ตอนที่ 14เผ็ดเล่าให้ฟังว่าตั้งแต่วันที่ไปรับดรีมที่คณะ พอเจอควีนเพื่อนสนิทของดรีมก็โดนเจ้าหล่อนโวยวายใส่อยู่หลายนาที พอรู้สาเหตุว่าทำไมดรีมถึงไม่ยอมพูดด้วยกะจะรีบกลับมาอธิบายตั้งแต่วันนั้นเลย แต่โดนสาวผมบลอนด์บอกให้อุบอิบไว้ก่อน เพราะวันถัดไปเป็นวันเกิดของดรีมซึ่งเผ็ดเองก็พึ่งรู้ จึงได้วางแผนกันทำเซอร์ไพรส์แล้วก็เปิดตัวไอ้คนตัวปัญหาไปด้วยนั้นก็คือน้องจืดน้องชายคนกลางของเผ็ด แผนของการเซอร์ไพรส์วันเกิดคือเผ็ดได้โทรบอกน้องชายคนเล็กให้พาดรีมออกไปเที่ยวก่อน หลังจากนั้นเผ็ดก็นัดเพื่อนสนิทของตัวเอง น้องจืด และก็ควีนมาที่คอนโดเพื่อตกแต่งห้องนิดๆหน่อยๆ พร้อมกับซื้ออาหาร เครื่องดื่ม และเค้กก้อนใหญ่มาแช่ตู้เย็นไว้รอ เมื่อเปรี้ยวพาดรีมกลับถึงคอนโดก็ให้สัญญาณโดยการกดออดหน้าห้อง แผนนี้ช่างแยบยลจริงๆ
“แล้วนี่เปิดตัวกันเลยใช่ไหมวะ” เพื่อนสนิทของเผ็ดที่ชื่อกายฉีกยิ้มล้อเลียนเพื่อน
“ไม่เสือกสักเรื่องสิมึง” เผ็ดพูดพลางยกเท้าใส่หน้ากายที่นั่งโซฟาอีกตัวที่อยู่เยื้องๆกันฝั่งขวา
“สัส กูก็แค่ถามดูทำเป็นโหดว่ะเสี่ย แล้วตกลงถึงขั้นไหนกันแล้ว”
“ดูๆกันอยู่” เผ็ดตอบเพื่อนร่างสูงก่อนจะรีบกระดกเบียร์จนเกือบหมดกระป่องเพื่อกลบเกลื่อนความเขิน
“จากของจำนำเป็นของจำเลยรักเหรอวะ ฮ่าๆ”
“ยุ่งหน่า”
ตอนนี้เผ็ดและผองเพื่อนกำลังนั่งรวมตัวกันอยู่ที่โซฟาหน้าทีวีภายในโซนห้องนั่งเล่นหลังจากทานมื้อเย็นและเค้กเสร็จเรียบร้อย เผ็ดและผองเพื่อนนั่งจิบเบียร์ไปคุยกันไป ฝั่งเปรี้ยวและควีนกำลังเก็บเศษซากของพลุกระดาษที่เกลื่อนกราดรอบห้องและจัดของให้เข้าที่เรียบร้อยตามคำสั่งของเจ้าของห้อง ส่วนเจ้าของวันเกิดอย่างดรีมเองอาสาที่จะล้างจานและทำความสะอาดห้องครัว
“พี่ดรีมให้จืดช่วยไหมครับ” เด็กหนุ่มตัวเล็กกว่าเขาชะโงกหน้าเข้ามาขณะที่ดรีมกำลังล้างจาน
“อะ...คุณจืด...เอ่อ...ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมจัดการเอง คุณจืดไปนั่งเถอะ”
“เรียกน้องจืดก็ได้ครับ ไม่อยากให้เรียกคุณๆเหมือนพี่เผ็ด มันห่าเหิน” จืดยิ้มแฉ่งโชว์ฟันขาว ขณะที่ดรีมกำลังยืนอึ้งกับความน่ารักสดใสของน้องจืดอยู่นั้นเอง เจ้าตัวก็ก่อนจะแอบดึงจานในมือดรีมไปล้างแทน
“คุณจืด! เดี๋ยวผมล้างเองครับ”
“ไม่เอาเดี๋ยวจืดล้างช่วย พี่ดรีมเรียกน้องจืดสิครับ” คนตัวเล็กกว่าทำหน้าหงอยเหมือนหมาจนดรีมอดรู้สึกสงสารไม่ได้
“ครับน้องจืด”
“เดี๋ยวจืดช่วยล้างนะพี่ดรีม จะได้เสร็จเร็วๆ” ว่าแล้วน้องจืดก็ลงมือล้างจานช่วยดรีมอย่างคล่องแคล่ว อดสงสัยไม่ได้จริงๆท่าทางคุณหนูซะขนาดนี้ทำงานบ้านเป็นด้วยหรือ อย่างตอนที่เปรี้ยวเคยช่วยดรีมทำอาหาร เจ้าตัวบอกท่าเดียวว่าจะทำช่วยแต่แค่หั่นผักยังเก้ๆกังๆเลย
“น..น้องจืดดูคล่องจังเลยนะครับ”
“หมายถึงล้างจานเหรอครับ จืดช่วยป้าสายล้างประจำเลย อ๋อ..ป้าสายเป็นหัวหน้าแม่บ้านที่บ้านใหญ่น่ะครับ”
น้องจืดพูดจบก็เกิดความเงียบขึ้น ดรีมเองก็เป็นคนชวนพูดไม่ค่อยเก่งจึงได้แต่ก้มหน้าล้างจานอย่างเดียว แต่น้องจืดอยากรู้จักแฟนพี่เผ็ดคนนี้เยอะๆนี่หน่า
“พี่ดรีมคบกับพี่เผ็ดนานรึยังครับ” คำถามนี้ทำเอาเจ้าของวันเกิดหน้าขึ้นสีเลยทีเดียว
“มะ...ไม่ได้คบครับ”
“อ้าว จืดนึกว่าคบกันแล้ว...หรืออยู่ในช่วงจีบๆกันอยู่หรือครับ”
“เอ่อ...”
“ถ้าพี่ดรีมลำบากใจไม่ต้องตอบก็ได้ครับ เดี๋ยวจืดถามพี่เผ็ดเอง” เด็กหนุ่มยิ้มแฉ่งให้กับดรีมอีกครั้ง ก่อนจะหันไปสนใจจานเปียกที่อยู่ในมือ เขาหยิบผ้าสะอาดในลิ้นชักออกมาเช็ดจานให้แห้งก่อนจะวางเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ กิริยามารยาทเด็กคนนี้ช่างเรียบร้อยต่างกับคนพี่ซะจริงๆ ดรีมคิดในใจ
“น้องจืดอยู่ม.6แล้วหรือครับ”
“ครับ ตอนนี้จืดติดรับตรงคณะวิศวะที่มหา’ลัยเดียวกับพี่เผ็ดด้วยนะ”
“ยินดีด้วยนะครับ” ดรีมหันไปยิ้มให้เด็กหนุ่มที่ยืนข้างๆเขาบ้าง แต่สีหน้าจืดกลับเจื่อนลงเล็กน้อยเหมือนไม่ค่อยยินดีเท่าไหร่
“น้องจืด? เอ่อ...ไม่ชอบหรือครับ”
“จืดชอบคณะนี้นะแต่ไม่อยากเรียนที่นี่น่ะครับ จืดว่าจะแอบยื่นแอดมิดชั่นที่มหา’ลัยอื่น”
“หืม แต่ผมว่ามหา’ลัยไหนก็เหมือนกันนะครับ หรือว่าน้องจืดอยากเปลี่ยนบรรยากาศ” จืดทำหน้าครุ่นคิดสักพัก เจ้าตัวยิ้มออกมาพร้อมกับพยักหน้ารัวๆ
“อยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้างครับ แต่ทางบ้านคงไม่ยอม...”
“ทำอะไรกัน!”
เสียงทุ้มตวาดดังลั่นทำเอาคนสองคนที่กำลังยืนคุยกันถึงกับสะดุ้งโหยง ดรีมหันไปเจอเผ็ดยืนกอดอกตีหน้ายักษ์อยู่ สายตาคมจ้องมองมายังเขาแบบจะกินเลือดกินเนื้อเลยทีเดียว หรืออาจจะเป็นเพราะหวงน้องจืด
“จืดล้างจานช่วยพี่ดรีมไงครับ” เจ้าตัวเล็กชิงตอบก่อนทันใด
“แล้วทำไมต้องยืนใกล้กันขนาดนั้น” พี่ชายคนโตของบ้านยังคงทำหน้าถมึงทึงอยู่ จืดจึงเขยิบตัวออกมาจากดรีมสองสามก้าว
“พี่เผ็ดจะหวงอะไรนักหนาเนี่ย” เปรี้ยวได้แต่ส่ายหน้ากับอาการหึงหวงของพี่ชาย นี่ก็ไม่รู้ว่าหวงดรีมหรือหวงจืดกันแน่ เพราะก่อนหน้านี้เผ็ดก็มักจะคอยคุมน้องชายคนกลางอย่างจืดอยู่เสมอ ไม่มีพลาดในสายตา ใครมองนิดมองหน่อยไม่ได้ทำตาขวางใส่ทันที แต่ตอนนี้มีดรีมเข้ามาอีกคน ครั้งก่อนก็หวงจนถีบเปรี้ยวจนกระเด็น
ความจริงแล้วเผ็ดก็หวงทั้งสองคนนั้นแหละแต่หวงคนละแบบ จืดนี่ก็คอยห่วงคอยหวงคอยตามมาตั้งแต่ยังเล็ก ส่วนดรีมเองก็หวงแบบคนรัก พอเจอทั้งสองคนนี้อยู่ด้วยกันยิ่งหวงเข้าไปใหญ่ หวงน้องด้วยหวงดรีมด้วย มันก็เลยหวงดับเบิ้ลจนทำให้เลือดขึ้นหน้านิดๆ ตอนแรกก็นั่งจิบเบียร์กับพวกไอ้กายและไอ้ภาคินอยู่ดีๆ แต่สายตาดันไปชำเลืองเห็นร่างเล็กๆทั้งคู่กำลังจู๋จี๋กันที่ห้องครัว ขายาวก้าวเดินฉับๆมาที่ห้องครัวอย่างลืมตัว
“พวกมึงกลับไปได้ละ เดี๋ยวคุณนายหวานจะโทรมาจิกกูอีก ไปๆ” เผ็ดดึงจืดออกมาก่อนจะดันเจ้าตัวเล็กไปหาไอ้เด็กยักษ์อย่างเปรี้ยว
“เปรี้ยวมึงพาจืดกลับบ้านไป” พี่ชายคนโตผลักภาระให้กับน้องชายคนเล็ก เปรี้ยวแอบกรอกตาเป็นสามร้อยหกสิบองศาก่อนจะผลักจืดให้พี่ชาย
“เปรี้ยวต้องไปทำรายงานที่บ้านเพื่อนต่อนะ ไม่ว่างไปส่งหรอก”
“ไอ้เปรี้ยว! มึงก็ไปส่งจืดที่บ้านใหญ่แปบเดียวแล้วค่อยไปบ้านเพื่อนมึงสิวะ เดี๋ยวก็ให้ยืมรถเลยเอ้า!” พี่ชายเริ่มต่อรอง อยากจะให้พวกสัมภเวสีนี่รีบๆกลับไปซะเพราะเผ็ดจะได้จัดการกวางน้อยที่ยืนตาใสหน้าตาเหลอหลาอยู่นี่สักที อดกินมาตั้งหลายวัน
“เปรี้ยวจะนั่งแท็กซี่ไปเอง ไม่อยากวนมาอีก พี่เผ็ดก็ไปส่งจืดดิ” สองพี่น้องยังคงเกี่ยงกันไม่เลิก จนเพื่อนสาวคนสนิทของดรีมถึงกับโพลงออกมาด้วยความรำคาญแบบโคตรๆ
“โอ๊ยจะบ้าตาย นี่ดรีม...ฉันกลับก่อนนะ ปวดหัวกับสามพี่น้องนี่จริงๆเลย”
“เอ่อ...กลับแล้วเหรอควีน ขอบคุณมากนะสำหรับวันนี้” ดรีมยิ้มให้เพื่อนสนิท ควีนพยักหน้ารับน้อยๆก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าสะพายขึ้นมาแล้วเดินกระแทกไหล่พวกหนุ่มๆออกไปด้วยท่าทีหงุดหงิด(มาก)
“เห้ยยยยย ยังไม่ได้ขอเบอร์ไว้เลย เอ่อ...เผ็ดกูตามสาวแซ่บคนนั้นไปก่อนนะ บายเพื่อน”
กายเองที่จับจ้องควีนมาตั้งแต่ต้นงานพอเห็นสาวที่หมายปองกลับไป เจ้าตัวเลยนึกขึ้นมาได้ว่ายังไม่ได้ขอเบอร์จึงรีบชิ่งตามหลังสาวผมบลอนด์ไปติดๆ และสถานการณ์ที่เงียบไปเมื่อสักครู่ก็เริ่มปะทะกันขึ้นอีกครั้ง เผ็ดดันตัวจืดให้เปรี้ยว เปรี้ยวเองก็ผลักจืดให้เผ็ดอยู่อย่างนั้น ดรีมเองก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไรก็ได้แต่มองดูน้องจืดที่โดนเกี่ยงไปมาอย่างรู้สึกสงสาร แต่ดูเหมือนว่าคนที่ถูกเกี่ยงไม่เห็นจะโวยวายออกมาสักแอะ จืดเองก็หันไปทางพี่ชายคนโตทีหันไปทางน้องคนเล็กที จนในที่สุดเพื่อนผู้ที่มีความอดทนสูงที่สุดของเผ็ดก็กระชากแขนจืดออกมาจากสถานการณ์บ้าๆนี่
“เดี๋ยวกูไปส่งเอง” ภาคินผู้เย็นชาและโคตรเฉยชาถึงกับเอ่ยปากออกมานิ่งๆ ร่างสูงถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะลากคนตัวเล็กออกไป คนโดนลากเองเหมือนสติสตังยังมาไม่ครบถ้วนเนื่องจากการโดนผลักไปมาจนมึนหัวจึงไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าโดนลากออกมา
“แค่นี้ก็จบ” เผ็ดพูดอย่างไม่ยี่หระ ดรีมแอบค้อนอยู่ในใจ เป็นพี่ชายแท้ๆทำไมเรื่องแค่นี้ก็ต้องเกี่ยงกัน ไม่ห่วงน้องบ้างรึไง
“พี่เผ็ด! ปล่อยจืดไปกับพี่คินได้ยังไง!!”
ถึงเมื่อกี้จะเกี่ยงกันไม่ไปส่งจืด แต่พอนึกได้ว่าคนที่ลากจืดออกไปคือภาคินทำเอาเปรี้ยวและเผ็ดสติกลับคืนมาครบถ้วน ภาคินเป็นผู้ชายที่นิ่งขรึมต่างกับเผ็ดที่กระโชกโฮกฮาก แต่ความเจ้าชู้นี่ไม่ต่างกับกายเลย หรืออาจจะยิ่งกว่ากายซะด้วยซ้ำ ภาคินเป็นผู้ชายที่น่ากลัวที่สุดคนนึงก็ว่าได้ เมื่อรู้ว่าน้องตัวเองกำลังตกอยู่ในเงื้อมมือเสือร้าย เผ็ดก็รีบวิ่งกระหืดกระหอบออกจากห้องทันใด
“เฮ้อ...พี่เผ็ดนี่ล่ะก็” เปรี้ยวถอนหายใจแรงๆแต่ไม่ทันได้สูดลมหายใจเข้าปอด ร่างสูงก็วิ่งกลับมาเปิดประตูพรวดแล้วชะโงกหน้าเข้ามา
“ไอ้เปรี้ยว! กูฝากดรีมไว้กับมึงก่อน...อย่าทำอะไรเกินคำสั่งกู!”
“โอ๊ยพี่เผ็ด หวงทีละคนดิ! ป่านนี้พี่คินพาจืดถึงม่านรูดแล้วมั้ง” เปรี้ยวล่ะอยากจะบ้าตาย
เสี่ยเผ็ดผู้มีความหึงหวงระดับสิบ ถึงจะวิ่งออกไปแล้ว...แต่ก็ไม่วายจะวิ่งกลับมาสั่งน้องชายเพราะกลัวว่าน้องชายจะทำอะไรคนของตัวเอง
เผ็ดนี่มันเผ็ดจริงๆนะ
TBC.
talk ; Happy New Year 2017
ตอนนี้มาสั้นๆก่อนนะคะเพราะตอนหน้าอาจจะ...