<<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---  (อ่าน 71935 ครั้ง)

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 3 [21/12/59]
«ตอบ #30 เมื่อ21-12-2016 19:48:00 »

 :katai5:ต่อเลย


“เออ นั่นส่วนหนึ่ง แต่ประเด็นมันอยู่ที่ไอ้แมทต่างหาก มันไม่เคยรับสายใครเวลาทำกับกูเลยนอกจากพ่อแม่มันอะ แต่นี่รุ่นน้อง..ไอ้สัสแค่รุ่นน้อง!” ผมระบายอารมณ์ ตะโกนแข่งกับเสียงเพลงของผับ

“รุ่นน้องคนนั้นคงมีธุระสำคัญมากๆ ก็ได้นะเว้ย” เต้พยายามกล่อม แต่ผมกระดกเหล้าเข้าปากเป็นว่าเล่น

“ธุระเหี้ยไร บ้านแม่งบึ้มหรอ ถ้าไม่รับสายก็ไม่มีทางรู้ เวลาแบบนั้นอะ แมทมันเคยสนใจอะไรที่ไหน ใครจะเป็นจะตายมันไม่แคร์หรอก” เต้ถอนหายใจเบาๆ ส่วนผมก็ดื่มต่อไป

มันเป็นคนนอก มันคงเข้าใจผมยากนิดหนึ่งว่าเพราะอะไรเรื่องแค่นี้ผมถึงต้องหงุดหงิดขนาดนี้ ผมยกเหล้าต่อไปเรื่อยๆ รีบกิน รีบเมา ไม่ถึงชั่วโมงดีเสียงมือถือก็ดังพร้อมกับร่างของกล้ากำลังเดินมาที่โต๊ะ ในขณะที่ผมจองมองสายเรียกเข้าชื่อแมท เต้ก็อธิบายเรื่องของผมให้กล้าฟัง

“ไม่รับละมึง” เต้ถาม

“ไม่เว้ย กูไม่รับ กูไม่กลับบ้านด้วย คนอื่นสำคัญนักก็ไปเอากันเลย!” แทบปามือถือลงกับพื้นเพราะยังโมโหไม่หาย แม้เหล้าจะพร่องไปมาก แต่สติผมกลับยังแจ่มชัดอยู่

“แหมๆ เรื่องแค่นี้มึงอย่าเยอะ ตัวมึงใช่จะดีไอ้บอม มึงนอกใจแมทไปหาผู้หญิงตลอด”

“มันคนละประเด็นกันเว้ย!” ผมรีบเถียงกล้าทันที
“มันอาจเป็นประเด็นเดียวกันก็ได้ถ้าเด็กที่แมทให้ความสำคัญนั้นเป็นมากกว่ารุ่นน้อง” สิ่งที่ไอ้กล้าพูดมันเป็นสิ่งที่ผมแอบคิดลึกๆ ผมกลัวที่มันจะเป็นแบบนั้น คำอธิบายของแมททมันสมเหตุสมผล ผมเชื่อมันนะ แต่พอเจอแบบนี้ ความเชื่อที่มีมันก็ไขว่เขว

ผมกำมือถือในมือแน่น นั่งก้มหน้าตัวสั่นเทา น้ำตามันกำลังซึม...หัวใจเต้นแรงจนแทบผิดจังหวะ ผมไม่กล้าคิดมากไปกว่านั้นว่าแมทกับเด็กคนนั้นเป็นมากกว่ารุ่นพี่ รุ่นน้องจริงไหม ผมอยากเชื่อในสิ่งที่มันพูด และเก็บแค่ความรู้สึกแน่วแน่ว่ามันมีแค่ผมคนเดียว มันไม่มีคนอื่นและจะไม่มีวันมี

เด็กคนนั้นมันน่ารัก น่ารักกว่าผมจนผมเทียบไม่ติด ดูแล้วเวลาอ้อน ใจคนถูกอ้อนคงละลายได้ง่าย ผมไม่เหมือนเด็กคนนั้น ผมแตกต่างอย่างมาก มันควไม่ผิดถ้าสมมุติแมทจะเอนเอียงไปทางเด็กคนนั้น

“เฮ้ยกล้า มึงอย่าพูดให้บอมคิดมากสิวะ มันไม่เป็นแบบนั้นหรอก แมทรักมึงคนเดียวมึงก็รู้” เต้ดึงผมากอด ลูบหลังผมเบาๆ
“โทษๆ กูแค่แหย่เล่น...ไม่คิดว่าคนอย่างมันจะคิดมากเรื่องนี้” เสียงอ่อนลง มันรู้สึกผิดจริงๆ ผมสัมผัสได้ แต่มันไม่มีใครผิดสักหน่อย เรื่องนี้คนที่ผิดมันคือแมทต่างหาก

ผมขยับออกจากอ้อมกอดของเต้ ยกเหล้าดื่มต่อไม่สนใจ น้ำตาที่เคยไหลก็ปาดมันทิ้งซะ...ผมจะคิดไปเองหรือเปล่าแมทคงอธิบายให้ผมฟังได้ แต่ต้องเป็นตอนที่ผมกล้ารับฟังมากกว่านี้ อารมณ์เย็นลงงกว่านี้ ผมกับมันคบกันมาตั้งนานแล้ว ระหว่างเรา...มันคงไม่จบง่ายๆ แค่นี้หรอกใช่ไหม
“มันจะไม่ทิ้งกูใช่ไหม....”
“มันไม่ทิ้งหรอก...มันรักมึงแค่ไหนมึงก็รู้ดี” เต้ตบบ่าผมเบาๆ ผมพยักหน้า พยายามเชื่อคำพูดของมันและพยายามเข้มแข็งไปในเวลาเดียวกัน....

แต่มันไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งเรารัก เราผูกพันกันมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งคิดและเจ็บกับมันมากเท่านั้น ผมสลัดเรื่องแมทออกจากหัวไม่ได้ ถึงเหล้าเข้าปากมากกว่าครึ่งกลมแล้วก็ตาม สติสตางเลือนราง แต่ความรู้สึกกลับแจ่มชัด ผมกลายเป็นคนดราม่าอะไรได้มากขนาดนี้เลยหรอวะ

ผมไม่เคยทำใจเผื่อเอาไว้อะสิ ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งแมทมันอาจจะมีคนอื่น มันอาจจะหมดรักผม หรือเบื่อผม ผมคิดมาตลอดว่าตัวเองเป็นที่รีกของมัน เป็นที่หนึ่งของมันเสมอไม่ว่าเมื่อไหร่ ถึงแมทจะไม่ใช่ผู้ชายอ่อนโยนปานนั้น แต่มันพูดเสมอนะว่ามันรักผม มันหวงผม คำพูดพวกนั้นแหละที่ทำให้ผมไม่เคยเผื่อใจเลย

แล้วดูตอนนี้ดิ...ความเสี่ยงที่แมทจะมีคนอื่นเกิดขึ้นแล้ว ผมทำใจให้ยอมรับมันไม่ได้ ผมยอมไม่ได้ที่จะต้องโดนแมทมันทิ้ง เราอยู่กันมาไม่ใช่เดือนสองเดือน แต่เป็นปีๆ ถึงผมจะนอกลู่นอกทางไปบ้าง แต่ในชีวิตผมก็มีมันเป็นส่วนหนึ่ง ผมคิดถึงตอนที่ไม่มีมันไม่ออกจริงๆ

“อย่าทำเป็นเศร้าสิวะ มาร้านทั้งทีก็หนุกหนานหน่อย” เต้แซะไหล่ผมเบาๆ

“ก็พยายามหนุกอยู่ แต่ทำไม่ได้นี่หว่า” ว่าแล้วก็ยกเหล้าดื่ม

“แปลกนะ ทีมึงยังไปมีคนอื่นได้เลย ทำไมพอแมทมันจะมีบ้าง มึงถึงต้องเศร้าขนาดนี้ กูว่า มันก็แฟร์ๆ ดีนี่หว่า” กล้าตั้งคำถาม ผมรู้ว่ามันไม่มีเจตนาแซะผมเลยสักนิด แต่มันก็จี้ใจดำผมอยู่ดี

“กูไม่รู้ กูรู้แต่กูไม่ยอม แมทต้องมีกูแค่คนเดียวสิ” ผมหันไปเถียงกล้า

“ก่อนจะให้เขามีแค่มึง มึงก็ช่วยมีแค่เขาได้ไหมวะ”

“ไม่ได้...” ผมว่าเสียงแผ่ว กล้าตบกะบาลตัวเองแล้วเอนหลังพิงพนักโซฟาด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน

คือ...เรื่องบางเรื่องคนเราก็เปลี่ยนกันยากถึงขั้นเปลี่ยนไม่ได้เลยก็มี และไอนิสัยที่ต้องมีผู้หญิงในชีวิตของผมมันก็เปลี่ยนยาก แต่เดิมผมชอบผู้หญิงอยู่แล้วนี่ ตอนนี้รักแมทแต่ก็ขาดผู้หญิงไม่ค่อยได้ นานๆ ได้กับพวกเธอสักที ผมจะรู้สึกชีวิตเติมเต็มมากๆ ครั้นจะให้ผมเลิกกับแมทแล้วไปคบหญิงเลยผมก็ทำไม่ได้ เพราะผมน่ะรักมัน...

มันฟังดูเชื่อยากนะ การกระทำของผมเหมือนไม่รักแมทเลย จะบ้าหรอ ถ้าไม่รักจะพยายามปกปิดเรื่องคนอื่นทำไม เพราะรู้น่ะสิว่าถ้าแมทรู้ แมทจะเสียใจขนาดไหน ผมไม่อยากให้ในเสียใจไง เลยพยายามอย่างสุดความสามารถแบบนี้ เฮ้อ...ผมรักมันขนาดนี้ มันยังทำกับผมได้คอเลยอะ

“เด็กผู้ชายคนนั้นน่ะ...” ผมพูดขึ้นลอยๆ ไอ้คนในโต๊ะสองคนก็กระเด้งตัวนั่งดีๆ เพื่อฟังในสิ่งที่ผมจะพูด

“มันโคตรน่ารักเลยวะพวกมึง” พอได้ฟัง ทั้งสองก็ถอนหายใจยาวๆ เต้ยื่นเหล้าแก้วมันมาให้ผมซัดก่อนจะชงให้ตัวเองใหม่ ส่วนผมยกแก้วตัวเองตามปิดท้ายไป

รู้ตัวนะว่ากินแบบโคตรจะเยอะ ได้ยินไอ้เต้สั่งหล้ากลมที่สามแล้ว คนที่กินหนักๆ ก็มีแค่ผมกับเต้ ซึ่งปกติผมไม่กินหนักขนาดนี้ แต่ไอ้เต้เนี่ยเป็นปกติของมัน กล้าดื่มไม่บ่อย ชงไม่เข้ม คอมมันอ่อนกว่าเราทั้งสองคนมากอยู่ นั่งกินเหล้าเพียวๆ ไปสักพักกล้าก็เริ่มบ่นอยากได้กับแกล้ม เต้จัดให้กล้าตามใจเจ้าตัว นานๆ กล้าจะยอมออกมาดื่มสักที แต่พอไอกล้ามันได้กับแกล้ม เหล้าก็ชักจะพร่องเร็วขึ้น

นี่เราสามคนมาแข่งกันเมาใช่ไหม...

“สมน้ำหน้ามึงบอม มึงมันแรด ผัวมึงเลยไม่รัก” กล้าจัดเป็นพวกปากหมาอยู่แล้ว พอเหล้าเข้าไปมากๆ หมาในปากมันก็เริ่มออกมาเผ่นผ่าน

“อ่าวๆ ไอ้กล้า มึงอย่ามาด่ากูนะ กูแค่ทำสิ่งที่พระเจ้าต้องการ” ผมเถียงคอเป็นเอ็น คือเหล้าเข้ากระเพาะผมไปไม่น้อยเหมือนกันครับ

“อะไรวะสิ่งที่พระเจ้าต้องการ” กล้าชักสีหน้างง เต้ก็เอาเหล้าจ่อปากงงๆ เหมือนกัน

“ก็การสืบพันธุ์ไงวะ เพศผู้ต้องผสมพันธุ์กับเพศเมียเว้ย!”

“งั้นก็เลิกกับแมทแล้วไปทำภารกิจสืบพันธุ์ของมึงสิวะ” ไอ้กล้ายกเหล้าหมดแก้ว กระแทกลงโต๊ะดังตึง ผมก็ไม่ยอมแพ้ ซัดหมดแก้ว กระแทกโต๊ะให้ดังกว่ามัน

“ไม่!!!”

“ไอ้ห่าน!” พอผมปฏิเสธเรื่องเลิกกับแมท ไอ้กล้าก็ด่าสวนทันควัน

ก็ผมบอกแล้วนี่ว่า ผมไม่อยากเลิกกับแมท ผมรักมันนะเว้ย ผมอยากอยู่กับมันไปเรื่อยๆ ตลอดเวลาที่คบกันมา ถึงจะมีเรื่องผู้หญิงของผมที่ทำให้เรางอนๆ กันบ้าง นอกนั้นเราทั้งคู่ต่างก็ไปกันได้ดี พวกเรามีอะไรมักจะคุยตรงๆ ซึ่งประเด็นส่วนใหญ่คือการปรับนิสัยของเราให้เข้ากันได้เวลาต้องอยู่บ้านร่วมกันมากกว่า นอกนั้นเราเข้ากันได้ดีไม่มีจุดบกพร่องเลย มันจะมีสักกี่คนบนโลกใบนี้ที่ทั้งเราและเขาเข้ากันได้ดีราวกับเคมีเราตรงกัน

ผู้ชายอย่างแมทน่ะ...หาแทบไม่ได้แล้วละครับ

รอยยิ้มอ่อนโยนประดับใบหน้าตลอดเวลา อบอุ่น สุภาพและน่ารักในเวลาเดียวกัน จริงที่เวลาแมทอยู่กับผมจะติดเย็นชา พูดน้อย บางทีถึงขั้นไม่พูดเลยก็มี แต่ผมไม่เคยคิดว่าส่วนนี้ของมันจะเสียหายตรงไหน เรียกได้ว่าคือตัวตนที่แท้จริงของมัน และเปิดเผยต่อผมเท่านั้น นั่นคือความรู้สึกที่ว่าเราพิเศษกว่าใครๆ ผมเลยชอบและไม่อยากให้ใครได้รับรู้ถึงมุมเงียบๆ ของมันเลย แค่คิดว่าคนอื่นนอกจากผมจะได้รู้...ก็ปวดใจขึ้นมาแล้ว
“ถึงกูจะเจ้าชู้ แต่กูรักมันคนเดียวนะเว้ย” ผมบอกกับเพื่อนทั้งสองน้ำเสียงเศร้าๆ รู้สึกอยากจะร้องไห้ เป็นไปได้ผมอยากกอดมันแล้วบอกว่ากูไม่ยอมนะ กูไม่ยอมให้มึงมีใคร มึงต้องมีกูคนเดียวเท่านั้น แต่ก็ได้แค่คิด ผมไม่อยากเห็นหน้ามันในตอนนี้ เพราะผมกลัว กลัวว่าน้ำตาจะไหลออกมา...
“อืม กูรู้ๆ กูเข้าใจ” โคตรรักเต้เลยวะ เพื่อนที่เข้าใจ ไอ้กล้าแม่งแดกแต่เหล้า เมาคอพับไปละ ผมเองก็เวียนหัวชนิดไม่ไหวจะเคลีย เอนหลังพิงพนัก ปิดตาตัวเองลงแล้วนึกถึงวันเก่าๆ ของผมกับแมท แต่แล้วภาพของดิวกับแมทกลับลอยเข้ามาในหัว...น้ำเสียงนุ่มไพเราะที่เอ่ยเรียก รอยยิ้มสดใสและท่าทางที่น่ารัก แมทยิ้มตอบ ดึงดิวเข้าสู่อ้อมกอดก่อนจะจูบเบาๆ ที่หน้าผาก
‘พี่แมทรักน้องดิวนะครับ...’

แม่ง...ความฝันบัดซบ!

ผมรู้ว่าผมกำลังฝันอยู่ มันเป็นฝันร้ายที่ผมโคตรเกลียดเลย แต่ผมก็ยืนมองภาพของดิวกับแมทก่อนกัน ลูบไล้ใบหน้าซึ่งกันและกันก่อนจะค่อยๆ เคลื่อนริมฝีปากเข้าหาฝ่ายตรงข้ามตนอย่างช้าๆ น้ำตาผมไหลพรากๆ หัวใจปวดร้าวราวกับจะระเบิดออก ผมทรมานเหลือเกิน อยากจะเดินหลบไปจากตรงนี้ ไม่มองภาพที่แสนร้าวรานใจแต่ก็ทำไมได้ รู้ทังรู้ว่ามันเป็นเพียงความฝัน ทว่าสมองกลับสั่งการให้เจ็บปวดเหมือนกับมันได้เกิดขึ้นจริงๆ

ผมบอกแล้ว...ผมไม่ยอม

ผมไม่รู้ว่าเมื่อถึงเวลาจริงๆ จะรั้งแมทเอาไว้ได้ไหม แต่ถ้าถามตัวเองว่าจะยอมปล่อยแมทไปไหมบอกเลยว่า หัวใจผมมันตะโกนดังๆ ประโยคเดียวว่าไม่ยอมเด็ดขาด แต่ความรู้สึก บางครั้งมันก็เจ็บและปล่อย แบบปล่อยให้เขาได้ไป ได้เจอคนที่ใช่และชอบสำหับเขาเถอะ ผมก็ยังสรุปกับตัวเองไม่ได้ เหตึการณ์จริงเกินขึ้นเราจะเอายังไงหรือมีสติมากพอจะตัดสินใจไหมก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ มนุษย์ทุกคนมีมุมมืดที่อยากจะกักขังที่เรารักเอาไว้กับเราคนเดียวทั้งนั้นแหละ ไม่มีใครอยากยกแฟนตัวเองให้ใครหรอก

“บอม...มะมึงร้องไห้ทำไม”

“เรื่องของกู!!” ผมยังไม่ตื่น ยัเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น รู้ว่ามีคนมาเรียก มาใช้มือประกบแก้มทั้งสองข้างของผมเอาไว้พลางถามไถ่น้ำเสียงอ่อนโยน

เสียงแบบนี้...ไอแมท

“ก็อย่างที่เล่าให้ฟังแหละ มันคิดมาเรื่องเด็กที่ชื่อดิว กูไม่เคยเห็นมันคิดมากจนเป็นแบบนี้ ดูเสื้อผ้ามันสิ ไม่เครียดจริงไม่มีทางใส่ออกมาหรอก” ไอ้เต้เล่าเรื่องของผมให้แมทฟัง ผมได้ยิน ผมรับรู้มากพอสมควร แต่ผมไม่ยอมปรือตาขึ้น มันสลึมสลือ ไม่รู้ว่าอันไหนฝัน อันไหนจริง มันสัมผัสได้ทั้งสองเลยนี่นา

“บอมกูขอโทษ กูกับน้องเขาก็เป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้อง”

“ไม่ต้องมากลโกหกกูเลย กูเห็นนะ...กูเห็นพวกมึงจูบกัน!!!” ตาไม่เปิด แต่คิดว่าขี้หน้าด่าแมทถูกแน่ๆ เสียงมันมาทางนี้นี่ ทางตรงข้ามกับที่ไอ้เต้ในนั่ง

“จูบกันด้วยหรอ?” ผมพยักหน้าให้คำพูดไอ้เต้

“ใช่ กูเห็น!”

“ที่ไหน” เต้มันสวนถาม คราวนี้ผมเริ่มปรือตามองมัน สมองประมวลผลไปด้วย

“ไม่รู้ กูหลับตาแล้วมันเห็น” เห็นตาอีกฝ่ายโตแปลกๆ มึงทำหน้าตะลึงคำตอบกูหรอ ผมโมโหเลยผลักหัวมันแรงๆ ไปหนึ่งที

“บอม กลับกันก่อนเถอะ เดี๋ยวแมทอธิบายให้บอมฟังเองนะเรื่องของแมทกับดิว” ผมหันขวับไปทางเสียงแมท

“ไม่ กูไม่กลับ กูไม่ฟังมึง...มึงมันนอกใจกู!!” ผมเริ่มตื่นเต็มตาเมื่อตะคอกแมทเสียงดัง แต่ไม่ต้องห่วงใครจะมาสนใจเรา เสียงเพลงมันดังกว่าเสียงผมอยู่ดีนั่นแหละครับ

“กูไม่ได้นอกใจมึงเลยนะบอม มึงคิดไปเอง”

“เออใช่ กูคิดไปเอง มึงทิ้งกูแล้วรีบไปรับสายมันทันทีนี่คือกูคิดไปเอง ไหนจะไปคุยกันตรงระเบียงไม่ให้กูได้ยินอีก การกระทำของมึงมันไม่น่าคิดเลยนะแมท” ผมเถียงอย่างไม่ยอม ลุกขึ้นชี้หน้ามันอีกด้วย ถึงภาพที่เห็นจะเบลอๆ แต่ผมด่าถูกคนแน่

“กูถึงบอกว่าจะอธิบายให้ฟังไง” แมทใจเย็น เอาคำพูดสุภาพและท่าทีที่อ่อนกว่ามาตะล่อม แต่ผมไม่โง่หรอก!

“ไม่ กูไม่ฟังคำโกหกของมึง!!” ผมหันหลังเตรียมจะเดินออกไปจากโต๊ะ แมทมันลุกขึ้นมาขวาง ผมผลักมัน แต่กลายเป็นตัวเองที่เซล้ม ก่อนที่ร่างไร้การทรงตัวนี้จะถึง วงแขนแข็งแรงของแมทก็ช้อนเอวประครองผมไว้เสียก่อน

ในระยะประชิด ตาสบตา ผมเห็นแววตาเป็นห่วงและวิตกกังวลของแมทได้ชัดเจน แม่ง ใจพาลอ่อนไปหมด เลยต้องรีบละสายตาไปทางอื่น มองเลยออกไปไม่สนมันตรงหน้า พอยืนดีๆ ได้สำเร็จผมก็ผลักแมทอีกรั้ง มันไม่ดึ้อดึง ปล่อยตัวผมแล้วยืนมองผมที่เอนไปมาทั้งที่พยายามตั้งตัวเองให้ตรง

“กลับบ้านเราเถอะบอม”

“ไม่ กูไม่กลับ!!!” ผมตะคอกมันอีก ผมจะไม่อ่อนข้อให้ สิ่งที่แมททำมันทำร้ายจิตใจผม เพราะงั้นอย่าหวังว่าผมจะยอมง่ายๆ

“มันดื้อมากนักก็ตุ๋ยท้องแม่ง พากลับไปคุยกันบนเตียงด้วยภาษากาย จบเรื่อง ง่ายๆ” เสียงอ้อแอ้อของกล้าดังออกมา มันเมาหลับไปแล้วไม่ใช่หรอ หรือมันเพิ่งตื่นจากเมาเหมือนกับผม

แมทหันไปมองร่างคอพับคอ่อนของกล้าแล้วค่อยหันมามองผม ไม่มองธรรมดา แต่ไล่สายตาตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า และจากปลายเท้าขึ้นมาที่หัวอีกรอบหนึ่ง หน้านิ่งๆ ของมันน่าหมั่นไส้ที่สุด ผมหันหน้าไปทางที่จะเดินไป แค่ก้าวเดียว แมทก็ขวางเอาไว้ คราวนี้เขาไม่ล๊อค ไม่จับ แค่ยืนขวาง ผมก็มอง แล้วหันไปทางตรงข้ามเพื่อจะเดินไป แต่ก็อีกแหละ แมทมาขวางอีกอยู่ดี

“หลบไปสิวะ”

“ไม่อ่ะ กูขอโทษนะ...แต่ยังคืนนี้เราต้องเคลียกัน” จบประโยค หมัดลุ่นๆ ของแมทก็พุ่งเข้าลิ้นปี่ผมอย่างจัง!

ท่ามกลางสายตาของเพื่อนที่มองอย่างตกตะลึง กล้าตื่นเต็มตา มองสิ่งที่มันได้แนะนำให้กับแมท ก็รู้หรอกว่าแนะนำไปขำๆ ไม่มีใครคิดว่าแมทจะทำจริง ร่างของผมค่อยๆ ทรุดลง เข่าอ่อน ขาพับขางอไปหมด แมทรีบหิ้วปีกผมไว้ทันที มันมองหน้าทุกคนในโต๊ะ ยิ้มบางๆ กล่าวขอบคุณน้ำเสียงสุภาพแล้วก็จากไป โดยลากผมที่แทบไม่มีแรงเดินออกมาด้วย ที่ที่มันพามาก็คือรถมอเตอร์ไซค์คันเก่งของมันนั่นแหละ จะไปยังไง...ผมถามกับตัวเองก่อนจะดิ้นเพื่อหาทางหนีจากแมท แต่ไม่รอดหรอกครับ ผมเมาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตอนนี้ยังมาจุกเพราะโดนต่อยอีก จบกันเลยละชีวิต...

แมทจับผมนั่งหน้าเกยกับตัวถังรถ ส่วนมันนั่งหลังและก้มมาขับ กูยอมรับในความพยายามของมันเลยครับ ครั้นจะดิ้นหนีอีก ตอนรถมันแล่นอย่างนี้มีหวังได้ไปนอนโรงบาลแทนนอนที่ห้องแน่ๆ ผมต้องหมอบลงไปกับตัวรถ สงบเสงี่ยมไม่รั้นใส่ เอาจริงๆ มันเวียนหัวและจุกครับ เลยหมดฤทธิ์ไปเยอะ นั่งไปนั่งมาก็สลึมสลือ ตาจะปิดอีกรอบ สิ่งรอบด้านกลายเป็นภาพเลือนลางสำหรับผมไปซะแล้วละ

มารู้ตัวอีกทีก็ตอนแมทพยายามจะเอาผมลงจากรถของมัน ทุลักทุเลชิบ ตัวผมเล็กกว่ามันก็จริง แต่ไม่มาก ผมลืมตา ผลักมันแล้วเอาร่างตัวเองพิงกับรถไว้ อาการจุกผมหายแล้ว แต่อาการเมา พรุ่งนี้จะหายเปล่ายังไม่รู้เลยครับ

“เดินเข้าบ้านไปดีๆ บอม”

“ทำไมกูต้องทำตามที่มึงสั่งด้วยฮะ! เห็นกูเป็นไร ขี้ข้าอ๋อ สั่งจัง” ผมใส่อารมณ์กับแมทเต็มที่ แมทถอนหายใจ มันดูเหนื่อยกับการรั้นไม่ฟังของผม

“กูขอละบอม เข้าบ้าน” มันย้ำ ซ้ำยังก้าวเข้ามากดดันผมอีก

“ไม่!! กูไม่เข้า!!” แมทส่ายหัว มันไม่ฟังผมแล้วล่ะแบบนี้ สายตาดุๆ จ้องมองผมก่อนที่มันจะเอามือมาอุดปาก จากนั้นต่อยผมอีกรอบให้จุก แล้วอุ้มขึ้นลิฟต์มา ถึงมันจะหนัก แต่มันพยายามแบกร่างของผมมาจนได้

ถึงห้อง แมทเอาผมมาโยนลงบนเตียงแล้วถึงได้เปิดไฟ ผมรีบกระเด้งตัวนั่ง กลัวมันจะเข้ามาทำตามที่กล้ามันพูด “นอนคุย” เอาเข้าจริงๆ มันได้คุยกันที่ไหนละ มีอืออาเต็มห้องไปหมด เข้าใจอะไรกันบ้างถามจริง มันก็แค่ทำให้เรื่องขุ่นเคืองหายไปเพราะโดนเร้าโลมเท่านั้นแหละ ความซาบซ่านปัดเป่าเรื่องร้ายๆ ให้หายไป แต่! ถ้าเป็นแบบนั้นก็จะใช้วิธีนี้ง้อตลอดอะสิ เรื่องอะไร ผมไม่ยอม เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ มันเป็นเรื่องใหญ่ของคนที่รักกันนะเว้ย

“ดิวอะมันเป็นรุ่นน้องกู”

“กูไม่ฟัง!” ผมแรกทันทีที่แมทเริ่มพูด แทรกเสียงดังมากๆ อีกต่างหาก

“แต่มึงต้องฟังบอม”

“ไม่!!!” คราวนี้ตะโกนลั้นห้อง แมทรีบเข้ามาปิดปากผม แต่ไม่สำเร็จ ผมดิ้นและร้องตะโกนให้สุดๆ ถึงนี่จะเป็นคอนโดอย่างหรู ข้างห้องไม่ได้ยินเสียงเราแน่ๆ เพราะงั้นตัดใจเรื่องใครได้ยินแล้วเข้ามาช่วยไปได้เลย เพียงแต่ว่าแมทมันไม่ชอบเสียงดังแบบนี้เท่านั้นเอง ผมอยากให้มันเครียด อยากให้มันประสาทแดกตายๆ ไปเลย ผมเครียดของผมตั้งขนาดนั้น มันควรจะได้รับความเครียดของผมไปบ้างดิ

“ถ้ามึงไม่หยุดฟัง จะหาว่ากูใจร้ายไม่ได้นะบอม” แมทเดินเข้ามาช้าๆ ท่าทางค่อนข้างคุกคาม แต่ผมที่เมาอยู่มีหรือจะกลัว

“กูไม่หยุด! อยากจะทำไรกูก็ทำเลย แล้วอย่าคิดว่าหลังจากนี้เรื่องมันจะจบลงง่ายๆ กูไม่ปล่อยให้มึงกับมันอยู่กันอย่างมีความสุขหรอกมึงคอยดู”

“มึงนี่บ้าไปใหญ่แล้ว” มันยีหัวตัวเอง อารมณ์เสียหนักสิมึง กูก็อารมณ์เสีย ไม่ใช่มึงคนเดียว

มันมองไปรอบห้องสักพัก มองตาผม เห็นชัดเลยว่าผมไม่มีทางยอมมันเด็ดขาด ไม่ว่าตอนนี้ผมจะเมาหรือไม่เมา เรื่องแบบนี้ผมก็ไม่อ่อนข้อให้มันหรอก เรื่องอะไรจะต้องยอมให้มันทำร้ายจิตใจเราด้วยละ มันแอบไปกุ๊กกิ๊กกับคนอื่นเลยนะ มันหักหลังผมเลยนะเว้ย!

หลังจากมองหน้าผมไปพักใหญ่ มันก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วดิ่งมากดร่างผมลงกับเตียง ผมดิ้นรน ผมเอาตัวรอดสุดๆ ทำทุกวิธีทางที่จะหลุดพ้นเงื้อมมือของไอ้แมท แต่มันก็จับมือผมผูกติดกับหัวเตียงได้ ซ้ำยังเอาผ้ามายัดปากผมอีก ถึงจะลำบาลำบน เจ็บตัวกันไปบ้างแต่มันก็ทำสำเร็จ ผมมองมันด้วสายตาแข็งกร้าว แมทนั่งคร่อมช่วงเอวผมไว้ กันไม่ให้โดนเตะหรือถีบ ท่าทางมันดูเหนื่อย แต่ไม่เท่าผมที่หอบหายใจตาพร่าตามัวไปหมด

“ฟังกูนะบอม...กูกับดิวเป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้องกัน แล้วที่กูต้องหยุดเพื่อไปรับสายมันก็มีสาเหตุ น้องมันอยากจะเซอร์ไพรส์แฟนด้วยแหวน ซึ่งแฟนมันอะก็เพื่อนกู น้องมันกังวลมาก มันกลัว มันตื่นเต้นไปหมด กูเลยบอกว่าถ้ามีอะไรก็โทรมาหาพี่ได้เลย กูแค่ให้กำลังใจน้องเขา น้องเขาขี้อายมากไปหน่อยเท่านั้นเอง อันที่จริงอะ...กูควรมีตัวตนอยู่ในงานเซอร์ไพรส์แฟนของดิวด้วยซ้ำ แต่เพราะกูคิดถึงมึง กูเลยรีบกลับมาหามึง” ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนของแมทยามเล่าให้ผมฟัง ใจผมจึงเย็นลง ยิ่งไม่ได้ดื้อ ดิ้นพล่านๆ ด้วย ทำให้ฟังทุกคำพูดนั้นได้ชัดเจน

เอาจริงๆ นะเว้ย...ลึกๆ ผมก็รู้แหละว่าต้องมีสาเหตุ แต่แบบ...มันอดคิดมากไม่ได้ มันไขว่เขว มันกังวลใจไปหมด เพราะแมททำในสิ่งที่มันไม่เคยทำมาก่อน

“กูรู้นะว่าที่ทำให้มึงคิดมากเพราะกูรับสายน้องเขา แถมยังไปคุยกันที่ระเบียงอีก แต่ในความจริงมันไม่มีอะไรเลย กูรับปากน้องเขาไว้เท่านั้น และที่ไปคุยข้างนอกก็เพราะในห้องมันมีเสียงทีวี” แมทโน้มตัวลงมาหา ใช้ริมฝีปากประทับบนหน้าผากและลากมาที่ปลายจมูกอย่างอ่อนโยน

เห้อะ...วิธีนุ่มนวนแบบนี้ได้ผลกับผมทุกทีสิหน่า!!

“มึงก็รู้...ว่ากูรักมึงคนเดียว ตลอดเวลาที่ผ่านมา กูยังแสดงให้มึงเห็นไม่มากพอหรอ” ผมหลบสายตาเศร้าๆ ของแมท เพราะเรื่องนี้มันพูดถูก มันไม่เคยมีใคร ไม่เคยกุ๊กกิ๊กกับใครเลยตั้งแต่คบกับผมมา เรียกได้ว่ารักเดียวใจเดียวตลอด จะเกเรก็มีแต่ผมนี่แหละ

“กูรัก กูหวงมึงอย่างกับอะไรดี มึงรู้ดีอยู่แก่ใจนะบอม” มือนุ่มแต่แข็งแรงดันปลายคางให้กลับมาเผชิญหน้า สบตากับแมทอีกครั้ง

“อย่าโกรธกูเลย กูขอโทษ...กูรักมึงคนเดียว” ปลายนิ้วเรียวนั้นค่อยๆ เกี่ยวเอาผ้าที่ปิดปากผมออก พร้อมๆ กับที่แมทกำลังเคลื่อนริมฝีปากสีสดเข้ามาใกล้

“ให้อภัยกูนะ กูจะไม่ทำให้มึงคิดมากอีกแล้ว...” ความนุ่มละมุนกับกลิ่นลมหายใจหอมๆ กำลังอบอวลอยู่ตรงปากของผม เปลือตาปิดลงและรับรู้ถึงความอ่อนโยนที่แมทได้มอบให้ หัวใจเต้นระรัว คำพูดของมัน การกระทำของมัน ละลายความโกรธของผมจนไม่เหลือซากเลย

“แต่กูดีใจนะ ที่มึงหึงกู...มึงรักกูมากเหมือนกันใช่ไหม” ดวงตาคมจ้องรอคำตอบด้วยความหวัง ผมพยักหน้า เสหน้าไปทางอื่นเล็กน้อย
“อืม”
“กูดีใจที่สุดเลย” ไอ้สึสแมท มึงแม่งชอบทำตัวเป็นแมทน่ารักๆ ใส่กูเวลากูเคืองกูโกรธมึงทุกที...ทำแบบนี้ ใจกูก็อ่อนหมดสิ ใครมันจะไปใจร้ายใส่มึงได้ลงคอ
เฮ้อ...ไอ้ที่โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงไปทั้งหมดเนี่ย เพื่ออะไรวะ?!!


**********************

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 3 [21/12/59]
«ตอบ #31 เมื่อ21-12-2016 20:07:13 »

โดยส่วนตัวไม่ค่อยถูกชะตากับนายเอกนิสัยแบบนี้เท่าไหร่
ดังนั้นถ้าเรื่องราวคลี่คลายไปในทางที่ดีกว่านี้เมื่อไหร่จะเข้ามาอ่านนะคะ

ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 3 [21/12/59]
«ตอบ #32 เมื่อ21-12-2016 20:18:16 »

เจองี้แล้วก็ปรับปรุงตัวซะนะนังบอมมม

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 3 [21/12/59]
«ตอบ #33 เมื่อ21-12-2016 20:23:49 »

อยากให้บอมเลิกทำแบบนี้  :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 3 [21/12/59]
«ตอบ #34 เมื่อ21-12-2016 23:01:35 »

คือ ชอบบอมนะ  :laugh: เป็นไรไม่รู้ แต่สะใจดี ตอนแมทโดนบอมโกรธ :pigha2: :laugh: :laugh: :jul3:

ออฟไลน์ gaslong

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 3 [21/12/59]
«ตอบ #35 เมื่อ22-12-2016 00:00:22 »

ดูแววแล้วบอมมีข้ออ้างแก้ต่างให้ตัวเองเยอะ  คงต้องให้แมททิ้งนู้นนางถึงสำนึก รอวันแมททิ้งบอม  :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 3 [21/12/59]
«ตอบ #36 เมื่อ22-12-2016 00:05:05 »

ยังคาใจเรื่องจูบ ที่บอมว่าอะ บอมต้องเห็นจะจะสิ
บรรยายฉากได้ดีมากอะ
  รออ่านตอนต่อไปคับ   

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
<<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 4 [23/12/59]
«ตอบ #37 เมื่อ23-12-2016 17:39:05 »

เธอมีชู้

บทที่ 4

คืนดีกับแมทได้ก็สบายใจครับ กลับมาเป็นบอมคนเดิม ดูแลตัวเองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ทาครีมกลิ่นหอมฉุยทั้งตัว หน้านี่ใสกิ๊ง แต่คอเนี่ยสิ ต้องเอารองพื้นกลบนิดหน่อย เพราะแมทดันทำรอยทิ้งเอาไว้เมื่อคืน อารมณ์มันพาไปครับผมเข้าใจ แต่ช่วยทำที่ที่มันลับตาคนนิดหนึ่ง แบบนี้ผมต้องระวังไมให้คนอื่นรู้

“ถามจริง มึงทำได้ไงให้หน้าใสขนาดนี้ ทั้งที่เมื่อคือมึงเมาเป็นหมา” กล้าใช้ดวงตาอิดโรยมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า

“ก็ต้องดูแลตัวเองสิวะ กูบอกแล้วให้มึงตาครีมบ้าง กินวิตามินอีกหน่อย หน้าอย่างมึงทำให้ดูดีได้ไม่ยากหรอกเชื่อกู” ผมนั่งลงกับที่ ยิ้มหวานใส่มันสองตัว

“กูไม่มานะเท่ามึงหรอก ดูแลตัวเองยิ่งกว่าผู้หญิงบางคนอีก”

“ไม่ได้เว้ย กูต้องใช้หน้าตาในการเข้าหาสาวๆ” เชิดหน้าใส่พร้อมรอยยิ้มการค้า

“กูไม่รู้จะพูดยังไงกับมึงเลยบอม มึงจะเจ้าชู้ไปถึงไหนวะ มึงก็น่าจะเข้าใจความรู้สึกของคนที่โดนนอกใจนี่หว่า” หมดอารมณ์เก๊กหล่อเลย

ก็เข้าใจอะแหละ เรื่องเมื่อวานเป็นตัวชี้วัดได้เป็นอย่างดี ผมทั้งเครียด ทั้งเสียใจขนาดไหนที่แมทดูมีแววจะไปมีคนอื่น มันจะเป็นเหมือนผมหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ เวลามันได้กลิ่นน้ำหอมจากตัวผม หรือว่าดูเหมือนผมจะแอบไปมีคนอื่น ชั่วแว้บหนึ่งผมก็คิดนะว่าแมททนมาได้ยังไง กับความรู้สึกที่ไม่มั่นคงเอาเสียเลย มันต้องคอยระแวงผมตลอดเวลา คอยจับผิดเพราะกลัวผมนอกใจ ผมว่ามันเหนื่อยนะ ถ้าเป็นผม ผมคงเลิกไปแล้ว...

เห่อๆ ขนาดตัวเองยังอยากจะเลิกกับตัวเองเลย

แต่ว่าการนอกกายกับการนอกใจผมว่ามันคนละส่วนนะ ผมแค่หาความตื่นเต้นเท่านั้นเอง ไม่ได้จริงจังอะไร คบแป๊บๆ แล้วก็จาก มันก็แค่นั้นนี่นา ผมเชื่อมั่นในตัวเองว่าจะมีแค่แมทคนเดียวแน่นอน ของเล่นเราไม่นับความสำคัญอยู่แล้ว

“แล้วสรุปแมทมันนอกใจมึงหรือเปล่า” เต้ถามเสียงอ่อนแรง มันดูเมาค้างเหมือนทุกวัน คงสภาพนี้มาได้ยังไงตลอด แทบไม่เห็นมันพักจากการดื่มเลยด้วยซ้ำนะ

“เปล่า รุ่นน้องอะ เห็นว่าที่ต้องรับสายทั้งที่กำลังทำกับกูเพราะว่ารับปากน้องเขาไว้”

“ของแมทมันก็เห็นกันชัดๆ อยู่แล้วว่ามีเหตุผลที่ดี ไม่เหมือนมึงหรอก มองยังไงมึงก็มีชู้ มันยังไม่ทำตัวแบบมึงเลย เฮ้อ...กูสงสารแมทที่มีมึงเป็นแฟน” ผมเอาสมุดตบหัวกล้า

“กูเพื่อนมึงนะ พูดจาเข้าข้างกูบ้าง อย่างกูเขาไม่เรียกมีชู้ แค่กกิ๊กกั้กขำๆ”

“ส่ำส่อน!” มันว่าใส่หน้าผมเสียงหนักแน่น ถ้าเป็นคนอื่นว่าผมคงจะเคือง แต่พอเป็นไอ้กล้าเพื่อนสนิท ผมกลับยิ้มรับหน้าบาน

“กูไม่ได้ส่ำส่อน แค่ทั่วถึง” กล้าเบะปากใส่ ทำหน้าเอือมระอาผมสุดๆ ก็รู้ๆ กันอยู่ว่าผมเป็นไง พูดไปใช่ว่าผมจะยอมเปลี่ยนนิสัยนี้เสียหน่อย

ผมไม่ได้คิดว่าสิ่งที่ตัวเองเป็นนั้นคือนิสัยเสียที่ต้องแก้ มันเป็นเรื่องธรรมดา ใครๆ ก็ทำกันทั้งนั้น ไม่คิดว่ามันเท่หรือไงที่เรามีเสน่ห์มากขนาดที่ว่าทั้งหญิงทั้งชายต่างมาหลงรักน่ะ ไม่ได้เป็นแบบผมกันได้ง่ายๆ นะ แถมเวลาสลับรางได้เนี่ยมันภูมิใจสุดๆ คนพวกนั้นแค่ไม่กล้าที่จะทำแบบผม ไม่ก็ยึดติดจนเกินไป มองความรักไปตามแบบแผนงั้นงี้นี่นั่น น่าเบื่อออก ชีวิตคนเรามีอยู่แค่นี้ รีบใช้ให้มันคุ้มไม่ดีกว่าหรือไง อะไรที่มีความสุข ทำได้ก็ทำไป มันก็แค่นั้นเองนี่นา

อีกอย่าง ก่อนจะมาเป็นของแมทผมก็เป็นของผมแบบนี้ ถ้าจะมาหาว่าผมผิด ช่วยคิดถึงก่อนที่เราจะคบสักนิดว่าผมเป็นแบบไหน ผมไม่ได้มีนโยบายในการเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใครนะ เพราะผมพอใจในความเป็นตัวเอง แค่สิ่งที่ผมทำมันประกาศออกมาโต้งๆ ไม่ได้ เขาและเธอที่ผมคบจะไม่พอใจเอา ทั้งที่ถ้าเปิดใจให้กว้างสักหน่อย มันก็เป็นความสุขอย่างหนึ่งของชีวิตคนเราเท่านั้นเอง

“เอาเถอะ มึงจะทำตัวยังไงก็เรื่องของมึง พวกกูเป็นแค่เพื่อน ทำได้แค่ตักเตือน เพราะถ้ามีเรื่องอะไรขึ้นมาจริงๆ พวกกูคงช่วยไรมึงไม่ได้ แต่กูอยากบอกไว้อย่างนะบอม การนอกใจหรือกายอย่างที่มึงทำอยู่น่ะ มันถือว่าเป็นบาป และบาปกรรมมันจะเข้าตัวคนกระทำเสมอ” ผมและกล้ามองหน้าเต้แบบโคตรอึ้ง ตกตะลึงกับคำเทศนาที่ออกจากปากมันแบบตาดไม่ถึง

“ไม่ต้องอึ้งขนาดนั้น” เต้ว่า สีหน้าแหยๆ

“กูนึกว่าพระมาเอง” ผมแซว

“ไม่เข้ากับขี้เมาอย่างมึงเลยเหอะ” กล้าไม่พูดเปล่า ผลักหัวไอ้เต้ด้วย

“กูแค่ขี้เมา กูชอบดื่ม ผิดตรงไหน รู้ว่าผิดศิล แต่ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนปะวะ อีกอย่างก็ไม่อยากพูดหรอก กูแค่อยากเตือนเท่านั้นแหละ ห้าว~” พูดจบก็หาวแล้วฝุบโต๊ะไป ผมกับกล้ามองหน้ากัน แอบขำในความผีเข้าผีออกของเพื่อนสนิทติดเหล้าคนนี้

ผมส่ายหัวเบาๆ ให้กับเพื่อนของตัวเอง มันคงยังไม่สร่างเมาเลยละเมอเพ้อพกไปเรื่อยตามประสาแอลกอฮอล์ริซึ่ม แอบคิดติดตลกในใจเหมือนกันว่าให้มันน่ะเลิกเมาให้ได้ก่อนค่อยมาสอนกูดีกว่า คนที่เหมาะกับคำพูดแนวๆ นี้น่นจะเป็นไอกล้า เพราะมันคนเดียวเท่านั้นที่ใสไร้เดียงสาที่สุด วันๆ เล่นแต่เกม อะไรๆ ก็เกม ดูเป็นเด็กน้อยที่ไม่รู้จักโต ก็เคยว่ามันนะ แต่มันบอกว่าเกมคือรายได้ของกู ผมก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่ ปล่อยมันไปเหอะ คนเล่นเกมอะ มันอ้างได้ทุกอย่างเหมือนคนจะกินเหล้านั่นแหละ

แต่เอ๊ะ...คนอย่างผมก็เหมือนกันนี่หว่า

หาข้ออ้างสารพัดเพื่อจะมีหญิงคนอื่น ทั้งที่ความจริงผมก็อาจจะเป็นแค่คนไม่รู้จักพอในสิ่งที่ตัวเองมีก็ได้ แต่ไม่! ผมจะไมว่าตัวเองแบบนั้น ความเชื่อมั่นทำให้คนเรามั่นคงทางอารณ์ ผมต้องเชื่อมั่นในตัวเอง ผมไม่ได้หาข้ออ้างเลย มันคือเรื่องจริงในความรู้สึกของผมต่างหาก คนอื่น ก็แค่ไมเข้าใจในสิ่งที่ผมเป็น

นั่งคิดอะไรเพลินๆ ไปพักเดียว อาจารย์ก็เข้าสอน ผมตั้งหน้าตั้งตาเรียนและพิมพ์ข้อความแชตกับพี่พูใต้โต๊ะ ต้องห้ามสมาธิขาด ไม่งั้นจะดูรู้ทันทีว่าผมแอบเล่นมือถือในห้องเรียน ผมไม่อยากโดนด่านา...เพราะงั้นทำเนียนเข้าไว้ ขนาดแมทมันยังเชื่อเลย อาจารย์ที่ไม่ได้ใกล้ชิดผมก็ต้องเชื่อเป็นธรรมดา
“เอาละค่ะ สำหรับวันนี้พอแค่นี้แล้วกันนะคะ แล้วอย่าลืมส่งงานอาจารย์ตามกำหนดด้วย” เหมือนได้ยินเสียงสวรรค์ ผมพิมพ์บอกพี่พู่ว่าต้องไปกินข้าวกับเพื่อน และสลับแชตไปชวนบัวมากินมื้อเที่ยงด้วยกันแทน ยังไงพี่พู่ก็ไม่ค่อยมากินที่โรงอาหารอยู่แล้ว สบายใจได้
ขอโทษนะพี่พู่...วันนี้ของพี่เอาไว้สักวัน~

“แหนะ ชวนกิ๊กไปกินข้าวอีกละ กูละอยากให้แมทจับได้จริงๆ” เสียงกล้าดังมาจากทางด้านข้าง นึกว่ามันลุกไปก่อนแล้วเสียอีก

“ไอ้เพื่อนเวร เพื่อนกันต้องเข้าใจกันสิวะ”

“กูก็อยากเข้าใจคนส่ำส่อนอย่างมึงเหมือนกันอะ แต่ทำไงก็ไม่เข้าใจ” กล้าทำหน้าเครียด

“นั่สิ คิดอะไรอยู่ถึงทำแบบนี้ ไม่คิดถึงแมทบ้างหรอวะ” เต้เงยหน้าจากโต๊ะถาม มันหาวแบบสุดปากแล้วนั่งหลับตาเหมือนตั้งตัว

“ก็คิดถึง...”

“คิดถึงว่าจะทำยังไงให้แมทไม่รู้ดีน้า” กล้าตอบเสียงลั้นลา ผมยิ้มแป้นแล้วยกนิ้วโป้งให้มัน

“ถูกต้องเพื่อน รู้ใจกูจริงๆ” พอมันเห็นผมยิ้มรับหน้าบานมันก็เมะปากคว่ำ

“หัดสำนึกบ้างว่ากูด่ามึงอยู่” อ่าว...ใครจะไปรู้ นึกว่าเข้าใจผมเสียทีว่าทำไมผมถึงทำแบบนี้

“แต่ก็นะ คนอย่างมึงคงสำนึกอะไรไม่ได้” ไอ้กล้านี่แดกดันผมจริง

“เมื่อไหร่จะเลิกกัดกูสักทีวะ เพื่อนกันปะหนิ” ผมว่าหน้าเครียด เมื่อกี้คิดว่าขำๆ แต่พออะไรมากไป มันก็ชักคิดจริง

“ก็เมื่อไหร่มึงจะเลิกทำตัวแบบนี้ละวะ ถ้ามึงเลิกทำตัวแบบนี้เมื่อไหร่ ก็เมื่อนั้นแหละที่กูจะเลิกกัดมึง แต่กูคิดว่ายากนะ ขนาดแฟนมึงเหมือนจะมีคนอื่นจนึงเครียดแมบตาย มึงยังไม่สำนึกเลยว่าแมทน่ะแค่ แต่มึงอะมีเลย” กล้าเน้นประโยคท้ายใส่หน้าผมเต็มๆ ผมกะจะตบปากมันละ แต่เต้ดึงมันออกไปก่อน

เต้หาวอีกรอบ มันไม่พูดอะไรแค่ใช้สายตาปรือๆ มองเราสองคนที่กัดกันอย่างกับหมา จากนั้นมันก็หยิบกระเป๋ามาสะพายแบ้วเดินนำออกไป ผมกับกล้าจึงต้องรีบเดินตามมัน และทิ้งเรื่องการกัดจิกเมื่อครู่นี้เอาไว้ เต้มันควรำคาญ มันไม่ใช่คนพูดเยอะ ไม่ใช่คนช่างจิกช่างกัดเหมือนกับกล้า แต่ก็ใช่ว่ามันไม่กวนตีนหรอกนะ เต้ก็ผู้บายปากหมาคนหนึ่งเหมือกันแหละครับ เพียงแต่ในแต่ละวันของมันจะมีความง่วง ความแฮ็งค์อยู่ตลอด มันเลยไม่ได้พูดมาก หาแต่เวลางีบเท่านั้นเสียมากกว่า

ระหว่างเดิน กล้าเข้าไปกอดคอเต้ พูดกันสองคน ผมอยากแจมแต่ขอโทรหาบัวก่อน บัวนี่ก็รุ่นเดียวกัน อยู่มอเดียวกัน แต่ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าบัวน่ะเรียนคณะอะไร ปกติคนประเภทผมจะจดจำรายละเอียดของบรรดากิ๊กได้แม่นยำ แต่ว่าเรื่องนี้ผมจำได้ไม่จริงๆ หรือไม่ได้ถามก็ไม่รู้นะ

“พวกมึง กูไปหาบัวนะ” ผมรีบเดินไปสะกิดเมื่อนัดกับบัวได้แล้ว

“บัวไหนวะ” เต้หน้างง

“เออนั่นดิ ปกติต้องพี่พู่ไม่ใช่หรอมึง” กล้าถาม

“คนใหม่อ่ะ คุยกันในเฟซมาสักระยะแล้ว รูปในนั้นก็ดูดีอยู่ แต่ตัวจริงแม่งดูดีกว่า เมื่อวานกูบังเอิญเจอ” เล่าให้พวกมันฟังอยากภาคภูมิใจ กล้าเบะปากใส่อีกเช่นเคย ส่วนแต่แค่ทำตาโตแป๊บหนึ่ง

“เออ แค่คนเดียวกูก็สงสารแมทจะแย่ นี่เล่นสอง กูไม่รู้จะสงสารแมทหรือพี่พู่ของมึงดีเลย...” กล้าเอาหน้าผากวางลงบนไหล่ของเต้ด้วยท่าทางเหนื่อยใจ

“ระวังก็แล้วกัน” เต้มันบอกแค่นั้นแล้วก็กอดเอวกล้าเดินจากไป

พวกมึงจะกอดเอวกันทำไม?

กล้ากับเต้ไม่ได้เป็นอะไรนะครับ พวกมันแมนๆ ทั้งคู่ แมนมากขนาดที่ว่าถึงผมจะเป็นเกย์แต่พวกมันก็ยังกล้าคบ ก็คือตอนแรกที่ผมรู้จักพวกมัน พวกมันยังไม่รู้ว่าผมมีแฟนเป็นผู้ชายครับ ผมควงหญิง จีบหญิง แซวหญิงเป็นปกติเหมือนผู้ชายทั่วไป จนมารู้ทีหลังว่าแท้ที่จริงผมมีแมทเป็นแฟน พวกมันอึ้งเหมือนกัน แต่ไม่ซีเรียต จะเครียดก็แค่ความเจ้าชูประตูดินของผมนี่แหละ ก็นะ...ต้องเข้าใจคนหล่อกันหน่อย หน้าตาดีทั้งทีมันก็ต้องใช้ให้คุ้ม จะอยู่เฉยๆ สงบเสงี่ยมเป็นแฟนที่ดีมันนะไปเร้าใจอะไรละ

ผมนัดบัวเอาไว้ที่หน้าตึกคณะผม ก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดที่ให้ผู้หญิงมาหานะครับ แต่บัวเป็นคนบอกเองว่าจะมาหาปมที่นี่ ไม่ต้องไปรับเธอ อาคารเรียนของเธอค่อนข้างไกลและเธอเองก็ไม่มีเรียนบ่าย ไม่เหมือนผมที่บ่ายนี้ยังต้องเข้าเรียนอีกสองวิชาถึงจะเลิก

ผมเดินผิวปากอย่างอารมณ์ดี ในมือกดตัวอักษรตอบแชตพี่พู่ที่ทักมาถามว่าพักเที่ยงหรือยัง ไปกินข้าวที่ไหน ผมได้จังหวะเลยบอกว่าคิดถึง อยู่ไหนถ่ายรูปให้ดูหน่อย พี่พู่ก็ทำตามครับ ด้านหลังพี่เขาคือโรงหนัง พี่พู่ไปดูหนังกับเพื่อนๆ เพราะเห็นว่าผมไม่ว่างไปทานข้าวกับเธอ ผมบ่นเสียดายและบอกให้เธออย่านอกใจผมนะ อ้อนน่ารักใส่อีกฝ่ายนิดหน่อย พี่พู่ก็เขินใหญ่ ผมรู้หรอก ต่อให้ไม่เห็นหน้าก็ตาม

พี่พู่อยู่ไกลจากผมแบบนี้...สบายละครับ

ไม่ต้องกังวลดีว่านั่งกินข้าวในโรงอาหารแล้วจะบังเอิญเจอกัน ดูจากรูปนี่ไปกับเพื่อนทั้งก๊วนเลย ไม่มีใครรู้เห็นไปฟ้องแน่ แต่ถ้ายังมีเพื่อนเขาหลงเหลือจนเอาเรื่องนี้ไปบอก ผมก็จะแถเอา คิดไว้คร่าวๆ ว่าจะบอกว่าหน้าเหมือน ไม่ก็คล้ายๆ หรือก็นั่นแหละเพื่อน มันเป็นสาวประเภทสอง พี่พู่เชื่อผมอยู่แล้ว ก็หลักฐานมันไม่มีให้จับได้นี่นา ยังไงๆ ถ้าเกิดเรื่องนี้แดงแล้วทางพี่เขาไม่มีหลักฐานแน่หนาพอ ผมก็จะเถียงสู้ขาดใจเลย ผมว่าผมชนะใจพี่พู่ได้แน่ ยังไงก็เอาตัวรอดได้ชัวร์ๆ ละ

“บอม...” เสียงเรียกหวานๆ ของบัวทำให้ผมกดบอกพี่พู่ไปว่าผมไปก่อนนะ เพื่อนบ่นผมใหญ่ละว่าผมน่ะติดแฟน พี่เขาสติ้กเกอร์หัวเราะมาให้แล้วอวยพรให้มื้อเที่ยงอร่อยๆ

อร่อยแน่นอนครับพี่พู่...
“ดีจ้ะบัว รอบอมนานไหม ขอโทษทีมาบ้านะ อาจารย์สั่งงานเยอะมากๆ เลยละ” ผมยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร พร้อมเหตุผลการมาช้าที่ผมใช้โคตรบ่อย

“ไม่นานหรอก อย่าคิดมาก บัวเพิ่งจะมาถึงได้สักพักนี่เอง” เธอยิ้มโลกละลายให้กับผม แต่ถ้ามองต่ำลงไปอีกหน่อย หัวใจผมจะละลายแทน ผู้หญิงอะไรร่างกายไม่สมดุลเลย ตัวเล็กนิดเดียว แต่หน้าอกหน้าใจ...โคตรใหญ่!

“งั้นไปหาอะไรกินกัน บัวอยากกินอะไรเอ่ย” ยื่นหน้าไปถามใกล้ๆ เธอผงะนิดหน่อย หน้าก็บมพูระเรื่อขึ้น โอ้ย วัยใสไปไหนนะคนนี้

“ฮั่แน่ คิดนานแบบนี้แสดงว่ากินบอมแน่ๆ เลย” ผมรีบพูดต่อ บัวหน้าแดงก่ำยิ่งกว่าเดิม มือน้อยๆ ตีอกผมเบาๆ

“บ้าน่ะบอม พูดอะไรก็ไม่รู้”

“ไม่รู้แล้วหน้าแดงได้ไงอะ ไม่ต้องมาเนียนเลย คิดลึกก็บอกมา” แหน่เข้าให้อีก ดูซิ หน้าจะแดงไปได้ถึงไหนกัน

“บ้า” บัวพูดไม่ออก เธอหันไปทางอื่น หูเริ่มแดง นี่เพราะตัวขาวมากใช่ไหมนะ ถึงเห็นสีชัดขนาดนี้

“โอ๋ๆ บอมไม่แกล้งละจ้ะ ไปหาอะไรกินกัน” ถือวิสสะเข้าไปดึงมือเธอมาจูง มือเธอเย็นมาก คงเขินผมมากแน่ๆ

โอ้ย...ใสๆ แบบนี้ก็ฟินดีเหมือนกันนะครับ

อารมณ์เหมือนป๊อปปี้เลิฟสมัยประถมเลยอ่ะ อะไรๆ ก็เขินกันไปหมด ถึงผมจะไม่เขินเธอแบบที่เธอเขินก็เถอะ แต่แค่ได้เห็นปฏิกิริยาเหล่านั้นแล้วก็กระชุ่มกระบวยหัวใจดีจริงเชียว นี่ผมเผลอคิดไปยันเรื่องใต้สะดือเลยนะ ถ้าทำกันอะ บัวไม่ตัวแตกตายเลยหรอ น่าสนเนอะว่าไหม ที่แน่ๆ อะนะ ผมอะน้ำแตกแน่~

คิดอะไรทะลึ่งเชียวเรา!

ก็ดูหน้าอกหน้าใจนั่นสิ ไม่ให้คิดอะไรคงไม่ได้อะนะ เชื่อว่าผู้ขายมากมายที่มองบัวก็คิดเหมือนผมหมดแหละ อยากฟันเธอจัง อะไรแบบนี้ ก็เล่นหุ่นเอ็กส์ซะขนาดนั้นนี่ครับ ไม่รู้ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะหลอกล่อให้เธอพลีกายให้ผมได้ ดูเหนียมๆ ใสๆ แบบนี้เหมือนจะง่ายแต่ไม่แน่ ผู้หญิงบางคนหวงตัวจะตาย ขณะเดียวกันบางคนก็ง่ายจะตายเข่นกันอะ

ผมและบัวเดินมาถึงโรงอาหารด้วยเวลาไม่มากนัก ผมให้บัวจองโต๊ะ ส่วนตัวเองก็ไปหาซื้อข้าวเที่ยงและน้ำ เนื่องจากเวลาที่ผมมามันเที่ยงกว่าเกือบครึ่งแล้ว คนเลยไม่เยอะเหมือนวันนั้นที่ผมลงมาพร้อมเพื่อนๆ ส่วนร้านน้ำต่อคิวนานเลยละครับ คนยังเยอะอยู่เพราะถยอยมาซื้อกันเรื่อยๆ ระหว่างเดินไปซื้อก็เจอไอ้เต้กับกล้า มันกินกัเสร็จละ นั่งคุยกัน ผมขยิบตาให้พวกมันเล็กน้อยก่อนเดินกลับโต๊ะไม่พูดคุย

“รอนานป่ะ คนเยอะมากเลยอ่ะ” ผมวางชานมกับกาแฟลงบนโต๊ะ บัวยังไม่กินข้าวที่ผมซื้อมาให้ คงรอกินพร้อมกัน

“ไม่นานหรอก บัวเข้าใจ เวลนี้นักศึกษาเยอะ แต่บอมสิ เหงื่อออกเต็มเลย เช็ดหน้าก่อนไหม” บัวยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้ ผมยิ้มรับ

“บังเช็ดให้บอมหน่อยสิ” ขยับใบหน้าเข้าไปให้ใกล้มือสวย บัวดูเขินมากแต่ก็เช็ดให้ผมดีๆ

“ขอบคุณครับ” เรียบร้อยผมก็นั่งกินข้าวหน้าบาน

มีความสุขจริงจริ๊งได้นั่งกินข้าวกับสาวสวยแบบนี้ พี่พู่กันก็สวยนะ แต่คนละแบบ คนนั้นสวยแบบผู้ใหญ่ มีความเซ็กส์ซี่ชวนให้คึกคัก แต่บัวเขาน่ารักกระชุ่มกระชวยหัวใจ มองเธอทำอะไรก็ดูเพลินไปหมด ไม่เหมือนพี่พู่ที่เห็นแล้วอยากลงเตียงด้วยกันมากกว่า แต่ถ้าเลื่อนสายตาไปยังหน้าอกหน้าใจของบัว ฉากบนเตียงก็เข้ามาในหัวเหมือนกันนะ

เรานั่งกิน นั่งคุยกันอย่างเพลิดเพลิน ปล่อยมุกแซวเธอไปหลายดอก ได้เห็นใบหน้ายามขวยเขินนั่นแล้วอดใจแทบไม่ไหว นี่อยากจะชวนไปห้องซะจริงๆ ยังไม่ต้องยินยอมก็ได้ เดี๋ยวมอมเหล้าหน่อยก็ย้วยเองละ

ปึ้ง!

ขณะที่เพลิดเพลินกับบรรยากาศฟรุ้งฟริ้วอยู่ แขกไม่ได้รับเชิญก็กระแทกกระเป๋าลงบนโต๊ะของเราสองคน ผมไม่ได้สนใจหรอก เพราะโต๊ะกินข้าวมันยาว คนอื่นจะมามานั่งกินด้วยก็มาแปลก อาหารของผมกับบัวก็หมดแล้ว ดํเหมือนนางเล่นนั่งคุยกันมากกว่า คนมาใหม่คงคิดว่าเดี๋ยวเราก็ไป ซึ่งมันก็จริงแหละครับ แต่เล่นกระแทกของมารุนแรงแบบนี้ก๋ดสียมารยาทไปหน่อย ผมเงยหน้ามองกะจะต่อว่าที่ทำตัวไม่ดีใส่เรา แต่ก็ต้องชะงัก หน้าซีด เหงื่อตก...แม่เจ้า!

“มะ..แมท”

“เออ กูเอง” ตาขวางมากครับ ผมมองแมทสลับกับบัว ซึ่งบัวก็มองแมทสลับกับผม ต่างจากผู้มาเยือน จ้องผมเขม็งเลย

“นั่งก่อนสิมึง” แมทนั่งลงอย่างว่าง่าย

“เอ่อ...ใครหรอบอม” บัวคงเห็นว่าอีกฝ่ายมาอย่างไม่เป็นมิตรเลยถามดู

“นี่แมท รูมเมจบอมเอง ส่วนนี้บัวเพื่อนกู” ผมแนะนำบัวเสียหวาดๆ ไม่กลัวบัวรู้หรอกว่าผมกับแมทเป็นอะไรกัน แต่กลัวแมทสงสัยมากกว่า

“ดี แล้วเต้กับกล้าละ” แมทถามหาซี้ทั้งสองของผม

“ไม่รู้อะ คลาดกับมันตอนออกมาจากคลาส วันนี้ไม่ได้นั่งด้วยกัน” ดูแปลกๆ ไปหน่อย แต่เห็นแมทพยักหน้ารับผมก็เบาใจ

สีหน้าแมทดูดีขึ้น มันดูไม่ติดใจอะไรมาก เช่นเดียวกับบัว ถึงดูว่าแมทอารมณ์ไม่จอย แต่เธอก็ไม่สงสัยอะไร ต่างคนต่างนั่งเล่นคล้ายดูเชิง ผมสิต้องเป็นคนดูเชิงคนทั้งคู่ เกิดพูดอะไรส่อออกมาหน่อยเดียวรับรองไม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องสงสัยแน่นอน
“เข้าคลาสกี่โมง” แมทถามผมเสียงเรียบ มันมองบัว สำรวจก่อนจะเริ่มยิ้มตามแบบฉบับของเจ้าตัว ด้วยความที่แมทเป็นคนยิ้มมีเสน่ห์ มันจึงเป็นมิตรทันทีที่คลี่ยิ้มหวานออกมา ถึงผมจะชินกับรอยยิ้มของมัน แต่ต้องบอกว่ามัยิ้มได้ละมุนละไมมากๆ
“บ่ายสองอะมึง” ผมบอก
“งั้นกูไปซื้อข้าวแป๊บ” เข้าใจความหมายได้ในทันที แมทจะให้ผมนั่งเป็นเพื่อนมัน แต่ผมอยากจะไปเดินเล่นต่อกับบัวอะสิ เธอเลิกเรียนแล้ว เสร็จจากมื้อเที่ยงคงกลับบ้าน อดทำแต้มต่อเลย เซ็งเบาๆ


มีต่ออีกนิดจ้า :katai5:

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
<<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 4 [23/12/59]
«ตอบ #38 เมื่อ23-12-2016 17:43:28 »

 :katai5:ต่อค่ะ

ผมกับบัวมองแมทเดินจากไป กระเป๋าเรียนมันวางอยู่บนโต๊ะ จะชิ่งก็คงไม่ได้ เออ...เป็นแฟนมันไปชิ่งมัน มีหวังโดนสงสัยกันพอดี ผมแอบถอนหายใจหน่อยๆ เสียดายเวลาที่ได้อยู่กับบัว มันบ่างน้อยนิดจริงๆ เราเพิ่งจะนั่งเล่นด้วยกันแค่ชั่วโมงเดียวเอง กะว่าจะให้เธอไปส่งเข้าคลาสสักหน่อย แบบนี้คงต้องแยกกันเพื่อไม่ให้แมทสงสัย เพราะผมไม่รู้จริงๆ ว่าแมทจะไปตอนไหน อาจรอส่งผมเลยก็ได้

“เพื่อนบอมตอนแรกดูน่ากลัวจัง” ตอนแรกน่ากลัว แสดงว่าตอนนี้มันน่าหม่ำละสิ

ไม่ต้องห่วงผมหึงแมทกับหญิงสาวคนไหน แมทมันเกย์แท้ๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ถึงจะเคยเป็นผู้ชายธรรมดาคบหญิงมาก่อน แต่ช่วงที่มันคบผม มันยอมรับกับผมตรงๆ ว่าตอนนี้มันไม่ชอบผู้หญิงแล้ว ถึงสวยสดแค่ไหน มองไปก็ไม่มีอารมณ์อยู่ดี ไม่เหมือนผู้ชาย เห็นแล้วคึก โดยเฉพาะผู้ชายน่ารัก ตัวเล็ก ก็แปลกดีครับ สเปกมันก็ยังดูเป็นผู้ชายใจหญิง แต่ถ้าออกสาวเมื่อไหร่โดนเขี่ยทิ้งแน่นอน มันไม่ชอบ บอกถ้าจะเอาผู้ชายที่แสดงกิริยาเหมือนผู้หญิง มันเอาผู้หญิงไปเลยง่ายกว่า

รสนิยมของแมทก็ใช่ว่าเป็นรสนิยมตายตัวของเกย์นะครับ บางประเภทเขาก็ไม่แคร์ว่าชายที่คบจะออกสาวไหม ซึ่งบางคู่นี่ออกสาวทั้งคู่ยังมีเลย มันเป็นเรื่องบนเตียงของคนสองค ตกลงกันได้ ยอมรับกันได้มันก็โอเค ยิ่งอย่างเราๆ ยิ่งต้องคุยกัน ไม่เหมือนชายหญิงที่ดูชัดเจนถึงสถานะบนเตียง และถึงผมจะชอบให้แมทกอด และตัวเองชอบกอดผู้หญิงคนอื่นก็ใช่ว่าจะอยากกอดผู้ชายคนอื่นนะครับ ผมเคยคิด แมทก็ท้าให้ลอง แต่มันไม่ไหวจริงๆ กับผู้ชายผมชอบถูกกอดมากกว่า ให้ไปกอดนี่ขอบาย แต่กับผู้หญิง ยังไงๆ ก็ต้องกอดเธออยู่แล้วครับ เร้าใจดีด้วย

อ้อ ผู้ชายที่จะกอดต้องเป็นแมทเท่านั้นนะครับ คนอื่นน่ะผมนึกภาพไม่ออกเลย แถมยังรู้สึกไม่ชอบด้วย เอ...ผมแปลกไปไหม มีใครเป็นอย่างผมหรือเปล่า คือผมก็ยังชอบผู้หญิง แต่ส่วนตัวก็ชอบที่โดนแมทกอดอะ คิดนะ ถ้าเลิกกับแมทผมจะกลับไปคบหญิง มันเป็นอะไรที่ผมชอบมากกว่า

“มันคงอารมณ์ไม่ดีมาจากเรื่องเรียนละมั้ง ปกติมันยิ้มหวานออก”

“อื้อ ยิ้มหวานจริงๆ แหละ...” บัวยิ้มบางๆ ตกหลุมเสน่ห์ของแมทเข้าละสิ

แมทเดินเข้ามา ในมือถือจานข้าวพูนๆ บนใบหน้าประดับรอยยิ้มเป็นกันเอง ดูเป็นมิตรกับทุกๆ คน มันนั่งลงแล้วเริ่มตักอาหารใส่ปากตัวเอง ท่าทีไม่รีบร้อน คงมีเวลามากอยู่กว่าจะเข้าคลาสต่อไป

“บอมกับบัวทานอะไรเป็นมื้อเที่ยงหรอ” แมทชวนคุย

“ของบัวข้าวผัดกุ้งจ้ะ ส่วนบอมเขากินกะเพรา” บัวตอบแทนผม เธอยยิ้มน่ารักให้กับแมท

ถึงผมจะไม่หึงแมทกับบัว แต่กลัวว่าบัวจะปันใจให้แมท ดูๆ แล้วสองคนนี้เหมาะสมกันสุดๆ บัวดูน่ารักเรียบร้อย แมทก็ดูสุภาพบุรุษเท่บาดใจสาว อย่างนี้ผมต้องรีบทำแต้ม ฟันบัวให้เร็วที่สุด ไม่งั้นอาจเสี่ยงที่บัวจะหันเหความสนใจไปหาแมทได้

“น่าอร่อยเนอะ ตอนนี้ร้านอร่อยๆ ขายกันหมดแล้ว ผมละอดกินเลย” แมทยิ้มอ่อน

“เลิกช้าเองนี่นา” ผมบ่นลอยๆ ไม่จริงจัง สายตาจับจ้องไปที่บัว ดูปฏิกิริยาครับ

“ช้าที่ไหน นี่เร็วแล้ว เลิกคลาสบ่ายโมง เดี๋ยวต้องเข้าเรียนตอนบ่ายสองเหมือนบอมอะแหละ” แมทพูดพร้อมยิ้มหวานๆ ตามนิสัย

“เรียนหนักเหมือนกันนะ ของบัวเลิกแล้วละ สบาย” บัวคุยอวดเสียงสดใส

“น่าอิจฉาจังครับ นี่ผมยังต้องไปทำรายงานเย็นนี้อีก คืนนี้อาจดึกตามเคย” หูเริ่มกระดิกเมื่อได้ยินคำว่ากลับดึก

“เรียนหนักๆ อย่างนี้ต้องดูแลสุขภาพด้วยนะคะ”

“ครับผม” ยิ้มหวานตาหยีเชียว

ผมไม่ได้สนใจเขาคุยกันเท่าไหร่ เพราะคำว่ากลับดึกน่าสนกว่าเยอะ เท่ากับว่าวันนี้ผมเลิกเรียนแล้วมีเวลาปันให้กับพี่พู่กันด้วย โอ้โห มันยอดไปเลยจริงๆ นะ คิดไว้คราวแรกว่าวันนี้คงต้องทิ้งพี่พู่เอาไว้ก่อน เพราะมื้อเที่ยงผมก็ยกให้บัวไปแล้ว ตกเย็นต้องกลับห้องไปหาแมท แต่แผนเปลี่ยนละครับ สบายผมเลยทีนี้

“อมอยิมอะไรคนเดียวอะมึง” แมทถาม ดวงตาใสซื่อของมันสำรวจใบหน้าผม

“เปล่าหนิ กูอมยิ้มหรอ...” แสร้งทำเป็นไม่รู้ ก็จริงๆ ไม่รู้หรอกว่าออกอาการไปมากขนาดคนนอกเห็นเนี่ย

“ใช่อะสิ คิดไรอยู่หรอ”

“ก็เรื่อยเปื่อยอะมึง ไม่มีไรมากหรอก กินข้าวไปเหอะ” แมทเหมือนจะอยากรู้ถึงความคิด อย่าเลย...ถ้ามันรู้ผมตายแน่ๆ เรื่องไรผมจะต้องยอม ผมยังอยากคั่วหญิงอยู่นี่นา

“สายตาเจ้าเล่ห์แบนั้นคิดอะไรอยู่แน่ๆ” บัวหยอก

“บ้า...บอมเปล่า” ผมทำเป็นเขิน แล้วหัวเราะเหมือนเรื่องที่เรากำลังคุยนั้นเป็นเรื่องตลกสิ้นดี

ซึ่งมันก็ได้ผล แมทกับบัวขำตามและเปลี่ยนไปเรื่องอื่นอย่างไว อย่างแมทเรียนอะไรหรอ ทำไมเรียนหนักจังเลย เราเรียนนี่นะ บลาๆ ผมเองก็พูดคุยอย่างร่าเริง ทั้งที่ในมือกำลังพิมพ์แชตหาพี่พู่ บอกกับเธอว่าเย็นนี้ผมไปหาเธอได้ไหม พี่พู่เลิกเรียนก่อนผม ผมเลยจะไปเจอที่บ้านเธอทีเดียว จะได้ไม่ต้องมานั่งรอนานๆ เธอก็ตอบกลับมาด้วยความยินดี

แฟนกัน...ได้อยู่ด้วยกัน สวีตกันก็ต้องแฮปปี้สิครับ ถึงแฟนตัวจริงบองผมจะนั่งหัวเราะต่อกระซิกกับหญิงสาวที่ผมหมายตาอยู่ตรงหน้าก็ตาม แต่ในความรู้สึกของพี่พู่ ผมกับเธอกำลังคบกัน ต่างจากผม ที่ให้เธอเป็นได้แค่กิ๊กเท่านั้น

ทำไงได้...ผมเองก็รักแมทนี่นา

นาฬิกาขยับเลื่อนเวลาเป็นบ่ายโมงสี่สิบห้า เราทั้งสามลุกจากโต๊ะ เดินไปส่งบัวขึ้นรถกลับบ้านก่อนที่ผมจะเดินไปส่งแมทที่ทางไปตึกคณะมัน อยากบอกว่าผมนั้นเนียนขั้นเทพ แมที่ตอนแรกเห็นผมกับบัวนั่งด้วยกันจนเกิดความสงสัย ทว่าในตอนนี้มันหมดความสงสัยแล้ว ทั้งยังมีบอกอีกว่าบัวเป็นเพื่อนที่น่ารักดีนะ พูดจาก็ดี ท่าทางมารยาทดี เรียบร้อย คำชมมันเยอะมาก ผมก็เพิ่มเติมให้ไปว่าใช่ เธอน่ารักสุดๆ แต่แอบเก็บคำว่ายิ่งน่าอกน่าใจนั่นนะ...น่าหม่ำจริงๆ

ก็ลองพูดอย่างใจคิดสิ...ลองดู รับรองเลยว่าจะไม่ได้มาเห็นเดือนเห็นตะวันอีกแน่ๆ ถึงแมทจะไม่เคยโหดร้ายกับผมเลย แต่ผู้ชายอะครับ ไว้ใจไรได้ที่ไหน เกิดอารมณ์ร้ายขึ้นมาไม่ได้ด่าเหมือนผู้หญิง ตบหน้าหนึ่งทีแล้วก็จากไปนะ แต่มันจะรุนแรงกว่านั้น ยิ่งกับแมท เวลาผมเห็นสายตาไม่พอใจของมัน บางครั้งน่ากลัวจริงๆ มันอาจมีมุมมืดที่ผมไม่ควรกล้ำกลายเข้าไปใกล้ก็ได้ จริงอยู่ที่แมทเคยจับเรื่องผมไปฟีตเจอริ่งกับผู้หญิงสมัยมอหก แต่นั่นเป็นความผิดครั้งแรก อะไรทีเป็นครั้งแรกย่อมได้รับการให้อภัยเสมอ แต่นั่นไม่ได้เหมารวมถึงครั้งต่อๆ ไป

ผมเดินลั้นลาไปเติมแป้ง เติมปาก ทาลิปมันให้ปากชุ่มชื่น หน้าใสเนียนจนดูดีขั้นสุด ผ่านไปครึ่งวันหน้าคนเราจะโทรมไปด้วยความมันเยิ้มที่ออกมา ดูไม่ได้เลยละครับ ผมหม่ปลื้มกับตัวเองวลาหน้าตาเป็นอย่างนั้นสักเท่าไหร่ ผมถึงต้องเติมบ้างเพื่อให้ตัวเองดูดีตลอดเวลา หน้าตาเป็นเครื่องทำมาหากินครับ ใครๆ ก็มองหน้าก่อน ถ้าจะสร้างความประทับใจก็ต้องดูดีตลอดเวลา เผื่อไว้ครับ ถ้าเกิดเจอคนถูกใจจะได้ไม่ยากนักในการเข้าหา ดีไม่ดี อีกฝ่ายด้วยซ้ำที่จะเข้าหาเรา...

เอ...ผมไม่ได้ร้ายไปใช่ไหมนะ?

ผมเข้าคลาสก่อนอาจารย์เพียงนาทีเดียว นั่งโต๊ะใกล้กับเพื่อนอีกสองตัว กล้าก้มหน้ากดเกม เต้นอนหนุนแขนตัวเองมองกล้าเล่น ตาปรือๆ นั่นเหมือนกำลังจะหลับไปเสียให้ได้ ผมนั่งลงก่อนจะตบหัวเต้เบาๆ

“อ่าวๆ หาเรื่อง” เต้โวยวายเบาๆ

“อาจารย์เข้าแล้วมึง นั่งดีๆ เดี๋ยวโดนด่าหรอก” ผมว่า กล้าและเต้มองไปที่หน้าห้อง อาจารย์กำลังเดินเข้ามาพอดี กล้าต้องซ่อนมือถือและเต้ก็นั่งตั้งคอตรงๆ แต่หลังมันอะ...งองุ้มอย่างกับจะให้หัวลงไปกองอยู่ที่โต๊ะเลคเชอร์

“เออบอม กูเห็นมึงกับหญิง....” กล้าชะโงกหน้าผ่านตัวเต้ที่นั่งกลางมามองผม

“อ่าหะ”

“แล้วกูก็เห็น....” มึงจะหยุดวรรคทำไม เต้เริ่มมองหน้ากล้า

“....” ผมเงียบรอฟัง

“แมทเดินไปนั่งกับมึงด้วย!” กล้าตาโต ทำเสียงตื่นตะลึง แมทไม่ใช่เอเลี่ยนนะมึง ทำอย่างกับมันเป็นตัวปะหลาด

“มึงจะทำเสียงตื่นเต้นทำไมวะกล้า” เต้ถาม

“นั่นดิ จะตื่นเต้นอะไรนักหนาวะ?”

“เอ้า ก็ต้องตื่นเต้นปะวะ นั่นกิ๊กมึง และนั่นก็แฟนมึง นั่งอยู่ตรงหน้ามึง....” มันชี้ไปทางซ้ายทีเพื่อบอกว่าแมทอยู่ตรงนี้ และขวาทีเพื่อบอกว่าบัวอยู่ตรงนี้ ตบด้วยชี้ผม แอคริ้งเวอร์ไปเพื่อน

“ก็ใช่อะ ทำไม...น่าตื่นเต้นอ๋อวะ” ผมทำหน้ากวนตีน

“ไม่น่าตื่นเต้นมั้ง มึงเอาตัวรอดมาได้ไงวะถามจริง” นี่สินะที่ในสงสัย หนึ่งกิ๊กและหนึ่งแฟน ทำไงไม่ให้พวกเขารู้น่ะหรอ ง่ายๆ

“ก็อย่าบอกเขาสิวะว่าความจริงคืออะไร กูแค่บอกว่าแมทเป็นรูมเมจ และบอกว่าบัวเป็นเพื่อน”

“อย่างนี้ก็ได้หรอ” เต้ถาม

“ได้ดิ กูกับบัวยังไม่ได้แดกกันเลย ถ้าเป็นพี่พู่ว่าไปอย่าง ขืนมองว่าพี่เขาเป็นเพื่อน กูคงโดนซักไซร้หรืออาจตายคาโต๊ะกินข้าวไปแล้ว” กล้ากับเต้พยักหน้าเข้าใจ

“ปลาไหลชุบน้ำมันจริงๆ มึง” น่ะมีหลอกด่ากูอีกนะกล้า

เราทั้งสามจบบทสนทนาบงแค่นั้น อาจารย์เรีมสอนแล้วและเราต้องเลคเชอร์ส่งที่อาจารย์สอนไว้ดีๆ วิชานี้โหด ไม่ค่อยบอกอะไรหลอก อธิบายรัวๆ แล้วสั่งงานงงๆ ถ้าไม่จดไว้จะทำรายงานกันไม่ถูกเลย เพราะข้อมูลหรือวิธีทำอาจารย์แกจะบอกมาเนียนๆ ในคำอธิบายรวบรัดนั้น เหมือนแก้เผ็ดพวกไม่สนใจร่ำเรียน แล้วก็ได้ผลดีมากๆ เกินคาดเลยละครับ

ผ่านไปหลายชั่วโมงก็จบคลาสของวันนี้ พร้อมงานอีกกองพะเนินที่ต้องทำส่งอาจารย์ ผมรู้สึกหมดพลังงานไปกับวิชานี้สุดๆ อยากชไปนอนหนุนอกนุ่มๆ ของพี่พู่เต็มแก่ ในขณะที่เก็บของใส่กระเป๋า กล่าก็บ่นๆ เป็นยายแก่ ก็งานเยอะ เล่นเกมไม่ได้ ส่วนเต้ก็ทำหน้าเซ็ง จะเอาเวลาไหนไปกินเหล้าสินะ ไอ้นี่...ติดเหล้าจรงิๆ

“บอม” เดินออกมาหน้าห้องก็ได้ยินเสียงคนเรียน หันไปตามเสียงก็พบแมท ผมงงนิดหน่อยแต่เดินเข้าไปหาโดยดี

“ว่าไงมึง”
“เดี๋ยวกูไปส่งที่ห้อง”
“เฮ้ยไม่เป็นไร เดี๋ยวกูต้องไปซื้อของกับเพื่อนอะ มึงไปทำรายงานของมึงเถอะ” ผมโกหกอย่างไวและแนบเนียน พวกไอกล้าและเต้ยังยืนอยู่หน้าห้อง แมทมองไปทางพวกนั้นแล้วหันกลับมามองผม
“เอางั้นก็ได้...” มันว่าพร้อมยิ้มบางๆ
“มึงก็สู้ๆ ละ กูเป็นกำลังใจให้” ผมเดินเข้าไปบีบมือมันเบาๆ มันยิ้มและบีบมือตอบ
แมทหันไปยิ้มและผงกหัวให้เต้กับกล้า จากนั้นเดินกลับไปคร่อมมอเตอร์ไซค์คันโปรดแล้วบึ่งออกไป ผมมองส่งก่อนจะยกยิ้มเจ้าเล่ให้กับแผ่นหลังของคุณแฟนหนุ่ม โทษทีนะแมท มึงงาน กู...ก็มีงาน เพียงแต่งานของกูมันเป็นงานใช้เอวน่ะนะ


**********************

 :mew1:จบไปอีกตอนแล้วค่าาาาาา

บอกเลยว่าคนเขียนดีใจมาก ประทับใจมากที่ลงเรื่องแรกในเล้าแล้วมีคนอ่านเยอะกว่าที่คาดไว้ :-[

ตอนแรกนึกว่าจะแป้กซะแล้วค่ะ ฮ่าๆๆ

ขอบคุณมากๆๆๆนะคะที่ติดตามนิยายเรื่องนี้
ฝากเม้นต์เป็นกำลังใจให้คนเขียนด้วยนะคะ :hao7:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 4 [23/12/59]
«ตอบ #39 เมื่อ23-12-2016 17:56:07 »

สงสารแมทอะ บอมเลิกเหอะ  :mew2: :mew2: :mew2:
เครียดเลยถ้าแมทรู้เนี่ย
เอ๊ะ หรือรู้อยู่แล้ว
 :katai1: :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 4 [23/12/59]
« ตอบ #39 เมื่อ: 23-12-2016 17:56:07 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 4 [23/12/59]
«ตอบ #40 เมื่อ23-12-2016 18:39:08 »

จะเกลียดบอมละ ถ้ายังไม่เลิกเป็นแบบนี้

ออฟไลน์ m.starlight

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 4 [23/12/59]
«ตอบ #41 เมื่อ23-12-2016 20:58:34 »

เมื่อไหร่แมทจะรู้ความจริง อยากให้เอาคืนแรงๆ  :m16:

ออฟไลน์ zenesty

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 4 [23/12/59]
«ตอบ #42 เมื่อ23-12-2016 21:35:27 »

บอมเอ้ยยยย .... รักเค้า แต่นอกกายเค้าเรื่อยๆ  ถ้าโดนเอาคืนเมื่อไหร่คงเข็ดจนตาย.   :angry2:  :angry2:  :angry2:  :angry2:

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 4 [23/12/59]
«ตอบ #43 เมื่อ24-12-2016 15:11:59 »

 :katai5: :hao7:

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
<<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 5 [25/12/59]
«ตอบ #44 เมื่อ25-12-2016 12:22:42 »

เธอมีชู้

บทที่ 5

ผมมุ่งตรงไปยังบ้านพี่พู่กันทันทีหลังแยกจากเพื่อนอีกสองคน ก่อนจากมาโดนกระแซะไปอีกตามเคยเรื่องผู้หญิง ใช่สิ พวกมึงไม่มีอย่างกูนี่นา จะหาอย่างกูก็ไม่ได้ด้วย เพราะไม่มีใครเอา เต้น่ะว่าไปอย่าง มันมีคนมาเกาะแกะเยอะ เพียงมันไม่สนใจใครเขาเลยเท่านั้นเอง มันดูเฉยชากับทุกคนเข้ามา ส่วนกล้า วันๆ เล่นแต่เกม จะมีใครไปเอามันทำแฟน หน้าตาก็จืดๆ แต่งตัวก็งั้นๆ นานทีมันจะพูดเรื่องหญิงที และนานมากๆ กว่าจะมีผู้หญิงสักคนมาชอบมัน แต่คบได้ไม่นาน พวกเธอก็ทิ้งมันไป ด้วยเหตุผลที่ว่า...อะไรๆ ก็เกม เห่อๆ กล้ามันติดเกมนี่หว่า

ถึงห้อง เปิดประตูเบาๆ ก้าวเข้าไป ด้านในมืดตื้บแต่มีร่างหนึ่งเอนนอนอยู่ตรงโซฟายาว ผมเดินเข้าไปหาและพบว่าแมทนอนหลับหมดสภาพ ท่าทางมันดูเหนื่อย งานคงเยอะมากจริงๆ ผมนั่งลงที่พื้นให้ใบหน้าเราอยู่ระดับเดียวกัน จ้องมองใบหน้ายามหลับของมัน...ไม่อยากชมเลยนะ แต่มึงหล่อจริงๆ

เป็นความหล่อโดยธรรมชาติ ไม่ต้องเติมแต่งอะไร หรือบำรุงอะไรให้มากความ แมทใช้แค่โฟมล้างหน้าและครีมบำรุงกระปุกเดียว ทาบ้าง ไม่ทาบ้าง เน้นล้างหน้าบ่อย แมทไม่ชอบเวลาตัวเองหน้ามัน มันรำคาญน่ะ แต่มันก็ไม่ค่อยหน้ามันเท่าไหร่ ผิวกำลังดี ไม่แห้ง ไม่เยิ้ม พระเจ้าสรรค์สร้างมันมาดีเกินไปนะ

ผมลูบไล้โครงหน้าของแมท นึกถึงอดีตเก่าของเราสองคน นึกถึงวันแรกที่มันฟันผม...ไอ้เสือซ่อนเล็บเอ้ย ไม่น่าหลงกลมันเลย ไอ้ความอยากรู้อยากลองก็นะ เหลือเกินจริงๆ แต่ผมไม่เสียใจหรอก แมทเป็นคนรักที่ดี มันปรนเปรอผมทุกอย่าง มอบความสุขให้ตลอด อยู่กับมันเหมือนอยู่กับเพื่อนที่สนิทมากๆ คนหนึ่ง

งั้น...ผมจะมีคนอื่นอีกทำไมละ ถ้าแมทดีขนาดนี้

ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะ ผมรู้สึกแค่มันอยากอะ...บางครั้งผมก็อยากกอดผู้หญิง อยากเอาผู้หญิง ก็แค่นั้นเองอะแหละครับ ไม่มีอะไรมากมายหรือซับซ้อนนัก บางครั้งการมองหน้าแมทโดยที่เราเองไปทำลับหลังแบบนั้นก็รู้สึกผิดอยู่นะ แต่อีกใจมันก็คิดว่าเรื่องที่ผมทำนั้นมันไม่ผิดอะ ใครๆ เขาก็ทำ ไม่ใช่ผมคนเดียวเสียหน่อยนี่

ผมขยับไปจูบริมฝีปากกระจับนั้นเบาๆ ไม่ให้แมทรู้ตัว แล้วลุกขึ้นเดินเข้าห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยที่ไม่ให้แมทมันตื่นขึ้นมา มันเหนื่อยจากงาน อยากให้ได้พักผ่อนไปก่อน จนผมทำอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้วก็มานั่งเล่นรอเวลาเพื่อเอาแผ่นมาร์คหน้าออก เสริมหล่ออีกตามเคยครับ อาทืตย์ละครั้งกับการมาร์คหน้าด้วยแผ่นมาร์คจากเกาหลี นำเข้าเลยนะ แพงหูฉี่เลยละครับ แต่แมทซื้อให้ สบายกระเป๋าผมไป ไม่งั้นละก็ กระเป๋าฉีกแน่ๆ สำหรับแผ่นมาร์คต่อเดือน

ระหว่างรอเวลาก็นั่งแชตกับพี่พู่กันสลับกับบัวไปด้วย บัวชวนผมไปเที่ยวสุดสัปดาห์นี้ พี่พู่เองก็ชวนไปช๊อปปิ้งในวันเสาร์นี้ เท่ากับเสาอาทิตย์นี้ผมมีนัดกับสาวสองคน เดี๋ยวนะ จะไปยังไงไม่ให้แมทรู้ เตี๊ยมกับกล้าและเต้เอาไว้ดีกว่า มีเวลาเตรียมตัวอีกตั้งหลายวัน ส่วนเงิน...เอ่อ กระเป๋าฟีบพอดีเลยแหะ สาวๆ คงไม่ใช่เงินหรอกใช่ไหม ไม่น่าเป็นไปได้ เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกทีละกัน

มาร์คหน้าเสร็จก็เดินออกมา แมทยังคงหลับในท่าเดิม มันจะเมื่อยบ้างไหมนั่น ไม่ขยับเขยื้อนเลย ผมยิ้มบางๆ ให้กับความน่ารักนั้น มันดูดีตลอดอะ ไม่ว่าจะทำอะไรในสายตาผม

ตรึ๊ง!

หน้าจอสว่างวาบมาจากโต๊ะเล็ดหน้าโซฟา ผมหันไปมองก็พบว่าไลน์ของแมทเด้งขึ้นมา หันไปมองเจ้าของเครื่องอีกที...ตื่นไหมน้า? ปกติผมกับแมทเราไม่ค่อยยุ่งมือถือของกันและกันเท่าไหร่ ผมถือว่าเป็นของส่วนตัว เป็นไปได้ก็ไม่อยากให้ยุ่ง ยิ่งมีคุยกับกิ๊กด้วยนะ อย่าได้จับเขียว ดีที่แมทไม่แตะมืถือผมเลย เขายอมรับในสิ่งที่ผมต้องการ ในขณะเดียวกัน แมทก็ยินดีทีให้ผมตรวจสอบมือถือเขาได้ ก็เป็นการแซะผมกลายๆ ละว่า คนบริสุทธิ์ใจอะ เขาไม่มาห้ามนู้นนี่หรอก ผมไม่อยากมีปีญหาหรอกนะ แต่ผมก็ไม่ให้ยุ่งกับของๆ ผมอยู่ดี และผมแฟร์พอที่นะไม่ยุ่งของมันเหมือนกัน

ดิว...งั้นหรอ

หน้าจอมันขึ้นชื่อไลน์ว่าน้องดิว...จะไม่แฟร์กับมันก็คราวนี้แหละ เด็กคนนี้อีกแล้ว รุ่นน้องที่แมทบอกและเล่าให้ฟัง เป็นฉนวนที่ทำให้เรางอนกันด้วย ผมไม่อยากคิดไรมากหรอกนะ แต่เด็กคนนี้ทำให้ผมสะกิดใจแปลกๆ เหตุการณ์คราวก่อนจะว่าผมคิดมากไปเองก็ได้ แต่มันน่าคิด ถึงเราจะเคลียกันแล้ว และผมเข้าใจดีแล้วก็ตาม

ผมนั่งลงข้างแมท หยิบมือถือของมันขึ้นมากดรหัสที่มันเคยบอกผมเอาไว้ มองหน้ามันอีกเล็กน้อย เห็นว่ามันยังหลับดีอยู่ก็สบายใจหน่อย เคยบอกว่าก็จะไม่ยุ่งอะนะ แต่ตอนนี้หัวใจมันเรียกร้อง แมทเป็นมิตรกับทุกคน เด็กคนนี้ก็คงไม่ใช่ข้อยกเว้น ผมว่าน้องมันต้องชอบแมทแน่ๆ แต่แมทน่ะสิ จะชอบน้องเขาหรือเปล่า ดิวตรงสเปกแมททุกอย่าง ตัวเล็ก น่ารัก ผิวขาวตาโต แถมไม่ออกสาวด้วย เท่าที่เจอกันวันนั้น ดูท่าทางสุภาพมาก นุ่นนวลเหมาะกับแมทอีกแหละ

แม่ง...กูมีอะไรที่เหมาะสมกับมันบ้างไหมวะ

สะบัดหัวเบาๆ ไล่ความคิดด้านลบที่มีต่อตัวเองสองสามที ผมต้องมั่นใจในตัวเอง ผมมีดีแน่นอนไม่งั้นแมทคงไม่คบกับผมมาได้นานขนาดนี้ คนเข้ามาอ่อยแมทก็เยอะแยะเต็มไปหมด มันยังไม่เอาใครสักคน มั่นคงต่อผมคนเดียว น่าชื่นชมจะตาย

แต่เด็กนี่...สายตาที่มันมองแมทนั้นเต็มไปด้วยความรัก ยังไงเด็กคนนี้ต้องคิดไม่ซื่อกับแมทแน่ๆ ถึงจะบอกว่ามันเป็นแฟนของเพื่อนก็ตาม หรือคิดในแง่ดีอีกอย่าง...ดิวมันชอบแมทแบบพี่ชาย แต่จะจริงหรอ ก็วันนั้นที่ผมเห็น แววตารักใคร่นั้น ไม่มีทางที่จะมีไว้ใช้มองพี่ชายหรอก...

โอ้ย ผมคิดมากไปมากไปหมดแล้วอ่ะ

ขณะกดรหัสมือก็สั่น เด็กคนนี้ทำให้ผมว้าวุ่นจริงๆ คงเพราะผมกลัวว่าแม่กับเด็กคนนี้อาจเป็นกิ๊กกัน รู้แหละว่าในความเป็นจริงมันไม่ใช่ แมทรักผมมาก แต่ความกล้วก็คือความกล้วนั่นแหละครับ ห้ามยังไงก็ไม่ได้ รหัสสี่ตัวที่แมทเคยบอกถูกกรอกจนครบ ผมเปิดเข้าไปอ่านข้อความในไลน์

[น้องดิว : ขอบคุณครับพี่แมท ผมมีความสุขมากๆ รักพี่แมทที่สุดและจะรักพี่แมทคนเดียวตลอดไป] และสติ้กเกอร์ไลน์รูปหัวใจและเขิน
มือผมสั่นจนเกือบทำมือถือร่วง นอกจากข้อความนี้ มันไม่มีอะไรเลย โล่งหมด เป็นไปไม่ได้หรอก แชตของรุ่นน้องจะว่างขนาดนี้ได้ยังไง เหมือนโดนลบทิ้งไปมากกว่า แบบนี้แสดงว่าแมทต้องปิดบังอะไรเอาไว้แน่ๆ และข้อความที่บอกรักกันแบบนี่...รักคนเดียวตลอดไปด้วย

ผมควรคิดว่ายังไง!

น้องรักพี่คนเดียวตลอดไปงั้นหรอ! ไม่มีข้อความก่อนหน้าหรืออะไรให้อ่านประกอบความเข้าใจเลยสักนิด ผมอยากเชื่อใจแมท อยากเชื่อว่ามันจะไม่มีทางหันเหความรักจากผมไปให้คนอื่น แต่ดูไอ้เด็กคนนี้สิ ผมยังเชื่อได้มากแค่ไหน ผมกำโทรศัพท์เอาไว้แน่น หันไปมองหน้าแมทที่ยังหลับไม่รู้เรื่อง ใจสั่นไปหมด ในอกหวิวไหว ผมอธิบายมันไม่ถูก แต่ผมรู้สึกแย่ชะมัด


ผมชั่งใจว่าจะปลุกแมทดีไหม แต่สุดท้ายก็ยังไม่กล้าพอ ผมลุกเดินตรงไปยังระเบียงบ้านโดยแวะเข้าไปเอามือถือที่ชาจของตัวเองออกมาด้วย กดเบอร์โทรไปหาไอ้เต้ด้วยความไว รออยู่สักพักมันถึงรับสายด้วยน้ำเสียงงัวเงียและรอบข้างดังสนั่น ผมให้รอสายก่อนจะโทรหากล้าอีกคน

“พวกมึงจำเด็กที่ชื่อดิวได้ป่ะ” ผมไม่รอให้พวกมันพูดอะไรก็โพล่งออกไปก่อน

(ดิว ที่ทำให้มึงงอนแมทวันนั้นอะนะ) กล้าพูดเสียงอู้อี้เหมือนเคี้ยวอะไรบางอย่างอยู่

“ใช่”

(มันทำไมอีกละ) เต้ถาม

“มันไลน์มาหาแมท บอกว่าขอบคุณมันมีความสุขมาก มันรักแมท บอกจะรักแมทตลอดไป คือกูก็ไม่อยากคิดเหี้ยไรให้มากมายนักหรอกนะ แต่แม่ง...ยังไงๆ ก็คงไม่ใช่แค่รุ่นน้องแน่ๆ มันต้องเป็นไรที่มากกว่านั้น ถึงแมทไม่คิดไร แต่กูว่าแม่งนั่นแหละที่คิด กูไม่โอเควะ” ผมใส่อารมณ์เต็มที่ เสียงแม่งสั่นด้วย ปนเปไปหมดอะทั้งโกรธเคือง เสียใจ มันหวิวๆ ในอกแบบที่ไม่เคยเป็น เพราะแมทไม่เคยมีเรื่องแบบนี้ให้ผมเครียดเลยสักครั้ง

(กูว่ามึงได้เรียนรู้แล้วละว่า เวลาแมทมันเจอข้อความที่สาวส่งมาหามึงมันรู้สึกยังไง แล้วถ้าไอ้เด็กดิวที่มึงบอกมันคิดกับแมทแบบนั้นจริงๆ มึงจะรู้รสชาตของการเป็นแมทมากกว่านี้) ไอ้กล้าซ้ำเติมลงมาอีก

แต่ก็ไม่ปฏิเสธมันหรอก ที่กล้ามันพูดน่ะจริงทุกอย่าง ผมคงกำลังได้เรียนรู้ความรู้สึกของแมทยามที่แมทมันต้องเจอเรื่องผมมีกิ๊ก ผมว่ามันระแวงงั้นงี้ สุดท้ายผมก็ไม่ต่างจากมัน อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะนอกจากผมจะรักมันแล้ว ผมเองก็ยังมีคนอื่น ยิ่งมีใครก็ยิ่งระแวงว่าเขาจะเหมือนเรา ทั้งที่ในความจริงแมทมันรักและหวงผมมากกว่าอะไรดี แต่เรื่องนี้ผมไม่โอเคจริงๆ ผมก็อธิบายมันออกมาไม่ถูกหรอกว่าความรู้สึกข้างในเป็นยังไง รู้แต่มันแย่มากๆ เหมือนจะทรุดลงไปเลยด้วยซ้ำเวลาที่คิดว่าไอ้เด็กนั่นกับแมทเป็นอะไรกัน

(กูว่ามึงอย่าเพิ่งคิดมากเลยบอม มึงควรถามแมทว่าทำไมมากกว่า อย่าร้อนตัวเพราะตัวเองก็เลวเลย) คำของเต้ทำผมจุก

“กูเลวหรอวะ” เผลอถามออกไป

(เออ/เออ!) เต้กับกล้าประสานเสียงพร้อมกัน

“นี่กูโทรมาหาเพื่อนปรึกษาและปลอบใจกูนะ ไม่ได้โทรมาให้พวกมึงสั่งสอนและซ้ำเติมกู” ผมโวยใส่

(แล้วไง คือมึงทำได้แต่แมทห้ามทำงั้นหรอ เห็นแก่ตัวไปไหมวะบอม ถ้ามึงไม่ทำตัวแบบนี้กูก็พอจะเห็นใจมึงหรอกนะ แต่มึงทำตัวเองก่อน พอแมททำบ้างก็ไม่เห็นแปลกอะไรเลย) กล้ายังไม่หยุดซ้ำผม ยอมรับเลยว่ารู้สึกฉุนมาก ทั้งโกรธทั้งเสียใจ

“พวกมึงเพื่อนกูหรือเปล่าวะ” ถามไปอย่างตัดพ้อ

(เพราะมึงเป็นเพื่อนกูไง กูถึงพูด ถ้ามึงไม่ใช่เพื่อนพวกกู พวกกูจะมาพูดอะไรแบบนี้กับคนอย่างมึงทำไมบอม) กล้าพูดเหมือนมันเป็นเรื่องปกติ

(จริงของกล้า กูเป็นห่วงมึงนะ การที่มึงทำตัวแบบนี้มันไม่ได้ส่งผลดีต่อมึงหรอกบอม) เต้พูดปลอบ แต่ผมหงุดหงิดที่นะฟัง

เคยบอกแล้วไง เรื่องนี้ผมทำได้คนเดียว ผมไม่ยอมให้แมททำ แมทต้องเป็นของผมคนเดียวสิ รักผมคนเดียวห้ามไปมีใครทั้งนั้น จะมีใจหรือแค่คุยก็ไม่ได้ เพราะรู้ดีว่าตัวเองไม่ได้ดีพอ และไม่ใช่สเปกของแมท ผมกลัวว่ามันจะทิ้งผมไป ผมรักมันถึงไม่อยากโดนมันทิ้ง ถ้าขาดมันผมคงเหมือนขาดส่วนหนึ่งของชีวิตไป การที่ผมหาเศษหาเลยข้างนอกบ้านก็แค่สนุกสนานไปวันๆ เท่านั้นเอง

“พอเหอะ เลิกซ้ำเติมกูสักที...” ผมว่าอย่างน้อยใจ คนปลายสายทั้งสองคงจะลับกระแสเสียงได้

(อืม...งั้นมึงก็ใจเย็นๆ แล้วถามแมทตรงๆ อย่างที่มึงรู้ แมทมันรักมึงจะตาย ขนาดจับได้ว่ามึงไปเอากับคนอื่นทั้งที่คบกับมันอยู่มันยังไม่ทิ้งมึงไปไหนเลย ไหนจะที่ระแคะระคายเรื่องของมึงตั้งกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง มันก็ยังปล่อยผ่านและเชื่อใจมึงมาตลอด คนที่ทำได้ขนาดนี้เพื่อคนอย่างมึงน่ะ ไม่มีทางไม่รักมึงหรอกบอม) ผมฟังกล้าเงียบๆ

(กูเชื่อนะบอม แมทน่ะไม่โง่หรอก แต่มันรักมึง) คำพูดของเต้ทำให้ผมจุก

ผมเคยแอบด่าแมทในใจเวลาที่ผมหลอกมันสำเร็จว่ามันน่ะโง่ ไม่มีทางตามความคิดของผมทันหรอก ถึงผมจะเคยสัมผัสถึงความเป็นเสือของมัน แต่ผมต่างหากที่เจ๋งกว่า ผมก็ไม่รู้หรอกว่าความคิดนั้นมันผุดขึ้นมาได้ยังไง แต่ความคิดนั้นนั่นแหละที่ทำให้ผมยังทำแบบนี้มาจนทุกวันนี้อย่างสม่ำเสมอและอาจจะมากขึ้นเมื่อแมทเริ่มไม่มีเวลา แต่พอเต้พูดแบบนี้ผมก็ชักคิด บางทีนะ...มันอาจจริงอย่างที่เต้ว่ามาก็ได้

ถ้าเป็นงั้น...แมทมันคงรักผมมากจริงๆ

“มันไม่โง่หรอก แต่มันตามกูไม่ทัน” ผมพูดลอยๆ

(มึงรู้ได้ไง ไม่มีนายพรานคนไหนแสดงตัวให้เหยื่อรู้หรอกนะว่ามันกำลังถูกไล่ต้อน) เต้ทำผมเจ็บอีกแล้ว

“ช่างเหอะ กูไม่อยากฟังละ พวกมึงแม่ง...ไม่ให้กำลังใจกูเลย กูเศร้าอยู่นะ แฟนกูกำลังจะมีชู้! แต่พวกมึงก็ว่ากูเอาว่ากูเอา สัส งอน” ผมเผลอใส่อารมณ์ลงไปในน้ำเสียง

(แฟนมึงแค่กำลังจะมี แต่มึงน่ะ...มีมากี่คนแล้ว งอนก็งอนไปเลยไอ้ห่า กูเข้าใจว่ามึงกำลังใจไม่ดีเรื่องนี้ แต่อย่าเอาแต่โมโหพวกกูสิวะ มึงน่ะควรสำนึกต่างหาก มึงก็ได้ลิ้มรสชาตที่แมทเผชิญแล้วนี่ นี่อาจเป็นการดีที่มึงจะปรับปรุงตัว แล้วถ้ามึงมีแค่มันคนเดียวเมื่อไหร่ แล้วมันยังมีแววนอกใจมึง พวกกูจะช่วยเอง แค่นี้นะ คุยกับมึงละกูปวดกะบาล) กล้าตัดสายทิ้งห้วนๆ ผมก็โมโหที่มันทำแบบนั้นเลยตัดสายทิ้งบ้าง ไม่สนเต้ที่ป่านนี้อาจจะมึนไป

กะจะปรึกษาเพื่อน สุดท้ายต้องมาทะเลาะกัน คอยดูนะ คราวหลังมีเรื่องของไอ้ดิวหรือแมทกูจะไม่ปรึกษาพวกแม่งอีกแล้ว นอกจากไม่ช่วยแล้วยังซ้ำเติม วกเข้าเรื่องด่าผมตลอดตั้งแต่คราวก่อน ก็เข้าใจที่มันพูด แต่พวกมันไม่เข้าใจผมเลย สิ่งที่ผมจะพูด สิ่งที่ผมจะสื่อหรือสิ่งที่ผมต้องการ แม่ง หงุดหงิด!

ผมเดินกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง มองคนที่นอนอยู่ตรงโซฟา ไร้การขยับกายหรือเคลื่อนไหวเปลี่ยนท่า แมทคงเหนื่อยมากถึงได้หลับสนิทขนาดนี้ ผมมองมือถือแมทบนโต๊ะ มันนอนนิ่งอยู่แบบนั้นแหละ ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวหรือข้อความอะไรเข้ามาอีก

ภายในห้องมืดครึ้ม อาการเย็นสบาย บางครั้งก็ดูผ่อนคลาย ทว่าในตอนนี้ผมกลับมองว่ามันเหงาอย่างบอกไม่ถูก จิตใจของผมมันเกว่งบอกไม่ถูก ผมควรเรียกแมทมาคุยเรื่องนี้ให้รู้เรื่อง ปล่อยให้ตะขิดตะขวงใจไปก็จะกลายเป็นผมเองที่จะบ้าตาย ผมไม่ชอบความอึดอัดที่เป็นอยู่ ไม่ชอบความคราแครงใจที่สุมอกนี้

“แมท...” ในที่สุดผมก็ตัดสินใจเดินมานั่งลงข้างโซฟา เรียกมันมันเบาๆ พร้อมสะกิดที่ไหล่

“อื้อ...” แม่ขยับตัวเล็กน้อย ตาปรือขึ้นช้าๆ ท่ามกลางความมืดที่ปกคลุมเราทั้งสอง

“กลับมานานยังมึง” มันเอายปากถามผมที่เอาแต่จ้องโทรศัพท์ ข้างในตอนนี้ร้อนรุ่มมากครับ แต่ผมพยายามใจเย็น เชื่อว่าแมทมีคำตอบที่ดีให้ผมแน่ๆ และเรื่องนี้อาจไม่ได้ใหญ่โตขนาดที่ผมคิด

“นานแล้วล่ะ แต่ไม่อยากปลุกมึงเห็นมึงสบายอยู่” หันไปมองหน้าแมท มันส่งยิ้มมา

“แล้วกินอะไรยัง กูยังไม่ได้กินเลย รอกินข้าวกับมึง” น้ำเสียงอ่อนแรงของแมทชวนให้หัวใจผมสั่นไหว มันเหนื่อยน่าดูเลยกับงานที่มหาลัย

“งั้นก็ลุกขึ้นมาสิ กูก็หิว” ผมพยายามจะยิ้ม แต่มันยิ้มไม่ออก แมทดูเหมือนจะสังเกตเห็นความปกตินั้น

“มึงเป็นไรเปล่า สีหน้าดูไม่โอเคเท่าไหร่เลยนะ” มือเรียวเอื้อมมาลูบหัว ผมจับมันเอาไว้แล้วดึงลงมากุมที่ตัก

“ใช่ กูไม่โอเคเลยแมท กูเครียด...กูหงุดหงิด” สบตากับมัน

“มีอะไรบอกกูสิ” มันยันตัวลุกขึ้นนั่ง ไม่วายดึงผมให้นั่งตักมันทั้งที่ตัวผมไม่ได้เล็กไปกว่ามันมากนัก

“ดิว...สเปกมึงเลยใข่ป่ะ” ผมถามเหมือนเปลี่ยนเรื่อง แต่เปล่าหรอก ผมแค่อยากรู้เท่านั้นเอง

“ก็นะ...มึงรู้ใจกูดีที่สุดนี่” แมทว่าเสียงเรียบ ใบหน้าของมันยังคงมีรอยยิ้มประจำตัวประดับอยู่

“ใช่ เพราะกูรู้ไง กูถึงกลัว ดิวมันส่งข้อความมาหามึงด้วยนะ” คิ้วแมทขมวดก่อนจะเอื้อมไปหยิบมือถือมาเปิดไลน์อ่าน มันนิ่งไปชั่วอึดใจ หันมามองหน้าผมที่เครียดขึง

“มันไม่ใช่อย่างที่มึงคิดนะบอม” มันรีบพูดออกมา

“งั้นมันเป็นยังไง อธิบายให้กูฟังสิ ทำไมเด็กนั่นต้องส่งข้อความแบบนั้นมาให้มึงด้วย ทำไมต้องบอกรักมึงคนเดียวตลอดตลอดไป มันไม่ใช่แค่รุ่นน้องมึงใช่ไหม” ยิ่งพูดผมก็ยิ่งมีอารมณ์ ผมต้องข่มเอาไว้ เก็บความรู้สึกที่อยากระเบิดใส่ทั้งที่ใบหน้ากำลังเศร้าหมอง

“แค่รุ่นน้องจริงๆ กูช่วยมันจนมันได้คบกับคนที่มันแอบชอบ มันเลยรักกู ดิวไม่ได้รักกูแบบอื่นหรอกมึงเชื่อกูนะ”

“จะให้กูเชื่อทั้งที่ข้อความมันหายไปหมดแบบนี้อะนะ มันไม่ตลกเกินไปหน่อยหรอวะ มึงมีความลับกับกูเห็นๆ อะ ปิดบังเรื่องดิวอยู่ใช่ไหม...ถึงมึงกับมันจะยังไม่ได้เป็นอะไรกันแต่ก็คิดใช่ไหมละว่าเด็กมันน่าสานต่ออะ ดิวมันสเปกมึงเลย ไม่แปลกหรอกเว้ยถ้ามึงจะชอบมัน แต่กูพูดเลยนะ...กูไม่ยอมหรอก กูไม่ให้มึงกับ...” คำพูดของผมหายไปกลางคันเพราะริมฝีปากเย็นชืดนั้นเคลื่อนมาแนบชิดอย่างไว

แมทใช้มือหนึ่งล๊อคคอของผมเอาไว้ในขณะที่อีกข้างกอดเอวคอดไม่ให้หนีไปไหนได้ ริมฝีปากกลิ่นมิ้นบดเบียดหนักเข้ามาเรื่อยๆ จนในที่สุดเรียวลิ้นแสนคุ้นเคยก็เข้ามาในโพรงปากของผม มันกระหวัดเอาส่วนนุ่มสีชมพูดอ่อนเช่นเดียวกับมันเอาไว้ หยอกเย้าด้วยความช่ำชองในขณะที่มือทั้งสองข้างกำลังลูบไล้เรือนกายของผมด้วยความลุ่มหลง ผมเพลิดเพลินไปกับสัมผัสของแมท มันเป็นสัมผัสของชายที่ผมรักและผมได้รับมันนานมากกว่าหนึ่งปี

“กูดีใจนะที่มึงคิดแบบนี้ มันทำให้กูรู้ว่ามึงรักกูมากเหมือนกัน ข้อความในมือถือที่มึงเห็นมันมีแค่นั้นเพราะกูร้างเครื่องไปเมื่อวันก่อน เหมือนไวรัสมันจะเข้ากูเลยต้องทำ ทำให้ข้อความในไลน์หายหมด แต่ถ้ากูรู้ว่ามันจะทำให้มึงคิดมากและไม่สบายใจขนาดนี้ กูคงไม่ทำหรอก” แมทคลอเคลียริมฝีปากผมด้วยริมฝีปากของมันตลอดการอธิบาย

ยอมจริงๆ ผมแพ้ต่อสัมผัสอันหอมหวานของแมท มันทำลายความคิดและความรู้สึกด้านลบของผมแทบเกลี้ยง นัยน์ตาคมที่ยังคงยิ้มให้กับผมมองสบเข้ามาในส่วนลึก ผมเห็นความดีใจและเป็นห่วงอยู่ในนั้น สุดท้ายเมื่อทนความแรงกล้าของแววตาไม่ไหวผมก็ฝุบหน้าซุกลงกับซอกคอของแมท ก็ยิ่งจ้อง มันก็ยิ่งอาย ทั้งที่อยู่ด้วยกันมาตั้งนาน แต่สายตาคู่นี้ยังแผดเผาผมได้เสมอ

“อย่ามองใครด้วยแววตาแบบนี้นะ” ผมกระซิบบอก

“ทำไมละ”

“มันเป็นของกู กูหวง...” ผมตอบหนักแน่น เงยหน้าจากซอกคอเพื่อตอบให้ฉะฉาน แมทยิ้มหน้าบาน
“ได้สิ กูจะใช้แววตานี้กับมึงคนเดียว เพราะมึงคนที่กูรักที่สุด แม้มึงจะกะล่อนและเจ้าชู้ก็ตาม” แมทแซะผมเบาๆ ผมมองเคือง

“พูดไม่ถูกใจเดี๋ยวกูก็งอนซะหรอก กูแค่หลีหญิงบ้างเท่านั้นเอง ใช่ว่ากูนอกใจมึงเสียเมื่อไหร่แมท หลังจากที่เรามีปีญหาด้วยเรื่องนี้คราวนั้น กูก็เลิกแล้วเหอะ” ก็คราวที่มันจับได้ว่าผมไปนอนกับหญิงคนอื่นตอนปิดเทอม เราทะเลาะกันรุนแรง มันเสียใจ มันร้องไห้ ตอนแรกผมก็นะไปจากมัน...แต่เพราะอะไรบางอย่างยังทำให้ผมอยู่ตรงนี้
“คร้าบ...” แมทยิ้มหวานแล้วจูบปากผมอีกครั้ง

คราวนี้จูบของแมทไม่ได้จบลงตรงที่ทำให้ผมหายใจติดขัดเท่านั้น แต่มันยังค่อยๆ นำพาร่างของผมนอนลงบนโซฟาตัวยาวสีดำสนิท ผมก็ยินยอมโดยง่าย ไม่ได้โดนแมทกอดมานานแล้วเหมือนกัน ดีนะที่ผมอาบน้ำแล้วไม่งั้นอาจจะมีปัญหาตามมาอีกก็ได้ แบบนั้นคงไม่เป็นผลดีต่อเราสองคนแน่ๆ แมทเองตอนนี้เรียกได้ว่ามีตัวสำรองรอยู่ ถึงจะบอกว่ารุ่นน้อง ยังไงผมก็ไม่เชื่อเต็มร้อยอยู่ดี
ก็ขนาดคนที่ผมบอกกับแมทว่าเป็นเพื่อนยังไม่ใช่เพื่อนผมเลยนี่ แต่เป็น...กิ๊กผมแทนไงละ

ต่ออีกนิดจ้า :katai5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-12-2016 12:26:59 โดย GukakST »

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
<<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 4 [23/12/59]
«ตอบ #45 เมื่อ25-12-2016 12:33:21 »

 :katai5: ต่อจ้า

แมทแทรกตัวเข้ามาตรงกลางหว่างขาของผม ริมฝีปากแมทยังคงป้อนจูบเร่าร้อนให้กับผมไม่ขาดราวกับจะเผาไหม้ผมด้วยเรียวลิ้นช่ำชอง ฝ่ามืออุ่นทั้งสอนขอนไชเข้ามาใต้เสื้อยืดใส่นอนตัวบาง ลูบไล้ไปมาเบาๆ เหมือนเอาขนนกมาเกลี่ยไปตามผิวเรียบเนียน แล้วก็หยุดอยู่ที่สิ่งนูนแข็งบนหน้าอกทั้งสองข้าง นิ้วของแมททำหน้าที่ได้ดีน่าชื่นชม มันสะกิดเขี่ยไปมาด้วยน้ำหนักที่เจ้าตัวรู้ว่าต้องใช้เท่าไหร่ ถึงจะทำให้ผมแอ่นอกเข้าหาได้

“อ่า..แมท” สองขาของผมเกาะเกี่ยวเอวคอดซึ่งเต็มไปด้วยหมัดกล้ามของมันเอาไว้ แล้วขยับสะโพกเบาๆ ให้ส่วนกลางกายได้ถูไถไปสิ่งที่เหมือนกันด้านบน

“มึงน่ะเบาๆ หน่อย เดี๋ยวกูก็ทนไม่ไหวหรอก” แมทกระซิบข้างหูเบาๆ น้ำเสียงแหบพร่าทำให้รู้สึกจั้กกะจี้ปนสยิว ผมเอียงหน้าเข้าหา สบตาคมคู่สวยพลางยิ้มบาง

“แต่กูอะทนไม่ไหวแล้ว มึงไม่ได้กอดกูนานแล้วนะ...” ส่งน้ำเสียงไปออดอ้อน

“กูขอโทษที่ทำให้มึงต้องอดอยากมานาน” แมทว่าเสียงติดตลก แต่ยังไม่หมดความเซ็กซี่ในน้ำเสียง

เสื้อถูกถลกขึ้นช้าๆ แล้วหลุดออกไปทางหัว แมทเคลื่อนใบหน้าเข้าหาร่างกายท่อนบนของผม ส่วนมือก็เลื่อนไปดึงเอาบ๊อคเซอร์และกางเกงในของผมออก พรืดเดียว ทั้งเนื้อทั้งตัวของผมก็ปราศจากเสื้อผ้าที่ใช้ห่อหุ้มร่างกาย ลิ้นชื้นแฉะของเขาเย้ายอดอกของผม ส่วนมือที่ว่างเว้นก็สำรวจสัดส่วนของร่างกายและความเรียบลื่นของผิวที่ถูกดูแลมาอย่างดี

เสียงลมหายใจฟืดฟาดของเราสองคนคลอกัน ร่างกายขยับไหวเสียดสีซึ่งกันและกัน ความเจ็บปล๊าบจากการถูขบกัดส่วนอ่อนไหวบนอกทำให้ผมเปล่งเสียงครางอันน่าอายให้แมทฟัง ผมปรือตามองหัวทุยที่ขยับไปซ้ายทีขวาที แมทกำลังลุ่มหลงร่างกายของผมจนโงหัวไม่ขึ้น เขาไม่สนใจจะมองใบหน้าของผม แต่ผมรู้ดีว่าแมทกำลังรอฟังเสียงครางแห่งความพึงพอใจของผมอยู่ตลอด ผมใบ้มือของตัวเองลูบไล้แผ่นหลังและเส้นผมนุ่มมือของร่างใหญกว่าด้านบน

“ถอดสิ แฮ่ก...มึงถอด” ผมพยายามจะถลกเสื้อยืดของแมท หมายถอดมันออกจากตัวเขาเพื่อจะได้สัมผัสผิวกายของชายที่ผมรัก แมทไม่พูดไม่จา เขายันตัวขึ้นแล้วจับชายเสื้อของตัวเองถลกขึ้น

“ช้า...ถอดช้าๆ” ผมบอก แล้วค่อยเอื้อมมือไปลูบไล้กล้ามเนื้อหน้าท้องที่ขึ้นเป็นรอน

แมทมองต่ำลงมาเพื่อนลใบหน้าของผมที่แสดงออกถึงความต้องการ ผมเองก็มองตอบ สายตาของแมทยั่วยวน เขาแลบลิ้นเลียริมฝีปากของตัวเองที่เปื้อนน้ำลายบนอกผม ใต้แผ่นอกที่สะท้อนขึ้นลงสั่นไหวเพราะภาพตรงหน้า ผมยิ้มให้กับมัน แล้วเป็นฝ่ายออกแรงดันหน้าท้องให้ร่างกายของแมทหงายไปด้านหลัง เขารับรู้สิ่งที่ผมต้องการได้ดีถึงได้ถอดเสื้ออก ปามันทิ้งแล้วเปลี่ยนไปนอน ปล่อยให้ผมค่อยๆ คืบคลานไปบนตัวของเขา

ผมแลบลิ้นออกมาเลียนั้งแต่ใต้สะดือขึ้นไปด้านบนช้าๆ สองมือลูบลำตัวชื้นเหงื่อของแมทนำทางปากตัวเองไปก่อน ฟังเสียงพ่นลมหายใจของแมทเป็นการประกอบสิ่งที่ผมทำอยู่ ผมเลียจนขึ้นมาถึงซอกคอ ขบเม้มมันรุนแรงจนแมทเอื้อมมือมาจิกเส้นผมของผมไว้

“จะทำรอยหรอ....”

“ไม่ได้หรอ...” เงยหน้าสบตาปรือปรอย แมทมองตอบ

“ได้สิ” ผมไม่คิดหนอกว่าแมทจะปฏิเสธผม

ผมโน้มหน้าลงไปสร้างรอยต่อ ตรงนี้ไม่ใช่จุดที่เด่นสะดุดตาอะไร ถึงผมจะต้องการจนแทบประครองสติตัวเองไม่ได้ แต่ก็ไม่อยากทำให้แฟนตัวเองต้องเป็นจุดสนใจของคนอื่นนัก แค่อยากทำก็เท่านั้น เมื่อผมออกแรงดูดอย่างเมามัน แมทก็กอดผมเอาไว้พลางแอ่นสะโพกตัวเองขึ้นมาบดเบียดกลางผมด้วยแรงอารมณ์ นั่นยิ่งทำให้มัวเมาเข้าไปอีก อดไม่ได้ที่จะเลิกเดแล้วกัดลงไปแทน ฟันคมค่อยๆ ไล่งับเบาๆ ไปทางลำตัว จนรอยแดงของฟันคมๆ ปรากฏขึ้น ผมเลียมันคล้ายกับปลอบประโลมความเจ็บปวดที่ผมสร้างจนกระทั่งมาเจอกับขอบกางเกงยีนส์สีเข้ม

ผมใช้ปากตัวเองควานหาซิปกางเกง มือยังคงลูบไล้หน้าท้องของแมท เมื่อเจอซิปผมก็ใช้ปากรูดมันลงแล้วค่อยๆ พรากท่อนล่างของแมทออกจากเจ้าตัว พอใกล้หลุดออกจากตัว แมทก็เป็นฝ่ายทนไม่ไหว ถีบมันออกแล้วดึงร่างผมให้คร่อมทับส่วนแข็งขืนของมันเอาไว้ ร่างกายร้อนวูบขึ้นมาทันทีเมื่อเผชิญกับความเป็นชาย

แมทเอานิ้วเข้าปากตัวเองให้ชุ่มน้ำลายก่อนจะนำมันมาสอดเข้าร่างกายผม อีกมือที่ยังว่างกอบกุมส่วนสำคัญของผมเอาไว้แล้วค่อยๆ ขยับมันไปพร้อมกัน ผมค่ำตัวแมท เชิ่ดหน้าพ่นลมหายใจ มันอึดอัดแต่ก็รู้สึกดีในเวลาเดียวกัน เพียงครู่เดียวเท่านั้น แมทก็ทำให้ร่างกายของผมพร้อมต่อการรวมเป็นหนึ่ง ผมมองตากับเขา ส่วนสะโพกก็ขยับหาความแข็งขืนก่อนจะกดลงไปช้าๆ กลืนกินตัวตนของแมททีละเล็ก ทีละน้อย

“อ่าห์...” ทั้งหมดเข้ามาอยู่ในร่างของผมแล้ว ภายในช่องท้องเสียวเสียดขึ้นมาทันใด แมทลูบไล้ทั้งส่วนอ่อนไหวและร่างกายของผมอย่างต้องการ

ผมค่อยๆ เคลื่อนสะโพกไปด้านหน้าและขยับมาด้านหลัง ให้สิ่งที่อยู่ด้านในได้สัมผัสความอ่อนนุ่มอย่างแนบชิด แมทพ่นลมหายใจออกมา สองมือหยุดอยู่ที่สะโพกของผม มันบีบเอาไว้เหมือนกำลังอดทนต่อความปรารถนาที่จะขยี้ผม สัมผัสอย่างนี้มันก็รัญจวนใจดีแต่คงยังไม่เพียงพอ ผมค่อยทำมันให้เร็วขึ้นแล้วเปลี่ยนจะเคลื่อนหน้าหลังเป็นขย่มขึ้นลงแทน

“ซี๊ด..บอม” แมทเอ่ยเรียกชื่อของผมด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความพึงพอใจ ผมเลื่อนจับมือของมันทั้งสองข้าง ประสานเรียวนิ้วลงไปจนแนบแน่นแล้วดึงให้มันตั้งฉาก รับน้ำหนักจากการโดนผมนำมาเป็นหลักประครองร่าง

“อ้ะ อ้ะ อ้ะ” เสียงครางของผมดังขึ้นเป็นจังหวะตามการขย่มขึ้นลง มันกำลังเร็วขึ้นเพราะอารมณ์ที่กำลังเอ่อล้น

“อื้ม...” แรงส่งจากคนด้านล่างแบบไม่ทันตั้งตัวทำให้ผมเกือบหน้าทิ่มลงไปบนอกของเจ้าตัว

“อ๊า อ๊า อ๊าแมท..อื้ออ๊า” ยิ่งมันสวนขึ้นมาแบบนี้ก็ยิ่งเข้ามาได้ล้ำลึกยิ่งขึ้น ความรู้สึกวาบหวามที่มากเกือบล้นนี้เป็นสาเหตุของอาการหมดเรี่ยวแรง ผมทรุดลงไปกองอยู่บนร่างกายของแมท ทั้งที่มันยังคงกระแทกสวนขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

“อึ้ก...ไม่อ้าอ้าไม่วะ...ไหวแล้วแมท” บอกเสียงสั่น มือที่ยังประสานไว้ถูกผมบีบจนแน่น

แทนที่จะผ่อนลง แต่แมทกลับไม่ เขาไม่ยืดเวลาให้ผมได้ดื่มด่ำกับค่ำคืนให้นานกว่านี้ แมทเร่งจังหวะพร้อมกับใช้สองมือกดสะโพกผมให้แนบชิด รับแรงส่งอย่างหนักหน่วง เราทั้งคู่ต่างเกร็งร่างกายจนมันเครียดขึง แต่จุดหมายปลายทางกำลังใกล้เข้ามาทุกที ไม่ใช่แค่ผม แต่แมทเองก็คงจะไปพร้อมๆ กัน ไม่งั้นเขาไม่มีทางเร่งเร่าขนาดนี้

เห็นปลายทางอยู่ตรงหน้า อีกนิดเดียวเท่านั้นผมก็จะถึงจุดหมาย แต่เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อแมทหยุดชะงักทุกอย่างลงอย่างเฉียบพลัน ราวกับไฟโดนน้ำเย็นๆ ราดลงมา ความรู้สึกอันมากมายยังคงทำงานอยู่แต่มันกำลังจะลดลงช้าๆ ผมฟังเสียงใจของแมท เฝ้ารอเขาจะทำต่อแต่ก็ไม่ เขาเอาแต่กอดผมไว้อยู่แบบนั้น

“แมท...” เอ่ยเรียก หวังจะบอกให้เขาทำต่อแต่แมทดันดึงใบหน้าของผมเพื่อไปรับจูบอันเร่าร้อนของเขา ไฟราคะของเราทั้งคู่ยังไม่มอดดับ แต่แมทกลับทำกับผมแบบนี้เพื่อเป็นการกลั่นแกล้งงั้นสินะ

“ใจร้ายไปแล้วนะ” ผมต่อว่าทั้งที่ยังคั่งค้างอยู่ แมทเองก็เหมือนกัน

“กูก็ทรมานหน่า...” มันบอกพร้อมยิ้มบาง

“งั้นก็ต่อสักทีสิ จะรอให้ไอ้เด็กดิวมาตัดริบบิ้นหรือไง” ผมประชดออกไป

“พูดจาไม่น่าฟังเลย ตรงนี้มีแค่มึงกับกูก็พอแล้ว จะเอ่ยชื่อคนอื่นออกมาทำไมกันหืม” คำว่าคนอื่นแมทเน้นเพื่อให้รู้ว่าเขาไม่ได้คิดอะไรกับเด็กนั่นมากกว่ารุ่นพี่รุ่นน้อง ผมเผลอยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้

แมทจูบผมอย่างดูดดื่มอีกครั้งก่อนจะดันร่างผมให้นั่งหลังตรง รอยยิ้มหวานๆ บนใบหน้าของมันทำให้เกิดอาการเก้อเขินขึ้นมาวูบหนึ่ง แต่มันก็มลายหายไปเมื่อแมทเดินเครื่องอีกครั้ง และไม่มีการรีรออะไรมากมาย เขาเร่งจังหวะในทันทีเพราะเครื่องของเราทั้งคู่ร้อนฉ่ากันอยู่แล้ว ผมไม่อายที่จะครางดังให้แมทฟัง แม้มันจะกลบเสียงหายใจอันเร่าร้อนของแมทไปบ้างก็ตาม

สายตาคมจับจ้องร่างกายที่ขยับขึ้นลง ผมได้แรงส่งจากเขาและผมเองก็ร่วมมือด้วยการกระแทกตัวเองลงไปหา ถึงจะเสียวจนอ่อนแรง แต่ผมก็อยากไปถึงจุดหมายปลายทางที่ถูกพรากไปเมื่อครู่นี้เต็มที แมทเองก็รู้ดีเพราะเขาเองก็ไม่ต่าวอะไรกับผมเลย

ภาพตรงหน้ากลายเป็นภาพเบลอมากขึ้นเรื่อยๆ เหลือเพียงเสียงหยาบโลนต่างๆ รอบกายบอกเล่าสิ่งที่เรากำลังทำกันอย่างลึกล้ำนี้ รู้สึกว่าตัวเองกำลังครางดังมากขึ้นทุกที ส่วนปลายกายของผมมีบางอย่างกำลังซึมไหลออกมา เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าตัวเองนั้นกำลังเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้นทุกที

และเพียงครู่เดียว...เราสองคนก็พากันกระตุกอย่างรุนแรง พร้อมกับน้ำสีขาวขุ่นพุ่งออกมาจากร่างกาย ผมตัวสั่นเป็นลูกนกตกน้ำอนู่พักหนึ่งก่อนจะหมดแรงและล้มตัวลงซบอกแมท มันกอดผมเอาไว้ เราหอบหายใจแข่งกัน น่าจะอีกพักใหญ่ทุกอย่างถึงจะกลับสู่ความสงบอีกครั้ง

“กูรักมึงนะบอม” แมทปลแนบริมฝีปากตนกับหน้าผากผม

“อื้อ กูก็รักมึง” ผมยิ้มให้ ไม่ใช่ยิ้มแบบการค้าที่มักใช้ แต่เป็นรอยยิ้มพิเศษที่มอบให้คนพิเศษเท่านั้น

ผมกับแมทกอดกันอยู่นานกว่าแมทจะขอตัวไปอาบน้ำ โดยไม่วายชวนผมไปอาบด้วยแต่ผมปฏิเสธ ผมไม่อยากโดนซ้ำรอบสอง กลมันก็เร่าร้อนดีหรอกแต่ฝ่ายรับก็มีขีดจำกัดนะครับ เมื่อครู่นี้อมอแรงกันที่ไหน ตอนนี้ปวดระบมพอสมควร ถึงไม่มากไม่มายอะไรแต่ก็ควรพักหน่อย

ระหว่างรอแมทไปอาบน้ำ ผมเฟซหากล้ากับเต้ บอกขอโทษพวกมันสองตัว ตอนนั้นอารมณ์มันพุ่งปรี๊ดไปหน่อย ตอนนี้ดีขึ้นแล้วก็เลยอยากขอโทษ พวกมันเข้าใจดี ไม่ได้ว่าอะไรผม พอผมสบายใจผมก็นอนแผ่หราโดยไม่ลืมใส่เสื้อผ้า กลัวแมทมันออกมาแล้วอารมณ์ขึ้นอีก เห็นสุภาพอ่อนโยนแบบนั้นแต่แมทมันหื่นไม่เบาเลยนะครับ อย่าดูถูกความเป็นเสือของแมทเชียว มันมีวิธีตะล่อมเยื่อให้ยินยอมพร้อมใจเป็นของมัน แน่นอนว่าผมไม่เคยหนีได้เลย สุดท้ายก็ฟินแบบเจ็บตัวนิดๆ กันไป

 “ไปอาบน้ำซะ เดี๋ยวกูอุ่นอาหารให้” แมทตรงเข้ามาดึงผมให้ลุก จูบหน้าผมอีกทีแล้วเดินเข้าครัว

ผมเดินเข้าไปอาบน้ำอีกครั้งด้วรอยยิ้ม มันมีความสุขจริงๆ นะเนี่ย ความเป็นคนดีน่ารักนี้ของแมทเนี่ยเป็นสิ่งหนึ่งที่มัดใจของผมเอาไว้ ในขณะที่เพื่อนผมต่างคิดว่าการที่ผมไปมีคนอื่นนั้นเพราะแมทดีเกินไป บ้าหรือเปล่า คนดีผมต้องรักสิ แค่หนุกๆ กับคนอื่นบ้างไม่ได้นอกใจเขาไปไหนสักหน่อ

อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่เสร็จ ออกมาก็ได้กลิ่นหอมคลุ้งห้องไปหมด อาหารของวันนี้น่าจะเป็นอาหารไทย ไม่งั้นกลิ่นไม่โชยขนาดนี้หรอก ผมรีบดิ่งไปที่โต๊ะกินข้าวอย่างไว ท้องไส้ปานป่วนหลังจากออกกำลังชุดกลางกับแมทไป

ชุดกลางยังไงน่ะหรอ...ก็กลางห้องไง อิอิ

“ร้านไหนเนี่ย อร่อยจัง” ได้ชิมคำแรกผมก็ออกปากชมทันที

“อร่อยหรือหิว” แมทว่าขำๆ
“ไม่รู้วะ สงสัยรอบหน้าต้องรองไปกินตอนไม่หิว มึงพากูไปด้วยละ” แมทพยักหน้าแล้วเริ่มกินมื้อค่ำที่เลยเวลาค่ำมามากพอสมควร

แต่พอกินไปสักพักผมก็เพิ่งนึกได้ว่าก่อนไอ้เด็กดิวส่งข้อความมาผมกำลังคิดว่าจะคุยเรื่อวหนึ่งกับแมท จริงๆ ก็เป็นเรื่องที่ผมนัดสาวๆ ไว้นั่นแหละ เสาร์อาทิตย์นี้ซะด้วย สำคัญกว่าการนัดคือเงิน ผมว่าจะลองขอเงินแมทไปน่ะ ผมมองแมท รอดูว่าควรจะพูดตอนไหน และผมก็ตัดสินใจว่าเรากินกันอิ่มแล้วค่อยคุบกันก็ได้ ซึ่งใช้เวลาไม่นานนักทุกอย่างบนโต๊ะก็เรียบเป็นหน้ากลอง นี่ผมสองคนเป็นคนหรือปอบ กวาดอาหารเยอะๆ จนเกลี้ยงได้ขนาดนี้
“เออแมท วันเสาร์อาทิตย์นี้มึงว่าป่ะ”
“ไม่อ่ะ มึงก็รู้กูต้องรีบเร่งโปรเจ็กต์ ทำไม อยากไปไหน” แมทเอาจานซ้อนๆ กัน
“อ่อ คือครีมกูหมด เลยว่าจะให้มึงพาไปซื้อ แต่ถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไร” ตีหน้าเศร้าเล่าเรื่องโกหก คือครีมผมยังไม่หมดอะ
“อ่าว เมื่อวันก่อนมึงก็ซื้อครีมมาแล้วนี่” แมทเลิกคิ้ว
“คนละตัวกัน กูไม่ได้ซื้อไนท์ครีมมา กูลืมว่ามันจะหมดแล้ว”
“งั้นเดี๋ยวเอาบัตรกูไปรูดเอาละกัน” แมทตัดสินใจง่ายๆ ผมลอบยิ้มในใจ ได้บัตรไปรูดเองเลยนะ...สบายเลย บัตรของแมทกดเงินได้ด้วยน่ะสิ มีเงินเลี้ยงพี่พู่กับบัวละ
ผมรีบช่วยแมทเอาถ้วยเอาจานไปล้าง เป็นเด็กดีที่ช่วยงานบ้านซึ่งมันก็แปลกใจ แต่มันคงเข้าใจว่าที่ผมทำน่ะเพราะมันให้เงินไปซื้อครีม ซึ่งก็ถูกแหละเรื่องที่ผมทำเพราะได้เงิน แต่ผมไม่ได้จะซื้อครีมให้ตัวเองเนี่ยสิ ขืนแมทรู้ว่าผมเอาเงินไปปรนเปรอผู้หญิงอื่น...ผมคงหัวกุดแน่ๆ
แต่ไม่ต้องห่วง...ระดับบอม แมทไม่มีทางรู้แน่นอน!


จบบทที่ 5
:katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 5 [25/12/59]
«ตอบ #46 เมื่อ25-12-2016 12:42:05 »

แมท แก้ตัวน่ะสิ เครื่องมีไวรัส เลยล้างเครื่อง
เสือแมท ชัดๆ แล้วแก้ปัญหาด้วยเซ็กส์ต่อ
แต่มันยังค้างคาในใจอยู่ดี :mew2: :mew2: :mew2:
สงสัยแมท ต้องไปสั่งดิวว่าห้ามส่งข้อความแน่เลย
ตัวเองทำได้ หลีหญิง เจ้าชู้ แต่แมท ห้ามทำ :katai1: :katai1: :katai1:
รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองไม่ดีนะเนี่ย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 5 [25/12/59]
«ตอบ #47 เมื่อ25-12-2016 13:18:52 »

ไม่เคยรำคาญนายเอกเรื่องไหนเหมือนบอมมาก่อนเหมือนคนตรรกะป่วยอย่างแรง ใครเตือนก็ไม่ฟังพาลโกรธเค้าไปอีก นอกกายแต่ไม่ได้นี่คิดได้ไง แถมยังทำตัวเหมือนแมงดาเกาะกินยังจะเอาเงินไปซื้อของให้ชู้อีก เราโคตรขยาดอะคนแบบนี้ สมควรแล้วที่แมทจะนอกใจบ้าง แต่เราว่าเรื่องนี้แมทก็ทำไม่ถูก มีคนทำเลวกับเราไม่ใช่เหตุผลในการทำเลวกลับ เราแค่เชียร์ให้เลิกแล้วหาคนใหม่ โอ้ยยยย อินมากค่ะคุณคนเขียน อยากรู้จุดจบของบอมสุดท้ายคงไม่มีใครจริงใจด้วย พ่อคนเป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาล  :katai1:

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 5 [25/12/59]
«ตอบ #48 เมื่อ25-12-2016 23:27:56 »

 คู่นี้สมน้ำสมเนื้อจริงๆอะ เป็นมวยถูกคู่ล่ะ รออ่านต่อคับ

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 5 [25/12/59]
«ตอบ #49 เมื่อ26-12-2016 10:32:37 »

อยากให้บอมเลิกสีหญิงจัง.... หันมาสีผชหล่อๆแทน ก้ากกกก จะไ้ด้สมน้ำสมเนื้อกันหน่อย  :katai5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 5 [25/12/59]
« ตอบ #49 เมื่อ: 26-12-2016 10:32:37 »





ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 5 [25/12/59]
«ตอบ #50 เมื่อ26-12-2016 23:20:04 »

เสือกินเสือ เนื้ออร่อย ต้องค่อยแทะ
แต่ไปแอบ กินแกะ แทะไม่เหลือ
ถ้าจับได้ ไล่ทัน เกลือจิ้มเกลือ
ทั้งสองเสือ ไม่เหลือลาย หายกันไป

เหตุผลของแมทที่ให้กับบอม
ทุกครั้งมันดูง่ายเกินไปซะเหลือเกิน
ทุกอย่างมันบังเอิญลงตัวได้ขนาดนั้น เลยเหรอ
เหมือนเสือซ่อนลาย..แนบเนียนมากกว่า

ส่วนบอมก็พลิกพลิ้วซะจนคิดว่าตัวเองแน่มาก
คิดว่าหลอกแมทให้เชื่อได้สำเร็จ มั่นมาก
ก็เหมือนกับเสือเผยลาย..อยู่ในทุ่งโล่ง

แต่ยังไงทั้งสองคนก็คือเสือ

เสือก็ยังเป็นเสือ
หุหุ

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
<<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 6 [27/12/59]
«ตอบ #51 เมื่อ27-12-2016 15:30:49 »

เธอมีชู้

บทที่ 6

[แมท]
ผมสงสัย...เด็กปีหนึ่งอย่างเราๆ กิจกรรมเยอะมาก เรียนก็หนักแถมยังเป็นช่วงปรับตัว แต่ทำไม บอมยังมีเวลาไปเที่ยวได้ ยิ่งผ่านกิจกรรมหนักๆ มา บอมก็จะยิ่งเที่ยวบ่อยขึ้น โดยเฉพาะไปกินเหล้ากับเพื่อนที่ชื่อเต้

ผมไม่ได้รู้จักหรือสนิทกับเพื่อนของบอม เพราะคณะตัวเองก็ยุ่งวุ่นวายจนหายใจหายคอแทบไม่ทัน แต่เคยเจอกล้ากับเต้ตอนไปส่งบอมที่คณะ และบางครั้งมื้อเช้าหรือเที่ยงเราก็จะกินข้าวด้วยกัน ทั้งสองคนนั้นรู้ว่าผมกับบอมเป็นแฟนกัน นอกนั้นน่าจะไม่รู้ เพราะผมและบอมไม่ได้ทำอะไรให้มันประเจิดประเจ้อ

แต่คิดอีกที...ผมน่าจะทำให้คนอื่นๆ ได้รู้นะ บอมน่ะเป็นคนเจ้าชู้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว สายตาของเขานั้นซุกซน พราวเสน่ห์ บวกกับรูปหน้าที่หล่อเหลาและผิวพรรณที่ดีมากๆ จากการบำรุง ทำให้ไม่ว่าเขาจะอ่อยใคร คนนั้นเสร็จเขาทุกราย

ครั้งแรกที่ผมเจอกับบอมนั้นเป็นช่วงสมัยมอห้า ย้ายมาจากโรงเรียนอื่นเนื่องจากมีปัญหาเรื่องชู้สาว คือตามจริงผมไม่ได้ไปมีชู้อะไรกับใครเลยครับ แต่พวกผู้หญิงเขามาชอบผมเอง เรื่องที่เกิดขึ้นในโรงเรียนเก่าไม่ได้รุนแรงถึงขั้นอยู่ไม่ได้ ผมน่ะเอาตัวรอดได้ดีในหลายสถานะการณ์ เพียงแต่ผมทนความรำคาญไม่ไหวอีกแล้ว เลยขอแม่ย้ายโรงเรียน อยากจะเข้าชายล้วนแต่กลายเป็นโรงเรียนเอกชนห่างจากบ้านไปได้ แม่คิดว่าผมมีปัญหากับเพื่อนแถวนั้น กลัวผมไม่สบายใจเลยส่งมาอยู่คนเดียวกลางเมืองซะเลย ผมก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ

ผมสบตากับบอมตอนผมแนะนำตัวเองว่าย้ายมาจากที่ไหน สายตาซุกซนของเจ้าตัวทำให้ผมอมยิ้ม มันน่ารักมาก บอมน่ะคงไม่รู้ตัวเองหรอก ถึงบอมจะไม่ใช่สเป็กของผมเลย เพราะเขาไม่ได้ตาโต ตัวเล็ก อ่อนแอ้นเปราะบาง บอมมีความแตกต่างจากชายหนุ่มที่ผมชอบ เขาเป็นนักรักตัวพ่อ เจ้าชู้ประตูดิน ปากนี่มีแต่คำหวานไว้หยอดสาวๆ ยิงมุกเสี่ยวแทบตลอด ผมคอยเฝ้ามองบอมเพราะเขามีเสน่ห์ นี่ละหนา...ที่เขาว่าคนเจ้าชู้มักจะมีเสน่ห์ ตอนแรกดูรู้เลยว่าบอมไม่ชอบขี้หน้าผม แต่เพราะผมตีเนียนไปอยู่กลุ่มเดียวกับบอมจนได้ทำให้เรากลายเป็นเพื่อนกัน

แต่เพื่อนคนนี้อยากกินเพื่อนจัง...

ผมก็ไม่คาดคิดหรอกว่าจะมีโอกาสได้กินบอมจริงๆ ต้องขอบคุณความอยากรู้อยากลองของมนุษย์ที่ทำให้ผมได้ครอบครองบอมในวันนั้น หลังจากได้บอมผมก็ตามจีบบอมให้มาเป็นแฟน ซึ่งใช้เวลาไม่นานนักบอมก็ยอมเป็นของผม

แต่เรื่องราวมันไม่ได้แฮปปี้ที่ตรงนั้นสิครับ...

บอมเป็นเสือ แถม...เป็นเสือแอ๊บแบ๊ว เขาใช้ความน่ารักน่ากินของตัวเองอ่อยสาวๆ ไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งที่ผมนั่งอยู่ข้างๆ มีผมเป็นแฟนแล้วแท้ๆ ผมเก็บกั้นความไม่พอใจนั้นแล้วทำตัวเหมือนไม่มีอะไร ผมเข้าใจได้  แต่ไม่นาน ผมตัดสินใจพูดเรื่องนี้กับเขาตรงๆ เลี่ยงการพูดจาให้ทะเลาะกัน ผมไม่ชอบความรุนแรงยกเว้นเวลาอยู่บนเตียง ต้องใช้วาจาหวานๆ อ้อนวอนขอร้องให้เขาเข้าใจหัวอกคนเป็นแฟนอย่างผมบ้าง เรื่องราวความเจ้าชู้ในรอบนั้นจบลงด้วยดี บอมเข้าใจผมและเราก็คบอย่างมีความสุข

นิทานมักจบลงเช่นนั้น แต่นั่นไม่ใช่บอม!

ผมก็พูดไม่ได้เต็มปากว่าบอมมีคนอื่น แต่การกระทำและหลายๆ อย่างทำให้ผมคราแครงใจในตัวของบอม บ่อยมากที่บอมกลับมาบ้านพร้อมกลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงติดตัว เมื่อก่อนก็นานๆ หน แต่พอกิจกรรมเริ่มซา กลิ่นน้ำหอมพวกนั้นก็เริ่มจะมาบ่อยขึ้น ผมถามตลอดว่าทำไมมีกลิ่นน้ำหอมติดตัว น้ำหอมนี้ไม่ใช่กลิ่นที่มันใช้ บอมจะอารมณ์เสียหน่อยๆ บอกก็น้ำหอมคนอื่นมาติดตัว แรกๆ มันก็คิดว่าใช่...แต่พอเจอบ่อยชนิดแทบวันเว้นวันผมก็ชักไม่มั่นใจในคำตอบ

บ่อยครั้งเราทะเลาะกันเรื่องนี้ พอผมเริ่มซักไซร้ เรื่องก็จะบานปลายในทันที บอมหัวเสียหนัก หาว่าผมไม่มั่นใจในตัวเขา ไม่ไว้ใจเลย ผมผิดหรือไงละที่ผมรักและหวงมันจนคิดมากน่ะ บอมเสน่ห์แรงจะตาย ไหนจะอัธยาศรัยดี มีใครบ้างที่ไม่อยากได้ผู้ชายคนนี้เป็นแฟน ขนาดผมเป็นผู้ชายผมยังหลงเขาหัวปักหัวปำเลย

พอบอมหัวเสียเรื่องเหมือนผมจับผิด ผมก็ต้องง้อเขา ทั้งที่ในความรู้สึกของผม ผมไม่เคยเข้าใจเลยว่าผมนั้นผิดอะไร รักเขา หวงเขา คือสิ่งที่คนเป็นแฟนกันไม่สมควรทำหรอ จริงที่บอมแสดงให้ผมเห็นว่าเขาเชื่อใจผมแค่ไหน ด้วยการไม่ตรวจมือถือ ไม่ซักถามนั่นใครนี่ใคร ไปไหนหรือทำอะไรกับใครในแบบที่ผมทำ แล้วผมต้องทำแบบที่เขาทำด้วยงั้นสินะ ผมก็อยากทำแบบนั้นถ้าบอมไม่ทำตัวให้น่าระแวงขนาดนี้

เรารักใครชอบใคร คบกับใคร ก็อยากให้คนๆ นั้นมีเพียงเราแค่คนเดียวเท่านั้นนี่ครับ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย

แต่บางครั้งผมก็คิดว่าผมอาจจะคิดมากไปเอง บอมยังอยู่กับผมทุกวัน อ้อนบ้างในบางครั้งและเราก็ยังมีความสุขด้วยกันดี ถ้าบอมมีคนอื่นจริงๆ สิ่งที่มันเป็นอยู่นี้คงต้องสั่นคลอนไปบ้างสิ แต่นี่ไม่เลย สิ่งที่บอมแสดงออกต่อผมยังเหมือนเดิมทุกอย่าง เพียงแค่ช่วงนี้เราไม่มีเวลาอยู่ด้วยกัน

เฮ้อ...ผมเครียดที่ตัวเองเป็นคนคิดมาเรื่องบอมนะครับ

อย่างวันนี้ วันเสาร์บอมบอกจะไปซื้อครีมสำหรับทาตอนกลางคืน ผมอยากตามไปดูมากเลยว่าบอมไปซื้อครีมจริงไหม รางสังหรณ์ของผมมันเตือนรัวๆ ว่าเขาอาจจะโกหกผมเพื่อไปหาผู้หญิงคนอื่น เพราะถึงผมจะไม่ค่อยรู้เรื่องของบำรุงที่บอมใช้แต่ผมก็รู้ดีว่าบอมไม่มีทางลืมซื้อของแน่ๆ วันนั้นเราเดินซื้อกันตั้งนาน ครีมเดย์กับไนท์บอมใช้ของยี่ห้อเดียวกัน วางอยู่เคาน์เตอร์เดียวกัน เขาจะลืมได้ยังไง ไม่มีทางอะ มันต้องมีอะไรแน่ๆ เลย

แต่ผม...ดันไม่ว่าง

ทั้งที่รู้ดีว่าต้องมีอะไรสักอย่างแท้ๆ ดันไปตามดูไม่ได้อีก อย่างนี้ผมคงต้องระแวงและเครียดไอเรื่องน้ำหอมของบอมไปเรื่อยๆ โดยไม่มีทางจับได้สักทีว่าที่ผมคิดน่ะมันถูกหรือมันผิด ผมไม่อยากรู้สึกว่าการที่ตัวเองระแวงคนรักตามสัญชาตญาณนั้นมันเป็นเรื่องที่ไม่สมควร ทุกครั้งที่ทะเลาะผมต้องง้อเขาอะ ผมไม่ได้ผิด ผมจำเป็นต้องทำไหม จริงที่จะไม่ใส่ใจอะไรเล็กๆ อย่างใครผิดต้องง้อก็ได้ แต่บ่อยครั้งเขาคนเราก็รู้สึกแย่ได้นะครับ

“พี่แมทเป็นอะไรไป ทำไมสีหน้าไม่ดีเลยละครับ” ผมหันไปยิ้มให้ดิวที่เดินอยู่ข้างกาย เหมือนว่าตัวผมเองนั้นไม่ได้มีความเครียดอยู่เลย ด้วยนิสัยที่ชอบยิ้มนี้แหละที่ทำให้ไม่มีใครเข้าใจอารมณ์ที่แท้จริงผมนักสักไหร่

ยกเว้นบอม มันรู้ดีที่สุด รอยยิ้มของผมเป็นเพียงสิ่งที่ทำจนเป็นนิสัยเท่านั้น ไม่ได้บ่งบอกอะไร มันไม่ต่างจากคนนิ่งทำหน้าตายเท่าไหร่ แต่แบบนี้มันนำพาเพื่อนฝูงมาได้มากกว่าเท่านั้นเอง
“เปล่าครับน้องดิว พี่แค่คิดเรื่องน้องชายนิดหน่อย”
“อ่อ..น้องชายที่ชื่อบอมนั่นน่ะหรอครับ”

ผมพยักหน้าให้กับดิว เด็กผู้ชายวัยสิบเจ็ด ตัวเล็กหน้าใส ผิวขาว หน้าตาน่ารักแบบที่สามารถแต่งเป็นหญิงได้เหมือนสุดๆ แต่เขาแมนนะครับ ถึงจะเป็นเกย์ก็ไม่มีอาการออกสาว ดิวเป็นรุ่นน้องของเพื่อนผมอีกที เขายังเรียนมัธยมปลายอยู่ และคาดว่าถ้าเขาจบเขาจะมาเข้าที่มหาลัยเดียวกับผมแน่นอน เพราะดิวน่ะ...

รักผม...

ผมเจอดิวตอนที่มำกิจกรรมรับน้องของคณะ เขามาหาเพื่อนผมที่ชื่อพัน และยังเข้ามาช่วยพี่ๆ เขาดูแลเรื่องกิจกรรมของพวกเราอีก ดิวเป็นเด็กน่ารักครับ ใครๆ ก็เอ็นดูเขา ผมเองก็เช่นกัน

ขณะที่ทำกิจกรรมหนึ่งอยู่ผมรู้สึกว่าภาพตรงหน้าเปลี่ยนสีวิบวับก่อนจะร่วงลงกองอยู่กับพื้น ดิวเป็นคนแรกที่วิ่งเข้ามาดูแลผม เพราะเขาอยู่ใกล้ผมที่สุด ร่างเล็กค่อยๆ ประครองให้ผมได้นอนหนุนตักเขาแล้วโบกกระดาษในมือ ลมเย็นๆ ช่วยให้รู้สึกดีขึ้น รุ่นพี่กรูตามมาทีหลังก็วิ่งเข้ามาหามผมไปนอนพักที่ห้องพยายาม สอบถามอาการและปัญหาสุขภาพที่ผมเป็น ผมบอกว่าผมน่ะเป็นโรหิตจาง หน้ามืดเป็นลมได้ง่าย ต้องขอโทษพี่ๆ เขา ดีที่รุ่นพี่เขาใจดี เขาเข้าใจและให้ดิวอยู่ดูแลผม

แต่รู้อะไรไหมครับ...ผมไม่ได้เป็นโรหิตจาง และผมไม่ได้หน้ามืดจริงๆ

อ้าว แล้วที่ล้มไปละ? ง่ายมาก...การแสดงยังไงละครับ

ก็ดิวเขาตรงสเป็กผมทุกอย่าง เขาดูอ้อนแอ้นเปราะบาง ดูออกในทันทีว่ามีรสนิยมชอบเพศเดียวกัน ที่สำคัญเขาไม่ออกสาวซึ่งผมชอบมาก ดิวมองผมตลอดผมรู้ ผมถึงต้องอ่อยกันหน่อย เปิดโอกาสให้เขาได้เข้ามาใกล้ๆ มาดูแลผมระยะประชิดตัวแทบติดกัน

ดิวเก้อเขินมากกับการต้องอยู่ดูแลผม เขาไปหายา หาน้ำมาให้ก่อนจะนั่งลงข้างเตียงเพื่อเฝ้าสังเกตการณ์ ผมมองหน้าเขา สำรวจและจับจ้องดวงตาที่พยายามหลบหลีกการรุกของผม แต่ไม่ว่าจะดูเมินแค่ไหน ใบหน้าสวยๆ นั่นก็แดงซ่านจนผมเห็นได้ชัดอยู่ดี ผมรู้ทันทีเลยครับว่าดิวหมายตาผมอยู่ และผมเองก็หมายตาดิวด้วย

ผมเอาเวลาช่วงที่เรานั่งจ้องหน้ากันสำรวจทุกอย่างที่เป็นดิว จากนั้นขอเบอร์โทรและไลน์เขาเอาไว้ ดิวยอมให้แต่โดยดี เหมือนเต็มใจมากๆ ด้วยซ้ำ ผมส่งยิ้มอ่อนโยนให้ดิวตลอด พยายามสั่นคลอนหัวใจด้วยน้อยด้วยความเป็นผม สุดท้ายภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงผมก็ได้จูบกับดิว

ผมกับดิวตกลงคบกันในวันนั้น โดยดิวไม่เคยรู้เลยว่าผมน่ะมีแฟนอยู่แล้ว...

ผมบอกกับดิวว่าบอมเป็นน้องชายที่อายุไล่เลี่ยกัน เราอาศัยอยู่ด้วยกันและน้องชายของผมไม่ชอบให้พาคนอื่นเข้าบ้านโดยเฉพาะเกย์ เป็นคำโกหกที่ดูไม่ดีเท่าไหร่แต่มันใช้ได้ผล ยิ่งพูดด้วยน้ำเสียงดีๆ ให้เขาเห็นใจเรายิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทุกวันนี้ดิวเลยไม่คิดมากเรื่องผมไม่พาเขาไปที่ห้องเลยสักครั้ง แถมยังเข้าอกเข้าใจผมดีเวลาผมต้องรีบไปหาบอม

และธุระของผมวันนี้ก็คือดิวนี่แหละครับ!

อันที่จริงต้องบอกว่าไอ้รายงานทีบอกกับบอมไปนั้นมีความเป็นจริงอยู่แค่นิดเดียว ผมมีรายงานชุดใหญ่ที่ต้องทำแต่มันเสร็จไปแล้วด้วยความช่วยเหลือของดิว ทั้งที่เยอะมาก แต่เด็กคนนี้กลับช่วยผมเคลียได้เสร็จภายในสองวันที่บ้านของเขา ที่เหลือผมก็เป็นเวลาของเราสองคน ซึ่งส่วนใหญ่มักคุยกันบนเตียงด้วยภาษากายมากกว่า

แรกๆ ผมกลัวบอมจะสงสัยเลยแกล้งจับผิดบอม ด้วยการซักนั่นซักนี่ แต่ดันไปโดนจุดเข้าเสียอย่างนั้น กลายเป็นว่าจากแกล้งกลบเกลื่อนตัวเองก็กลายเป็นความระแวงจริงจัง ถึงอย่างนั้นก็เถอะ...ผมปล่อยเด็กดิวตอนนี้ไม่ได้หรอก ผมชอบลีลาเขา ทั้งที่ยังละอ่อน แต่เรียนรู้ไวและเป็นผู้ตามที่ดีจริงๆ ผมเสนออะไร ให้ทำอะไรได้หมด

ดิวกับบอมน่ะ...คนละอารมณ์กันเลย

ไม่ใช่บอมไม่ดีนะ บอมยอดเยี่ยมเลยละครับ เอามัน ถึงพริกถึงขิงจริงๆ ลีลาไม่ต้องพูดถึง เราอยู่ด้วยกันมานาน พัฒนาจากความเงอะหงะมาชำนาญได้ไม่ยากเย็น แต่ที่ว่าคนละอารมณ์เพราะมันคนละคนกันไงครับ ดิวมอบความตื่นเต้นให้ผมได้ ถึงไม่อิ่มเอมเต็มร้อยเท่าทำกับแฟนตัวเองก็ตาม

“กินอะไรกันดีเอ่ย” ผมกระชับมือซ้ายซึ่งควรจะมีแหวนใส่อยู่ที่นิ้วนาง เป็นแหวนของดิว เขาซื้อให้ แต่ผมเลือกที่จะเก็บมันไว้โดยบอกว่าผมไม่ชอบใส่แหวน

ผมไม่ชอบใส่แหวนจริงๆ ครับ ผมกับบอมเราคบกันโดยใส่ต่างหูคู่เดียวกัน ผมสั่งทำมาเป็นพิเศษเพื่อเราสองคน ดังนั้นผมและเขาจึงไม่มีแหวนคู่ และไม่มีใครรู้เรื่องความสัมพันธ์อีกต่างหาก

“อืม...พี่แมทอยากกินอะไรอะครับ ดิวคิดไม่ออกเลย” เขาช้อนตามองพลางครุ่นคิด

“ที่คิดไม่ออกเพราอยากกินหลายอย่างหรือว่าไงน้า” ทำเสียงเย้าคนตัวเล็กข้างกาย

“โถ่พี่แมทก็ รู้ทันดิวอีกแล้ว ทำไงได้ละครับ นั่นก็อยากกิน นี่ก็อยากกิน...” ดิวส่งสายตาเชิญชวนมาในท้ายประโยค เราเข้าใจความหมายกันดีถึงแม้ไม่แสดงท่าทางอะไร

“ไอ้นี่น่ะเดี๋ยวได้กินแน่ครับ” ขยิบตาให้เขาด้วยความรู้กัน ดิวหน้าแดง เอียงคอเสตาไปทางอื่น

“งั้นก่อนได้กินไอนี่ เราไปกินไอนั่นกันดีไหมครับ” เขาชี้มาที่ผมก่อนจะชี้ไปที่ร้านบุฟเฟ่ร้านหนึ่ง

“ได้สิครับ เติมพลังงานให้เยอะๆ เลยนะ เพราะถ้าจะกินไอนี่น่ะต้องใช้พลังเยอะสุดๆ”
“อื้อ รู้ละหน่า” เขาตีผมเบาๆ แล้วจับมือผมเดินนำไปยังร้านที่เขาเลือก เราเข้าไปในร้าน เลือกที่นั่งด้านในๆ คนจะได้ไม่พลุกพล่าน

ผมปล่อยดิวเลือกน้ำซุป ตัวเองกดเข้าโปรแกรมแชตไลน์เพื่อคุยกับบอม พยายามสังเกตไปด้วยเขาตอบช้าเร็วแค่ไหน มีพิรุทไหม และผมให้เขาถ่ายรูปสถานที่ให้ดูด้วย ผมอยากมั่นใจว่าตอนนี้เขาอยู่กับเพื่อนจริงๆ ไม่ได้โกหกผมเพื่อไปเที่ยวกับสาวคนไหน เพราะผมหวงเขามาก ไม่อยากให้เขามีใครนอกจากผม

ทุกวันนี้ผมก็กลัวนะ กลัวว่าวันหนึ่งเขาจะทิ้งผมไป ผมรับไม่ได้แน่ๆ เราอยู่ด้วยกันทุกวันจนกลายเป็นความเคยชิน หากไม่มีเขาผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นยังไง อย่างดิวที่ผมแอบคบยังไม่สามารถทำให้ผมเติมเต็มได้เท่ากับบอมเลย เด็กคนนี้ให้ผมได้แค่เซ็ก แต่บอมให้ผมได้มากกว่านั้น เขาให้ความรัก ความอบอุ่น ความสบายใจ อยู่เขาผมไม่ต้องเสแสร้ง แค่มองตากันก็เปรียได้กับการบอกรักกันแล้ว

“พี่แมท...” ดิวเรียก ผมกดล๊อคปน้าจอแล้ววางมือถือลงกับโต๊ะ

“ครับ” ขานรับพร้อมรอยยิ้มที่ใครๆ ก็ชื่นชอบ

“คือว่า...” เขามีท่าทีคิดหนัก สีหน้าเคร่งเครียดพอสมควร มีอะไรหรือเปล่า เห็นกดมือถืออยู่เมื่อกี้นี้ด้วย

“ว่าอะไรครับ มีอะไรหรือเปล่า บอกพี่ได้เลยไม่ต้องกลัวนะ” เอื้อมมือไปกุมมือเล็กเอาไว้

“พ่อกับแม่ผม...อยู่บ้าน คือท่านไลน์มาบอกว่าท่านกลับเข้าบ้านมาแล้ว วันนี้ที่บริษัทมีปัญหานิดหน่อยเลยหยุดงานกันครึ่งวัน” เข้าใจความหมายในทันที ตามจริงวันนี้ก็นัดไปบ้านดิวนี่แหละครับ ไปทำอะไรก็พอเดาได้อยู่ แต่เมื่อสถานที่ไม่พร้อมอย่างนี้คงต้องยกเลิก ไม่ก็...

“ลองเปลี่ยนบรรยากาศดีไหมครับดิว” ผมยิ้มใส

“ยังไงครับ?”

“ดิวเคยเข้าโรงแรมม่านรูดไหมละครับ” พอถามหน้าเขาก็แดง คนตัวเล็กส่ายหน้าไปมาอายๆ

“ผมจะไปเคยเข้าโรงแรมได้ไงละครับพี่แมท คนที่ผมคบจนมาถึงขั้นนี้ได้ก็มีแค่พี่คนเดียวเท่านั้นเองนะครับ” เรื่องนี้ดิวเคยบอกผมแล้ว ผมเป็นผู้ชายคนแรกที่ได้ร่างกายเขามาครอบครอง แถมระยะเวลายังสั้นมาก คบกันสามวันผมรุกเขาหนักหน่วงที่ห้องนอนเขาทันที

ก็เพรารอยยิ้มใสซื่อนี่ไงละครับ คนที่มาคบหรือกระทั่งคนอื่นๆ ถึงตามเกมไม่เคยทัน เขามักคิดว่าผมไร้พิษสงและคาดว่าน่าจะเป็นคนดีสุภาพบุรุษงั้นงี้ ซึ่งสิ่งที่ผมแสดงออกมันก็เข้าเร้าอยู่หรอก เพียงแต่ด้วยนิสัยของผม มันตรงข้ามกับสิ่งเหล่านั้นอย่างสิ้นเชิง การที่ผมชอบยิ้มใสๆ นั้นไม่ได้หมายความว่านิสัยของผมจะต้องเป็นอย่างที่เห็นภายนอกนี่ครับ คนเราน่ะมันมีตื่นลึกหนาบางทั้งนั้นแหละ

“พี่ก็ไม่เคยเข้าครับ แต่พี่ก็อยากลองเข้าดูสักครั้งเหมือนกันนะครับ เพื่อนพี่เคยเล่าให้ฟังถึงบรรยากาศในนั้น พี่สนใจแต่ไม่มีใครให้พาเข้า” ส่งสายตาเชิญชวนให้อีกฝ่าย ดิวยิ้มเขิน

“ตอนนี้มีแล้วนี่ครับ” เขาตอบเสียงอ้อมแอ้ม ดูน่ารัก น่าชังมาก ไอ้ภาพแบบนี้ผมคงหาดูยากถ้าเป็นบอม

“ใช่ครับ ตอนนี้มีแล้ว งั้นวันนี้...ไปกันนะครับ”

“ครับ แต่พี่แมท...กลางวันแบบนี้เขาเปิดหรอครับ” ผมหัวเราะเบาๆ กับท่าทางไร้เดียงสา

“เปิดยี่สิบสี่ชั่วโมงนั่นแหละครับน้องดิว ไม่ต้องกลัว ได้กินไอนี่แน่ๆ” หน้าดิวแดงลามไปยันหู

“พี่แมทก็...ผมไปตักของกินดีกว่า” ดิวเชือกที่จะแก้เขินด้วยการเดินออกไปจากโต๊ะ ผมนั่งเท้าคางมองเขายิ้มๆ

เป็นเด็กผู้ชายที่น่ารักจริงน้า...

ดิวตักอาหารมาจำนวนหนึ่ง เอากลับมาวางที่โต๊ะและถามว่าผมต้องการอะไรบ้าง อยากกินอะไรเขาจะไปตักให้ ผมเลือกที่นะให้เขานั่งกินไปก่อน ส่วนผมเลือกจะเดินไปตักอาหารที่อยากกินด้วยตัวเอง ผมเป็นพวกเน้นกินเนื้อกับผักในปริมาณที่เท่ากัน อาหารจุกจิกอย่างอื่นจะไม่ค่อยกินนัก ไม่เหมือนดิวที่กินอาหารหลากหลายกับผม ทำให้บนโต๊ะกินข้าวเต็มไปด้วยอาหารมากมายแทบไม่ซ้ำกันอย่างละนิด อย่างละหน่อย เขาน่ารักตรวที่เขามาเพื่อให้ตัวเองกินหมดเป็นหลัก ถ้าผมจะกินก็ให้ แล้วเขาค่อยไปตักใหม่ เพื่อไม่ให้อาหารมันเหลือเพราะกินไม่หมด

“เออใช่! พี่แมท...ก่อนหน้านี้เห็นพี่แมทบอกคิดเรื่องน้องชาย จะเป็นไรไหมถ้าผมอยากถามว่ามีอะไรหรือเปล่า คือถ้าไม่อยากบอกผมก็ไม่เป็นไรนะครับ ผมแค่อยากรู้” นั่งกินไปครู่หนึ่งดิวก็เปิดประเด็นถาม

“บอกได้สิครับ น้องดิวเป็นแฟนพี่หนิ อะไรที่เราอยากรู้เกี่ยวกับพี่ พี่บอกเราได้ทั้งนั้นนั่นแหละครับ” หยอดประโยคน่ารักให้พร้อมกับรอยยิ้ม

“พี่แมทน่ารักที่สุดเลยครับ” เขายิ้มตอบตาหยี

“ก็ที่พี่เครียดๆ เรื่องน้องชายก็เพราะช่วงนี้เขาไปเที่ยวบ่อยน่ะ” ผมบอก

“แค่นั้นเองหรอครับ ผมว่าน่าจะปกตินะ กิจกรรมรับน้องก็จบแล้ว เขาน่าจะไปเที่ยวกับเพื่อนๆชดเชยช่วงเวลาที่ต้องโหมทำกิจกรรม” ผมเข้าใจข้อนี้ดี ผมเองก็เพิ่งผ่านการรับน้องมาได้อาทิตย์เดียว แถมในช่วงเวลาที่รับน้องอยู่ผมก็ไปบ้านดิวบ่อยๆ เหนื่อยจากกิจกรรมกลางแจ้งไม่พอ ต้องเหนื่อยจากกิจกรรมในร่มด้วยเพื่อสุขภาพที่ดี

“พี่เข้าใจครับ แต่ว่าเพื่อนที่บอมไปเที่ยวด้วยน่ะสิ ทำให้พี่หนักใจ” ผมระบายยิ้มทั้งที่ทำหน้าหนักใจ

“ทำไมหรอครับ เขาเป็นคนไม่ดีหรอ”

“ก็ประมาณนั้นครับ เขาชอบดื่มในผับในบาร์ตลอด บอมก็ไปกับเขาด้วย พี่กังวลว่าเพื่อนคนเนี้ยจะพาบอมเสียคน พักนี้นะ บอมบอบกลับบ้านมาพร้อมกลิ่นบุหรี่ด้วย พี่หนักใจมากๆ พอถามว่าสูบหรอเขาก็ปฏิเสธบอกกลิ่นบุหรี่เพื่อนมาติดที่ตัว แต่พี่เชื่อไม่ลง บอมต้องโกหกแน่ๆ” ดิวเอื่อมมือกุมมือผมที่ตีสีหน้าเครียดขึง

“แค่บุหรี่เองพี่...” เขาพยายามปลอบ
“น้องดิวก็รู้หนิครับว่าพี่น่ะเกลียดบุหรี่ พี่ไม่อยากให้น้องพี่ต้องไปสูบมัน แต่ไม่ว่าจะพูดยังไง บอมก็หาว่าพี่ชวนทะเลาะทุกที...” ถึงเรื่องที่พูดไปจะไม่ใช่เรื่องจริง แต่ก็เป็นการเปรียบเทียบที่ทำให้ผมเครียดจริง สีหน้าผมเลยดูหม่นหมองและชวนทำให้บรรยากาศมาคุ ดิวเอื้อมมากุมมือผม บีบเบาๆ ให้กำลังใจ ผมเลยจำต้องยิ้มอ่อนให้เขา
“บางทีมันอาจเป็นแค่กลิ่นจากเพื่อนเขามาติดตัวจริงๆ ก็ได้นะพี่แมท พี่น่ะอย่าคิดมากเลย แบบนี้จะทำให้พี่กับน้องพี่มีบรรยากาศที่ไม่ดีต่อกันมากกว่าเก่านะ บางครั้งคนเราก็ต้องผ่อนๆ ความเคร่งครัดนั้นลงบ้าง” ผมพยักหน้าให้ดิว
“ครับ พี่จะพยายามนะ” เห็นรอยยิ้มผมดิวก็ยิ้มตาม ผมเปลี่ยนเรื่องเพื่อจบบทสนทนาแล้วกินข้าวกันต่อ


มีต่อจ้า :katai5:

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 6 [27/12/59]
«ตอบ #52 เมื่อ27-12-2016 15:37:48 »

 :katai5: ต่อตรงนี้เลยจ้า

เรานั่งกินอาหาพร้อมพูดคุยเรืองต่างๆ นาๆ จนเวลาเกือบครบกำหนดถึงได้เช็กบิลแล้วออกไปเดินเล่นกลด้วยกัน ดิวเป้นคนที่ชอบควงแขนเวลาเดินเล่น แต่ผมไม่ค่อยอยากให้ควงเท่าไหร่เพราะถ้าเกิดเจอกับคนรู้จักที่รู้เรื่องของผมกับบอมมันจะเป็นประเด็น แต่ด้วยความทีไม่อยากให้เป็นที่สงสัย ผมจำยอมให้ดิวได้ทำตามใจของตัวเอง ผมเป็นพวกตามใจคนอื่นอยู่แล้วด้วย เพราะมันเข้ากับบุคคลิกของตัวเอง

การเอาอกเอาใจต่างๆ นาๆ นี่แหละที่ทำให้ดิวไม่เคยสวสัยอะไรและเชื่อใจไปเสียหมด รวมถึงคนอื่นๆ ที่ผมคบเพื่อเซ็กส์อีกหลายคน ยิ่งช่วงปิดเทอมมอหก ผมนี่ฟันแหลกหลาญเหมือนกัน ตอนนั้นมันยังง่ายเพราะผมกับบอมนังไม่ได้อยู่ด้วยกัน การแยกกันอยู่ทำให้เราสามารถทำอะไรได้ตามอำเภอใจ ไม่ต้องห่วงหรือกังวลมากนัก แต่ในขณะเดียวกัน อีกฝ่ายก็สามารถทำเช่นนั้นได้ไม่ต่างกัน ผมเองก็ระแวงบอมจะทำแบบที่ผมทำ ผมเลยตัดสินใจอยู่นานว่าจะให้บอมมาอยู่ด้วยกันดีไหมถ้าเข้าเรียนมหาลัยแล้ว ด้วยความหวงในตัวของมัน ผมเลยยอมทิ้งอิสระส่วนนั้นแล้วมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับมัน แล้วอาศัยช่วงเวลาที่ว่างเว้นอาเศษหาเลย

“พี่แมทดูนาฬิกาเรือนนั้นสิ สวยจังเลยนะครับ” เราผ่านร้านนาฬิกา ดิวชี้ให้ผมดูนาฬิกาเรือนหนึ่ง สีสันสดสวยตามสไตล์วัยรุ่นทั่วไป

“เข้าไปดูกันไหมครับ” ผมเชิญชวนเพื่อเอาใจ ดิวพยักหน้ารัวๆ

เราจึงหยุดดูนาฬิหาหน้าปัดโต สีสันสดสวย ทั้งที่ดิวเองก็มีใส่อยู่แล้วแต่เขาก็ยังชื่นชอบและอยากจะได้มัน ผมซื้อให้ดิวหนึ่งเรือนเมื่อเลือกได้สักที เขาลังเลใจอยู่นานว่าจะเอาเรือนไหน ผมเลยตัดสินใจแทนทั้งที่ไม่ได้ชอบ แต่เขาก็ดูไม่ออกเพราะผมเป็นคนที่ดูยาก

“พี่แมทซื้อใส่คู่กันสิครับ นะครับน้า...” ดิวหันมาอ้อนขณะที่พนักงานสาวกำลังเอานาฬิกาไปตั้งเวลาและใส่กล่องให้เรา ส่วนผมถือบัตรเครดิตเอาไว้เพื่อรอจ่ายเงินเกือบหมื่นกับนาฬิกาเรือนนี้

“ไม่เอาได้ไหมครับ พี่เพิ่งซื้อเรือนใหม่มาเอง” เจ้าเรือนใหม่ที่ว่าก็คือเรือนที่ซื้อใส่คู่กับบอมนั่นแหละครับ ถามว่าซื้อไว้เผื่อใส่อีกได้ไหมมันก็ได้แหละแต่ผมไม่ชอบสีแสบๆ หรือนาฬิกาสไตล์นี้เท่าไหร่ ขืนซื้อไป ก็มีแต่วางทิ้งไว้เปล่าๆ

“เสียดายจัง ผมอยากใส่คู่กับพี่แมท แหวนที่ผมซื้อให้พี่ก็ไม่ใส่คู่กับผมเลย...” ดิวหน้างอ เขาน้อยใจผมรู้ ผมลูบหัวเขาเพื่อปลอบใจ

“พี่ขอโทษ งั้นคราวหน้าพี่จะใส่แหวนดีไหม” ยิ้มละไมส่งให้

“ไม่เป็นไรครับ ถ้าพี่ไม่ชอบ ผมก็ไม่อยากให้พี่ฝืนใจตัวเอง ผมแค่น้อยใจนิดหน่อย...” ดิวอ่อนลงเมื่อเจอรอยยิ้ม

“ขอบคุณนะครับที่เข้าใจพี่ พี่ต้องขอโทษด้วยจริงๆ” ยิ้มเศร้าๆ ใส่

“ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องขอโทษผมหรอก ผมผิดเองที่ซื้อให้โดยไม่ถามพี่แมทก่อนว่าชอบไหม ไว้คราวหน้าผมจะถามพี่ก่อนละกันนะครับนะ” ดิวพูดเอาใจผม พลางเกาะแขนเอาหัวซบอ้อน ผมยิ้มหว้างขึ้น พยักหน้าแล้วก้มลงไปหอมศรีษะเขา

พยักงานหันมายิ้มให้กับภาพสวีทของผมกับดิว ผมยิ้มให้เธอแล้วยื่นบัตรเครดิตส่งให้ รอไม่นานมากนัก ทุกอย่างก็เรียบร้อย ผมพาดิวเดินเล่นเเพื่อหาซื้อของเอาใจเขา แต่ดิวไม่ได้เอาอะไรมากมายนัก มีเสื้อผ้านิดหน่อยเท่านั้น ซึ่งแต่ละชิ้นราคาค่อนข้างสูงทีเดียว

“อยากได้อะไรอีกไหมครับ” เดินวนจนรอบห้างไปหนึ่งรอบ ผมก็ถามเพราะขี้เกียจจะเดินแล้ว เรามีโปรแกรมว่าจะไปโรงแรม ตอนนี้ผมอยากตัดบทไปที่ตรงนั้นเลย

“อยากได้อยู่หนึ่งอย่างครับ” ดีเลยเหลือแค่อย่างเดียว

“อะไรหรอครับ”

“ก็...อยากได้ไอนี่ไงครับ” เขาจ้องตาผมทั้งที่หน้าแดง ผมจึงเข้าใจความหมายคำพูดนั้นได้เป็นอย่างดี

“งั้นเราไปเอาไอนี่กันครับ” ดิวพยักหน้า ผมดึงแขนออกจากการควงแล้วจับมือจูงเขาไปที่ลานจอดรถ

รถของผมไม่ใช่รถเก๋งหรือรถสป๊อตหรูๆ แต่เป็นรถมอเตอร์ไซค์หกร้อยห้าสิบซีซีของค่ายยักษ์เขียว ผมชอบขับขี่แบบนี้มากกว่า แถมยังเข้ากับเมืองไทยได้ดีเพราะเมืองไทยรถเยอะ ไปที่ไหนๆ ก็มีแต่รถติด นอกจากต่างจังหวัด ชนบทอะไรทำนองนั้น บอมไม่ค่อยชอบมันทำให้ผมเสียทรง แต่ดิว อะไรก็ได้ เขาหลงผมสุดๆ

ผมใส่หมวกกันน๊อคให้ดิว เป็นหมวกที่ผมซื้อให้ใหม่และให้เขาเป็นคนเก็บและพกพาเอง ผมพกไม่ได้เดี๋ยวบอมจะรู้ แต่หมวกบอมผมเป็นคนพก ซึ่งดิวรู้ว่านั่นเป็นของน้องชายผม ผมไม่ให้เขาใช้ร่วมกัน เมื่อเรียบร้อยแล้วก็มุ่งตรงไปที่โรงแรมม่านรูดแถวนี้ ผมเคยพาคนอื่นมาอยู่ครั้งสองครั้ง ตัวห้องค่อนข้างสวยและสะดวกใช้ได้ ราคาไม่สูง ส่วนบริการมันก็เหมือนๆ กับที่อื่นนั่นแหละครับ

แต่ก่อนจะได้เลี้ยวเข้าห้อง มีรถแท็คซี่คันหนึ่งเคลื่อนผ่านไป ตาผมเหลือบไปเห็นบอมกำลังนั่งคุยกับผู้หญิงคนหนึ่ง ในอกข้างซ้ายกระตุกวูบอย่างรุนแรงทันใด ความเจ็บแล่นริ้วขึ้นมาช้าๆ ร่างกายผมชาไปหมด...

ผมมองรถคันนั้นเลี้ยวช่องหนึ่งไป ผมจำตำแหน่งได้แม่นมากๆ ผมตัดสินใจหักเลี้ยวรถกลับออกไปทางหน้าซอยของโรงแรมแห่งนี้ ดิวคงไม่เข้าใจแต่ผมไม่ได้อธิบายอะไรระหว่างที่ขับ มือมันสั่นมากๆ ปากคอก็พาลเป็นไปด้วย เพราะการเห็นบอมมาที่นี่กับผู้หญิงมันทำให้ข้อสันนิฐานของผมเป็นจริง สิ่งที่ผมกลัว สิ่งที่ผมระแวงมาตลอดมันเป็นเรื่องจริง กลิ่นน้ำหอมพวกนั้นไม่ได้มาจากเพื่อนๆ ของเขาแบบที่ผมคิดเด๊ะ

บอมนอกใจผม!

“ดิวกลับไปก่อนนะ พี่มีเรื่องต้องสะสาง” ผมหันไปบอกหลังจอดรถที่หน้าปากซอย ดิวอึ้ง เขาลงจากรถ ถอดหมวกและทำท่าจะถาม แต่ผมไม่สน โบกแท็คซี่ให้เขาแล้วก็ขับวนกลับเข้าไปในม่านรูด

ผมพุ่งตรงไปที่ช่องนั้น พนักงานตั้งท่าจะเข้ามาขวางแต่ว่าไม่สามารถขวางรถที่ขับมาเร็วได้ ผมละทิ้งรอยยิ้มประจำตัว ถอดหมวกแล้วชี้หน้าพนักงาน  สายตาคมกล้าทำให้อีกฝ่ายเข้าใจสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี ผมเชื่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกพนักงานเหล่านี้ได้พานพบ แต่มันเป็นครั้งแรกของผม ที่ต้องเข้าไปลากตัวแฟนเหี้ยๆ ของตัวเองออกมาจากการเอาผู้หญิงเข้าโรงแรม

“ข้างในม่านรูดมันเป็นอย่างนี้นี่เอง พี่เคยเห็นแต่ในหนัง...” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดออกมา

“หรอครับ แล้วเป็นไงบ้างพอได้เข้าแล้ว” เสียงของบอมกระเส่ามาก ผมกำลูกบิดเอาไว้แน่น มือสั่นจนควบคุมไม่ได้

“ตื่นเต้นดี...” เธอตอบ

“อืม...ตื่นเต้นจริงๆ”

“อื้อ...” เสียงกระเส่าของผู้หญิงดังรอดออกมา ผมไม่อยากจะจินตนาการถึงภาพของทั้งคู่

ผมตัดสินใจถีบประตูให้มันเปิดออก โดยไม่สนใจพนักงานที่ยืนตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก บอมกำลังคร่อมผู้หญิงคนนั้นบนเตียงนอนกว้างสีขาวสะอาด แสงไฟฟ้าอมม่วงทำให้บรรยายมันดูอีโรติก ทั้งสองคนมองมาที่ผมเป็นตาเดียวกัน บอมลุกขึ้นยืนอย่างไว ส่วนเธอคนนั้นรีบดึงเสื้อปกปิดตัวเอง

“นะ...นายเป็นใครเนี่ย! เข้ามาได้ไงห้ะ!!!” ผู้หญิงรีบเข้ามากอดแขนบอมที่ยืนทำอะไรไม่ถูก

ผมจ้องตาบอม สะกดให้มันมองตอบไม่ยอมให้ละสายตา มันคงเข้าใจความหมายดี ผมบอกเลยว่าในตอนนี้มันไม่ต่างอะไรกับการโดนคนที่รักตรงหน้าเอามีดมาแทงที่อกข้างซ้าย แม่งโคตรเจ็บปวด น้ำตารื้นขึ้นมาคลอหน่วงแต่ไม่ยอมให้รินไหลต่อหน้าอีผู้หญิงคนนี้ ผมสาวเท้าเข้าไปหาคนทั้งคู่ เอื้อมมือหมายจะกระชากบอมที่ตัวแข็งทื่อ แต่เธอเข้ามาปัดมือผมออกอย่างแรง

“ออกไปเดี๋ยวนี้นะไอ้บ้า!!!” เสียงหวีดแหลมของเธอเรียกสายตาของผม แต่พอโดนจ้องเธอก็ถอยไปยืนหลังบอม

“ข้างนอกน่ะมีใครอยู่ไหม เข้ามาลากไอ้นี่ออกไปที! บอม...บอมไล่มันออกไป” แรงเขย่าของเธอไม่ได้ทำให้บอมกระดิกตัว ผมยังคงก้าวเข้าไปหา กระชากเสื้อบอมแม้เธอจะยื้อแขนของผมเอาไว้

“ปล่อยบอมเดี๋ยวนี้นะ! บอมนายทำอะไรสักอย่างสิ!!!”

“หุบปากดิ้!!!” ผมตะคอกใส่ผู้หญิงตรงหน้า แล้วออกแรงดึงบอมเข้ามาประชิด

“แมท...”

“ยังจำชื่อผัวได้หรอ! ยังจำกูได้หรอห้ะ!!!” ผมตะคอก

“พูดบ้าอะไรของนายเนี่ย เป็นบ้าไปแล้วหรอหะ!” ผมหันขวับไปทางเธอ

“ออกไป!”

“นายต่างหากต้องไป!” เธอยังขึ้นเสียง

“กูบอกให้ออกไป!!!” ความอดทนของผมเริ่มหดหายลงไปเรื่อยๆ

“ไปคุยกันที่บ้าน...” บอมบอกเสียงอ่อน

“ทำไม กลัวว่ากูคุยตรงนี้แล้วอีนี่มันจะรู้หรอว่ามึงเป็นอะไรกับกู!!! มึงบอกกูว่าอะไร...ให้เชื่อใจ แล้วมึงทำแบบนี้กับกูหรอบอม มึงทำกับกูแบบนี้ได้ยังไง!!!” น้ำตาหยดหนึ่งร่วงหล่นอาบแก้ม คนตรงหน้ามองผมด้วยสายตาปวดร้าว มันจะหันหน้าหนีแต่ผมใช้มือบีบสันกรามของมันให้มองตอบผม

ผมไม่สนใจว่าผู้หญิงคนนั้นเงียบไปเพราะอะไร จะพอเข้าใจสถานการณ์ขึ้นบ้างหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ เธอไม่กล้าเข้ามาแทรกกลางระหว่างผมกับบอม ราวกับมองภาพตรงหน้าด้วยความไม่เข้าใจ ผมไม่แคร์หรอก...ในเวลานี้ผมไม่สนด้วยซ้ำว่าจะถูกมองด้วยสายตาแบบไหน กับการที่ผู้ชายคนหนึ่งต้องหลั่งน้ำตาเพราะผู้ชายอีกคนหนึ่ง มันคงน่าสมเพชมากๆ แต่ลองเป็นผมสิ จะรู้เลยว่าในเวลานี้ไม่มีใครคนไหนในการรับรู้ทั้งนั้นนอกจากคนที่ขึ้นชื่อว่าแฟน

“มึง...” ปากบอมสั่น และตาก็แดงก่ำจนเหมือนจะร้อง

“มึงหลอกกูมาตลอด มึงมีคนอื่น...กลิ่นน้ำหอมที่ติดตัวมึงก็ของอีนี่ใช่ไหม บัตรเครดิตของกูก็เอาไปรูดของให้อีนี่ใช่หรือเปล่า ตอบกูสิบอม...ตอบกูมาสิ” ตะคอกใส่ทั้งที่เรียวแรงมันเหมือนจะหายไปจากร่างหมดแล้ว

ผมถูกหลอกมาตลอดเลย...

“กูขอโทษ...” มันก้มหน้าลง น้ำเสียงและร่างกายของมันสั่นอย่างหนัก ผมรู้ได้ในทันทีว่าคนตรงหน้านี้กำลังร้องไห้

“ทำกับคนที่รักมึงอย่างนี้ได้ไงบอม...” กระชากเสื้ออย่างแรงให้บอมเงยหน้ามองตาผม

มันเม้มปากสั่นๆ ของตัวเอง มือที่อ่อนแรงยกขึ้นกอดเอวของผมไว้ ท่าทางเหมือนคนกำลังรู้สึกผิด แต่ผมจะเชื่อได้ไหม มันหลอกผมขนาดนี้ ผมจะยังเชื่ออะไรมันได้อีก พอจับได้คาหนังคาเขา ภาพที่มันเคยโกหกผมต่างๆ นาๆ ก็ไหลทะลักเข้ามาไม่ขาดสาย ทุกครั้งมันจะชวนทะเลาะ หาว่าผมไม่เคยไว้ใจมัน...นี่ไง เพราะกว่ามันจะทำแบบนี้กับผมไง แล้วสุดท้ายสิ่งที่ผมกลัวมาตลอดก็เกิดขึ้นจริงๆ

“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!” คนที่เงียบไปนานอย่างผู้หญิงคนนี้ก็เอ่ยขึ้น ผมหันไปมองก่อนจะลากบอมออกมา

ผมกระชากมันเหมือนหมูเหมือนหมา รู้ว่ามันจะเจ็บกับการกระทำของผม แต่ที่มันทำก็ไม่ต่างจากการฆ่าผมทั้งเป็นเหมือนกัน ผมคร่อมรถมอเตอร์ไซค์ หันไปมองมัน บอมก็ขึ้นรถอย่างรู้สิ่งที่ตัวควรทำ พอนั่งได้ที่ผมก็บิดมอเตอร์ไซค์ออกไปจากสถานที่แห่งนี้ทันที

*********จบบทที่ 6************

ดราม่าซะแล้ว :o12: :o12:

ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 6 [27/12/59]
«ตอบ #53 เมื่อ27-12-2016 19:53:48 »

อืม อืมม เรื่องนี้คนศีลเสมอกันมาคบกันสินะ ต่างฝ่ายต่างอยากให้อีกคนซื่อสัตย์ แต่ตัวเองกลับนอกใจอีกฝ่ายซะเอง ผิดทั้งคู่ ไม่รู้จะสงสารหรือสมเพชใครก่อนดี  แต่แมทนี่ถึงขนาดคบอีกฝ่ายเป็นแฟนเลย เฮ้ออออออ -_-a :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 6 [27/12/59]
«ตอบ #54 เมื่อ27-12-2016 20:14:06 »

แมทกับบอมเสียใจเหมือนกัน ที่ไม่เหมือนคือแมทเสียเงินด้วย  :hao6:  แหม่

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 6 [27/12/59]
«ตอบ #55 เมื่อ27-12-2016 20:26:43 »

ผีเน่ากับโลงผุจริงๆ :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 6 [27/12/59]
«ตอบ #56 เมื่อ27-12-2016 20:45:35 »

บอม นอกใจแมท มาตลอด
แมท จับได้คาหนังคา......
แมท ไม่อยากให้บอมนอกใจตัวเอง
แต่ตัวเองก็นอกใจบอม :katai1: :katai1: :katai1:
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:     

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 6 [27/12/59]
«ตอบ #57 เมื่อ28-12-2016 02:19:42 »

 :ling2: สนุก สนุก มวยถูกคู่จริงๆ แมทก็มีน้องดิวแต่แมทจับผิดบอมได้คาหนังคาเขานี่สิ
  รอ รออ่านต่อคับ

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 6 [27/12/59]
«ตอบ #58 เมื่อ28-12-2016 03:52:47 »

ยังอยู่ข้างบอมน้าจ๊าาาส คิคิ  :hao7: อิอิ เลือกฝั่งไม่ผิดจริงๆ รู้นะว่าแมทมันร้ายยยยยยย
โอ๋ๆ น้องบอม มาให้เพ่ปลอบใจเร็ววว  :mew2:
แบคอัพให้บอมตลอดจ้าาา รู้สึกถูกชะตากับบอม
ก็ดูเหมือนจะพอๆกัน แต่บอมมีกิ้กเป็นผญอะ ไม่ค่อยสมน้ำสมเนื้อ
คราวหน้า มีเป็นผชเลยนะลูก ขอหล่อกว่าแมทด้วย แมทยังมีน่ารักกว่าบอมได้เบย คิคิอุอิ
อิอิอิ ว่าละแมท ไม่เคยเข้าข้างแมทเบยค่าา ถูกชะตากับบอมพ่อแมวน้อยของพรี่ กี้กี้
เป็นกำลังใจให้คนเขียนน้าค้าา  :hao7: กำลังมันส์เบยยช่วงนี้ กุกิ อย่าขาดช่วงน้าางิงิ

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 6 [27/12/59]
«ตอบ #59 เมื่อ28-12-2016 06:04:13 »

แบบนี้ก็ดีนะ ไม่ต้องสงสารใคร คู่เวรคู่กรรมกันดี
เชียร์ให้เอากันให้ตายบนเตียง 555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด