ตอนที่ 15ช่วงฤดูการสอบไฟนอลกำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ดรีมกับควีนก็นัดกันติวหลังเลิกเรียนบ้างเป็นบางคราว โดยการติวของทั้งคู่จะอยู่ในสายตาของเผ็ดตลอดเวลา เพราะเจ้าตัวไม่ยอมให้ดรีมไปติวที่บ้านควีน ดังนั้นจึงต้องยกมาติวที่คอนโดเผ็ดเอง บางครั้งเจ้าของห้องก็ให้นายโปรดเฝ้าดูแล ส่วนตัวเองกับนายปรานก็ตามเก็บหนี้ปกติ วันนี้หลังจากไล่วิ่งกระทืบลูกหนี้ไปสองสามราย เผ็ดก็กลับมาที่ห้องในสภาพเหนื่อยล้า
“กลับมาแล้วหรือครับ” ดรีมเห็นร่างสูงเดินเข้ามาก็รีบจัดเก็บหนังสือและเศษกระดาษที่อยู่หน้าทีวีเข้ากระเป๋า เมื่อยี่สิบนาทีก่อนควีนได้ขอตัวกลับบ้านไปเนื่องจากเจ้าหล่อนบ่นว่าติวมาหลายชั่วโมงแล้วสมองเริ่มไม่รับเนื้อหา ดรีมที่ยังมีแรงก็นั่งอ่านต่อจนกระทั่งเผ็ดกลับมา เมื่อร่างสูงนั่งลงที่โซฟา ดรีมก็นำน้ำเย็นๆมาเสิร์ฟ
“เพื่อนมึงกลับไปแล้วหรือ” ร่างสูงถามพลางยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม
“กลับไปแล้วครับ”
“มึงมีสอบกี่ตัว”
“มีหกวิชาครับ สอบเสร็จก็จันทร์หน้านู้นแหนะครับ”
“อืม...กูมีสอบแค่สามตัว สอบเสร็จอาทิตย์นี้แหละ”
“ได้พักก่อนผมซะอีก” ร่างบางว่าพลางย่นจมูกใส่เผ็ดอย่างหมั่นไส้
“ปิดเทอมไปเที่ยวกันไหม”
“เอ่อ...คือ...”
“ไม่อยากไปหรือ”
“ผมขอกลับไปเยี่ยมแม่ก่อนได้ไหมครับ” ไม่ได้กลับบ้านตั้งหลายเดือนแล้ว ปิดเทอมทั้งทีก็อยากกลับไปกราบท่านซะหน่อย ถึงจะปิดเทอมแค่ไม่กี่วันก็อยากจะกลับไปเยี่ยม
“เอาสิ พากูไปไหว้แม่มึงด้วยดีไหม หึหึ” ร่างอ้าปากหวอแก้มขึ้นสีอย่างน่ารัก ทำเอาเผ็ดอดใจไม่ไหวรีบดึงตัวดรีมที่นั่งอยู่บนพื้นพรมขึ้นมากอดรัดบนโซฟาแทน กะจะปล้นจูบจากคนตัวเล็กซะหน่อย แต่โทรศัพท์เผ็ดกลับดังขึ้นขัดจังหวะซะก่อน
“shit!”
เมื่อเห็นอีกฝ่ายละออกจากตัวเองเพื่อไปรับโทรศัพท์ ดรีมก็รีบวิ่งกุลีกุจอเข้าห้องด้วยความเขินอาย เผ็ดได้แต่มองตามหลังยิ้มๆ ถ้าหมดธุระแบบจริงๆจังๆจะจับฟัดซะหน่อยคืนนี้ แต่เผ็ดหารู้ไม่ว่าสายจากโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาจะทำให้เกิดเรื่องวุ่น
“มีอะไร โทรมาทำไมตอนนี้” เมื่อรับสายเผ็ดก็ไม่ลืมที่จะต่อว่าลูกน้องอย่างนายโปรดซะก่อน แต่เสียงจากปลายสายที่ตอบกลับมาทำให้ชายหนุ่มถึงกับหัวใจหล่นไปถึงตาตุ่ม
“บอกมันรออยู่ห้องพวกมึงนั้นแหละ เดี๋ยวกูไป” หลังจากวางสายจากลูกน้องคนสนิท เผ็ดก็รีบสาวเท้าไปที่ห้องข้างๆ ที่มีอีกคนรออยู่
ตรงหน้าของเผ็ดคือร่างสูงของภูริชที่มันแต่งตัวโคตรจะดูดี ในมือภูริชถือซองสีน้ำตาลสามสี่ซองก่อนจะวางลงตรงหน้าเผ็ด ซองเงินอย่างนั้นหรือ อย่าบอกนะว่าไอ้ภูริชมันหาเงินล้านนึงมาได้แล้ว ภายในไม่กี่อาทิตย์เนี่ยนะหรือ ยังไม่ถึงสองเดือนที่ตกลงกันไว้เลย รึว่าไอ้นายแบบหน้าใสนั้นยังคงให้เงินมันใช้อยู่ ขนาดเผ็ดเอาหลักฐานข้อมูลไปให้ดูขนาดนั้นยังโง่ให้มันใช้เงินอยู่อีก บ้ารึเปล่า
“นี่ครับพี่ ล้านนึง”
“ไอ้โปรดมึงเอาไปนับ” เผ็ดสั่งลูกน้องให้รับซองเงินจากภูริชไปเช็คอีกที ร่างสูงตรงหน้าเขาเองก็ยิ้มยินดี
“ถือว่าสัญญาเราหมดนะครับพี่ แล้ว...ดรีมอยาไหนล่ะ ผมจะพากลับวันนี้เลย”
“ให้ลูกน้องกูเช็คก่อนสิ”
ภายในใจของเผ็ดเริ่มร้อนรุ่มเหมือนไฟกำลังลุกโชนแล้วภูริชเองก็เป็นเชื้อไฟที่ดีเลยทีเดียว ยิ่งเห็นหน้ามันก็ยิ่งอยากจะขยี้มันด้วยเท้าของเขา คนอย่างภูริชถ้าไม่ทำชั่วก็คงหาเงินก้อนใหญ่มาไม่ได้ขนาดนี้หรอก และที่สำคัญมันหาเงินก้อนนี้ได้ภายในไม่ถึงสองเดือนด้วยซ้ำตามที่สัญญา หลังจากนี้ก็คงต้องสั่งลูกน้องสืบอีกทีว่ามันได้เงินมาได้อย่างไร ได้มาจากใคร และผิดกฎหมายรึเปล่า
“ครบครับเจ้านาย” นายโปรดเดินมาบอกเมื่อเช็คยอดเงินเสร็จแล้วเรียบร้อย
“ถ้าอย่างนั้น พี่ก็ปล่อยตัวดรีมคืนผมได้แล้ว” ภูริชพูดก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ชายหนุ่มเหยียดยิ้มมองทางเผ็ดอย่างผู้ชนะ
“กูไม่ให้!!!!”
ฝ่ายเผ็ดเองจากที่เริ่มกรุ่นๆตั้งแต่เห็นหน้าภูริช ยิ่งเจออีกฝ่ายท้าทายแบบนี้ไฟโกรธก็ยิ่งลุกลามไปทั้งตัว เขาไม่ยอมแน่ๆ ถึงจะเป็นผู้ทำสัญญาก็จริงแต่เผ็ดเองก็ไม่อยากจะเสียดรีมไป ไม่มีทาง..เขาไม่ยอมยกดรีมให้ไอ้ภูริชอย่างเด็ดขาด มันจะมองว่าเขาทำผิดกติกาก็ช่างหัวมันปะไร แต่หัวใจของเผ็ดมันจะเอาไปไม่ได้
“พี่จะผิดสัญญารึไง พี่พูดเองนะว่าถ้าผมจ่ายครบก่อนสองเดือนก็จะได้ตัวดรีมคืน”
“แต่ตอนนี้กูไม่ให้ มึงจะทำไม” ร่างสูงของเผ็ดลุกขึ้นปรี้เข้าไปกระชากคอเสื้อภูริชจนอีกฝ่ายเซมาตามแรง
“ทำไมถึงไม่ให้ล่ะครับ หรือว่าพี่เอง...ก็ติดใจดรีมเหมือนกัน” ภูริชยิ้มมุมปากอย่างยียวน
“เรื่องของกู!”
“ถ้าอย่างนั้น...ทำไมพี่ไม่เรียกดรีมมาล่ะครับ ให้เค้าตัดสินใจเองว่าจะอยู่กับใคร”
นั้นสินะทำไมไม่ให้ดรีมเป็นฝ่ายเลือกเองว่าจะอยู่กับใคร แต่เผ็ดก็แอบมั่นใจว่าดรีมจะไม่เลือกภูริชอย่างแน่นอน เพราะดรีมเคยบอกเองว่าเกลียดภูริชและไม่อยากกลับไปหา แล้วเขาจะกลัวอะไร สัญญาการเป็นของจำนำหมดลง เงินที่ไอ้ภูริชยืมไปก็จ่ายหมดเรียบร้อย ดรีมเองก็คงเป็นอิสระ มันไม่ดีหรอกหรือ และภาพพจน์ของเสี่ยเผ็ดก็ยังคงอยู่เหมือเดิมถ้าหากไม่ผิดสัญญา
“ก็ได้ ไอ้ปราน...มึงไปตามดรีมมา”
“ครับ”
ไม่นานนักนายปรานก็พาร่างเล็กเดินเข้ามาภายในห้อง เมื่อดรีมเห็นภูริชก็แสดงสีหน้าตกใจทันที ร่างบางไม่กล้าที่จะเดินเข้ามาจนกระทั่งเผ็ดกวักมือเรียกให้ลูกน้องพาดรีมมานั่งที่โซฟาตัวเดียวกับเขา ดรีมแอบเหลือบมองภูริชนิดหน่อยก่อนจะเบือนหน้าหนี ดูจากอาการก็รู้ว่าร่างบางไม่ใคร่ที่จะเสวนาและพบปะกับภูริช หึหึ
“ดรีม...กูจ่ายหนี้ครบแล้วนะ กูมารับมึงกลับ” ภูริชพูดขึ้น
“ว่าไง...จะกลับไปกับมันรึเปล่า” ถึงเผ็ดจะถามออกไปแบบนั้นแต่มือใหญ่ก็ยังคงกุมมือเล็กของดรีมเอาไว้ เขาไม่มีทางปล่อยดรีมไปหรอก...นอกซะจากว่าเจ้าตัวไม่อยากอยู่กับเขาแล้วเท่านั้น
“ผะ...ผม...ผมไม่...ไม่อยากไป” คำตอบของดรีมทำเอาเผ็ดถึงกับยิ้มออกมาอย่างพอใจ ร่างสูงมองกลับไปที่ภูริชที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ก่อนจะยิ้มเยาะออกมา
“ได้ยินชัดแล้วนะ มึงกลับไปได้แล้วไป”
“ก่อนกลับ...ผมขอบอกลาดรีมก่อนได้ไหมครับ...แบบสองต่อสอง”
“หึ ก็ได้ กูให้เวลาแค่ห้านาทีเท่านั้น”
เผ็ดลอบมองร่างบางที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาไม่ยอมพูดจาก่อนมือหนาจะยกมือขึ้นลูบหัวเบาๆแล้วลุกออกไป แต่ก็โดนคนตัวเล็กฉุดเอาไว้ไม่ยอมปล่อยมมือออกจากร่างสูง ดรีมเงยหน้ามองเผ็ดก่อนจะส่ายหัวเบาๆ
“เอาหน่า ไม่ต้องกลัวหรอก...กูรออยู่ข้างนอก รีบบอกลามันซะล่ะไอ้แฟนเก่าเฮงซวยของมึงน่ะ”
ก่อนจะออกไปเผ็ดก็แอบปรายตามองภูริช สีหน้าของมันดูเหมือนคนอกหักอย่างไรอย่างนั้น หึหึ ถึงจะไม่อยากให้ดรีมอยู่กับมันสองต่อสองก็เถอะนะ แต่มันคงเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่ภูริชจะมีโอกาสได้ขอโทษดรีม เพราะหลังจากนี้เผ็ดคงไม่ยอมให้ดรีมได้พบมันอีกอย่างแน่นอน บางทีภูริชอาจจะอยากขอโทษดรีมก็ได้ และอาจจะกลับตัวกลับใจได้แล้ว เรื่องเงินก้อนนั้นถึงจะนึกสงสัยอยู่แต่เดี๋ยวค่อยส่งลูกน้องไปตามสืบเอาทีหลังก็ได้ ครั้งนี้ที่ให้ยอมคุยกันสองคนเพราะเผ็ดเองก็เชื่อใจดรีมว่าไม่มีทางกลับไปหาภูริช ส่วนไอ้ภูริชเผ็ดก็เห็นใจอยู่นิดหน่อย ถ้าห้ามไม่ให้คุยกันก็คงมองเผ็ดใจร้ายใจดำ
“ไอ้โปรดมึงจับเวลาไว้ห้านาที”
หลังจากที่เผ็ดออกจากห้องไป สีหน้าเศร้าสร้อยของภูริชเมื่อกี้ถูกเปลี่ยนเป็ยรอยยิ้มร้าย ดรีมที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับภูริชเองก็เห็นชัดเจนเลยว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นละครตบตาเผ็ดอยู่ ร่างสูงเดินอ้อมมานั่งโซฟาตัวเดียวกับดรีมก่อนจะพาดแขนขึ้นโอบไหล่ร่างบางแต่ก็โดนดรีมสะบัดออกจนได้
“หึ พอได้ผัวใหม่ก็หวงตัวขึ้นมาเลยนะ”
“มึงต้องการอะไรกันแน่!” ดรีมกัดฟันกรอดอย่าข่มอารมณ์
“ต้องการมึง...และต้องการหักหน้ามัน” มันที่ว่าก็คงไม่พ้นเสี่ยเผ็ดที่ภูริชเองก็อยากจะเอาชนะ
“กูไม่กลับไปกับมึงเด็ดขาด!!”
“กูจ่ายหนี้ครบแล้ว ตามสัญญามึงก็ต้องกลับไปอยู่กับกู”
“มึงบอกถ้าหมดหนี้แล้วกูจะเป็นอิสระ!!” ใช่ภูริชเคยพูดเอาไว้ แต่ก็พูดให้ดรีมตายใจแค่นั้น ตอนนี้ภูริชอยากจะเอาคืนเสี่ยเผ็ดมากกว่า
“เหรอ..ทำไมกูจำไม่ได้เลยล่ะ หึ”
“ไอ้ภู!!! กูไม่กลับไปกับมึงหรอก!”
“ทำไมล่ะจะอยู่กับผัวใหม่อย่างนั้นรึ”
“ถ้าใช่แล้วจะทำไม!”
“มึงไม่อยากอยู่กับมันหรอก...ถ้ารู้ว่ากูส่งคลิปไปให้พ่อกับแม่มึงที่บ้านเรียบร้อยแล้ว”
“ว่าไงนะ!!!”
ไม่จริงใช่ไหม แล้วที่ดรีมยอมมาตั้งแต่ต้นเพื่ออะไร ที่ยอมเป็นของจำนำก็เพราะรักษาชื่อเสียงและหน้าตาของครอบครัวเอาไว้ ถ้าพ่อกับแม่รู้ว่าลูกชายตัวเองเป็นเกย์และมีคลิปอุบาทว์ๆนั้นท่านจะเสียใจแค่ไหน ดรีมยอมทนทุกข์ได้แต่พ่อกับแม่ดรีมจะมาเสียใจกับเรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด
“กูส่งไปก่อนจะมาที่นี่”
“กูไม่เชื่อ!”
“นี่ไลน์พ่อมึงใช่รึเปล่า” ภูริชยกสมาร์ทโฟนขึ้นมาก่อนจะเปิดแอพพลิเคชั่นสีเขียว รูปโปรไฟล์เป็นรูปของพ่อดรีมจริง และแชทก็มีวิดีโอที่ถูกส่งไปเมื่อชั่วโมงก่อน แต่ตอนนี้ยังไม่ขึ้นว่าถูกอ่าน
“มึงอาจจะปลอมขึ้นมาก็ได้!”
“เหรอ...จะเชื่อแบบนั้นก็ได้ แต่กูมีที่อยู่บ้านมึงที่ต่างจังหวัด” พูดจบภูริชก็โชว์ที่อยู่บ้านดรีมให้เจ้าตัวดู ซึ่งมันก็ถูกต้อง
“มะ...มึงเอามาได้ยังไง!”
“คนอย่างกูหามาได้ทุกอย่างนั้นแหละ หึ ถ้าพ่อมึงไม่ตอบไลน์ก็ส่งให้แม่มึง ถ้าไม่ตอบอีกก็ส่งไปทางที่อยู่นี่แหละ”
หัวใจดวงน้อยเหมือนถูกบีบรัดจนจุก ร่างกายเริ่มชาไปทุกสัดส่วน ความกลัวและความเสียใจแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างกาย หยาดน้ำใสเริ่มเอ่อล้นเต็มดวงตากลมโตทั้งสองข้าง ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องมาเกิดกับดรีมซ้ำสองอีก คนอย่างภูริชจิตใจมันทำด้วยอะไร ดีแต่ทำร้ายคนอื่น ไม่นึกจะสงสารกันบ้างหรืออย่างไร ดรีมก็เอาแต่โทษโชคชะตาที่ทำให้โคจรมาพบกับภูริชอยู่อย่างนั้น
“กลับไปกับกูสิ แล้วกูจะลบคลิปให้”
“กูกลับไปกับมึง...คลิปนั้นก็ถูกส่งไปหาพ่อกูแล้ว!”
“วิดีโอนั้นยังโหลดไม่สำเร็จ ก็ปิดเน็ตเอาไว้ก่อน...ถ้ากดยกเลิกก็ได้น่ะนะ”
“กูจะแน่ใจได้ยังไงว่ามึงจะไม่หลอกกูอีก”
“หลังจากที่มึงกลับไปกับกู กูลบคลิปให้แน่นอน กูแค่อยากเอาคืนมัน กูรู้ว่ามันเองก็หลงมึงเข้าแล้ว...ถ้าหักหน้ามันซะหน่อยจะเป็นไรไป”
“จำเอาไว้...ที่กูยอมเพราะกูรักครอบครัว”
“มึงก็อย่าตุกติกบอกไอ้เสี่ยหน้าเงินนั้นแล้วกัน ถ้ามึงบอกมันกูกดส่งแน่ๆ”
ภูริชยกสมาร์ทโฟนขึ้นโชว์ก่อนจะยกยิ้มอย่างผู้มีชัย เมื่อได้ยินเสียงที่หน้าประตูภูริชก็รีบคว้าร่างดรีมเข้ามากอด อีกฝ่ายมีท่าทีขัดขืนแต่ร่างสูงก็ไม่ยอมปล่อยง่ายๆ จนอีกฝ่ายเข้ามาเห็น...
ทางด้านเผ็ด พอครบห้านาทีเผ็ดก็สั่งให้ลูกน้องเปิดประตูเข้าไป แต่ภาพตรงหน้ากลับทำเอาเผ็ดเลือดร้อนขึ้นอีกครั้ง เพราะภูริชกำลังกอดอยู่กับดรีม นี่มันหมายความว่าไง ไม่ทันได้คำตอบเผ็ดก็รีบสาวเท้าเข้าไปกระชากตัวดรีมออกจากอ้อมกอดของภูริชทันที ไอ้ภูริชมันมีสีหน้ายิ้มแย้มต่างกับเมื่อกี้อย่างเห็นได้ชัด ถึงจะให้ล่ำลากันแต่มากอดคนของเขาแบบนี้มันไม่ตายดีแน่ เผ็ดเข้าไปกระชากคอเสื้อภูริชก่อนจะสวนหมัดเข้าที่ปลายคางจนร่างสูงอีกคนล้มลงกับพื้น
“กูให้มึงบอกลากัน ไม่ใช่ให้มึงมากอดคนของกูไอ้ภูริช!!”
“หึ คนของใครกันแน่” ภูริชหยัดตัวลุกขึ้นมายืนประจันหน้ากับเผ็ดอีกครั้งก่อนจะใช้สายตาชำเลืองมองดรีมที่อยู่ข้างหลังเผ็ด
“มึงหมายความว่าไง”
“ดรีมจะกลับไปอยู่กับผม”
“มึงอำกูเล่นใช่ไหม” เผ็ดหันไปมองร่างบางที่ยืนอยู่ด้านหลังของตัวเอง ดรีมได้แต่ก้มหน้ากลั้นน้ำตาและเสียงสะอื้นเอาไว้
“กูให้มึงคุยกับมันห้านาที มึงเปลี่ยนใจอย่างนั้นหรือ!” ร่างสูงตะคอกใส่อย่างเหลืออด ก่อนเขาออกจากห้องไปบอกว่าจะอยู่กับเขา แต่ไม่ถึงห้านาทีกลับเปลี่ยนใจไปหาไอ้ภูริชนี่นะ
“อึก...ผ..ผะ..ผมขอโทษ” ร่างบางตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ และเอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมา
“อย่าไป...” ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาอย่างหมดแรง เผ็ดอยากจะรั้งดรีมเอาไว้ไม่อยากให้ไปไหน แต่นี่มันเป็นสิทธิของดรีม ดรีมมีสิทธิที่จะเลือกว่าจะอยู่กับใคร ถึงทั้งสองจะชอบพอกันแต่ในหัวใจส่วนลึกของดรีม เผ็ดก็ไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าจริงๆแล้วดรีมรักใคร ถึงปากจะบอกว่าเกลียดภูริชแต่ใจอาจจะรักอยู่ก็ได้
“ผ..ผมขอโทษ อึก” อีกฝ่ายก็ได้แต่เอ่ยขอโทษ คำขอโทษก็คือคำลาจาก
หัวใจของเผ็ดเหมือนถูกบดขยี้จนแหลก เรี่ยวแรงที่เคยมีก็เหือดหายไปจนหมด ขายาวไม่มีแรงที่ก้าวออกไปขวางเหมือนถูกตอกไว้ให้อยู่กับที่ด้วยคำพูดที่ว่า ‘ขอโทษ’ จากอีกฝ่าย
ภูริชเดินเข้ามาโอบไหล่ที่กำลังสั่นเทาของดรีมและเดินออกไป ร่างบางตัดสินใจเงยหน้าขึ้นมามองชายคนที่ตัวเองรักเป็นครั้งสุดท้าย สายตาคมฉายแววตัดพ้อได้อย่างชัดเจน น้ำตาใสเอ่อล้นดวงตาคม ผู้ชายที่เคยแข็งแกร่งกลับอ่อนยวบลงเมื่อโดนความรักย่ำยี ดรีมทำให้ผู้ชายคนนี้เสียใจและกำลังร้องไห้ เขาไม่อยากทำให้คนที่เขารักต้องมาเสียใจเพราะเขาอีกแล้ว ทั้งพ่อ แม่ น้องชายและก็เผ็ด
เผ็ดอาจจะคิดว่าดรีมไม่รัก เพราะดรีมเปลี่ยนใจเลือกภูริชแทน มันไม่มีทางเลือกให้ดรีมมากนักหรอก ถ้าเขาตัดสินใจเลือกเผ็ด ครอบครัวที่เขารักก็โดนย่ำยีเช่นเดียวกัน พ่อกับแม่เองก็คงหัวใจสลายไม่แพ้กัน ขอโทษที่ดรีมเลือกทางสองทางไว้ไม่ได้ ครอบครัวก็สำคัญ เผ็ดเองก็สำคัญ แต่สำหรับดรีมแล้วครอบครัวก็ต้องมาก่อนเสมอ
เลือกทางนึงก็เจ็บ อีกทางก็เจ็บ
และที่เจ็บที่สุดก็ไม่พ้นตัวดรีม
‘ดรีมรักพี่เผ็ดนะ...แต่ดรีมเลือกไม่ได้จริงๆ’
‘ดรีมขอโทษ’
TBC.
talk; ไอ้ภูริช ไอ้คนชั่ววววว