Between us...รักข้างเดียว ►[End] - หนังสือ พร้อมส่งค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Between us...รักข้างเดียว ►[End] - หนังสือ พร้อมส่งค่ะ  (อ่าน 254996 ครั้ง)

ออฟไลน์ Quatree

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
มดขึ้นจอหมดแล้ว :-[ 55555

ปล.อยากอ่านตอนที่เล้งกลับไทยมาทำงาน

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
เจอกันแล้ว. อิจฉามาก จะหวานอะไรขนาดนั้น   :L2:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ฮืออออ ดีต่อใจ ปลาบปลื้มมากค่ะ
อิงไปหาเล้งถึงที่เลย แล้วใจตรงกันมากด้วย
เล้งรอวันเกิดอิง อิงมาวันเกิดตัวเอง ดีงามไปอีก

คนรักกันนิดหน่อยก็ไหลลื่นเนาะ น่ารักค่ะ หวานไม่มาก แต่ไม่ชืดเลยค่ะ
มันกรุ่นๆ ด้วยไออุ่น ความรัก อิงแสดงออกมากเลย ชอบมาก

เล้งนอนไม่หลับแน่ ถ้าพี่อิงกลับไทย

อยากอ่านตอนพิเศษตั้งแต่หวานจนเผ็ดแซบเลยค่ะ ขอแบบรัวๆ 55555
แต่ขอตอนปกติไปก่อนนะคะ ยังอยากอ่านยาวๆ

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
จะกลับมาต่ออีกที หลังปีใหม่นะคะ ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ somberness

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-0
หวานไปอีกกกกกกกกกก  :m1: :m1:

ออฟไลน์ Bluedock

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อ่านวันเดียวหมดเลยยังไม่จบใช่ป่าว :hao4:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
รอ รอ รอ คิดถึง อิงๆ กับ เล้ง มากๆ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
36th Step : มิตรภาพและการจากลา
[Leng]



หลังจากกินอาหารเช้าฝีมือของไอ้อิงเสร็จเรียบร้อย เราสองคนก็ออกจากห้องพักพร้อมกัน โดยที่ผมไปทำงาน ส่วนแฟนของผมไปเที่ยวชมเมืองต่อครับ ก่อนที่พวกเราจะนัดเจอกันอีกที ตอนที่ผมเลิกงานเพื่อเติมเต็มมื้อเย็นที่ร้านอาหารด้วยกัน

ตอนนี้ผมไม่มีเวลาว่างพามันแที่ยวแล้วครับ เพราะไอ้อิงต้องกลับวันมะรีนนี้แล้ว

"นี่เอกสารของคุณเบนดิกซ์"

"ครับ"

ผมยิ้มรับคุณโลซาน่าที่วางแฟ้มเอกสารไว้ที่โต๊ะทำงานของผม ก่อนจะสนใจงานของตัวเองที่กำลังทำอยู่ต่อ

"หยุดไปหลายวัน งานเก็ยอะแบบนี้ล่ะนะหนุ่มน้อย"

คุณโลซาน่ากระเซ้าต่อ ผมที่ยุ่งจนหัวหมุนตั้งแต่เช้า ก็ทำได้แค่ยิ้มรับอย่างปลงตกกับจำนวนงานที่ต้องรับผิดชอบ

"พอดีแฟนผมมาหาที่นี่น่ะครับ"

"ตายจริง! ถ้าเป็นฉันจะลาสักอาทิตย์"

"ฮ่าๆ แบบนั้นผมคงโดนไล่ออก"

ถ้าขืนถลับประเทศไทยแบบไม่มีประวัติการทำงานติดตัวไปด้วย ผมคงโดนป๊าโยนกลับมาใหม่อีกรอบแน่ครับ

"แดนนี่เป็นเด็กดีจริงๆ เลย"

ผมมองอีกฝ่ายเดินไปคุยกับคุณบอนด์ต่อเหมือนคนว่างงานเล็กน้อย ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดรับ เมื่อเห็นชื่อของผู้ที่ติดต่อมา

ไบรอัน...

"ไฮ"

[แดน กลางวันมากินข้าวด้วยกันไหม พอดีฉันมาแถวนี้น่ะ]

"ได้สิ"

[โอเค แล้วเจอกัน]

"อืม"

ผมกดวางสายจากเพื่อนสนิท ก่อนจะกลับไปทำงานต่อ จนกระทั่งเวลาพักกลางวันมาถึง


........


"สบายดีไหม"

"ดีมาก แล้วนายล่ะ"

"เหนื่อยนิดหน่อยน่ะ วันนี้ก็มาคุยกับลูกค้า"

ผมพยักหน้ารับคำพูดของไบรอันที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ตอนนี้เราสองคนอยู่ที่ร้านอาหารเม็กซิกันไม่ไกลจากบริษัทของผมครับ

"จริงสิ ฉันมีเรื่องจะบอกนาย"

"อะไรเหรอ"

ไบรอันมองผมอย่างสงสัย ผมยิ้มออกมาเล็กน้อย พร้อมกับความเก้อเขินที่ทำงานอยู่ในความรู้สึก

"ตอนนี้แฟนของฉันอยู่ที่นี่"

"เฮ้! แฟนคนไทยของนายน่ะเหรอ"

"นี่! อย่าพูดเหมือนฉันมีแฟนหลายคนสิ มันเสียหายนะ"

"ฮ่าๆ โทษที"

ผมชักสีหน้ามองอีกฝ่ายอย่างไม่ชอบใจ ไบรอันก็เอาใจผมด้วยรอยยิ้มสว่างไสวตามแบบหนุ่มอารมณ์ดี

"เล่าต่อสิ ไหนว่าต้องทำงานกลับไทยก่อน ถึงจะได้เจอกันไง"

"ตอนแรกก็คิดอย่างนั้น ไม่นึกว่าเขาจะมาหาถึงที่นี่ เย็นนี้ว่างไหม ฉันอยากให้นายเจอกับเขา"

"เย็นนี้คงไม่สะดวก เอาเป็นเย็นพรุ่งนี้ได้ไหมล่ะ"

"แน่นอน"

เราสองคนส่งยิ้มให้กัน หลังจากตกลงนัดแนะกันเรียบร้อย ก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อของบทสนทนาเป็นเรื่องจิปาถะทั่วไปที่น่าสนใจตลอดมื้ออาหาร


..........


"มึงนัดเพื่อนเอาไว้กี่โมง"

"ก็สักราวทุ่มนึง"

"อืม"

หลังจากที่ผมได้เจอไอ้อิงอีกครั้งหลังเลิกงานเมื่อวานนี้ ผมก็เล่าเรื่องของไบรอันให้มันฟังครับ ผมนัดกับเพื่อนสนิทให้มาเจอและลองชิมอาหารไทยแสนอร่อยที่ห้อง ซึ่งพ่อครัวที่โดนโยนงานให้ก็ตอบรับอย่างว่าง่าย

ผมมองไอ้อิงที่วุ่นอยู่ในห้องครัวอย่างอารมณ์ดี ภาพคุ้นตาในความทรงจำหวนกลับเข้ามาในความคิด ยิ่งมองก็ยิ่งคิดถึง ทว่าผมมองแฟนทำอาหารเพลินได้ไม่นาน เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น และเมื่อเห็นว่าใครมา ผมก็ยิ้มออกมา

"ไฮ|”

"ยินดีต้อนรับ นายท่าน เอาอะไรมาด้วยน่ะ"

ผมมองไบรอันที่เดินถือของบางอย่างข้ามาด้วย เขายิ้มออกมาพร้อมกับโชว์สิ่งที่ผมสงสัยให้ดู

"แชมเปญ ว่าจะมาดื่มกับพวกนาย"

"ดีเลย"

เราสองคนทักทายกันอีกเล้กน้อย ก่อนทีแขกจะหันไปในห้องครัวด้วยรอยยิ้ม แล้วหันมาสนใจผมต่อ

"กลิ่นหอมจัง แฟนของนายทำอาหารอยู่เหรอ"

"อืม ตามสบายเลย เดี๋ยวฉันมา"

ไบรอันพยักหน้ารับ ผมก็เดินเข้าไปในห้องครัวเพื่อไปดูมื้อเย็นว่าไปถึงไหนแล้ว

"พี่อิง เพื่อนกูมาแล้วนะ"

ไอ้อิงเงยหน้าจากหม้อที่กำลังส่งกลิ่นหอมบนเตา แล้วพยักหน้ารับ ก่อนจะเลื่อนสายตาเบนไปทางด้านหลังของผม เมื่อเสียงหนึ่งดังขึ้น

"แดน! ฝากนายแช่นี่ด้วย เดี๋ยวเสียรสชาตื"

ไบรอันส่งแชมเปญมาให้ผม ก่อนจะส่งยิ้มให้ไอ้อิงที่ยังยืนมองอยู่อย่างเป็นมิตร

"ฮัลโล ผม...ไบรอัน เพื่อนของแดน ยินดีที่ได้รู้จัก"

"...อิง ยินดีที่ได้รู้จัก"

ไอ้อิงไม่ได้ส่งยิ้มอย่างมีไมตรี แต่ก็ยอมจับมือของอีกฝ่ายที่ส่งมาทำความรู้จัก ผมมองมิตรภาพที่เกิดขึ้นอย่างเงียบเฉียบด้วยรอยยิ้ม ผมเคยเล่านิสัยใจคอของไอ้อิงให้เพื่อนของผมฟังมาบ้างแล้ว เพราะกลัวอีกฝ่ายจะเสียความรู้สึก ถ้าหากแฟนของผมดันทำท่าทางไม่ยินดียินร้ายออกมาในการเจอกันครั้งแรก

"แดนเล่าเรื่องของคุณให้ผมฟังเยอะเลย แถมยังชื่นชมฝืมือการทำอาหารของคุณให้ผมฟังบ่อยมาก จนผมคิดอยากจะซื้อตั๋วเครื่องบินไปที่ไทยสักครั้งเพื่อเจอคุณ แต่คิดไม่ถึงเลยว่า จะโชคดีที่มีโอากาสได้ร่วมมื้อเย็นที่คุณทำเร็วกว่าที่คิด ผมดีใจมาก"

ไบรอันสานสัมพันธ์ด้วยการพูดคุยน้ำไหลไฟดับ พร้อมกับสีหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ส่วนคนที่ถูกชมก็ได้แต่ยืนนิ่งมองด้วยสีหน้าไม่บอกอารมณ์ ก่อนเสียงทุ้มจะดังขึ้นเรียกผมที่กำลังเก็บแชมเปญใส่ตู้เย็น

"เล้ง"

"หืม?"

ผมมองไอ้อิงที่ยังมองไบรอันที่กำลังแสดงความเป็นมิครเต็มที่เล็กน้อย แล้วหันมามองผมต่อ

"เมื่อกี้...เพื่อนมึงพูดอะไร"

ผมกะพริบตาทีหนึ่ง ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมา ไอ้อิงขมวดคิ้วมองผมอย่างไม่ค่อยพอใจนัก ก่อนจะหันไปสนใจอาหารที่กำลังทำอยู่ต่อแทน และท่าทางของเราสองคนก็ทำให้เพื่อนชาวต่างชาติได้แต่ยืนมองด้วยความไม่เข้าใจ

"ฮ่าๆ นายไปรอข้างนอกเถอะ"

ผมชวนไบรอันเดินออกมาจากห้องครัว ก่อนจะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ให้คนงงเข้าใจ

"โทษทีนะเพื่อน คำชมของนายเมื่อกี้ เขาฟังไม่ออก"

"อ้าว..."

ผมอมยิ้ม เมื่อนึกถึงใบหน้าของไอ้อิงเมื่อครู่นี้ ก่อนจะปลอบใจเพื่อนสนิทที่พูดเก้อไปเยอะ

"นายพูดเร็วไป ถ้าพูกช้าและชัดกว่านี้หน่อย เขาก็เข้าใจนะ"

"อืม ฉันก็ลืมไป"

ผมพยักหน้ารับ แล้วทิ้งให้แขกนั่งเล่นที่โซฟาตามลำพัง ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องครัวเพื่อปลอบใจอีกคนที่ยืนทำหน้าบึ้งตึง เมื่อเห็นผมส่งยิ้มให้

"พี่อิง..."

ผมเรียกเสียงอ่อน ไอ้อิงก็ยังยืนนิ่ง แล้วหันไปหยิบถ้วยและจาน เมื่ออาหารทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยไม่สนใจผมที่ยืนกระแซะอยู่ข้างๆ

"เมื่อกี้ไบรอันชมมึงว่าทำอาหารเก่งแล้วยังหน้าตาดีอีก ถ้ายิ้มออกมาคงหล่อมาก"

"มั่ว"

"เฮ้ย! จริงอ่ะ! ไหนยิ้มให้ดูหน่อยสิครับว่า หล่อจริงหรือเปล่า"

"หึ!"

ผมมองรอยยิ้มมุมปากของคนตรงหน้า แล้วตีสีหน้าครุ่นคิดพิจารณา พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

"สงสัยกูจะมั่วจริงด้วย พอยิ้มแล้ว...ก็ไม่ได้หล่อมาก”

ผมมองไอ้อิงที่ขมวดคิ้วออกมา ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงใสซื่อ

"แต่หล่อที่สุดเลย"

"เพ้อเจ้อ ยกไปได้เแล้ว"

ผมหัวเราะคนหน้าแดงที่สั่งเสียงเข้ม แต่ก็ยอมทำตามที่อีกฝ่ายต้องการแต่โดายดี และไม่ลืมที่จะยั่วให้คนเขินอาการหนักกว่าเดิมด้วยการหอมแก้มสีเลือดฝาดฟอดใหญ่ แล้วเดินออกจากห้องครัวอย่างอารมณ์ดี


..........



ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5


มื้อเย็นผ่านไปด้วยดีครับ ไบรอันกินอย่างเอร็ดอร่อยและชมไม่หยุดปาก ถึงคนทำจะไมได้แสดงสีหน้าอะไรเกี่ยวกับคำเยินยอ แต่ผมก็หน้าบานรับแทนไปเต็มที่ครับ

หลังจากเกิดการสื่อสารกันไม่เข้าใจในตอนแรก ต่อมาไอ้อิงกับไบรอันก็พูดคุยกันรู้เรื่องมากขึ้น ก่อนที่แขกประจำวันนี้จะเดินไปเปิดแชมเปญฉลองการเจอกันในคืนนี้

"ทำไมเขาถึงเรียกมึงว่าแดน"

ไอ้อิงหันมาถามผม เมื่อไบรอันขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ผมเอนตัวพิงไหล่กว้างของคนถามพลางยกแก้วแชมเปญขึ้นดื่มอย่างสบายอารมณ์

"มันเรียกง่ายกว่าเล้งน่ะ"

"อืม"

ผมเลื่อนสายตาไปมองเสี้ยวหน้าหล่อ และเมื่อนัยน์ตาสีดำอีกคู่เลื่อนมามอง ก็เหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างให้เราสองคนเลื่อนใบหน้าเข้าหากัน ก่อนริมฝีปากของดวกเราจะสัมผัสกันแผ่วเบาราวกับแตะผ่าน

ผมยิ้มออกมา แล้วยกแก้วเครื่องดื่มลิ้มรสชาติต่อ ส่วนไอ้อิงก็นั่งให้ผมเอนซบโดยไม่ได้สนใจแชมเปญของตัวเองเท่าไหร่นัก

"คุณไม่ดื่มเหรอ"
ไบรอันถามขึ้น หลังจากกลับมานั่งรวมกลุ่มอีกครั้ง ไอ้อิงก็ตอบเสียงเรียบ

"ผมไม่ชอบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เท่าไหร่"

"ไม่เหมือนแดนเลย เขาดื่มเก่ง"

ไบรอันหันมามองผมที่เลิกคิ้วรับ แล้วยิ้มออกมา ก่อนที่อีกฝ่ายจะหัวเราะเบาๆ

"ก็ดีแล้ว เขาเป็นเด็กดีของฉันนี่"

"เล้ง"

เสียงทุ้มที่ติดดุดังขึ้น ผมก็มองเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นด้วยสีหน้าไม่รู้เรื่องรู้ราว

"อะไรเหรอครับที่รัก"

ไอ้อิงไม่ตอบ แต่ส่งสายตาคาดโทษมาให้ ผมก็อมยิ้มออกมา ก่อนจะหันไปสนใจไบรอันที่ชวนคุยเรื่องอื่นต่อ

พวกเราใช้เวลาสังสรรค์จนใกล้ห้าทุ่ม แขกของวันนี้ก็ขอตัวกลับ โดยที่ผมเดินไปส่งที่ด้านล่างของอพาร์ตเมนต์

"ขอบคุณสำหรับวันนี้"

"ฉันก็ขอบคุณเหมือนกัน"

ผมส่งยิ้มให้เพื่อนสนิท ซึ่งอีกฝ่ายก็ส่งยิ้มตอบกลับมาเช่นเดียวกัน ก่อนไบรอันจะพูดถึงใครอีกคนต่อ

"ถึงจะเย็นชาไปหน่อย แต่เขาก็เป็นคนที่ดี"

"ขอบใจ"

"ฉันเข้าใจแล้ว ทำไมนายถึงไม่สนใจใครที่นี่เป็นพิเศษ"

"แน่อยู่แล้ว ก็เขาดีที่สุดแล้วนี่"

"เห่อแฟนจริงๆ เลยนะ"

"อย่ามาอิจฉาน่า ฉันก็แค่พูดความจริง"

ไบรอันหัวเราะรับเบาๆ ก่อนที่เราสองคนจะกอดร่ำลากันอีกครั้งส่งท้ายการเจอกันครั้งนี้อย่างมีความสุข

"แล้วเจอกันเพื่อน"

"แน่นอน"


...........


พอผมกลับมาที่พ้องพักอีกครั้ง ไอ้อิงก็จัดเก็บทุกอย่างเรียบร้อย ก่อนที่มันจะไล่ให้ผมไปอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวเข้านอน
ทั้งที่ทำงานมาเหนื่อยทั้งวัน แล้วก็ดื่มกินกับเพื่อนจนดึก แต่ผมก็ยังไม่ง่วงเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะวันพรุ่งนี้ไอ้อิงก็จะกลับประเทศไทยแล้วมั้งครับ
เหมือนกับมันเพิ่งมาเมื่อวานนี้เอง...

"นอนไม่หลับเหรอ"

เสียงของคนที่นอนกอดผมในความมืดดังขึ้น ผมขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะตอบเสียงแผ่ว

"พรุ่งนี้มึงจะกลับแล้ว"

"อีกไม่กี่เดือน มึงก็กลับเหมือนกัน"

ผมถอนหายใจออกมา ก่อนจะเลื่อนมือไปเปิดโคมไฟเพื่อเพิ่มแสงสว่าง แล้วลุกขึ้นมานั่งพิงหมอนที่หัวเตียง พร้อมกับมองไอ้อิงที่กำลังมองผมอยู่

"คืนนี้กูจะไม่นอน”

พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ครับ ถ้าคืนนี้ผมจะไม่นอนก็คงไม่เป้นอะไร ส่วนอีกคน...ถ้าจะหลับไปก่อนก็ไม่เป้นไรเหมือนกัน ผมแค่อยากมองมันชัดๆ ให้นานๆ เท่านั้นครับ

"หึ! เดี๋ยวมึงก็หลับ"

"แข่งกันหรือเปล่าล่ะ ถ้าใครหลับก่อนแพ้"

"ทำไมกูต้องอดนอนไปกับมึงด้วย"

ถึงมันจะพูดแบบนั้นแต่ก็ขยับตัวลุกขึ้นนั่งพิงหมอนกับหัวเตียงเหมือนกับผม ผมคลี่ยิ้มออกมา

"กูก็พูดไปอย่างนั้น พี่อิงหลับไปเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้งอแงนะครับ"

ผมยกมือลูบหัวปลอบประโลมราวกับอีกฝ่ายเป็นเด็กน้อยอย่างกวนประสาท ซึ่งคนโดนยั่วอาร
มณ์ ก็ทำสีหน้าดุเล็กน้อย พร้อมกับจับมือของผมออก

"หึ! ใครกันแน่ที่จะงอแง"

"เล้งโตแล้วครับ ไม่ใช่เด็ก ไม่งอแง"

ผมยกยิ้มมุมปาก พร้อมกับสบตาอีกฝ่ายอย่างท้าทาย ไอ้อิงก็มองผมนิ่ง ก่อนจะขยับเข้ามาใกล้จนลมหายใจของเราสองคนสัมผัสกัน แล้วเสียงทุ้มแผ่วก็ดังขึ้น

"งั้นก็พิสูจน์หน่อยว่าโตแค่ไหนแล้ว"


..........


ผมหลับและกว่าจะตื่นขึ้นมา ก็ตอนโดนใครอีกคนบีบจมูกแถมยังจูบปากจนหายใจไม่ออกรับวันใหม่

เฮ้อ...

ทั้งที่ตั้งใจจะสร้างความทรงจำที่แสนโรแมนคิกส่งท้ายอย่างการนอนมองใบหน้ายามหลับของแฟนไปทั้งคืนหรือพูดคุบกันจนเช้า ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกลับร้อนแรงและเร้าใจกว่านั้นเยอะ

เอาเถอะ....ต้องโทษตัวเองที่ชอบยั่ว แล้วคนโดนยั่วก็ดันยุขึ้น

"มาแดกข้าว”

"อืม"

ผมหาวออกมาอีกรอบ พร้อมกับจิ้มเบคอนเข้าปาก ก่อนจะเท้าคางมองคนที่นั่งกินอาหารเช้าอยู่ฝั่งตรงข้าม

"พี่อิง....ง่วง"

"ความผิดมึง"

ผมก็พยักหน้ารับอย่างจำยอม แล้วตักไข่คนเข้าปากต่อ ก่อนจะเลิกคิ้ว เมื่อเสียงของคนตรงข้ามดังขึ้น

"วันนี้ไม่ต้องไปส่งกูที่สนามบิน"

"ทำไมอ่ะ"

ผมขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ วันนี้ไอ้อิงต้องขึ้นเครื่องกลับตอนบ่ายโมงครับ แล้วผมก็ตั้งใจไปส่งมันด้วย

"ง่วงก็นอนไป"

"ไม่ง่วงแล้ว"

ไอ้อิงมองผมเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจออกมา แล้วเลื่อนใบหน้ามองไปที่ริมหน้าต่าง

"เดี๋ยวกูไม่อยากกลับ"

ผมนิ่งไป ก่อนจะอมยิ้มออกมา แล้วกินอาหารเช้าของตัวเองต่อ ถึงแม้จะขัดใจไปหน่อย แต่ก็เข้าใจความรู้สึกและความตั้งใจของอีกฝ่ายดี

"งั้นไปส่งขึ้นแท็กซี่"

"ไม่ต้อง"

"หน้าอพาร์ตเมนต์"

ผมต่อรอง พร้อมกับมองคนตรงหน้าไม่วางตา ไอ้อิงถอนหายใจออกมาอีกครั้ง

"แค่หน้าห้องก็พอ"

ผมพยักหน้ารับ ก่อนที่ชั่วโมงต่อมาไอ้อิงจะจูบผมอย่างดูดดื่มจนผมแทบละลายที่หน้าประตูห้อง แล้วมันก็ปิดประตูลงในตอนที่ผมยังตกอยู่ในความวาบหวาม และนาทีที่สติเข้ามาอย่างครบถ้วน ผมก็ยืนอยู่คนเดียวแล้ว

.

.

.

Next step loading...


Marionetta
: ดีต้ กลับมาแล้วค่ะ  :katai2-1:

สำหรับตอนนี้ก็ยังคงหวานต่อจากตอนที่แล้ว และมาถึงช่วงสุดท้ายของเนื้อเรื่องแล้วค่ะ
ขอบตุณทุกกำลังใจที่ทำให้มาถึงตอนนี้ได้ค่ะ


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
สวัสดีวันแห่งความรัก เย้เย้

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
น้ำตาลเกลื่อนห้องเลยนะ มาให้อิจฉาพร้อมวันวาเลนไทน์
 :กอด1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
เมื่อไหร่เค้าสองคนจะได้ยู่ด้วยกันสักที :katai1:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
หวานรับวันวาเลนไทน์ ขอให้เล้งกับอิงมีความสุขมาก ๆ นะ  :กอด1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
โอ้ยยยย...ถ้าเราเป็นเล้ง เราคงแทบบินตามไปติดๆอะ. 

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
ความหวานจงเจริณ!!!
ตอนหน้ามาเร็วๆ นี้ค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
37th Step : สิ้นสุดสู่จุดเริ่มต้น
[Leng]





"กำลังจะไปทำงานใช่ป่ะ"

ผมมองคนที่เดินผ่านหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ก่อนคนที่อยู่ในสายตาจะหยุดมามองผมบ้าง

"อืม แล้วแดกอะไรหรือยัง"

"เดี๋ยวคุยกับมึงเสร็จ จะไปหาอะไรกิน"

อีกฝ่ายพยักหน้ารับเล็กน้อย ก่อนเสียงทุ้มราบเรียบจะดังขึ้นต่อ

"กูไปทำงานก่อน เดี๋ยวค่อยคุยกัน"

"ครับ ตั้งใจทำงานนะ"

ผมส่งยิ้มไปให้ ซึ่งคนที่ได้รับก็ยังไม่แสดงสีหน้าอะไรนัก จนผมต้องแกล้งหาเรื่องพูดเพิ่มไปอีกนิด

"พี่อิง...คิดถึงนะ"

เพียงเท่านี้ใบหน้านิ่งที่ไม่แสดงอารมณ์ก็ปรากฏร่องรอยสีแดงพาดผ่านที่ข้างแก้มให้ผมเห็นอย่างที่หวัง

"อืม"

สัญญาณตัดไปแล้ว แต่ใบหน้าของอีกคนยังอยู่ในความคิด ผมวางโทรศัพท์มือถือของตัวเองไว้ที่โต๊ะรับแขก แล้วเดินไปที่ห้องครัวเพื่อหามื้อเย็นลงท้อง

หลังจากไอ้อิงกลับไปเมื่อเดือนก่อน ผมก็คุยกับมันแทบจะทุกวันเลยครับ  โดยที่สุดหล่อของผมเลือกจะเสียสละตัวเองด้วยการนอนดึกและตื่นเช้ามาคุยกับผม เพราะเวลาที่แตกต่างกัน

ทั้งที่ชีวิตประจำวันก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย แต่ก็มีเรื่องให้คุยกันได้ตลอด ราวกับต้องการทดแทนช่วงเวลาที่ไม่ได้คุยกันหลายปี บางครั้งเราสองคนก็ปล่อยความเงียบใส่กัน แล้วใช้สายตามองการกระทำและอิริยาบถของอีกฝ่ายแทน

ถึงจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่แค่ได้คุยกันก็ช่วยเติมเต็มช่องว่างของระยะทางระหว่างเราสองคนได้แล้วล่ะครับ



.........


ในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่อากาศอบอุ่นกำลังดี ผมไปเดินเล่นแถวเซ็นทรัลพาร์คได้ครู่เดียว ก็ต้องรีบกลับที่พักของตัวเอง เพราะได้รับสายจากเพื่อนสนิทที่รักว่ากำลังจะมาหา

ผมเดินไปถึงหน้าอพาร์ตเมนต์ ก็เห็นผู้ชายสองคนกำลังยืนรออยู่ ก่อนผมจะส่งยิ้มไปให้ เมื่ออีกฝ่ายหันมาทางนี้พอดี

"เล้ง!"

มีนส่งยิ้มมาให้ ก่อนที่ผมจะหยุดยืนอยู่ตรงหน้า แล้วเดินนำพาแขกที่มาเยี่ยมเข้าไปด้านในของตึกที่ผมอาศัยอยู่ต่อ

"มาหาไม่บอกล่วงหน้า เป็นไงบ้างพี่กลม ไม่เจอกันนานเลย"

"สบายดี กะว่าะมาเซอร์ไพรซ์เล้งน่ะ"

พี่กลมตอบรับอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะหันไปทางคนที่มาด้วยกัน ขณะที่พวกเรากำลังเดินเข้าไปในลิฟต์

"ถ้าไม่ได้มีน พี่ก็ไม่ได้มาถึงนี่หรอก"

"ทำไมล่ะ"

ผมมองคนพูดอย่างสงสัย พร้อมกับกดลิฟต์ไปยังชั้นที่ต้องการ ส่วนอีกฝ่ายก็ยิ้มกว้างมากกว่าเดิม

"นี่อเมริกานะไม่ใช่อยุธยา จะมาคนเดียวก็ยังไงอยู่ ดีที่มีนชวนมาเที่ยวด้วยกัน"

"แล้วทำไมไม่ชวนพี่อิงมาล่ะ"

"ก็มันเพิ่งหนีมาก่อนแล้วไม่ใช่เหรอ พอจะชวนมาอีก ก็ดันบอกว่าเปลืองตังค์ มาหาแฟนจะบ่นเรื่องเงินได้ไงวะ จริงไหม"

"ฮ่าๆ พี่อิงก็แบบนี้แหละ ถ้าพี่อยากไปไหนก็บอกมีน มันเงินพร้อมทุกสถานการณ์"

"ไม่ถึงขนาดนั้น แต่ก็เป็นเรื่องจริงล่ะนะ"

"ไม่ค่อยขี้อวดเลยว่ะ"

ผมหันไปมองเพื่อนสนิทของตัวเองเล็กน้อย ซึ่งอีกฝ่ายก็แค่ยักไหล่ด้วยท่าทางสบาย ก่อนจะหันไปสนใจพี่กลมที่พูดเสียงอ่อนด้วยรอยยิ้มจาง

"มีนพร้อมแต่พี่ไม่พร้อมว่ะ ฮ่าๆ"

"ไม่พร้อมก็กู้เงินมันเลย กลัวอะไร ไม่มีก็ไม่ต้องคืน"

"พูดอย่างกับเป็นเงินตัวเองเลยนะมึง"

มีนหันมาว่า ผมก็แค่เลิกคิ้วทำหน้ากวนประสาทมันกลับไปตามเรื่องตามราว ก่อนที่พวกเราจะเดินออกมาจากลิฟต์ด้วยกัน

"แล้วมึงจะไม่ให้พี่กลมยืมเงินเวลาพี่เขาขอเหรอ"

ผมแกล้งถาม มีนก็หันไปมองพี่กลมเล็กน้อย ก่อนจะหันมาตอบคำถามของผมต่อ

"จะเป็นแบบนั้นได้ไง"

"ใช่ไหมล่ะ"

"แต่พี่ไม่ยืมหรอก ถ้าจะขอก็ไม่คิดคืน"

พี่กลมบอกด้วยน้ำเสียงร่าเริง ผมก็หัวเราะออกมา ส่วนมีนก็ไม่ได้มีท่าทีเคร่งเครียดอะไร ถ้าลูกหนี้รายนี้ไม่คิดคืนเงิน

"ผมสงวนสิทธิ์นั้นให้เฉพาะคนพิเศษนะพี่"

"แล้วพี่ไม่พิเศษหรือไง"

"แล้วพี่คิดว่าไงล่ะ"

ผมมองคนที่สบตากันไม่สนใจส่วนเกินอย่างผม ก่อนจะเรียกทั้งสองคนที่เดินตามหลังมา เมื่อเปิดประตูห้องของตัวเองออก

"เข้ามาก่อน เชิญตามสบายเลย"


.........


ผมใช้เวลาพักใหญ่ไปกับการพูดคุยกับมีนและพี่กลม ถึงเพื่อนสนิทของผมจะไม่ได้บอกเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของตัวเองกับอีกคนที่มาด้วยกันอย่างชัดเจน แต่ผมก็พอเดาออกว่า คงจะพิเศษมากกว่ารุ่นพี่รุ่นน้องธรรมดา

"เล้ง เดี๋ยวมื้อเย็น พี่เป็นคนทำเองนะ"

ผมมองพี่กลมอย่างแปลกใจเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะอาสา แต่ก็พยักหน้ารับเป็นการอนุญาต

"พอดีไปได้ซอสน่าสนใจที่วอลมาร์ตมาหลายอย่างเลย ว่าจะลองหน่อย"

"เอาเลยพี่ เอาแบบที่กินได้นะ"

"ฮ่าๆ ก็หวังว่าอย่างนั้น"

ผมมองพี่กลมที่เดินอารมณ์ดีเข้าห้องครัวไป ก่อนจะหันมาสนใจเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ไม่ห่าง แล้วเริ่มตั้งคำถามตามประสาเพื่อนที่ยังรักและห่วงใยอย่างบริสุทธิ์ใจ

"เป็นยังไงบ้าง"

"อะไรยังไง"

"ทุกอย่างในชีวิตมึง"

ผมมองอีกฝ่ายด้วยสายตาจริงจัง มีนก็แค่ยิ้มจางด้วยท่าทางผ่อนคลาย ถึงผมจะไม่ได้ติดต่อคนตรงหน้ามากนัก แต่เมื่อเจอกันก็ยังอยากรู้ความเป็นไปของอีกฝ่ายอยู่ดีครับ

"ก็ดี สุขบ้างทุกข์บ้าง"

"อืม แล้วเรื่องพี่กลมล่ะ ว่ายังไง"

มีนเลื่อนสายตาไปทางบุคคลที่สามที่อยู่ในห้องครัว ก่อนจะสบตากับผมต่อด้วยรอยยิ้มที่ติดอยู่ที่ใบหน้า

"ก็โอเค"

"มึงคบกับพี่เขาเหรอ"

"ก็ไม่เชิงแบบนั้นหรอก แค่อยู่ด้วยกันแล้วสบายใจ ก็เลยไม่ได้ระบุสถานะระหว่างกัน ก็คงจะรออะไรชัดเจนกว่านี้ล่ะมั้ง"

ผมยิ้มมองคนตรงหน้า ก่อนจะนึกไปถึงความทรงจำในอดีตที่เคยเกิดเรื่องขึ้น ท่าทางและคำพูดในวันนั้น

"แล้วไหนบอกว่า จะไม่คบกับผู้ชายแล้วไง"

"ฮ่าๆ ก็ตั้งใจอย่างนั้น แต่บางครั้งสิ่งที่หวังก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่ใช่"

"หึ! หาข้ออ้างให้ตัวเองชัดๆ"

มีนหัวเราะเบาๆ กับคำพูดเหน็บแนมทีเล่นทีจริงของผม ก่อนสายตาพราวจะแปรเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้น

"มึงก็รู้ กูกลืนน้ำลายตัวเองไปหลายรอบแล้ว ตั้งแต่สมัยก่อนที่ไม่ชอบพวกรักร่วมเพศ แต่ก็ดันมาเป็นซะเอง ถ้าอะไรที่ทำให้มีความสุข ก็ไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลมาปฏิเสธ ตอนนี้กูอยู่กับพี่กลมแล้วมีความสุข กูก็จะอยู่กับเขา"

"ลึกซึ้งมากมึง เดินไปสารภาพรักเลยสิ"

ผมแซวอย่างอารมณ์ดี ไม่ว่ามีนจะเลือกอะไรหรือเป็นแบบไหน ผมก็ยินดีที่จะอยู่ข้างเพื่อนคนนี้เสมอ

"หึ! แต่มีเรื่องเดียวที่กูจะไม่ยอมกลืนน้ำลายตัวเองเด็ดขาด"

"อะไรวะ"

ผมมองอีกฝ่ายด้วยความอยากรู้ มีนอมยิ้มออกมา ก่อนเสียงทุ้มจะดังขึ้นด้วยความอ่อนโยนและมั่นคง

"ไม่ว่ายังไงกูก็จะเป็นเพื่อนมึงตลอดไป"

"ถ้าเป็นเมื่อก่อนได้ยินแบบนี้ กูเจ็บเลยนะเนี่ย แต่ตอนนี้ดีใจมากเลยว่ะ"

ผมส่งยิ้มให้มีนอย่างจริงใจ ก่อนจะพูดคุยเล่นกันต่อสักพัก เสียงของพี่กลมก็ดังลั่นจากในห้องครัว และทำให้เราสองคนต้องวิ่งเข้าไปดูด้วยความตกใจ แล้วพบว่ามื้อเย็นวันนี้คงต้องไปฝากท้องที่ร้านอาหารน่าจะดีกว่าครับ


.........


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-03-2018 16:18:30 โดย marionatte »

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5


ตอนนี้เวลาฝึกงานหนึ่งปีของผมหมดลงแล้วครับ อีกสองอาทิตย์ก็บินกลับประเทศไทย ซึ่งนั่นเป็นกำหนดการเดิมที่แม่กับป๊าของผมรู้ แต่ที่พวกท่านไม่รู้คือผมจะกลับมาก่อน

ผมจัดการเรื่องขนย้ายตั้งแต่สิ้นเดือนที่แล้ว ซึ่งวันนี้ผมก็มาถึงแผ่นดินเกิดเป็นที่เรียบร้อยครับ

ผมเดินออกมาจากประตูผู้โดยสารขาเข้า แล้วกวาดสายตามองเพียงเล็กน้อยก็เจอคนที่ตามหา ไอ้อิงกำลังยืนเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่

"มารอนานหรือยัง"

"แค่ชั่วโมงกว่า"

ผมพยักหน้ารับ พร้อมกับส่งยิ้มให้ ไอ้อิงที่ดึงกระเป๋าลากของผมไปถือเอง ก่อนที่เราสองคนจะเดินไปที่ลานจอดรถกันต่อ ส่วนกำหนดการลับของผมคือการมาอยู่กับไอ้อิงก่อนหนึ่งอาทิตย์ครับ

ผมไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น แต่ก็อยากจะใช้เวลาส่วนตัวตามประสาคู่รักที่พลัดพรากให้หนำใจก่อน

"คิดถึงคอนโดว่ะ"

ผมมองการจราจรของเมืองหลวงในยามเช้าตรู่เล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองคนขับที่วันนี้ลาหยุดงานเพื่อมารับผมที่สนามบิน ทว่าก็ต้องรู้สึกแปลกใจ เมื่อเส้นทางที่ผ่านไม่ใช่ถนนที่คาดคิด

"จะพาไปไหนวะ"

"ไปหาแม่"

ผมได้แต่เบิกตากว้าง ก่อนจะรีบพูดออกมาอย่างรวดเร็ว เพราะยังไม่ได้เตรียมใจจะไปเจอใครในวันนี้

"เฮ้ย! ไปวันหลังดีกว่า กูเหนื่อย"

ไอ้อิงหันสายตามามอง ก่อนจะกลับไปสนใจถนนเบื้องหน้าเหมือนเดิม ท่าทีเฉยชาผิดกับอารมณ์กระวนกระวายของผมอย่างชัดเจน

"แม่รอมึงอยู่"

"ถึงจะเป็นแบบนั้น แต่..."

"พวกเราทำทุกอย่างแล้ว ไม่มีอะไรให้กังวลหรอก"

"มันก็ใช่..."

ถึงผมจะทำตามเงื่อนไขทุกอย่าง แต่ก็ไม่มีอะไรมารับประกันว่า แม่อุ่นจะยอมให้ผมคบกับไอ้อิงได้จริง ในตอนนั้นผมก็แค่ต้องการหาเรื่องถ่วงเวลาเพื่อยื้อการถูกกีดกันก็เท่านั้น

"เล้ง มึงไม่ได้อยู่คนเดียว"

"พี่อิง..."

ไอ้อิงมองผมเล็กน้อย พร้อมกับรอยยิ้มบางราวกับต้องการให้กำลังใจ ผมกลืนน้ำลายอย่างฝืดเคือง ก่อนจะทำใจ แล้วใช้เวลาตลอดการเดินทางจนถึงร้านอิ่มอุ่นในการเตรียมใจและความรู้สึกทุกอย่างแบบเฉพาะกิจ

ไม่รู้ว่าการเจอกันครั้งนี้ของผมกับแม่อุ่นจะเป็นยังไง แต่ก็หวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้นกว่าครั้งล่าสุดที่เราสองคนได้เจอกัน


..........


ผมมองภาพข้างทางที่ผ่านสายตา ทั้งที่ไม่ได้มาที่นี่หลายปี แต่ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม ไอ้อิงเดินนำผมมาที่หน้าร้านอิ่มอุ่นที่ยังไม่เปิดให้บริการ มันเคยบอกผมว่า ตอนนี้แม่อุ่นเปิดร้านตามใจฉัน บางวันก็ไปค้างกับพี่อุ้มที่ย้ายสำมะโนครัวไปอยู่จันทบุรี

ถึงไอ้อิงจะปลอบใจให้คลายกังวล แต่ผมก็รู้สึกเหมือนคนวิตกจริตอยู่ดี ความกดดันก่อตัวทุกย่างก้าวที่เดินไปข้างหน้า

ชั้นล่างที่ใช้เป็นพื้นที่สำหรับร้านอาหารเงียบกริบ มีเพียงหลอดไฟบางดวงที่เปิดสว่าง ผมสูดลมหายใจเข้าลึก ในขณะที่กำลังพาตัวเองไปยังชั้นสอง ซึ่งเป็นส่วนที่อยู่อาศัย

บทสรุปของข้อตกลงกำลังจะมาถึงแล้ว

"กลับมาแล้วครับแม่"

เสียงของไอ้อิงที่ดังขึ้นนำ ทำให้ผมต้องมองตาม ก่อนจะเห็นเจ้าของบ้านที่ไม่ได้เจอกันหลายปีนั่งดูโทรทัศน์อยู่ ผมรีบยกมือไหว้อย่างนอบน้อม เมื่อท่านหันมามอง

"ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ"

คำทักทายของแม่อุ่น ทำให้ผมต้องฝืนยิ้มออกมา คำพูดและบทสนทนาที่เตรียมเอาไว้ระหว่างการเดินทางก็หายไปหมด

"ครับ แม่อุ่นสบายดีนะครับ เอ่อ...ผมซื้อของฝากมาด้วย เดี๋ยวไปหยิบมาให้นะครับ"

"ไว้ทีหลังเถอะ มานั่งคุยกันตรงนี้สิ"

ผมรู้สึกลังเลเพราะยังเดาสถานการณ์ตอนนี้ไม่ออก แต่ไอ้อิงก็ดันหลังผมไปหาแม่อุ่น ส่วนมันก็เดินไปเก็บกระเป๋าเดินทางของผมไปที่ห้องนอนของตัวเองเฉย แล้วปล่อยให้ผมเผชิญหน้ากับบอสตามลำพัง

ไหนบอกกูว่า ไม่ได้อยู่คนเดียวไงวะ?|

หลังจากปลงตกกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมก็กลั้นใจเดินมานั่งที่โซฟาเดียวกับแม่อุ่น ทว่าท่านกลับลุกขึ้นทันที ท่าทีที่แสดงออกราวกับไม่อยากอยู่ใกล้มากนัก ทำให้ผมตัวเกร็งขึ้นมา

"เล้งจะเอาน้ำอะไร เอาเก๊กฮวยไหม”

"อ่า...ครับ เดี๋ยวผมไปเอาเองครับ"

ผมรีบกระเด้งตัวเองเดินไปที่ห้องครัวอย่างรวดเร็ว เมื่อแม่อุ่นพยักหน้ารับ แล้วท่านก็กลับมานั่งที่เดิม ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเปิดตู้เย็นเทน้ำเก๊กฮวยในเหยือกมาสองแก้ว แล้วกลับมานั่งที่เดิมอีกครั้ง

"นี่ครับ"

"อืม แล้วอยู่ที่นู่นเป็นยังไงบ้าง"

บรรยากาศที่ผ่อนคลายกว่าที่คิด ทำให้ลมหายใจของผมทำงานได้ปกติในที่สุด ผมคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย เมื่อพบว่าสายตาที่มองมาไม่ได้ขุ่นเคืองหรือเย็นชาอย่างที่ผ่านมา

เวลาผ่าน...อคติบางอย่างก็คงจะเลือนหายไปบ้าง

"ครับ ตอนแรกก็ลำบากนิดหน่อย แต่พอปรับตัวได้ ก็ไม่มีปัญหาอะไร"

"แล้วกลับมาจะทำอะไรต่อ"

ผมมองอีกฝ่ายอย่างใช้ความคิด คำถามทั่วไปที่แสนจะธรรมดา แต่ผมกลับไม่กล้าตอบสักเท่าไหร่ ไม่ใช่เพราะไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำอะไร แต่ไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของคำถามนี้แอบแฝงความนัยอะไรเอาไว้หรือเปล่า

"ถ้าเรื่องงาน ก็จะมาทำงานบริษัทของครอบครัวครับ"

"อืม...แล้วเรื่องอื่นล่ะ"

แม่อุ่นสบตากับผม ความกดดันที่จางหายไปก็กลับมารวมตัวที่บริเวณนี้อีกครั้ง ผมกลืนน้ำลายลงคอเป็นการเรียกกำลังใจให้ตัวเอง

"เรื่องพี่อิง...ผมทำตามสัญญาที่ให้ไว้แล้ว ก็หวังว่าแม่อุ่นจะยอมให้ผมคบกับพี่อิงในฐานะแฟนต่อไปครับ"

"สัญญา...แน่ใจหรือว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่ได้ติดต่ออิงอิงจริง"

คำถามย้อนกลับที่ได้รับไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกหนักใจอะไร ในเมื่อผมทำตามกฎกติกาที่ตั้งเอาไว้เป็นอย่างดี ไม่จำเป็นต้องฝืนใจหรือหาคำแก้ตัวมากล่าวอ้างให้อึดอัดใจเล่น

"แน่ใจครับ เราเพิ่งกลับมาคุยกันอีกครั้งตอนที่พี่อิงไปหาผมที่อเมริกา"

แม่อุ่นมองผมราวกับกำลังหาพิรุธ แต่ผมก็แสดงสีหน้าจริงจังและจริงใจออกไปเต็มที่ ก่อนใบหน้าจับผิดจะเผยรอยยิ้มออกมา

"เอาเถอะ...ก็ไม่ได้มีอะไรมายืนยันได้หรอก แต่แม่จะเชื่อคำพูดของเล้ง เหมือนที่เชื่อในความรักของอิงอิงแล้วกัน"

ผมตาโตขึ้นด้วยความประหลาดใจ ความรู้สึกหน่วงที่เคยกดทับมาโดยตลอดในตอนนี้ก็เหมือนหายไปในพริบตา และที่สำคัญไปกว่านั้น การที่อีกฝ่ายใช้สรรพนามที่แสนอบอุ่นนั้น ก็ทำให้ผมตื้นตันใจจนนัยน์ตาร้อนผ่าว

"ขอบคุณครับแม่อุ่น!"

ผมกะพริบตากลั้นความรู้สึกที่กำลังเอ่อล้นผ่านดวงตาสุดความสามารถ ทั้งที่ก็ไม่ได้ตั้งใจอยากจะร้องไห้ แต่เมื่อความกดดันที่ได้แบกรับถูกปลดออก ความยินดีที่แผ่ซ่านไปทั่วหัวใจ ก็ไม่อาจหยุดยั้งห้วงอารมณ์ในตอนนี้ได้

"อ้าว! ร้องไห้ทำไมเนี่ย"

น้ำเสียงอ่อนใจดังขึ้นมา พร้อมกับฝ่ามืออบอุ่นที่ปลอบประโลมผ่านเส้นผม ทว่าแทนที่ผมจะหยุดความอ่อนแอของตัวเองลงได้ กลับปล่อยให้น้ำตาไหลออกมามากกว่าเดิม ผมรีบยกมือเช็ดคราบน้ำตาเพื่อปกปิดความน่าอายของตัวเอง

"ไม่...ไม่มีอะไรครับ ผมแค่ดีใจมากไปหน่อย"

"เจ้าเด็กบ้าเอ๊ย! จะมาเป็นลูกชายของแม่ ก็อย่ามาทำตัวห่างเหินนักสิ"

ผมไม่ได้เข้าใจในทีแรก แต่เมื่อเห็นสายตาตำหนิที่มองมาอย่างอ่อนโยน ความงุนงงก็คลี่คลาย ก่อนที่ผมจะรีบแก้ไขสิ่งที่ตัวเองทำพลาดเมื่อครู่ในทันที

"เล้งขอโทษครับ”

แม่อุ่นพยักหน้ารับอย่างพอใจ ก่อนจะหันไปมองทางด้านหลังของผม พร้อมกับพูดเสียงเข้ม

"แล้วนั่นจะยืนยิ้มอะไรคนเดียวอยู่ได้ มานั่งด้วยกันสิ"

ผมหันไปมองตาม ก็เห็นไอ้อิงที่หนีไปก่อนหน้านี้กำลังเดินมา ใบหน้าหล่อเหลาตกแต่งไปด้วยรอยยิ้มและนัยน์ตาที่เปล่งประกายไปด้วยความสุข ก่อนที่มันจะไปนั่งบนโซฟาอีกข้างของแม่อุ่น
 
"เรื่องนี้แม่ยอมให้แล้ว เรื่องอื่นก็อย่าดื้อนักล่ะ”

"แม่...ขอบคุณครับ"

ผมมองไอ้อิงที่กอดแม่อุ่นเอาไว้เต็มรักด้วยรอยยิ้ม ส่วนคนถูกกอดก็แสดงสีหน้าพอใจและอ่อนใจในคราวเดียวกัน ก่อนที่ผมจะรู้สึกตกใจ เมื่อแขนข้างหนึ่งของแม่อุ่นดึงผมเข้าไปกอดด้วยอีกคน

"คบกันก็ดูแลกันดีๆ ถ้าทะเลาะกันก็ให้นึกถึงช่วงเวลานี้เอาไว้ เข้าใจไหม"

"ครับ/ครับ"

ผมกับไอ้อิงตอบรับพร้อมกันภายในอ้อมกอดที่เต็มไปด้วยการยอมรับของแม่อุ่น ก่อนที่ผมจะเลื่อนสายตาไปสบกับดวงตาสีเข้มที่มองมาแล้วอมยิ้ม เมื่อมือของเราสองคนกำลังจับมือกัน

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้...เราจะเผชิญหน้าไปพร้อมกัน
.

.

.

Next step loading...


Marionetta:::  ดีค่ะ มาต่อแล้วค่ะ ^^

ตอนนี่ก็เหมือนบทสรุปค่ะ เวลาผ่าน ทุกอย่างก็เปลี่บย ซึ่งแต่ละคนก็มีแนวทางที่แจกจ่างกันไป และตอนหน้าก็มาถึงตอนจบแล้วค่ะ ขอบตุณทุกคนที่ติดตามและเป็นกำลังใจให้กันมาถึงตรงนี้

ปล. ตอนหน้าอิงอิงจะไปเจอพ่อตาแล้วค่ะ เอาใจช่วยด้วยนะคะ  :impress2:




ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
เอาใจช่วยจ๊ะ หลังจากต้องฝ่าฟันกับอุปสรรคทั้งปวงมาได้แล้ว
สู้ต่อไปอีกหน่อยก็แล้วกันนะ เล้ง+อิง
 :3123: :3123: :3123:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
รอติดตามการไปหาพ่อตาของอิงอิง

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
แม่อุ่น ยอมรับเล้งแล้ว  :mew1:

อิง เล้ง    :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เล้งได้ยกภูเขาออกจากอกแล้ว คราวหน้าตาอิงแล้ว

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด