+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
มาร์ช หรือนาย ณิชพน นอนปัดโทรศัพท์มือถือเล่นอยู่บนเตียงพยาบาลหลังจากอัดพาราเซตามอลไปสองเม็ด เขารู้สึกดีขึ้นมาบ้าง แต่ก็ยังไม่อยากบอกใครว่านอนหมดสภาพเนื่องจากการทดสอบสมรรถภาพ น่าอายชะมัด
“นักเรียนคะ ห้ามเล่นมือถือนะคะ” คุณครูพยาบาลพูดจบก็ดึงเอาโทรศัพท์ออกไปจากมือ เด็กชายทำอะไรไม่ได้นอกจากนอนเฉยๆ มองดูเข็มนาฬิกาเลื่อนไปพลาง รอจนกว่าอาการวิงเวียนและปวดล้าจะดีขึ้น ถึงแม้ร่างกายจะเริ่มร้อนรุมๆเป็นสัญญาณชัดเจนว่าให้พักผ่อน
‘เดี๋ยวรอสอบใหม่พร้อมเพื่อนผู้หญิงแล้วกัน’
นึกแล้วก็อายตัวเอง.... อายอาจารย์.... ยังดีนะที่ไม่มีคนอื่นเห็น ยิ่งนึกยิ่งน่าอาย โชว์กาก โชว์ห่วย รอยยิ้มติดตลกนั่นมันคือยิ้มเยาะเย้ยกันชัดๆ นึกแล้วหงุดหงิดตัวเอง เด็กหนุ่มพลิกตัวเองลงบนเตียงดึงผ้าห่มบางๆขึ้นคลุมโปง เขาพลิกตัวไปมาข่มตาหลับทั้งๆที่ปวดหัวและอ่อนเพลีย
................
...............
................
...............
“กากชิบหาย” เจมส์เขย่าตัวเพื่อนที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงพยาบาล เขาเข้ามาในนี้เพราะมาร์ชหายหัวไปตลอดคาบบ่ายแถมยังไม่ยอมรับโทรศัพท์
“อาจารย์....” เสียงเล็ดลอดพึมพำออกมาจากปาก
“ห๊ะ!” เจมส์ก้มลงไปฟัง
“อะไร!” มาร์ชตื่นขึ้นมาสะดุ้งที่ใบหน้าพวกเขาไกล้กันซะขนาดนั้น
“มึงเรียกอาจารย์อะไรนะ?” เขาถาม
“อะไร อาจารย์ไหน?” มาร์ชหันมองซ้ายทีขวาที
“ไม่ๆ มึงนั่นแหละ มึงเรียกอาจารย์ มึงละเมอเหรอ?”
“อะไร กูเหรอ? กูเปล่านะ? กูละเมอเหรอ?”
“เออ...มึงละเมอเหรอ?”
“เหรอ....กูละเมอเหรอ?”
“ทั้งคู่นั้นแหละค่ะ ถ้าหายดีแล้วก็กรุณาออกไปละเมอข้างนอกนะคะ” อาจารย์พยาบาลเปิดม่านฉับเข้ามา จิกทั้งคู่ด้วยแว่นทรงรี เด็กชายทั้งสองคนลุกลี้ลุกลนออกไปด้านนอก
“กากชิบหาย!” โต้ง เวย์ นัท รุมประณามหยามเหยียดเพื่อนมาร์ชที่เดินปากซีดออกมาจากห้องพยาบาล “มึงเป็นลมได้ไงวะ
โคตรห่วย!” เวย์ เพื่อนตัวโตที่สุดในกลุ่มตบไหล่หยอกแรงๆ
“เดี๋ยวมันตายห่า พอๆ” โต้งช่วยเพื่อน
“เพราะมึงนั่นแหละไอ้เหี้ยโต้ง!” มาร์ชบ่น
“มึงโดนอะไรบ้างวะ” เวย์ถาม “เขาด่ามึงปะ”
“ก็โดนบ่นนิดหน่อย” เด็กชายตอบ
“ยังดีนะมึง พวกห้องเจ็ดที่ไปสายโดนสั่งวิ่งรอบสนามใหญ่ทั้งห้องเลย พวกไอ้แพรเกือบตาย” โต้งพูดถึงแฟนตัวเอง
“ไปเหอะ กูอยากกลับบ้านไปนอน”
มาร์ชคว้ากระเป๋าตัวเองจากมือเจมส์แล้วเดินนำเพื่อนไป
__________________________
ก้องภพรู้สึกผิดเล็กๆ เหมือนไปรังแกเด็ก เขากำลังสรุปคะแนนแล้วปัดชื่อ ณิชพน ไปอยู่รวมกับกลุ่มที่สอบตก เขาค่อนข้างเชื่อว่าเด็กนั่นน่าจะป่วยมาหลังจากกลับมาจากปิดเทอมใหญ่ ดูจากพฤติกรรมและสีหน้าท่าทางก็ไม่ใช่คนเกเร แต่แววตาดูเป็นเด็กดื้อเงียบ แต่กระโดดตบตลกๆของเขา รวมไปถึงท่าวิ่งป้อแป้ไร้เรี่ยวแรง ยังติดตาจนคิดอีกรอบก็อดอมยิ้มไม่ได้ แต่กติกาว่าอย่างนั้นก็คงต้องว่ากันตามไป วันสอบซ่อมคงจะเป็นภาพที่น่าขันใช่เล่น
“ก้องคะ...” เสียงหวานเรียกคุ้นหู
“อ้าวที่รัก ผมบอกแล้วไงว่าเดี๋ยวผมไปรับเอง” ก้องภพตอบภรรยาที่เข้ามารับเขาถึงที่
“ไม่เป็นไร ใหม่เรียกแท๊กซี่มาสบายๆค่ะ” เธอนั่งลงพร้อมกับอาหารเย็นในถุงกับข้าว
“คุณซื้ออะไรมาน่ะ โอ้โห...จับฉ่ายร้านหน้าโรงเรียนยังไม่หมดเหรอ” ชายหนุ่มยิ้มกว้าง ก่อนจะเริ่มลงมือเก็บข้าวของกลับบ้าน
“คุณทำงานให้เสร็จก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวฉันนั่งรอข้างนอก”
“ไม่เอา... ผมอยากทานข้าวกับคุณมากกว่า คิดถึงยัยหนูด้วย”
“หลับปุ๋ยอยู่บ้านแน่ะ กว่าจะกล่อมให้เขาหลับได้แทบแย่ พลังงานเยอะเหมือนพ่อเดี๊ยๆ”
“สวยเหมือนคุณต่างหาก”
“เขาดูจะขี้โมโหอยู่นะ อาจจะได้นิสัยคุณมาก็ได้”
“ผมไม่ขี้โมโหซักหน่อย” เขาอ้อน
“ฉันเท่านั้นแหละที่รู้” เธอยิ้มหยอกเย้า เขาอดไม้ได้ที่จะเอื้อมมือไปหยิกแก้มใสนั่น
สองสามีภรรยาเดินเคียงคู่กัน พวกเขามีความสุขกับสิ่งที่เป็น ก้องภพมีหน้าที่การงานมั่นคงแถมยังมีธุรกิจเล็กๆของครอบครัวที่ไปได้สวย ภรรยาของเขาเพิ่งจะคลอดลูกที่สุขภาพแข็งแรงเป็นกำลังใจให้แก่ชีวิตคู่ขวัญ เธอเป็นผู้หญิงทำงานเก่งและมีความมั่นใจ มาจากครอบครัวเก่าแก่ที่มีเกียรติ เช่นเดียวกับสามีที่เป็นผู้นำ ซื่อสัตย์และไม่เคยทำให้เธอผิดหวัง
__________________________
“มาร์ช ลูกได้ลงคอร์สเรียนพิเศษหรือยัง” นายแพทย์ชนินท์ หรือพ่อเลี้ยง หรือสามีคนที่สองของนาง ปาลิดา ผู้เป็นมารดาแท้ๆของนายณิชพน ทักขึ้นหลังจากขับรถมารับลูกชายตามกฎหมายของเขา
“ยังครับ....”
“รีบเข้านะ ตอนมอห้าพี่กวินเขาก็สอบตรงได้คะแนนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยรัฐแล้ว ต้องตั้งเป้าหมายนะรู้ไหม” เขาอบรมให้กับท่าทีเฉื่อยชาที่เห็นเป็นประจำ กวินคือลูกชายแท้ๆของเขา ปัจจุบันกำลังศึกษาต่ออยู่ต่างประเทศด้วยทุนราคาแพงลิบลิ่ว ตามแบบบฉบับของลูกชายคนโตที่เป็ยความภาคภูมิใจของบ้าน
“ครับ...” ณิชพนผู้เป็นน้องได้แต่พยักหน้ารับไป
“ปีก่อนคะแนนเคมีไม่ค่อยดีนะ”
“ครับ....”
“วันนี้แม่เขามีแขกมาบ้าน อย่าลืมไปทักทายน้าๆเขาด้วยล่ะ”
“ครับ”
“มาร์ช! เวลาพ่อคุยด้วยห้ามกดโทรศัพท์” ชนินท์ดุ เด็กชายเก็บมือถือลงกระเป๋าแต่โดยดี เขาตอบคำถามพ่อไปพลางพิมพ์คุยกับน้องปอยที่ส่งรูปเพื่อนๆมาทักทาย มาร์ชยอมรับว่าปอยทำให้เขารู้สึกดีและอยากอยู่ไกล้ๆ เข้าใจดีว่าทำไมใครๆก็ชอบเธอ
................
...............
“นี่น้องคนเล็กใช่ไหมคะ แหมไม่ได้เจอนาน โตขึ้นมาหล่อเชียวนะหนุ่มน้อย” กลุ่มเพื่อนแม่ของเขาที่นั่งเรียงกันบนโซฟา พวกเธอแต่งหน้าทำผมกับเต็มที่เกินกว่าที่จะมาบ้านเพื่อนสนิท เพราะพวกเธอคือเพื่อนกันทางธุรกิจ แวดวงสังคมที่แลกเปลี่ยนเรื่องราวกันเพื่อผลประโยชน์อันใดอันหนึ่ง เด็กชายโตมากับมันตั้งแต่จำความได้
“สวัสดีครับน้าปู น้าสุ น้าแหม่ม” มาร์ชยกมือไหว้
“เป็นยังไงบ้างน่ะเรา สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้รึยัง? ท่าทางคุณพ่อจะให้เดินตามรอยพี่ชายนะเนี่ย”
“ฮ่าๆ คงจะเป็นอย่างนั้นแหละครับ” ชนินท์ตอบ เด็กชายได้แต่ยืนยิ้มแก้ขัดไปพลางๆ
“เดี๋ยวหนุ่มๆจะหนีแม่ไปเรียนเมืองนอกหมดแล้วมั้ง” ปาลิดาเดินเข้ามาวางมือลงบนไหล่ลูก
“เจ้าตั้มก็เพิ่งจะได้ทุนเรียนแพทย์ เขาอยากเป็นแพทย์ชนบทน่ะ” น้าสุเปิดประเด็น มาร์ชอยากจะแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินแล้วเดินหนีไปเสียแต่คงเป็นไปไม่ได้
“เจ้าพิมพ์ก็เพิ่งจะรับปริญญา เกีรตินิยมอันดับหนึ่งเหรียญทองด้วยนะ ไม่รู้เอาเวลาที่ไหนไปเรียน วันๆไม่เห็นจะทำอะไร แต่คุณครูแกบอกว่าเขาเป็นเด็กหัวดีมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะ” แหม่มเติมเข้าไปอีก เด็กชายคิดไปเล่นๆว่าจะเป็นอย่างไรถ้าเขาบอกไปว่านอกจากคะแนนเคมีจะไม่ค่อยดีแล้ว วันนี้ตัวเองเป็นลมตอนกระโดดตบในวิชาพละอีกด้วย
“ตอนนี้เขายังตัดสินใจไม่ได้น่ะครับว่าจะเรียนอะไร ใช่ไหมมาร์ช? แต่เห็นเคยบอกพ่อว่าอยากเป็นสถาปนิกน่ะครับ”
ถ้าหากการแค่ชี้มือถามพ่อว่าไอ้ตึกโค้งๆนี่เขาออกแบบมาจากอะไร มันคือความปรารถณาอยากจะเป็นสถาปนิกสำหรับบ้านหลังนี้แล้วล่ะก็ “ครับ” ก็คงคำตอบที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสถาณะการณ์นี้
กว่าจะหลุดพ้นจากวงวารแห่งการเบ่งทับกันด้วยวาทะกรรมของเหล่าผู้ปกครองทั้งหลายมาได้ มาร์ชเองรู้สึกเหมือนจะเป็นลมอีกรอบ เขาเหวี่ยงกระเป๋าทิ้งลงกับพื้น เหวี่ยงตัวเองทิ้งลงบนเตียง แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาสานต่อบทสนทนาที่ถูกตัดไป
Poy : พี่มาชร้านปังปิ้งหน้ารร.เปิดใหม่ อร่อยมาก ลองไปกินดู
March : ได้ๆ อันไหนอร่อยอ่ะ
Poy : หน้าไมโล ปอยสั่งสองแผ่นเลย ลืมไปเลยว่าลดน้ำหนักอยู่ 555555
March : นี่ยังไม่ผอมอีกเหรอ
Poy : เหอะ... ชุดมันหลอกตา
.......
.......
.......
Poy : นี่ๆ พี่โจบอกว่าพี่สอนเลขเก่ง
March : ก็พอได้นะ
Poy : พี่ติวให้ปอยกับเพื่อนๆไปไหมอ่า อาทิตย์หน้าก็ได้ พวกปอยจะไปสอบวิชาความถนัดกัน
March : วันไหนอ่ะคับ
Poy : วันที่พี่สะดวกเลย เดี๋ยวปอยไปหาแถวใต้ตึก
March : น่าจะได้นะ แต่อาจจะมีเพื่อนพี่มาด้วยนะ 555
Poy : พี่เจมป่าวอ่ะ?
March : ช่ายคับ
Poy : เพื่อนปอยแอบชอบพี่เจมด้วยแหละ แต่ปอยไม่บอกนะว่าคนไหน
March : 55555 สนุกเลย
Poy : 55555 สนุกแน่ๆ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
จบตอนที่ 1
ขอบคุณมากนะค้าที่ติดตาม ไรท์จะพยายามอัพให้บ่อยที่สุดน้า เลิฟๆ