Sunrise in the forest บทที่ 40 (ตอนจบ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Sunrise in the forest บทที่ 40 (ตอนจบ)  (อ่าน 146796 ครั้ง)

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: Sunrise in the forest ตอนที่25 P27(91160)
«ตอบ #810 เมื่อ06-12-2017 07:17:54 »

 :z2: :z2: :z2: :z2:

ออฟไลน์ noteno

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่25 P27(91160)
«ตอบ #811 เมื่อ06-12-2017 08:02:13 »

 :z2: :z2: :z2:

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่25 P27(91160)
«ตอบ #812 เมื่อ07-12-2017 08:41:16 »


 o15

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
Sunrise in the forest ตอนที่26 P28(71260)
«ตอบ #813 เมื่อ07-12-2017 10:12:54 »

ตอนเทพเสือโคร่งภูผา

บทที่ยี่สิบหก


ห่างกันไปแปดปี เมื่อกลับมาก็ย่อมต้องมีการชดเชยและชดใช้ที่ทำให้คนรอต้องเสียใจ แต่ก็ยังเป็นคนรออีกเช่นเดิมที่ต้องปวดร้าวไปทั้งตัวดั่งถูกม้าเหยียบจนต้องพักอยู่ที่เรือนของคหบดีหลี่อีกถึงสี่วัน
ฟังจากบรรดาคนรับใช้ที่พูดถึงเทพเสือโคร่งภูผา ทุกคนล้วนบอกตรงกันว่านายท่านที่เป็นแขกพิเศษของท่านคหบดีหลี่เป็นห่วงท่านรองแม่ทัพยิ่งนัก ไม่ยอมให้ผู้ใดได้เข้าใกล้ ทุกวันจะออกมาต้มยาให้ด้วยตนเอง คอยดูแลเรื่องอาหารการกินทุกอย่าง ในช่วงสายก็จะพาไปนั่งพักนอกเรือนระหว่างที่คนรับใช้เข้าไปทำความสะอาดที่พัก และจะออกไปข้างนอกก็ต่อเมื่อท่านรองแม่ทัพหลับอยู่ แต่ก็จะรีบกลับมาดูแลอยู่เสมอ
ท่านคหบดีเจ้าของบ้านรู้สึกเป็นห่วงจะจัดแพทย์ฝีมือดีมาดูแล แต่นายท่านก็ไม่ยินยอมบอกว่าต้องการดูแลด้วยตนเอง
ดูท่า ท่านรองแม่ทัพคงเจ็บป่วยหนักมากเลยทีเดียว...
ช่วงสายของวันที่สี่ เทพเสือโคร่งภูผา และรองแม่ทัพเฉินอวี้ จึงเข้ามาหาคหบดีหลี่ถึงเรือนหลังใหญ่เพื่อแสดงความขอบคุณในความอาทรของเจ้าของบ้าน และลากลับไปฐานทัพ
คหบดีหลี่มองสีหน้าของรองแม่ทัพแล้วแสดงความเห็นว่า รองแม่ทัพยังดูอิดโรย สมควรพักอีกสักหลายวัน แต่รองแม่ทัพก็กล่าวทันทีว่า เป็นห่วงการงานที่เมืองฝั่งตะวันออกแล้วมอบเงินให้จำนวนหนึ่งเป็นค่าที่พักและอาหารหลังจากที่มารบกวนอยู่นานหลายวัน
คหบดีรับเงินนั้นไว้โดยมารยาทและบอกว่าจะมอบเงินนี้ให้กับคนรับใช้นำไปแบ่งปันกัน
“หากมีโอกาส ก็แวะมาได้ทุกเมื่อ”
ทั้งสองฝ่ายประสานมืออำลา จากนั้นเทพเสือโคร่งภูผาต้องกดจุดหลับใหลให้รองแม่ทัพ ช้อนอุ้มใต้ขาเพื่อพาเดินทางกลับมาที่เรือนพักของรองแม่ทัพในกองทัพฝ่ายตะวันออก

คนรับใช้ที่เข้ามาทำความสะอาดเรือนเปิดหน้าต่างห้องนอนไว้เพื่อให้อากาศถ่ายเท แต่เมื่อจะกลับเข้ามาในห้องก็พบว่า มีผู้ที่อยู่ในห้องสองคน คนหนึ่งคือรองแม่ทัพเฉินอวี้ที่นอนหลับอยู่บนเตียง อีกผู้หนึ่งเป็นชายที่มีรูปร่างสูงใหญ่ คิ้วหนา ดวงตาสีเหลือง สวมเสื้อผ้าสีเหลือง ดำ และขาว กำลังห่มผ้าให้คนที่นอนอยู่
คนรับใช้ยังไม่ทันจะกล่าวคำพูดอะไร คนผู้นั้นก็หันมาออกคำสั่ง "รองแม่ทัพไม่ค่อยสบาย ขอให้เขานอนพัก"
น้ำเสียงนั้นช่างมีอำนาจกดดันให้คนรับใช้ต้องลานลานกลับออกไป
แต่หลังจากนั้นไม่นาน บรรดาคนสนิทของรองแม่ทัพเฉินอวี้จนถึงรองแม่ทัพหม่า ไปจนถึงรองแม่ทัพอีกหลายคนและกลุ่มคนสนิทก็มาชุมนุมที่เรือนพักของรองแม่ทัพ ตอนที่มาถึงก็เห็นว่าคนรูปร่างสูงใหญ่กำลังประคองถาดยาเข้ามาให้กับรองแม่ทัพที่ยังนั่งพิงพนักหัวเตียง
รองแม่ทัพเฉินอวี้มิใช่คนเรื่องมาก ที่ผ่านมาบรรดาคนสนิทก็เข้ามาถึงห้องนอนได้ แต่ผู้ที่มีรูปร่างสูงใหญ่นั้นไม่ค่อยพอใจที่มีคนมากมายเข้ามารวมกลุ่มกันอยู่ในห้องนอน ถึงกับทำหน้าตาถมึงทึงบอกให้ทุกคนออกไปรอที่ห้องด้านนอก
จากนั้นก็ช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้แล้วพาออกมาพบทุกคน ที่กำลังสนทนาเกี่ยวกับการที่ทั้งสองคนเข้ามาในฐานทัพโดยไม่มีผู้ใดล่วงรู้
รองแม่ทัพเฉินอวี้นั้นเป็นผู้ที่มีรูปร่างสูงโปร่ง มีความสามารถในเชิงยุทธ์ที่ยอดเยี่ยม และคุ้นเคยกับสถานที่นี้ จึงเป็นไปได้ที่จะไม่มีผู้ใดเห็นยามเมื่อเข้ามา แต่อีกคนหนึ่งนั้นมีรูปร่างสูงใหญ่ ต้องมีความสามารถสูงส่งเพียงใด จึงสามารถเข้านอกออกในฐานทัพโดยไม่มีใครล่วงรู้
รองแม่ทัพเฉินอวี้ยกยิ้มที่มุมปากขณะที่แนะนำกับทุกคน
"นี่คือท่านเทพเสือโคร่งภูผา"
คนสนิทของรองแม่ทัพเฉินอวี้ร้องอ้อเสียงดัง แล้วประสานมือทำความเคารพ "คารวะท่านผู้เฒ่า"
เมื่อหนึ่งคนนึกขึ้นได้ว่านี่คืออาจารย์ของรองแม่ทัพเฉินอวี้ คนอื่นก็พากันนึกออกขึ้นได้เช่นกัน
นี่คือเทพเสือโคร่งภูผา อาจารย์ผู้ลึกลับของรองแม่ทัพเฉิน ผู้คิดค้นวิชาที่เปี่ยมไปด้วยพละกำลังที่เข้มแข็งนั่นเอง!

จากนั้นการทำงานและใช้ชีวิตของรองแม่ทัพเฉินอวี้ที่กองทัพฝ่ายตะวันออกก็ดำเนินไปตามปกติ โดยมีเทพเสือโคร่งภูผาพักอยู่ที่เรือนแห่งนี้ด้วย ผู้คนต่างพากันคาดเดาว่ารองแม่ทัพจะได้รับบาดเจ็บ และมีอาการป่วยด้วยโรคประหลาดชนิดหนึ่งที่มีแต่อาจารย์เทพเสือโคร่งภูผาผู้นี้สามารถดูแลรักษาได้เพียงผู้เดียวเท่านั้น อาการนี้เกิดขึ้นบ่อยเฉลี่ยแล้วสองถึงสามสัปดาห์ต่อครั้ง 
แม้จะเจ็บป่วยเรื้อรัง แต่เรื่องผลงานแล้วรองแม่ทัพเฉินอวี้ก็หาได้ลดน้อยด้อยลง เครือข่ายขุนนางที่ลอบสนับสนุนอ๋องปราบตะวันออกถูกกำจัดลงอย่างต่อเนื่อง
ความเคลื่อนไหวของเทพเสือโคร่งภูผาในช่วงนี้จึงเป็นการตามติดรองแม่ทัพเฉินอวี้ที่ฐานทัพตะวันออกสลับกับการไปดูแลกวางทองที่ป่าสีทอง
ผ่านไปนานกว่าสองปี ฮ่องเต้ทรงมีพระบรมราชโองการแต่งตั้งรองแม่ทัพคนใหม่มาประจำที่ฐานทัพตะวันออกแล้วให้ย้ายรองแม่ทัพเฉินอวี้กลับไปเป็นรองแม่ทัพของกองทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์
ขั้นตอนการส่งงานของเฉินอวี้ให้กับรองแม่ทัพคนใหม่ไม่ได้ยุ่งยากอันใด เพียงแต่ผู้ที่ย้ายมาใหม่นั้นต้องออกไปพักที่บ้านพักประจำตำแหน่งที่ตั้งอยู่นอกค่ายทหาร ส่วนหลังเดิมที่รองแม่ทัพเฉินอวี้พักอยู่นั้น ทั้งแม่ทัพหม่า และรองแม่ทัพหม่าสองพ่อลูกต่างยืนกรานว่าจะเก็บไว้เป็นเรือนรับรอง หากรองแม่ทัพเฉินอวี้หรืออาจารย์เทพเสือโคร่งภูผาจะเดินทางมาละแวกนี้
ตลอดชีวิตรับราชการเรื่องนี้สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ รองแม่ทัพเฉินอวี้จึงไม่ได้ปฏิเสธความหวังดีนั้น แต่กลับทำให้เทพเสือโคร่งภูผาไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง
“เจ้าเคยกล่าวคำปฏิเสธผู้อื่นหรือไม่ มันยากตรงไหนกัน”
รองแม่ทัพเฉินอวี้หัวเราะเมื่อผู้รูปร่างสูงใหญ่ผู้นั้นแสดงท่าทีไม่พอใจเหมือนกับเป็นเรื่องใหญ่โต แต่เมื่อพ้นจากฐานทัพ เทพเสือโคร่งภูผาก็แยกตัวไปที่ป่าสีทองเพื่อดูแลกวางทองอีกครั้ง

ว่ากันว่า ในยามที่ใครสักคนเดินจากไปเราไม่ควรมองตามหลัง เพราะอาจทำให้ไม่ได้พบเจอกันอีก แต่เฉินอวี้ก็ยังคงมองเงาร่างสูงใหญ่ที่ลับหายไป และมองผ่านความว่างเปล่าอยู่อีกครู่หนึ่งจึงเดินทางต่อ                                                                                                                                                               

ที่เมืองหลวง รองแม่ทัพเฉินอวี้ต้องย้ายที่พักอีกครั้ง คราวนี้เป็นบ้านพักขนาดกลางซึ่งมีพื้นที่ว่างรอบบ้าน ภายในเขตที่พักของทหารองครักษ์ ทหารรับใช้ย้ายของใช้ส่วนตัวที่มีอยู่ไม่มากนักมาจัดรอไว้ที่เรือนหลังนี้แล้ว แต่เมื่อยังอยู่ในเขตที่พักของทหาร ก็ยังคงไม่สะดวกที่จะให้มารดาย้ายมาอยู่เช่นเดิม
หลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ยังไม่ทันจะได้พัก ก็มีทหารมหาดเล็กมาพบ และนำทางไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้ในทันที
ที่ศาลาหลังใหญ่ในเขตพระราชอุทยาน มีแพทย์หลวงมารออยู่ และกล่าวถึงเรื่องกองทัพตะวันออกแจ้งว่ารองแม่ทัพเฉินมีอาการเจ็บป่วยเป็นระยะ ฮ่องเต้จึงมีรับสั่งให้แพทย์หลวงมาตรวจอาการก่อนที่จะเสด็จมา แต่เมื่อแพทย์หลวงตรวจอาการอย่างละเอียดก็ไม่พบว่ามีอาการป่วยใดๆ เวลาผ่านไปชั่วหนึ่งกาน้ำชา ฮ่องเต้จึงเสด็จมาถึงและไต่ถามถึงเรื่องอาการป่วย เมื่อทราบว่าไม่ได้เจ็บป่วยอะไรก็บอกให้แพทย์หลวงกลับไปได้
"ส่งมือมา" ทรงจับชีพจรอยู่ครู่หนึ่งก็ทรงมีวินิจฉัย "เจ้าไม่ได้ถูกพิษ"
"พระเจ้าค่ะ"
รองแม่ทัพเฉินอวี้กล่าวขอบพระทัยในพระเมตตา จากนั้นก็ถวายรายงานเกี่ยวกับการทำงานทางฝั่งตะวันออกของอาณาจักร
ทหารมหาดเล็กทยอยเข้ามาจัดโต๊ะแล้วล่าถอยออกไป เหลือแต่องครักษ์ชั้นเอก ที่ยืนอารักขาโดยรอบ ทำให้รองแม่ทัพเฉินอวี้เริ่มการคาดเดาว่าจะต้องมีเรื่องราวเกิดขึ้น เพราะพระองค์ไม่เคยให้มีองครักษ์ประจำพระองค์จำนวนมาก ทั้งที่นี่ยังอยู่ในเขตพระราชฐานส่วนพระองค์ด้วย

"เทพเสือโคร่งภูผาตามไปหาเจ้าที่กองทัพตะวันออกหรือ"
รองแม่ทัพเฉินอวี้กล่าวตอบ "พระเจ้าค่ะ"
"เขาจำเจ้าได้แล้วหรือ"
"พระเจ้าค่ะ" รองแม่ทัพเฉินอวี้รินพระสุธารสถวาย แต่ทรงมองถ้วยพระสุธารสแล้วมองคนรูปงาม
"จำได้...ทุกอย่างเลยหรือ"
คนรูปงามก้มมองมือของตนเอง "จำได้...แต่ไม่เหมือนเดิมพระเจ้าค่ะ"
รองแม่ทัพเฉินอวี้มิได้กล่าวเท็จ เพราะความสัมพันธ์ในช่วงก่อนหน้านี้ กับปัจจุบันแตกต่างกันจริง ๆ
ฮ่องเต้จางฉวนทรงพระสรวล "นี่แสดงว่าเพราะเจ้าป่วยเขาจึงไปดูแล เจ้าก็เลยป่วยแทบจะทุกเดือนสินะ" เมื่ออีกฝ่ายไม่ตอบคำก็ทรงรับสั่งต่อ "คิดไม่ถึงจริง ๆ เฉินอวี้ของข้าก็รู้จักการใช้มารยาหญิงเช่นกัน"
รองแม่ทัพเฉินอวี้ยิ้มบางขณะที่ส่ายหน้า ยิ่งทำให้ฮ่องเต้ทรงมีพระอารมณ์ดีกว่าเดิม
ที่นี้มีทั้งมหาดเล็กและองครักษ์จำนวนมาก รองแม่ทัพเฉินอวี้ต้องคิดแล้วคิดอีกก่อนที่จะตอบคำถามของฮ่องเต้ที่ยังคงวนเวียนอยู่ที่เทพเสือโคร่งภูผา
"ที่งานคืบหน้าไปมากก็เพราะเขาช่วยสนับสนุนใช่ไหม"
เมื่อรองแม่ทัพเฉินอวี้ไม่ปฏิเสธ และทรงพอใจกับคำตอบเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่แล้ว จึงมีรับสั่งถึงเรื่องต่อไป "กล้าดื่มน้ำชาในถ้วยของเราไหม"
คนรูปงามยิ้มหวานดื่มน้ำชาในถ้วยโดยไม่เกี่ยงแม้แต่น้อย
"ในช่วงสามเดือนมานี้เราถูกลอบวางยาพิษสองครั้ง"
คิ้วสวยของรองแม่ทัพเฉินอวี้ขมวดแน่น เมื่อรับรู้ว่าผู้ก่อเหตุเป็นมหาดเล็กที่ได้รับเงินว่าจ้างให้มาลงมือ แต่เสียดายที่พระองค์ยังไม่มีหลักฐานเอาผิดไปถึงผู้ว่าจ้าง 
ทรงเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญเรื่องการใช้ยาพิษ การถูกคนลอบทำร้ายด้วยยาพิษย่อมทำอะไรพระองค์ไม่ได้ มีแต่ทำให้ถูกพระองค์เยาะเย้ยและตอบโต้กลับด้วยการทำให้อับอาย
 แต่การกวาดล้างผู้ต่อต้านจะเกิดขึ้นต่อไปอีกนานเท่าใด
"ในที่ประชุมเสนาบดี มีผู้เสนอความเห็นเรื่องให้เก็บคนเลวเอาไว้ เพื่อให้คนเลวไปคานอำนาจพวกผู้ครองอำนาจ" เมื่อทรงผินพระพักตร์มาที่รองแม่ทัพเฉินอวี้ก็พบว่าอีกฝ่ายกำลังขมวดคิ้วอย่างที่คาด "เราอยากฟังความเห็นของเจ้า"
"เลวหรือดีเป็นเรื่องของความพึงพอใจ" ช่างเป็นคำตอบที่ตรงไปตรงมาถูกพระทัยยิ่งนัก "เมื่อทำการขึ้นมาอย่างหนึ่ง หากถูกใจได้ประโยชน์ก็ว่าดี หากขัดประโยชน์ก็ว่าเลว เราจึงต้องใช้เกณฑ์ของกฎหมายดูแลทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน เช่นเดียวกับพระราชอำนาจ หากใช้เพื่อปราบปรามคนที่สร้างความเดือดร้อนต่อส่วนรวม นั่นย่อมเป็นการสมควรอยู่แล้วมิใช่หรือพระเจ้าค่ะ"
ทรงประทับยืนเพื่อทอดพระเนตรผ่านต้นไม่ใหญ่ในพระราชอุทยาน และพระตำหนักมากมายไปไกลสุดสายตา
ในช่วงหลายปีมานี้นอกจากการปราบปรามบรรดาเชื้อพระวงศ์ที่คิดก่อกบฎแล้ว ยังมีผู้ครองอีกหลายเมืองที่คิดก่อการเพราะไม่พอใจที่ทรงจัดผู้แทนพระองค์ไปตรวจสอบการทำงานอย่างสม่ำเสมอ
แม้ว่าประชาชนในหัวเมืองใหญ่ใช้ชีวิตสุขสงบ คนในท้องถิ่นห่างไกลไม่ต้องคอยกังวลกับโจรป่า สถานพยาบาลที่ทรงจัดให้ก็สามารถดูแลและสกัดโรคระบาดได้
แต่การดูแลอย่างใกล้ชิดนี้ กลับทำให้กลุ่มผู้ปกครองในแต่ละเมืองสูญเสียผลประโยชน์ไปมาก
"เจ้าเองก็รู็ดี ว่ามีหลายเมืองที่เคลื่อนไหวเพื่อที่จะเป็นอิสระจากเรา แต่กรณีของเมืองเหอยังมีประเด็นที่เราสนใจก็คือ การที่พวกเขาหมายตาเมืองลั่วของหยางติง"

เมืองลั่วก็คือป่าสีทอง...หากเมืองลั่วเลือกที่จะอยู่กับเมืองเหอ ก็ย่อมหมายความว่าเทพเสือโคร่งภูผาจะอยู่ฝ่ายเมืองเหอเช่นกัน

"ตอนนี้หยางหลงว่าที่เจ้าเมืองลั่วมารอยื่นหนังสือกับเรา แต่เราอยากรู้ว่าเทพเสือโคร่งภูผาคิดว่าอย่างไร"
รองแม่ทัพเฉินอวี้ตอบตามตรง "เขาไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้พระเจ้าค่ะ"
"เช่นนั้นพวกเจ้าคุยอะไรกัน"
"เรื่องของสหายกระเรียนของเขาที่หายไปพระเจ้าค่ะ เพราะสิ่งเดียวที่เขาต้องการก็คือการที่ป่าสีทองจะอยู่ด้วยความสงบ"
ทรงเอียงพระศอด้วยความสงสัย "เรารู้ว่าเขาตามหากระเรียนโกเมนที่เกี่ยวข้องกับแพทย์หลวงหนานกง นี่ยังไม่จบอีกหรือ"
"เรื่องนั้นเห็นว่าได้ข้อสรุปและกลับไปแจ้งให้ป่าสีทองทราบแล้ว แต่หลังจากนั้นก็ยังพบว่ามีกระเรียนขาวที่ย้ายถิ่นแล้วสูญหายไปอีก ที่เขาถามกับกระหม่อมในเรื่องนี้ ก็เพราะเคยไปคุมการสร้างเขื่อนที่เมืองทางใต้พะเจ้าค่ะ"
“แล้วเจ้าตอบไปว่าอย่างไร”
“ตอบไปว่า ไม่เคยเห็นกระเรียนในละแวกที่มีการก่อสร้างพระเจ้าค่ะ”
การก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ใช้คนงานจำนวนมาก ทั้งการเร่งก่อสร้างที่ทำให้มีเสียงดังแทบจะทั้งวันทั้งคืน บรรดาสัตว์ป่าจึงพากันหลบหนีเข้าป่าลึก
“แล้วที่เขาตามไปทางฝั่งตะวันออก ก็ไปตามหาจากป่าแถบนั้นด้วยหรือไง”
รองแม่ทัพเฉินอวี้ตอบด้วยความสุภาพ ไม่มีท่าทีตึงเครียดปรากฏแม้สักนิด “ข้อนี้ไม่ทราบพระเจ้าค่ะ เพราะเขานึกจะมาก็มา แล้วก็ไป ไม่เคยบอกอะไร”
เมื่อทรงพอพระทัยในคำตอบเหล่านี้ ก็หันไปรับสั่งกับมหาดเล็ก "ไปเรียกหยางจงจิน หยางลี่ และหยางหลงมาหาเรา" จากนั้นจึงหันมารับสั่งกับรองแม่ทัพเฉินอวี้
"พูดกันตามตรง เมืองลั่วหากไม่มีป่าสีทอง ก็จะถือว่าไม่ได้มีอะไรที่น่าสนใจ ผู้คนเรียบง่าย ไร้ความทะเยอทะยาน อ้อ ยังมีใบชาชั้นดีของพวกเขานั่นก็นับว่าน่าสนใจมากเลยทีเดียว ส่วนป่าสีทองนั่น" ทรงทำสุรเสียงจิ๊กจั๊กก่อนที่จะกล่าวต่อ "เจ้ารู้ไหมว่าการค้าเขาสัตว์ และ หนังสัตว์ทำรายได้ปีละเท่าไหร่"
รองแม่ทัพเฉินอวี้พยักหน้า
"คนเมืองลั่วมีขุมทรัพย์อยู่หน้าบ้านแต่กลับยกให้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่คิดหาผลประโยชน์ ซึ่งคนเมืองเหอไม่คิดเช่นนั้น แต่เพราะพวกเขาจัดเป็นเครือญาติ ทั้งยังอยู่ใกล้เมืองลั่วมากกว่าเราด้วย นี่จึงไม่อาจวางใจ"
ต่อให้ผู้ปกครองมีความภักดี แต่ในกลการเมืองก็ยังมียุทธวิธีมากมายที่จะสร้างความแตกแยก จากนั้นก็เข้าครอบครอง
"อ้อจริงสินะ" ทรงหันไปรับสั่งกับหัวหน้ามหาดเล็กผู้รับสนองงานหนังสือทั่วไป "เมื่อพูดถึงใบชาเมืองลั่วก็นึกขึ้นได้ หากหยางหลงรับตำแหน่งเจ้าเมืองเมื่อใด ก็ให้หยางไห่เตรียมพร้อมเข้ามาทำงานกับข้าดีกว่า ไปทำหนังสือรอไว้ หากหยางติงมอบตำแหน่งเมื่อใดก็ถือหนังสือไปได้เลย"
ขณะที่รองแม่ทัพเฉินอวี้กำลังครุ่นคิด พระองค์ก็หันมารับสั่งถาม "รู้ไหมเพราะอะไร"
"หยางเฉิงบุตรคนรองของหยางติงเจ้าเมืองลั่ว เป็นเจ้าของสำนักคุ้มกันภัย เขาเป็นหนึ่งในผู้มีอิทธิพลทางเหนือ จะเป็นประโยชน์กับหยางหลงเมื่อเขาเป็นเจ้าเมือง ขณะที่หยางไห่เป็นพ่อค้าที่มีเครือข่ายกว้างขวาง เขาเป็นประโยชน์กับพระองค์มากกว่าหยางเฉิง"
รองแม่ทัพเฉินอวี้ตอบเรียบ ๆ แต่ทำให้ทรงพระสรวลเสียงดังก้อง
"พ่อลูกสกุลหยางน่ะเป็นคนดี ให้พวกเขาดำรงคุณธรรมอยู่ในเมืองทางเหนือต่อไป ดังนั้นเราจึงเอาความร้ายกาจของพวกเขามาอยู่กับเรา" เมื่อเห็นว่ารองแม่ทัพเฉินอวี้กำลังลอบอมยิ้ม ก็ทรงหันมาชี้หน้า "เจ้ามันคือเฉินอวี้จอมมารยา ร้ายกาจ ถึงต้องอยู่ใกล้คนดีอย่างเราเสมอ"
รองแม่ทัพเฉินอวี้จะทำอะไรได้ นอกจากน้อมรับคำวิจารณ์นั้น

เป็นเวลาค่ำแล้ว ที่ผู้แทนจากเมืองลั่วทั้งสามคนเดินทางมาเข้าเฝ้าฯ
รองแม่ทัพเฉินอวี้มีความคุ้นเคยกับผู้เฒ่าหยางจงจิน และหยางลี่อยู่มาก มักเดินทางไปทำความเคารพทุกครั้งที่กลับมาเมืองหลวง เพราะผู้เฒ่าหยางจงจินเป็นผู้ให้การรับรองเพื่อเข้าสอบเมื่อหลายปีก่อน แต่วันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้พบกับหยางหลง 
ชายหนุ่มผู้นี้เป็นนักการทูต มีความสุภาพ อ่อนน้อม จนทำให้เกิดคำถามว่าเมืองลั่วที่อยู่ภายใต้การปกครองของเขาจะเดินหน้าไปอย่างไร หากต้องพบกับเล่ห์เหลี่ยมกลโกงทางการเมืองจากเมืองใหญ่รอบด้าน
แต่...คนสกุลหยางปกครองเมืองลั่วมาหลายชั่วคน ดูแลบ้านของพวกเขาให้อยู่ในความสงบมาตลอด ดังนั้น ภายใต้ท่าทีสุภาพ รอมชอมนี้ย่อมต้องมีบางสิ่งซ่อนอยู่
หลังจากที่ทรงสนทนากับทั้งสามคนอยู่หนึ่งชั่วยามก็มีรับสั่งให้รองแม่ทัพเฉินอวี้ออกไปส่ง จากนั้นก็ให้ไปรอที่ห้องทรงงานส่วนพระองค์ในตำหนัก
พระบัญชาแรกเมื่อทรงพระดำเนินเข้ามาในห้องนี้ก็คือ "เรียกเขามาพบเรา"
คนรูปงามรับพระบัญชา เดินไปเปิดหน้าต่างแล้วกล่าวเรียกชื่อ จากนั้นเทพเสือโคร่งภูผาจึงปรากฏขึ้น รองแม่ทัพเฉินอวี้ค้อมตัวทำความเคารพแล้วกราบทูลลา เมื่อออกมาที่ด้านนอกของพระตำหนัก ทหารองครักษ์หันมามองด้วยความประหลาดใจที่เห็นคนรูปงามออกมาจากพระตำหนักเร็วกว่าที่เคย
เมื่อกลับมาถึงที่พัก ก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวเข้านอนตามปกติ สายลมเย็นพัดผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้อง ไฟในตะเกียงดับวูบ แต่คนที่ยืนรออยู่กลางห้องกลับยิ้มกว้างจนผู้ที่เพิ่งมาถึงชี้หน้า
"เจ้าน่ะตัวดีนัก เรียกข้ามา แล้วก็หนีออกมาเสียได้"
เฉินอวี้คลี่ยิ้มกว้าง เพราะวันนี้ถูกต่อว่าแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว แต่ผลจากยิ้มกว้างทำให้ถูกดึงเข้ามากอดจูบ "คิดมากหรือไม่"
"ก็มีบ้าง แต่เพราะท่านพี่ตามมาถึงที่นี่ข้าก็ไม่คิดมากแล้ว" เฉินอวี้เปลี่ยนเรื่องถาม "กวางทองเป็นอย่างไรบ้าง"
"แข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้กำลังเปลี่ยนจากกวางทองตัวน้อยเป็นกวางทองตัวแสบแล้ว"
เทพเสือโคร่งภูผาเล่าเรื่องของกวางทองด้วยรอยยิ้มกว้าง ผ่านไปครู่ใหญ่ เฉินอวี้จึงเล่าเรื่องความเคลื่อนไหวของเมืองเหอให้ฟัง เทพเสือโคร่งภูผาพยักหน้า ตอบว่าเมื่อครู่ฮ่องเต้ก็ถามถึงเรื่องนี้เช่นกัน รวมถึงเรื่องสมุนไพรหายากที่ป่า ทั้งสองต่างแลกเปลี่ยนข้อมูลที่รับรู้มาแล้วหยุดนิ่งไปชั่วครู่ เพื่อที่จะกลับมายังเรื่องที่เคยทำความตกลงกันไว้
"สรุปคือที่เมืองหลวงข้าต้องทำหมางเมินต่อเจ้า"

ต่างคิดตรงกันว่า ข้างนอกนั้นมีคนคอยเฝ้าจับตามองรองแม่ทัพเฉินอวี้อยู่ตลอดเวลา ทั้งสองจึงไม่ควรพบกันข้างนอกโดยเด็ดขาด
เพราะต่อให้เป็นเรื่องเล็กน้อยที่ถูกนำไปกราบทูล ก็อาจจะมีผลต่อความปลอดภัยต่อครอบครัวของรองแม่ทัพเฉินอวี้ได้

"คงไม่ต้องอยู่ที่นี่นานนัก เพราะคาดว่าอีกไม่กี่วันข้าก็คงต้องออกเดินทางอีก" เฉินอวี้กล่าวให้กำลังใจ
การเป็นผู้ที่ได้ทำงานใกล้ชิดฮ่องเต้ หากพอพระทัยในผลงานย่อมนำมาซึ่งชื่อเสียง ลาภ ยศ แต่หากไม่พอพระทัยก็อาจหมดลมหายใจได้โดยง่ายเช่นกัน
ตั้งแต่ตอนที่อยู่ในฐานทัพตะวันออก ทั้งคู่เคยพูดคุยกันในเรื่องนี้ และทำความตกลงกันไว้ล่วงหน้า หากรองแม่ทัพเฉินอวี้ต้องเร่งเดินทางกลับมาในช่วงที่เทพเสือโคร่งภูผาไม่อยู่
แต่ที่ไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ก็คือคุยกันไปมือของเทพเสือโคร่งภูผาก็ลูบไล้เข้าไปใต้สาบเสื้อ เฉินอวี้ตีมือก็แล้ว รั้งมือไว้ก็แล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายหยุดมือ ทั้งยังถูกผลักให้ล้มตัวลงนอน
"ท่านพี่ ข้าถูกคนคอยเฝ้าจับตาอยู่"
เทพเสือโคร่งภูผาแลบลิ้นเลียริมฝีปาก ดวงตาเต็มไปด้วยรังสีของความชั่วร้าย ก้มลงโลมเลียที่ยอดอก แล้วลดลงไปจูบที่หน้าท้องแน่น เฉินอวี้ได้แต่ถอนหายใจยาว ยากที่จะฝืนความต้องการของตนเอง และปฏิเสธอีกฝ่าย
"พรุ่งนี้ข้ายังต้องไปทำงาน และจะไปหาท่านแม่ด้วย ขอความเมตตาท่านพี่อย่าเคี่ยวกรำข้านักเลย" เฉินอวี้เชื่อว่านี่คือคำอ้อนวอนขอความเมตตาที่เป็นเหตุเป็นผลที่สุดแล้ว หากมีร่องรอยใดๆ เกิดขึ้นฮ่องเต้จะต้องทรงทราบแน่ แต่เทพเสือโคร่งภูผากลับกอบกุมแก่นกายด้านหน้า แล้วนวดคลึง
"เจ้าก็รู้ว่าข้าชอบเวลาที่เจ้าร้องขอเป็นที่สุด"
"แต่ข้าขอร้องว่า..." เฉินอวี้กัดริมฝีปาก เมื่อนิ้วมือใหญ่สะกิดรอยแยกที่ส่วนปลาย
"ขอร้องว่า..."
เฉินอวี้ได้แต่ส่ายหน้า หยาดน้ำตาหยดจากหางตา ได้แต่คิดว่า พรุ่งนี้จะสามารถลุกจากที่นอนไปเยี่ยมมารดาไหวหรือไม่
เทพเสือโคร่งภูผากอดจูบร่างกายแข็งแรงด้วยความเสน่หา
ที่เฉินอวี้ใช้คำว่าเคี่ยวกรำนั้นก็มีเหตุผลอยู่ ด้วยเพราะการร่วมรักทุกครั้งเทพเสือโคร่งภูผาจะใช้สารพัดกลเม็ดเพื่อมากลั่นแกล้ง จนกระทั่งหมดแรงไปจึงจะหยุด ว่าที่จริงเทพเสือโคร่งภูผาหาได้มีความอดทนมากนัก เพียงแต่เมื่อคิดรางวัลที่ได้รับก็คิดว่าช่วงเวลาเหล่านั้นช่างยั่วยวนและแสนหวาน
เฉินอวี้เคยถึงขนาดที่แกล้งทำเป็นยอมแพ้หมดเรี่ยวแรง แต่ไหนเลยจะตบตาอีกฝ่ายที่เป็นเทพเสือโคร่งภูผาได้ ทั้งยังทำให้กลั่นแกล้งหนักกว่าเดิม ร่างกายอ่อนล้าดั่งถูกถอดกระดูกออกจากร่าง หลายครายังทำให้เกิดบาดแผล พอถูกเฉินอวี้โกรธ เทพเสือโคร่งภูผาก็ให้สัญญาว่าจะไม่รุนแรงเช่นนั้นอีก แต่ภายในหนึ่งเดือนก็อดไม่ได้ที่จะกลั่นแกล้งอีกสักครา และอีกครา
เทพเสือโคร่งภูผาอุ้มเฉินอวี้ไปอาบน้ำล้างตัวแล้วทายา จากนั้นก็สวมชุดนอนให้
ดวงตาสีเหลืองมองคนที่หลับไหล ริมฝีปากสวยเป็นสีแดงจัดด้วยรอยจูบ
“เด็กโง่...”
ทั้งที่เฉลียวฉลาดเป็นที่หนึ่ง ชนะผู้คนมามากมาย แต่กลับมองไม่ออกว่าแท้ที่จริงฮ่องเต้จางฉวนผู้นั้นกำลังมองผู้ใด
เขาต้องการการสนับสนุนจากข้า แต่เขามองเจ้า
เขาเรียกร้องความภักดี และต้องการให้เจ้าชื่นชมเขา
คนที่ฮ่องเต้ชอบมาตลอดหลายปีมานี้คือเจ้า เฉินอวี้...

การประจำอยู่ในเมืองหลวงเป็นเรื่องที่ทำให้เทพเสือโคร่งภูผาต้องเหน็ดเหนื่อยกว่าเดิม เพราะที่นี่อยู่ห่างจากเมืองลั่วมากกว่าฐานทัพตะวันออก และ ตะวันตก ที่เฉินอวี้เคยไปประจำการ
ใจจริงอยากให้ย้ายรองแม่ทัพเฉินอวี้ไปอยู่ที่ฐานทัพฝ่ายเหนือมากกว่า เพราะเมืองลั่วอยู่ในขอบเขตของฐานทัพแห่งนั้น แต่เมื่อดูท่าทีของฮ่องเต้แล้วเทพเสือโคร่งภูผาเชื่อว่า เรื่องนี้คือเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้
อีกอย่างการกลับมาอยู่เมืองหลวง ก็คือการที่ต้องตกอยู่ในสายพระเนตรของฮ่องเต้ตลอดเวลา
นั่นมันยิ่งน่าโมโหเป็นเท่าทวีคูณ
กลับมาอยู่เมืองหลวงได้ไม่เท่าไหร่ ฮ่องเต้ก็มีพระบัญชาให้ไปจัดการกลุ่มอิทธิพลที่เมืองชิ่งเหยียน ที่อยู่ห่างจากเมืองหลวงไปทางตะวันตกเฉียงเหนือไม่มากนัก
แม้ว่าสภาพภูมิประเทศของเมืองนี้จะคล้ายกับเมืองลั่ว แต่ป่าของชิ่งเหยียนไม่ได้เขียวขจีตลอดปีเหมือนเมืองลั่ว หลังการใช้เวลาหลายชั่วยามเพื่อสำรวจป่า เทพเสือโคร่งภูผาไม่พบร่องรอย ของสัตว์เทพแห่งป่าสีทองพลัดหลงมาที่ละแวกนี้
“จะว่าไปนี่ต้องถือว่าเป็นข่าวดี” ดวงตาสีเหลืองมองทิวเขาที่ทอดยาว “ถึงที่หายไปจะยังหาไม่พบแต่ก็ไม่มีผู้ใดที่หายไปอีก”
แม้จะกล่าวเช่นนั้น แต่ภายในใจก็ยังคงหนักอึ้ง
ระหว่างที่อยู่ที่เมืองชิ่งเหยียนนี้เอง กวางทองติดตามหยางหลงออกมาจากป่าสีทอง เรียกหาเทพเสือโคร่งภูผาผู้เป็นบิดา
เพราะนี่มิใช่ครั้งแรกที่เทพเสือโคร่งภูผาจากไปอย่างเร่งด่วน เมื่อรองแม่ทัพเฉินอวี้เสร็จงานก็เดินทางกลับเมืองหลวง
แต่ในตอนที่เข้าเฝ้าฯ พบว่าเทพเสือโคร่งภูผามารออยู่ที่เมืองหลวงแล้ว
“เมืองเหอพยายามกดดันให้เมืองลั่วเปลี่ยนไปอยู่ฝ่ายเดียวกับตน” เทพเสือโคร่งภูผากล่าวกับฮ่องเต้มิได้กล่าวกับรองแม่ทัพเฉินอวี้โดยตรง “มันถึงเวลาที่จะต้องบอกกับเมืองเหอไปตามตรงว่าเจ้ารู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไร”
ฮ่องเต้จางฉวนทอดพระเนตรมองคนที่ก้มหน้ามองพื้น
"ให้เฉินอวี้ไปจัดการเรื่องของเมืองเหอก็ได้ แต่ข้ายังมีข้อแลกเปลี่ยนให้ท่านต้องไปจัดการให้ข้าระหว่างที่เฉินอวี้เดินทางขึ้นเหนือ"
เทพเสือโคร่งภูผากอดอกมองฮ่องเต้ แต่ออกคำสั่งกับอีกคนโดยที่มิได้มองหน้าว่าให้ไปเตรียมตัวออกเดินทาง
เมื่อรองแม่ทัพเฉินอวี้ออกเดินทางไปแล้ว จึงกล่าวถึงงานที่ตกลงกันไว้ "เรื่องนี้เกี่ยวกับอำนาจของเจ้าโดยตรง ยังต่อรองเพื่ออะไร"
ทรงจิบน้ำจัณฑ์เล็กน้อยก่อนที่จะกล่าวต่อ "เมืองเหอจะทำอะไรได้ นอกจากข่มขู่เพื่อนบ้านของเขาเองไปวันๆ ข้ายังอยากถามเรื่องที่อดีตฮ่องเต้ติดค้างท่าน"
"ข้ารักษาอาการป่วยของพระธิดา แลกกับการที่พระองค์จะดูแลผู้หญิงของข้า รวมถึงท่านหญิงหนานกง"
ทรงพยักพระพัตร์ "ญาติแพทย์หลวงหนานกงน่ะหรือ"
"ใช่"
เมื่อเทพเสือโคร่งภูผานิ่งไป ก็ทรงกระตุ้นให้เล่าต่อ
เรื่องราวในส่วนนี้จบลงไปหลายปีแล้ว เมื่อพบว่าท่านหญิงหนานกง คือผู้ให้คำแนะนำแพทย์หลวงใช้กระเรียนสีแดงมาเป็นตัวยากระตุ้นโอสถเพื่อรักษาพระอาการของฮ่องเต้องค์ก่อน
เหตุที่ต้องเป็นกระเรียนสีแดงก็เพื่อหวังให้มีความพยายามบุกรุกเข้าไปล่าสัตว์ในป่าสีทอง เพื่อให้เทพเสือโคร่งภูผากลับออกมา แต่สุดท้ายตั้งแต่นายพราน แพทย์หลวงหนานกง จนถึงท่านหญิงหนานกงก็สิ้นชีวิตไปแล้วทั้งหมด
“นางไม่รู้ว่าเจ้ากลับออกมานานแล้ว แต่คิดว่าเจ้ายังอยู่ที่นั่นมาตลอดจึงไม่ได้กลับมาหานาง”
เทพเสือโคร่งภูผายอมรับว่าเป็นเช่นนั้น ขณะที่ฮ่องเต้ทรงพระสรวลเบา ๆ
“ในช่วงเวลานั้น เจ้ายังเคยเข้าหาพระสนมของอดีตฮ่องเต้ด้วยซ้ำ”

(มีต่อ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-12-2017 10:25:48 โดย MyTeaMeJive »

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
Sunrise in the forest ตอนที่26 P28(71260)
«ตอบ #814 เมื่อ07-12-2017 10:15:04 »

(ต่อ)

เห็นได้ชัดว่าความสนใจในประเด็นนี้ของฮ่องเต้ แตกต่างจากเทพเสือโคร่งภูผา แต่ก็ยังคงรับฟังเผื่อว่าจะได้เบาะแสเพิ่มเติม
ข้อสังเกตเรื่องการใช้กระเรียนเพื่อกระตุ้นตัวยา ทำให้เทพเสือโคร่งภูผาต้องเดินทางไปที่เมืองจงพวนอีกครั้งเพื่อสอบถามจากบุคคลในครอบครัวหนานกงที่ยังเหลืออยู่ พวกเขาให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี นำสมุดบันทึกทั้งหมดที่มีอยู่มามอบให้ เทพเสือโคร่งภูผาเสียเวลาไปกับการตรวจสอบอยู่หลายวัน จึงได้เดินทางกลับมาที่เมืองลั่ว
ซึ่งก็ยังช้ากว่ารองแม่ทัพเฉินอวี้ไปก้าวหนึ่ง
ต่อให้มีพลังของเทพแห่งป่าสีทอง ต่อให้รู้วิธีการใช้เส้นทางลัดแล้วอย่างไร หากมัวแต่ทำเรื่องนั้นเรื่องนี้วุ่นวายอยู่ตลอดทาง สุดท้ายเจ้าก็ไปถึงที่หมายสุดท้ายอยู่ดี
ส่วนในการเดินทางของรองแม่ทัพ ระหว่างทางนั้นมีม้าเร็วจากเมืองหลวงไล่ตามมาจนทันเพื่อส่งต่อพระบรมราชโองการไปยังหยางหลงเจ้าเมืองลั่วคนใหม่
เรื่องการเดินทางของหนังสือและผู้คนระหว่างเมืองลั่วกับเมืองหลวงเหล่านี้ ใช้เวลาเดินทางไปกลับหลายรอบจนน่ามึนงงสงสัยในความเร็วของม้าเร็วสื่อสารยิ่งนัก
ดังนั้น เมื่อรับพระบรมราชโองการมาอยู่ในมือ รองแม่ทัพเฉินอวี้จึงหัวเราะ จนทำให้ม้าเร็วสื่อสารสงสัยว่าหัวเราะอันใด
"มีเรื่องผิดพลาดหรือขอรับ"
"ไม่มีอะไรหรอก"
รองแม่ทัพบอกปัดแล้วบอกให้ม้าเร็วสื่อสารไปพักผ่อน
...จะไม่ให้หัวเราะได้อย่างไร
เทพเสือโคร่งภูผาผู้นั้น สมควรเป็นคนแรกที่ได้รู้ว่าตำแหน่งเจ้าเมืองลั่วมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแล้ว
แล้วตอนนี้เขาไปอยู่เสียที่ใดกัน...

รองแม่ทัพเฉินอวี้ที่เร่งเดินทางโดยลำพังไปถึงเมืองลั่ว และตรงไปที่ศาลาว่าการเมืองเพื่อพบกับหยางหลงเจ้าเมืองลั่วคนใหม่เป็นลำดับแรก แต่ต้องเป็นฝ่ายประหลาดใจและกังวลใจในเวลาเดียวกันเมื่อพบว่า ลู่กวางทองบุตรชายผู้เป็นที่รักยิ่งของเทพเสือโคร่งภูผาถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ

เด็กหนุ่มผู้นั้นมีแขนขาลีบเล็กผิดปกติอย่างชัดเจน แต่มีดวงตา คิ้ว จมูก ริมฝีปาก ไปจนถึงเส้นผมที่งดงามอย่างยิ่ง
เทพเสือโคร่งภูผาเคยชมว่าตนนั้นงามนัก  หลายคนบอกว่าตนเป็นชายรูปงาม แต่เมื่อมาอยู่ต่อหน้าเด็กหนุ่มผู้นี้ รองแม่ทัพเฉินอวี้กลับรู้สึกว่าตนเองนั้นเปรียบเหมือนดินก้อนหนึ่ง
ลู่กวางทองผู้นี้ต่างหากคือคนรูปงาม ทั้งมีจิตใจที่ดีงาม มองทุกสิ่งทุกอย่างในแง่มุมเดียวจนรู้สึกถึงความแปลกแยกเมื่อต้องมาอยู่ท่ามกลางมนุษย์ธรรมดา

โดยไม่รู้ตัว รองแม่ทัพเฉินอวี้ยังกลายเป็นอีกคนหนึ่งที่คิดว่าหยางหลงเจ้าเมืองลั่วยังดีไม่พอที่จะดูแลลู่กวางทอง คนผู้นี้อาจมีความสามารถ มีความรอบรู้ แต่ก็กลับมีข้อบกพร่องที่ทำให้ไม่อยากมอบลู่กวางทองให้ดูแล 
นอกเหนือจากเรื่องนี้แล้วรองแม่ทัพเฉินอวี้ยังรู้สึกเป็นกังวลที่บรรดาเทพแห่งป่าสีทองปรากฎตัวหน้าเหอหลินจื้อ ซึ่งอาจส่งผลต่อเมืองลั่วและป่าสีทองในภายหน้า
ความกังวลเหล่านี้ ทำให้รองแม่ทัพเฉินอวี้ยื่นมือเข้าไปช่วยจัดการเรื่องการตัดสินคดีฆาตกรรมหยางเจียเจิง แล้วร่วมเดินทางไปกับหยางเฉิงเจ้าสำนักคุ้มกันภัย เพื่อควบคุมตัวเหอหลินจื้อไปที่เมืองเหอ

และที่นั่น รองแม่ทัพเฉินอวี้ได้พบเบาะแสบางอย่างที่อาจเกี่ยวข้องกับการที่กระเรียนขาวแห่งป่าสีทองสูญหายไป
ชาวเมืองเหอตั้งแต่ผู้ปกครองลงมาจนถึงชาวบ้านไม่เชื่อว่าป่าสีทองคือป่าของเทพแห่งสัตว์ป่า แต่มองว่าป่าแห่งนี้มีสัตว์ป่าซึ่งมีลักษณะเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นกระเรียนหลากสี งาช้างที่มีสีเหมือนอัญมณี และหนังสัตว์อ่อนนุ่ม

ชายหนุ่มรู้ใจเทพเสือโคร่งภูผา ว่าในเรื่องการล่าเพื่อเป็นประโยชน์ใช้สอยนั้นยอมรับได้ แต่ล่าเพื่อการอื่นเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้
ส่วนเหอหลินจื้อที่ว่าง่ายยามอยู่ในการควบคุมของรองแม่ทัพเฉินอวี้ กลายเป็นหนึ่งในผู้ปกครองเมืองเหอที่แสนจะดื้อรั้น เมื่อเดินทางมาถึงเมืองเหอ ทั้งมีท่าทีว่าจะหลงลืมไปแล้วว่าพบเห็นเทพแห่งป่าสีทอง
...หรือจะถูกล้างความทรงจำในส่วนนี้...รองแม่ทัพเฉินอวี้ตั้งใจว่าจะสอบถามเทพเสือโคร่งภูผาในโอกาสต่อไป

อาจกล่าวได้ว่า เมืองเหอแห่งนี้มีรังสีของการไม่ต้อนรับรองแม่ทัพเฉินอวี้ที่สามารถรับรู้ได้ตั้งแต่ยามที่ประตูเมือง เมื่อพวกยามและเจ้าพนักงานต่างแสดงท่าทีขึงขังไม่พอใจเมื่อเห็นว่ารองแม่ทัพควบคุมตัวผู้ใดมา
แต่หลังจากการทำงานรับใช้ฮ่องเต้จางฉวนมาหลายปี ทำให้ชายหนุ่มพอจะรู้วิธีรับมือสถานการณ์เช่นนี้อย่างน้อยห้าวิธี
และวิธีที่รองแม่ทัพเฉินอวี้เลือกใช้ก็คือ การควบคุมตัวของเหอหลินจื้อเข้าไปที่ศาลาว่าการเมือง ส่งหนังสือให้เจ้ากรมเมืองรับทราบ จากนั้นก็ไปพบกับเหอชินจ้าว เจ้าเมืองเหอ
เหอชินจ้าวเป็นชายรูปร่างอ้วน ดวงตายาวเรียว ไว้เคราแพะ ทุกคำพูดที่ออกมาล้วนมีแต่คำโอ้อวด และย้ำแต่คำว่า เหอหลินจื้อผู้เป็นน้องชายถูกคนปรักปรำใส่ร้าย ต่อให้รองแม่ทัพเฉินอวี้ยื่นรายงานการพิจารณาคดีให้อ่าน หรือกล่าวถึงคำสารภาพ เหอชินจ้าวผู้นี้ก็จะย้อนกลับไปที่เรื่องเดิม

เหอชินจ้าว เหอหลินจื้อ มาถึงเหอชินรุ่ย ล้วนมีนิสัยดื้อรั้นไม่สนใจผู้อื่น รู้แต่ว่าตนเองต้องการสิ่งใดเท่านั้น
หรือนี่จะเป็นนิสัยประจำตระกูลเหอ

รองแม่ทัพเฉินอวี้มีสีหน้าหนักใจยามเมื่อกล่าวคำ "หนึ่งในการเป็นผู้นำที่สามารถมัดใจคนก็คือการแสดงตนว่าเป็นผู้มีความยุติธรรม เหอชินรุ่ยมีความเคารพพี่ชายของนางยิ่งนัก และทำให้หยางติงที่รักฮูหยินมาก ก็ให้ความเคารพพี่ใหญ่และพี่รองของฮูหยินเป็นอย่างมากเช่นกัน ทั้งปู่และย่าสองคนมีหยางเจียเจิงเป็นความหวัง แต่เขาถูกคนวางยาพิษจนถึงตาย จะด้วยความผิดพลาดหรือเจตนาก็ตาม แต่เหอชินรุ่ยก็เสียใจเป็นอย่างมาก หรือต่อให้เด็กคนอื่นต้องตายไปเพราะการนี้ นางก็เสียใจไม่ต่างกัน นางสำนึกในความผิดของตน ยอมรับการลงโทษโดยไม่ต่อรอง ชาวเมืองลั่วจึงให้ความเคารพนางไม่เสื่อมคลาย" น้ำเสียงที่กล่าวต่อไปนั้นเนิบช้า เพื่อให้เจ้าเมืองเหอ และเหอหลินจื้อได้มีเวลาคิดทบทวน "ความขัดแย้งของผู้ใหญ่ไม่ควรให้เด็กต้องเป็นผู้รับเคราะห์ ศรัทธานั้นสร้างได้ยาก ต้องใช้เวลานาน แต่การจะทำลายมันใช้เวลาเพียงชั่วกระพริบตาเท่านั้น"
รองแม่ทัพเฉินอวี้ และหยางเฉิง เมื่อส่งผู้ต้องหาให้กับเมืองเหอแล้วก็ไปพักอยู่ในเมืองคืนหนึ่ง แต่การสืบข่าวของทั้งคู่ไม่ได้ผล เพราะการเคลื่อนไหวที่เป็นไปอย่างเปิดเผย
แต่เทพเสือโคร่งศิลาดำที่ถูกเรียกให้เข้ามาที่เมืองนี้ก่อนหน้าที่รองแม่ทัพจะเดินทางมาถึง และเดินทางกลับออกไปทีหลัง ได้ข้อมูลที่น่าสนใจยิ่ง

"ข้าได้กลิ่นไอของสัตว์เทพแห่งป่าสีทองที่จวนเจ้าเมือง"

เป็นคำรายงานสั้น ๆ ที่ทำให้ที่ประชุมของป่าสีทองซึ่งประกอบไปด้วย เทพเสือโคร่งภูผา เทพกวางสายฟ้า เทพกวางสายลม รองแม่ทัพเฉินอวี้ และหยางหลงเต็มไปด้วยความตึงเครียด
ที่กล่าวกันว่าป่าสีทองมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี เห็นจะไม่เป็นความจริง เพราะในเวลานี้บรรดาเทพทั้งสี่มาจนถึงหยางหลงล้วนมีแต่ความไม่พอใจสุ่มเสี่ยงที่จะพากันไปวางเพลิงเมืองเหอได้ตลอดเวลา
สาระแรกของการประชุมครั้งนี้ คือการแก้แค้นที่กวางทองต้องถูกคุมขังในเรือนจำ
และสาระต่อมาคือเรื่องสัตว์เทพของป่าสีทองที่จวนเจ้าเมืองนั้น
รองแม่ทัพเฉินอวี้ต้องบรรเทาความไม่พอใจด้วยการขอให้ทั้งหมดใช้ความรอบคอบก่อนลงมือ "คนจากเมืองเหอไม่เชื่อเรื่องสัตว์เทพแห่งป่าสีทอง เหอหลินจื้อกับผู้ติดตามที่แม้จะพบเห็นพวกท่านด้วยตาตนเอง เมื่อกลับไปถึงเมืองเหอก็ทำเหมือนกันลืมเรื่องนี้ไปแล้ว"
เปลี่ยนเรื่องสนทนาไปเพียงเล็กน้อย ทั้งหมดก็เริ่มผ่อนคลายความเคร่งเครียดลง
นางเทพกวางสายลมเอียงคอเล็กน้อยแต่พองาม "จะว่าไปก็ไม่เชิงลืมนะ"
เทพเสือโคร่งภูผากล่าวเสริม "น่าจะเรียกว่าทำให้ไม่แน่ใจ แล้วก้าวข้ามไป"
เทพกวางสายฟ้ายิ้มแบบคนดีมีเมตตาขณะที่กล่าวกับเฉินอวี้ และหยางหลง "ในแต่ละวันเราพบเจอเรื่องราวมากมาย ทำไมบางเรื่องเราถึงจำได้แม่นยำ บางเรื่องก็ลืม นั่นขึ้นอยู่กับลำดับความสำคัญที่เรามีให้กับเรื่องนั้น  พื้นฐานของจิตใจ และช่วงเวลาที่เกิดขึ้นด้วย คนพวกนั้นพบพวกเราเพียงครู่เดียวก็หายไปเราจึงชักจูงจิตใจให้เขาไปสนใจเรื่องอื่น ยกให้เรื่องเหล่านั้นเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง สุดท้ายเขาก็จะก้าวข้ามและเมื่อกลับมาทบทวนก็ไม่แน่ใจว่าถูกต้องครบถ้วน ส่วนเรื่องที่พบเทพเสือโคร่งกับลู่กวางทองแม้จะมีระยะเวลายาวนานกว่า แต่ทั้งคู่ไม่ได้ตอกย้ำเรื่องพลังใด ๆ แล้วยิ่งมีเทพเสือโคร่งศิลาดำตามไปถึงเมืองเหอเช่นนี้ เขามีเวลามากมายที่จะบิดเบือนการรับรู้ของคนเหล่านั้น"
เฉินอวี้ที่พบเจอพลังวิเศษมากมายของบรรดาเทพแห่งป่าสีทอง พยักหน้าด้วยความเข้าใจ
เข้าใจว่าเทพเหล่านี้ทำได้ทุกอย่าง ขึ้นอยู่กับว่าทำหรือไม่เท่านั้น
เมื่อเข้าใจแล้วก็กลับไปเรื่องที่เทพเสือโคร่งศิลาดำชี้เบาะแสไว้
"ท่านศิลาดำคาดว่าจะอยู่ในจวนเจ้าเมือง แต่เท่าที่สำรวจดูไม่พบเห็นสิ่งผิดปกติ"
นางเทพกวางสายลมเหลือบตามองเทพเสือโคร่งภูผา ก่อนที่จะแสดงความเห็น "อาจอยู่ใต้ดิน หรืออาจเปลี่ยน...เป็นอย่างอื่น..."
เทพเสือโคร่งภูผานั่งหลังตรงกอดอกมองเทพกวางสายฟ้ารอให้แสดงความเห็น แต่เมื่อไม่ได้เอ่ยคำใด ก็พูดขึ้น
"ได้ ข้าจะไปเมืองเหอ จะจัดการเรื่องที่กวางทองต้องไปอยู่ในเรือนจำก่อน"
...ส่วนเรื่องของไอสัตว์เทพที่ว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์...

...จบตอนที่ยี่สิบหก...

ในที่สุดเรื่องก็มาป๊ะกันแหมกับภาคแรกแล้ว
คุยกับเราบ้างนะ เราอยากคุยกับเตงนะ

น้ำชา


ออฟไลน์ windy49

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: Sunrise in the forest ตอนที่26 P28(71260)
«ตอบ #815 เมื่อ07-12-2017 11:24:21 »

ขอบคุณมากๆ ค่ะ อ่านตอนนี้แล้วคิดถึงกวางทองจัง  :hao5:

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่26 P28(71260)
«ตอบ #816 เมื่อ07-12-2017 14:22:20 »


เบาะแสอยู่ที่เมืองเหอนี่เอง  เหมือนจะอยู่ใต้จมูกพ่อเสือนิดๆไม่น่าเชื่อว่าตบตาพ่อเสือได้มาขนาดนี้

แต่......เอาจริงเหรอพ่อเสือที่ว่าฮ่องเต้สนใจเฉินอวี้ นี่หื้มมมมในใจยาวมาก คือทั้งหมดนั่นแกล้งเพราะรักหรอกเหรอ  :mew5:





ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: Sunrise in the forest ตอนที่26 P28(71260)
«ตอบ #817 เมื่อ07-12-2017 15:21:51 »

ไอสัตว์เทพอยู่ที่เมืองเหอ อาจเปลี่ยนแปลงรูป
ไม่ใช่ถูกเอาไปเป็นตัวยา หรือเป็นเครื่องประดับห้องไปแล้วรึ

น่าคิดที่ว่าฮ่องเต้สนใจเฉินอวี้คนงาม
ไม่ใช่สนใจเทพเสือโคร่งภูผาหรอกรึ
ฮ่องเต้ได้ประโยชน์สองต่อ
ได้ใช้งานเฉินอวี้ ขณะเดียวกันก็ได้ประโยชน์จากเทพเสือโคร่งด้วย
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ YouandMe

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่26 P28(71260)
«ตอบ #818 เมื่อ07-12-2017 15:56:22 »

ก็เดาอยู่ว่าฮ่องเต้จอมเจ้าเล่ห์นั้นต้องชอบอวี้เอ๋อร์แน่ๆ  :m16:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: Sunrise in the forest ตอนที่26 P28(71260)
«ตอบ #819 เมื่อ07-12-2017 16:05:44 »

เข้มข้นขึ้นล่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sunrise in the forest ตอนที่26 P28(71260)
« ตอบ #819 เมื่อ: 07-12-2017 16:05:44 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่26 P28(71260)
«ตอบ #820 เมื่อ12-12-2017 10:11:48 »


 :mc3:  :mc3: มีตอนพิเศษมาฉลองก่อนหรือเปล่าคะ

ออฟไลน์ piggyfree

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่26 P28(71260)
«ตอบ #821 เมื่อ15-12-2017 15:55:14 »

ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา


ออฟไลน์ about

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: Sunrise in the forest ตอนที่26 P28(71260)
«ตอบ #822 เมื่อ15-12-2017 19:48:52 »

 :pig4:

ออฟไลน์ noteno

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่26 P28(71260)
«ตอบ #823 เมื่อ19-12-2017 11:25:00 »

 :serius2: :serius2:

ฮ่องเต้ควรได้รับบทเรียนบ้าง เเต่ก็นะบางทีพ่อเสือก็ทำตัวไม่น่ารักกับเเม่เล็กจริงๆ

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่26 P28(71260)
«ตอบ #824 เมื่อ21-12-2017 16:44:37 »


 :จุ๊บๆ:




ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: Sunrise in the forest ตอนที่26 P28(71260)
«ตอบ #825 เมื่อ22-12-2017 05:08:15 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ noteno

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่26 P28(71260)
«ตอบ #826 เมื่อ22-12-2017 07:00:09 »

 :m27: :m27:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
Re: Sunrise in the forest ตอนที่26 P28(71260)
«ตอบ #827 เมื่อ22-12-2017 22:31:02 »

เบียดเบียนไม่เลิกรา เมืองเหอนี่ยังไงนะ

ฮ่องเต้น่าตี แกล้งคนงามอยู่ได้ เหมือนเด็ก ๆ เลย ชอบเขาเลยเรียกร้องความสนใจด้วยการแกล้งเขา

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่26 P28(71260)
«ตอบ #828 เมื่อ25-12-2017 16:03:20 »


 :mc1: เมอร์รี่คริสต์มาส



ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่26 P28(71260)
«ตอบ #829 เมื่อ28-12-2017 10:28:03 »


มานั่งรออยู่หน้าบ้านนี่แหล่ะ  :mew1:

ว่าแต่ใกล้ถึงปีใหม่แล้วววววววว


 :pig3:

+

 :L2:



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sunrise in the forest ตอนที่26 P28(71260)
« ตอบ #829 เมื่อ: 28-12-2017 10:28:03 »





ออฟไลน์ kanatthanit

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: Sunrise in the forest ตอนที่26 P28(71260)
«ตอบ #830 เมื่อ28-12-2017 19:10:06 »

 :L2: แวะมาหาพ่อเสือ

ออฟไลน์ noteno

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่26 P28(71260)
«ตอบ #831 เมื่อ02-01-2018 09:51:41 »

 :3123: :3123:

แวะมาสวัสดีปีใหม่ค่ะ...รอพ่เสือต่อไป

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: Sunrise in the forest ตอนที่26 P28(71260)
«ตอบ #832 เมื่อ02-01-2018 17:24:40 »

สวัสดีปีใหม่2561นะคะ :L2: :L1: :L2:

ออฟไลน์ piggyfree

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่26 P28(71260)
«ตอบ #833 เมื่อ06-01-2018 16:04:40 »

มายัง มายัง  คิดถึงแล้วนะ

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่26 P28(71260)
«ตอบ #834 เมื่อ08-01-2018 13:46:25 »



ก๊อกๆๆๆ พ่อเสืออออออออออออออ


ฮาโหลๆๆๆๆ เฉินอวี้


มาเถิดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

 :m5:

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่26 P28(71260)
«ตอบ #835 เมื่อ09-01-2018 08:24:46 »



 :z12:     :impress:     :z12: 


ฮึบ ฮึบ





ออฟไลน์ noteno

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่26 P28(71260)
«ตอบ #836 เมื่อ09-01-2018 09:21:43 »

 :z13: :z13:

จิ้มๆพ่อเสือ

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่26 P28(71260)
«ตอบ #837 เมื่อ10-01-2018 13:21:32 »


:ped149: 

:ped149:


อีกนิดเดียว


:กอด1:


:กอด1:




ออฟไลน์ noteno

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่26 P28(71260)
«ตอบ #838 เมื่อ10-01-2018 18:59:23 »

 :mew2:
 ยังไม่มาเลยยย

ออฟไลน์ noteno

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่26 P28(71260)
«ตอบ #839 เมื่อ12-01-2018 06:53:34 »

 :impress3:

 :katai4:

 :ling1:

 :ling2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด