ตอนที่ 20ดินเนอร์สุดหรูฝีมือคุณป้าของดรีมจบลง ทุกคนก็ต่างแยกย้ายเพื่อที่จะพักผ่อน ซึ่งคุณป้าได้จัดเตรียมห้องพักสำหรับแขกให้เผ็ดและลูกน้องอีกสองคนไว้เป็นที่เรียบร้อย แต่เผ็ดก็เลือกที่จะนอนห้องเดียวกับดรีม คุณป้าและคุณตาเองก็ไม่ขัดอะไร มีแต่คนตัวเล็กเท่านั้นแหละที่ไม่ยอมให้เขานอนร่วมห้องด้วย สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้ความตื้อของร่างสูง
ห้องนอนของดรีมเป็นห้องใต้หลังคา มีหน้าต่างอยู่ปลายเตียงสามารถนอนดูดาวได้ ข้าวของภายในห้องส่วนใหญ่จะออกไปทางโทนน้ำตาลและครีม ซึ่งมองดูแล้วก็สบายตา หลังจากที่เจ้าของห้องอาบน้ำชำระร่างกายเสร็จสรรพ เขาก็บอกให้คนร่างสูงไปอาบน้ำบ้าง ในขณะที่เผ็ดกำลังอาบน้ำอยู่นั้นคุณป้าก็เรียกดรีมให้ลงไปเอานมอุ่นขึ้นมาดื่มก่อนนอน พอร่างสูงออกมาจากห้องน้ำก็ไม่พบวี่แววของคนตัวเล็ก เขาจึงถือโอกาสเดินสำรวจห้องก่อนจะกลับมานั่งลงที่เตียง ร่างสูงใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กขยี้ผมเปียกของตัวเอง สายตาคมยังไล่สำรวจภายในห้องจนกระทั่งสายตาไปสะดุดกับถุงยาที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง
“ยาอะไร” ร่างสูงเอื้อมตัวไปหยิบขึ้นมาดู แผงยาเม็ดสีขาวที่แกะไปแล้วหลายเม็ด
“Sertraline?”
ยาแก้อะไร? ไม่น่าจะใช่พวกยาแก้ปวด ด้วยความสงสัยและไม่เคยพบเห็นยาชนิดแบบนี้ร่างสูงจึงคว้าสมาร์ทโฟนขึ้นมาเสิร์ชดูชื่อยา และพบว่า...
“ยาต้านโรคซึมเศร้าหรือ?”
หรือว่าดรีม...
ร่างบางเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับนมอุ่นหนึ่งแก้ว ดรีมชะงักเมื่อเห็นว่าเผ็ดกำลังถือกล่องยาที่ลุงหมอให้มา คนตัวโตหันขวับมาทางเขาทันที
“นี่อะไร” เขาถามพร้อมชูกล่องยาในมือ
“เอ่อ...ยาของผมเองครับ”
“ยาแก้อะไร”
“กะ..แก้ปวดหัว”
“อย่าโกหก” ร่างสูงจ้องเขม็งมาทางดรีม
“ยาแก้โรคซึมเศร้าครับ...”
“มึงเป็นโรคซึมเศร้าอย่างนั้นหรือ”
“ลุงหมอบอกว่าผมเข้าข่ายผู้ป่วยโรคซึมเศร้าครับ ลุงหมอก็เลยจ่ายยาให้ทานก่อน”
ร่างสูงเดินอ้อมเตียงเข้าไปหาร่างบางที่ยืนอยู่หน้าประตู เขายิ้มอย่างอ่อนโยนพร้อมกับเข้าสวมกอดดรีมเอาไว้ คนในอ้อมแขนตีสีหน้ามึนงงกับท่าทางของเผ็ด
ดรีมกำลังอ่อนแอ ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าสามารถรักษาให้หายได้ถ้าเขามีกำลังใจ เผ็ดเองก็จะคอยอยู่เคียงข้างและให้กำลังใจแก่คนร่างบาง จะปกป้องไม่ให้ใครมาทำร้ายได้อีก
“เดี๋ยวก็ดีขึ้น กูอยู่ตรงนี้แล้วไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว” มือหนายกขึ้นลูบหัวทุยเพื่อปลอบโยน
“ขอบคุณครับ” ดรีมเงยหน้าสบตากับอีกฝ่าย คลี่ยิ้มสวยจนตาปิดทำเอาคนตัวสูงอดใจไม่ไหวที่จะก้มลงฟัดแก้มนิ่มทั้งสองข้างอย่างหมั่นเขี้ยว พอผละออกคนทั้งสองก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน
“ผมเอานมอุ่นๆมาให้ครับ”
“นมจืดรึเปล่า” ดรีมพยักหน้าแทนคำตอบ ร่างสูงจึงรับแก้วมาแล้วยกขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมดเกลี้ยง
“คุณเผ็ดจะเข้านอนเลยไหมครับ”
“อืม เหนื่อยๆว่ะ กูไม่ได้นอนมาหลายวันแล้ว เอาแต่ห่วงคนแถวนี้” ว่าแล้วก็ปรายตามองร่างบางตรงหน้า
“ขอโทษครับ ต่อไปจะไม่ทำให้เป็นห่วงอีกแล้ว ผมสัญญา”
“ทำให้ได้แล้วกัน”
ด้วยความที่ว่าเขาทั้งสองคนเดินทางมาเหนื่อยๆ พอหัวถึงหมอนก็หลับเป็นตายทั้งคู่ แต่เผ็ดก็ไม่ลืมที่จะโอบกอดร่างบางไว้แนบอกเหมือนอย่างที่พูดไว้ว่าเขาจะปกป้องดรีม แม้ยามนอนหลับ...
มื้อเช้าของวันนี้ดรีมอาสาเป็นคนทำให้ทุกคนทาน เขาทำแซนวิชทูน่าเสิร์ฟพร้อมกับไข่ดาวและไส้กรอก มีแดเนียลคอยเป็นลูกมือหยิบจับนู้นนี้ช่วยดรีมอยู่ตลอด หลังจากทำเสร็จดรีมก็ขึ้นไปเรียกคนขี้เซาที่ยังไม่ยอมตื่น กว่าจะปลุกให้ลุกขึ้นมาได้ก็แทบจะหมดพลังเพราะโดนคนตัวสูงปล้นจูบน่ะสิ! พอลากเผ็ดลงมาได้ทุกคนก็นั่งพร้อมหน้าพร้อมตากันที่โต๊ะอาหารเป็นที่เรียบร้อย คุณป้าและจอร์จเอ่ยแซวหลานรักทันทีที่เห็นว่าอีกฝ่ายหน้าแดงและปากก็เจ่อเหมือนโดนอะไรดูดอย่างไรอย่างนั้น
“ทานเยอะๆนะคะคุณเผ็ด มื้อเช้านี้ดรีมเป็นคนอาสาทำเองเลยนะ” คุณป้าส่งยิ้มหวานให้ร่างสูงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
คุณป้าของดรีมยิ้มให้น่ะปกติ แต่ไอ้ฝรั่งตาเขียวนามว่าแดเนียลมันยิ้มให้เขาแปลกๆ ไม่ใช่ยิ้มเยาะเย้ยเหมือนเมื่อคืน แต่เป็นยิ้มบางๆที่ดูเหมือนจะจริงใจ เผ็ดก็ได้แต่คิดว่ามันคงยิ้มทักทายเขาแค่นั้นเอง ร่างสูงจึงยิ้มตอบอย่างมีมารยาท มือหนาหยิบแซนวิชทูน่าขึ้นมาพร้อมกับงับเข้าคำโต พอเคี้ยวไปความเผ็ดแสบแผ่ซ่านไปทั่วทั้งปากลามไปถึงจมูก รสชาติมันคล้ายวาซาบิอย่างไรอย่างนั้น ร่างสูงรีบคว้าทิชชู่ที่อยู่กลางโต๊ะมาแล้วคายแซนวิชทูน่าออกทันที
“แค่กๆๆๆ”
“คุณเผ็ดเป็นอะไรรึเปล่าครับ” ดรีมที่นั่งข้างกายถึงกับตกใจที่เห็นเผ็ดไอค่อกแค่ก น้ำหูน้ำตานี่ไหลเป็นทาง หน้าก็เริ่มแดงเถือกจนดูน่ากลัว ร่างบางเห็นท่าไม่ดีจึงรีบส่งน้ำให้ เผ็ดเองก็รีบดื่มน้ำรวดเดียวจนหมดแก้ว
“เผ็ด!” ร่างสูงบอกพลางพยักพเยิดไปที่แซนวิชทูน่าในจาน
“ไม่เห็นจะเผ็ดสักหน่อย ยูน่ะสำออย” ไอ้ฝรั่งตาเขียวหัวเราะขบขันกับท่าทางของเผ็ดที่หอบแฮ่กๆพร้อมกับกรอกน้ำเข้าปากไม่หยุด
“มันเผ็ด!” ร่างสูงเถียง
“เผ็ดหรือครับ” ดรีมหยิบแซนวิชในจานคนรักขึ้นมากัดไปคำนึง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเผ็ดเหมือนอย่างที่อีกคนว่าเลยสักนิด มันจะเผ็ดได้อย่างไร ดรีมไม่ได้ใส่พริกลงไปสักหน่อย
“มันเผ็ดจริงๆนะ!” ร่างสูงยังคงเถียง
“ทุกคนบนโต๊ะไม่เห็นมีท่าทีจะเผ็ดเหมือนยูเลย นี่ดรีม...แฟนยูน่ะสำออยไปไหมเนี่ย” แดเนียลมองมาทางเผ็ดอย่างเย้ยหยันอย่างเห็นได้ชัด
ที่คนอื่นไม่มีปฏิกิริยาอะไรก็เพราะในจานของทุกคนก็แค่แซนวิชทูน่าธรรมดาเท่านั้น แต่ยกเว้นของเผ็ดที่แดเนียลแอบสอดไส้วาซาบิไว้ตรงกลาง และที่ดรีมไม่เผ็ดก็เพราะเจ้าตัวกัดตรงขอบๆซึ่งนั้นก็ดีแล้ว แดเนียลกะจะแกล้งเฉพาะคนร่างสูงตรงหน้าเท่านั้น จิ๊ บังอาจมาเกาะแกะลูกพี่ลูกน้องของเขา อย่างนี้มันต้องโดน
“นาย!!!” เผ็ดได้แต่จ้องเขม็งไปยังฝ่ายตรงข้าม ไอ้ฝรั่งขี้นกนี่มันแอบแกล้งเขาชัดๆ มันทำให้เขาอับอายขายขี้หน้า ระวังตัวไว้เถอะ
เผ็ดเลือกที่จะไม่โต้ตอบบนโต๊ะอาหาร มันถือว่าเป็นมารยาทที่ไม่ดี อีกอย่างเขาก็เป็นแค่แขกเท่านั้น จะมาโวยวายตรงนี้ไม่ได้ เดี๋ยวคุณตาและคุณป้าของดรีมไม่พอใจเอา เผ็ดได้แต่ขบกรามเก็บอารมณ์เอาไว้ ไอ้ฝรั่งตรงหน้าก็แต่นั่งหัวเราะจนน้ำตาเล็ด สนุกมากล่ะสิที่ได้แกล้งเขา เดี๋ยวเถอะ...เดี๋ยวได้เจอเสี่ยเผ็ด
หลังจากที่ทุกคนทานมื้อเช้าเสร็จ คุณตาของดรีมก็ขับรถเข้าเมืองไปซื้อเมล็ดพันธุ์พืชที่จะเอาไว้ปลูกโดยมีบอดี้การ์ดร่างบึกของเผ็ดติดสอยห้อยตามไปด้วยเนื่องจากเป็นคนคำสั่งของเจ้านาย เผ็ดต้องรีบทำคะแนนเข้าไว้เพื่อให้ทางครอบครัวของดรีมเอ็นดู คุณตาเองก็ยินดีที่ลูกน้องของเผ็ดอาสาจะไปแบกของขึ้นรถช่วย ส่วนคุณป้ากับจอร์จก็ออกไปทำงานในตัวเมือง ที่บ้านจึงเหลือแค่ดรีม เผ็ด และก็ไอ้ฝรั่งตาเขียวที่ชื่อแดเนียล
“คุณเผ็ดจะกลับวันไหนครับ” ดรีมถามขึ้นขณะที่ทั้งสองนั่งดูหนังในห้องนั่งเล่น
“มะรืนล่ะมั้ง กูต้องกลับก่อนสิ้นเดือนเดี๋ยวไอ้พวกลูกหนี้แม่งหนีหน้าหมด”
“อย่าไปไล่กระทืบเขาอีกล่ะครับ เก็บแค่หนี้ก็พอ”
“หึ กูไม่รับปาก ว่าแต่มึงจะกลับไทยตอนไหน”
“คุณแม่บอกว่าถ้าหายดีแล้วค่อยกลับ ผมเองก็ดรอปเรียนไว้เทอมนึง”
“หืม? ดรอปเรียนหรือ?”
“ครับ คงอยู่ที่นี่จนถึงเปิดเทอม”
“ไม่คิดว่ากูจะคิดถึงมึงแย่เลยเหรอ....” คำพูดของร่างสูงทำเอาคนที่นั่งข้างๆแก้มร้อนผ่าวขึ้น
“เอ่อ...ผมก็...ก็คงคิดถึงเหมือนกัน”
“คิดถึงก็อย่าอยู่นานนักสิ ถ้ามึงกลับไปกูจะพาเข้าบ้านไปไหว้พ่อกับแม่เลย จากนั้นก็ไปสู่ขอมึงกับพ่อแม่มึงดีไหม ตากับป้าก็อนุญาตแล้วนี่ หึหึ”
“คุณเผ็ดพูดอะไรแบบนั้นล่ะครับ” ยิ่งเห็นอีกคนเขินก็ยิ่งอยากแกล้งเข้าไปใหญ่ เผ็ดหัวเราะกับท่าทางเขินอายนั้นก่อนจะยกมือขึ้นยีผมนุ่มเบาๆอย่างเอ็นดู
“สองเดือนพอไหม”
“ครับ?”
“ก็ให้มึงอยู่นี่สองเดือน แล้วกลับไปอยู่กับกูที่ไทย”
“ผะ...ผมต้องถามคุณตาก่อน”
“ท่านอนุญาตอยู่แล้วล่ะหน่า กลับไปอยู่ด้วยกันนะ”
ร่างสูงตวัดแขนโอบเอวคอดให้เลื่อนเข้ามาประชิดตัว ดวงตากลมโตเบิกมองเขาอย่างตกใจ
“กลับไปอยู่กับพี่นะดรีม...” สรรพนามถูกเปลี่ยนทำเอาคนตัวเล็กหัวใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะเลยทีเดียว มีเพียงรอยยิ้มเล็กๆที่ส่งให้เผ็ดแทนคำตอบ ร่างสูงประคองใบหน้าหวานขึ้นก่อนจะค่อยๆโน้มหน้าลง ปลายจมูกโด่งชนเข้ากับปลายจมูกเล็กของคนในอ้อมแขน ริมฝีปากหยักคลี่ยิ้มและค่อยๆเลื่อนเข้าใกล้หวังจะประทับบนริมฝีปากแดงของอีกฝ่าย
แต่...
“เฮ้!!!!! ขอไอดูหนังด้วยคนสิ”
ไอ้มารผจญโผล่มาจับพวกเขาแยกออกจากกัน ชายหนุ่มกระโดดเข้ามานั่งคั่นกลางระหว่างคนทั้งสองทันที เผ็ดขบกรามแน่นจนเกิดสันนูน ร่างสูงพ่นลมหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ มันหลายครั้งแล้วที่โดนไอ้ฝรั่งตาเขียวนี่ขัดจังหวะ มันน่าเจ็บใจนัก! ส่วนดรีมก็เอาแต่ก้มหน้าหงุดๆอย่างเคอะเขิน เพื่อหนีจากสถานการณ์นี้ร่างบางเอ่ยปากว่าจะไปทำขนมว่างมาให้ทาน ซึ่งแดเนียลก็เห็นดีเห็นงาม พอดรีมออกไปจากห้องนั่งเล่นได้ไม่นาน เผ็ดก็ตวัดตามองไอ้ฝรั่งตัวโตนี่อย่างเครียดแค้น
“แกล้งยูนี่สนุกดีเหมือนกันนะ ฮ่าๆ”
“หึ”
แกล้งได้แกล้งไป ถึงไทยแล้วมึงก็คงไม่ได้แกล้งกูแน่นอนไอ้ฝรั่งบ้า ตอนนี้เผ็ดต้องพยายามข่มอารมณ์โกรธเอาไว้ ไม่พยายามโต้ตอบ แต่ถ้าเผ็ดได้ปะทะฝีปากล่ะก็สิ่งต่อไปที่ทำก็คือไล่กระทืบไอ้ฝรั่งนี้จนไส้แตกแน่ๆ เวลาโกรธมักจะควบคุมอารมณ์ไว้ไม่ค่อยอยู่ และยิ่งได้ไล่กระทืบคนนะ มันหยุดไม่ได้เลยจริงๆ ดังนั้นเพื่อทำคะแนน เพื่อให้คนในครอบครัวของดรีมเห็นดีเห็นงาม เผ็ดต้องใจเย็นๆไว้ก่อน
“เออนี่ ยูมีถุงยางรึเปล่า” แดเนียลถามขึ้น วันนี้ตอนเย็นชายหนุ่มมีนัดเดทกับสาวฮอตประจำไฮสคูล และลืมฝากจอร์จซื้อถุงยาง เมื่อกี้โทรไปจอร์จก็กำลังเดินทางกลับมาบ้านแล้ว
“มี”
“ไซส์เท่าไหร่”
“56”
“หืม ยูเป็นคนเอเชียทำไมไซส์เท่าคนยุโรปเลยล่ะ”
เผ็ดได้แต่ยักไหล่แทนคำตอบ
“ถ้าอย่างนั้น ไอขอยืมหน่อยสิ”
เผ็ดไม่ตอบอะไร ร่างสูงลุกขึ้นก่อนจะเดินตรงดิ่งไปที่ห้องใต้หลังคาทันที เขาเปิดกระเป๋าเดินทางออกแล้วควักเอากล่องถุงยางที่แอบซ่อนเอาไว้ออกมา หึหึ คิดว่าจะขอกันง่ายๆแบบนี้น่ะหรือ แกล้งเผ็ดไว้ซะเยอะ อย่างไอ้แดเนียลมันต้องเจอกลวิธีแกล้งในแบบฉบับของเสี่ยเผ็ด ร่างสูงหยิบกล่องปฐมพยาบาลออกมา อย่าแปลกใจที่จะเห็นคนแบบเสี่ยเผ็ดพกกล่องปฐมพยาบาลเพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ แต่ส่วนใหญ่ก็ถูกเปิดออกมาใช้งานตอนที่ซ้อมลูกหนี้จนมือถลอกเท่านั้น
วาซาบิในแซนวิชทูน่าเมื่อเช้ายังเขาแสบทรวงจนถึงตอนนี้ เล่นแสบมาก็แสบกลับเหมือนกันละวะ ร่างสูงค่อยๆย่องเข้าไปที่ห้องครัว เขาเห็นคนตัวเล็กกำลังทำพายโยเกิร์ตอยู่ซึ่งเจ้าตัวเองก็ไม่ได้รับรู้การมีตัวตนของเผ็ดในห้องครัวเลย เมื่อเห็นดรีมหันหลังให้เผ็ดจึงรีบหยิบซอสพริกมาทันที
“มึงตายแน่ไอ้แดเนียล หึหึหึหึ”
ร่างสูงแกะเข็มแล้วต่อเข้ากับไซริงค์จากนั้นดูดซอสพริกขึ้นมาก่อนจะเจาะเข้าที่ถุงยางพร้อมกับฉีดซอสพริกเข้าไป คงคิดกันอยู่ล่ะสิว่ามันเนียนรึเปล่าวิธีการแกล้งแบบนี้ เสี่ยเผ็ดบอกได้เลยว่าเนียนมากเพราะเขาไม่ได้แกะซองถุงยางออกแต่ใช้เข็มเจาะเข้าที่ซองเลย ซอสพริกก็จะเข้าไปผสมกับเจลหล่อลื่นข้างในซองถุงยาง เพื่อความสำฤทธิ์ผลในการแกล้งเสี่ยเผ็ดฉีดซอสพริกเข้าทุกซอง ไม่ว่าจะหยิบขึ้นมาซองไหนก็เจอ! และเพื่อความโคตรเนียนเสี่ยเผ็ดปิดกล่องให้สนิทเหมือนว่ายังไม่ได้เปิดใช้งานเลย
ร่างสูงเดินถือกล่องถุงยางลงไปที่ห้องในเล่นก่อนจะโยนให้แดเนียล
“เฮ้ ให้ไอหมดเลยรึไงเนี่ย?”
“อืม ฉันคงไม่ได้ใช้ เดี๋ยววันมะรืนก็จะกลับไทยแล้ว”
“ดีชะมัด ขอบใจ” ไอ้ฝรั่งตัวโตยิ้มร่าก่อนจะวิ่งปรู๊ดออกจากห้องนั่งเล่นไป
“อ้าว...แดเนียลไม่อยู่ทานของว่างก่อนเหรอเนี่ย” ดรีมที่พึ่งเดินถือของว่างออกมาถึงกับงงเมื่อเห็นลูกพี่ลูกน้องวิ่งออกไป ไหนบอกว่าอยากทานของว่างไงล่ะ
“มันคงเตรียมตัวไปเดทกับสาวคืนนี้ล่ะมั้ง เห็นว่านะ”
“เขาว่าอย่างนั้นหรือครับ”
เผ็ดยักไหล่แทนคำตอบ พยายามจะทำหน้านิ่งไม่ให้ดรีมสงสัยแล้วเชียวแต่รอยยิ้มขบขันก็ปรากฏอยู่บนหน้าอยู่ดี
“มีเรื่องอะไรตลกหรือครับ” ร่างบางถาม
“ไม่มีหรอกหน่า”
หึหึหึหึหึ
“GODDAMN MIT! ซี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด”
เสียงคร่ำครวญจากแดเนียลทำเอาสาวฮอตคู่เดทของเขาตกใจ พวกเขากำลังเล้าโลมกันอยู่ดีๆพอจะเข้าด้ายเข้าเข็ม แดเนียลก็มีท่าทีปวดแสบปวดร้อนเมื่อสวมถุงยางอนามัย ชายหนุ่มรีบวิ่งเข้าห้องน้ำล้างตัวทันที แต่ล้างเท่าไหร่น้องชายของเขาก็ไม่หายแสบสักที ยิ่งฟอกสบู่ก็ยิ่งระคายเคือง จากที่ตื่นตัวก็หดกลับเป็นหนอนแล้ว! บ้าจริง! แดเนียลต้องโดนไอ้มาเฟียเอเชียนั้นแกล้งแน่ๆ
ให้ตายสิวะ!!!!! อู้ยยยยยยยยย น้องแดเนียลน้อยแดงเถือกไปหมดแล้ว!
ฝากไว้ก่อน!!!!!!
TBC.
talk:เดี๋ยวตอนหน้าพาไปไหว้พ่อแม่เสี่ยเผ็ดกันนะคะ อิอิ