ตอนนี้เวลาฝึกงานหนึ่งปีของผมหมดลงแล้วครับ อีกสองอาทิตย์ก็บินกลับประเทศไทย ซึ่งนั่นเป็นกำหนดการเดิมที่แม่กับป๊าของผมรู้ แต่ที่พวกท่านไม่รู้คือผมจะกลับมาก่อน
ผมจัดการเรื่องขนย้ายตั้งแต่สิ้นเดือนที่แล้ว ซึ่งวันนี้ผมก็มาถึงแผ่นดินเกิดเป็นที่เรียบร้อยครับ
ผมเดินออกมาจากประตูผู้โดยสารขาเข้า แล้วกวาดสายตามองเพียงเล็กน้อยก็เจอคนที่ตามหา ไอ้อิงกำลังยืนเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่
"มารอนานหรือยัง"
"แค่ชั่วโมงกว่า"
ผมพยักหน้ารับ พร้อมกับส่งยิ้มให้ ไอ้อิงที่ดึงกระเป๋าลากของผมไปถือเอง ก่อนที่เราสองคนจะเดินไปที่ลานจอดรถกันต่อ ส่วนกำหนดการลับของผมคือการมาอยู่กับไอ้อิงก่อนหนึ่งอาทิตย์ครับ
ผมไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น แต่ก็อยากจะใช้เวลาส่วนตัวตามประสาคู่รักที่พลัดพรากให้หนำใจก่อน
"คิดถึงคอนโดว่ะ"
ผมมองการจราจรของเมืองหลวงในยามเช้าตรู่เล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองคนขับที่วันนี้ลาหยุดงานเพื่อมารับผมที่สนามบิน ทว่าก็ต้องรู้สึกแปลกใจ เมื่อเส้นทางที่ผ่านไม่ใช่ถนนที่คาดคิด
"จะพาไปไหนวะ"
"ไปหาแม่"
ผมได้แต่เบิกตากว้าง ก่อนจะรีบพูดออกมาอย่างรวดเร็ว เพราะยังไม่ได้เตรียมใจจะไปเจอใครในวันนี้
"เฮ้ย! ไปวันหลังดีกว่า กูเหนื่อย"
ไอ้อิงหันสายตามามอง ก่อนจะกลับไปสนใจถนนเบื้องหน้าเหมือนเดิม ท่าทีเฉยชาผิดกับอารมณ์กระวนกระวายของผมอย่างชัดเจน
"แม่รอมึงอยู่"
"ถึงจะเป็นแบบนั้น แต่..."
"พวกเราทำทุกอย่างแล้ว ไม่มีอะไรให้กังวลหรอก"
"มันก็ใช่..."
ถึงผมจะทำตามเงื่อนไขทุกอย่าง แต่ก็ไม่มีอะไรมารับประกันว่า แม่อุ่นจะยอมให้ผมคบกับไอ้อิงได้จริง ในตอนนั้นผมก็แค่ต้องการหาเรื่องถ่วงเวลาเพื่อยื้อการถูกกีดกันก็เท่านั้น
"เล้ง มึงไม่ได้อยู่คนเดียว"
"พี่อิง..."
ไอ้อิงมองผมเล็กน้อย พร้อมกับรอยยิ้มบางราวกับต้องการให้กำลังใจ ผมกลืนน้ำลายอย่างฝืดเคือง ก่อนจะทำใจ แล้วใช้เวลาตลอดการเดินทางจนถึงร้านอิ่มอุ่นในการเตรียมใจและความรู้สึกทุกอย่างแบบเฉพาะกิจ
ไม่รู้ว่าการเจอกันครั้งนี้ของผมกับแม่อุ่นจะเป็นยังไง แต่ก็หวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้นกว่าครั้งล่าสุดที่เราสองคนได้เจอกัน
..........
ผมมองภาพข้างทางที่ผ่านสายตา ทั้งที่ไม่ได้มาที่นี่หลายปี แต่ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม ไอ้อิงเดินนำผมมาที่หน้าร้านอิ่มอุ่นที่ยังไม่เปิดให้บริการ มันเคยบอกผมว่า ตอนนี้แม่อุ่นเปิดร้านตามใจฉัน บางวันก็ไปค้างกับพี่อุ้มที่ย้ายสำมะโนครัวไปอยู่จันทบุรี
ถึงไอ้อิงจะปลอบใจให้คลายกังวล แต่ผมก็รู้สึกเหมือนคนวิตกจริตอยู่ดี ความกดดันก่อตัวทุกย่างก้าวที่เดินไปข้างหน้า
ชั้นล่างที่ใช้เป็นพื้นที่สำหรับร้านอาหารเงียบกริบ มีเพียงหลอดไฟบางดวงที่เปิดสว่าง ผมสูดลมหายใจเข้าลึก ในขณะที่กำลังพาตัวเองไปยังชั้นสอง ซึ่งเป็นส่วนที่อยู่อาศัย
บทสรุปของข้อตกลงกำลังจะมาถึงแล้ว
"กลับมาแล้วครับแม่"
เสียงของไอ้อิงที่ดังขึ้นนำ ทำให้ผมต้องมองตาม ก่อนจะเห็นเจ้าของบ้านที่ไม่ได้เจอกันหลายปีนั่งดูโทรทัศน์อยู่ ผมรีบยกมือไหว้อย่างนอบน้อม เมื่อท่านหันมามอง
"ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ"
คำทักทายของแม่อุ่น ทำให้ผมต้องฝืนยิ้มออกมา คำพูดและบทสนทนาที่เตรียมเอาไว้ระหว่างการเดินทางก็หายไปหมด
"ครับ แม่อุ่นสบายดีนะครับ เอ่อ...ผมซื้อของฝากมาด้วย เดี๋ยวไปหยิบมาให้นะครับ"
"ไว้ทีหลังเถอะ มานั่งคุยกันตรงนี้สิ"
ผมรู้สึกลังเลเพราะยังเดาสถานการณ์ตอนนี้ไม่ออก แต่ไอ้อิงก็ดันหลังผมไปหาแม่อุ่น ส่วนมันก็เดินไปเก็บกระเป๋าเดินทางของผมไปที่ห้องนอนของตัวเองเฉย แล้วปล่อยให้ผมเผชิญหน้ากับบอสตามลำพัง
ไหนบอกกูว่า ไม่ได้อยู่คนเดียวไงวะ?|
หลังจากปลงตกกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมก็กลั้นใจเดินมานั่งที่โซฟาเดียวกับแม่อุ่น ทว่าท่านกลับลุกขึ้นทันที ท่าทีที่แสดงออกราวกับไม่อยากอยู่ใกล้มากนัก ทำให้ผมตัวเกร็งขึ้นมา
"เล้งจะเอาน้ำอะไร เอาเก๊กฮวยไหม”
"อ่า...ครับ เดี๋ยวผมไปเอาเองครับ"
ผมรีบกระเด้งตัวเองเดินไปที่ห้องครัวอย่างรวดเร็ว เมื่อแม่อุ่นพยักหน้ารับ แล้วท่านก็กลับมานั่งที่เดิม ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเปิดตู้เย็นเทน้ำเก๊กฮวยในเหยือกมาสองแก้ว แล้วกลับมานั่งที่เดิมอีกครั้ง
"นี่ครับ"
"อืม แล้วอยู่ที่นู่นเป็นยังไงบ้าง"
บรรยากาศที่ผ่อนคลายกว่าที่คิด ทำให้ลมหายใจของผมทำงานได้ปกติในที่สุด ผมคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย เมื่อพบว่าสายตาที่มองมาไม่ได้ขุ่นเคืองหรือเย็นชาอย่างที่ผ่านมา
เวลาผ่าน...อคติบางอย่างก็คงจะเลือนหายไปบ้าง
"ครับ ตอนแรกก็ลำบากนิดหน่อย แต่พอปรับตัวได้ ก็ไม่มีปัญหาอะไร"
"แล้วกลับมาจะทำอะไรต่อ"
ผมมองอีกฝ่ายอย่างใช้ความคิด คำถามทั่วไปที่แสนจะธรรมดา แต่ผมกลับไม่กล้าตอบสักเท่าไหร่ ไม่ใช่เพราะไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำอะไร แต่ไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของคำถามนี้แอบแฝงความนัยอะไรเอาไว้หรือเปล่า
"ถ้าเรื่องงาน ก็จะมาทำงานบริษัทของครอบครัวครับ"
"อืม...แล้วเรื่องอื่นล่ะ"
แม่อุ่นสบตากับผม ความกดดันที่จางหายไปก็กลับมารวมตัวที่บริเวณนี้อีกครั้ง ผมกลืนน้ำลายลงคอเป็นการเรียกกำลังใจให้ตัวเอง
"เรื่องพี่อิง...ผมทำตามสัญญาที่ให้ไว้แล้ว ก็หวังว่าแม่อุ่นจะยอมให้ผมคบกับพี่อิงในฐานะแฟนต่อไปครับ"
"สัญญา...แน่ใจหรือว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่ได้ติดต่ออิงอิงจริง"
คำถามย้อนกลับที่ได้รับไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกหนักใจอะไร ในเมื่อผมทำตามกฎกติกาที่ตั้งเอาไว้เป็นอย่างดี ไม่จำเป็นต้องฝืนใจหรือหาคำแก้ตัวมากล่าวอ้างให้อึดอัดใจเล่น
"แน่ใจครับ เราเพิ่งกลับมาคุยกันอีกครั้งตอนที่พี่อิงไปหาผมที่อเมริกา"
แม่อุ่นมองผมราวกับกำลังหาพิรุธ แต่ผมก็แสดงสีหน้าจริงจังและจริงใจออกไปเต็มที่ ก่อนใบหน้าจับผิดจะเผยรอยยิ้มออกมา
"เอาเถอะ...ก็ไม่ได้มีอะไรมายืนยันได้หรอก แต่แม่จะเชื่อคำพูดของเล้ง เหมือนที่เชื่อในความรักของอิงอิงแล้วกัน"
ผมตาโตขึ้นด้วยความประหลาดใจ ความรู้สึกหน่วงที่เคยกดทับมาโดยตลอดในตอนนี้ก็เหมือนหายไปในพริบตา และที่สำคัญไปกว่านั้น การที่อีกฝ่ายใช้สรรพนามที่แสนอบอุ่นนั้น ก็ทำให้ผมตื้นตันใจจนนัยน์ตาร้อนผ่าว
"ขอบคุณครับแม่อุ่น!"
ผมกะพริบตากลั้นความรู้สึกที่กำลังเอ่อล้นผ่านดวงตาสุดความสามารถ ทั้งที่ก็ไม่ได้ตั้งใจอยากจะร้องไห้ แต่เมื่อความกดดันที่ได้แบกรับถูกปลดออก ความยินดีที่แผ่ซ่านไปทั่วหัวใจ ก็ไม่อาจหยุดยั้งห้วงอารมณ์ในตอนนี้ได้
"อ้าว! ร้องไห้ทำไมเนี่ย"
น้ำเสียงอ่อนใจดังขึ้นมา พร้อมกับฝ่ามืออบอุ่นที่ปลอบประโลมผ่านเส้นผม ทว่าแทนที่ผมจะหยุดความอ่อนแอของตัวเองลงได้ กลับปล่อยให้น้ำตาไหลออกมามากกว่าเดิม ผมรีบยกมือเช็ดคราบน้ำตาเพื่อปกปิดความน่าอายของตัวเอง
"ไม่...ไม่มีอะไรครับ ผมแค่ดีใจมากไปหน่อย"
"เจ้าเด็กบ้าเอ๊ย! จะมาเป็นลูกชายของแม่ ก็อย่ามาทำตัวห่างเหินนักสิ"
ผมไม่ได้เข้าใจในทีแรก แต่เมื่อเห็นสายตาตำหนิที่มองมาอย่างอ่อนโยน ความงุนงงก็คลี่คลาย ก่อนที่ผมจะรีบแก้ไขสิ่งที่ตัวเองทำพลาดเมื่อครู่ในทันที
"เล้งขอโทษครับ”
แม่อุ่นพยักหน้ารับอย่างพอใจ ก่อนจะหันไปมองทางด้านหลังของผม พร้อมกับพูดเสียงเข้ม
"แล้วนั่นจะยืนยิ้มอะไรคนเดียวอยู่ได้ มานั่งด้วยกันสิ"
ผมหันไปมองตาม ก็เห็นไอ้อิงที่หนีไปก่อนหน้านี้กำลังเดินมา ใบหน้าหล่อเหลาตกแต่งไปด้วยรอยยิ้มและนัยน์ตาที่เปล่งประกายไปด้วยความสุข ก่อนที่มันจะไปนั่งบนโซฟาอีกข้างของแม่อุ่น
"เรื่องนี้แม่ยอมให้แล้ว เรื่องอื่นก็อย่าดื้อนักล่ะ”
"แม่...ขอบคุณครับ"
ผมมองไอ้อิงที่กอดแม่อุ่นเอาไว้เต็มรักด้วยรอยยิ้ม ส่วนคนถูกกอดก็แสดงสีหน้าพอใจและอ่อนใจในคราวเดียวกัน ก่อนที่ผมจะรู้สึกตกใจ เมื่อแขนข้างหนึ่งของแม่อุ่นดึงผมเข้าไปกอดด้วยอีกคน
"คบกันก็ดูแลกันดีๆ ถ้าทะเลาะกันก็ให้นึกถึงช่วงเวลานี้เอาไว้ เข้าใจไหม"
"ครับ/ครับ"
ผมกับไอ้อิงตอบรับพร้อมกันภายในอ้อมกอดที่เต็มไปด้วยการยอมรับของแม่อุ่น ก่อนที่ผมจะเลื่อนสายตาไปสบกับดวงตาสีเข้มที่มองมาแล้วอมยิ้ม เมื่อมือของเราสองคนกำลังจับมือกัน
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้...เราจะเผชิญหน้าไปพร้อมกัน
.
.
.
Next step loading...
Marionetta::: ดีค่ะ มาต่อแล้วค่ะ ^^
ตอนนี่ก็เหมือนบทสรุปค่ะ เวลาผ่าน ทุกอย่างก็เปลี่บย ซึ่งแต่ละคนก็มีแนวทางที่แจกจ่างกันไป และตอนหน้าก็มาถึงตอนจบแล้วค่ะ ขอบตุณทุกคนที่ติดตามและเป็นกำลังใจให้กันมาถึงตรงนี้
ปล. ตอนหน้าอิงอิงจะไปเจอพ่อตาแล้วค่ะ เอาใจช่วยด้วยนะคะ
