【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ ราชันพันธนาการ ♰ ตำนานเทพีจันทร์ แจ้งข่าวหน้า 35
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ ราชันพันธนาการ ♰ ตำนานเทพีจันทร์ แจ้งข่าวหน้า 35  (อ่าน 231007 ครั้ง)

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
บทที่ 13 : ราชามงกุฎดำ (4)

ยามสนธยา ก่อนงานเลี้ยงอาหารค่ำ ท้องฟ้าสีม่วงระบายเฉดสีส้มแดง โคลด์ตามหาซิกฟรีด เขาตัดสินใจบอกเรื่องไมเธียนเป็นควาร์อาวุโสตามที่มาลแกธจงใจเอ่ย

โคลด์เข้าใจว่าไมเธียนเป็นแค่คุณหนูลูกขุนนางมาตลอด

แก่แล้วยังมาช่วยควาร์หนุ่มรังแกข้า เจ้าคนสองหน้า!

“เจ้าชายหรือ อยู่กับท่านหญิงเอริแอดเน่ที่วิหารฝั่งตะวันออกโน่น” ทหารองครักษ์คนหนึ่งเมตตาตอบ เห็นดาร์กเอลฟ์วนเวียนอยู่หลายรอบแต่ไม่มีใครช่วยเหลือ

“ขอบพระคุณ” โคลด์เอ่ยอย่างนอบน้อม ก้มศีรษะให้องครักษ์นายนั้น

ทหารองครักษ์ชั้นผู้น้อยยิ้มให้ แม้ดาร์กเอลฟ์ในรูเมเรียร์จะมีสถานะเป็นทาส แต่ก็มีความรูปงามตามเผ่าพันธุ์

ในเมืองหลวงเอวา เธมาร์ ขุนนางเอลฟ์หลายคนรับทาสดาร์กเอลฟ์ชาติตระกูลดีเป็นข้าบำเรอบนเตียงเพื่ออวดความร่ำรวยและอำนาจ หรือมีไว้ในฐานะของสะสมชิ้นแปลก

“ตรงไป เลี้ยวซ้ายตรงมุมตึก เจ้าจะเจอสวน ตรงไปเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวขวา...เจ้าจะหลงไหมนี่”

เพราะดาร์กเอลฟ์ทำหน้ามึน ทหารองครักษ์จึงทวนเส้นทางให้ฟังอีกครั้ง ในใจคิดว่าหากตนไม่ช่วย คงไม่มีใครช่วยแล้ว

---------------------------------

ซิกฟรีดมองฝ่ามือของตน

เมื่อครู่ใหญ่ เขาได้รับสารเชิญจากพี่หญิงเอริแอดเน่ให้มายังวิหารของนาง วิหารที่พี่เฟนธูรินสร้างให้ว่าที่ราชินีเพื่อเป็นของขวัญวันอภิเษก แม้วิหารไม่ได้ถูกมอบให้ตามความตั้งใจแรกเพราะอดีตราชาสิ้นไปเสียก่อน เอริแอดเน่ก็ยังได้รับสิทธิขาดในการครอบครอง

เพราะริวอร์นอร์มอบให้เป็นสมบัติของนาง

ที่ซิกฟรีดติดใจคือ เวทสื่อสารที่เอริแอดเน่ทิ้งไว้ตอนจับมือกัน สมัยก่อนที่นางเล่นกับเขา สอนเขาสื่อสารด้วยเวทน้ำ สร้างรหัสให้เข้าใจกันสองคน

หยดน้ำบนฝ่ามือสื่อถึงใจ ให้ตระหนักว่ามีเรื่องสำคัญ

ทว่าซิกฟรีดไม่ทราบว่าเรื่องสำคัญนั้นคืออะไร

เอริแอดเน่รอซิกฟรีดอยู่ที่วิหารเพียงลำพัง ไร้องครักษ์ ไร้คนสอดแนมจากริวอร์นอร์ แต่ละช่องประตูและหน้าต่างของวิหารถูกคลุมด้วยม่านน้ำตกบางๆ เย็นฉ่ำ

“พี่หญิง” ซิกฟรีดเดินผ่านซุ้มประตูเข้ามาทีละชั้น ม่านน้ำตกแหวกออกเอง ให้เจ้าชายแห่งรูเมเรียร์ก้าวเข้ามาด้านใน จากนั้นก็ปิดลง

สีหน้าของซิกฟรีดเคร่งขรึม เขาถอดตุ้มหูออกไม่ได้ อาจเป็นเวทอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่รู้ว่ามันซ่อนกลอะไรเอาไว้หรือไม่

ซิกฟรีดเคาะที่ตุ้มหูเบาๆ เป็นเชิงว่า ‘ระวังมีใครแอบฟัง’

“ข้าส่งสารไปอย่างเป็นทางการ ริวอร์นอร์ย่อมทราบว่าข้าเรียกเจ้ามา หากเขาอยากฟัง ก็จงฟัง ข้าไม่มีอะไรปิดบัง”

เสียงของเอริแอดเน่ก้องอยู่ในวิหาร ทว่ามองไม่เห็นตัวนาง ด้านหน้าของซิกฟรีดเป็นสระน้ำรูปวงรี ล้อมด้วยพื้นโมเสกลายดอกไม้ซับซ้อน เชิงเทียนทองคำทรงสูงจุดไฟสีฟ้าตั้งอยู่รอบสระ ให้แสงสว่างรอยามสนธยาหมดลง

ซิกฟรีดสัมผัสได้ถึงความเฉยชาในน้ำเสียง เขาปิดปากเงียบ รอพี่หญิงเฉลย ‘เรื่องสำคัญ’

“ข้าฝันว่าสักวันหนึ่งจะได้มอบบุตรแก่ราชา” เสียงนั้นยังดังต่ออย่างมองไม่เห็นเจ้าของเสียง “เจ้าเข้าวังมา ได้ยินข่าวข้าหมางเมินริวอร์นอร์บ้างแล้วใช่หรือไม่ เพื่อยืนยัน ข้าไม่เคยร่วมเตียงกับเขาหลังท่านเฟรธูรินสิ้น ข้ายังทำใจไม่ได้เสียที”

ในคำพูดของนาง ไม่มีสิ่งใดไม่สมควร

“ขอรับ”

“ความเศร้าของสตรีช่างน่าเวทนา มีเพียงสายน้ำเป็นมิตรแท้ ช่วยเยียวยา” เอริแอดเน่ส่งความนัยว่า

‘สายน้ำคือมิตรแท้’

“และสายน้ำมิเคยโกหกเรา” นางย้ำ

“ข้า…” ซิกฟรีดกลืนก้อนแข็งๆ ที่ขึ้นมาจุกคอ

ข้าไม่อยากเชื่อ

“ข้า...ไม่ทราบว่าควรทำอย่างไรขอรับ”

“มารดานทีเมตตาเราทั้งคู่ ข้ามิอาจได้ยินเสียงของท่าน แต่ข้าสัมผัสได้ถึงความเมตตาของท่าน”

ร่างของสตรีก้าวขึ้นมาจากสระน้ำ เท้าเปลือยเหยียบบันไดหินขึ้นมาทีละก้าว เผยเรือนร่างแบบบางทีละส่วน ตั้งแต่ศีรษะ ใบหน้า ลำคอ หัวไหล่ ทรวงอก หน้าท้อง...จนเมื่อนางก้าวขึ้นมายืนในระดับเดียวกับซิกฟรีด จึงเห็นว่าผิวเนื้อทั่วร่างไร้อาภรณ์ มีเพียงเส้นผมสีทองยาวถึงพื้นเปียกลู่แนบไปกับเรือนร่างงามสมบูรณ์แบบ

เอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์คือตัวแทนแห่งความงามของสตรี

ยกเว้นเพียงแต่ว่า...

“มองข้า ซิกฟรีด ข้ามาหาเจ้าด้วยความจริงใจอย่างยิ่ง ข้ายังหวังที่จะมอบบุตรชายให้แก่ ‘ราชา’ และบุตรชายคนแรกของข้าจะมีนามว่า ‘เฟรธูริน’ ”

นางเรียกให้คนที่รีบก้มหน้าหลบตาเงยหน้ามามองนาง

ไม่มีความเย้ายวนในน้ำเสียง ไม่มีกิริยาหยอกเอิน เอริแอดเน่เปิดเผยตนต่อหน้าเจ้าชายเอลฟ์ดุจรูปปั้นไร้ชีวิต

ซิกฟรีดขบฟัน เขาสับสน ทั้งที่ได้ยิน ‘ความจริง’ จากมารดานทีแล้ว ทั้งที่คิดว่าตัวเองเตรียมใจมาดีแล้ว

แต่ยังไม่ดีพอ


ซิกฟรีดไม่ทราบว่าตนควรทำอย่างไร

ข้าควรทำอย่างไรกับพี่ริวอร์นอร์


ซิกฟรีดรู้สึกถึงหยดน้ำอุ่นๆ ที่ไหลลงมาข้างแก้ม

ตอบสิ อาเลธ เจ้าจะทำอย่างไรกับพี่ชายคนรองที่ฆ่าพี่ชายคนโต!

นั่นคือความลับที่ทำให้ซิกฟรีดเกิดอาการหัวขบถ...ความจริงที่มารดานทีบอกแก่เขา

เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง ซิกฟรีดจึงยอมเงยหน้า และเมื่อเขาค่อยๆ วางสายตาที่เอริแอดเน่ จึงได้ทราบว่าเหตุใดนางถึงเปิดเผยตนในสภาพเช่นนี้

...สภาพที่แสดงถึงความทุกข์ทนอันน่าเวทนาของนาง

 

ในเวลาไล่เลี่ยกัน โคลด์มาถึงวิหารที่องครักษ์บอก เขาไม่เห็นใคร จึงย่องผ่านซุ้มประตูเข้าไปใกล้หน้าต่าง--จุดเหมาะสมในการแอบดู--ด้วยความเคยชิน

เมื่อมองผ่านม่านน้ำตกใสบาง โคลด์เห็นด้านหลังของสตรีนางหนึ่ง ผิวขาวกระจ่างของนางเปลือยอาบแสงเทียน แผ่นหลังเรียบเนียน บั้นท้ายกลมกลึง ทุกส่วนที่ประกอบเป็นนางราวกับบิดาแห่งศิลป์บรรจงปั้น

ทว่านั่นคือสตรีที่มารับซิกฟรีดไม่ใช่หรือ?

แล้วโคลด์ก็เห็นซิกฟรีดก้มลงกอดนาง

กอดแน่น

นางยืนนิ่งให้เจ้าชายเอลฟ์กอดครู่หนึ่ง จึงยกแขนคล้องคอเขา...กอดตอบ

โคลด์ผงะ ใจเต้นแรง คิดว่าตนเห็นอะไรที่ไม่สมควรเห็น สตรีนางนี้น่าจะเป็นท่านหญิงเอริแอดเน่ คู่หมั้นของคิงริวอร์นอร์ไม่ใช่หรือ

แล้วน้องชายของคู่หมั้นกับคู่หมั้นของพี่ชายมายืนกอดกันในสภาพฝ่ายหนึ่งเปลือยเปล่าคืออะไรกัน

การทักทายแบบเอลฟ์หรือ ตลกน่า

โคลด์ถอยหลัง นี่ย่อมไม่ใช่การทักทายแบบเอลฟ์...ไม่ใช่แน่

แววตาของโคลด์แข็งกระด้าง เขาคาดอยู่ว่าที่ซิกฟรีดเลือกใช้ตนบนเตียงเพราะเป็นทาสใช้งานง่าย เมื่อซิกฟรีดกลับเมืองหลวงย่อมได้เจอสตรีหรือบุรุษที่เหมาะสม ไม่จำเป็นต้องใช้เขาต่อไปอีก

แต่นี่ช่างน่าหัวเราะเยาะ พี่ชายกับน้องชายจะใช้ผู้หญิงคนเดียวกัน แล้วมารดานภาจะขับไล่มารดาสมุทรพร้อมสาปแช่งน้องสาวของตนทำไมกัน

พวกเอลฟ์ช่างลักลั่นย้อนแย้งเสียจริง!

โคลด์ไม่ได้อยู่ดูต่อ เขาไม่รู้จะดูไปทำไม เรื่องของเอลฟ์ก็ให้เป็นเรื่องของเอลฟ์เถิด

ดาร์กเอลฟ์หลบออกมา นึกถึงรอยจูบอ่อนโยนของซิกฟรีดยามจูบพรมใบหูตนแล้วก็รู้สึกเจ็บในหัวใจ

--------------------------------------------------

เมื่อเจ้าชายเอลฟ์กลับไป องครักษ์หญิงที่ซ่อนตัวอยู่รีบออกมาสวมเสื้อคลุมให้ท่านหญิง

“ท่านหญิง เหตุใดจึงอนุญาตให้ดาร์กเอลฟ์แอบดูเจ้าคะ”

นางถาม เพราะรอบวิหารนี้วางกำลังจากอิซิลดาร์เพื่อกันคนขององค์ราชา แต่เพราะได้รับรายงานว่าทาสของเจ้าชายซิกฟรีดกำลังมุ่งหน้ามาทางวิหาร เอริแอดเน่จึงมีคำสั่งยกเว้นให้มันเข้ามาได้เพียงคนเดียว

“ลางสังหรณ์ของข้า จามิลลา” เอริแอดเน่ให้องครักษ์หญิงผูกเสื้อคลุมด้านหน้า “ว่าให้มันเห็นจะดีกว่า”

“แต่ว่า...” จามิลลาจะค้าน

“มันไม่เห็นทั้งหมด” เอริแอดเน่ตัดบท นางเหยียดยิ้ม

...เหี้ยมเกรียมอย่างยิ่ง

“ข้าตั้งตารอคืนนี้มากกว่า เรียกว่ารอมาหกปีเต็ม คืนนี้ข้าจะถวายตัวแก่ริวอร์นอร์”

ท่านหญิงเดินออกจากวิหารอีกทางหนึ่ง โดยไม่รอให้จามิลลาสวมคลุมเสื้อทับให้อีกชั้น จามิลลายิ่งมีสีหน้าเครียดเขม็ง เหงื่อท่วมใบหน้า

สาเหตุที่นางหวาดกลัวสุดขั้วหัวใจนั้น…

คือการตัดสินใจถวายตัวของท่านหญิง

---------------------------------------------------------

ค่ำ งานเลี้ยงต้อนรับเจ้าชายซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์เริ่มด้วยการทักทายและอวยพรอย่างเป็นทางการ โดยมีคิงริวอร์นอร์จับตาน้องชายคนเล็กจากบัลลังก์ ด้านข้างคือพระคู่หมั้นบนบัลลังก์ของ ‘ว่าที่’ ราชินี เคียงกัน

ซิกฟรีดเห็นไมเธียนสวมชุดแบบควาร์อาวุโสเต็มยศ นั่งอยู่ในกลุ่มควาร์ที่ปรึกษาแล้ว ทั้งยังเห็นมาลแกธอยู่กับคณะทูตจากต่างแดน

ตุ้มหูเวทนี่...ไม่แน่อาจเป็นฝีมือไมเธียน

เจ้าพวกปลิ้นปล้อน!


มาลแกธอ่านสายตาเพียงแวบเดียวของซิกฟรีดออก เขาเพียงน้อมศีรษะกลับไปเพียงเล็กน้อย คล้ายจะว่า

‘ที่ท่านคิดอยู่นั่นน่ะ ถูกต้องแล้ว’

คิงริวอร์นอร์เผยให้น้องชายเห็นว่า ‘ไม่มีอะไรหลุดรอดสายตาของพระองค์ได้’ และแฝงความหมายเอาไว้อีกว่า

‘ต่อจากนี้ เจ้าจะทำอย่างไรเล่า...อาเลธ’

ซิกฟรีดทราบว่าพี่ชายกำลังเดินหมากตารุก เขากำลังถูกกดดัน

ถึงอย่างนั้น ทั้งสองแสดงบทบาทของตนได้อย่างแนบเนียน ซิกฟรีดแย้มยิ้มและสนทนากับเหล่าขุนนางอย่างมีชีวิตชีวา ขณะคิงริวอร์นอร์ก็คอยเสริมและชื่นชมน้องชายผู้จากบ้านไปนาน

ท่านหญิงจากอิซิลดาร์นั่งนิ่งเงียบราวรูปปั้น เมื่อมีผู้ทักทายจึงค่อยตอบคำ การพูดน้อยของนางแตกต่างจากสมัยของคิงเฟรธูริน แต่เป็นเรื่องปกติในสมัยของคิงริวอร์นอร์

ขุนนางและท่านหญิงทั้งหลายเห็นใจนาง เดาว่าที่นางปฏิเสธไมตรีจากคิงริวอร์นอร์เพราะต้องการไว้ทุกข์ให้แก่คิงเฟรธูรินผู้ล่วงลับ

แต่อย่างไรการเกี่ยวดองกับอิซิลดาร์คือการตอกย้ำอำนาจของรูเมเรียร์ และเป็นผลประโยชน์ของอิซิลดาร์เองด้วยเช่นกัน เหล่าขุนนางทั้งสองฝั่งจึงอยากให้ท่านหญิงเปิดใจมากขึ้น จะได้เข้าพิธีอภิเษกสมรสเป็นราชินีแห่งรูเมเรียร์อย่างถูกต้องเสียที

หลังจากงานพิธีการผ่านพ้น งานเลี้ยงอาหารค่ำก็มาถึง คิงริวอร์นอร์ประทับอยู่บริเวณโต๊ะอาหารของกษัตริย์และเชื้อพระวงศ์บนยกพื้นสูง เห็นบรรยากาศทั่วงานโดยถนัด

“ได้ยินว่าเจ้าชายซิกฟรีดเป็นถึงควาร์มากความสามารถตั้งแต่ยังเยาว์ หากสำเร็จการศึกษา คงได้มาเป็นกำลังให้รูเมเรียร์” ขุนนางท่านหนึ่งยืนขึ้น พลางยกจอกไวน์ประจบประแจงแก่เจ้าชายพระองค์เล็ก ซึ่งนั่งอยู่ทางด้านซ้ายของคิงริวอร์นอร์

อาศรมควาร์บังคับให้ฝึกอย่างต่ำห้าปี หลังจากนั้นจะเป็นการฝึกขั้นสูง พัฒนาพรสวรรค์หลักในการได้ยินเสียงที่ตนถนัด และเรียกให้มันเป็นข้าช่วงใช้

ทว่าซิกฟรีดอยู่ในอาศรมควาร์มา ‘หก’ ปีแล้ว

“ขึ้นอยู่กับว่าน้องชายเราสนใจการเมืองแค่ไหน” คิงริวอร์นอร์เหลือบมองน้องชาย เผยยิ้มนุ่มนวล ทรงอำนาจอยู่ในที “งานปกครอง...การนำมาซึ่งสันติ อาจต้องทำ ‘เรื่องต่างๆ’ ซึ่งทำให้ลำบากใจบ้าง”

ซิกฟรีดพ่นหัวเราะดังหึเบาๆ มุมปากขยับขึ้นเล็กน้อย ดวงตาหลอมเหล็กโชนแสงยามจ้องมองพี่ชาย

“เพื่อรูเมเรียร์ ข้าทำได้ทุกอย่าง”

ริวอร์นอร์เลิกคิ้วพลางลูบคาง “ ‘ทุกอย่าง’ เลยหรือ อาเลธ”

ซิกฟรีดน้อมศีรษะแทนคำตอบ

“ยอดเยี่ยม” ริวอร์นอร์ปรบมือหนักแน่นสองสามครั้ง เหล่าขุนนางลุกขึ้นโดยพร้อมเพรียง ยกจอกไวน์ดื่มให้เจ้าชายแห่งรูเมเรียร์

เมื่อเสียงสรรเสริญอวยพรซาลง และเหล่าขุนนางกลับไปตั้งอกตั้งใจจัดการอาหารตรงหน้า คิงริวอร์นอร์ก็พูดกับซิกฟรีดพอให้ได้ยินกันสองคนว่า

“เจ้าทำได้ทุกอย่าง...เราก็เช่นกัน”

ดวงตาสีดุจหินแก้วประกายรุ้งของท่านหญิงซึ่งนั่งอยู่ทางด้านขวาของราชา...ไม่พลาดเฝ้ามองการสนทนานั้น


---------------------------------------------------------------

A/N บทนี้เฉลยปมสำคัญเลยค่ะ คาดว่าบางคนก็อาจเดาไว้แบบนี้เนอะ...


ป.ล. มีฉากพี่ชายน้องชายฟาดฟันคารม เราว่าซิกฟรีดโดนอะไรๆ มาเยอะเหมือนกัน ยิ่งเขาเด็กที่สุด อุทรณ์กับใครก็ไม่ได้ U_U #กอดราชานะ



ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
♰ Twitter : @VinzeSchwarz

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ถึงจะเดา ๆ ไว้แล้ว แต่ก็ใจหายอยู่ดี

ทำไมต้องฆ่าพี่ชาย?

ทำไมต้องให้โคลด์เห็น?

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
โถ่วววววน้องโคลด์ของป้า เห็นฉากตะเตือนไตซะได้ ไม่เป็นไรนะลูกนะโอ๋เอ๋ไม่ร้องนะคะคนดี



อาเลธน่าสงสารจริงๆนะคะ เพื่อนก็ไม่มี พี่ชายที่รักก็ตายพี่ชายอีกคนก็เป็นไบโพลาร์ คนรอบข้างก็เหมือนจะหวังจ้วงแทงข้างหลังตลอดเวลา



แอริเอดเน่ก็น่าสงสารนะผู้ชายที่รักตายด้วยน้ำมือผู้ชายอีกคนที่จะเป็นสามี แต่ก็ต้องทำเพื่อบ้านเมือง จะคร่ำครวญร้องไห้สงสารหัวใจตัวเองไม่ได้เลย โหดร้ายจริงๆ



ปล.แอบจับได้ว่าน้องโคลด์ขี้หลงทางด้วย น่าร้ากกกก
ปล2.ขอฉากหวานๆของซิกกับนุ้งโคลด์บ้างสิคะ ใจบ่าวคนนี้แห้งเหี่ยวเปลี่ยวเฉาละเกิลลลล

ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3

ออฟไลน์ naplatoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
ตอนแรกๆไม่ได้ชอบโคล์ดเลยนะ แต่ทำไมอ่านไปอ่านมากลายเป็น #ทีมโคล์ด ก็ไม่รู้
ช่วงนี้โคล์ดทำไรก็ดูน่ารักไปหมด (บ้าจริง  :o8: )

แอริแอดเน่ เก่งมากจนเรารู้สึกเข้าไม่ถึง ทำให้เป็นตัวละครที่ลึกลับน่าค้นหามาก อยากรู้ว่านางมีแผนอะไร ต้องการอะไร และจะทำอะไรต่อไป นางดูน่าจะเป็นตัวละครสำคัญในการดำเนินเรื่องมาก ไม่ชอบนาง แต่ก็ต้องยอมความสำคัญนางจริงๆ 55555

ปล. รอ ซิกโคล์ด หรือน้องโคล์ดเฉยๆก็ได้ อยากให้นางมีแอร์ทามเยอะๆ555555
 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
บทที่ 14  : การตัดสินใจ (1)

โคลด์ไม่ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงเพราะเป็นแค่ทาสดาร์กเอลฟ์ ทว่าในวังนี้เขาไม่โดนใช้งานอะไร จึงมีเวลาว่างมานั่งแกร่วบนต้นไม้ มองอาคารจัดงานเลี้ยงจากที่ไกลๆ

แสงตะเกียงสีส้มนวลกับแสงของดอกไม้ดอกเล็กๆ ซึ่งเรืองแสงยามราตรีผสานกันราวหิ่งห้อยล้อมดวงไฟ เสียงบรรเลงดนตรีก็รื่นเริง แม้เย่อหยิ่งตามแบบเอลฟ์

ถึงจะหมั่นไส้ความเป็นเอลฟ์ แต่เสียงหัวเราะที่ดังคลอมาทำให้โคลด์อดคิดไม่ได้ว่างานเลี้ยงดูน่าสนุกจัง

ดาร์กเอลฟ์นึกถึงงานเลี้ยงที่บ้านเกิดสมัยเขายังเด็ก มันเป็นงานเลี้ยงกลางแจ้งรอบกองไฟ ใต้แสงของเทพีจันทร์ ดาร์กเอลฟ์เผ่าเขานิยมสวมเครื่องประดับหินหลากสี บ้างเป็นอัญมณีที่ยังไม่ได้เจียระไน บุรุษเหน็บอาวุธตกแต่งสวยงาม สตรีสวมชุดผ้าทอพื้นเมืองที่ตัดเย็บเองอย่างสุดฝีมือ ดอกราตรีถูกหนุ่มสาวนำมาร้อยเป็นสร้อยดอกไม้ ไว้มอบให้แก่คนที่ตนพึงใจ

โคลด์นึกอยากร้อยสร้อยดอกราตรีบ้าง ดอกไม้นี้ได้รับพรอันเย้ายวนจากแสงจันทร์ ยามกลางวันมันส่งกลิ่นหอมเพียงบางเบา หากไม่เข้าไปดมใกล้ๆ โดยแนบจมูกเข้ากับกลีบดอกไม้ก็แทบไม่ได้กลิ่น ทว่าเมื่อยามราตรีมาถึง ช่อดอกไม้สีแดงกำมะหยี่จะส่งกลิ่นหอมหวานซาบซ่านกระจายไปไกล

ดาร์กเอลฟ์ทราบดีว่ากลิ่นของดอกราตรีมีอำนาจเร้นลับ สะกดใจให้เคลิบเคลิ้มหลงใหล ปลุกเร้าอารมณ์ความใคร่อย่างรุนแรง

การมอบสร้อยดอกราตรีให้แก่ใคร จึงหมายถึงอยากให้เขามาเป็นคู่ของตนในคืนนั้น

โคลด์ลงจากต้นไม้ เขาทราบว่าในราชวังนี้ไม่มีดอกราตรี แต่ก็มีดอกไม้ที่ส่งกลิ่นหอมหวานและมีสีสันแดงเหมือนไวน์ซึ่งพอทดแทนกันได้

โคลด์เก็บดอกไม้อย่างเนือยๆ เขาพกเข็มกับด้ายติดตัวตามความเคยชิน (ไว้ซ่อมเสื้อผ้าให้ตนเองและซิกฟรีด) เมื่อได้ดอกไม้มากพอก็เอามานั่งร้อยเงียบๆ ข้างสระน้ำเมื่อตอนกลางวัน

เขาร้อยดอกไม้แต่ละดอกไปพร้อมครุ่นคิดถึงอดีต...ปัจจุบัน...และอนาคตของตน

“คราวนี้คุยกับดอกไม้หรือ”

จู่ๆ มาลแกธก็โผล่มาทักโคลด์จากด้านหลังเหมือนผีเช่นเคย เขาปลีกตัวจากงานเลี้ยง มีคนสังเกตเห็นแน่ และเขาอาจถูกรายงานแก่ราชาเอลฟ์ แต่แล้วอย่างไรละ...เอลฟ์ตะวันออกช่างประจบเกินเหตุต่างหากที่ต้องระวัง

“ไม่ได้เปิดปากพูดสักคำ จะคุยกับดอกไม้ได้ยังไง” โคลด์ตอบเฉยๆ แต่ดูออกง่ายว่าอารมณ์ไม่ดี กดเอาไว้ข้างใน

“เจ้าอาจคุยได้ทางจิต” มาลแกธมองหาก้อนหินเล็กๆ เขาพึมพำกับตัวเองว่า “ไม่มีแบนกว่านี้หรือไงนะ...อ้า เจอแล้ว”

“นี่มาลแกธ...”

“หืม” มาลแกธเหวี่ยงก้อนหินที่ตนเลือกได้ไปยังสระน้ำ มันกระดอนบนผิวน้ำถึงห้าครั้งก่อนจมหายไป

โคลด์กำสร้อยดอกไม้สีแดงที่ร้อยเสร็จแล้ว ก้มมองมัน “ข้ากำลังคิดว่าจะทำอย่างไรกับสร้อยเส้นนี้ดี”

“มา ข้าตัดสินใจให้” มาลแกธขอสร้อยดอกไม้จากโคลด์ เขาไม่ทราบความหมายของสร้อยดอกราตรี แดนตะวันออกห่างจากแดนทมิฬแบบคนละฟากฝั่ง ถึงมาลแกธจะเคยอ่านเรื่องเผ่าทมิฬ และเคยไปเยี่ยมเยือนสมัยยังเยาว์ แต่ไม่ได้สนใจมากนัก

“ไม่ให้” โคลด์หวงไว้

“มาเถอะน่า”

“ไม่ ข้าไม่ได้ร้อยให้ใคร” โคลด์เหมือนตัดสินใจได้เมื่อพูดออกมา ก่อนหน้านี้เขาร้อยสร้อยด้วยความรู้สึกอึมครึม นึกไม่ออกว่ามีคนอยากมอบให้หรือไม่ แต่พอมาลแกธเอ่ยปากขอ ความรู้สึกของเขาก็ชัดเจนขึ้น

“เห็นไหม เจ้ารู้แล้วว่าควรทำอย่างไรกับมัน” มาลแกธยิ้มกว้าง “สร้อยดอกไม้เส้นนี้แฝงนัยสำคัญอะไรเอาไว้หรือ”

“เอาไว้สาปแช่ง” โคลด์บอก “ข้ากำลังคิดว่าจะฉีกมันทิ้ง เหยียบมัน ขยี้มัน เผามัน ฝังมัน จับมันกดน้ำ หรือทิ้งมันไว้ ไม่สนใจอีก!” โคลด์พูดรัวเร็ว แววตามีความโมโหแทรกชัด ทว่าความโมโหนั้นไม่ได้พุ่งเข้าหามาลแกธ

โคลด์ สตาร์ดูต่างจากเวลาปกติมาก...มากจริงๆ

ถ้าสร้อยดอกไม้นี้แทนหัวใจของเขาซึ่งมีที่ว่างเหลือพอให้ใครสักคนหนึ่ง นอกเหนือจากความโหยหาพี่สาวและความกดดันที่ต้องหลบหนีจากพ่อบุญธรรม มันก็คือความรู้สึก ‘รัก’ ที่โคลด์ไม่คาดคิดว่าตนจะมี...

มาตอนนี้ เขาอยากทำลายมัน

มาลแกธดึงโคลด์เข้ามากอด พลางกดศีรษะอีกฝ่ายเข้ากับอกของตน “เอ้าๆ ร้องไห้มา หรืออยากทุบข้าก็ย่อมได้”

แต่โคลด์กลับกอดมาลแกธ กอดแน่นแบบคนต้องการที่พึ่ง

ดาร์กเอลฟ์ไม่คร่ำครวญแม้สักคำ

-------------------------------------------------

จบงานเลี้ยงแล้ว ตามปกติคิงริวอร์นอร์จะมีบาทบริจาริกาคอยรับใช้ข้างแท่นบรรทม ซึ่งเป็นสิทธิของราชา และคืนนี้ก็ไม่ต่างกัน

ไม่สิ...

ต่างออกไปมากโข เพราะบาทบริจาริกาที่รออยู่ในห้องไม่ใช่คนที่ราชาเลือกไว้ แต่เป็นสตรีสูงศักดิ์ที่มาโดยไม่คาดคิด

นางนั่งพับเพียบอยู่บนพื้น ทว่าแววตาอันคุ้นเคยและรู้เท่าทันกันมองเขาอย่างเฉียบคม

เอริแอดเน่ไม่ได้มองริวอร์นอร์--สหายแต่ยังเยาว์ ด้วยแววตาเช่นนี้อีกหลังจากสิ้นคิงเฟรธูริน

ริวอร์นอร์หงายมือให้เอริแอดเน่ ให้นางรับทราบว่าหากยื่นมือกลับมา นางจะไม่สามารถถอยหลังได้อีก

ราชาใช้ความเงียบต่อกรกับความเงียบ ใช้สายตาสยบความดื้อดึง ริวอร์นอร์ทราบว่าไม่อาจครอบครองเอริแอดเน่ได้ทั้งหมด ทว่านอกจากเขา นางทราบแก่ใจว่า...ไม่อาจมีชายใดรับ ‘ความอัปลักษณ์’ ของนางได้

เอริแอดเน่พรายยิ้ม นางลุกขึ้นโดยไม่เอ่ยปากขอคำอนุญาต และไม่จับมือราชา เมื่ออยู่กันตามลำพัง ก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องปิดบังตัวตน

“ข้ากับเจ้าคุ้นเคยกันขนาดนี้ มีหรือว่าเจ้าจะไม่รู้ว่าข้ามาทำไม” นางบอก

รอยยิ้มของริวอร์นอร์ยามอยู่กับเอริแอดเน่เพียงสองคน ดูต่างออกไปจากที่บรรดาขุนนางเคยเห็น มันเปิดเผยด้านมืดของราชาแห่งรูเมเรียร์ แม้จะเหี้ยมเกรียม แต่เจิดจ้าราวกับรอยยิ้มของจอมปีศาจตามความเชื่อโบราณของเผ่าทมิฬ

“เจ้าได้ยินสิ่งที่ข้าบอกแก่ซิกฟรีดแล้ว ข้าจะให้กำเนิดบุตรของราชา และบุตรชายคนแรกของข้าจักมีนามว่า ‘เฟรธูริน’ ”

ตุ้มหูเวทของซิกฟรีดมีลูกเล่นตุกติกอยู่จริงๆ เอริแอดเน่ไม่ได้เป็นคนเลือกให้ด้วยซ้ำ ริวอร์นอร์อ้างชื่อนางเพื่อหลอกน้องชาย

“เจ้าให้กำเนิดบุตรได้หรือ” ริวอร์นอร์เอ่ยคำแทงใจ “...หรือแพทย์หลวงหลอกเราว่าไม่ได้”

“แพทย์หลวงของเจ้าไม่เคยแตะต้องข้า เจ้าไปประหารมันเอาเองพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” ท่านหญิงตอบอย่างอำมหิต

ริวอร์นอร์ไล่สายตามายังบริเวณหน้าท้องของเอริแอดเน่ นางสวมชุดรัดกุมตามปกติ ไม่เหมือนบาทบริจาริกาที่พร้อมถวายการรับใช้

“ข้าจะเป็นราชินี ข้าบอกเจ้าเสมอมา เจ้าริบโอกาสของข้าไปเมื่อหกปีก่อน” เอริแอดเน่ยิ่งฉีกยิ้ม “ข้าจักเป็นราชินีที่งดงามของเขา เพราะเขาทำให้ข้างดงามยิ่งกว่าใคร ทั้งหัวใจและความรู้สึก แต่เจ้าชิงมันไป เจ้าเหลือทางเลือกเดียวให้ข้า”

“เจ้าเป็นราชินีของ ‘ผู้ล่วงลับ’ ไม่ได้...คนดี”

ท่านหญิงกระตุกรอยยิ้มให้น่าชัง ให้สมกับความชังในใจของนางที่มีต่อริวอร์นอร์

“เจ้ากลับอิซิลดาร์ไม่ได้ จะอยู่ที่นี่ก็ชังเราเหลือใจ แล้วจะทำอย่างไรต่อไปล่ะ”

“เวลานี้อิซิลดาร์มีคนอยู่เหนือข้าเพียงคนเดียวเท่านั้น เจ้าดูเข้ากับนางได้ดี ท่านย่าของข้า เจ้าก็ควรทราบว่านางเองก็ไม่มีทายาทสตรีคนใดมาเสนอให้เจ้าได้ดีไปกว่าข้า”

“มั่นใจเสียจริง” ริวอร์นอร์เอนกายชมความโกรธแค้นชิงชังของนาง

“ข้ามั่นใจเสมอมา และจักมั่นใจตลอดไป”

เอริแอดเน่ทำทุกอย่างเพื่อความมั่นใจนั้น ทั้งสิ่งที่ริวอร์นอร์ทราบและไม่ทราบ นางไม่ได้สิทธินี้มาเพียงเพราะเป็นบุตรีสายตรง นางกำจัดก้อนหินขวางทางและคู่แข่งมานับไม่ถ้วน

“คืนนี้เจ้ามาเพื่อปะทะคารมกับเราเพียงอย่างเดียวหรือ” ริวอร์นอร์แสร้งถอนหายใจเหนื่อยหน่าย ดูว่านางจะดิ้นไปทางไหนอีก

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นางแสดงความเกลียดชังที่มีต่อเขาอย่างชัดแจ้ง

“ไม่ ข้ามาให้เจ้าดูว่าเจ้าได้อะไร” เอริแอดเน่หัวเราะ ไร้ความร่าเริงอ่อนเยาว์อย่างเด็กสาวแรกตกหลุมรัก...ดังเช่นที่ครั้งหนึ่งนางเคยมอบให้แก่เขา

นางปลดกระดุมชุดด้านหน้าทีละเม็ด ถอดชุดราตรียาวท่อนบนออก แล้วปล่อยให้เนื้อผ้าไหลผ่านเรือนร่างลงไปกองที่พื้น จากนั้นก็ปลดชุดซับในตัวบาง

ยืนเปลือยกายต่อหน้าราชา

นางยืนอย่างองอาจเหมือนที่ยืนต่อหน้าซิกฟรีด ไม่อับอายต่อแสงโคมภายในห้องที่ทำให้ภาพของนางชัดเจนในสายตาของเขา

“นี่คือสิ่งที่เจ้าจะได้ ริวอร์นอร์” นางลูบรอยแผลเป็นสีชมพูนูนยาวใต้ทรวงอก มันเป็นรอยกรีดใต้ราวนมสองข้างมาบรรจบกันที่กลางลำตัว ลากยาวลงไปตามแนวสะดือ และตีกรอบสี่เหลี่ยมรูปเพชรคมกริบรอบหน้าท้องเหมือนการตีตราสัญลักษณ์

“เจ้าคงไม่ได้คิดว่าข้าเกิดพิสมัยชุดอย่างรูเมเรียร์ขึ้นมากะทันหันใช่ไหม เรื่องนี้ไม่มีใครทราบ ท่านย่าของข้าไม่ทราบ เจ้าก็ไม่ทราบ แต่ข้าตัดสินใจแล้วว่าจะเป็นราชินี ข้าไม่เกรงจะเปิดเผยมันอีกต่อไป เห็นแก่ความชั่วช้าที่เราเคยทำร่วมกันมาทั้งหมด จงคิดให้ดีก่อนปฏิเสธข้า”

“เจ้าแน่ใจหรือว่าเราไม่ทราบ” ริวอร์นอร์ลุกจากเตียงมาหานาง “ราชินีของเรา”

มือแข็งแรงวางบนเอวของเอริแอดเน่ ก่อนจะโอบแล้วดึงเข้ามาแนบชิด ริมฝีปากงามสมบูรณ์แบบของนางถูกครอบครอง...อย่างอ่อนหวาน นุ่มนวล

“ข้าแน่ใจ” เอริแอดเน่เบือนหน้าออก ไม่หลงกลความอ่อนโยนอันเสแสร้ง “เจ้าไม่เคยทราบ ไม่ว่าเจ้าจะพยายามแสดงออกว่าทราบอย่างแนบเนียนแค่ไหน ข้ารู้ทัน และเจ้าจะต้องอยู่กับมันโดยอุทธรณ์ไม่ได้ เพราะข้าจะไม่รักษามัน”

ริวอร์นอร์เหยียดยิ้ม ทว่า...แม้นางจะพยายามมองหาอาการปฏิเสธหรือรังเกียจเดียดฉันท์ นางก็ไม่พบเลย

“ราชินีอัปลักษณ์ย่อมเหมาะกับราชา--”

“เลวทราม” เอริแอดเน่ต่อคำให้

“ถูกต้อง…”

เสียงตบหน้าดังก้องห้องบรรทมของราชาฉาดหนึ่ง จากฝ่ามือของท่านหญิงผู้แสดงออกอย่างสงบนิ่งเสมอมา นางหอบหายใจถี่แรง ด้วยโกรธจนหายใจไม่ทัน

ริวอร์นอร์หันกลับมาช้าๆ ผิวแก้มค่อยๆ ขึ้นสีจัดเป็นรอยฝ่ามือเล็กๆ ของสตรีใจกล้า

“สิ่งที่เจ้าได้ มีแค่ความอัปลักษณ์ของข้าเท่านั้น!”

“เจ้าไม่ได้อัปลักษณ์ไปกว่าเดิมหรอก เอริแอดเน่” ริวอร์นอร์มองนางเต็มตา ท่านหญิงเห็นเงาสะท้อนของตัวเองผ่านนัยน์ตาของริวอร์นอร์

“ข้างดงามในสายตาของเขา” เอริแอดเน่กลืนลมหายใจกลับเข้าไป นางควบคุมอารมณ์ไม่ให้เสียงสั่น

“แล้วเจ้าเห็นอะไรผ่านเรา...คนงาม” ราชาเอลฟ์ไล้ข้อนิ้วบนแก้มและคางของนาง

“เห็นตัวข้า ที่เจ้าต้องอดทนรับไว้ เพราะไม่มีทางเลือกอื่นใด เพราะข้าไม่มอบทางเลือกให้เจ้า”

ริวอร์นอร์หัวเราะเสียงดังกับคำตอบนั้น “เราได้สิ่งที่ต้องการทั้งหมดแล้ว” เขาไม่ได้แสร้งทำแม้สักนิด “อีกเรื่องหนึ่ง...หากเจ้าฉลาดอย่างที่เป็นมาเสมอ จงทำให้อาเลธรู้จักที่ทางของตน”

ท่านหญิงส่งเสียงหึ! ในลำคอ บุรุษคนใดก็ไม่สามารถสั่งนางได้

“นับแต่นี้ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้า ริวอร์นอร์ ไม่ว่าเจ้าจะต้องการหรือไม่ ข้าจะอยู่กับเจ้าจนถึงวันที่เราคนใดคนหนึ่งตายจากกัน และในวันนั้นข้าจะมองตาเจ้า บอกความ ‘รัก’ ของข้าที่มีต่อเจ้าโดยไม่หลบสายตา”

ช่างเป็นคำบอกรักร้อนแรงสมเป็นสตรีอิซิลดาร์

“สมกับตำแหน่งราชินีของเราเหลือเกิน” ริวอร์นอร์จุมพิตนาง สองมือกอบหลังศีรษะของนางเข้ามาไม่ให้หนี

เอริแอดเน่กัดปากริวอร์นอร์เต็มแรง เรียกเลือดของราชามงกุฎดำ

“อา…” ริวอร์นอร์ถอยไปนิดหนึ่ง ก่อนแสยะยิ้ม “ถ้าเจ้าชอบแบบนี้ เราก็จะตอบสนองตามที่เจ้าต้องการ”

ท่านหญิงจากอิซิลดาร์มองตอบด้วยแววตาดุร้ายดุจนางสิงห์

นี่ไม่ใช่คืนถวายตัวที่จบลงด้วยประโยคที่ว่า

‘...และแล้วราชากับราชินีก็ครองรักกันอย่างมีความสุขตลอดไป’


 —————————————————————————

A/N อา...จากคอมเมนต์ของหลายๆ คนในตอนที่แล้วเรื่องเอริแอดเน่ ไม่ทราบว่าอ่านตอนนี้แล้วรู้สึกอย่างไรกันบ้างคะ /อย่าปาเค้า แงๆๆๆ

ป.ล. ชอบฉากร้อยดอกไม้ของโคลด์ค่ะ และมาลแกธ...ก็ยังเป็นผู้ชายที่จังหวะดีตลอดดด ป๋าทำบุญมาด้วยอะไร โผล่มาก็ได้เต๊าะเอาๆ ได้คะแนนไปทุกที! =.=



ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
♰ Twitter : @VinzeSchwarz



อนึ่ง วันนี้มาช้าเพราะเคลียร์งานอยู่ค่ะ แงๆๆ คอมเมนต์ก็ยังมะได้ตอบเลย ฮือๆ เรายังจะยุ่งไปอีก 3-4 วันค่ะ
แต่จะมาลงต่อเนื่องค่ะ หมดช่วงพีคจัดๆ ไปแล้ว

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เราจะงอนคนเขียนแล้วอ่ะ ไม่มีฉากซิกกับโคลด์ให้ชุ่มฉ่ำใจบ้างเลย//นั่งอยู่บนเรืออย่างเงียบเหงา



สำหรับแอริเอดเน่ก็ไม่เกินที่คาดไว้หรอก ออกจะน้อยไปด้วยซ้ำ ผู้หญิงแบบนี้น่ากลัวแล้วก็น่านับถือใจมาก ใจเด็ดจริงๆ


ปล.น้องโคลด์ชอบดอกราตรีหรอลูก มาเดี๋ยวป้าปลูกให้สักแผงหนึ่งดีไหมคะ? หรือชอบดอกอะไรเดี๋ยวป้าเปย์หนูเองลูก

ปล2.คนเขียนสู้ๆนะ

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ห๊ะ! ฉันพลาดอะไรไป? รอยกรีดคืออะไร?
เห็นใจแอรี่ และไม่เห็นใจนาง ความรู้สึกตีกันยุ่งเหยิงมาก

#ป๋าจังหวะเทพ ดอดมาตอดเมียชาวบ้านเสมอ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ about

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ naplatoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
ชอบฉากร้อยดอกไม้ของโคล์ดเหมือนกันค่ะ 5555
นุ่งโคล์ดน่ารักตลอดเลย รู้ใจตัวเองแล้วเหรอลูกกก :ling1:
พอชอบโคล์ดเราก็จะเริ่มหมั่นไส้ซิก แต่ก็ต้องการโมเมนต์ซิกโคล์ด โอ้ยสับสนแรง :serius2:

ส่วนท่านหญิงแอริแอดเน่ อ่านตอนของนางนอกจากจะมีความรู้สึกระแวงตามปกติ ตอนนี้รู้สึกเหนื่อยและอึดอัดแทนนาง
ทำไมชีวิตนางถึงต้องยากขนาดนี้ มันไม่ยากแบบโคล์ดที่ต้องพลัดถิ่นตามหาพี่สาว มันยังพอมีพลังด้านบวก มีความหวังบ้าง
แต่ของนาง ต้องสู้แย่งชิงกับคนอื่น ต้องตะเกียดตะกายยังไงก็ไม่รู้ แต่นางมีความมั่นใจ ว่านางเก่ง นางควบคุมทุกอย่าได้
จะบอกว่าสู้ๆนะ พี่เน่ ก็นึกได้ว่าเราไม่เชียร์นาง555555

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เอริแอดเน่ ต้องการให้โคลด์เห็นฉากกอดกัน
เพราะนาง คงมีลางบอกให้รู้ ว่าซิก กับโคลด์ มีซัมติงกัน
ฉากบนเตียงราชา ดูท่าคงเหมือนสมรภูมิรบละม้าง
ซิก รู้ความจริงซ้ำอีกครั้งที่ว่า คิงริวอร์นอร์ฆ่าคิงเฟรธูริน
คงยากลำบากใจ ก็เป็นพี่ชายทั้งคู่ แต่รัก สนิทสนมต่างกัน
โคลด์ แม้จะโกรธรวดร้าว แต่ไม่ปริปากบอกมาลแกธเลย เยี่ยมมาก
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
มีแต่พวกน่ากลัว

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
ป๋าจะดวงดี(เหรอ?)ไปไหนอ่ะ นั้นเมียคนอื่นนะ!!//อ้ายยๆเรายังไม่เอ่ยชื่อนายนะโคลด์

เราก็สงสารนางนะแต่อีกใจเราก็ไม่สงสารอ่ะ..แลดูสับสน ฮ่าๆ

ปอลิง.เอาซิกออกมาที เดี๋ยวออกค่าตัวช่วย :hao7:

ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
บทที่ 14  : การตัดสินใจ (2)

เช้าวันต่อมา ซิกฟรีดจมอยู่กับความคิดของตัวเอง เขาไม่แตะต้องอาหารในงานเลี้ยง เว้นเพียงไวน์ ซึ่งดื่มตามมารยาทเมื่อขุนนางยกจอกขึ้นเพื่ออวยพร

เขาทราบว่าริวอร์นอร์ผู้เป็นพี่ชายจับตามองตนอยู่

และเขาแสดงออกชัดเจนว่าเป็นปรปักษ์

แต่จะทำอย่างไรได้เล่า

‘เจ้าคิดจะดิ้นจากอุ้งมือเราอย่างนั้นหรือ’ สายตาของพี่ชายเหยียดหยัน

ริวอร์นอร์ฆ่าเฟรธูริน ขังซิกฟรีด...ขังข้า! ในอาศรมควาร์ ให้ควาร์อาวุโสนามไมเธียน และเอลฟ์ตะวันออก มาลแกธ ล็องธู คอยจับตาดูน้องชาย ฟังจากในงานเลี้ยง ตระกูลล็องธู ‘คล้ายว่า’ จะสวามิภักดิ์กับราชาเอลฟ์เพื่อแลกกับ ‘ไมตรีจากรูเมเรียร์’ และใช้ไมตรีนั้นกดดันตระกูลอื่นๆ ในดินแดนตะวันออก

และคืนก่อน ริวอร์นอร์แสดงให้ซิกฟรีดเห็นว่า ‘เจ้าไม่มีทางเลือกอื่น...อาเลธ’

พี่ผิดแล้ว ริวอร์นอร์

มีทางเลือกอื่นเสมอ

ยังมี...


ด้านล่างที่พักของเจ้าชาย ทาสดาร์กเอลฟ์แอบนำห่อของว่างมาให้ทหารองครักษ์ที่บอกทางแก่เขาเมื่อวาน

โคลด์ยื่นห่อผ้าเล็กๆ ให้ทหารองครักษ์นายนั้นรับไว้ แต่เพราะอยู่ในหน้าที่ ทหารองครักษ์จึงรับของขวัญไม่ได้

“งั้นท่านออกเวรเมื่อไหร่ ข้าจะนำมาให้ใหม่” โคลด์บอกก่อนหน้านั้นเขานึกอยากเอาอาหารไปให้มาลแกธ แต่โดนไล่ออกมาจากโรงครัวหลวง เพราะมาลแกธเป็นอาคันตุกะชั้นสูง แถมไม่มีใครบอกโคลด์ด้วยว่ามาลแกธพักอยู่ที่ไหน

ส่วนอาหารของซิกฟรีด...ก็ไม่ใช่หน้าที่เขาอยู่ดี

โคลด์จ้องผ่านทหารองครักษ์กับทหารอีกนายไปทางบันไดขึ้นสู่ตำหนักของเจ้าชาย

จะเอาข้ามาทำไม

คำถามนี้ติดอยู่ในใจโคลด์ตลอด

ดูสิ แค่ทางเข้าข้ายังเดินเข้าไปไม่ได้

แต่คิดอีกที โคลด์ว่าแบบนี้อาจดีก็ได้ ต่อไปเขาจะได้ตอกหน้าซิกฟรีดได้ถนัด เวลามาบังคับให้เขาทำอะไร

“ให้ขึ้นมา” ซิกฟรีดสั่งให้ทหารองครักษ์เปิดทาง หากโคลด์สังเกตสักนิด จะเห็นว่านิ้วทั้งห้าของเจ้าชายที่ ‘บีบ’ ขอบระเบียงอยู่กลายเป็นสีขาวซีด คล้ายกดอารมณ์ไม่ให้แสดงทางสีหน้า แต่ระบายเอากับหินอ่อนแทน

โคลด์ที่กำลังจะเดินกลับได้ยินคำสั่งนั้นพอดี

เขาจึงมานั่งแหมะบนพื้นพรมหรูหรา ในห้องอันสมฐานะตามชาติกำเนิดของเจ้าชายเอลฟ์

“นี่ เมื่อวานข้าเจอมาลแกธ” โคลด์บอกง่ายๆ

“ไปเจอมันอีกทำไม”

“เขามาเจอข้าเอง ใครจะไปรู้ว่าเขาเป็นขุนนางแดนตะวันออก” โคลด์เดาจากชุดที่มาลแกธใส่

สนิทกันนัก…ซิกฟรีดนึกอย่างไม่พอใจ แต่ข้าไม่มีสิทธิ์ห้ามเจ้าใช่ไหม เจ้าไม่เคยมีความรู้สึกใดๆ กับข้า

“ข้าเจอไมเธียนด้วย” โคลด์ทำท่าอยากบอกอะไรสักอย่าง “เจ้ารู้ไหมว่ามาลแกธเรียกเขาว่าอะไร” ท่าทางอยากพูดของดาร์กเอลฟ์ปิดไม่มิดทีเดียว

“ควาร์อาวุโส”

“เอ้อ...ใช่” ใบหูสีเข้มลู่ลง “แสดงว่าข่าวของข้ามาช้าไป”

“เขาแสดงตนชัดเจนในงานเลี้ยง” ซิกฟรีดกดขมับตัวเอง คิ้วขมวดเข้าหากันจนเห็นรอยย่น

“เจ้านั่นทำตัวเป็นควาร์คุณหนูมาหลอกเรา ข้าพนันว่าธอรอนทูร์ไม่รู้หรอก กลับไปอาศรมเมื่อไหร่ข้าจะหัวเราะเยาะมัน”

โคลด์ยิ้มแบบไม่ทุกข์ร้อน เหมื่อนเรื่องที่เขาให้มาลแกธปลอบเมื่อคืน หรือที่เขาอยากขยี้สร้อยดอกไม้ไม่เคยเกิดขึ้น

“ก็สมกับเป็นควาร์อาวุโสแล้ว พวกเราเรียนรู้วิธี ‘ตีสองหน้า’ เพื่อให้ได้ผลประโยชน์สูงสุด”

ซิกฟรีดยิ้มเยาะที่ตนโง่งมเป็นนาน

เขาจงใจย้ำคำว่า ‘ตีสองหน้า’ เพื่อให้ผู้ใดก็ตามที่แอบฟังผ่านตุ้มหูเวทได้ยิน

“เจ้ากินอาหารเช้าหรือยัง” โคลด์ถาม

ซิกฟรีดส่ายหน้า ใครจะกินลง

“ไม่มีใครเอาอาหารเช้ามาให้เจ้าหรือไง”

ซิกฟรีดเบือนสายตาไปทางเตียงให้โคลด์มองตาม บนเตียงมีถาดอาหารเช้าเบาๆ วางอยู่ แต่เจ้าชายไม่แตะต้องเลย

โคลด์เดินเข้าไปจดๆ จ้องๆ และอาจจิ้มไปแล้วหากไม่เกรงใจว่าอยู่ในราชวัง

เขาหันมามองซิกฟรีดด้วยแววตาเป็นประกาย

“เจ้าจะกินกับข้าไหม” ดาร์กเอลฟ์ยิ้มแป้น เขายกไปกินเองเฉยๆ คงไม่ดี แต่ถ้าเจ้าชายแบ่งให้กินคงพอได้

ซิกฟรีดไม่อยากเชื่อ เขาทราบว่าโคลด์กินเก่ง แต่ไม่นึกว่าจะไม่เลือกสถานการณ์ด้วย

“ข้าอนุญาต” เจ้าชายโบกมือคล้ายปัดรำคาญ

โคลด์เลยยกถาดอาหารมาวางบนโต๊ะในส่วนห้องนั่งเล่น และเรียกซิกฟรีด “เจ้าต้องกินด้วย”

“ข้าไม่อยากกิน” ซิกฟรีดไม่ยอมเดินไป เขาไล่นิ้วบนพิณขนาดเล็ก มันส่งเสียงเบาๆ คล้ายกำลังเศร้าสร้อย

“กินเถอะน่า ทนหิวไปไม่ทำให้เจ้าอารมณ์ดีขึ้นมาหรอก” โคลด์ยืนยันอย่างไม่สนใจท่าทางดราม่าของอีกฝ่าย สมัยก่อนเขาก็หลอกล่อเจ้าชายน้อยให้กินอาหารด้วยวิธีคล้ายๆ กันนี้ ซึ่งได้ผลดี

“เจ้าเกลียดที่ต้องรับใช้ข้า”

“ข้าไม่เกลียดเรื่องกินอาหารเช้ากับเจ้า” โคลด์ยังไม่แตะต้องอาหาร เพราะรอให้อีกฝ่ายเลิกรั้นเสียที

ซิกฟรีดถอนหายใจหนักๆ แล้วยอมเดินไปหาโคลด์ เขานั่งลงแล้วอ้าปาก เหมือนสั่งให้อีกฝ่าย ‘ป้อน’

จงใจกวนอารมณ์แน่ๆ

“เจ้าเป็นลูกนกหรือไง ไหนร้องจิ๊บๆ ซิ” โคลด์หัวเราะ ป้อนซุปเห็ดกลิ่นหอมชวนน้ำลายสอให้

บางครั้งดาร์กเอลฟ์ก็ทื่อเกินไป

ซิกฟรีดพอกินได้เวลามีโคลด์อยู่ “อ้าปาก” เขาสั่ง

โคลด์ทำหน้ายู่ “ไม่เอา” เขารู้ว่าซิกฟรีดจะทำอะไร

‘อ้าปาก’ สายตาดุอันแสนคุ้นเคยจ้องมา

ดาร์กเอลฟ์เม้มปากแน่น ตักซุปช้อนใหม่ จะป้อนให้อย่างเดียว พร้อมทำสงครามทางสายตาตอบ

สมัยก่อนเขาป้อนอาหารให้ไอ้เด็กเอลฟ์บ่อย แต่ไม่เคยต้องให้มันป้อนให้

ซิกฟรีดบิขนมปังถือไว้ แล้วเอาไปจ่อปากโคลด์ ขณะที่มืออีกข้างบีบจมูกดาร์กเอลฟ์

พอโคลด์อ้าปากหายใจ เขาก็ส่งขนมปังเข้าปาก

ซิกฟรีดยิ้มได้ใจ เสียงหัวเราะเบาๆ ลอดออกมา

น่ารัก…

แล้วเจ้าชายเอลฟ์ก็ชะงักกับความคิดของตัวเอง

“แค็กๆ” โคลด์ไม่คายของกินทิ้งอยู่แล้ว จึงกลืนเข้าไป ใบหน้าสีเข้มแดงก่ำ เขาทุบอก คว้าน้ำมาดื่มให้ขนมปังที่ติดคอไหลลงไป จากนั้นก็มองซิกฟรีดตาเขียว

สงครามซุปและขนมปังเริ่มขึ้น ใช้เวลาสักพัก อาหารเช้ามากมายหลายชนิดก็ลงไปอยู่ในท้องของทั้งสองคนจนหมด

“เจ้ารู้ไหม...เมื่อก่อนตอนข้าอยู่นอกค่าย อาหารหากินยากมาก ข้าจึงถือคติถ้ามีให้กินก็อย่ามัวลีลา กินๆ เข้าไปเถอะ”

โคลด์บอกขณะเก็บจานชามให้เรียบร้อยตามความเคยชิน

แต่เขาไม่ได้บอกว่าที่หากินยากนั้น...ยากขนาดไหน บางครั้งไม่มีของกินที่เรียกว่าอาหารได้เต็มปากตกถึงท้องเป็นสัปดาห์ เขาและพี่สาวอาศัยดื่มน้ำจากลำธารกับขูดเนื้อไม้ข้างใต้เปลือกไม้มากินประทังชีวิต

ซิกฟรีดหัวเราะและหอบหายใจกับการต่อสู้ไร้สาระ แต่ครู่หนึ่งก็หุบยิ้ม “ข้าจะกลับอาศรม” เขาบอก “กลับไปศึกษาเวทควาร์ขั้นสูง พี่ริวอร์นอร์เปรยเรื่องตำแหน่งในราชสำนักเมื่อคืนก่อน ข้ายัง… ‘ทำใจรับไม่ได้’ บางทีอาจต้องใช้เวลา”

ใบหูของดาร์กเอลฟ์ตั้งด้วยความทึ่งที่เจ้าชายเล่าเรื่องของตน เพราะปกติซิกฟรีดไม่คุยเรื่องส่วนตัวกับเขา

“เจ้าดีใจที่ได้พบพี่ชายเหรอ ถึงมาเล่า”

ซิกฟรีดขบกราม

เขาไม่ได้พูดกับโคลด์

แต่พูดกับริวอร์นอร์ผ่านตุ้มหูเวทอันน่าชัง

ข้ายอมกลับไปเป็นนักโทษ

ดีกว่าไร้ทางเลือกใด


“แล้วเจ้าทำใจรับไม่ได้เรื่องอะไร” โคลด์ถามต่อ “ไม่อยากทำงานให้ราชสำนักหรือ หรือเป็นเจ้าชายไม่ต้องทำงานก็ได้”

จะให้ข้าทำใจรับใช้พี่ชายซึ่งสังหารพี่ชายอีกคนได้หรือ

ซิกฟรีดไม่ตอบ บรรยากาศรอบตัวเขากลับมาอึมครึม

โคลด์จึงได้แต่เก็บจานแล้วเก็บจานอีก จัดใหม่เรียงใหม่อย่างคนไม่รู้จะพูดอะไร กระทั่งจานชามถูกจัดเรียงอย่างสวยงามไม่มีที่ติเพื่อรอคนรับใช้มาเก็บ โคลด์จึงลุกขึ้นเพื่อขอตัวลา

“ข้ากลับไปอยู่ที่ของข้าดีกว่า ข้าจำได้ว่าพี่ชายคนรองของเจ้าไม่ชอบดาร์กเอลฟ์”

‘กอด’ ซิกฟรีดมองโคลด์ ‘...ได้โปรด’

เขาไม่ทราบว่าโคลด์จะเข้าใจสายตาของตนไหม ที่ผ่านมาอีกฝ่ายเหมือนจะเข้าใจโดยเขาไม่ต้องพูด

โคลด์ยืนตัวค้าง ถลึงตา นั่นแปลว่าเข้าใจ เขาใช้สายตาตอบกลับว่า ‘จะหาเรื่องให้ข้าหัวขาดหรือไง’

ซิกฟรีดจึงหลุบตาลง

ไม่มีการร้องขอใดอีก

โคลด์ชั่งใจ...เขานึกภาพซิกฟรีดกอดท่านหญิงเอริแอดเน่เมื่อวาน ไม่เข้าใจว่าทำไมซิกฟรีดยังต้องการให้เขากอด

ดาร์กเอลฟ์หลับตา ดึงมือเจ้าชายเอลฟ์หลบเข้ามุมห้อง ในจุดที่จะไม่มีใครเห็นพวกเขาจากทางหน้าต่าง แม้มีผ้าม่านกั้นบางเบา โคลด์ก็ไม่อยากให้เงาของพวกเขาเผลอทาบไปบนนั้น

เขากอดเอวซิกฟรีดก่อน แล้วยกแขนขึ้นกอดหลัง

ซิกฟรีดรวบตัวโคลด์เข้ามากอดแน่น เขาฝังจมูกบนบ่าของอีกฝ่าย มือรั้งแผ่นหลัง ทั้งสองแทบจะหลอมเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่มีพื้นที่ว่างให้อากาศแทรก

ซิกฟรีดหลับตา เขารู้สึกปลอดภัย...

โคลด์ใจเต้นแรงอย่างไม่เข้าใจ วันนี้ซิกฟรีดเปิดเผยกว่าปกติ และดูเหมือนกำลัง...อ้อนเขา?

“ถ้าข้าเป็นราชา…” ซิกฟรีดกระซิบข้างหูโคลด์โดยไม่กลัวเกรง ทว่าคำต่อมาเขาเอ่ยโดยไม่ออกเสียง

...หากเจ้าต้องการอิสระ ข้าก็จะมอบอิสระของทั้งโลกให้เจ้า

โคลด์รีบยกมือปิดปากอีกฝ่าย เขาก็ไม่ได้โง่เท่าไหร่ โดยเฉพาะตุ้มหูที่ซิกฟรีดได้รับมา ดูยังไงก็ไม่เหมือนตุ้มหูธรรมดา

ทั้งสองค้างอยู่ในท่านั้นจนโคลด์หอบเบาๆ ริมฝีปากและลมหายใจของเจ้าชายเอลฟ์สร้างความรู้สึกจั๊กจี้จากฝ่ามือไล่ขึ้นไปตามแขน ซิกฟรีดแนบชิดเขาเกินไป ขาที่เกี่ยวกันอยู่ยิ่งทำให้วิงเวียน โคลด์ใช้สายตาถามว่า ‘จะอยู่เช่นนี้ต่ออีกนานไหม’

คำตอบของซิกฟรีดคือเอามือโคลด์ออก แล้วใช้ปลายนิ้วเกี่ยวคางเข้ามารับจูบ

คนถูกจูบสะท้านใจ เขาเผลอลูบไล้ร่างกายของอีกฝ่ายก่อนทันได้คิดอะไร ภาพซิกฟรีดกอดท่านหญิงยังติดอยู่ในใจ เขาสัมผัสกล้ามเนื้อตึงแน่นของเจ้าชายผ่านเนื้อผ้าหรูหรา เหมือนอยากบอกว่า ‘ข้าก็มีสิทธิเป็นเจ้าของเจ้า’

สัญชาตญาณอย่างดาร์กเอลฟ์ระอุอยู่ข้างใน

เจ้าชายเลื่อนมือลงไปยังบั้นท้ายของอีกฝ่าย บีบเคล้นด้วยอารมณ์ลึกล้ำ เขาปัดปลายจมูกกับเปลือกตาโคลด์ ไล่จากใบหน้ามายังต้นคอ จากต้นคอย้อนกลับไปที่ใบหู

แววตาของดาร์กเอลฟ์กล้ากว่าเคย เขาเป็นฝ่ายเชิญชวนก่อนด้วยการจับเข็มขัดของเจ้าชาย ปลดหัวเข็มขัดออกให้

หลังจากนี้โคลด์จะคิดได้ว่าเขาทำเรื่องโง่บัดซบลงไป

แต่ไม่ใช่ตอนนี้

ซิกฟรีดดึงสายรัดเอวของโคลด์ออก เมื่อท่อนล่างของโคลด์เปลือยเปล่าก็รุกเข้าหา ซิกฟรีดชำนาญกว่าเดิม โคลด์ก็เช่นกัน

โคลด์หลังติดกำแพง ใช้มุมห้องเป็นหลักพิงตัวไว้ เขากอดเจ้าชายเอลฟ์ มองขาสีเข้มของตนที่ยกเกี่ยวสะโพกอีกฝ่าย กัดปากกลั้นเสียงครางวาบหวามที่เกิดจากการสอดประสานร่างกาย

ตอนนั้นเอง ซิกฟรีดกระชากตุ้มหูออกทีละข้างแล้วโยนออกไปทางหน้าต่าง เลือดไหลโกรก เขาตระโบมจูบโคลด์

เจ้าชายอารมณ์รุนแรง โคลด์ทราบดี...

โคลด์ยังกลั้นเสียงตัวเองไว้ โดยระบายมันไปกับการเกี่ยวลิ้น ซิกฟรีดไม่เพียงแทรกเข้ามาในตัวเขา แต่ยังแทรกเข้ามาในหัวใจ

การสอดประสานเร่งไวตามอารมณ์ของเจ้าชาย โคลด์แทบยืนไม่ไหว หายใจก็ไม่ทัน

เสียงในหูซิกฟรีดอื้ออึง มันประดังประเดเข้ามาเมื่อไร้เวทกั้น เขาไม่ทราบว่าเป็นเสียงหลอนเพราะความเจ็บปวดจากบาดแผลหรือไม่...

เมื่อเขาได้ยินทุกลมหายใจของโคลด์ สตาร์ประกาศว่า

‘ข้ารักเจ้า’

...ข้าก็รักเจ้า

โคลด์ข่วนคอซิกฟรีดเมื่อหายใจไม่ออก ในท้องน้อยเสียววูบวาบ ขาสองข้างไม่ติดพื้นแต่ถูกยกขึ้นให้เกี่ยวเอวแข็งแรง

ข้างหลังเป็นกำแพง ข้างหน้าเป็นซิกฟรีด โคลด์รู้สึกเหมือนถูกกดล่ามไว้ และถูกกระแทกกระทั้นอย่างไม่ปรานี

ซิกฟรีดคำรามสั้นๆ เมื่อถึงที่สุดของอารมณ์ เขาประกบริมฝีปากแลกลมหายใจกับโคลด์อีกครั้ง

เรียวขาสีเข้มของดาร์กเอลฟ์สั่นพั่บ ของเหลวข้นไหลจากร่างกายส่วนที่เชื่อมต่อกันหยดลงบนพื้นพรม

โคลด์ตัวอ่อน เห็นรอยเลือดซิบอยู่บนต้นคอเจ้าชาย กับรอยแผลตรงหูก็เลียเลือดให้

ซิกฟรีดครางในคอเมื่อโคลด์แตะลิ้นบนแผลที่หู เขาให้ดาร์กเอลฟ์เอาใจ จากนั้นก็แนบหน้าผากกับหน้าผาก

“นอนที่นี่”

“แต่…” โคลด์กอดซิกฟรีดเป็นหลักยืน “เจ้าแน่ใจ?”

เจ้าชายพยักหน้า

ดาร์กเอลฟ์จึงจูบก่อนบ้าง เหมือนจะตักตวงช่วงเวลานี้ไว้



 —————————————————————————

A/N ใครคิดถึงซิกฟรีด ซิกฟรีดมาแล้วนะคะ แวๆๆ อย่าเพิ่งตีเค้า น้อยใจเค้า เค้าปิดปากเงียบเพื่อวันนี้!!!

ป.ล. ปั่นงานอยู่ค่ะ เสร็จแล้วจะมาไล่ตอบคอมเมนต์น้า จุ๊บ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
♰ Twitter : @VinzeSchwarz

ออฟไลน์ แฟนตาเซีย

  • หืมม...?
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
อ่านทันแล้วววว :sad4:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ไรท์ ลงก่อนเวลา สุดยอดดดดด  :mew1: :mew1: :mew1:
เรื่องยิ่งมา ยิ่งสนุก ซับซ้อน  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
เชื้อพระวงศ์ก็ซับซ้อน
ซิก โคลด์  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
โคลด์มีแรงกระตุ้นจากการที่เห็นเอริ กอดซิก
ซิก ก็มีความกดดันจากริวอร์นอร์
แต่การสัมผัสกันของซิก โคล์ด
ทำให้ซิก กระชากตุ้มหูเครื่องดักฟังทิ้งซะเลย
แต่โคลด์ ซิก รู้ใจกันจริงๆ  :o8: :-[ :impress2:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ naplatoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
 :m25:
^
^
^
ตามนี้ค่ะ แฮ่กๆๆๆ
ซิกโคล์ดนี่ช่างเร่าร้อน ดูเป็น perfect match มาก เข้าใจกันทุกอย่าง โดยไม่ต้องพูด  :ling1: :ling1:

ขอบคุณคนแต่งมากนะคะ อัพถี่อัพเร็วมาก ซู๊ดยอดดดด :katai2-1:

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
บอกเลยว่าตอนนี้ของทั้งสองคนดุจน้ำทิพย์ชโลมใจของเรา ฮรือออออ



เชื่อเราเถอะว่าตอนนี้เราอ่านตั้งสองรอบ เก็บทุกเม็ด เพราะสังหรณ์ใจว่าจะไม่มีอีกนาน แต่คิดอีกทีชีวิตของเอลฟ์เนี่ยยาวนานมากเลยใช่ไหม งั้นเรารอได้ อยู่ตรงนี้เพื่อรปต่เธอ~~~


ปล.น้องโคลด์น่ารักเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือหนูเซ็กซี่มากลูก

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
อา....อาหารใจของสาวกเรืออาเลธ

 o13

ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3

ออฟไลน์ imymild

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
มาเก็บเกี่ยวความสวีทเอาไว้ใช้ต่อลมหายใจของตัวเอง

ออฟไลน์ ขุนอินทร์คนเดิม

  • เดี๋ยวมันก็หายไป...
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
บทที่ 14  : การตัดสินใจ (3)



เอริแอดเน่นัดพบกับซิกฟรีดเช้าวันนี้ แต่นางไม่มาปรากฏตัว ไมเธียนเองก็ต้องรายงานเรื่องอยู่ๆ การสอดแนมจากตุ้มหูเวทขาดหายไป

ทว่าคิงริวอร์นอร์ไม่ออกจากห้องบรรทมตั้งแต่เมื่อคืน และไม่มีทีท่าว่าจะออกมาเร็วๆ นี้แม้จะใกล้เที่ยงใกล้บ่าย

...ดูเหมือนบุรุษแห่งรูเมเรียร์ทั้งสองจะมีอะไรคล้ายคลึงกันมากกว่าที่พวกเขาคิด

 

ซิกฟรีดเท้าศีรษะ นอนตะแคงมองโคลด์ที่หลับอยู่ข้างๆ มองอยู่นานก่อนตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียง เขาต้องทำแผลดีๆ แต่จะให้เรียกข้ารับใช้คนอื่นเข้ามาก็เสี่ยงกับโคลด์

เจ้าชายลูบใบหน้า สบถให้กับความมุทะลุของตัวเอง เขายังปกป้องโคลด์ไม่ได้ ไร้กำลัง...ลึกๆ ในใจซิกฟรีดก็ทราบดี

 

ขณะเดียวกัน ริวอร์นอร์ก็นอนมองเอริแอดเน่ด้วยสายตาอ่านยาก ความรู้สึกผสมปนเประหว่าง ‘รัก’ ‘โกรธ’ และ ‘เสียใจ’

เอริแอดเน่หลับสนิทเพราะไม่ได้นอนตลอดคืน ใบหน้าสวยร้ายกาจที่ไม่ได้ปั้นแต่งให้อ่อนหวานดังเช่นปกติหลับอย่างสงบและผ่อนคลาย ทว่าก็ดูโดดเดี่ยวเปราะบาง

ความสงบระหว่างเขากับนางมีแค่ช่วงเวลานี้เท่านั้น

ยามนางลืมตา สายตาของนางบอกความเด็ดเดี่ยวมากพอจะยอมแหลกคามือเขาโดยไม่ยอมอ่อนข้อให้

ริวอร์นอร์ไล่นิ้วตามกรอบหน้าของนางโดยไม่สัมผัสถูกผิว เขาดึงนิ้วกลับเมื่อเอริแอดเน่ขยับตัวเล็กน้อย

ทว่านางไม่ได้ตื่น ยังคงหลับลึกต่อไป

ราชาเอลฟ์เกลี่ยผมนางออกจากหน้าผากอย่างเบามือ

“เรารู้มาตลอด...” ริวอร์นอร์มองรอยแผลเป็นบนร่างเปลือยของนาง ดวงตาสีแดงข้นและเข้มคล้ายเรืองขึ้นด้วยความเคียดแค้น

“เราไม่มีวันทิ้งเจ้าเช่นกัน...คนดี”

-------------------------------------------

ผ่านมากว่าครึ่งค่อนวัน ตอนนี้โคลด์พยายามลุกจากเตียงอยู่

“ไปไหน” เจ้าชายพาดแขนทับโคลด์ ไม่ยอมให้ลุก

“เย็นแล้ว...” โคลด์ไม่สบายใจ คิดได้แล้วว่าตัวเองโง่บัดซบที่มานอนเปลือยข้างเจ้าชายเอลฟ์

“ข้ามองเห็น” ซิกฟรีดเอาหน้าซบหมอน ท่าทางเกียจคร้านทว่าผ่อนคลายอย่างมาก

“เห็นข้าหัวขาดรึ” ดาร์กเอลฟ์พยายามหนีลงจากเตียง จะคว้าชุดมาใส่

เจ้าชายดึงโคลด์เข้ามากอดแล้วเม้มใบหูอีกฝ่ายเบาๆ “กลับอาศรมกันเถอะ” จมูกโด่งไซ้กลุ่มผมสีเงินนุ่ม “ข้าไม่ชอบที่นี่”

คิดหนีหรือ อาเลธ

ไม่...ข้าไม่มีวันหนี ซิกฟรีดพิจารณาอย่างหนัก เขาโดนความจริงกระแทกจนมึนงง ใจหนึ่งพยายามปฏิเสธ อีกใจหนึ่งยอมรับและโกรธขึ้ง นึกดูแล้ว การตัดสินใจฉับพลันไม่เกิดผลดี

เขาแค่อยากลับไปตั้งหลัก

ถูกต้อง ข้าต้องคิดให้หนัก ไม่...ข้าไม่ได้หนี

โคลด์วูบวาบเมื่อถูกสัมผัสหลังใบหู ถ้าปล่อยให้ซิกฟรีดละเลียดมันต่อไป เขาไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรเลยเถิดขึ้นอีกไหม จึงต้องเรียกสติกลับมาให้ทัน

“เพ้อเจ้ออะไรของเจ้า เจ้ามาเพราะพี่ชายเรียกหาไม่ใช่เรอะ แล้วอยู่ๆ บอกว่าจะกลับ ยังมาไม่ถึงสองวันด้วยซ้ำ” โคลด์หุบปากทันก่อนเอ่ยเรื่องที่เขาเห็นซิกฟรีดกอดคู่หมั้นพี่ชายในวิหาร

“อีกอย่าง ข้าสัญญากับองครักษ์หน้าห้องเจ้า จะเอาของกินไปให้เขา”

“ทำไมต้องเอาของไปให้มันเล่า” คิ้วสีทองขมวดเข้าหากันทันที ซิกฟรีดไม่ทราบว่าตัวเองกำลังหึง

และหึงแรงเสียด้วย

“ก็…” โคลด์หุบปากทันอีกครั้ง ว่าจะให้ของกินเพราะทหารนายนั้นช่วยบอกทางให้แก่เขา

สายตาของซิกฟรีดคาดคั้น ‘พูด’

“เขาไม่ทำตัวหยิ่งแบบเจ้า” โคลด์ไม่ชอบสายตาที่ดุและหยิ่งนั้น มันเหมือนบอกว่าเขาผิด ทั้งๆ ที่ตัวซิกฟรีดเองนั่นแหละที่ผิด ลักลอบพบคู่หมั้นของพี่ชายในสภาพที่นางเปลือยกายเช่นนั้น...แถมยังกอดนางอีก

คำตอบทำให้เจ้าชายเอลฟ์เงียบ หยิ่ง?

ซิกฟรีดใช้เวลาประมวลผลนานทีเดียว ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่เข้าใจคำว่ากล่าว

“เขาช่วยดูแลข้าเหมือนมาลแกธ” โคลด์เปรียบ “ในอาศรมควาร์ คนที่ดีกับข้ามีแค่มาลแกธ แต่ในวังนี้ยังมีอีกคน อย่างน้อยเอาของกินไปให้เขา ถือว่าข้ามีน้ำใจตอบแทน”

อ้อ

“คนที่ดีกับเจ้ามีแค่มาลแกธอย่างนั้นหรือ” ซิกฟรีดไม่ชอบลำเลิกบุญคุณใคร แต่ในหัวมีแต่ภาพตัวเองคอยปกป้องโคลด์เต็มไปหมด เขาไม่ให้ใครแตะโคลด์ แม้แต่ควาร์อาวุโสอย่างท่านเอเรนดิล ก็ได้...เขายอมรับว่าเคยกรีดหลังใบหูโคลด์เพื่อลงโทษ ซึ่งนั่นดูห่างไกลจากคำว่า ‘ปกป้อง’ หรือ ‘ดูแล’ ทว่าหากให้คนอื่นทำ โคลด์จะโดนหนักกว่านี้

“อย่ามาทำหน้าดุใส่ข้านะ เจ้าขังข้า กรีดหูข้า บังคับเย็บแผลให้ข้าสดๆ ด้วยซ้ำ ข้ายังไม่ลืมที่เจ้าทิ่มลงมาแต่ละเข็มโดยไม่ฟังเสียงห้ามของข้า” โคลด์ไม่ชอบสีหน้าของซิกฟรีดที่มองมาเหมือนเขาเป็นคนผิด

ขัง...ใช่ ข้าไม่อยากให้เจ้าห่างตัว

ส่วนเย็บแผลนั่น

ข้าก็เจ็บพอๆ กับเจ้านั่นแหละ เจ้าดาร์กเอลฟ์เอื่อยเฉื่อย ปัญญาทึบ


ซิกฟรีดระบายลมหายใจพลางลูบใบหน้าหนักๆ เขาไม่เคยต้องมาพิจารณาการกระทำของตัวเองขนาดนี้เลย

“เจ้าอยากให้ข้าทำอย่างไร”

โคลด์แปลกใจที่ซิกฟรีดถามความเห็นของเขา “ข้าอยากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนเจ้า...” เขามองสภาพเจ้าชายเอลฟ์ที่ทำแผลตรงหูให้ตนเองอย่างลวกๆ บนต้นคอแกร่งและแผ่นอกสีน้ำนมมีรอยข่วนแดงเลือดซิบแบบเห็นได้ชัด ส่วนสภาพเตียง…บอกว่าผ่านการมีเซ็กซ์แบบไม่บันยะบันยังก็ไม่เกินจริงนัก

“เจ้าเรียกใครมานอนด้วยสักคน กลบๆ สภาพนี้ไป ข้าเชื่อว่าเจ้าทำได้แหละ” โคลด์ลงจากเตียง สวมเสื้อผ้าอย่างว่องไว “ข้าจะกลับไปอาบน้ำที่ห้องพัก ส่วนเจ้าปิดตาคนที่เรียกมาเสียหน่อย เขาจะได้ไม่เห็นสภาพเตียง”

“อา!” ซิกฟรีดระบายเสียงออกมาด้วยความโกรธ ก่อนจะหัวเราะอย่างสมเพชตัวเอง

เจ้าคิดบ้าอะไร โคลด์ สตาร์!

“หรือเธอก็ได้ ถ้าเจ้าอยากได้ผู้หญิง ข้าลืมนึกไป” ดาร์กเอลฟ์ให้คำแนะนำที่คิดได้เพิ่มเติม เขาถอยๆ จากซิกฟรีด แต่มั่นใจว่าคำแนะนำของตนเอ่ยได้ฉลาดดีแล้ว

ซิกฟรีดจ้องเขม็ง เหมือนว่าหากอีกฝ่ายไม่รีบออกไปโดยเร็ว เขาจะลากกลับมาลงโทษให้หนัก

โคลด์รีบเผ่นออกทางหน้าต่างด้านหลังตึก ไม่รอให้ซิกฟรีดเอ่ยไล่ด้วยซ้ำ

 

“อ้าว เจ้ากลับมาจริงๆ”

ชั่วโมงต่อมา โคลด์ในชุดคนรับใช้ใหม่เอี่ยมปิดเนื้อตัวมิดชิดถือห่ออาหารร้อนๆ มาให้องครักษ์ที่เพิ่งออกเวร

“ของขอบคุณขอรับ” ดาร์กเอลฟ์ยื่นห่ออาหารให้

“เรื่องเล็กน้อย” ทหารองครักษ์ยิ้มแบบไม่ถือตัว

“เจ้าชายเรียกคนมารับใช้ไหมขอรับ” โคลด์ลองถาม แบบให้ดูเป็นปกติ “แบบนั้นน่ะขอรับ” เขาทำไม้ทำมือว่า ‘แบบที่รู้ๆ กันเวลาผู้ชายต้องการหาความสุข’

“ไม่มีหรอก” องครักษ์สั่นศีรษะ “เจ้าชายทรงรับสั่งว่าห้ามใครเข้าไปถวายงาน ทั้งนางกำนัลและข้ารับใช้ทุกคน” เขาแอบเปิดห่ออาหาร กลิ่นหอมฟุ้งแตะจมูก เรียกน้ำลายและทำให้ท้องร้องโครกคราก “พูดตามตรงนะ อย่าถือโทษข้าเลย อันที่จริงเราไม่ควรพูดคุยกับดาร์กเอลฟ์เพราะ...เรื่องวุ่นวายช่วงนี้น่ะนะ”

ทหารองครักษ์หมายถึงกบฏดาร์กเอลฟ์ ปลาเน่าถังเดียวชวนให้คิดว่าปลาทั้งแม่น้ำจะเหม็นเน่าตามไปด้วย ดาร์กเอลฟ์อยู่ยากขึ้นในรูเมเรียร์

“ไม่เป็นไรขอรับ ข้ามารบกวนท่านจริงๆ ท่านไม่พูดคุยกับข้ามากกว่านี้ก็ดีแล้วขอรับ”

โคลด์หูลู่ ห่อไหล่ หน้าตาหมดอาลัยตายอยาก เขาไม่ใส่ใจเรื่องถูกรังเกียจนักเพราะโดนมาจนชิน แต่เซ็งที่ซิกฟรีดไม่เรียกใครมารับใช้ ถ้าซิกฟรีดเรียกใครมารับใช้ก็น่าจะดีกว่ามีเขาเข้าไปในตำหนักคนเดียว แล้วเนื้อตัวของเจ้าชายกับบนเตียงมีสภาพแบบนั้น

“เมียข้าทำขนมอร่อย นางทำมาให้ข้าทุกวัน เจ้ามาปันไปบ้างสิ” องครักษ์คนนี้ผมสีทองหม่น ค่อนไปทางน้ำตาล แสดงว่ามาจากทางใต้ของรูเมเรียร์ จะว่าเป็นพวกเชื้อสายนักรบบ้านนอกของเอลฟ์ก็ได้ เพราะอย่างนี้ละมั้งถึงไม่ถือตัว

“อย่าเลยขอรับ ข้ากลัวท่านจะเดือดร้อนเพราะข้า แค่นี้ข้าก็รบกวนท่านมากพอแล้ว” โคลด์โค้งคำนับไวๆ แล้วขอตัว

เขาไม่รู้จะไปไหน จึงคิดว่าจะไปนั่งเล่นริมสระน้ำที่เดิม แต่ตอนเดินออกมา กลับเห็นขบวนของสตรีสูงศักดิ์กับองครักษ์หญิงเดินมาจากอีกทาง

ดูเหมือนนางจะมาหาซิกฟรีด…

โคลด์ชั่งใจ ถ้าทั้งสองทำอะไรแบบเมื่อวานอีกล่ะ คราวนี้ถ้ามีคนอื่นเห็น เขาหัวขาดแน่นอน ราชาไม่สั่งตัดคอน้องชายตัวเองหรอก แต่จะสั่งตัดคอคนรับใช้ที่ดูแลน้องชายไม่ดี

โคลด์มองซ้ายมองขวา แล้วหาต้นไม้ปีน ตัดสินใจว่าจะลอบดูสถานการณ์และหากจำเป็นก็ต้องห้ามซิกฟรีดทำประเจิดประเจ้อ

โคลด์กดความรู้สึกอื่นๆ อย่างรักหรือหึงหวงลงไป เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไร

มันไม่ใช่ความรู้สึกที่เขาควรมีให้แก่เจ้าชายเอลฟ์ตั้งแต่แรก

ถือว่าข้า ‘เฝ้ายาม’ ให้เจ้าไม่ทำอะไรให้ตัวเองเดือดร้อนก็แล้วกัน เจ้าควรขอบคุณข้าด้วยซ้ำ ซิกฟรีด

ทว่าถึงจะคิดเฉกนั้น...ขณะที่ปีน...ใบหูของดาร์กเอลฟ์ก็ยังลู่ลง


 —————————————————————————

A/N พี่ชายกับน้องชายราชวงศ์รูเมเรียร์นี่หึงแรงพอกันเลยค่ะ ความสัมพันธ์ของ 2 คู่นี้ต่างกันชัดเจน ซิกฟรีดกับโคลด์นี่ออกแนว วัยรุ่นวุ่นรัก ส่วนริวอร์นอร์กับเอริแอดเน่น่าจะแนว...ไฟสุมทรวง (?)

เราอ่านคอมเมนต์ที่นักอ่านบางท่านบอกว่า ชีวิตเอริแอดเน่น่าสงสารและน่าอึดอัดยิ่งกว่าโคลด์ จริงๆ เราก็ว่างั้นค่ะ (^_^); สงสัยเราเป็นโรคชอบทำร้ายตัวละครตัวเอง แงงง



ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
♰ Twitter : @VinzeSchwarz



ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ผูกพันกับแบบอึนๆ 555555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด