Between us...รักข้างเดียว ►[End] - หนังสือ พร้อมส่งค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Between us...รักข้างเดียว ►[End] - หนังสือ พร้อมส่งค่ะ  (อ่าน 255014 ครั้ง)

ออฟไลน์ squall

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เราขอถามคนเขียนหน่อยค่ะ
1.ฝ้ายมีสิทธิ์อะไรมาตบเล้งคะ นางไม่ได้เป็นอะไรกับอิงเลย เออถ้านางเคยเป็นแฟนเก่าเราจะไม่ว่าเลยแต่นี่มันดูไม่สมเหตุสมผลค่ะ เราอ่านแล้วแบบ อย่างนี้ก็ได้เหรอ สมมุติเราชอบรุ่นพี่คนนึง แต่พี่ไม่ชอบตอบ กูหมั่นใส้เดินไปตบแฟนเค้า ได้เหรอ???
2.นางโกหกว่าได้กับเล้งขอให้เล้งปิดอิง แล้วนางก็พูดจิกกัดคนทั้งๆที่จะมาขอร้องอันนี้เราก็งงว่านางมีสิทธิ์ไรอ่ะ เล้งก็เออยอมปิดบังให้อิงเข้าใจว่าได้กับนาง โง้โง่จังเลย เรานี่แบบ นางฝ้ายมันส่งมึงเรียนเหรอออออ แลดูจะเชื่องทำตามที่บอกมาก จริงๆนางไม่มีสิทธิ์อะไรเลยอ่ะมันดูแบบ เชี่ยไรเนี่ย 555 สมงสมองไปหมดละ อยากให้เรื่องจบ คือถึงนางไม่จบมันก็ไม่มีไรให้ทำต่อแล้วนางทำชั่วทุกอย่างไปแล้ว เสนอหน้าไปบอกแม่แล้วมันจะมีอะไรหนักกว่านี้อีกวะ งง
3.คือนางทำตัวเองทั้งนั้น แล้วเล้งกับอิงนี่มายอมนางเพื่อไรอ่ะ เออถ้านางท้องแล้วทำแท้งแล้วต้องรู้สึกผิดกับนางยอมให้นางตบยอมทำทุกอย่างให้เรื่องจบมันก็มีเหตุมีผล แต่นี่ครือออออไม่มีเหตุผลอะไรเลยค่ะ เราแบบ ตลกว่ะเง้อออออ
คืออ่านแล้วมีตรงนี้นี่แหละค่ะที่เรารู้สึกว่าเรื่องมันเฟกอ่ะ มันไม่สมจริง อย่างงี้ก็ได้เหรอ? แค่คนเค้าไม่ชอบตอบแต่นางแบบถือสิทธิ์ผู้เสียหายเต็มที่ เรียกร้องอย่างนั้นอย่างนี้มันงงนะคะ ทำไมไม่มีใครฉุกคิดเลยอ่ะ เล้งนี่ก็แบบยอมนังฝ้ายจังคือมึงไม่ได้เอามันจบมั้ย อิงนี่ก็แบบเข้าใจว่าฝ้ายได้กับเล้งอีก ก็ยอมมันอีก โอ้ย สรุปนังฝ้ายไม่ได้เสียอะไรนะคะ (เพราะนางไม่เคยได้) แต่ตอนนี้นางกลับได้ตบได้แก้แค้นคนที่ไม่รับรักนางกับคนรักใหม่ ชีวิตนางนี่ดีเหลือเกิน คือเราเซ็งมาก นิยายเรื่องนี้สนุกมาตลอดแต่ติดแค่ตรงนี้ค่ะ เราคงไม่ไหวกับตัวร้ายที่จบแบบดี้ดี ทำชั่วแต่ไม่ได้เสียอะไรเล้ยยย นางไม่ได้รับบทเรียนอะไรเล้ยยยย เดินเชิดจบแบบสวยๆ เราคงรับไม่ได้อ่ะค่ะ มันคงไม่ใช่แนวเรา
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
อยากกอ่านแล้ววววว. มาต่อเร็วๆนะครับ,,,

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
:hao5:ขออนุฯาตตอบคอมเมนค์ คุณ squall ค่ะ ^^



1.ฝ้ายมีสิทธิ์อะไรมาตบเล้งคะ นางไม่ได้เป็นอะไรกับอิงเลย เออถ้านางเคยเป็นแฟนเก่าเราจะไม่ว่าเลยแต่นี่มันดูไม่สมเหตุสมผลค่ะ เราอ่านแล้วแบบ อย่างนี้ก็ได้เหรอ สมมุติเราชอบรุ่นพี่คนนึง แต่พี่ไม่ชอบตอบ กูหมั่นใส้เดินไปตบแฟนเค้า ได้เหรอ???

 :กอด1:- เรื่องนี้ต้องขอชี้แจงตามความคิดเห็นส่วนตัวค่ะ จะบอกว่าฝ้ายเป็นผู้หญิงแอ๊บแรงและนางก็ร้ายพอตัว คนเราจิตใจดำมืดก็คิดไม่ดีกันทั้งนั้น แล้วในกรณีที่เราชอบรรุ่นพี่สักคนแต่เขาไม่ชอบตอบ แล้วเราก็เดินไปตบหน้าแฟนของรุ่นพี่คนนั้นซะ ก็มีสิทธิ์เป็นไปได้ค่ะ ไม่อย่างนั้นจะมีข่าวตบกันแย่งผู้ชายหรือคะ? มโสำนึกแต่ละคนก็แตกต่างกันไป ถ้าคนมันมีสามัญสำนึกพึงรุ้ว่าอะไรควรหรือไม่ควร ก้ไม่มีข่าวร้ายเรื่องชู้สาวหรอกค่ะ อะไรมันก็เกิดขึ้นได้นะคะ
โลกมันไม่ได้สวยแบบนั้น (ไม่ตรงใจค้องขออภัยด้วย)




2.นางโกหกว่าได้กับเล้งขอให้เล้งปิดอิง แล้วนางก็พูดจิกกัดคนทั้งๆที่จะมาขอร้องอันนี้เราก็งงว่านางมีสิทธิ์ไรอ่ะ เล้งก็เออยอมปิดบังให้อิงเข้าใจว่าได้กับนาง โง้โง่จังเลย เรานี่แบบ นางฝ้ายมันส่งมึงเรียนเหรอออออ แลดูจะเชื่องทำตามที่บอกมาก จริงๆนางไม่มีสิทธิ์อะไรเลยอ่ะมันดูแบบ เชี่ยไรเนี่ย 555 สมงสมองไปหมดละ อยากให้เรื่องจบ คือถึงนางไม่จบมันก็ไม่มีไรให้ทำต่อแล้วนางทำชั่วทุกอย่างไปแล้ว เสนอหน้าไปบอกแม่แล้วมันจะมีอะไรหนักกว่านี้อีกวะ งง

 :กอด1:- ในทีนี้ นางไม่มีสิทธิ์หรอกค่ะ แต่นางนิสัยไม่ดีไง คนนิสันไม่ดีจะคิดได้หรือเรื่องมีสิทธิ์หรือไม่มีสิทธิ์ ก็จะตบไง ใครสน? ทำนองนั้นค่ะ ส่วนเล้งที่ยอมทำตาม ก็ไม่ได้โง่อะไรหรอกนะคะ เล้งเป็นผู้ชาย เขาเป็นตัวเอก และก็ควรมีคุณธรรมบ้าง ถึงมันจะเคยเล่นกับความรู้สึกของคนอื่นเพราะเกมก็เถอะ การที่เล้งยอมโคนฝ้ายตบเหมือนเป็นการแลกเปลี่ยนสัญญากันว่าจะไม่วุ่นวายอีกค่ะ เอาแบบตัดบทง่ายๆ เจํบตัวแล้วเลิกแล้วกันไปเหมือนผู้ชายนัดต่อยกันแล้วจบเรื่อง ในที่นี้เป็นการตัดสัมพันธ์คล้ายตบสั่งลา แบบว่านางร้ายไง จะให้ถอยฟรีๆ ก็ขอตบให้หายแค้นหน่อยเถอะ อารมณ์นี้ ถ้านางคิดได้ว่าไม่มีสิทธิ์ก็คงไม่ปั้นเรื่องมั่วมาตั้งแต่แรก และเรื่องที่เล้งทำตามที่ฝ้ายขอ เล้งไม่จำเป็นต้องทำตามที่ฝ้ายบอกเลย แต่เขาเป็นลูกผู้ชายในระดับนึงที่รักษาสัญญาได้ แล้วการที่ไม่แฉเรื่องของฝ้ายอีกนัยหนึ่งตือไม่อยากทำลายความรู้สึกความเป็นเพื่อนที่อิงมีต่อฝ้าย ถ้าจะไม่ยุ่งกันแล้วก็ไม่ควรยุให้คนเกลียดกัน ถึงมันจะเป็นความจริง ชีวิตจริงไม่ได้มีความซื่อตรงหรือยุติธรรมขนาดนั้นหรอกนะคะ (ไม่เห็นด้วยก็ขออภัยอีกครั้ง)



3.คือนางทำตัวเองทั้งนั้น แล้วเล้งกับอิงนี่มายอมนางเพื่อไรอ่ะ เออถ้านางท้องแล้วทำแท้งแล้วต้องรู้สึกผิดกับนางยอมให้นางตบยอมทำทุกอย่างให้เรื่องจบมันก็มีเหตุมีผล แต่นี่ครือออออไม่มีเหตุผลอะไรเลยค่ะ เราแบบ ตลกว่ะเง้อออออ
คืออ่านแล้วมีตรงนี้นี่แหละค่ะที่เรารู้สึกว่าเรื่องมันเฟกอ่ะ มันไม่สมจริง อย่างงี้ก็ได้เหรอ? แค่คนเค้าไม่ชอบตอบแต่นางแบบถือสิทธิ์ผู้เสียหายเต็มที่ เรียกร้องอย่างนั้นอย่างนี้มันงงนะคะ ทำไมไม่มีใครฉุกคิดเลยอ่ะ เล้งนี่ก็แบบยอมนังฝ้ายจังคือมึงไม่ได้เอามันจบมั้ย อิงนี่ก็แบบเข้าใจว่าฝ้ายได้กับเล้งอีก ก็ยอมมันอีก โอ้ย สรุปนังฝ้ายไม่ได้เสียอะไรนะคะ (เพราะนางไม่เคยได้) แต่ตอนนี้นางกลับได้ตบได้แก้แค้นคนที่ไม่รับรักนางกับคนรักใหม่ ชีวิตนางนี่ดีเหลือเกิน คือเราเซ็งมาก นิยายเรื่องนี้สนุกมาตลอดแต่ติดแค่ตรงนี้ค่ะ เราคงไม่ไหวกับตัวร้ายที่จบแบบดี้ดี ทำชั่วแต่ไม่ได้เสียอะไรเล้ยยย นางไม่ได้รับบทเรียนอะไรเล้ยยยย เดินเชิดจบแบบสวยๆ เราคงรับไม่ได้อ่ะค่ะ มันคงไม่ใช่แนวเรา

- :กอด1: ถูกค้องแล้วค่ะ นางทำตัวเองทั้งนั้น นางได้คบเล้งแล้วยังไง? แก้แค้นคนที่รักแล้วยังไง? นางก็ไม่ได้อะไร นอกจากความสะใจชั่วครู่ แต่สิ่งที่หนักหนากว่านั้นที่นางได้รับคือความทุกข์และการไม่สมหวังค่ะ กรรมของนางอาจจะไม่ได้รับโดยตรง อาจจะไม่ได้รับจากเล้งกับอิง หรือเกิดขึ้นทันทีในตอนนี้ แต่ผลจากการกระทำและนิสัยไม่ดีของนาง สักวันนางจะได้รับค่ะ ซึ่งอย่างน้อยตอนนี้นางก็ต้องอกหักแบบหมกทางสู้ไปแล้วค่ะ ส่วนเล้งกับอิงที่ยอมนางก็แจ้งไปข้างต้นแล้ว เล้งต้องการตัดสัมพันธ์ให้จบและเป็นลูกผู้ชายพอที่จะเป็นคนรักษาสัญญา ส่วนอิงก็ยังเห็นว่าฝ้ายเป็นเพื่อนกันอยู่ ไม่ได้คิดแค้นอะไร เพื่อนก็คือเพื่อน มีปัญหาอะไรก็พร้อมจะช่วยเหลือ
อย่าลืมว่าเรื่องจริงเน่ายิ่งกว่านิยายอีกนะคะ คนดีทำดีไม่ขึ้นก็มีเยอะ คนชั่วได้ดีมีถมไปค่ะ แต่กรรมดีและกรรมเลวจะตอบแทนในสักวันหนึ่งแน่นอน เชื่อเถอะ! (เป็นทัศนคติส่วนตัวจริงๆ ไม่เห็นต้วยต้องขออภัยอีกหลายๆ ครั้ง)



*** ทั้งนี้ผู้เขียนเข้าใจว่า ทุกท่านที่ได้อ่านเรื่องนี้จะหมั่นไส้นางฝ้ายกันมากและคงอยากให้นางได้รับความเจ็บปวดกรืออะไรก็ตามที่ตัวร้ายพึงได้รับเหมือนนิยายเรื่องอื่นๆ โดยทั่วไปแต่จากใจผู้เขึยนไม่ได้รู้สึกเห็นใจนางนะคะ แต่อยากลองถ่ายทอดในแบบที่คนร้ายได้ดี มันก็มีไง คนเราทำร้ายคนอื่นแต่ยังได้อยู่อย่างสุขสบายก็มีไง ตัวร้ายก็คนเหมือนพระเอก นายเอก ก็อยากจะให้ไปแบบดีบ้าง ถ้าท่านได้ดูเรื่อง  KING KONG (2005) ก็จะพอเข้าใจอารมณ์ตัวร้ายจบสวยนี่แหละค่ะ (นึกแล้วหมั่นไส้จริงๆ เลย เกลียดมัน!!!)

ต้องขอบคุณที่ติดตาม อีกทั้งแนะนำและติชมมาค่ะ น้อมรับทุกความคิดเห็นนะคะ อาจจะมีบางอย่างที่ดูขัดไปบ้าง ถ้าชี้แจงได้ก็จะแจ้งค่ะ ทั้งนี้ผู้เขียนอาจจะไม่ได้มีความคิดทุกมิติครบถ้วน พลาดบ้างอะไรบ้างก็ขออภัยค่ะ
ขอบพระคุณอีกครั้ง

++++++++++++++++++++

ตอนหน้ามาวันพรุ่งนี้เน้อ ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-09-2017 11:53:48 โดย marionatte »

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
27th Step : เส้นทางที่มีแต่หนามกุหลาบ
[Leng]




"แม่อุ่น สวัสดีครับ"

ผมยกมือไหว้อย่างนอบน้อมมากกว่าปกติ โดยไม่ลืมรอยยิ้มหวานที่คิดว่าจริงใจที่สุดในชีวิต ทว่าสายตาที่เคยมองตอบกลับมาอย่างอบอุ่นและอ่อนโยนยามนี้กลับนิ่งเฉยจนน่ากลัว

แม่อุ่นไม่ได้ตอบรับอะไร ทำเพียงเลื่อนสายตามองแล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมรู้สึกใจร่วงวูบในทันที ก่อนจะรีบดึงกำลังใจของตัวเองขึ้นมา เมื่อมือของใครอีกคนที่ยืนอยู่ข้างกันจับไหล่ของผมเอาไว้

"ของฝาก"

เสียงทุ้มเบาดังขึ้น ผมรีบกระวีกระวาดหยิบของฝากมากมายที่สรรหามา แล้วเดินไปใกล้แม่อุ่นที่กำลังสนใจรายการโทรทัศน์ที่ฉายอยู่

"แม่อุ่นครับ เล้งเอามาฝากครับ"

ผมส่งครีมบำรุงผิวแบรนด์นอกพร้อมกับเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพชุดใหญ่ให้าคนตรงหน้า โดยมีความเชื่อว่าผู้หญิงวัยนี้ต้องการดูแลและชะลออายุของตัวเอง เห็นได้จากแม่ของผม แต่ทว่า...

"ลำไย เก็บร้านได้แล้ว"

แม่อุ่นลุกหนี โดยที่ไม่ชายตาแลผมหรือของที่วางอยู่ตรงหน้าแม้แต่น้อย ผมปั้นหน้าไม่ถูก ถ้าโดนด่ากลับมาก็คงจะดีกว่าเป็นอากาศไม่อยู่ในสายตาแบบนี้

"แม่"

เสีขงของไอ้อิง ทำให้แม่อุ่นหันไปมอง ก่อนที่ท่านจะพูดเสียงเรียบกับลูกชายของตัวเอง

"อิงก็ไปช่วยลำไยเก็บร้าน แม่จะออกไปข้างนอกหน่อย"

"แม่อย่าทำแบบนี้"

ไอ้อิงพูดเสียงอ่อนพร้อมกับมองแม่อุ่นด้วยสายตาเว้าวอน ผมได้แต่ยืนเงียบเพราะเวลานี้ไม่รู้แล้วจริงๆ ว่าควรจะพูดหรือทำอะไร

"แม่เคยบอกอิงยังไงก็อย่างนั้น ไม่พูดซ้ำ"

แม่อุ่นพูดแค่นั้น ก่อนจะเดินขึ้นชั้นสอง ผมหันไปมองไอ้อิงที่ยังยืนนิ่งไม่ต่างจากผม ก่อนที่มันจะเดินเข้ามาหยิบของฝากทั้งหมดที่ถูกเมินอย่างสิ้นเชิงไว้ด้วยมือข้างหนึ่งและมืออีกข้างหนึ่งจับมือของผมเอาไว้ แล้วหันมายิ้มบางให้ผม

"ไม่เป็นไร ขึ้นไปข้างบนก่อนแล้วกัน"

"อือ"

ไอ้อิงเดินจับมือของผมขึ้นไปยังชั้นสองของร้านอิ่มอุ่นที่เป็นอาณาเขตของครอบครัว ผมลอบถอนหายใจออกมา บันไดแต่ละก้าวที่เหยียบขึ้นไปนั้นยากจนน่าหนักใจ


.........


บนชั้นสองของตีกแถวสูงสี่ชั้นมีแต่ความเงียบ แม่อุ่นที่เดินชึ้นมาก่อนคงจะเข้าห้องของตัวเองไปแล้ว ผมมองไอ้อิงที่เดินไปเก็บของที่พวกเราตั้งใจซื้อมาเข้าที่ ก่อนจะหันมามองผม

"มึงไปอยู่ที่ห้องกูก่อน เดี๋ยวกูลงไปช่วยพี่ลำไยปิดร้าน แล้วจะตามไป"

"กูไปช่วยด้วยดีกว่า บอกตามตรงกูเฟลจนไม่อยากนั่งเฉยๆ เลยว่ะ"

ทั้งที่ก็พอจะเตรียมใจว่าครั้งแรกไม่สวยงามอย่างที่หวังแต่พอเจอเข้าจริงก็หดหู่ไม่น้อยเลยครับ

ไอ้อิงถอนหายใจออกมา ก่อนจะพยักหน้ารับ เราสองคนเลยเดินลงไปชั้นล่างอีกครั้งเพื่อช่วยพี่ลำไยเก็บร้านตั้งแต่ยังไม่เที่ยงตรง

"น้องอิง น้องเล้ง"

พี่ลำไยส่งยิ้มมาให้ ตอนนี้เธอกำลังเก็บจานข้าวของลูกค้าคนสุดท้าย ผมกับไอ้อิงก็รีบช่วยเก็บกวาด ทั้งที่ปกติร้านอิ่มอุ่นจะปิดบริการราวหนึ่งทุ่มโดยประมาณ แต่วันนี้ที่ปิดเร็วกว่าเดิมหลายชั่วโมงคงหนีไม่พ้นสาเหตุมาจากผม

"พี่ลำไย อ้อนไปไหน"

ไอ้อิงหันไปถามถึงน้องสาวที่ตั้งแต่มาถึงก็ยังไม่เห็นหน้า พี่ลำไยก็ตอบเสียงใสเป็นปกติ

"น้องอ้อนไปเที่ยวกับเพื่อนจ้ะ คงกลับเย็นๆ นุ้น"

ไอ้อิงพยักหน้ารับเป็นคำตอบ หลังจากนั้นไม่นานผมที่กำลังกวาดพื้นอย่างที่ไม่ค่อยได้ทำก็ต้องหันไปมองอีกทาง เมื่อเจ้าของบ้านที่หายตัวไปเดินเข้ามาด้วยชุดไปรเวทเตรียมออกไปข้างนอก

"แม่จะไปไหน"

ไอ้อิงหันไปถามแม่อุ่น ท่านก็ยังคงมีสีหน้าปกติแต่ไร้รอยยิ้ม ท่าทางเย็นชาที่มีให้ลูกชาย ทำให้ผมที่เป็นต้นเหตุรู้สึกแย่

"ไปเดินห้างน่ะ แล้วว่าจะไปหาเพื่อนหน่อย"

"เดี๋ยวผมไปส่งนะครับ"

ผมพูดขึ้นทันทีที่แม่อุ่นบอก ท่านปรายตามามองผมที่รีบทำหน้ายิ้มให้ ก่อนจะหันไปสนใจลูกชายของตัวเองต่อ

"แม่ไปล่ะ"

แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ผมถูกเมิน ผมได้แต่ยิ้มเก้อพลางมองแม่อุ่นเดินออกไป ไอ้อิงหันมามองผมเล็กน้อย แล้วรีบเดินตามแม่ของตัวเองออกไปอีกคน ภายในร้านอิ่มอุ่นที่ปิดบริการเลยเหลือแต่ผมที่ยังจับไม้กวาดค้างอยู่เพียงลำพัง

"น้องเล้ง"

ผมหันไปมองเจ้าของเสียง พี่ลำไยส่งยิ้มมาให้ ก่อนที่เธอจะเดินเข้ามาตบบ่าของผมเบาๆ

"ถ้าน้องเล้งทำให้น้องอิงรักได้ ก็ต้องทำให้แม่อุ่นรักได้ด้วยแน่จ้ะ"

"ขอบคุณครับ"

ผมส่งยิ้มที่ตอนนี้ทำได้ยากเต็มทีไปให้อีกฝ่าย ก่อนที่พี่ลำไยจะเดินออกไปจากร้าน ผมถอนหายใจแล้วขมวดติ้วอย่างครุ่นคิด

จะทำยังไงดีวะ...

ทุกอย่างจะไม่ยากเลย ถ้าหากผมไม่ใช่ผู้ชาย!

เมื่อหมดอารมร์จะทำอะไรแล้ว ผมเลยเดินไปเก็บไม้กวาดไว้ที่เดิม แล้วหันไปมองที่หน้าร้าน เมื่อเห็นไอ้อิงที่หายไปครู่หนึ่งเดินกลับมา

"มึงไปไหนมา"

"ไปคุยกับแม่นิดหน่อย"

"แม่อุ่นว่าไงบ้าง"

ผมมองไอ้อิงที่มีสีหน้าไม่สดใส มันไม่ได้ตอบอะไร นอกจากยกมือขึ้นลูบหัวของผมเบาๆ อย่างอ่อนโยน

"พี่อิง...กูไม่เป็นไร มึงก็โอเคใช่ป่ะวะ"

"อืม"

"กูก็ไม่คิดว่าครั้งแรกจะสำเร็จหรอก มันไม่ใช่เรื่องที่จะยอมรับกันได้ง่ายๆ แต่กูจะพยายาม"

ผมส่งยิ้มให้ไอ้อิง นอกจากจะต้องการให้อีกฝ่ายสบายใจแล้วก็ยังเป็นการปลอบใจตัวเองไปด้วย

ถึงความรักจะเป็นเรื่องของคนสองคนก็จริง แต่ก็ยังไม่สามารถอยู่ในสังคมโดยมีเพียงคนสองคนได้

ถ้าหากอยากจะอยู่กับคนตรงหน้าไปตลอดหลังจากนี้ ผมก็ต้องพยายามทำให้แม่อุ่นยอมรับผมในฐานะคนรักของลูกชายชองท่านให้ได้!

ไอ้อิงมองผมอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะจูบหน้าผากชองผมเบาๆ ความอุ่นและนุ่มนวลจากริ้มฝีปากที่สัมผัส ทำให้ผมอมยิ้มออกมา ก่อนเสียงทุ้มเบาทว่ามั่นคงจะดังขึ้น

"เล้ง กูรักมึงนะ"

 "กูก็รักพี่อิงครับ"

ถ้าเคลียร์ด่านแม่อุ่นไม่ผ่าน ความรักของเราสองคนก็ไปต่อไม่ได้ จากที่เคยเอาความรู้สึกของคนอื่นมาเล่นเป็นเกม คราวนี้จะลองเอาความรู้สึกของตัวเองมาลองเล่นบ้าง

แล้วผมจะไม่ยอมให้เกมโอเวอร์แแน่!

สู้เว้ยไอ้เล้ง!!!


........

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5


หลังจากการเปิดตัวในวันนี้ล้มไม่เป็นท่า ผมก็ต้องถอยกลับมายังจุดเซฟของตัวเองแล้ววางแผนใหม่ครับ

ผมมานั่งขบคิดพิจารณาอยู่นานว่าควรจะทำยังไงต่อ ก็พบว่าปัญหาแรกที่ควรจัดการก่อน คือทำให้แม่อุ่นสนใจ ไม่ใช่มองผมเป็นสิ่งที่ไร้ตัวตน และวิธีแก้ก็คือเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสายตานั่นเอง

มันก็เหมือนการจีบผู้หญิงสักคนที่เจ้าหล่อนไม่เคยชายตามอง แต่ความจริงใจและการเข้าหาจะต้องทำให้อีกฝ่ายมองเห็นแน่

ผมพยักหน้ากับแผนการแรกของตัวเอง แล้วหันไปมองทางระเบียงที่ไอ้อิงกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ อีกไม่กี่เดือนมันก็ใกล้จะเรียบจบแล้ว ผมอยากให้มันสนใจเรื่องเรียนมากกว่ากลุ้มเรื่อง ของผมอย่างที่เป็นอยู่

"พรุ่งนี้กูจะกลับไปนอนที่หอ มึงอยู่ได้ใช่ไหม"

ไอ้อิงเดินกลับเข้ามาในห้อง ก่อนที่มันจะนั่งลงบนเตียง นัยน์ตาสีดำเจือความนัยบางอย่าง

มันกำลังเป็นห่วงผม

"ได้ดิ มึงตั้งใจทำงานเถอะ อีกไม่กี่เดือนจะจบแล้ว ถ้าเกรดออกมาไม่ดี เดี๋ยวแม่อุ่นจะเหมาว่าเป็นเพราะกู"

"ไอ้เล้ง"

ไอ้อิงส่งสายตาดุมาให้ ผมก็ยิ้มรับ ก่อนจะเอนตัวลงนอนกับหมอน มันถอนหายใจออกมา แล้วลุกขึ้นไปปิดไหให้ห้องนอนมืดสนิท ถึงอย่างนั้นแสงจันทร์จากภายนอกก็ยังคงส่งแสงลอดผ่านมาอยู่บ้าง

ถึงความรักของเราสองคนตอนนี้จะมืดจนมองไม่เห็นทางไปต่อ แต่ก็ต้องมีแสงจากที่ไหนสักแห่งผ่านเข้ามาบ้างล่ะน่า...

แรงยุบของเตียงและอ้อมแขนที่กอดรัด ทำให้ผมหลุดจากความคิดของตัวเอง ผมผ่อนลมหายใจออกมาเล็กน้อย แล้วหมุนตัวไปเผชิญหน้ากับอีกคนที่นอนด้วยกัน

"แล้วจะกลับมาค้างอีกทีเมื่อไหร่"

"คงอยู่เคลียร์งานสักอาทิตย์"

"กูย้ายไปอยู่หอกับมึงดีป่ะ"

"ไม่ต้องเลย วุ่นวาย"

"อืม งั้นตอนที่มึงไม่อยู่ กูจะไปหาแม่อุ่นนะ"

ถึงจะมีความมืดอำพรางอยู่ แต่ผมก็พอจะมองเห็นสีหน้าของไอ้อิงที่กำลังจ้องผมอยู่ อ้อมแขนที่กอดเอวของผมเอาไว้ดึงเข้าหามากขึ้น

"มึงจะทำอะไร"

"ก็แค่จะไปตามตื้อขอลูกชายแม่อุ่นเฉยๆ"

"หึ! ไร้สาระ"

"โหย...ไร้สาระอะไร ไม่งั้นจะมีประโยคที่ว่า...ตื้อเท่านั้นที่ครองโลกเหรอ"

"สรุปว่ามึงจะครองโลกเ?"

"ก็โลกแห่งความรักของเราไงครับที่รัก โธ่...พี่อิงกวนตีนอ่ะ"

ผมว่าด้วยน้ำเสียงไม่จริงจังนัก ไอ้อิงหัวเราะออกมาเบาๆ ทั้งที่เราสองคนยังนอนกอดกันอยู่ แล้วความเงียบก็เคลื่อนผ่านครู่หนึ่ง ก่อนเสียงของอีกคนจะดังขึ้นต่อ

"มีปัญหาอะไรต้องบอกกู อย่าฝืนตัวเองจนเกินตัว" 

"ก็แค่จะไปเอาใจแม่แฟน ไม่มีอะไรหรอกน่า"

"อืม"

ไอ้อิงเลื่อนใบหน้าเช้ามาจูบที่หน้าผากไล่มาถึงปลายจมูกและจบลงที่ริมฝีปากของผมอย่างอ่อนหวาน แล้วเราสองคนก็สบตากันในความมืดต่อ

"หลับได้แล้ว"

"ฝันถึงกูด้วยนะ"

"มึงจะให้กูฝันร้ายเหรอ"

"กวนอีกแล้วนะมึง"

ผมตีหน้ามุ่ย แต่อีกคนไม่ได้สนใจ จนเมื่อเปลือกตาที่เลือนรางในความมืดปิดลง ผมก็คลี่ยิ้มออกมา แล้วหลับตาลงบ้าง


.........


ผมเดินออกมาจากห้องนอนในชุดนักศึกษา และเมื่อมองไปยังโต๊ะอาหารที่ว่างเปล่า ก็นึกทอดถอนใจออกมา

ไอ้อิงไปนอนค้างที่หอตั้งแต่เมื่อคืน ถึงจะไม่ได้กลับมาแต่มันก็ยังติดต่อกับผมเหมือนกับเร่าสองคนไม่ได้ห่างไปไหน นอกจากไออุ่นจากร่างกายและอาหารจากฝีมือของมันที่หายไป

ผมเดินไปชงกาแฟสำเร็จรูปพร้อมกับหยิบขนมปังปิ้งแบบง่ายๆ พลางนึกถึงสิ่งที่ตัวเองต้องทำในวันนี้ หลังจากเรียนเสร็จ ผมตั้งใจจะไปหาแม่อุ่นครับ

แผนการตามตื้อของผมก็ไม่ได้มีอะไรมาก ก็แค่พยายามเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของแม่อุ่น ทำให้ท่านได้เห็นความดีและความตั้งใจของผม ซึ่งนั่นก็คือการเข้าไปช่วยงานที่ร้านอิ่มอุ่นนั่นเองครับ

ไอ้อิงไม่ได้แสดงความห็นอะไรเกี่ยวกับรื่องนี้ มันแค่บอกว่าอย่าทำตัวเซ่อซ่าให้ร้านวุ่นวายจนเรื่องแย่มากกว่าเดิม

ผมไม่ใช่เคนไม่รู้ความหรือหนุ่มเอ๋อที่จะก่อเรื่องไปทั่วสักหน่อย

เมื่อเวลาสี่โมงเย็นผ่านเลยไป ผมก็ขับรถไปยังร้านอิ่มอุ่นเพื่อเริ่มภารกิจที่ตั้งใจเอาไว้ แล้วผมก็มาถึงที่หมายในเวลาเกือบห้าโมงเย็นครับ

วันนี้ร้านอิ่มอุ่นยังเปิดบริการเหมือนเคย ลูกค้าก็มีทั้งคนทำงานและนักศึกษาบ้างประปราย ผมเดินถือถุงขนมจากร้านชื่อดังเข้าไปด้านในด้วยรอยยิ้ม

"พี่ลำไย สวัสดีครับ"

"อ้าว! น้องเล้งมายังไงจ้ะ"

"ว่าจะมาช่วยงานที่ร้านน่ะครับ นี่ขนมครับพี่ลำไย ผมซื้อมาฝาก"

"อุ๊ย! ขอบคุณค่ะ"

"แล้วแม่อุ่นอยู่หรือเปล่าครับ"

"ไปเข้าห้องน้ำน่ะ เดี๋ยวก็ลงมา"

ผมคุยกับพี่ลำไยได้ไม่กี่นาที เสียงของอ้อนก็ดังขึ้น และเมื่อผมหันไปมอง ก็รีบยกมือไหว้ทักทายผู้ใหญ่อีกคนที่เดินมาด้วยกัน

"พี่เล้ง! มายังไงคะเนี่ย"

"จะมาช่วยงานที่นี่น่ะ"

ผมตอบคำถามของอ้อนแล้วหันไปทางแม่อุ่นต่อ

"แม่อุ่นครับ ผมขออนุญาตมาช่วยงานที่ร้านนะครับ ส่วนนี่ของฝากครับ ขนมร้านนี้อร่อยมากเลยนะครับ"

ผมยังคงส่งยิ้มไปให้ แต่ก็เป็นไปตามคาด แม่อุ่นไม่ได้ตอบรับอะไร ขนมที่ผมส่งให้ก็ยังค้างกลางอากาศจนอ้อนต้องรีบเข้ามารับเอาไว้แทน

"น่ากินจัง ขอบคุณค่ะ"

อ้อนส่งยิ้มให้พร้อมกับความนัยที่ผมเองก็เข้าใจสถานการณ์ดีผ่านทางสายตา

"น้องอ้อนไปล้างจานได้แล้วลูก"

"ค่ะ"

หลังจากที่แม่อุ่นมอบหมายงานให้ลูกสาวเสร็จ ก็เดินผ่านไปราวกับไม่เห็นผมอยู่ในสายตาอย่างที่ครั้งก่อน ผมยิ้มกับตัวเองอยู่ในใจ

ถึงแม้ท่าทางแบบนี้ในวันนั้นจะจู่โจมกำลังใจของผมอย่างรุนแรง แต่ไม่ใช่สำหรับวันนี้ครับ

ในวันที่ผมเตรียมใจมาพร้อมมากกว่าเดิม!

ในขณะที่อ้อนกำลังจะเดินเข้าไปเก็บของแล้วเดินไปล้าจานต่อ ผมก็เริ่มทำในสิ่งที่ควรทำทันที

"เดี๋ยวพี่ไปช่วย"

"อ้อค่ะ"

เมื่อไม่มีเสียงขัดจากใคร ผมก็เดินไปพร้อมกับอ้อน และเมื่อเหลือกันแค่สองคน ผมก็พูดเรื่องของตัวเอง

"อ้อนรู้เรื่องของพี่กับพี่อิงแล้วใช่ไหม"

"ค่ะ"

ใบหน้าหวานที่เปื้อนรอยยิ้มก่อนหน้านี้มองผมด้วยสีหน้าเหมือนครุ่นคิดบางอย่าง

"ก็อย่างที่เห็น แม่อุ่นไม่เห็นด้วย เมื่อกี้ก็ไม่มองพี่ด้วยซ้ำ แต่ว่าหลังจากนี้พี่จะเข้ามาที่ร้านทุกวัน มาช่วยงานจนกว่าจะโดนไล่นั่นแหละ"

"ฮะ? โดนไล่? ทำไมล่ะคะ"

อ้อนทำหน้างงออกมา พร้อมกับเอาขนมไปใส่ในตู้เย็น ผมก็ถอนหายใจออกมา

"ตอนนี้พี่เป็นคนไม่มีตัวตน ทำอะไรก็ไม่มีความหมาย แม่อุ่นไล่เมื่อไหร่แสดงว่าท่านยอมเห็นพี่แล้วน่ะสิ"

"อ้อ...แล้วพี่เล้งมีอะไรให้อ้อนช่วยหรือเปล่าคะ"

ผมมองใบหน้าหวานเล็กน้อย แล้วส่งยิ้มไปให้

"ยังไม่มีหรอก แค่อ้อนยอมรับพี่ก็พอแล้ว"

"อิงอิงรักใคร อ้อนก็รักด้วย"

อ้อนส่งยิ้มมาให้ ก่อนจะทำสีหน้าเจ้าเล่ห์ออกมาชวนให้เอ็นดู ทำให้ความเครียดที่ก่อตัวขึ้นในใจถูกทำลายไป

"มีคนหล่อเข้ามาในครอบครัวดีจะตาย"

"ถ้าพี่อิงมาได้ยินอ้อนต้องโดนดุแน่"

"ถ้าอิงอิงมาว่านะ จะขโมยพี่เล้งไปควงซะเลย"

"ฮ่าๆ เอางั้นเลยเหรอ"

หลังจากที่เราสองคนคุยเล่นกัน ผมกับอ้อนก็ลงมาล้างจานที่ด้านหลังร้านต่อครับ ผมมองภาพจานและเศษอาหารต่างๆ ที่อีกฝ่ายจัดการอย่างคล่องแคล่ว ซึ่งมันไม่น่าพิสมัยในสายตาของผมนัก แล้วอดถามขึ้นมาไม่ได้

"อ้อนต้องล้างจานทุกวันเลยเหรอ"

"ไม่หรอกค่ะ สลับกับพี่ลำไย"

"อืม"

ถึงจะรู้สึกแขยงบ้าง แต่ผมก็พยายามตั้งใจเตามที่ครัว เราสองคนทำงานโดยที่พูดคุยกันเป็นระยะ เมื่อล้างจานเสร็จ ผมก็รีบไปช่วยพี่ลำไยที่หน้าร้านต่อโดยไม่ต้องให้ใครพูดอะไร ถึงอย่างนั้นก็ยังลอบมองแม่อุ่นที่กำลังนั่งอยู่ในร้านไปด้วย

ผมคงต้องขอบคุณไอ้อิงในวันนั้นที่้ใช้งานผมเป็นพนักงานของร้าน ทำให้ตอนนี้ผมสามารถทำงานทุกอย่างไม่ค่อยติดขัด ไม่ว่าจะเป็นการรับรายการอาหารจากลูกค้า การเสริร์ฟอาหารหรือการเก็บเงิน ก็รู้ที่รู้ทางมาแล้ว

จนเวลาล่วงเลยมาถึงหนึ่งทุ่มตรง แม่อุ่นก็บอกให้พี่ลำไยเก็บร้าน และกลับไปล้างจานอีกครั้ง ซึ่งผมก็ยังอาสาเป็นผู้ช่วยเหมือนเคย

"ไม่เป็นไรต้ะน้องเล้ง พี่ทำคนเดียวได้"

"ไม่เป็นไรครับ ผมช่วยจะได้เสร็จเร็วๆ"

ผมกับพี่ลำไยช่วยกันทำงานอยู่ครู่หนึ่งจนทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย หลังจากนั้นอ้อนก็ลงมาเรียกไปกินอาหารเย็น

"พี่กลับก่อนดีกว่า"

"พี่เล้งไม่กินข้าวเน็นด้วยกันก่อนเหรอ อ้อนทำอร่อยนะ"

ปกติแล้วเวลาปิดร้านเสร็จ แมอุ่น อ้อนและพี่ลำไยก็มักจะกินอาหารเย็นด้วยกันตามประสาคนกันเองครับ

"เอาไว้คราวหน้าดีกว่า"

ผมปฏิเสธพร้อมกับรอยยิ้ม แล้วเดินขึ้นไปยังชั้นสองอีกครั้ง ก่อนจะเดินไปยกมือไหว้ลาแม่อุ่นที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ และท่านก็ไม่ได้หันมามองอย่างที่คิด

ไม่เป็นไร...

"พี่เล้งขับรถกลับบ้านดีๆ นะคะ"

"ครับ"

ผมเดินออกมาที่หน้าร้านออิ่มอุ่นในเวลาสองทุ่มเศษ ท้องฟ้าตอนนี้มีแต่สีเข้มแต่ไม่เงียบเหงาเพราะรถยนต์วิ่งผ่านเป็นระยะ

ผมเดินไปหาบันนี่สุดสวยที่จอดทิ้งเอาไว้ที่เดิม แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือที่ไม่ได้สนใจมาหลายชั่วโมง ก่อนจะรีบกดวีดีโอคอลไปหาเจ้าของข้อความี่ส่งมาให้ตั้งแต่ชั่วโมงก่อน

[ไง]

ผมมองใบหน้าคุ้นเคยของอีกฝ่ายแล้วส่งยิ้มให้ เท่าที่เห็นดูเหมือนตอนนี้ไอ้อิงกำลังอยู่ที่หอครับ

"กำลังจะกลับคอนโดแล้ว"

[แดกข้าวหรือยัง]

"ยัง เดี๋ยวไปหากินแถวคอนโด แล้วมึงอ่ะ"

[แดกแล้ว แล้ววันนี้เป็นไงบ้าง]

"ก็เหมือนเดิม แต่กูโอเค"

ผมส่งยิ้มยืนยันคำพูดของตัวเอง ก่อนจะเริ่มติดเครื่องยนต์แล้วหมุนพวงมาลัยออกจากซอย

[อืม]

ผมเลื่อนสายตาไปมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่วางไว้ตรงหน้าปัดของรถเล็กน้อย ก่อนจะสนใจท้องถนนเบื้องหน้าต่อ

"พี่อิง...คิดถึงมึงแล้วว่ะ"
.
.
.
.
Next step loading…


ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
เอาน่า ทนเพื่อเอาชนะใจแม่สามี

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
รักลูกเขาก็ต้องทนหน่อยนะเล้ง สู้ๆ นะจ๊ะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เล้ง พยายามเพื่ออิงแล้ว  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
เล้งพยายามต่อไปนะ

สงสารอิงเนาะ คิดว่าแม่จะเข้าใจ
แม่จริงจัง หรือแม่แค่ต้องการพิสูจน์คะ

เล้งอิงมาอยู่ห่างกันอีก คิดถึงไปอีก น่ารักดีค่ะ เค้าห่วงกันดี ปลื้ม

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
สู้ๆเล้งอปสรรคมีไว้ให้ข้ามผ่าน

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
ขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจเล้งค่ะ ^^
#ปั่นต่อไป อิอิ

ออฟไลน์ tae1234

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
28th Step : รักที่ต้องการเวลา
[Leng]



ตอนนี้ผมใช้เวลาว่างมาช่วยงานที่ร้านอิ่มอุ่นครับ ผ่านไปห้าวันแล้วแต่ทุกอย่างยังเหมือนเดิม

แววตาที่เฉยเมนและท่าทีไม่สนใจ

ผมรู้ดีว่าป๊ญหาของตัวเองอยู่ตรงไหน มันเป็นความจริงที่ต้องยอมรับ ผมเป็นผู้ชาย ต่อให้ไปแปลงเพศแต่ตัวตนของผมก็คือผู้ชาย หรือแม้ถระทั่งต้องไปตายแล้วเกิดใหม่ ผมก็อาจจะเป็นผู้ชายอีกอยู่ดี

ไม่ว่าจะทำดีหรือมีเงิน ผมก็ไม่อาจลบเพศของตัวเองได้ และแม่อุ่นก็คงไม่สามารถมองข้ามความจริงนี้ไปได้เช่นเดียวกัน ทุกวันนี้ผมก็ได้แต่หวังว่า ท่านจะเห็นความจริงใจที่ผมแสดงออกมา

ผมไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับการยอมรับในเร็ววัน อาจจะต้องพิสูจน์ตัวเองเป็นสัปดาห์ เดือนหรือปี แต่ก็ภาวนาอย่าให้ยาวนานขนาดนั้น

"ผมกลับก่อนนะครับ สวัสดีครับ"

ผมยกมือไหว้แม่อุ่นและปฏิเสธมื้อเย็นที่อ้อนทำอย่างทุกที แต่วันนี้ผมไม่ต้องไปฝากท้องกับร้านอาหารตามสั่งที่ไหน เพราะพ่อครัวประจำตัวกลับมาแล้วครับ

เมื่อเปิดประตูเข้าห้องที่มีความเงียบต้อนรับอยู่หลายวัน ทว่าตอนนี้มีผู้ชายคนหนึ่งกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ตรงโซฟา ใบหน้าหล่อที่ประดับด้วยแว่นตาเรียบเฉย แต่เพียงเท่านี้ก็ทำให้ผมอมยิ้มออกมาได้แล้ว

"พี่อิงมาถึงนานยัง"

"สักพัก"

ผมเดินเข้ามานั่งบนโซฟา ก่อนจะกอดอีกคนด้วยความคิดถึงและเหนื่อยอ่อน ถึงงานที่ร้านอิ่มอุ่นไม่มีอะไรมากแต่พอผ่านไปหลายวันคนขี้เกียจอย่างผมก็ล้าอยู่เหมือนกันครับ

"พี่อิงคิดถึงกูป่ะ"

ไอ้อิงเชยใบหน้าของผมขึ้น และเมื่อเราสองคนได้สบตากัน มันห็ก้มลงมาจูบผม กลีบปากบางบดคลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนปลายลิ้นของพวกเราจะทักทายกันอย่างคุ้นเคย ความรู้สึกที่มีอยู่ในใจถูกถ่ายทอดผ่านการสัมผัสที่ลึกซึ้งจนหายใจไม่ทัน

"อื้อ!"

ผมไม่ได้ผลักไสหรือดิ้นหนี เมื่อลมหายใจทำงานติดขัด มีเพียงร้องบอก ทั้งที่ริมฝีปากยังถูกผนึกอยู่ และก่อนที่ผมจะถูกช่วงชิงอากาศจนหมด สัมผัสร้อนผ่าวก็ถอยห่าง แล้วเสียงทุ้มพร่าก็ดังแผ่ว

"ไม่เลยสักนิด"

อ่าฮะ ถ้าคิดถึง...กูอาจโดนปล้ำตั้งแต่หน้าประตูแล้วใช่ไหม?!

ผมนึกตลกอยู่ในใจ ก็แฟนของผมชอบทำคัวซึนไม่แคร์กันอยู่เรื่อย ดูอย่างตอนนี้...ก็ยังกอดผมไม่ปล่อยแถมยังไซ้คอให้รู้สึกวูบวาบอีกต่างหาก

"พี่อิง...กูหิว"

"อือ..."

เสียงดังงึมงำตอบกลับมาใกล้หูพร้อมกับลมหายใจร้อนที่พัดผ่าน อีกทั้งฝ่ามือใหญ่ที่เคยประคองกอดก็ลูบไล้เข้ามาบริเวฯหน้าอก ถึงจะรู้สึกดีจนอยากให้อารมณ์เตลิดมากไปกว่านี้ แต่น้ำย่อยในกระเพาะก็สำคัญจนไม่อาจละเลยได้

"ทำอะไรให้กูกินยังอ่ะ"

ผมดึงใบหน้าที่กำลังสาละวนอยู่ตรงหน้าอกให้ถอยออก นัยน์ตาสีดำที่เป็นประกายสบมา ผมลูบหัวของคนตรงหน้าอย่างปลอบอารมณ์ของคนที่ถูกข้ดจังหวะ

"ไปนั่งรอ"

ผมยิ้มรับโดยไม่ลืมหอมแก้มอีกฝ่ายฟอดใหญ่ แล้วเดินไปนั่งรอที่โต๊ะอาหาร ส่วนไอ้อิงก็เดินเข้าห้องครัว ก่อนที่มันจะเดินออกมาอีกครั้งพร้อมกับอาหารที่ผมโปรดปราน แล้วผมก็ต้องเลิกคิ้วมองคนบริการเล็กน้อย เมื่อเห็นมันตักข้าวมาแค่จานเดียว

"มึงไม่กินเหรอ"

"กูแดกแล้ว"

ผมมองคนที่ยังทำหน้าไม่ทุกข์ร้อนครู่หนึ่ง ก่อนจะยกยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี

"ที่มึงกินกูไปเมื่อกี้เหรอ"

ไอ้อิงไม่ได้ตอบอะไรแต่ทำตาดุใส่ นอกจากผมจะไม่กลัวแล้วยังหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วกินมื้อเย็นแสนอร่อยต่อ พร้อมกับมองคนหน้าบึ้งที่แก้มสีแดงระเรื่อให้เพลินตาและเจริญอาหาร

"อร่อยว่ะ!"

"หึ!"


.........


ถึงไอ้อิงจะกลับมาอยู่ที่ห้องด้วยกันเหมือนเดิม แต่ชีวิตประจำวันของผมในช่วงนี้ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงครับ หลังเลิกเรียนผมจะขับรถจากมหาวิทยาลัยมาที่ร้านอิ่มอุ่นทุกวันโดยไม่ลืมเอาของฝากติดมือไปด้วยเสมอ ถ้าวันไหนไม่มีเรียนก็จะออกแต่เช้า ผมรับหน้าที่จิปาถะทั่วไป ทำทั้งที่ไม่มีใครสั่งแต่อาสาเองด้วยใจล้วนๆ ครับ

ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของ ล้างจาน เสิร์ฟอาหาร เก็บเงิน ทำความสะอาด ยกเว้นแต่เรื่องทำอาหารที่ผมไม่เข้าไปยุ่ง เพราะรู้สกิลของตัวเองดี

เวลาพิสูจน์ความจริงใจผ่านเข้าสู่สัปดาห์ที่สองไอ้อิงมาพร้อมกับผมบ้างในบางครั้งและยังมีท่าทีมึนตึงกับแม่อุ่นที่ยังไม่สนใจผมอยู่ จนผ่านเข้าสัปดาห์ที่สามก็ใกล้สอบครั้งสุดท้ายของเทอมนี้ครับ

ผมกำลังจะเป็นนักศึกษาชั้นปีที่สี่ ส่วนไอ้อิงก็กำลังจะเรียนจบ

"พี่เล้ง วันนี้อิงอิงจะมาหรือเปล่าคะ"

อ้อนถามขึ้น ขณะที่ผมกำลังช่วยเธอล้างจานอยู่หลังร้าน ผมยิ้มเล็กน้อย

วันนี้ผมไม่มีเรียนครับ ก็เลยมาทำงานแต่เช้า บางวันไอ้อิงก็แวะมารับที่ร้านตอนเย็น

"วันนี้ไม่มา"

เพราะเข้าช่วงสุดท้ายที่สำคัญ ตอนนี้ไอ้อิงเริ่มอ่านหนังสือเตรียมสอบแล้ว มะรืนนี้ก็จะย้ายไปอยู่หอของตัวเองจนกว่าจะสอบเสร็จ ถึงผมจะไม่อยากให้มันไปก็ตามที

"วันนี้พี่เล้งกินข้าวเย็นด้วยกันนะ"

"ไม่เป็นไรครับ ขอบใจที่ชวน"

"โธ่! อ้อนต้องโดนอิงอิงว่าแน่เลย เอาพี่เล้งมาใช้งาน ไม่ให้เงิน แถมยังไม่เลี้ยงข้าวอีก"

ผนึกขำสีหน้าโอดครวญของอ้อน ก่อนทำเสียงเข้มแต่ยังแต้มรอยยิ้มอยู่ที่ริมฝีปาก

"ถ้ามาว่าอ้อน พี่จะจัดการ"

"อือฮึ อิงอิงกลัวพี่เล้งเหรอ"

อ้อนแสดงสีหน้าอยากรู้อย่างปิดไม่มิด ผมวางท่าพลางกระแอมไอเล็กน้อย ทั้งที่มือข้างหนึ่งยังถือจานที่มีคราบสกปรก ส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็ถือฟองน้ำเตรียมทำความสะอาด

"ก็นะ..."

"นึกแล้วเชียว อิงอืงต้องเป็นพวกกลัวเมีย"

คำพูดของอ้อน ทำให้ผมมือลื่นเกือบทำจานหลุดจากมือ ทั้งที่ไม่ได้สนใจว่าใครจะมองว่าตัวเองอยู่ในฐานะไหนในการคบผู้ชายเป็นแฟน ทว่ามาเจอเด็กสาวเอ่ยด้วยท่าทางใสซื่ออย่างไม่เกรงใจแล้ว ผมก็หน้าร้อนขึ้นมาทันที แต่ก็พยายามเก็บอาการแล้วแสดงใบหน้าที่คิดว่าดูดีที่สุดออกมา

"หึ! ก็นะ..."

ให้ตายเถอะ! ผมพูดได้แค่นั้นจริงๆ!


..........

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5

ในวันศุกร์ที่สามของการทำงานที่ร้านอิ่มอุ่น ตอนนี้เวลาหนึ่งทุ่มสิบนาทีโดยประมาณ ผมกำลังเก็บถุงขยะเพื่อเตรียมจะออกไปทิ้งข้างนอกครับ

อากาศข้างนอกค่อนข้างร้อนอบอ้าว หลังจากทำหน้าที่ของตัวเองเรียบร้อยและกำลังจะเดินกลับไปที่ร้าน ผมก็นึกแปลกใจ เมื่อเห็นใครคนหนึ่งยืนอยู่ ทว่าไม่ทันได้ถามอะไร อีกฝ่ายก็เป็นฝ่ายเริ่มต้นบทสนทนาขึ้นก่อน

"จะทำแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่"

นั่นเป็นคำถามแรกที่แม่อุ่นคุยกับผมตั้งแต่เกิดเรื่องทุกอย่างขึ้น ผมพลันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย

แบบนี้ใช่ไหมที่ว่า ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น

"ก็คงจนกว่าแม่อุ่นจะยอมรับผม"

"หึ! ก็แค่ทำดีหวังผล"

คำเปรยในเชิงต่อว่าทำให้ผมนิ่งไปชั่วอึดใจ ก่อนจะรีบปรับสีหน้าและอารมณ์ของตัวเอง

"ผมก็คนธรมดานะครับ ถ้าไม่ได้อะไรก็คงไม่ทำ"

บนโลกนี้คงไม่มีใครที่ทำอะไรโดยไม่หวังผลตอบแทน อย่างน้อยที่สุด...สิ่งที่ได้รับกลับมาก็คือความสบายใจของตัวเองไม่ใช่หรือไง

"อ้อ แต่สิ่งที่เราทำไปทั้งหมด มันก็ไม่ได้อะไรหรอกนะ เป็นแบบนี้ที่บ้านรู้หรือเปล่า"

แม่อุ่นมองผมอย่างกดดัน ผมนิ่งไปอีกครั้ง ถึงท่านจะไม่ได้ระบุชัดว่า 'แบบนี้' ที่ว่าคืออะไร แต่ผมก็เข้าใจดี

"ผมไม่ทราบครับ"

ผมไม่เคยแสดงอาการอะไรเกี่ยวกับรสนิยมของตัวเองและไม่แน่ใจว่าถ้าป๊ากับแม่รู้จะยอมรับได้หรือเปล่า

"เลิกทำอะไรไม่เข้าท่า แล้วกลับไปจัดการเรื่องของตัวเองให้เรียบร้อย ก่อนจะมายุ่งกับอิง"

"ถ้าผมบอกที่บ้านแล้วไม่มีปัญหาอะไร แม่อุ่นจะยอมรับเรื่องของเราหรือครับ"

ผมถามด้วยน้ำเสียงที่คาดหวัง ถึงจะเต็มใจทำงานที่ร้านอิ่มอุ่นเพื่อพิสูจน์ความจริงใจของตัวเอง แต่ก็ไม่ได้อยากทำไปเรื่อยๆ อย่างไม่รู้จุดสิ้นสุดหรอกนะครับ

"เปล่า"

"อ้าว"

ผมลอบทำหน้าเซ็งออกมา แม่อุ่นทำสีหน้าไม่ค่อยพอใจนัก ก่อนที่ท่านจะมองผมด้วยสายตากดดันต่อ
"ฉันมีลุกชายอยู่คนเดียวนะ ทำไมต้องยอมให้คบกับผู้ชายด้วย"

"เพราะเรารักกันไงครับ"

ผมเชื่อหมดใจว่าไอ้อิงรักผมมากกว่าที่ผมรักมันอีก แล้วทำไมแม่อุ่นที่แสนดีถึงต้องมาขัดขวางด้วยวะ

"เพ้อเจ้อ"

ทั้งที่โดนคำนี้จากลูกชายของท่านว่าบ่อยๆ แต่พอโดนคนเป็นแม่ว่าบ้าง ก็ถึงกับเงิบไปทีเดียวครับ แต่ผมก็รีบเรียกกำลังใจของตัวเองกลับมาอย่างรวดเร็ว

"แม่อุ่นครับ ได้โปรด อนุญาตให้ผมคบกับพี่อิงเถอะนะครับ"

ผมไม่รู้ว่าถ้ายังทำตัวเงียบแล้วปล่อยผ่าน แม่อุ่นจะยอมคุยกับผมแบบนี้อีกหรือเปล่า ในเมื่อมีโอกาสแล้วก็ต้องลุยให้เต็มที่

ถึงแม้ตอนนี้จะอยู่ริมถนน แต่ผมก็ไม่รีรอที่จะก้มลงกราบเท้าของแม่อุ่นที่ดูจะตกใจไม่น้อย ตอนนี้ผมทุ่มหมดหน้าตักแล้วครับ!

"นี่!"

"ยกพี่อิงให้ดูแลผม เอ๊ย! ให้ผมดูแลเถอะนะครับ"

"ลุกเดี๋ยวนี้นะ!"

แม่อุ่นหลบเท้าหนีแต่ผมไม่ปล่อยแถมยังเกาะขาของท่านหนึบ ตอนนี้ผมลงท่าไม้ตายไปแล้ว ถ้ายังล้มบอสไม่ได้ เกมรักของผมก็ไปต่อไม่ได้

"เล้งลุกเดี๋ยวนี้!!!"

"ผมรักพี่อิงจริงๆนะครับ"
ตอนนี้ถ้าใครเดินเข้ามาเห็น คงคิดว่าผมกำลังอ้อนวอนขอความรักจากแม่อุ่นแน่ ท่านถอนหายใจออกมาด้วยท่าทางขัดใจ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเข้มขึ้น
"ถ้าไม่ยอมลุก ต่อจากนี้ไม่ต้องมาให้ฉันเห็นหน้าอีก!"

ฉิบหาย! นี่กูโดนเคาท์เตอร์แอ๊คแท็ตใช่ไหม?!

ผมรีบลุกขึ้นมาทันที แต่ก็ยังแสดงสีหน้าเว้าวอนให้อีกฝ่ายเห็นใจ เหลือเพียงแต่ว่าตอนนี้ยังบีบน้ำตาให้ไหลเพื่อเพิ่มคะแนนตวามสงสารไม่ได้เท่านั้น

"เด็กบ้านี่"

แม่อุ่นเหมือนสบถแล้วมองผมอย่างไม่พอใจ ผมก็ทำตัวสงบเสงี่ยมอยู่ข้างกองถังขยะ แต่ก็ยังมองใบหน้าบึ้งตึงของท่านอยู่ครับ

"ถ้ารักอิงจริง ก็ควรให้อิงมีอนาคตที่ดีไม่ใช่หรือไง ให้มีครอบครัว มีลุกมี..."

"ทำไมผมต้องให้คนที่ผมรักไปอยุ่กับคนอื่นล่ะครับ ในเมื่อผมเองก็ทำให้พี่อิงมีความสุขและมีอนาคตที่ดีได้เหมือนกัน"

ผมมองแม่อุ่นด้วยสายตาจริงจัง สมองก็วิ่งพล่านหาคำพูดมาโต้แย้งเพื่อให้ตัวเองเป็นต่ออย่างเต็มที่ ถึงจะเกรงสายตาและท่าทางของอีกฝ่ายเล็กน้อยก็ตามที

"แล้วบางที...พี่อิงอาจจะเป็นหมันก็ได้นะครับ"

"ฮะ?!"

แม่อุ่นที่กำลังหว่านล้อมผมชะงักด้วยท่าทีตกใจ ผมตีหน้าซื่อ เมื่อสบกับนัยน์ตาตื่นตระหนก

"ก็มีคู่รักหลายคู่ที่มีลูกไม่ได้แต่ก็ยังมีความสุขดีนี่ครับ ถ้าแม่อุ่นจะหลับตาไปข้างแล้วคิดว่า..."

"ไม่มีทาง!"

แม่อุ่นดูไม่พอใจมากและทำท่าจะเดินหนี แต่ผมก็รีบรั้งท่านเอาไว้ การเจรจาข้างกองขยะยังไม่จบนะครับ!
"แม่อุ่นเกลียดเกย์มากเลยหรือครับ"

ผมถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง แม่อุ่นหันมามอง ทั้งที่ใบหน้ายังขุ่นเคืองอย่างชัดเจน

"ฉันไม่ได้เกลียด แต่ก็ไม่ได้ยินดีให้ลุกชายเป็นหรอกนะ"

"ทำไมล่ะครับ ตอนนี้โลกก็เปิดกว้างให้การยอมรับ คนสาธารณะ ดารา นักร้องก็ต่างแสดงออกกันอย่างเปิดเผยแล้ว"

"ก็ช่างคนพวกนั้นสิ!"

"แต่พี่อิงรักผมนะครับ!"

ผมยังยื้อต่อ ทั้งที่ลงทุนไปหลายอย่างแต่บอสใหญ่ก็ยังไม่ล้มง่ายๆ ผมเองก็เริ่มหวั่นใจถึงผลลัพธ์ของการปะทะคารมครั้งนี้แล้วครับ

"อิงก็แค่หลงผิดและยังไม่เจอผู้หญิงที่ดีพอเท่านั้นแหละ"

โหย...รู้สึกเหมือนเป็นของตายที่หมดค่าแล้วรอเวลาจะถูกโยนทิ้งเลยว่ะ

"ถ้าอย่างนั้น...ให้เวลาพิสูจน์ไหมครับ ว่าพี่อิงหลงผิดจรืงหรือเปล่า"

ผมเสนอหนทางเลือก นอกจากยื้อเวลาของคนตรงหน้าแล้ว ก็ทำให้ตัวเองยังไม่หลุดออกจากเกมรักครั้งนี้ ผมสูดลมหายใจเฮือกหนึ่งเป็นการตัดสินใจ เมื่อพูดออกไปแล้วก็ต้องทำให้ได้ด้วย

"ผมจะไม่ยุ่งกับพี่อิงปีนึง ถ้าความรู้สึกของเราสองคนยังเหมือนเดิม แม่อุ่นกรุณายอมรับผมด้วยนะครับ"

ผมมองคนตรงหน้าอย่างจริงจัง แม้จะยากลำบากแต่ผมต้องทำให้ได้ แม่อุ่นยังยืนนิ่งราวกับครุ่นคิด ก่อนที่ท่านจะเอ่ยขึ้น

"สามปี แต่ฉันจะเชื่อได้ยังไงว่าเราจะไม่ยุ่งกับอิงจริงๆ"

"สัญญาด้วยเกียรติของผมเลยครับ"

"หึ! ถ้าระหว่างนี้อิงจะไปคบคนอื่น ก็อย่ามาอ้างนู้นอ้างนี้อีกก็แล้วกัน"

"ครับ"

แม่อุ่นกำลังจะเดินกลับไปที่ร้าน ทว่าผมก็รั้งท่านเอาไว้อีกครั้ง ตอนนี้บอกไม่ถูกเลยว่ารู้สึกยังไงกันแน่ ทั้งที่ตอนแรกเตรียมการเอาใจแม่สามีเต็มที่ แต่เวลานี้ก็แหกข้อควรปฏิบัติกระจุยกระจาย ทั้งไม่สำรวม ต่อปากต่อคำ ยอกย้อน ท้าทาย แถมยังกวนประสาทอีกฝ่ายอีกต่างหาก

"แต่ผมขอเริ่มหลังพี่อิงสอบเสร็จนะครับ ไม่อยากให้เสียสมาธิ"

"เรื่องของเรา แล้วก็ไม่ต้องมาช่วยงานที่ร้านอีก"

"ครับ"

ผมมองแผ่นหลังบางที่โอบอุ้มครอบครัวและเลี้ยงดูลูกสามคนด้วยตัวคนเดียวเดินห่างออกไป ตอนนี้เวลาหนึ่งทุ่มครึ่งโดยประมาณ ผมเดินกลับไปเอาของที่ร้านอิ่มอุ่นโดยไม่ลืมลาเจ้าของร้านก่อนกลับ

"ผมกลับก่อนนะครับ"

ผมยกมือไหว้ลาอย่างนอบน้อมและเป็นครั้งแรกตลอดสามอาทิตย์ที่แม่อุ่นเลื่อนสายตามามองเล็กน้อย

ผมเดินออกจากร้านมายังรถยนต์ที่จอดประจำพลางครุ่นคิดถึงเงื่อนไขที่ตัวเองเป็นคนเริ่มขึ้น ในเวลานี้แอร์ที่ทำงานอยู่ไม่ได้ทำให้เย็นสบายเลยสักนิด

ทั้งที่ไอ้อิงเคยบอกว่า มีปัญหาหรือจะทำอะไรสำคัญก็ให้ปรึกษากันก่อน แต่คราวนี้เป็นเหตุการณ์คับขัน หวังว่ามันจะไม่โกรธมากจนเกินไป

ผมมองถนนเบื้องหน้า ทว่าภาพที่เห็นกลับเป็นใบหน้าบึ้งตึงและท่าทีไม่พอใจของคนที่อยู่ในความคิด

โทษทีว่ะพี่อิง แต่ก็เพราะกูรักมึงจริงๆ นะ...


.........


ถึงแม้จะเหนื่อยจากการช่วยงานที่ร้านอิ่มอุ่น แต่ผมก็หมดอารมณ์พักผ่อน คอนโดมิเนียมที่เป็นจุดหมายทุกวันถูกเปลี่ยนเป็นผับประจำที่ไม่ได้มาเยือนพักใหญ่ ไอ้อิงไม่ได้ห้ามผมเที่ยวแต่ก็ไม่ได้ชอบนัก เพราะไม่อยากขัดใจ ผมก็เลยร้างลาการเที่ยวกลางคืนพอสมควร

ผมเดินเข้าไปยังที่นั่งประจำที่ไม่ว่าจะมาเมื่อไหร่ก็ว่างเสมอ ทว่าวันนี้กลับมีใครคนหนึ่งนั่งอยู่ก่อนแล้ว

"มาคนเดียวเหรอ"

ผมทักขึ้น เมื่อเห็นว่าอีกคนคือใคร ไอ้แชมป์เลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจด้วยรอยยิ้มมุมปากที่เป็นเอกลักษณ์
"อืม ว่าแต่มึงมาได้ไง แฟนอนุญาตเหรอ"

"กวนตีน กูจะมา ใครก็ห้ามไม่ได้เว้ย"

ผมพูดด้วยน้ำเสียงไม่จริงจังนัก ก่อนจะหันไปสั่งเครื่องดื่มต่อแล้วมองเพื่อนสนิทที่นั่งทอดอารมณ์อยู่คนเดียว

"มึงไม่ชวนไอ้เป้?"

"มันติดทำการบ้าน"

"หึ!"

ผมยิ้มรับแล้วหันไปสนใจเครื่องดื่มของตัวเอง โดยที่รับรู้ว่ามีสายตาอีกคู่กำลังมองอยู่

"แล้วมึงไม่ทำการบ้าน?"

"ไอ้สัตว์"

ผมขึงตาใส่พอเป็นพิธี ไอ้แขมป์ก็หัวเราะรับ ก่อนที่มันจะพิจารณาผมต่อ แล้วมองอย่างสงสัย

"ทำไมวันนี้แต่งตัวอย่างนี้วะ"

"กูเพิ่งกลับจากทำงาน"

"คนอย่างมึงทำงาน?"

ไอ้แขมป์มึท่าทีแปลกใจ ผมเลยไขความข้องใจของมันแบบคนที่กำลังหาที่ระบายอารมณ์และความอึดอัดใจ

"กูมีปัญหากับแม่แฟนว่ะ เขาไม่ยอมรับ กูเลยต้องแสดงความดีด้วยการไปทำงานที่ร้านเขา"

"คนนี้เอาจริง?"

"อืม แล้ววันนี้เราก็มีเงื่อนไขกันนิดหน่อย"

ผมมองไอ้แชมป์ที่มีท่าทีสนใจชัดเจนแล้วชักสีหน้าออกมาเล็กน้อย แต่ก็เล่าต่อ มันเป็นคนแรกที่รู้เรื่องของผมกับไอ้อิง แถมยังไม่รับเงินค่าปิดปากตามประสาคนหน้าเงินอีก

"กูจะห่างกับมันสามปี ถ้าไม่เลิกกันก่อน ก็ได้คบกัน"

"เหี้ย! มึงคิดว่าตัวเอวเป็นพระเอก?"

"ก็แค่สามปีบแลกกับตลอดไป กูว่าก็โอเคป่ะวะ แล้วฝ่ายรับอย่างกูไปเป็นพระเอกได้ด้วยหริอไง"

"โง่ไปแล้วจะทำยังไงได้"

"ไอ้เหี้ยแชมป์"

"เออน่า คืนนี้มึงเลยจะมาเมาสั่งลา? แล้วกูต้องโทรเรียกแฟนมึวมาเก็บไหม"

"กูแค่มาดื่มแก้เครียดเว้ย ไม่ได้ตั้งใจเมา"

"มึงจะเมาก็ไม่เป็นไร นอนค้างที่นี่ได้ แต่กูไม่รู้ว่ามีผีหรือเปล่า"

"ไอ้สัตว์"

นอกจากจะไม่ไปส่ง ยังมาหลอกให้กูกลัวอีก!

"แล้วแฟนมึงรู้เรื่องยัง"

"ยัง มันอ่านหนังสือสอบอยู่ กูไม่อยากกวน"

"สามปี...จะว่าสั้นก็สั้น จะว่านานก็นาน หนึ่งนาทีใจคนก็เปลี่ยนแล้ว มึงไม่กลัว?"

"ไม่รู้ดิ แต่กูก็ตัดสินใจไปแล้ว"

ผมมองไอ้แชมป์ ก่อนจะยกยิ้มออกมาเล็กน้อย แล้วยกแก้วเหล้าของตัวเองขึ้นดื่ม

"กูสัญญาว่าจะไม่ยุ่งกับมัน แต่ไม่ได้รับปากว่ามันจะไม่ยุ่งกับกูนี่หว่า"

ผมยักคิ้วใส่ไอ้แชมป์ที่ยกยิ้มรับ ก่อนที่มันจะชนแก้วเหล้ากับผมอย่างสบายอารมณ์ภายใต้บรรยากาศสลัวและเสียงเพลงจังหวะเร้าหัวใจและความรู้สึกของผับที่ดังก้อง

"ค่อยสมกับเป็นเพื่อนกูหน่อย"
.

.

.

Next step loading…


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เอาใจช่วยคู่รัก  :impress2:
อิง เล้ง  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

เล้ง ยังมีเล่ห์เหลี่ยม  :hao4:
แม่อุ่น จะไม่มีบ้างรึ  :hao3:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
พี่อิงมาดูเล้งด้วย

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ต้องมีแผนรองรับ

ออฟไลน์ Himbeere20

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
3 ปีเลยเหรอ แม่อุ่นใจแข็งจัง
สู้ๆนะเล้ง หนักแน่นๆ พี่อิงไม่เปลี่ยนใจหรอก

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
สามปี...นานนะเนี่ย

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
พูดได้คำเดียวสู้ๆนะ

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
สามปี แปบเดียว,,

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
 :a2:
เอาใจช่วยนะ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
สามปีเลยเหรอ?

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด