Sunrise in the forest บทที่ 40 (ตอนจบ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Sunrise in the forest บทที่ 40 (ตอนจบ)  (อ่าน 148657 ครั้ง)

ออฟไลน์ lilowria

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: Sunrise in the forest บทที่7 (P7-070260)
«ตอบ #210 เมื่อ14-02-2017 04:00:32 »

ท่านแม่กวาง มาพาลู่น้อยกลับไปเร็ว ท่านพ่อเสือไม่ส่งคนมาดูแลลู่เลย

ออฟไลน์ lilowria

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: Sunrise in the forest บทที่7 (P7-070260)
«ตอบ #211 เมื่อ14-02-2017 04:00:58 »

สงสารลู่

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่7 (P7-070260)
«ตอบ #212 เมื่อ14-02-2017 09:11:14 »

ก๊อกๆๆๆ วันนี้จะมาไหมเอ่ยย  :L1:

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
Sunrise in the forest บทที่8 (P8-140260)
«ตอบ #213 เมื่อ14-02-2017 12:53:50 »

ภาคกวางทอง

บทที่แปด

ลู่ยังคงไม่รู้สึกเดือดร้อนกับการที่ต้องย้ายที่พักมาอยู่ที่ห้องขังชั่วคราวของศาลาว่าการเมืองสักเท่าใดนัก เพราะแม้ห้องขังนี้จะอยู่ใต้ดิน แต่ยังมีช่องหน้าต่างเล็ก ๆ อยู่เกือบชิดผนังด้านบน คอยรับแสงอาทิตย์ที่ลอดผ่านเข้ามา และลู่ก็มีความพึงพอใจอย่างยิ่งกับหน้าต่างและแสงสว่างนั้น กับยังมีเพื่อนร่วมทุกข์ที่อยู่ในห้องใกล้กัน พวกเขาเป็นนักโทษจากคดีฉ้อโกงที่ถูกคุมขังเพื่อรอเวลาส่งตัวให้เจ้าพนักงานจากเมืองของผู้ฟ้องร้องมารับตัวไปพิจารณาโทษ
ลู่รู้เรื่องราวมากมายของเมืองลั่ว และชาวเมืองลั่วก็จากนักโทษเหล่านี้
ส่วนนักโทษในคดีอาญาและคดีอื่น ๆ ที่ต้องรับโทษคุมขังเป็นเวลานาน จะถูกแยกไปคุมขังที่เรือนจำอีกหลังหนึ่ง

ไม่มีผู้ใดในเมืองลั่วที่ไม่รู้ว่าหยางติงเป็นสามีที่เกรงใจฮูหยินเป็นอย่างมาก และหลายคนมีความเห็นว่าแม้หยางหลงเจ้าเมืองลั่วคนปัจจุบันจะเป็นผู้ที่มีความสามารถ แต่พวกเขากลับเห็นว่าหยางเฉิงมีความเป็นผู้นำมากกว่าหยางหลง
"หยางหลงทำเป็นแต่เจรจาให้คนเลิกขัดแย้งกัน แต่หยางเฉิงจะลงโทษทั้งคู่" นักโทษคนหนึ่งกล่าวอย่างผู้ที่รู้จักพี่น้องของเจ้าเมืองเป็นอย่างดี

ส่วนที่จวนเจ้าเมืองหลังจากที่เจ้าพนักงานพาลู่ไปที่ศาลาว่าการเมือง หยางหลงอุ้มร่างของหยางเจียเจิงไปที่เรือนต้นบ๊วย เพื่อรอเจ้าอาวาสจากอารามหลวงประจำเมืองลั่วมาประกอบพิธีในขั้นตอนแรก จากนั้นจึงจะนำร่างไปที่อารามหลวงเพื่อประกอบพิธีสำคัญก่อนนำไปฝังที่สุสานประจำตระกูลต่อไป

หลังจากที่เจ้าอาวาสอารามหลวงเดินทางมาถึงและกำลังจะเริ่มทำพิธี พ่อบ้านของจวนเจ้าเมืองลั่วเข้ามาป้องปากกระซิบบอกกับหยางหลง ว่าคนรับใช้ช่วยกันจับกุมหญิงรับใช้คนหนึ่งไว้และนำไปส่งไว้ที่สำนักของมือปราบแล้ว รอให้ไปสอบถามด้วยตนเองเมื่อเสร็จเรื่อง
พ่อบ้านผู้นี้เป็นผู้ที่ทำงานมานาน ยามเมื่อป้องปากกระซิบบอกก็หาได้เหลียวมองซ้ายขวา น้ำเสียงก็อยู่ในระดับที่มีเพียงหยางหลงเท่านั้นที่ได้ยิน ทั้งแจ้งเรื่องราวอย่างรวบรัด ชัดเจน เสร็จเรื่องก็ล่าถอยออกไป
เหอหลินจื้อที่คอยเฝ้าจับตามองจึงอดไม่ได้ที่จะเดินเข้ามาเลียบเคียงถาม
"ท่าทางจะมีเรื่องด่วนให้หลานต้องไปจัดการ"
"มีเรื่องด่วนอยู่จริง แต่หลานอยากทำหน้าที่นี้ก่อน" หยางหลงตอบขณะที่มองหลิวเพ่ยหลิงร้องไห้อยู่ใกล้กับร่างของหยางเจียเจิง โดยมีอี๋อิงภรรยาสามของหยางเฉิงคอยปลอบโยน ขณะที่หยางเจิ้นขุยบุตรชายคนเล็กไปอยู่กับชุนผิงภรรยาเอกของหยางเฉิง ที่มาช่วยจัดการงานต่าง ๆ
ส่วนเหอชินรุ่ยดวงตาแดงก่ำแต่ปราศจากน้ำตาคอยมองตามการเคลื่อนไหวของเหอหลินจื้อ จากนั้นจึงหันมามองหยางติงที่หารือกับเจ้าอาวาสเกี่ยวกับพิธีการและสิ่งของที่ต้องจัดเตรียม
แต่นางมิได้มองร่างไร้วิญญาณของหยางเจียเจิง และไม่ได้มองหลิวเพ่ยหลิง

เลขาของเหอหลินจื้อเข้ามาป้องปากกระซิบกับเจ้านาย หยางหลงจึงหันมากล่าวคำ
"ดูท่า ท่านลุงก็มีเรื่องด่วนให้ต้องไปจัดการเช่นกัน"
เหอหลินจื้อฝืนยิ้ม "มิใช่เรื่องด่วนอันใด"
"อาจเพราะมีคนที่จัดการให้แล้ว"
"เมื่อเราเป็นผู้นำ ย่อมหมายถึงการที่เรามีคนจัดการเรื่องให้โดยที่มิต้องลงมือลงแรงเอง"
หยางหลงพยักหน้า "นั่นเป็นเรื่องที่หลานยังต้องเรียนรู้จากท่านลุงอีกมาก"
"ลุงพร้อมที่จะช่วยหลานจัดการแก้ไขปัญหาทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในที่นี้ ประหนึ่งว่าเป็นบ้านของลุงเอง เพราะแท้จริงแล้ว เมืองเหอ เมืองลั่วก็เป็นเครือญาติที่ใกล้ชิดอย่างยิ่ง" น้ำเสียงของผู้อาวโสเปี่ยมไปด้วยความเมตตา "ในการดำเนินความสัมพันธ์ใด ๆ ก็ตามย่อมมีทั้งที่เป็นทางการลงลายลักษณ์อักษร และมีความร่วมมือกันในรูปแบบของความไว้วางใจ จริงอยู่ยามนี้ไม่ควรที่จะมาพูดคุยกันเรื่องการเมือง แต่ก็อยากแจ้งไว้ในเบื้องต้นนี้ว่า ในฐานะที่ลุงเป็นตัวแทนเจ้าเมืองเหอ มาแสดงความยินดีต่อเจ้าเมืองคนใหม่ ลุงย่อมมีอำนาจที่จะตัดสินใจพักเรื่องหนังสือแสดงความภักดีไว้ จะกลับไปแจ้งต่อเจ้าเมืองเหอว่าการตัดสินใจของเจ้าเมืองลั่วมีปัจจัยซับซ้อน แต่เพราะเราเป็นญาติกัน พวกเราย่อมสามารถพูดคุยเจรจากันได้"

เจ้าเมืองลั่วพยักหน้าด้วยความเข้าใจ
...เข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำกล่าวที่แสดงถึงความสนิทสนมเหล่านั้น...

"ที่นี่ยังมีงานมากมายรออยู่ข้างหน้าให้เจ้าจัดการ ลุงจะอยู่ช่วยหลานดูแลเรื่องราวต่าง ๆ จนกว่าจะคลี่คลาย"
หยางหลงหันมาเลิกคิ้วสูงในเชิงถาม เหอหลินจื้อก็กล่าวต่อ "ก็เรื่องสาเหตุการเสียชีวิตของเจิงเอ๋อร์นี่อย่างไร การที่คนผู้หนึ่งจะวางยาพิษเพื่อสังหารใครสักคนมันต้องเป็นเรื่องที่สร้างความคับแค้นใจต่อกันยิ่งนัก แล้วนี่ได้ยินมาว่า เด็กคนนั้นเป็นคนที่มาจากเมืองหลวง หากเรื่องราวมันส่อแววว่าจะวุ่นวาย ลุงก็พร้อมที่จะสนับสนุนหลานในทุกเรื่อง รวมถึงเรื่องการทหาร"

เหอหลินจื้อไม่เคยเรียกตนเองว่าลุง และไม่เคยเรียกอีกฝ่ายว่าหลาน แต่ครานี้กลับใช้ถ้อยคำสรรพนามเหล่านี้ ทั้งยังมีคำกล่าวที่ค่อย ๆ จูงเข้าสู่เรื่องการทหารก็ทำให้ทุกคนในเรือนโปร่งหลังนี้ หันไปมองเหอหลินจื้อสลับกับหยางหลง
แต่หยางหลงก็เพียงกระแทกลมหายใจในลำคอคราหนึ่งเป็นคำตอบ
มิได้กล่าวคำ
มิได้พยักหน้า
และมิได้ส่ายหน้า

เสร็จจากพิธีการต่าง ๆ เวลาก็ผ่านไปถึงยามค่ำ เนื่องจากชาวเมืองลั่วมากมายทยอยเดินทางมาร่วมไว้อาลัยที่อาราม แต่ร่างของหยางเจียเจิงยังต้องบรรจุเก็บไว้ที่โรงเก็บศพทางด้านหลังของวัด เพื่อให้พนักงานสอบสวนและมือปราบมาตรวจสอบซ้ำ โดยคาดว่าจะสามารถนำไปฝังที่สุสานประจำครอบครัวได้ภายในสามวันข้างหน้า

เมื่อกลับมาที่จวนเจ้าเมือง หยางหลงอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วไปสั่งงานไว้กับพ่อบ้าน จากนั้นจึงกลับมาที่สำนักมือปราบเพื่อสอบปากคำหญิงรับใช้ เสร็จแล้วจึงมาที่ศาลาว่าการเมือง ซึ่งเป็นเวลาที่ดึกมากแล้วแต่พบว่าลู่ยืนรออยู่ที่ประตู ทั้งที่เจ้าพนักงานไม่ได้ร้องขานล่วงหน้า ว่าเจ้าเมืองมาที่นี่
รอยยิ้มสดใสแบบนั้น คือความมั่นใจว่า ลู่รู้ว่าหยางหลงจะมาหา และรออยู่
แต่เมื่อหยางหลงมองไปรอบห้องขังก็ยิ่งทุกข์ใจมากกว่าเดิม
สีหน้าหม่นหมอง หลังงองุ้มขณะที่รับฟังรายงานจากผู้คุมว่าสถานการณ์ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี และลู่กินผลไม้ตามที่จัดเตรียมไว้ให้ ไม่ได้ร้องขอสิ่งใดเพิ่มเติม
นักโทษในห้องติดกันร้องถามเจ้าเมืองว่าเกิดอะไรขึ้นกับเมืองลั่ว ถึงได้ต้องจับกุมเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ไม่สามารถแยกแยะระหว่างคนดีกับคนเลวได้

ช่างเป็นคำถามที่เต็มไปด้วยคำตำหนิ ที่ตรงไปตรงมา และชัดเจนยิ่งนัก!

หยางหลงไม่ตอบคำถาม ก้มหน้าก้าวเข้ามาในห้องขังแล้วนั่งลงข้างลู่บนเตียงไม้ เด็กหนุ่มเอียงหน้ามองอีกฝ่ายแล้วอวดชุดนักโทษสีขาว
"เสื้อชุดนี้ตัวใหญ่มาก ข้าเดินแล้วขากางเกงมันลากพื้น เลยพับขึ้นมา" ยิ้มกว้างเช่นนี้ ทำให้หยางหลงอยากโอบกอดไว้ให้แน่น แล้วพาออกไปจากที่นี้
"ข้าผิดต่อเจ้ามาก" ชายหนุ่มไม่กล้าแม้แต่จะมองตาอีกฝ่ายเมื่อกล่าวคำ
"ก็แค่ขากางเกงมันยาวไปเท่านั้นเอง" ลู่หัวเราะเสียงเล็ก ๆ "ไม่เห็นต้องรู้สึกผิดเลย"
คนตัวใหญ่ยิ้มขมขื่น ที่ผ่านมาน้ำเสียงพูดคุยเช่นนี้ เสียงหัวเราะเช่นนี้ จะทำให้อารมณ์ดีได้ทันที แต่ครานี้สามารถลดน้ำหนักที่บ่าไหล่ลงไปได้เล็กน้อยเท่านั้น

ลู่ขยับเข้ามานั่งเบียดแล้วเอนศีรษะพิงต้นแขนใหญ่ของอีกคน ครู่หนึ่งจึงกล่าวคำ
"ข้าไม่เป็นไร เพียงแต่ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องทำร้ายเจิงเอ๋อร์ ทำไมจึงได้ชี้นิ้วกล่าวโทษข้าง่ายดายนัก แต่ไม่ได้โกรธ"

ตั้งแต่จำความได้ เจ้าลู่กวางน้อยแห่งป่าสีทองรู้แต่เที่ยวเล่นไปวัน ๆ และถูกตามใจมาโดยตลอด อาจน้อยใจ หรือแง่งอนในบางครา ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นกับตนเองในเวลานี้ก็ไม่คิดโกรธ
"ฮูหยินเป็นอย่างไรบ้าง"
"นางเสียใจมาก" หยางหลงเลื่อนตัวนั่งพิงผนังห้อง "มันยากที่จะเชื่อว่า เมื่อเช้าพวกเรายังกินอาหารร่วมกัน หลังจากที่แยกจากกันไปชั่วครู่หนึ่ง เจิงเอ๋อร์ก็ไม่อยู่กับพวกเราแล้ว"
เจ้าเมืองลั่วเงยหน้ามองช่องหน้าต่างในห้องใต้ดิน แม้จะเป็นเวลากลางคืนก็ยังเหมือนมองเห็นทุกสิ่งที่อยู่ภายนอก ผ่านไปครู่ใหญ่จึงกล่าวขึ้น
"เป้าหมายที่แท้จริงคือเจ้า ไม่ใช่เจิงเอ๋อร์"
ดวงตาสีทองที่เต็มไปด้วยคำถามมองหน้าผู้พูด ต่อไปที่ผู้คุมที่ยังอยู่ด้านนอกห้อง และนักโทษในห้องถัดไปจากนั้นก็กลับมาที่คนพูดอีกครั้ง
"เจ้าพนักงานตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าผลไม้ที่เจิงเอ๋อร์กินมียาพิษเคลือบอยู่ แต่ปกติแล้ว ทั้งเจิงเอ๋อร์และขุยเอ๋อร์ ล้วนชอบกินขนมหวาน ในบรรดาลูกหลานในที่นั้นมีเพียงเจ้าคนเดียวที่กินผลไม้"
ลู่พยักหน้ารับทราบถ้อยคำของหยางหลง มิรู้ว่าควรกล่าวถ้อยคำใด
"ขอโทษ"
"ข้าต่างหากที่ต้องขอโทษเจ้า ทำให้ต้องมาเกี่ยวพันกับเรื่องนี้"
ลู่เอียงหน้าด้วยความไม่เข้าใจ "ข้าคือเป้าหมายของคนร้าย แต่ทำให้เจิงเอ๋อร์เสียชีวิต ดังนั้น ข้าก็สมควรกล่าวคำขออภัยต่อท่าน"
หยางหลงมีท่าทีจะกล่าวคำแย้ง ลู่ก็รีบขัดขึ้น "ท่านไม่รับคำขออภัยจากข้าหรือ"
ชายหนุ่มตัวใหญ่มีสีหน้าลำบากใจ "ข้าไม่อาจรับไว้ เพราะเรื่องราวเหล่านี้ไม่ใช่ความผิดของเจ้า"
หนุ่มน้อยพยักหน้าอีกครั้ง แล้วกล่าวอย่างจริงจัง "เช่นนั้นข้าก็อยากขอให้ท่านไต่สวนคดีและให้ความเป็นธรรมกับเจิงเอ๋อร์"
"เรื่องนั้นย่อมแน่นอนอยู่แล้ว" มือใหญ่ที่จับมือเรียวยาวของลู่ไว้ เพิ่มน้ำหนักมือแรงขึ้น "หากแม้แต่บุตรของข้าเอง ข้ายังให้ความเป็นธรรมมิได้ ข้าก็ไม่สมควรเป็นเจ้าเมืองลั่ว"

แต่เมื่อดวงตาสองคู่มองสบกันต่างรู้ดีว่า มีความจริงบางอย่างที่ยากจะเอ่ยปากออกมา
การหาความเป็นธรรมให้กับเจิงเอ๋อร์ มิได้ยากเท่ากับการทำให้ทุกคนยอมรับความจริง

ลู่พยักหน้านิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวคำ "ตอนนี้.....ดึกมากแล้ว"
"ง่วงแล้วหรือ"
"ยังหรอก" ลู่เกาแก้มของตนเอง "แต่....ดึกแล้ว"
"ข้าจะรอจนกว่าเจ้าจะหลับ จึงจะกลับไป" หยางหลงเลื่อนตัวมานั่งที่ขอบเตียง เพื่อให้ลู่นอนด้านใน
เด็กหนุ่มส่ายหน้ายิ้มอ่อนให้กับความดื้อดึงเพียงไม่กี่เรื่องของอีกฝ่ายแล้วขยับตัวลงนอน
ผ้าห่มในห้องขังมีเนื้อผ้าบาง หยางหลงจึงหันไปขอผ้าห่มเพิ่มจากเจ้าหน้าที่
"นักโทษขอผ้าห่มเพิ่มได้ด้วยหรือ" ลู่ถามยิ้ม ๆ
"ได้สิ" หยางหลงตอบ "ยิ่งดึกอากาศยิ่งหนาวเย็น อีกอย่าง คนเมืองลั่วมิได้ใจร้ายกันไปหมดทุกคนหรอกนะ"

ท่ามกลางความเงียบที่เข้าปกคลุม ลู่กระซิบบอก "หากท่านมีถ้อยคำที่อยากพูดกับใครสักคน ขอให้ข้าเป็นคนนั้นได้ไหม"
มือใหญ่ของหยางหลงลูบผมนิ่ม พลางส่ายหน้า ลู่จึงกล่าวต่อ
"ความทุกข์ใจเก็บไว้ในใจนาน ๆ มันอาจกลายเชื้อโรคร้ายที่กลับมากัดกินสุขภาพร่างกายของท่านได้"
ชายหนุ่มยิ้มอย่างอ่อนล้าและส่ายหน้าอีกเช่นเดิม ทำให้ลู่สรุปขณะที่หลับตาลง
"ยังไม่อยากกล่าวตอนนี้ก็ไม่เป็นไร ขอให้รู้ว่าข้าพร้อมที่จะเป็นผู้รับฟังเสมอ"

ในยามเช้า ลู่ก็พบว่าหยางหลงนอนหลับอยู่ที่หน้าเตียงไม้ในห้องขังนั่นเอง
ชายหนุ่มตัวใหญ่ผู้เป็นเจ้าเมืองลั่ว ใช้ม้วนผ้าห่มหนุนนอนแทนหมอน และไม่มีผ้าห่ม เมื่อลู่ขยับตัวตื่นขึ้น หยางหลงก็ตื่นขึ้นทันทีเช่นกัน
"กลับไปดูขุยเอ๋อร์กับฮูหยินเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วงข้า"
"แต่เป้าหมายของคนร้ายคือเจ้า"
ลู่ยิ้มให้กำลังใจ บอกว่า เมื่ออยู่ในที่นี้คนร้ายตัวจริงคงไม่บุกเข้ามาก่อเหตุได้ หยางหลงจึงจำใจต้องกลับไป เพื่อที่จะกลับมาอีกครั้งในตอนค่ำ และนอนหน้าเตียงไม้ทุกคืน
 
ส่วนหยางเฉิง กับหยางไห่ก็มาเยี่ยมเช่นกัน
หยางเฉิงนั้น หลังจากที่ไปรับของที่สั่งไว้ที่หมู่บ้านนอกเขตเมือง ก็เดินทางไปทำการค้าต่อ แต่เมื่อรู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นจึงรีบกลับมา และให้คำมั่นว่าจะช่วยหยางหลงไต่สวนเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ส่วนหยางไห่ที่มีนัดจะต้องเดินทางไปตรวจบัญชีการค้าที่เมืองทางใต้ ก็เลื่อนกำหนดการเดินทางออกไปก่อน
ขณะที่หยางติงมาเยี่ยมหนึ่งครั้งเพื่อกล่าวคำขออภัยและแจ้งว่าจะไปถือบวชสักหลายวัน
"ท่านไม่ควรทำเช่นนั้น"
เมื่อเห็นว่าหยางติงถอดใจ ซึ่งนับเป็นสิ่งที่ผิดวิสัยผู้ที่เป็นผู้นำ ลู่จึงให้กำลังใจไปอีกหลายคำและขอให้ช่วยหยางหลงจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นก่อน
"ข้าติดตามท่านไปที่นั่นที่นี่อยู่หลายวัน ทราบว่าท่านมีความต้องการละวางทุกสิ่ง แต่ขอให้เห็นแก่เจิงเอ๋อร์ที่จากไป มอบความเป็นธรรมให้แก่เขาก่อนเถิด"
สุดท้ายหยางติงจึงพยักหน้ารับคำว่าจะช่วยสืบสวนเรื่องนี้ก่อนที่จะวางมือจากทุกสิ่ง 
ขณะที่ในแต่ละวันของหยางหลงเจ้าเมืองลั่วยังคงดำเนินไปด้วยความเคร่งเครียดกับการสอบสวน วุ่นวายอยู่กับการต้อนรับผู้ที่มาแสดงความยินดี และส่งหนังสือรับทราบเรื่องการเปลี่ยนผู้ดำรงตำแหน่งเจ้าเมือง จากนั้นก็คือการตรวจตราความสงบเรียบร้อยของเมืองลั่ว

วันหนึ่งลู่จึงได้รับทราบว่ามีการฝังศพหยางเจียเจิงแล้ว จากนั้นก็รับทราบว่าหญิงรับใช้คนหนึ่งรับสารภาพว่าเป็นคนวางยาพิษที่ผลไม้ และถูกคุมขังไว้ที่ห้องขังอีกแห่ง
และหลายวันถัดมา หยางหลงก็พาคนผู้หนึ่งมาที่ห้องขัง
ชายหนุ่มผู้นี้มีอายุไม่ถึงยี่สิบห้าปี สวมเครื่องแบบทหาร รูปร่างสูงเท่ากับหยางหลง แต่ผอมกว่ามาก ความกว้างของไหล่เล็กกว่าหยางหลงมากกว่าหนึ่งคืบ แต่มีองค์ประกอบของใบหน้าที่จัดว่าเป็นชายรูปงามผู้หนึ่ง ตรงข้ามกับหยางหลงที่มีใบหน้าหล่อเหลาคมเข้ม

ทันทีที่ผู้คุมเปิดประตูห้องขัง ชายหนุ่มผู้นี้ก็กล่าวขึ้นทันที
"บิดาเจ้าต้องฆ่าข้าแน่ ๆ"
ลู่กระพริบตามองคนที่ก้าวเข้ามาในห้อง ไอเทพจาง ๆ ของเทพเสือโคร่งที่ปกคลุมอยู่บ่งบอกว่าเป็นผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับบิดา
"ท่านคือแม่เล็กหรือ"
ผู้ที่เพิ่งมาถึงยกยิ้มมุมปาก "รู้สึกแปลก ๆ เหมือนกันนะที่ถูกเรียกแบบนี้" ไม่เพียงกล่าวคำ คนผู้นี้ยังอุ้มลู่ขึ้น แต่หยางหลงกลับขยับเข้ามาหา
"ท่านรองแม่ทัพ ขออภัย"
หยางหลงสีหน้าเรียบตึงฉวยลู่ไปจากมือของรองแม่ทัพ แล้วก็เดินนำออกมาจากห้องขังในทันที
ลู่ชะโงกหน้าข้ามไหล่หนาเพื่อร้องบอกคนที่เดินตามมา "แม่เล็กอย่าถือสา เขาขี้หวง"
รองแม่ทัพที่ลู่เรียกว่าท่านแม่เล็กหัวเราะเบา ๆ เอื้อมมือไปแตะที่หน้าผากของคนช่างพูด "เจ้ารู้จักเดือดร้อนกับใครเขาบ้างไหม"
ลู่ทำปากยื่น หันไปมองหยางหลง ก็พบว่ากำลังมีรอยยิ้มกว้างเป็นคราแรกในรอบหลายวัน
"วันนี้ท่านก็ดีขึ้นแล้ว"
หยางหลงพยักหน้าอย่างมั่นใจ แต่นั่นทำให้ลู่มีคำถามในใจ ในช่วงหลายวันมานี้เกิดเรื่องขึ้นมากมาย แต่ต้องมีเรื่องอีกมากมายเช่นกันที่ยังไม่รู้

ในรอบหลายวันมานี้ย่อมเกิดเรื่องขึ้นมากมายจริง ๆ ในระหว่างที่เดินมาที่จวนเจ้าเมือง หยางหลงสรุปเรื่องราวอย่างรวบรัดให้ทั้งสองคนรับฟัง
หยางติง หลิวเพ่ยหลิงและหยางเจิ้งขุย สามคนย้ายไปพักอยู่ที่เรือนของหยางไห่เป็นการชั่วคราว
หญิงรับใช้ที่รับสารภาพว่าเป็นผู้วางยา เวลานี้นางถูกควบคุมตัวไว้ที่เรือนจำอีกแห่งหนึ่ง
เหอหลินจื้อ ท่านลุงผู้มาจากเมืองเหอ เข้ายึดครองจวนเจ้าเมืองไปโดยปริยาย เมื่อเขาเชื้อเชิญผู้สนับสนุนเมืองเหออีกหลายคนเข้ามาพัก โดยมีเหอชินรุ่ยเป็นธุระจัดการต้อนรับเป็นอย่างดี
ดังนั้น เมื่อหยางหลงเจ้าเมืองลั่ว รองแม่ทัพเฉินอวี้ และลู่เดินทางมาถึง จึงพบกับกลุ่มของเหอหลินจื้อออกมาเผชิญหน้าที่บริเวณลานด้านหน้าของเรือนหลังใหญ่
ดูท่าว่าการที่หยางหลงยอมถอยให้หลายก้าวในช่วงไม่กี่วันมานี้ จะทำให้อีกฝ่ายหลงลืมตนไปว่าเมืองลั่วเลือกที่จะภักดีต่อฮ่องเต้แห่งไท่ชาง มิใช่ฝ่ายเมืองเหอ

"มิทราบว่าท่านรองแม่ทัพเฉินอวี้ คิดดีแล้วหรือจึงได้ชิงตัวนักโทษคนสำคัญของเมืองลั่วเช่นนี้"
"ตลกแล้ว" รองแม่ทัพเฉินอวี้ทำเสียงขึ้นจมูก "ผู้ใดคือนักโทษกัน นี่คือเรื่องของผู้ใหญ่ที่ให้เด็กสองคนเป็นผู้รับเคราะห์"
"นักโทษจินลู่ผู้นี้สั่งการวางยาสังหารหยางเจียเจิงบุตรของหยางหลงเจ้าเมืองลั่ว ผู้สมรู้ร่วมคิดรับสารภาพแล้ว"
เหอหลินจื้อมีอาวุโสมากกว่ารองแม่ทัพเฉินมากกว่าสิบปี ทั้งมีความคิดต่อต้านฝ่ายเมืองหลวงมาตั้งแต่แรก จึงมิได้มีท่าทีเคารพอีกฝ่ายเลยสักนิด แต่รองแม่ทัพเฉินอวี้มิได้ถือสา เพราะในใจกำลังกังวลเรื่องอื่นมากกว่า
"ข้าพอจะเข้าใจแล้วว่าเหตุใดเจ้าจึงทำหน้าดั่งกินยาขมอยู่ตลอดเวลา" ไม่รอให้อีกฝ่ายกล่าวตอบก็พูดต่อ "พาลู่ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ข้าจะได้รีบพาเขากลับบ้าน"
หยางหลงยืนตัวตรงรับคำสั่ง แล้วรีบพาลู่เข้าไปภายในเรือนต้นส้มที่เป็นที่พักของตนเอง รองแม่ทัพเฉินอวี้จึงก้าวไปยืนขวางทุกคนไว้ที่บริเวณลานด้านหน้าเรือนหลังใหญ่ มิให้ใครตามเขาไปด้านใน ทั้งปล่อยให้พวกเหอหลินจื้อเอะอะโวยวาย จนกระทั่งมีคนไปเรียกหยางติง หยางเฉินและหยางไห่ให้มาที่จวนเจ้าเมือง ส่วนเหอชินรุ่ยก็มาถึงแล้วเช่นกัน
ในที่สุดกลุ่มผู้ที่อยู่ลานหน้าเรือนหลังใหญ่ ก็ถูกแบ่งออกเป็นสองฝ่ายที่ต่างก็โต้เถียงกันในเรื่องที่รองแม่ทัพเฉินอวี้พาลู่ออกมาจากเรือนจำ

แต่รองแม่ทัพเฉินอวี้ไม่โต้เถียงด้วย หันไปหาหยางติงแล้วเรียกให้มารับพระบรมราชโองการแบบไม่มีพิธีรีตองใด ๆ แต่ทันทีที่คำกล่าวนี้ออกจากปากทั้งหมดก็พากันนิ่งอึ้ง
"ทรงรับสั่งให้หยางไห่เตรียมตัวเดินทางเข้าเมืองหลวงไปทำงานรับใช้ แต่ยังไม่ต้องไปตอนนี้ เพราะทรงโปรดใบชาที่เขานำไปถวายอยู่มาก หากจะให้เดินทางไปเมื่อไหร่ จะมีผู้แทนพระองค์ถือพระบรมราชโองการมาอีกที" ไม่รอให้หยางติงถามคำถาม รองแม่ทัพก็กล่าวต่อ "ดูเหมือนพระองค์จะถูกคอกับท่านผู้เฒ่าหยางจงจินมิใช่น้อย"
หยางจงจินมีศักดิ์เป็นปู่เล็กของหยางหลง เดินทางเข้าเมืองหลวงตั้งแต่เมื่อครั้งที่บิดาของหยางติงรับตำแหน่งเจ้าเมืองเมื่อหลายปีก่อน
และเมื่อหยางติงเป็นเจ้าเมืองลั่ว หยางลี่ที่เป็นน้องชายคนรองก็เดินทางเข้าเมืองหลวงเช่นกัน พระบรมราชโองการฉบับนี้ที่กำหนดให้หยางไห่เข้าเมืองหลวง จึงทำให้ทุกคนประหลาดใจไม่น้อย
หยางเฉิงหันไปกอดหยางไห่น้องเล็กไว้แน่น "ต้องไม่ใช่เจ้า ข้าจะไปเข้าเฝ้าฯ เพื่อกราบทูลว่า ผู้ที่ควรเดินทางเข้าเมืองหลวงคือข้า"
"เป็นข้าก็ไม่เห็นเป็นไร ไม่แน่ว่าท่านอาอาจจะได้กลับมาเมืองลั่ว ท่านพ่อจะได้พบกับน้องชายแล้ว"

หยางติงกลับส่ายหน้า หันไปโอบไหล่บุตรชายทั้งสองไว้ "จะเป็นคนไหนก็ทำให้ข้าไร้ความสุขได้เหมือนกัน....."

แม้จะรู้มาแต่แรกว่าเมื่อส่งต่อตำแหน่งเจ้าเมืองให้กับหยางหลง จะต้องเสียบุตรหนึ่งคนให้กับฮ่องเต้ แต่เมื่อได้ทราบพระบรมราชโองการก็ยังรู้สึกใจหาย
รองแม่ทัพเฉินอวี้เกือบหลั่งน้ำตาให้กับความรักของหยางติงพ่อลูก แต่พอหันไปเห็นเหอชินรุ่ยน้ำตานั้นก็เหือดแห้งไปด้วยนางยังคงยืนอยู่ข้างพี่ชาย ด้วยสีหน้าที่พยายามสะกดความรู้สึกเสียใจที่บุตรชายจะต้องเข้าเมืองหลวง
....สตรีผู้นี้มีความดื้อรั้นมิใช่น้อย

"ยังไม่ได้ให้ไปในเวลานี้เสียหน่อย แค่มาเตือนว่าอย่าลืมส่งชาให้ตรงเวลาเท่านั้น อีกอย่างหากท่านจะไปเยี่ยมพวกท่านปู่หยาง ท่านอาหยางก็สามารถทำได้ทุกเมื่อ ถึงจะเป็นหยางไห่เมื่อเข้าเมืองหลวงไปแล้วพวกท่านก็สามารถไปเยี่ยมได้เสมอ เขาไปช่วยราชการหาได้ถูกจองจำ"

เหอหลินจื้อที่ไม่ชอบกฎระเบียบข้อบังคับมากมายของเมืองหลวงอยู่แล้วจึงพูดขัดขึ้นด้วยเสียงอันดัง
"ต่อให้ที่นี่เป็นเมืองหลวง ท่านก็ไม่อาจทำอะไรตามใจตนเอง จู่ ๆ ก็เดินเข้ามาชิงนักโทษ แล้วก็มาชี้สั่งผู้คนให้ต้องทำตาม นี่มันบ้าอำนาจชัด ๆ"

ว่าที่จริงเหอหลินจื้อมิได้อยู่ในสายของรองแม่ทัพเฉินอวี้มาตั้งแต่แรก อยากโวยวายหรือจะพูดอะไร รองแม่ทัพผู้นี้ก็หาได้ใส่ใจ เมื่อหยางหลงอุ้มลู่ที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดเดิมเดินกลับออกมา รองแม่ทัพเฉินอวี้ก็หันไปกล่าวทักกับหยางหลงว่าอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็วจริง แต่เมื่อก้าวเท้าได้เพียงสองก้าวเพื่อที่จะเข้าไปรับเด็กหนุ่ม แสงสีขาวพาดผ่านเบื้องหน้าอย่างฉับพลัน เมื่อแสงสีขาวหายไปกลับปรากฎชายรูปร่างสูงใหญ่ขึ้นแทนที่
ชายผู้นี้รูปร่างสูงใหญ่ยิ่ง ใบหน้ามีหนวดเคราสีเหลือง ทั้งสวมชุดสีเหลือง ขาวและดำ
ดวงตาสีเหลืองส่องประกายจนต้องมองซ้ำ จึงแน่ใจว่านั่นคือสีเหลืองหาใช่สีทอง
"เจ้าตัวแสบกลับบ้านได้แล้ว"
ทั้งรูปร่างและน้ำเสียงของชายผู้นี้ กดดันให้ฝ่ายเหอหลินจื้อรู้สึกว่าตนเป็นเพียงมดปลวก ทั้งกลายเป็นผู้ที่ไม่มีตัวตนไปในที่สุด เมื่อรองแม่ทัพเฉินอวี้สนทนากับผู้ที่เพิ่งมาถึงด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
"บอกให้ข้ามารับลู่กลับบ้าน แต่สุดท้ายก็ยังมาด้วยตนเอง"
"แม่เขารู้แล้วน่ะสิ ว่ามาหลบซ่อนอยู่ที่นี่ พวกเราต้องรีบไปแล้ว" เทพเสือโคร่งภูผาตรงเข้าไปหาหยางหลง "เสร็จเรื่องข้าจะกลับมาคิดบัญชีกับเจ้า"
ยังไม่ทันที่เทพเสือโคร่งภูผาจะสัมผัสถูกตัวลู่ กระแสลมแรงพัดกรรโชกขึ้นอีกครา เมื่อสายลมสงบลงพลันปรากฎสตรีรูปร่างสูงสง่าผู้หนึ่ง นางสวมชุดสีน้ำตาลทอง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน ที่เคียงข้างกันคือชายวัยกลางคนอีกผู้หนึ่งซึ่งสวมชุดสีขาวสว่าง
"กวางทอง! เจ้ามาหลบอยู่ที่นี่เองกลับบ้านกับแม่เดี๋ยวนี้!" นิ้วมือสวยชี้สั่งให้หยางหลงปล่อยลู่ลงเดินเข้ามาหานาง
"ท่านแม่"
เทพเสือโคร่งภูผาจะเข้าไปอุ้มบุตร แต่ถูกนางเทพกวางดุด้วยสายตาจนต้องชะงักเท้า ปล่อยให้ลู่เดินช้า ๆ เข้าไปหา
นางขมวดคิ้ว "เหตุใดเจ้ามีกลิ่นไอแปลก ๆ เจ้าไปที่ใดมากันแน่"
ลู่ยิ้มกว้าง  "ข้าไปอยู่เรือนจำมา"
"เรือนจำ!" นางเสียงดัง หันไปหาเทพเสือโคร่งภูผา "ตาแก่! เหตุใดกวางทองถึงไปอยู่ที่เรือนจำ!"
"ท่านพ่อไม่รู้เรื่องหรอก" ลู่กอดแขนมารดาไว้ "ข้าโง่เขลา และเลินเล่อจนทำให้ท่านเจ้าเมืองต้องสูญเสียบุตรชาย ท่านแม่ให้ท่านพ่ออยู่ช่วยท่านเจ้าเมืองสะสางเรื่องที่ข้าก่อไว้ก่อนได้หรือไม่"
"นี่เจ้า" นางดุบุตรชายแล้วหันไปมองหยางหลง "กวางทองทำเรื่องใหญ่ขนาดนี้"
"มิได้ขอรับ" หยางหลงกล่าวอย่างสุภาพยิ่ง "แท้จริงมีคนต้องการทำร้ายลู่ แต่บุตรชายของข้าน้อยเป็นผู้ที่กินผลไม้นั้น"
นางนิ่งอึ้งกอดบุตรชายไว้แน่นกว่าเดิม "เสียใจด้วย แต่หากกวางทองมิได้เกี่ยวข้อง ข้าก็จะพาเขากลับไป แล้วให้ตาแก่...เทพเสือโคร่งภูผาอยู่ช่วยเจ้าก่อน"
"ท่านแม่ ข้าหิวแล้ว ง่วงนอนมากด้วย กลับบ้านกันเถิด"
นางกระแทกเสียงขึ้นจมูก แล้วหันไปมองเทพเสือโคร่งภูผาด้วยสายตาอาฆาต จากนั้นก็หันไปมองรองแม่ทัพเฉินอวี้ ที่คลี่ยิ้มงามขณะที่คุกเข่าลงข้างหนึ่งเพื่อแสดงความเคารพ "ท่านใหญ่"
นางพยักหน้ารับการทำความเคารพนั้น

"แม่เล็กเป็นคนที่ไปพาข้าออกมาจากเรือนจำ"
"อ้อ..." นางหันไปที่เทพเสือโคร่งภูผา รองแม่ทัพเฉินอวี้ และหยางหลงเจ้าเมืองลั่วอีกครั้ง "เช่นนั้นก็รีบจัดการเรื่องที่นี่โดยเร็วแล้วกลับไปพบข้าที่ป่าสีทอง"
ลู่หันไปหาชายวัยกลางคนสวมชุดสีขาวอีกคนที่ด้านหลังมารดา "ท่านพ่อกวาง ข้าอยากกลับบ้านแล้ว"
"เจ้าเด็กวุ่นวายเอาแต่ใจ ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน" มารดาหันกลับมาดุบุตรชาย จากนั้นจึงมีสายลมแรงพัดเข้ามา ทั้งสามก็หายไป

เป็นการมาและไปกับสายลมอย่างแท้จริง

เหอชินรุ่ยกล่าวถ้อยคำแทนใจทุกคนในที่นี้ "นี่มันเกิดเรื่องใดขึ้น"
หยางติงเดินเข้าไปจับมือนางไว้ "ข้าบอกต่อเจ้าหลายครา ว่าคุณชายลู่มิได้เป็นบุตรของข้า" ชายสูงวัยหันไปหาเทพเสือโคร่งภูผาแล้วกล่าวอย่างนอบน้อม "กราบเรียนท่านเทพ เรื่องที่จะไต่สวนการเสียชีวิตของหยางเจียเจิง หลานชายของข้าน้อย ข้าขอให้เป็นการสอบสวนลับได้หรือไม่ขอรับ"

เทพเสือโคร่งภูผาพยักหน้าเห็นชอบตามนั้น การสอบสวนจึงมีขึ้นที่เรือนรับรองด้านใน ซึ่งยามนี้มีการจัดเรียงโต๊ะตัวเตี้ยสองตัวต่อกัน และจัดเบาะที่นั่งอีกหลายเบาะไว้ที่ด้านข้าง

(มีต่อ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-04-2017 10:32:58 โดย MyTeaMeJive »

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
Sunrise in the forest บทที่8 (P8-140260)
«ตอบ #214 เมื่อ14-02-2017 12:58:52 »

(ต่อ)

เทพเสือโคร่งภูผาเห็นว่าที่นี่คือเมืองลั่ว แม้หยางหลงเจ้าเมืองลั่วจะเป็นบิดาของผู้เสียชีวิต แต่ก็สมควรทำหน้าที่ของเจ้าเมือง ดังนั้นด้านซ้ายของโต๊ะจึงเป็นเทพเสือโคร่งภูผากับรองแม่ทัพเฉินอวี้ ในฐานะตัวแทนของลู่
ส่วนทางฝั่งขวามือมีทั้งหยางติง เหอชินรุ่ย หลิวเพ่ยหลิง ส่วนเหอหลินจื้อและตัวแทนจากอีกหลายเมือง ร่วมนั่งฟังคดีอยู่ด้านหลัง
จากนั้นหญิงรับใช้ที่ถูกระบุว่าเป็นผู้วางยาก็ถูกนำตัวเข้ามา พร้อมด้วยเซียงเซียงและเสี่ยวเป่าสองพี่น้อง
สุดท้ายคือหยางเฉิง และฮูหยินทั้งเจ็ดคน
เมื่อคนกลุ่มนี้มาถึงเหอชินรุ่ยก็ขยับนั่งตัวตรง ดวงตายังจับจ้องอยู่ที่พี่ชาย

หยางหลงเริ่มการพิจารณาคดีด้วยการกล่าวถึงเหตุการณ์ในวันที่เกิดเหตุอีกครั้ง จากนั้นจึงสอบถามสองพี่น้องเซียงเซียงและเสี่ยวเป่าเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เซียงเซียงเป็นผู้ตอบ "ข้าเข้าไปในครัว พบว่ามีการจัดผลไม้ไว้สำหรับคุณชายลู่เสร็จแล้ว พี่ซู่ซู่ผู้นี้" นางชี้ไปที่หญิงรับใช้ "บอกว่านางเป็นผู้จัดเรียงเองให้ข้ายกออกมาได้ เมื่อมาถึงที่ศาลา คุณหนูทั้งหมดก็หยุดเล่นแล้วมารับของว่าง คุณหนูผู้หญิงสองคนกินขนมหวานจากในโถ ส่วนคุณหนูผู้ชายกินผลสาลี่ในถาดเช่นเดียวกับคุณชายลู่ ที่ผ่านมาคุณหนูทุกคนชอบกินขนมหวานพวกเราจึงจัดเตรียมขนมหวานไว้มากหน่อย และมีเพียงคุณชายลู่คนเดียวที่ชอบผลไม้ ดังนั้นเราจึงมีผลไม้เพียงห้าผล เมื่อข้าน้อยเห็นว่าผลไม้หมดแล้ว ข้าน้อยจึงเก็บถาดออกมา เพื่อที่จะนำไปจัดมาใหม่ แต่ถอยออกมาได้ไม่กี่ก้าว ก็ได้ยินเสียงร้องเรียก ด้วยคุณชายหยางเจียเจิงที่กัดกินผลไม้ไปแล้ว ล้มลงไปเจ้าค่ะ"
เทพเสือโคร่งภูผาถามขึ้น "เขากินผลไม้อะไร"
"ผลไม้ทั้งถาดคือสาลี่เจ้าค่ะ"
"เป็นสาลี่ทั้งห้าผลเลยหรือ"
"เจ้าค่ะ" เซียงเซียงอธิบายต่อ "ปกติข้าน้อยจะจัดผลไม้หลายชนิด แต่วันนี้พี่ซู่ซู่จัดไว้ให้แล้ว จึงยกมาก่อน ตั้งใจว่าอีกสักครู่จะกลับมาจัดเพิ่ม"
รองแม่ทัพเฉินอวี้ถาม "เจียเจิงหยิบผลไม้นั้นเอง หรือผู้ใดหยิบให้"
"เรื่องนี้ ไม่อาจบอกได้เจ้าค่ะ เพราะพอคุณหนูหยุดเล่น ก็ตรงเข้ามาหาของว่าง ตอนนั้นช่างสับสนยิ่งนัก ที่จำได้ชัดเจนก็คือคุณหนูผู้หญิงหยิบกันเอง เพราะได้ยินเสียงโต้เถียงกันว่า ผู้ใดต้องการขนมชิ้นใด ส่วนของคุณหนูผู้ชายไม่ได้โต้เถียงกัน เพราะมีผลไม้เพียงชนิดเดียว"
คำให้การเหล่านี้เป็นเรื่องราวในเบื้องต้นซึ่งเซียงเซียงเคยกล่าวให้การไปแล้วหลายครา

หยางหลงเปิดสมุดรายงานผลการตรวจสอบพิษที่ผลไม้แล้วส่งมอบให้กับเทพเสือโคร่งภูผา "สาลี่ที่เจียเจิงกินมีพิษอยู่ที่เปลือก ส่วนผลอื่นไม่มีขอรับ"
เทพเสือโคร่งภูผาพยักหน้า หันไปถามซู่ซู่ หญิงรับใช้ที่ยอมรับสารภาพ "แท้จริงเจตนาของเจ้าคืออะไร"
ซู่ซู่ก้มตัวลงเมื่อตอบคำถาม "เจตนาของข้าคือคุณชายลู่"
เทพเสือโคร่งภูผากำมือแน่น จนรองแม่ทัพเฉินอวี้ต้องจับข้อมือไว้ แล้วหันไปถามซู่ซู่ "เขาล่วงเกินอะไรเจ้าหรือ"
"หามิได้เจ้าค่ะ" ซู่ซู่ตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "ข้าเพียงไม่พอใจที่เขาทำตัวสนิทสนมกับท่านเจ้าเมืองอย่างยิ่งจนละทิ้งฮูหยิน ทั้งฟังว่าเขาคือผู้ที่มาจากป่าสีทอง พิษเพียงแค่นี้คงทำอันใดเขามิได้ แต่อย่างน้อยก็น่าจะเตือนเขาได้ว่า เขาทำเรื่องมิสมควรและมีผู้ที่มิพอใจเขาอยู่"
เรื่องราวในส่วนนี้ ทุกคนในที่นี้ล้วนเคยรับฟัง เมื่อมาได้ยินอีกครั้งก็ยิ่งแน่ใจ ว่านี่คือเรื่องที่สร้างขึ้นเพื่อให้หญิงผู้นี้รับผิดแต่เพียงผู้เดียว
รองแม่ทัพเฉินอวี้ถามขึ้น "เพียงเท่านี้เจ้าก็คิดวางยาฆ่าคน"
"หามิได้เจ้าค่ะข้ามิได้คิดวางยาฆ่าคน เพียงหวังให้เจ็บป่วย"
"เจ้าเชื่อเรื่องเทพแห่งป่าสีทองไหม" รองแม่ทัพเฉินอวี้เปลี่ยนคำถาม ซู่ซู่ลังเลแล้วพยักหน้า "รู้หรือไม่ว่าเจ้าล่วงเกินเทพแห่งป่าสีทอง"
ซู่ซู่ก้มหน้าลงสะอื้นไห้

หยางหลงหันมากล่าว "ในตอนแรกที่จับกุมตัวนางไว้ ก็ด้วยเซียงเซียงและเสี่ยวเป่าสองพี่น้อง รวมถึงคนงานในครัวระบุว่านางคือผู้ที่ล้างผลไม้และจัดเตรียม แรกสารภาพว่าต้องการวางยาคุณชายลู่ ต่อมานางเปลี่ยนคำสารภาพ โดยซัดทอดว่าคุณชายลู่สั่งการเพื่อหวังสังหารเจียเจิง"
"เจ้าเรียกลู่มาสอบถามหรือไม่" รองแม่ทัพเฉินอวี้ถาม
"ไม่ขอรับ ด้วยเซียงเซียงและเสี่ยวเป่า รวมถึงคนรับใช้ทั้งหมดต่างระบุว่าคุณชายลู่มิเคยพบหรือสนทนากับนางมาก่อน"
รองแม่ทัพเฉินอวี้หันมาหาซู่ซู่ "เจ้าไม่คิดหรือว่า แผนการหละหลวม และคำสารภาพที่กลับไปกลับมาเช่นนี้ หมายความว่าผู้บงการหวังจะสังหารเจ้าเมื่อเสร็จเรื่อง" น้ำเสียงเนิบช้าของรองแม่ทัพ กับเสียงสะอื้นของซู่ซู่ดังผสานกัน "คนบงการเจ้า ไม่เชื่อเรื่องเทพแห่งป่าสีทอง เขาต้องการกำจัดใครสักคนในที่นั่นเพื่อจุดชนวนความขัดแย้ง ส่วนตัวเจ้าเองก็ก้ำกึ่งมาตลอดว่าจะเชื่อดีหรือไม่ หากลู่เป็นเพียงเด็กที่หยางหลงบังเอิญพบเจอแล้วพามาด้วย สามารถซัดทอดลงโทษเขา แล้วเจ้าหลบหนีไปหรือถูกสังหารเพื่อปิดปาก เรื่องก็จะเงียบหายไป แต่แท้จริงแล้วเรื่องมิได้ง่ายดายเช่นนั้น เขาเป็นเทพจริง ๆ เรื่องที่เจ้าล่วงเกินเทพ ไม่เพียงเจ้าจะไม่รอด ครอบครัวก็อาจได้รับความเดือดร้อนไปด้วย คนบงการไม่มีแรงที่จะปกป้องครอบครัวของเจ้าได้หรอก ทุกคำสัญญาที่ให้ไว้ไม่อาจเป็นจริง เจ้าก็เห็นแล้วว่า ที่เทพเสือโคร่งภูผายังอยู่ที่นี้ ก็เพราะต้องการทวงความเป็นธรรมให้เจียเจิง แต่หลังจากนี้ เขาต้องคิดบัญชีคนที่ทำร้ายลูกเขาจนต้องไปอยู่ในเรือนจำแน่ ๆ เจ้ายังคิดจะปล่อยให้ผู้บงการเหล่านั้นรอดพ้น และยอมให้ครอบครัวของเจ้าต้องแบกรับชะตากรรมนี้จริงหรือ"

ถ้อยคำที่ทั้งขู่และปลอบไปพร้อมกันเช่นนี้ ทำให้ทุกคนแม้แต่เหอหลินจื้อยังต้องยอมรับและยกย่อง
คนผู้นี้อายุยังน้อยแต่ได้เป็นรองแม่ทัพ นี่ย่อมต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
ซู่ซู่เชื่อตามที่รองแม่ทัพเฉินอวี้กล่าว ว่าเมื่อเรื่องราวมาถึงตอนนี้แล้ว สุดท้ายก็จะมีแต่นางและครอบครัวที่ถูกลงโทษ นางจึงเงยหน้ามองหยางหลงเมื่อกล่าวคำ
"เป็นฮูหยินหกเจ้าค่ะ นางเล่าเรื่องของคุณชายลู่จากนั้นก็ให้ยามาห่อหนึ่ง บอกว่าเป็นเพียงการตักเตือน ไม่ถึงชีวิต หลังจากที่ส่งถาดผลไม้ออกไปจากครัวแล้วก็ให้รีบหลบหนีออกไป"

สีหน้าของหยางเฉิง และชุนผิงผู้เป็นฮูหยินใหญ่ล้วนบ่งบอกว่าพวกเขาสงสัยฮูหยินหกซูเหยาอยู่เช่นกัน และรู้ว่านางมีนิสัยเช่นใด หากพานางมาคนเดียวในวันนี้ เรื่องราวอาจยิ่งยืดเยื้อ จึงชักชวนฮูหยินทั้งหมดมาด้วย โดยอ้างว่าเป็นการมาร่วมฟังการพิจารณาคดี แต่แท้จริงคือการเตรียมพร้อมที่จะร่วมให้การ
ฮูหยินใหญ่บอกให้ฮูหยินหกขยับไปนั่งคุกเข่าข้างซู่ซู่ แรกนั้นนางมิยินยอม แต่เมื่อหยางเฉิงออกคำสั่งนางจึงขยับไป
คำแรกที่นางกล่าวออกมาย่อมเป็นการปฏิเสธว่ามิรู้เห็นสิ่งใดทั้งสิ้น ซู่ซู่จึงบอกว่า ฮูหยินหกให้คำมั่นว่า นางจะมอบเงินทองให้ร้อยตำลึง หรือหากถูกจับกุมตัวก็จะเพิ่มเป็นร้อยห้าสิบตำลึง โดยให้ยืนกรานซัดทอดว่าคุณชายลู่คือผู้สั่งการ จากนั้นนางจะช่วยขอลดโทษ เมื่อพ้นโทษออกมา นางจะฝากฝังให้ย้ายไปอยู่ที่เมืองเหอ
แม่ทัพเฉินอวี้ถึงกับชื่นชม "วางแผนลงมือหละหลวมยิ่งนัก แต่วางแผนหลบหนีกลับดียิ่ง สมควรที่จะคล้อยตามจริง ๆ"
เทพเสือโคร่งภูผาที่นิ่งฟังมานานส่งเสียงกระแทกในลำคอไม่เห็นด้วย แล้วถามขึ้น "เหตุใดต้องเป็นลู่น้อยของข้า"

น้ำเสียงดังก้องของเทพเสือโคร่งภูผากดดันทุกผู้คน โดยเฉพาะซู่ซู่และฮูหยินหกซูเหยาที่รู้สึกใกล้จะขาดใจตาย รองแม่ทัพเฉินอวี้ต้องเรียกถามฮูหยินหกซ้ำ
"เพราะ ข้าคิด คิดว่าเขาคือบุตรลับ ๆ ของท่านหยางติงเจ้าค่ะ"
หยางติงหันไปมองหน้าเหอชินรุ่ยที่กัดริมฝากแน่น
"ท่านแม่ มิได้เห็นด้วยกับเรื่องนี้เจ้าค่ะ เป็นข้าที่คิดประจบเอาใจเท่านั้น" เมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้ นางได้แต่กล่าวไปตามจริง "ทั้งท่านแม่ และข้ามาจากเมืองเหอ พวกเรามิเชื่อเรื่องเทพแห่งป่าสีทอง ผู้คนมากมายที่นี่ก็หาได้เชื่อเรื่องนี้ ทั้งคูณชายลู่ก็เป็น....เอ่อ...มีรูปร่างพิการ หาได้มีฤทธิ์เดช ไม่ว่าจะไปที่ใด ก็ต้องนั่งเกี้ยว ต้องให้นายท่านใหญ่ และท่านเจ้าเมืองดูแลตลอดเวลา ยิ่งทำให้ยากที่จะเชื่อได้ว่า เขาเป็นเทพหรือเป็นเพียงผู้ที่พลัดหลงแล้วตามท่านเจ้าเมืองกลับมา เขาก็ไม่น่าที่จะได้รับการดูแลพิเศษเยี่ยงนี้ แต่น่าจะเป็นผู้ที่มีความสำคัญยิ่งต่อนายท่านใหญ่มากกว่า ข้าเห็นท่านแม่เป็นทุกข์เรื่องนี้อย่างยิ่งจึงคิดเอาใจ กำจัดผู้ที่ทำให้นางเป็นทุกข์"
"ตกลงแล้ว เจ้าเพียงหวังให้เขาเจ็บป่วย หรือหวังให้ตาย" หยางหลงถามด้วยเจตนาในเรื่องนี้สำคัญต่อบทลงโทษ ซึ่งทั้งซู่ซู่ และฮูหยินหกต่างก็บอกเจตนาแตกต่างกัน
แต่ทั้งสองคนยังมิทันจะตอบหยางหลงก็กล่าวต่อ "เห็นทีจะเป็นชีวิต เพราะเจียเจิงกัดกินเพียงคำเดียวก็หาชีวิตไม่แล้ว"

สรุปแล้ว พวกเขาหวังสังหารลู่ แต่เมื่อหยางเจียเจิงเสียชีวิตก็คิดซัดทอดให้ลู่ โดยอ้างว่าลู่เป็นผู้ส่งผลไม้นี้ให้กับหยางเจียเจิง ซึ่งเรื่องนี้ มิมีผู้ใดที่ยืนยันได้ว่า ลู่ส่งผลไม้ให้หรือหยางเจียเจิงหยิบผลไม้นี้มากินเอง ด้วยในเวลานั้นมีเด็ก ๆอยู่หลายคน ทำให้มีความวุ่นวาย หยางหลงเคยถามลู่ในเรื่องนี้ ตอนที่อยู่ในห้องขัง ลู่บอกว่าเป็นหยางเจียเจิงหยิบขึ้นมาเอง

หยางหลงหันมากล่าวขออภัยต่อเทพเทพเสือโคร่งภูผา
"กราบเรียนท่านเทพ เรื่องนี้ยิ่งสืบสาวยิ่งพบว่า เกี่ยวข้องใกล้ชิดภายในครอบครัวของข้าน้อยเอง ทั้งในเวลานี้มีผู้คนมากมายมาเยี่ยมเยือน เรื่องราวบางอย่างไม่สมควรเผยแพร่ออกไป ลู่บอกไว้ว่า เขาขอให้ท่านมารับในอีกสองเดือน เอ่อ นับจนถึงตอนนี้ก็เหลือประมาณหนึ่งเดือน รอจนถึงเวลานั้น ผู้มาเยือนคงลดลงไปแล้ว ค่อยสอบสวนเขาที่ศาลาว่าการเมืองก็ได้"
"เด็กคนนั้น เป็นแบบนั้นแหละ" เทพเสือโคร่งภูผาถอนหายใจ "ทั้งที่ตนเองถูกใส่ความ กลับไปคิดเห็นใจคนที่ใส่ความตนเอง"
หยางติงหันกลับไปมองเหอชินรุ่ยที่นั่งอยู่ด้านหลัง ที่ขอกล่าวถ้อยคำ
"ข้ายอมรับว่ามิเคยเชื่อเรื่องที่คุณชายลู่มาจากป่าสีทอง แม้ท่านพี่จะยืนยันหลายครั้ง ก็คิดว่าเป็นเพราะคิดปิดบังเพราะข้าเกลียดชังครอบครัวที่มีหลายเมีย"

เมื่อกล่าวถึงตอนนีหยางเฉิงยิ้มมุมปาก ยังมีรองแม่ทัพเฉินอวี้ที่หันไปมองหน้าเทพเสือโคร่งภูผาที่กำลังยิ้มมุมปากเหมือนกับหยางเฉิง ทำให้ทุกคนหันมามองหน้ากัน
บรรยากาศที่กำลังตึงเครียดแปรเปลี่ยนไปดั่งมีเรื่องลับลมคมใน

รองแม่ทัพเฉินอวี้กระแอมไล่ลมในลำคอก่อนเล่าเรื่อง "เรื่องที่ท่านมิเชื่อว่าเทพแห่งป่าสีทองมีอยู่จริงนั้น เรื่องนี้เข้าใจได้ เพราะก่อนหน้านี้ข้าก็มิเชื่อเช่นกัน สาเหตุเกิดจากพวกเขามิชอบออกจากป่า และยิ่งมิชอบไปไหนไกลจากเมืองลั่ว เรื่องคนบ้านเดียวกันเดือดร้อนแทนกัน แม้จะดูไร้เหตุผลแต่ก็พบเจอบ่อย ๆ ส่วนอีกเรื่อง คือครอบครัวของลู่กวางทองซึ่งออกจะไม่เกี่ยวข้องกับที่นี้ แต่อาจขัดใจท่านฮูหยินมากที่สุด ด้วยมารดาของเขาคือนางเทพกวางสายลม แต่บิดาของเขาคือเทพเสือโคร่งภูผาผู้นี้" รองแม่ทัพผายมือมาที่เทพเสือโคร่งภูผา "เพราะบิดาและมารดาแตกต่างกัน ทำให้ลู่เติบโตช้ากว่าผู้อื่น ที่ท่านเห็นว่าเขาพิการนั้น ย่อมมิใช่ ลูกกวางโดยทั่วไปก็แขนขามิแข็งแรงอยู่แล้ว นางเทพกวางจึงเคี่ยวเข็ญฝึกฝนกวางทองให้แข็งแกร่งขึ้น" รอยยิ้มของรองแม่ทัพเฉินอวี้ดูไม่จริงใจเลยสักนิด "แต่ไม่ว่าจะเสือโคร่งหรือกวาง พวกเขาล้วนรักและเป็นห่วงกวางทองอยู่มาก ท่านเจ้าเมืองที่ให้คำมั่นไว้กับเทพเสือโคร่งภูผาจึงดูแลลู่เป็นอย่างดี ส่วนท่านหยางติง และบุตรอีกสองคนก็เป็นผู้ที่มีความเชื่อและศรัทธาต่อเทพแห่งป่าสีทองอยู่แล้ว ย่อมพร้อมที่จะดูแลด้วยความเต็มใจ นี่หาใช่เรื่องเกินเลยแต่อย่างใด แต่ปัญหาก็คือการคิดมากเกินไปของท่านได้ก่อให้เกิดผลเสียหายร้ายแรงตามมา"

"ฮูหยิน" หยางติงกล่าวด้วยความเสียใจ
"ข้าเพียงคิดว่าเขาคือบุตรของท่าน แต่มิได้สั่งการให้ทำร้ายใคร" เหอชินรุ่ยกล่าวแต่ละคำอย่างยากเย็น "ท่านบอกว่า อีกไม่กี่วันเขาก็จะกลับไป ข้าก็รอเพียงวันนั้น แต่อาจเพราะบ่นว่ามากเกินไป จนทำให้สะใภ้หกไม่สบายใจตามไปด้วย หากนางมีความผิดข้าก็ย่อมต้องมีความผิดเช่นกัน"
หยางหลงหันมาถามฮูหยินหกซูเหยา "เจ้าได้พิษมาจากที่ใด"
ฮูหยินหกมิคิดว่าหยางหลงจะถามในเรื่องนี้จึงสะดุ้งคราหนึ่งขณะที่เหลือบตามองเหอหลินจื้อแล้วก้มหน้ามิกล่าวคำ
แม้การเหลือบตามองจะรวดเร็วยิ่ง แต่ก็ไม่เร็วไปกว่าผู้ที่จับตาสังเกตความเคลื่อนไหว

"เช่นนั้นข้าจะตอบให้" หยางหลงกล่าว "มันคือกล้วยไม้ดำ กับยาพิษอีกห้าชนิด ทั้งหมดมิได้เป็นของที่หายากเกินไปนัก แต่วิธีการผสมให้เป็นยาพิษออกจะพิเศษอยู่บ้าง จนสามารถบ่งบอกที่มาได้"
หยางหลงหันไปมองเหอหลินจื้อ และทำให้ทุกคนในที่นี้หันไปมองเช่นกัน

เหอหลินจื้อก่อนหน้านี้วางท่ายิ่งใหญ่ แต่เมื่อเทพเสือโคร่งภูผาปรากฎตัวขึ้น ก็สงบปากมาโดยตลอด เรื่องของเทพแห่งป่าสีทองที่ไม่เคยเชื่อถือกลับคือเรื่องจริงทั้งแสดงฤทธิ์ต่อหน้า นอกจากนี้ยังต้องตื่นตระหนกด้วยเรื่องที่ทำลงไปก่อนหน้านี้
หยางหลงกล่าวกับเหอหลินจื้อ "ท่านมีเรื่องใดจะกล่าวหรือไม่"
เหอหลินจื้อไม่รู้สึกละอายใจต่อหยางหลง แต่กลับเกรงกลัวจนไม่กล้าสบตาเทพเสือโคร่งภูผา
สำหรับเหอหลินจื้อผู้นี้ ตลอดชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยเกรงกลัวผู้ใด ด้วยเหตุนั้นจึงมีความมั่นใจที่จะคิดการณ์ใหญ่ แต่ครานี้ต้องรับแรงกดดันจากรอบด้านที่ถาโถมเข้ามา เพื่อให้เป็นผู้รับผิดชอบต่อเรื่องที่เกิดขึ้น
หยางหลงกล่าวอย่างเน้นถ้อยคำ "ท่านลุงเหอ ท่านทราบดีว่าถ้อยคำที่ออกมาจากปากท่านคือคำชี้แจง แต่หากเมื่อใดที่ออกมาจากปากข้า คือคำตัดสินว่านี่คือสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ท่านแน่ใจหรือว่าจะให้ข้าเป็นผู้กล่าวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น"
เหอหลินจื้อหายใจเข้าลึก ๆ พยายามยืดตัวขึ้นเพื่อที่จะกล่าวถ้อยคำ แต่ก็ยังไม่สามารถกระทำได้
ทุกถ้อยคำคล้ายสะดุดอยู่เพียงกลางอกเท่านั้น
รองแม่ทัพเฉินอวี้ หันไปหาหยางหลง "เช่นนี้เถิด ข้าจะเป็นคนกล่าว หากมีสิ่งใดที่ผิดไปจากนี้ ท่านก็ค่อยโต้เถียง"

ทุกคนในที่นี้ล้วนประหลาดใจ ที่ฝ่ายผู้ถูกปรักปรำยื่นมือเข้ามาในคดี

"เหอชินรุ่ยหวาดระแวงว่าสามีจะภริยาลับ นางพร่ำบ่นความไม่สบายใจนั้นกับซูเหยาฮูหยินหกของท่านหยางเฉิง ซึ่งการที่นางมิได้เป็นคนโปรดของสามีมากนัก ฮูหยินหกจึงคิดกระโดดข้ามขั้นมาเอาใจแม่สามี เพื่อให้สามียอมรับว่านางสำคัญ  อ้อ..ตัวของท่านหยางเฉิงเองก็มิได้เป็นที่พอใจของมารดามากนักเช่นกัน ฮูหยินหกจึงต้องใช้แรงมากหน่อยในการกระโดด และติดต่อกับท่านเหอหลินจื้อที่กำลังจะเดินทางมาที่นี่ท่านเหอที่ยึดถือเมืองเหอเป็นสำคัญจึงเดินทางมาพร้อมกับยาพิษ ในเวลาเดียวกันกันเอง ซูซู่ที่กำลังเดือดร้อนเรื่องเงินรับที่จะทำงานนี้เพราะมองเห็นแต่ชีวิตที่ดีขึ้นเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผน เรื่องของท่านเหอสามารถมองได้ทางเดียวคือความมุ่งหวังทางการเมือง คุณชายลู่ผู้นี้จะมาจากเมืองหลวงก็ดี จะมาจากป่าสีทองก็ดี หากเขาเสียชีวิตท่านสามารถยื่นมือเข้ามาแทรกแซงให้พ่อลูกสี่คนขัดแย้งกันเอง เพื่อที่จะนำไปสู่จุดแตกหักกับเมืองหลวง แต่ข้ากำลังคิดต่อไปว่า พวกท่านเชื่อว่ามารดาของคุณชายลู่เป็นบุคคลสำคัญอยู่ที่เมืองหลวงจึงเลือกที่จะลงมือต่อเขา หากท่านคิดเช่นนั้นจริง ก็ต้องถือว่าพวกท่านลงมือเร็วไป หากรอให้ข้าเดินทางมาถึง แล้วค่อยวางยาฆ่าคน เรื่องนี้จะสมบูรณ์มาก"

เหอชินรุ่ยมองเทพเทพเสือโคร่งภูผาด้วยความสำนึกผิด "ข้าถามสามีหลายคราเรื่องที่มาของคุณชายลู่ แม้เขาจะยืนยันว่า คุณชายลู่พักอยู่ที่ป่าสีทอง แต่ที่นั่นไม่มีบ้านเรือนผู้คน เขาจะอยู่กับมารดาตามลำพังได้อย่างไร ข้าจึงแน่ใจว่าคุณชายลู่มาจากเมืองหลวงเพื่อมาเยี่ยมบิดา จากนั้นเขาก็จะกลับไปเมื่อบุตรชายชองข้าเดินทางกลับเมืองหลวงคราหน้า" นางประสานมือกล่าวคำ ค่อย ๆ ก้มหน้าจนหน้าผากแนบพื้น "เรื่องทั้งหมดเกิดจากจิตใจคับแคบของข้าน้อย จนทำให้สูญเสียหลานชาย ทั้งอาจทำให้เรื่องบานปลายกลายเป็นเรื่องระหว่างเมือง ข้าเหอชินรุ่ย ไม่ขอลดทอนบรรเทาโทษใด  ๆ ได้โปรดลงโทษตามกฎหมายด้วยเถิด"
หยางติงขยับไปนั่งข้างฮูหยิน "ฮูหยิน เจ้าคิดเอาชีวิตคุณชายลู่จริง ๆหรือ"
"ไม่" เหอชินรุ่ยกลืนก้อนสะอื้น ทั้งยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้น "ข้าเพียงนับวันเวลาให้เขากลับไป"

เหอหลินจื้อนั้นมิได้ต้องการที่ยอมรับความผิดโดยง่ายดาย ยิ่งมีรองแม่ทัพเฉินอวี้อยู่ที่นี้ ยิ่งไม่ต้องการยอมรับ ด้วยแม่ทัพเฉินอวี้ คือตัวแทนของฝ่ายศัตรู สิ่งที่เหอหลินจื้อต้องการคือการแสดงอำนาจยิ่งใหญ่ต่อหน้าตัวแทนจากฝ่ายเมืองหลวง
แต่เพราะที่นี่มีเทพเสือโคร่งภูผาทุกความตั้งใจของเหอหลินจื้อจึงไม่อาจเกิดขึ้น ยิ่งเมื่อเจ้าพนักงานกองเมืองเข้ามาควบคุมตัวให้มานั่งเคียงข้างซูเหยา และซู่ซู่ ก็ยิ่งรู้สึกว่าถูกดูหมิ่น
เหอชินรุ่ยลุกขึ้นยืนและก้าวเดินมานั่งเคียงข้างพี่ชาย ย้ำว่านางเลือกที่จะอยู่กับเมืองเหออีกครั้ง

แรงกดดันทั้งหมดจึงกลับไปตกอยู่ที่หยางหลงเจ้าเมืองลั่ว ด้วยเหอชินรุ่ยยืนกรานรับผิดเท่ากับเหอหลินจื้อ และ ซูเหยา หลังการโต้เถียงด้วยความดื้อรั้นอย่างยาวนาน รองแม่ทัพเฉินอวี้ จึงขอคุยเป็นการส่วนตัวกับหยางหลงอยู่ครู่หนึ่ง ก็เรียกหลิวเพ่ยหลิงเข้าไปคุยด้วย จากนั้นจึงกลับออกมาเพื่อประกาศคำตัดสิน
หยางหลงกำมือแน่น ขณะที่กล่าวคำ
"โทษฆ่าคนตาย แม้จะเจตนาคนที่คนหนึ่ง แต่พลาดพลั้งทำให้อีกคนหนึ่งต้องตาย ก็มีความผิดเฉกเช่นมีเจตนาฆ่าผู้นั้นเช่นนั้นเช่นกัน ตัดสินโทษจำคุกยี่สิบปี เหอหลินจื้อ ซูเหยา ซู่ซู่ และเหอชินรุ่ย" เจ้าเมืองลั่วกล่าวคำช้า ๆ "ทั้งหมดให้การสารภาพ เนื่องจากเหอหลินจื้อเป็นผู้มีตำแหน่งสำคัญของเมืองเหอ ให้ส่งตัวกลับไปรับโทษที่เมืองเหอ ต้องห้ามเข้าเมืองลั่วตลอดชีวิต ส่วนเหอชินรุ่ยให้ทำงานรับใช้อารามเทียมฟ้า ห้ามออกจากอารามตลอดชีวิต ซูเหยาให้ไปรับใช้อารามวิเวก ห้ามออกจากอารามตลอดชีวิต และ ซู่ซู่ไปรับใช้อารามสันติ ห้ามออกจากอารามตลอดชีวิต"

เมื่อมาถึงยามนี้ ทุกคนล้วนตระหนักดีว่า ในเรื่องราวที่เกิดขึ้น หลิวเพ่ยหลิงคือผู้ที่เสียสละอย่างยิ่ง ด้วยนางคือมารดาผู้สูญเสียบุตรชาย และยังต้องอภัยให้กับคนที่สังหารบุตรชายของนาง
เรื่องราวในการสนทนาที่ห้องทางด้านหลัง คือการที่รองแม่ทัพเฉินอวี้เป็นผู้เจรจาขอความเมตตาจากนาง และนางก็มอบความเมตตานั้น
ดังนั้นหลังจากที่หยางหลงอ่านคำตัดสิน เหอชินรุ่ยจึงหันไปมองหลิวเพ่ยหลิงสะใภ้ใหญ่เต็มตาเป็นคราแรก และเป็นคราแรกเช่นกันที่มารดาของสามีก้มศีรษะแสดงความขอบใจ

....จบตอนที่แปด...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-02-2017 06:22:19 โดย MyTeaMeJive »

ออฟไลน์ Nathi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
Re: Sunrise in the forest บทที่7 (P7-070260)
«ตอบ #215 เมื่อ14-02-2017 12:59:44 »

จิ้มเป็ดไว้ก่อน

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
Re: Sunrise in the forest บทที่8 (P8-140260)
«ตอบ #216 เมื่อ14-02-2017 13:40:48 »

อิลุงกับซูเหยาใจร้ายมาก

อ่าาา....แม่เล็ก.... นี่ท่านเทพเสือโคร่งภูผากินหนุ่มน้อยหน้ามนสินะ

สมน้ำหน้าตอนโดนแม่กวางดุ หุหุหุ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: Sunrise in the forest บทที่8 (P8-140260)
«ตอบ #217 เมื่อ14-02-2017 14:02:07 »

เทพแห่งป่าสีทองปรากฏตัวแล้ว
ผลการไตร่สวน 
เหอชินรุ่ยหมดบทบาททางการเมืองไปเลย
เจ้าเมืองหยางหลง คงทำหน้าที่ได้อย่างไม่มีอะไรมาวุ่นวาย
แต่หยางหลง จะได้เจอลู่อีกมั้ยนะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ noteno

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่8 (P8-140260)
«ตอบ #218 เมื่อ14-02-2017 14:59:58 »

ลู่ เรียกรองเเม่ทัพว่า..เเม่เล็ก
รองเเม่ทัพเรียกเเม่กวางว่า..ท่านใหญ่

พ่อกวาง พ่อเสือ โอ้ว...ครอบครัวสุขสันต์

กวางลู่กลับป่าไปแล้ววว..จะได้เจอกันอีกมั้ยหนอ :mew2:   


****มีคำผิด...คนบงการเจ้าไม่เชื่อเรื่องป่าสีทอง // เมื่อกล่าวถึงตอนนี้หยางเฉนยิ้มมุมปาก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-02-2017 06:13:55 โดย noteno »

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
Re: Sunrise in the forest บทที่8 (P8-140260)
«ตอบ #219 เมื่อ14-02-2017 16:03:52 »

สารเด็กที่ต้องตายไปจริงๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sunrise in the forest บทที่8 (P8-140260)
« ตอบ #219 เมื่อ: 14-02-2017 16:03:52 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ piggyfree

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่8 (P8-140260)
«ตอบ #220 เมื่อ14-02-2017 16:47:28 »

ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา

วันนี้ วันพิเศษ บทนี้ยาวมาก  แต่อ่านได้แค่ครึ่งเดียว
เดี๋ยวกลับมาอ่านต่อ...

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: Sunrise in the forest บทที่8 (P8-140260)
«ตอบ #221 เมื่อ14-02-2017 17:42:51 »

มีพิมพ์ผิดหน่อยนึง :ling1:
แต่นางมิได้มองร่างไร้วิญญาณของเหอเจียเจิง

คนที่ไม่ยอมรับผิดก็มีนะ ไม่ได้สารภาพทุกคนนี่

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่8 (P8-140260)
«ตอบ #222 เมื่อ14-02-2017 19:28:14 »

เหมือนวันรวมญาติ  :hao7:

อ่านเม้นบน เพิ่งเอะใจกับคำว่า แม่เล็ก พ่อกวาง  55555 ครอบครัวใหญ่นะน้องลู่




ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: Sunrise in the forest บทที่8 (P8-140260)
«ตอบ #223 เมื่อ14-02-2017 19:33:44 »

อาลู่มาแล้ววววววววววววววว  :oni2: :oni2: :oni2:

ออฟไลน์ beerby-witch

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
Re: Sunrise in the forest บทที่8 (P8-140260)
«ตอบ #224 เมื่อ14-02-2017 19:43:30 »

ยาวจุใจสุดๆ แล้วนุ้งลู่น้อยจิได้กชับมาอีกมั้ยนะ :katai2-1:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: Sunrise in the forest บทที่8 (P8-140260)
«ตอบ #225 เมื่อ14-02-2017 20:47:02 »

โอยยยย เด็กน้อยต้องตายไปโดยไม่รู้อิโหน่นอิเหน่อะไรเลย
สงสารเบาๆ ส่วนลู่ ขุ่นแม่มารับกลับบ้านแบบนี้ จะได้มาเที่ยวเล่นอีกไหม

ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: Sunrise in the forest บทที่8 (P8-140260)
«ตอบ #226 เมื่อ14-02-2017 22:03:36 »

แปะไว้ก่อนนน

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: Sunrise in the forest บทที่8 (P8-140260)
«ตอบ #227 เมื่อ14-02-2017 22:51:33 »

 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ lilowria

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: Sunrise in the forest บทที่8 (P8-140260)
«ตอบ #228 เมื่อ14-02-2017 23:33:40 »

หน่วงๆ ทีมลู่น้อย ลู่น้อยทำไมหนูดีอย่างนี้

ออฟไลน์ Ornon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: Sunrise in the forest บทที่8 (P8-140260)
«ตอบ #229 เมื่อ15-02-2017 06:03:09 »

แม่มาพากลับไปแล้วลู่น้อย เมื่อไรจะได้กลับมาเที่ยวเล่นอีกนะ #ทีมลู่

 :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sunrise in the forest บทที่8 (P8-140260)
« ตอบ #229 เมื่อ: 15-02-2017 06:03:09 »





ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่8 (P8-140260)
«ตอบ #230 เมื่อ15-02-2017 11:23:19 »


ทางออกที่ล้วนแต่นำมาซึ่งความอาวรณ์จริงๆในตอนนี้

ดีแล้วหันหน้าเข้าหาธรรมะซะเถ่อะ ลูกชายที่รักมากต้องไปอยู่เมืองหลวงและหลานชายตัวเองตายส่วนหนึ่งมาจากตัวเอง
นี่มันเป็นตราบาปอยู่ในใจของเหอชินรุ่ยตลอดไปแน่ๆ
แต่บทลงโทษของตัวก่อกวนและวุ่นวายมาตลอดแบบอิลุงนี่ ทำไมมันรู้สึกว่าเบ๊า-เบา

แต่งานนี้รอบทลงโทษต่อไปจากแม่กวาง ให้....ท่านพ่อเสือที่มีส่งสายตาอาฆาตก่อนเอาลู่ไปนี่ท่าจะมัน :hao3:

หยางหลงเอ้ยยยย ลู่น้อยนี่มีเพิ่มทั้งแม่เล็ก กับท่านพ่อกวางอีก โอโหกว่าจะฝ่าด่านแต่ละด่าน (ได้แต่เดินเข้าไปตบบ่าปุๆ)

ขออภัยเจ้าของเรื่องนะคะหากเม้นนี้จะยาวไป  :pig4:

ออฟไลน์ treenature

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0
Re: Sunrise in the forest บทที่8 (P8-140260)
«ตอบ #231 เมื่อ16-02-2017 09:33:38 »

สงสัยตรงนี้ค่ะ
"รอยยิ้มของรองแม่ทัพเฉินอวี้ดูไม่จริงใจเลยสักนิด"
ตอนนี้ยาวดีจริงๆ แถมมีรายละเอียดให้คิดเยอะด้วย ต้องค่อยๆอ่าน นี่อ่านสองรอบแล้วนะคะ รอบหน้า คงต้องทำแผนผังเครือญาติก่อน 55

กรี๊ดกับการเปิดตัว แม่เล็ก และพ่อกวางนะคะ อยากรู้เรื่องของทั้งสองคนมาก
ขอบคุณค่า

ออฟไลน์ piggyfree

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่8 (P8-140260)
«ตอบ #232 เมื่อ17-02-2017 16:14:02 »

อ่านต่อจบแล้ว เป็นตอนที่ยาว และสนุกมาก
เข้าใจแล้วว่า ทำไมลู่ถึงเป็นกวางทองน้อยที่น่ารัก
ถึงจะโดนแม่ดุ แต่เต็มเปี่ยมด้วยความรักของคนในครอบครัว
แต่ พอ"ข้าหิวแล้ว ง่วงนอนมากด้วย กลับบ้านกันเถิด"
ก็ทิ้งหยางหลงดื้อๆ เลย น่าตีชะมัด :p

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: Sunrise in the forest บทที่8 (P8-140260)
«ตอบ #233 เมื่อ17-02-2017 17:56:13 »

บทลงโทษสำหรับสี่คนนั้นก็พอจะรับได้นะ สงสารก็แต่หลิวเพ่ยหลิง

ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: Sunrise in the forest บทที่8 (P8-140260)
«ตอบ #234 เมื่อ17-02-2017 18:52:25 »

รอ คู่ของเทพเสือโคร่งกับรองแม่ทัพเฉินอวี้  มีความสงสัยว่า กว่าจะได้มาซึ่งแม่เล็กนี่ คงพยศน่าดู 555 อ่านตอนนี้ไม่รู้จะสงสารใครดี เหอซินรุ่ย หลิวเพ่ยหลิง หรือหยางหลงดี คนนึงแม่คนนึงเมีย ที่จริง ฮุหยิน ไม่ต้องรับผิดก็ได้นะ เพราะนางแค่เล่าให้ฟัง แต่คนเป็นแม่ผัวและแม่ของเจ้าเมือง เรานับถือความเด็ดเดี่ยวของนางตรงนี้

ปล.กลัวว่าเพ่ยหลิงจะเก็บเอาความแค้นนี้ไว้แล้วย้อนกลับมาทำร้ายลู่หรือทุกคนในตระกูลหยางน่ะสิ คำโบราณจีนว่าไว้ 10 ปีแก้แค้นก็ยังไม่สาย (หรือเราจะคิดมากวะเนี่ย)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-02-2017 19:40:34 โดย fangkao »

ออฟไลน์ noteno

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่8 (P8-140260)
«ตอบ #235 เมื่อ17-02-2017 20:16:28 »

เข้ามารอกวางทอง

 :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ kail

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: Sunrise in the forest บทที่8 (P8-140260)
«ตอบ #236 เมื่อ17-02-2017 20:29:47 »

แอบมาปักรอ^^

ออฟไลน์ phrase

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: Sunrise in the forest บทที่8 (P8-140260)
«ตอบ #237 เมื่อ19-02-2017 11:11:41 »

พึ่งเข้ามาอ่าน ไม่ผิดหวังเลย ลู่น่ารักมากกกกก

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่8 (P8-140260)
«ตอบ #238 เมื่อ20-02-2017 14:07:27 »


มาจองที่ไว้รอ ตอนต่อไปค่า  :mew1:

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่8 (P8-140260)
«ตอบ #239 เมื่อ22-02-2017 13:54:58 »



แค่เข้ามาบอกว่า คิดถึงลู่น้อยแล้ววววววว  :mew2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด