เสียงที่ไม่ได้ยินมาเป็นปี ทำให้ความรู้สึกที่มีอยู่ข้างในเอ่อล้น ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจจะร้องไห้ แต่น้ำตากลับไหลออกมาเสียอย่างนั้น
"พี่อิง..."
[อืม คุยกับกูได้แล้วเหรอ]
น้ำเสียงเฉยชาที่แฝงความตัดพ้อไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกแย่อะไร แค่มันติดต่อกลับมา ต่อให้โดนด่ามากกว่านี้ก็ไม่เป็นไร
"เล้งรักพี่อิงนะครับ"
ปลายสายเงียบไป ผมปาดน้ำตาที่ไหลไม่หยุด แล้วอมยิ้มออกมา เมื่อได้ยินเสียงของอีกฝ่ายตอบกลับมา
[อืม เหมือนกัน]
ผมหัวเราะออกมาเบาๆ พลางนึกถึงสีหน้าของอีกฝ่ายที่มักจะแต้มด้วยเลือดฝาดที่แก้ม เวลาที่ผมหวานใส่ให้เขินเล่น
อยากฟัดมันโว้ย!!!
ผมได้แต่โอดครวญอยู่ในใจด้วยความมันเชี้ยว แต่สิ่งที่ทำได้คงมีเพียงฟังเสียงที่แสนคิดถึงเท่านั้น
"คิดถึงมากเลยอ่ะ มึงก็เหมือนกันใช่ไหม"
[หลงตัวเอง]
"กูหลงมึงเหมือนกันนะ"
[หึ!]
ผมยิ้มรับ ทั้งที่อีกฝ่ายคงไม่มีวันเห็น แล้วเพิ่งนึกอะไรขึ้นมาได้ ถึงแม้จะเลยเวลาของที่นั่นมาแล้ว
"พี่อิง...สุขสันต์วันเกิดนะ"
[...อืม ทั้งที่เลยกำหนดมาแล้ว แต่ที่เพิ่งโทรหากูเพราะรอวันเกืดเหรอ]
"ใช่ เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ก็ต้องหาฤกษ์งามยามดีสิ"
[ไอ้หมาเล้ง]
"อะไรวะ แล้วทำไมมึงไม่ติดต่อกูมาอ่ะ ก็รู้ว่าถึงกำหนดแล้ว"
[ก็รอถึงวันเกิดมึงอีกสองเดือนข้างหน้าก่อนไง]
ผมตาโตด้วยความรู้สึกแปลกใจ ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาอย่างอารมณ์ดีอย่างที่สุด
"เฮ้ย! จริงอ่ะ!"
[โกหก]
"อ้าว! ไอ้อิง"
[เมื่อกี้มีงเรียกกูยังไงนะ]
"ฮ่าๆ กูพูดว่าไอเลิฟยู"
[หึ! แล้วไหนของขวัญกู]
"ขอติดไว้ก่อน ปีหน้าถึงจะกลับไทยได้"
พอนึกมาถึงตรงนี้ ผมก็ตัองลอบถอนหายใจออกมา อีกไม่กี่เดือนผมถึงจะได้กลับบ้านเกิด แล้วก็มีงานที่บริษัทรอให้ทำอยู่อีกเยอะแน่นอน
[แต่กูรอจนถึงตอนนั้นไม่ไหว]
เสียงของไอ้อิงที่เข้มขึ้น ทำให้ผมนึกแปลกใจอีกครั้ง แต่ก็ตอบโต้ด้วยรอยยิ้ม
"งั้นเดี๋ยวกูส่งไปให้จากที่นี่ โอเคป่ะ"
[ไม่ต้องส่งมา]
"อ้าว..."
ทว่ายังไม่ทันที่ผมจะได้ถามต่อ เสียงทุ้มที่คิดถึงก็ดังขึ้นขัด
[แค่มึงมาเปิดประตูตอนนี้ก็พอ]
ผมเบิกตากว้างโดยไม่ได้เอ่ยอะไร พร้อมกับวิ่งไปที่ประตูหน้าห้องของตัวเองด้วยหัวใจที่เต้นแรง และเมื่อผมเปิดปราการตรงหน้าออก และก่อนทุกความรู้สึกจะทำงานต่อ อ้อมแขนอันคุ้นเคยก็กอดรัดผมเอาไว้แน่น พร้อมกับเสียงนุ่มที่ดังขึ้น
"กูมาเอาของขวัญแล้ว"
..........
ที่ประเทศไทยเลยวันเกิดของไอ้อิงไป
แล้วครับ แต่ที่อเมริกาไม่ใช่อย่างนั้น
ผมยิ้มเต็มแก้มด้วยหัวใจที่เต้นกระหน่ำ อ้อมกอดที่คิดถึง สัมผัสที่โหยหา
ทุกอย่างที่ได้แต่จินตนาการกำลังเกิดชึ้นในตอนนี้!
"มึงมาได้ไงวะ"
ผมถามด้วยความตกใจและดีใจในเวลาเดียวกัน ไอ้อิงคลายอ้อมแขนของตัวเองเล็กน้อย พลางไล่สายตามองใบหน้าของผม ก่อนจะกดจูบอย่างดูดดื่มเป็นคำตอบ
ทั้งที่ห่างหายจากการสัมผัสกันมานานหลายปี แต่ทุกอย่างของร่างกายกลับตอบรับทุกการกระทำที่ดำเนินอยู่ตอนนี้อย่างเป็นธรรมชาติและคุ้นเคย
ความนุ่มนวล อุ่นร้อน วาบหวาม...
ทุกความรู้สึกกำลังจู่โจมจนผมแทบละลาย เสียงครางอย่างพอใจของเราสองคนดังผสานกับรสจูบที่มอบให้กันและกันไม่หยุด
ผมไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ใบหน้าของผมร้อนผ่าว ลมหายใจที่เหมือนจะได้รับอิสระอยู่หลายครั้ง ก็ถูกช่วงชิงจนสะดุดอยู่หลายหน ทั้งที่กำลังเติมเต็มความโหยหาและปรารถนาให้แก่กัน แต่ยิ่งได้รับกลับต้องการมากกว่าเดิม
ผมไม่แน่ใจว่าตัวเองกลับมานั่งตรงโซฟาตั้งแต่เมื่อไหร่ สติของผมทำงานอีกครั้ง ก็ตอนที่อีกฝ่ายยอมละริมฝีปากที่บดเบียดและกลืนกินกันหลายนาทีออก เสียงหอบดังสะท้อนแผ่ว พร้อมกับความร้อนของลมหายใจและจังหวะหัวใจที่เต้นแรงอย่างต่อเนื่อง
เราสองคนสบตากันครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมา ผมยกมือลูบไล้ใบหน้าที่ไม่ได้สัมผัสมานานอย่างเบามือ แล้วหอมแก้มของคนตรงหน้าฟอดใหญ่ระบายห้วงอารมณ์ที่ยังตกค้างอยู่ในใจ
คิดถึงมากจริงๆ...
ผมยังคงคลอเคลียพรมจูบไปทั่วใบหน้าหล่อ ซึ่งอีกฝ่ายก็กระทำไม่ต่างกัน ความรู้สึกที่ต้องห่างกันคงไม่สามารถถ่ายทอดและแติมเต็มได้ด้วยเวลาเพียงไม่กี่นาที
อย่างน้อย...ก็อยากยืนยันให้แน่ใจถึงตัว
ตนของคนที่อยู่ตรงหน้านี้ เราสองคนที่กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง
ดวงตาของเราที่ประสานกัน ปลายจมูกของเราที่แนบชิดกัน ลมหายใจของเราที่สัมผัสกัน ริมฝีปากของเราที่เชื่อมต่อกัน และเสียงหัวใจของเราที่เต้นไปพร้อมกัน
..........
หลังจากที่เราสองคนสงบพายุอารมณ์ของความต้องการกันและกัน ไอ้อิงก็เริมตอบคำถามที่ติดค้างผมเอาไว้ที่หน้าประตูตั้งแต่หลายนาทีก่อน และการที่ผมไม่สามารถติดต่อกับมันได้ก่อนหน้านี้ ก็เป็นเพราะมันปิดโทรศัพท์มือถือระหว่างการเดินทางครับ
“ตั้งแต่ต้นปีไม่เห็นมึงในเฟซกูเลย”
ผมมองคนที่อยู่ด้วยกันอย่างใกล้ชิดด้วยความข้องใจ ไอ้อิงที่นั่งโอบไหล่กอดเอวของผม ก็นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบคำถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“กูแค่หยุดทำตัวน่าสมเพช”
“หมายความว่าไงวะ”
ผมขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ ไอ้อิงทำหน้าเบื่อหน่าย ก่อนจะอธิบายให้ผมฟังต่อ
“สามปีที่ผ่านมา กูต้องฝืนใจตัวเองเกี่ยวกับเรื่องของมึงมาตลอด ครบกำหนดแล้วก็ไม่อยากทำตัวเหมือนเดิมอีก”
“มึงฝืนใจกดไลก์ให้กู?”
ผมย้อนถามด้วยความสงสัย ไอ้อิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนสายตาดุที่ตุ้นเคยจะฉายชัดในดวงตาสีเข้ม
“โง่”
ผมชักสีหน้าออกมาเล็กน้อย ไอ้อิงก็กัดแก้มของผมให้เจ็บเล่น ก่อนเสียงทุ้มติดรำคาญจะดังขึ้นต่อ
“เพราะกูจะได้เจอมึงแล้ว ก็เลยไม่อยากใช้ชีวิตที่ทำได้แค่กดไลก์ให้มึงอีกไง”
ผมยิ้มรับคำตอบในที่สุด อันที่จริงก็พอจะเข้าใจสิ่งที่มันบอกในตอนแรกอยู่นะครับ
แต่เชื่อเถอะว่า ผู้ชายไม่ชอบแฟนฉลาดและรู้ทันไปหมดทุกอย่างหรอก บางครั้งความโง่ก็ทำให้โดนด่าและน่าปกป้องไปพร้อมกัน
“โอเค ไม่ต้องกดไลก์แค่ให้เลิฟอย่างเดียวก็พอครับ”
“ไอ้เล้ง”
ไอ้อิงทำหน้าเข้มใส่ผมอีกรอบ ผมก็ทำหน้าระรื่นรับ แล้วแกล้งพูดหยอกให้คนเขินเล่นต่อ
“พี่อิงไม่รักเล้งเหรอ”
ผมถามเสียงหวาน ไอ้อิงก็ขมวดคิ้ว ก่อนจะเบือนใบหน้าหนี แต่ผมก็จับให้ใบหน้าแดงระเรื่อหันมามองตากันอีกครั้ง
“มาหาแฟน ก็อย่าหันหน้าไปสนใจอย่างอื่นสิ”
“หึ! กูแค่มาเที่ยวเพราะเป็นวันเกิด"
ไอ้อิงมองผมนิ่ง ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปากราวกับกำลังเยาะเย้ยผม ทั้งที่แก้มทั้งสองข้างยังแด้มสีเลือดฝาดชวนมองอยู่
"ส่วนมึง...แค่ทางผ่าน"
"โหย...งอนแล้วนะเว้ย”
“เรื่องของมึง”
"ของขวัญก็ไม่ต้องเอานะ"
"ใครสนวะ"
"ตั้งใจจะพลีกายให้คืนนี้เลยนะ ไม่สนจริงดิ"
"หึ!"
"อยากล่ะสิ หื่นนะมึง"
"รำคาญคนชอบอ่อย"
ผมยกยิ้มมองไอ้อิงที่ทำเป็นเมินผมอย่างอารมรณ์ดี และเมื่อได้พิจารณาใบหน้าหล่อที่คิดถึงอีกครั้ง ผมก็เพิ่งเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้ใส่แว่นตา แต่มันก็ไม่ได้สายตาสั้นอะไร ก็คงไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ช่วยในการมองเห็น
"มึงได้ไส่แว่นที่กูซื้อให้บ้างหรือเปล่า"
ถึงจะคิดแบบนั้น...แต่ก็อดถามไม่ได้อยู่ดี ในเมื่อผมเป็นคนซื้อให้นี่ครับ นับเป็นของแทนใจในการคบกันเป็นแฟนก็ว่าได้
"เปล่า"
ผมพยักหน้ารับ ไม่ได้รู้สึกติดใจอะไร แต่ก็นึกอยากเห็นหนุ่มแว่นของผมอีกสักครั้งเหมือนกันครับ หลังจานั้นเพียงครู่เดียว
ผมก็เลิกคิ้วขึ้น เมื่อไอ้อิงหันไปหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋า
"ก็มึงไม่อยู่ แล้วจะใส่ทำไม"
ผมยิ้มกว้างออกมา เมื่อได้เจอสุดหล่อที่เพิ่งคิดถึงอยู่ในใจเมื่อครู่มาปรากฏอยู่ตรงหน้า
"อ่า...กำลังคิดถึงพี่แว่นของเล้งอยู่เลยอ่ะ"
ผมเอนตัวเข้วไปซบคนที่นั่งข้างกันอย่างออดอ้อน โดยไม่ได้สนใจสายตาผ่านเลนส์ที่กำลังแสดงความเอือมระอาออกมา
.
.
.
Next step loading...
Marionetta ::: มาแล้วค่ะ ตอนนี้ก็มาแบบหวานๆ พอกรุ้มกริ่มนะคะ อิอิ ในที่สุดอิงอิงกับนังเล้งก็ได้เจอกันแล้วจ้า
ขอบคุณที่ติดตามมาถึงตอนนี้ อีกไม่กี่ตอยก็จบแล้วจ้า ยังไงก็ช่วยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ
