Sunrise in the forest บทที่ 40 (ตอนจบ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Sunrise in the forest บทที่ 40 (ตอนจบ)  (อ่าน 146588 ครั้ง)

ออฟไลน์ noteno

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่8 (P8-140260)
«ตอบ #240 เมื่อ22-02-2017 14:51:43 »

 :mc4: :mc4:

จุดพลุเรียกกวางทอง 5555555

ออฟไลน์ piggyfree

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่8 (P8-140260)
«ตอบ #241 เมื่อ23-02-2017 13:04:55 »

ลู่กลับถึงบ้าน แล้วนอนหลับหรา
ไม่มีพี่หลงมากล่อมก่อนนอนอ่ะ
อยากอ่านตอนต่อไปแล้วค่า

ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: Sunrise in the forest บทที่8 (P8-140260)
«ตอบ #242 เมื่อ23-02-2017 16:46:00 »

หน้าใหม่แล้ว มารอแม่เล็ก

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
Re: Sunrise in the forest บทที่9 (P9-240260)
«ตอบ #243 เมื่อ24-02-2017 07:52:42 »

ภาคกวางทอง

บทที่เก้า

เทพเสือโคร่งภูผาเห็นว่าคดีในส่วนที่เกี่ยวข้องกับลู่คลี่คลายลงแล้ว ที่เหลืออยู่ก็คือการที่หยางหลงเจ้าเมืองลั่วต้องใช้อำนาจหน้าที่ที่มีอยู่จัดการต่อไป เมื่อพนักงานควบคุมตัวผู้ถูกกล่าวโทษทั้งสี่คนออกไป จึงกล่าวแสดงความต้องการกลับไปที่ป่าสีทอง
"ป่านนี้นางเทพกวางใจร้ายนั่น อาจจับลู่น้อยของข้าไปแขวนไว้บนหน้าผาแล้วก็เป็นได้" สีหน้าท่าทางของเทพเสือโคร่งดูทุกข์ร้อนเกินจริง จากนั้นก็สั่งให้รองแม่ทัพเฉินอวี้ แวะไปพบที่ป่าสีทองก่อนที่จะเดินทางกลับ
ในเวลาที่จากไป ก็ช่างสร้างความตื่นตาให้กับทุกคนไม่ต่างไปจากตอนที่มาถึง

เมื่อทุกคนได้สติกลับคืนมา หยางหลงจึงขอให้หยางเฉิง ช่วยรับรองรองแม่ทัพเฉินอวี้ และจัดการงานต่าง ๆ ในระหว่างที่ตนเองต้องไปดูแลมารดา และฮูหยิน
"เรื่องมารดาของเจ้ามิต้องเป็นกังวล พ่อจะดูแลเอง เจ้าควรไปดูแลเพ่ยหลิงเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นนี้นางคือคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมมากที่สุดแล้ว" หยางติงกล่าวด้วยความยุติธรรม

ความวุ่นวายที่ดำเนินมาจนถึงตอนนี้ ทำให้ยังไม่มีผู้ใดที่เอ่ยปากบอกกับหยางหลงเจ้าเมืองคนใหม่ ว่าหยางไห่น้องเล็กจะต้องออกเดินทางไปเมืองหลวง
เมื่อหยางหลงแยกออกไป รองแม่ทัพเฉินอวี้จึงหันไปถามหยางไห่ที่รออยู่ด้านนอก ว่าจะบอกกับหยางหลงเอง หรือให้ตนเป็นคนบอก หยางไห่ขอที่จะเป็นผู้บอกกับพี่ใหญ่เอง
"ข้ารู้ว่าพี่ใหญ่เป็นคนอย่างไร หากให้ท่านรองแม่ทัพหรือท่านพ่อเป็นคนบอก เขาต้องกล่าวว่ามิเป็นไร จากนั้นก็จะคิดมาก ห่วงหน้าพะวงหลัง เป็นห่วงไปหมดทุกคน หากให้ข้าบอกเองจะดีกว่า เพราะข้าจะได้ยืนยันว่าข้ามิเป็นไร การไปเมืองหลวงจะช่วยให้ข้าสามารถเป็นตัวแทนการค้าระหว่างเมืองลั่วกับเมืองหลวงได้คล่องตัวมากขึ้น"
การที่หยางไห่คิดแบบพ่อค้าในช่วงเวลาเช่นนี้ ทำให้พี่รองหยางเฉิงต้องผลักศีรษะน้องเล็กไปหนึ่งครั้งด้วยความหมั่นไส้

ด้านหยางหลงไปพบกับหลิวเพ่ยหลิงที่เรือนต้นส้ม ซึ่งจนถึงเวลานี้นางก็ยังอยู่ในความเสียใจที่ต้องสูญเสียบุตรคนโต แต่ก็พยายามกลบเกลื่อนด้วยการกล่าวถึงคำตัดสินนั้น
"ดังที่ท่านรองแม่ทัพกล่าว ซูเหยาไม่ได้รับความเมตตาจากสามี นางจึงต้องการสร้างความสำคัญให้กับตนเอง พวกเราเห็นนางประจบเอาใจท่านแม่ ก็พากันตั้งข้อเกี่ยงงอนกีดกันนางไว้เป็นคนนอกมาตลอด ยิ่งห่างเหินจากนาง นางก็ยิ่งเรียกร้องความสำคัญมากขึ้น ทุกคนต่างก็มีส่วนในความผิดนี้เช่นกัน อีกอย่าง คนที่ฉวยโอกาสทำให้เรื่องร้ายแรงมากขึ้น คือท่านลุงเหอหลินจื้อ"

ดวงตาของนางทอดมองหยางเจิ้นขุยบุตรชายคนเล็กที่กำลังนอนหลับ
นางมิใช่แม่พระที่จะให้อภัยผู้ที่ฆ่าบุตรของตนเอง แต่เพราะเวลานี้นางคือฮูหยินของเจ้าเมือง ความสูญเสียบุตรในครั้งนี้ย่อมอยู่กับนางตลอดไป แต่นางไม่อาจฝังตัวเองไว้กับการคร่ำครวญโศกเศร้า

"พวกเราเป็นบุตร จะอย่างไรความกตัญญูก็เป็นเรื่องสำคัญ ตั้งแต่แรกมา ข้ากลับกังวลว่าท่านจะลงโทษท่านแม่รุนแรง เมื่อตัดสินเช่นนี้ก็ถือว่าเหมาะสมแล้ว และทำให้พวกเขาไม่กล้ามายุ่งกับพวกเราไปอีกสักพัก" หลิวเพ่ยหลิงหันมาหาสามี "ท่านพี่ ข้ายังมีเรื่องที่อยากบอกต่อท่าน"
หยางหลงเจ้าเมืองลั่วพยักหน้ารับ
"เรื่องที่ข้าทำผิดต่อท่าน จนให้กำเนิดขุยเอ๋อร์ แต่ท่านยังให้ความเมตตาต่อข้าเช่นเดิมนั้น ข้าถือเป็นความกรุณาอย่างยิ่ง และทำให้ข้าต้องการรับใช้ท่าน มิว่าท่านต้องการสิ่งใด ข้าพร้อมที่จะให้ท่านทุกสิ่ง"
"ขุยเอ๋อร์ย่อมเป็นบุตรของข้า"

หลิวเพ่ยหลิงยิ้มจาง ในปีนั้นหยางหลงเดินทางออกจากเมืองลั่วไปหลายเดือน ระหว่างนั้นบิดาของนางที่เมืองหลวงให้คนผู้หนึ่งนำของขวัญ และสิ่งของมามอบให้เหมือนดังที่ผ่านมา แต่นางกลับพลาดพลั้งให้กับเขา โดยที่เขาเองก็มิได้รับรู้เลยว่านางตั้งครรภ์
แต่หลิวเพ่ยหลิงย่อมทราบดีว่าใครคือบิดาของบุตรคนรอง หลังจากที่หยางหลงกลับมาได้ไม่ถึงเดือน อาการตั้งครรภ์ก็เริ่มปรากฎชัด หลิวเพ่ยหลิงจึงสารภาพกับหยางหลง และพร้อมที่จะรับการลงโทษ
หยางหลงนิ่งอึ้งไปชั่ววูบแล้วก็กลับมามีความยินดีอย่างยิ่ง ทั้งไม่ยินยอมให้นางจากไป และคอยดูแลนางเป็นอย่างดี
...นางสรุปท่าทีของสามีว่า เป็นเพราะความเสียใจจนไม่อาจยอมรับความจริงได้ ยิ่งเขาดีต่อนาง นางก็ยิ่งไม่ให้อภัยตนเอง
แต่เมื่อเวลาผ่านไปนางกลับเป็นคนที่ปฏิเสธการสัมผัสจากอีกฝ่าย ไม่ยอมให้อีกคนถูกต้องตัว ด้วยรู้สึกว่าตนเองนั้นสกปรกและน่ารังเกียจยิ่งนัก...
หากทุกครั้งที่หลีกเลี่ยง หยางหลงมักมีสีหน้าผิดหวังเสียใจ หลิวเพ่ยหลิงจึงมักกลบเกลื่อนด้วยการบีบนวดเอาใจ

เป็นปฏิกริยาที่สอดคล้องกันระหว่างคนสองคน ที่บุคคลภายนอกลงความเห็นว่าสามีภรรยาคู่นี้ดูห่างเหิน แต่ก็มีความเอาใจใส่กันและกัน

หลังจากหลิวเพ่ยหลิงคลอดหยางเจิ้งขุยแล้ว นางขอให้บุตรทั้งสองคนพักในห้องเดียวกันกับนาง แทนที่จะให้พวกเขาแยกไปพักอีกเรือน ทั้งแนะนำให้หยางหลงรับฮูหยินเพิ่ม แต่หยางหลงปฏิเสธ
เมื่อมารดานอนห้องเดียวกับบุตร และไม่ยอมร่วมห้องกับบิดา สุดท้ายพวกเขาจึงเพียงอยู่ร่วมชายคาแต่หาได้ร่วมห้องไม่
หลิวเพ่ยหลิงคิดว่าหยางหลงยังเป็นคนหนุ่ม สักวันจะต้องรับภรรยาอีกคน แต่เขากลับทำตนเป็นดั่งหลวงจีนผู้หนึ่ง
ในส่วนนี้นางมองว่าหยางหลงก็เป็นเช่นเดียวกับหยางติงบิดาของเขา คือพร้อมที่จะให้อภัยฮูหยินเสมอ นางจึงมีความตั้งใจที่จะสนับสนุนสามีในทุกวิถีทาง

"ข้าเพียงอยากรู้เรื่องของคุณชายลู่"
หยางหลงเล่าให้นางฟังทุกสิ่ง เว้นเพียงเรื่องหนึ่งที่นางต้องซักถาม "ท่านพี่พอใจคุณชายใช่หรือไม่"
เมื่อหยางหลงไม่ปฏิเสธ นางจึงกล่าวต่อ "ท่านพี่ทำเพื่อผู้อื่นมาโดยตลอด หากเรื่องนี้ท่านพี่จะตามใจตนเอง ข้าก็ไม่คิดว่านี่จะส่งผลต่อตำแหน่งหน้าที่ของท่านพี่ เพียงแต่เท่าที่ดูท่านเทพเสือโคร่งภูผา และจากที่ฟังคนรับใช้กล่าวถึงมารดาของคุณชาย ข้าคิดว่านี่มิใช่เรื่องง่ายเลย"
หยางหลงสำลักลมในลำคอตนเอง "เพ่ยหลิง นี่เจ้า...เจ้า"
"ท่านพี่ทำงานหนักทุกวัน ตกกลางคืนยังต้องไปดูเขาก่อนจึงจะกลับมา หากจะบอกว่า เมตตาเขาเหมือนน้องหรือเหมือนลูก นั่นมิใช่แน่นอน" นางใช้ปลายนิ้วแตะหลังมือสามี "ขออภัยที่ก้าวก่ายเรื่องนี้ แต่ข้าอยากให้ท่านพี่มีความสุข"

ความเห็นของหลิวเพ่ยหลิงในเรื่องนี้ ช่างเหมือนกับหยางเฉิง และหยางไห่ ที่กล่าวเตือนพี่ใหญ่ของพวกเขาในวันถัดมา
"หากพี่รองคนที่มีเจ็ดฮูหยินยังให้คำปรึกษาท่านเจ้าเมืองมิได้ ก็มิมีผู้ใดให้คำปรึกษาท่านได้แล้ว" ทั้งน้ำเสียงและรอยยิ้มของหยางไห่ช่างสนุกสนานอย่างยิ่ง
แต่หยางเฉิงที่เป็นคนยิ้มยาก พูดน้อย กลับรู้สึกเจ็บลึกเมื่อหยางไห่กล่าวคำว่าฮูหยิน และยอมรับว่า เพราะการที่ตนเองละทิ้งฮูหยินหกซูเหยามาตลอด เป็นสาเหตุที่ทำให้นางก่อเรื่องขึ้น
หยางไห่อ้อมแอ้มกล่าวคำขออภัยพี่รอง ที่โบกมือไม่ถือสา ทั้งหันไปกล่าวคำขออภัยต่อหยางหลงต่ออีกทอดหนึ่ง
เพราะในการสืบสานตำแหน่งเจ้าเมืองลั่ว ผู้ที่จะรับตำแหน่งนี้ต่อจากหยางหลงก็คือ หยางเจียเจิงนั่นเอง
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทั้งหยางเจียเจิงและหยางเจิ้นขุยสองพี่น้องมักถูกแยกจากพี่น้องคนอื่น เพื่อร่ำเรียนตำราในทางปกครอง ทุกวันได้ยินแต่คำว่าในวันหน้าเมืองลั่วจะเป็นของเจ้า เจ้าต้องดูแลทุกคนให้มีความสุข ซึ่งไม่ต่างอันใดจากหยางหลงเมื่อครั้งยังเด็ก
"การทำร้ายเจิงเอ๋อร์ ไม่ต่างอะไรกับการทำร้ายความหวังของท่านเจ้าเมือง ข้ารู้สึกผิดยิ่งนัก" หยางเฉิงกล่าวอย่างเป็นทางการ

มีความเคลื่อนไหวที่เรือนพักหลังใหญ่ สามคนพี่น้องที่กำลังสนทนากันอยู่จึงหันไปมอง เห็นหยางติงออกมาส่งเทพเสือโคร่งภูผา กับรองแม่ทัพเฉินอวี้ แต่เทพเสือโคร่งภูผากลับแยกกลับไปก่อน ด้วยการที่มีแสงสว่างพาดผ่านลงมา และเมื่อแสงสว่างนั้นหายไป เทพเสือโคร่งภูผาก็หายไปด้วย เหลือเพียงหยางติง กับรองแม่ทัพ และบรรดาเจ้าพนักงานกับคนรับใช้ที่มีสีหน้าตกใจ

...ท่านเทพเสือโคร่งภูผามาตั้งแต่เมื่อใด แล้วลู่มาด้วยหรือไม่..

"แสดงให้เห็นกันต่อหน้าขนาดนี้ ยังจะกล้าพูดว่าเทพแห่งป่าสีทองเป็นเรื่องโกหกอยู่อีกหรือไม่" หยางไห่ใช้ศอกกระทุ้งเอวพี่รอง
"ตอนนี้เรื่องที่ต้องจริงจังมิใช่เรื่องนั้นแล้ว"
 
เมื่อหยางติง และรองแม่ทัพเฉินอวี้ เห็นสามพี่น้องยืนคุยกันอยู่ไม่ไกลจึงเดินมาสมทบเพื่อหารือด้วย
แต่แท้จริงแล้วควรเรียกว่าแจ้งให้ทราบมากกว่า
ด้วยหยางติงจะไปส่งเหอชินรุ่ย และพักอยู่กับนางที่อาราม
ส่วนรองแม่ทัพเฉินอวี้จะเป็นผู้ส่งตัวเหอหลินจื้อไปที่เหมืองเหอ ซึ่งหยางเฉิงจะเดินทางไปด้วย ในฐานะหัวหน้าสำนักคุ้มกันภัย 
"ไม่ไปส่งฮูหยินหกที่อารามหรือ" หยางไห่ถามพี่รอง
หยางเฉิงส่ายหน้า "กลับมาก็ยังมีเวลาไปพูดคุย"
ทั้งหมดเพียงรับฟังไม่มีผู้ใดสอดแทรกการตัดสินใจของหยางเฉิงในเรื่องนี้

หลังการสนทนาเรื่องการเดินทางอีกหลายคำ หยางติงก็กล่าวกับหยางหลงว่า หลิวเพ่ยหลิงมาขอพบกับมารดา ซึ่งอาจจะดูแปลกไปสักนิด และทำให้ระแวงไปว่า นางอาจมาต่อว่า หรือเยาะเย้ย แต่หลิวเพ่ยหลิงมาเพื่อกล่าวคำขอโทษที่มิได้ทำหน้าที่สะใภ้ที่ดี และทำให้เหอชินรุ่ยกล่าวคำขออภัยต่อนางเช่นกัน สุดท้ายแล้วก็คือต่างคนต่างก็ขอโทษอีกฝ่าย
ที่ผ่านมาแม้จะพักอยู่ในบ้านเดียวกันแต่ต่างก็หลีกเลี่ยงที่จะพบเจอกัน และพูดคุยกันให้น้อยคำที่สุด เมื่อสะใภ้ยอมเข้าหาก่อนด้วยการกล่าวคำขอโทษ มารดาที่เริ่มคิดได้ว่าความสูญเสียนี้เกิดขึ้นเพราะตนก็ยอมอ่อนลงเช่นกัน
หลังจากทื่หยางหลงต้องพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตามมาในลักษณะนี้จึงย่อมเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่ง

ตลอดการสนทนา รองแม่ทัพเฉินอวี้มิได้กล่าวคำใด มีเพียงรอยยิ้ม กับหัวเราะคำกล่าวของหยางไห่ที่ล้อเลียนหยางเฉิงเป็นระยะ ผ่านไปครู่หนึ่งหยางหลงจึงชักชวนรองแม่ทัพไปที่ศาลาว่าการเมือง เพื่อหารือเรื่องการส่งตัวเหอหลินจื้อกลับไป
แต่เมื่อเดินทางมาถึงศาลาว่าการเมือง ประโยคแรกที่รองแม่ทัพเอ่ยขึ้นก็คือคำแนะนำเกี่ยวกับลู่ ที่ไม่ได้ต่างจากเพ่ยหลิง และ น้องชายทั้งสองคนแนะนำไว้
แต่คำแนะนำของรองแม่ทัพยังนับว่ามีประโยชน์อยู่บ้าง อาทิ ลู่คือกวางทอง แม้จะยังไม่ถึงขั้นที่จะเป็นเทพ แต่เมื่อดูจากท่าทีของเทพบิดาและมารดาแล้ว คาดว่าพวกเขาจะต้องเคี่ยวกรำฝึกฝนให้เป็นเทพอย่างแน่นอน ต่อมาคือควรสะสางการงานที่นี่ให้เรียบร้อย รอจนหยางเฉิงกลับมาจากเมืองเหอ แล้วค่อยมอบตำแหน่งรักษาการให้ จากนั้นจึงค่อยเดินทางไปพบลู่ที่ป่าสีทอง
ยังคงเป็นคำเตือน และคำขู่ที่หลากเข้ามาหาหยางหลงเจ้าเมืองลั่วไม่ผิดกับน้ำในฤดูน้ำหลาก

"ผู้อื่นในป่าสีทอง มีชื่อเรียกตามคุณสมบัติพิเศษของเขา อย่างเทพเสือโคร่งภูผา หรือ นางเทพกวางสายลม ซึ่งเป็นบิดาและมารดาของลู่ได้ชื่อตามพลังพิเศษที่ติดมากับตัวเมื่อถือกำเนิด แต่ลู่คือกวางทอง เพราะดวงตาของเขามีสีทองมาตั้งแต่กำเนิด ส่วนเรื่องพลังพิเศษกลับยังไม่ชัดเจน แต่จะมีพลังแบบใดก็ไม่สำคัญเท่ากับดวงตาของเขา ที่ตอกย้ำว่าเขาเป็นสมบัติของป่าสีทอง เหมือนสัตว์เทพอีกหลายตนในป่าสีทอง นกยูงทอง กระเรียนทอง จิ้งจอกทอง เจ้าไม่อาจเก็บกวางทองไว้เป็นของเจ้าแต่เพียงผู้เดียวหากยอมรับเรื่องนี้ได้ จึงไปพบเขา แต่หากยอมรับไม่ได้ก็ควรตัดใจเสียแต่ตอนนี้"

แต่หยางหลงตัดสินใจเรื่องนี้ไปนานแล้ว และรู้ดีว่าบทสรุปจะเป็นเช่นไร ดังนั้นจึงรอจนกระทั่งหยางเฉิงกลับมาจากเมืองเหอในอีกหนึ่งเดือนถัดมา แล้วมอบตำแหน่งรักษาการให้กับหยางเฉิงและหยางไห่ก่อนที่จะออกเดินทาง

ซึ่งที่จริงแล้ว หยางหลงมีเจตนามอบตำแหน่งเจ้าเมืองให้กับน้องชายและไม่กลับมาอีก แต่น้องชายย่อมรู้ใจพี่ใหญ่เป็นอย่างดี ทั้งสองคนพร้อมใจกันขู่ว่า หากทำเช่นนั้นจริงพวกเขาก็จะมอบตำแหน่งนี้ให้กับหยางเจิ้นขุย บุตรชายคนเล็กของหยางหลงผู้มีวัยเพียงห้าขวบ จากนั้นอนาคตของเมืองลั่วจะเป็นเช่นใด ก็สุดจะคาดเดาแล้ว
หลังโต้เถียงกันอยู่หลายคำ หยางหลงจึงให้คำมั่นว่าจะกลับมาทำหน้าที่เจ้าเมืองอย่างแน่นอน
ส่วนรองแม่ทัพเฉินอวี้ เมื่อกลับมาจากเมืองเหอก็เดินทางล่วงหน้าไปที่ป่าสีทอง เพราะยังมีภารกิจที่จะต้องกลับไปที่เมืองหลวงเพื่อรายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งเจ้าตัวมั่นใจว่า จะต้องเดินทางระหว่างเมืองลั่ว เมืองเหอ และเมืองหลวงอีกหลายครา

"แล้วตกลงการส่งตัวท่านลุงเหอเป็นอย่างไรบ้าง ข้าอยากรู้เรื่องที่ท่านจะไม่เขียนลงไปในบันทึกเสนอเจ้าเมืองลั่ว และทางการ" หยางไห่ทำสีหน้าอยากรู้ ทั้งตั้งคำถามอย่างคนที่รู้นิสัยทุกคนในครอบครัวเป็นอย่างดี มีหรือที่เหอหลินจื้อจะว่าง่าย และทางเจ้าเมืองเหอจะไม่โกรธหยางหลง
หยางเฉิงเหลือบตามองพี่ใหญ่หนึ่งคราแล้วกล่าวด้วยเสียงต่ำ ๆ "ระหว่างการเดินทางก็ไม่ได้โวยวายมากมาย แต่พอไปถึงเมืองเหอ ช่วงที่ท่านรองแม่ทัพไม่ได้อยู่ด้วย ก็อาละวาดไม่ยอมรับความผิด ข้าคิดว่านั่นอาจเป็นพลังของเทพเสือโคร่งภูผาผู้นั้นกดดันให้เขาอยู่ในความสงบ ลู่เรียกเขาว่าแม่เล็กใช่หรือไม่"
"ใช่ บางทีท่านเทพเสือโคร่งอาจคอยติดตามอยู่ห่าง ๆ" หยางหลงถามต่อ "แล้วท่านเจ้าเมืองเหอว่าอย่างไร"
"ตอนแรกที่พวกเราไปถึงก่อน ก็ดูไม่ค่อยให้เกียรติท่านรองแม่ทัพสักเท่าไหร่ ตอนที่เอาคดีให้อ่านก็ไม่พอใจ จนกระทั่งท่านรองแม่ทัพอธิบายซ้ำเรื่องหลักฐาน และบอกว่าเจิงเอ๋อร์คือหลานตาของพวกเขา ที่ต้องจากไปเพื่อให้เป็นตัวจุดชนวนความขัดแย้ง ซึ่งหากพวกเราต้องขัดแย้งกันจริง วิญญาณของเจิงเอ๋อร์จะเป็นสุขได้อย่างไร หากท่านตา กับท่านพ่อของเขาขัดแย้งกัน"
หยางไห่นึกขึ้นได้ "หลังจากที่ท่านออกเดินทางไปได้สามวัน ผู้ติดตามของท่านรองแม่ทัพจึงมาถึงแล้วออกเดินทางติดตามพวกท่านไป"
หยางเฉิงพยักหน้า "พวกเขาไปถึงเมืองเหอหลังพวกเราสองวัน"
น้องเล็กวิเคราะห์ต่อ "ดูท่ารองแม่ทัพเฉินอวี้กับเทพเสือโคร่งภูผา จะชอบทำงานโดยอิสระเหมือนกัน"
สองคนพี่น้องสนทนากันเพลินกระทั่งนึกขึ้นได้หันมาหาพี่ใหญ่ที่กำลังมองไปไกลสุดสายตาแล้วถอนหายใจยาว จากนั้นจึงกล่าวคำ
"ข้าสูญเสียเจิงเอ๋อร์ไปแล้วจริง ๆ"

เมื่อเดินทางมาถึงชายป่าสีทองเมืองลั่ว  แม้ใจของหยางหลงจะเต้นแรงด้วยคาดหวังว่าจะได้พบลู่ แต่ในเวลาเดียวกันก็กลับรู้สึกเป็นกังวลมากกว่าทุกคราที่เดินทางผ่านมา ด้วยเป้าหมายที่เดินทางมาในครานี้แตกต่างไป ทั้งยังมีแต่คำเตือนเชิงข่มขู่จากผู้คนมากมาย จึงได้แต่คาดหวังว่ามารดาของลู่จะมองเห็นความจริงใจของตนเอง

เพราะลู่เคยเล่าว่า ได้ยินเสียงอธิษฐานของหยางหลง ดังนั้นเมื่อมาถึงเชิงป่า ชายหนุ่มจึงถวายสุราและข้าวเปลือก จากนั้นจึงเดินลึกเข้าไปในป่าตามเส้นทางที่นำไปสู่การพบกับลู่ในครั้งก่อน แต่ที่ใต้ร่มไม้ใหญ่ในป่ากลับไม่มีผู้ใด แม้จะได้ยินเสียงนกร้องอยู่ใกล้ ๆ แต่กลับไม่เห็นนกสักตัว ไม่พบสัตว์ตัวใด
"ลู่" หยางหลงร้องเรียก แต่หลังจากที่เวลาผ่านไปครู่หนึ่งจึงแน่ใจว่า ลู่อาจถูกมารดาลงโทษตามที่เทพเสือโคร่งภูผาเป็นกังวลอยู่ก่อนหน้านี้

แต่ลู่กลับมาป่าสีทองนานกว่าหนึ่งเดือนแล้ว การลงโทษยังมิเสร็จสิ้นอีกหรือ....

ชายหนุ่มเหลียวมองไปรอบตัว แล้วคุกเข่าลง กล่าวถ้อยคำด้วยความเคารพและอ้อมน้อมอย่างยิ่ง
"เรียนท่านเทพแห่งป่าสีทอง ท่านเทพเสือโคร่งภูผา ท่านเทพกวางสายลม ผู้น้อยหยางหลงมาขอพบลู่ กวางทองผู้นั้นขอรับ"
หยางหลงรับรู้ว่ามีความเคลื่อนไหวรอบตัว แต่ไม่เห็นว่ามีผู้ใดปรากฎตัวขึ้นจึงได้แต่คุกเข่าต่อไป จวบจนท้องฟ้ามืดลง ขาทั้งสองข้างจากที่ปวดอย่างยิ่ง กลายเป็นไร้ความรู้สึก ขณะที่อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อย ๆ
หยางหลงถูสองมือแล้วอังฝ่ามือกับลมหายใจตนเอง จากนั้นก็กอดอกแน่น ยังคงมีความเชื่อมั่นว่า ความตั้งใจนี้จะทำให้ได้รับความเมตตาให้พบกับลู่ในที่สุด

ท่ามกลางความเงียบสงบ เสียงก้าวเดินช้า ๆจากทางด้านหลังจึงชัดเจนยิ่ง หยางหลงรีบหันกลับไปมอง แต่พบเพียงกวางตัวเมียสีน้ำตาลตัวหนึ่งก้าวเขามาหา จากนั้นก็เปลี่ยนร่างเป็นหญิงสาวสวมชุดสีฟ้าท่ามกลางแสงสลัวจากแสงจันทร์ หยางหลงเห็นว่านางมีรูปร่างเล็กกว่านางกวางสายลม จึงคาดเดาว่านางอาจเป็นพี่สาวที่ลู่เคยกล่าวถึง

"ลู่ออกมาหาท่านไม่ได้หรอก" น้ำเสียงของนางเปี่ยมไปด้วยความกังวล กับมีท่าทีหวาดกลัว เมื่อกล่าวจบก็หันหลังจะจากไป
"เดี๋ยวก่อน" หยางหลงเรียกไว้ ทั้งที่อยากลุกขึ้นยืนแต่ขากลับไม่มีเรี่ยวแรงจึงได้แต่คุกเข่าอยู่เช่นนั้น "ลู่เป็นอย่างไรบ้าง"
"กวางทองถูกท่านแม่ลงโทษ รออีกสักพักให้ท่านแม่หายโกรธ แล้วค่อยกลับมาจะดีกว่า"
เมื่อได้ฟังเช่นนี้หยางหลงจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาด
"เช่นนั้นข้ายิ่งสมควรคุกเข่ารออยู่ในที่นี้"
"นี่"
นางต้องการกล่าวคำเพื่อให้ชายหนุ่มเปลี่ยนใจ แต่ขณะนั้นเอง เทพเสือโคร่งภูผาก็ปรากฎตัวขึ้น นางกวางสาวจึงยืนรออยู่ที่เดิม
เทพเสือโคร่งภูผามิได้เหลือบตามองนาง แต่กลับพยักหน้ารับการเคารพของหยางหลง จากนั้นก็สะบัดมือคราหนึ่ง ก่อกองไฟเล็ก ๆ ขึ้นสี่กอง ห่างจากที่ทั้งสามคนยืนอยู่
เมื่อหยางหลงจะกล่าวคำ เทพเสือโคร่งภูผาเพียงยกนิ้วแตะริมฝีปาก เชิงบอกว่าอย่าเพิ่งกล่าวคำ จากนั้นชายหนุ่มรูปร่างหนา และแต่งกายคล้ายเทพเสือโคร่งภูผาก็ปรากฎขึ้นพร้อมกับรองแม่ทัพเฉินอวี้
ชายหนุ่มผู้ที่เพิ่งมาใหม่ แม้จะคล้ายกับเทพเสือโคร่งภูผาอยู่หลายส่วน แต่เสื้อผ้าส่วนใหญ่จะมีสีดำจึงสามารถแยกแยะได้
ส่วนรองแม่ทัพเฉินอวี้พอเห็นหยางหลงที่ยังคุกเข่าอยู่ก็อุทานขึ้นมาคำหนึ่ง เทพเสือโคร่งภูผาจึงกระแอมเตือนว่าอย่าส่งเสียง

ที่ไม่เข้าใจก็คือรองแม่ทัพเฉินอวี้หาได้เดินเข้าไปหาเทพเสือโคร่งภูผา แต่กลับเดินไปคุกเข่าอยู่ข้างหยางหลง
รออยู่พักใหญ่จึงได้ยินเสียงลม และเสียงใบไม้ในป่า
เมื่อลมแรงพัดมาตรงหน้าแล้วจางหายไป นางเทพกวางสายลม มารดาของลู่ก็ปรากฎตัวขึ้น
หยางหลงและรองแม่ทัพเฉินอวี้ทำความเคารพ
นางกวางกวาดตามองทุกคนที่อยู่ในที่นี้แล้วแค่นเสียงขึ้นจมูก จากนั้นกล่าวกับหยางหลง
"กวางทองยังเด็ก คิดอ่านวู่วาม ทั้งไม่รู้จักแยกแยะจิตใจของคนที่ซับซ้อนจนทำเรื่องเสียหาย ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ ข้าเสียใจด้วยที่ทำให้ท่านต้องเสียบุตรชาย ส่วนเรื่องอื่นระหว่างท่านกับกวางทอง ข้าไม่อนุญาต"

ช่างสมกับเป็นนางกวางสายลมแห่งป่าสีทอง ไม่ว่าจะพูดหรือลงมือทำสิ่งใดล้วนหมดจดในคราเดียว
หยางหลงเรียนรู้ลักษณะนิสัยนี้จากการพบกันในคราก่อน จึงเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี
"ข้าน้อยขอเพียงได้พบกับลู่อีกสักครั้ง เพียงอยากรู้ว่า เขาเป็นอย่างไรบ้าง"
นางกวางกลับตอบตามตรง "ก็คงไม่ค่อยสบายสักเท่าไหร่ บนยอดเขานั่นหนาวเกินกว่ากวางทองอย่างเขาจะทนได้"
คำตอบนี้กลับทำให้เทพเสือโคร่งภูผาที่เข้าข้างบุตรชายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถึงกับชี้มือ แต่ไม่กล้ากล่าวคำตำหนินางอย่างเต็มเสียงมากนัก
"เจ้า...เจ้า...รู้ว่าเขายังเด็ก แต่ยังลงโทษเช่นนั้นอีก"
"เดิมเขาก็ต้องฝึกฝนเช่นนั้นอยู่แล้ว แต่กลับหลบหนีไปเสียก่อน เมื่อกลับมาแล้วก็แค่ต้องอยู่ที่นั่นมากกว่าเดิมอีกเท่าตัวเท่านั้นเอง"
หยางหลงก้มลงโขกศีรษะกับพื้น "ความผิดนี้ ข้าก็มีส่วนร่วมอยู่ด้วย ขอให้ข้าได้รับโทษนั้นด้วยเถิด"
นางเทพกวางกระแทกเสียงในลำคอก่อนตอบอีกครา "เจ้ารู้หรือว่าข้าให้กวางทองอยู่ที่นั่นนานเท่าใด" นางเว้นไปนิดหนึ่ง แล้วกล่าวต่อ "สิบปี เจ้าอยู่ได้หรือไม่"
"เท่าตัวก็ยี่สิบปี" เทพเสือโคร่งภูผาร้อนรน หันไปถามนางกวางสาวที่ยืนอยู่ทางด้านหลัง "น้องอยู่ที่นั่นมานานกว่าหนึ่งเดือนแล้วใช่หรือไม่"
นางกวางไพลินยังไม่ทันตอบคำ เทพเสือโคร่งภูผาก็หันไปสั่งชายหนุ่มที่มีลักษณะคล้ายตนเองให้ไปพาลู่กลับมา
"ศิลาดำไปกับไพลินพาน้องลงมา"
"เจ้ากล้าหรือ"
นางเทพกวางสะบัดมือ มวลสายลมหมุนวนอยู่บนฝ่ามือของนาง ทำให้เทพเสือโคร่งศิลาดำหยุดชะงัก เทพเสือโคร่งภูผาจึงเร่งให้เทพเสือโคร่งศิลาดำและนางกวางไพลินเร่งไปรับลู่ด้วยกัน ส่วนตนเองก้าวเข้าไปยืนขวาง เผชิญหน้ากับนางเทพกวางสายลม

ใจของนางกวางไพลินนั้นก็ต้องการช่วยเหลือน้องอยู่แล้ว เมื่อได้รับคำสั่งก็คว้าข้อมือของเทพเสือโคร่งศิลาดำหายตัวไปในทันที

"ตาแก่ นี่เจ้ากล้าช่วยเหลือคน ขัดคำสั่งข้างั้นหรือ"
"คนอื่นไกลที่ไหนกัน กวางทองเป็นลูกเจ้านะ" เทพเสือโคร่งภูผาไม่ยอมแพ้ตะโกนโต้ตอบ "การลงโทษคือให้หลาบจำ สำนึกผิด ไม่ใช่คิดลงโทษไปตามอารมณ์เช่นนี้"
"ใครใช้อารมณ์ลงโทษลูก เขาต้องฝึก แล้วเขาก็ทำผิดย่อมต้องรับผิด"
"ให้เขาอยู่บนนั้นสิบปี...ยี่สิบปีไม่เรียกว่าเกินไป ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอย่างไรแล้ว"

ทั้งสองฝ่ายต่างโต้เถียงกันด้วยคำพูดแต่ไม่มีผู้ใดลงมือ
ลมแรงที่พัดหมุนอยู่ในที่นี้ จึงเพียงก่อกวนให้กองไฟโหมแรงขึ้น

(มีต่อครับ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-04-2017 10:33:17 โดย MyTeaMeJive »

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
Re: Sunrise in the forest บทที่9 (P9-240260)
«ตอบ #244 เมื่อ24-02-2017 07:53:21 »

(ต่อครับ)



"กวางทองตามเจ้าเมืองลั่วออกไป ก็เพราะพวกเขามีใจต่อกัน แต่เมื่อเจ้าเห็นว่าลูกยังเด็กยังไม่อยากให้คบหา ก็ต้องพูดกันให้รู้เรื่อง"
"เจ้าเมืองลั่วมีครอบครัวแล้ว ยิ่งเวลานี้เสียลูกไปคนหนึ่ง เขาควรดูแลลูกเมีย มิใช่มาตามเด็กน้อยอ่อนต่อโลกอย่างกวางทอง"
"เพ่ยหลิงยินยอมให้ข้ามาขอรับ" หยางหลงพูดแทรกขึ้น ทำให้ผู้ที่กำลังโต้เถียงกันหันมามอง
หยางหลงค้อมตัวอีกครั้งก่อนที่จะกล่าวต่อ "เรื่องความเสียใจนั้นย่อมไม่อาจเลือนหายไป เจิงเอ๋อร์คือบุตรชายของข้าน้อยและว่าที่เจ้าเมืองคนต่อไป เมื่อสูญเสียเขาไปข้าน้อยสมควรอยู่ดูแลภรรยาจริง ๆ ซึ่งในเรื่องความสัมพันธ์นี้ ข้าน้อยกับเพ่ยหลิงมิได้อยู่ร่วมห้องมาหลายปีแล้ว ข้ามิเคยพึงพอใจผู้ใดอีก จนเมื่อได้พบกับลู่ ข้าน้อยทราบดีว่าพวกเราแตกต่างกัน ทั้งลู่ก็ยังเด็ก แต่ยิ่งนานก็ยิ่งรู้สึกอยากอยู่ใกล้ชิด ข้าน้อยมีความจริงใจ ขอเพียงได้พบและพูดคุย หากท่านเทพกวางจะให้รอ ไม่ว่าจะนานกี่ปีข้าน้อยก็พร้อมที่จะรอขอรับ"

นางเทพกวางสายลม แม้จะอยู่ในป่าสีทองเป็นส่วนใหญ่ แต่นางก็พบเห็นผู้คนมามิใช่น้อย ความซับซ้อนของครอบครัวที่อยู่ในป่าแห่งนี้ ก็มิได้ต่างกันสักเท่าใด เมื่อเห็นว่าหยางหลงเจ้าเมืองลั่วมีท่าทีอ่อนน้อม การพูดจามีความน่าเชื่อถือ ทั้งแสดงความจริงใจต่อบุตรชาย ทำให้นางกวางยอมรับเขาอยู่ในใจ
....อย่างน้อยก็สุขุมกว่าเสือโคร่งแก่ ๆ นั่น ที่เอะอะโวยวายไม่หยุด...

นางเทพกวางสายลมสะบัดมือบอกให้รองแม่ทัพเฉิวอวี้พยุงหยางหลงลุกขึ้นยืน
แต่เพราะหยางหลงคุกเข่ามาหลายชั่วยาม จึงต้องให้นั่งเหยียดขาแล้วกดจุดเพื่อให้โลหิตไหลเวียนและคลายเส้นก่อน

"เจ้านั่งคุกเข่าด้วยทำไม" นางเทพกวางสายลมเปลี่ยนมาถามรองแม่ทัพที่กำลังกดจุดให้คนตัวใหญ่
"ท่านพี่ไปเรียกให้ข้ามาดูกวางทอง แต่ข้ามาช้าจนทำให้เกิดเรื่องขึ้น ข้าสมควรได้รับโทษเช่นกัน"

"เมืองหลวงกับที่นี่ต้องใช้เวลาเดินทางนานถึงสองเดือน ที่เจ้ามาก็นับว่าเร็วมากแล้ว" นางเทพกวางสายลมกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนลง
รองแม่ทัพเฉินอวี้ เห็นว่านางเทพกวางสายลมเป็นผู้มีความยุติธรรม และรักบุตรไม่น้อยไปกว่าผู้ใด ที่ลงโทษลู่รุนแรงก็เพราะเห็นว่าความวุ่นวายนี้เกิดขึ้นเพราะความวู่วามหนีไปกับหยางหลง
"แต่แรกมาเหอหลินจื้อก็คิดฉวยโอกาสยืมมือผู้อื่นเพื่อสร้างความเข้าใจผิดอยู่แล้ว เพราะไม่พอใจหยางติง ทั้งไม่เคยเชื่อเรื่องเทพแห่งป่าสีทองว่ามีอยู่จริง เมื่อน้องสาวและซูเหยามาหารือเรื่องลู่กวางทอง ที่พวกเขาคิดว่าต้องเกี่ยวพันกันในทางใดทางหนึ่งกับพวกหยางติง เขาจึงมองเห็นเป็นช่องทางในการลงมือ มิว่าใครจะตายก็ส่งผลดีต่อเขาทั้งนั้น"
"เขารีบลงมือ อาจเพราะรู้ว่าเจ้ากำลังเดินทางมา" เทพเสือโคร่งภูผาพูดขึ้น
ข้อนี้ทุกคนเห็นพ้อง
"เขาจึงวางแผนให้ซู่ซู่รีบหลบหนีไปในทันทีที่ลงมือ เพื่อที่จะฉวยโอกาสนั้นสังหารคนเพื่อปิดปากอีกครา มิคาดพวกคนรับใช้หลายคน โดยเฉพาะสองพี่น้องคู่นั้น จับตาซู่ซู่มาตั้งแต่แรก จึงช่วยกันจับตัวส่งให้มือปราบได้เร็ว ส่วนที่บ้านของหยางเฉิงเอง พวกเขาก็จับตาซูเหยาที่มักไปพบเหอชินรุ่ยเป็นระยะ ทั้งที่รู้ว่าเหอชินรุ่ยไม่ค่อยชอบหยางเฉิงสักเท่าไหร่"
นางกวางสายลมหัวเราะเบา ๆ "คงจับตามองด้วยความหมั่นไส้ ที่นางประจบแม่สามี"
"สรุปคือทั้งสองคนถูกควบคุมตัวไว้ เหอหลินจื้อไม่มีโอกาสลงมือฆ่าคนปิดปาก เรื่องราวจึงจบลงเช่นนี้"
"ยังไม่จบ" เทพเสือโคร่งภูผาเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน "เจ้าคนแซ่เหอนั่น ทำให้ลูกข้าต้องติดคุกสกปรกนานเป็นเดือน ข้ายังไม่มีโอกาสได้แก้แค้นมันเลย"
รองแม่ทัพเฉินอวี้มิได้กล่าวคำใด แต่แววตาก็สะท้อนความไม่พอใจอยู่เช่นกัน

มีสายลมหมุนวนที่ด้านหลังอีกครั้ง ทั้งเทพเสือโคร่งศิลาดำ นางกวางไพลิน และลู่ปรากฎตัวขึ้น
ลู่ทักทายบิดา มารดา และรองแม่ทัพเฉินอวี้ ที่ลู่เรียกว่าแม่เล็ก ขณะที่เดินเข้ามาหาหยางหลงซึ่งลุกขึ้นยืนรอ
"ท่านมานานหรือยัง"
หยางหลงส่ายหน้า "ไม่นานสักเท่าใด เจ้าเป็นไรอย่างไรบ้าง"
"หนาว"
ถัดจากคำทักทาย ก็คือการมองตาและมอบยิ้มกว้างให้แก่กัน เพียงเท่านี้กลับทำให้ทุกคนในที่นี้รับรู้ถึงความผูกพันของทั้งคู่
นางเทพกวางสายลมส่ายหน้าให้กับบุตรคนเล็กผู้นี้ แล้วบอกให้นางกวางไพลินพาลู่กลับไปพักก่อน จากนั้นก็หันมาเรียกเทพเสือโคร่งภูผา เทพเสือโคร่งศิลาดำ รองแม่ทัพเฉินอวี้ และหยางหลงไว้

"ข้ารู้ว่าเจ้ามีเรื่องมากมายที่อยากพูดคุยกัน แต่พวกเรามีเรื่องต้องหารือและทำความตกลงกันก่อน"

ลู่เห็นว่าเทพเสือโคร่งภูผายังอยู่ในที่นี้ จึงเชื่อว่าหากจะมีเรื่องให้ทดสอบ หรือลงโทษกัน บิดาก็คงต้องออกหน้ารับแทน จึงมิได้เกี่ยงงอนอันใด เมื่อกล่าวคำขอบคุณมารดาก็กลับไปกับนางกวางไพลิน

ที่ถ้ำของฝูงกวางเทพแห่งป่าสีทอง เทพกวางสายฟ้าผู้เป็นบิดาบุญธรรมของลู่ยืนรออยู่ เมื่อเห็นว่าลู่กลับมาพร้อมกับนางกวางไพลินก็ถอนหายใจยาว รับการแสดงความเคารพแล้วเรียกให้มาพักผ่อน และกินผลไม้ ขณะที่บรรดาพี่สาว พี่ชายต่างเข้ามาห้อมล้อมพูดคุย
"ท่านแม่ใจแข็งยิ่งนัก ให้เจ้าเมืองลั่วมารออยู่ตั้งหลายชั่วยาม ท่านพ่อพูดอย่างไรก็ไม่ยอมไปพบ คงตั้งใจให้เขาท้อใจแล้วกลับไปเอง"
"ท่านพ่อสงสารเจ้าเมืองลั่ว กลัวว่าจะหนาวตายไปเสียก่อนได้พบกวางทอง จึงให้กวางไพลินไปบอกให้เขากลับไป"
"แต่เพราะเทพเสือโคร่งภูผาตามกวางไพลินไปพบเขา ท่านแม่กลัวจะเสียเรื่อง ถึงได้ไปพบ"
"แล้วนี่อย่างไรถึงได้เป็นไพลินที่กลับมากับเจ้า"
ลู่พยักหน้าให้นางกวางไพลินเป็นคนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น โดยที่ตนเองช่วยเสริมเป็นระยะ

เวลาผ่านไปจนใกล้รุ่งสาง เทพกวางสายฟ้าลูบศีรษะของลู่ด้วยความอ่อนโยน
"ที่ผิดไปแล้วคือบทเรียน จิตใจและการกระทำของมนุษย์นั้นช่างซับซ้อน เจ้ายังต้องเรียนรู้อีกมาก"
ลู่หันไปยิ้มให้บิดาบุญธรรมแล้วกอดเอวซุกหน้ากับอกกว้าง
เทพกวางสายฟ้ารับรู้ว่ามีความเคลื่อนไหวที่ด้านหน้าของถ้ำ จึงแตะที่ไหล่ของลู่แล้วจูงมือพาเดินออกมา
ที่ด้านหน้าถ้ำเวลานี้ นอกจากนางเทพกวางสายลมแล้ว ยังมีเทพเสือโคร่งภูผา เทพเสือโคร่งศิลาดำ และหยางหลงเจ้าเมืองลั่วอยู่พร้อมหน้า
หยางหลงทำความเคารพเทพกวางสายฟ้า ที่มองหยางหลงด้วยดวงตาที่ไม่ต่างอันใดจากสายฟ้า ขณะที่กล่าวคำ "ข้ายังไม่ได้มอบกวางทองให้เจ้า เพราะเขายังเด็ก และที่นี่คือป่าสีทอง ข้ารับรู้ทุกการเคลื่อนไหวที่ไม่เหมาะสมในที่นี้"
เทพเสือโคร่งภูผาที่ด้านข้างกำลังหัวเราะ ขณะที่หยางหลงเจ้าเมืองลั่วยิ้มกว้าง
ว่ามารดาขี้หวงแล้ว บิดาทั้งสองคนก็หวงบุตรคนนี้ไม่ต่างกัน
เมื่อรักคนผู้เป็นที่รักและหวงแหนของทุกคน จะมีทางเลือกอื่นใด นอกจากการรับฟังและปฏิบัติตามด้วยดี

หนึ่งเดือนถัดมา มีข่าวว่าเกิดโรคประหลาดขึ้นที่เมืองเหอ ทำให้บุตรชายคนโต และคนรองของเหอหลินจื้อเสียชีวิต
เมื่อทราบข่าวลู่หันไปมองหน้าเทพเสือโคร่งภูผา เทพกวางสายฟ้าและเทพเสือโคร่งศิลาดำด้วยสายตาที่ไม่ไว้วางใจ

...พวกเขาเป็นสัตว์เทพแห่งป่าสีทองที่เปี่ยมไปด้วยเมตตานี่นา นี่คงเป็นโรคประหลาดที่บังเอิญเกิดขึ้นที่จวนเจ้าเมืองเหอสินะ คงเป็นเช่นนั้นแหละ...

...จบบทที่เก้า ...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-02-2017 11:18:08 โดย MyTeaMeJive »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: Sunrise in the forest บทที่9 (P9-240260)
«ตอบ #245 เมื่อ24-02-2017 08:43:15 »

 :katai5:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: Sunrise in the forest บทที่9 (P9-240260)
«ตอบ #246 เมื่อ24-02-2017 09:33:54 »

 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
อย่างน้อยก็เรื่องฮูหยินที่ไม่เป็นอุปสรรคแล้วกับความรักของลู่และหยางหลง

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่9 (P9-240260)
«ตอบ #247 เมื่อ24-02-2017 10:48:21 »



ผู้สนับสนุนหลักฝั่งท่านเจ้าเมืองและท่านเจ้าเมืองจะต้องเหนื่อยมากซะหน่อย
ความหวงแบบนี้น่าจะทำเอาจูบกล่อมนอนต้องรอไปอีกนาน
มาดูว่าท่านเจ้าเมืองจะอดได้นานเท่าไหร่ดีกว่า   :teach:


ป.ล ว่าแต่การโดนเอาคืนแบบเท่าตัว จะเข็ดกันไหมล่ะนั่น ช่างน่ากลัวว่าอย่าเป็นศัตรูเด็ดขาด

 :pig4:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
Re: Sunrise in the forest บทที่9 (P9-240260)
«ตอบ #248 เมื่อ24-02-2017 13:20:12 »

เราว่าต้องเป็นคำสาบหรืออะไรซักอย่างที่เกิดแค่ในบ้านเมืองเหอแน่ๆ ดีไม่ดีเกิดแค่ในบ้านเจ้าเมืองเท่านั้น
อาจจะเป็นคนใดคนหนึ่งของญาติแม่ท่านเจ้าเมืองที่โกรธที่ลงโทษแม่ของเจ้าเมืองก็ได้ ไม่อยากให้เอะอะอะไร
ก็มาลงที่เด็กๆ เลย เด็กๆ น่าสงสารที่ต้องมารับกรรมจากพวกผู้ใหญ่ที่บ้าการเมืองจริงๆ

ออฟไลน์ noteno

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่9 (P9-240260)
«ตอบ #249 เมื่อ24-02-2017 13:20:32 »

 :heaven

เหล่าชายชาตรีเเห่งป่าสีทองนี่น่ากลัวนะ...ดีนะเนี่ยที่หยางหลงยังพอมีพวกอยู่บ้าง..ฝ่าด่านพ่อกวางได้ก็ถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่งเเล้วว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sunrise in the forest บทที่9 (P9-240260)
« ตอบ #249 เมื่อ: 24-02-2017 13:20:32 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: Sunrise in the forest บทที่9 (P9-240260)
«ตอบ #250 เมื่อ24-02-2017 13:31:05 »

คงเป็นโรคประหลาดที่บังเอิญเกิดขึ้นที่จวนเจ้าเมืองเหอ  :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ pearlypear

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: Sunrise in the forest บทที่9 (P9-240260)
«ตอบ #251 เมื่อ24-02-2017 14:51:47 »

หยางหลง ต้องเข้าตามตรอก ออกทางประตู นะจ๊ะ!!  #ลู่ผู้เป็นที่รัก :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ piggyfree

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่9 (P9-240260)
«ตอบ #252 เมื่อ24-02-2017 15:15:09 »

ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา

กว่าหยางหลงจะผ่านบรรดาญาติมิตรของลู่ครบ
มีเหงื่อตกแน่ๆ

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: Sunrise in the forest บทที่9 (P9-240260)
«ตอบ #253 เมื่อ24-02-2017 17:42:51 »

พ่อตาแม่ยายดุทุกคน

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: Sunrise in the forest บทที่9 (P9-240260)
«ตอบ #254 เมื่อ24-02-2017 17:57:24 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: Sunrise in the forest บทที่9 (P9-240260)
«ตอบ #255 เมื่อ24-02-2017 18:47:06 »

 :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: Sunrise in the forest บทที่9 (P9-240260)
«ตอบ #256 เมื่อ24-02-2017 21:14:02 »

 :mew1:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
Re: Sunrise in the forest บทที่9 (P9-240260)
«ตอบ #257 เมื่อ24-02-2017 21:46:00 »

ความหวงระดับยกกำลังสาม

ออฟไลน์ beerby-witch

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 567
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
Re: Sunrise in the forest บทที่9 (P9-240260)
«ตอบ #258 เมื่อ24-02-2017 21:51:02 »

เอาคืนโหดมากค่า  :katai2-1: ลู่น้อยของพี่เมื่อไหร่จะโต ใส่ปุ๋ยเร่งใบ

ออฟไลน์ kail

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: Sunrise in the forest บทที่9 (P9-240260)
«ตอบ #259 เมื่อ26-02-2017 12:22:02 »

บรรดาท่านพ่อตาท่านแม่ยายมีความหวงลู่ระดับสิบ แล้วมีกันสามคนก็ยกกำลังสามจริงด้วย หยางหลงเหนื่อยหน่อยน้า แต่ละคนกันท่ากันไว้อย่างรอบคอบเชียว 5555555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-02-2017 13:07:55 โดย kail »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sunrise in the forest บทที่9 (P9-240260)
« ตอบ #259 เมื่อ: 26-02-2017 12:22:02 »





ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: Sunrise in the forest บทที่9 (P9-240260)
«ตอบ #260 เมื่อ26-02-2017 20:30:57 »

อยากได้ลูกกวางก็ต้องเข้าถ้ำกวาง 55555 อดทนเอานะพี่หยางของเรา แม่กวางนี่เด็ดขาดจริงๆ

ออฟไลน์ about

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: Sunrise in the forest บทที่9 (P9-240260)
«ตอบ #261 เมื่อ26-02-2017 22:35:46 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ treenature

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0
Re: Sunrise in the forest บทที่9 (P9-240260)
«ตอบ #262 เมื่อ27-02-2017 21:45:47 »

เรื่องของหลิวเพ่ยหลิงนี่เหนือความคาดหมายไปมากเลยค่ะ ลู่น้อยมีพี่สอง พ่อสอง และแม่อีกสอง ถูกไหมคะ หยางหลงน่าจะต้องเหนื่อยมากเลยนะคะ กว่าจะได้ลู่ไปอยู่ด้วยกัน
ตอนนี้ แค่ลู่บอกว่า หนาว แล้วก็ยิ้มกว้าง ก็รู้สึกว่าน่ารักมาก งือ หลง :o8:

ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4
Re: Sunrise in the forest บทที่9 (P9-240260)
«ตอบ #263 เมื่อ01-03-2017 00:03:19 »

สนุกมากๆๆเลย

ออฟไลน์ piggyfree

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่9 (P9-240260)
«ตอบ #264 เมื่อ03-03-2017 14:44:26 »

อยากรู้จัก สามหยางน้อย แล้ว
เรารออยู่นะ  เราคิดถึง.... 

ออฟไลน์ noteno

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่9 (P9-240260)
«ตอบ #265 เมื่อ03-03-2017 17:39:25 »

 :katai5: :katai5:
มารอกวางทอง

ออฟไลน์ rinia

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่9 (P9-240260)
«ตอบ #266 เมื่อ03-03-2017 18:34:04 »

มารอกวางทอง

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่9 (P9-240260)
«ตอบ #267 เมื่อ06-03-2017 09:26:11 »



ก๊อกๆๆๆ มารอแล้วจ้า 
:กอด1:

ออฟไลน์ noteno

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่9 (P9-240260)
«ตอบ #268 เมื่อ06-03-2017 11:45:57 »

ดัน มะดันดอง ตี1ตี2 ปลุกน้องขั้นมาดัน....

ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: Sunrise in the forest บทที่9 (P9-240260)
«ตอบ #269 เมื่อ07-03-2017 19:25:26 »

ดันๆๆมารอน้องกวางของเรา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด