีก"

"อะไรของมึงเนี่ย"

"บางวันกูก็เกลียดมึง"

"..."

"บางวันกูก็ไม่เข้าใจมึง"

"..."

"แต่ทุกวัน...กูอยากมีมึง"

"องศาเหนือ"

"มึงลองจูบกู"

"..."

"แบบไม่ล้อเล่นได้ไหม"

จบคำนั้นของผมบูรพาก็คว้าใบหน้าของผมเข้าไปประกบริมฝีปากในวินาทีเดียวกันนั้นเลย ผมที่ไม่รู้แม้แต่วิธีการจูบจึงตอบโต้อะไรไม่ได้ ดวงตาผมหลับลงโดยสัญชาตญาณ ปล่อยให้ริมฝีปากของมันกดทับริมฝีปากของผมอยู่อย่างนั้นพร้อมกับความคิดที่วกวนอยู่ในหัว

หลังจากวันที่บูรพาจูบผม...ผมไม่แน่ใจว่าตัวเองรู้สึกยังไง แต่ในนั้นมันเต็มไปด้วยความสับสนปะปนกับความโหยหา ผมบอกกับตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตายว่าผมไม่ได้ชอบบูรพา แต่ว่าสุดท้ายกลับกลายเป็นมัน...ที่ต้องการมากเหลือเกิน

"กูไม่เคยล้อเล่นเลยสักครั้ง" บูรพาพูดคำนั้นหลังจากจบรอยจูบที่ผมเป็นฝ่ายได้รับ อย่างเสมอมา...บูรพาให้ผมทุกอย่างจนคิดไม่ออกเลยว่าผมตอบแทนอะไรมันกลับคืนไปบ้าง ผมเป็นเพื่อนที่เอาแต่ใจ โลกหมุนรอบตัวเองและไม่ว่าจะหมุนไปทางไหน บูรพาจะตามไปเอาใจผมทางนั้น ผมไม่รู้วิธีการจูบ เลยรู้สึกว่าเมื่อครู่บูรพาทำมันอยู่ฝ่ายเดียว...เมื่อสติที่เตลิดหายพลันกลับมา ผมคิดแต่ว่า...ผมจะคืนจูบให้ 

เป็นผมที่ยกมือโน้มลำคอบูรพาให้เข้ามาใกล้แล้วพุ่งริมฝีปากไปชนทีหนึ่ง คนที่ไม่ทันได้ตั้งตัวดูตกใจเล็กน้อยแต่ก็คล้อยตามจูบของผมในช่วงเวลาสั้นๆ กระทั่งรอยจูบนั้นเพิ่มน้ำหนักมากขึ้นเรื่อยๆ คล้ายกับว่าบูรพากำลังสอนให้ผมเรียนรู้วิธีการจูบของมันอยู่...อย่างลึกซึ้ง

"ถ้ากูหยุดไม่ได้แล้ว กูต้องทำยังไง"

"หมายความว่าไงวะ"

"มึงไม่เคยเข้าใจอะไรง่ายๆ เลยนะเหนือ"

"ก็กูโง่ไง"

"มึงไม่ต้องฉลาดขึ้นก็ได้ แต่วันนี้ตามใจกูบ้างได้ไหม"

"ฮะ?"

"กูอยากอ้อนมึงบ้าง"

สมองที่เคยประมวลผลช้ากลับพร่าเบลอหยุดการทำงานไปเลยชั่วคราวตอนที่บูรพาโน้มลงมาจูบอีกที มันเริ่มขยับริมฝีปากไปกดเข้าที่ลำคอ ริมฝีปากอุ่นขบเม้มเข้าตรงนั้นทีตรงนี้ทีจนความรู้สึกเสียววาบแผ่ซ่านไปทั่วทุกอณูในร่างกาย ผมเข้าใจแล้วในคำว่าหยุดไม่ได้ของมัน แต่ว่า...

"แต่ว่าบูรพา..."

"อะไร"

"มึงกับกูเป็นเพื่อนกันนะ"

"กูก็จะเป็นเพื่อนมึงอยู่นี่แหละ"

"..."

"แต่จะเป็นอย่างอื่นให้มึงด้วย"

"มึงมันบ้า"

"อืม กูมันบ้าเอง"

กูเองก็บ้าด้วย...

เพราะผมไม่ได้ขัดขืนอะไรเลยสักนิดไม่ว่าบูรพาจะทำอะไรกับร่างกายของผมก็ตาม มันตามใจผมทุกเรื่อง จนผมคิดว่าตัวเองก็คงจะเป็นคนเอาแต่ใจไปตลอด ครั้งนี้เลยยอมทำตามที่มันขอ ยอมให้มันอ้อนบ้าง...ยอมมันทุกอย่างเลย

 

...

 

ในตอนเช้า ที่เดาว่าเลยคำว่าเช้าไปแล้ว ผมขยับเปลือกตาขึ้นมาแล้วขมวดคิ้วแน่น กระพริบตาถี่ๆ เรียกสติก่อนจะหันไปคนยืนอยู่ริมระเบียงแบบเบลอๆ แต่ก็คิดว่าเป็นไอ้บูรพาเพราะมีมันแค่คนเดียว กำลังจะลุกขึ้นไปเรียกมันแต่ร่างกายมันไม่ขยับตาม

เจ็บ...

ไอ้บูรพาหันมาพอดีจึงเดินเข้ามาหา

"ตื่นแล้วเหรอ?"

"กูลืมตาแล้ว เห็นมั้ยล่ะ"

ได้ยินเสียงมันหัวเราะเบาๆ แล้วเดินมานั่งบนเตียงข้างๆ ผม

"ลุกไหวเปล่า?"

"อืม"

"นึกว่าจะหมดแรง"

"อะไร!" ผมโวยวายใบหน้าร้อนผ่าว แม้ว่าจะรู้ตัวดีว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ผมคาดหวังว่าบูรพาจะไม่พูดถึงเพราะผมแม่งโคตรจะอาย

"เมื่อคืนมันดีมากเลยนะ"

"อย่าพูด!"

ไอ้บูรพาหัวเราะเบาๆ แล้วเขยิบเข้ามายกมือโอบไหล่ผม

"ไม่เป็นไรนะ กูรับผิดชอบ"

"มึงไปไกลๆ กูเลย!"

"ไม่โกรธดิวะ"

"ไอ้สัด กูอาย!"

"อายอะไร"

"ร่างกายกู..."

"..."

"มึงเห็นหมดเลย"

"อือ ทุกส่วนเลย"

"ไอ้บูรพา! มึงจำได้หมดไหม!"

"จำได้ดิ น่ารักดีทุกอย่างเลย"

"ไอ้บูรพา! กูเกลียดมึง! กูจะกลับไปโกรธมึง! กูจะไม่ให้อภัยมึงแล้ว!"

"เฮ้ย ไม่เอาดิ เรากลับไปเป็นเหมือนเดิมแล้วไง"

"ไม่!"

"เรากลับไปเป็นเหมือนเดิมดิวะ"

"เหมือนเดิมมันไม่ใช่แบบนี้เว้ย!"

"..."

"นี่มันมากกว่าเดิมแล้ว"

ผมพูดเสียงเบาลง  ไอ้บูรพายกมือขึ้นมากอดผมอีกที

"แต่สำหรับกูยังรักเหมือนเดิม..."

"..."

"เพิ่มเติมคือได้มึงแล้ว"

"ไอ้บูรพา! กูจะไปแล้ว!"

ผมลุกพรวดขึ้นมาจากเตียง ความรู้สึกเจ็บแปลบสะเทือนไปทั้งร่าง แต่ก็กัดฟันเดินไปเปิดประตู

"ไอ้เหนือ"

"อะไร!"

"นั่นมันตู้"

ผมหันขวับไปหรี่ตามองประตูที่เปิดอยู่ ปรากฏว่ามันคือประตูตู้เสื้อผ้า 

"เออ กูจะเข้าตู้!" ผมโวยเสียงดังแล้วเข้าไปนั่งในตู้เสื้อผ้ามัน อยากมีพลังวิเศษแบบเข้าตู้แล้วหลับตาย้อนอดีตได้แบบพระเอกหนังอะเบาท์ไทม์มากเลยตอนนี้ กูอยากวาร์ป!

"ไอ้เหนือ ออกมา"

"ไม่!"

"ออกมาเดี๋ยวตาย"

"ปล่อยให้กูตายไปเลย!"

"เฮ้ย ออกมา"

"ไม่ต้องมาเรียกกู ไม่ต้องมายุ่งกับกู กูไม่อยากเห็นหน้ามึง!"

"โอเคๆ"

ผมซบหัวลงไปบนเข่าตัวเอง ทำยังไงดี ไม่กล้ามองหน้าไอ้บูรพาเลย อายเว้ย...อายมาก...

...

 

ผมเดินเข้ามาในห้องวิชาเรียนรวมในเช้าวันจันทร์ กำลังจะเปิดประตูเข้าไปแต่ลูกไม้เปิดประตูออกมาพอดี ลูกไม้ชะงักไปนิดหนึ่งแต่ผมไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้นอะตอนนี้ ก็เลยพยักหน้าเป็นเชิงให้เธอเดินออกไปก่อน ลูกไม้จึงได้แค่ยิ้มให้นิดๆ แล้วเดินออกไป ผมเดินไปนั่งข้างๆ ไอ้หลิว

"ไงมึง หน้าตาเหมือนแพนด้าอดนอน เล่นเกมทั้งคืนป่ะเนี่ย"

"เปล่าซะหน่อย ช่วงนี้กูนอนไม่ค่อยหลับ"

"กินไรมายังอะ"

"ยัง"

"ไส้กรอกชีสป่ะ" ไอ้หนุ่มว่าแล้วจิ้มไส้กรอกในมือยื่นให้ผม มึงก็เปรี้ยวมากมากินไส้กรอกในห้องเรียนเนี่ย

"ไม่เอา"

"กินหน่อยน่า"

"ไม่หิว"

"อาหารเช้าสำคัญนะ"

"ก็บอกว่าไม่เอาไง เฮ้ย! โห่ เลอะเลย!" ผมก้มมองซอสจากไส้กรอกที่หยดลงไปเลอะเนคไท

"อุ้ย โทษๆๆ"

"เอานี่เช็ด" ไอ้หลิวว่าแล้วดึงทิชชู่ให้ ผมปลดเนคไทออกมาจากคอแล้วหยิบทิชชูจากไอ้หลิวมาเช็ด

"เหนือ คอมึงไปโดนอะไรมาวะ"

"ฮะ?"

"รอยที่คออะ" ไอ้หลิวว่าแล้วปลดกระดุมคอผมออก จึงเห็นรอยแดงที่ไอ้ตัวเหี้ยบูรพามันฝากเอาไว้ ใจผมนี่เต้นตึกตักตอนที่สายตาพวกมันหันมามองเอาคำตอบ  คาดคั้นขนาดนี้คาดหวังจะให้กูตอบว่าไง โดนไอ้บูรพาดูดมางี้?

"กูโดน แมลงเฟรชชี่!" มันคือแมลงก้นกระดกที่มักจะพบในหอใน เฟรชชี่ปีหนึ่งที่อยู่หอในหลายๆ คนต้องเคยพบกับมัน ถ้ามันกัดทีหนึ่งจะทิ้งรอยแดงลุกลามไปสามเดือน

"แมลงเฟรชชี่พันธุ์บูรพาหรือเปล่าจ้ะ"

"ไอ้หนุ่ม เงียบไปเลย! แมลงเฟรชชี่มันต่อยกูโว้ย เนี่ยๆ!"

"เออๆ แล้วไปทำอีท่าไหนโดนต่อยมาได้อะ"

 

หลายท่าเลยครับ...

 

"หายาทาด้วยนะ เดี๋ยวเป็นแผลเป็น"

ผมพยักหน้าหน่อยๆ แล้วยกมือลูบรอยแดงนั่น...รอยนี่มันเป็นแผลเป็นได้ด้วยเหรอวะ

...

 

หลังเลิกเรียนผมเดินออกมาจากห้องเรียน ไปหยิบรองเท้าที่ถอดไว้หน้าห้องกำลังจะเอามาใส่ แต่เห็นไอ้บูรพาเดินไปออมาพอดีเลยหลบมาที่หลังเสา ยืนกอดรองเท้าด้วยใจวุ่นๆ 

ยะจะใดดี ยะจะใด...

ทำอะไรไม่ได้นอกจากเอาหัวโขกเสาเบาๆ

"ไอ้เหนือ" ผมเหลือบตาไปมองไอ้บูรพาที่เดินเข้ามาทัก ทักกูทำไม!

เออ หนีไม่ได้ก็เผชิญหน้าแม่ง!

"มึงทำอะไรอยู่วะ"

"กูทำลายเซลล์ประสาทตัวเองอยู่"

"แค่นี้ก็มีน้อยแล้ว เดี๋ยวก็โง่กว่าเดิมหรอก"

"ไอ้บูรพา ไอ้บ้า!"

"แล้วนี่ เป็นไงบ้าง" มันหันมาถามเสียงเบา เหลือบตาไปมองเพื่อนข้างๆ ว่าไม่มีใครฟังอยู่

"กูไม่เป็นอะไรทั้งนั้นอะ"

มันพยักหน้าหน่อยๆ แล้วเดินออกไป

"เดี๋ยวมึง..." ผมดึงมือมันเอาไว้ก่อน มันหันมาเลิกคิ้วนิดๆ เป็นเชิงถาม ผมเลยลากมันมาอีกทาง

"มีอะไรวะ"

"กูถามอะไรหน่อยดิ"

"อะไร"

"รอยเนี่ย มันเป็นแผลเป็นป่ะวะ"

"รอยอะไร"

"ก็รอยที่มึงดูดคอกูไง!"

ไอ้บูรพายกมือขึ้นปิดปากตอนที่ผมเสียงดังเพราะมีเพื่อนกลุ่มหนึ่งเดินผ่านไปพอดี พอเพื่อนเดินผ่านไปแล้วมันจึงปล่อยมือผมออก

"ยังไม่หายเหรอ"

"เออดิ ทำไงให้หายเนี่ย กูอายเขา"

"มันต้องดูดซ้ำ"

"เหรอ?"

"อือ หนามยอกยังต้องเอาหนามบ่ง เมาเหล้ายังต้องเอาเหล้าถอน"

"จริงเหรอ?"

"จริงดิ กูจะโกหกทำไม"

"งั้นไปทำให้หน่อยดิ"

"ได้ดิ วันนี้เลยป่ะ ห้องมึงหรือห้องกู"

"ในนรกน่ะไอ้ห่า! คิดว่ากูโง่เหรอ! ต้องซ้ำเหรอ! ซ้ำที่หน้ามึงสิ!" ผมยกรองเท้าในมือที่ยังไม่ทันได้ใส่ขึ้นมาฟาดมัน

"โอ๊ย! ไอ้เหนือ เจ็บ!"

"ไปตายเลยมึง ไปตายไป"

"พอแล้ว!"


"ฟิ้ว!"


"เฮ้ย!" ผมเบิกตากว้างเมื่อรองเท้าในมือผมถูกไอ้บูรพาแย่งไปแล้วลอยฟิ้วออกนอกตึกไป ผมชะโงกหน้าลงไปดูว่ามันไม่ได้ตกไปโดนหัวใคร แล้วหันขวับมาหาไอ้บูรพา มันแลบลิ้นนิดๆ ด้วยใบหน้าเจื่อนๆ

"รองเท้ามึงอยากออกไปแตะขอบฟ้า"

"ขอบฟ้าอะไรล่ะ ไปเก็บเลย!"

"เออๆ ลงไปพร้อมกันดิ"

"กูไม่เดินตีนเปล่า"

"ก็มีถุงเท้านี่ไง"

"เดี๋ยวถุงเท้ากูเปื้อน มึงลงไปเก็บมาเลย"

"นี่มันชั้นสี่นะเว้ย ให้กูลงไปเก็บแล้วก็ขึ้นมาเนี่ยนะ"

"เออ ไป!"

"ไปพร้อมกันเลย"

"เฮ้ย!" ผมโวยลั่นเมื่อไอ้บูรพายกตัวผมให้ขึ้นไปบนหลังมันก่อนมันจะพาวิ่งลงบันไดไป

"ไอ้บูรพา ไอ้บ้า ช้าๆ เดี๋ยวล้ม!"

"ดริฟท์ไปเลยค้าบ!"

"ดริฟท์พ่อมึงสิ ไอ้บูรพา! กูกลัว!"

ไอ้บูรพาหยุดวิ่งแล้วหันมาหา

"กลัวอะไร"

"กลัวล้ม"

"อยู่กับกู กูไม่ทำให้มึงเจ็บหรอก"

"ไม่รู้แหละ กูกลัวล้ม ปล่อยกูลงเลย กูไปเอง"

"แล้วถ้ากูไปช้าๆ มึงจะไปกับกูมั้ย"

"..."

"กูไม่พามึงล้ม สาบานว่ามึงจะไม่ต้องเจ็บเพราะกู"

"..."

"เชื่อใจกู แล้วไปกับกูได้ป่ะวะ"

"อือ"

"..."

"งั้นก็ไปดิ"

ไอ้บูรพาพาผมที่อยู่บนหลังมันเดินลงบันไดไปช้าๆ ผมได้รู้ตัวแล้วว่าใจผมรู้สึกกับมันอย่างไร ผมละทิ้งความสับสนที่เคยมีในใจแล้วยอมรับเอาไว้ว่าผมต้องการบูรพา ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน เป็นมากกว่าเพื่อนหรืออะไรก็ตาม ขอแค่มีบูรพาอยู่ข้างๆ ด้วย

ผมรู้สึกปลอดภัย... ใจผมบอกแบบนั้น

 


To be continued.


-แมลงเฟรชชี่นี่ดังมากในหมู่เฟรชชี่ แต่ตั้งแต่เราเรียนมายังไม่เคยโดนกัดเลย แผลมันจะพองๆ หรือเป็นผื่นๆ ค่ะ ไม่ใช่รอยแดงเหมือนที่เหนือมันคิดแน่นอน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-04-2020 12:31:03 โดย เต้าหู้ไข่ »

ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ทำผลงานรวดเร็วฉับไวใด้ใจเจ้ค่าบูรพาาา :hao7:
มีความเต๊าะตอนท้ายเบาๆ ดีต่อใจ
เมินๆไปเลยนังแพทกับชะนีลูกไมั

ออฟไลน์ kyungploy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
บูรพ้าาาาา เต๊าะได้ดีค่า 5555555555 ชอบเหนือจัง ฮือ คนบ้าไรตลกตลอดเวลา 5555555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด