จบแล้ว {Mpreg/Incest} แฝด Up.ตอนที่ 22 (20/01/60)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: จบแล้ว {Mpreg/Incest} แฝด Up.ตอนที่ 22 (20/01/60)  (อ่าน 71570 ครั้ง)

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
Re: {Mpreg/Incest} แฝด Up.ตอนที่ 19 (16/01/60)
«ตอบ #180 เมื่อ16-01-2017 19:34:57 »

ลงโทษกันเบาๆหน่อยนะ  :mew1: 

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: {Mpreg/Incest} แฝด Up.ตอนที่ 19 (16/01/60)
«ตอบ #181 เมื่อ16-01-2017 20:06:15 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
Re: {Mpreg/Incest} แฝด Up.ตอนที่ 19 (16/01/60)
«ตอบ #182 เมื่อ17-01-2017 00:10:53 »

เอาแล้วไง
ฟาโรห์ใจเย็นนะคะ
น้องห้าขวบนะคะ 55+

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
Re: {Mpreg/Incest} แฝด Up.ตอนที่ 19 (16/01/60)
«ตอบ #183 เมื่อ17-01-2017 13:02:25 »

ทำไมชิชิน่ารักเยี่ยงนี้    :-[

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: {Mpreg/Incest} แฝด Up.ตอนที่ 19 (16/01/60)
«ตอบ #184 เมื่อ17-01-2017 13:43:19 »

ชิตะน้อยน่ารักอะ ย้ายมาอยู่กับมินเลย แสบๆ แบบนี้ดีเลย ลูกมินออกมาจะได้แสบบ้างไรบ้าง 555

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
Re: {Mpreg/Incest} แฝด Up.ตอนที่ 19 (16/01/60)
«ตอบ #185 เมื่อ17-01-2017 14:18:35 »

พาชิตะไปตีตูดเลย จะได้ไม่ดื้อ 555

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
Re: {Mpreg/Incest} แฝด Up.ตอนที่ 19 (16/01/60)
«ตอบ #186 เมื่อ17-01-2017 14:58:06 »

สงสัยจังว่าลงโทษแบบไหนนนนน  :z1: :z1:

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
Re: {Mpreg/Incest} แฝด Up.ตอนที่ 20 (17/01/60)
«ตอบ #187 เมื่อ17-01-2017 18:51:24 »


แฝด ตอนที่ 20





       “เป็นยังไงบ้าง” แม็กเอ่ยถามคนสนิทที่นอนคว่ำมีผ้าพันแผลพันเต็มแผ่นหลังอยู่บนเตียงด้วยความรู้สึกผิด สายตาคมไล่มองดูบาดแผลแหวะหวะที่อยู่ไปทั่วทั้งตัวของกำธรอย่างเจ็บใจที่ไม่สามารถช่วยอะไรเจ้าตัวได้เลย

       “ดีขึ้นมากแล้วครับ” กำธรบอกพร้อมกับส่งยิ้มน้อยๆให้กับเจ้านายอย่างไม่ติดใจเอาความอะไร เพราะรู้ดีว่าแม็กรู้สึกผิดกับตนมากแค่ไหนจากสีหน้าท่าทางและการแสดงออกที่ส่งผ่านมาจากแววตาจริงใจคู่นั้น

       “ฉันสัญญาว่าจะจับตัวคนที่ทำผิดมาลงโทษให้ได้” แม็กทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ว่างข้างๆกับเตียงกำธร เขาคว้าสากที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผลมากุมไว้เบาๆพร้อมทั้งให้คำสัญญา

       “คุณแม็กอย่าคิดมากเลยครับ อีกไม่กี่วันแผลแห้งเดี๋ยวผมก็หายแล้วครับ” กำธรส่งยิ้มให้กำลังใจเจ้านายน้อยๆ เพราะเขารู้ดีว่าช่วงนี้แม็กเครียดแค่ไหน ทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัวประเดประดังกันเข้ามาวุ่นวายไปหมด

       “ถ้ามีปัญหาหรือขาดเหลืออะไรรีบโทรหาผมเลยนะ” แม็กบอกทั้งกำธรและภรรยาของกำธรที่นั่งเฝ้าอยู่อีกฝั่งนึงของเตียง

       “ค่ะ” เธอตอบรับด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ถึงแม้ว่าจะรู้แล้วว่าสาเหตุที่ทำให้สามีของเธอเจ็บตัวนั้นคือคนตรงหน้า แต่เธอก็โกรธไม่ลงเพราะเจ้านายคนนี้ของสามีเธอมอบทั้งพระเดชและพระคุณช่วยเหลือครอบครัวเธอไม่เคยขาด
..
..
..
       “อ่าว...ไอ้เปี๊ยกหายไปไหน” แม็กเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัยเมื่อเข้ามาแล้วไม่เจอชิตะน้อยที่ควรจะนอนเล่นอยู่บนเตียงกับคนรักเขา เหลือแต่เตชินที่นั่งเฝ้ามินอยู่ห่างๆ

       “คุณหนูออกไปกับหัวหน้าครับ…ผมขอตัวไปเฝ้าเป็นเพื่อนเตโชข้างนอกนะครับ” เตชินบอกก่อนที่จะขอตัวเดินออกจากห้องไป

       “เป็นอะไร” นั่งเช็คงานกับทางเลขาผ่านทางออนไลน์อยู่นาน แม็กก็ต้องลุกเดินเข้าไปถามคนรักที่นอนหน้านิ่วคิ้วขมวดทั้งที่ยังคงไม่ลืมตา

       “อือ...มินปวดฉี่อ่า.....” มินลืมตาขึ้นมาพูดบอกอย่างงัวเงีย

       “แล้วก็ไม่บอกตั้งแต่แรก อั้นอยู่ได้ เดี๋ยวก็ปวดท้องหรอกมึง” แม็กว่าก่อนที่จะช้อนตัวคนรักขึ้นมาอุ้มแล้วรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำทันที เขาค่อยๆวางมินลงที่พื้นเบาๆอย่างระมัดระวังเมื่อถึงจุดหมายปลายทาง

       “เอ้า! มัวยืนทำอะไรทำไมไม่ฉี่ล่ะ?” แม็กชะโงกหน้าเข้าไปถามคนรักใกล้ๆด้วยความสงสัยเมื่อเห็นว่ามินยังคงยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น

       “แล้วตัวเองล่ะทำไมไม่ออกไปข้างนอกจะมายืนดูอะไร!” มินว่ากลับไปบ้าง

       “อย่าบอกนะว่ามึงอายกูอ่ะ?” แม็กขมวดคิ้วถาม

       “เออเดะ! ใครมันจะไปกล้ายืนฉี่ให้คนอื่นดูล่ะ” มินตอบมาอย่างอายๆ หน้าแดงแปร๊ด 

       “คนอื่นที่ไหน? กูผัวมึงเถอะ อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เกิดยันโต กูสำรวจทุกซอกทุกมุมมึงมากี่ร้อยกี่พันครั้งแล้วห้ะมินยังจะมาอายอะไรอีก ให้กูควักของกูออกมาฉี่เป็นเพื่อนมึงตอนนี้ยังได้เลยเอามั้ย?” แม็กว่าพร้อมทั้งแกล้งทำท่าจะปลดกระดุมกางเกงตัวเองออก

       “’งื้อออ...แม็กอย่าแกล้งมินสิ มินฉี่จะราดอยู่แล้วนะ! ออกไปเลย!” มินบอกพร้อมกับผลักตัวแม็กออกจากตัวเอง

       “เออๆ เสร็จแล้วเรียกนะ หรือถ้าฉี่ไม่ออกก็เรียกนะเดี๋ยวน้องจะเข้ามาช่วย ‘เอาน้ำออก’ ให้พี่เอง...ฟอด!!!” แม็กยอมเดินออกไปรอมินที่หน้าห้องน้ำแต่โดยดี แต่ก็ยังไม่วายที่จะแหย่คนรักให้เขินอายจนแก้มแดงเล่นจากคำสองแง่สองง่ามที่เจ้าตัวตั้งใจพูดผิดออกมา

       “ไอ้คนทะลึ่ง!!!”

       “เร็วๆเข้า ก่อนที่กูจะเปลี่ยนใจ หึๆ” แม็กออกมายืนหัวเราะชอบใจอยู่หน้าห้องน้ำคนเดียว เมื่อได้ยินเสียงตะโกนว่าของคนรักที่ป่านนี้คงจะเขินอายจนตัวเห่อแดงเหมือนโดนย้อมสีไปหมดแล้วแน่ๆ
..
..
..
เย็นวันเดียวกัน...

       ปัง!!!

       “ทำไมถึงทำหน้างออย่างนั้นล่ะครับชิตะ” มินเอ่ยถามเพื่อนซี้ต่างวัยของตัวเองที่กระแทกตัวเปิดประตูห้องพักเสียงดัง ก่อนที่จะวิ่งปืนขึ้นมาทิ้งตัวลงนอนหนุนแขนเอาอย่างไม่พูดไม่จา โดยมีฟาโรห์เดินตามหลังมาด้วยสีหน้าและท่าทางนิ่งๆตามแบบฉบับของเจ้าตัว

       “ออกไปเลยนะ!!!” ชิตะคว้ากระเป๋าเป้ลูกเป็ดใบน้อยของตัวเองที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างเตียงของมินคว้างใสหน้าฟาโรห์ที่มาหยุดยืนอยู่ตรงปลายเตรียงของมินด้วยความแม่นยำ

       “ไม่เอานะครับ ไม่ทำอย่างนี้อีกนะครับชิตะ เพราะมันไม่น่ารักเลย” มินเอ่ยเตือนพร้อมทั้งพูดสอนชิตะน้อยอย่างอ่อนโยน เขาไม่รู้หรอกว่าระหว่างที่สองคนนี้หายไปด้วยกันมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ถึงได้ทำให้คนที่เคยร้องหาแต่ฟาโรห์ไม่ว่าจะทำอะไรอย่างชิตะถึงได้มีทำกิริยาก้าวร้าวใส่คนโปรดอย่างฟาโรห์แบบนี้ แต่ที่แน่ๆเลยคือที่โดนชิตะคว้างกระเป๋าใส่หน้าไปจังๆอย่างนั้นฟาโรห์จะต้องเจ็บมากอย่างแน่นอนเพราะกระเป๋าของชิตะที่เห็นใบเล็กๆอย่างนั้นน่ะหนักมาก จากที่เขารับรู้ได้เมื่อตอนที่เป็นคนยกกระเป๋าเจ้าตัวไปวางแอบไว้บนโต๊ะวางของข้างเตียง แต่ก็ไม่รู้หรอกนะว่ามันใส่อะไรไว้ถึงได้หนักขนาดนั้น เพราะไม่ได้เปิดดู

      “อีกครึ่งชั่วโมงคุณภีมจะเข้ามารับคุณหนูกลับ...ผมขอตัวไปทำงานต่อนะครับ” ฟาโรห์ใช้สายตาว่างเปล่าจ้องมองเด็กน้อยอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่จะละสายตาหันไปบอกลาแม็กกับมินอีกครั้งด้วยท่าทางนิ่งๆคงเดิม ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป

       “กำลังรู้สึกเสียใจกับอะไรบางอย่างอยู่สินะ” เป็นอีกครั้งที่แม็กต้องพึมพำออกมาเงียบๆคนเดียว อย่างรู้สึกเห็นใจ (อย่างที่ไม่เคยรู้สึก) เมื่อสายตาที่ดีเกินไปของตัวเองดันไปสังเกตเห็นความวูบไหวอย่างผิดปกติในแววตาของบอดี้การ์ดตัวโตที่เดินออกไป ถึงแม้ว่าเจ้าตัวนั้นจะเผลอปล่อยความรู้สึกส่วนลึกในใจออกมาเพียงเสี้ยววินาทีก็ตาม แต่ก็ไม่อาดรอดพ้นสายตาอันเฉียบคมของแม็กไปได้

       “อะไรหรอ?” มินเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจกับสิ่งที่คนรักพูดออกมา

       “ไม่มีอะไรหรอก...ว่าแต่แกอ่ะไอ้เปี๊ยกกินข้าวมารึยัง?” แม็กตอบปัดๆ ก่อนที่จะหันไปพูดถามกับเจ้าหนูน้อยชิตะที่ยังคงนั่งตีหน้าบึ้งอยู่ในอ้อมแขนของมิน ในขณะที่เจ้าตัวกำลังซบหน้าคุย(ฟ้อง)น้องในท้องของมินถึงเรื่องที่ไม่สบายใจของตัวเองในวันนี้อยู่

       “กินแล้วฮะ” เงยหน้าขึ้นมาตอบแม็กด้วยเสียงอ่อยๆ ก่อนที่จะซบหน้าลงไปนอนคุยกับน้องต่อ โดยมีมินนั่งลูบหัวทุยๆของเจ้าตัวไปด้วย ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าชิตะเป็นอะไรแต่เขาก็อยากจะช่วยปลอบใจหนูน้อยคนนี้ที่กำลังแสดงท่าทางอ่อนแอออกมาอย่างที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว
..
..
..
       “หนวดขึ้นแล้วนะแม็ก” มินเอ่ยทักพร้อมกับเอื้อมมือไปลูบคางสากของคนรักที่กำลังนั่งอ่านรายงานของบริษัทอยู่ข้างเตียง หลังจากที่ปล่อยให้ความเงียบครอบคุมพื้นที่ในห้องอยู่นาน เพราะภีมมารับชิตะกลับไปนอนด้วยตั้งแต่ยังไม่หกโมงดีเลยเสียด้วยซ้ำ จนเป็นเหตุให้เจ้าแสบเล็กทำท่าอิดออดอยู่นานเพราะคุณลุงสุดที่รักมารับเร็วเกินไป

       “หน้าที่กูรึไง?” แม็กทำซึนตีมึนโยนความผิดไปให้กับมินเพราะปกติแล้ว มินจะเป็นคนจัดการเรื่องการโกนหนวดให้เขาอยู่เป็นประจำ ทั้งทีมันไม่ใช่เรื่องของมินเลยก็ตาม แต่จะทำยังไงได้เมื่อเจ้าตัวเขาโบ้ยมาให้มินนเป็นคนจัดการกับหนวดของตัวเองอย่างนี้…เชื่อพี่เขาเลย!

       “ไปอาบน้ำกัน” ยังไม่ทันที่มินจะได้พูดเถียงหรือคัดค้านอะไร ก็โดนแม็กอุ้มตัวลอยเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างปลงๆ เพราะรู้ตัวว่ามันถึงเวลาที่เขาจะต้อง(เขินจน)เหนื่อยอีกแล้ว หลังจากที่มีประสบการณ์ในการนั่งเป็นเหยื่อให้แม็กที่เสนอตัว(แบบไม่ถามความสมัครใจ)มาทำหน้าที่อาบน้ำให้มินมาถึงสองวันด้วยกัน

       “หนวดตัวเองแต่เป็นภาระเค้าตลอด” มินเบ้ปากบ่นอย่างไม่จริงจังนักหลังจากที่แม็กจัดการถอดชุดคนไข้ของเขาออกพร้อมกับอุ้มตัวมินที่เหลือแค่ร่างกายเปลือยเปล่าขึ้นไปนั่งบนเคาน์เตอร์ล้างหน้าที่แข็งแรงและมีพื้นที่ว่างกว้างพอให้คนท้องอย่างมินขึ้นไปนั่งได้ ก่อนที่จะส่งอุปกรณ์โกนหนวดของตนเองที่นมน้อมจัดมาส่งให้กับมิน

       “เออ...เพราะฉะนั้นทุกๆครั้งก่อนที่มึงจะนอนหรือจำเป็นต้องนอนก็จำเอาไว้ให้ขึ้นใจเลยนะว่ามึงจะต้องตื่นขึ้นมาโกนหนวดให้ตัวภาระอย่างกูอย่างนี้ทุกวัน เพราะมันเป็นหน้าที่ของมึง” แม็กแทรกตัวเข้าไปอยู่ระหว่างขาของมินพร้อมกับใช้หน้าผากของตัวเองชนกับมิน ก่อนที่จะพูดบอกออกมา

       “แม็ก...” มินได้แต่ครางเรียกชื่อคนรักด้วยเสียงแผ่วเบาเพราะทราบดีว่าแม็กต้องการจะสื่อถึงอะไร.....แม็กคงกลัวว่าจะเสียมินไปจริงๆ เพราะภาพของมินที่นอนอยู่ในห้องผ่าตัดมันยังคงตามหลอนและติดตาเขาอยู่จนถึงทุกวันนี้

       “ส่วนเรื่องของมึงกับลูกน่ะ...ปล่อยให้เป็นหน้าที่กูเอง” แม็กพูดบอกพร้อมกับวาดแขนกระชับร่างนุ่มนิ่มของมินเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด สายตาคมที่บ่งบอกถึงความรัก ความห่วงใย ความจริงจังและจริงใจในคำพูดของเจ้าตัวทำเอามินถึงกับน้ำตาคลอ...แม็กไม่ใช่คนโรแมนติกอ่อนหวาน แต่ก็อ่อนโยน (แบบกระด้างๆตามฉบับของเจ้าตัว) ปากร้ายแต่ทว่ากลับใจดีได้อย่างน่าใจหาย พูดไม่เพราะ ชอบดุ ชอบว่า ชอบด่า แต่ก็ต้องกลับมาเป็นคนปลอบมินอยู่เป็นประจำ

       “อื้อ! มินจะรับภาระอันยิ่งใหญ่อันนี้ไว้ก็แล้วกัน” มินร้องบอกทั้งน้ำตาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข พร้อมกับยกมือขึ้นกอดตอบแม็กไปด้วย
..
..
..
เช้าวันต่อมา...

       “อยู่กับไอ้เปี๊ยกแล้วอย่าพากันซนล่ะ ประชุมเสร็จแล้วกูจะรีบกลับ...ดูแลมินกับน้องดีๆนะไอ้เปี๊ยก” แม็กบอกพร้อมกับก้มลงจูบขมับมินเบาๆ ก่อนที่จะหันไปบอกกับชิตะที่นั่งมองตาแป๋วอยู่ข้างๆกันกับมิน

       “อื้อ”
..
..
..
       “มาทางนี้ก่อนครับ” ในขณะที่แม็กจะเดินเข้าไปยังห้องประชุมหลังจากที่เลขาที่อยู่ในห้องประชุมโทรมาเร่งในรอบที่สิบแล้ว แต่ยังเดินไปได้ไม่ถึงครึ่งทางแม็กก็ถูกใครบางคนดึงเข้ามุมอับทางเดินเสียก่อน

       “มีอะไรหรือฟาโรห์” แม็กเอ่ยถามออกมาทั้งยังที่ไม่เห็นหน้าเพราะเขาจำเสียงของฟาโรห์ได้

       “รออีกสักพักแล้วค่อยเข้าไปนะครับ เพราะตอนนี้เลขาคนสวยของคุณก็โดนเขี่ยออกมานอกห้องเหมือนกัน...ช่วยรับนี่ไปด้วยครับ” ฟาโรห์บอกเสียงเรียบพร้อมกับส่งหูฟังไร้สายให้แม็กหนึ่งข้าง เช่นเดียวกับที่ตัวเขาเองก็ใส่ติดหูไว้หนึ่งข้างเหมือนกัน

       ‘นี่มันหมายความว่ายังไงห้ะคุณกิติกร ไหนคุณบอกว่าจะยึดหุ้นของคุณแม็กมาแบ่งให้พวกผมไง! แล้วไหงตอนนี้มันถึงถูกโอนไปอยู่ในมือของไอ้เด็กนั่นทั้งหมดอย่างนี้!!!’

       เพียงแค่ใส่หูฟังเสร็จปุ๊บดวงตาคมของแม็กก็ฉายวาววับอย่างหน้ากลัวทันที เมื่อได้ยินเสียงของใครคนหนึ่งในบอร์ดบริหารที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะในเวลาปกติเจ้าตัวชอบมาเลียแข้งเลียขาเขาเก่งยิ่งกว่าสัตย์เลี้ยงบางจำพวกอีก

       ‘ผมก็กำลังหาทางเอามันกลับมาให้พวกคุณอยู่นี่ไง! พวกคุณนั่นแหละที่ไร้น้ำยา แค่ให้แต่งบัญชียักยอกเอาเงินออกมาแบ่งกันใช้ยังทำไม่ได้เลย...กระจอกจริงๆ’

       แต่เจ้าของเสียงที่สองทำให้เลือดเขาขึ้นหน้ามากกว่าเดิม เพราะมันคือคนที่เขาต้องการเจอตัวมากที่สุดในขณะนี้.....อยากเจอของจริงสินะไอ้แก่!!!

       ‘แล้วคุณคิดว่าลูกชายคุณโง่นักหรือไง ไหนจะไอ้รองประธานคนใหม่นั่นอีก ไอ้สองคนนี้มันหูตาไวยิ่งกว่าอะไรดี ขนาดผมลงตัวเลขผิดแค่หลักพันมันยังเรียกผมไปว่าเลย’ เสียงของบอร์ดบริหารคนเดิม

       ‘ไม่รู้ล่ะ ยังไงคุณก็ต้องจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยภายในอาทิตย์นี้ ก่อนที่พวกมันจะรู้ตัว’ เสียงของกิติกรพูดสั่งออกมาอีกครั้ง

       ‘แล้วคุณจะให้พวกผมทำยังไงล่ะ พวกผมเป็นเพียงแค่ลูกจ้างนะไม่ใช่ผู้ถือหุ้น’

       ‘ก็คิดสิ! พวกคุณเป็นบอร์ดบริหารนะ อำนาจที่มีอยู่ในมือก็ช่วยใช้มันให้เป็นประโยชน์เสียบ้าง ก่อนที่จะไม่ได้ใช้’ กิติกรว่า

       ‘คุณพูดเหมือนกับว่ามันจะทำกันได้ง่ายๆ’

       ‘ไม่รู้ล่ะ แค่นี้ก่อนนะ ผมจะส่งคนไปเยี่ยมลูกชายคนโตสักหน่อย ได้ข่าวว่ามันป่วยอยู่’ เสียงของกิติกรสิ้นสุดลงไปแค่นั้น ก่อนที่จะมีเสียงถกเถียงของเหล่าบอร์ดบริหารที่ดูเหมือนว่าจะยังหาทางออกกันไม่เจอ แต่นั่นมันไม่ใช่ประเด็นที่แม็กจะเก็บเอามาใส่ใจหรอก เพราะว่าคำพูดประโยคสุดท้ายที่กิติกรทิ้งไว้นั้นมันกำลังทำให้แม็กเป็นกังวล

       “โทรสั่งให้เตชินกับเตโชเข้าไปอยู่กับมินเดี๋ยวนี้เลยฟาโรห์” แม็กพูดสั่งกับฟาโรห์ที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งอยู่ข้างๆกัน เพราะพวกเขากำลังจะกลับไปหามินที่โรงพยาบาล แต่ก็เหมือนว่าจะช้าเกินไป

       เมื่อ.....

โรงพยาบาล...

สี่สิบนาทีก่อนหน้านี้...

       “ยังไม่ถึงเวลาตรวจนี่ครับ” เตชินเอ่ยทักทีมแพทย์และพยาบาลที่เดินมาหยุดอยู่หน้าห้องพักของมินด้วยความแปลกใจ เพราะเวลาตรวจของมินมันไม่ได้เร็วอย่างนี้ เนื่องจากว่าห้องพักของมินเป็นแบบพิเศษวีไอพีเลยอยู่ชั้นบนสุดของหอผู้ป่วยใน จึงได้ตรวจเป็นคนสุดท้ายในช่วงสายโน่น

       “พอดีว่าวันนี้คนไข้เยอะน่ะค่ะ คุณหมอเลยต้องแบ่งกันมาตรวจ เพราะกลัวว่าจะไม่ทันเวลา” พยาบาลสาวที่ทำหน้าที่เข็นรถอุปกรณ์เอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม

       “ถ้าอย่างนั้นก็เชิญครับ” เตชินบอกพร้อมกับเปิดประตูให้ทีมแพทย์และพยาบาลเดินเข้าไปในห้อง ส่วนเขาเดินตามหลังปิดท้าย โดยไม่ลืมที่จะส่งซิกบางอย่างไปให้พี่ชายอย่างเตโชได้รับรู้

       คลิก!

       “พวกมันมาแล้วครับหัวหน้า” เตโชกดล็อกประตูหน้าห้องใหญ่ของมิน ก่อนที่จะเดินตามหลังทุกคนเข้าไป พร้อมกับโทรรายงานฟาโรห์ที่เข้ามาสั่งงานเขาแต่เช้า
..
..
ภายในห้องพักของมิน

       “สองคนนั้นไม่ได้ตามเข้ามาใช่มั้ย?” คนที่แสดงตัวว่าเป็นหมอหันหลังกลับมาถามนางพยาบาลที่เดินตามตนเข้ามา พลางชะเง้อมองไปทางที่เพิ่งเดินเข้ามา

       “ไม่มีค่ะ” เธอหันไปมองทางด้านหลัง ก่อนที่จะหันกลับมาตอบหัวหน้าของเธอ เพราะไม่มีวี่แววของบอดี้การ์ดสองคนตามเข้ามาสักคน

       “ถ้าอย่างนั้นก็จัดการเลย” คนที่เป็นหมอบอกพร้อมกับที่ทีมงานของตัวเองทั้งสองคนก้าวเข้าไปล้อมรอบเตียงนอนของมิน โดยที่ไม่ได้สังเกตเลยว่าบนโซฟาที่ตั้งอยู่ไม่ห่างนักมีร่างเล็กของเด็กน้อยนอนคลุมโปงอยู่อย่างมิดชิด

       “โปะยาสลบไปเลย” หมอคนเดิมพยักหน้าพูดสั่งกับนางพยาบาลอีกคน เมื่อเห็นว่ามินทำท่าว่าจะตื่นขึ้นมา

       “พวกคุณเป็น...อื้อ!! อื้ออออ...” เพียงแค่ลืมตาตื่นมาได้ไม่ถึงห้าวินาที มินก็จำต้องหลับไหลดังเดิมเมื่อโดนฤทธิ์ยาสลบโปะเข้าไปเต็มๆ ก่อนที่ทุกๆอย่างเริ่มจะชุนละมุนเมื่อสองพี่น้องเตพากันเข้ามาล็อกคอพยาบาลสาวทั้งสองคนจากข้างหลัง

       “คุณหมอเขาอยากเล่นผ่าตัดคุณหนูช่วยเล่นเป็นเพื่อนคุณหมอแทนพวกผมหน่อยได้มั้ยครับ” เตชินตะโกนบอกกับคุณหนูตัวน้อยที่กำลังนั่งหัวฟูทำหน้ามึนอยู่บนโซฟาเพราะนอนไม่เต็มอิ่มหลังจากที่ต้องตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงเอะอะจากการต่อสู้และขัดขืนของสองพี่น้องเตและสองพยาบาลสาวที่ไม่น่าจะใช่พยาบาลจริงๆ เพราะต่อสู้กับพวกเขาได้สูสีขนาดนี้

       “เหอะ! ก็แค่เด็กน้อยจะมาทำอะไรฉันได้!” คุณหมอ(ปลอม)สะบัดเสื้อกาวน์ออกทิ้งอย่างไม่ใยดีเพราะมันเกะกะ

       “เดี๋ยวหมอก็รู้เอง...ฝากด้วยนะครับคุณหนู” เตชินแสยะยิ้มพูดบอกกับหมอเก๊ก่อนที่จะพูดฝากฝังกับคุณหนูของตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เขาและเตโชจะลากพยาบาล (ปลอมๆ) ออกไปข้างนอกห้องเพราะไม่อยากที่จะรบกวนเวลา ‘เล่น’ ของคุณหนูที่เคารพรัก

       “เอาจะเล่นอะไรกันก่อนดีฮะคุณหมอ...ผ่าตัด? เย็บแผล?” ชิตะน้อยเอียงคอถามด้วยรอยยิ้มหวานตามฉบับเด็กน้อยน่ารักของเจ้าตัว พร้อมกับหยิบมีดสปริงสองคมที่อยู่ในกระเป๋าเป้ลูกเป็ดออกมาถือ ก่อนที่จะหยิบแผ่นหนังสีดำขนาดฝ่ามือที่เต็มไปด้วยเข็มเงินเล่มเล็กเหน็บเรียงเต็มแผงทั้งสองด้านออกมาอีกอย่างหนึ่ง

       “…..”

       “แต่พี่ว่าเล่นผ่าตัดดีกว่าเน๊อะ...อชิตะชอบ” ว่าพร้อมกับโยนกระเป๋าเข็มทิ้งลงบนโซฟา ก่อนที่จะก้าวเดินย่างสามขุมเข้าหาคุณหมอเก๊พร้อมมีดสปริงสองคมปลายแหลมด้วยสีหน้าที่พร้อมสนุกเต็มที่ ทำเอาคุณหมอเก๊ผงะถอยแทบจะไม่ทัน

       “อ...อย่าเข้ามานะไอ้เด็กบ้า!!!” ไม่! เขาไม่ได้อยากหนี เขาไม่ได้อยากกลัว แต่ไอ้เด็กบ้านี่มันทำท่าทางหน้ากลัวเกินไป อีกทั้งสายตากลมๆที่เคยบ๊องแบ๊วก่อนหน้านี้นั้นมันหายไป พร้อมกับสายตาความเย็นชาแห่งการกระหายบางอย่างแทรกเข้ามาอย่างไม่น่าจะเป็นไปได้ และที่สำคัญคือเขาคนนี้ไม่ใช่มือปืนหรือนักฆ่ารับจ้างอย่างผู้หญิงสองคนนั้น เขาเป็นเพียงคนธรรมดาที่เป็นเหมือนกับมันสมองของกิติกรเท่านั้น!! ไม่ได้มีความสามารถอะไรเลยนอกจากงานเอกสาร!!

       หมับ!

       “เลิกเล่นได้แล้วครับคุณหนู คุณหมอเขากลัวหมดแล้ว” แต่สวรรค์กลับเข้าข้างหมอเก๊คนนี้เมื่อฟาโรห์มาคว้าแขนคุณหนูน้อยของตัวเองไว้ได้ทัน ก่อนที่มันจะจิ้มเข้าไปฝังในพุงผู้ใหญ่ตัวโตตรงหน้า

       “อย่ามาจับเรานะ! เราเกลียดฟาโรห์!!” ถ้อยคำเจ็บแสบจากปากคุณหนูที่รักทำให้ฟาโรห์รีบปล่อยข้อมือน้อยๆนั่นเหมือนกับกับของร้อนอย่างช่วยไม่ได้ เพราะตั้งแต่ที่เกิดเรื่องวันนั้น เขายังไม่ได้อธิบายเหตุผลให้คุณหนูตรงหน้านี้ฟังเลย ได้แต่ปล่อยให้อารมณ์เด็กน้อยคุกรุ่นมาจนถึงตอนนี้ เพราะหน้าที่การงาน เวลา และสถานการณ์ไม่เคยช่วยอำนวยเลยสักครั้ง

       “ทุกอย่างพร้อมแล้วครับคุณแม็ก” เตชินกลับมาเรียกแม็กที่ยืนอยู่ข้างเตียงของมินเมื่อทุกอย่างที่พวกเขาวางแผนกันไว้ก่อนหน้าเตรียมพร้อมหมดแล้ว

       “อืม...ฝากมินด้วยล่ะ…ไปฟาโรห์” แม็กรับคำพร้อกกับพูดสั่งเตชินที่จะอยู่ทำหน้าที่ดูแลความปรอดภัยที่นี่ ส่วนตัวเขานั้นจะไปกับฟาโรห์และเตโช

       “ครับ” ฟาโรห์รับคำพร้อมทั้งละสายตาจากคุณหนูตรงหน้าไปทำหน้าที่อย่างจำยอม เมื่อแม็กเรียก

       “เรามาจบเรื่องนี้กันสักทีเถอะ...กิติกร”




………………………………………………………………….TBC.

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
Re: {Mpreg/Incest} แฝด Up.ตอนที่ 20 (17/01/60)
«ตอบ #188 เมื่อ17-01-2017 19:09:30 »







ช่วงนี้แม็กดูงานเข้าจริงๆ สู้ๆนะแม็ก


ชิชิมีเหตุผลหน่อยลูก อย่างอนฟาห์โรเลย

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: {Mpreg/Incest} แฝด Up.ตอนที่ 20 (17/01/60)
«ตอบ #189 เมื่อ17-01-2017 19:17:48 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: {Mpreg/Incest} แฝด Up.ตอนที่ 20 (17/01/60)
« ตอบ #189 เมื่อ: 17-01-2017 19:17:48 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ LovEYouOnLy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
Re: {Mpreg/Incest} แฝด Up.ตอนที่ 20 (17/01/60)
«ตอบ #190 เมื่อ17-01-2017 21:50:31 »

แม้คุณหนูน้อยนั้นจะอายุ5ขวบ แต่กลับไม่ธรรมดาเลยทีเดียว อยากจะรู้ตอนโตจริงๆจะขนาดไหน

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: {Mpreg/Incest} แฝด Up.ตอนที่ 20 (17/01/60)
«ตอบ #191 เมื่อ17-01-2017 22:49:22 »

ยิ่งอ่านยิ่งถูกใจ ชิตะน้อย น่ารักแต่ร้ายแบบนี้สิดีเลย อยู่กับมินจะได้หายห่วง

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
Re: {Mpreg/Incest} แฝด Up.ตอนที่ 20 (17/01/60)
«ตอบ #192 เมื่อ17-01-2017 22:57:46 »

เข้มข้นมากกก
ชิตะแอบโหดหนักมาก

ออฟไลน์ Ploysai5077

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: {Mpreg/Incest} แฝด Up.ตอนที่ 20 (17/01/60)
«ตอบ #193 เมื่อ17-01-2017 23:50:01 »

ลูกเป็ดโครตโหดดดด :hao7:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: {Mpreg/Incest} แฝด Up.ตอนที่ 20 (17/01/60)
«ตอบ #194 เมื่อ18-01-2017 04:30:55 »

 :mew1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: {Mpreg/Incest} แฝด Up.ตอนที่ 20 (17/01/60)
«ตอบ #195 เมื่อ18-01-2017 05:19:48 »

น่าให้อชิตะเล่นจริงไปเลย
มิน โดนยาสลบ  :katai1: :katai1: :katai1:
เพิ่งโดนชน จนล้ม ฟื้นมาไม่เท่าไรเจออีกละ
คนท้องโดนยาสลบไม่เป็นไรเหรอ
แม็ก จัดการถอนรากถอนโคนไปเถอะ
กิติกร มันยิ่งอยากทำร้ายแฝดพี่อยู่
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
Re: {Mpreg/Incest} แฝด Up.ตอนที่ 21 (19/01/60)
«ตอบ #196 เมื่อ18-01-2017 20:39:34 »


แฝด ตอนที่ 21




       “ทางนี้ครับคุณแม็ก” ฟาโรห์เผยมือชี้ทางไปยังส่วนที่เป็นสวนหย่อมของโรงพยาบาลที่เต็มไปด้วยผู้ป่วยทั้งหญิงและชาย หลังจากที่ต้องใช้เวลานั่งรถออกจากกรุงเทพฯมาถึงห้าชั่วโมงกว่า

       “ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ทางเราช่วยเหลือรึเปล่าคะ” เจ้าหน้าที่พยาบาลที่ทำหน้าที่ดูแลคนไข้อยู่ใกล้ เดินเข้ามาถามด้วยน้ำเสียงสุภาพตามหน้าที่ของเธอ

       แม็กไม่ได้ตอบคำถามของเธอในทันที แต่เขากลับถอดแว่นกันแดดที่สวมอยู่ออก พลางใช้สายตาคมของตัวเองสอดส่องไปทั่วบริเวณลานหญ้ากว้างๆนี้ ก่อนที่จะสะดุดกับหญิงสาววัยกลางคนคนหนึ่งที่ถึงแม้ว่าจะอยู่ในชุดผู้ป่วยโทรมๆ แต่เธอกลับงดงามมากในสายตาของเขา

       “แม่...ผมมาหาแม่” เขาบอกกับเจ้าหน้าที่พยาบาลเพียงแค่นั้น ก่อนที่จะเดินตรงไปทางหญิงสาวคนดังกล่าวทันที โดยมีฟาโรห์และเตโชคอยกันนางพยาบาลไว้ให้ เพราะพวกเขารู้ดีว่าในเวลานี้เจ้านายกำลังต้องการเวลาส่วนตัว
..
..
..
       “นอนเสียเถิดลูกจ๋า...หลับตาฟังแม่ร้องเพลงกล่อม...สองมือแม่จะคอยปกป้อง...โอบถนอมรักลูกดั่งดวงใจ...” บทเพลงกล่อมเด็กแสนหวานที่เอื้อนเอ่ยออกมาจากหญิงสาวตรงหน้าทำให้แม็กไม่กล้าเดินเข้าไปใกล้กว่าตอนนี้ เขาทำเพียงแค่หยุดเดินและยืนนิ่งอยู่กับที่เท่านั้น

       “…..”

       “นอนเสียเถิดลูกเอ๋ย...เจ้าเอยจงอย่าร้องไห้...ฝันดี อย่าให้มีโรคภัย...ยอดดวงใจของแม่ คือน้องมิน..น้องแม็ก...เอย.....” เธอขับร้องพร้อมโยกตัวกล่อมตุ๊กตาแฝดในอ้อมแขนของเธออย่างอ่อนโยน สองมือเรียวยกขึ้นลูบหน้าตุ๊กตาแฝดทั้งสองตัวอย่างถนอมด้วยหัวใจ อีกทั้งรอยยิ้มละมุน สายตาที่เต็มไปด้วยความรักอันสุดซึ่ง ทำให้แม็กไม่ต่างจากโดนเข็มนับพันเล่มปักลงกลางใจ...นานไป...เขาใช้เวลาตาหาผู้หญิงที่เขารักที่สุดคนนี้นานเกินไป เธอถึงต้องมาอยู่สถานที่แบบนี้อย่างไร้การเหลียวแล

       “แม่ครับ...” แม็กเอ่ยเรียกหญิงตรงหน้าด้วยเสียงเบาหวิว ก่อนที่จะค่อยๆก้าวเดินเข้าไปหาเธอด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง

       “ใคร? แม่ไหน ไหนแม่” เธอหันซ้ายแลขวาหา ‘แม่’ ที่ชายหนุ่มเรียกด้วยสายตาหลุกหลิก

       “แม็กครับ ผมชื่อแม็กลูกชายของแม่ไงครับ” เขาบอกพร้อมกับทิ้งตัวนั่งคลุกเข่าอยู่ตรงหน้าเธอ ก่อนที่จะค่อยๆเอื้อมมือเข้าไปจับมือของหญิงสาวอย่างกล้าๆกลัวๆ เพราะเขาเกรงว่าจะทำให้เธอตกใจ แต่ก็ไม่ เพราะเธอยังคงมีท่าทีนิ่งเฉย ไม่ได้อาละวาดหรือสะบัดมือหนีเขาอย่างที่คิด

       “แม็ก...แม็กหรอ? ชื่อเหมือนน้องแม็กเลย นี่ไง! คนนี้น้องแม็กคนนี้น้องมิน...ลูกๆ” เธอบอกพร้อมกับค่อยๆอุ้มตุ๊กตาสองตัวบนตักให้กับแม็กดูด้วยรอยยิ้ม ที่แม็กรู้สึกเจ็บปวดเหลือเกินในยามที่มอง

       “ผมขอโทษครับแม่ ผมขอโทษ...” แม็กก้มหน้าลงบนตักหญิงสาวที่ยังคงพูดและเล่นกับลูกๆทั้งสองของเธอด้วยความรู้สึกผิด ยิ่งแม่ยิ้มให้มากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งอยากจะร้องไห้มากขึ้นเท่านั้น

       “ลูก!! ลูก!! อย่าทำ! อย่าฆ่าลูกฉันนะ!! กรี๊ดดดด....” แต่แล้วร่างสูงใหญ่ของแม็กก็ต้องกระเด็นหงายหลังลงไปนอนกับพื้นหญ้าในทันที เมื่อหญิงสาวผู้แสนสงบเมื่อครู่นี้ ลุกขึ้นกรีดร้องไปมาอย่างคุ้มคลั่งในขณะสองมือของเธอนั้นยังคงกอดตุ๊กตาลูกน้อยทั้งสองแนบอกไว้อย่างไม่ห่าง เหมือนว่าเธอกำลังปกป้องตุ๊กตาเด็กสองคนนั้นจากอะไรสักอย่าง

       “แม่ครับ!! แม่!!” แม็กรีบลุกขึ้นรับตัวของหญิงสาวไว้ก่อนที่เธอจะล่วงลงสู่พื้นดิน เมื่อเธอช็อกหมดสติกลางอากาศไปอย่างที่ไม่เขาแทบจะตั้งตัวไม่ทัน

       “ขอโทษนะคะ ขอทางให้เจ้าหน้าที่ด้วยค่ะ” เจ้าหน้าที่พยาบาลที่ทักทายแม็กก่อนหน้านี้พูดบอกพร้อมกับที่มีคุณหมอและบุรุษพยาบาลมานำตัวหญิงสาวขึ้นเตียงผ้าใบวิ่งเข้าไปยังด้านในของตึกที่อยู่ตรงหน้าเขาอย่างเร่งด่วน
..
..
..
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป...

       “ไม่ทราบว่าคุณมีความเกี่ยวข้องอะไรของคนไข้ครับ” หลังจากที่การรักษาผ่านไปด้วยดี แม็กก็ถูกคุณหมอเจ้าของไข้ของหญิงสาวเชิญตัวเข้ามาสอบถามและพูดคุยในห้องทำงานส่วนตัวของคุณหมอเอง

       “ลูกครับ” แม็กตอบไปตามความจริง

       “ขอโทษที่ต้องเสียมารยาทนะครับ ที่จะถามว่าคุณไปอยู่ที่ไหนมาเพราะตั้งแต่ที่คนไข้ถูกย้ายจากโรงพยาบาลเก่ามาอยู่ที่นี่ ก็ไม่มีใครมาเยี่ยมเธออีกเลย อีกทั้งการรักษาก็ทำได้ไม่เต็มที่ เพราะเธอไม่มีเจ้าของไข้ และไม่ใช่ผู้ป่วยในระบบ ดีแค่ไหนแล้วที่ทางผู้อำนวยการมีคำสั่งให้ดูแลเธอไปตามหน้าที่ของหมอที่ดีทั้งที่เธอไม่มีข้อมูลอะไรเลย จะเรียกว่าเป็นคนเถื่อนก็คงจะไม่ผิดนัก” คุณหมอตรงหน้าพูดว่าออกมาเหยียดยาว หลังจากที่เขาพยายามจะตามหาข้อมูลของคนไข้รายนี้มานานนับปี อีกทั้งทางโรงพยาบาลเก่าที่เธอเคยรักษาตัวอยู่ก็บอกว่าไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับเธอเหลืออยู่เลย และที่ทำให้คนเป็นหมออย่างเขาเกลียดมากที่สุดคงจะเป็นการที่ทางนั้นยัดเงินสนับสนุนมาให้โรงพยาบาลจำนวนหนึ่งเพื่อแลกกับการฝากตัวคนไข้รายนี้ไว้ที่นี่!!

       “คุณคิดว่ามันง่ายนักหรือไงกับการที่ผมต้องวิ่งตามหาแม่ด้วยตัวคนเดียวตั้งแต่ยังไม่จบ ม.ปลายเสียด้วยซ้ำ คุณคิดว่าการเด็กอย่างนั้นไม่มีข้อมูล ไม่มีพรรค์พวก ไม่มีเส้นสาย ไม่มีเงินทอง อีกทั้งยังโดนปิดหูปิดตาหลอกว่าแม่ของตัวเองตายไปแล้วมันง่ายนักรึไง? กว่าที่ผมจะได้ข้อมูลในแต่ละครั้ง ผมต้องยอมเป็นควายแกล้งโง่อยู่นานแค่ไหนคุณรู้บ้างไหม!!!” แม็กใช้สองมือตบโต๊ะลุกขึ้นยืนถามหมอด้วยท่าทางคุกคามจนอีกคนเริ่มหวาดกลัวด้วยความเครียดและความอัดอั้นทั้งหมดที่ต้องเก็บไว้กับตัวเองคนเดียวมาตลอดสิบกว่าปี เพราะทุกครั้งที่เขาหาข้อมูลที่อยู่ของแม่เจอ เขาจะต้องพบกับความผิดหวังทุกครั้งไปเช่นกัน เมื่อพบความจริงที่ว่าแม่ถูกย้ายที่ซ่อนอีกแล้ว

       “.....”

       “เฮ้อ...ขอโทษทีครับ ว่าแต่แม่ผมอาการเป็นยังไงบ้าง” แม็กพูดบอกพร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ดังเดิม หลังจากที่รู้ตัวแล้วว่าตัวเอง ‘สติหลุด’ จนทำให้อีกคนนั่งกลัวตัวสั่นอยู่ข้างหน้า

       “คนไข้มีอาการทรงตัวดีครับ ไม่ได้ดีขึ้นและไม่ได้แย่ไปกว่าเดิม” คุณหมอบอก

       “ทรงตัว?” แม็กถามด้วยความไม่เข้าใจ การที่คุ้มคลั่งและกรีดร้องหนักขนาดนั้น เรียกว่าอาการทรงตัวอย่างนั้นหรอ?

       “ครับ เป็นอาการปกติของคนไข้จิตเวชทั่วไปที่จิตใต้สำนึกเขายังคงจำเรื่องราวที่ทำให้เขาต้องมาเป็นอย่างนี้ได้ ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะไม่รู้ตัวเองก็ตาม” เขาอธิบายต่อ

       “แล้วอย่างนี้จะมีโอกาสหายไหม?” แม็กถามต่อ

       “มีครับ ถ้าคนไข้ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและเต็มที่...แต่หมอไม่สามารถบอกได้หรอกนะครับว่า คนไข้จะกลับมาเป็นปกติได้อย่างเดิมเมื่อไหร่ เพราะนอกจากการรักษาทางการแพทย์แล้ว ก็ขึ้นอยู่กับตัวครอบครัวของคนไข้ด้วยว่าจะช่วยเยียวยารักษาจิตใจคนไข้ได้มากน้อยแค่ไหน เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการดูแลเอาใจใส่จากคนในครอบครัวนี่แหละครับ”

       “ถ้าผมจะพาแม่กลับไปด้วยต้องทำยังไงบ้าง” แม็กถามเพราะเขาไม่อาจปล่อยให้ผู้หญิงคนเดียวที่เขารักอย่างเธอหายไปได้อีกแล้ว

       “เรื่องนั้นหมอจัดการให้ได้ครับ แต่คนไข้ต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องนะครับ”

       “หมอมีโรงพยาบาลในกรุงเทพฯหรือที่ที่ใกล้กว่านี้แนะนำผมไหม”

       “เอาอย่างนี้นะครับ ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ให้คุณพาคนไข้ไปหาหมอคิมหันต์ที่โรงพยาบาลxxxแถวxxxนะครับ เขาเป็นรุ่นพี่ของผมที่เก่งมาก แล้วเดี๋ยวผมจะโทรไปคุยกับเขาให้เอง” คุณหมอหนุ่มบอกพร้อมกับส่งนามบัตรสีขาวที่มีชื่อของหมออีกคนที่เจ้าตัวพูดถึงให้กับแม็ก

       “ขอบคุณ” แม็กรับนามบัตรมาดูครู่หนึ่งก่อนที่จะเอ่ยขอบคุณคนตรงหน้าไปด้วยความจริงใจ

       “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมขอตัวไปจัดการเรื่องของคนไข้ให้ก่อนนะครับ” เขาบอกพร้อมกับลุกขึ้นเดินออกจากห้องไปโดยที่มีแม็กเดินตามออกไปเช่นกัน

       “อีกนานไหมกว่าจะตื่น” แม็กเอ่ยถามหลังจากที่พยาบาลและหมอคนเดิมเดินออกมาพร้อมกับเตียงผู้ป่วยที่มีร่างของแม่เขานอนสงบนิ่งอยู่บนนั้น

       “อีกประมาณหกชั่วโมงครับ” หมอบอก และแม็กเองก็พยักหน้ารับรู้

       “หลังจากที่เขาฟื้นแล้วคุณควรจะเอาตุ๊กตานี่ให้เธอเล่นนะครับ เธอจะได้ไม่อาละวาดใส่คุณ” คุณหมอทิ้งท้ายด้วยการส่งตุ๊กตาเด็กแฝดให้กับแม็ก ก่อนที่จะแยกย้ายกันไป

       “พาแม่ฉันไปหานมน้อมที่คอนโด แล้วก็อยู่ดูแลทางนั้นเลยนะเตโช เดี๋ยวที่เหลือฉันกับฟาโรห์จะจัดการเอง” แม็กพูดสั่งเตโชที่เตรียมพร้อมอยู่บนรถอีกคันหนึ่งเพื่อที่จะแยกทางกันไปเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเดินกลับมาขึ้นรถของตนที่มีฟาโรห์รออยู่แล้ว

       “ไปได้แล้วฟาโรห์” เขาพูดบอกเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะหลับตาลงด้วยความอ่อนใจ
..
..
..
       “ว่ายังไงนะ!!! พวกแกทำงานพลาดอย่างนั้นหรอ!!!” กิติกรตะหวาดใส่ปลายสายเสียงก้าว หลังจากที่ลูกน้องที่เขาสั่งให้ไปจัดการลักพาตัวมินมาเพื่อเป็นเครื่องมือต่อรองกับแม็กอย่างมีความหวังกลับโทรมารายงานผลว่า ‘พลาด’ หลังจากที่หายเงียบไปถึงสองวันเต็มๆ

       (“ผมว่าตอนนี้เจ้านายควรที่จะหาทางหลบหนีก่อนเถอะครับ เพราะป่านนี้นักฆ่าผู้หญิงสองคนนั่นที่นายจ้างมามันคงจะบอกแหล่งกบดานของเราไปหมดแล้ว…โชคดีนะครับนาย”) ปลายสายบอกด้วยน้ำเสียงรนรานเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะตัดสายไปเหมือนกับเจ้าตัวกำลังหวาดกลัวอะไรสักอย่างแบบนั้น

       “เวรเอ้ย!!!” กิติกรพ่นคำหยาบคายออกมาอีกหลายคำก่อนที่จะรีบเก็บสัมภาระของตัวเองใส่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ เมื่อตั้งสติได้ เพราะหนทางเดียวที่เขามีอยู่ตอนนี้คือ การหนีเท่านั้น!!

       แต่เหมือนกับว่าทุกอย่างมันจะสายเกินไปแล้ว…

      เมื่อ…


       “หึ! ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ…พ่อ”
..
..
..
       “วันนี้ชิตะขอนอนกับมินนี่จังได้ไหมฮะลุงภีม” เด็กชายตัวน้อยพูดอ้อนในขณะที่แขนทั้งสองข้างก็ยังคงกอดมินนี่จังสุดซี้ไว้แน่น เพราะว่าอยากจะนอนกับมินนี่จังของตัวเอง เจ้าตัวน้อยเองก็ไม่รู้ตัวหรอกว่าวันนี้ตัวเองดื้อดึงแค่ไหนในสายตาของผู้ใหญ่ เพราะเจ้าตัวรู้เพียงแต่ว่าวันนี้เขาอยากที่จะอยู่ใกล้ๆมินนี่จังกับน้องน้อยๆในท้องไว้แค่นั้น เพราะตั้งแต่ที่แม็กกี้ ฟาโรห์ และเตโชออกไปในตอนเช้า จนถึงเวลาเย็นย่ำอย่างนี้แล้วยังไม่มีใครกลับเข้ามาเลยสักคน

       “ก็ได้ครับ แต่ชิตะห้ามดื้อนะครับ” ในที่สุดก็เป็นภีมที่ต้องเป็นฝ่ายยอมแพ้เมื่อเจอลูกอ้อนของหลานชาย ก่อนที่จะขอตัวกลับไปในที่สุด
..
..
..
       “แก…แกไม่ใช่ลูกฉันไอ้แม็ก…ไอ้เด็กทรพี! แกทำกับฉันอย่างนี้ได้ยังไง!!!” กิติกรตะหวาดเสียงกร้าวออกมาอย่างตื่นตระหนกเมื่อเปิดห้องพักออกมาแล้วเจอกับแม็กที่ยืนล้วงกระเป๋ารอด้วยท่าทางกวนๆตามฉบับเจ้าตัวอยู่ก่อนแล้ว

       “ก็เพราะว่าไม่ใช่ลูกยังไงล่ะ ถึงได้อยากเหยียบแกให้จมดินด้วยส้นตีนของตัวเองอย่างนี้…ช่วงหลังมานี้แกชอบถามฉันว่าทำไม ฉันถึงได้ทำกับแกแบบนี้ แล้วทำไมแกไม่ลองนึกย้อนดูเอาล่ะกิติกร ว่าที่ผ่านมาแกทำอะไรไว้กับครอบครัวของฉันบ้าง…หืม?” แม็กเลิกคิ้วถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ท่าทีสบายๆ ต่างจากกิติกรที่รู้สึกร้อนรุ่มไปทั่วทั้งหัวใจ เมื่อความละโมบ ความแค้น และความเกลียดชังของตัวเองพากันสุมเพลิงไฟแห่งความเห็นแก่ตัวมากขึ้นทุกที

       “แล้วไม่ใช่เพราะอีแม่ชั่วๆกับไอ้ตัวพ่อสารเลวของแกรึไงที่มันทำให้ฉันต้องกลายเป็นคนอย่างนี้!! ไมใช่เพราะความบัดซบของพวกมันรึไงที่ทำให้แกกับไอ้มินเกิดมาประจานความเลวทรามของพวกมันให้ฉันเจ็บใจเล่นอย่างนี้!!!” กิติกรเองก็โต้กลับอย่างเจ็บแสบเหมือนกัน เพราะทุกอย่างที่เจ้าตัวพูดออกมานั้นแม็กเองก็รู้อยู่แก่ใจว่ามันคือเรื่องจริงทั้งหมด แต่เหตุผลแค่นี้มันไม่สามารถลบล้างความผิดที่กิติกรทำไว้กับครอบครัวของเขาหรอก โดยเฉพาะกับมินที่โดนทรมานและทำร้ายร่างกายด้วยสารพัดวิธีมาตั้งแต่จำความได้

       “แล้วมันถูกต้องแล้วรึไงที่แกต้องมาทำร้ายพวกฉันตั้งแต่เกิดอย่างนั้น!!! มันสมควรแล้วใช่ไหมที่แกต้องสั่งคนไปฆ่าพ่อฉัน!! สมควรแล้วใช่มั้ยที่แกต้องมาทรมานแม่ฉันจนเป็นบ้าแล้วมาหลอกพวกฉันว่าแม่ตายไปแล้ว อย่างนี้มันสมควรแล้วใช่มั้ย!!!” ในที่สุดแม็กก็ระเบิดโทสะหลุดแสดงอารมณ์แห่งความโกรธแค้นออกมาอย่างก้าวร้าวเมื่อได้หวนไปถึงชีวิตที่ผ่านมาของตัวเองและคนรัก ที่ฉากหน้าช่างดูสวยงามและแสนเพอร์เฟคจนใครๆก็ต่างอิจฉา ทั้งที่เบื้องหลังแห่งความเป็นจริงแล้วไม่ต่างจากการได้อยู่ในขุมนรกดีๆนี่เอง

       กี่ครั้งที่เขาต้องตื่นมาเจอมินนอนตัวสั่นเพราะโดนตีโดนซ้อมจนไข้ขึ้น?

        กี่ครั้งที่เขาต้องมานั่งทำแผลให้คนรักที่นอนไร้สติอยู่สนามหญ้าหน้าบ้าน?

       กี่ครั้งที่เขาต้องวิ่งหาทางทำให้คนรักหลุดออกจากกรงหมา!!!

       กี่ครั้งที่เขาต้องเห็นมินถูกล่ามโซ่ขึงไว้กับรั้วบ้านในยามที่ไม่ได้กลับบ้านพร้อมกัน!!!

       แล้วกี่ครั้ง กี่ปี กี่หน ที่เขาต้องทนเห็นคนที่เขารักที่สุดต้องทรมานอยู่อย่างนั้น!!!

       “แกรู้อะไรไหมกิติกร? ว่าความจริงแล้วฉันไม่ได้สนใจและอยากได้บริษัทที่แกรักนักรักหนานั่นมาครอบครองเลย ถ้าหากว่าฉันไม่บังเอิญได้ไปได้ยินแกคุยกับเลขาสารเลวของแกเรื่องพ่อและแม่ของฉัน ฉันจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวและแย่งชิงสมบัติของแกอย่างนี้เลยถ้าหากว่าแกไม่คิดที่จะส่งคนไปฆ่าฉันกับมินในวันที่ฉันกลับมาบ้านหลังจากที่เรียนจบ…พ่อกับแม่ฉันเป็นฝ่ายทรยศก็จริง แต่คนที่ทำให้ทุกอย่างมันเป็นอย่างนี้ก็เพราะแกไงกิติกร! เพราะแกไม่ยอมหยุดและปล่อยให้ทุกอย่างมันผ่านไปพร้อมกับลมหายใจของพ่อฉัน” ตาเฉี่ยวคมที่เป็นเอกลักษณ์ของแม็กตะหวัดมองกิติกรอย่างเอาเรื่อง บรรยากาศรอบตัวโอบล้อมไปด้วยเปลวเพลิงแห่งความโกรธแค้นกับความทรงจำอันปวดร้าวที่เจ้าตัวต้องทนเจ็บเก็บทุกสิ่งทุกอย่างไว้กับตัวเองเองมานานนับสิบๆปีอย่างที่ไม่อาจให้อภัยคนตรงหน้านี้ได้อีกแล้ว เพราะทุกอย่างที่กิติกรได้ลงมือทำ มันมากเกินกว่าที่จะอภัยให้แล้ว ถึงแม้ว่าพ่อกับแม่ผู้ให้กำเนิดของเขาจะเป็นฝ่ายเริ่มเรื่องขึ้นมาก็ตาม แต่คนผิดก็ย่อมต้องได้รับผลกรรมของตัวเอง ดังเช่นที่พ่อของเขาต้องจบชีวิตลงไป ในขณะที่แม่ของเขาเองก็ต้องกลายมาเป็นคนวิกลจริตด้วยฝีมือของคนที่ท่านทั้งสองได้ร่วมมือกันทำร้ายจิตใจของกิติกรอย่างไร้ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี และเขากับมินล่ะผิดอะไร? ผิดเพราะเป็นลูกของคนที่ทำร้ายหัวใจของกิติกรอย่างนั้นหรือ? มันใช่หรอ? ที่ถึงกับว่าจะต้องฆ่าแกงกันได้ลงคออย่างนี้ แต่พูดไปก็เท่านั้น เพราะตอนนี้ตัวเขาเองก็เลวไม่ต่างจากคนพวกนี้สักเท่าไหร่ ที่มีความต้องการที่จะจัดการกับกิติกรก่อนที่กิติกรจะลงมือทำลายเขาและมิน

       แต่ก็ช่วยไม่ได้…ในเมื่อเลวมาก็ต้องเลวกลับ…ถึงจะดูสูสีกันหน่อย!!!






……………………………………………………………….TBC.


ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: {Mpreg/Incest} แฝด Up.ตอนที่ 21 (19/01/60)
«ตอบ #197 เมื่อ19-01-2017 00:14:02 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
Re: {Mpreg/Incest} แฝด Up.ตอนที่ 21 (19/01/60)
«ตอบ #198 เมื่อ19-01-2017 01:39:56 »

สงสารทุกคนเลย  รออ่านต่อคับ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: {Mpreg/Incest} แฝด Up.ตอนที่ 21 (19/01/60)
«ตอบ #199 เมื่อ19-01-2017 06:46:57 »

 :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: {Mpreg/Incest} แฝด Up.ตอนที่ 21 (19/01/60)
« ตอบ #199 เมื่อ: 19-01-2017 06:46:57 »





ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: {Mpreg/Incest} แฝด Up.ตอนที่ 21 (19/01/60)
«ตอบ #200 เมื่อ19-01-2017 08:26:04 »

ว่ากันตามจริง คนที่ไม่ยอมปล่อยวางคือกิติกร
คนก่อเรื่องก็ตายไปแล้วโดยฝีมือตัวเอง อีกคนก็วิกลจริต
ทรัพย์สมบัติ ตัวเองก็ครอบครองบริหาร
ถ้าอยู่นิ่งๆ ปล่อยวาง ก็มีความสุขไปและ
แต่กิติกร ยังทรมานมินแฝดพี่ต่อ
โดยที่เด็กไม่รู้เรื่องอะไรเลย เป็นแค่เด็กไร้เดียงสา
กิติกรสุมไฟแค้น  เผาไหม้ตัวเองต่อไป
แต่มีแม็กเป็นคนโยนเชื้อฟืนใส่ต่อให้ลุกเป็นขี้เถ้า
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
Re: {Mpreg/Incest} แฝด Up.ตอนที่ 22 (20/01/60)
«ตอบ #201 เมื่อ19-01-2017 19:00:52 »


เขียน’สือ_MTP


แฝด ตอนที่ 22




       ปึง!!!

       “คุณพ่อ!!” มินตกใจเบิกตากว้างร้องเสียงหลงเมื่อได้เห็นแขกผู้มาเยือนในยามวิกาลอย่างนี้ว่าเป็นใคร หลังจากที่ได้ยินเสียงประตูเปิดเข้ามาจากข้างนอกจนทำให้เกิดเสียงดังสนั่น ในขณะที่ในห้องเหลือเพียงแค่ตัวเขาคนเดียวเท่านั้น เพราะเขาเพิ่งจะขอร้องกึ่งบังคับให้เตชินกับชิตะไปซื้อของกินให้ที่ร้านสะดวกซื้อที่ตั้งอยู่ตึกข้างๆ เพราะอยู่ดีๆเขาก็เกิดหิวขึ้นมายามดึกจนไม่สามารถที่จะข่มตานอนหลับลงไปได้

       “หึ! แกยังจำฉันได้อยู่อีกหรอไอ้มิน ไอ้ลูกทรพี ไอ้แม็กผัวแกทำฉันไว้เจ็บแสบนัก!!” กิติกรคำรามเสียงเหี้ยม พลางก้าวเดินเข้ามาประชิดตัวมินที่นั่งอยู่บนเตียงคนไข้

       “คุณพ่อรู้” มินครางเสียงแผ่ว เพราะไม่คิดว่ากิติกรผู้เป็นพ่อจะล่วงรู้ความรักที่ผิดบาปของตนกับแม็ก จนลืมไปหมดแล้วว่าก่อนหน้าที่แม็กจะออกไปเมื่อเช้านี้แม็กได้พูดเตือนกับตนเองไว้ว่าอย่างไรบ้างในเรื่องของกิติกร

       “แกสองคนพี่น้องนี่มันน่าสมเพชจริงๆไอ้มิน นอกจากพวกแกสองคนจะเกิดมาจากการเล่นชู้ของพ่อแม่พวกแกแล้ว ยังเสือกมาได้กันเองอีก ไหนจะยังไอ้มารหัวขนที่มันกำลังจะเกิดออกมาประจานความสำส่อนของพวกแกนี่อีกล่ะ…น่ารังเกียจชะมัด!! ฉันล่ะขยะแขยงพวกแกจริงๆ” กิติกรยังคงพ่นคำพูดร้ายกาจหยาบคายใส่มินไม่หยุดหย่อน อีกทั้งยังใช้ปากกระบอกปืนที่ตัวเองถือติดมือมาตั้งแต่แรกจิ้มกระแทกลงไปบนหน้าท้องกลมนูนของมินซ้ำๆ อย่างแรง

       “โอ้ย! อย่า…อย่าทำอย่างนี้เลยฮะคุณพ่อ มินขอร้อง” มินร้องขอด้วยน้ำตา เมื่อรู้สึกปวดท้องขึ้นมาหลังจากที่โดนกิติกรทำร้าย พร้อมๆทั้งดิ้นทั้งถีบท้องเขาจากข้างในซ้ำๆ ไม่หยุด เหมือนกับว่าเจ้าตัวน้อยกำลังรับรู้ว่าตัวเองและแม่กำลังตกอยู่ในอันตรายอย่างไงอย่างงั้น

       “ขอร้องหรอ? หึ! มันจะไม่ง่ายไปหน่อยหรอไอ้มิน ในเมื่อผัวแกมันยังกัดฉันไม่ปล่อยเลย แกคิดว่าฉันยังควรที่จะใจดีกับแกอีกหรอห้ะ!!!” กิติกรยังคงตะโกนใส่มินเสียงดังลั่น อีกทั้งยังเริ่มลงมือทำร้ายร่างกายของมินด้วยการทุบตีอย่างไม่หยุดหย่อน มินที่มีร่างกายอ่อนแออยู่แล้ว บวกกับหน้าท้องนูนป่องของอายุครรภ์ใกล้คลอดของเจ้าตัว จึงไม่สามารถทำอะไรได้ นอกเสียจากใช้สองมือโอบกอดหน้าท้องป่องนูนที่ลูกน้อยกำลังนอนถีบประท้วงอยู่ไว้แน่นเท่าที่จะทำได้เพื่อความปลอดภัยของลูก

       “หยุด!! โอ้ย!! เจ็บ…มินเจ็บ!! หยุดสักที หยุดทำร้ายมินสักที!!!…โอ้ยยยย” มินนอนตัวงอร้องไห้ออกมาด้วยความทรมาน เมื่อความเจ็บปวดเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิมอีกร้อยเท่าด้วยความหวาดกลัว จนความทรงจำอันเลวร้ายในวัยเด็กเริ่มผุดขึ้นมาในหัวอย่างไม่ทันรู้ตัว ว่าหลายครั้งหลายคลาที่เขาต้องเผชิญกับความเจ็บปวดอย่างนี้ลำพังแต่เพียงผู้เดียว

       “ดี!! ร้องเข้าไป!! ร้องให้ขาดใจตายไปทั้งแกแล้วก็ไอ้มารหัวขนลูกของแกเลย!!! ไอ้แม็กผัวแกมันจะได้สติแตกกลายเป็นบ้าเหมือนแม่แกไง!!! หึๆ” กิติกรยังคงลงมือทำร้ายมินอย่างรุนแรงแบบต่อเนื่อง เหมือนคนไร้สติ เส้นเลือดปูดโปน สองตาแดงก่ำอย่างหน้ากลัว

       “ช่วยด้วย...ช่วยด้วย!!! แม็กจ๋าช่วยมินด้วย…ช่วยด้วย…แม…แม็ก”
..
..
..
ย้อนไปเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว…


       “คุณแม็กระวัง!!!” ฟาโรห์ร้องเตือนเจ้านายเสียงหลง เมื่อหางตาเหลือบไปเห็นเลขาของกิติกรที่พวกเขาปล่อยตัวออกมาเพื่อให้มาเป็นนกต่อที่จะนำทางมาหาแหล่งกลบดานของกิติกรให้พบ วิ่งพุ่งเข้ามาหาแม็กพร้อมกับมีดทำครัวปลายแหลมเล่มใหญ่

       “อึก! โอ้ย…ไอ้เหี้ย!! / ฉึก!” แต่มันก็ไม่ทันเมื่อเลขาผู้ซื่อสัตย์ของกิติกร กดมีเล่มนั้นแทงเข้าไปบริเวณหน้าท้องแกร่งของแม็กจนมิดด้าม แต่ก็ต้องตกใจเบิกตากว้าง เมื่อแม็กดึงมีดเล่มนั้นออกจากท้องของตัวเองและใช้มันแทงเข้าไปที่บริเวณลำคอเพื่อปิดชีวิตของเจ้าของมันทันทีเช่นเดียวกันด้วยความหงุดหงิดที่ต้องมาเจ็บตัวอย่างนี้ กิติกรจึงใช้โอกาสในช่วงชุลมุนนี้วิ่งหนีแม็กอย่างไม่รอช้า

       “คุณแม็กโอเคไหมครับ” ฟาโรห์ถามด้วยความเป็นห่วงอย่างรู้สึกผิดที่ไม่สามารถปกป้องแม็กไว้ได้ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านั้น ในเมื่อเห็นว่าแม็กยังสามารถทรงตัวยืนเองได้…คนๆ นี้แกร่งไม่ใช่น้อย

       “ฉันยังไหว แค่นี้เองสบายมาก ฉันว่าเรากลับไปตั้งหลักที่โรงพยาบาลกันก่อนเถอะ” พูดบอกออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่งๆตามฉบับเจ้าตัว ก่อนที่จะก้าวเดินนำฟาโรห์ออกไปด้วยท่าทางปกติไม่ต่างไปจากเดิม ทั้งที่เลือดจากบาดแผลขนาดใหญ่ที่ท้องยังคงซึมใหญ่ออกมาอย่างต่อเนื่อง จนหยดเลอะเต็มพื้นไปตลอดทางเดิน
..
..
..
ย้อนกลับมาที่โรงพยาบาล…


      ปึง!!

       “หยุด!! มึงกำลังทำเหี้ยอะไรอยู่!!!” แม็กแผดเสียงร้องดังลั่นกับภาพของคนรักที่นอนคุดคู้อยู่กับพื้นห้องพักตรงหน้า โดยมีกิติกรยืนค่อมทับอยู่ พร้อมกับข้าวของที่กระจัดกระจายไปทั่วที่เป็นตัวบ่งบอกได้ดีที่สุดว่ามันเกิดประไรขึ้นบ้างก่อนที่เขาจะมา

       “มาแล้วหรอ? แต่ไม่ทันว่ะ ฮ่าๆ” กิติกรแสยะยิ้มถามอย่างเยาะเย้ย เมื่อเห็นสีหน้าช็อคค้างกับบาดแผลขนาดใหญ่ที่หน้าท้องของแม็ก

       “แต่กูว่าทันว่ะ…ฟาโรห์พามินไปหาหมอ เตชินเคลียร์คนออกไปให้หมด ทางนี้ฉันจัดการเอง” ถึงแม้ว่าจะเจ็บปวดกับการที่ต้องเห็นสภาพที่ย่ำแย่ของคนรักที่นอนกองอยู่ที่พื้นสักแค่ไหน แต่แม็กก็ต้องฝืนใจกัดฟันทนเก็บความรู้สึกนั้นไว้ก่อน เพื่อที่จะจัดการกับคนตรงหน้า จึงสั่งให้ฟาโรห์และชิตะพาตัวมินออกไปหาหมออย่างมีสติ และให้เตชินจัดการกับพวกเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลที่พากันเข้ามามุงดูอย่างไม่เกรงกลัวว่าจะเป็นอันตรายไปด้วย เมื่อเห็นว่าแต่ชินกับชิตะแหวกกลุ่มคนเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

       “แกนี่มันทะนงตัวจนหน้าหมั่นไส้ไปไม่ต่างจากพ่อของแกเลยว่ะ แต่มันก็เท่านั้น เพราะพ่อของแกก็ช่วยแม่ของแกไม่ได้เหมือนกับที่แกมาช่วยไอ้มินไม่ทันยังไงล่ะ ฮะฮ่าๆ” กิติกรที่ตอนนี้สติหลุดไม่ต่างไปจากคนวิกลจริตพูดเย้ยหยันแม็กพร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง จนแม็ก ถึงกลับต้องขบกรามข่มอารมณ์ไว้แน่น

       “แต่มึงคงจะลืมไปสินะกิติกร ว่ากูมีลูกบ้าเยอะขนาดไหน…และกูก็จะไม่ยอมเป็นฝ่ายศูนย์เสียและเจ็บปวดฝ่ายเดียวอย่างแน่นอน” แม็กพูดพร้อมกับควักปืนที่เหน็บอยู่ที่เอวออกมา

       “ในเมื่อก่อนกูกับมินต้องทนอยู่ในนรกที่มึงยัดเยียดให้อยู่อย่างไม่เต็มใจ แต่วันนี้กูจะเป็นคนหักปีกและจองจำสัตว์นรกอย่างมึงเองกิติกร”

       ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!

       กระสุนสี่นัดที่แม็กจงใจเหนียวไกลออกไป พุ่งตรงเข้าที่แขนและขาทั้งสองข้างของกิติกรอย่างแม่นยำเหมือนจับวาง พร้อมกับล่างที่ยังคงมีลมหายใจของกิติกรทรุดลงไปนอนกองอยู่บนพื้นไม่ต่างไปจากที่มินเป็นเมื่อสักครู่นี้เลย ก่อนที่ทั้งหมอและพยาบาลจะพากันวิ่งกรูเข้ามาดูอาการของกิติกร ส่วนแม็กเองก็หันหลังเดินออกจากห้องทันทีเพื่อที่จะไปดูอาการของมิน จนลืมไปแล้วว่าตัวเขาเองก็มีบาดแผลฉกรรจ์พาดอยู่บนหน้าท้องเช่นกัน

       “คุณแม็ก!!” เตชินรุดเข้าประคองแม็กทันทีที่เห็นว่าแม็กลากขาเดินเข้ามาหาพวกตนที่อยู่บริเวณหน้าห้องไอซียูอย่างยากลำบาก ด้วยความรู้สึกผิดมากถึงมากที่สุด เพราะตั้งแต่ทำงานมาครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผู้ว่าจ้างของเขาทั้งสองคนต้องอยู่ในอันตรายจนแทบจะเอาชีวิตไม่รอดอย่างนี้ ซึ่งถือว่าเป็นการผิดพลาดที่ร้ายแรงที่สุดในชีวิตก็ว่าได้ และถ้าแม็กยกเลิกสัญญาจ้างของเขาเมื่อไหร่ละก็ เขาจะต้องโดนหัวหน้าพรรค์อย่างเจโล่ลงโทษอย่างที่ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าจะหนักหน่วงขนาดไหน

       “มินเป็นยังไงบ้าง” แม็กถามเสียงแห้ง สีหน้าซีดเผือดจนแทบจะไม่มีสี เพราะเสียเลือดมาก ซึ่งก่อนหน้าที่เขาจะเดินมาถึงตรงนี้ ก็มีทั้งหมอและพยาบาลที่พากันมาเกลี้ยกล่อมพยายามที่จะให้เขารักษาบาดแผลที่ท้องให้ได้ แต่เขาก็ปฏิเสธความหวังดีพวกนั้นทิ้งไปอย่างไม่ใยดีเช่นกัน เพราะเขาไม่อาจที่จะสละเวลาแห่งความกลัวของตัวเองในตอนนี้ไปทำอะไรได้ทั้งสิ้น ถ้าหากว่าเขายังไม่ได้ยินกับหูไม่ได้เห็นกับสองตาของตัวเองว่ามินและลูกน้อยของเขาปลอดภัยดีแล้ว ถึงแม้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตและลมหายใจของเขาเองก็ตาม

       แอ๊ดดด…

       “คุณมินและคุณหนูน้อยเป็นยังไงบ้างครับ” เตชินเอ่ยถามขึ้นทันทีเมื่อเห็นพยาบาลเดินออกจากห้องไอซียูมาพร้อมกับห่อผ้าสีขาวสะอาดตา เพราะแม็กเหนื่อยเกินกว่าที่จะเอื้อนเอ่ยวาจาใดออกมาได้อีกแล้ว ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะยังฝืนตัวเองนั่งกุมท้องเอนตัวพิงฟาโรห์อยู่บนเก้าอี้ที่ทางโรงพยาบาลจัดไว้ให้สำหรับญาติของคนไข้นั่งรอ

       “คุณรามิณทร์ปลอดภัยแล้วค่ะ ส่วนนี่คือลูกชายของคุณค่ะ” พยาบาลสาวที่คุ้นเคยเป็นอย่างดีกับมินและแม็ก พูดบอกด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่จะก้าวเดินเข้ามายื่นทารกน้อยในห่อผ้าที่เธออุ้มไว้ให้กับแม็กได้ดู

       “มิก…มิกเซอร์”

       “คุณแม็ก!!!” สิ้นเสียงเรียกชื่อของลูกชายตัวน้อยที่ได้เห็นหน้าแค่เพียงไม่กี่วินาที แม็กก็หมดสติลงไปทันที หลังจากที่ฝืนร่างกายสู้ทนอยู่นาน ทำให้หมอและพยาบาลที่อยู่แถวนั้นพากันวิ่งวุ่นไปหมด เพราะร่างกายของแม็กมันซีดเซียวไปหมดแล้ว อีกทั้งสัญญาณชีพจรก็แผ่วลงไปเรื่อยๆ จนแทบจะหาไม่เจอ
..
..
..
สองเดือนต่อมา…

       หลังจากที่เรื่องวุ่นวายทั้งหมดจบลงด้วยการที่แม็ก มิน และมิกเซอร์ลูกชายสุดหล่อตัวน้อยของพวกเขาแข็งแรงและปลอดภัยดี ส่วนแม่ของเขาก็ยังคงวิกลจริตอยู่เหมือนเดิม แต่ที่ดีกว่าเดิมคืออาการของเธอคงที่ และให้ความร่วมมือในการรักษาและฟื้นฟูสภาพจิตใจกับหมอคนใหม่เป็นอย่างดีโดยมีนมน้อมและมอสน้องชายคนสุดท้องของพวกเขาช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนกิติกรก็ได้รับผลกรรมที่แม็กเป็นคนยื่นให้กับมืออย่างยัดเยียดด้วยความไม่เต็มใจ จนกลายเป็นคนทุพพลภาพ พิการเดินไม่ได้ไปแล้ว เมื่อกระสุนทั้งสองนัดที่ถูกแม็กยิงที่ขามันเข้าไปทำลายตรงจุดเส้นประสาทเสียหายจนมาสามารถรักษาได้อีก และเป็นที่แน่นอนว่าการกระทำอันอุกอาจของแม็กในครั้งนี้นั้นมันไม่สามารถรอดพ้นเงื้อมือของกฎหมายและนักข่าวไปได้ เขาจึงตั้งโต๊ะแถลงข่าวเปิดตัวแม็กและเจ้าหนูน้อยมิกเซอร์ในฐานะภรรยาและลูกชายทันที ถึงแม้ว่าจะมีคำถามมากมายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขาและมินที่ทุกคนต่างรู้ดีอยู่แล้วว่าเป็นพี่น้องฝาแฝดกันแท้ๆ แต่เชื่อเถอะว่าคนหน้ามึนอย่างแม็กสามารถจัดการรับมือกับปัญหาเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี ก่อนจะจบลงด้วยการขึ้นศาลเคลียร์คดีทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ผ่านพ้นไปได้แบบผ่านฉลุย

       “แล้วกลับมาหากันบ้างนะชิตะน้อยของมิน” มินส่งตัวลูกชายไปให้สามีที่ยืนอยู่ข้างๆกันอย่างแม็กอุ้มแทน ก่อนที่จะย่อตัวนั่งลงตรงหน้าของเด็กชายตัวน้อยตรงหน้าที่เข้ามาสร้างสีสันให้กับชีวิตของพวกเขาอยู่หลายเดือนอย่างอาลัยอาวรณ์

       “อื้อ! ฟาโรห์บอกว่าปิดเทอมจะพาชิชิมาหาน้องน้อย…ชิตะรักมินนี่จัง” เด็กชายตัวน้อยบอกพร้อมกับโผเข้ากอดพี่ชายคนสวยตรงหน้าอย่างอ้อนๆ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการจุ๊บแก้มส่งท้ายเบาๆ อย่างที่ชอบทำ ก่อนที่จะผละเดินเข้าไปหาคู่กัดคู่ปรับตลอดกาลของตัวเองระหว่างที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ช้าๆ

       “ว่าไง?” แม็กเลิกคิ้วถามอย่างกวนๆ

       “ชิตะก็รักแม็กกี้เหมือนกันฮะ” พูดพร้อมกับโผกอดต้นขาของอีกคนเบาๆเช่นกัน

       “อือ…กลับไปก็ตั้งใจเรียน อย่าดื้ออย่าซนล่ะ แล้วจะพามินกับน้องไปหาบ่อยๆ” แม้ว่าจะซึนและปากแข็งเพียงใด แต่แม็กก็อดไม่ได้ที่จะใจหายเมื่อถึงเวลาที่จะต้องจากกันจริงๆ

       “สัญญานะฮะ” พูดบอกพร้อมกับชูนิ้วก้อยยื่นไปตรงหน้าแม็ก

       “ด้วยเกียรติของพ่อน้องน้อยเลยเอ้า” แม็กกระตุกยิ้มพูดบอก ก่อนที่จะยื่นนิ้วก้อยของตัวไปเกี่ยวก้อยสัญญากับเด็กน้อยตรงหน้าอย่างขำๆ

       “ไปก่อนนะครับ” ฟาโรห์ค้อมหัวลงเล็กน้อยเป็นการบอกลา เมื่อได้ยินเสียงเรียกขึ้นเครื่องจากพนักงานของสายการบิน พร้อมกับที่เห็นว่าสองพี่น้องเตอย่างเตโชและเตชินที่ถูกเจโล่เรียกกลับไปทำการลงโทษเพราะบกพร่องในหน้าที่ตลอดสองเดือนพากันกอดคอเดินเข้ามาด้วยท่าทางที่ไม่ดีนัก…สงสัยจะโดนจัดหนักทั้งการลงโทษและการฝึกฝนอย่างแน่นอน

       “อืม…ขอบคุณสำหรับทุกเรื่องที่ผ่านมา เพราะถ้าไม่มีพวกนายสามคนรวมถึงไอ้เปี๊ยกนี่ เรื่องมันคงจะไม่จบลงได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วขนาดนี้” แม็กพูดบอกออกมาจากใจจริง เพราะว่าข้อมูลของกิติกรที่ฟาโรห์รวบรวมมาได้มันเป็นประโยชน์มากเลยสำหรับเขา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคดีเก่า หรือเรื่องคดีใหม่ที่กิติกรจ้างวานนักฆ่าจากจีนมาจัดการเขาและมินอีกด้วย ในส่วนนี้จึงสามารถทำให้เขารอดพ้นจากคดีความมาได้อย่างง่ายดาย

       “มันคือหน้าที่ที่ผมเต็มใจทำครับ” ฟาโรห์บอกพร้อมกับโค้งตัวบอกลาเป็นการทิ้งท้ายอีกครั้ง ก่อนที่จะจูงมือเด็กจุ้นของไปหันหลังจากไป

       “แล้วเจอกันใหม่นะฮะ…บ๊ายบาย!!!” เด็กชายตัวน้อยหันกลับมาฉีกยิ้มหวาน ตะโกนบอกลาเป็นการส่งท้ายอีกครั้ง ก่อนที่จะวิ่งหายเข้าไปทางด้านในจริงๆ

       “พวกนายกลับไปพักผ่อนที่บ้านกันก่อนเถอะ ฉันกับมินจะพาลูกไปโรงพยาบาลต่อ” แม็กหันไปพูดสั่งกับพี่น้องเตที่ท่าทางจะยืนกันไม่ไหวแล้ว ก่อนที่จะขับรถพามินตรงไปโรงพยาบาลทันที เพราะว่าวันนี้เป็นวันครบรอบสองเดือนของลูกชายตัวน้อยของพวกเขาพอดี พวกเขาจึงต้องพามิกเซอร์ไปฉีดวัคซีนตามที่หมอนัด

       “ผลตรวจออกมาแล้วนะครับ น้องเป็นโรคฮีโมฟีเลียครับ ในระยะนี้หมอจึงอยากให้คุณพ่อคุณแม่ช่วยสังเกตอาการน้องอย่างใกล้ชิดด้วยนะครับ เพราะน้องยังไม่สามารถพูดบอกกับเราได้ว่าเขาเจ็บปวดหรือไม่สบายตรงไหนบ้าง และให้รีบพาน้องมาหาหมอทันทีเมื่อพบรอยฟกช้ำ หรือข้อบวมโดยไม่ทราบสาเหตุ” หลังจากฉีดวัคซีนให้กับเด็กชายตัวน้อยแล้ว คุณหมอประจำตัวที่รับช่วงต่อมาจากหมอเป็นหมอประจำตัวคนที่ทำคลอดให้มินอีกที ก็แจ้งผลตรวจร่างกายครั้งที่แล้วของเด็กน้อยทันที เมื่อพบความผิดของการฉีดวัคซีนในเดือนที่แล้ว

       “…..”

       “แต่คุณพ่อกับคุณแม่ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะครับ เพราะน้องยังคงสามารถใช้ชีวิตได้ปกติเหมือนกับเด็กทั่วไป เพียงแค่ต้องระวังไม่ให้เกิดอุบัติเหตุกับน้องเท่านั้นเองครับ เพราะไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดใหญ่ หรือเพียงแค่การวิ่งหกล้มและเกิดแผลเพียงเล็กน้อย ก็สามารถทำให้น้องเกิดอันตรายไปถึงชีวิตได้เลยนะครับ” คุณหมอยังคงอธิบายต่อไป เมื่อเห็นว่าทั้งแม็กและมินต่างก็ตั้งใจฟังเขาเป็นอย่างดี

       “…..”

       “อย่างที่บอกไปครับว่าไม่ต้องเป็นกังวลมากไปเพราะน้องยังสามารถเติบโตและแข็งแรงได้ไม่ต่างจากเด็กทั่วไป สามารถออกกำลังกายได้ด้วยการว่ายน้ำ หรือกีฬาอะไรก็ได้ที่ไม่เสี่ยงเจ็บตัวหรือว่าต้องไปกระทบกระแทกกับใคร และเมื่อน้องเริ่มคลานหรือหัดเดินขอให้คุณพ่อคุณแม่ช่วยหาเสื้อผ้าที่บุผ้ากันกระแทกที่ข้อศอกกับเข่าไว้ด้วยนะครับ เช่นเดียวกับของเล่นที่ควรเป็นของที่ไม่มีคม และไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ ตู้ เตียงหรือเฟอร์นิเจอร์อะไรก็ตามในบ้านคุณพ่อคุณแม่ควรที่จะลบเหลี่ยมออกและบุด้วยนวมหรือผ้านุ่มกันกระแทกไว้ทั้งหมดนะครับ”

..
..
..
ห้าปีผ่านไป…


       เสียงเปียโนดังคลอเสียงร้องประสานในท่วงทำนองเพลงคุ้นหูของเด็กน้อยวัยอนุบาลทำให้ผู้ปกครองหลายคนที่นั่งดูถ่ายทอดสดผ่านทางโทรทัศน์จอใหญ่ยักษ์ในห้องรับรองที่อยู่ติดกันก็อดไม่ได้ที่จะปรบมือ ยกศีรษะไปตามลูกหลานของตัวเองไปอย่างอารมณ์ดีรวมถึงแม็กและมิน ที่ควงคู่พากันมารับลูกชายสุดที่รักในวันนี้ด้วย ที่สายตาของทั้งคู่ยังคงจับจ้องผ่านจอโทรทัศน์มองดูลูกชายนั่งประจำที่เล่นเปียโนนำทีมเพื่อนในห้องร้องเพลงเล่นกันอย่างสนุกสนานอย่างทุกวันด้วยความภาคภูมิใจ เพราะนอกจากโรคประจำตัวของลูกน้อยที่ต้องระวังเป็นพิเศษแล้ว แม็กกับมินก็ไม่ต้องห่วงหรือเป็นกังวลอะไรเกี่ยวกับลูกชายเลย เพราะมิกเซอร์เป็นเด็กที่เลี้ยงง่าย สดใสร่าเริง สุขภาพร่างกายแข็งแรง รวมถึงการมีพัฒนาการทางด้านสมองและสติปัญญาที่เป็นเลิศอีกด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คงต้องขอบคุณเจ้าเปี๊ยกชิตะน้อยจอมจุ้นในวัยแปดขวบเมื่อสองปีที่แล้ว ที่เบื่อกับการโดนฟาโรห์เคี่ยวเข็ญให้เล่นเปียโนเพื่อหวังว่าจะทำให้เจ้าตัวได้หยุดฟุ้งซ่านเกินวัยไปได้บ้าง จึงได้เนียนส่งต่อเครื่องดนตรีชิ้นนี้มาให้น้องน้อยของเจ้าตัวได้ฝึกฝนจนกลายเป็นของเล่นชิ้นโปรดของมิกเซอร์ไปแล้ว

       กริ๊งก่อง~ กริ๊งก่อง~

       เสียงกริ่งซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าสิ้นสุดเวลาเรียนในวันนี้แล้วดังขึ้นพร้อมๆกับเสียงกรีดร้องด้วยความดีใจของเด็กน้อยทั้งหลาย พร้อมกับที่ผู้ปกครองที่นั่งซ่อนตัวอยู่ในห้องรับรองพากันออกไปรับลูกหลานของตัวเองกลับบ้าน ซึ่งแน่นอนว่าแม็กและมินก็คือหนึ่งในผู้ปกครองเหล่านั้นเช่นกัน

       “มิกเซอร์ครับ” เสียงหวานเอ่ยเรียกเด็กชายที่ยังคงนั่งไล่นิ้วเล่นอยู่บนเปียโนสีดำหลังเล็กนั้นด้วยความเอ็นดู เพราะเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นเขากลับบ้านหรือไม่ก็พากันออกไปเล่นที่สนามหญ้าข้างหน้าหมดแล้ว แต่ลูกชายของเขายังคงนั่งไล่นิ้วอยู่กับเครื่องดนตรีชิ้นโปรดอย่างหลงใหล

       “คุณพ่อ~ คุณแม่~” เมื่อเห็นว่าคนที่เรียกชื่อตัวเองนั้นเป็นใคร เด็กชายก็ฉีกยิ้มกว้างทันที ก่อนที่จะค่อยๆ ก้าวเดินเข้ามาโผกอดคุณพ่อและคุณแม่ของตัวเองด้วยความระมัดระหวังอย่างที่ถูกย้ำเตือนมาโดยตลอดตั้งแต่จำความได้

       “วันนี้ลูกชายคุณแม่เล่นเพลงใหม่ได้อีกแล้วหรอ เก่งจังเลยน้า~” มินอุ้มลูกชายตัวน้อยขึ้นมาหอมแก้มไปฟอดใหญ่ด้วยความมันเขี้ยว ไม่ว่าจะมองไปตรงส่วนไหนบนร่างกายของลูกชายตัวน้อย มินก็อดที่จะน้อยใจไม่ได้ เพราะมันไม่มีส่วนไหนที่จะเหมือนเขาเลย โดยเฉพาะดวงตาเฉี่ยวคมเป็นเอกลักษณ์คู่นั้น…นี่มันแม็กจูเนียร์ฉบับย่อส่วนชัดๆ และยิ่งหงุดหงิดเข้าไปอีก เพราะยิ่งอายุเพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่แม็กก็หน้าเปลี่ยนไปเหมือนพ่อแท้ๆผู้ให้กำเนิดของพวกเขามากขึ้นไปอีก ในขณะที่เขายังคงเหมือนเดิมทุกๆอย่าง จนคนรู้จักบางคนก็ลืมไปแล้วเสียด้วยซ้ำว่าเขากับแม็กนั้นเป็นพี่น้องฝาแฝดที่คลานตามกันมาติดๆ

       “น้องมิกเก่งไหมฮะพ่อ” ยิ้มรับคำชมจากคุณแม่สุดที่รัก ก่อนที่จะใช้ดวงตาคมที่ถอดแบบกันมาช้อนตามองถามคนเป็นพ่อด้วยความคาดหวัง

       “แน่นอนอยู่แล้ว เพราะว่ามิกเซอร์คือส่วนผสมที่ดีที่สุดของพ่อกับแม่” แม็กพูดบอกพร้อมกับยื่นมือไปขยี้หัวลูกชายตัวน้อยในอ้อมแขนของคนรักอย่างมิน ก่อนที่จะพากันกลับบ้านอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งแน่นอนว่าระหว่างทางกลับบ้านของสามคนพ่อแม่ลูกนั้นมีแต่เสียงหัวเราะ พูดคุย เคล้าคลอไปกับเสียงร้องเพลงเจื้อยแจ้วของเจ้าตัวเล็กที่เปรียบเสมือนดวงใจของบ้านไม่ต่างไปจากทุกวัน

       ถ้าหากว่าแม็กเป็นแอลกอฮอล์ดีกรีแรง มินก็คงจะเป็นน้ำแข็งที่ใช้ความเย็นของตัวเองเข้ามาดับความร้อนแรง ส่วนมิกเซอร์ก็คงจะเป็นส่วนผสมที่เข้ามาเพิ่มรสชาติความลงตัวของชีวิตคู่ของทั้งสองคนให้ยิ่งมีความสุขมากขึ้นไปกว่าที่เคยเป็น

       ซึ่งแน่นอนว่าความรักมักจะสวยงามเสมอ ไม่ว่าจะเพศไหนสังคมใด ไม่ว่าจะสุขสมหวัง หรือผิดหวัง จะถูกต้องตามประเพณีและความดีงาม หรือว่าจะผิดบาปร้ายแรงสักแค่ไหน ทั้งหมดก็ล้วนแต่เป็น ‘ความรัก’ ไม่ต่างกัน อย่างที่แม็กและมินเลือกที่จะมองข้ามกฎเกณฑ์ ความถูกผิดทั้งหลายไป และเลือกที่จะทำตามเสียงเรียกร้องในหัวใจของตัวเองแทน ถึงแม้ว่าเมื่อตายไปแล้วพวกเขาทั้งคู่จะต้องตกไปชดใช้กรรมในอเวจีขุมสุดท้ายก็ตาม พวกเขาก็ไม่กลัวหรอก เพราะเมื่อถึงวันนั้นพวกเขาก็มั่นใจว่า…เขาทั้งสองคนจะยังคงกุมมือกันและกันอย่างนี้ตลอดไป




-THE END-
       



ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
Re: จบแล้ว {Mpreg/Incest} แฝด Up.ตอนที่ 22 (20/01/60)
«ตอบ #202 เมื่อ19-01-2017 19:23:20 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: จบแล้ว {Mpreg/Incest} แฝด Up.ตอนที่ 22 (20/01/60)
«ตอบ #203 เมื่อ19-01-2017 19:27:50 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:   ขอบคุณคนแต่งมากๆครับ

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
Re: จบแล้ว {Mpreg/Incest} แฝด Up.ตอนที่ 22 (20/01/60)
«ตอบ #204 เมื่อ19-01-2017 21:09:16 »

 :katai2-1: :pig4:

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
Re: จบแล้ว {Mpreg/Incest} แฝด Up.ตอนที่ 22 (20/01/60)
«ตอบ #205 เมื่อ19-01-2017 21:55:49 »

สนุกมากกกกกก :mew1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: จบแล้ว {Mpreg/Incest} แฝด Up.ตอนที่ 22 (20/01/60)
«ตอบ #206 เมื่อ19-01-2017 22:00:58 »

ว้าว.....จบและ  :mew1: :mew1: :mew1:
แม็ก มิน  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
น้องมิกเซอร์ หล่อคม ฉลาด เล่นดนตรีเพราะอีก  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
อือ.....ไม่แน่ ต่อไป มินจะมีน้องอีกคน
คนนี้น่าจะเหมือนมิน นะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
Re: จบแล้ว {Mpreg/Incest} แฝด Up.ตอนที่ 22 (20/01/60)
«ตอบ #207 เมื่อ19-01-2017 23:38:10 »

   จบแล้ว ขอบคุณผู้แต่งที่นำเรื่องดีๆแบบนี้มาแบ่งปันกันคับ

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
Re: {Mpreg/Incest} แฝด Up.ตอนที่ 21 (19/01/60)
«ตอบ #208 เมื่อ20-01-2017 00:12:31 »

แฮปปี้ดีงามมม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-01-2017 00:20:21 โดย little_munoi »

ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0
Re: จบแล้ว {Mpreg/Incest} แฝด Up.ตอนที่ 22 (20/01/60)
«ตอบ #209 เมื่อ20-01-2017 11:02:56 »


จะมีคู่ไหนต่อไหมนะ

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด