「Behind the Scene」 #ข้างหลังฉาก (End.) : ตอนพิเศษ : วานเลนไทน์ปีนี้ - (2/11/60)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 「Behind the Scene」 #ข้างหลังฉาก (End.) : ตอนพิเศษ : วานเลนไทน์ปีนี้ - (2/11/60)  (อ่าน 195238 ครั้ง)

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ซีนปฏิเสธหนักมาก...

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ alien.aiiwz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ติดโซลซีนหนักมากกก
ขนาดยังไม่เปิดกล้องยังมีมุ้งมิ้งขนาดนี้
ถ้าถ่ายไปเรื่อยๆ เจอฉากหนักๆจะขนาดไหน
หูยยยย
อดใจรอไม่ไหวแล้ว
 :mew3:

ออฟไลน์ Lilyrum

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
แงงงงง รอติดตามเลยค่ะ สนุกมากๆ

ปล. ม๊า สะกดไม้ตรีนะคะ

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
พี่ซีน ยังไงคะ??


ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
งุ้ยยย น้องแสดงออกขนาดนี้แล้ว พี่หวั่นไหวแล้วใช่ไหมคะ  :hao7:

ออฟไลน์ Honeyhoney

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
 :hao7: เสร็จเด็กแน่ ๆ ค่ะ แบบนี้ ใจอ่อนให้ตลอดดด เด็กมันร้ายนะคะ

ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2

ออฟไลน์ MmBb

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 180
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ได้เจอนิยายดีต่อใจอีกเรื่องแล้ว พี่ซีนน่ารักมากๆ
โซลนี่น่าจะคิดไม่ซื่อกะพี่ซีนใช่ป่ะคะ รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
วันละนิด เดี๋ยวก้ออ่อน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ zongpei96

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-0


ตอนที่ 7







วันนี้ไอ้โซลมาถึงก่อนผม



นักแสดงทุกคนอยู่ในชุดนักศึกษา ผมกับไอ้โซลยืนอยู่ข้างกัน ก้มหน้าพนมมือฟังพราหมณ์ทำพิธี ผมไม่ถูกกับกลิ่นธูปเท่าไหร่ จริงๆ ไม่ถูกกับกลิ่นควันทุกชนิดเลยหายใจลำบากไปบ้างแต่สุดท้ายพิธีก็จบลง



มีนักข่าวมาทำข่าว ถ่ายรูปและสัมภาษณ์พวกผม ส่วนใหญ่เป็นนักแสดงหน้าใหม่กันแทบทั้งหมด มีตัวประกอบอยู่ไม่กี่คนที่เคยเห็นหน้าค่าตาทางทีวีบ้าง อย่างคนที่ต้องแสดงเป็นน้ำ เธอชื่อหนิง เป็นผู้หญิงที่ไอ้พระเอกในเรื่องจะใช้มาประชดผม เธอเคยผ่านผลงานการแสดงมาบ้าง ผมนึกว่าจะหยิ่งๆ ถือตัว แต่เปล่าเลย พอได้คุยแล้วถึงรู้ว่าเธอเหมือนกับกิ๋ง...



หมายถึงเป็นผู้หญิงที่เข้ากับผู้ชายได้เป็นอย่างดี



นักข่าวก็สัมภาษณ์ทั่วไป ว่าเรื่องเกี่ยวกับอะไร รับบทเป็นอะไร เห็นว่าผมกับไอ้โซลอยู่มหา’ลัยเดียวกันด้วย...บลาบลาบลา



แน่นอนว่าผมเกร็ง คนหน้าใหม่อื่นๆ ก็คงจะเหมือนกัน ยกเว้นแต่หนิงล่ะมั้งที่อาจชินกับไมค์และกล้องพวกนี้แล้ว



ผมก็ตอบไปตามคำถาม รู้สึกเสียงสั่นเล็กน้อยเหมือนเวลาออกไปพรีเซ้นท์งานหน้าห้อง...แต่ดูเหมือนนี่จะยิ่งกว่าพรีเซ้นท์งาน



มือไอ้โซลแตะอยู่ที่ด้านหลังของผม...ตบเบาๆ เหมือนให้รู้ว่ามันอยู่ตรงนี้ ไม่มีอะไรน่ากลัว ไม่ต้องซีเรียสอะไรด้วย...นั่นทำให้ผมคลายอาการตื่นเต้นไปได้พอสมควร



แต่มันก็เป็นสัมภาษณ์ธรรมดาๆ จริงๆ แหละครับ พี่นักข่าวบางคนยังถามขำๆ ด้วยซ้ำไปว่าผมกับไอ้โซลจะคบกันจริงๆ ได้หรือเปล่า



ผมหัวเราะไปตามน้ำ ถ้าเป็นเพื่อนถามประโยคนี้ก็คงพ่นคำหยาบใส่ไม่ก็ยืนกรานเด็ดขาดว่าไม่ แต่อาจเป็นเพราะเราต้องสร้างกระแส หรือเพราะความขี้เล่นของไอ้โซล...ทำให้มันตอบนักข่าวคนนั้นกลับไปว่า...





“เป็นเรื่องของอนาคตครับ”





แหม พ่อดาราใหญ่



พอเห็นไอ้โซลเล่นด้วย พี่ๆ ก็ได้ใจกันใหญ่



“คุณพระเอกว่ามาอย่างนี้” หันไปทางเฟิร์สบ้าง “แล้วคุณพระรองล่ะคะ?”



คนถูกถามอมยิ้ม และตอบออกไปด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล...





“อยากให้มีวันนั้นเหมือนกันครับ”





เกิดเสียงฮือฮาพร้อมกับเสียงโห่แซวจากทั้งนักข่าวและนักแสดงคนอื่น ผมยิ้มค้าง หัวเราะแหะๆ ไปด้วยเล็กน้อย...ก็แค่ตั้งตัวไม่ทันตั้งแต่ไอ้โซลพูดแล้ว จะพูดอะไรก็น่าจะเตี๊ยมกันก่อน



มันน่าจับสองคนนี้ไปอยู่ด้วยกันซะให้เข็ด



ไม่ชอบขี้หน้ากันแทบตาย...แต่ทีอย่างนี้ล่ะร่วมด้วยช่วยกันสร้างกระแสดีจริงเชียว!











****











ผมอยากกลับบ้าน



เมื่อวานเพิ่งสอบเสร็จแถมยังกลับบ้านดึก วันนี้ก็ตื่นเช้า อีกไม่กี่วันเริ่มถ่าย นั่นหมายความว่าผมมีเวลาพักผ่อนน้อยนิดมากสำหรับปิดเทอมครั้งนี้



...แต่ผมกลับบ้านไม่ได้



เฟิร์สชวนไปดูหนังเรื่องเดียวกับที่ไอ้จั๊มพ์ชวน ผมเลยบอกไปตามตรงว่าผมดูมาแล้ว แต่เฟิร์สบอกว่างั้นเราไปดูเรื่องอื่นกันก็ได้



“ก็บอกไปเลยสิว่าพี่ —” ผมปรายตามองคนพูด ไอ้โซลเลยเงียบ มันไม่ค่อยจะเก็บอาการ แล้วตรงนี้คนเดินเพ่นพ่านเต็มไปหมด คงไม่ดีที่จะมีใครมาเห็นว่านักแสดงไม่ถูกกันทั้งที่ยังไม่เริ่มเปิดกล้องเลยด้วยซ้ำ



“ว่าไงซีน”



ผมไม่ใช่คนที่ปฏิเสธเก่งอะไร น้ำเสียงที่เฟิร์สใช้ไม่มีการบังคับ แต่หมอนี่ดูอยากให้ผมไปด้วยมากๆ ซะจนผมเกรงใจ



ผมอึกอัก ใจมันไปอยู่บ้านแล้วแต่ทางนี้ก็ไม่รู้จะทำยังไง



“เมื่อกี้ผมแค่จะบอกพี่ว่าอย่าลืมนัดของเรานะครับ” คนที่เด็กที่สุดในนี้พูดขึ้นอีกครั้ง ผมทำหน้างง นัดอะไรอีก “ซ้อมไงครับ เดี๋ยวก็เริ่มถ่ายแล้วนะ”



แล้วผมก็เข้าใจทันทีว่ามันต้องการจะทำอะไร



เฟิร์สไม่สนใจไอ้โซล แม้ผมจะแอบเห็นว่าเขาหายใจเข้าลึกๆ เหมือนพยายามระงับอารมณ์ก็เถอะ แต่ก็ยังส่งยิ้มให้ผมเหมือนเดิม



“ซีนมีนัดแล้วเหรอเนี่ย”



ไอ้โซลเปิดมาขนาดนี้แล้วผมก็ต้องตามน้ำใช่ไหม…



“อ..อื้ม โทษทีนะ”



“กี่โมงล่ะ หนังสองชั่วโมงเอง”



เด็กตัวสูงข้างๆ ทำท่าดูนาฬิกา “อีกชั่วโมงก็ถึงเวลานัดแล้วครับ”



เฟิร์สจ้องหน้าเหมือนรอเอาคำตอบจากผมเท่านั้นซึ่งผมทำได้เพียงยิ้มแห้งๆ กลับไป เรื่องซ้อมอะไรนี่ก็เออออไปตามเด็กนั่น ผมจะไปรู้ได้ไงว่าต้องตอบไปว่าอะไรมั่ง เผื่อตอบผิดก็ถูกจับได้น่ะสิ



“จริงๆ เรานัดกัน —”



“ถามซีน”



ไม่บ่อยนักที่เฟิร์สจะแสดงอาการออกมา แต่ไอ้โซลก็ไม่สะทกสะท้าน ซ้ำยังดูสนุกซะอีก



“..ก็ตามนั้นแหละ” ผมตัดสินใจพูดออกไป ยังไงผมก็เป็นคนกลาง ถ้าปล่อยให้สองคนนี้คุยกันมันคงได้แลกกันสักหมัด ไอ้โซลกวนตีนน้อยที่ไหน



แต่นั่นยิ่งทำให้เด็กตัวสูงนี่ได้ใจ มันเดินเข้าไปหาเฟิร์ส ถึงแม้ว่าคนตรงทางเดินจะน้อยลงแล้วแต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีใครอยู่เลย กล้องวงจรปิดก็มี ผมเลยคว้าแขนมันเอาไว้ จะเริ่มถ่ายอยู่แล้ว จะมามีเรื่องกันไม่ได้นะเว้ย!



“ได้ยินแล้วนะครับ ว่าพี่ซีนไม่ว่าง”



มันยิ้ม...



“...เพราะผมจองไว้แล้ว”



แต่เป็นรอยยิ้มที่ทำให้เฟิร์สกำมือแน่น



ผมดึงไอ้โซลมายืนข้างๆ บอกขอโทษเฟิร์สไปอีกครั้งแล้วรีบพาไอ้โซลออกมา ดูมันจะสนุกมากที่ยั่วโมโหเฟิร์สได้สำเร็จ เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่เห็นเฟิร์สเก็บอาการไม่อยู่อย่างนี้



“ไม่ต้องมายิ้ม มึงนี่แม่ง”



“ผมช่วยพี่นะ หรืออยากไปกับไอ้นั่น?”



“ก็ไม่ แต่เรียกเฟิร์สดีๆ ดิ เขาเป็นพี่มึงนะ”



เด็กตรงหน้ากรอกตา “เฮ้อ ทำดีแล้วไม่เห็นจะชมกันมั่ง”



“โกหกไม่ใช่เรื่องดีซะหน่อย”



“นี่อยากไปดูหนังกับไอ้นั่นจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย”



“อยากหรือไม่อยากแล้วมึงจะโมโหทำไม”



เรายืนกันอยู่ในลานจอดรถ ไอ้โซลเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ผมรู้ว่ามันไม่ชอบที่ผมคุยกับเฟิร์สนัก แต่มันอายุเท่าไหร่แล้ว ผมไม่ใช่เด็กประถมนะที่ถ้าเพื่อนไม่ชอบใครแล้วเราต้องไม่ชอบไปด้วยน่ะ



ผมกอดอกมองคนตรงหน้า สูดกลิ่นธูปเป็นชั่วโมงทำเอาผมปวดหัวแล้วยังต้องมาลำบากใจกับเรื่องไม่เป็นเรื่องอีก



ปล่อยให้ลานจอดรถเงียบอยู่อย่างนั้นเกือบนาที ก่อนที่เสียงถอนหายใจดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงทุ้มที่อ่อนลงกว่าเดิม



“ผมเห็นพี่ปฏิเสธแล้วมันยังตื้อผมเลยช่วย แต่พี่พูดเหมือนผมทำผิด”



มันไม่ได้ทำผิด แต่ก็ไม่ถูกซะทีเดียว



ไอ้โซลอาจไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ผมกับเฟิร์สเราคุยกันปกติ เขาออกจะดีกับผมมากด้วยซ้ำ นั่นทำให้ผมเกรงใจและพยายามรักษาน้ำใจเฟิร์ส



ผมไม่ได้อยากทำให้ใครเสียความรู้สึก



“ก็ไปโกหกแบบนั้น กูแค่รู้สึกผิด”



เอาเข้าจริง ถึงแม้ผมจะไม่ชอบวิธีการนี้เท่าไหร่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันไม่มีทางอื่นที่ดีกว่านี้แล้ว จริงๆ มีอีกทางคือพูดตรงๆ ไปเลยว่าผมไม่อยากไปไหนมาไหนกับคนที่เพิ่งรู้จัก แต่นั่นแหละ ใครจะไปทำ



“แค่นั้น?”



“อืม”



“แค่รู้สึกผิด?”



“ก็เออน่ะสิ”



“ไม่ได้อยากไปกับมัน?”



“เออออออ” ผมลากเสียงยาว จนคนที่ยืนพิงรถผมอยู่หลุดยิ้มออกมา



“บอกให้เรียกเฟิร์สดีๆ ไง”



แล้วมันก็หุบยิ้ม เปลี่ยนเรื่องทันที



“ผมมีวิธีทำให้พี่หายรู้สึกผิดนะ”



ผมเลิกคิ้ว “ยังไง”



“ทำให้เรื่องโกหกกลายเป็นเรื่องจริงไงครับ”



ผมกดปลดล็อครถ ไอ้โซลถอยออกมาเล็กน้อยก่อนจะเปิดประตูรถให้ผมพร้อมกับผายมือ เห็นผมทำหน้าเอือมๆ ก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดีต่างกับเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้าลิบลับ



“กูไม่มีอารมณ์ซ้อมหรอกนะ”



“แค่เราอยู่ด้วยกันก็พอ คนอื่นไม่รู้หรอกว่าเราซ้อมหรือไม่ซ้อม”



ตั้งแต่เริ่มเรื่องมาผมปฏิเสธอะไรได้มั่งเนี่ย?



แต่เหตุผลของมันก็เข้าท่าอยู่เหมือนกัน แล้วผมก็ขี้เกียจเถียงแล้วด้วย



“ไปบ้านกูนะ”



“แน่นอนสิครับ J”



ผมไม่น่าเออออไปกับมันตั้งแต่ทีแรกเลยนะว่าไหม?











****











“ปิ๊กมี่!”



“ปิ๊กมี่!”



เจ้าของชื่อเอียงคอมอง ทำหน้างง มันไม่ได้ไม่รู้จักชื่อตัวเองหรอก แต่มันไม่รู้จักคนตรงหน้าต่างหาก



“เฮ้ มาเล่นกันหน่อย”



ไอ้โซลแทบจะนอนราบไปกับพื้น ทุ่มสุดตัวเพื่อเรียกเจ้าหมาขาสั้นของผมให้เข้าไปหา มันมองมนุษย์ที่ไม่คุ้นหน้าแต่ท่าทางเป็นมิตร ขาสั้นๆ ก้าวออกไปข้างหน้าเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็หันกลับมาหมอบลงตรงขาผมเหมือนเดิม



“ไม่เอาน่าเตี้ย”



คนที่หมาไม่เล่นด้วยโอดครวญ



“ทำไมหมาพี่ทำงี้กับผมอ่ะ”



“ก็มันไม่รู้จักมึง”



ผมกดเปลี่ยงช่องไปเรื่อยๆ โซฟาข้างตัวยุบลงเมื่อไอ้คนบนพื้นถอดใจ



“เป็นหมาควรจะเข้ากับคนง่ายนะปิ๊กมี่” ผมเหลือบมองคนข้างๆ เห็นแล้วก็อดขำไม่ได้ คนอย่างมันคงมีแต่ผู้หญิงวิ่งเข้าหา แต่ตอนนี้กลับโดนหมาเมิน



ไม่ใช่แค่ไอ้โซลหรอก พวกเพื่อนผมก็เคยเป็นแบบนี้เหมือนกัน แต่พอปิ๊กมี่เริ่มคุ้นเคยมันก็ยอมให้เล่นด้วย



“มาบ่อยๆ เดี๋ยวมันก็วิ่งเข้าหามึงเอง”



ผมหยุดช่องไว้ที่สารคดีสัตว์โลก จ้องเพนกวินตัวอ้วนๆ ในจออยู่แต่หางตาก็แอบเห็นว่าไอ้คนข้างๆ นั่งหันหน้ามาทางผม



“อะไร”



“ถือว่าเป็นคำชวนนะครับ”



เสียงถอนหายใจของผมทำให้มันหัวเราะน้อยๆ ก่อนที่มันจะขยับไปนั่งดูทีวีตรงๆ



เจ้าตัวสี่ขาลุกขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ มันเอาเท้าข้างนึงวางบนเท้าผมแล้วเขี่ยเบาๆ



“หิวเหรอ”



มันมองตาแป๋ว แต่ท่าทางนิ่งเฉยของผมคงทำให้มันรู้ว่าผมปฏิเสธ มันเลยร้องครางหงิงๆ อย่างน่าสงสาร



ปิ๊กมี่ขี้อ้อน ซึ่งบางทีผมก็ใจอ่อน พอน้ำหนักขึ้นก็ยิ่งต้องใจแข็งเป็นสองเท่า ให้กินพร่ำเพื่อไม่ได้ แต่ดูท่าวันนี้ลูกอ้อนจะเยอะผิดปกติ



หงิง ๆ ๆ ๆ ~



“ผมว่าให้มันกินนิดนึงก็ได้น่า”



แถมมีคนให้ท้ายด้วย



“นะครับ”



“อยู่ในครัว ตู้ขวาสุด ชั้นล่าง ห้ามให้หมดซอง”



“ผมป้อนได้เหรอ”



“อืม ลองดู”



ตอบส่งๆ ไป จริงๆ ผมแค่ขี้เกียจลุกไปเท่านั้นเอง ไม่รู้ปิ๊กมี่จะยอมกินของจากมือคนอื่นไหม เพราะไม่เคยให้คนที่เพิ่งมาบ้านให้อาหารหมาตัวเอง



ไอ้โซลเดินกลับมาพร้อมกับสแน็คแบบแท่ง ปิ๊กมี่มองตามซองขนมในมือคนแปลกหน้า ทำท่าเหมือนอยากจะลุกเข้าไปหาแต่ก็ลังเล



“มาเร็วเตี้ย”



“ไปกินสิ ไอ้นั่นไม่กัดหรอก” ผมว่ายิ้มๆ ลูบหัวมันเบาๆ



“ใช่ ไม่กัดแกหรอก แต่อยากกัดเจ้าของ”



“มึงเป็นหมาเหรอ”



“คนก็กัดได้จมเขี้ยวนะครับ อย่าดูถูกเชียว” ริมฝีปากหยักยกยิ้มจนเห็นฟันเขี้ยว ผมจิ๊ปากหันกลับมามองจอสี่เหลี่ยมอย่างเดิม ไม่สนใจไอ้คนที่กำลังพยายามใช้ขนมล่อหมาต่อ ก่อนจะลองใช้ลิ้นแตะฟันตัวเองดูบ้าง



ผมก็มีเขี้ยวเหมือนกันเถอะ! กัดมากัดกลับก็ได้นะเว้ย!



เจ้าตัวสี่ขายืนขึ้นหลังจากนั่งมองผมด้วยสายตาออดอ้อนอยู่นานแต่ไม่เป็นผล มันก้าวไปหาไอ้โซลทีละนิด...ทีละนิด ไอ้โซลคุกเข่าลงกับพื้นยื่นแท่งขนมออกมาข้างหน้า เฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อว่าปิ๊กมี่จะเข้าไปกินหรือเปล่า



ปิ๊กมี่ดมนิดๆ ผมหลุดขำเมื่อพอมือไอ้โซลขยับมันก็ตกใจถอยออกมา



นับว่าเป็นคนที่มีความพยายามสูงอยู่เหมือนกัน หรือไม่วันนี้ม้าก็อาจลืมให้อาหารปิ๊กมี่ ไอ้โซลลองยื่นขนมออกไปข้างหน้าอีกครั้ง รออยู่อย่างนั้นนิ่งๆ จนผมแอบเมื่อยแทน จมูกยาวๆ เข้าไปดมฟุตฟิตลองเชิง ก่อนมันจะอ้าปากงับขนมเข้าปาก



คนบนพื้นร้องเยสออกมาเบาๆ ไม่กล้าส่งเสียงดังเพราะกลัวหมาเตลิด มันป้อนขนมชิ้นต่อไปอย่างใจเย็น ระยะห่างระหว่างคนกับหมาก็หดสั้นลงมาเรื่อยๆ โดยที่หมาผมไม่น่าจะรู้ตัวว่าถูกลวงเข้าให้แล้ว



ผมยิ้มออกมาบางๆ เมื่อไอ้โซลเงยหน้าขึ้นมองผมขณะที่มือข้างหนึ่งป้อนขนม มืออีกข้างก็ลูบหัวมันไปด้วย



มันเป็นคนแรกที่เข้าหาปิ๊กมี่ได้เร็วมาก



หรือเพราะหมาผมตะกละ เขาเอาขนมมาล่อหน่อยก็คล้อยตามแล้ว...ไม่ได้การ ต้องจับมาสั่งสอนกันใหม่



เสียงแจ้งเตือนในโทรศัพท์ทำให้ผมละสายตาออกมา เป็นแจ้งเตือนจากแอพอินสตาแกรมที่ผมไม่ได้อัพเดตมาสักระยะหนึ่ง



พอเห็นชื่อคนที่มารัวไลค์รูปก็ทำให้ผมนึกถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดไป



เฟิร์สจะเชื่อไหมนะ...ถ้าเขารู้ความจริงคงจะเสียความรู้สึกมาก มันเหมือนผมรังเกียจเขายังไงยังงั้น



“แค่เราอยู่ด้วยกันก็พอ คนอื่นไม่รู้หรอกว่าเราซ้อมหรือไม่ซ้อม”



คำพูดของไอ้โซลก็เข้าที แต่เฟิร์สจะรู้ได้ไงว่าเราอยู่ด้วยกัน...



คิดได้อย่างนั้นผมเลยกดเข้ากล้องแล้วเล็งไปทางไอ้คนที่กำลังเล่นกับหมา เผลอแป๊บเดียวปิ๊กมี่ก็ยอมให้มันกอดรัดขนาดนั้นแล้วเหรอเนี่ย...





sscene  หมาใคร ทำไมใจง่าย





รูปเห็นหน้าไอ้โซลชัดมาก ไม่จำเป็นต้องแท็กเลย อัพปั๊บก็มีคนมาไลค์ปุ๊บ คอมเม้นท์เด้งขึ้นมาเร็วมากแต่ผมไม่ได้สนใจ พอเห็นชื่อเฟิร์สมากดไลค์ผมก็กดออกจากแอพ...เท่านี้ก็เรียบร้อย



ผมล้มตัวลงนอนราบไปกับโซฟา หาวออกมาทีนึง ในทีวีกลายเป็นเรื่องของสัตว์ประเภทอื่นไปแล้ว ผมเลยวางสายตาไปที่ไอ้คนบนพื้นที่กลายเป็นเพื่อนเล่นคนใหม่ของหมาผมแทน



“เล่นด้วยง่ายอยู่นี่หว่า”



ไอ้โซลพึมพำพลางเกาพุงมันไปด้วย



“ไม่เหมือนเจ้าของ”



ลดเสียงในทีวีเสร็จก็วางรีโมทลงกับเสียงดังเพื่อให้คนบนพื้นรู้ว่าผมได้ยินที่มันพูด



ไอ้โซลหัวเราะเหมือนรู้อยู่แล้ว มันป้อนขนมให้ปิ๊กมี่อีกชิ้นก่อนจะลุกขึ้น



“พอแล้ว พี่ซีนไม่ให้กินหมด”



ภาพสุดท้ายที่เห็นคือหมาขาสั้นของผมเดินตามเพื่อนใหม่ไป



กับไอ้โซลทำไมใจง่ายอย่างนี้นะปิ๊กมี่...











****











ผมขยับตัวเล็กน้อยเมื่อรู้สึกตัว รอบกายเงียบสงัดจนได้ยินเสียงรถยนต์ที่กำลังถอยเข้ามาในบ้าน ป๊ากับม้าคงเพิ่งกลับมา อะไรสักอย่างบนตัวผมให้ความรู้สึกอบอุ่น ทั้งยังมาพร้อมกับกลิ่นโคโลญที่ผมคุ้นเหลือเกิน



พอลุกขึ้นนั่งเสื้อกันหนาวตัวใหญ่ก็ตกลงไปอยู่ที่ตัก คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นมันพาดอยู่บนเบาะในรถของไอ้โซล...ทำไมมันชอบทำตัวเป็นคนดีนักนะ...



“ทำไมไม่ชวนโซลอยู่ทานข้าวด้วยล่ะลูก น่าจะแนะนำให้ม้ากับป๊ารู้จักบ้าง”



“ม้ารู้ได้ไงว่ามันมาบ้าน”



“ก็น้องเพิ่งกลับไปเมื่อกี้นี้เอง”



“ผมเผลอหลับอ่ะ”



ม้าเดินเข้ามาหอมแก้มอย่างที่ชอบทำ ถามไถ่ถึงงานบวงสรวงวันนี้และปิดท้ายด้วยการให้ชวนไอ้โซลมาทานข้าวที่บ้านในครั้งหน้า



ผมนอนลงอีกครั้ง เอาเสื้อกันหนาวตัวใหญ่มาคลุมไว้เหมือนเดิม...จะว่าไปแล้วมันก็อุ่นดี ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็ค แจ้งเตือนขึ้นเยอะมากผมเลยกดปิดแจ้งเตือนไป แล้วผมก็ต้องตกใจเพราะรูปที่ผมลงคอมเม้นท์เกือบพัน...





HH5555  พี่โซลลลล กรี้ดดดดดดดด

mammp  พี่อยู่ด้วยกันเหรอคะ

DINGDDO  ผู้ชายหล่อกับหมา ละมุนอะไรอย่างนี้ <3<3<3

oohhoo  บ้านพี่ซีน!!!

Cat_kuki  กรี้ดสลบไปหลายรอบ T////T รอดูอยู่นะคะ

Tim_01  @sscene  มันไปบ้านมึงบ่อยขนาดไหน ทำไมเล่นกับปิ๊กมี่ได้แล้ว

HH_shhhh  ดีกับจัยยยยย อยากดูซีรีย์แล้วว

Jumper  ครุ่นครีส

F4444_  ครุ่นครีสด้วยคล





ผมอ่านไล่มาเรื่อยๆ ก็มาทำนองเดียวกันหมด แค่อยู่ด้วยกันก็ดีใจขนาดนี้เลยเหรอ แล้วถ้าพวกเขารู้ว่าผมไปคอนโดมันตั้งบ่อยล่ะ อีกอย่างที่ผมอัพเพราะให้เฟิร์สเห็นว่าผมอยู่กับไอ้โซลจริงๆ เฉยๆ ไหนจะพวกเพื่อนนี่อีก เดี๋ยวผมค่อยไปตอบพวกมันในไลน์กลุ่มก็แล้วกัน



ผมไม่สามารถอ่านทุกคอมเม้นท์ได้เพราะมันเยอะมาก แต่ผมมาสะดุดอยู่ที่คอมเม้นท์นึง



Jubu_96  ถ่ายกันไปถ่ายกันมา น่าร้ากกกก



ลางสังหรณ์ผมรู้สึกว่ามันแปลกๆ อะไรคือถ่ายกันไปมา แต่พอกดเข้าไปดูในไอจีไอ้โซลเท่านั้นแหละ...รู้เรื่อง



เหมือนมันจะถ่ายปิ๊กมี่ที่นอนหมอบอยู่ข้างโซฟา แต่มันติดผมที่นอนอยู่บนโซฟามาด้วย ดีหน่อยที่มีเสื้อกันหนาวของมันที่คลุมตัวผมเอาไว้อยู่ แล้วส่วนหนึ่งของเสื้อบังหน้าผมเอาไว้ครึ่งนึง ไม่งั้นน่าเกลียดตาย





Soul_kr  น่ารัก





ผมเม้มปาก เอาหน้าซุกลงกับเสื้อกันหนาวตัวใหญ่โดยไม่รู้ตัว คอมเม้นท์ของมันพุ่งพรวดมากกว่าของผมอีก อาจเพราะใครหลายคนกำลังจับคู่ให้เราอยู่เลยคิดว่าแคปชั่นนั่นหมายถึงผมล่ะมั้ง ทั้งๆ ที่มันหมายถึงหมาที่นอนจ้องไอ้คนถ่ายตาแป๋วนั่นต่างหาก!



แต่ที่ไหนก็คงไม่คึกคักเท่าในทวิตเตอร์ พวกเธอแคปหน้าจอที่ผมกับไอ้โซลอัพแล้วโพสคู่กัน...





@tingjating

อยากชมเค้าตรงๆ แล้วป๊อด งั้นทำเป็นชมหมาเนียนๆ แล้วกันเนอะ #fof #โซลซีน



@mini_jj

เราโคตรเชียร์คู่นี้ #โซลซีน น่ารักมากกกก อยากดูเร็วๆๆ #fof



@ishipyounaokay

เห็นเพื่อนพี่ซีนเม้นแซวในไอจีพี่ซีนด้วย ยังไงคะยังไง!!!!??? #fof #โซลซีน



@mousesassy

ในเรื่องยังไม่เริ่ม แต่ในชีวิตจริงเค้าไปกันถึงไหนแล้วคะเนี่ย #โซลซีน



@ppero_o

พี่ซีนไม่อัพตั้งนาน อัพล่าสุดอัพรูปโซลซะงั้น ฟหกาดทฟสสฟวหากทดหกาวฟส #fof #โซลซีน



@PPPETERB

แคปชั่นเต็มๆ อาจจะเป็น...หมาน่ารักแต่พี่ซีนอ่ะน่าเลิฟ #fof #โซลซีน

@ahhhhaaaa

@PPPETERB หรือจะเป็น...หมาน่ารักแต่พี่ซีนอ่ะน่ากิน— แค่กก #โซลซีน



@oohhoo

นั่นบ้านพี่ซีนแล้วก็หมาพี่ซีนค่ะ!! เราส่องจากในบ้าน พี่โซลน่าจะมาตั้งแต่บวงสรวงเสร็จแล้วเพิ่งกลับไปตอนเย็น T////////////T #fof #โซลซีน



@kungpeuak

เรือแล่นไวอะไรอย่างนี้ #fof #โซลซีน






น้องอู้วหูวอยู่แถวบ้านผมจริงๆ เหรอเนี่ย!!



แต่ถ้าเห็นแค่ภายนอกคงไม่เป็นอะไรหรอก ถ้าไม่เอากล้องส่องทางไกลส่องเข้ามาดูในบ้านว่าผมทำอะไรบ้างน่ะนะ น้องเขาคงไม่ทำอย่างนั้นใช่ไหม...?



ผมเพิ่งรู้ว่าแค่นี้ก็ทำให้พวกเธอมีความสุขกันได้ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้ตั้งใจด้วยซ้ำ ที่ผมทำไปกลายเป็นว่าเป็นการสร้างกระแสไปแบบไม่รู้ตัว…ผมว่าไอ้โซลก็น่าจะคิดแบบนั้น





มันทำให้ทุกคนคาดหวังมากขึ้นด้วยใช่หรือเปล่า...เรื่องที่อยากให้ผมกับไอ้โซลคบกันจริงๆ



ทั้งๆ ที่มันเป็นแค่การสร้างกระแส



มันคือการตลาด





...ซึ่งไม่ต่างจากการโกหกเลยสักนิดเดียว





...





****

โอ๋เอ๋นะคะคนน่ารัก

เดี๋ยวก็ไม่ต้องโกหกแล้ว...เพราะเราจะทำให้พี่สมยอมอิน้องเอง!!

 ---------------------

ตอบคอมเม้นท์

ม เป็นอักษรต่ำ ซึ่งจะไม่ใช้วรรณยุกต์ตรีกับจัตวา ม้า เฉยๆ อาจดูแปลกเพราะส่วนใหญ่อาจชินกับ ม๊า 5555

หม่าม้า อย่างงี้น่าจะดูคุ้นกว่าเนอะ แต่ให้ซีนเรียกหม่าม้าดูแบ๊วไปเราเลยให้เรียกม้าเฉยๆ 555

แต่ก็ขอบคุณที่บอกนะคะ มีอะไรก็สามารถบอกกันได้เลยค่ะ ^ ^/

  ---------------------

อาทิตย์หน้าจะอัพเป็นตอนพิเศษวันวาเลนไทน์นะคะ โฮะๆ

ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ด้วยค่ะ *โค้ง* ^-^

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-02-2017 16:32:46 โดย zongpei96 »

ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
พี่ซีนอย่ากังวลไปเลยค่า
คนอื่นไม่มีใครคิดว่าพี่โกหกซักคน  :z2:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
พี่ซีนขี้เกรงใจจัง

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
พี่ซีนคนดีไปอีกก

ออฟไลน์ alien.aiiwz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
พี่ซีนคะน้องไม่ได้โกหกค่ะ
น้องส่งเรือมาแล้ว รอแค่ให้พี่ซีนแจวค่ะ
 :hao6:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
โซล ซีน  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
//โยนไม้พาย  :hao7:

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3

ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
โซลซีนนนนนนนนนนนนนนนนน :hao7:

ออฟไลน์ idoloveyou555

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
ยังไงคะพี่ซีน ?

ออฟไลน์ kamaji

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :o8:ชอบๆๆๆ มาต่อไวๆนะค๊าบบบบ

ออฟไลน์ MmBb

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 180
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ zongpei96

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-0



SPECIAL VALENTINE’S DAY







แดดประเทศไทยในตอนบ่ายร้อนซะจนทำให้คนที่เพิ่งลงจากรถดูฮอตขึ้นอีกเป็นสองเท่าตัว ช่วงขายาวก้าวเดินเข้าไปใต้ตึกคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ใบหน้าและรูปร่างอันโดดเด่นเรียกสายตาหลายคู่ให้จ้องมอง แต่คนที่ตกเป็นเป้าสายตากลับไม่ได้สนใจแม้แต่นิด



จะว่ายังไงดีล่ะ...เขาชินซะแล้วล่ะมั้ง



“คิดว่าเดินแบบอยู่เหรอสัด”



ได้รับคำทักทายจากเพื่อนด้วยสีหน้าหมั่นไส้ แต่คนมาใหม่กลับทำเพียงยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ “ไอ้กันล่ะ”



“เห็นอยู่เมื่อกี้แว๊บๆ ไปซื้อน้ำมั้ง” บอล เพื่อนผิวเข้มที่นั่งฝั่งตรงข้ามตอบ “เป็นไร ทำหน้าเป็นตูด”



คนถูกถามถอนหายใจ “เซ็ง”



“เชี่ยโซลแม่งเซ็งในวันวาเลนไทน์ว่ะ”



จบประโยคฟ้องร้อง เพื่อนทั้งโต๊ะหันมาทำหน้าเหลือเชื่อ ก่อนจะพ่นคำหยาบใส่รายคน



แค่เซ็งนี่ผิดอะไรวะ?



“น้องโต๊ะนั้นเล็งมึงตั้งแต่เดินเข้ามาแล้ว”



“ของขวัญในมือพี่แป้งกูว่าก็ของมึง”



“น้องกลุ่มนั้นลุกมาแล้วว่ะ!”



“เนี่ย มึงจะเซ็งเชี่ยอะไร”



คำว่าเซ็งของเพื่อน เขาคิดว่าพวกมันคงหมายถึงการที่ไม่มีสาวมาสนใจ จะสนไม่สนเขาไม่แคร์หรอก ไม่ได้เซ็งเรื่องนี้สักหน่อย



โซลมองตามกลุ่มเด็กปีหนึ่งที่เพื่อนพูดถึง น้องพวกนั้นกำลังเดินมาทางกลุ่มเขาจริงๆ ไม่ได้อยากจะเข้าข้างตัวเองนักหรอกเพราะในที่นี้ไม่ได้มีเขาที่หน้าตาดีคนเดียวสักหน่อย แต่สายตาหญิงสาวหน้าหมวยๆ นั่นจ้องมาที่เขาอย่างเปิดเผยนี่สิ...



“พี่โซลคะ”



“ครับ?”



“ขอติดสติ๊กเกอร์ได้ไหมคะ”



โซลเลิกคิ้ว ก้มมองเสื้อนักศึกษาของตัวเอง สติ๊กเกอร์อันเล็กๆ อันเดียวคงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง



“ได้ครับ”



“เอาแล้วเว้ยยยยย”



บอลร้องขึ้นเมื่อมือขาวๆ นั่นแปะสติ๊กเกอร์รูปหัวใจสีแดงลงบนหน้าอกข้างซ้ายของเขา นิ้วเรียวลูบอ้อยอิ่งอยู่อย่างนั้นอย่างจงใจก่อนจะผละออก บอกลาไปพร้อมรอยยิ้มเอียงอายต่างกับสิ่งที่พยายามจะสื่อ



“ขอบคุณครับ” โซลยิ้มบางๆ กลับไปให้ รู้ว่าหญิงสาวต้องการอะไร เขาเจอแบบนี้มาเยอะ เล่นด้วยบ้าง ไม่เล่นด้วยบ้าง แต่หลังจากเจอคนคนนึงเมื่อเทอมที่แล้ว ก็ไม่อยากเล่นกับใครอีกเลย



“จัดเลยมึง” ไมค์ คนที่เกากีตาร์อยู่อีกมุมของโต๊ะพูดขึ้น



“ไม่เอา”



“น้องไม่โดน? ก็มึงชอบหมวยๆ ไม่ใช่เหรอ”



“เฉยๆ ว่ะ”



“มึงตายด้านไปแล้ว?”



ยกนิ้วกลางใส่เพื่อนแทนคำตอบก่อนจะหันมาสนใจโทรศัพท์ในมือตัวเองแทน



เสียงแจ้งเตือนจากโปรแกรมแชทดังอย่างต่อเนื่องจนเพื่อนรอบตัวเบ้ปาก ไล่ดูคนที่ทักมาก็ต้องถอนหายใจ เขาไม่ได้หยิ่ง ไม่ได้กั๊กอะไรทั้งนั้น ถ้าจีบคือจีบ ไม่สนคนอื่น ถ้าช่วงนั้นว่าง เล่นคือเล่น ไม่มีจริงจัง



แต่ที่เขาหงุดหงิดเป็นเพราะมีทั้งคนหน้าใหม่ และคนหน้าเดิมที่ยังเอาแต่ตื๊อ คิดว่าเขาเล่นตัวไปอย่างนั้น แต่เปล่าเลย... ต้องให้เขาพิมพ์ประโยคนี้อีกสักกี่ครั้งกัน





soul.kr : มีคนที่ชอบแล้วครับ





จริงๆ แล้วก็ไม่ผิดที่พวกเธอจะคิดอย่างนั้น เพราะตั้งแต่ขึ้นปีสองมาคงไม่มีข่าวเม้าท์ของสาวๆ ว่าเขาตามจีบใคร ควงใคร หรือคุยกับใครอยู่ล่ะมั้ง



ก็อยากคุยอยู่หรอก...แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง



“อ๋อ! อย่าบอกนะว่าเรื่องพี่คนนั้นมึงจริงจัง”



“เออดิ” ตอบเพื่อนทั้งที่มือยังพิมพ์ข้อความเดิมซ้ำอยู่อย่างนั้น



“เทอมสองแล้วนะ พี่เขารู้จักมึงยัง”



แล้วบอลก็ต้องเอามือกุมขมับเมื่อเพื่อนส่ายหน้า แม่ง...นี่ไอ้โซลจริงๆ เหรอวะ? ถ้าเพื่อนคนนี้ถูกใจใครวันเดียวก็คุยกันได้เป็นร้อยประโยคแล้ว แต่กับรุ่นพี่คณะบัญชีที่ต้องตาต้องใจมันตั้งแต่เทอมหนึ่งยังไม่แม้แต่รู้จักกัน!?



“แล้วที่ไอ้กันไปสืบมาให้ ไม่มีประโยชน์อะไรเลยเหรอ” ไมค์วางกีตาร์แล้วเขยิบเข้ามาแทรกกลางระหว่างโซลกับเพื่อนอีกคนหนึ่งเพื่อคุยเรื่องนี้อย่างจริงจัง



ไอ้โซลกลายเป็นคนกาก ประเด็นร้อนอย่างนี้จะพลาดไม่ได้



“กูก็คิดอยู่”



“คิดอะไรตั้งครึ่งปีไอ้ควาย”



“พี่เขาดูเข้าถึงยากนี่หว่า ไปจีบตรงๆ ก็กลัวโดนเกลียด ฉิบหายเลยนะเว้ย”



คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน มือควงโทรศัพท์เครื่องบางเล่นอย่างคนกำลังใช้ความคิด แต่ก็เข้าอีหรอบเดิม คือสุดท้ายแล้วความขลาดก็ปัดทุกแผนการทิ้งไป เขาคิดไม่ออกจริงๆ ว่าจะเข้าไปทำความรู้จักยังไงให้แนบเนียนที่สุด และไม่พลาดแสดงอะไรออกไปที่จะทำให้คนคนนั้นรู้สึกไม่ดี



“พี่โฟร์กับพี่ทิมก็เพื่อนในกลุ่มพี่เขาไม่ใช่เหรอ เข้าทางนั้นสิวะ” บอลออกความเห็น



“ชวนไปกินเหล้าเลย มอมแม่ง” ไมค์เอนตัวออกห่างเมื่อเห็นว่าเพื่อนทำท่าจะเอาโทรศัพท์มาโขกหัว...พูดแค่นี้ก็ขึ้น สงสัยคนนี้เพื่อนเขาเอาจริงเว้ย!



“เดี๋ยวดิวะ แค่จะบอกว่าเวลาเมามันคุยกันง่าย จะได้สนิทกันเร็วๆ ไม่ได้ให้มึงไปทำอะไรพี่เขาซะหน่อย”



“เฮ้ย นี่ก็ดีนะเว้ย”



“แผนนี้เข้าท่าๆ”



คนอื่นๆ ในโต๊ะก็โงหัวออกจากงานมาร่วมสนับสนุน เจ้าของความคิดยิ้มกว้าง เพื่อนจะได้หายเซ็งสักที



“กูเคยเห็นรูปพี่เขาไปร้านเหล้าในไอจีพี่ทิม…เมื่อสองปีที่แล้ว”



แล้วทั้งโต๊ะก็เงียบกริบ คนเจ้าแผนการถอนหายใจไปหนึ่งเฮือก หรือเขาควรจะแนะนำเพื่อนให้ไปบนเก้าวัดแทนดี?



“กูว่ามึงจะเจอพี่เขาได้ง่ายสุดคือในมหา’ลัย แต่ถ้าอยากรู้ว่าพี่เขาไปไหนบ้างก็ขับรถตามเลยดิ”



“แนะนำเชี่ยไรไอ้บอล ยังกับสตอล์กเกอร์”



“เคยตามแล้ว” ไมค์หน้าเหวอ “มีไปห้างบ้าง แต่ส่วนมากอยู่บ้าน”



“โซเชียลล่ะ”



“ไม่ค่อยเล่นว่ะ” พอพูดถึงเขาก็กดเข้าไปในอินสตาแกรม เสริชชื่อที่จำได้ขึ้นใจ เขาไม่ได้กดติดตามเลยรู้สึกขอบคุณมากที่อย่างน้อยรุ่นพี่คนนี้ไม่ได้ตั้งไพรเวทเอาไว้



“เชี่ย” หลุดเสียงอุทานเมื่อเห็นรูปล่าสุดที่เพิ่งอัพเดตไปเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว





sscene  ต่อไปจะมาบ่อยๆ





รูปชาเขียวปั่นธรรมดาๆ แต่โซลรู้ว่ามันคือของโปรดของรุ่นพี่คนนี้ และสิ่งที่ทำให้เขาตกใจคือชื่อร้านที่เช็คอินต่างหาก...



ร้านใต้คณะเขานี่หว่า





Tim_01  @sscene  บอกแล้วว่าอร่อยกว่าที่คณะมึง

Jumper  ถูกใจจนต้องถ่ายลง

F4444_  อย่าแซวเพื่อน เพื่อนชอบ





“พี่เขาอยู่ร้านน้ำคณะเราว่ะ”



“ฮะ!”



“ตอนนี้!?”



กลายเป็นทั้งสามคนที่ลุกลี้ลุกลนทำอะไรไม่ถูก เขาควรจะดีใจไหมที่เพื่อนอินด้วยขนาดนี้ บอลกับไมค์ลุกขึ้นเก็บของ แต่คนที่ชอบกลับทำหน้าลังเลนั่งอยู่กับที่



“ไปสิมึง รออะไร”



“เดี๋ยวก็ชวดหรอก ไอ้โซลลุก!”



“ไปแล้วจะได้อะไรวะ”



“ได้เจอไง อย่าป๊อด!”



“เจอตรงนี้ก็ได้ ถ้าเดินออกมาก็เห็น”



“พี่เขาอยู่กับพี่ทิมพี่โฟร์ใช่ไหม นี่แหละโอกาสทอง”



โซลก้มลงมองภาพตรงหน้าอีกครั้ง ไอ้อยากรู้จักน่ะก็อยาก แต่กลัวมันก็กลัว ถ้าทำอะไรพลาดไปกลัวว่าจะเข้าหาพี่เขาไม่ได้อีกเลย เขาเลยอยากระมัดระวังทุกย่างก้าว ทั้งๆ ที่ไม่รู้เลยว่าอีกไกลแค่ไหนถึงจะได้เขยิบเข้าไปใกล้กับรุ่นพี่คนนั้น





“เฮ้ย นั่นไง!”





บอลกับไมค์ทรุดตัวนั่งลงอย่างเดิม ทั้งกลุ่มเงียบกริบอย่างผิดสังเกต โซลคิดว่าตัวเองหยุดหายใจไปแล้วซะด้วยซ้ำ เขานั่งอยู่ไกลขนาดนี้ยังรู้สึกประหม่าเหมือนคนคนนั้นมายืนอยู่ตรงหน้า มองร่างบางที่ยืนถือแก้วชาเขียวปั่นอยู่กับเพื่อนสามคน และสองคนในนั้นคือรุ่นพี่ที่เขารู้จัก...ถึงขั้นสนิทเลยด้วยซ้ำ



...แต่ก็ยังไม่กล้าอยู่ดี



นานเหมือนกันที่ไม่ได้เจอ แม้เขาจะตามดูในโซเชียลอยู่บ่อยๆ แต่ก็ไม่มีอะไรเคลื่อนไหวสักเท่าไหร่ โซลจ้องมองรอยยิ้มหวานอยู่อย่างนั้นจนอดยกยิ้มตามไม่ได้





รอยยิ้มนั้นยังเหมือนเดิม



หวานเหมือนเดิม



เหมือนวันแรกที่เจอ



แต่ที่แปลกไปก็คงจะเป็นหัวใจ...ที่เต้นผิดจังหวะ...ทุกครั้งที่เจอ





...พี่ซีน...





“หน้าเพ้อสัด”



“มึงไม่ลงมือกูว่ามีคนคาบไปแดกแน่”



“เห็นเบลอๆ ยังรู้เลยว่าน่ารักโคตรของโคตร”



“ไปดูใกล้ๆ ได้ป่ะ ทำเนียนไปทักพี่ทิมงี้”



“หยุดเลยพวกมึง เดี๋ยวพี่เขารู้”



“จะรู้ได้ไงแค่เข้าไปทักพี่คณะเราเอง”



โซลเงียบไปสักพัก “คราวหน้าเหอะ หรือไม่ก็เอาไว้เขาเป็นแฟนกูแล้วจะพามาให้ชม”



“เชี่ย เป็นเอามากว่ะ” ไมค์ยกมือยอมแพ้ หมดหนทางที่จะช่วยเพื่อน คราวหน้าของมันคือหน้าไหน...ชาติหน้าหรือเปล่า? กำแพงว่าสูงแล้ว แต่เพื่อนไม่กล้าแม้แต่จะ ‘ลอง’ ข้ามไปนี่สิ ยากในยาก หยิบกีตาร์มานั่งเกาต่อให้สบายใจดีกว่า



บอลเอี้ยวตัวไปมองคนที่เพื่อนชอบ พวกเขาเคยเห็นแต่ในรูปที่โซลเปิดให้ดู เพิ่งเจอตัวเป็นๆ ก็วันนี้ สายตาสั้นๆ ที่ไม่ได้ใส่แว่นทำให้มองเห็นเป็นภาพเลือนลางเหลือเกิน แต่หน้าเพื่อนของตัวเองเขาเห็นชัด ชัดมากว่ามันหน้าตาดี คารมได้ นิสัยไม่ได้แย่ ที่ไม่ยอมลงมือเพราะความคิดของตัวเองล้วนๆ



“กูว่ามึงเอาพี่เขาขึ้นหิ้งไป อย่าทำเหมือนเขาแตะต้องไม่ได้ขนาดนั้นดิวะ เพราะอย่างงี้ไงมึงถึงไม่กล้าจีบสักที”



“กูแค่ไม่อยากรีบร้อน จะว่ากูป๊อดก็ได้แต่กูกลัวทุกอย่างมันพังว่ะ ถึงตอนนั้นมันคงทรมานกว่านี้”



ไม่อยู่ในสายตาเพราะเขาไม่รู้จัก ยังดีกว่าไม่อยู่ในสายตาเพราะเขาเกลียด



ถึงพี่ซีนจะหน้าตาน่ารักมากขนาดไหน แต่ดูแล้วไม่น่าจะมาชอบเขาได้เลย



“พี่ซีนชอบคนคนนึงอยู่”



“มีแฟนยังเลิกได้ แต่งกันแล้วก็หย่าได้ นับประสาอะไรกับแค่ชอบ ถ้ามึงยังลีลาเรื่องจะยิ่งยากไปมากกว่านี้” เพื่อนผิวเข้มว่า ก่อนจะควานหาแว่นในกระเป๋ามาใส่จนได้ พอหันกลับไปมองก็เห็นแผ่นหลังบางๆ เดินไปไกลลิบแล้ว



“เชื่อพวกกูเถอะ มึงรู้เรื่องพี่เขาตั้งเยอะ ดึงมาใช้ให้เป็นประโยชน์” ไมค์เองแม้มือจะไล้ไปตามสายแข็งๆ ของกีตาร์ตัวโปรดแต่สายตาก็จับจ้องไปที่รุ่นพี่ตัวขาวนั่นเหมือนกัน



ทำให้เพื่อนเขาเป็นบ้าเป็นหลังได้ขนาดนี้...ไม่ธรรมดา



“พอแล้วมั้ง กูว่าพี่เขาคงถึงคณะแล้ว” คนมาใหม่ทำหน้าเอือมเมื่อเห็นเพื่อนทั้งโต๊ะหันมองไปทางเดียวกันหมด พวกมันไม่รู้หรือไงว่าแค่นั่งรวมกันก็เป็นจุดสนใจจะแย่แล้ว หญิงสาวหลายคนก็พากันมองตามพวกมันไปด้วย



ไอ้โซลนะไอ้โซล ไหนบอกจะเนียนๆ แต่นี่เล่นจ้องตาไม่กะพริบ



“มึงไปไหนมา”



“ถ้ากูบอกว่ากูอยู่ในร้านน้ำล่ะ”



โซลเดาะลิ้น “นั่งตรงไหน”



“ใกล้ๆ โต๊ะพี่ซีนเลย” ยิ้มเยาะใส่เพื่อน “ถึงกูบอกไปมึงก็ไม่มาอยู่ดี”



กันยักไหล่ ไม่สนใจสีหน้าแค้นเคืองของเพื่อนสนิท เขารู้เรื่องของพี่ซีนเยอะพอๆ กับโซล เพราะเรื่องพี่ซีนที่โซลรู้ส่วนหนึ่งมาจากที่เขาเป็นคนไปสืบมาให้ เขารู้ว่าเพื่อนมีโอกาสน้อยนักที่จะได้เจอรุ่นพี่ในดวงใจ แต่ที่ไม่ได้โทรเรียกเนี่ย เพราะเพื่อนของเขามีโอกาสจะได้เจอและใกล้ชิดพี่ซีนเต็มๆ ตลอดหลายเดือนต่างหาก



“พี่ปุ้ยอะไรนั่นยังตื๊อมึงอยู่ไหม”



“ไม่เจอมาอาทิตย์นึงแล้ว”



“มึงไม่เล่นจริงๆ เหรอ บทพระเอกเลยนะ”



“ไม่ได้อยากทำนี่หว่า ตอนละครเวทีนั่นก็เหนื่อยจะตายห่า”



“คิดดีๆ”



“พี่ปุ้ยจ้างมึงมาเหรอ กูบอกว่าไม่คือไม่ ไม่เด็ดขาด”



“แต่พี่ซีนไปแคสเรื่องนี้นะเว้ย”



“ก็ช่าง — ฮะ! มึงว่าไงนะ!?”



กันพยักหน้ายิ้มๆ เขาต้องลงทุนซื้อน้ำไปสองแก้วเพื่อนั่งฟังพี่ซีนคุยกับรุ่นพี่คณะตัวเองต่อ ทั้งๆ ที่ปวดอยากจะเข้าห้องน้ำจะแย่ แต่ก็คุ้ม เพราะเรื่องที่เขารู้มาทำให้เพื่อนที่ในตอนแรกแสดงสีหน้าหงุดหงิด ปฏิเสธหนักแน่นตอนนี้ดูไร้สติอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน



โซลคว้าเอากระเป๋ามาค้นทุกซอกทุกมุมเหมือนหาอะไรสักอย่างที่สำคัญเอามากๆ



“หาอะไรวะ” คนถูกถามไม่ตอบ คิ้วขมวดคลายลงเมื่อเจอกระดาษแผ่นเล็กๆ อยู่ในกระเป๋าสตางค์ การกระทำที่ทำให้เพื่อนไม่เข้าใจเท่าไหร่ บอลกับไมค์เลยหันไปถามกันต่อ



“มึงรู้ได้ไงวะไอ้กัน”



“กูแอบฟังมา พี่ซีนโดนบังคับให้ไปแคส เหมือนว่าพี่ปุ้ยจะรู้จักกับแม่ของพี่ซีน แล้วพี่เขาก็รับปากแม่เอาไว้แล้วด้วย ไอ้โซลถ้ามึงไม่ไปเดี๋ยวกูไป —”





“พี่ปุ้ยใช่ไหมครับ ผมโซล”





ทุกคนบนโต๊ะอ้าปากค้างไปตามๆ กันเมื่อเพื่อนตัวดีลุกเดินออกไปคุยโทรศัพท์ที่อื่น ได้ยินแว่วๆ ว่าคนที่เพื่อนโทรหาคือบุคคลที่ตามตื๊อให้เพื่อนของพวกเขาไปเล่นซีรีส์เรื่องนี้อยู่นานสองนาน ซึ่งก็ปฏิเสธมาโดยตลอด แต่นี่กลับ...เป็นฝ่ายโทรหาเขาเองซะอย่างนั้น



“กูว่ามันได้เล่นเรื่องนี้”



“จะเหลือ พี่เขาอยากได้มันไปแสดงขนาดนั้น”



“แต่ถ้าพี่ซีนไม่ได้ล่ะ”



“กูว่าได้”



“มึงดูมั่นใจจังวะ”



“จากที่ฟังพี่ซีนเล่า กูว่าเขาก็อยากได้พี่ซีนไปแสดงมากพอๆ กับไอ้โซลนั่นแหละ”



“หึหึ ตอนนี้ก็อยู่ที่ว่าเพื่อนเราจะรุกยังไง”



“ระดับไอ้โซล กูว่าไม่รอด”



“พี่ซีนอ่ะนะ”



“ไอ้โซลน่ะสิไม่รอด”



“ตายคากำมือพี่เขาแน่ๆ แค่เริ่มอาการยังหนักขนาดนี้”



“กูก็ว่างั้น”



นึกถึงท่าทางชวนฝันของเพื่อนยามพูดถึงพี่ซีนก็ได้แต่ขำออกมา เพื่อนของพวกเขาคงเจอของจริงเข้าให้แล้ว



“ว่าแต่มันบอกว่าเจอพี่ซีนครั้งแรกที่นี่ ทำไมมีมันเห็นอยู่คนเดียววะ งานดีขนาดนี้ต้องเตะตาคนอื่นบ้างสิ นี่พวกเราไม่มีใครเห็นสักคน”



“มึงบุญไม่ถึงไงไอ้ไมค์”



คนถูกว่ายักไหล่กลับอย่างไม่ยี่หระ “เจอก่อนแล้วไงวะ ก็เห็นมันได้แต่มอง”



กันพยักหน้าเห็นด้วยก่อนจะตอบกลับด้วยประโยคที่ทำให้ทั้งโต๊ะหัวเราะร่วน



“เขาถึงเรียกว่าบุญมีแต่กรรมบังไงล่ะวะ”



เสียงเฮฮาแผ่วลงเมื่อเจ้าของบทสนทนาเดินกลับมา เห็นเพื่อนหน้าชื่นมื่นก็อดเบ้ปากใส่อย่างห้ามไม่ได้ ยิ่งมองของในมือก็ยิ่งลงความเห็นกันว่ามันบ้าไปแล้ว



แก้วชาเขียวปั่นถูกวางลงบนโต๊ะโดยที่คนซื้อไม่เคยแม้แต่นึกอยากลอง ‘ชิม’ มันด้วยซ้ำ



โซลยกยิ้ม ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรก็ดูเหมือนเพื่อนจะเข้าใจทุกอย่างกันแล้ว ไมค์กับบอลล่ะอยากถ่ายรูปหน้าเพื่อนเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วกับตอนนี้เอามาเทียบกันจริงๆ จะได้รู้ว่าหน้ามือกับหลังตีนที่แท้จริงเป็นยังไง



เมื่อเห็นว่าเพื่อนมีทางไปต่อทุกคนก็กลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง ไมค์ส่ายหน้ายิ้มๆ เมื่อเงยหน้าขึ้นมายังเห็นว่าไอ้คนข้างตัวยังอมยิ้มอยู่นิดๆ ก็เลยดีดเพลงรักขึ้นมาให้มันนั่งเล่นเป็นพระเอกเอ็มวีสักเพลง...หวังว่าเอ็มวีภาคต่อจะมีพี่ซีนมานั่งตรงนี้กับมันด้วยก็แล้วกัน



โซลกดเข้าแอพพลิเคชั่นลงรูปสุดฮิตอีกครั้ง นั่งมองรูปเดิมๆ ของคนเดิมๆ อย่างไม่รู้จักเบื่อ



ในวันที่มีคนโพสรูปคู่รักเต็มไปหมด แต่กลับมีคนสองคนที่ลงรูปแก้วน้ำธรรมดาๆ แต่พิเศษมาก...สำหรับคนคนนึง







วาเลนไทน์ปีนี้เขาได้รับโอกาสที่จะเข้าหา



โซลก็ได้แต่หวังว่าวาเลนไทน์ปีหน้า…เราจะได้อยู่ด้วยกัน







soul_kr  จะรอนะครับ J







****

สุขสันต์วันแห่งความรักค่ะ <3

เอามาให้เห็นถึงมุมของคนน้องกันบ้างว่าที่หวงนักห่วงหนาน่ะเพราะอะรายย

เค้าก็ชอบของเค้าอ่ะเนอะะ55555

ยังไงก็ฝากติชมได้เน้อ ในนี้หรือแท็ก #ข้างหลังฉาก ก็ได้น้า

เจอกันตอนที่ 8 อาทิตย์หน้าค่า ^ ^/ 

ออฟไลน์ Pakbung Mazo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3
น่ารักมาก เขินเป็นผีบ้าเลย งือ

ออฟไลน์ MmBb

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 180
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เป็นกำลังใจให้โซลจีบพี่ซีนติดไวๆนะ
จะรอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เอาใจช่วย อิอิ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พอตัวจริงเป็นซีน โซลก็ฝ่อ
กลัวไปหมด อานุภาพรักใช่มั้ย  :mew1: :mew1: :mew1:
ทั้งที่แอบรักมาตั้งนาน
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Sky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 944
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
โซลลูก บุกเลย โอ้ยยยย น่ารักกกกกก

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
เขินมาก เขินตามโซลเลย
อาการหนักสุดดอะ
นี่เป็นซีนลิซึ่มแน่ๆ5555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด