“ตรอง” ผมเรียกเลขา
“ครับ?” เลขาเงยหน้าขึ้นมา
“ทำไมเดี๋ยวนี้ดูฉลาดคล่องแคล่วขึ้นวะ ไปหาหมอมาเหรอ”
“แต่ก่อนผมผิดปกติเหรอครับ”
“ก็ไม่ละมุนตุ้นแบบนี้”
“ละมุนตุ้นคืออะไรครับ”
“แบบ เออดูดีขึ้น รวมถึงการแต่งตัวก็ดี คำพูด คำจา ความคิด”
“แล้วมันเป็นยังไงครับ?”
“เอ่อ ไปซื้อกาแฟให้กูทีนะ” ผมไม่ขอพูดอะไรต่อแล้วกันครับ กลัวจะไปรื้อฟื้นความเอ๋อกลับมาอีก ผมแค่วางเงินไว้ให้จากนั้นก็พุ่งเข้าห้องเลย
นอกจากวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของการทำงานก่อนวันหยุดปีใหม่แล้ว มันยังเป็นวันที่กัปตันจะได้กลับไปพักผ่อนที่บ้านด้วย ยอมรับว่าผมก็ดีใจ เพราะอะไรน่ะเหรอครับ? เพราะว่าหมอกับพยาบาลจะได้ไม่ต้องมาดุผมอีกแล้ว เพราะทุกทีเวลาที่ไปเยี่ยม กัปตันก็ชอบหาเรื่องให้ผมโวยวาย แถมยังชอบฉวยโอกาสอีกต่างหาก พอหมอรู้ก็ดุใหญ่เลยบอกว่าเดี๋ยวแผลจะไม่หาย แหม เพราะใครกันล่ะหมอ คนไข้ของหมอเองหรือเปล่าที่ดื้อ
แต่เขาบอกให้ผมทำงานไม่ต้องไป แถมบอกอีกด้วยว่าเดี๋ยวกลับเองได้ จะส่งคนขับรถไปช่วยก็ไม่เอา ไม่รู้มีความลับอะไรหรือเปล่า หึๆๆ ไอ้หมา อย่าให้รู้แล้วกัน
และท้ายที่สุดและสำคัญที่สุดเลย พรุ่งนี้เป็นวันเกิดของผมแล้วครับ! ตื่นเต้นชะมัด จะได้อายุยี่สิบกับเขาสักที หึๆๆๆๆ
Rrrrrrrrr.
“อะรายยยยย” ผมรับสายทันทีเมื่อเห็นว่าใครโทรมา ดึงเชิงเหวี่ยงๆ ไปก่อนครับ
[เสียงไม่น่าคุยด้วยเลย]
“เหรอ งั้นแค่นี้นะ”
[ทำเสียงให้มันดีๆ หน่อยได้มั้ย โกรธอะไรกันอีกอะ ฟังแล้วมันเหนื่อยใจ]
“ขอโทษด้วยแล้วกันนะ”
[เฮ้อ] กัปตันถอนหายใจ [เป็นอะไร]
“อยากเจออ่ะ”
[รู้]
“แล้วไปหาไม่ได้เหรอ”
[เธอทำงานอยู่]
“ทำไมทำตัวแก่อย่างนี้ฮะ!” ผมขึ้นเสียง “ถ้าบอกว่าคิดถึงจะไม่ดีใจเลยใช่มั้ย”
[ดีใจสิ] เขาว่า
“งั้นเลิกงานไปหาได้ปะ?”
[อืม… ที่จริงแล้วฉันมีเรื่องจะบอก]
“อะไร!?”
[ฉันต้องไปหาแม่]
“…”
[อาจจะไม่ได้อยู่กับเธอในพรุ่งนี้ ขอโทษด้วยนะ]
“ไม่มีอะไรแล้วใช่มั้ยกัปตัน ผมจะทำงานแล้ว”
[ขอโทษจริงๆ นะ]
“จริงๆ ผมอยากด่าว่าขาก็หักยังจะดันทุรังไปไหนอีก” ผมพยายามทำเสียงให้ปกติที่สุด ทั้งๆ ที่ในใจเดือดยิ่งกว่านรกแล้ว “แต่ถ้าแม่คุณอยากเจอ ก็ไปเถอะ”
[ฉันขอโทษ]
“มันก็แค่วันๆ หนึ่งเท่านั้นแหละกัปตัน”
แล้วผมก็วางสายไป…
โอเคผมไม่มีสิทธิ์ที่จะไปห้ามเขาอยู่แล้ว เขาโชคดีแค่ไหนที่ยังมีแม่อยู่ แค่วันเกิดผมคงไม่ได้สำคัญกว่าเท่าไหร่หรอก
“ตรอง…” ผมเดินออกไปนอกห้องกะว่าจะไปสั่งงานเลขา แต่กลับพบว่าโต๊ะว่างเปล่า มีกระดาษแผ่นหนึ่งวางไว้
‘ผมขอลางานครึ่งวันนะครับ พอดีมีธุระกะทันหัน เห็นคุณปั๊มติดสายอยู่เลยไม่อยากแจ้ง
สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าครับ
ปล.หากาแฟทานเองนะครับ’ เออดี หนีกูไปกันให้หมดเลยครับ ดูเหมือนความหวังสุดท้ายของผมจะเป็นไอ้ไวน์ซะแล้ว
‘หมายเลขที่ท่าเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้’
ฮะ!? เกิดอะไรขึ้นกันวะ ไอ้ไวน์ก็อีกคนเหรอเนี่ย เวรเอ๊ย
เจ๊ง! เจ๊งหมดแล้วครับ ไม่ต้องมีแล้ววันกงวันเกิด กะว่าจะพาพวกมันไปเลี้ยงหรูๆ สักหน่อย แต่ช่างเหอะ กูขอนอนให้มันพ้นๆ ไปแล้วกัน
เศร้านะเนี่ย แต่ไม่แสดงออก ห่าเอ๊ยยยยยยย
ผมเดินลากกะเป๋าสะพายเข้ามาในบ้านอย่างเหนื่อยอ่อน น้ำตามันจะไหลออกมาทุกเมื่อเลยครับ ด้วยความเศร้าผมเลยแวะไปนั่งที่บาร์ใกล้ๆ ตึก สั่งไวน์ไปตั้งสามแก้ว เริ่มมึนๆ หัวแต่มันก็รู้สึกดีชะมัด มันทำให้ผมเริ่มลืมเรื่องบ้าๆ ไปได้บ้าง แฮลกอฮอล์นี่มันช่วยมนุษย์ได้เยอะจริงๆ ให้ตายสิ ติดลมจนกลับมาบ้านเกือบจะเที่ยงคืนเลยครับ
วันเกิดมันแค่อีกวันเนอะ
“ลุงเอก” ผมส่งเสียงเมื่อเห็นว่าในบ้านมืดสนิท
อ้าว ไปไหนของเขาวะ หรือว่านอนแล้ว?
“ลุงเอก!”
เงียบ…
อะไรกันเนี่ย ไม่มีใครได้ดั่งใจเลยโว้ยยยยยยย
จะร้องไห้ ฮือออออออ ผมขอถอนคำพูดครับ วันเกิดนะเว้ย! มันคือวันสำคัญมากๆ วันนึงเลยนะ ทำไมทุกคนทำกับผมแบบนี้ ใจร้ายยยยยย
เพล้ง! ผมสะดุ้งตื่นหลังจากที่ทิ้งตัวลงจมกับโซฟาเพราะความเครียด เฮ้ย เมื่อกี้เสียงอะไรวะ เสียงเหมือนของแตก
“ใครครับ!” ผมตะโกนเข้าไปในห้องครัวซึ่งเปิดไฟมืด ฉลาดจังกู ถ้าเป็นโจรขึ้นมามันจะรู้มั้ยเล่าว่ามึงจะอยู่ตรงนี้!!
ผมจัดการก้มมุดลงใต้โต๊ะรับแขก ขดตัวยิ่งกว่าเต่าอีกครับ ไม่เกินนาทีก็ปรากฏร่างของบุคคลปริศนาสองคน ทั้งคู่ใส่หมวกไหมพรหมสีดำและสวมถุงน่องคลุมหน้าตา เชี่ยยยยย โจรจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย
“อยู่ไหนวะ” หนึ่งในโจรถาม เสียงมันใหญ่แหบน่ากลัวมาก!!!!!
“ได้ยินเสียงแถวนี้นี่หว่า” โจรอีกคนตอบ นี่ก็เสียงแหบน่ากลัวไม่แพ้กันเลย
เอาล่ะครับ นาทีชีวิต ผมจะมาโดนฆ่าตายก่อนวันเกิดแบบนี้ไม่ได้ ช่วยด้วยยยยย ไอ้พวกยามไม่ได้ยินอะไรเลยหรือยังไงวะ
จริงดิต้องแจ้งตำรวจ!!
“นี่ไงโทรศัพท์มัน” หนึ่งในโจรชุดดำหยิบไอโฟนของผมขึ้นมาจากขอบโซฟา
ฉิบหายยยย กูลืมไว้ได้ยังไงเนี่ยยยยยยย ดีจังเลยกู คงต้องยอมรับความตายที่อยู่แค่เอื้อมจริงๆ
แต่เฮ้ย นี่กูลูกผู้ชายนะ กูจะมางอแงทำห่าอะไรเนี่ย ต้องเป็นกูนี่แหละที่ต้องจัดการพวกมัน!
ว่าแล้วก็ต้องออกจากใต้โต๊ะนี่ซะก่อน
โป๊ก! โอ๊ยยย เชี่ย หัวโขกอย่างแรง ความจำเสื่อมแล้วมั้งกู
เฮ้ย ไม่ใช่ดิ! พวกมันสิที่จะได้ยินกูเนี่ย!!!
“ฮ่าๆ อยู่นี่เอง” เชี่ยยย ไอ้โจรคนนึงสังเกตเห็นแล้ว!!
“ปล่อยกูๆๆๆ” ผมสะบัดตัวให้หลุดเมื่อเห็นว่าพวกมันมาดึงขาผมให้ออกจากโต๊ะ กลายเป็นว่าตอนนี้ตัวผมครืดมากับพรหมอย่างกับตะกวดที่กำลังจะโดนจับกลับเข้าป่า โอ๊ยยยย
“เงียบ! ถ้ามึงไม่อยากตาย!!” ตะโกนทำเหี้ยอะไรเนี่ยไอ้ห่า
“พวกมึงเป็นใคร!!” ผมตะคอกลั่นหลังจากมันจบผมพลิกขึ้นมา
“กูคือโจรไงไอ้เหี้ย” ไอ้โจรคนนี้แม่งแย่งอีกคนพูดตลอด สงสัยมือโปร
“กูรู้แล้วไอ้ห่า แต่มึงจะทำอะไรกู!!”
“หึๆ เดี๋ยวมึงก็รู้… เฮ้ย มัดมันไว้!”
โจรอีกคนคว้าเชือกออกมามัดมือผมไว้
…ด้วยเงื่อนพิรอด
เฮ้ย นี่เอาจริงดิ -_-
“ผูกดีๆ ดิ!”
“มึงมาผูกเองมั้ย!!”
“กูขู่มันอยู่”
ครับ… นี่คือผลของการทำงานไม่เป็นทีม เถียงกันต่อไปเหอะ กูขอหนีก่อนแล้วกัน
“เฮ้ย จับมันไว้!!” พวกมันตะโกนลั่นเมื่อเห็นว่าผมวิ่งออกไปสนามหลังบ้าน
“ใช้กระสอบแม่งเลย!”
ฮะ!? กระสอบ!? กูไม่ใช่งูเหลือมนะไอ้พวกเหี้ย
พรึบ!!
เชี่ยยยย หนีไม่ทันครับ มันใช้กระสอบสีน้ำตาลคลุมผมจนล้มกลิ้งหลุนๆ ลงเนินไปแล้ว
“เฮ้ยจับมันไว้!”
อ๊ากกกกกกก จะอ้วก อย่างกับเล่นรถไฟเหาะ มึนหัวไปหมดแล้วสัส
“เฮ้ย มันหลุดอีกแล้ว!! จับมัน!”
เออดิ จะอยู่รอประธานมาถวายผ้าอาบน้ำฝนงานศพกูเหรอ บายครับ!
ผมจัดการวิ่งไปหลบหลังต้นไม้ เชี่ยยยย จะหนีไปทางไหนอีกได้วะ
แล้วสายตาของผมก็พลันไปเห็น… จอบ…ไอ้บ้าเอ๊ย คนดูแลสวนมันชุ่ยอีกแล้ว บอกว่าให้เก็บไว้ให้ดีๆ เดี๋ยวมันอันตราย…
เอ๊ะ? …อ่า ความชุ่ยของคนดูแลสวนก็ดูท่าจะสำคัญก็วันนี้แหละครับ
ผมจัดการถือจอบขึ้นมาแล้วเดินตรงเข้าไปยังพวกมันสองคนอย่างกับหนังล้างโคตรซอมบี้
“ไอ้เหี้ย มันใช้อาวุธ!!”
“เออดิ กูหาลูกซองพ่อไม่เจอ เอานี่ไปแดกก่อนแล้วกัน” ผมวิ่งเข้าไปยังโจรตัวหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ มันเข้ามาทำท่าจะแย่งจอบไปแต่ผมหลบได้ทันเลยตั้งใจจะฟาดมันไปอย่างแรงแต่พลาด เชี่ยยยย โจรอีกคนมันวิ่งเข้ามาแย่งจอบด้านหลังผมแล้วครับ
“ปล่อย!!” มันสั่ง
“เป็นพ่อกูเหรอมาสั่ง ออกไปจากบ้านกู!!”
โป๊ก!!! “อ๊ากกกกกกกก”
นั่นไงครับเพราะความยื้อยุดด้ามไม้ของเสียมเลยกระแทกไปที่หัวของมันอย่างแรง กะบาลแตกแน่มึง!!
“เชี่ยยยย เลือดออก!” มันร้องโวยวาย “ใช้แผนสอง!!”
“ฮะ…อะไรวะแผนสะ…” ยังไม่ทันหายสงสัย ผ้าผืนเล็กๆ พร้อมกับสารเคมีบางอย่างก็โปะเข้าให้ที่จมูกอย่างแรง มันเข้มข้นมากจนผมตาพร่ามัวทันที อ๋อยยยยยยย
แล้วผมก็สลบเหมือดไปกับพื้นหญ้า…
ผมสะดุ้งตัวตื่นอีกทีก็ตอนที่หัวตัวเองโขกเข้ากับอะไรบางอย่าง พอลืมตามาก็พบว่ากำลังอยู่บนรถซึ่งกำลังแล่นเข้ามายัง… สนามบิน? เฮ้ย นี่กูจะโดนเอาไปขายแล้วใช่มั้ยเนี่ย
“ตื่นแล้วเหรอมึง” เสียงอันคุ้นเคยดังขึ้นทางด้านคนขับ ไอ้ไวน์นั่นเอง เชี่ยยยย มึงมาช่วยกูแล้วไอ้เพื่อนรัก!
“มึง กูจะโดนโจรฆ่า กูกลัวมากกกก” ผมเขย่าแขนพร้อมกับเล่าเรื่องราวให้มันฟังทันที
“เหรอ มึงจะโดนโจรฆ่าจริงๆ อะ มึงดูนี่” อยู่ๆ มันก็หันหัวอีกฝั่งมาให้ดู เชี่ยยยย เลือดเต็มเลย
“พวกมันทำร้ายมึงด้วยเหรอวะ!! เล่นมึงหัวแตกเลย!!”
“ไม่ใช่พวกมัน มึงนั่นแหละเอาจอบกระทุ้งหัวกู”
“ฮะ!?”
“พวกกูสองคนนี่แหละโจร” มันชี้ตัวเองพร้อมกับชี้ไปด้านหลัง อ้าว ตรองก็มาอยู่ตรงนี้ด้วยเหรอเนี่ย
“หมายความยังไงวะ”
“พวกกูจะเซอร์ไพร์สวันเกิดมึง”
“แล้วป้ามึงสั่งให้แต่งตัวเป็นโจรหรอ!!” ผมถึงโมโหเลยครับ “มึงอะไม่เท่าไหร่… ตรอง!!”
“ครับ…”
“มึงมาเล่นอะไรกับเขาด้วยเนี่ย”
“ตามน้ำไปครับ”
“แล้วมันสนุกมั้ย”
“ตอนแรกก็สนุกดีครับ ตอนนี้ไม่สนุกแล้ว” เลขาตอบเสียงหงอย
“พวกมึงนี่นะ!” โอ๊ยยย ไม่รู้จะด่าอะไรดีครับ “แล้วจะพากูไปไหน”
“พามึงไปเจอของขวัญไง”
“ของขวัญ?”
“เออ เดี๋ยวมึงก็รู้”
แล้วรถของเราก็จอดที่รันเวย์ ข้างๆ กันมีเครื่องบินพลเรือนลำเล็กจอดแน่นิ่งอยู่ ผมจะไม่ตกใจอะไรต่อถ้าเกิดคนที่มาเปิดประตูให้ผมลงจากรถไม่ใช่… ลุงเอก
“อย่าบอกนะลุงก็อยู่ในแผนด้วย” ผมมองหน้าตาย
“เอ่อ… ไม่สนุกเหรอครับ”
ผมส่ายหัว
“ถ้างั้นก็แย่เลย เชิญลงมาก่อนครับคุณปั๊ม” ผมทำตามอย่างที่ลุงเอกว่า
“พาผมมาที่นี่ทำไมอะลุง” ผมถามพ่อบ้าน
“มาฉลองวันเกิดน่ะครับ”
“แล้วทำไมต้องพามาที่นี่ด้วย”
“กูเห็นมึงอายุยี่สิบแล้วก็เลยอยากให้อะไรบิ๊กๆ หน่อย” ไอ้ไวน์ตอบแทน
“แล้วไหนอะของขวัญวันเกิด”
“เดี๋ยวก่อนสิ เป่าเทียนก่อน”
“ฮะ?”
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู…” แล้วจากนั้นเสียงเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ก็ดังระงมอย่างกับประสานเสียง ทุกคนที่ผมรู้จัก ทั้งคนงานที่บ้าน พวกแม่บ้านและคนทำงานที่ตึกซึ่งผมเคยเห็นหน้า รวมถึงพวกช่างของสายการบินเดินตามมากันเป็นขบวน ด้วยความไม่ทันสังเกต ตรองโผล่มาพร้อมกับเค้กที่ไปจัดการมาตอนไหนก็ไม่รู้ ทุกคนล้อมวงพร้อมกับร้องและปรบมือจนจบเพลง โอ้ เซอร์ไพร์สมากเลยจริงๆ ครับ
“อธิษฐานก่อนเป่าด้วยนะครับ” เลขาของผมกระซิบ
อธิษฐานเหรอ…
อืม ผมอยากได้อะไรนะ
“ไม่รู้ว่าจะขออะไรอะ” ผมพูดความจริง
“เอาที่ใจคุณปั๊มต้องการเลยครับ” ตรองฉีกยิ้ม
“ขอบคุณมากนะตรอง …ขอบใจมากนะมึง” ผมหันไปขอบคุณไวน์ต่อ พ่อบ้านก็เช่นกัน “ขอบคุณนะลุงเอก”
“คุณปั๊มครับ” ตรองทำท่าจะพูด
“เออน่ะ จริงๆ ก็ไม่อยากพูดซึ้งๆ ให้เลี่ยนหรอก”
“ครับแต่…”
“ขอบใจนะ”
“ครับคุณปั๊ม ช่วยเป่าเทียนทีได้มั้ยครับ มันจะลวกมือผม”
“อ้าวเฮ้ย โอเค้!”
ผมหลับตา
ขอให้โตกว่านี้ ก็แล้วกันเนอะ
ฟู่! เทียนทั้งหมดดับลงในลมหายใจเดียว ทุกคนปรบมือโห่ร้องอย่างยิ่งใหญ่ ทำอย่างกับงานมหรศพไปได้
เอาจริงครับ ผมมีความสุขมาก
ขาดอย่างเดียว
ผมคิดถึงเขา… พวกคุณเข้าใจผมใช่มั้ย
“คุณปั๊มร้องไห้เหรอ” ตรองพยายามมอง
“เปล่า เทียนมันร้อน”
“เฮ้ย ไม่เอาอย่าขี้แยน่า” อยู่ๆ ไอ้ไวน์ก็เข้ามาอุ้มผมพาดกับไหล่อย่างกับเด็กๆ เลยครับ
“เชี่ยยย ปล่อยกูลง!”
“ฮ่าๆ มากอดหน่อย” มันทิ้งตัวผมก่อนจะสวมกอดอย่างแน่นจนตัวผมจะระเบิด “ขอบคุณที่โตมาด้วยกันนะเว้ย”
เชี่ยยย มึงนี่แหละที่จะทำให้กูร้องไห้มากกว่าเดิม ไอ้เพื่อนเวรเอ๊ย
“เพื่อนร่วมอุดมการณ์อะเหรอ” ผมลูบหลังมัน อันนี้เป็นเรื่องราวที่รู้กันสองคนครับ
“ขอโทษที่สั่งสอนให้มึงเลว” มันว่า “แต่มึงเชื่อกูเหอะ มึงโตเกินกว่าที่จะทำตามใครแล้ว เป็นผู้ใหญ่แล้วนะมึง”
“ฟวย”
“เอ๊า ด่ากูทำไม”
“มันเป็นคำอุทาน” ผมหัวเราะ “ขอบใจมาก เลิกเอาดะได้แล้ว มีเมียได้แล้วนะมึง”
“พูดเหี้ยไรเนี่ย ไปๆ ไปหาลุงเอกได้แล้ว”
มันผลักผมไปด้านหลังเพื่อไปหาคนที่ว่า ลุงเอกกำลังมองผมอย่างกับมองลูกเข้าโรงเรียนวันแรกแหนะ
“ไม่ต้องกอดผมนะครับ ผมไม่ชอบให้ใครโดนตัว” เขายกมือห้าม
โอ๊ยลุง ทำเสียอารมณ์หมดเลย
“สุขสันต์วันเกิดครับ” จู่ๆ ลุงก็ชูกุญแจอะไรไม่รู้ขึ้นมา
“อะไรครับ?”
“กุญแจบ้านพักบนเกาะส่วนตัวที่ใต้” เขาว่า “ถึงเวลาที่ต้องยกให้คุณแล้วล่ะครับ”
อ๊ากกกกกกกกกกกก อย่าบอกนะคือบ้านที่อยู่บนเขาในเกาะส่วนตัวที่ไม่มีใครเลยนอกจากบ้านหลังนั้น ผมจำได้ว่าตอนเด็กๆ ไปกับพ่อแม่บ่อย มันสวยมากกก และมันก็ส่วนตัวมาก เคยคิดจะไปเองหลายครั้งแล้วแต่ลุงเอกก็ไม่อนุญาต ไม่อยากเชื่อเลย ผมได้มันมาครอบครองแล้วจริงๆๆ
“ขอบคุณมากนะลุงงงงงงง” คราวนี้เขาห้ามไม่ได้แล้วครับ ผมกระโดดกอดเขาอย่างแรงโดยไม่ให้อีกฝ่ายไหวตัวทัน
“เอ่อ…” ลุงเอกดูขัดเขิน “จริงๆ ยังมีอีกอย่างด้วยครับ”
“ฮะ?” ผมทำหน้างงทันที อะไรกัน นี่ยังใหญ่ไม่พออีกเหรอ “อะไรล่ะลุง”
“นี่ครับ” แล้วลุงเอกก็เพยิดหน้าไปทาง…เครื่องบิน
“เดี๋ยวนะลุง…” ผมกำลังสับสนแล้วครับ
“ครับผม นี่คือเครื่องบินส่วนตัวของพ่อคุณ ผมเก็บไว้ให้ ตอนนี้มันคงถึงเวลาแล้ว”
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” ผมแทบจะกรี๊ดเลยครับ
เครื่องบิน เครื่องบินเลยนะเว้ยยยยย!
โอ๊ยยยย อยากดิ้นนนนนน
“ชอบก็เข้าไปดูเลยมึง” ไอ้ไวน์ผลักผมให้เดินเข้าไป
อ๊ากกกกก ตื่นเต้นโว้ย
“ขอบคุณมากนะลุงงงงงงง” ผมจะร้องไห้จริงๆ แล้วนะเนี่ยยยย
“มันเป็นของคุณปั๊มอยู่แล้วครับ” ลุงเอกพูดแค่นั้นก่อนผายมือให้ผมวิ่งเข้าไป
ถ้างั้นไม่เกรงใจแม่งแล้วนะโว้ย เย้!
โอ๊ววววว ข้างในกว้างขวาง หรูหรา แถมยังตกแต่งแบบคลาสสิกสุดๆ คิดถึงพ่อกับแม่จังเลย อยากนั่งไปเที่ยวด้วยกันเหมือนตอนเด็กอีก ผมนี่ถึงกับกอดหมอนนอนกระโดดไปบนเบาะเลยครับ
แคร่ก! เอ๋? ผมเลิกคิ้วมองเมื่อเห็นว่าอยู่ๆ ประตูก็ถูกปิดลงอย่างดื้อๆ แต่ไม่ทันจะได้เดินไปดูเครื่องยนต์ก็สตาร์จขึ้นมากระทันหัน เล่นเอาผมตัวติดเบาะทีเดียว
โอ๊ยจะเซอร์ไพร์สกันไปถึงไหน
ผมชะโงกออกไปนอกหน้าต่างเห็นบรรดาแขกในงานวันเกิดโบกมือให้พร้อมกับโห่ร้องดีใจ เฮ้ยยยย นี่เตรียมกันมาก่อนแล้วใช่มั้ยเนี่ย กูว่าแล้วววววววว
ฮืออออ จะพากูไปไหนวะเนี่ยยยยย
“สวัสดีครับ”
แล้วอยู่ๆ เสียงอันคุ้นเคยก็ทำให้ผมประหลาดใจ ผมมองลำโพงบนเพดานอย่างจดจ่อ เพราะอยากรู้ที่มาของเสียง และกำลังคิดอยู่ว่า
ใช่เขามั้ย? “…ผม กัปตันธีรดล ประดับแก้ว ทำหน้าที่ขับอากาศยานพลเรือนขนาดเล็ก ซึ่งมุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานนานาชาติเกาะสมุย โดยการเดินทางจะใช้เวลาสองชั่วโมงโดยประมาณ แขกกิตติมศักดิ์ประจำเที่ยวบินนี้คือคนที่สำคัญสำหรับผมอีกคนหนึ่ง ทั้งนี้ผมมีเรื่องจะทำนิดหน่อยก่อนที่เราจะออกเดินทางครับ”
กัปตันเหรอ?
เชี่ยเอ๊ยยยยย เล่นอะไรเนี่ย
ยังไม่ทันได้ทำอะไร ก็มีเสียงกีตาร์ก็ดังออกมาจากลำโพง ตามมาด้วยเสียงทุ้มที่น่าหลงไหลอย่างเหลือเชื่อ…
“ทำก็ทำอยู่ ทำสิ่งดีให้เธอทุกๆ อย่าง
พยายามอยู่ พยายามทำตัวเป็นตัวอย่าง
คนที่อุทิศชีวิตเพื่อเธอ” เฮ้ยยยย นี่เสียงกัปตัน เหรอวะ!? เชี่ยยย เพราะอ่า
***“ดูก็ดูอยู่ ดูแลเธอปรนเปรอไม่เคยขาด
รอก็รออยู่ รอให้เธอเปิดใจให้โอกาส
แต่เธอก็เหมือนจะยังไม่มอง
สิ่งที่ฉันทำทุกอย่าง
ไม่มีทางที่เธอจะพบจากใคร” เอ่อ แต่กูว่าเนื้อเพลงมันทะแม่งๆ แฮะ
นี่มึงบอกรักกูเหรอกัปตัน!!
“ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันก็จะรักฉัน
ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันจะบอกรักฉันทุกวัน
ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันจะคิดถึงฉันทุกวัน
ถ้าฉันเป็นเธอ เป็นเธอ
ถ้าฉันเป็นเธอ เป็นเธอ
ถ้าฉันเป็นเธอนะ ถ้าฉันเป็นเธอได้
ฉันจะไม่เสียเวลา ฉันจะรีบตัดสินใจ
ฉันจะจับมือฉัน ฉันจะบอกรักฉัน
ถ้าฉันเป็นเธอ เป็นเธอ
ถ้าฉันเป็นเธอ เป็นเธอ” อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ตายอย่างสงบครับ เชี่ยยย ชีวิตนี้ไม่เคยมีใครร้องเพลงให้มาก่อน ผมนิพพานแล้ว ใครก็ได้ฉุดวิญญาณผมไว้ไม่ให้ลอยออกไปที ฮือออออ
ผมถึงกับเอามือกุมขมับ ไม่ใช่เพราะไม่อยากฟังนะครับ เพราะเขิน!!! เวรเอ๊ยยยยยย
แล้วเสียงกีตาร์ก็เงียบหายไป จากนั้นเครื่องยนต์ก็กระชากตัวเพื่อเคลื่อนออกจากรันเวย์
“ปั๊ม”
เสียงกัปตันดังออกมาจากลำโพงอีกรอบขณะเครื่องบินกำลังตั้งลำตรงเพื่อเตรียมขึ้นสู่น่านฟ้า
ผมมองลำโพงแบบเขินๆ อย่างกับเป็นมันเองที่ร้องเพลงเมื่อกี้นี้
“สุขสันต์วันเกิดครับ”
ผมพยายามกัดผ้าห่มไม่ให้ส่งเสียงกรีดร้องออกไปก่อนจะสะบัดผ้าคลุมโปงตัวเองทันที โอ๊ยยย ทำอย่างไอ้คนในห้องนั่นมันจะมาเห็นมึงอย่างนั้นแหละปั๊ม
เขินโว้ยยยย!!
แต่เดี๋ยวนะ…
ผมเอาหัวออกจากผ้าห่ม
ไอ้นั่นมันใส่เฝือกอยู่ไม่ใช่หรือไง =_=
*** เพลงถ้าฉันเป็นเธอ : บอล จารุเลิฟ


ตื่นมาพร้อมกับเพิ่งสังเกตเห็นว่าคนอ่าน 5k แล้ววว
เยเย่ ฉลองงงงงงงง (รูปไม่เกี่ยวหรือบอกไบ้อะไรนะฮะ ทำมาขอบคุณเฉยๆ 555)
บทนี้เขียนไปม้วนต้วนไปมากๆ แบบเฮ้ยยยยเขินอะ
เติมเต็มความฝันวัยเด็กอยากให้คนขับเครื่อบินอวยพรวันเกิดให้มากๆๆๆ 55555 (เนิร์ดอะ)
สาเหตุที่เลือกเพลงบอกรักนี้คือ มันเป็นชื่อพี่เทคสมัยเรียนมหาลัยผมเองครับ
ไม่เคยได้ยินมาก่อน อยากรู้เลยไปเสิร์ชดู แบบบติดมาก จริงๆ เกือบลืมไปแล้ว ไม่รู้ทำไมนึกถึงขึ้นมา
ว่างๆ ต้องโทรไปนัดเฮียแกไปเดทแล้ว คิดถึงมากกก
หวานๆ ต้อนรับวาเลนไทน์นะฮะ ไอ้แก่มันร้องเพลงเก่าหน่อยอย่าไปถือสามันเลย 5555
แวะมาคุยกันได้เหมือนเดิมที่
https://www.facebook.com/thene0classic นะฮะ
หรือใครชอบอะไรตรงไหน ติดแฮชแท็ค #firemetothemoon ได้น้า ในทวิตมีกันสามสี่คน เหงาๆ เหมือนครอบครัวเล็กๆ 555
ปล. ขอโทษที่ลงยาวทีเดียวเลยนะฮะ ผมไม่อยากโพสสองรอบ นอนอืดอยู่บนเตียง (แหมะ จะบ่นว่าขี้เกียจล่ะสิ)
ปล.2 สุขสันต์วันหยุดยาวฮะ
แล้วก็อวยพรวันเกิดน้องปั๊มได้ที่นี่นะ V
โตไวๆ นะปั๊มมม กูรักมึงนะ